Tsurune. One-Shot.Fic [Shuu x Minato] หรือรักเรียกหา : 27 : END


Tsurune. One-Shot.Fic [Shuu x Minato]   หรือรักเรียกหา : 27 : END

 

: Tsurune ; kazemai koukou kyudou-bu Short Fanfiction 

: Fujiwara Shuu x Narumiya Minato

: Warmhearted

: NC-17

  

คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ    

 

 

ทุกคนยังจำคฤหาสน์ที่ป่าโทงาคุชิได้ไหมครับ?

 

หลังจากที่เขากับชูไปติดฝนกันอยู่หนึ่งคืนเต็มๆ ไม่กี่วันถัดมาชูก็เซ็นต์สัญญาซื้อบ้านหลังนั้นและจัดการรีโนเวทตกแต่งทั้งภายนอกและภายในใหม่เป็นที่เรียบร้อย

 

และใช่ครับ ตอนนี้ชูกำลังพาเขาไปที่นั่น

 

ดวงตากลมโตเหล่มองคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย จะบอกว่าไปพามาก็ไม่ถูกนัก ต้องเรียกว่า “ลักพาตัว” มากกว่า

 

วันนี้เป็นวันที่ 11 พฤษภาคม

 

ถึงจะไม่ใช่วันสำคัญของคนทั้งโลกแต่กลับเป็นวันสำคัญของตระกูลฟูจิวาระถึงขนาดต้องจัดเป็นงานเลี้ยงใหญ่โตเลยทีเดียว

 

วันคล้ายวันเกิดของฟูจิวาระ ชู...

 

ชูบอกเรื่องนั้นกับเขามาตั้งแต่เมื่อเดือนก่อนแล้วว่าวันนี้อาจจะมาหาเขาไม่ได้เพราะคงต้องอยู่ที่งานเลี้ยงและวุ่นวายกับแขกเหรื่อของที่บ้านซึ่งมีแต่คนใหญ่คนโต เขาถึงได้เข้าใจว่าคงจะไม่ได้เจอชูแล้วใช้ชีวิตตามปกติของเขาไป

 

ตื่นมาส่งข้อความแฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้นิดหน่อย ทำความสะอาดบ้าน ทำอาหารให้พ่อทาน ก่อนจะปั่นจักรยานไปซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของใช้ลดราคา...

 

ทว่า...

 

ในขณะที่กำลังจะหยิบแพ็คเนื้อหมูลงตะกร้าอยู่นั้น...ก็มีมือที่คุ้นเคยมาฉุดรั้งเอาไว้ ก่อนจะอุ้มเขาพาดบ่าเอามาโยนใส่รถหน้าตาเฉย...

 

แล้วมันก็ไม่ใช่รถสีดำคันที่ชูนั่งเป็นประจำแต่เป็นเบนซ์สปอร์ตสีขาว

 

ชูขับมันมาเอง!

 

“ชู...นายหนีมาอีกแล้วใช่ไหม?”    เขาหรี่ตามองคนที่ขับรถด้วยท่าทางสบายๆไม่ทุกข์ร้อนกับการกระทำของตัวเอง ใบหน้าหล่อเหลาที่ถูกเซตผมไว้อย่างดียังคงมองไปบนถนนเบื้องหน้า ร่างสูงสง่ายังอยู่ในชุดสูทเต็มยศเป็นหลักฐานมัดตัวว่าแอบออกมากลางงานแน่ๆ

 

“ใช่...”    เสียงทุ้มยอมรับตรงๆอย่างไม่สะทกสะท้าน

 

“แล้วจะไม่เป็นไรหรือไง? หนีมาแบบนี้น่ะ?”    เพราะชูโตแล้ว มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบแล้ว ไม่เหมือนตอนเด็กๆที่อยากจะทำอะไรตามใจก็ได้

 

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันหายไปทุกคนในบ้านก็คงรู้แหละว่าไปไหน”    ชูยิ้มในขณะที่มือยังบังคับพวงมาลัย

 

“........พ่อนายจะไม่มาฆ่าฉันเข้าสักวันใช่ไหม?”    คนในบ้านชูคงเดาได้ไม่ยากว่าชูมาหาเขา

 

“พ่อเอ็นดูมินาโตะจะตายไป”    เขาได้แต่ถอนหายใจในความเอาแต่ใจของชู

 

“จริงๆก็แค่ใช่วันเกิดของฉันเป็นข้ออ้างในการจัดปาร์ตี้ขึ้นมาเพื่อให้พวกผู้ใหญ่ได้มาเจอหน้า มาเจรจาเรื่องธุรกิจกันเท่านั้นแหละ พอทักทายแขกเสร็จก็หมดหน้าที่ฉันแล้ว”    แต่ถึงอย่างงั้นเจ้าของวันเกิดกลับหายจ้อยแบบนี้จะไม่เป็นไรแน่ใช่ไหมเนี่ย?

 

แถมไม่ได้ให้คนขับรถมาส่งอีกต่างหาก...

 

“แสดงว่าคนที่บ้านนายรู้ว่านายมาที่บ้านหลังนี้?”

 

“ไม่รู้หรอก ตระกูลฟูจิวาระมีบ้านเกือบห้าสิบหลัง พวกเขาไม่รู้หรอกว่าฉันไปที่ไหน”

 

“แล้วฉันเองก็ไม่ได้อยากให้ใครมากวนด้วย”    ชูหันมาเอียงคอยิ้มให้ ก็เลยขับรถมาเองสินะเจ้าหมอนี่ เขาเพลียที่จะคาดคั้นแล้วจึงเอนหลังพิงเบาะแล้วมองวิวข้างทางเงียบๆ

 

ชูกดเปิดประทุน หลังคารถจึงเลื่อนไปเก็บที่กระโปรงหลัง ทั้งสายลมที่เย็นกำลังดี ทั้งเงาไม้สนซีด้าห์ต่างก็ประทับวูบไหวลงมาบนตัวพวกเขา บรรยากาศดีจัง...

 

 

 

 

 

รถยนต์สีขาวจอดลงที่ลานหินเดิมที่เคยมา เขาก้าวขาลงจากรถโดยที่ไม่รู้เหมือนกันว่ามาทำอะไรที่นี่ ชูอาจจะแค่อยากอยู่กับเขาตามลำพังในวันเกิดตัวเองแค่นั้น?

 

“ชู ฉันไม่ได้เอาของขวัญมาให้นายอ่ะ มันอยู่ที่บ้าน”    ก็อยากไปหิ้วเขามาจากซุปเปอร์เองนี่นา เขาหันไปบอกชูอย่างเพิ่งนึกขึ้นได้

 

“ไม่เป็นไรหรอก ไว้วันหลังก็ได้ แค่รู้ว่ามินาโตะเตรียมไว้ให้ฉันก็ดีใจแล้ว”   ชูยิ้มก่อนจะเดินไปหลังรถ

 

เขามองตามก่อนจะเห็นว่าชูกำลังขนของมากมายออกมาจากท้ายรถ  “มินาโตะ ช่วยถือนี่หน่อย”   ถุงที่อัดแน่นไปด้วยข้าวของถูกยัดใส่อ้อมแขนเขา และเมื่อพิจารณาดีๆแล้ว...มันคืออุปกรณ์ทำครัวไม่ใช่เหรอเนี่ย?

 

ชูพาเขาเดินข้ามสะพานแขวนไป บ้านที่เห็นในวันนี้ดูเหมือนบ้านใหม่มาก ส่วนที่ผุพังถูกซ่อมแซมเป็นอย่างดีและยังทาสีจนดูสะอาดสะอ้านน่าอยู่ สวนภายนอกก็ถูกตัดแต่งลงต้นไม้ใหม่ ถึงจะดูร่มรื่นแต่ก็ไม่ได้รกครึ้มเหมือนเดิม

 

ภายในบ้านก็ได้รับการตกแต่งทำความสะอาดใหม่ด้วยเช่นกัน วันนี้มันดูสว่างไสวและอบอุ่นมาก

 

ชึ่บ

 

ถุงต่างๆที่ถือมาถูกวางไว้ที่โต๊ะไอส์แลนด์ในครัว เขายังรู้สึกเขินๆทุกครั้งที่ต้องมองมันเพราะดันนึกถึงเรื่องที่เคยทำเอาไว้... 

 

ชูถอดเสื้อสูทออกเหลือเพียงเสื้อกั๊กสูทสีเทาเข้ม แต่ถึงจะใส่แค่นี้ก็ยังดูดีมาก~

 

“เดี๋ยวฉันลงไปเปิดเครื่องปั่นไฟนะ”    ชูหันมาบอกก่อนจะเดินลงไปยังห้องใต้ดินปล่อยให้เขาสำรวจของในถุงตามลำพัง

 

หื๋อ?

 

นี่มันอะไรน่ะ?

 

ตอนแรกเขานึกว่าชูจะซื้อของสดเพื่อให้เขาทำอาหารเย็นกินกันเสียอีก เห็นของเยอะขนาดนี้เขาก็นึกว่าอยากปาร์ตี้บาร์บีคิว แต่นี่มันไม่มีทั้งหมู เนื้อ ผัก?

 

มีแต่แป้งเค้ก เนย น้ำตาล นม ไข่ ผงฟู ชีส ?

 

เปิดมาอีกถุงก็มีสตอร์เบอร์รี่สด ครีมสด วิปครีม น้ำตาลไอซ์ซิ่ง ผงโกโก้ ช็อกโกแลต แยมส้ม บลูเบอร์รี่แช่แข็ง น้ำผึ้ง ?

 

ของพวกนี้มัน...ดูยังไงก็ไม่ใกล้เคียงกับวัตถุดิบที่จะใช้ทำอาหารเย็นเลยสักนิด

 

“....ของพวกนี้มันยังไงน่ะชู?”    ชูเดินขึ้นมาพอดีเขาจึงหันไปถาม จะว่าชูซื้อมามั่วๆแบบไม่รู้อะไรเลยก็ไม่น่าใช่ เพราะเห็นแบบนี้ชูเองก็ถูกเขาลากไปซื้อของด้วยบ่อยๆ บางทีเขาก็ให้ชูเลือกมื้อเย็นเองด้วยซ้ำว่าจะกินอะไร อยากให้เขาทำอะไรให้กินก็ไปหยิบมา ชูก็หยิบถูกตลอด

 

“วัตถุดิบที่ใช้ทำเค้ก”    ชูตอบหน้าตายและนั่นก็ทำให้เขางงหนักกว่าเดิม

 

“?...แล้วนายจะซื้อมาทำไม?”

 

“ฉันอยากได้เค้กวันเกิดจากมินาโตะ อยากกินเค้กที่มินาโตะทำ ทำให้หน่อยสิมินาโตะ”    เขาถึงกับอ้าปากค้าง ก็ไปซื้อที่ร้านเค้าทำสำเร็จแล้วมาสิ มีขายเยอะแยะเลยเค้กเนี่ย ทั้งสวยทั้งอร่อยเลยด้วยนะ แล้วอย่างตระกูลฟูจิวาระไม่ใช่ว่าจ้างเชฟโรงแรมห้าดาวทำไว้ให้ในงานเลี้ยงแล้วหรอกเหรอ? เขาไม่เคยทำเดี๋ยวก็กินไม่ได้หรอก

 

“แต่ฉันทำไม่เป็นนะชู...”    เขาพยายามบอก  มันใช่ของที่จะทำเป็นได้ง่ายๆในวันเดียวไหม? แต่ชูก็ยังอ้อนไม่หยุด

 

“ฉันจะกินที่มินาโตะทำเท่านั้น”   เขาถึงกับถอนหายใจ  ชูมักจะมีความสุขกับเรื่องแปลกๆอย่างเช่นการได้เห็นเขาใส่ผ้ากันเปื้อนทำอาหารให้ตัวเองทาน เพราะงั้นบางครั้งรสชาติของอาหารก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับชูเท่าไหร่

 

อาหารตาน่าจะสำคัญกว่าละมั้ง? เฮ้อ~...

 

“เข้าใจแล้ว ฉันจะลองเปิดในยูทูบแล้วทำตามดูก็แล้วกัน แต่ไม่รับประกันนะว่ารสชาติจะเป็นยังไง”   เขายอมตามใจเพราะยังไงวันนี้ก็เป็นวันเกิดของชู ถือว่าเป็นของขวัญอีกชิ้นหนึ่งก็แล้วกัน

 

ถึงมันจะงงๆตรงที่เจ้าของวันเกิดซื้อวัตถุดิบมาให้เขาทำให้เองก็เถอะ

 

“อื้อ”   ชูยิ้มดีใจก่อนจะเข้ามากอดเอวเขาอย่างเอาใจ

 

“ที่บ้านนี้จะมีผ้ากันเปื้อนไหมนะ?”   เสียงนุ่มพูดขณะที่หยิบของในถุงออกมา

 

“ฉันซื้อมาให้มินาโตะแล้ว”    มือบางถึงกับชะงัก...คงไม่ใช่ผ้ากันเปื้อนระบายสีชมพูอะไรแบบนั้นหรอกนะ?....

 

“นี่ไง มีของฉันด้วยนะ จะได้ใส่ด้วยกัน”   แต่ผ้ากันเปื้อนสีพื้นที่ชูหยิบออกมาจากถุงก็ทำให้เขาโล่งอกที่ไม่ต้องใส่ผ้ากันเปื้อนแปลกๆ อย่างน้อยก็ต้องขอบคุณที่ชูไม่ใช่พวกโรคจิตที่ชอบเห็นเขาอยู่ในชุดระบายฟรุ้งฟริ้งพวกนั้น

 

แต่ชู...เป็นคนโรแมนติกกว่าที่คิด...

 

จากความเครียดก็เปลี่ยนเป็นความเขินในทันทีที่ดวงตากลมโตจ้องมองผ้ากันเปื้อนที่เหมือนกันทั้งสองตัวนั้น ตัวหนึ่งใหญ่ ตัวหนึ่งเล็ก ตัวหนึ่งของชู ตัวหนึ่งของเขา...

 

“อะแฮ่ม”    เขาต้องรีบกระแอมไล่รอยแดงบนสองแก้มก่อนจะพยายามกลบเกลื่อนด้วยการหยิบของในถุงออกมาวางเรียงกัน

 

“ชู นายอยากให้ฉันทำเค้กช็อกโกแลตหรือช็อตเค้กสตรอว์เบอร์รี่หรือเค้กบลูเบอร์รี่กันแน่เนี่ย?”    ถึงจะทำเค้กไม่เป็นแต่ด้วยความที่เป็นคนทำอาหาร เขาจึงพอจะแยกวัตถุดิบออกว่ามันต้องใช้ทำอะไร และตอนนี้ของที่ชูขนมาก็ทำเค้กได้แทบจะทุกชนิดบนโลก...

 

“ไม่รู้เหมือนกัน ฉันให้ซาเอะช่วยเตรียมให้?”    คุณน้องสาวก็เลยซื้อวัตถุดิบทำเค้กทั้งหมดที่มีในโลกใบนี้มาให้เลยสินะ...สมเป็นพี่น้องของชูจริงๆ

 

“แล้วนายอยากกินเค้กแบบไหนล่ะ หื๋ม?”

 

“เค้กที่มินาโตะทำ”    

 

“.........”    สรุปคือไม่ได้อยากกินเค้ก แต่แค่อยากเห็นเขาทำเค้กจริงๆสินะ...

 

“งั้นเดี๋ยวฉันลองดูในยูทูบก่อนก็แล้วกันนะว่าเค้กแบบไหนที่ฉันพอจะทำได้บ้าง”

 

“อื้ม”   ชูพยักหน้าอย่างกระตือรือล้น ในขณะที่เขาไถหน้าจอมือถือไป ชูก็ช่วยเขาสวมผ้ากันเปื้อนไป

 

มือใหญ่ดึงเชือกข้างเอวไปผูกเป็นโบว์ไว้ที่ด้านหลังให้ ใบหน้าหล่อเหลาอมยิ้มบางๆอย่างมีความสุข ภาพที่เคาน์เตอร์ครัวในตอนนี้จึงเป็นภาพที่น่ารักมาก

 

 

 

 

 

เขาตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำช็อตเค้กสตรอว์เบอร์รี่

 

มือบางจึงกำลังนำส่วนผสมต่างๆมาชั่งน้ำหนักตามสูตรที่ในคลิปบอกเอาไว้ เขาตอกไข่4ฟอง เทน้ำตาลลงไปในถ้วย ตวงผงฟูด้วยช้อน แล้วในขณะที่กำลังจะชั่งแป้งเค้ก...เอวก็ถูกท่อนแขนแข็งแรงกอดรัดจากทางด้านหลังเหมือนกำลังหมั่นเขี้ยวสุดๆ

 

“ชู...ปล่อยสิ เดี๋ยวก็ไม่เสร็จกันพอดี”    ชูไม่ได้นั่งดูเขาทำอยู่ที่เก้าอี้บาร์ฝั่งตรงข้ามของไอส์แลนด์ แต่มักจะมายืนดูแบบประชิดติดตัวอยู่ข้างๆ

 

“ก็มินาโตะน่ารักเกินไป”   อะไรละนั่น? เขาถึงกับหัวเราะออกไป

 

เขาแกะมือใหญ่ออกจากเอวแล้วหันไปจ้องส่วนผสมบนตาชั่งต่อ

 

หมับ!

 

แล้วก็รู้สึกว่ามีใบหน้ามาคลอเคลียอยู่ที่แก้ม...แถมยังมีท่อนแขนมากอดคอเขาไว้อีก...

 

เขาพยายามจะไม่ว่าอะไร มือบางเทน้ำตาลลงไปในไข่ก่อนจะคนให้เข้ากัน แต่แล้ว

 

หมับ...

 

มือใหญ่ข้างหนึ่งลูบอยู่บนหน้าท้อง อีกข้างลูบต้นขา ริมฝีปากก็กดจูบอยู่บนต้นคอ...เจ้าหมอนี่!

 

“.........”    เขาก็พอจะรู้อยู่ว่าความสุขแปลกๆอีกอย่างหนึ่งของชูก็คือการได้เข้ามาวอแวเขาตอนเข้าครัว

 

และถ้ามันเป็นกับข้าวหรืออาหารที่เขาทำเป็นปกติอยู่แล้วเขาคงไม่ว่าอะไรหรอก แต่นี่เป็นเค้กที่ไม่เคยทำ เขาจึงต้องการสมาธิ! 

 

“หยุดกวนฉันได้แล้ว ชู”    เขาหันควับกลับไป ตอนนั้นเขาแค่อยากจะหาเชือกนิ่มๆสักเส้นเพื่อใช้จัดการเจ้าตัวก่อกวนนี่ แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็น...

 

“มานี่เลย”   มือบางเอื้อมไปดึงเนคไทจนคนที่ผูกมันไว้ที่คอเซถลาเข้ามาหา ใบหน้าของชูตื่นๆเล็กน้อยแต่ก็ดูใช่ว่าจะไม่ชอบ

 

เขารูดเนคไทเส้นนั้นออกมาจากคอของชู

 

ก่อนจะใช้มันมัดมือใหญ่ที่คอยก่อกวนเขาเอาไว้!

 

ชูหัวเราะแหะแหะแต่ก็ไม่ได้แกะมันออกหรือขัดขืนใดๆ ชูยอมให้เขามัดสองมือเอาไว้ด้วยกันแต่โดยดี

 

ดีละ แค่ไม่มีมือนี่คอยวุ่นวายกับร่างกายเขา ชูก็น่าจะหยุดก่อกวนกันได้สักที

 

 

และเมื่อเขาหันกลับไปทำเค้กต่อ...

 

 

แปะ

 

ฟุ่บ

 

แปะคือเสียงคางของชูที่วางแหมะลงมาบนไหล่ของเขา ส่วนฟุ่บคือเสียงแป้งในตะแกรงร่อนที่หกเลอะขอบกะละมังออกไป

 

"..........."   เส้นเลือดบนขมับเต้นตุบๆ เขาจะทำยังไงกับเจ้าตัวชูนี่ดี?

 

มือบางวางตะแกรงลงก่อนจะหันไปลากร่างสูงที่ยิ้มร่าให้เดินตามไปจนถึงห้องนั่งเล่น

 

เขากดไหล่ชูให้นั่งลงกับเก้าอี้บุนวมตัวใหญ่

 

ก่อนจะดึงชายเนคไทที่เหลืออยู่ไปมัดไว้กับที่เท้าแขนของเก้าอี้!

 

อยู่ตรงนี้ไปก่อนแล้วกัน จะได้เลิกกวนเขาสักที!

 

แล้วนี่มัดเงื่อนตายเลยด้วยนะ! หลุดออกมาไม่ได้แน่นอน!

 

".....มินาโตะเนคไทฉัน…"    ชูเอ่ยเสียงอ่อนในขณะที่ก้มมองสภาพของตน คนอย่างคุณชายฟูจิวาระกลับถูกเขาจับมัดเอาเสียนี่

 

"นายมีหลายเส้น ฉันรู้"    เขาเหลือบมองชูอย่างคาดโทษซึ่งชูยังคงหัวเราะเบาๆอย่างอารมณ์ดี

 

"แต่ฉันชอบมัดมินาโตะมากกว่า"

 

"ถ้านายยอมนั่งอยู่เฉยๆตรงนี้ ฉันจะยอมให้มัดเลยก็ได้เอ้า"

 

"จริงนะ"

 

"อื้อ"   เขาตอบไปแบบตัดรำคาญก่อนจะเดินดุ่มๆกลับห้องครัวไป เวลาที่เขาหมกมุ่นอยู่กับอะไรแล้วละก็ ต่อให้เป็นกับดักเขาก็ไม่สน

 

เขาจะทำเค้ก แล้วก็จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้!

 

และเพราะไปเอาตัวเข้าแลกไว้แบบนั้น ชูเลยไม่มาก่อกวนเขาอีก จนกระทั่งใส่แป้งที่ตีจนเนียนนุ่มเข้าเตาอบได้สำเร็จ! เย้~~

 

 

 

 

ใบหน้ามนที่เลอะผงน้ำตาลไอซ์ซิ่งเล็กน้อยจ้องมองเข้าไปในเตาอบด้วยความภาคภูมิใจ หน้าตาของสปันจ์เค้กที่กำลังเริ่มฟูอยู่ในนั้นดูดีมากทีเดียว ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดรสชาติก็คงออกมาไม่เลวเท่าไหร่ด้วย

 

ร่างโปร่งบางยืดกายขึ้นก่อนจะเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อน เขายังพอจะมีเวลาจากการต้องรออบตัวเค้กถึงสามสิบนาที แวะไปดูชูหน่อยดีกว่า

 

ถึงแม้ว่าจากห้องนั่งเล่นจะมองเห็นมาถึงเคาน์เตอร์ครัวและชูก็คงจะนั่งมองเขาอยู่ตรงนั้นมาตลอดก็เถอะ

 

“ชู เป็นไงบ้าง? เมื่อยไหม? ถ้านายไม่กวนฉันก็คงไม่มัดไว้แบบนี้หรอก โทษทีนะ”    เขาเดินเข้าไปอย่างตั้งใจว่าจะแกะเนคไทที่ผูกไว้ให้

 

ทว่า...

 

สภาพของชูที่ถูกมัดอยู่กับเก้าอี้บุนวมนี่ก็ดูแปลกตาดีเหลือเกิน เพราะปกติจะเป็นจอมเผด็จการชอบบีบบังคับเขามากกว่า

 

พอมาถูกมัดไว้เสียเองแบบนี้...จะว่ายังไงดี...

 

มันก็แอบเร้าใจแปลกๆแหะ?

 

“มินาโตะ?”    ชูมองเขาจากเก้าอี้สีขาวในขณะที่เขากำลังยิ้มซุกซน

 

ยังไงเสียวันนี้ก็เป็นวันเกิดชู...จะยอมเซอร์วิสให้สักหน่อยก็ได้

 

ใบหน้ามนยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะก้าวขาคร่อมหน้าตัก นวมสีขาวยุบยวบไปตามน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น ชูเงยหน้ามองเขาอย่างตื่นตะลึง

 

มือบางทั้งสองข้างประคองใบหน้าหล่อเหลาขึ้นมา ก่อนที่เขาจะจูบเบาๆไปที่ริมฝีปากของชู

 

เขาละออกมายิ้มให้และดวงตาสีม่วงนั่นก็มองเขาไม่วางตา

 

ใบหน้าหล่อเหลาขยับเข้ามาเลียผงน้ำตาลไอซ์ซิ่งที่ติดบนแก้มเขา รอยสัมผัสชวนจั๊กจี้ทำให้เผลอหัวเราะคิกคัก

 

“หวานจัง มินาโตะ”   

 

“หอมด้วย กลิ่นมินาโตะเหมือนเค้กเลย”    จมูกโด่งหอมแก้มเขาฟอดใหญ่ ก่อนจะกดสูดดมไปทั่วซอกคอและลำตัว สงสัยกลิ่นแป้งเค้กที่ฟุ้งกระจายจะติดตัวเขามา

 

“ฮะฮะฮะ มันจั๊กจี้นะชู”

 

“หรือว่านี่จะเป็นเค้กวันเกิดของฉันกันนะ กลิ่นน่ากินสุดๆเลยมินาโตะ”    ชูยังไม่หยุดหอมไม่หยุดพรมจูบไปทั่วตัวเขา จนลำตัวบางต้องเบี่ยงหลบความจั๊กจี้นั้นเอง

 

“ฮะฮะฮะ”

 

เขาดันตัวเองออกไปก่อนจะก้มลงมามองชู ดวงตาทั้งสองคู่ต่างสบประสานกันอยู่เนิ่นนาน...

 

นานพอ...ที่จะทำให้ไฟปรารถนาลุกโชนขึ้นมา....

 

“มินาโตะ...มือของฉัน...ถูกมัดอยู่...แกะให้หน่อยได้ไหม?”    ชูทำหน้าอ้อนๆแต่มีหรือที่เขาจะยอมปล่อยชูง่ายๆ ใช่ว่าจะจับมัดได้บ่อยๆเสียที่ไหน

 

“คิก~ นายอยู่แบบนั้นไปแหละชู”    แก้มของชูเริ่มขึ้นสีนิดๆจากก้นที่บดเบียดลงไปบนแกนกลางลำตัวของชู

 

ถ้าเขา...ลองทำเองทั้งหมดดูล่ะ?

 

จะเป็นยังไงนะ?

 

“...มินาโตะ?”    ดวงตาสีเขียวใสฉายแววเจ้าเล่ห์หน่อยๆอย่างที่ไม่ค่อยมีให้เห็นนัก มือบางปลดกระดุมกางเกงของร่างที่นั่งอยู่ด้านใต้ก่อนจะล้วงเข้าไป...

 

คุณชายน้อยตื่นแล้วนี่? ถึงจะยังหรี่ปรืออยู่ก็เถอะ

 

ร่างโปร่งบางถัดตัวลงจากหน้าตักแกร่งก่อนจะคุกเข่าลงตรงกลางหว่างขา ดวงตาสีม่วงทอดมองทุกการกระทำของเขาอย่างที่รู้ได้เลยว่าชูกำลังอดทนอดกลั้นอยู่

 

มือบางพาคุณชายน้อยที่แสนสง่างามออกมาจากขอบกางเกง ปกติเขาแทบไม่ได้จ้องมองมันชัดๆแบบนี้ ชูนี่...ดูดีไปทั้งตัวเลยจริงๆ

 

เขาเคยมีบทเรียนมาแล้ว คราวนี้เขาจึงต้องระวังไม่ให้มันขยายใหญ่จนเอาใส่ปากไม่ได้อีก

 

“อึก...มินาโตะ...”   ริมฝีปากนิ่มกดจูบลงไป และเพราะมันอยู่ในสายตาของชูทำให้ร่างสูงยังควบคุมมันได้

 

ชูขมวดคิ้วมุ่น...ลมหายใจเริ่มติดขัดและริมฝีปากก็เริ่มเม้นแน่น...พอได้มองแบบนี้แล้ว...เหมือนเขาเองก็จะถูกกระตุ้นเร้าด้วยสัญชาติญาณบางอย่างเลย?

 

เขาเริ่มจะเข้าใจแล้วว่า ทำไมชูถึงชอบเห็นเขาบิดเร่านัก...

 

ลิ้นเล็กจึงแล่บเลียออกไป...เพราะอยากเห็นปฏิกิริยาของชูอีก...

 

“อึก...”    สองมือที่ถูกมัดไว้ถึงกับกระตุกเฮือก ชูหอบหายใจเมื่อความชื้นแฉะแตะแล้วลากผ่านไปรอบๆแกนกาย มันขยายขึ้นเรื่อยๆแต่ชูก็พยายามจะควบคุมมัน

 

เส้นเลือด...นูนชัดขึ้นมา...

 

ดวงตากลมโตจ้องมองมันด้วยหัวใจที่เต้นตึกตัก เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมชูถึงดูชอบใจนักเวลาทำให้เขาอ่อนระทวยอยู่บนเตียงอย่างหมดเรี่ยวหมดแรงได้

 

อยากจะเห็นชูไร้ทางสู้มากกว่านี้อีก...

 

ริมฝีปากจึงอมมันเข้าไป...

 

“มินาโตะ!!    ชูกระตุกมือจนเก้าอี้ขยับกึงกัง ความร้อนพุ่งขึ้นบนใบหน้าจนสองแก้มของชูแดงไปหมด

 

“อื้ม”   เขาใช้ลิ้นห่อมันไว้เพราะตอนนี้ยังเข้าไปได้แค่ส่วนปลาย...เอาจริงๆเขาก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง แต่ดูจากสีหน้าของชูก็พอจะรู้ว่าชอบมาก

 

“อึก...”    ชูเหมือนพยายามสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้จนถึงกับต้องกัดฟันเมื่อเขาค่อยๆกดริมฝีปากลงไปอีก

 

มันอึดอัดจนหายใจแทบไม่ออกเลย...

 

“ฮู่...”    ชูพยายามผ่อนลมหายใจ เขาช้อนสายตาขึ้นไปมองทั้งที่มันยังคาปาก ดูเหมือนชูจะมีปฏิกิริยาจากภาพของเขามาก สิ่งที่อยู่ในปากมันบอกเขาได้ดี

 

เขารูดริมฝีปากเข้าออกราวกับกำลังอมอมยิ้มสีสวย เสียงจุ๊บ จ๊วบที่ฟังดูทั้งลามกทั้งน่าอายทำให้สองแก้มของเขาแดงระเรื่อ

 

“อื้อ?”   สองมือที่ถูกมัดไว้ประสานอยู่หลังท้ายทอยเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ และตอนนี้มันก็กำลังกดหัวของเขาให้รับความเป็นชายนั้นเข้าไปอีก

 

มันแน่นและเข้าไปลึกจนน้ำหูน้ำตาแทบไหล

 

“แค่กๆๆ”   เขาถึงกับไอน้ำตาปริ่มเมื่อละออกมา ชูถึงกับผงะ เหมือนจะทำไปตามสัญชาติญาณดิบมากกว่า ชูที่ควบคุมตัวเองไม่ได้แบบนี้ทำให้ดวงตาของเขาพราวระยับ

 

“ฮ้า...ขอโทษ...มินาโตะ...แฮ่ก...”     มือบางเช็ดน้ำลายที่ไหลเลอะรอบปากก่อนจะจ้องมองเจ้าแท่งเนื้อร้อนระอุที่ถูกชโลมไปด้วยน้ำลายเปียกโชก

 

เขาก็คิดเอาไว้อยู่หรอกว่าแค่ปากคงทำให้ชูที่รู้ตัวถึงไม่ได้ เพราะงั้น...

 

ร่างโปร่งบางจึงละออกไปยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะค่อยๆปลดกระดุมกางเกงออก ดวงตากลมโตช้อนมองชูที่จ้องเขาตาไม่กระพริบ มือบางรูดซิบลงช้าๆ...

 

“อึก...”   ได้ยินเสียงกลืนน้ำลายดังมาถึงนี่เชียว...

 

มือบางรูดรั้งกางเกงออกจากสะโพกก่อนจะดึงมันผ่านเรียวขาลงไป เขาเหลือบตามองชูเป็นระยะๆ คงไม่ได้ช็อคตายไปแล้วหรอกใช่ไหม? แต่เขากลับเห็นชูเงยหน้าเอาหัวพิงพนักพิงหลังของเก้าอี้นวมเอาไว้

 

“ชู?”

 

“เลือดกำเดาฉันจะไหล โทษทีมินาโตะ มินาโตะเซ็กซี่เกินไป”    พรืดดดด...เขาถึงกับหัวเราะออกมา หมดกัน บรรยากาศอีโรติกที่อุตส่าห์สร้างไว้

 

ท่อนขาเปลือยเปล่าก้าวเข้าไปหาร่างที่นั่งอยู่บนเก้าอี้...ก่อนจะก้าวขึ้นไปคร่อมอยู่บนหน้าตักนั้นอีกครั้ง

 

ความแข็งขืนแนบอยู่กับก้นของเขา ความร้อนผ่าวทำเอาสะดุ้งน้อยๆเลยทีเดียว

 

“มินาโตะ...แกะเนคไทให้ฉันเถอะ...”    ชูคงทนไม่ไหวแล้วเพราะเจ้าเด็กนั่นมันเต้นตุบๆราวกับอยากให้เขาโอบกอดมันไว้เต็มที

 

“ไม่ เดี๋ยวฉันทำให้ชูเอง”    มือบางดึงเนคไทให้มือใหญ่ที่ถูกมัดไว้หลีกไป สีหน้าทรมานของชูทำให้หัวใจของเขาพองโตยังไงชอบกล ชูกำลังต้องการเขาแบบสุดๆ

 

“มินาโตะ...อย่างน้อยก็ใช้เจลที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงก่อน”    เขาหน้าขึ้นสีเพราะชูเอาใจใส่เขาเสมอ มือบางล้วงเอาซองเจลหล่อลื่นออกมา เขาเชื่อว่ามันไม่ได้มีอยู่แค่ในกระเป๋ากางเกงแน่ๆ

 

แคว่ก...

 

เขาเทเจลใสลงบนนิ้วของชู ถึงมือจะถูกมัดไว้แต่นิ้วยังใช้ได้อิสระ

 

“อนุญาติแค่นี้นะ”   เขาโน้มตัวไปกอดคอชูไว้ นิ้วยาวสอดใส่เข้ามาทันที

 

“อื้อ~    มันควานขยายจนไปเจอจุดที่ทำให้รู้สึกดี เขาต้องตั้งสติเพราะไม่งั้นคงถูกชูชักจูงแน่ๆ

 

“พอแล้ว ฮ้า...”    มือบางดึงมือใหญ่ออกไป ชูมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการเป็นอย่างมาก...

 

เข่าทั้งสองข้างจึงยันกายให้ตั้งตรง ชูมองทุกความเคลื่อนไหวของเขาราวกับอยากจะจับกินอยู่รอมร่อติดที่มือถูกมัดไว้

 

“อึ้ก...”    มือบางเย็นๆแตะลงไปที่แท่งเนื้อร้อนระอุที่อยู่เบื้องล่างด้านหลัง

 

ก่อนจะค่อยๆลูบไล้สัมผัสมันเบาๆ...

 

ค่อยๆจับมันมายังปากทางเข้า...

 

แล้วก่อนที่เขาจะกดตัวลงไป...สองแขนก็โอบกอดรอบคอของชูไว้แล้วกระซิบให้ได้ยินว่า

 

“แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะ ชู”   

 

 

สวบ...

 

 

“อึ้ก!!    ชูถึงกับกัดฟันแน่น ดวงตาสีม่วงปิดลงเช่นเดียวกับหัวคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน

 

“อ้า~    เขายังคงกดตัวลงไปอย่างเชื่องช้า...ต่อเนื่อง... และเพราะแบบนั้นมันจึงรับรู้ถึงความเต็มแน่นนั้นได้เป็นอย่างดี

 

“อา~ ดีมากเลยชู...”    เสียงนุ่มครางเบาๆในขณะที่ปรือตามองลงมายังใบหน้าของคนที่อยู่เบื้องล่าง สีหน้าของชูเองก็ดูจะรู้สึกดีมากเช่นกัน ดวงตาสีม่วงคู่นั้นเปิดขึ้นมาแล้วมองเขาราวกับเสือมองกระต่าย

 

หิวโหย...และอยากจะจับเขากิน...

 

เอี๊ยด...

 

หัวเข่าที่เสียดสีอยู่กับพื้นบุนวมของเก้าอี้ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเมื่อเขาเริ่มขยับ มือบางจับยึดหัวไหล่หนาเอาไว้ก่อนจะโยกกายขึ้นลงช้าๆ

 

บีบรัด...ก่อนจะรูดลงไป...

 

เขาก็ต้องมีการเรียนรู้บ้างในเมื่อชูสอนเขาอยู่ทุกวี่ทุกวันขนาดนี้...วิธีที่จะทำให้ชูรู้สึกดีจนแทบคลั่ง

 

“....มินาโตะ...”    ชูหอบหายใจแล้วครางออกมาเป็นชื่อเขา เขาไม่ได้ขยับรุนแรงเหมือนชูแต่ค่อยๆขยับอย่างเนิ่บช้า

 

ชูหอบหายใจใบหน้าแดงเรื่อเมื่อเขากดตัวลงจนสุด อ่า...รู้สึกดีมากจนเผลอกระแทกกายลงไปอีกหลายครั้ง

 

“อ๊ะ”    ไหล่บางสะดุ้งโหยงเมื่อขยับไปโดนจุดไวต่อความรู้สึกเข้า และถ้าเป็นชูคงจู่โจมจุดนั้นซ้ำไปซ้ำมาไปแล้วแน่ๆ

 

แต่นี่เขาเป็นฝ่ายคุมเกม เขาเป็นคนขยับเอง...

 

เอ๊ะ? ขยับให้ไม่โดนแบบนี้ก็ได้ด้วยนี่นา? ??

 

ปกติชูมักจะใส่ตรงจุดนั้นของเขาไม่ยั้ง เขาจึงทรมานแทบขาดใจจนมองเห็นสวรรค์รำไรอยู่ล่ำไป จากนั้นก็จะถึงไวกว่าชู ปลดปล่อยก่อนชูสองสามครั้งก็ยังมี

 

แต่พอควบคุมเองให้โดนบ้าง เฉียดเข้าใกล้บ้าง ออกห่างบ้างแบบนี้... มันกลับดีไปอีกแบบ

 

เขาเริ่มขยับโยกแบบเน้นๆ ขยับแบบที่เขาอยากให้เป็นและเคยร้องขอชูมาตลอด ส่วนปลายที่แข็งขืนอยู่ภายในสอดใส่โดนเข้ากับจุดที่เขาอยากให้โดน

 

“อ้า~    มันดี...มากจริงๆ...

 

“ชู...ดีไหม?”    สะโพกมนเริ่มขยับเร็วขึ้น สองแขนกอดรอบลำคอแกร่งก่อนที่ชูจะยื่นใบหน้ามาคลอเคลีย

 

“ดี อึก...มินาโตะ...”    สีหน้าของชูดูก็รู้ว่าไม่ได้โกหก เขาจึงเร่งความเร็วขึ้นอีกหน่อย

 

“ชอบไหม? ชู”    เขาเอ่ยถามด้วยเสียงกระเส่าอย่างควบคุมไม่ได้ ใบหน้าของเขาถูกชูจูบพรมไปทั่ว

 

“ชอบ”    ถึงชูจะตอบมาสั้นๆแต่เจ้าสิ่งที่อยู่ในร่างกายของเขาก็ตอบแทนทุกอย่างได้หมดแล้ว

 

“อึก...อื้อ~ ชู~    ร่างโปร่งบางขย่มเข้าใส่ความเป็นชายที่แข็งกล้าจนเก้าอี้ส่งเสียงกึงกัง

 

“มินาโตะ แรงอีก”    ชูกดจูบปลายคางของเขาก่อนจะไล่มาที่ริมฝีปาก สะโพกมนขยับโยกกายลงแรงๆตามที่ชูบอก

 

เขาเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ความต้องการและความรู้สึกดีมากกำลังครอบงำสติของเขาไปเสียหมด ในท้องและช่องทางด้านหลังเสียววาบๆ เสียงของชูที่กระซิบบอกให้เขาเร็วอีกแรงอีกจึงเป็นเหมือนกับมนต์สะกด

 

“ชู~ อื้อ~ ชู~    เขาครางไม่ได้ศัพท์เพราะขยับโยกไปโดนจุดนั้นรัวๆด้วยตัวเอง

 

ใกล้แล้ว...

 

ชูน่าจะใกล้ถึงแล้ว...

 

เขาเองก็เช่นกัน!

 

“อ๊า~~!!    น้ำรักสีขาวขุ่นฉีดพุ่งไปเต็มหน้าท้องของชู เขารับรู้ได้ในจังหวะสุดท้ายว่ามีฝ่ามือจับก้นเขาดึงขึ้นจนสุดก่อนจะกระแทกกลับลงมาจุดสุดเช่นกัน!

 

“อึก...”    ความอุ่นร้อนฉีดวาบอยู่ในร่างกายเขา

 

ร่างทั้งร่างเอนซบลงไปยังร่างกายแข็งแกร่งอย่างหมดแรง ตอนนี้กั๊กสูทของชูยับยู่ยี่ไปหมด

 

“สงสัยคงต้องทิ้งแล้วละ”    ชูหันมาเอ่ยหยอกเย้าเขาเล่น มือใหญ่ถอดเสื้อกั๊กสูทออกจากไหล่ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองก่อนจะถอดมันกองไว้ที่พื้น

 

หื๋อ?

 

เดี๋ยวนะ? มือของชู? ทำไมถอดเสื้อเองได้ล่ะ? เดี๋ยวนะ? มันไม่ได้ถูกมัดไว้แล้วนี่?!

 

เขารีบยันตัวเองออกมาจากแผ่นอกกว้างที่บัดนี้เปลือยเปล่า ดูเหมือนกว่าเขาจะรู้ตัวมันก็สายไปเสียแล้ว!

 

ฟึ่บ!

 

เพราะตอนนี้กลายเป็นสองมือของเขาต่างหากที่ถูกเนคไทผ้าไหมอย่างดีนั่นมัดเอาไว้!  

 

“มินาโตะสัญญาแล้วนะว่าจะยอมให้ฉันมัด”   เขาถึงกับอ้าปากค้าง ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ...

 

“แล้วก็...แค่เงื่อนตายน่ะ ทำอะไรผ้าไหมลื่นๆพวกนี้ไม่ได้หรอกนะมินาโตะ”    ชูยังคงมัดมือเขาอย่างใจเย็น นี่หลุดมาได้ตั้งแต่เมื่อกันเนี่ย?!

 

“นาย หลุดมาได้ตั้งแต่ตอนไหน?”  

 

“ตั้งแต่แรกนั่นแหละ ฉันแค่อยากรู้ว่ามินาโตะจะทำอะไรกับฉันที่ถูกมัดไว้บ้าง”    ใบหน้าหล่อเหลายิ้มบางๆก่อนจะขยับไปจูบขมับของคนที่แข็งเป็นหินไปแล้ว

 

เจ้าคนเจ้าเล่ห์!

 

“ย้ายที่กันเถอะ ถ้าทำอีกรอบเก้าอี้คงจะพังแน่”    ยังจะทำอีกเร๊อะ?! แล้วจะรุนแรงขนาดไหนถึงกับกลัวว่าเก้าอี้จะพังเนี่ย?!

 

ชูอุ้มเขาไปที่โต๊ะไอส์แลนด์ที่เกิดเหตุ(?)เดิม... ที่เขาว่ากันว่า ผู้ร้ายมักจะกลับไปยังที่ที่ตัวเองเคยก่อเหตุ(?)ไว้นี่ไม่เกินจริงเลย!

 

ก้นเปลือยเปล่าสะดุ้งนิดๆเมื่อสัมผัสกับความเย็นของไอส์แลนด์หินอ่อนสีขาว ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมาใกล้ๆก่อนจะเอ่ยกับเขาว่า

 

“มินาโตะรู้จักเงื่อนผูกซุงไหม?”   ปลายนิ้วยาวแตะลงมาบนเนคไทที่มัดมือเขาอยู่ ดูเหมือนเงื่อนมันจะแตกต่างจากเงื่อนตายที่เขาใช้มัดชูอยู่นะ?

 

“คุณสมบัติพิเศษของเงื่อนนี้ก็คือ ยิ่งดึงมันก็จะยิ่งแน่นนะ เพราะงั้นก็อย่าดึงมากไปล่ะ”   ชูจุ๊บเขาเบาๆที่หน้าผาก

 

ส่วนเขาก็ได้แต่กรีดร้องในใจ อยากจะตะกายหนีไปเสียให้ได้ แต่ก็เพราะตัวเองไปรับปากชูไว้ว่าจะยอมให้มัด มาเสียใจกับหลุมพรางที่ขุดไว้เองตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว ฮือออ

 

“ชะ ชู...ที่ฉันทำให้เมื่อกี้...นายไม่ชอบเหรอ?”    เขาพยายามจะตะล่อมชูไปในเวย์อื่น

 

“ชอบสิ ชอบมากจนแทบจะคลั่งตายอยู่แล้ว ฉันไม่คิดว่ามินาโตะจะทำให้เลยจริงๆ ถึงจะตกใจแต่ฉันก็ชอบมันมาก มันดีมากเลยมินาโตะ”    ชูยื่นหน้ามาคลอเคลียกับหน้าของเขา

 

“ฉันชอบจังหวะที่เอวบางๆของมินาโตะขยับโยก ชอบตรงนี้ที่กลืนกินฉันเข้าไปด้วยตัวเองนั่นสุดๆ”    มือใหญ่บีบก้นเขาจนต้องตวัดตามอง อ๊า~ ไม่อายบ้างเหรอเนี่ยพูดออกมาได้!

 

“ถะ ถ้างั้น...วันนี้พอก่อนไหม? แล้ววันหลังฉันทำให้นายใหม่? ดีไหม?”    ดวงตาใสๆพยายามหลอกล่อ แต่ชูก็ไม่เคยใจอ่อนกับเขาในเวลาแบบนี้เลย

 

“ดีสิ ไว้วันหลังทำให้ฉันอีกนะ แต่วันนี้ยังไม่พอ”    โอ๊ยยยย! เจ้าหมอนี่!

 

“นี่คือครีมที่จะใช้ปาดหน้าเค้กเหรอ?”    เสียงทุ้มถามออกมาในขณะที่สายตามองไปยังอ่างแก้วที่เขาตีครีมกับเนยพักเอาไว้

 

“อะ อื้อ...”    เสียงนุ่มตอบอย่างหวาดระแวง

 

“ถ้างั้นก็เอามาปาดหน้าเค้กเลยเนอะ”    ชูยิ้มละไมก่อนจะใช้นิ้วป้ายครีมขึ้นมา...เดี๋ยวนะ สปันจ์เค้กยังอยู่ในเตาอบ แล้วชูจะเอาไปปาดที่ไหน?

 

แล้วคำตอบก็มาอย่างทันใจ

 

“อ๊ะ?!   เมื่อนิ้วเปื้อนครีมนั้นปาดลงมาบนหน้าท้องของเขา!

 

“จะทานละนะครับ”    ไม่ว่าเปล่าชูยังก้มหน้าลงมาเลียเบาๆ

 

“อื้อ~~~    เขาถึงกับบิดเร่าเมื่อครีมถูกเลียออกไป ค่อยๆเลียออกไป...จนหมด

 

และตอนนี้ลิ้นร้อนนั่นก็กำลังเลียหน้าท้องของเขาแทน!

 

จะบอกว่ากรรมตามสนองที่เขาไปทำกับชูไว้เมื่อกี้เขาก็สงสัย ทีชูทำกับเขาไว้ตั้งมากมายกรรมไม่เห็นไปสนองชูบ้าง? ไม่สิ ถึงกรรมจะสนองชูแต่เขาต่างหากที่ต้องปวดเอว!

 

“แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก...”    เขานอนหอบมองชูที่ละออกไปยิ้มให้ นิ้วยาวยังคงป้ายครีมออกมาจากอ่างแก้วไม่หยุด

 

“ช็อตเค้กสตรอว์เบอร์รี่สินะ? ที่มินาโตะตั้งใจจะทำให้ฉัน”   เดี๋ยว?! อย่าบอกนะว่า....

 

ชูป้ายครีมลงมาบนยอดอกเขาทำเอาสะดุ้งโหยง

 

ก่อนจะวางผลสตรอว์เบอร์รี่สีแดงสดตามลงไป....

 

อ๊า~~ เขาถึงกับต้องยกมือที่ถูกมัดขึ้นมาปิดหน้าด้วยความอาย

 

และคำพูดสุดท้ายก่อนที่สติของเขาจะกระเจิดกระเจิงหายไปในคืนวันเกิดของชูก็คือ...

 

 

“เค้กวันเกิดของฉัน...อร่อยมากเลยละมินาโตะ”

 

 

“ขอบใจนะ ที่ทำให้กิน~

 

 

 

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

 

Story never End

 

 

มันต้องมีมัมหมีอยากแจ้งตำหนวดจับพระเอกฟิคเรื่องนี้บ้างแหละ5555 อย่าถือสาความคลั่งรักของชายชูแกเลยนะคะ~~

 

จริงๆตอนที่ตั้งใจจะลงไม่ใช่ตอนนี้หรอกค่ะ แต่เพราะมีคอมเม้นต์จากตอนที่แล้วมาว่า อยากเห็นน้องมิคุมเกมบ้างจังเลยค่ะ นะ...ก็เลยสานฝันให้ทั้งตัวเองและคุมรีดซักหน่อย5555 น้องมิวางธนูลงก่อนลูก หนูเป็นเด่กดีไม่ทำร้ายมี๊นาลูก เอิ้ก ก็เลยแทรกแบบด่วนๆเป็นตอนสั้นๆบาปๆมาเช่นนี้แล555

 

ขอบคุณทุกเสียงรีเควสมา ณ.ที่นี้ด้วยนะคะ จริงๆอยากเห็นตอนแบบไหนก็คอมเม้นต์บอกกันไว้ได้นะ บางทีคุณกวางมันก็คิดไม่ออกค่ะ ที่เห็นหายไปนานๆบางที่ก็ไม่มีพล็อตจะเขียน555 ถ้าอันไหนไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็จะต่อยอดให้ค่ะ อิๆๆ

 

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์ ทุกๆหัวใจ ทุกๆการติดตาม ทุกๆโดเนทด้วยน้า แล้วเจอกันตอนหน้าค่า

 

จริงล่วย ตอนนี้เวป Kyoanishop.com นางส่งอินเตอร์แล้วนะคะ! (จากที่เมื่อก่อนส่งแค่ในญี่ปุ่น) ใครจะสั่งโนเวลหรือกู๊ด(ที่หมดตลอดถถถ)ของทสึรุเนะก็กดสั่งจากเวปนางได้เลยนะ ไม่ต้องเสียค่าส่งสองสามต่อเหมือนเดิมแล้ว โฮวววว ขอบคุณที่เห็นใจติ่งต่างดาวอย่างเรานะเกี๊ยว แต่จะให้ดีกว่านี้นายควรผลิตของให้พอขายก่อนนะเกี๊ยวววว กดอะไรไม่เคยทัน หมดตลอด 5555

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น