ป๋อจ้าน Au.Fic [หวังอี้ป๋อ x เซียวจ้าน] GLIDE : 2x4 It’s me : 520 N. again [Part8]

 

ป๋อจ้าน Au.Fic [หวังอี้ป๋อ x เซียวจ้าน]  GLIDE : 2x4 It’s me : 520 N. again [Part8]

 

: ป๋อจ้าน Fanfiction Au

: หวังอี้ป๋อ x เซียวจ้าน

: Romantic

: NC-17

  

คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ

           : เนื้อเรื่องต่อไปนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจริงนะคะ

           : ข้อมูลจะไม่แน่นเท่า GLIDE ภาคก่อนๆนะคะ เพราะภาคนี้ข้ามมา 2 ล้อ ตรูขี้เกียจหาข้อมูลฝั่ง Moto GP โฟ้ยยยย // โดนตบด้วยหมวกกันน็อค

  

 

GLIDE : 2x4 It’s me : Special Episode :

 

“520 นิวตัน

 

.

.

.

 

 

 

"เฟย…"

 

"เฟยเฟย…"   

 

ดวงตาเลื่อนลอยกรอกจากซ้ายมาขวาช้าๆราวกับว่าการกระทำแบบนั้นจะทำให้เข้าใกล้เสียงที่เรียกชื่อเขาได้

 

น่าแปลกใจเหลือเกินเพราะเสียงทุ้มเหมือนดังอยู่ไกลแสนไกล เงาร่างของพี่อี้หยางก็ดูเลือนลาง แต่ฝ่ามืออุ่นร้อนกลับโอบรัดอยู่รอบลำตัวเขา

 

เอ๋?

 

อะไรกันๆ??

 

"คิก พี่อี้หยาง~ แยกร่างได้ด้วย~ อยู่ตรงนี้ แล้วก็ตรงนี้ คิกๆ"   ในสายตาอันพร่าเลือนมองเห็นพี่ชายต่างสายเลือดทับซ้อนกันอยู่หลายคน แต่ความสับสนกลับทำให้รู้สึกสนุกมากกว่าจะมึนงง ริมฝีปากสีระเรื่อจึงหัวเราะคิกคักออกไปอย่างชอบใจ

 

อยู่นิ่งๆ”    รู้สึกได้ว่าข้อมือถูกรวบไว้ด้วยฝ่ามือใหญ่ แล้วไม่กี่อึดใจก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังลอยอยู่? ร่างกายเขาเต็มไปด้วยความรู้สึก แต่กลับมองอะไรไม่ชัดเอาเสียเลย 

 

ร้อนอ่ะ พี่อี้หยาง มากอดเฟยทำไม?"    ยิ่งความรู้สึกร้อนวูบวาบนี่ยิ่งชัดเจนกว่าความรู้สึกไหนๆ แค่ร่างกายถูกพี่ชายกอดไว้หลวมๆก็ร้อนราวกับถูกไฟช็อตในทุกๆส่วนที่โดนกัน มือบางจึงเอื้อมอย่างเปะปะไปปะทะปลายคางบ้าง แผ่นอกบ้างของพี่อี้หยางอย่างตั้งใจจะผลักอีกฝ่ายออกไป

 

"บอกให้อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก"    เจ้าของเสียงทุ้มไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเขาลงแล้วร่างกายก็ยิ่งร้อนจนแทบทนไม่ไหว

 

"เฟยร้อนมากเลยอ่ะ~ ถอดเสื้อให้เฟยหน่อย~”    มือบางเปลี่ยนมาดึงคอเสื้อของตัวเองวุ่นวายไปหมด เสียงทุ้มจึงดุเขาเบาๆ

 

อย่าดิ้น”   ยังดีที่ระยะทางจากโซฟามาถึงเตียงไม่ได้ไกลเท่าไหร่  ร่างกายเบาหวิวจึงถูกวางลงไปบนพื้นนิ่มๆ ใบหน้ามนเอียงคอมองอย่างสงสัย เอ๋~ ที่นี่มันที่ไหนกัน??

 

"สวรรค์เหรอ~? คิกๆ"   เฟยเฟยหัวเราะออกไปอย่างชอบใจ ก็กลิ่นหอมหวานกับภาพฟุ้งๆเบลอๆแบบนี้ มันก็ต้องเป็นสวรรค์สิ!

 

 

หวังอี้หยางถึงกับกระตุกยิ้มที่มุมปาก สภาพดูไม่จืดเลยนะเจ้าลูกกระต่ายเอ้ย~ เมาแบบ 1000% เลย 

 

อันที่จริงปริมาณแอลกอฮอล์ที่ผสมในช็อกโกแลตพวกนั้นคงไม่ทำให้ใครเมาหัวราน้ำได้ขนาดนี้หรอก แต่ดันเป็นเจ้าลูกกระต่ายคออ่อนนี่สิ แถมโดนไปสิบกว่าตัวอีก

 

มือใหญ่รวบมือที่วุ่นวายอยู่กับชายเสื้อเขาเอาไว้ก่อนจะก้าวขาคร่อมลงไปบนเตียง แรงยุบยวบไม่ได้ทำให้สายตาของเจ้าป่ายอมละไปจากกระต่ายตัวน้อย

 

อาจจะเป็นโชคดีที่เฟยเฟยไม่ใช่พวกเมาแล้วอาละวาดหรือร้องไห้โยเย แต่มันอาจจะเป็นโชคร้ายสำหรับเขาที่เจ้าลูกกระต่ายดันเมาแล้วน่ารักขนาดนี้

 

"ถึงที่นี่จะไม่ใช่สวรรค์ แต่เดี๋ยวชั้นจะทำให้มันเป็นสวรรค์สำหรับนายเอง เฟยเฟย…"    เสียงทุ้มก้มกระซิบที่ใบหูแดงระเรื่อก่อนจะเลื่อนริมฝีปากไปกดจูบซอกคอขาวอย่างมันเขี้ยว 

 

อ๊ะ?”   รอยรักสีแดงถูกฝากไว้บนผิวอ่อนนุ่ม ยิ่งลำคอระหงเนียนใสเท่าไหร่ ร่องรอยที่เขาทิ้งเอาไว้ก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น 

 

 

เหมือนกลีบกุหลาบที่ลอยอยู่ในน้ำนม

 

 

ใบหน้าคมละออกมาอย่างพึงพอใจ ดวงตากวาดมองหาเหยือกน้ำที่มักจะวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง  

 

เขาไม่อยากให้เฟยเฟยเมาจนจำเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ไม่ได้ มันจะไม่มีความหมายเลยถ้าเฟยเฟยตื่นขึ้นมาแล้วลืมมันไป

 

 

ต้องทำให้สร่างเมาเสียก่อน

 

 

มือใหญ่จึงคว้าเหยือกน้ำขึ้นมากระดกเข้าปากอย่างไม่สนใจจะเทใส่แก้ว แล้วในชั่วพริบตาริมฝีปากที่มีน้ำไหลออกมาก็ประกบลงไปบนกลีบปากที่ร้อนดั่งไฟ 

 

ลิ้นร้อนผลักดันน้ำเหล่านั้นเข้าไปในปากลูกกระต่าย และลำคอระหงก็กลืนมันลงไปอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้

 

อึกแล้วอึกเล่า

 

อื้อ?”   เรียวลิ้นแลบเลียกลีบปากสีเจลลี่อย่างอ้อยอิ่ง ต่อให้น้ำหมดไปแล้วแต่นักธุรกิจอย่างเขามีหรือจะไม่หากำไรต่อ ลิ้นร้อนจึงสอดเข้าไปเกี่ยวกระหวัดลิ้นไร้เดียงสาจนเจ้าของมันได้แต่ทำหน้าเคลิบเคลิ้ม มือใหญ่ไล้ปลายนิ้วลงต้นคอระหงก่อนจะค่อยๆกดท้ายทอยได้รูปให้ขยับมารับจูบของเขาเต็มๆ จนกว่ามือบางจะทุบอกเขาเบาๆนั่นแหละ เขาถึงจะยอมถอนริมฝีปากออกมา

 

แต่ก็ใช่ว่ามันจะไปไหนนาน

 

มือใหญ่ยกเหยือกกระดกน้ำเข้าปากอีก ส่วนมืออีกข้างก็รองท้ายทอยของกระต่ายตัวน้อยให้มารับน้ำจากปากของเขา ดวงตาคมกล้าหลุบต่ำลงมองกระเดือกเล็กๆขยับอึกๆในขณะที่กลืนน้ำลงคอไป บางส่วนก็ไหลเลอะลงไปตามลำคอ ซึ่งมันเป็นภาพที่กระตุ้นเร้าจนใจเขาอยู่ไม่สุขเลย

 

เพราะงั้นเมื่อน้ำหมดริมฝีปากจึงละออกมาแล้วใช้ลิ้นกดขวางทางน้ำที่ไหลอยู่บนซอกคอ

 

ค่อยลากมันกลับขึ้นไปค่อยๆไล้เลียไม่ให้เสียน้ำไปสักหยด

 

จากต้นคอระหงไปจนถึงปลายคางมน

 

ลากผ่านไฝเม็ดเล็กที่มุมปาก ลากไปหยุดที่จุดสีแดงบนใบหน้า

 

ลิ้นร้อนเล็มเลียกลีบปากที่เผยอออกราวกับกำลังรอคอยอย่างเชื่องช้า สายตาของเขายังไม่ละไปจากใบหน้าของเฟยเฟยสำหรับเขาภาพนี้ยิ่งกว่ายากระตุ้นเกรดA+ทั้งโลกมารวมกันเสียอีก ต้องพยายามผ่อนลมหายใจแค่ไหนเพื่อไม่ให้ความเป็นชายขยายใหญ่ขึ้นมา… 

 

น้ำถูกกระดกเข้าปากครั้งแล้วครั้งเล่าจนหมดเหยือก นอกจากกลีบปากที่แดงช้ำแล้ว ซอกคอขาวก็แดงไปหมดเหมือนกัน

 

เท่านี้ก็น่าจะพอสร่างเมาได้บ้าง

 

 

 

แฮ่กแฮ่ก…”    เจ้าลูกกระต่ายนั่งโงนเงนตาลอย แต่อย่างน้อยๆก็ดูจะเริ่มมีสติมากกว่าเมื่อกี้

 

เฟยเฟย”    เสียงทุ้มเรียกชื่อเจ้าตัวดี ดวงตากลมโตจึงค่อยๆมองมาที่เขาอย่างช้าๆ แล้วพอรับรู้ว่าเขาอยู่ตรงหน้า ลำตัวบางก็เอนซบเข้าหาอ้อมแขนของเขาทันที

 

"รู้รึเปล่าว่ากินอะไรเข้าไป?"    มือใหญ่ลูบหัวที่ซบอยู่บนแผงอก ใบหน้ามนยังแดงจัด ลมหายใจยังพ่นไอร้อนออกมาไม่หยุดน้ำทำให้สร่างเมาได้แต่ไม่มีผลกับยากระตุ้นสินะ

 

"....ช็อกโกแลต?...ที่พี่ให้เฟย?"    ถึงจะช้ามากกว่าหัวสีดำจะประมวลผลแล้วตอบกลับมา แต่ก็ยังถือว่ายังรู้เรื่องอยู่

 

"ไม่ใช่ของชั้น แต่เป็นของอี้คุนที่จะเอาไปฝากเพื่อน"     ใบหน้าหล่อเหลาจรดริมฝีปากลงไปบนกลุ่มเส้นไหมนิ่มสีดำสนิทที่เริ่มจะชื้นเหงื่อนิดๆ

 

"ของอี้คุน?"    เสียงงึมงำดังมาจากแผงอก ถึงจะพอมีสติแต่ก็ยังตอบโต้เขาไม่ได้มาก

 

"ใช่แล้วในช็อกโกแลตนั่นมีแอลกอฮอล์กับยากระตุ้นผสมอยู่"

 

"......ผสมอยู่?"    ใบหน้าขาวๆที่มีสีแดงปาดอยู่ตามแก้มตามจมูกเงยมองเขาจากในอ้อมกอด ดวงตากลมก็โตหวานเยิ้มเลื่อนลอย คิดว่าเขาจะทนไหวไหมล่ะกับสภาพของเจ้าลูกกระต่ายในเวลานี้

 

"ปริมาณแอลกอฮอล์น่ะพอจะเจือจางได้ แต่นายยังรู้สึกร้อนๆเพราะยากระตุ้นอยู่ใช่ไหม?"

 

"ร้อนแต่ไม่รู้ตรงไหน?"    ใบหน้ามนพยักหงึกๆ รอยยิ้มของหมาป่าจึงปรากฏอยู่ที่มุมปากเขา

 

"ตรงนี้"    มือใหญ่วางทาบลงไปตรงกลางหว่างขาของเจ้าลูกกระต่าย ร่างกายโปร่งบางสะดุ้งโหยงทันที

 

"อื้อ~"    ฝ่ามือบางกำสาบเสื้อของเขาก่อนจะก้มมองตามอย่างไม่เข้าใจ เสียงทุ้มจึงเอ่ยล่อลวงต่ออย่างใจเย็น

 

"มันต้องใช้วิธีอื่นช่วยนะ เฟยเฟย อยากให้ชั้นช่วยนายไหม?"

 

"อื้อ~ ช่วยต้องทำยังไงร้อนอ่ะ…."    ดวงตารื้นๆมองเขาอย่างเว้าวอน ใบหน้าอ้อนๆทำให้เขาแทบทนไม่ไหว ในขณะที่ปากเขากำลังยิ้มเจ้าเล่ห์แต่ในใจต้องสะกดกลั้นสัญชาติญาณดิบแทบตาย ไม่รู้ใครร้ายกว่ากันเลยแหะ

 

"ได้สิเด็กดี เดี๋ยวชั้นจะสอนนายเอง"   มือใหญ่ดึงตัวเฟยเฟยมานั่งบนตักแล้วจูบที่ขมับไปหนึ่งที ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความทะนุถนอม เขาอยากแสดงออกผ่านการกระทำว่าเขารักอีกฝ่ายมากแค่ไหน เขาจะฉวยโอกาสตอนที่เจ้าลูกกระต่ายเมามายก็ย่อมได้ แต่เพราะเขารัก เขาจึงไม่ทำแบบนั้นและพยายามขออนุญาติก่อน 

 

ถึงแม้จะตรงข้ามกับความดุดันของส่วนล่างเลยก็เถอะนะ มันปิดไม่อยู่แล้วว่ากำลังต้องการอีกฝ่ายมาก ร่องลูกพีชจึงสัมผัสกับส่วนนูนแข็งจนเจ้าลูกกระต่ายร้องอ๊ะ?” เบาๆ

 

ริมฝีปากกดจูบต้นคอขาวจากทางด้านหลัง ฝ่ามือร้อนๆสอดเข้าใต้เสื้อนอนฮู้ดสีแดงแล้วลูบไล้เอวบางอย่างจงใจปลุกเร้าจนชายเสื้อเลิกขึ้นไป

 

จากที่จับมาเมื่อกี้ดูเหมือนลูกกระต่ายสีพีชตัวน้อยๆนั่นก็กำลังลืมตาตื่นอยู่หน่อยๆ มือข้างหนึ่งจึงย้ายไปเคล้นคลึงมันผ่านกางเกงสีแดง

 

อึก…”    แผ่นหลังบางทิ้งตัวลงมาพิงแผ่นอกแข็งแรงของเขา ลมหายใจอุ่นร้อนจึงเป่ารดต้นคอขาวที่ขึ้นสีแดงจางๆ

 

ฝ่าเท้าน้อยๆในถุงเท้าสีแดงขยับขยุกขยิกราวกับกำลังระบายอาการเสียวซ่านเมื่อฝ่ามือของเขาคลึงหนักเข้า ก็โตจนป่านนี้แล้วแต่เจ้าลูกกระต่ายกลับช่วยตัวเองไม่เป็น ไม่เคยทำ ไม่เคยรู้จัก สื่อลามกอนาจารนี่โดนอาอี้ป๋อกับอี้คุนโยนออกนอกบ้านไม่เหลือหลอ เฟยเฟยจึงยังบริสุทธิ์ทั้งความคิดและร่างกาย

 

ยิ่งรู้ก็ยิ่งอยากทำให้แปดเปื้อนด้วยมือของเขาเสียจริงๆ

 

ฝ่ามืออีกข้างที่วนไล้อยู่บนหน้าอกลากกลับลงมาที่สะโพก มันสอดเข้าไปในยางยืดกางเกงนอนก่อนจะรูดรั้งผ้าสีแดงผ่านก้นลูกพีชออกไปพร้อมกับชั้นใน ไม่นานมันก็ไปกองอยู่ที่ข้อเท้า ท่อนล่างของเฟยเฟยจึงเปลือยเปล่า ต้นขาขาวๆราวกับจะเปล่งแสงได้เมื่อกระทบแสงไฟ ยิ่งทำให้ความแข็งขืนที่เจ้าลูกกระต่ายนั่งทับอยู่นูนขึ้นอีก ไม่พอ ความร้อนระอุของมันทำให้ผลพีชเปลือยๆยกกระดกขึ้นน้อยๆเพื่อหลีกหนี โดยที่ไม่รู้หรอกว่ามันดูเชิญชวนยั่วยวนเขาขนาดไหน

 

พี่อี้หยาง…”    ใบหน้าทรมานหันมามองเขาอย่างเว้าวอน สายตาอ้อนๆกับลมหายใจผะแผ่วแทบจะทำให้เขาตบะแตก อยากจะหยุดความอ่อนโยนไว้แค่นี้แล้วจับกระแทกกระทั้นให้มันรู้แล้วรู้รอด

 

ฮู่…”    แต่เขาก็จำต้องหลับตาลงแล้วข่มสัญชาติญาณดิบเอาไว้ เขาสัญญาไว้แล้ว ก็ต้องรักษาสัญญา

 

ริมฝีปากหันไปจูบแก้มใสอย่างเอาใจ ท่อนแขนทั้งสองข้างประคองร่างบอบบางไว้ ฝ่ามือค่อยๆลูบไล้จากโคนขามาจนถึงส่วนไวต่อความรู้สึก

 

ดูสิเฟยเฟย ชั้นจะสอนให้ว่าต้องทำยังไง”     เสียงทุ้มกระซิบที่ใบหูบาง ใบหน้ามนก้มลงไปดูอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่พอเจ้ากระต่ายน้อยสีพีชถูกฝ่ามือของเขาล้อมเอาไว้ เสียงครางก็ดังขึ้นในลำคอ

 

เมื่อไหร่ที่นายรู้สึกต้องการ ให้นึกถึงกลิ่นของชั้น เสียงหอบหายใจของชั้น ความร้อนที่ส่งผ่านไปจากร่างกายของชั้น ความเปียกชื้นจากเหงื่อของกันและกัน นึกถึงแต่หน้าชั้น แล้วขยับมือแบบนี้…”    เขาร่ายมนต์สะกดไว้ที่ข้างหู 

 

อึก อื้อ~”     เจ้าลูกกระต่ายบิดเร่าเมื่อมือใหญ่เริ่มขยับขึ้นลงช้าๆ ข้อนิ้วและความหยาบกร้านของฝ่ามือที่รัดรอบทำให้ส่วนอ่อนไหวขยายใหญ่และตั้งชันยิ่งกว่าเดิม

 

ตอบสิ เวลาทำเรื่องลามกแบบนี้นายต้องนึกถึงหน้าใคร?”      เสียงทุ้มกระซิบถามในขณะที่ฝ่ามือก็เริ่มเร่งจังหวะ

 

อ๊ะ อื้อ~”    แต่ดูเหมือนเจ้าลูกกระต่ายแทบจะทำสติหลุดหาย ใบหน้าแดงระเรื่อที่ดวงตาหรี่ปรือนั้นดูจะถูกความสุขสมครอบงำไปหมดแล้ว

 

เฟยเฟย ตอบสิ นายต้องนึกถึงใคร?”     ริมฝีปากกดจูบหนักๆที่ซอกคอแทนการเร่งเร้าคำตอบ

 

อ๊ะ พะ พี่อี้หยางอื้อ~”    เสียงขาดๆหายๆพยายามเค้นคำพูดออกมาจากเสียงคราง 

 

เก่งมากเด็กดี ชั้นให้รางวัลนายดีไหม?”    แน่นอนว่ารางวัลของเขาไม่ใช่แค่การหอมหัวสีดำอย่างที่กำลังทำอยู่แค่นั้น

 

มือใหญ่พลิกตัวเฟยเฟยนอนลงกับพื้นเตียงท่ามกลางใบหน้ามนที่สับสนเพราะอารมณ์ค้างจากการที่เขาหยุดการกระทำทุกอย่าง

 

ขายาวก้าวคร่อมลำตัวบางเอาไว้ ก่อนที่สองมือจะไขว้กันแล้วดึงเสื้อของตัวเองออกผ่านหัว กล้ามหน้าท้องแน่นๆ หัวที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อย กับสายตาของเจ้าป่าที่ไม่ละจากใบหน้ามน ทำเอาหวังเฟยเฟยถึงกับหน้าร้อนวูบ

 

ดวงตากลมโตเสหลบจากสายตาที่จ้องจะกินเหยื่อคู่นั้นแต่ก็ดันลงมาเจอเจ้าสิงโตตัวใหญ่ที่ถูกกางเกงคุมขังไว้ รอยนูนที่เห็นชัดมากราวกับว่ามันพร้อมที่จะกระโจนใส่กระต่ายตัวน้อยๆอย่างเขาแล้ว มันดูหิวกระหายจนเขาต้องเม้มปากแน่น

 

ขอโทษที่ให้รอนาน”    พี่อี้หยางโยนเสื้อทิ้งไปข้างเตียงก่อนจะค่อยๆคืบคลานมาหา ถึงจะถูกทำให้อารมณ์ค้างแต่สายตาและท่าทางที่เซ็กซี่อย่างร้ายกาจของอีกฝ่ายก็ทำเอาลมหายใจติดๆขัดๆได้ไม่ยาก

 

ตอนนี้เขามีสติ เขารู้ทุกอย่างว่าพี่อี้หยางทำอะไร แต่เขาก็ต่อต้านความทรมานนี้ไม่ได้เลย มันร้อนวูบวาบไปหมด ร้อนไม่รู้ว่ามาจากตรงไหน แล้วทุกครั้งที่มือใหญ่ๆนั่นสัมผัส….เขากลับรู้สึกดีมาก ดีจนแทบสิ้นสติ

 

เพราะงั้น ต่อให้มืออุ่นร้อนนั่นจะดึงขาข้างหนึ่งของเขาไปพาดบ่ากว้างไว้ เขาจึงไม่คิดจะห้ามปราม

 

อื้อ~~~~~!!!”    แล้วเขาก็ต้องร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆใบหน้าหล่อเหลาก็ก้มลงไปที่หว่างขาของเขา

 

แล้วเลียตั้งแต่โคนจรดปลาย

 

อ๊ะ อ๊า?!!”    น้ำสีขาวขุ่นพุ่งทะลักออกไปจากร่างกายอย่างควบคุมไม่ได้ ไม่สิ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะควบคุมมันได้ยังไง ในเมื่อความรู้สึกสุขสมจนเหมือนขึ้นสวรรค์แบบนี้เขาก็เพิ่งเคยรู้จักมันเป็นครั้งที่สองเท่านั้น

 

อึก อื้อ~~”   ในท้องเสียววูบไปหมด ร่างกายก็กระตุกถี่เพื่อปลดปล่อยส่วนที่เหลือออกไป แล้วยิ่งเห็นว่ามีบางส่วนกระเด็นไปเลอะแก้มพี่อี้หยาง ก็ยิ่งทำเอาหน้าเขาแทบระเบิด ร้อนไปถึงใบหูแล้วเนี่ย อ้า~

 

แฮ่กฟะเฟยขอโทษ งื้อ เลอะหมดแล้ว…”     มือบางพยายามจะเอื้อมไปเช็ดให้ แต่มือใหญ่กลับจับมือเขาไว้แล้วดึงไปใกล้ๆปากแทน

 

พี่อี้หยางแลบลิ้นเลียนิ้วของเขาทั้งๆที่สายตายังไม่ละไปจากหน้าเขา หัวใจดวงน้อยไม่เต้นจนแทบคลั่งก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วกับภาพของผู้ชายอันตรายคนนี้~

 

ลิ้นร้อนไล้เลียตั้งแต่ง่ามนิ้วไปจรดปลายเล็บ ทั้งใบหน้าและงานสายตาเล่นเอาเขาแดงไปทั้งตัวได้  

 

"อ๊ะ?"   เสียงร้องแปลกๆดังออกไปจากริมฝีปากราวกับเป็นสัญชาติญาณ เพราะเขาไม่เคยรู้วิธีการเปล่งเสียงแบบนี้มาก่อน

 

เขาแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามือใหญ่อีกข้างปาดน้ำรักบนหน้าท้องของเขาไปตั้งแต่เมื่อไหร่และจะเอาไปทำอะไร

 

เพราะรู้ตัวอีกที ร่างหนาก็ทาบทับลงมาบนตัวเขาแล้ว 

 

กล้ามหน้าท้องเป็นลอนแข็งๆนั่นทำให้รู้สึกดีมากเวลามันแนบลงมาบนผิวเนื้ออ่อนนุ่มของเขาจนเผลอปิดตาลงอย่างเคลิบเคลิ้ม ริมฝีปากที่ซุกไซร้อยู่ที่ซอกคอนี่ก็ยิ่งทำให้ลืมตายากไปกันใหญ่ ท่อนแขนบางเอื้อมออกไปกอดหัวสีดำของพี่อี้หยางอย่างเผลอไผล

 

ทำให้ไม่รู้ตัวเลยว่า เจ้าสิงโตดุร้ายนั่นถูกปล่อยออกมาตั้งแต่ตอนไหน

 

และคราวนี้เขาก็ได้เห็นมันจะๆ เมื่อเขาลืมตาขึ้นมา

 

“......”     ริมฝีปากสีสดถึงกับอ้าค้าง นัยน์ตาสีดำเบิกกว้าง ร่างโปร่งบางทำท่าจะถอยหนีโดยอัตโนมัติ

 

ไม่จริงน่า ทำไมมันใหญ่ขนาดนี้?!”     แล้วหวังอี้หยางควรจะทำหน้ายังไงดีเมื่อได้รับคำชม? ที่ดูตกอกตกใจขนาดหนัก 

 

นายก็รู้จักกันแล้วไม่ใช่เหรอ?”    ใบหน้าหล่อเหลาอมยิ้มหยอกเย้า เขาก็เขินนะถ้าถูกจ้องเอาจ้องเอาแบบนี้ 

 

ยังไงก็มาทำความคุ้นเคยกันไว้สิ”   ไม่ว่าเปล่า เขากดร่างกายลงไปให้เจ้าสิงโตดุร้ายได้แนบชิดกับเจ้ากระต่ายน้อยที่ยังไม่หมดฤทธิ์ยา

 

อ้า~”    เมื่อถูกนาบด้วยความร้อนดั่งลาวาก็ทำให้ใบหน้ามนปล่อยเสียงครางเครือออกมาด้วยความรู้สึกดี

 

แค่เสียดสีกัน ทำไมรู้สึกเสียวซ่านในท้องน้อยขนาดนี้ก็ไม่รู้ ดวงตากลมโตเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาแห่งความปรารถนาในขณะที่เหลือบมองลงไปเบื้องล่างอย่างเอียงอาย ส่วนที่ขยายใหญ่มากนั้นทำเอาไม่กล้ามองตรงๆเลย

 

ลองจับดูสิ”    เสียงเซ็กซี่กระซิบอยู่ข้างหู มือใหญ่สอดประสานกับนิ้วทั้งห้าของเขาไว้ก่อนจะดึงไปสัมผัสเจ้าสิงโตดุร้ายที่กำลังไล่ต้อนกระต่ายน้อยของเขา

 

อื้อ~”    แค่ความร้อนระอุจากแท่งเนื้อเขาก็แทบจะไม่ไหวแล้ว พอถูกมือโอบรัด ร่างทั้งร่างจึงบิดเร่าทันที ความรู้สึกแบบนี้มันอะไรกัน รู้สึกดีจนเหมือนจะตายเสียให้ได้

 

อะ อ้า~”    พอมือใหญ่เริ่มขยับ เขาก็ห้ามเสียงครางไม่อยู่อีกต่อไป ในหัวขาวโล่งมีแต่ความเสียวกระสันเพียงแค่นั้น 

 

อื้อ พะ พี่ อี้หยาง~”    ทุกครั้งที่มือขยับขึ้นลงรุนแรง ความสุขสมก็ยิ่งพุ่งทะยานสูงขึ้นจนไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว เพราะงั้นกว่าจะรู้ตัวว่าที่ช่องทางด้านหลังมีอะไรสอดใส่เข้ามา ขนาดมันก็ใหญ่ราวๆสามนิ้วได้

 

"อ๊ะ?"    ใบหน้าแดงซ่านชะงักงันเรียกตัวเองออกจากความฝัน

 

"อะ อะไร…?..."     เสียงกระเส่าถามออกไปทั้งๆที่ยังหอบถี่ไปกับแรงอารมณ์ที่ยังล้นปรี่

 

"พี่ใส่อะไรเข้ามาในตัวเฟย?"    ใบหน้าชื้นเหงื่อพยายามจะหันไปมองแต่ก็ไม่ถนัด จึงตวัดกลับมาจ้องใบหน้าหล่อเหลาที่บัดนี้แดงซ่านไปด้วยแรงปรารถนา เขาไม่เคยเห็นใบหน้าแบบนี้ของพี่อี้หยางมาก่อนเลย

 

ใบหน้าที่กำลังต้องการเขา

 

เส้นผมเปียกชื้นซบลงมาที่ไหล่บางอย่างพยายามระงับความอยาก ก่อนจะพยายามกัดฟันตอบกลับมา

 

"นิ้ว…"    

 

"เอ๊ะ? อื้อ! ?"    ไม่ว่าเปล่า นิ้วที่คาอยู่ข้างในยังหมุนวนราวกับจะทักทายอีกต่างหาก ร่างทั้งร่างถึงกับสั่นสะท้านจนเผลอบีบรัดสิ่งแปลกปลอมโดยไม่รู้ตัว

 

อึก!”    พี่อี้หยางถึงกับขมวดคิ้วแน่นก่อนจะยิ่งกดหน้าผากลงกับลาดไหล่ของเขาราวกับกำลังสะกดกลั้นอารมณ์ขนาดหนัก

 

เฟยเฟยอย่ารัดไม่งั้นชั้นจะทนไม่ไหว…”    เสียงทุ้มกัดฟันเอ่ยออกมา ถึงอย่างงั้นก็เถอะ เขาจะห้ามตัวเองได้ยังไง อะไรเป็นอะไรเขายังไม่เข้าใจเลย 

 

"ค่อยๆคลายมันออกจากนิ้วของชั้นก่อนลองทำดูเอ้า หนึ่ง สอง สาม"   ริมฝีปากสีสดเม้มแน่น ก่อนจะพยายามส่งความรู้สึกผ่อนคลายไปยังเบื้องล่าง

 

นิ้วทั้งสามค่อยๆขยับได้อีกครั้ง ถึงแม้เขาจะเผลอตอดรัดมันเป็นระยะเพราะว่าเสียวจนทนไม่ไหวยามเมื่อผนังภายในเสียดสีมัน

 

"แบบนี้ฮู่จะได้ไม่ถือว่าผิดสัญญา……เพราะว่าถ้าเป็นของจริงสิ่งที่เข้าไปในตัวนายจะไม่ใช่แค่นิ้วแน่แต่เป็น…"    

 

"เป็น…?"

 

"เจ้านี่"     สะโพกแกร่งขยับเบาๆทำให้เจ้าสิงโตดุร้ายเสียดสีไปกับของเขาเขา

 

"ถึงเวลานั้น...ค่อยรัดให้แน่นๆก็แล้วกัน"   เสียงเจ้าเล่ห์กระซิบที่ใบหู

 

อย่าบอกนะว่าสิ่งที่จะเข้าไปแทนนิ้วคือ….!!

 

"อ๊ะ!"     ใบหน้ามนตื่นตะลึง ใหญ่ขนาดนั้นจะเข้าไปได้ยังไง? แต่เขาก็ไม่มีเวลาได้ถามเมื่อริมฝีปากของพี่อี้หยางเอื้อมมาปิดปากของเขาไว้

 

อื้ม~ อื้อ~”    รสจูบในตอนนี้นั้นแตกต่างจากตอนแรกมาก เพราะมันเร่าร้อนรุนแรงแข่งกับไฟปรารถนาที่พุ่งพล่านไปหมด เรียวลิ้นพันกันจนออกมานอกริมฝีปากก่อนจะโดนดุนดันเข้าไปใหม่  เสียงหอบหายใจผสมปนเปจนไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร

 

ด้านหน้ามือใหญ่ก็เริ่มขยับและนั่นก็ทำให้เขาไม่มีสติอีกต่อไป แถมนิ้วด้านหลังยังดึงเข้าออกในจังหวะเดียวกัน จากที่รู้สึกแปลกๆและต่อต้านแต่พอเริ่มคุ้นเคยมันกลับรู้สึกดีอย่างน่าประหลาด

 

โดยเฉพาะเมื่อปลายนิ้วไปโดนกับจุดๆหนึ่งเข้า

 

อ๊า~~?!”    ริมฝีปากสีสดร้องออกมาเสียงหลงก่อนจะเบิกตากว้าง มะ เมื่อกี้นี้มันอะไรกัน ตรงนั้น….

 

ตรงนี้เองสินะ…”     เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างพึงพอใจ รอยยิ้มของพี่อี้หยางดูไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย ลำตัวบางจึงพยายามจะถอยหนี

 

อื้อ~”    แต่สิ่งเชื่อมต่อกันอยู่ก็ทำให้เขาหนีไปไหนไม่ได้ ใบหน้าคมช้อนขึ้นมาพรมจูบไปตามใบหน้าเขา

 

เพราะต่อจากนี้ไปเขาจะไม่มีเวลาพักหายใจอีกแล้ว

 

อะ อ้า~ พะ พี่อี้หยาง อ้า อย่า~ ตรงนั้น ตรงนั้นมัน อ๊า~”     เสียงครางอย่างกับจะขาดใจดังระงมไปทั่วห้อง ความสุขสมจากเบื้องหน้าว่ารุนแรงแล้ว ข้างหลังยิ่งรุนแรงกว่า

 

เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าในร่างกายของเขาจะมีจุดที่ทำให้เสียวกระสันได้มากขนาดนี้ สัมผัสโดนเข้าทีก็แทบจะถึงสวรรค์ได้ นี่ถ้าพี่อี้หยางไม่ใช้ปลายนิ้วปิดปากกระต่ายน้อยของเขาเอาไว้ มันคงได้พ่นน้ำลายสีขาวออกมาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว

 

อ้า อื้อ~ มะ มัน จะ จะถึงแล้ว เฟย ไม่ไหวแล้ว”    ลมหายใจถี่กระชั้นพอๆกับฝ่ามือที่ขยับอย่างรวดเร็ว ปลายนิ้วข้างหลังก็กดย้ำจนเขาแทบคลั่ง

 

อึกอีกนิดขออีกนิด…”     ไม่ได้มีแค่เจ้าลูกกระต่ายที่กำลังจะตายจากความสุขสม แต่หวังอี้หยางเองก็เช่นกัน ช่องทางด้านหลังที่บีบรัดอย่างบ้าคลั่งนั่นทำเอาความเป็นชายของเขาเต้นตุบๆ

 

ถึงจะไม่ได้สอดใส่เข้าไปโดยตรง แต่ความรู้สึกที่ส่งผ่านมาจากปลายนิ้วก็ทำให้เขาแทบจะถึงได้ จินตนาการออกเลยว่ามันจะสุดยอดแค่ไหนถ้าสิ่งที่อยู่ในนั้นคือความเป็นชายของเขา

 

เฟยเฟยแฮ่กพร้อมกันนะ…”    เสียงทุ้มกระซิบที่ใบหูแดง มือใหญ่กำทั้งหมดทั้งมวลเอาไว้ก่อนจะชักออกไปสุดแรง 

 

อ๊า~~~!!!”     เสียงครางสูงดังขึ้นพร้อมกับความปรารถนาที่พุ่งทะลักออกมามากมาย น้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งพระจายเต็มหน้าท้องปะปนกันไปหมดไม่รู้ของใครเป็นของใคร ช่องทางภายในก็ยังตอดรัดนิ้วของเขาไม่หยุด

 

อะแฮ่กแฮ่ก….”    ร่างโปร่งบางทิ้งกายลงนอนอย่างหมดแรง ใบหน้าแดงซ่านเหม่อมองไปในอากาศราวกับยังหลงอยู่ในฝัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ารู้สึกดีขนาดไหน

 

เฟยเฟยชั้นรักนายนะ”    ใบหน้าหล่อเหลากดจูบซุกไซร้ไปตามใบหน้าพราวเหงื่อและซอกคอขาวอย่างเอาใจ ดูเหมือนฤทธิ์ยาจะหมดแล้วเพราะเจ้ากระต่ายน้อยสงบลงและพร้อมจะหลับใหล

 

เฟยก็….”    ใบหน้ามนพูดออกมาแค่นั้นก่อนที่สติจะถูกดึงไป ดวงตาปรือปรอยปิดลงอย่างเหนื่อยอ่อน ลมหายใจก็เริ่มเข้าออกคงที่สม่ำเสมอ

 

ถึงกับสลบเลยเหรอ?

 

ฮึ…”    เสียงทุ้มหัวเราะเบาๆ มือใหญ่จับร่างกายโปร่งบางให้นอนดีๆ 

 

เขาเดินเข้าห้องน้ำไปก่อนจะกลับมาพร้อมกะละมังและผ้าขนหนู ผ้าหมาดๆเช็ดทำความสะอาดหน้าท้องแบนเรียบของเฟยเฟยน้ำรักไม่ใช่น้อยๆเลยแหะ แหงละ ก็มันเป็นความปรารถนาที่ถูกกักเก็บไว้อย่างยาวนานของเขานี่ ต่อให้ทำติดต่อกันทั้งอาทิตย์ก็ไม่หมดง่ายๆหรอก

 

ฝ่ามือใหญ่ลูบใบหน้าหลับปุ๋ยอย่างรักใคร่ เขาก้มลงไปจูบหน้าผากใสหนึ่งทีก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆ

 

ฝันดีนะ เฟยเฟย



 

 

 



แสงสว่างจ้าทำให้ดวงตากลมโตเปิดขึ้นมาช้าๆ ร่างกายรู้สึกเหนื่อยล้าแปลกๆ?

 

นัยน์ตาคู่สวยเหลือบลงไปมองท่อนแขนแข็งแรงที่พาดอยู่บนลำตัว พี่อี้หยาง? ใบหน้ามนจึงค่อยๆหันกลับไปมอง

 

ใบหน้าที่อยู่บนหมอนใบเดียวกันยังหลับสนิท มันคงจะเป็นภาพที่ไม่มีอะไรต่างไปจากทุกๆเช้าถ้าไม่ติดที่ว่าร่างกายท่อนบนที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมาของพี่อี้หยางมันเปลือยเปล่า

 

“?!”    มือบางรีบสอดเข้าไปใต้ผ้าห่มก่อนจะตะครุบไปตามต้นขาของตัวเองไม่มีกางเกงเขาก็ไม่มี….

 

ใบหน้ามนนิ่งอึ้งเป็นกระต่ายตื่นตูมอยู่พักใหญ่ก่อนที่ความทรงจำจะค่อยๆย้อนกลับคืนมา………..

 

 

เจ้าสิงโตดุร้ายที่ไล่ต้อนกระต่ายน้อยจนร้องไห้เป็นน้ำสีขาวขุ่นออกมาแล้วไหนยังจะนิ้วกับก้นของเขา…………….

 

 

อ๊ากกกกกกกกกก!!! นี่เขากับพี่อี้หยาง…..กันไปแล้วเหรอ…..

 

ไม่นะะะะะะ งื้อ~~~

 

ใบหน้าแดงเถือกซุกลงกับหมอน ทั้งหมดมันเป็นความผิดของหวังอี้คุนเลย!!

 

เจ้าลูกสิงโตบ้า! เอาช็อกโกแลตแบบนั้นมาวางไว้ได้ไง! เขาอดกินไม่ได้ก็รู้อยู่! งื้อ!

 

ใบหน้ามนพ่นไฟใส่พี่ชายฝาแฝดที่อยู่ในความคิด ก่อนที่สายตาจะมาหยุดอยู่ที่ใบหน้าของพี่อี้หยาง

 

เขาจ้องมองอีกฝ่ายอยู่นานสองนาน ถึงจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด แต่พี่อี้หยางก็ไม่ฉวยโอกาสกับเขา พยายามห้ามตัวเองแทบตายทั้งๆที่ดูทรมานขนาดนั้น

 

มือบางทั้งสองข้างจึงเอื้อมออกไปประคองใบหน้าที่เริ่มมีหนวดขึ้นนิดๆ  ดวงตากลมโตไล่มองทุกส่วนบนใบหน้าที่หล่อมากๆนั่นช้าๆทำยังไงดีถึงจะทำให้หัวใจที่เต้นแรงขนาดนี้สงบลงได้

 

จุ๊บ”  กลีบปากนุ่มจูบเบาๆลงไปบนปลายจมูกของอีกฝ่าย เขาคิดไม่ผิดจริงๆที่เลือกผู้ชายคนนี้

 

อืม…”    เสียงงัวเงียดังในลำคอแกร่งก่อนที่ดวงตาคมกล้าจะค่อยๆเปิดขึ้นมา และเมื่อเห็นว่าสองมือของเขายังประคองใบหน้าอีกฝ่ายอยู่ พี่อี้หยางก็ยิ้มบางๆ

 

ลักหลับชั้นเหรอ?”

 

ปะ เปล่าซักหน่อย”    เขาเขินจนทนมองหน้าอีกฝ่ายตรงๆไม่ไหว ยิ่งนึกถึงเรื่องเมื่อคืนก็ยิ่งหน้าแดงจนต้องพลิกกายไปอีกฝั่ง มือบางดึงผ้าห่มมาคลุมโปงหนี

 

เฟยเฟย”    แต่ท่อนแขนแข็งแรงก็ยังตามมากอดเขาทั้งผ้าห่ม เสียงทุ้มเอ่ยเรียกด้วยเสียงหยอกเย้า

 

หวังเฟยเฟย~”   และพอเขาไม่ตอบกลับก็เรียกซ้ำไปซ้ำมาอยู่แบบนั้น งื้อ ก็คนมันเขินอ่ะ

 

 

 

"เฟยเฟย"    หลังจากนอนกอดเขาทั้งผ้าห่มอยู่พักใหญ่ เสียงทุ้มก็เอ่ยเรียกอีกครั้ง

 

"หื๋ม?"   เขาคุยด้วยทั้งๆที่ยังอยู่ในผ้าห่ม

 

"ชั้นว่าจะถามนายเรื่องอนาคตของเราสองคนน่ะ"    หน้าใสถึงกับแดงเถือก อะ อนาคตของเราสองคน

 

"อะ อะไรเหรอ…"     คงไม่ได้คิดจะไปขอเขากับปะป๊าหม่าม้าพรุ่งนี้หรอกใช่ไหม? เขายังเด็กอยู่นะ ถึงจะบอกว่าอยากมีลูก 5 คนเขาก็เลี้ยงให้ไม่ไหวหรอกตอนนี้  ในหัวฟุ้งซ่านไปไกล

 

"พอเรียนจบแล้ว นายอยากทำอะไรกันแน่? จะอยู่ญี่ปุ่นแล้วออกแบบรถไฟต่อรึเปล่า?"    อ่อ เรื่องนี้หรอกเหรอ

 

"หื๋อ? แล้วมันเกี่ยวกับอนาคตของเรายังไง?"    เขาพลิกกายกลับมามองหน้าพี่อี้หยางทั้งที่ยังคลุมโปง

 

"ก็ถ้านายจะอยู่ญี่ปุ่นต่อ ชั้นจะได้ซื้อบ้านที่นี่ แล้วก็ซื้อหุ้นของเจอาร์ด้วย"    สิ่งที่เสียงทุ้มพูดออกมาทำให้เขาหลุดหัวเราะเบาๆ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรอยู่ที่ไหนก็จะตามไปอยู่กับเขาสินะ

 

"งื้อ ไม่ต้องหรอก เพราะเฟยจะกลับอิตาลีอันที่จริงเฟยเซ็นต์สัญญากับเฟอร์รารี่ไปแล้วจะเป็นนักออกแบบรถซุปเปอร์คาร์ให้เฟอร์รารี่หม่าม้าจะได้ไปโฟกัสกับรถแข่งได้เต็มที่"    แล้วหลังจากที่เขาพูดจบ ใบหน้าหล่อเหลาก็ดูนิ่งอึ้งไป เหมือนมีแววไม่พอใจอะไรบางอย่างแฝงอยู่ในสายตาคู่นั้น?

 

"ทำไมชั้นไม่เคยรู้เลย?"    หรือว่าจะไม่พอใจที่ตัวเองไม่รู้เรื่อง?

 

"ขนาดอี้คุนยังไม่รู้เลย มีแค่ปะป๊ากับหม่าม้าที่รู้ มันยังเป็นความลับอยู่น่ะ"     เขาพยายามอธิบาย

 

"งั้นเหรอ"     พอบอกว่าขนาดอี้คุนก็ยังไม่รู้ ใบหน้าหล่อเหลาจึงยิ้มออกมาได้ ดูพึงพอใจที่ได้เป็นคนแรกๆที่รู้เรื่องของเขาขี้หวงไม่เบาเหมือนกันนะเจ้าสิงโตตัวนี้เขาลอบยิ้มอย่างเพลียๆ

 

"พี่ห้ามเอาไปบอกใครเลยนะ"     เขาเน้นย้ำกับอีกฝ่าย

 

"ครับ"    เสียงทุ้มตอบรับพร้อมกับรอยยิ้มน่าหมั่นไส้ พอได้เป็นคนสำคัญที่สุดของเขานี่ยิ้มใหญ่เลยนะ!

 

"ยิ้มอะไรเนี่ย? งื้อ"    มือบางยันใบหน้าคมให้หยุดยิ้ม

 

"แล้วไปเซ็นต์สัญญากันตั้งแต่เมื่อไหร่?"

 

"ก่อนที่จะมาฝึกงาน คุณครูเทโอ้ไม่ไว้ใจ กลัวเฟยไม่กลับไป สมเป็นซีอีโอปีศาจจริงๆ หงึ"

 

"อ๊ะ แล้วพี่ก็ไม่ต้องคิดจะไปซื้อหุ้นของเฟอร์รารี่เลยนะ!"

 

"รู้ทันอีก"    ใบหน้าหล่อเหลายิ้มแก้มยก แต่ถ้าเป็นครอบครัวเฟอร์รารี่เขาก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง คงไม่มีใครรังแกลูกกระต่ายของเขาได้แน่

 

"เอาเป็นว่า ชั้นจะขยายโรงจอดรถไว้รอก็แล้วกัน รุ่นOne-Offs ที่นายออกแบบจะเป็นของชั้นทั้งหมด"   รุ่นOne-Offs หรือSpecial Projects เป็นแคมเปญพิเศษของเฟอร์รารี่ที่มีไว้ให้ลูกค้าวีไอพีที่อยากมีรถซึ่งเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวไม่เหมือนใคร รถทุกรุ่นในซีรี่ย์นี้จะมีเพียงคันเดียวในโลก โดยลูกค้าสามารถเสนอไอเดียในการออกแบบตกแต่งรถได้ แล้วส่วนใหญ่แฟนคลับผู้คลั่งไคล้อาเซียวจ้านก็มักจะใช้วิธีนี้นี่แหละที่จะทำให้ได้เจอนักออกแบบรถในดวงใจเป็นการส่วนตัว เพราะงั้นเวลามีโปรเจคนี้ออกมาทีไร เขานี่แหละที่ต้องคอยเป็นไม้กันหมาและฉากบังหน้าให้อาอี้ป๋อ ที่บ้านเขามีรถที่ขึ้นชื่อรุ่นด้วย SP อยู่หลายคัน แน่นอนว่ามันล้วนแล้วแต่เป็นไอเดียของอาขี้หวงของเขาทั้งสิ้น ออกหน้ามาซื้อเองไม่ได้แล้วก็ไม่อยากให้ใครเข้าใกล้เมียตัวเอง เลยต้องใช้เขานี่แหละบังหน้า

 

"เดี๋ยวเถอะ ห้ามใช้เงินฟุ่มเฟือยนะ!"   แล้วก็ดูท่าว่าเจ้าลูกกระต่ายก็คงเหมือนอาสะใภ้ของเขาไม่มีผิด เขาจึงยกยิ้มแล้วเอ่ยออกไปอย่างหยอกเย้า

 

"เปย์ให้ภรรยาไม่ถือว่าฟุ่มเฟือย"

 

"ภะ ภะ ภรรยาอะไร! ไปไกลๆเลย!"    เจ้าลูกกระต่ายขี้อายตวัดตัวหนีไปอีกรอบ เขาจึงกอดโปงผ้าห่มนิ่งๆ จริงๆแค่ได้อยู่แบบนี้ทั้งวันก็ไม่คิดจะอยากออกไปไหนแล้ว

 

 

 

 

"พี่อี้หยาง"    ผ่านไปสักพักเสียงใสก็ทักขึ้นมา

 

"หื๋ม?"

 

"เฟยก็มีเรื่องจะถามพี่เหมือนกัน"    ร่างโปร่งพลิกกายกลับมาเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง

 

"อะไรล่ะ?"

 

"พี่เคยมีอะไรกับใครมาก่อนรึเปล่า? สารภาพมาซะดีๆ"     คำถามตรงไปตรงมานั่นทำเอาเขาชะงักงัน

 

"? อะไรทำให้คิดแบบนั้น?"

 

"ก็พี่ทำเป็น แถมยังรู้อีกว่าต้องทำยังไงถึงจะรู้สึกดีขนาดนี้ อ่ะ!งื้อ~!"    แล้วพอรู้ตัวว่าเผลอยอมรับว่าตัวเองก็รู้สึกดี มือบางจึงยกขึ้นมาปิดหน้าก่อนจะพลิกตัวหนีไปพร้อมด้วยใบหูแดงๆ 

 

ฮึเขาถึงกับยกยิ้มที่มุมปาก

 

"ก็เพราะว่าชั้นเก่งน่ะสิ ต่อให้ไม่เคยทำ แต่ถ้าจะทำไม่ว่าเรื่องอะไรชั้นก็ทำได้ แล้วก็ทำได้ดีทั้งนั้นแหละ"    เสียงทุ้มจงใจกระซิบอย่างเซ็กซี่ที่ข้างหู

 

"จริงไหม?"    เขาลอบยิ้มเมื่อมองเห็นต้นคอขาวถูกสีแดงค่อยๆฉาบไล้ขึ้นมา

 

"งื้อ"   เจ้าลูกกระต่ายเขินจนหน้าแดงกล่ำ

 

รู้ไหม ว่าชั้นใช้นายในจินตนาการเรื่องลามกมามากแค่ไหน ในหัวชั้นทำแบบนั้นแบบนี้กับนายมาตั้งไม่รู้กี่ร้อยกี่พันรอบ แค่ดึงออกมาใช้งานจริงนิดหน่อยมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ”    ริมฝีปากกดลงไปบนต้นคอแดงระเรื่อจนเจ้าลูกกระต่ายยิ่งเขินหนักยิ่งขดตัวเป็นก้อนกลม

 

งื้อ ไม่คุยด้วยแล้ว!”    เขามองคนอายด้วยรอยยิ้ม

 

แต่เป็นความจริงที่ว่าเขาไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงหรือผู้ชายที่ไหน ไม่เคยคิดจะใช้ใครเป็นตัวแทน เพราะในสมองและหัวใจของเขามีเพียงภาพของเฟยเฟยเท่านั้น

 

เซ็กส์ของเขา ไม่ว่าจะครั้งแรกหรือครั้งสุดท้ายก็จะเป็นหวังเฟยเฟยเพียงคนเดียว

 

ความแน่วแน่นี้เขามีมาตั้งแต่เมื่อ20ปีก่อนแล้ว 

 

หรืออาจจะยาวนานกว่านั้นมันเหมือนความรู้สึกนี้มันติดอยู่ที่จิตวิญญาณของเขามานานแสนนานแล้ว



 

 

 



นายใหญ่แห่ง Diamond crown จำต้องละจากห้องนอนออกมาอย่างน่าเสียดาย เขาละจากร่างกายที่ขดม้วนอยู่ในผ้าห่มอย่างอ้อยอิ่ง ใบหูบางแดงระเรื่อนั่นยิ่งทำให้เขาอยากจะกลับไปโอบกอดหยอกเย้าเจ้าลูกกระต่ายขี้อายเสียจริงๆ ทว่า

 

ก๊อกๆๆ

 

ใบหน้าหล่อเหลาถอนหายใจ เสียงเคาะประตูยังดังอยู่อย่างใจเย็น ถึงเจ้าอาเธอร์จะยังพยายามรักษามารยาทแต่ความถี่ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทำให้เขาจำต้องลุกขึ้นมา

 

ถึงจะดูเหมือนคนว่างงานแต่ที่จริงแล้วหวังอี้หยางคือประธานกลุ่มบริษัทที่งานยุ่งระดับโลกเลยละ และเพราะต้องเคลียร์ทุกอย่างเพื่อให้มีเวลามาอยู่กับเฟยเฟย ช่วงเวลาที่ต้องทำงานจึงยิ่งจริงจังและเข้มข้นกว่าปกติหลายเท่า

 

ขอโทษที่ต้องรบกวนครับนาย แต่เช้านี้มีประชุมกับทีมการตลาดของDiamond crownครับ ต่อด้วยพรีเซ็นต์จากทางหวังกรุ๊ปเซี่ยงไฮ้เรื่องแบบร่างโครงการคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำหวงผู่ครับ”     อ่าเขาลืมไปเลยว่ามีประชุมภายใน เขาถึงได้ออกมาจากห้องด้วยสภาพที่ยังอยู่ในชุดนอนแบบนี้

 

กี่โมงนะ?”

 

“.....8โมงครึ่งครับเอ่อในอีก10นาทีนี้ครับ…”    คุณเลขามือพระกาฬมองเจ้านายตัวเองอย่างมีเหงื่อหยด ก็ปกติแล้วหวังอี้หยางไม่เคยลืมเวลานัด ยิ่งเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมที่เนี้ยบตลอดเวลาก็ไม่เคยให้เขาต้องมาคอยจ้ำจี้จ้ำไชด้วย

 

เอ่อนายจะเปลี่ยนชุดก่อนไหมครับ…”    อาเธอร์ถามออกไปอย่างลังเล เพราะถึงจะหน้าสด ผมไม่ได้เซต และสวมชุดนอน แต่นายใหญ่ของเขาก็ยังหล่อมาก หล่อราวกับจะขึ้นไปเดินบนรันเวย์ได้ทุกเมื่อ ยังไงก็วีดีโอคอลจากที่บ้านอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเขายังว่าไม่เห็นจำเป็นจะต้องใส่สูทตลอดเลย

 

ไม่ต้องล่ะ ประชุมแบบนี้เลยแล้วกัน ผมรีบ มีอะไรให้เซ็นต์ก็เตรียมไว้เลย”    แล้วคำตอบของผู้เป็นนายก็ทำให้คุณเลขารู้สึกผิดคาด 

 

ครับนาย”    ร่างสูงใหญ่เดินตามนายเหนือหัวไปยังห้องที่เอาไว้ทำงาน

 

แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่อาเธอร์ที่อึ้ง แต่ทีมการตลาดทั้งทีมที่ส่งภาพตรงมาจากห้องประชุมที่ดูไบต่างก็มองนายใหญ่แห่ง Diamond crown ตาค้างพอๆกัน ลุคธรรมชาติๆแบบแฟนหนุ่มทำเอาพนักงานสาวๆถึงกับหน้าแดงเป็นแถบๆ

 

เริ่มกันเลยเถอะ วันนี้ผมรีบ ขอให้ตัดประเด็นที่ไม่จำเป็นออกไปก่อน”    เสียงทุ้มเปิดการประชุมโดยไม่สนใจใครต่อใครที่ยังอ้าปากค้าง คุณเลขาได้แต่ยิ้มบางๆ จะรีบไปไหนไม่ต้องบอกเขาก็รู้คงไม่พ้นเรื่องของคนที่ยังอยู่ในห้องนอนนั่นแหละ

 

แล้วการประชุมก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว หวังอี้หยางจบทุกคำถามด้วยการตัดสินใจที่เฉียบขาดและไม่ยอมให้เวลาของเขาเสียไปแม้แต่วินาทีเดียว ร่างสูงสง่าย้ายจากโซฟามาที่โต๊ะทำงานซึ่งมีแฟ้มเอกสารกองอยู่ตั้งใหญ่ 

 

เสียงลงน้ำหนักปากกาดังครืดๆอยู่นานในที่สุดเขาก็เซ็นต์เอกสารทั้งหมดนั่นเสร็จ

 

มือใหญ่วางปากกาลงก่อนที่ดวงตาคมกล้าจะเผลอมองไปที่นิ้วของตัวเองเข้า

 

ทุกความรู้สึกยังติดอยู่บนนิ้วของเขา ไม่ว่าจะสัมผัสที่นุ่มลื่นเหมือนจะดูดกลืนตัวตนของเขาเข้าไป ไม่ว่าจะแรงบีบรัดอย่างไร้เดียงสาที่ทำเอาแทบคลั่ง แค่คิดว่าหากสิ่งที่ผนังอ่อนนุ่มนั่นบีบรัดไม่ใช่นิ้วแต่เป็น…..

 

แค่คิดก็เหมือนเจ้าสิ่งที่อยู่กลางหว่างขาจะตื่นตัวได้ตลอดเวลาแล้ว 

 

อา~ อยากกลับไปฟัดเจ้าลูกกระต่ายแล้วแหะ

 

นายครับ ทีมดีไซน์เนอร์ส่งรูปสเก็ตเครื่องเพชรคอลเลคชั่นพิเศษที่ทำให้ชาแนลมาให้ดูครับ”    ยังดีที่เสียงของอาเธอร์เรียกเขากลับมา ใบหน้าร้อนๆจึงหันไปมองแท็บเล็ตที่คุณเลขายื่นให้

 

อืม ให้เตรียมพรีเซ็นต์ได้เลย ถ้าผมต้องไปด้วยก็ให้เค้าจัดตารางเวลามา”     เสียงทุ้มเอ่ยบอกหลังจากดูรูปเข็มกลัดเพชรที่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร บางทีกับแบรนด์ที่ไฮเอนด์มากๆเขาก็ต้องไปด้วยเพื่อเป็นการให้เกียรติอีกฝ่าย เพราะภาพลักษณ์และอำนาจต่อรองนั้นจำเป็นมากสำหรับเครื่องประดับราคามหาศาลพวกนี้

 

ครับ”    อาเธอร์รับแท็บเล็ตคืนไปก่อนจะทำสีหน้ากระอักกระอ่วน

 

แล้วก็นายครับคุณท่านเร่งมาอีกแล้วครับเรื่องดูตัว…”     อีกแล้วเหรอ

 

ถึงจะคิดว่าสมัยนี้แล้วยังมีการคลุมถุงชนกันอีกเหรอ แต่การที่เขาเป็นโสดมาจนอายุ34ปีโดยที่ไม่เคยมีข่าวเรื่องรักๆใคร่ๆ ไม่เคยควงหรือคบกับผู้หญิงคนไหน นอกจากสื่อในวงสังคมชั้นสูงจะคอยจับตามองแล้ว คุณปู่ของเขาเองก็เริ่มเป็นกังวลและพยายามจะหาผู้หญิงดีๆสักคนมาเป็นคู่ครองให้เขาตามแบบฉบับของทายาทเศรษฐีผู้ดีเก่าทั่วไป

 

“.....คงเลื่อนไม่ได้แล้วสินะ…”    ปลายนิ้วยาวเคาะลงไปบนโต๊ะอย่างใช้ความคิด

 

ว่าไงนะ?!”     แล้วจู่ๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นที่ประตูห้องทำงาน  เขาเงยหน้ามองอย่างตกใจ  เพราะอาเฟยยืนชะงักค้างอยู่ตรงนั้น

 

ดูตัว? ดูตัวอะไร? ใครจะไปดูตัว? พี่เหรอ?”    แย่ละสิเขาตั้งใจว่าจะจัดการเรื่องนี้เงียบๆโดยไม่ให้เฟยเฟยรู้ แต่เจ้าลูกกระต่ายดันบังเอิญมาได้ยินเข้าเสียก่อน

 

อืม คุณปู่จะจัดการให้ตั้งหลายปีแล้ว แต่ชั้นก็เลื่อนมาตลอด”    เฮ้อช่วยไม่ได้ถ้างั้นก็ขอดูหน่อยแล้วกันว่าเจ้าตัววุ่นวายจะทำยังไง เขาไม่ห่วงหรอกว่าเฟยเฟยจะนอยด์จะน้อยใจแล้วหนีไป เพราะนั่นไม่ใช่สไตล์ของเจ้าลูกกระต่ายขี้หวงที่ท้าตีกับทุกคนที่เข้ามายุ่งกับพี่ชายฝาแฝดของตนมาแล้ว

 

ขนาดแค่พี่ชายยังไปรบกับเค้ามาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ….แล้วคนรักอย่างเขา ไม่ต้องห่วงเลยว่าผู้หญิงที่ไหนจะได้เข้าใกล้

 

ฮึ่ม! ไม่ได้! ห้ามไป! เดี๋ยวเฟยจัดการเอง!”     ใบหน้ามนฟึดฟัดขึ้นมาทันทีแล้วนั่นก็ทำให้เขายิ้มแก้มปริ ผิดจากที่คิดเสียที่ไหน

 

ต่อให้เป็นคุณปู่ก็เถอะ จะมาทำแบบนี้กับคนของเฟยไม่ได้!”    ร่างโปร่งบางเดินตึงตังกลับห้องไป ส่วนเขาก็ได้แต่นั่งยิ้มแก้มแตกอยู่กับที่ จนทั้งเลขาทั้งบอร์ดี้การ์ดที่ยืนอยู่ในห้องต่างมองกันเลิ่กลั่กไปหมดเพราะไม่คิดว่าคนอย่างหวังอี้หยางจะเขินเป็นกับเขาด้วย

 

คนของเฟยเลยนะ! จะไม่ดีใจได้ไง!




 



ร่างสูงสง่าเดินตามไปดูว่าเฟยเฟยคิดจะทำอะไร เจ้าลูกกระต่ายกำลังหน้าหงิกหน้างอยกหูโทรศัพท์รอคุยกับใครอยู่ แล้วพอปลายสายกดรับ เสียงใสก็ใส่เป็นชุดทันที

 

คุณปู่! คุณปู่จะให้พี่อี้หยางไปดูตัวเหรอครับ?! ไม่ได้นะ! ถ้าพี่อี้หยางไปแล้วเฟยจะอยู่กับใครอ่ะ? ไม่มีคนไปรับไปส่งเฟย ถ้าเฟยเดินไปทำงานแล้วโดนรถชนตายขึ้นมาว่าไง? ถ้านั่งแท็กซี่แล้วโดนจับไปเรียกค่าไถ่จะทำไง? เฟยนั่งรถไฟเองไม่เป็นด้วยเกิดหลงทางแล้วกลับบ้านไม่ได้กลายเป็นเด็กเร่ร่อนต้องเป็นดราม่าระดับชาติแน่ๆ เพราะงั้นตลอดช่วงที่เฟยอยู่ญี่ปุ่น ห้ามพี่อี้หยางไปดูตัวเด็ดขาดเลย แค่นัดเจอกันก็ไม่ได้ พี่อี้หยางต้องอยู่เป็นเพื่อนเฟย!

 

เจ้าลูกกระต่ายงอแงใส่ปลายสายเป็นชุด แล้วก็มีแต่เรื่องของตัวเองทั้งนั้นอีกแหน่ะ ลองเป็นคนอื่นไปพูดแบบนี้ใส่ปู่เขาคงได้โดนกระสุนปืนใหญ่ยัดปากแน่ แต่พอเป็นเฟยเฟยแล้ว….

 

“.....ให้ปู่กับย่าไปอยู่เป็นเพื่อนเราแทนอี้หยางได้ไหมล่ะ? ช่วงที่พี่เค้ามาดูตัว แค่วันเดียวเอง

 

งื้อ ไม่เอาหรอก พี่อี้หยางไปต่อคิวซื้อขนมให้เฟยด้วยนะ จะให้คุณปู่ไปยืนขาแข็งแบบนั้นได้ไง เนี่ย เฟยเป็นห่วงคุณปู่นะ ไม่รู้แหละ เฟยไม่ให้พี่อี้หยางไปดูตัวแน่ พี่อี้หยางต้องอยู่กับเฟย!”    ได้ยินเสียงถอนหายใจอย่างยอมแพ้ดังมาจากปลายสาย ก็นะ ใช่ว่าเจ้าตัววุ่นวายประจำบ้านจะเอาแต่ใจแบบนี้วันแรกเสียเมื่อไหร่ แต่ปกติแล้วจะเป็นหวังอี้คุนมากกว่าที่เจ้าลูกกระต่ายไม่ยอมให้ห่างตัว 

 

เวลาคุณปู่วางแผนว่าจะทำอะไรมักไม่เคยผิดพลาดเพราะไม่เคยมีใครกล้าขัดคำสั่ง จะมีก็แต่เจ้าลูกกระต่ายนี่แหละที่ทำให้แผนของคุณปู่พังไม่เป็นท่ามานับครั้งไม่ถ้วน ครั้งนี้ก็เช่นกัน

 

“....เข้าใจแล้ว ถ้างั้นปู่จะเลื่อนนัดออกไปก่อนแล้วกัน

 

เย้~ เฟยรักคุณปู่ที่สุดเลย~”    ป่านนี้คงยืนยิ้มแก้มปริอยู่แน่ๆคุณปู่ผู้ดุดันของเขา 

 

คุณปู่เคยเป็นพ่อและเป็นปู่ที่น่ากลัวมากสำหรับเขากับอาอี้ป๋อ คุณปู่เคยเป็นคนที่ยอมหักแต่ไม่ยอมงออย่างเด็ดขาด แต่แล้วคุณปู่ก็ค่อยๆเปลี่ยนไปตั้งแต่เด็กแฝดลืมตาดูโลก

 

ต้องบอกว่าคนที่เปลี่ยนคุณปู่คือเจ้าลูกกระต่ายมากกว่า เพราะถ้ามีแต่ลูกสิงโตตามลำพัง หวังอี้คุนก็คงต้องเจออย่างที่เขากับอาอี้ป๋อเคยเจอมา

 

คุณปู่ยอมเปิดใจกับอะไรหลายๆอย่างก็เพราะเฟยเฟย เจ้าลูกกระต่ายที่หน้าตาน่ารักและขี้อ้อนไม่ธรรมดา เรื่องอะไรที่คุณปู่ไม่เคยยอมใคร ก็ยอมให้เฟยเฟยหมด

 

 

 

คุณปู่ยอมเลื่อนนัดดูตัวออกไปก่อนในระหว่างที่เฟยยังอยู่ญี่ปุ่นแต่ก็คงเลื่อนได้อีกแค่เดือนสองเดือนเท่านั้นแหละ เราคงต้องคิดหาทางอื่นแล้ว พี่ได้คิดเอาไว้บ้างรึเปล่า?”     เฟยเฟยวางโทรศัพท์ลงก่อนจะหันมาคุยกับเขาด้วยสีหน้าจริงจัง การที่เฟยเฟยคิดเรื่องของเราสองคนแบบนี้ทำให้หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่นจนเผลอยิ้มละมุนออกไป

 

คิดสิ วิธีรับมือกับคุณปู่เรื่องของนายน่ะ ชั้นคิดมาตลอดยี่สิบปีนี่แหละ

 

อ่ะ…”     ใบหน้ามนชะงักไปน้อยๆก่อนจะมีท่าทางเขินๆกับคำพูดของเขา

 

ละ แล้ว ต้องทำยังไง…”

 

ฮึ”     ใบหน้าหล่อเหลายื่นหน้าไปมองแก้มแดงระเรื่อใกล้ๆ

 

อะ อะไรเล่า~ นี่เฟยซีเรียสนะเนี่ย เฟยไม่ยอมยกพี่ให้ใครเด็ดขาดเลย! พี่เป็นของเฟยแล้วเมื่อคืน!”    มือบางพยายามยันหน้าเขาออกมา ประโยคหวงของที่หลุดออกจากปากเจ้าตัวดีทำให้เขายิ้มแก้มปริ

 

เหรอ? ชั้นเป็นของนายไปแล้วสินะ?”   เสียงทุ้มเอ่ยหยอกเย้า

 

ง่ะ! งื้อ!!!”    คนอายขบเขี้ยวเคี้ยวฟันจนเขาหลุดหัวเราะด้วยความสบายใจ

 

ฮึ ฮึๆๆ”    เป็นความสบายใจอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ก่อนหน้านี้มีแต่เขาที่คอยไล่ตามเฟยเฟยเพียงฝ่ายเดียว ถึงจะเป็นหวังอี้หยางก็ไม่ได้มีความมั่นใจนักหรอกนะว่าอีกฝ่ายจะยอมรับรักตน

 

แต่พอเห็นเฟยเฟยเป็นแบบนี้เขาจึงรู้สึกอุ่นใจ วางใจ และไม่ต้องหวาดกลัวว่าจะโดนใครแย่งไปอีกแล้ว

 

มือใหญ่เอื้อมไปจับมือบางเอาไว้ก่อนจะมองหน้าด้วยสายตาแน่วแน่

 

เฟยเฟย นายพร้อมที่จะเดินไปกับชั้นไหม?”   ใบหน้ามนมองเขางงๆว่าจะเดินไปไหนก่อนจะตอบกลับมา

 

“....พะพร้อมก็ได้?”

 

ถ้างั้นก็ไปกัน”   มือใหญ่ดึงมือบางให้ก้าวเดินไปด้วยกัน 

 

เอ๊ะ? ไปนี่คือ? ???”

 

หากมีปัญหาก็ต้องแก้ที่ต้นเหตุของปัญหา เรื่องนี้ไม่ว่าใครก็รู้

 

 

 

 



เพราะฉะนั้นอีกสามชั่วโมงให้หลัง เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวของหวังอี้หยางจึงแลนดิ้งลงที่สนามบินปักกิ่ง ประเทศจีน

 

 

 

ลีมูซีนจอดลงที่หน้าบ้านใหญ่ตระกูลหวังโดยไม่ได้มีการนัดหมายมาก่อน ร่างสูงสง่าของทายาทลำดับที่หนึ่งก้าวขาลงมายืนก่อนจะติดกระดุมเสื้อสูทให้เรียบร้อย

 

บ้านที่ไม่ได้กลับมาพักใหญ่ยังคงดูหม่นหมองสำหรับเขาไม่เปลี่ยน

 

ถึงเขาจะไม่ได้เกิดที่นี่โตที่นี่ แต่เขาก็สัมผัสเรื่องราวของมันได้ ผ่านความเศร้าของพ่อเขาที่ต้องใช้ชีวิตอย่างกับคนตายมาไม่รู้กี่สิบปี

 

ทั้งๆที่พ่อเป็นคนเก่งขนาดนั้นแท้ๆ

 

 

คุณปู่~”    เสียงใสของเจ้าลูกกระต่ายที่วิ่งถลาเข้าไปหาคนที่ออกมารับทำให้เขากลับมาโฟกัสที่ปัจจุบัน

 

อาเฟย? อี้หยาง?”    ใบหน้าของคุณปู่เต็มไปด้วยความประหลาดใจที่เห็นเขาสองคนยืนอยู่ตรงนี้

 

อาเฟยมาเหรอคะ?”    คุณย่าเดินตามออกมาด้วยสีหน้าที่แปลกใจพอกัน เพราะเขามาโดยไม่ได้บอกกล่าว

 

อ่ะ คุณย่า~ คิดถึงจังเลย ไม่เจอกันตั้งนาน~”    ภาพเจ้าลูกกระต่ายโผกอดคุณย่าแล้วทำหน้าอ้อนไปมานั่นทำให้เขาอมยิ้มได้ทุกครั้งที่เห็นจริงๆ

 

เกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ๆก็มาถึงนี่? แล้วยังพาน้องมาด้วยอีก อาเฟยไม่ต้องไปทำงานรึ?”    พวกเขาย้ายไปนั่งคุยกันในห้องนั่งเล่นที่ล้อมรอบไปด้วยสวนร่มรื่น  ชาหอมกรุ่นถูกยกมาเสิร์ฟเขาจึงยกมันขึ้นจิบอย่างใจเย็น ใบหน้าหล่อเหลาไร้ซึ่งความกังวลถึงแม้เรื่องที่จะพูดนั้นเป็นเรื่องซีเรียสสำหรับใครหลายๆคน

 

ผมจะมาคุยกับคุณปู่เรื่องดูตัวน่ะครับ ว่าไม่ต้องเลื่อนนัดแล้วครับ”    มือใหญ่วางถ้วยชาลงพร้อมกับสายตาหลุบต่ำ ส่วนคนที่นั่งฟังอยู่อย่างคุณปู่กับเฟยเฟยต่างก็หันมามองเขาเป็นตาเดียว สีหน้าของทั้งสองคนดูแตกต่างกันมาก คุณปู่ดูจะดีใจเพราะคิดว่าในที่สุดเขาคงจะยอมไปให้เสียที ส่วนเฟยเฟยก็เริ่มหน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะกลัวว่าเขาจะยอมไปดูตัว

 

แกจะไปงั้นรึ?”    ถึงจะไม่ได้ยิ้มกว้างแต่คุณปู่ก็ดูมีความหวัง

 

ไม่ใช่ครับ ไม่ต้องเลื่อน แต่ยกเลิกไปเลยครับ”     แต่แล้วคำพูดไร้เยื่อไยของเขาก็ทำให้สีหน้าของคุณปู่เปลี่ยนไปในชั่วพริบตา

 

“.....”    จากที่กำลังอารมณ์ดีนายเหนือหัวของตระกูลหวังกลับค่อยๆเปลี่ยนสีหน้าเป็นเรียบเฉยมากยิ่งขึ้น ดูก็รู้ว่ากำลังไม่พอใจในคำพูดของหลานชาย แต่หวังอี้หยางก็ยังคงพูดด้วยเสียงเยือกเย็นอย่างไม่ได้กลัวเกรงต่อไป 

 

ผมไม่สามารถแต่งงานกับเธอหรือผู้หญิงคนไหนได้ครับ”     

 

“....ต้องมีเหตุผลที่ดีพอนะถึงจะมาพูดแบบนั้นกับฉันได้”   บรรยากาศในห้องนั่งเล่นกดดันขึ้นเรื่อยๆจนคุณย่าที่นั่งฟังอยู่ด้วยถึงกับบีบมือ ไม่ได้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นที่นี่มานานแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ท่านนายพลทะเลาะกับลูกก็ตอนที่อี้ป๋อมาบอกว่าจะให้กำเนิดลูกชายสองคนด้วยการทำเด็กหลอดแก้วเลยมั้ง หลังจากนั้นก็ไม่เคยทะเลาะกันอีกเลยเพราะอี้หยางเองก็ทำตัวอยู่ในโอวาทมาตลอด

 

“....ผมมีคนรักอยู่แล้วครับ”    แต่แล้วสิ่งที่หลานชายหัวแก้วหัวแหวนเอ่ยออกมาก็ทำให้สองปู่ย่าทำหน้าประหลาดใจที่สุดแล้วในวันนี้

 

ว่าไงนะ? แต่แกไม่ได้คบกับใครอยู่ไม่ใช่รึไง? ฉันไม่เคยเห็นแกสนใจผู้หญิงที่ไหน?”    คุณปู่ดูจะอึ้งๆแต่ก็ไม่ได้โมโหแต่อย่างใด คงจะคิดว่าขอให้มีเถอะไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็พร้อมจะไปสู่ขอให้เพราะเชื่อใจว่าหวังอี้หยางต้องเลือกมาอย่างดีแล้ว

 

จนกระทั่งได้ฟังคำตอบจากปากหลานชายว่าคนรักคนนั้นคือใคร

 

ครับ เพราะคนที่ผมรัก คนที่ผมสนใจ คนที่อยู่ในสายตาของผมมาตลอด มีอยู่แค่คนเดียวเท่านั้น

 

 

นั่นก็คือเฟยเฟย

 

 

หะ?”    สีหน้าของผู้นำตระกูลหวังเปลี่ยนไปทันที ยิ่งได้ฟังประโยคเน้นย้ำก็ยิ่งทำให้สองมือสั่นระริก

 

 

 

คนที่ผมรัก คือหวังเฟยเฟยครับ



 

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

 

520 N.

To be con.



คะ คุณกวางพยายามแล้วพยายามจะปั่นให้ทันวันเกิดพี่จ้านแล้ว….แต่มันก็ไม่ทั๊นนนน แง้ เค้าขอโต้ด~~ ติดฉากNCนั่นแหละขอสารภาพ 5555

 

ยังไงก็ขอแฮปย้อนหลังนาคะพี่จ้าน~ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ราบรื่นไปหมด ใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการและมีแต่ความสุข ขอให้รอยยิ้มสวยๆเบ่งบานอยู่บนใบหน้าพี่จ้านตลอดไปนะคะ จุ๊ฟๆ 

 

ส่วนพี่อี้หยางของเราก็ต้องมาลุ้นกันต่อไปว่าจะโดนคุณปู่เอาเลือดหัวออกหรือไม่555 พระเอกตายตอนหน้าเป็นอันจบเรื่องราวสุดจะดราม่า555 ยังไงก็ขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆการติดตามมากๆนะคะ ขอบคุณทุกๆหัวใจและทุกๆโดเนทด้วยนะคะ ล่าสุดนี้มีคอมเม้นต์ที่ทำเอาปิ๊งๆๆมากเลยค่ะ5555 ก็คือ มีคนอ่านฟิคเราแล้วชอบF1ตามก็ว่าปลื้มปริ่มสุดๆๆๆแล้วนะคะ แต่พีคถึงขนาดบินไปดูแข่งที่สิงคโปร์ด้วย คือกรี๊ดดดดดมาก >/////< 555 ทางนี้เองก็ชอบF1จากการหาข้อมูลแต่งฟิคเช่นกันค่ะ555 GLIDEก็เป็นฟิคที่เปิดโลกใบใหม่ให้ไรท์เช่นกัน >////<  ขอบคุณที่มาเล่าสู่กันฟังนะคะ ดีใจมากๆเลยค่ะที่ได้รู้ว่ามีคนชอบผลงานของเราขนาดนี้ ชอบอ่านทุกๆคอมเม้นต์เลยค่ะ แต่ละคอมเม้นต์ถึงจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆแต่ก็ช่วยเป็นกำลังใจให้คนแต่งได้มากมายจริงๆๆๆค่ะ

 

เดือนที่แล้วคุณกวางไม่ได้หายไปไหน แต่แว่บไปปั่นฟิคเรื่อง Honey so Sweet มาค่ะ ใครสนใจเรื่องเกี่ยวกับวงการนักวาดมังงะและอนิเมะของญี่ปุ่นก็ลองอ่านดูล่ายน้า มีป๋อจ้านเป็นหนึ่งในสามคู่ของเรื่องด้วยค่ะ 555 เป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้เลิฟสตอรี่น่ารักๆอ่ะนะค่ะ พิจ้านเป็นนักวาดการ์ตูนตาหวานชื่อดังที่มีเซอร์เคิลโดจินวายเป็นของตัวเอง?! ส่วนป๋อเป็นนายแบบที่บังเอิญมาอยู่ข้างห้องและต้องคอยเก็บศพ(?)ที่นอนตายเรี่ยราดหลังจากส่งงานเสร็จ ^ ^ โลเคชั่นจะอยู่ในญี่ปุ่นล้วนๆ ลองแวะไปอ่านกันน้า

 

แล้วเจอกันตอนหน้าค่า

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น