Tsurune. One-Shot.Fic [Shuu x Minato] หรือรักเรียกหา : 24 : END

 

Tsurune. One-Shot.Fic [Shuu x Minato]   หรือรักเรียกหา : 24 : END

 

: Tsurune ; kazemai koukou kyudou-bu Short Fanfiction 

: Fujiwara Shuu x Narumiya Minato

: Warmhearted

: NC-17

  

คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ    

 

  

กลีบซากุระที่พัดผ่านเป็นสัญญาณบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้โรงเรียนทั่วประเทศกำลังก้าวเข้าสู่ฤดูกาลใหม่ๆปีการศึกษาใหม่ๆกันแล้ว

 

ร่างสูงยาวราวกับเจ้าชายของฟูจิวาระ ชูเดินอย่างสง่าผ่าเผยไปตามทางท่ามกลางกลีบสีชมพูที่โปรยปรายลงมา บนไหล่ขวามีถุงใส่คันธนูยาวพาดอยู่ ภาพการก้าวย่างที่ดูสูงศักดิ์นั้นทำให้ทุกสายตายังคงหันมาจับจ้องไปที่เด็กหนุ่มไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเลย แต่ดวงตาที่เฉยชาก็หาได้สนใจไม่ว่าจะใครหรือเรื่องอะไรก็ตาม

 

นี่คือสัปดาห์ที่สามของการอยู่ม.ปลายปีสอง แต่กิจวัตรของเขาก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมเลย

 

ตกเย็นก็ยังคงเดินไปที่โรงฝึกธนูของชมรมเหมือนเดิม

 

คิดถึงแต่มินาโตะเหมือนเดิมว่าตอนนี้จะกำลังทำอะไรอยู่

 

 

 

อาทิตย์หน้าจะสอบแล้วสินะ?”    เสียงพูดคุยของสมาชิกชมรมยิงธนูดังเข้าหูเมื่อขายาวก้าวเข้าไปในโรงฝึกที่คราคร่ำไปด้วยผู้คน แน่นอนว่ามันไม่ใช่การสอบกลางภาคแต่เป็นการสอบคัดเลือกสมาชิกใหม่เข้าชมรมยิงธนูของพวกเขาต่างหาก

 

"ใช่สิ ก็มาสมัครกันเป็นร้อยขนาดนี้ ปีนี้โค้ชคงสอบเข้มงวดมากกว่าเดิมแน่"    เขาถอดรองเท้าไปก็ปล่อยให้เสียงพูดคุยลอยเข้าหูไป ดูเหมือนอีกฝ่ายก็จะไม่ทันสังเกตุเห็นเขาเช่นกัน

 

คงต้องบอกว่าการที่มีรุ่นน้องมาสมัครเข้าชมรมยิงธนูในปีนี้อย่างล้นหลามนั้นเป็นผลงานทิ้งทวนของรุ่นพี่ซาเซะก็คงจะได้ เพราะก่อนจะเรียนจบไปรุ่นพี่ผู้รักโนริรินคนนั้นก็ยังอุตส่าห์ช่วยทำโปสเตอร์เชิญชวนเข้าชมรมยิงธนูให้ แล้วเจ้าโปสเตอร์ที่มีแต่รูปเขาและเขาและเขานี่แหละก็ทำให้มีแต่คนแห่มาสมัครจนโรงฝึกแทบจะรับไม่ไหว

 

ทั้งๆที่โปสเตอร์มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการยิงธนูเลยสักนิด เอาไปติดแข่งกับบิลบอร์ดของไอดอลยังจะดูเข้ากว่า….

 

นั่นแหละ รุ่นน้องส่วนใหญ่ก็เลยมาเพราะมีฟูจิวาระ ชูอยู่ที่นี่กันแทบทั้งนั้น

 

ชมรมที่ไม่มีใครไปสมัครเลยก็ไม่ดี แต่ชมรมที่มาสมัครกันมากเกินแบบนี้ก็ไม่ดีเช่นกัน 

 

"ตั้งใจกันน่าดูเลยแหะ ทั้งพวกที่อยากจะเข้าชมรมเราจริงๆ กับพวกที่มาเพราะฟูจิวาระ"    ทั้งสองคนที่คุยกันอยู่หันหน้าไปมองพวกรุ่นน้องมือใหม่ที่ยืนซ้อมอย่างเก้ๆกังๆกันอยู่ที่ลานยิง ก็จริงอย่างที่ว่า มีทั้งคนที่ตั้งอกตั้งใจฟังที่รุ่นพี่สอนเกี่ยวกับธนู มีทั้งศิษย์เก่าที่มาจากชมรมยิงธนูคิริซากิม.ต้นที่ยิงกันเก่งอยู่แล้ว แล้วก็มีทั้งคนที่มัวแต่หมุนตัวไปมาราวกับกำลังลองเสื้อผ้ากันอยู่

 

"นั่นมันชุดจากร้านมัตสึซาวะเลยไม่ใช่เหรอน่ะ?"    ทั้งสองคนชี้ชวนกันดูชุดที่รุ่นน้องผู้หญิงกลุ่มหนึ่งสวมอยู่ จริงๆแล้วเด็กปีหนึ่งจะยังไม่ได้รับอนุญาติให้ใส่ชุดฮากามะสำหรับยิงธนูจนกว่าจะได้เป็นสมาชิกของชมรมอย่างเป็นทางการ แต่พวกที่หยิบมาใส่กันตั้งแต่ตอนนี้ดูก็รู้ว่ามีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงชัดๆ

 

เพราะการที่บรรดารุ่นน้องจะได้ใกล้ชิดรุ่นพี่ในฝันมันก็ต้องเป็นตอนอยู่ในชมรมนี่แหละ และช่วงก่อนสอบคัดเลือกเข้าชมรมก็เป็นเพียงช่วงเวลาเดียวที่จะได้อยู่ที่นี่สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจธนูจริงๆอย่างเด็กพวกนั้น  เพราะงั้นเลยกำลังพยายามกันเต็มที่เพื่อให้เตะตาเขา เพื่อให้เป็นที่สนใจของฟูจิวาระ ชูให้ได้

 

"ร้านเดียวกับที่ตัดชุดให้ฟูจิวาระน่ะนะ?"   สองคนนั้นยังพูดคุยกันต่อไป

 

"เออดิ ร้านกิโมโนเก่าแก่ของเกียวโต น่าจะอันดับหนึ่งของประเทศเลยนะ เป็นงานฝีมือที่ต้องสั่งตัด แต่ก็สมราคาเพราะใส่ออกมาแล้วจะดูดีมากกกก"

 

แพงมากเลยไม่ใช่เหรอ?”

 

ก็ใช่ไง

 

"โห~ อย่างลงทุน"    

 

ร่างสูงสง่าเริ่มก้าวขาอย่างไม่ใส่ใจ แพงแล้วยังไง? ชุดสั่งตัดแล้วยังไง? ถ้ามันไม่ได้อยู่ในสายตาเขา มันก็เปล่าประโยชน์

 

รุ่นน้องผู้หญิงกลุ่มนั้นหันมาเห็นเขาเข้าก่อนจะหันกลับไปซุบซิบกัน เด็กพวกนั้นพยายามยกมือขึ้นมาทักทาย พยายามทำตัวน่ารัก พยายามส่งยิ้มมาให้เพื่อให้เขาหันไปสนใจ

 

แต่ฟูจิวาระ ชูก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง

 

ร่างสูงสง่าเดินผ่านไปโดยไม่มองหน้าใครด้วยซ้ำ คุณชายของตระกูลฟูจิวาระทำเหมือนตรงนั้นเป็นเพียงอากาศธาตุ เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะขำๆให้พวกปีสองกับปีสามที่เห็นภาพแบบนี้จนเคยชิน 

 

ถ้าเจ้าชายของพวกเขาหันไปสนใจสิถึงจะแปลก ฟ้าคงถล่มดินคงทลายลงมาแน่ๆเพราะต่างก็รู้กันดีว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้ฟูจิวาระ ชูหันไปมองได้ แล้วคนคนนั้นก็ไม่ได้อยู่ที่โรงฝึกแห่งนี้แต่อยู่ที่คาเซไม



 

 

มือใหญ่วางกระเป๋ากีฬาของชมรมยิงธนูลง คำว่าคิริซากิตัวใหญ่และยังมีชื่อฟูจิวาระติดอยู่ที่สายสะพายบ่งบอกว่านี่คือกระเป๋าของเขาแน่นอน

 

ทว่า

 

ชุดที่อยู่ข้างในกลับไม่ใช่ชุดของเขา?

 

ดวงตาสีม่วงจ้องมองเข้าไปในกระเป๋า เสื้อที่ควรจะเป็นสีกรมท่ามันกลับกลายเป็นสีขาว?

 

มือใหญ่จึงล้วงเข้าไปเพื่อหยิบมันขึ้นมาดูให้ชัดๆสีขาวจริงๆด้วยแหะ

 

ชู? ทำไมเอาเสื้อสีขาวมาอ่ะ?”     ฝาแฝดที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าชะโงกมองอย่างประหลาดใจ ก็ดูยังไงเสื้อที่มือใหญ่ชูขึ้นดูกลางอากาศนั่นก็ไม่ใช่ชุดฝึกซ้อมของคิริซากิแน่ๆ แถมช่วงนี้ก็ไม่ใช่ฤดูกาลที่มีแข่ง ไม่น่าจะหยิบเสื้อสีขาวออกมาใช้อยู่แล้ว?

 

เอ๊ะ? เดี๋ยวนะ? ขนาดมัน?!”   มันจิถึงกับถลามาดูใกล้ๆก่อนจะผงะไป จะบอกว่าเผลอหยิบชุดที่ใช้ใส่ตอนแข่งมาก็ไม่น่าใช่แล้ว เพราะไซส์มันไม่ใช่ของชูชัดๆ! เจ้าของเสื้อตัวนี้น่าจะมีขนาดตัวพอๆกับพวกฝาแฝดเท่านั้นแหละ! และเพราะตัวเท่าๆกันแค่เห็นไซส์ของเสื้อผ้าก็เลยรู้ได้ทันที!

 

ยะ อย่าบอกนะว่า!!”    เซ็นอิจิตะโกนลั่นเรียกให้คนทั้งห้องหันมามองก่อนจะอ้าปากค้างอย่างตกใจ เหมือนจะรู้เป็นนัยๆแล้วว่านี่มันเสื้อของใครกันแน่!

 

อื้ม  ฉันน่าจะหยิบสลับกับมินาโตะมา”    แล้วชูก็ยอมรับหน้าตาเฉย ทั้งๆที่เพื่อนที่อยู่ในห้องนั้นต่างหันมองกันเลิ่กลั่ก บางคนถึงกับพ่นน้ำออกมา บางคนถึงกับทำของหล่นจากมือเลยด้วยซ้ำ

 

ก็มันจะมีซักกี่กรณีละเฮ้ย ที่จะหยิบเสื้อผ้าสลับกันได้เนี่ย?!!

 

ฮากามะก็ด้วยเหรอ?!”    มันจิยังทำใจดีสู้เสือถามต่อ ส่วนแฝดพี่กำลังส่งข้อความไปถามสปายฝั่งคาเซไมยิกๆ ก่อนจะได้รูปนารุมิยะ มินาโตะที่ใส่ชุดพละยืนง้างคันธนูอยู่ในโรงฝึกส่งกลับมาชัดเลยนี่มันชุดของโอจิของคาเซไมจริงๆ!

 

ใช่ นี่ก็ฮากามะของมินาโตะ”     มือใหญ่หยิบส่วนที่เป็นกางเกงขึ้นมาพินิจพิจารณา เนื้อผ้าเป็นสีกรมท่าเข้มๆต่างจากฮากามะสีดำของคิริซากิอย่างชัดเจน

 

แต่เสื้อยืดสีดำนี่ของฉัน”    อันนี้ไม่ใช่แค่หยิบผิดกองแล้ว~~ แต่เสื้อผ้ามันต้องผสมกันมั่วขนาดไหนถึงหยิบมาถูกแค่บางชิ้นแบบนี้เนี่ย~!

 

สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่กระเป๋ากีฬาอีกรอบ ก็ของฟูจิวาระ ชูถูกแล้วนี่! สลับกันแค่เสื้อผ้าที่อยู่ข้างในเนี่ยนะ?! ไม่ธรรมดาแล้ว!!

 

 

แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องไม่ได้รู้อยู่แค่ฝั่งห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าชาย

 

 

ในเมื่อเย็นวันนั้นฟูจิวาระ ชูลงซ้อมทั้งชุดพละอย่างไม่สะทกสะท้านใดๆ ทั้งๆที่คนทั้งชมรม ไม่สิ ทั้งโรงเรียนเลยมากกว่าที่รู้สึกสั่นสะเทือนไปหมดแล้ว!

 

จากปกติก็เด่นมากอยู่แล้ว วันนี้เลยยิ่งโดดเด่นเข้าไปใหญ่ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องต่างก็หันมามองกันอย่างสงสัย รูปแอบถ่ายเองก็แพร่ลงเนตอย่างไว แล้วไม่นานทั่วทั้งโรงเรียนคิริซากิต่างก็ถามเป็นคำถามเดียวกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าชายแห่งชมรมยิงธนูกันแน่!

 

ฟูจิวาระคุงเกิดอะไรขึ้นกับชุดฮากามะของเธอ?”    แล้วก็เป็นโค้ชที่ช่วยไขความกระจ่างให้กับทุกคนที่ตามติดเรื่องนี้อยู่

 

ขอโทษด้วยครับที่ต้องขออนุญาติซ้อมทั้งชุดพละแบบนี้ แต่ผมไม่สามารถจะใส่ชุดฮากามะได้เพราะขนาดมันเล็กเกินไป”    คุณชายแห่งตระกูลฟูจิวาระยังคงตอบหน้าตาย

 

เล็กเกินไป?”

 

ครับ  เอวของมินาโตะเล็กมาก ไหล่ก็แคบกว่าผมมาก”    คนรอบข้างฟังคำตอบของฟูจิวาระ ชูไปก็หน้าแดงไป ทำไมคำบรรยายรูปร่างที่ออกมาจากปากหนักๆนั่นถึงทำให้รู้สึกเขินแปลกๆยังไงก็ไม่รู้

 

ลำตัวก็บางมาก หนาแค่ฝ่ามือของผมนี่เอง”     ไม่พอ มือใหญ่ยังยกขึ้นมากางให้ดูประกอบเรียกความร้อนขึ้นสู่ผิวแก้มของคนได้ฟัง ต้องใกล้ชิดกันเบอร์ไหนถึงรู้ว่าเอวหรือลำตัวของอีกคนหนาแค่ไหนเนี่ย~

 

เขาสูงแค่ไหล่ผมทำให้ขากางเกงสั้นกว่าของผมด้วย อ้อ ผมหยิบชุดสลับกับของมินาโตะมาน่ะครับ ที่อยู่ในกระเป๋าของผมนั่นคือชุดฮากามะของนารุมิยะ มินาโตะ ส่วนชุดของผมตอนนี้คงอยู่ที่คาเซไม”    แล้วทันทีที่เสียงทุ้มพูดจบเสียงอื้ออึงก็ดังขึ้นจากรอบกาย

 

ไปทำอิท่าไหนถึงหยิบชุดสลับมากันได้ล่ะเฮ้ย?!!!

 

นี่น่าจะเป็นคำถามที่ตะโกนก้องอยู่ภายในใจสมาชิกชมรมยิงธนูคิราซากิในตอนนี้!!

 

เพราะมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยกับการที่ใครสักคนหนึ่งจะหยิบเสื้อผ้าสลับกับอีกคนหนึ่งในเวลาปกติเนี่ย! ไม่ใช่ว่าจะนั่งๆอยู่จู่ๆเสื้อผ้าก็ปลิวสลับกันได้เสียที่ไหน! 

 

แถมไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกัน สีชุดก็ต่างกัน ถึงอาจจะเป็นไปได้ที่ทั้งสองคนไปซ้อมยิงธนูด้วยกันแต่มันต้องกรณีไหนล่ะถึงจะหยิบชุดกันมั่วแบบนี้น่ะ?! มืด? รีบ? หรือเหนื่อยจนไม่ทันได้มอง?

 

แล้วยิ่งอีกฝ่ายคือฟูจิวาระ ชูผู้เยือกเย็น ระวังตัว และมีสติตลอดเวลาในยามปกติเนี่ย ยิ่งเป็นไปไม่ได้ไปกันใหญ่ 

 

แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาที่ไม่ปกติก็อาจจะไม่แน่

 

แล้วช่วงเวลาไม่ปกติที่จะทำให้หยิบเสื้อผ้าสลับกันได้มันก็คิดดีไม่ได้เลยทีเดียว!

 

ทุกสายตาต่างจ้องมองไปที่ฟูจิวาระ ชูอย่างต้องการคำอธิบายที่มากกว่านี้ แต่ใบหน้าเรียบเฉยนั่นก็ยังคงนิ่งเงียบ แล้วก็เพราะว่าอีกฝ่ายคือฟูจิวาระ ชูนี่แหละเลยทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าไปเซ้าซี้ 

 

ทุกคนทำได้แค่ติดใจสงสัยต่อไป 

 

แต่เพราะการกระทำที่เหมือนจะเป็นการประกาศกลายๆนั้นก็ทำให้คนที่คิดจะพุ่งเข้าใส่เจ้าชายของชมรมรู้สึกเหมือนจะสะดุดล้มหัวทิ่ม

 

หนุ่มฮ็อตซึ่งไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่คนของโรงเรียนก็ดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้นเสียแล้ว?

 

ฝั่งสาวๆในชมรมเองก็แบ่งออกเป็นสองฝ่าย พวกรุ่นพี่ที่รู้จักทั้งสองคนดีดูเหมือนจะกรี๊ดกร๊าดเอ็นดูทั้งคู่มากกว่า

 

ส่วนฝั่งรุ่นน้องต่างก็ทำหน้าช็อกเพราะไม่รู้ว่านารุมิยะ มินาโตะเป็นใคร แต่ฟังคำบรรยายจากปากของรุ่นพี่ฟูจิวาระแล้วพวกเธอต่างก็รู้สึกอิจฉาเจ้าของชุดฮากามะที่เล็กเกินไปคนนั้นกันสุดๆ

 

ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อว่าคนอย่างฟูจิวาระ ชูจะมองดูรูปร่างของใครแบบนี้ด้วย!

 

ต้องน่ารักขนาดไหน? ต้องหุ่นดีขนาดไหนถึงจะดึงดูดสายตาของเจ้าชายคนนั้นได้?!

 

กับพวกเธอนะแม้แต่หน้ายังไม่มองด้วยซ้ำ! แยกพวกเธอกับลูกธนูออกหรือเปล่าก็ไม่รู้น่ะ!

 

รุ่นน้องสาวๆได้แต่กัดผ้าเช็ดหน้าอย่างตาร้อนกันเป็นแถบๆแล้วตอนนี้!

 

 

 



แต่สายตาทิ่มแทงและเต็มไปด้วยคำถามซึ่งมองมาจากรอบกายพวกนั้นกลับทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของคนที่กำลังวางคันธนูลงหลังซ้อมเสร็จลอบยิ้มออกมา

 

มันไม่ใช่ความบังเอิญหรอก

 

เรื่องเสื้อผ้าที่สลับกันมานี่น่ะ

 

เป็นฝีมือของเขาเอง

 

เขาก็แค่อยากจะประกาศให้ใครต่อใครรู้ว่าเขามีเจ้าของแล้ว อย่าเข้ามายุ่ง

 

มินาโตะเองก็มีเจ้าของแล้วเหมือนกัน อย่า เข้า มา ยุ่ง



 

 

 



ย้อนกลับไปเมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา

 

ปกติแล้วพวกเขาจะเอาชุดฮากามะกลับไปซักกันตอนสุดสัปดาห์ แต่ชุดของเขามักจะกลับไปไม่ถึงบ้านฟูจิวาระ นั่นก็เพราะ

 

 

มินาโตะ ซักให้หน่อย”    ประโยคเอาแต่ใจถูกเอ่ยออกไปจากใบหน้าตาย ไม่พอ มือใหญ่ยังยื่นชุดฝึกยิงธนูที่พับเรียบร้อยทั้งๆที่ผ่านการใช้งานมาทั้งสัปดาห์ให้นารุมิยะ มินาโตะอีกต่างหาก

 

เห๋~ ไม่ใช่ว่าบ้านนายมีโรงซักรีดเป็นของตัวเองหรือไง?”    ดวงตากลมโตหรี่มองเสื้อสีกรมท่ากับกางเกงฮากามะสีดำในมือใหญ่

 

ฉันชอบกลิ่นเสื้อผ้าของมินาโตะ แม่บ้านคนไหนก็ซักออกมาให้มีกลิ่นแบบนี้ไม่ได้ ฉันให้พวกเขาลองดูแล้ว”    ถึงกับต้องลองเลยเร๊อะ สร้างความลำบากให้คุณแม่บ้านเค้าทำไมเนี่ย~ แต่ชูยังคงยืนยันคำพูดของตัวเองด้วยใบหน้านิ่ง ไม่ว่ายังไงก็จะให้เขาซักเสื้อผ้าให้จนได้สินะ 

 

มันหอมทั้งกลิ่นของน้ำยาปรับผ้านุ่มแล้วก็กลิ่นของพระอาทิตย์?”   ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงไปดมเสื้อที่ร่างโปร่งบางสวมอยู่ฟุดฟิดๆก่อนจะเลยตามเลยเกยคางไว้บนไหล่บาง

 

ฮะๆๆ อะไรละนั่น”   ใบหน้ามนหัวเราะพลางส่ายหน้า บางครั้งความเอาแต่ใจในเรื่องที่คนอื่นเค้าไม่สนใจกันของชูก็น่าเอ็นดูจนเขาปฏิเสธไม่ได้

 

เอามาสิ”   มือบางจึงยื่นออกไปรับชุดฝึกยิงธนูสีกรมท่านั่นมา ส่วนเจ้าของมันก็ยังคลอเคลียอยู่ใกล้ๆอย่างเอาใจ

 

ให้ซักเฉพาะชุดฮากามะใช่ไหม?”   

 

หรือมินาโตะอยากซักชั้นในให้ด้วยล่ะ?”   ชั้นในที่ไม่ได้หมายถึงเสื้อยืดสีดำแน่ๆเพราะเสื้อมันรวมอยู่ในกองฮากามะแล้ว! ดวงตากลมโตเหล่มองอีกฝ่ายอย่างรู้ทัน

 

เดี๋ยวเถอะ ฉันหมายถึงชุดนักเรียนหรือชุดพละอะไรแบบนี้

 

ชุดอื่นให้แม่บ้านซักก็ได้ ไม่เป็นไร แต่ชุดที่ใช้ยิงธนูมันพิเศษสำหรับฉัน ฉันอยากได้กลิ่นแบบมินาโตะ อยากให้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา”   คำพูดของเจ้าชายแห่งชมรมยิงธนูคิริซากิเรียกรอยแดงให้ปรากฏอยู่บนแก้มใส ใบหน้ามนที่กำลังเขินอายนั้นน่ารักชวนมอง

 

“....เข้าใจแล้ว จะตั้งใจซักให้เป็นอย่างดีเลย”     ท่อนแขนบางกอดเสื้อผ้าในอ้อมอกไว้ ไม่น่าแปลกใจหรอกที่เขาจะใจเต้นกับภาพตรงหน้า

 

 เพราะแบบนั้น ชุดฮากามะของเขา มินาโตะจึงเป็นคนซักรีดให้ด้วยความใส่ใจ เวลาเขาสวมใส่มันทีไร เวลาได้กลิ่นที่สดชื่นสดใสราวกับตะวันส่องลอยออกมา ใบหน้าของมินาโตะก็มักจะปรากฏอยู่ในใจเขาเสมอ

 

 

 

 

 



หากเป็นกิโมโนสั่งตัดที่มีราคาแพงขนาดนี้คงจะต้องส่งร้านซักสถานเดียว แต่ชุดฝึกยิงธนูนั้นได้ถูกออกแบบและคัดสรรเนื้อผ้ามาอย่างดีแล้วให้สามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าเองได้เพราะเป็นชุดที่ต้องใส่เป็นประจำ ต้องซักบ่อย จึงต้องแข็งแรงทนทาน

 

ร่างโปร่งบางจึงไม่กังวลถึงจะรู้ว่าชุดฮากามะของชูชุดนี้ราคาเท่าไหร่

 

มือบางจับเสื้อสีกรมท่าที่พับเรียบร้อยใส่ถุงตาข่ายสำหรับซักผ้า ก่อนจะค่อยๆบรรจงวางลงไปในตู้ฝาหน้า เขาแยกซักระหว่างเสื้อสีขาวของตัวเองกับเสื้อสีกรมท่าของชู ส่วนกางเกงฮากามะที่มีสีใกล้กันจึงซักรวมกัน

 

นิ้วเรียวกดตั้งค่าไปที่การซักเบาสุดก่อนจะกดปุ่มให้เครื่องซักผ้าทำงาน ทุกขั้นตอนเต็มไปด้วยความเอาใจใส่และยิ่งมองลงไปในตะกร้าผ้าซึ่งมีกางเกงฮากามะรอซักที่พับอยู่ด้วยกันก็ยิ่งทำให้เผลอยิ้มออกมา

 

เขามีความสุขที่ได้ซักเสื้อผ้าให้ชู

 

มันเหมือนความสัมพันธ์ของเราก้าวไปอีกขั้นนึงแล้ว เหมือนคู่รักที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้วยังไงอย่างงั้น

 

ร่างโปร่งบางยกมือขึ้นมาปิดหน้าก่อนจะยืนพิงเครื่องซักผ้าเขินอายอย่างน่าเอ็นดู



 

 



ตัวใหญ่จนน่าหมั่นไส้เลยแหะชูเนี่ย”   เสียงใสพูดกับตัวเองในขณะที่ยืนอยู่ใต้ราวตากผ้า 

 

ส่วนร่างสูงสง่าที่เพิ่งกลับจากการเรียนพิเศษก็กำลังแอบดูอีกฝ่ายอยู่หลังบานประตูมินาโตะกำลังตากชุดของเขาอยู่ 

 

มือบางจับๆไปตามไหล่ไม่ให้มีรอยยับก่อนจะมองดูเสื้อของเขาด้วยสายตาอ่อนโยนซึ่งเต็มไปด้วยความรักและความภาคภูมิใจ

 

ภาพตรงหน้าทำให้หัวใจของเขาโดนขังซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดนโซ่ตรวนมัดแล้วมัดอีกชาตินี้เขาคงจะไม่มีวันหนีออกจากกรงที่ชื่อว่ามินาโตะได้แล้วแน่ๆ

 

มินาโตะเดินเข้ามาหยิบแก้วน้ำแข็งก่อนจะรินชาเขียวเย็นๆใส่ลงไปแล้วเดินกลับไปนั่งลงที่ชานบ้าน

 

ดวงตากลมโตเหม่อมองท้องฟ้าบ้าง มองผ้าที่ตากไว้บ้าง มองต้นไม้ใบหญ้า มองนกมองผี้เสื้อดูสงบสุขดีเหลือเกิน และภาพของมินาโตะที่เป็นแบบนั้นก็ทำให้เขารู้สึกสงบไปด้วย 

 

สิ่งที่เขาต้องการคือความสงบที่เรียบง่ายแบบนี้ ชีวิตข้างนอกของเขาวุ่นวายพอแล้ว ถ้าต้องกลับมาอยู่กับใครสักคน เขาก็จะเลือกคนอย่างมินาโตะนี่แหละ

 

มินาโตะนั่งหลับตาเงยหน้าอาบแดดอยู่ ร่างสูงสง่าจึงเดินเข้าไปหาช้าๆ

 

ก่อนจะโน้มตัวลงไปจูบจากด้านบน

 

จุ๊บ

 

มินาโตะยิ้มโดยไม่ลืมตาเพราะรู้ว่าสัมผัสแบบนี้เป็นของใคร

 

ชู? มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”   เสียงใสทักก่อนจะยันตัวขึ้นนั่งดีๆ ร่างสูงสง่าจึงนั่งลงข้างๆแล้วหยิบแก้วชาเขียวเย็นที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่งขึ้นมาดื่มต่อ

 

มาเมื่อกี้ ทำอะไรอยู่?”

 

เพิ่งซักชุดเสร็จ เอาอีกไหม?"   ดวงตากลมโตมองมาที่แก้วซึ่งเหลือแต่น้ำแข็งในมือเขา เขาจึงส่ายหน้าว่าพอแล้ว  แน่นอนว่าเรื่องไร้พิธีรีตองแบบนี้เขาไม่ทำกับใครนอกจากมินาโตะคนเดียว การที่เขาจะยอมดื่มน้ำแก้วเดียวกับใครนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลย

 

"รู้ไหม? เคล็ดลับก็คือต้องตากแดดที่ในเวลาที่เหมาะสม กลิ่นก็จะหอมสะอาดๆไง”    มินาโตะหันไปมองชุดฮากามะสองชุดที่แขวนอยู่บนราวตากผ้า และเขาก็อมยิ้มออกมาในขณะที่มองใบหน้าของมินาโตะอีกที

 

มินาโตะต้องเป็นเจ้าสาวที่ดีได้แน่ๆ

 

ง่ะ ทำไมถึงเป็นเจ้าสาวล่ะ?”

 

หรือจะเป็นนายหญิง?”

 

ไม่น่าเป็นซักอย่าง”    ใบหน้ามนยู่หน้าแต่ใบหน้าหล่อเหลากลับยิ้มออกมา

 

แล้วพอได้นั่งมองไปที่ชุดฝึกก็เลยนึกถึงเรื่องที่ชมรมขึ้นมา เสียงนุ่มจึงเอ่ยถามเขาว่า

 

ปีนี้ที่คิริซากิมีคนมาสมัครเข้าชมรมมากไหม? ที่ชมรมฉันมีมา5คนละ

 

“....ร้อยกว่าคน

 

ห๊ะ?”

 

“.......”

 

ทำไมเยอะขนาดนั้น ดีจัง

 

ดีเหรอ?”

 

ดีสิ จะได้มีเพื่อนยิงธนูเยอะๆ ดีออก

 

อื้ม ถ้ามินาโตะว่าดีก็คงดีแหละ แต่ยังไงก็ต้องสอบคัดเอาไว้แต่คนที่มีฝีมือจริงๆเพราะโรงฝึกไม่พอรับคนขนาดนั้น

 

นั่นสินะ คิริซากิก็ต้องสอบเข้าแบบนี้มาตั้งแต่ม.ต้นแล้วนี่เนอะ”     เพราะชมรมยิงธนูของคิริซากินั้นมีชื่อเสียงมาก การไปชนะระดับประเทศมาตลอดทำให้นักธนูต่างต้องการจะมาอยู่ที่นี่กันทั้งนั้น

 

ของคาเซไมมีแค่ 5 คนเองเหรอ?”

 

จริงๆก็มีมากกว่านี้อยู่หรอก เป็นพวกปีสองปีสามที่อยากย้ายชมรมน่ะ แต่เซยะไล่ตะเพิดไปหมดแล้ว ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน?”     ฉันว่าฉันเข้าใจนะเขาเอง ก็ต้องหาวิธีไล่คนที่มาเข้าชมรมด้วยจุดประสงค์อื่นออกไปบ้างเหมือนกัน

 

ดวงตาสีม่วงทอดมองไปยังชุดฮากามะที่ตากอยู่ สายลมเอื่อยๆพัดชายเสื้อให้พลิ้วไหวน้อยๆ ก่อนที่หัวสมองอันชาญฉลาดจะปิ๊งไอเดียบางอย่างขึ้นมา

 

ถ้าเป็นวิธีนี้ละก็….หึ

 

ยิ้มอะไรน่ะชู? กำลังคิดเรื่องไม่ดีอยู่ใช่ไหม?”    มินาโตะหรี่ตามองเขาก่อนจะเขยิบถอยหนีอย่างหวาดระแวง

 

 

หมับ!

 

 

แต่เพราะท่าทางแบบนั้นของมินาโตะนั่นแหละ จากที่ไม่ได้คิดเขาก็คิดขึ้นมาเลย ร่างสูงใหญ่จึงโดดตะครุบลำตัวบางไว้ก่อนจะนอนกอดแน่น

 

ชู~ เดี๋ยวพ่อเห็น”   คนที่ถูกเขากอดอยู่ใต้ร่างกระซิบกระซาบเบาๆ บ่ายวันอาทิตย์แบบนี้พ่อของมินาโตะก็อยู่บ้าน แต่ดูเหมือนการถ่ายทอดสดหมากรุกจะทำให้คุณพ่อเงียบหายไปนานแล้ว

 

ถ้าไม่อยากให้พ่อเห็นก็ขึ้นไปทำกันข้างบน”    แล้วร่างที่สูงใหญ่กว่าก็ลุกพรวดพราดลากคนที่ตัวเล็กกว่าให้เดินตามมา

 

เดี๋ยว แล้วใครบอกว่าจะทำล่ะ? นี่

 

 

 

 

 



เอวบางถูกมือใหญ่บังคับให้ขยับโยกอยู่เหนือต้นขาแข็งแกร่ง

 

นิ้วทั้งสิบบีบลงไปบนแก้มก้นเนียนใสจนแทบจะฝังรอยแดงไว้ชัดเจน

 

ความเป็นชายที่แข็งขืนคับแน่นอยู่ข้างในทำให้ใบหน้ามนแดงซ่านและทำอะไรไม่ได้นอกจากเปล่งเสียงครางออกมา

 

ชูนั่งพิงอยู่กับข้างฝาโดยมีเขาคร่อมอยู่ด้านบน แต่คนที่ควบคุมจังหวะทั้งหมดกลับไม่ใช่เขา

 

"อ๊ะ ชู~"   ข้างในมันเสียวไม่ไหวจนสองแขนต้องกอดลำคอแกร่งแน่นแล้วปล่อยให้มือใหญ่ๆนั่นบังคับร่างกายของเขาครอบงำความเป็นชายของชูต่อไป

 

ทุกสัมผัสที่โยกโดนล้วนแล้วแต่ทำให้เขาแทบขาดใจ

 

ชูเก่งจนเหลือเชื่อ

 

ถึงเขาจะไม่มีตัวเปรียบเทียบแต่ก็พอจะรู้ว่าแบบนี้น่าจะเรียกได้ว่าเก่ง ไม่งั้นคงทำให้เขาเป็นถึงขนาดนี้ไม่ได้

 

เสร็จได้โดยไม่ต้องแตะต้องข้างหน้าด้วยซ้ำ

 

สองแขนกอดลำคอแกร่งพลางซบหน้าลงไปที่ไหล่กว้างอย่างเขินอายกับความคิดของตัวเองคิดอะไรอยู่เนี่ย~

 

"อ๊ะ เดี๋ยว เบาๆ อย่าโดนตรงนั้น ฉันจะ อ๊า~"

 

"อ๊า ชู! ชู~!!"

 

"อื้อ~~~~!"

 

 

แฮ่กแฮ่กแฮ่กลำตัวบางถึงกับเอนถลาลงไปนอนกับพื้นเตียงอย่างหมดแรงทั้งๆที่เบื้องล่างยังเชื่อมต่อกัน 

 

ความอุ่นร้อนเหนียวเหนอะที่ไหลเลอะอยู่รอบๆปากทางเข้าคือสิ่งที่รู้สึกได้ในตอนนี้

 

มันดีมากจริงๆ

 

เขาถึงปฏิเสธชูไม่ได้สักทีเมื่ออีกฝ่ายร้องขอขึ้นมา

 

"แฮ่กกี่โมงแล้วต้องลงไปเก็บผ้า…"    ถึงจะเพลียจนตาปรือแต่เสียงนุ่มก็ยังถามออกไป จิตวิญญาณของแม่บ้านนั้นใครจะมาดูถูกกันง่ายๆไม่ได้

 

"บ่ายสาม"    มือใหญ่ลูบลงมาที่หัวสีดำชื้นเหงื่อก่อนจะสางเล่นอย่างเอ็นดู

 

"เดี๋ยวฉันลงไปเก็บให้ มินาโตะนอนไปก่อนเถอะ"    ใบหน้าหล่อเหลายิ้มอ่อนโยนมาให้เพราะงั้นมันจึงทำให้ใบหน้ามนวางใจจนหลับตาลงโดยง่าย

 

 

หารู้ไม่ว่าทุกอย่างมันเป็นแผนการที่ฟูจิวาระ ชูวางเอาไว้

 

 

ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงไปจูบขมับใสหนึ่งทีก่อนจะเดินออกจากห้องไป

 


มินาโตะตื่นมาอีกทีก็มืดค่ำแล้ว

 

จึงไม่ได้รู้เลยว่าชุดฮากามะที่คุณชายฟูจิวาระอ้างว่ารีดแล้ว พับแล้ว เก็บลงกระเป๋าให้เรียบร้อยแล้วนั้นมันลงกระเป๋าใครกันแน่

 

และเหตุการณ์ในเย็นวันจันทร์ก็เป็นอย่างที่เห็นนั่นเอง

 

 

 

 

 



ตัดมาที่ฝั่งของคาเซไม

 

ใบหน้าของทาเคฮายะ เซยะ กำลังทะมึนได้ที่

 

หลังจากแอบหลบมาเปิดตู้ล็อคเกอร์ของมินาโตะดูและตอนนี้ดวงตาภายใต้คอนแทคเลนส์ก็กำลังจ้องเขม็งอยู่ที่ชุดฮากามะแปลกปลอมซึ่งถูกพับไว้อย่างดีในตู้ของมินาโตะ

 

ก็ว่าทำไมวันนี้มินาโตะถึงได้ใส่ชุดพละลงซ้อมแถมยังอ้างแปลกๆว่าลืมเอาฮากามะมาทั้งๆที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ 

 

อย่างมินาโตะน่ะ หยิบอุปกรณ์การยิงธนูลงกระเป๋าก่อนจะหยิบหนังสือเรียนด้วยซ้ำ

 

เผามันซะเลยดีไหมไอ้ชุดสีกรมท่าน่าหมั่นไส้นี่น่ะ

 

เผามันไปพร้อมกับแกซะเลยดีไหมเจ้าตัววายร้ายหน้าตายที่ชอบกัดมินาโตะของเขาจนมีแต่รอยแดงนั่นน่ะ!

 

ครื้นนนนนนน

 

แล้วเสียงฟ้าร้องอย่างเป็นปริศนาก็ดังอย่างต่อเนื่องอยู่รอบๆห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าชายชมรมยิงธนูคาเซไมไปตลอดทั้งเย็น….

 

 

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

 

Story never End

 

เพิ่งนึกออกว่า11เดือน5มันวันเกิดคุณชายชูเค้านี่ อ๊ากกกกก หันมาปั่นทางนี้ไม่ทั่วไม่ทันคือรู้มันคืนนั้นแหละ เลทหน่อยนะคะชายชูคะ สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังค่า อิๆๆๆ

 

แปะรูปที่ถ่ายแฮปวันเกิดคุณชายเค้าไว้ค่ะ รีบมากถุงทงถุงเท้าไม่ทันได้ใส่5555 (จิ้มที่รูปเอานาคะถ้าจะดูรูปใหญ่)













ขอบคุณทุกๆเสียงทวงมากๆเลยจริงๆนะคะ เห็นแล้วก็แบบลนลานเลิ่กลั่กดีใจมั่กที่มีคนรออยู่ >////< เด่วมาต่อเรื่อยๆน้า ขอบคุณคอมเม้นต์ หัวใจ ทุกๆการติดตามและโดเนทเช่นเคยนะคะ แล้วเจอกันตอนหน้าค่า

 

ปล.ในโนเวลเล่มสามก็คือมีรุ่นน้องมาสมัครเข้าชมรมยิงธนูของคิริซากิเยอะมากเพราะโปสเตอร์ชวนเข้าชมรมที่เป็นรูปชูกับฝาแฝดที่รุ่นพี่ซาเซะทำไว้จริงๆค่ะ5555 คือเป็นโปสเตอร์แบบชูนั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟาตัวสูงๆโดยมีแฝดนั่งประกบข้างงี้ มีทั้งแบบเวสเทิร์นแบบญี่ปุ่นงี้ 55555 ป่วนมากอ่ะ โอ๊ย

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น