Tsurune. One-Shot.Fic [Shuu x Minato] หรือรักเรียกหา : 16 : END
:
Tsurune ; kazemai koukou kyudou-bu Short Fanfiction
:
Fujiwara Shuu x Narumiya Minato
:
Warmhearted
:
NC-17
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
“แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก.....” ไอสีขาวถูกพ่นออกจากปากครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเหนื่อยจนแทบขาดใจ
แต่ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนก็หยุดอยู่ตรงนี้ไม่ได้
ดวงตาสีมรกตกลมโตกรอกไปมาเพื่อมองหาทางหนี
เขาวิ่งเข้ามาในตรอกโสโครกนี่อย่างไม่รู้ทิศรู้ทาง ไม่มีการวางแผน
ทุกอย่างเป็นเรื่องเฉพาะหน้า สองขายังคงวิ่งต่อไปเพื่อเอาชีวิตรอด
จะปล่อยให้ถูกจับตัวกลับไปไม่ได้เด็ดขาด
“อึก!!” เพราะความตื่นตระหนกราวกับหนูสกปรกกำลังวิ่งหนีแมว
หน้าขาเลยไปสะดุดกับกล่องลังที่วางเกะกะอยู่เต็มสองข้างทาง
โครม!
ร่างทั้งร่างล้มกลิ้งลงบนแอ่งน้ำขัง
แรงกระแทกทำให้ความเจ็บแปลบแล่นลิ่วมาจากข้อเท้าจนน้ำตาแทบไหล
กลิ่นเหม็นๆของน้ำคลำทำให้มือบางต้องรีบยันตัวเองลุกขึ้น
หัวสีดำรีบหันซ้ายหันขวาแต่ดูเหมือนพวกนั้นจะยังไม่รู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้
“อ๊ะ!” เสียงอุทานเบาๆหลุดออกจากปากเมื่อเขาพยายามจะลุกขึ้น
ที่ข้อเท้าเจ็บมากจริงๆ
ใบหน้ามนสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพยายามจะวิ่งต่อไป
แต่แค่ก้าวแรกมันก็เจ็บจนต้องทรุดลงกับพื้น
ไม่ได้นะ...จะมาจบเห่ตรงนี้ไม่ได้...
“ฮึก...” ทั้งความกลัวและความอัดอั้นตันใจทำให้เผลอร้องไห้ออกมา
ไม่ไหวแล้ว...เขาทนไม่ไหวแล้ว...
“ฮึก...ชู...” ชื่อของคนที่เฝ้ารอคอยหลุดออกมาจากปาก
มันทรมานจนแทบจะดิ้นรนต่อไปไม่ไหวแล้ว
“ไปทางนั้น!” เสียงกระโชกโฮกฮากที่ไล่ตามอยู่ข้างหลังทำให้มือบางต้องยกขึ้นมาปิดปากอย่างลนลาน
ใบหน้ามนหันมองรอบกายด้วยหัวใจที่เต้นกระหน่ำ
สองขาอันสั่นระริกแบกร่างหนีเข้าไปในประตูผุพังที่ดูจะเป็นตึกร้างหลังหนึ่ง
เขาวิ่งต่อไม่ไหวแล้ว ข้อเท้ามันบวมเป่งเสียขนาดนี้
“ฮึก...” มือบางปาดน้ำตาก่อนจะกอดเข่าซุกตัวอยู่หลังลังไม้เก่าๆ
ชื่อของเขาคือนารุมิยะ มินาโตะ และคนที่เขาหนีอยู่ก็คือเจ้าหนี้ที่เป็นแก๊งยากูซ่า...
เขาว่ากันว่าก่อนที่คนเราจะตาย
ความทรงจำอันแสนสุขจะหลั่งไหลอยู่ในหัว...
ถ้าเช่นนั้นเขาเองก็คงใกล้จะตายแล้วเหมือนกันสินะ
เพราะตอนนี้ในหัวเขามีแต่ภาพของชูที่ยังยิ้มยังหัวเราะอยู่ข้างๆกัน...ภาพมันย้อนกลับไปในวันคืนเหล่านั้น...เมื่อสิบกว่าปีก่อน...
เขากับชูเติบโตมาด้วยกันในเมืองเล็กๆอันห่างไกลแห่งหนึ่ง
เรามีแม่คนเดียวกันและแม่ก็เลี้ยงพวกเราตามลำพังมาตั้งแต่เพิ่งลืมตาดูโลก
ไม่สิ...นั่นไม่ใช่แม่ของเขา
แต่เป็นแม่แท้ๆของชูต่างหาก
แม่ของชูรู้จักกับแม่แท้ๆของเขาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ทั้งสองคนเข้าโรงพยาบาลเพื่อไปเตรียมตัวคลอดและสนิทสนมกันโดยง่ายเพราะต่างก็ไร้ญาติขาดมิตรด้วยกันทั้งคู่
พวกเธอไม่มีสามี พวกเราไม่มีพ่อ พวกเธอจึงดูแลกันและกันจนถึงวันคลอด
พวกเราคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย
แต่แม่ของเขากลับไม่รอด...
เขาจึงกลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีแม้แต่แม่คอยดูแล
แม่ของชูสงสารเด็กน้อยอย่างเขา
เธอจึงรับเขาไปเลี้ยงเป็นลูกอีกคนของเธอ เขากับชูจึงโตมาด้วยกัน เล่นด้วยกัน
ยิ้มให้กันในวันที่มีความสุข ยามทุกข์เราก็ร้องไห้ด้วยกัน อยู่เคียงข้างกันมาตลอด
เขามีแต่ชูและชูเองก็มีแต่เขา
ความผูกพันแบบเพื่อน
พี่ น้อง ค่อยๆก่อตัวเป็นความรักในรูปแบบอื่นโดยไม่รู้ตัว
เราเคยสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป...
แต่แล้วสัญญาก็ถูกฉีกกระชากด้วยมือที่มองไม่เห็น...ในวันที่เราอายุครบ10ขวบ
ในโลกของเราไม่ได้มีเพียงเพศหญิงกับเพศชายที่นับเป็นเพศหลักเท่านั้น
แต่ยังมีเพศรองที่จะปรากฏตอนอายุครบสิบปีด้วย
อัลฟ่า...เบต้า...โอเมก้า...
เพศรองทั้งสามที่สามารถบ่งบอกสถานะในสังคมของเราได้อย่างชัดเจนที่สุด
เพราะผู้คนนับถืออัลฟ่าที่มีความฉลาดและแข็งแกร่งเหนือเบต้าซึ่งเป็นคนหมู่มากทั่วๆไป
และผู้คนมักไม่ให้ค่าโอเมก้าที่อ่อนแอและมีเงื่อนไขในการใช้ชีวิตที่มากกว่าเพศรองอื่นๆ
ชูเป็นอัลฟ่า...ส่วนเขาเป็นโอเมก้า...
เรื่องมันคงจะไม่เป็นแบบนี้ถ้าชูเป็นอัลฟ่าที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบเขา
เพราะแท้จริงแล้ว
ชูเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลฟูจิวาระ
ตระกูลอัลฟ่าที่น่าเกรงขามและทรงอิทธิพลที่สุดในญี่ปุ่น
แม่ไม่เคยบอกพวกเราเลย
และทางตระกูลฟูจิวาระก็ไม่เคยมาดูดำดูดีอะไรพวกเราด้วย...ทางนั้นปล่อยให้พวกเราชีวิตไปตามปกติเพียงแต่แอบจับตาดูชูอยู่ตลอด
แม่ของชูเป็นภรรยานอกสมรสและทนแรงกดดันไม่ไหวจึงหนีออกมาทั้งๆที่ท้องชูอยู่
เพราะอย่างนั้นทางตระกูลฟูจิวาระจึงตั้งใจจะปล่อยเธอกับลูกไป...หากเด็กคนนั้นเป็นเบต้าหรือโอเมก้า
ทว่า...ชูกลับเป็นอัลฟ่า
และไม่ใช่อัลฟ่าธรรมดาแต่เป็นอัลฟ่ายีนเด่นอันหาได้ยาก
เป็นอัลฟ่าที่อยู่เหนืออัลฟ่าทั่วๆไป
แม้แต่ในตระกูลฟูจิวาระเองก็ไม่มีอัลฟ่ายีนเด่นแบบนี้มานานมากแล้ว
ชูเลยถูกทางตระกูลฟูจิวาระมารับตัวกลับไปแทบจะทันที
ชูถูกจับแยกกับแม่และเขา
ทางตระกูลฟูจิวาระเอาตัวชูกลับไปแค่คนเดียว
เพราะชูจะถูกเลี้ยงดูในฐานะลูกชายของนายหญิงฟูจิวาระ ไม่ใช่ลูกนอกสมรสของเมียน้อย…
ก่อนไป...ชูสัญญาว่าจะกลับมาหาเขา
จะตามหาเขากับแม่ให้เจอไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน...ให้เขารอ...
แต่จนแล้วจนรอด...สิบปีที่ผ่านมา...ชูก็ไม่เคยโผล่มาหาพวกเราเลยสักครั้ง...
เขาได้แต่เชื่อใจและคิดในแง่ดี
ว่าชูเองก็คงจะมีเหตุผลที่ทำให้ต้องตัดการติดต่อกับพวกเราไป...ชูไม่ได้ลืมเขากับแม่ไปแล้วหรอก
ไม่มีวัน...
เขาอยู่ได้เพราะเชื่อแบบนั้น...
และเขาคงจะรออย่างสงบต่อไป...หากโรคร้ายไม่มากล้ำกลายครอบครัวเราเสียก่อน
แม่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายจากการทำงานหนักและแทบไม่มีเวลาพักผ่อนหรือดูแลตัวเอง
และเขาก็ติดต่อชูไม่ได้เลย
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชูถูกพาตัวไปอยู่ที่ไหน
ดูเหมือนชูจะไม่ได้อยู่ในบ้านใหญ่ตระกูลฟูจิวาระ
ชูอาจจะถูกส่งตัวไปอยู่ต่างประเทศ...
เขาไม่มีหนทางแล้วจริงๆ
พวกเราไม่ได้มีเงินมากมายพอจะจ่ายค่าผ่าตัดของแม่ได้...และเขาก็ยังเด็กเกินไปที่จะไปขอกู้เงินจากธนาคาร
ท้ายที่สุดจึงต้องไปยืมเงินนอกระบบของพวกยากูซ่า
ทว่า...แม่ก็ป่วยหนักเกินไปจนรักษาไม่ได้อีก
แม่เสียชีวิตไปในวันที่ดอกซากุระผลิบานพอดี...ทิ้งให้เขาเฝ้ารอลูกชายของแม่ตามลำพังในโลกที่โหดร้ายใบนี้
เพราะถึงแม่จะตายไป
แต่หนี้ที่ต้องชดใช้ก็ยังอยู่
เด็กม.ปลายอย่างเขาจะไปมีปัญญาหาเงินขนาดนั้นในเร็ววันได้ยังไง
ต่อให้ทำงานพิเศษจนแทบไม่ได้หลับได้นอน
เงินที่หามาได้ก็ยังห่างไกลจากหนี้สินที่มีมากนัก
แถมพวกนั้นยังไม่ทำตามที่สัญญาเขียนไว้
ว่าจะให้เขาค่อยๆผ่อนผันใช้หนี้ได้
แต่กลับมาเร่งรัดให้เขาจ่ายทั้งหมดภายในสิ้นเดือนนี้
เพราะพวกนั้นรู้ว่าเขาเป็นโอเมก้า...
และโอเมก้าที่กำลังจะฮีตเป็นครั้งแรกก็ขายได้ราคาดีที่สุด
ค่าตัวของเขาอาจจะพุ่งไปถึงล้านเยนเพียงแค่นอนด้วยกันคืนเดียว
มันแทบจะใช้หนี้ทั้งหมดได้และอาจจะเหลือเป็นกำไรอีกต่างหาก
พวกนั้นจึงตั้งใจจะจับตัวเขาไปขายเพื่อใช้หนี้
เขาถึงต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนอยู่แบบนี้
ท่อนแขนผอมบางกอดเข่าด้วยเนื้อตัวสั่นระริก
ในใจร่ำร้องหาคนที่เป็นที่พึ่งเดียว...แต่ทั้งหมดมันคือความว่างเปล่า...
หรือชูจะทิ้งเขาไปแล้วจริงๆ...
น้ำตาไหลลงมาเมื่อมองเห็นเงายืนจังก้าอยู่หน้าทางออกเดียวที่เขามี...
“ฮ่าๆ เจอ-ตัว-จน-ได้นะ เจ้าโอเมก้า”
เขาลืมตาขึ้นมาในห้องที่แสนหรูหราห้องหนึ่ง
เนื้อตัวถูกชำระล้างจนสะอาดสะอ้าน ข้อเท้าที่บวมเป่งก็ถูกพันเอาไว้อย่างดี
แต่ยิ่งได้รับการดูแลดีเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรู้ตัวแล้วว่าเขากำลังจะถูกขาย
กำลังจะถูกอัลฟ่าแปลกหน้าที่ไหนก็ไม่รู้ข่มแหง เขาทั้งตะโกนทั้งทุบประตูให้พวกนั้นปล่อยเขา แต่มันก็เปล่าประโยชน์...
ตึก…ตึก…ตึก…เอี๊ยด…
เสียงพื้นรองเท้าหนังที่เสียดสีกับพื้นทางเดินไม่เคยฟังดูน่ากลัวขนาดนี้มาก่อน
ยิ่งมันใกล้เข้ามาเท่าไหร่ยิ่งทำให้ร่างโปร่งบางขดตัวเข้าหามุมห้องมากขึ้นเท่านั้น
การที่ต้องนั่งฟังทุกเสียงความเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายก็เหมือนเหยื่อที่รอคอยความตาย
ท้องไส้ปวดมวนจนอยากจะอ้วกออกมาก็จริง
แต่อีกปฏิกิริยาหนึ่งซึ่งเขาควบคุมไม่ได้เลยกลับชัดเจนยิ่งกว่า
เพราะแทนที่จะคลื่นไส้
ในท้องน้อยเขากลับร้อนวูบวาบไปหมด มันส่งผลให้เนื้อตัวร้อนระอุเหมือนคนเป็นไข้
ภาพที่ดวงตามองเห็นช่างไม่ชัดเจนเอาเสียเลย ความปรารถนาที่ไม่รู้จักทำเอาร่างกายอ่อนระทวยไปหมด
ช่องทางด้านหลังก็เปียกแฉะจนแม้แต่ตัวเขาก็รับรู้ได้
เขาไม่เคยรู้เลยว่าโอเมก้าเวลาฮีตจะไร้แรงต่อต้านขัดขืนได้ขนาดนี้
ทั้งๆที่ใจอยากจะลุกหนีไป แต่สองขากลับไม่มีแม้แต่แรงจะยืน
ฟีโรโมนที่พวยพุ่งออกจากร่างกายเพื่อเรียกหาอัลฟ่าสักคนมาร่วมรักด้วย…มันรุนแรงขนาดนี้เลยเหรอ…มันควบคุม…ไม่ได้แม้กระทั่งสติสัมปชัญญะจริงๆ
"แฮ่ก…แฮ่ก…" เขายกมือขึ้นมาปิดหัวและใบหน้าราวกับว่าทำแบบนั้นแล้วจะหนีพ้น
เนื้อตัวที่สั่นสะท้านราวกับลูกนกยิ่งขดตัวซุกอยู่ที่มุมห้องเข้าไปใหญ่
แกร่ก…
แล้วแค่ประตูเปิดออก
ฟีโรโมนอันเข้มข้นของอัลฟ่าก็โชยเข้าจมูกมาทันที
ร่างทั้งร่างสั่นระริกด้วยความกลัวอย่างห้ามไม่ได้
ไม่มีทางห้ามได้เลย…
ดวงตาคู่โตถึงกับเบิกโพลงอยู่กับเข่าของตัวเอง
ด้วยสัญชาติญาณของโอเมก้า…เขาไม่เคยเจออัลฟ่าคนไหนมีฟีโรโมนเข้มข้นจนน่ากลัวขนาดนี้มาก่อนเลย
เขาเชื่อว่าแม้แต่อัลฟ่าด้วยกันเองก็คงเกรงกลัวคนคนนี้แน่ๆ
เพราะฉะนั้นโอเมก้าอย่างเขาจะถึงกับขยับตัวไม่ได้ก็ไม่แปลก
กลัว…เขากลัวจนตัวสั่นไปหมด…
ตึก…
เงาร่างราวกับสัตว์ป่านั่นมาหยุดยืนอยู่ข้างๆเตียง…หยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขา…อยากจะกรีดร้องออกไปเหลือเกินว่า "ไม่เอา!"
แต่เขากลับทำได้แค่สั่นกลัวและไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าอีกฝ่าย
เขาไม่มีทางจะหนีไปจากตรงนี้ได้เลยเหรอ…
น้ำตารื้นออกมา
หนึ่งเพราะความกลัว สองเพราะทั้งหัวใจยังคงเรียกหาแต่ชู ร้องหาอย่างบ้าคลั่ง
ได้แต่หวังลมๆแล้งๆว่าอีกฝ่ายจะโผล่มาช่วย…
ฟื้ด…
เนคไทถูกรูดออกจากคอของคนที่ยืนค้ำหัวเขาอยู่
ผ้าไหมเนื้อดีร่วงลงพื้นราวกับภาพสโลโมชั่น…และนี่ก็คงจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายของเขาแล้ว
ร่างกายของเขา…ความบริสุทธิ์ของเขา…คงจะไม่สามารถเก็บเอาไว้ให้ชูได้อีกแล้ว…
แค่คิด…หัวใจก็เหมือนถูกทำลายจนย่อยยับ
เหมือนถูกบดขยี้จนไม่เหลือชิ้นดี
"ฮึก…ปล่อยผมไป…ไม่ได้เหรอ…"
เขาลองอ้อนวอนเป็นครั้งสุดท้าย
ชึ่บ…
อีกฝ่ายไม่ตอบอะไรแต่กลับนั่งลงมาข้างๆ
เขารับรู้ได้จากน้ำหนักเตียงที่ยุบยวบ
มือใหญ่ๆที่เย็นเฉียบเอื้อมมาจับมือเขาไว้ทำเอาน้ำหูน้ำตาไหลกว่าเก่า
หลังจากคืนนี้ไปชีวิตเขาก็คงไม่มีค่าอีกแล้ว
ชู…นายอยู่ที่ไหนกัน…ตัวฉันที่แปดเปื้อน ตัวฉันที่เป็นของคนอื่นไปแล้ว…นายจะยังต้องการมันอีกไหม?
"ปล่อยผมไป…ฮึก…ได้โปรด…"
เสียงสะอึกสะอื้นดังออกมาจากใบหน้าที่ซบอยู่บนเข่า
เขาทั้งร้องขอ ทั้งด่าทออยู่ในใจ อัลฟ่าเลวๆพวกนี้จะยอมปล่อยเขาไปได้ยังไงในเมื่อเสียเงินซื้อความบริสุทธิ์ของเขาไปตั้งมากมายขนาดนั้น
แต่เขาก็ยังอยากจะลองอ้อนวอนอีกสักครั้ง
และคราวนี้….ก็มีเสียงทุ้มตอบกลับมา
"ฉันปล่อยนายไปไม่ได้หรอก…เพราะฉันซื้อนายมาด้วยราคาห้าเท่าของราคาที่ตั้งไว้เลยนะ”
ความหวังของเขาพังทลายลงทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบ
ฟันหน้าขบริมฝีปากจนแทบจะได้เลือด
“ฉันต้องฉีกสัญญากับบริษัทคู่ค้าที่มีมูลค่ากว่าห้าสิบล้านเพื่อแย่งตัวนายมา”
นิ้วที่เย็นเฉียบนั่นลูบไล้ลงมาบนแก้มเขาเบาๆ
คิดว่าเขาได้ฟังแบบนั้นแล้วจะดีใจหรือยังไง
เขาเบี่ยงตัวหนีทั้งที่ไม่มีที่จะให้หนีแล้ว
“อีกอย่าง ไม่มีอัลฟ่าที่ไหนปล่อยโอเมก้าที่กำลังฮีตหลุดมือไปได้หรอก"
เขายกสองมือขึ้นมาปิดหูแต่มือที่เย็นเฉียบคู่นั้นก็เอื้อมมากอบกุมมือของเขาอย่างแผ่วเบาแล้วเอามันออกไป
เขาไม่อยากได้ยินแล้วจริงๆไม่ว่าอีกฝ่ายจะอยากพูดอะไร
เขาเริ่มส่ายหน้าอย่างต่อต้าน
แต่อีกฝ่ายก็ยังพยายามประคองใบหน้าของเขาไว้อย่างใจเย็น
"แล้วที่สำคัญกว่านั้น…” เสียงทุ้มรื่นหูยังคงพูดอย่างนุ่มนวลต่อไปแม้ว่าเขาจะเริ่มร้องไห้ฟูมฟาย
“ฉันก็เคยสัญญากับโอเมก้าคนนี้เอาไว้…ว่าฉันจะกลับไปรับเขา
ฉันก็ต้องทำตามสัญญาสิ…ว่าไหม? มินาโตะ"
เอ๊ะ?....
เมื่อกี้…ผู้ชายคนนี้….อัลฟ่าคนนี้….
เรียกเขาว่า…มินาโตะ?
จู่ๆก็เหมือนโลกสีดำใบนั้นพังทลายไปในชั่วพริบตา
โลกที่มืดมนจนไร้ทางออกของเขาถูกเป่าสลายกลายเป็นฝุ่นผงในทันทีที่เขาได้ยินเสียงทุ้มนั่นเรียกชื่อของเขา…
เป็นไปไม่ได้…
คนที่ซื้อเขา...
ใบหน้ามนเงยจากหัวเข่าก่อนจะต้องเบิกตากว้าง….
เพราะถึงร่างกายจะโตขึ้นมากและเครื่องหน้าทุกชิ้นก็คมคายหล่อเหลาขึ้นมาก…แต่เขาก็ไม่มีทางลืมใบหน้าของคนที่เฝ้าคะนึงหามาเป็นสิบๆปีได้หรอก
"ชู!!!!!"
ร่างโปร่งบางกระโดดใส่จนแขนแข็งแรงรับไว้แทบไม่ทัน
"ชู!! ฮึก นาย…นายจริงๆด้วย!" น้ำตาของเขาไหลออกมายิ่งกว่าทำนบแตก แต่คราวนี้ไม่ใช่ความกลัวอีกต่อไปแล้ว
มันเป็นความดีใจ…ดีใจมากๆที่ในที่สุดคำอธิษฐานของเขาก็เป็นจริงเสียที
"มินาโตะ ขอโทษที่มาช้ามากนะ นายคงกลัวมากใช่ไหม
ต่อจากนี้ไปฉันจะปกป้องนายเอง" ชูก้มจูบลงที่กลางกระหม่อมเขาราวกับกำลังปลอบโยน
“นายไปอยู่ไหนมา ทำไมนายถึงเพิ่งมา ฮึก” ฝ่ามือของเขาทุบเบาๆลงไปบนแผงอกหนา น้ำหูน้ำตายังคงไหลลงมาไม่หยุด
“ฉันขอโทษ ฉันต้องจัดการหลายอย่างเพื่อให้ได้ตัวนายมา
แต่จากนี้ไปจะไม่มีใครทำอะไรนายได้อีกแล้ว ฉันสัญญา” คำพูดของชูจริงจังและทรงพลังอย่างน่าประหลาด
ทำเอาถ้อยคำที่เคยตัดพ้ออยู่ในใจของเขาหายไปแทบจะทันที
สองแขนบางกอดเอวหนาจนแทบจะจมหายไปในแผ่นอกที่กว้างใหญ่กว่าเดิมมาก
อ้า…กลิ่นของชู…ถึงจะเบาบางมากแต่นี่คือกลิ่นของชูในวัยเด็กไม่ผิดแน่
เขาซุกหน้าสูดดมกลิ่นที่คุ้นเคยอย่างรู้สึกสบายใจ
กลิ่นที่เขารู้จักมันจางมากเพราะถูกกลิ่นของชูที่เป็นอัลฟ่ามาบดบังจนเกือบหมด
จริงสิ…เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยนี่นะ
ว่ากลิ่นฟีโรโมนของชูเป็นยังไง
ชูถูกพาตัวไปตั้งแต่ยังไม่ทันจะเป็นอัลฟ่าเต็มตัวดีด้วยซ้ำ
ฟุดฟิดๆ
ไม่ใช่แค่เขาที่สูดดมกลิ่มของอีกฝ่ายเพื่อทำความคุ้นเคย
ชูเองก็กำลังดมกลิ่นเขาผ่านรอยจูบที่ลากผ่านลาดไหล่ไปเรื่อยๆเช่นกัน
"อึก…"
แต่พวกเขาก็ไม่มีเวลาได้พูดคุยหรือปรับความเข้าใจอะไรมากมายนัก
หลังจากความหนักอึ้งในใจค่อยๆคลี่คลาย
สัญชาติญาณที่ถูกความกลัวความกังวลกดไว้จึงกลับมาครอบงำสติและจิตใจของพวกเขาอีกครั้ง
ฟีโรโมนเข้มข้นของโอเมก้าที่ต้องการผสมพันธ์ถูกปล่อยออกไปอย่างห้ามไม่ได้
ชูถึงกับต้องยกมือขึ้นมาปิดจมูก
"แย่ละสิ กลิ่นของนายนี่มันไม่ธรรมดาเลยนะมินาโตะ…นายก็รู้ใช่ไหมว่าฉันเป็นอัลฟ่ายีนเด่น
ปกติแล้วฉันจะควบคุมตัวเองได้" เสียงทุ้มเอ่ยออกมาในขณะที่กดจูบไปตามลำคอของเขา
กลิ่นของเขากำลังทำให้ชูมัวเมา
"อือ…" ร่างกายที่แบบบางและนุ่มนิ่มแอ่นรับอ้อมกอดอันอ่อนหวาน
แค่เป็นชู อยากจะทำอะไรกับร่างกายเขาก็ยอมได้ทั้งนั้น
"แต่กับมินาโตะ…ฉันก็ไม่ได้คิดจะควบคุมตัวเองเสียด้วยสิ" ใบหน้าหล่อเหลาละออกมาจากทางยาวของรอยจูบเพื่อมองหน้าเขาในขณะที่ยังพอมีสติเป็นครั้งสุดท้าย
ท่อนแขนผอมบางคล้องลำคอแกร่งเอาไว้ก่อนจะมองสวนกลับไป
เขาอยากจะสำรวจใบหน้าและความเปลี่ยนไปของชูให้มากกว่านี้จริงๆให้ตายเถอะ
แต่ความเหนอะหน่ะจากสิ่งที่ไหลเลอะอยู่เต็มช่องทางด้านหลังก็ทำให้สายตาของเขาเริ่มพร่ามัวเต็มที
ตอนนี้สิ่งที่มองเห็นมีเพียงเส้นอันหอมหวานของฟีโรโมนเข้มข้นที่ต่างฝ่ายต่างปล่อยออกมาเท่านั้น
มันน่าจะมากกว่าฟีโรโมนตามปกติที่โอเมก้ากับอัลฟ่าปล่อยออกมาเวลาฮีต
เพราะพวกเขาต่างก็มีความปรารถนาอันแรงกล้า
ความโหยหาจากการพรากจากมาเป็นเวลาสิบปียิ่งทำให้ความปรารถนาในตัวอีกฝ่ายยิ่งรุนแรงมหาศาล
ริมฝีปากประกบเข้าหากันครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับหลงอยู่ในรสจูบอันเย้ายวน
เสื้อผ้าถูกปลดออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจรู้ได้แต่ตอนนี้ร่างบอบบางถูกจับให้นอนคว่ำโดยไม่มีอะไรติดกายอยู่สักชิ้น
การเปิดเผยร่างกายต่อหน้าคนที่ไม่ได้เจอกันมานานถึงแม้จะเป็นคนที่รักมากขนาดไหนก็ยังทำให้กังวลได้ไม่ขาดสาย…ชูจะรู้สึกดีกับร่างกายผอมแห้งของเขาไหม?
ชูจะชอบมันหรือเปล่า? ทั้งอยากรู้แล้วก็ไม่อยากรู้ในคราวเดียวกัน
ใบหน้าแดงระเรื่อจึงซุกลงกับหมอนนุ่มก่อนจะค่อยๆหันกลับมามองอย่างกล้าๆกลัวๆ
“อ๊ะ?” แล้วแผ่นหลังบางก็ต้องสะดุ้งน้อยๆเมื่อสะโพกถูกมือที่เย็นเฉียบนั่นยกขึ้นไป
ทำให้สองขาอ้ากว้างรับกับหน้าท้องของชูที่เพียงแค่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำออกเท่านั้น
เขาอาจจะไม่ต้องกังวลแล้วก็ได้เพราะใบหน้าของชูที่กำลังจ้องมองช่องทางแสนบริสุทธิ์ของเขาอยู่นั้นมันเต็มไปด้วยความต้องการที่แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกได้
ดวงตาสีม่วงทรงพลังคู่นั้นค่อยๆไล่สายตามองขึ้นมาตามเรือนร่างที่แอ่นโค้งของเขา
ไฟราคะที่สุมอยู่ข้างในทำให้เขารู้สึกอายจนไม่กล้าสบตาชูตรงๆเลยจริงๆ
“ดูเหมือนตรงนี้จะพร้อมแล้วนะ?” ปลายนิ้วเคล้นคลึงอยู่ที่ปากทางซึ่งมีน้ำหล่อลื่นไหลเยิ้มออกมา
เขาควบคุมมันไม่ได้เพราะมันเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติของโอเมก้า
เขาจึงยิ่งรู้สึกอายจนต้องกดใบหน้าที่ร้อนผ่าวลงกับหมอน
ไม่ใช่แค่ใบหน้าเท่านั้นที่ร้อน
ตอนนี้เขาร้อนไปหมดทั้งตัวแล้ว ผิวสีขาวจึงอมชมพูไปหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า
และมันก็เป็นสิ่งที่กระตุ้นเร้าจนใบหน้าหล่อเหลาต้องพ่นลมหายใจออกมา
นอกจากฟีโรโมนที่คละคลุ้งไปหมดก็ยังมีร่างกายที่เย้ายวนนี่อีก
สติที่เคยควบคุมได้ดีของฟูจิวาระ ชูจะกระเจิดกระเจิงก็ไม่แปลก
“อึ๊ก?” ปลายนิ้วค่อยๆสอดใส่เข้าไปในช่องทางชุ่มโชก
เขาไม่ใช่อัลฟ่าทั่วๆไป เขาอาจจะทำให้มินาโตะบาดเจ็บได้
เพราะฉะนั้นต่อให้อยากจะกระแทกกายเข้าไปเยี่ยงสัตว์ป่าแค่ไหน
เขาก็ทำได้แค่ต้องข่มสัญชาติญาณดิบนั่นเอาไว้เท่าที่จะทำได้
ขาเรียวที่อ้ารับต้นขาของเขาอยู่สั่นระริก…ฮู่…เขาข่มความต้องการของตัวเองเอาไว้จนรู้สึกราวกับจะเป็นไข้
มือรีบขยับเข้าออกเพื่อให้มินาโตะพร้อมโดยไว
เพราะเขาจะไม่ไหวแล้ว
สวบ!
“อ๊ะ?!!” ร่างบอบบางสะดุ้งจนตาค้างเมื่อจู่ๆก็ถูกท่อนแขนแข็งแรงรวบเอวแล้วดึงตัวขึ้นไปจนแผ่นหลังปะทะเข้ากับแผ่นอกกว้าง
ข้างล่างเองก็สอดใส่เข้ามาในรวดเดียว!
ต่อให้เป็นโอเมก้าที่พร้อมขนาดไหนแต่ถ้าเจอความยิ่งใหญ่ระดับนี้เข้าไปก็มีแต่จะต้องจุกจนร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน
ริมฝีปากสีระเรื่อเองก็ยังสั่นระริก
อยากจะเรียกชื่ออีกฝ่าย อยากจะบอกให้เบาๆ อยากจะร้องครางออกไป
ก็ยังเปล่งเสียงอะไรไม่ได้เลย
มีแค่น้ำตาที่เอ่อคลอขึ้นมาแทน
ชูจูบหลังคอเขาราวกับกำลังปลอบโยน
เขาจึงพยายามจะผ่อนคลาย
แต่มันไม่ใช่…
นี่ยังไม่ใช่ของจริงที่เขาจะต้องเจอในคืนนี้
“มันอาจจะเจ็บสักหน่อยนะมินาโตะ แต่ฉันจำเป็นต้องทำแบบนี้กับนายจริงๆ”
เสียงทุ้มที่กระซิบอยู่ที่ใบหูทำให้เขาเกิดความสงสัย
แต่ก็ไม่มีเวลาให้ถามหรือทำใจใดๆ
ในชั่ววินาที
ชูก็ฝังคมเขี้ยวทั้งหมดไว้บนหลังคอของเขา
“อึ๊ก?! อ๊า!!!”
นารุมิยะ
มินาโตะกรีดร้องออกไปสุดเสียง
ความเจ็บปวดราวกับร่างกายกำลังจะเปลี่ยนไปทำให้เขากัดฟันทนเอาไว้ไม่ได้อีก
ร่างกายดิ้นหนีทั้งที่ยังถูกกัดและเบื้องล่างก็ยังถูกสอดใส่คาเอาไว้
ท่อนแขนแข็งแรงจึงกอดเขาไว้ไม่ให้หนีจากอ้อมอกไปได้
กอดแน่น
ยิ่งเขาดิ้นก็ยิ่งกอดแน่นเข้าไป
ยิ่งเขาหนีก็ยิ่งจองจำเขาไว้ในอ้อมแขนที่แข็งแกร่งนั้น
“อดทนหน่อยนะมินาโตะ” เสียงทุ้มยังกระซิบอยู่ที่หูไม่ห่าง
มันเจ็บมากจนน้ำตาไหลเป็นสาย
นี่คือ…การผูกพันธะ?
“ฉันต้องทำให้ทุกคนรู้ว่านายเป็นของฉัน” หัวสีน้ำตาลคลอเคลียอยู่ที่แก้มราวกับกำลังปลอบโยน
แต่ชูก็ดุดันกับเขาเหลือเกินที่ทำแบบนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่มีอะไรกัน
“ฉันจะไม่ปล่อยให้เวลาต้องเสียไปอีกแล้ว
จะไม่ผลัดไปครั้งหน้าเพราะฉันไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างนี้
ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาพรากนายไปจากฉันอีก…สิบปี…มันเกินพอแล้ว” พอได้ฟังแบบนั้นเขาก็ห้ามน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว
ทั้งเจ็บ
ทั้งเข้าใจ ผสมกันมั่วไปหมด
“ฉันจะไม่ปล่อยนายไปจากมือฉันอีกแล้วมินาโตะ” ชูกอดกระชับเขาก่อนจะซบหน้าลงมาบนลาดไหล่
ดูเหมือนความเจ็บเริ่มจะเบาบางลงแล้ว ยังดีที่ตอนนี้เขากำลังฮีตอยู่
ทุกความรู้สึกจึงถูกเบี่ยงเบนไปที่ความสุขสมจากการร่วมรักได้
ชูเริ่มขยับความเป็นชายของตัวเอง
แล้วเสียงครางที่ผสมผสานไปกับเสียงร้องไห้ก็ยังคงดังก้องไปทั่วห้องจนถึงเช้า…
รอยกัดที่หลังคอของอัลฟ่านั้นจะคงอยู่ตลอดไปราวกับแผลเป็นที่ลบไม่หาย
คงอยู่ให้อัลฟ่าคนอื่นได้เห็นว่าโอเมก้าคนนี้ผูกพันธะแล้ว
และตอนนี้ฟูจิวาระ
ชูก็กำลังฝังรอยกัดมากมายไว้บนหลังคอที่ขาวผ่องของนารุมิยะ มินาโตะ
กัดซ้ำๆราวกับจะเน้นย้ำและบอกกับทุกคนที่ได้เห็นว่าอัลฟ่าเหนืออัลฟ่าคนนี้หวงแหนโอเมก้าของเขาขนาดไหน
และใครที่คิดจะมายุ่งกับโอเมก้าของฟูจิวาระ
ชูก็จะต้องตายสถานเดียวเท่านั้น
ทั้งสองคนกลายเป็นคู่พันธะกัน
และจะไม่สามารถมีอะไรกับใครได้อีก
.
.
.
.
.
.
มือบางของนารุมิยะ
มินาโตะปิดหน้ากระดาษขนาด B5
ลงด้วยใบหน้าแดงกล่ำ
นะ
นี่มันอะไรกันน่ะ?
หนังสือการ์ตูนเล่มบางๆแต่ขนาดใหญ่กว่ามังงะทั่วไปนี่มันอะไรกัน?
นอกจากพระเอกกับนางเอก?จะเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่แล้ว
ฉากR18ชวนช็อคยังจัดเต็มราวกับวาดมาจากสิ่งที่ตาเห็นอีกต่างหาก?
แถมยังท้องได้ด้วยนะ? สุดท้ายนางเอกที่เป็นผู้ชาย?ของเรื่องก็ท้องด้วยนะ?
แล้วก็เป็นเพราะตัวละครในเรื่องดันหน้าเหมือนเขากับชูราวกับแกะ
ทำเอาใบหน้ามนต้องหันมองไปรอบๆห้องอย่างหวาดระแวงเลยทีเดียว
มีใครแอบดูพวกเขาอยู่แล้วเอาไปวาดมังงะนี่หรือเปล่า?
"ชู…..นี่มันอะไรน่ะ?" เขาเงยหน้าขึ้นไปถามชูอย่างร้อนลน เมื่อกลางวัน…จู่ๆชูก็ถือถุงสีดำแปลกๆใบหนึ่งเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับยื่นมันให้เขา
แล้วพอเปิดอ่านเท่านั้นแหละ…
เกือบช็อคอ่ะ
"อืม เหมือนมันจะถูกเรียกว่าโดจินชิ?" ชูเองก็เอียงคออย่างไม่แน่ใจ
"ก็แล้วโดจินชิที่ว่าเนี่ย…ทำไมนายถึงมีมันล่ะ?!
แถมหน้าตัวการ์ตูนยังเหมือนฉันกับนายอีก??"
"นั่นสิ?"
"ห๋า? อะไรของนายเนี่ย?" เขากอดอกกระดิกเท้าอย่างคาดคั้นเจ้าคนหน้าตายว่าไปสรรหาหนังสือนี่มายังไง
"เมื่อวาน…ฉันกำลังหาคู่มือเตรียมสอบคณิตศาสตร์อยู่"
แต่เจ้านี่มันไม่ได้ใกล้เคียงกับคู่มือคณิตศาสตร์เลยนะ?
แต่ชูทำหน้าเหมือนยังพูดไม่จบ เขาเลยตั้งใจฟังต่อ
"อื้มๆ แล้วไงต่อ?"
"แต่ฉันไปช้าเพราะติดซ้อมยิงธนู"
"อื้ม"
"ร้านหนังสือที่ไปซื้อประจำก็เลยขายหมดไปแล้ว"
"ยังไงอีก?"
"ฉันเลยลองไปหาที่ร้านหนังสือฝั่งตรงข้าม แต่ไม่นึกเลยว่า…"
"ว่า?"
"มันจะเป็นร้านหนังสือการ์ตูน? ไม่สิ
ร้านที่ขายโดจินชิ?"
"แล้วนายไปทำอิท่าไหนถึงได้เล่มนี้มาเนี่ย?"
"ก็…ทั้งร้านมีแต่หนังสือแบบนี้
ฉันเลยเดินดูด้วยความสงสัย ฉันดูที่ชั้นหนังสือขายดี
แล้วก็เจอเล่มนี้อยู่ในอันดับหนึ่ง" ทำหน้าภูมิใจทำไมก่อน~~?
เขาอ้าปากค้างน้อยๆเมื่อเห็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของชู
"มินาโตะดูสิ สองคนนี้เหมือนเราเลยเนอะ ฉันอยากให้นายเห็นก็เลยซื้อมา" พาไปดูวันหลังก็ได้ไหม? ซื้อมาแล้วจะเอาไปเก็บที่ไหนเนี่ย? เกิดพ่อเขามาเจอเข้าไม่ลมจับเลยเร๊อะ? เซยะคงได้ถือเคียวไปปาดคอนายจริงๆแน่ถ้ามาเห็นเข้า!
"ขายดีอันดับหนึ่งจริงๆนะ" รู้แล้วว้อย~
มือบางยกขึ้นมากุมขมับอย่างเพลียๆ
ทุกครั้งที่ดวงตาสีมรกตเหลือบมองปกโดจินเล่มนั้นสองแก้มของเขาก็จะแดงระเรื่อเพราะนึกถึงเนื้อหาข้างใน
"ยังมีเล่ม2อีกนะ"
"ยังจะซื้ออีกเหรอ?"
"อื้ม"
"......"
เขามองใบหน้าตายด้านที่เอ่ยอย่างมั่นใจนั่นอย่างไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว
ถึงเขาเองก็จะอยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องของสองคนในเล่มนี้จะเป็นยังไงต่อก็เถอะ
ยังไงซะก็หน้าเหมือนพวกเขานี่นา…
“พวกนี้เป็นคนวาดละ มินาโตะดูตัวอย่างเล่มสองสิ น่าสนใจใช่ไหม?”
มือใหญ่เปิดทวิตเตอร์ของแอคเคาน์ HONEY so SWEET ให้เขาดู เอาจริงๆเขาก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับวงการวาดภาพและการ์ตูนนัก
แต่ดูจากยอดผู้ติดตามที่ถล่มทลายแล้ว…น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ดังมากอยู่นะเนี่ย?
“เฮ้อ…นายหาที่เก็บเองเลยชู ฉันจะลงไปทำกับข้าวแล้ว”
เขาลุกขึ้นก่อนจะเดินส่ายหน้าออกไปจากห้อง
“วันนี้มีอะไรกิน?” แล้วชูก็ลุกตามเขามาราวกับหมาตัวใหญ่ๆ
“อยากกินอะไร?”
“ไข่ม้วน”
“โอเค”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
Story
never End
แล้วก็เผื่อใครยังไม่ทราบข่าว
มูฟวี่ ทสึรุเนะ เข้ามาฉายในโรงอีกแล้วค่ะะะะะ กรี๊ดดดด
คราวนี้เป็นเครือเมเจอร์ค่ะ เห็นข่าวว่าจะฉายวันที่ 16 มีนาคมนี้นะคะ ใครสนใจก็ติดตามข่าวได้จากเพจของเมเจอร์เบยค่ะ
ฉายอีกตูก็จะไปดูอีก5555(ถ้ากดตั๋วทัน ถถถ) มีคนทำ MAD
ของมูฟวี่ไว้ ดูสิยยย มีฉากน่ารักๆเพิ่มมาตั้งเย้ออออ
(นี่ขนาดไม่ได้ใส่ฉากน้อนในอ่างอาบน้ำมาด้วยนะะะ)
แล้วก็!!!
ได้ไปฟัง จะเรียกว่าไรดี ดราม่าซีดี? เรดิโอดราม่า? เรียกไม่ถูก แต่เป็นเสียงที่เด็กๆในเรื่องคุยกันน่ะค่ะ
เกียวอนินางลงไว้ในยูตูบ แล้วตอนล่าสุดนี่คือน่ารักมว๊ากกกกก
เป็นตอนของสามทหารเสือคิริซากิม.ต้น
ที่ไปฉลองที่เซยะได้เข้าทีมยิงธนูกันที่บ้านมินาโตะ แล้วทำทาโกะยากิกินกันค่ะ
งื้ออออ แล้วคือ!
มินาโตะอ่ะเคยทำทาโกะยากิไปให้ชูกินตั้งแต่สมัยตอนเรียนกับอ.ไซออนจิแล้วจย้าาาา
อยากจะดิ้นตาย >////< ชูกินทาโกะครั้งแรกก็คือที่มินาโตะทำให้นั่นแหละ
อยากจะแหมนะคะ จำได้หมดอ่ะเนอะกินโคล่าครั้งแรกตอนไหน กินทาโกะครั้งแรกตอนไหน
แหมมมม
คนปกติเค้าจำเรื่องแบบนี้กันด้วยเหรอคะะะะถ้ามันไม่ใช่เรื่องที่สำคัญต่อใจจริงๆอ่ะ
ขนาดชานมสำคัญต่อชีวิตตูมากตูยังจำไม่ได้เลยค่ะว่ากินครั้งแรกตอนไหน5555 ทาโกะยากินี่ไม่มีอยู่ในความทรงจำเลยค่ะว่าไปกินกับใครที่ไหนเมื่อไหร่
ทั้งๆที่กินตอนโตแล้วด้วยนะ55555 แปะลิ้งค์ค่ะ
ไปฟังกันน้า
ชายชูอ่ะเป็นคนทำทาโกะยากิให้เซยะกินด้วยนะ ให้มินาโตะสอนให้
ไม่แน่ใจว่าเป็นแผนใกล้ชิดมินาโตะหรือแผนลอบฆ่าเซยะด้วยทาโกะก็ไม่รู้นะคะ5555 เอ็นดูพวกนางสองคน จับมือกันต่อหน้ามินาโตะแต่อีกมือถือมีดไว้ข้างหลัง555
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์
ทุกๆการติดตาม ทุกๆหัวใจมากๆนะคะ อูยยยช่วงนี้รู้สึกเหมือนโดนทวงเรื่องGLIDEรัวๆเบย รอเค้าก่อนนะะะ คือตอนต่อไปมันเป็นตอนที่แบบ…เจ็ดวันเจ็ดคืนอ่ะ555 ต้องใช้พลังนิดนึง ไม่ใช่แค่เจ้าลูกกระต่ายที่จะตาย
คนแต่งก็จะตายด้วยค่ะ555
แล้วเจอกันตอนหน้าน้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น