ป๋อจ้าน Au S.Fic [หวังอี้ป๋อ x เซียวจ้าน] Juunana Sai : 17ฝน : 07
:
ป๋อจ้าน Fanfiction Au
:
หวังอี้ป๋อ x เซียวจ้าน
:
Period / Romance / Suspense / Mystery / Crime
:
NC-17
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย
หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
: เนื้อเรื่องต่อไปนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน
ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจริงนะคะ
- วันนี้คุณครูเตือนเรื่องพายุเข้า
แต่งานที่สภานักเรียนก็เยอะจนผมไม่มีเวลาไปเก็บผ้าที่ตากไว้
ลมแรงมาก
ผ้าผืนหนึ่งปลิวเข้าไปในอาคารพยาบาลร้าง
ผมไม่อยากเข้าไปที่นั่นเลย
แต่ถ้าไม่ไปเอาวันนี้มันอาจจะหายไปเพราะผมคงต้องติดอยู่ในอาคารหอพักอีกหลายวันเพราะพายุ
ผมเจอเขาที่นั่น
เขานอนขดตัวหลับปุ๋ยราวกับแมวและไม่ได้รู้เลยว่าพายุกำลังจะมา
–
- รู้จักกันแล้วแท้ๆ
แต่ตอนเดินสวนกันเมื่อเช้าเขากลับทำเหมือนจำไม่ได้
ว่าใครเป็นคนลากเขากลับหอพักในวันที่พายุกำลังจะมา
วันนี้ฝนก็ยังตกหนัก
พวกเราออกไปไหนไม่ได้ –
- โชโงะ
อัยและพรรคพวกหาเรื่องเขาอีกแล้ว
แค่แม่เขาเป็นเกอิชาใช่ว่าเขาจะต่ำต้อยกว่าคนอื่น
เจ้าห้าคนนั้นต่างหากที่นิสัยแย่เสียยิ่งกว่า
ผมเลยใช้กฎของโรงเรียนเล่นงานพวกนั้นไป
–
- ดูเหมือนเขาจะชอบเซริซาว่าซังนะ?
เห็นชอบไปแอบดูที่ห้องดนตรีบ่อยๆ
แต่กับผม...เขาก็ยังทำเหมือนจำไม่ได้เช่นเคย
–
- ทำไมพวกนั้นถึงชอบแกล้งเขานัก
แต่ทุกครั้งที่ผมเข้าไปช่วย
เขาก็จะแค่ขอบคุณเบาๆแล้วรีบวิ่งหนีไป
รังเกียจผมหรือยังไง? –
- ถึงจะรู้ว่าเขาเอาแต่หนีผม
แต่ทุกครั้งที่เห็นใครรังแกเขา
ผมก็อดเข้าไปขวางไม่ได้
ถึงจะไม่ได้รับคำขอบคุณก็ไม่เป็นไร
นับวันผมยิ่งละสายตาจากเขาไม่ได้ -
- ผมคิดว่าเขาต้องซ่อนตัวอยู่ในอาคารพยาบาลร้างแน่ๆ
เพราะที่นั่นไม่มีใครอยากเข้าไป
ผมจึงลองไปหาเขาที่นั่น
ผมเจอเขาจริงๆ
เขานอนหลับเหมือนวันแรกที่เจอกันไม่มีผิด
ผมนั่งรอจนกว่าเขาจะตื่น -
- เมื่อวานเป็นครั้งแรกที่ผมโดนทำโทษเพราะผิดกฎเสียเอง
ผมนั่งรอเขาตื่น จนผมเผลอหลับไปเสียเอง
เมื่อต่างคนต่างตื่นขึ้นมาอีกทีฟ้าก็มืดแล้ว
เรากลับมาไม่ทันเวลาเช็คชื่อที่หอ
และผมก็โกหกคุณครูเป็นครั้งแรก
ผมบอกครูว่าผมให้เขาช่วยงานอยู่ในห้องสภาเลยมาเช็คชื่อไม่ทัน
เขาดูร้อนลนมากที่ผมช่วยเขาด้วยการโกหกแบบนั้น
แต่ผมกลับรู้สึกสนุก
เพราะเขา ผมจึงหลุดออกมาจากโลกที่มีแต่กฎระเบียบได้
-
- วันนี้ผมไปหาเขาที่อาคารพยาบาลร้างอีก
น่าแปลก...อยู่ที่นี่เขาไม่ยักหนีผม
เขาโค้งให้ผมจนหน้าผากแทบจะชิดต้นขาแล้วพูดแต่คำว่าขอโทษ
ผมงงไปหมด
หลังจากที่ได้นั่งคุยกันดีๆ
ผมจึงเพิ่งรู้ว่า ที่เขาหนีผม
เป็นเพราะเขาหวังดีกับผมจากใจจริง
เขาไม่อยากให้ผมโดนหางเลขไปด้วย
ไม่อยากให้ผมโดนดูถูกเหยียดหยามไปด้วย
ไม่อยากให้ใครรู้ว่าผมอยู่ข้างเขา
ต่อหน้าคนอื่นๆเขาจึงพยายามทำเป็นไม่รู้จักผม
ผมแทบจะถอนหายใจออกไปแรงๆ
ผมนึกว่าเขาเกลียดผมเสียอีก
แต่ถึงจะเข้าใจกันแล้ว
เขาก็ยังไม่ยอมให้ผมเปิดเผยต่อคนอื่นๆ
ว่าเราเป็นเพื่อนกัน
อยู่ที่นี่จะทำอะไรก็ได้
แต่ถ้าอยู่ที่อื่นเราจะไม่รู้จักกัน
แน่นอนว่าผมคัดค้าน
แต่พอเห็นเขาทำหน้าเศร้า
ผมก็ต้องยอมเขา -
- ถึงจะปกป้องเขาในฐานะเพื่อนไม่ได้
แต่ผมก็ยังใช้อำนาจของสภาปกป้องเขาได้อยู่
แล้วยิ่งหมู่นี้โชโงะ
อัยถูกพักการเรียนเพราะไปหาเรื่องเซริซาว่าซัง
พวกห้าคนนั่นก็เลยสงบเสงี่ยมขึ้นมาก
ขอบคุณเซริซาว่าซังจริงๆที่ดัดสันดานของพวกนั้นให้
-
- ที่แท้เขาชอบเสียงไวโอลินของเซริซาว่าซังนี่เอง
ถึงได้คอยไปแอบฟัง
ไม่รู้ทำไมผมถึงได้โล่งใจขนาดนี้ -
- คืนนี้มีงานเทศกาลที่ศาลเจ้าในเมือง
นักเรียนส่วนใหญ่ลงเขาไปงานกันหมด
แต่ผมมีนัดกับเขา
เราเล่นพลุไฟเย็นเล็กๆกันที่ป่าหลังอาคารพยาบาล
ผมเพิ่งรู้ว่ามันสนุกมาก
หรือจะเป็นเพราะอยู่กับเขากันนะ?
ที่โรงเรียนก็มองเห็นพลุ
เรายืนดูพลุอยู่ด้วยกัน
สวยมาก...
ผมหมายถึงเขาที่อยู่ในชุดยูกาตะ -
- อาคารพยาบาลร้างกลายเป็นฐานทัพลับของเรา
เรานัดเจอกันที่นั่นทุกคืน -
- เขาเล่าเรื่องที่บ้านให้ฟัง
ถึงจะไม่มีพ่อ แต่แม่ก็รักเขามาก
เราแลกเปลี่ยนเรื่องราวของกันและกัน
แม้แต่เรื่องในโรงเรียน
ในสภานักเรียน ผมก็เล่าให้เขาฟังหมด
ผมสบายใจทุกครั้งที่อยู่กับเขา
ผมไม่ต้องใส่หน้ากากนักเรียนดีเด่น
ผมสามารถเป็นซาคาโมโต้
คาโอรุได้เมื่ออยู่กับเขา -
- การได้นอนอยู่บนตักเขาราวกับผมได้รับการปลอบโยน
คืนนี้ผมไม่ได้กลับไปนอนที่หอ -
- ความสัมพันธ์ของเรายิ่งถลำลึกขึ้นเรื่อยๆ
ผมคงตกหลุมรักรอยยิ้มของเขาเข้าให้แล้ว
-
- เขาหลบหน้าผมและไม่มาที่อาคารพยาบาลร้างอีก
ผมเข้าใจและรู้ว่าเขาเองก็คงจะรู้สึกแบบเดียวกัน
ผมเองก็สับสน ผมนอนคิดอยู่หลายวัน
แต่ไม่ว่าจะคิดเท่าไหร่
หัวใจผมก็ยังร้องหาแต่เขา -
- ในหัววุ่นวายไปหมด
ผมทนไม่ไหวแล้ว
เลยไปที่อาคารพยาบาลร้าง เจอเขาเข้าพอดี
เขาเองก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน
เขาบอกเขาพยายามจะลืมผม
แต่ก็ทำไม่ได้
ผมจึงถามเขาออกไปตรงๆ ว่าคบกันไหม?
เขานิ่งค้างไปนานจนผมนึกว่าเขาตกใจตายไปแล้ว
แต่จู่ๆเขากลับน้ำตาไหล
เขาร้องไห้จนผมทำอะไรไม่ถูก
เขาบอกผมว่าเขาทั้งดีใจและทั้งเกลียดตัวเอง
ที่ทำให้ผมบิดเบี้ยว
ผมแค่รักเขา
ผมกอดเขานานเป็นชั่วโมงกว่าเขาจะสงบลง
เขาบอกรักผมและหากวันหนึ่งต้องเลิกลากันไป
ถ้าผมถูกที่บ้านจับหมั้นหมายกับหญิงอื่น
เขาก็จะไม่ว่าอะไร
ผมดีใจมากที่เขายอมรับหัวใจตัวเองเสียที
แต่ผมจะไม่ยอมให้มีวันที่เขาพูดถึง
ผมจะคัดค้านที่บ้าน
ไม่ว่ายังไงผมก็จะเลือกเขา -
- ท้องฟ้าที่อึมครึมหายไปแล้ว
ตอนนี้เราคบหากันแบบคู่รัก
เขาน่ารักมาก
ผมอยากเก็บรอยยิ้มน่ารักๆของเขาไว้
ผมจึงเอากล้องของสภานักเรียนมาถ่ายรูปเขา
เราไปที่ริมแม่น้ำด้วยกัน -
- วันนี้ ผมจูบเขา
ในโรงเก็บอาหารของโรงเรียน
สถานที่ไม่โรแมนติกเอาเสียเลย
แต่เขาน่ารักมากจนผมทนไม่ไหว –
- วันนี้เราไปอาคารพยาบาลร้างในตอนกลางวัน
เขาเรียนไม่เก่งเอาเสียเลย
ผมสอนการบ้านเขาหลายข้อ
เขาตั้งใจมาก
เขาบอกอยากมีอนาคตที่ดี
เขาอยากอยู่ข้างๆผมและจะไม่ทำให้ผมอับอาย
หัวใจผมเต้นแรง
เขาจีบผมอยู่ใช่ไหม?
ผมหยอกเย้าเขา เขาอายได้น่ารักมาก –
- เขายังชอบแอบไปดูเซริซาว่าซังสีไวโอลิน
เขาชอบเสียงของมันมาก
จนผมหยอกเขาไป
ว่าผมไปขอเรียนจากเซริซาว่าซังบ้างดีไหม?
เขาไม่ห้ามแถมยังทำตาเป็นประกายอีก
ไม่นะ –
- พรุ่งนี้ก็ปิดเทอมแล้ว
ผมและเขาต้องแยกย้ายกันกลับบ้าน
เราจะไม่ได้เจอกันหนึ่งเดือน
ผมต้องคิดถึงเขาแย่แน่ๆ
คืนนี้เราเลยนัดเจอกัน
ผมทนไม่ไหว ผมขอกอดเขา
เขาพยักหน้าเบาๆ
เรามีอะไรกัน –
- บ้านที่ไม่มีเขานั้นว่างเปล่าจริงๆ
ผมไม่ได้เล่าเรื่องของเขาให้แม่ฟัง
ผมอยากให้แม่เจอตัวเขาโดยตรง
เขาน่ารักขนาดนี้ แม่ต้องชอบเขาแน่ๆ
ผมคิดถึงเขาเหลือเกิน –
- ปิดเทอมช่างยาวนานเสียจริง
ผมพยายามทำอย่างอื่นและคิดถึงเขาให้น้อยลงบ้าง
แต่ทำไม่ได้เลย –
- ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว
ผมรีบมาโรงเรียนก่อนถึงสามวัน
ผมรู้ว่าเขาก็คิดถึงผมมากเช่นกัน
ในโรงเรียนที่ยังไม่มีใครมา
แต่ผมกลับเจอเขายืนยิ้มอยู่หน้าหอพัก
ผมกอดรัดเขาด้วยความคิดถึง
ตั้งแต่ในห้องนอนของผมไปจนถึงในห้องอาบน้ำ
ผมไม่ห่างจากตัวเขา
เรามีอะไรกันทั้งวันทั้งคืน –
- เขาต้องหนีผมไปปิ้งมันเผาอยู่ในป่าหลังโรงเรียน
ไม่งั้นผมคงไม่ยอมปล่อยเขาออกจากอ้อมแขน
ทำไงได้ผมคิดถึงเขาเหลือเกิน
เรานั่งเล่นอยู่ในป่าแบบนั้นทั้งวัน
วันนี้คนอื่นๆเริ่มกลับมากันแล้ว –
- ฤดูใบไม้ผลิไม่ได้มีแค่ดอกซากุระ
ผมไปเก็บดอกเนโมฟีลาจากในป่ามาให้เขา
มันเพิ่งจะบานและมีอยู่ไม่กี่ต้น
เขาอมยิ้มและดูจะชอบมันมาก
ดอกไม้ดอกน้อยๆที่มีสีฟ้าสดใส
เขาเอามันใส่ขวดน้ำไว้แล้วจ้องมองมันทั้งวัน
ส่วนผม ก็มองเขาอีกที -
- ผมจับมือเขาเดินฝ่าป่ารกครึ้มไปเรื่อยๆ
สองขาโดนหญ้าปาดบ้างแต่ใบหน้าของเราทั้งคู่กลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ใกล้จะหมดฤดูร้อนแล้วผมจึงอยากให้เขาได้เห็น
พอหลุดจากแนวป่าก็กลายเป็นทุ่งเวิ้งว้าง
ทั้งทุ่งเต็มไปด้วยดอกเนโมฟีลา
เขายืนตะลึงตาค้าง
แต่ตัวเขาที่ยืนอยู่ท่ามกลางดอกไม้สีฟ้าพวกนั้นกลับงดงามยิ่งกว่า
-
- ผมวางแผนอนาคตไว้หมดแล้ว
และวันนี้ผมก็เล่าให้เขาฟัง
เขายิ้มและดูดีใจมาก
ผมสัญญาว่าจะอยู่กับเขาตลอดไป –
- อาคารพยาบาลร้างยังคงเป็นบ้านของผมกับเขา
เรายังเจอกันทุกวันเหมือนเดิม
เขาไม่เข้าใจสิ่งที่คุณครูสอนจึงมาถามผม
เขาตั้งใจเรียนมากจริงๆ
เราจะต้องมีชีวิตที่ดีอยู่ด้วยกัน
-
- คืนนี้หิมะตก
เซริซาว่าซังสีไวโอลินอีกแล้ว
ผมรู้เลยว่าเขาจะต้องไปอยู่ที่ไหนสักที่ที่จะสามารถฟังเสียงนั้นได้ชัดเจน
ทั้งๆที่เรานัดกันไว้แท้ๆนะ
สงสัยผมคงต้องไปเรียนไวโอลินจริงๆเสียแล้ว
ผมไปตามหาเขาก่อน –
ข้อความหมดลงเพียงแค่นั้น
แต่สิ่งที่ทำให้สารวัตรหนุ่มแห่งสถานีตำรวจมัตสึโมโตะถึงกับขนลุกก็คือหน้าสุดท้ายของบันทึกเล่มนี้
มันไม่ได้มีตัวอักษรใดๆ
แต่ทั้งหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยขีดที่ดูไม่รู้เรื่องละเลงอยู่มากมาย...ราวกับคนเขียนไม่สามารถจะระบายมันออกมาเป็นคำพูดได้
แต่สิ่งที่อัดแน่นอยู่ในใจนั้นกลับมีมหาศาล
เส้นที่พันกันยุ่งเหยิงไปหมดเหมือนถูกขีดซ้ำๆซ้ำๆ
ขนาดคนนอกอย่างเขามองแล้วยังรู้สึกถึงพลังแห่งความเคียดแค้นที่แผ่ออกมา
อีกทั้งบางจุดยังมีรอยเหมือนถูกน้ำหยดใส่ หมึกที่เลอะซึมกระจายบ่งบอกว่าคนเขียนคงจะร้องไห้ไปด้วยแน่นๆ
ดีไม่ดี
บันทึกหน้าสุดท้ายนี้อาจจะถูกเขียนขึ้นในวันที่คิมิสึกิ วายะโดดตึกฆ่าตัวตายก็ได้
นายตำรวจหนุ่มปิดบันทึกลงก่อนจะนึกทบทวนเรื่องราวทุกอย่าง
จากในบันทึกเล่มนี้มีความเป็นไปได้มากว่าคิมิสึกิ
วายะอาจจะไม่ได้ฆ่าตัวตายเอง แต่มีคนทำให้ตกลงมาจากหอคอย...
เพราะคิมิสึกิ
วายะในบันทึกของซาคาโมโต้ คาโอรุนั้นทั้งสดใสและเต็มไปด้วยพลังแห่งการเริ่มต้นใหม่
เด็กหนุ่มรอคอยอนาคตที่วาดฝันไว้ว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
คิมิสึกิมีความรักและมีคนที่รักเขามากขนาดนี้ ไม่น่าจะคิดสั้นจนกระโดดลงมาเอง
ถ้าอย่างงั้น...ใครเป็นคนทำให้คิมิสึกิตกลงมา?
จะเกี่ยวข้องกับเด็กบ้านรวยห้าคนนั้นไหม?
เขานึกถึงเสื้อคลุมของคิเสะ
ยูกิที่ตกอยู่กับมีดที่ใช้ฆ่าโชโงะ อัย...ถ้าคนร้ายไม่ได้คิดจะป้ายสีคิเสะ ยูกิ
แต่เสื้อนั่นใช้แทนเครื่องหมายเตือนล่ะ?
เตือนว่าจะกลับมาแก้แค้น
เตือนว่าเรื่องในคืนนั้นมีคนรู้เห็นว่าเด็กห้าคนนั้นทำอะไรลงไป...
“จิอากิซัง
คุณพอจะจำได้ไหมว่าคิเสะ ยูกิไม่ได้ใส่เสื้อคลุมสีชมพูตัวนั้นตั้งแต่ช่วงไหน?
ใช่หลังจากตอนที่คิมิสึกิคุงกระโดดหอคอยหรือเปล่า?” เขาหันไปถามจิอากิซังที่ยังนั่งอยู่ด้วยกัน
ใบหน้าหวานนิ่งคิดก่อนจะตอบออกมาว่า
“น่าจะใช่ครับ”
ถ้าอย่างนั้นเขาก็มีสมมติฐานใหม่
ว่าคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในครั้งนี้อาจจะมีมูลเหตุมากจากคดีของคิมิสึกิ วายะ
คิเสะ
ยูกิอาจจะอยู่ในเหตุการณ์ที่คิมิสึกิ วายะตกตึกตาย จะเป็นคนทำหรือเปล่าเขาไม่แน่ใจ
หรืออาจจะเป็นกลุ่มเด็กบ้านรวยทั้งกลุ่มเลยก็ได้?
หลังจากคิมิสึกิตกจากหอคอยไปแล้ว
ในขณะที่เด็กห้าคนนั้นกำลังหนีอย่างแตกตื่น คิเสะ
ยูกิอาจจะทำเสื้อตกไว้หรือมีเหตุบางอย่างให้จำต้องทิ้งเสื้อไปอย่างเช่นมีรอยเลือดหรือมีหลักฐานบางอย่างอยู่บนเสื้อ?
ซาคาโมโต้อาจจะไปเห็นเหตุการณ์ตอนนั้นเข้าเพราะเขาบอกว่าจะออกไปตามหาคิมิสึกิ
ซาคาโมโต้อาจจะเป็นคนเก็บเสื้อคลุมตัวนั้นได้?
ดูจากในบันทึกก็พอจะบอกได้ว่าซาคาโมโต้รักคิมิสึกิมากแค่ไหน
หากได้เห็นคนรักตายไปต่อหน้าต่อตาน่าจะรับไม่ได้และทำใจได้ยาก
ยิ่งรู้ว่าคนร้ายเป็นใคร ในใจอาจจะเต็มไปด้วยความโกรธเกลียดจนอยากจะแก้แค้น
ถ้าอย่างนั้น...บางที...ซาคาโมโต้
คาโอรุที่หายตัวไป อาจจะยังมีชีวิตอยู่และรอวันกลับมาแก้แค้นเด็กบ้านรวยทั้งห้าคนก็ได้?
...คนร้ายในคดีสยองขวัญที่เกิดขึ้นกับเด็กบ้านรวยสามคนนี้อาจจะเป็นฝีมือของซาคาโมโต้
คาโอรุก็ได้?
เพราะถ้าอ่านตามบันทึกแล้ว...ที่ที่พบศพของเด็กทั้งสามคน
ล้วนเป็นที่ที่ซาคาโมโต้กับคิมิสึกิเคยใช้พลอดรักกัน มีความทรงจำที่ดีร่วมกันแทบทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นที่ริมแม่น้ำที่พบศพโชโงะ อัย ,
ที่โรงเก็บอาหารของโรงเรียนที่พบศพคิเสะ เคียวเฮ , ที่ห้องอาบน้ำที่พบศพนานาฮาระ
ฮิโรกิ...
และสถานที่ในบันทึกที่ยังเหลืออยู่ก็มี...ในป่าหลังโรงเรียน
ทุ่งเนโมฟีลา กับอาคารพยาบาลร้าง...
ถ้าอย่างงั้นตอนนี้...ก็นับว่าคิเสะ
ยูกิกำลังตกอยู่ในอันตรายเป็นอย่างมาก?!
ไม่ได้การแล้ว!
“ผมต้องไประดมพลเพื่อออกตามหาคิเสะ
ยูกิเดี๋ยวนี้ ถ้าผมเดาไม่ผิดคนร้ายน่าจะเป็นซาคาโมโต้ คาโอรุ และตอนนี้เป้าหมายของเขาคือคิเสะคุงแน่นอน”
เขาพรวดพราดลุกขึ้นก่อนจะรีบหยิบเสื้อนอกมาสวม
จิอากิซังมีท่าทางตกใจแต่ก็มิวายช่วยเขาใส่เสื้อ
“คุณ
คุณอยู่แต่ในห้องนะ อย่าออกไปไหน”
เขาหันไปกำชับจิอากิซังอีกรอบ
“ครับ
อิตสึกิซังก็ระวังตัวด้วยนะครับ” เขามองใบหน้าที่เป็นห่วงเขาอย่างรู้สึกเข้าใจซาคาโมโต้ขึ้นมาตะหงิดๆ
ถ้าจิอากิซังโดนทำร้าย เขาจะกลายเป็นอย่างซาคาโมโต้ไหมนะ
แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ทันแล้ว…
ในขณะที่ร่างสูงยาวกำลังก้าวไปจะถึงอาคารหอประชุมซึ่งขณะนี้ถูกจัดเป็นที่พักชั่วคราวของตำรวจที่มาช่วยกันทำคดี นายตำรวจคนหนึ่งก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพร้อมกับตะโกนว่า
"พบตัวคิเสะ ยูกิแล้วครับ!"
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To
be con.
มีดอกเนโมฟีล่าให้ดูล่วยค่ะ
สวยเนอะ
=/////= เคยเห็นรูปที่ขึ้นเต็มพื้นป่าเลยอ่ะ สวยมว๊ากกกก อย่างกับในเทพนิยายเบย นึกถึงตัวละครวิ่งอยู่ในนั้นโรแมนติกน่าดู
=////=
ขอบคุณทุกๆการติดตาม
ทุกๆคอมเม้นต์ ทุกๆหัวใจและทุกๆยอดโดเนทด้วยนะคะ แล้วเจอกันตอนหน้าน้า
ช่วงนี้กัปตันโป๊ะบ่อย น่าจะมีฟิคมาลงเรื่อยๆ โป๊ะทีก็หวีดที
หันมาปั่นฟิคระบายความกรี๊ดในใจที5555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น