[Re-view] ตกหลุมรัก The Series ปีสาม : Kotohira - Kanamuraza Kabuki Theater



: KW Original
: Romance??
: PG (คือ...ถ้าไปกับเอเลนอาจจะ NC // โดนตบ)







เป็นรีวิวที่เขียนตามใจฉันมาก กร๊ากกกก จากโตเกียวอยู่ดีๆก็ข้ามไปชิโกกุซะงั้น = ="" ก็นั่นแหละค่ะ ภูมิใจนำเสนอมากค่ะที่นี่ สำหรับคนที่สนใจญี่ปุ่นโบราณ อาคารเก่าๆอันทรงคุณค่าอะไรงี้ ถ้ามีโอกาสก็อยากจิแนะนำให้ไปค่ะ ฮืออออ เสริมสร้างจินตนาการ(?)สุดๆค่ะที่นี่ TvTbb

ใช่แล้น...วันนี้เราจะไปโรงละครคาบุกิกันค่า *v*

ถ้าพูดถึงละครคาบุกิซึ่งเป็นศิลปะการแสดงแขนงหนึ่งของญี่ปุ่น คนทั่วไปอาจจะไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ แต่สำหรับสาววายแล้วไซร้มันช่างเป็นสถานที่อันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งการจิ้น(?)..............*q*....

ก็ละครคาบุกินั้นแรกเริ่มเดิมทีเป็นการแสดงที่ใช้นักแสดงเป็นผู้หญิงล้วนๆค่ะ ไม่ว่าจะบทนางเอก พระเอก คนรับใช้ เจ้าชาย เจ้าหญิง เรื่องราวที่แสดงก็มีหลากหลายทั้งประวัติศาสตร์ ทั้งวิถีชีวิตปกติ แล้วก็ด้วยความที่มันได้รับความนิยมจึงมีหญิงสาวบางคนใช้เวทีนี้เป็นเหมือนที่โชว์ตัวอะไรงี้ ขายการแสดงเสร็จก็ขายอย่างอื่นต่อ ^ ^" หนักเข้าๆทางการจึงเข้ามาจัดระเบียบใหม่โดยกำหนดห้ามไม่ให้ผู้หญิงแสดงละครคาบุกิ ทางคณะละครจึงต้องใช้นักแสดงชายทั้งหมดแทน >////< ตอนแรกก็ใช้เด็กหนุ่มนี่แหละค่ะ แต่ทำไปทำมาก็เข้าอีหรอบเดิม (อร๊ากกกกกก) ทางการจึงประกาศห้ามอีกว่านักแสดงต้องเป็นชายล้วนที่เป็นผู้ใหญ่แล้วเท่านั้น เหม่....เด็กหนุ่มมันแต่งหน้าเป็นผู้หญิงเนียนกว่านะเจ้าคะ =w= ก็ด้วยประการฉะนี้แล...แค่นี้ก็จิ้นกันเป็นวรรคเป็นเวรแล้วค่ะฟฟฟฟฟ

มาพูดถึงโรงละครที่คุณกวางไปเยือนกันบ้าง


Kanamura - za Kabuki Theater

โรงละครคาบุกิเก่าแก่แห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะชิโกกุค่ะ อยู่ในเมืองโคโตฮิระ(Kotohira) เปิดให้เข้าชมภายในได้ถึงแม้จะไม่มีการแสดงค่ะ ซึ่งคุณกวางว่าน่าเข้าไปดูมว๊ากกกก เพราะเค้าให้ดูทุกอย่างเลยค่ะ ตั้งแต่หน้าเวที ที่นั่งคนดู ห้องแต่งตัวนักแสดง อุปการณ์การควบคุมฉากต่างๆ รวมไปถึงกลไกและทางลับต่างๆที่อยู่ใต้เวทีสำหรับให้นักแสดงไปโผล่ตรงนู้นตรงนี้ของเวทีได้อย่างแนบเนียนค่ะ ซึ่งทุกอย่างยังคงของเดิมเอาไว้อ่ะนะ ที่สำคัญ ถ่ายรูปได้หมดด้วยละ ฟินสุดๆ =w= 

เวลาเปิด - ปิด   09:00 - 17:00
ค่าเข้าชม 500 เยน

สำหรับวิธีการไป คุณกวางเริ่มต้นจากเกียวโตนะคะ เพราะพักอยู่ที่นั่น ก่อนอื่นเราก็นั่งชินคันเซ็นไปโอคายามะก่อนค่ะ จากนั้นค่อยต่อรถไฟข้ามไปเกาะชิโกกุอีกทีตามนี้

- [JR / Tokaido Shinkansen] ขึ้นที่ JR Kyoto Station ลงที่ JR Okayama Station
        - ขบวน Hikari No. H491 (ออก 07:20 ถึง 08:25)

สำหรับวิธีดูตารางชินคันเซ็นและวิธีขึ้นรถไฟไปดูได้ที่ >> [Re-view] ตกหลุมรัก The Series : 01 : One day in Tokyo

ก็...พอมาถึงสถานีโอคายาม่าแล้วก็ออกจากส่วนของรถไฟชินคันเซ็นมาที่ส่วนของรถไฟธรรมดาค่ะ ซึ่งมันอยู่ในสถานีเดียวกัน ใกล้ๆกันแหละเพียงแต่เค้าแบ่งชนชั้นวรรณะของรถไฟนิดนึง555 เราจะมาขึ้นสาย Nanpu เพื่อข้ามไปเกาะชิโกกุกันค่ะ 

- [ JR / Nanpu Limited Express] ขึ้นที่ JR Okayama Station ลงที่ JR Kotohira Station
       - ขบวน Nanpu No. N13 (ออก 14:05 ถึง 14:59) คืออันที่จริงช่วงเช้าคุณกวางไปแวะปราสาทโอคายาม่ากับเมืองคุราชิกิก่อนค่ะ เลยข้ามไปชิโกกุเอาป่านนั้น ^ ^

จิ้มที่รูปก็จะได้รูปหญ่ายๆค่ะ


อันที่จริงจุดประสงค์แรกเริ่มเดิมทีน่ะก็แค่อยากนั่งรถไฟข้ามสะพาน Seto Ohashi เฉยๆค่ะ555(โดนตื้บ) อยากไปถ่ายรูปสะพานนนน >////< คือหลงรักมันตั้งแต่รู้จักแค่โครงสร้างภายนอกของมันแล้วค่ะ มันเป็นสะพานสองชั้น ชั้นบนเป็นถนนสำหรับรถวิ่ง ส่วนชั้นล่างเป็นทางรถไฟค่ะ เป็นสะพานที่มีความยาวถึง 12.3กิโลเมตร ใช้เกาะเล็กๆที่อยู่กลางทะเล 5 เกาะเป็นฐานและจุดเชื่อมต่อของสะพานแต่ละทอด แถมยังมีทางขึ้นลงของรถยนต์สำหรับคนบนเกาะเหล่านี้ด้วยค่ะ คือรวมทั้งหมดแล้วมันถูกเรียกว่าสะพานเซโตะโอฮาชิก็จริงแต่ว่าสะพานแต่ละทอดรวมทั้งหมด 6 สะพานที่ข้ามไปแต่ละเกาะก็มีชื่อเรียกของมันเองอีกค่ะและแต่ละทอดก็ใช้โครงสร้างไม่เหมือนกัน มีทั้งสะพานแขวน สะพานขึง และสะพานโครงถัก =[ ]= สุดยอด คนที่ออกแบบมันมานี่น่าทึ่งสุดๆ มันคงมีเหตุผลอะไรซักอย่างสินะที่ทำให้แต่ละจุดต้องใช้โครงสร้างที่ต่างกัน งื้ออออ ชอบจริงจัง

โอเค สำหรับรายละเอียดและวิธีก่อสร้างสะพาน คุณกวางมันจะไปร่ายในฟิคเรื่อง ai kotoba อีกทีค่ะ เคี๊ยกกกกก ฟิคพีเรียดที่เคยพูดถึงนั่นแล เป็นเรื่องเกี่ยวกับนายช่างที่ต้องไปสร้างสะพานข้ามไปเกาะชิโกกุค่ะ คราวนี้เลยไปดูโลเคชั่นไว้ก่อน >////< 


ภาพของท้องทะเลที่ถ่ายจากบนรถไฟที่วิ่งอยู่บนสะพานเซโตะโอฮาชิค่ะ >///<



ภาพบ้านเรือนที่อยู่บนเกาะหนึ่งซึ่งใช้เป็นจุดเชื่อมต่อสะพานค่ะ มีท่าเรือด้วย >w<



เกาะๆๆ >w< ดูไม่มีคนอยู่แบบนี้มันน่าให้คุณรีไวไปติดเกาะซะจริง อิ๊อิ๊




กร๊ากกกก ทั้งๆที่ตั้งใจจะไปถ่ายรูปสะพาน แต่ดันได้เห็นแต่โครงสร้างข้างในแบบนี้ มันต้องนั่งอีกฝั่งนึงค่ะถึงจะเห็นสะพานได้ตอนที่เป็นช่วงทางโค้งๆอ่ะ แง๊~~~ แต่ก็เอาเถอะ แบบนี้ก็สวยดีค่ะ >w< 




ประภาคาร!!! ฟฟฟฟฟฟฟฟฟ เพิ่งเคยเห็นของจริงเป็นครั้งแรก กรี๊ดดดด 




ดูซับซ้อนสมเป็นสะพานสองชั้น >///< คนสร้างมันขึ้นมานี่สุดยอดเลยเนอะคะ




สิ่งนี้มันอัลไล ดูอันตรายน่าดู เหมือนจะอยู่ตะเข็บของเกาะชิโกกุแบ้วค่ะ




ชะ! ไอ้ตะกี้ว่าอันตราย ไอ้ที่พ่นควันปุ๋ยๆอยู่นี่ดูน่ากลัวกว่าเยอะเลยค่ะ




รถไฟลงมาวิ่งบนดินบนเกาะชิโกกุแบ้วค่า 




ถึงโคโตฮิระซะทีหลังจากที่คุณกวางมันไปออกทะเล(?)มานาน555




ชานชลาและอะไรต่างๆดูสมกับที่เป็นสถานีรถไฟเล็กๆมาก >////< ชอบอ่ะ




ด้านหน้าสถานีรถไฟค่ะ คลาสสิคมากค่ะฟฟฟฟฟ ขวามือนั่นคือป้ายรถเมล์ค่ะ






ก็นั่นแหละ...คือจะไปนั่งรถไฟข้ามสะพาน ทีนี้ก็เลยต้องหาปลายทางค่ะว่าข้ามไปแล้วจะไปลงที่ไหน5555(มันน่าโบกไหม) ตอนแรกว่าจะไปทาคามัตสึ แต่นึกขึ้นได้ว่าโคโตฮิระมันก็อยู่บนเกาะนี้นี่หว่า ก็เลยตัดสินใจไปโคโตฮิระ เพราะฟิคเรื่อง Juunana Sai ค่ะ ก็นะ...จะไปเฉยๆ ลงรถไฟแล้วก็ขึ้นรถไฟกลับมันก็กะไรอยู่เลยหาว่ามันมีอะไรน่าสนใจที่นี่บ้าง อันที่จริงสถานที่ขึ้นชื่อของที่นี่คือศาลเจ้าโคโตฮิระค่ะ หรือที่รู้จักในอีกชื่อคือคอมพิระซัง (Kompira san) แต่ไปไม่ทันก็เลยได้ไปแค่ที่โรงละครคาบุกิอย่างเดียว ซึ่งมันก็อยู่ใกล้ๆกันแหละค่ะ โรงละครนี่อยู่ตรงทางขึ้นศาลเจ้าเลย

จากสถานีรถไฟเราก็จะเดินไปกันค่ะ ดูในกูเกิลแมปเหมือนจะไกลแต่จริงๆแล้วใกล้นิดเดียวเอง


ดูฝั่งซ้ายนะคะ ฝั่งขวามันจะเป็นจากโรงละครไปศาลเจ้าโคโตฮิระค่ะ เสียดายเหมือนกันที่ขึ้นไปไม่ทัน ^ ^ ก็...จากแผนที่ทางซ้ายมือพอมาถึงตรงที่เขียยนว่า "สุดทางเป็นบันได เดินขึ้นบันไดเลี้ยวซ้ายแยกแรก" แล้วนั่นน่ะ ในกูเกิลแมปมันเข้าไปส่องไม่ได้แล้ว และขอบอกว่าที่นี่หินอยู่อีกอย่างนึงค่ะ คือป้ายบอกทางไปโรงละครมันไม่มีภาษาอังกฤษเลย!!! แถมไม่มีภาษาอังกฤษไม่พอ คุณท่านเล่นคันจิล้วน =[ ]=!!! จะฮิรางานะให้ตรูอ่านออกหน่อยไม่ได้หรือไงฟร้าาาาา ดีนะที่ทำการบ้านไป เพราะคุณกวางหาชื่อโรงละครแบบตัวอักษรคันจิไปด้วยค่ะ นะ...การเดินทางตอนปีสองมันสอนมาค่ะ ว่าถ้าจะไปสถานที่ท่องเที่ยวที่ออกนอกเมืองหน่อยให้หาคันจิไปด้วย!!

 Kanamaru-za Kabuki Theater 金丸座 (โรงละครคาบุกิ) 

แปะรูปตั้งแต่ตอนที่เดินออกจากสถานีรถไฟเลยแบ้วกันค่ะ สิ่งที่จะขาดไม่ได้ที่ต้องถ่ายของแต่ละเมืองก็คือ...ฝาท่อ!!! ก็ดูฝาท่อของญี่ปุ่นสิค้าาาา มันไฮโซขนาดไหน >w<


มีเขียนชื่อเมืองโคโตฮิระบอกด้วย





มองจากหน้าสถานีรถไฟก็จะเห็นอะไรประมาณนี้ค่ะ ก็เดินตรงดิ่งไปเลย!




สะพานเหลือง สะพานแดงที่เขียนอยู่ในแผนที่ค่ะ แต่ว่าถนนเลาะริมแม่น้ำฝั่งในแผนที่มันกำลังซ่อมอยู่ คุณกวางก็เลยไปเดินอีกฝั่งนึงแทน




บ้านริมฝั่งแม่น้ำ ก็จะมีถนนเล็กๆอยู่หน้าบ้านเหมือนในการ์ตูนที่เราเห็นๆกันนั่นแหละ




แบบนี้ >w<



อาคารข้างๆทางค่ะ




เป็นเมืองที่ดูสงบมากเลย ชอบ >w<




สองข้างทางของทางไปศาลเจ้าก็จะเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกและนักท่องเที่ยว 




มาถึงตรงนี้ก็จะเป็นทางเดินอย่างเดียวแบ้วค่ะ ดูเหมือนจะเหนื่อยเพราะต้องขึ้นบันได แต่ก็จะมีร้านค้าให้ดูเพลินๆจนไม่รู้สึกเหนื่อยเบยค่ะ




ประมาณนี้ค่ะ




เดินมาแป๊บๆก็ถึงแยกซ้ายแรกที่เขียนไว้ในแผนที่แล้น แต่ดูไม่ค่อยจะออกเลยนะคะว่ามันเป็นแยก555 คุณกวางไปยืนเล็งอยู่นานมากกกกด้วยความไม่แน่ใจ ภาษาอังกฤษก็ไม่มีบอก TvT



เลยควักชื่อโรงละครแบบอักษรคันจิออกมาเทียบดูว่าอิป้ายหลากหลายพวกนี้มันมีตัวหนังสือที่ตรูหาอยู่อยู่บ้างไหม TvT แล้วก็เจอจนได้ค่ะ...ป้ายขาวตัวหนังสือสีดำทางขวามือ ที่มีลังกระดาษวางอยู่นั่นแหละค่ะ โฮววววว เดินต่อไปโล้ด!




เดินต่อมานิดนึงก็จะเจอสามแยกแบบนี้ =[ ]=!! ไม่ต้องตกใจค่ะ เดินผ่าไปตรงกลางเลยค่ะถถถถ





ตามป้ายนี่ไปค่ะ




เดินตรงไปค่ะ ต่อให้เจอทางแยกซ้ายลงไปไหนก็อย่าไปค่ะ555 รั้วต้นไม้ขวามือข้างบนๆนั่นไหมคะ น่านแหละ ตรงนั้นแหละค่ะที่หมายของเรา 




เนี่ย...ขึ้นบันไดประมาณนี้มา






แต๊นนนนน...ถ้าโผล่ขึ้นมาเจอสิ่งนี้แปลว่าคุณมาถึงแล้วค่าาาาา ในที่สุดก็มาถึงโรงละครซักทีหลังจากที่ไปออกนอกอ่าวมานาน5555





แปะภาพด้านหน้าซักหน่อยก่อนที่เราจะเข้าไปข้างในกัน อิอิ




รูปที่แปะอยู่ด้านหน้าค่ะ >w<




รูเล็กๆนั่นแหละค่ะทางเข้า ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าทำไมต้องเล็กแบบนั้นด้วย ขนาดคุณกวางที่ว่าเตี้ยแล้วยังต้องย่อตัวเลยค่ะ เพราะงั้นคุณรีไวก็เดินเข้าไปไม่ได้ง่ายๆหรอกนะ555(ใครฟันหลังคอตรูคะ)





พอเข้ามาด้านในส่วนการแสดงก็เจอภาพนี้ ฮว๊ากกก สวยมาก TvTbbb ที่เห็นล็อคๆตรงกลางนั่นคือที่นั่งสำหรับคนดูค่ะ เค้าจะมีเบาะรองนั่งให้ค่ะ นอกจากนี้สองฝั่งซ้ายขวาก็จะมีที่นั่งที่ดูเป็นส่วนตัวด้วยเช่นกัน เหมือนพวกโอเปร่าเฮ้าส์อะไรประมาณนั้นเลยเนอะคะ >////<





นี่ค่ะ ที่นั่งฝั่งทางซ้ายมือเมือหันหน้าเข้าหาเวที ราวกับเห็นคุณรีไวนั่งส่องลงมาจากชั้นสองเรย





ส่วนทางนี้ฝั่งขวามือ นี่ก็เหมือนจะเห็นอิเนียนนั่งยิ้มดาร์กๆอยู่บนชั้นสองเลย อร๊ากกก




คุณกวางกระดึ๊บๆลงมาถ่ายตรงกลางค่ะ เค้าให้ลงไปเดินได้อยู่นะ ก็ข้ามสิ่งกีดขวางเป็นรั้วไม้นั่นหน่อยแล้วกัน555 โอย ดาเมจจริงอะไรจริง >////< (ปล.เค้ามีคนที่สามารถบรรยายเล่านู่นนี่เกี่ยวกับโรงละครนี้เป็นภาษาอังกฤษได้ค่ะ แต่ว่าคุณกวางโดนฝรั่งสองคนนั้นตัดหน้าไปซะก่อน ประกอบกับภาษาอังกฤษตรูก็งูๆปลาๆ เลยเดินเองแบบงงๆเลยดีก่า อิอิ)




ส่องขึ้นไปยังโคมไฟ >w< ฝ้าเค้าก็เปิดโล่งโชว์โครงสร้างกันงี้เลยค่ะ ซึ่งคุณกวางว่ามันสวยมากๆอ่ะ




อ่ะ นี่ไง เบาะรองนั่ง ที่ด้านหลังเค้ามีห้องเก็บเบาะโดยเฉพาะเลยค่ะ อันนี้เค้าเอามาว่งให้ดูว่ามันประมาณนี้





ม่านมีตราสัญลักษณ์ของที่นี่(ไหม?) 




ที่นั่งด้านข้างก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ ไม่ถึงกับแบ่งเป็นห้องใครห้องมันอ่ะนะ









โคมไฟก็มีตราสัญลักษณ์ มันทำให้ดูขลังจริงจังเลยค่ะ >///<





ตั้งใจจะเดินขึ้นไปดูที่ชั้นสอง เอ๊ะ ห้องอัลไลอยู่ข้างๆบันไดทางขึ้น? ตอนแรกนึกว่าคงเป็นห้องฝากของธรรมดาๆ ที่ไหนได้....




มันเป็นห้องฝากรองเท้าค่ะ *[ ]* มีรองเท้าห้อยเป็นตัวอย่างให้ดูด้วย




ที่นั่งด้านตรงข้ามเวทีบนชั้นสองค่ะ ถึงจะเป็นขั้นบันไดแบบนี้แต่แต่ละขั้นก็กว้างมาก คงใช้เบาะรองนั่งนั่งกับพื้นอ่ะนะ เพราะปูเสื่อทาทามิด้วยค่ะ




ถ่ายจากด้านบน ก็ยังคงเห็นเวทีอย่างชัดเจน









ทางเดินด้านหลังที่นั่งฝั่งข้างๆค่ะ แต่ละห้องก็จะมีประตูของตัวเอง









ด้านในที่นั่งฝั่งซ้ายชั้นสองค่ะ ชวนจิ้น(?)เกินไปแบ้ว >w<




มองลงไปที่เวที คุณรีไวคงเห็นอะไรแบบนี้สินะฟฟฟ





ฝั่งตรงข้าม ประสานสายตาฆ่าฟันกับอิเนียนเล็กน้อย




เห็นที่นั่งด้านตรงข้ามกับเวทีชั้นสองด้วย ด้านใต้นั่นแหละค่ะห้องเก็บเบาะที่ว่า ดูกองเบาะก็จะรู้ว่าคุณกวางไม่ได้โกหกนะ กร๊ากกก




ลงไปดูด้านใต้เวทีกันบ้างค่ะ อย่างหลอนอ่ะ เพราะผนังมันเป็นหินแบบนี้ด้วยมั้งมันเลยเย็นมากๆๆเลยค่ะ 





กลไกที่ทำให้เวทีหมุนได้(คุณกวางไม่ค่อยแน่ใจนะ) ยังเป็นระบบมือทั้งหมดแสดงถึงความเก่าแก่ของที่นี่อ่ะนะ




ดูจิ มีบันไดทางขึ้นเล็กๆมากมาย คงเอาไว้ให้นักแสดงขึ้นมั้งนะ 





มาดูหลังฉากกันบ้าง >w< 




เป็นส่วนชวนจิ้นอีกส่วนค่ะ นั่นก็คือ...ห้องแต่งตัวของนักแสดง!! ในรูปนี่เป็นทางเดินซึ่งเค้าจะมีผนังกั้นจากด้านหลังเวทีก่อนจะถึงผนังที่มีประตูทางเข้าห้องแต่งตัวอีกชั้นนึงค่ะ ห้องแต่งตัวก็จะมีสองชั้น ชั้นล่างจะแบ่งเป็นห้องเล็กๆหลายๆห้องค่ะ ส่วนข้างบนจะเป็นห้องโล่งๆห้องเดียว




อันนี้เป็นห้องข้างล่างค่ะ




สามารถออกไปด้านหลังได้ รั้วเตี้ยแค่นี้อิเนียนคงโดดข้ามมาได้สบาย >////<





ห้องด้านบนจะเป็นห้องเดียวยาวๆแบบนี้ค่ะ




คงจะเป็นส่วนที่วุ่นวายน่าดูเลยเนอะคะช่วงที่ทำการแสดงอยู่ มองเห็นหนูเลนกำลังรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยมีหนูก๊กช่วยกันจัดผมให้ แวร๊ยยยย >////<




จากห้องแต่งตัวบนชั้นสองจะมองเห็นหลังเวทีเลยค่ะ 




มุมมองจากบนเวที ก็จะเห็นที่นั่งชั้นสองกับห้องเก็บเบาะแบบนี้




หันไปที่นั่งฝั่งข้างๆบ้าง  หนูเลนกับหนูก๊กมองเห็นเป็นแบบนี้เองหรอคะฟฟฟฟ




หมดแล้นค่ะ  อันนี้ถ่ายจากด้านในประตูทางเข้า จิ้นฟิคจบไปเรื่องนึงอ่ะมาที่นี่555




ส่งท้ายด้วยภาพน้ำทะเลยามเย็น ตอนนั่งรถไฟข้ามกลับมาจากเกาะชิโกกุค่ะ เขียนฟิคถึงที่นี่หลายเรื่องถึงจะไปเหยียบแค่ครึ่งวันก็ฟินแบ้วอ่ะ ฮืออออ อยากไปอีก~~~
















กร๊ากกกก ปิดท้ายด้วยข้าวกล่องหน้าปลาไหลที่กินบนชินคันเซ็นขากลับค่ะฟฟฟฟ ปลาไหลย่างนี่มันเป็นที่สุดของปลาย่างบนโลกนี้จริงๆ งื้อออออ แล้วเจอกันเอนทรีหน้าค่า มันจะพาไปไหนอีกนี่ก็ยังไม่แน่ใจ555





2 ความคิดเห็น:

  1. ข้าวหน้าปลาไหล !♡q♡ ☆★♣◆◇■●•°▼◀↓☆★★←◀▼○●■◆♧☆//คิดไปถึงไหน??!

    ตอบลบ
  2. น่าไปมากกกกกกกก อยากไปเยือนสักครั้งงงงงงง โรงละครคาบุกินี่มันสุดยอดจริงๆ ค่ะ งามมากๆ งามสุดๆ
    ตอนแรกก็ไม่จิ้นนะ พอพี่กวางบรรยายมาเป็นฉากนี่..เห็นภาพเลย ๕๕๕๕๕๕๕๕๕

    ตอบลบ