ป๋อจ้าน Au.Fic [หวังอี้ป๋อ x เซียวจ้าน] GLIDE : 2x4 It’s me : 520 bpm. [again.]

  

ป๋อจ้าน Au.Fic [หวังอี้ป๋อ x เซียวจ้าน]  GLIDE : 2x4 It’s me : 520 bpm. [again.]

 

: ป๋อจ้าน Fanfiction Au

: หวังอี้ป๋อ x เซียวจ้าน

: Romantic

: NC-17

 

 

คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ

           : เนื้อเรื่องต่อไปนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจริงนะคะ

           : ข้อมูลจะไม่แน่นเท่า GLIDE ภาคก่อนๆนะคะ เพราะภาคนี้ข้ามมา 2 ล้อ ตรูขี้เกียจหาข้อมูลฝั่ง Moto GP โฟ้ยยยย // โดนตบด้วยหมวกกันน็อค

 

 

 

GLIDE : 2x4 It’s me : Special Episode :

 

“520 Beats per minute.”

 

.

.

.

 

 

 

แคว่ก!!!

 

 

เปล่า  นั่นไม่ใช่เสียงฉีกกระชากเสื้อผ้า ไม่ใช่ว่าเขากำลังจับเจ้ากระต่ายกดลงกับเตียง 

 

แต่มันเป็นเพียงเสียงที่มือใหญ่รูดผ้าม่านให้แสงสว่างสาดเข้ามาในห้องเท่านั้นเอง

 

หวังอี้ป๋อเปิดหน้าต่างออกก่อนจะเงยหน้าสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด ห้องนั่งเล่นที่เงียบเหงามาทั้งคืนค่อยๆตื่นจากการหลับใหล แสงแดดยามเช้าฉาบไล้ไปทั่วห้อง ไม่ว่าจะโซฟา พรมหนานุ่ม เตาผิง และหมอนอิงที่วางระเกะระกะอยู่เต็มไปหมด

 

ใบหน้าหล่อเหลาอมยิ้มให้กับสภาพห้องที่ไม่ได้เรียบร้อยนัก แต่นั่นมันคือสิ่งที่บ่งบอกว่าห้องนั่งเล่นนี้มีการใช้งานอยู่ตลอดเวลา จากลูกๆของเขา จากครอบครัวของเขา

 

นักบิดมือหนึ่งแห่งทีมยามาฮ่าก้มลงไปหยิบหมอนที่หล่นอยู่บนพื้นก่อนจะตบๆไล่ฝุ่นไปสองสามทีแล้วจึงวางเข้าที่บนโซฟา เมื่อคืนเจ้าลูกกระต่ายกับเจ้าลูกสิงโตเถียงกันยกใหญ่ คนนึงจะดูก๊อตซิลล่าคนนึงจะดูเจ้าหญิงนิทรา ตีกันไปตีกันมาสุดท้ายคนทั้งบ้านก็ต้องนั่งดูแม่มดใจร้ายเจ้าหญิงเจ้าชายกับเจ้าลูกกระต่ายอย่างช่วยไม่ได้

 

ถ้าไม่มีลูก คิดเหรอว่าคูลกายอย่างเขาจะมานั่งดูนิทานหวานแหววอะไรพวกนี้ แล้วเจ้าตัววุ่นวายก็ไม่ยอมดูคนเดียวด้วยนะ เป็นต้องไปลากเขากับเจ้ากระต่ายมาดูด้วยตลอด จนตอนนี้เจ้าหญิงดิสนีย์มีกี่คนๆเขาก็รู้จักหมด!

 

 

"หม่าม้า ทำไมแค่เอาปากแตะกัน เจ้าหญิงถึงฟื้นได้ล่ะ?"

 

 

เขาอดขำไม่ได้เมื่อนึกถึงคำถามนี้ที่เฟยเฟยวัยห้าขวบเคยหันไปถามผู้เป็นแม่ เจ้ากระต่ายที่ตอบลูกชายไม่ได้อ้าปากพะงาบๆเลิ่กลั่กไปหมดทั้งหน้า แก้มใสค่อยๆขึ้นสีแดงจนลามไปถึงใบหู การอธิบายให้เด็กวัยนี้เข้าใจนับเป็นความท้าทายของพ่อแม่มากๆ 

 

"เอ่อ...อ่า...นั่นเรียกว่าการจูบครับ เป็นการแสดงความรัก เพราะมีความรักของเจ้าชาย เจ้าหญิงเลยฟื้นขึ้นมาไง"   เจ้ากระต่ายพยายามอธิบายด้วยท่าทางอึกๆอักๆ

 

"งั้นหม่าม้ากำลังจะตายเหรอ? เฟยเห็นปะป๊าจูบหม่าม้าทุกวันเลย"   เจ้าลูกกระต่ายเบะปากเตรียมจะร้องไห้เมื่อรู้ความจริงว่าแม่ตัวเองกำลังจะตาย แต่คนที่นั่งฟังอยู่ข้างๆอย่างเขานี่ขำจนท้องคัดท้องแข็ง

 

 

ผลั๊วะ!! 

 

 

แล้วเขาก็โดนมือกระต่ายฟาดไปตามระเบียบ

 

"หม่าม้าบอกแล้วไง ว่าจูบคือการแสดงความรัก หม่าม้าไม่ต้องตาย ปะป๊าก็แสดงความรักต่อหม่าม้าได้"   เจ้ากระต่ายพูดไปหน้าแดงแปร๊ดไป ส่วนเขาก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ 

 

"จริงนะ หม่าม้าไม่ตายจริงๆนะ"  

 

"ครับ หม่าม้าจะอยู่กับเฟยเฟยไปจนแก่เลย~"   เจ้ากระต่ายก้มลงไปคลอเคลียลูกกระต่ายที่นั่งอยู่บนตักอย่างน่ารัก  บางทีความขี้สงสัย ขี้อ้อน ขี้งอแงของอาเฟยก็มีประโยชน์เหมือนกัน

 

 

นักบิดหนุ่มอมยิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต เขาจัดโซฟาให้เรียบร้อยก่อนจะกลับมายืนมองนอกหน้าต่าง เขาเอียงคอด้วยความแปลกใจ

 

วันนี้เงียบดีแหะ?

 

ปกติจะมีเสียงดังโครมครามจากการก่อสร้าง ทั้งเสียงตอกตะปู เสียงเจีย เสียงตัดเหล็กเชื่อมเหล็ก แต่วันนี้กลับสงบมาก

 

พอมองดีๆแล้วเขาก็เริ่มเข้าใจ ดูเหมือนบ้านของเจ้าเด็กนั่นจะเสร็จแล้วแหะ พวกคนงานหรือกองวัสดุก่อสร้างก็ถูกขนออกไปหมดแล้ว สิ่งที่อยู่ในสายตาของเขาตอนนี้มีเพียงบ้านสไตล์ทรัสคานี่อิตาลีหลังใหญ่ใหม่เอี่ยมหลังหนึ่งเท่านั้น

 

นั่นคือบ้านของหวังอี้หยาง หลานชายวายร้ายของเขาเอง

 

ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเจ้าเด็กนั่นถึงมาสร้างบ้านอยู่บนที่ดินของเขาได้?

 

คือเขาน่ะก็แค่บ้านเต็มจนไม่มีที่จะเก็บของสะสมที่เจ้ากระต่ายไปขนซื้อมาจากทุกประเทศที่ไปแข่งหรือไปเที่ยวมา ไหนจะอุปกรณ์หนักที่ใช้สร้างชิ้นส่วนรถพวกนั้นอีก เขาเลยกว้านซื้อที่ดินที่ติดกับบ้านของเขาทั้งหมดจนได้มาทั้งบล็อคถนน แล้วในขณะที่กำลังขยายบ้านของตัวเอง พ่อแม่เขา พ่อแม่เจ้ากระต่าย รวมถึงเจ้าหลานชายมาเห็นที่ดินอันกว้างใหญ่นี่เข้า จู่ๆทุกคนก็ถือแบบบ้านมาชุดหนึ่งพร้อมช่างของใครของมันแล้วก็ก่อสร้างบ้านกันเฉยโดยไม่ถามเจ้าของที่ดินอย่างเขาเลยสักคำ!

 

ก็รู้อยู่หรอกว่าชอบมาเล่นกับหลานที่อิตาลีแล้วการมาทีก็ต้องไปพักโรงแรมทีเพราะบ้านของเขามันแคบมันก็ลำบาก  แต่เขาก็กำลังขยายบ้านให้แล้วไง แล้วไหงเกิดอยากจะได้บ้านของตัวเองที่นี่ขึ้นมาซะงั้นละเฮ้ย 

 

ตอนนี้บนที่ดินของเขาจึงมีบ้านอยู่สี่หลังถ้วน แล้วที่น่าหมั่นไส้กว่าใครก็คือบ้านของเจ้าหลานชายดันหลังใหญ่สุดน่ะสิ! ที่จอดรถยาวเหยียดนั่นจะทำเต๊นท์ขายรถเร๊อะ? เกินหน้าเกินตาเจ้าของที่ดินไปมากกกก แถมยังเป็นบ้านหลังเดียวที่มีสระว่ายน้ำอีก!

 

ไม่ได้คิดจะมาอยู่ที่นี่สักหน่อย จะมาสร้างไว้ทำไมก็ไม่รู้ ถึงตอนนี้อี้หยางจะยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ในอเมริกา แต่ดูทรงแล้วก็คงไม่พ้นต้องไปอยู่ดูไบคอยดูแล Diamond crown แทนพ่อนั่นแหละ

 

ใบหน้าหล่อเหลาแสยะยิ้มเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ ไหนๆกว่าเจ้าของบ้านมันจะมาก็ช่วงปิดเทอมนู่นแหละ สระว่ายน้ำที่ไม่มีใครใช้ก็น่าสงสารออกใช่ไหมล่ะ?

 

ดีละ เดี๋ยวเขาและครอบครัวจะไปเจิมให้เอง!

 

"ปะป๊า! จะออกไปวิ่งเหรอ? ผมไปด้วย!"   เจ้าลูกสิงโตวัยเจ็ดขวบทักเสียงใสเมื่อเห็นเขาอยู่บ้านในวันอาทิตย์แบบนี้ หวังอี้คุนกระโดดพรวดลงบันไดมาอย่างไม่กลัวจะหกล้มแข้งขาหัก ซนตั้งแต่เกิดจนโตจริงๆ

 

"แล้วก็ๆ ไปขี่มอเตอร์ไซค์กับผมด้วยนะ ผมอยากให้ปะป๊าสอนอันนั้นด้วย"   อี้คุนพูดอย่างตื่นเต้น ซึ่งเขาก็ยิ้มอย่างเอ็นดู ตอนนี้เขายังเป็นนักแข่งรถที่ต้องตระเวนไปแข่งทั่วโลกแทบจะอาทิตย์เว้นอาทิตย์ เพราะงั้นลูกๆจะดีใจเมื่อเขาอยู่บ้านก็ไม่แปลก

 

"ปะป๊า? งื้อ"   คราวนี้เป็นลูกกระต่ายที่ยังดูงัวเงียเดินขยี้ตาลงมาจากปลายบันได ถ้าอี้คุนตื่นเฟยเฟยก็จะตื่นด้วย สรุป คนที่ตื่นสายที่สุดในบ้านก็คือเมียเขาเองนี่แหละ ประตูห้องของเขายังเงียบกริบ เจ้ากระต่ายจอมตื่นสายยังไม่ยอมลุกขึ้นมา

 

"จะไปไหนกัน? เฟยไปด้วย"   มือเล็กเอื้อมมาจับชายเสื้อเขาทั้งๆที่ยังหาวหวอด ในใจเขาได้แต่กรีดร้อง ทำไมลูกๆของเขาถึงได้น่ารักแบบนี้~~ เจ้าลูกสิงโตมองเขาด้วยดวงตาเป็นประกายส่วนเจ้าลูกกระต่ายก็จับชายเสื้อเขาไม่ปล่อย อ๊า~น่ารักจริงๆ~นักบิดหนุ่มต้องฮึบขนานใหญ่เพื่อไม่ให้ออกอาการมากไปจนลูกไม่เคารพ

 

"ล้างหน้ารึยังเนี่ยเรา? วันนี้จะไม่ไปไหน แต่เราจะฝึกว่ายน้ำที่สระบ้านพี่อี้หยางกัน"   เขาพูดในขณะที่ก้มลงไปใช้สองมือประคองใบหน้าเล็กของเฟยเฟย ปลายนิ้วโป้งปาดขี้หูขี้ตาออกให้ด้วยความเอ็นดู สองแก้มนุ่มฟูอย่างกับซาลาเปาจนอยากจะบีบไปมา

 

"ไปล้างหน้าล้างตาแล้วมานั่งรอที่โต๊ะกินข้าวนะอี้คุน เดี๋ยวปะป๊าไปปลุกหม่าม้ามาทำอาหารเช้าให้"   เขาหันไปบอกเจ้าลูกสิงโตที่วิ่งเข้าห้องน้ำอย่างว่าง่าย อี้คุนชอบให้เขาสอนสิ่งต่างๆให้ บางครั้งก็เหมือนเป็นเพื่อนเล่นมากกว่าจะเป็นลูกเสียอีก

 

"คร้าบ~~"

 

 

 

 

 

 

ร่างสูงสง่าเปิดประตูห้องที่มีเพียงแสงสลัวๆเข้าไป เงาร่างบนเตียงกว้างใหญ่ยังคงนิ่งสนิท ฝ่าเท้าเขาสะดุดเข้ากับกองผ้าที่อยู่บนพื้น และเมื่อก้มลงไปหยิบขึ้นมาเขาจึงเห็นว่ามันคือเสื้อนอนฮู้ดหูกระต่ายสีแดง ถัดไปไม่ไกลเป็นกองกางเกงขาสั้นสีเดียวกัน ถัดออกไปอีกหน่อยเป็นกองกางเกงในสีขาว...เสื้อผ้ากองระเกะระกะอยู่ตรงนี้แน่นอนว่าตัวเจ้ากระต่ายย่อมเปลือยเปล่า

 

ใบหน้าหล่อเหลาลอบยิ้ม ก็ฝีมือเขาเองแหละ

 

มือใหญ่หย่อนเสื้อผ้าที่เก็บขึ้นมาได้ลงไปในตะกร้าผ้าก่อนจะกลับมายืนมองร่างโปร่งบางที่ซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม เขามีสารพัดวิธีที่ใช้ปลุกเจ้ากระต่ายขี้เซา แต่วิธีที่เขาชอบที่สุดก็คือวิธีนี้

 

ร่างสูงสง่าค่อยๆล้มตัวลงนอนก่อนจะแทรกตัวเข้าไปในผ้าห่มอย่างแผ่วเบา เขาค่อยๆขยับเข้าไปกอดแผ่นหลังบางอย่างเงียบเชียบ

 

ฝ่ามือค่อยๆไต่ไปตามต้นขาเนียนนุ่มแล้วเลื้อยขึ้นไปกอดกระชับเอวบางเข้าหาตัวจนแทบไม่มีช่องว่างระหว่างแผ่นอกของเขากับแผ่นหลังบาง เสื้อผ้าที่เขาใส่อยู่เสียดสีกับผิวเปลือยเปล่าจนเกิดเสียงสวบสาบฟังแล้วทั้งนุ่มนวลทั้งอีโรติก  ได้ยินเสียงอื้ออ้ามาจากใบหน้าที่เริ่มขมวดคิ้วเพราะถูกก่อกวนแต่ดวงตาคู่โตก็ยังไม่ยอมเปิด

 

ใบหน้าหล่อเหลาจึงขยับเข้าไปกดจูบลงบนลาดไหล่ด้านหลัง จูบเบาๆสลับกับจูบหนักๆราวกับกำลังหยอกเย้า เจ้ากระต่ายเริ่มขยุกขยิกหนีแต่เขาก็ยังตามไปกดจูบไล่ขึ้นไปจนถึงท้ายทอย ก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนเส้นทางมาเป็นลำคอด้านข้าง

 

อื้อ”   เจ้ากระต่ายส่งเสียงอย่างรำคาญแต่ก็ยังดื้อจะนอนต่อให้ได้ เขาจึงต้องหาตัวช่วย 

 

ฝ่ามือที่เคยกอดกระชับอยู่ที่เอวบางเริ่มเลื้อยไปตามหน้าท้องแบนราบ ความหยาบของมือผู้ชายยามสัมผัสกับผิวกายเนียนนุ่มนั้นปลุกไฟปรารถนาขึ้นลึกๆในใจ มันให้ความรู้สึกเหมือนความแข็งแกร่งที่กำลังโอบรัดความอ่อนโยน ลมร้อนๆถูกเป่ารดต้นคอพร้อมกันไปด้วย ดูซิว่าระหว่างข้างบนกับข้างล่าง เขาจะปลุกตรงไหนได้ก่อนกัน

 

ริมฝีปากลอบยิ้มทั้งๆที่ยังไล่กดจูบแผ่นหลังขาวไปทั่ว เจ้ากระต่ายเริ่มส่งเสียงขู่หนักให้เขาเลิกก่อกวน แต่สิงโตที่ไหนจะกลัวกระต่ายล่ะ?

 

มือใหญ่จึงเริ่มลูบลงไปตามโคนขา จากด้านนอกค่อยๆระเรื่อยเข้าไปด้านใน จากข้างล่างค่อยๆลูบขึ้นมาด้านบน เจ้ากระต่ายเริ่มขมวดคิ้ว จากเสียงขู่เริ่มจะกลายเป็นเสียงครางในลำคอ

 

แต่ก่อนที่จะเฉียดเข้าใกล้ส่วนไวต่อความรู้สึก มือเขากลับเปลี่ยนทิศไปทางบั้นท้ายแทน ชั่ววินาทีที่อีกฝ่ายเริ่มจะเคลิบเคลิ้ม มือใหญ่ก็จับก้นลูกพีชหมับก่อนจะบีบเต็มแรง

 

โอ๊ย?!”   เจ้ากระต่ายสะดุ้งโหยงก่อนจะลืมตาหันมามองว่าเขาทำอะไร และเมื่อเห็นรอยยิ้มบานแฉ่งรับอรุณของเขา มือกระต่ายก็ฟาดเอาๆใส่เขาทันที

 

นายนี่มัน! เป็นคนทำชั้นไม่ได้นอนแท้ๆ ยังจะมาก่อกวนอีก! ไปไกลๆเลยนะ! นี่แหน่ะๆๆ!”   เขาต้องรีบตะครุบก่อนจะรวบลำตัวบางไว้ในอ้อมแขน เจ้ากระต่ายแยกฟันคู่หน้าขู่พร้อมดิ้นขลุกขลักๆ...น่ารักจริงๆ

 

หยุดดิ้นก่อนครับ ลูกๆหิวข้าวแล้ว ตื่นเถอะครับ ลงไปทำอาหารเช้าให้อี้คุนกับเฟยเฟยก่อนนะ น้า~”   เขาใช้ลูกอ้อนเมื่ออีกฝ่ายทำตาเขียวปั้ดใส่

 

ฮึ่ม...ชั้นจะทำให้เด็กๆกินเท่านั้น ส่วนนายไม่ต้องกิน!”   เขายกมือยอมแพ้แล้วยิ้มรับเพราะรู้ว่าเจ้ากระต่ายก็ขู่ไปงั้นแหละ

 

แล้วทำไมกินเช้านักเนี่ย? ยังไม่เจ็ดโมงเลย?”   เจ้ากระต่ายถามอย่างมึนงงเมื่อผงกหัวขึ้นไปดูนาฬิกาแล้วพบว่ายังเช้าอยู่มาก

 

วันนี้ผมจะสอนลูกว่ายน้ำ ให้กินอะไรรองท้องไปหน่อยก็ดี สายแล้วเดี๋ยวจะร้อนด้วย

 

ว่ายน้ำ?”   เจ้ากระต่ายเอียงคอสงสัยในขณะที่ลุกขึ้นนั่ง ผ้าห่มตกกองอยู่บนหน้าตักเผยให้เห็นไหล่บอบบาง...ชักไม่อยากออกจากห้องแล้วแหะ

 

เขากลืนน้ำลายหนึ่งทีก่อนจะพูดออกไปสระว่ายน้ำที่บ้านอี้หยางไง เสร็จแล้ว

 

ไปใช้ของหลานจะดีเหรอ? เจ้าของยังไม่เคยใช้เลยด้วยนี่?”

 

ไม่เป็นไรหรอก ถึงจะเป็นบ้านเจ้าเด็กนั่น แต่มันก็ที่ดินของผมนะ

 

งั้นก็แล้วแต่นาย เดี๋ยวชั้นช่วยสอนลูกด้วยก็ได้ รอแป๊บนะ”   เจ้ากระต่ายวิ่งปรู๊ดเข้าห้องน้ำไป ตัวเองว่ายน้ำเป็นเหรอน่ะจะไปสอนลูก? สภาพที่ลอยอยู่นิ่งๆคอยให้กระแสน้ำช่วยพัดไปนั่นเขาไม่เรียกว่าว่ายน้ำนะ

 

 

 

 

 

 

และแล้ว เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อม พ่อสิงโต แม่กระต่าย และลูกน้อยอีกสองคนก็เดินเรียงแถวไปยังบ้านที่อยู่ในรั้วเดียวกัน สระขนาดมาตรฐานโอลิมปิกดูน่าโดดลงไปดีแท้ เฉลียงรอบสระถูกปูด้วยกระเบื้องดินเผาตามสไตล์ทรัสคานี่ของบ้าน

 

เขาหย่อนตัวลงไปก่อนเพื่อตรวจสอบว่าน้ำไม่ได้เย็นเกินไป จากนั้นจึงค่อยๆรับตัวเด็กแฝดลงมา

 

จริงๆแล้วถ้าจับลูกสิงโตโยนลงน้ำมันก็คงจะว่ายได้เองตามสัญชาตญาณของเจ้าป่า แต่ถ้าจับลูกกระต่ายโยนลงน้ำก็คงไม่พ้นกลายเป็นอาหารปลาแน่ๆ...

 

เพราะงั้นเพื่อป้องกันเจ้าลูกกระต่ายตัวน้อยๆของเขาที่ชอบเดินทะเล่อทะล่าตาไม่เคยจะมองทางนี่เดินตกสระว่ายน้ำจนตายไปซะก่อน เขาต้องหาทางฝึกอาเฟยให้ว่ายน้ำเป็นให้ได้!

 

"แง๊~~~ ไม่เอาาาา เฟยกลัว~~"   แต่แค่ลงน้ำยังไม่ทันจะทำอะไร เจ้าตัววุ่นวายก็แหกปากร้องไห้โฮทันที….

 

"กลัวอะไรล่ะ ปะป๊าจับไว้นี่ไง ไม่จมหรอก"   

 

"จม~~ ไม่เอาาาา เฟยกลัว~~ ขาเหยียบไม่ถึงด้วยอ่ะ แง๊ๆๆ~"   ท่อนแขนเล็กกอดเอวเขาไว้แน่น ใบหน้าจิ้มลิ้มร้องไห้งอแงส่ายหน้าท่าเดียว

 

"......"   ดูท่าจะไม่ง่ายเสียแล้ว ทั้งๆที่เด็กทั่วไปแค่เห็นน้ำก็แทบจะวิ่งเข้าใส่ แต่เจ้าลูกกระต่ายขี้กลัวนี่กลับไม่เอาอย่างเดียว

 

เขาหันไปมองเจ้า 'เด็กทั่วไป' ที่ตีแขนตีขาอยู่ในห่วงยางจนแทบจะวนไปทั่วสระแล้ว นั่นก็พลังงานเหลือล้นจริงๆ!

 

"อี้คุน อย่าไปห่างจากปะป๊า กลับมานี่!"   มันวุ่นวายแท้ที่ต้องสอนเด็กสองคนที่ต่างกันมากว่ายน้ำเนี่ย ใบหน้าหล่อเหลาหันไปมองเจ้าคนเป็นแม่ที่นอนอาบแดดสบายใจเฉิบอยู่บนเก้าอี้ริมสระ ไหนใครมันบอกว่าจะช่วยกันสอนฟ๊ะ เจ้ากระต่ายไร้ความรับผิดชอบ!

 

"แง๊~~~"

 

โอเคๆ ไม่เอาก็ไม่เอา ไม่ร้องๆ”   เขาตัดใจอุ้มเจ้าลูกกระต่ายขึ้นไปนั่งบนขอบสระอย่างจนใจ ใบหน้าเล็กยังร้องไห้สะอึกสะอื้นให้เขาต้องลูบหัวยกใหญ่ เป็นพ่อคนมันไม่ง่าย ยิ่งมีลูกชายจอมงอแงแต่ก็ดันน่ารักจนดุไม่ลง เขาถึงได้ใจเย็นกว่าเมื่อก่อนมาก จากหวังอี้ป๋อที่ไม่เคยสนใจใคร ใครจะเป็นยังไงก็ช่าง กลับต้องมาคอยตะล่อมหาทางสอนเจ้าเด็กยอมโยเยคนนี้ให้ได้ 

 

ปะป๊าดูสิ! แบบนี้ใช่ไหม?!”   เจ้าลูกกระต่ายยังไม่ทันจะหยุดร้องไห้ดี เจ้าแฝดพี่ก็ร้องเรียกให้เขาหันไปดู ทางนู้นทีทางนี้ทีแต่เขาก็ชินแล้วเพราะต้องคอยวิ่งไล่จับทั้งคู่มาตั้งแต่เด็ก การแยกประสาทดูลูกทีเดียวสองคนจึงกลายเป็นสกิลใหม่สำหรับเขาไป

 

แบบนั้นแหละ ฝึกตีขาแล้วก็พยุงตัวให้ลอยไว้ก่อน”   สมกับเป็นลูกสิงโตที่แค่โยนลงน้ำก็ว่ายได้เองจริงๆ อี้คุนเริ่มจะจับหลักการอะไรบางอย่างได้ด้วยตัวเอง เขาจึงมองดูอยู่ในระยะที่ไม่อันตรายได้

 

งื้อ น่ากลัวจะตาย”    ส่วนทางนี้ก็สมกับเป็นอาหารปลาจริงๆ! เจ้าลูกกระต่ายหน้านิ่วคิ้วขมวดมองก้นสระที่อยู่ลึกลงไปมาก

 

มาเฟยเฟย ลงมาอีกรอบ คราวนี้แค่เกาะขอบสระไว้ก็พอ ไม่ต้องออกไปกลางน้ำก็ได้”    เอาแค่ไม่จม แค่ให้ลอยตัวได้แล้วคอยกระแสน้ำพัดเอาอย่างแม่ตัวเองก็พอแล้วแหละณ.จุดนี้ เขาเริ่มปลง

 

ตลอดช่วงสายยังคงเต็มไปด้วยเสียง  "ไม่เอา~"  “จะจมแล้ว~”   “ปะป๊าช่วยด้วย~”   “แง๊~”  ของเจ้าลูกกระต่าย ส่วนอี้คุนก็แทบจะว่ายน้ำเป็นในการฝึกแค่เช้าเดียว

 

หวังอี้ป๋อยังคงต้องใช้ความพยายามในฐานะคนเป็นพ่อต่อไป

 

 

 

 

 

 

แล้วหลังจากนั้นอีกวันสองวัน สระว่ายน้ำที่เขาตั้งใจจะยึดไว้ตลอดซัมเมอร์นี้กลับมีรั้วมาปักล้อมเอาไว้

 

คิ้วเรียวกระตุกสองสามทีก่อนจะเดินไปดู เจ้าอี้หยางน่าจะรู้ว่าเขาแอบมาใช้สระน้ำบ้านตัวเอง แต่เขาไม่คิดว่าเจ้าเด็กนั่นจะขี้งกถึงขั้นทำรั้วล้อมไว้ไม่ให้เขาใช้ และเมื่อเปิดประตูรั้วที่สร้างไว้อย่างง่ายๆเหมือนพวกรั้วที่ใช้กันความเสียหายในการก่อสร้างเข้าไป เขาก็มองเห็นรถแบล็กโฮและกองวัสดุก่อสร้าง

 

อ่อ...เข้าใจละ

 

อี้หยางไม่ได้จะกันเขาและลูกๆมาใช้สระ แต่ว่ากำลังต่อเติมสระเพิ่มอีกอันอยู่ข้างๆกัน แล้วดูจากความลึกก็น่าจะเป็นสระเด็ก...

 

โอ้โห เจ้าหลานชายวายร้ายนั่น

 

เขาไม่เคยสงสัยเลยเรื่องที่ว่าหวังอี้หยางเป็นหลานชายในสายเลือดของเขาแน่ๆ สายเปย์เหมือนกันเปี๊ยบแบบนี้

 

ว่าแต่มันรู้ได้ไงว่าเจ้าลูกกระต่ายของเขาไม่ยอมว่ายน้ำเพราะกลัวที่สระลึกเกินไป? ใบหน้าหล่อเหลาหันมองรอบตัวอย่างระแวงๆ  สิงอยู่ต้นพุทราหน้าบ้านเร๊อะถึงได้รู้ไปหมดแบบนี้?

 

สระเด็กเสร็จพร้อมใช้ในสองอาทิตย์ให้หลัง แม่ลูกกระต่ายก็เลยได้เล่นน้ำลั้นลาอยู่ในนั้น ส่วนเขากับเจ้าลูกสิงโตก็ว่ายน้ำแข่งกันอยู่ในสระผู้ใหญ่ สระว่ายน้ำของบ้านข้างๆยังคงเต็มไปด้วยเสียงโหวกเหวกของครอบครัวเขาไปจนหมดซัมเมอร์นู่นแหละ

 

 

 

 



เช้าวันนี้อากาศเริ่มเปลี่ยนจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงอย่างเห็นได้ชัด ความเย็นแผ่มาสัมผัสร่างกายทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า

 

 

ก๊อกๆๆ

 

 

มือใหญ่เคาะลงไปที่ประตูห้องนอนของลูกชายสองสามทีก่อนที่จะหมุนลูกบิดแล้วเปิดเข้าไป

 

อี้คุน เฟยเฟย ตื่นได้แล้ว ออกไปวิ่งกับปะป๊าครับ”   พออากาศเริ่มเย็น เจ้าเด็กแฝดก็จะเริ่มตื่นสายจนเขาต้องขึ้นมาปลุก ดวงตาคมกล้าทอดมองก้อนผ้าห่มที่อยู่บนเตียงอย่างเอ็นดู 

 

“......”    เจ้าลูกสิงโตลุกขึ้นมานั่งอย่างไม่ต้องเรียกซ้ำสอง หัวหูชี้ฟู ตาก็ยังไม่ค่อยจะเปิดดีแต่กระนั้นก็ส่งเสียงตอบรับ

 

ครับ…”

 

เฟยเฟย...ตื่นได้แล้วลูก”   เสียงทุ้มจึงปลุกซ้ำแค่คนเดียว เจ้าลูกกระต่ายส่งเสียงงื้อง่าไม่อยากจะตื่นแต่ก็จำต้องลืมตาเมื่อท่อนแขนของพี่ชายที่กอดไว้ทั้งคืนกำลังลุกจากเตียงทำให้ตัวเองโดนลากออกจากผ้าห่มด้วย...เขายืนขำกับความลูกกระต่ายของอาเฟย อยากนอนก็อยาก แต่ก็ไม่อยากห่างจากตัวอุ่นๆของอี้คุน

 

เจ้าลูกสิงโตลงมายืดแข้งยืดขาอยู่หน้าบ้านอย่างคนตื่นเต็มตาและพร้อมจะออกไปวิ่งเต็มที่ ต่างจากเจ้าลูกกระต่ายที่ยังยืนละล้าละลังมองรองเท้าอย่างกับยังไม่อยากใส่ไม่อยากออกไปวิ่ง เขาส่ายหน้าก่อนจะเดินเข้าไปหยิบรองเท้าใส่ให้ ถ้ารอก็คงพรุ่งนี้แหละกว่าจะได้วิ่ง 

 

ร่างสูงสง่าย่อตัวนั่งลงไปเพื่อผูกเชือกรองเท้าของเจ้าตัววุ่นวายให้แน่นๆ รองเท้าคู่นี้เล็กกว่ามือของเขาอีก

 

 

แชะ

 

 

เขาหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเอาไว้ท่ามกลางความสงสัยของเจ้าลูกกระต่าย

 

ถ่ายรูปรองเท้าเฟยทำไมอ่ะ?”   

 

เก็บไว้ดูในอีกยี่สิบปี”   ว่าเขาคอยเฝ้ามองการเติบโตของลูกกระต่ายตัวน้อยๆนี้อยู่เสมอ เขายังเก็บรองเท้าคู่แรกของอี้คุนกับเฟยเฟยเอาไว้อยู่เลย มันเล็กเสียจนวางอยู่บนฝ่ามือเขาได้ทั้งคู่

 

ไปวิ่งกันได้แล้ว”   เขาลุกขึ้นก่อนจะวิ่งนำออกไป

 

 

 

บรรยากาศยามเช้าในมาราเนลโล่ยังคงสงบสุขเหมือนทุกๆวัน เขาวิ่งเหยาะๆก่อนจะค่อยๆลดความเร็วลงเมื่อรู้สึกว่าระยะห่างระหว่างเขากับเจ้าลูกกระต่ายที่วิ่งรั้งท้ายเริ่มมากจนเกินไป

 

"ปะป๊า แฮ่ก...แฮ่ก...รอด้วย...แฮ่ก...เฟยเหนื่อยแล้วอ่ะ...วิ่งไม่ไหวแล้วอ่ะ…"    ยังไม่ทันจะวิ่งพ้นรั้วบ้านตัวเองเลยนะเฮ้ย เจ้าลูกกระต่ายเอ้ย~!!

 

"....."   เขาหันไปมองร่างเล็กบางที่วิ่งอย่างเชื่องช้าแถมยังหอบแฮ่กด้วยสีหน้าปลงๆ

 

"ปะป๊า เร็วๆสิ!"   ส่วนอีกคนก็วิ่งไปถึงดาวอังคารแล้วนั่น หวังอี้คุนตะโกนเรียกเขาอยู่ไกลลิบ

 

"มา ขี่หลังปะป๊าไปแล้วกัน"   เขานั่งยองๆลงไปรับเมื่อเจ้าลูกกระต่ายวิ่งมาถึง 

 

วิ่งยังไม่ทันจะถึง300เมตรทำไมมันดูเหนื่อยนักเนี่ย?

 

"เหะเหะ"   เจ้าลูกกระต่ายยิ้มร่าเมื่อเขายอมตามใจ แขนเล็กกอดคอเขาอย่างว่าง่ายก่อนที่เขาจะแบกร่างที่เบาหวิวนั่นขึ้นหลัง

 

"ปะป๊าแบกไปถึงสวนสาธารณะเท่านั้นนะ จากตรงนั้นเฟยเฟยต้องวิ่งเองนะ"   สองขาเริ่มออกเดิน ข้างหน้าก็มีแผ่นหลังเล็กของเจ้าลูกสิงโตอยู่ในสายตา

 

"อื้อ!"   เสียงใสตอบกลับมา เขาไม่เคยเบื่อที่ต้องคอยแบกเจ้าลูกกระต่ายไม่เอาไหนนี่ ไม่เคยเบื่อที่ต้องคอยเคี่ยวเข็ญให้อาเฟยออกกำลังกาย การทำเพื่อใครสักคนโดยไม่เคยเบื่อหน่ายนี้คงเป็นความรู้สึกที่พ่อทุกคนคงจะมีเหมือนเขาแน่ๆ

 

"ปะป๊า แวะซื้อโดนัทไปให้หม่าม้าด้วยดีไหม? เดี๋ยวเฟยไปต่อแถวเอง!"   ยังไม่ทันจะได้วิ่งก็หาเรื่องทำอย่างอื่นซะงั้นนะ เรื่องฉลาดเป็นกรดนี่ต้องยกให้จริงๆ อีกทางก็คงจะเป็นเพราะกลิ่นขนมปังหอมๆที่ลอยมากับอากาศยามเช้านี่แน่ๆ

 

"เอาสิ แต่ต้องไปวิ่งก่อนนะ"   เขาพูดอย่างรู้ทันเจ้าลูกกระต่ายจอมอู้ สองขาเดินเข้าไปในสวนสาธารณะ ลุงป้าน้าอาต่างออกมาวิ่งบ้าง พาหมามาเดินเล่นบ้าง และเขาก็คุ้นหน้าคุ้นตากับทุกคนดี

 

"หงึ เฟยไม่ชอบวิ่งเลยอ่ะ"   เขาปล่อยเจ้าลูกกระต่ายลงจากหลัง ใบหน้าเล็กทำแก้มป่องช้อนตามองเผื่อว่าเขาจะใจอ่อน

 

"ไม่ได้ อย่างน้อยต้องวิ่งหนึ่งรอบ มา เดี๋ยวปะป๊าวิ่งเป็นเพื่อน"   มือใหญ่เอื้อมไปจับข้อมือจอมงอแงให้ออกวิ่งไปด้วยกัน  ส่วนหวังอี้คุนนั้น...น่าจะวิ่งไปสองรอบสวนแล้วมั้งนั่น เขาเหลือบมองเจ้าลูกสิงโตที่วิ่งอยู่อีกฝั่งของสระน้ำ

 

สองขาปรับจังหวะให้วิ่งช้าลงกว่าปกติมากเพื่อให้อาเฟยวิ่งตามทัน เจ้าลูกกระต่ายนั้นอ่อนแอมากแต่ก็ดันมีหน้าตาน่ารักมาก ถึงจะสู้ใครไม่ได้อย่างน้อยเขาต้องฝึกให้วิ่งหนีทัน  ต้องมีสกิลในการเอาตัวรอดที่เพียงพอ

 

นี่นายเป็นกระต่ายหรือเป็นเต่ากันแน่เนี่ย? วิ่งช้าขนาดนี้”   แฝดผู้พี่เอ่ยแซวเมื่อวิ่งผ่านเป็นรอบที่สาม

 

งื้อ!”   เจ้าลูกกระต่ายเงื้อกำปั้นทำท่าจะวิ่งไล่แต่ก็ยอมแพ้ในสองก้าวซะงั้น ก็นะ ลำพังแค่วิ่งธรรมดาก็ช้าพอๆกับหอยทากแล้ว เขาลอบหัวเราะอย่างเอ็นดู

 

เร็วเข้าเจ้าหอยทากน้อยของปะป๊า อีกนิดเดียว สู้ๆ”   เขาส่งเสียงเชียร์หลังจากที่ตัวเองไปยืนรออยู่ที่ม้านั่งนานแล้ว เจ้าลูกกระต่ายวิ่งเหมือนภาพสโลโมชั่นเข้ามาหา แต่นั่นไม่ใช่ภาพช้าแต่อย่างใด เป็นการวิ่งปกติของอาเฟยนั่นแหละ

 

เอ้า พักก่อน”    เขาหยุดที่ม้านั่งเมื่อวิ่งครบหนึ่งรอบ เจ้าลูกกระต่ายถึงกับทรุดนั่งลงไปกับพื้นหญ้า ใบหน้าขาวบัดนี้กลับเปล่งปลั่งไปด้วยสีแดงระเรื่อ เหงื่อเกาะพราวไปทั่วขมับ

 

เอาเถอะ นี่ก็ถือว่าพัฒนาแล้วนะ เมื่อก่อนแม้แต่หอยทากยังเดินไวกว่า

 

 

 

หายเหนื่อยรึยัง? ไปซื้อโดนัทนมสดให้หม่าม้ากัน วันนี้น่าจะทัน”   เจ้าลูกกระต่ายหูผึ่งยิ้มแฉ่งทันทีที่ไม่ต้องวิ่งต่อแล้ว

 

ไปกันปะป๊า”   มือเล็กรีบดึงมือเขาให้ออกเดินทันทีอย่างกับกลัวเขาจะเปลี่ยนใจ  ไม่ชอบออกกำลังกายขนาดหนักจริงๆเจ้าลูกกระต่าย

 

อี้คุน!”    เขาตะโกนเรียกเจ้าลูกสิงโตในขณะที่มือยังคงถูกเจ้าลูกกระต่ายลากไปข้างหน้า ในที่สุดสองขาก็ก้าวมาถึงหน้าโบสถ์กลางเมืองมาราเนลโล่จนได้ 

 

คนเยอะสุดๆเลยอ่ะ”    เจ้าลูกกระต่ายทำตาโตเมื่อมองเห็นปลายแถวยาวออกมานอกถนนแต่ก็ยังลากเขาไปต่อปลายแถว เด็กๆมักสนุกสนานกับการมาต่อแถวซื้อโดนัทเสมอ 

 

ยืนดีๆ”   มือใหญ่จับไหล่เล็กให้มายืนซ้อนอยู่ข้างหน้า หัวสีดำสูงเลยเอวเขามาไม่เท่าไหร่ มือสองข้างจึงพาดไหล่เล็กบางเอาไว้ เจ้าลูกกระต่ายก็เอนหลังพิงเขาก่อนจะโยกตัวไปมาตามประสาเด็ก สองมือเล็กยกขึ้นมาจับมือเขาไว้แล้วพูดอะไรเจื้อยแจ้วไปเรื่อย 

 

อี้คุนวิ่งมายืนอยู่ข้างๆเขาจึงคว้าตัวลูกชายคนโตหลบให้พ้นถนน ภาพสามพ่อลูกเวลามาต่อแถวซื้อโดนัทจึงเป็นอะไรที่น่ารักน่าเอ็นดูในสายตาของชาวเมืองมาราเนลโล่เสมอ เพราะเป็นที่รู้กันว่าโดนัทซึ่งทั้งสามคนมาต่อแถวซื้อนั้น มันคือของที่เอาไปให้ผู้เป็นแม่ ไม่ได้ซื้อไปกินเองแต่เอาไปให้คนที่ตัวเองรักต่างหาก 

 

ใครเห็นใครก็ยิ้มให้ ใครเห็นใครก็ทักทายอย่างเป็นกันเอง เขาจึงรู้สึกปลอดภัยที่จะให้ลูกๆของเขาได้เติบโตในเมืองนี้

 

ปะป๊า เฟยแวะซื้อแยมสตอเบอรี่ด้วยดีไหม? ปะป๊าว่าโดนัทนมสดกินกับแยมจะอร่อยไหม?”   เจ้าลูกกระต่ายยังคงเจื้อยแจ้วเรื่องของกินต่อไป

 

ปะป๊าสอนขับเข้าโค้งตัวเอสหน่อย ทำยังไงมันถึงจะไวกว่านี้อ่ะ?”   ส่วนเจ้าลูกสิงโตก็ลากเขาเข้าสนามแข่งในจินตนาการของตัวเอง ถึงจะแค่เจ็ดขวบแต่อี้คุนก็ขับเป็นทั้งรถคาร์ทและมอเตอร์ไซค์รุ่นเล็ก เริ่มลงแข่งในรุ่นอายุ7-10ขวบแล้วด้วย

 

ในขณะที่เขาจะหันไปสอนอี้คุน เฟยเฟยก็รบเร้าให้เขาหันไปสนใจแยมสตอเบอรี่ แล้วเดี๋ยวอี้คุนก็จะลากเขากลับสนามต่อ  เป็นอยู่อย่างงี้แหละ

 

แต่เขากลับไม่เคยรำคาญทั้งยังพยายามจะอยู่กับลูกให้มากที่สุด พยายามรับฟังและเข้าไปอยู่ในโลกเล็กๆใบนั้นด้วยกัน 

 

เพราะชีวิตในวัยเด็กของเขา...เขาไม่เคยรู้จักกับความรู้สึกแบบนี้เลย ไม่เคยได้เล่นกับพ่อ ไม่เคยเข้าหากัน และเขาก็ไม่อยากให้ลูกของตัวเองได้รับความรู้สึกที่ห่างเหินแบบนั้น

 

 

 

 



ช่วงปิดเทอมฤดูหนาวเป็นช่วงที่เขามักจะใช้เวลาอยู่กับลูกๆแทบทั้งวันเพราะการแข่งขันจบลงแล้ว 

 

แต่เจ้ากระต่ายยังคงต้องเข้าโรงงานของเฟอร์รารี่เพื่อทำรถแข่งของปีหน้า ส่วนใหญ่ตอนกลางวันเขาจึงอยู่กับเจ้าเด็กแฝดตามลำพัง

 

มือใหญ่ปิดประตูห้องทำงานอย่างเงียบเชียบเพราะรู้ว่าตอนนี้เป็นเวลานอนกลางวันของเจ้าลูกสิงโตกับเจ้าลูกกระต่าย เขากำลังเช็ดหมวกกันน็อคแล้วน้ำยาทำความสะอาดก็หมดพอดี เจ้าของแชมป์โลกรถจักรยานยนต์ทางเรียบของปีนี้จึงต้องค่อยๆย่องออกจากห้องเก็บคอลเลคชั่นหมวกเพื่อไปหยิบน้ำยาทำความสะอาดขวดใหม่

 

เขาเดินผ่านพรมหนานุ่มหน้าเตาผิงที่ซึ่งเด็กๆนอนหลับอยู่ ดวงตาคมกล้าเหลือบมองภาพน่าเอ็นดูนั้นด้วยรอยยิ้ม เจ้าลูกสิงโตนอนหงายเหยียดแขนเหยียดขาเต็มที่อย่างคนไม่กลัวอะไร ส่วนเจ้าลูกกระต่ายก็นอนตะแคงขดตัวซุกอยู่ข้างๆ แค่ลักษณะการนอนก็บ่งบอกนิสัยใจคอได้แล้ว

 

สองขาเดินต่อไป เขาเจอน้ำยาทำความสะอาดขวดใหม่แต่ในขณะที่กำลังจะหยิบมันขึ้นมันก็ดันหลุดมือจนร่วงลงพื้นเสียงดัง ตุ้บ!

 

เจ้าลูกกระต่ายสะดุ้งตื่นเด้งผึงขึ้นมานั่งมองไปรอบๆเหมือนกระต่ายตื่นตูม  เขาจึงยืนนิ่งๆแอบดูว่าจะทำยังไงต่อ

 

ดวงตากลมโตเปิดแค่ครึ่งเดียวเหมือนคนที่ยังไม่ตื่นดีแต่ก็ระแวงเสียงที่ได้ยิน ใบหน้ามนกวาดตามองแบบเบลอๆแล้วพอไม่เห็นอะไรเคลื่อนไหวก็ค่อยๆไหลลงไปนอนใหม่ ไม่เห็นด้วยซ้ำว่าเขายืนอยู่ตรงนี้ ใบหน้าหล่อเหลาส่ายไปมาอย่างเอ็นดู

 

เขาเดินไปหยิบผ้าห่มแล้วเดินกลับมาใหม่ เจ้าลูกกระต่ายนอนตูดโด่งเอาหน้าลงพื้นในท่าทางน่าพิศวง คงจะเพราะลุกขึ้นนั่งเมื่อกี้แล้วก็ไหลลงมานอนทั้งๆอย่างงั้น? เขาหัวเราะเบาๆก่อนจะจับแขนขาผอมบางให้นอนดีๆแล้วค่อยกางผ้าห่มคลุมให้พร้อมกับอี้คุน

 

มือใหญ่ลูบหัวสีดำเบาๆพร้อมกับทอดสายตาที่เต็มไปด้วยความรักมองเด็กทั้งสองคน มือย้ายไปลูบหัวอี้คุนด้วยก่อนจะกลับมาทำงานต่อ

 

มันอาจจะดูเป็นหนึ่งวันที่แสนธรรมดา แต่มันกลับเป็นอีกหนึ่งวันที่มีค่าสำหรับเขามาก

 

ครอบครัวที่อบอุ่น ความรักและสิ่งเล็กๆน้อยๆที่มอบให้แก่กัน  ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

นอกจากชีวิตประจำวันแล้ว บางครั้งเขาก็เลือกที่จะสร้างความทรงจำและเรื่องราวดีๆกับครอบครัวด้วยการไปเที่ยว แคมปิ้ง ขับรถหรือไปไหนไกลๆด้วยกัน

 

จากที่เคยจองห้องสวีทในโรงแรมก็กลายเป็นต้องจองห้องแบบแฟมมิลี่ไป ดวงตาคมกล้าทอดมองสถานที่แปลกใหม่ที่เพิ่งมาถึงเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า

 

โซนที่อยู่เหนือ Arctic circle ของแต่ละประเทศในแถบสแกนดิเนเวียก็จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป ในประเทศฟินแลนด์จะเรียกพื้นที่ที่อยู่บนละติจูดเหนือสุดนี้ว่าเขต Lap Land 

 

 

พระอาทิตย์เที่ยงคืน...กับวันที่ไม่มีทางตื่นจากความมืดมิด

 

 

Midnight Sun and Polar Night เราสามารถพบวันแบบนั้นได้ในเขตนี้

 

 

เขาใช้เวลาบินจากมิลานประเทศอิตาลีมาลงที่เฮลซิงกิเมืองหลวงของฟินแลนด์ก่อนจะต่อเครื่องมาที่เมืองโรวาเนียมิ(Rovaniemi)ในเขต Lap Land ถึง 6 ชั่วโมงกว่าๆ แต่ก็ถือว่าเวลาที่เสียไปนั้นคุ้มค่ามากทีเดียวกับวิวทิวทัศน์ที่อยู่ตรงหน้า

 

ทุกอย่างขาวโพลนไปหมด

 

หิมะที่ตกซ้อนทับกันเรื่อยๆเรื่อยๆทำให้ป่าสนถูกย้อมจนกลายเป็นดั่งภาพวาดในการ์ดคริสต์มาส เหมือนรูปในส.ค.สที่จะมีคุณลุงซานต้ายืนอยู่หน้ากระท่อมและป่าสนสีขาวยาวสุดลูกหูลูกตา

 

อุณหภูมิตอนนี้คือ -10 cํ และคงจะลดต่ำกว่านี้ในตอนกลางคืน

 

อร๊าย~ หิมะ~~”    เจ้าลูกกระต่ายที่ถูกจับใส่เสื้อและผ้าพันคอจนตัวกลมวิ่งด๊อกแด๊กๆก่อนจะชนแปะเข้ากับกองหิมะที่ถูกโกยไว้ข้างทาง

 

เหมือนฟองสบู่ในอ่างอาบน้ำเลย”   เจ้าลูกสิงโตตะกุยหิมะจนเป็นละอองใส่เจ้าลูกกระต่ายที่วิ่งหลบพร้อมกับส่งเสียงร้องวี๊ดว๊าย ที่อิตาลีมีหิมะตกก็จริงแต่ไม่หนานุ่มขาวผ่องเท่านี้ เด็กๆจึงตื่นเต้นและชอบมันมาก

 

ยังไม่ทันจะไปไหนเลย คลุกหิมะทั้งตัวแล้วเนี่ย”   หม่าม้ากระต่ายหิ้วหูลูกกระต่ายของตัวเองออกมาจากกองหิมะที่สูงท่วมเข่า สงสัยเขาคงต้องคอยดูดีๆ เดินๆอยู่อาจจะโดนหิมะถมไปไม่รู้เรื่องรู้ราวก็ได้เจ้าลูกกระต่ายนั่น

 

มา จับมือปะป๊าไว้”   เขาเอื้อมมือไปจับมือเล็กๆในถุงมือเอาไว้ มืออีกข้างของเจ้าลูกกระต่ายจับมืออี้คุน ส่วนมืออีกข้างของเจ้าลูกสิงโตก็จับมือจ้านเกอ พ่อแม่ลูก4คนกำลังเดินจากกระท่อมบ้านพักไปยังล็อบบี้ที่อยู่ตรงกลาง

 

 

 

โรวาเนียมิเป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของฟินแลนด์แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นเพียงเมืองเล็กๆในภูเขา รีสอร์ทที่เขาเลือกพักเป็นรีสอร์ทแบบเปิด จะมีล็อบบี้และส่วนเซอร์วิสต่างๆอยู่ตรงกลาง ห้องพักมีลักษณะเป็นกระท่อมไม้ซุงแยกเป็นหลังใครหลังมัน แล้วแต่ละหลังก็จะอยู่ห่างไกลกันมากทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง สามารถก่อกองไฟหรือทำอาหารกินเองได้

 

ขาสี่คู่หยุดอยู่ที่หน้าลานน้ำแข็งขนาดใหญ่ ที่นี่คือลานสเก็ต ถึงแม้แม่น้ำและทะเลสาปแถวนี้จะแข็งไปหมดแล้วแต่ก็ใช่ว่าจะทะเล่อทะล่าไปเล่นได้เสียเมื่อไหร่ เขาจึงพาลูกๆมาเล่นในที่ที่ถูกจัดเตรียมไว้และมีความปลอดภัย 

 

เจ้าเด็กแฝดเพิ่งเคยเล่นไอซ์สเก็ตเป็นครั้งแรก หวังอี้คุนผู้ไม่เคยเกรงกลัวอะไรโดดเข้าใส่ทันที ค่อยๆเกาะรั้ว ค่อยๆทรงตัวได้เอง ค่อยๆเดิน ค่อยๆออกวิ่งโดยที่เขาแทบไม่ต้องสอนอะไร ....ส่วนเจ้าอาหารหมีที่กอดเอวเขาอยู่นี่ก็ยังคงสมเป็นหวังเฟยเฟยไม่เคยเปลี่ยน!

 

กอดเอวปะป๊าแน่นแบบนี้แล้วจะวิ่งได้ไหมล่ะ? จับที่มือปะป๊านี่”  หลังจากแหย่ขาจิ้มพื้นน้ำแข็งอยู่นาน พอเขาลากลงมาก็เกาะเอวเขาไม่ยอมปล่อย 

 

ไม่เอา เฟยกลัว~”

 

กลัวอะไรล่ะ ปะป๊าจับไว้ไม่ลื่นล้มหรอก”   บทสนทนาคุ้นๆแหะ... เขาได้แต่มองใบหน้าเล็กที่ส่ายไปมาอย่างปลงๆ

 

ลื่น~ ล้มด้วย~”   แขนเล็กยังไม่ยอมปล่อยเอวเขา เล่นเอากว่าจะตะล่อมจนเจ้าตัววุ่นวายยอมจับมือเขาได้นี่ก็ปวดขมับยกใหญ่ ไม่กลัวอะไรบ้างเนี่ยชีวิตนี้? เจ้าลูกกระต่ายเอ้ย

 

แน่นอนว่าเขาไม่หวังให้เจ้าคนเป็นแม่ที่ยืนเชียร์อยู่ริมลานสเก็ตช่วย ขืนให้เจ้ากระต่ายลงมาอีกคนก็คงเหมือนเขามีลูกสามนั่นแหละ

 

เหวอ~~”    ขาเล็กสั่นพั่บๆๆ เดี๋ยวสไลด์ไปข้างหน้า เดี๋ยวไถลไปข้างหลัง เขาต้องจับมือเล็กทั้งสองข้างก่อนจะสเก็ตตัวเคลื่อนที่ไปช้าๆ

 

"ปะป๊าอย่าปล่อยมือเฟยนะ! ห้ามปล่อยเลยนะ!"

 

"ปะป๊าไม่ปล่อยหรอก ค่อยๆก้าวตามมา  ไม่ต้องกลัว"

 

"กลัวอ่ะ~ ถ้าลื่นล้มจะไถลไปถึงไหนเนี่ย~ ต้องทะลุภูเขาไปโผล่ที่แปลกๆแน่เลย~"  …...พลังในการจินตนาการเรื่องเหนือมนุษย์มนานี่ไม่มีใครเกินเลยจริงๆ

 

เขาจับมือเล็กโดยที่ตัวเองสเก็ตถอยหลัง หลายต่อหลายรอบกว่าเจ้าลูกกระต่ายจะเริ่มทรงตัวได้ แต่ไม่ว่าจะลื่นไถลแค่ไหน จะโอนไปเอนมายังไง อาเฟยก็ไม่ล้มเพราะมีมือที่แข็งแรงของพ่ออย่างเขาจับเอาไว้เสมอ

 

ถึงจะง๊อกๆแงกๆแต่ในที่สุดอาเฟยก็ค่อยๆทรงตัวได้เอง ใบหน้าเล็กเริ่มสนุกไปกับการวิ่งบนลานน้ำแข็งอย่างเด็กทั่วไป เขาจึงหันไปเรียกลูกชายคนโต

 

"อี้คุน ดูน้องที"   เขาส่งมือเล็กของเจ้าลูกกระต่ายให้พี่ชายฝาแฝด สองคนจึงวิ่งเล่นไปด้วยกัน

 

"พี่ก็ลงมาด้วยสิครับ"   มือใหญ่เอื้อมมือไปหาคนที่ยืนทำหน้าเลิ่กลั่กอยู่ริมลานสเก็ต

 

"เอ๋? ชั้นเหรอ?"   ในขณะที่เจ้ากระต่ายยังอึกๆอักๆ ท่อนแขนแข็งแรงของเขาก็รวบเอวบางเข้าสีข้างแล้วดึงลงมายังลานน้ำแข็ง

 

เจ้ากระต่ายยังเล่นสเก็ตไม่ได้เรื่องเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาเพราะว่าแขนของเขาจะกอดเอาไว้เอง 

 

พี่นี่เล่นสเก็ตได้แย่กว่าอาเฟยอีกนะเนี่ย หึๆ”   เขามองคนที่อยู่ในอ้อมแขนพร้อมเอ่ยแซว

 

หงึ ก็คนเราไม่จำเป็นต้องมาวิ่งบนลานน้ำแข็งนี่ ทำไมชั้นจะต้องฝึกด้วย?”    เจ้ากระต่ายดื้อเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้

 

ครับๆ ถึงพี่จะเล่นไม่เป็นก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะสิ่งที่พี่ต่างจากอาเฟยก็คือ...พี่มีผมอยู่”   เขายิ้มแก้มยกในขณะที่ก้มมองอีกฝ่าย

 

เจ้ากระต่ายอ้าปากพะงาบๆ เขินจนหูแดงไปหมด มือบางทำได้แค่ทุบสีข้างเขาแก้เขิน

 

แสงแดดยามบ่ายสาดส่องไปทั่วท้องน้ำแข็ง สีขาวที่สะท้อนทุกอย่างกลับไปทำให้ทั่วทั้งลานกลายเป็นสีทอง เงาร่างสองร่างที่ตระคองกอดกันค่อยๆหมุนวนไปทั่วลานน้ำแข็งเหมือนตุ๊กตาคู่รักที่อยู่บนกล่องดนตรี

 

ใบหน้าหล่อเหลาทอดมองใบหน้าขาวซึ่งขึ้นสีแดงระเรื่อตามปลายจมูกและสองแก้มเมื่อโดนลมหนาว เขาจ้องมองใบหน้าที่รักสุดหัวใจนั้นด้วยสายตาที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยมาเป็นสิบๆปี 

 

จ้านเกอ กอดเอวผมไว้นะ”    เขาขยับเข้าไปกระซิบแผ่วเบา สองมือที่เคยกอดเอวบางไว้ค่อยๆคลายออกทั้งๆที่ยังอยู่กลางลานน้ำแข็ง

 

เอ๊ะ?”   เจ้ากระต่ายทำท่าทางงุนงงก่อนที่แขนบางต้องรีบเป็นฝ่ายกอดเอวเขาแทนเพื่อพยุงตัวไม่ให้ล้มลงไป

 

“.....”   เขายิ้มในขณะที่สองแขนค่อยๆกางออก แสงสีทองที่สาดลงมาทำให้รอยยิ้มของเขาดูราวกับรอยยิ้มของเทพเจ้า เงาจากสองแขนก็คล้ายกับปีกที่สยายออก

 

ดวงตากลมโตจ้องมองเขาไม่วางตา เขาเองก็จ้องใบหน้าแสนรักนั้นกลับไปเช่นกัน

 

มือใหญ่ขยับมาประคองสองแก้มใสก่อนจะล็อคไว้ไม่ให้ขยับได้

 

ริมฝีปากจู่โจมกดจูบลงไปบนกลีบปากนุ่มโดยอีกฝ่ายไม่ได้ตั้งตัว ดวงตาคู่สวยจึงเบิกกว้าง

 

ไออุ่นจากลมหายใจที่ผสมผสานกันกลายเป็นควันสีขาว ดวงตาที่เคยตื่นตระหนกค่อยๆหรี่ลงจนเขามองเห็นแพขนตาค่อยๆปิดละลงไปบนแก้มใส หัวใจสองดวงยังคงเต้นกระหน่ำไม่ต่างไปจากวันแรกที่จูบกันเลย

 

 

พวกเราไม่ได้เป็นแค่คู่รัก

 

 

แต่นี่คือคู่ชีวิต นี่คือความรักเพียงหนึ่งเดียวของกันและกัน...จากนี้และตลอดไป...

 

 

 

 

 

 

อะไร?!!”    จู่ๆมือเล็กของลูกสิงโตก็ปิดหมับลงไปบนดวงตาของแฝดผู้น้อง

 

ไม่มีอะไร”    มือลูกสิงโตลากมืออีกข้างของลูกกระต่ายให้สเก็ตออกไปห่างๆ หวังอี้คุนยิ้มหน่ายๆที่มุมปาก ปะป๊าหม่าม้าของเขานี่ก็จริงๆเลยนะ นึกจะหวานกันกลางลานสเก็ตงี้ก็ได้เหรอ? รู้จักอายลูกชายอย่างพวกเขาบ้างเถอะ

 

ไม่มีอะไรได้ไง? หมีเหรอ? หรือปีศาจน้ำแข็ง? นายปิดตาชั้นแล้วชั้นจะวิ่งหนียังไงเนี่ย?”    เจ้าลูกกระต่ายยังคงวิ่งตามมาอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว 

 

เถอะน่า ยังไงนายก็วิ่งตามที่ชั้นจับมือนายอยู่แล้วนี่

 

งื้อ! อะไรของนายเนี่ย?”    เจ้าลูกกระต่ายยังคงมึนงงต่อไป ต้องขอบใจเขาเชียวนะที่ช่วยรักษาความบริสุทธิ์ผุดผ่องในจิตใจของเด็กน้อยเอาไว้~

 

 

 

 

 

 

ฤดูหนาว ที่ไหนในยุโรปก็มืดไวอยู่แล้ว ยิ่งเขต Lap Land ซึ่งใกล้จะถึงช่วง Polar Night เวลากลางวันจึงยิ่งสั้นเต็มที นี่เพิ่งจะบ่ายสี่โมงเย็นเองแต่รอบกายกลับมืดสลัว

 

เขาพาลูกๆกลับไปยังกระท่อมที่พัก แต่เนื่องจากยังห่างไกลจากเวลานอนมาก เขาจึงปล่อยเจ้าเด็กแฝดวิ่งเล่นหิมะกันอยู่ข้างนอก

 

เสียงกรี๊ดกร๊าดของเจ้าลูกกระต่ายยามเมื่อถูกพี่ชายวิ่งไล่จับดังคละเคลาไปกับเสียงผ่าฟืนของเขา เป็นรีสอร์ทที่เป็นกันเองขนาดไหนก็คิดดูแล้วกัน แขกสามารถเรียนรู้วิถีชีวิตด้วยการผ่าฟืนเองเนี่ย

 

 

ตุบ

 

 

ฟืนถูกผ่าเป็นสองซีกก่อนจะหล่นลงไปบนหิมะ มือใหญ่วางขวานพิงไว้กับท่อนไม้ก่อนจะหยิบฟืนที่ผ่าไว้ขึ้นมาแล้วเดินเข้าบ้าน

 

อย่าวิ่งไปไหนไกลจากบ้านนะอี้คุน เฟยเฟย”   ลูกสิงโตกับลูกกระต่ายเปลี่ยนมาเล่นปาหิมะกัน ไม่รู้ทำอิท่าไหนเจ้าแฝดน้องถึงได้ละอองหิมะติดเต็มหัวเต็มตัวแบบนั้น สู้เค้าสิเจ้าอาหารหมี

 

คร้าบ~”    สองคนหันมาขานรับก่อนจะหันไปวิ่งเล่นกันต่อ เสียงเจี๊ยวจ๊าวทำให้เขารู้ว่าเด็กๆยังอยู่ใกล้ๆถึงแม้ว่าเขาจะเดินเข้าบ้านมาแล้ว

 

ฟืนถูกวางเรียงไว้ในเตาผิง น่าจะพอสร้างความอบอุ่นสำหรับค่ำคืนนี้ เขาลุกขึ้นยืนก่อนจะตบมือไล่ฝุ่น ได้ยินเสียงน้ำเดือดปุดๆกับกลิ่นหอมของสตูว์เนื้อลอยมาจากส่วนที่เป็นเคาน์เตอร์ครัว เจ้ากระต่ายยืนทำอาหารเย็นอยู่ตรงนั้น

 

หอมจัง”   ท่อนแขนแข็งแรงสวมกอดเอวบางจากทางด้านหลัง เขาสูดกลิ่นอาหารผ่านซอกคอระหงก่อนจะพลิกใบหน้ามาจูบลำคอนั่นเบาๆในชั่ววินาที

 

เดี๋ยวก็ฟาดด้วยทัพพีเลย”    เจ้ากระต่ายแยกเขี้ยวขู่

 

ผมก็อยากอ้อนพี่บ้าง”    เสียงสองสามสี่ถูกใช้ออกไป เขายังไม่ละไปไหน คางยังคงเกยไว้บนไหล่บาง เจ้ากระต่ายก็ไม่ได้ขัดขืนซ้ำยังยืนให้เขากอดแต่โดยดี

 

ตัวนายเย็นมากเลย ผ่าฟืนเสร็จแล้วเหรอ?”    เขากอดร่างโปร่งบางทั้งเสื้อโค้ท ผิวอุ่นๆจึงสัมผัสกับความเย็นที่ติดตามตัวเขาโดยตรง

 

ขอโทษครับ หนาวไหม?”

 

ไม่หนาวหรอก นายนั่นแหละ รีบไปทำให้ตัวอุ่นๆสิ”   

 

กอดพี่ได้ไหม

 

ไปผิงไฟไม่ดีกว่ารึไง? กอดชั้นกว่าจะอุ่น

 

ไม่เอาอ่ะ อยากกอดพี่

 

ตามใจ

 

อยากจูบพี่ด้วย

 

เดี๋ยวเถอะ”   เขาหัวเราะเบาๆ ผู้ชายเวลาที่อยู่กับคนรักก็จะเป็นเหมือนเด็กแบบนี้แหละ อยากอ้อนอยากเอาใจอยากวอแว เขาจึงยังกอดอีกฝ่ายต่อไป

 

 

 

หม่าม้า หิวแล้ว~”   จนกระทั่งเสียงใสดังขัดจังหวะ ประตูถูกเปิดผลัวะเขาจึงหันไปมองเจ้าเด็กแฝดทั้งที่ยังไม่ปล่อยเอวบาง สองคนก็คุ้นเคยกับความสวีทของพวกเขาดีจึงไม่ได้มีท่าทีตกใจอะไร เจ้าลูกสิงโตหันไปช่วยเจ้าลูกกระต่ายปัดปุยหิมะออกจากตัวด้วยความเคยชินกับภาพตรงหน้า

 

พาลูกไปอาบน้ำสิ”    จนเจ้ากระต่ายต้องกระทุ้งสีข้างนั่นแหละปลิงตัวใหญ่อย่างเขาถึงจะยอมถอยออกมา 

 

เขาพาฝาแฝดไปอาบน้ำ จากนั้นก็กินข้าวด้วยกัน นั่งดูรายการทีวีท้องถิ่นด้วยกัน จนเจ้าลูกสิงโตกับลูกกระต่ายหลับพับไปคาตัก เล่นทั้งวันคงจะเหนื่อยสินะ

 

ผมพาลูกไปนอนก่อนนะ”   แขนแข็งแรงอุ้มลูกชายขึ้นทีละคน  ในบ้านสไตล์คอทเทจหลังนี้มีสองห้องนอน เขาจึงอุ้มเด็กๆไปนอนด้วยกันในห้องเล็ก กว่าจะห่มผ้าให้ ปิดไฟ เจ้าคนที่นั่งดูทีวีก็ไม่อยู่แล้ว

 

เขาเปิดเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง เจ้ากระต่ายเตรียมห่มผ้าปิดตาเรียบร้อย เดี๋ยวสิ จะทิ้งกันไปงี้เลยเหรอ?

 

จ้านเกอ….”   ร่างสูงสง่าโถมทับลงไปบนคนที่นอนห่มผ้าจนถึงคอ เขาเลี้ยงลูกมาทั้งวัน ให้รางวัลเขาหน่อยสิ~

 

“......”    เจ้ากระต่ายยังคงตีเนียนทำเป็นไม่รู้เรื่องว่าเขาต้องการอะไร ดวงคู่สวยหลับพริ้มจนเขายิ้มกระตุก กล้าท้าทายเจ้าป่า...ต้องทำให้สำนึกบ้างแล้วววว

 

มือใหญ่ตลบผ้าห่มออกไป แขนขาคร่อมทับกักขังร่างโปร่งบางเอาไว้ เจ้ากระต่ายยังแกล้งหลับนิ่ง ลมหายใจร้อนจึงถูกเป่าทักทายลำคอระหงหนึ่งที 

 

เขาบรรจงกดริมฝีปากลงไปบนผิวเนื้อนุ่มใต้กกหู จูบเม้มย้ำๆจนไหล่บางสะดุ้งน้อยๆ เขาจูบซ้ำย้ำน้ำหนักลงไปบนลำคอขาว จากตรงนี้ไล่ไปตรงนั้น จูบจนเจ้าคนแกล้งหลับเริ่มจะแกล้งหลับต่อไปไม่ไหว ปลายเท้ากระต่ายเริ่มขยุกขยิกเหยียดยืดเสียดสีกับผ้าปูเตียงจนเกิดเสียงสวบสาบ

 

เขายิ้มทั้งๆที่ยังจูบลำคออุ่น เขารู้ว่ากำแพงที่พยายามจะสร้างมาป้องกันเขากำลังจะแตกพ่าย เขาจึงเร่งเร้ามันด้วยการแล่บลิ้นเลียลำคอระหงเหมือนแมวเลีย

 

อ๊ะ ฮะฮะ”   เจ้ากระต่ายหลุดหัวเราะเมื่อรู้สึกจั๊กจี้ มือที่เคยวางสงบบนหน้าอกยกขึ้นมากอดคอเขาอย่างยอมแพ้ ในที่สุดดวงตากลมโตก็ยอมเปิดขึ้นมาจนได้

 

อี้ป๋อเดี๋ยวก่อน~ ฮะฮะ”   เสียงนุ่มร้องห้ามทั้งเสียงหัวเราะเมื่อเขายังแล่บลิ้นเลียต่อ มือบางยันตัวเขาออกก่อนจะจ้องตาพร้อมยิงคำถามใส่

 

ถุงยางล่ะ?”    เมื่อไม่นานมานี้เจ้ากระต่ายได้ตั้งกฎไว้ว่าถ้าจะทำนอกสถานที่ที่ไม่ใช่ที่บ้าน จะต้องใช้ถุงยางอนามัยด้วย เพราะวันหนึ่งตอนไปพักที่โรงแรมในต่างประเทศด้วยกันแล้วเจ้ากระต่ายดันตื่นขึ้นมากลางดึก หลังจากพบสภาพห้องสภาพเตียงก่อนที่เขาจะได้เก็บกวาดทำความสะอาดเหมือนทุกที ก็ถึงขั้นช็อคจนต้องตั้งกฎพวกนี้ขึ้นมา

 

ลืมครับ...”    เขาทำหน้าหมาหงอยอ้อน

 

นายนี่มันตั้งใจจะเนียนใช่ไหม?”   บ่นไปมือก็ฟาดต้นแขนเขาไป  

 

แต่ชั้นก็คิดเอาไว้แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ ลุกไปหยิบเลย อยู่ที่ซิปในกระเป๋าเดินทาง”   เขาได้แต่ยิ้มแห้งหัวเราะแหะๆ เตรียมมาเองด้วยแหะ

 

เขาลุกไปหยิบอย่างช่วยไม่ได้ อะไรเนี่ย? ดูเร็กซ์ สมูท? สัมผัสมันก็นุ่มนวลดีอยู่หรอกนะ แต่เขารู้ว่าทำไมเจ้ากระต่ายถึงเลือกถุงยางรุ่นนี้มา นั่นก็เพราะว่าในกล่องมันมีแค่สองชิ้นเองน่ะสิ! เป็นแบบที่มีปริมาณน้อยที่สุดแล้วถ้าเทียบกับแบบอื่นๆ!

 

คิดจะจำกัดแค่สองรอบสินะ? ยิ่งอยู่ด้วยกันยิ่งรู้ทันเขาไปเสียหมดจริงๆ!

 

ริมฝีปากคาบปลายข้างหนึ่งของซองสี่เหลี่ยมเอาไว้ ใบหน้าหล่อเหลาชายตามองคนที่นอนอยู่กลางเตียงด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ มือใหญ่ฉีกซองก่อนจะสวมใส่มันเข้าไป ของเขาน่ะพร้อมตั้งแต่เดินเข้าห้องมาแล้ว

 

อ้า~”   ริมฝีปากสีระเรื่อครางเบาๆเมื่อท่อนแขนแข็งแรงของเขาเอื้อมโอบรอบเอวบางแล้วดึงร่างโปร่งขึ้นมานั่งบนหน้าตัก ความเป็นชายสอดใส่เข้าไปในช่องทางด้านหลังอย่างคุ้นชิน สารหล่อลื่นที่ถุงยางช่วยให้ทุกอย่างสมูท~สมชื่อ 

 

อื้อ~”   แต่ขนาดของเขาก็สร้างความลำบากจนเจ้ากระต่ายมักจะขยับตัวยากทุกครั้งหลังจากที่เพิ่งแทรกกายเข้าไป ร่างโปร่งที่สั่นอย่างเสียวกระสันน้อยๆทิ้งน้ำหนักเอนซบโอบกอดเขาไว้

 

ฮ้า…..”    เขาเงยหน้ามองคนที่นั่งคร่อมอยู่ข้างบนพลางหอบหายใจ ข้างในเริ่มบีบรัดราวกับกำลังสรวจสิ่งแปลกปลอม เขาถึงกับต้องกลืนน้ำลายอย่างพยายามข่มสัญชาตญาณดิบไม่ให้จับสะโพกมนนั่นสับลงมาตามแต่ใจ เขาต้องข่มใจรอให้เจ้ากระต่ายพร้อมก่อน

 

ริมฝีปากเริ่มบรรเลงบทเพลงแห่งจุมพิตแสนหวาน ปลายลิ้นไล้เลียริมฝีปากอิ่มราวกับกำลังขออนุญาติ และเมื่อมันยอมเปิดออกเพียงเล็กน้อย เขาก็สอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวานๆนั่นทันที 

 

เสียงจูบดังจุ๊บๆตามจังหวะที่เรียวลิ้นแลกกันอย่างลุ่มหลง เขากอดแผ่นหลังบางพลางสอดมือเข้าไปในเสื้อนอนฮู้ดตัวใหญ่ เจ้ากระต่ายเองก็กอดหัวเขาพร้อมกับสอดนิ้วเขามาในกลุ่มผมสีน้ำตาลอย่างนุ่มนวล

 

มือใหญ่ถอดเสื้อฮู้ดหูกระต่ายออกทางหัวโดยริมฝีปากยังพัวพันไม่ห่าง  ร่างกายที่นั่งคร่อมอยู่บนหน้าตักจึงเปลือยเปล่า  มือบางเองก็ละจากหัวเขามาดึงชายเสื้อยืดสีดำขึ้นไปเหมือนกัน  ไม่นานมันก็ถูกโยนไว้ที่ไหนสักแห่งในห้อง

 

อื้อ~ อื้ม~”    เขาเริ่มจับสะโพกมนโยกไปมา สิ่งที่ค้างคาอยู่ข้างในเสียดสีกับผนังร้อนเรียกความเสียวซ่านให้พลุ่งพล่านอยู่ในท้องน้อย ริมฝีปากละมากดจูบอยู่ที่ต้นคอระหง บัดนี้ต่างฝ่ายต่างเปลือยเปล่า ผิวเนื้อที่เริ่มมีเหงื่อซึมน้อยๆจึงบดเบียดเข้าหากัน

 

เขาใช้กล้ามแผงอกแข็งๆบดขยี้เม็ดเชอร์รี่สีแดงที่แผ่นอกบาง ทุกจังหวะขยับโยกสอดประสานรู้งานกันเป็นอย่างดี 

 

อะ อ้า…”    ใบหน้ามนสะบัดเงยหน้าในขณะที่เปล่งเสียงครางเครืออยู่ข้างหูเขา แรงกระตุ้นเร้าจากริมฝีปากที่ขบกัดไปทั่วลำคอ ลาดไหล่และไหปลาร้าทำให้ความรู้สึกดีล้นปรี่ออกมา

 

อ้อมแขนบางกอดยึดแผ่นหลังของเขาเอาไว้มั่นเมื่อมือใหญ่เริ่มขยับสะโพกมนถี่ขึ้น เขาเป็นประเภทดุดันเพราะงั้นทุกครั้งจึงออกสุดและกดลงมาสุดเช่นเดียวกัน  ถึงแม้เจ้ากระต่ายจะเป็นฝ่ายอยู่บนแต่คนที่คุมเกมคือเขา

 

อ๊ะ อี้ป๋อ~”   อ้อมแขนบางกอดคอเขาแน่นเมื่อแกนกายที่อยู่ภายในกระแทกโดนจุดไวสัมผัสจุดหนึ่งเข้า ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะว่าเจ้ากระต่ายจะร้องครางแทบขาดใจตายแค่ไหนเมื่อเขาไปแตะต้องมัน

 

อี้ป๋อ อ๊า~”   ใบหน้ามนซุกลงมาที่ซอกคอเขาอย่างทนไม่ไหวเมื่อมือใหญ่จงใจขยับสะโพกมนให้ความเป็นชายเสียดสีโดนจุดนั้นถี่ๆขึ้น เขาเองก็ต้องกัดฟันเพราะแรงบีบรัดอันร้ายกาจนั่น

 

ไม่ไหวแล้ว...อ๊ะ...จะออกแล้ว…”    เจ้ากระต่ายครางด้วยลมหายใจหอบกระชั้น พวกเราแลกจูบอย่างมัวเมากันอีกรอบก่อนที่มือใหญ่ดึงกายบางออกจนสุดแล้วกระแทกกลับเข้ามารวดเดียว

 

อ๊า~!!”    เสียงครางสูงดังพร้อมกับน้ำอุ่นๆสีขาวขุ่นสาดกระเซ็นเต็มหน้าท้องเขา ร่างกายที่กอดกันแน่นแข็งเกร็งกระตุกเบาๆ ต่างฝ่ายต่างถึงจุดสูงสุดและปลดปล่อยใส่กันและกัน

 

เจ้ากระต่ายถูกดึงขึ้นจากความเป็นชายของเขาทั้งๆที่ยังอยู่ในภวังค์ เขาปล่อยใบหน้าเปล่งปลั่งนั่นลงไปนอนหอบอยู่บนพื้นเตียงเพราะเขาต้องจัดการตัวเองก่อน

 

มือรูดถุงยางที่เต็มไปด้วยน้ำอุ่นร้อนอยู่ภายใน เขามัดแล้วโยนมันไว้สักที่บนเตียงก่อนจะหยิบซองใหม่ออกมาจากกล่อง

 

เอ๊ะ?”   หัวสีดำผงกขึ้นมาดูด้วยดวงตาลอยๆเมื่อช่องทางที่เพิ่งจะว่างเว้นไปถูกความใหญ่โตเติมเต็มกลับมาในไม่ถึงนาที ร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสไลด์ตัวลงไปกดคร่อมร่างโปร่งที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียงไว้

 

 

รอบใหม่กำลังจะเริ่มในไม่กี่อึดใจ

 

 

เดี๋ยว อื้อ~”   มือบางพยายามผลักหัวสีน้ำตาลที่ก้มลงไปซุกไซร้ที่ลำคอออก แต่แรงกระต่ายยังไงก็สู้สิงโตหิวโหยไม่ได้ เขากดจูบปลุกปั่นสันคอไล่ลงมาจนถึงหน้าอก

 

อี้ป๋อ อ้ะ~”   ปลายลิ้นร้อนแลบเลียยอดอกชูชันก่อนจะดูดกลืนมันเข้าไปในปาก ไม่ว่าจะส่วนไหนในร่างกายนี้ก็รสชาติดีไปเสียหมด แล้วจะให้เขาอดใจไม่กินได้ไง

 

ร่างโปร่งบางสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่าน เบื้องล่างเริ่มขยับโยกต่อเพลงรักบทที่สองทันที 

 

เขาใช้ปลายลิ้นหยอกเย้าเจ้าเม็ดเชอร์รี่จนแดงจัด มือบางยกขึ้นไปปิดปากอย่างทนไม่ไหว ร่างกายบิดเร่าๆรับความสุขสมถึงใจที่เขามอบให้ แกนกายสอดใส่ไม่หยุด สองขาเรียวขาวทำได้แค่อ้ากว้างให้เขาแนบชิดมากยิ่งขึ้น

 

เตียงไม้ส่งเสียงเอี๊ยดๆคละเคล้าไปกับเสียงคราง ถึงแม้เบื้องล่างจะรุกไล่รุนแรง แต่ข้างบนกลับหวานละมุน ริมฝีปากจูบกันอย่างเร่าร้อนแต่ก็อ่อนโยน อ้อมแขนต่างกอดก่ายจนผิวกายแทบจะหลอมรวมกัน

 

จังหวะรักดำเนินต่อไปอีกหลายสิบนาทีกว่าที่เสียงครางไม่ได้สรรพจะหยุดลงพร้อมกับความต้องการทั้งหมดทั้งมวลที่มอบให้แก่กัน

 

ร่างโปร่งบางนอนหมดแรี่ยวหมดแรงอยู่บนเตียงในขณะที่ดวงตาก็ทอดมองกองกระดาษทิชชูที่ถูกทิ้งเกลื่อนกลาดโดยฝีมือของหวังอี้ป๋อ ชั่ววินาทีนั้นวิศวกรหัวกะทิของเฟอร์รารี่ตั้งใจจะปิดตาลงเพราะคิดว่าคืนนี้คงจบลงแล้ว

 

แต่เขาประมาทหวังอี้ป๋อเกินไป... สิงโตที่พละกำลังเหลือเฟือยังไงมันก็ยังเป็นสิงโตวันยังค่ำ

 

เสียงกรอบแกรบทำให้ดวงตาคู่โตเปิดขึ้นมองอย่างสงสัย ทันได้เห็นมือใหญ่เหวี่ยงถุงพลาสติกใส่อะไรบางอย่างทิ้งลงพื้นไป

 

“....?”    แล้วไม่นานทุกความสงสัยก็ไขกระจ่าง เมื่อกล่องสีดำเล็กๆของดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ สองกล่องถูกวางลงข้างๆหมอน

 

ห๊ะ? เดี๋ยวนะ? ทำไมมีกล่องถุงยางอนามัยเพิ่มขึ้นมาได้ล่ะ? เขาไม่ได้ซื้อมา? ถ้างั้นก็หมายความว่า...

 

หวังอี้ป๋อ...ไหนว่าลืมไง?”   คนที่คิดว่าจะได้นอนแล้วผงะไปเมื่อนึกถึงปริมาณของในกล่อง

 

ที่บอกว่าลืมน่ะ ไม่ใช่ว่าลืมเอามาครับ แต่ลืมว่าซุกไว้ตรงไหนต่างหาก”   แล้วตอนนี้เนี่ยยย ก็เกิดจำได้ขึ้นมากะทันหันเลยแหละ~~ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มแก้มยกให้คนที่เพิ่งรู้ตัวว่าหลงกลเข้าไปเต็มๆ

 

เจ้าหมาป่าเจ้าเล่ห์!”   มือกระต่ายฟาดเขาผลั๊วะๆ  แต่เขาก็ไม่ได้สนใจแรงตีที่ไม่แสบไม่ร้อนอะไรนั่นแล้วหันไปจัดการถุงยางอนามัยกล่องใหม่แทน

 

อื้อ~”   ฝ่ามือดึงต้นขาขาวเข้ามาก่อนจะสอดใส่กลับเข้าไปรวดเดียว ใบหน้ามนถึงกับกัดฟัน ขมวดคิ้ว แล้วแยกเขี้ยวให้เขา

 

อ๊า!”   เขาไม่รอให้อีกฝ่ายได้บ่นอะไรแต่เริ่มขยับกายรอบใหม่ทันที ปิดริมฝีปากแดงช้ำนั้นด้วยเสียงครางอย่างไม่ปล่อยให้หยุดพัก

 

เขาคงจะเสพติดร่างกายของเจ้ากระต่ายขนาดหนัก กินเท่าไหร่ถึงไม่เคยพอ... 

 

 

 

ภาพสุดท้ายก่อนที่สติของเซียวจ้านจะออกจากร่างก็คือหัวสีน้ำตาลซึ่งยังซุกไซร้อยู่ที่ลำคอ...กับซองถุงยางอนามัยที่เกลื่อนเต็มเตียง

 

คงไม่ได้ใช้หมดสามกล่องหรอกนะ เจ้าสิงโตนี่! 

 

มืออยากจะยกมาฟาดสักทีแต่เขาก็ไม่มีแรงเหลือแล้ว ดวงตากลมโตจึงค่อยๆปิดลงไปพร้อมกับค่ำคืนที่แสนยาวนาน

 

 

 

 

 

 

 

ดวงตาคู่โตกระพริบปริบๆท่ามกลางแสงสว่างที่ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามา เสียงเจี๊ยวจ๊าวที่ดังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลปลุกให้เขาตื่นเหมือนทุกที เจ็ดแปดปีหลังมานี้ก็เป็นแบบนี้ตลอด

 

ร่างโปร่งบางค่อยๆลุกขึ้นนั่งบนเตียงที่เต็มไปด้วยร่องรอยการร่วมรักที่ดุเดือด ใบหน้ามนเบะปากใส่หมอนว่างเปล่าที่วางอยู่ข้างๆอย่างหมั่นไส้ ทำแบบนั้นกับเขาทั้งคืนแล้วยังจะตื่นเช้าไปเล่นกับลูกได้อีกนะ เอาแรงมาจากไหนนักเนี่ย?!

 

นักออกแบบรถมือหนึ่งแห่งวงการฟอร์มูล่าวันค่อยๆขยับร่างกายที่เมื่อยล้าไปที่ขอบเตียง หยิบเสื้อผ้าที่ถูกพาดไว้ให้ที่เก้าอี้มาสวมใส่ อี้ป๋อมักจะตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปดูลูกๆแทนเขาเสมอ เขาจึงไม่ต้องรีบเร่งลุกจากเตียงเท่าไหร่

 

เมื่อฝ่าเท้าแตะลงที่พื้นไม้ขนทั่วร่างก็ลุกพรึ่บ  “หนาวๆๆ”   เสียงนุ่มบ่นเบาๆก่อนจะรีบหยิบผ้าคลุมผืนหนามาห่มไหล่เอาไว้ เสียงโหวกเหวกดังมาจากหน้าบ้าน สงสัยเจ้าเด็กแฝดคงจะออกไปเล่นหิมะกันแล้วละมัง

 

 

แอ๊ด

 

 

ประตูห้องนอนถูกเปิดออกแต่ในบ้านกลับไม่มีใครอยู่ อี้ป๋อคงออกไปอยู่กับลูกด้วย  พวกเขามีลูกกระต่ายที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วงในหลายๆเรื่อง  อี้ป๋อเลยไม่เคยปล่อยให้เด็กๆคลาดสายตา

 

มือบางเปิดประตูหน้าบ้านออกไป สิ่งแรกที่เข้ามาทักทายก็คือความหนาวเย็น จากนั้นเขาจึงมองเห็นหิมะที่ขาวโพลน

 

แต่ท่ามกลางหิมะที่ขาวโพลนเหล่านั้น กลับมีสิ่งที่เด่นสะดุดตาลอยออกมา

 

มันคือตุ๊กตาหิมะสี่ตัว เป็นตุ๊กตาหิมะพ่อแม่ลูก

 

อี้คุน เฟยเฟย แล้วก็อี้ป๋อ กำลังช่วยกันปั้นครอบครัวตุ๊กตาสีขาวพวกนั้นขึ้นมา

 

เขาเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว

 

เพราะมีความสุขก็เลยยิ้ม... เป็นเรื่องง่ายๆที่ใครก็เข้าใจ

 

หม่าม้า!”   เจ้าลูกกระต่ายหันมาส่งเสียงเรียกเขาเป็นคนแรก

 

หม่าม้าตื่นแล้ว พวกเรากำลังปั้นตุ๊กตาหิมะอยู่เลย”   เจ้าลูกสิงโตหันมายิ้มสดใส  

 

ที่นี่มีหิมะเต็มเลย ก็เลยปั้นตัวใหญ่ๆได้”   เจ้าลูกสิงโตกางแขนกว้างในขณะที่พูด จริงสิ เจ้าตุ๊กตาหิมะสี่ตัวนี้ใหญ่กว่าที่พวกเขาเคยปั้นที่อิตาลีมาก

 

นี่ปะป๊านะ นี่หม่าหม้า นี่อี้คุน แล้วก็นี่เฟยเฟย หม่าม้า! หม่าม้าก็มาปั้นด้วยกันสิ!”   เจ้าลูกกระต่ายกระโดดตัวกลมเข้ามาลากแขนเขาออกไป 

 

ผ้าพันคอลากพื้นแล้วเราเนี่ย”   เขานั่งลงไปจับผ้าพันคอพันให้เจ้าลูกกระต่ายใหม่ ใบหน้าเล็กยิ้มให้เขาอย่างน่ารัก

 

ตื่นแล้วเหรอครับ”   เสียงทุ้มของหวังอี้ป๋อเอ่ยทักเขาจึงพยักหน้าให้ เขายืนมองสามพ่อลูกปั้นตุ๊กตาหิมะด้วยเสียงเจี๊ยวจ๊าวต่อไป เจ้าลูกกระต่ายช่างเจรจามาก บ้านเขาถึงไม่เคยเงียบเหงา

 

ดวงตากลมโตทอดมองหวังอี้ป๋อเล่นกับลูกด้วยรอยยิ้ม แรกๆเขาก็กังวลนะว่าอี้ป๋อจะเข้ากับเด็กได้หรือเปล่า เพราะอี้ป๋อเป็นพวกไม่สนใจใคร อารมณ์ร้อน แถมยังพูดน้อยอีก แต่พอได้อยู่กับลูกจริงๆกลับใจเย็นลงมาก คอยดูแลเอาใจใส่เด็กๆ มีความอดทนค่อยๆสอนเรื่องต่างๆให้ลูกที่ยังซนบ้าง ดื้อบ้าง งอแงบ้าง 

 

เขาคิดไม่ผิดจริงๆที่รักผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่ดูแลครอบครัวของเราได้

 

ถ่ายรูปแล้วส่งให้ปะป๊าหม่าม้าดูด้วยสิ”   เขาเอ่ยออกไปเมื่อเห็นอี้ป๋อถ่ายรูปครอบครัวตุ๊กตาหิมะโดยมีเจ้าเด็กแฝดยืนชูสองนิ้วอยู่ข้างๆ

 

ไว้จะกลับค่อยส่งให้ดู ขืนส่งตอนนี้เดี๋ยวได้ตามมาหมดบ้านอ่ะ”   เขาหัวเราะกับความหวังอี้ป๋อ แต่พ่อแม่เขา พ่อแม่อี้ป๋อ แล้วก็หลานชายอย่างหวังอี้หยางนี่ก็จริงๆเลยเหมือนกัน พวกเขาไปไหนไม่ได้ ถ้ารู้นี่มีแอบตามไปตลอด   

 

 

 

 

 

 

วันนี้ที่รีสอร์ทมีกิจกรรมหลายอย่างให้เลือกทำ แต่ยังไม่ถึงคริสต์มาสพวกเขาเลยยังไม่ไปบ้านคุณลุงซานตาครอส  การขี่สโนว์โมบิลก็ดูจะเร็วไปสำหรับครอบครัวลูกเล็กอย่างพวกเขา เพราะงั้นกิจกรรมน่ารักแสนชิลที่พวกเขาเลือกก็เลยเป็นการไปนั่งสุนัขลากเลื่อนหิมะกัน

 

น้องหมา~”    เจ้าลูกกระต่ายถลาเข้าหาไซบีเรียนฮัสกี้ฝูงใหญ่ แต่ละตัวหน้าตาหล่อเหลาสมเป็นหมาที่หล่อที่สุดในโลกจริงๆ 

 

หวังอี้ป๋อปล่อยเด็กๆเข้าไปเล่นและทำความรู้จักกับสุนัขตัวใหญ่พวกนั้น  ดวงตาคมกล้าหันไปมองสำรวจเลื่อน มันดูแข็งแรงและน่าจะปลอดภัยดี 

 

เจ้าลูกกระต่ายดูท่าทางจะชอบมาก กอดหมาใหญ่พวกนั้นไม่ปล่อยแถมยังหันมาอ้อนผู้เป็นพ่อ 

 

เฟยอยากเลี้ยงบ้างจังเลย~ อยากมีน้องหมาแบบนี้ซักฝูงนึงจังเลย~”   พอเลย~~ สุดท้ายแล้วคนที่ต้องคอยดูแลมันก็เขาทั้งนั้น~ ดูได้จากเจ้าหมีแพนด้ากับปลาเทราส์ยักษ์ที่บ้านไง

 

ปะป๊าดูสิ~ น้องหมาน่ารักเน้อ~ ตัวใหญ่กอดได้ด้วย~ เนี่ยอุ๊นอุ่น~”    ถึงจะเอ็นดูภาพตรงหน้าแต่ก็ต้องตัดใจ   

 

บ้านเราที่แคบ เลี้ยงไม่ได้หรอก ถ้าฝูงขนาดนี้ต้องหาที่ให้พวกมันวิ่งเล่นด้วย”    ไซบีเรียนฮัสกี้เป็นหมาพลังงานเยอะ อย่างเจ้าลูกกระต่ายคงพาหมาไปวิ่งไม่ไหวแน่ น่าจะโดนหมาลากไปมากกว่า อันตรายๆ

 

งื้อ…”    เจ้าลูกกระต่ายทำหน้าหงอยแต่ก็ไม่ได้ขอว่าจะเลี้ยงแค่ตัวเดียวก็ได้เสียด้วยนะ นี่กะจะเลี้ยงทั้งฝูงจริงๆเร๊อะ?!

 

ลูกลองบอกพี่อี้หยางดูสิ เลี้ยงไว้ที่แคนาดาได้ไหม”   เท่าที่เขารู้ เหมือนเจ้าเด็กนั่นจะซื้อภูเขาในแวนคูเวอร์เอาไว้ลูกนึงนะ?

 

จริงเหรอ?”   เจ้าลูกกระต่ายดวงตาเป็นประกาย เขาก็ได้แต่หวังว่าพรุ่งนี้อาเฟยจะลืมแล้วนะ ไม่งั้นจะหาว่าเขาโบ่ยงานให้เจ้าหลานชายไม่ได้นะ แต่ไซบีเรียนฮัสกี้มันเหมาะกับที่อากาศหนาวๆอย่างแคนาดามากกว่าไง

 

มาขึ้นเลื่อนเถอะ พี่เค้ารอแล้ว”    เขาหันไปค่อมหัวให้เจ้าหน้าที่ที่ยืนมองยิ้มๆอย่างเกรงใจ เลื่อนไม่ได้อันใหญ่จึงนั่งได้แค่สองคน เขาจึงให้อี้คุนไปกับจ้านเกอ ส่วนเจ้าตัววุ่นวายนี่อยู่กับเขาแทน

 

เจ้าลูกกระต่ายเดินมานั่งตักเขาอย่างว่าง่าย เลื่อนค่อยๆขยับออกไปโดยแรงลากของหมากว่าสิบตัว สำหรับเขาความเร็วแค่นี้ไม่ถือว่าตื่นเต้นอะไร แต่เจ้าลูกกระต่ายกลับวี๊ดว๊ายตลอดทาง ใบหน้าเล็กดูสนุกสนานกับการได้นั่งเลื่อนฝ่าหิมะ ทิวทัศน์ข้างทางก็สวยงามจับใจ ได้มาผจญภัยเล็กๆกับลูกแบบนี้ก็สนุกดี

 

เลื่อนถูกลากไปตามทางที่เป็นหิมะ เจ้าฝูงหมาไฮเปอร์ข้างหน้ายังคงวิ่งกันด้วยท่าทางกระตือรือล้น เดี๋ยวพาพวกเขาขึ้นเดินบ้าง ลงเนินบ้าง วิ่งไกลออกไปหลายต่อหลายกิโล จนในที่สุดก็หยุดลงที่ลานหิมะแห่งหนึ่งบนยอดเขา ตรงนี้น่าจะเป็นจุดพัก?

 

เขาก้าวขาลงจากเลื่อนก่อนจะมองสำรวจไปรอบๆ นี่ไม่ใช่แค่จุดพักธรรมดาแต่ยังเป็นจุดชมวิวอีกด้วย ภาพหุบเขาสีขาวราวกับอยู่ในดินแดนของเอลฟ์ทำให้ดวงตาของเขาถึงกับเบิกกว้าง

 

สวยจัง…”   เป็นเสียงนุ่มของเจ้ากระต่ายที่เอ่ยอยู่ข้างๆ ใบหน้ามนนิ่งค้างไปไม่ต่างจากเขาเลย 

 

มือบางยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่ายภาพต้นสนและหุบเขาหิมะที่แสนงดงามนั่น ส่วนเขาก็ไม่พ้นหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายอีกฝ่ายอีกที...ไอจีของหวังอี้ป๋อยังคงมีแต่รูปของเซียวจ้านไม่เคยเปลี่ยน

 

พวกเขาใช้เวลากลางวันอันแสนสั้นหมดไปกับฝูงหมาบ้าพลังพวกนั้น แต่แต่ละที่ที่พวกมันพาเขาไปก็สวยจับใจเลยจริงๆ นอกจากนี้เด็กๆยังดูจะชอบมากอีกด้วย

 

 

 

 

 

 

 

พวกเขากลับกระท่อมที่พักในตอนที่แสงลาลับขอบฟ้าพอดี วันนี้เขาก่อกองไฟอยู่นอกบ้านเพื่อรออะไรบางอย่าง

 

สี่คนพ่อแม่ลูกนั่งเบียดๆกันอยู่บนขอนไม้เพื่อถ่ายทอดความอบอุ่นให้แก่กัน พอมืดเข้าเมืองเล็กๆที่มีบ้านอยู่ไม่กี่ร้อยหลังก็แทบจะไม่มีแสงไฟรบกวน ท้องฟ้าจึงเต็มไปด้วยดวงดาวให้เจ้าลูกกระต่ายถามเจื้อยแจ้วว่านั่นดาวอะไรนี่ดาวอะไร

 

เขาอมยิ้มในขณะที่เจ้ากระต่ายพยายามตอบลูกชายขี้สงสัย ถูกบ้างมั่วบ้างผสมๆกันไป อย่างดาวลูกไก่น่ะใช่แน่ๆแต่ดาวลูกเป็ดเนี่ยไม่น่ามีนะ?

 

มือใหญ่ใช้ไม้เขี่ยไฟให้ลุกโชนจนมีเสียงแตกดังเปรี๊ยะๆ เขาเงยหน้ามองฟ้าเพราะสิ่งที่เขารอคอยไม่ใช่แค่ดวงดาวพวกนี้หรอก

 

มันเป็นอะไรที่พบเจอได้ยากยิ่งกว่าเพชรเสียอีก บางคนตามหามันทั้งชีวิตแต่ก็อาจจะไม่เคยเห็นเลยก็ได้

 

สิ่งที่เขารอก็คือ แสงเหนือ

 

ร่างสูงสง่าลุกไปหยิบผ้าห่มออกมาจากในบ้านก่อนจะยื่นปลายข้างนึงให้เจ้ากระต่าย พวกเขาสี่คนใช้ผ้าผืนเดียวห่มด้วยกัน ดูคล้ายกับลูกสัตว์ตัวเล็กๆที่โผล่หัวออกมาจากใต้ตัวกลมฟูของพ่อแม่

 

ยิ่งดึกท้องฟ้าก็ยิ่งมืด เจ้าลูกกระต่ายกับลูกสิงโตไม่รู้เรื่องรู้ราวหรอกว่าพวกเขากำลังรออะไรอยู่ แต่เด็กๆเห็นกองไฟ เห็นหิมะ เห็นดวงดาว ได้อยู่กับพ่อแม่ แค่นั้นก็สนุกแล้ว เจ้าเด็กแฝดเล่นเป่ายิงฉุบกันอยู่ในผ้าห่ม ส่วนเขากับเจ้ากระต่ายก็นั่งมองท้องฟ้าอย่างผ่อนคลาย จริงๆแล้วต่อให้จะไม่ได้เห็นแสงเหนือเขาก็ไม่ได้ผิดหวังอะไร เพราะการได้อยู่กับครอบครัวคือเรื่องที่ไม่เสียดายเวลาที่สุดแล้ว

 

อี้ป๋อ นั่นใช่รึเปล่า?!”   แล้วจู่ๆเสียงนุ่มก็ทักให้เขามองไปที่ขอบฟ้าด้านหนึ่ง 

 

เหมือนจะใช่เลยครับ?”   ดวงตาคมกล้าเพ่งมองอย่างไม่แน่ใจ แต่แล้วแสงสีเขียวที่มีแค่เส้นเดียวก็ค่อยๆเรืองรองแผ่ขยายเป็นสายจนเต็มขอบฟ้า

 

มันคือแสงเหนือจริงๆครับ!”   เขาหันไปบอกเจ้ากระต่ายด้วยความตื่นเต้น แสงสีเขียวที่วูบไหวไปมาราวกับคลื่นบนฟ้าสะกดสายตาจนใบหน้ามนนิ่งมองอย่างตื่นตะลึง

 

อี้คุน เฟยเฟย ออกมาดูสิลูก นั่นคือแสงเหนือ เป็นสิ่งที่หายากมากที่จะได้เห็น”    เด็กแฝดมุดผ้าห่มออกมายืนดูด้วยกัน

 

สวยจังเลย เฟยชอบมากๆ”   มือเล็กของสองพี่น้องจับกันไว้ในขณะที่ยืนมองแสงสีเขียวที่พาดผ่านท้องฟ้า แสงเหล่านั้นดิ้นไปมาจึงยิ่งสวยงามตระการตา

 

ถือว่าครอบครัวของเขาโชคดีมากจริงๆที่ได้มาเห็นมัน

 

 

 

แสงเหนือเรืองรองอยู่ราวๆยี่สิบนาทีก็หายไป พวกเขาเข้าบ้านด้วยความปลื้มปริ่มในใจ เหมือนมิชชั่นคอมพลีทแล้ว

 

คืนนี้ใครอยากมานอนกับหม่าม้าบ้าง?”    จู่ๆเจ้ากระต่ายก็หันไปถามเด็กๆ หื๋ม? ไม่ใช่ว่ารู้ทันและกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเมื่อคืนเลยชวนเด็กๆมานอนด้วยนะ?

 

เฟย!”   เจ้าลูกกระต่ายรีบยกมือ

 

ผมด้วย!”   

 

นอนด้วยกัยเยอะๆสนุกดี ผีไม่กล้ามาหลอกด้วย! เฟยจะนอนกับหม่าม้า!

 

งั้นก็ตกลงตามนี้ ไปอาบน้ำกันก่อนไป”    ในขณะที่ดันหลังเล็กให้เข้าห้องน้ำ เจ้ากระต่ายก็หันมาแสยะยิ้มให้เขา...ชัดเลย...ตั้งใจจะขัดขวางถุงยางที่ซุกอยู่ในกระเป๋าเดินทางอีกสองสามกล่องนั่นชัดๆเลย!

 

เขาทำได้แค่ยกยิ้มมุมปาก...ก็ได้...จะปล่อยไปสักคืนก็ได้~

 

เตียงในห้องนอนเขานั้นกว้างใหญ่พอให้เราสี่คนพ่อแม่ลูกนอนด้วยกันได้ ตอนนี้เจ้ากระต่ายนอนหลับปุ๋ยอยู่กับลูกตัวน้อยไปเรียบร้อยแล้ว

 

ส่วนเขายังนั่งอยู่ที่โซฟาหน้าเตาผิง เหล็กในมือยังเขี่ยฟืนไปมา

 

ปะป๊า?”    เสียงงัวเงียดังมาจากข้างหลัง และเมื่อเขาหันไปมองก็เห็นเจ้าลูกสิงโตยืนขยี้ตาอยู่

 

ทำไมตื่นแล้วล่ะ?”

 

ผมปวดฉี่

 

ไปเข้าห้องน้ำคนเดียวได้ไหม?”

 

อื้อ”   เจ้าลูกสิงโตที่ไม่เคยกลัวอะไรพยักหน้าก่อนจะเดินออกจากห้องไป ผีสางนางไม้ทำอะไรเจ้าเด็กจิตแข็งนี่ไม่ได้เลย เหมือนความกลัวผีของเขาไปตกอยู่ที่เจ้าลูกกระต่ายหมด

 

สักพักเจ้าลูกสิงโตก็กลับมา ร่างเล็กยืนลังเลอยู่ข้างเตียงเหมือนไม่แน่ใจว่าจะนอนดีไหม เหมือนจะอยากอยู่กับเขามากกว่า

 

มานี่สิ”   เขาจึงกวักมือเรียก อี้คุนจึงเดินมานั่งลงข้างๆ

 

ปะป๊าไม่ง่วงเหรอ?”

 

ปะป๊าคอยดูไฟ ห้องจะได้อุ่นๆ หม่าม้ากับลูกจะได้หลับสบายไง”    เจ้าลูกสิงโตมองเขาด้วยดวงตาเป็นประกาย

 

พวกเรานั่งมองไฟอยู่เงียบๆด้วยกัน เขาไม่เคยมีเวลาได้นั่งอยู่กับอี้คุนตามประสาพ่อกับลูกชายแบบนี้เลย ส่วนใหญ่จะมีเจ้าตัววุ่นวายคอยก่อกวนตลอด เสียงทุ้มจึงพูดออกไปในขณะที่ดวงตายังไม่ละไปจากประกายไฟ

 

ลูกน่ะ แข็งแรงกว่าน้อง แข็งแรงกว่าหม่าม้า เพราะงั้นลูกต้องคอยปกป้องเฟยเฟยกับหม่าม้านะ

 

ครับ...”   อี้คุนรับคำแต่เขาก็รู้ว่าในใจของลูกชายยังมีความสงสัย เพราะอี้คุนก็ยังเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งซึ่งต้องการให้คนรักและคอยดูแลเช่นกัน ใบหน้าเหล่อเหลาจึงหันไปมองลูกชายก่อนจะวางมือไว้บนหัวเล็ก

 

ส่วนอี้คุน ปะป๊าจะเป็นคนปกป้องลูกเอง”    เขายิ้มให้ด้วยความอ่อนโยนก่อนจะลูบหัวลูกชายเบาๆ

 

“....”   เจ้าลูกสิงโตยิ้มอย่างมีกำลังใจแต่ก็ยังไม่วายถามต่อ

 

แล้วใครจะเป็นคนปกป้องปะป๊าล่ะ?”

 

ก็หม่าม้า เฟยเฟย แล้วก็อี้คุนไง ครอบครัวของเราจะเป็นคนปกป้องปะป๊า จะคอยส่งพลังให้ปะป๊าชนะทุกสิ่ง

 

ว้าว เท่ห์จัง

 

เพราะงั้นลูกต้องดูแลน้องให้ดีๆนะ

 

ครับ

 

นั่นอาจจะเป็นสัญญาระหว่างเราสองพ่อลูก เป็นสัญญาที่ไม่จำเป็นต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยนและเป็นสัญญาที่จะฝังอยู่ในใจของเราตลอดไป

 

ไปนอนไหม? ปะป๊าก็ง่วงแล้ว”    เจ้าลูกสิงโตพยักหน้าตาปรือ 

 

เขานอนลงข้างๆเจ้ากระต่าย ดึงเอวบางเข้ามากอดไว้ 

 

 

เสียงหัวใจที่เต้นอย่างสม่ำเสมอของคนในอ้อมแขนทำให้เขายังคงมีชีวิตต่อไปได้

 

 

เสียงหัวใจของเจ้าเด็กน้อยสองคนที่นอนอยู่ใกล้ๆก็เช่นกัน

 

 

 

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

 

520 Beats per minute.

Story Never End.

  

 

หายไปนาน ขอประทานอภัย // ซบ // ได้เห็นเม้นต์ถามไถ่ในหลายๆเรื่องที่แต่งคาไว้แล้วก็อยากจะขอบคุณมากๆๆๆเลยค่ะ >/////<

 

ส่วนตอนพิเศษตอนนี้ก็ไม่มีไรมาก อยากเล่าเรื่องน่ารักๆของครอบครัวสิงโตกาตุ่ยให้ฟัง~ ปะป๊าเลี้ยงมายังไงถึงได้โตมาน่าอุ้มกลับบ้านขนาดนั้น ยังไงอ่านไปก็อย่าเพิ่งหลับกันซะก่อนน้า555

 

มีโลเคชั่นที่ฟินแลนด์มาให้ดูด้วยค่ะ คือถ้าพูดถึงฟินแลนด์จะนึกถึงโฆษณาตัวนี้ของ คิมี่  ไรโคเน่น ก่อนเลยค่ะ =q= ต้นฉบับคูลกาย ดิไอซ์แมนของแท้555

 Kimi Räikkönen - Live Original

 

อันนี้ก็อีกสองคลิปที่ใช้ประกอบการจิ้นได้ เอิ้ก ^ ^

 Finland & Lapland Winter Highlights - Husky Safari, Northern Lights, Icebreaker Cruise

 

Winter & Christmas: Santa Claus hometown Rovaniemi Lapland Finland video for families Arctic Circle

 

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์ ทุกๆการติดตาม ทุกๆหัวใจนะคะ จริงๆยังมีตอน 520 km/hr.ของอี้คุน ที่ยาวนรกอยู่อีกตอน แต่ยังแต่งไม่จบซักทีก็เลยยังไม่ได้ลง//ปาดน้ำตา แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าน้าาา

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น