Tsurune. One-Shot.Fic [Shuu x Minato] หรือรักเรียกหา : 16 : END

 Tsurune. One-Shot.Fic [Shuu x Minato]   หรือรักเรียกหา : 16 : END

 

: Tsurune ; kazemai koukou kyudou-bu Short Fanfiction 

: Fujiwara Shuu x Narumiya Minato

: Warmhearted

: NC-17

  

คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ        

 

 

แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก.....    ไอสีขาวถูกพ่นออกจากปากครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเหนื่อยจนแทบขาดใจ แต่ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนก็หยุดอยู่ตรงนี้ไม่ได้

 

ดวงตาสีมรกตกลมโตกรอกไปมาเพื่อมองหาทางหนี เขาวิ่งเข้ามาในตรอกโสโครกนี่อย่างไม่รู้ทิศรู้ทาง ไม่มีการวางแผน ทุกอย่างเป็นเรื่องเฉพาะหน้า สองขายังคงวิ่งต่อไปเพื่อเอาชีวิตรอด

 

จะปล่อยให้ถูกจับตัวกลับไปไม่ได้เด็ดขาด

 

อึก!!”    เพราะความตื่นตระหนกราวกับหนูสกปรกกำลังวิ่งหนีแมว หน้าขาเลยไปสะดุดกับกล่องลังที่วางเกะกะอยู่เต็มสองข้างทาง

 

โครม!

 

ร่างทั้งร่างล้มกลิ้งลงบนแอ่งน้ำขัง แรงกระแทกทำให้ความเจ็บแปลบแล่นลิ่วมาจากข้อเท้าจนน้ำตาแทบไหล กลิ่นเหม็นๆของน้ำคลำทำให้มือบางต้องรีบยันตัวเองลุกขึ้น หัวสีดำรีบหันซ้ายหันขวาแต่ดูเหมือนพวกนั้นจะยังไม่รู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้

 

อ๊ะ!”    เสียงอุทานเบาๆหลุดออกจากปากเมื่อเขาพยายามจะลุกขึ้น ที่ข้อเท้าเจ็บมากจริงๆ

 

ใบหน้ามนสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพยายามจะวิ่งต่อไป แต่แค่ก้าวแรกมันก็เจ็บจนต้องทรุดลงกับพื้น

 

ไม่ได้นะ...จะมาจบเห่ตรงนี้ไม่ได้...

 

ฮึก...  ทั้งความกลัวและความอัดอั้นตันใจทำให้เผลอร้องไห้ออกมา ไม่ไหวแล้ว...เขาทนไม่ไหวแล้ว...

 

ฮึก...ชู...        ชื่อของคนที่เฝ้ารอคอยหลุดออกมาจากปาก มันทรมานจนแทบจะดิ้นรนต่อไปไม่ไหวแล้ว

 

ไปทางนั้น!”    เสียงกระโชกโฮกฮากที่ไล่ตามอยู่ข้างหลังทำให้มือบางต้องยกขึ้นมาปิดปากอย่างลนลาน ใบหน้ามนหันมองรอบกายด้วยหัวใจที่เต้นกระหน่ำ สองขาอันสั่นระริกแบกร่างหนีเข้าไปในประตูผุพังที่ดูจะเป็นตึกร้างหลังหนึ่ง เขาวิ่งต่อไม่ไหวแล้ว ข้อเท้ามันบวมเป่งเสียขนาดนี้

 

ฮึก...”   มือบางปาดน้ำตาก่อนจะกอดเข่าซุกตัวอยู่หลังลังไม้เก่าๆ ชื่อของเขาคือนารุมิยะ มินาโตะ และคนที่เขาหนีอยู่ก็คือเจ้าหนี้ที่เป็นแก๊งยากูซ่า...

 

เขาว่ากันว่าก่อนที่คนเราจะตาย ความทรงจำอันแสนสุขจะหลั่งไหลอยู่ในหัว...

 

ถ้าเช่นนั้นเขาเองก็คงใกล้จะตายแล้วเหมือนกันสินะ เพราะตอนนี้ในหัวเขามีแต่ภาพของชูที่ยังยิ้มยังหัวเราะอยู่ข้างๆกัน...ภาพมันย้อนกลับไปในวันคืนเหล่านั้น...เมื่อสิบกว่าปีก่อน...

 

เขากับชูเติบโตมาด้วยกันในเมืองเล็กๆอันห่างไกลแห่งหนึ่ง เรามีแม่คนเดียวกันและแม่ก็เลี้ยงพวกเราตามลำพังมาตั้งแต่เพิ่งลืมตาดูโลก

 

ไม่สิ...นั่นไม่ใช่แม่ของเขา แต่เป็นแม่แท้ๆของชูต่างหาก

 

แม่ของชูรู้จักกับแม่แท้ๆของเขาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ทั้งสองคนเข้าโรงพยาบาลเพื่อไปเตรียมตัวคลอดและสนิทสนมกันโดยง่ายเพราะต่างก็ไร้ญาติขาดมิตรด้วยกันทั้งคู่ พวกเธอไม่มีสามี พวกเราไม่มีพ่อ พวกเธอจึงดูแลกันและกันจนถึงวันคลอด

 

พวกเราคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่แม่ของเขากลับไม่รอด...

 

เขาจึงกลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีแม้แต่แม่คอยดูแล

 

แม่ของชูสงสารเด็กน้อยอย่างเขา เธอจึงรับเขาไปเลี้ยงเป็นลูกอีกคนของเธอ เขากับชูจึงโตมาด้วยกัน เล่นด้วยกัน ยิ้มให้กันในวันที่มีความสุข ยามทุกข์เราก็ร้องไห้ด้วยกัน อยู่เคียงข้างกันมาตลอด

 

เขามีแต่ชูและชูเองก็มีแต่เขา

 

ความผูกพันแบบเพื่อน พี่ น้อง ค่อยๆก่อตัวเป็นความรักในรูปแบบอื่นโดยไม่รู้ตัว

 

 

เราเคยสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป...

 

 

แต่แล้วสัญญาก็ถูกฉีกกระชากด้วยมือที่มองไม่เห็น...ในวันที่เราอายุครบ10ขวบ

 

ในโลกของเราไม่ได้มีเพียงเพศหญิงกับเพศชายที่นับเป็นเพศหลักเท่านั้น แต่ยังมีเพศรองที่จะปรากฏตอนอายุครบสิบปีด้วย

 

อัลฟ่า...เบต้า...โอเมก้า...

 

เพศรองทั้งสามที่สามารถบ่งบอกสถานะในสังคมของเราได้อย่างชัดเจนที่สุด

 

เพราะผู้คนนับถืออัลฟ่าที่มีความฉลาดและแข็งแกร่งเหนือเบต้าซึ่งเป็นคนหมู่มากทั่วๆไป และผู้คนมักไม่ให้ค่าโอเมก้าที่อ่อนแอและมีเงื่อนไขในการใช้ชีวิตที่มากกว่าเพศรองอื่นๆ

 

ชูเป็นอัลฟ่า...ส่วนเขาเป็นโอเมก้า...

 

เรื่องมันคงจะไม่เป็นแบบนี้ถ้าชูเป็นอัลฟ่าที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบเขา

 

เพราะแท้จริงแล้ว ชูเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลฟูจิวาระ ตระกูลอัลฟ่าที่น่าเกรงขามและทรงอิทธิพลที่สุดในญี่ปุ่น

 

แม่ไม่เคยบอกพวกเราเลย และทางตระกูลฟูจิวาระก็ไม่เคยมาดูดำดูดีอะไรพวกเราด้วย...ทางนั้นปล่อยให้พวกเราชีวิตไปตามปกติเพียงแต่แอบจับตาดูชูอยู่ตลอด

 

แม่ของชูเป็นภรรยานอกสมรสและทนแรงกดดันไม่ไหวจึงหนีออกมาทั้งๆที่ท้องชูอยู่ เพราะอย่างนั้นทางตระกูลฟูจิวาระจึงตั้งใจจะปล่อยเธอกับลูกไป...หากเด็กคนนั้นเป็นเบต้าหรือโอเมก้า

 

ทว่า...ชูกลับเป็นอัลฟ่า

 

และไม่ใช่อัลฟ่าธรรมดาแต่เป็นอัลฟ่ายีนเด่นอันหาได้ยาก เป็นอัลฟ่าที่อยู่เหนืออัลฟ่าทั่วๆไป แม้แต่ในตระกูลฟูจิวาระเองก็ไม่มีอัลฟ่ายีนเด่นแบบนี้มานานมากแล้ว

 

ชูเลยถูกทางตระกูลฟูจิวาระมารับตัวกลับไปแทบจะทันที

 

ชูถูกจับแยกกับแม่และเขา ทางตระกูลฟูจิวาระเอาตัวชูกลับไปแค่คนเดียว เพราะชูจะถูกเลี้ยงดูในฐานะลูกชายของนายหญิงฟูจิวาระ ไม่ใช่ลูกนอกสมรสของเมียน้อย

 

ก่อนไป...ชูสัญญาว่าจะกลับมาหาเขา จะตามหาเขากับแม่ให้เจอไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน...ให้เขารอ...

 

แต่จนแล้วจนรอด...สิบปีที่ผ่านมา...ชูก็ไม่เคยโผล่มาหาพวกเราเลยสักครั้ง...

 

เขาได้แต่เชื่อใจและคิดในแง่ดี ว่าชูเองก็คงจะมีเหตุผลที่ทำให้ต้องตัดการติดต่อกับพวกเราไป...ชูไม่ได้ลืมเขากับแม่ไปแล้วหรอก ไม่มีวัน...

 

เขาอยู่ได้เพราะเชื่อแบบนั้น...

 

และเขาคงจะรออย่างสงบต่อไป...หากโรคร้ายไม่มากล้ำกลายครอบครัวเราเสียก่อน

 

แม่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายจากการทำงานหนักและแทบไม่มีเวลาพักผ่อนหรือดูแลตัวเอง

 

และเขาก็ติดต่อชูไม่ได้เลย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชูถูกพาตัวไปอยู่ที่ไหน ดูเหมือนชูจะไม่ได้อยู่ในบ้านใหญ่ตระกูลฟูจิวาระ ชูอาจจะถูกส่งตัวไปอยู่ต่างประเทศ...

 

เขาไม่มีหนทางแล้วจริงๆ พวกเราไม่ได้มีเงินมากมายพอจะจ่ายค่าผ่าตัดของแม่ได้...และเขาก็ยังเด็กเกินไปที่จะไปขอกู้เงินจากธนาคาร ท้ายที่สุดจึงต้องไปยืมเงินนอกระบบของพวกยากูซ่า

 

ทว่า...แม่ก็ป่วยหนักเกินไปจนรักษาไม่ได้อีก

 

แม่เสียชีวิตไปในวันที่ดอกซากุระผลิบานพอดี...ทิ้งให้เขาเฝ้ารอลูกชายของแม่ตามลำพังในโลกที่โหดร้ายใบนี้

 

เพราะถึงแม่จะตายไป แต่หนี้ที่ต้องชดใช้ก็ยังอยู่

 

เด็กม.ปลายอย่างเขาจะไปมีปัญญาหาเงินขนาดนั้นในเร็ววันได้ยังไง ต่อให้ทำงานพิเศษจนแทบไม่ได้หลับได้นอน เงินที่หามาได้ก็ยังห่างไกลจากหนี้สินที่มีมากนัก

 

แถมพวกนั้นยังไม่ทำตามที่สัญญาเขียนไว้ ว่าจะให้เขาค่อยๆผ่อนผันใช้หนี้ได้ แต่กลับมาเร่งรัดให้เขาจ่ายทั้งหมดภายในสิ้นเดือนนี้

 

เพราะพวกนั้นรู้ว่าเขาเป็นโอเมก้า...

 

และโอเมก้าที่กำลังจะฮีตเป็นครั้งแรกก็ขายได้ราคาดีที่สุด

 

ค่าตัวของเขาอาจจะพุ่งไปถึงล้านเยนเพียงแค่นอนด้วยกันคืนเดียว มันแทบจะใช้หนี้ทั้งหมดได้และอาจจะเหลือเป็นกำไรอีกต่างหาก

 

พวกนั้นจึงตั้งใจจะจับตัวเขาไปขายเพื่อใช้หนี้

 

เขาถึงต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนอยู่แบบนี้

 

ท่อนแขนผอมบางกอดเข่าด้วยเนื้อตัวสั่นระริก ในใจร่ำร้องหาคนที่เป็นที่พึ่งเดียว...แต่ทั้งหมดมันคือความว่างเปล่า...

 

หรือชูจะทิ้งเขาไปแล้วจริงๆ...

 

น้ำตาไหลลงมาเมื่อมองเห็นเงายืนจังก้าอยู่หน้าทางออกเดียวที่เขามี...

 

ฮ่าๆ เจอ-ตัว-จน-ได้นะ เจ้าโอเมก้า

 

 

 

 

 

 

 

 

เขาลืมตาขึ้นมาในห้องที่แสนหรูหราห้องหนึ่ง เนื้อตัวถูกชำระล้างจนสะอาดสะอ้าน ข้อเท้าที่บวมเป่งก็ถูกพันเอาไว้อย่างดี แต่ยิ่งได้รับการดูแลดีเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรู้ตัวแล้วว่าเขากำลังจะถูกขาย กำลังจะถูกอัลฟ่าแปลกหน้าที่ไหนก็ไม่รู้ข่มแหง  เขาทั้งตะโกนทั้งทุบประตูให้พวกนั้นปล่อยเขา แต่มันก็เปล่าประโยชน์...

 

ตึกตึกตึกเอี๊ยด

 

เสียงพื้นรองเท้าหนังที่เสียดสีกับพื้นทางเดินไม่เคยฟังดูน่ากลัวขนาดนี้มาก่อน ยิ่งมันใกล้เข้ามาเท่าไหร่ยิ่งทำให้ร่างโปร่งบางขดตัวเข้าหามุมห้องมากขึ้นเท่านั้น

 

การที่ต้องนั่งฟังทุกเสียงความเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายก็เหมือนเหยื่อที่รอคอยความตาย 

 

ท้องไส้ปวดมวนจนอยากจะอ้วกออกมาก็จริง แต่อีกปฏิกิริยาหนึ่งซึ่งเขาควบคุมไม่ได้เลยกลับชัดเจนยิ่งกว่า 

 

เพราะแทนที่จะคลื่นไส้ ในท้องน้อยเขากลับร้อนวูบวาบไปหมด มันส่งผลให้เนื้อตัวร้อนระอุเหมือนคนเป็นไข้ ภาพที่ดวงตามองเห็นช่างไม่ชัดเจนเอาเสียเลย ความปรารถนาที่ไม่รู้จักทำเอาร่างกายอ่อนระทวยไปหมด ช่องทางด้านหลังก็เปียกแฉะจนแม้แต่ตัวเขาก็รับรู้ได้

 

เขาไม่เคยรู้เลยว่าโอเมก้าเวลาฮีตจะไร้แรงต่อต้านขัดขืนได้ขนาดนี้ ทั้งๆที่ใจอยากจะลุกหนีไป แต่สองขากลับไม่มีแม้แต่แรงจะยืน

 

ฟีโรโมนที่พวยพุ่งออกจากร่างกายเพื่อเรียกหาอัลฟ่าสักคนมาร่วมรักด้วยมันรุนแรงขนาดนี้เลยเหรอมันควบคุมไม่ได้แม้กระทั่งสติสัมปชัญญะจริงๆ

 

"แฮ่กแฮ่ก…"   เขายกมือขึ้นมาปิดหัวและใบหน้าราวกับว่าทำแบบนั้นแล้วจะหนีพ้น เนื้อตัวที่สั่นสะท้านราวกับลูกนกยิ่งขดตัวซุกอยู่ที่มุมห้องเข้าไปใหญ่

 

แกร่ก

 

แล้วแค่ประตูเปิดออก ฟีโรโมนอันเข้มข้นของอัลฟ่าก็โชยเข้าจมูกมาทันที ร่างทั้งร่างสั่นระริกด้วยความกลัวอย่างห้ามไม่ได้

 

ไม่มีทางห้ามได้เลย

 

ดวงตาคู่โตถึงกับเบิกโพลงอยู่กับเข่าของตัวเอง ด้วยสัญชาติญาณของโอเมก้าเขาไม่เคยเจออัลฟ่าคนไหนมีฟีโรโมนเข้มข้นจนน่ากลัวขนาดนี้มาก่อนเลย เขาเชื่อว่าแม้แต่อัลฟ่าด้วยกันเองก็คงเกรงกลัวคนคนนี้แน่ๆ เพราะฉะนั้นโอเมก้าอย่างเขาจะถึงกับขยับตัวไม่ได้ก็ไม่แปลก

 

กลัวเขากลัวจนตัวสั่นไปหมด

 

ตึก

 

เงาร่างราวกับสัตว์ป่านั่นมาหยุดยืนอยู่ข้างๆเตียงหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขาอยากจะกรีดร้องออกไปเหลือเกินว่า "ไม่เอา!" แต่เขากลับทำได้แค่สั่นกลัวและไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าอีกฝ่าย

 

เขาไม่มีทางจะหนีไปจากตรงนี้ได้เลยเหรอ

 

น้ำตารื้นออกมา หนึ่งเพราะความกลัว สองเพราะทั้งหัวใจยังคงเรียกหาแต่ชู ร้องหาอย่างบ้าคลั่ง ได้แต่หวังลมๆแล้งๆว่าอีกฝ่ายจะโผล่มาช่วย

 

ฟื้ด

 

เนคไทถูกรูดออกจากคอของคนที่ยืนค้ำหัวเขาอยู่ ผ้าไหมเนื้อดีร่วงลงพื้นราวกับภาพสโลโมชั่นและนี่ก็คงจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายของเขาแล้ว

 

ร่างกายของเขาความบริสุทธิ์ของเขาคงจะไม่สามารถเก็บเอาไว้ให้ชูได้อีกแล้ว

 

แค่คิดหัวใจก็เหมือนถูกทำลายจนย่อยยับ เหมือนถูกบดขยี้จนไม่เหลือชิ้นดี

 

"ฮึกปล่อยผมไปไม่ได้เหรอ…"    เขาลองอ้อนวอนเป็นครั้งสุดท้าย

 

ชึ่บ

 

อีกฝ่ายไม่ตอบอะไรแต่กลับนั่งลงมาข้างๆ เขารับรู้ได้จากน้ำหนักเตียงที่ยุบยวบ

 

มือใหญ่ๆที่เย็นเฉียบเอื้อมมาจับมือเขาไว้ทำเอาน้ำหูน้ำตาไหลกว่าเก่า หลังจากคืนนี้ไปชีวิตเขาก็คงไม่มีค่าอีกแล้ว 

 

ชูนายอยู่ที่ไหนกันตัวฉันที่แปดเปื้อน ตัวฉันที่เป็นของคนอื่นไปแล้วนายจะยังต้องการมันอีกไหม?

 

"ปล่อยผมไปฮึกได้โปรด…"    เสียงสะอึกสะอื้นดังออกมาจากใบหน้าที่ซบอยู่บนเข่า เขาทั้งร้องขอ ทั้งด่าทออยู่ในใจ อัลฟ่าเลวๆพวกนี้จะยอมปล่อยเขาไปได้ยังไงในเมื่อเสียเงินซื้อความบริสุทธิ์ของเขาไปตั้งมากมายขนาดนั้น แต่เขาก็ยังอยากจะลองอ้อนวอนอีกสักครั้ง 

 

และคราวนี้….ก็มีเสียงทุ้มตอบกลับมา

 

"ฉันปล่อยนายไปไม่ได้หรอกเพราะฉันซื้อนายมาด้วยราคาห้าเท่าของราคาที่ตั้งไว้เลยนะ”    ความหวังของเขาพังทลายลงทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบ ฟันหน้าขบริมฝีปากจนแทบจะได้เลือด

 

ฉันต้องฉีกสัญญากับบริษัทคู่ค้าที่มีมูลค่ากว่าห้าสิบล้านเพื่อแย่งตัวนายมา”    นิ้วที่เย็นเฉียบนั่นลูบไล้ลงมาบนแก้มเขาเบาๆ คิดว่าเขาได้ฟังแบบนั้นแล้วจะดีใจหรือยังไง เขาเบี่ยงตัวหนีทั้งที่ไม่มีที่จะให้หนีแล้ว

 

อีกอย่าง ไม่มีอัลฟ่าที่ไหนปล่อยโอเมก้าที่กำลังฮีตหลุดมือไปได้หรอก"    เขายกสองมือขึ้นมาปิดหูแต่มือที่เย็นเฉียบคู่นั้นก็เอื้อมมากอบกุมมือของเขาอย่างแผ่วเบาแล้วเอามันออกไป เขาไม่อยากได้ยินแล้วจริงๆไม่ว่าอีกฝ่ายจะอยากพูดอะไร

 

เขาเริ่มส่ายหน้าอย่างต่อต้าน แต่อีกฝ่ายก็ยังพยายามประคองใบหน้าของเขาไว้อย่างใจเย็น

 

"แล้วที่สำคัญกว่านั้น…”    เสียงทุ้มรื่นหูยังคงพูดอย่างนุ่มนวลต่อไปแม้ว่าเขาจะเริ่มร้องไห้ฟูมฟาย

 

ฉันก็เคยสัญญากับโอเมก้าคนนี้เอาไว้ว่าฉันจะกลับไปรับเขา ฉันก็ต้องทำตามสัญญาสิว่าไหม? มินาโตะ"

 

เอ๊ะ?....

 

เมื่อกี้ผู้ชายคนนี้….อัลฟ่าคนนี้….

 

เรียกเขาว่ามินาโตะ?

 

จู่ๆก็เหมือนโลกสีดำใบนั้นพังทลายไปในชั่วพริบตา โลกที่มืดมนจนไร้ทางออกของเขาถูกเป่าสลายกลายเป็นฝุ่นผงในทันทีที่เขาได้ยินเสียงทุ้มนั่นเรียกชื่อของเขา

 

เป็นไปไม่ได้

 

คนที่ซื้อเขา...

 

ใบหน้ามนเงยจากหัวเข่าก่อนจะต้องเบิกตากว้าง….

 

เพราะถึงร่างกายจะโตขึ้นมากและเครื่องหน้าทุกชิ้นก็คมคายหล่อเหลาขึ้นมากแต่เขาก็ไม่มีทางลืมใบหน้าของคนที่เฝ้าคะนึงหามาเป็นสิบๆปีได้หรอก

 

"ชู!!!!!"

 

ร่างโปร่งบางกระโดดใส่จนแขนแข็งแรงรับไว้แทบไม่ทัน

 

"ชู!! ฮึก นายนายจริงๆด้วย!"   น้ำตาของเขาไหลออกมายิ่งกว่าทำนบแตก แต่คราวนี้ไม่ใช่ความกลัวอีกต่อไปแล้ว

 

มันเป็นความดีใจดีใจมากๆที่ในที่สุดคำอธิษฐานของเขาก็เป็นจริงเสียที

 

"มินาโตะ ขอโทษที่มาช้ามากนะ นายคงกลัวมากใช่ไหม ต่อจากนี้ไปฉันจะปกป้องนายเอง"   ชูก้มจูบลงที่กลางกระหม่อมเขาราวกับกำลังปลอบโยน

 

นายไปอยู่ไหนมา ทำไมนายถึงเพิ่งมา ฮึก”    ฝ่ามือของเขาทุบเบาๆลงไปบนแผงอกหนา น้ำหูน้ำตายังคงไหลลงมาไม่หยุด 

 

ฉันขอโทษ ฉันต้องจัดการหลายอย่างเพื่อให้ได้ตัวนายมา แต่จากนี้ไปจะไม่มีใครทำอะไรนายได้อีกแล้ว ฉันสัญญา”   คำพูดของชูจริงจังและทรงพลังอย่างน่าประหลาด

 

ทำเอาถ้อยคำที่เคยตัดพ้ออยู่ในใจของเขาหายไปแทบจะทันที สองแขนบางกอดเอวหนาจนแทบจะจมหายไปในแผ่นอกที่กว้างใหญ่กว่าเดิมมาก 

 

อ้ากลิ่นของชูถึงจะเบาบางมากแต่นี่คือกลิ่นของชูในวัยเด็กไม่ผิดแน่

 

เขาซุกหน้าสูดดมกลิ่นที่คุ้นเคยอย่างรู้สึกสบายใจ กลิ่นที่เขารู้จักมันจางมากเพราะถูกกลิ่นของชูที่เป็นอัลฟ่ามาบดบังจนเกือบหมด

 

จริงสิเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยนี่นะ ว่ากลิ่นฟีโรโมนของชูเป็นยังไง ชูถูกพาตัวไปตั้งแต่ยังไม่ทันจะเป็นอัลฟ่าเต็มตัวดีด้วยซ้ำ

 

ฟุดฟิดๆ

 

ไม่ใช่แค่เขาที่สูดดมกลิ่มของอีกฝ่ายเพื่อทำความคุ้นเคย ชูเองก็กำลังดมกลิ่นเขาผ่านรอยจูบที่ลากผ่านลาดไหล่ไปเรื่อยๆเช่นกัน

 

"อึก…"

 

แต่พวกเขาก็ไม่มีเวลาได้พูดคุยหรือปรับความเข้าใจอะไรมากมายนัก หลังจากความหนักอึ้งในใจค่อยๆคลี่คลาย สัญชาติญาณที่ถูกความกลัวความกังวลกดไว้จึงกลับมาครอบงำสติและจิตใจของพวกเขาอีกครั้ง

 

ฟีโรโมนเข้มข้นของโอเมก้าที่ต้องการผสมพันธ์ถูกปล่อยออกไปอย่างห้ามไม่ได้ ชูถึงกับต้องยกมือขึ้นมาปิดจมูก

 

"แย่ละสิ กลิ่นของนายนี่มันไม่ธรรมดาเลยนะมินาโตะนายก็รู้ใช่ไหมว่าฉันเป็นอัลฟ่ายีนเด่น ปกติแล้วฉันจะควบคุมตัวเองได้"   เสียงทุ้มเอ่ยออกมาในขณะที่กดจูบไปตามลำคอของเขา กลิ่นของเขากำลังทำให้ชูมัวเมา

 

"อือ…"  ร่างกายที่แบบบางและนุ่มนิ่มแอ่นรับอ้อมกอดอันอ่อนหวาน แค่เป็นชู อยากจะทำอะไรกับร่างกายเขาก็ยอมได้ทั้งนั้น

 

"แต่กับมินาโตะฉันก็ไม่ได้คิดจะควบคุมตัวเองเสียด้วยสิ"   ใบหน้าหล่อเหลาละออกมาจากทางยาวของรอยจูบเพื่อมองหน้าเขาในขณะที่ยังพอมีสติเป็นครั้งสุดท้าย

 

ท่อนแขนผอมบางคล้องลำคอแกร่งเอาไว้ก่อนจะมองสวนกลับไป เขาอยากจะสำรวจใบหน้าและความเปลี่ยนไปของชูให้มากกว่านี้จริงๆให้ตายเถอะ แต่ความเหนอะหน่ะจากสิ่งที่ไหลเลอะอยู่เต็มช่องทางด้านหลังก็ทำให้สายตาของเขาเริ่มพร่ามัวเต็มที

 

ตอนนี้สิ่งที่มองเห็นมีเพียงเส้นอันหอมหวานของฟีโรโมนเข้มข้นที่ต่างฝ่ายต่างปล่อยออกมาเท่านั้น

 

มันน่าจะมากกว่าฟีโรโมนตามปกติที่โอเมก้ากับอัลฟ่าปล่อยออกมาเวลาฮีต เพราะพวกเขาต่างก็มีความปรารถนาอันแรงกล้า

 

ความโหยหาจากการพรากจากมาเป็นเวลาสิบปียิ่งทำให้ความปรารถนาในตัวอีกฝ่ายยิ่งรุนแรงมหาศาล

 

ริมฝีปากประกบเข้าหากันครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับหลงอยู่ในรสจูบอันเย้ายวน 

 

เสื้อผ้าถูกปลดออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจรู้ได้แต่ตอนนี้ร่างบอบบางถูกจับให้นอนคว่ำโดยไม่มีอะไรติดกายอยู่สักชิ้น 

 

การเปิดเผยร่างกายต่อหน้าคนที่ไม่ได้เจอกันมานานถึงแม้จะเป็นคนที่รักมากขนาดไหนก็ยังทำให้กังวลได้ไม่ขาดสายชูจะรู้สึกดีกับร่างกายผอมแห้งของเขาไหม? ชูจะชอบมันหรือเปล่า? ทั้งอยากรู้แล้วก็ไม่อยากรู้ในคราวเดียวกัน

 

ใบหน้าแดงระเรื่อจึงซุกลงกับหมอนนุ่มก่อนจะค่อยๆหันกลับมามองอย่างกล้าๆกลัวๆ

 

อ๊ะ?”  แล้วแผ่นหลังบางก็ต้องสะดุ้งน้อยๆเมื่อสะโพกถูกมือที่เย็นเฉียบนั่นยกขึ้นไป ทำให้สองขาอ้ากว้างรับกับหน้าท้องของชูที่เพียงแค่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำออกเท่านั้น

 

เขาอาจจะไม่ต้องกังวลแล้วก็ได้เพราะใบหน้าของชูที่กำลังจ้องมองช่องทางแสนบริสุทธิ์ของเขาอยู่นั้นมันเต็มไปด้วยความต้องการที่แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกได้

 

ดวงตาสีม่วงทรงพลังคู่นั้นค่อยๆไล่สายตามองขึ้นมาตามเรือนร่างที่แอ่นโค้งของเขา ไฟราคะที่สุมอยู่ข้างในทำให้เขารู้สึกอายจนไม่กล้าสบตาชูตรงๆเลยจริงๆ

 

ดูเหมือนตรงนี้จะพร้อมแล้วนะ?”   ปลายนิ้วเคล้นคลึงอยู่ที่ปากทางซึ่งมีน้ำหล่อลื่นไหลเยิ้มออกมา เขาควบคุมมันไม่ได้เพราะมันเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติของโอเมก้า เขาจึงยิ่งรู้สึกอายจนต้องกดใบหน้าที่ร้อนผ่าวลงกับหมอน

 

ไม่ใช่แค่ใบหน้าเท่านั้นที่ร้อน ตอนนี้เขาร้อนไปหมดทั้งตัวแล้ว ผิวสีขาวจึงอมชมพูไปหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า

 

และมันก็เป็นสิ่งที่กระตุ้นเร้าจนใบหน้าหล่อเหลาต้องพ่นลมหายใจออกมา นอกจากฟีโรโมนที่คละคลุ้งไปหมดก็ยังมีร่างกายที่เย้ายวนนี่อีก สติที่เคยควบคุมได้ดีของฟูจิวาระ ชูจะกระเจิดกระเจิงก็ไม่แปลก

 

อึ๊ก?”  ปลายนิ้วค่อยๆสอดใส่เข้าไปในช่องทางชุ่มโชก เขาไม่ใช่อัลฟ่าทั่วๆไป เขาอาจจะทำให้มินาโตะบาดเจ็บได้ เพราะฉะนั้นต่อให้อยากจะกระแทกกายเข้าไปเยี่ยงสัตว์ป่าแค่ไหน เขาก็ทำได้แค่ต้องข่มสัญชาติญาณดิบนั่นเอาไว้เท่าที่จะทำได้

 

ขาเรียวที่อ้ารับต้นขาของเขาอยู่สั่นระริกฮู่เขาข่มความต้องการของตัวเองเอาไว้จนรู้สึกราวกับจะเป็นไข้ มือรีบขยับเข้าออกเพื่อให้มินาโตะพร้อมโดยไว 

 

เพราะเขาจะไม่ไหวแล้ว

 

สวบ!

 

อ๊ะ?!!”   ร่างบอบบางสะดุ้งจนตาค้างเมื่อจู่ๆก็ถูกท่อนแขนแข็งแรงรวบเอวแล้วดึงตัวขึ้นไปจนแผ่นหลังปะทะเข้ากับแผ่นอกกว้าง

 

ข้างล่างเองก็สอดใส่เข้ามาในรวดเดียว!

 

ต่อให้เป็นโอเมก้าที่พร้อมขนาดไหนแต่ถ้าเจอความยิ่งใหญ่ระดับนี้เข้าไปก็มีแต่จะต้องจุกจนร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน

 

ริมฝีปากสีระเรื่อเองก็ยังสั่นระริก อยากจะเรียกชื่ออีกฝ่าย อยากจะบอกให้เบาๆ อยากจะร้องครางออกไป ก็ยังเปล่งเสียงอะไรไม่ได้เลย

 

มีแค่น้ำตาที่เอ่อคลอขึ้นมาแทน

 

ชูจูบหลังคอเขาราวกับกำลังปลอบโยน เขาจึงพยายามจะผ่อนคลาย

 

 

แต่มันไม่ใช่

 

 

นี่ยังไม่ใช่ของจริงที่เขาจะต้องเจอในคืนนี้

 

มันอาจจะเจ็บสักหน่อยนะมินาโตะ แต่ฉันจำเป็นต้องทำแบบนี้กับนายจริงๆ”   เสียงทุ้มที่กระซิบอยู่ที่ใบหูทำให้เขาเกิดความสงสัย

 

แต่ก็ไม่มีเวลาให้ถามหรือทำใจใดๆ

 

ในชั่ววินาที ชูก็ฝังคมเขี้ยวทั้งหมดไว้บนหลังคอของเขา

 

อึ๊ก?! อ๊า!!!”    

 

นารุมิยะ มินาโตะกรีดร้องออกไปสุดเสียง ความเจ็บปวดราวกับร่างกายกำลังจะเปลี่ยนไปทำให้เขากัดฟันทนเอาไว้ไม่ได้อีก

 

ร่างกายดิ้นหนีทั้งที่ยังถูกกัดและเบื้องล่างก็ยังถูกสอดใส่คาเอาไว้ ท่อนแขนแข็งแรงจึงกอดเขาไว้ไม่ให้หนีจากอ้อมอกไปได้ 

 

กอดแน่น

 

ยิ่งเขาดิ้นก็ยิ่งกอดแน่นเข้าไป

 

ยิ่งเขาหนีก็ยิ่งจองจำเขาไว้ในอ้อมแขนที่แข็งแกร่งนั้น

 

อดทนหน่อยนะมินาโตะ”   เสียงทุ้มยังกระซิบอยู่ที่หูไม่ห่าง มันเจ็บมากจนน้ำตาไหลเป็นสาย

 

 

นี่คือการผูกพันธะ?

 

 

ฉันต้องทำให้ทุกคนรู้ว่านายเป็นของฉัน”   หัวสีน้ำตาลคลอเคลียอยู่ที่แก้มราวกับกำลังปลอบโยน แต่ชูก็ดุดันกับเขาเหลือเกินที่ทำแบบนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่มีอะไรกัน

 

ฉันจะไม่ปล่อยให้เวลาต้องเสียไปอีกแล้ว จะไม่ผลัดไปครั้งหน้าเพราะฉันไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างนี้ ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาพรากนายไปจากฉันอีกสิบปีมันเกินพอแล้ว”   พอได้ฟังแบบนั้นเขาก็ห้ามน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว

 

ทั้งเจ็บ ทั้งเข้าใจ ผสมกันมั่วไปหมด

 

ฉันจะไม่ปล่อยนายไปจากมือฉันอีกแล้วมินาโตะ”   ชูกอดกระชับเขาก่อนจะซบหน้าลงมาบนลาดไหล่ ดูเหมือนความเจ็บเริ่มจะเบาบางลงแล้ว ยังดีที่ตอนนี้เขากำลังฮีตอยู่ ทุกความรู้สึกจึงถูกเบี่ยงเบนไปที่ความสุขสมจากการร่วมรักได้

 

ชูเริ่มขยับความเป็นชายของตัวเอง

 

 

แล้วเสียงครางที่ผสมผสานไปกับเสียงร้องไห้ก็ยังคงดังก้องไปทั่วห้องจนถึงเช้า

 

 

รอยกัดที่หลังคอของอัลฟ่านั้นจะคงอยู่ตลอดไปราวกับแผลเป็นที่ลบไม่หาย

 

คงอยู่ให้อัลฟ่าคนอื่นได้เห็นว่าโอเมก้าคนนี้ผูกพันธะแล้ว

 

และตอนนี้ฟูจิวาระ ชูก็กำลังฝังรอยกัดมากมายไว้บนหลังคอที่ขาวผ่องของนารุมิยะ มินาโตะ

 

กัดซ้ำๆราวกับจะเน้นย้ำและบอกกับทุกคนที่ได้เห็นว่าอัลฟ่าเหนืออัลฟ่าคนนี้หวงแหนโอเมก้าของเขาขนาดไหน

 

และใครที่คิดจะมายุ่งกับโอเมก้าของฟูจิวาระ ชูก็จะต้องตายสถานเดียวเท่านั้น

 

   

ทั้งสองคนกลายเป็นคู่พันธะกัน และจะไม่สามารถมีอะไรกับใครได้อีก

 

 

 

.

.

.

.

.

.

 

 

มือบางของนารุมิยะ มินาโตะปิดหน้ากระดาษขนาด B5 ลงด้วยใบหน้าแดงกล่ำ 

 

นะ นี่มันอะไรกันน่ะ? หนังสือการ์ตูนเล่มบางๆแต่ขนาดใหญ่กว่ามังงะทั่วไปนี่มันอะไรกัน

 

นอกจากพระเอกกับนางเอก?จะเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่แล้ว ฉากR18ชวนช็อคยังจัดเต็มราวกับวาดมาจากสิ่งที่ตาเห็นอีกต่างหาก?

 

แถมยังท้องได้ด้วยนะ? สุดท้ายนางเอกที่เป็นผู้ชาย?ของเรื่องก็ท้องด้วยนะ

 

แล้วก็เป็นเพราะตัวละครในเรื่องดันหน้าเหมือนเขากับชูราวกับแกะ ทำเอาใบหน้ามนต้องหันมองไปรอบๆห้องอย่างหวาดระแวงเลยทีเดียว มีใครแอบดูพวกเขาอยู่แล้วเอาไปวาดมังงะนี่หรือเปล่า?

 

"ชู…..นี่มันอะไรน่ะ?"   เขาเงยหน้าขึ้นไปถามชูอย่างร้อนลน เมื่อกลางวันจู่ๆชูก็ถือถุงสีดำแปลกๆใบหนึ่งเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับยื่นมันให้เขา แล้วพอเปิดอ่านเท่านั้นแหละ

 

เกือบช็อคอ่ะ

 

"อืม เหมือนมันจะถูกเรียกว่าโดจินชิ?"   ชูเองก็เอียงคออย่างไม่แน่ใจ

 

"ก็แล้วโดจินชิที่ว่าเนี่ยทำไมนายถึงมีมันล่ะ?! แถมหน้าตัวการ์ตูนยังเหมือนฉันกับนายอีก??"

 

"นั่นสิ?"

 

"ห๋า? อะไรของนายเนี่ย?"   เขากอดอกกระดิกเท้าอย่างคาดคั้นเจ้าคนหน้าตายว่าไปสรรหาหนังสือนี่มายังไง

 

"เมื่อวานฉันกำลังหาคู่มือเตรียมสอบคณิตศาสตร์อยู่"   แต่เจ้านี่มันไม่ได้ใกล้เคียงกับคู่มือคณิตศาสตร์เลยนะ? แต่ชูทำหน้าเหมือนยังพูดไม่จบ เขาเลยตั้งใจฟังต่อ

 

"อื้มๆ แล้วไงต่อ?"

 

"แต่ฉันไปช้าเพราะติดซ้อมยิงธนู"

 

"อื้ม"

 

"ร้านหนังสือที่ไปซื้อประจำก็เลยขายหมดไปแล้ว"

 

"ยังไงอีก?"

 

"ฉันเลยลองไปหาที่ร้านหนังสือฝั่งตรงข้าม แต่ไม่นึกเลยว่า…"

 

"ว่า?"

 

"มันจะเป็นร้านหนังสือการ์ตูน? ไม่สิ ร้านที่ขายโดจินชิ?"

 

"แล้วนายไปทำอิท่าไหนถึงได้เล่มนี้มาเนี่ย?"

 

"ก็ทั้งร้านมีแต่หนังสือแบบนี้ ฉันเลยเดินดูด้วยความสงสัย ฉันดูที่ชั้นหนังสือขายดี แล้วก็เจอเล่มนี้อยู่ในอันดับหนึ่ง"   ทำหน้าภูมิใจทำไมก่อน~~? เขาอ้าปากค้างน้อยๆเมื่อเห็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของชู

 

"มินาโตะดูสิ สองคนนี้เหมือนเราเลยเนอะ ฉันอยากให้นายเห็นก็เลยซื้อมา"   พาไปดูวันหลังก็ได้ไหม? ซื้อมาแล้วจะเอาไปเก็บที่ไหนเนี่ย? เกิดพ่อเขามาเจอเข้าไม่ลมจับเลยเร๊อะ?  เซยะคงได้ถือเคียวไปปาดคอนายจริงๆแน่ถ้ามาเห็นเข้า!


"ขายดีอันดับหนึ่งจริงๆนะ"   รู้แล้วว้อย~ มือบางยกขึ้นมากุมขมับอย่างเพลียๆ ทุกครั้งที่ดวงตาสีมรกตเหลือบมองปกโดจินเล่มนั้นสองแก้มของเขาก็จะแดงระเรื่อเพราะนึกถึงเนื้อหาข้างใน

 

"ยังมีเล่ม2อีกนะ"

 

"ยังจะซื้ออีกเหรอ?"

 

"อื้ม"

 

"......"    เขามองใบหน้าตายด้านที่เอ่ยอย่างมั่นใจนั่นอย่างไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว ถึงเขาเองก็จะอยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องของสองคนในเล่มนี้จะเป็นยังไงต่อก็เถอะ

 

ยังไงซะก็หน้าเหมือนพวกเขานี่นา

 

พวกนี้เป็นคนวาดละ มินาโตะดูตัวอย่างเล่มสองสิ น่าสนใจใช่ไหม?”    มือใหญ่เปิดทวิตเตอร์ของแอคเคาน์ HONEY so SWEET ให้เขาดู เอาจริงๆเขาก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับวงการวาดภาพและการ์ตูนนัก แต่ดูจากยอดผู้ติดตามที่ถล่มทลายแล้วน่าจะเป็นกลุ่มคนที่ดังมากอยู่นะเนี่ย?

 

เฮ้อนายหาที่เก็บเองเลยชู ฉันจะลงไปทำกับข้าวแล้ว”   เขาลุกขึ้นก่อนจะเดินส่ายหน้าออกไปจากห้อง

 

วันนี้มีอะไรกิน?”   แล้วชูก็ลุกตามเขามาราวกับหมาตัวใหญ่ๆ

 

อยากกินอะไร?”

 

ไข่ม้วน

 

โอเค



 

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

 

Story never End

 

 เปลี่ยนอารมณ์กันบ้าง  ไทอินฟิคกันโต้งๆงี้เลย5555555+ ใครที่รู้สึกคุ้นๆก็ไม่ต้องแปลกใจ ใช่ค่ะ เอามาจากฟิคเรื่อง Honey so sweetทั้งดุ้นเลยค่ะ กร๊ากกกก เอาน่า อย่างน้อยก็เพิ่มฉากNCให้ละน่า เผื่อใครไม่ได้ไปอ่านเรื่องนู้นเพราะขี้เกียจอ่านคู่อื่นก็อ่านเฉพาะชูมินาโตะจากนี่ก็ได้ ^ ^ 

 

แล้วก็เผื่อใครยังไม่ทราบข่าว มูฟวี่ ทสึรุเนะ เข้ามาฉายในโรงอีกแล้วค่ะะะะะ กรี๊ดดดด คราวนี้เป็นเครือเมเจอร์ค่ะ เห็นข่าวว่าจะฉายวันที่ 16 มีนาคมนี้นะคะ ใครสนใจก็ติดตามข่าวได้จากเพจของเมเจอร์เบยค่ะ ฉายอีกตูก็จะไปดูอีก5555(ถ้ากดตั๋วทัน ถถถ) มีคนทำ MAD ของมูฟวี่ไว้ ดูสิยยย มีฉากน่ารักๆเพิ่มมาตั้งเย้ออออ (นี่ขนาดไม่ได้ใส่ฉากน้อนในอ่างอาบน้ำมาด้วยนะะะ)

【MAD】劇場版ツルネ -はじまりの一射- / Hand【HD


 

แล้วก็!!! ได้ไปฟัง จะเรียกว่าไรดี ดราม่าซีดี? เรดิโอดราม่า? เรียกไม่ถูก แต่เป็นเสียงที่เด็กๆในเรื่องคุยกันน่ะค่ะ เกียวอนินางลงไว้ในยูตูบ แล้วตอนล่าสุดนี่คือน่ารักมว๊ากกกกก เป็นตอนของสามทหารเสือคิริซากิม.ต้น ที่ไปฉลองที่เซยะได้เข้าทีมยิงธนูกันที่บ้านมินาโตะ แล้วทำทาโกะยากิกินกันค่ะ งื้ออออ แล้วคือ! มินาโตะอ่ะเคยทำทาโกะยากิไปให้ชูกินตั้งแต่สมัยตอนเรียนกับอ.ไซออนจิแล้วจย้าาาา อยากจะดิ้นตาย >////< ชูกินทาโกะครั้งแรกก็คือที่มินาโตะทำให้นั่นแหละ อยากจะแหมนะคะ จำได้หมดอ่ะเนอะกินโคล่าครั้งแรกตอนไหน กินทาโกะครั้งแรกตอนไหน แหมมมม คนปกติเค้าจำเรื่องแบบนี้กันด้วยเหรอคะะะะถ้ามันไม่ใช่เรื่องที่สำคัญต่อใจจริงๆอ่ะ ขนาดชานมสำคัญต่อชีวิตตูมากตูยังจำไม่ได้เลยค่ะว่ากินครั้งแรกตอนไหน5555 ทาโกะยากินี่ไม่มีอยู่ในความทรงจำเลยค่ะว่าไปกินกับใครที่ไหนเมื่อไหร่ ทั้งๆที่กินตอนโตแล้วด้วยนะ55555 แปะลิ้งค์ค่ะ 

『ツルネ -つながりの一射-』番外編【オーディオドラマ】ツルネ -いろどりの一射-《第七回》「在りし日のユミトモ」 


ไปฟังกันน้า ชายชูอ่ะเป็นคนทำทาโกะยากิให้เซยะกินด้วยนะ ให้มินาโตะสอนให้ ไม่แน่ใจว่าเป็นแผนใกล้ชิดมินาโตะหรือแผนลอบฆ่าเซยะด้วยทาโกะก็ไม่รู้นะคะ5555 เอ็นดูพวกนางสองคน จับมือกันต่อหน้ามินาโตะแต่อีกมือถือมีดไว้ข้างหลัง555

 

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์ ทุกๆการติดตาม ทุกๆหัวใจมากๆนะคะ อูยยยช่วงนี้รู้สึกเหมือนโดนทวงเรื่องGLIDEรัวๆเบย รอเค้าก่อนนะะะ คือตอนต่อไปมันเป็นตอนที่แบบเจ็ดวันเจ็ดคืนอ่ะ555 ต้องใช้พลังนิดนึง ไม่ใช่แค่เจ้าลูกกระต่ายที่จะตาย คนแต่งก็จะตายด้วยค่ะ555

 

แล้วเจอกันตอนหน้าน้า

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น