Jujutsu Kaisen Au S.Fic [5U] This is Love story : 01

 

Jujutsu Kaisen Au S.Fic [5U] This is Love story : 01


: Jujutsu Kaisen Short Fanfiction Au

: Gojo Satoru x Itadori Yuji

: Warmhearted Romantic

: PG ไปก่อย

 

คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ

 

 

 

ตึง!!!

 

 

เสียงล้มตบเบาะดังสนั่นแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คนรอบกายหันมาสนใจมากนัก เพราะภาพที่อิตาโดริ ยูจิถูกจับทุ่มลงกับพื้นห้องชมรมยูโดเกิดขึ้นเป็นประจำยิ่งกว่าน้ำขึ้นน้ำลงเสียอีก

 

แล้วเจ้าคนที่นอนแอ้งแม้งหมดสภาพอยู่บนเบาะนั่นเคยเข็ดหลาบเสียที่ไหน ร่างของเด็กหนุ่มที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนักเด้งขึ้นจากพื้น ริมฝีปากหาญกล้าตะโกนออกไปอย่างท้าทายฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง

 

โกะโจเซนเซย์!!

 

ว่าไง ยูจิคุง!!

 

เอาใหม่อีกรอบ!! คราวนี้ผมจะชนะแล้วออกไปจากชมรมนี่เสียที!!

 

มาเลย!!

 

เสียงตะโกนลั่นทำให้เพื่อนร่วมชมรมแอบขำกันเบาๆ ก็นั่นน่ะเป็นรอบที่25ของวัน 525ของเดือน แต่ก็ยังไม่เห็นอิตาโดริ ยูจิจะเอาชนะโกะโจ ซาโตรุ โค้ชของชมรมยูโดแล้วออกจากชมรมอย่างที่ตั้งใจได้สักที

 

ที่จริงร่างกายที่นับว่าเล็กหากเทียบกับเด็กม.ปลายที่เป็นนักกีฬาของอิตาโดริ ยูจิกลับมีพลังมากกว่าคนปกติหลายเท่า ทักษะด้านกีฬาก็ราวกับสวรรค์ประทานพร แค่เตะบอลมั่วๆก็เข้าประตูหน้าตาเฉย เบสบอลก็ตีไปงั้นๆแต่ดันเป็นโฮมรันทุกลูก ขนาดยืนอยู่หลังเส้นสามแต้มไปหลายเมตรก็ยังชู้ตบาสลงห่วงสบายๆ ไม่ต้องนับวิ่ง4x100เพราะอิตาโดริ ยูจิวิ่งเร็วกว่ารถบรรทุกอยู่หลายขุม

 

ก็นั่นแหละ เหตุผลว่าทำไมชมรมกีฬาทั้งหลายถึงจ้องเด็กหนุ่มตาเป็นมันและอยากจะลากเข้าชมรมจนไม่สนแม้แต่การใช้เล่ห์กลอย่างการเปลี่ยนชื่อชมรมที่เด็กหนุ่มลงไว้ให้มาเป็นชมรมของตัวเอง เพราะงั้นตั้งแต่เปิดเทอมมา อิตาโดริ ยูจิจึงยุ่งวุ่นวายอยู่แต่กับการทำให้ชื่อของตัวเองไปอยู่ในชมรมสิ่งลี้ลับที่อยากจะไปอยู่ให้จงได้

 

ด้วยการท้าสู้กับประธานชมรมเอย โค้ชของชมรมกีฬาพวกนั้นเอย ว่าถ้าเขาชนะได้ ก็ให้ปล่อยเขากลับไปอยู่ชมรมสิ่งลี้ลับแต่โดยดี

 

กับชมรมกีฬาอื่นๆก็เป็นไปได้สวยอยู่หรอก เพราะไม่ว่าจะเอสของชมรมที่เก่งแค่ไหนก็ไม่มีใครล้มเสือแห่งม.ต้นตะวันตกได้เลยสักคน! แล้วในขณะที่เขากำลังย่ามใจและคิดว่าเจ้าพวกชมรมยูโดก็คงจะทำอะไรเขาไม่ได้...

 

 

ตึง!!!

 

 

ร่างทั้งร่างก็ลงไปนอนหงายอยู่บนพื้นโดยฝีมือของเจ้าคนหัวขาวหน้าตาชิลๆที่ยืนค้ำหัวเขาอยู่นี่แหละ!

 

อ๊า! ปัดโธ่เว้ย!!”   มือสีแทนยกขึ้นมาขยี้หัวจนเส้นผมสีพีชสั้นพันกันยุ่งเหยิง

 

วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกันนะยูจิคุง~ เดี๋ยวกระดูกกระเดี้ยวหักไป ผมขี้เกียจดูแลเธอไปตลอดชีวิต ถึงจะทำได้ก็เถอะ          น้ำเสียงเริงร่ากวนประสาทเอ่ยบอกจากใบหน้าที่สวมแว่นดำแม้แต่ตอนเล่นยูโด โกะโจเซนเซย์เป็นโค้ชของชมรมยูโดแล้วก็เป็นคนเดียวในโรงเรียนที่ล้มเขาได้ ทำให้เขาต้องติดแหง่กอยู่ในชมรมนี้นี่แหละ!

 

อะ ฮะ ฮะ ฮะ   ดวงตาสีน้ำตาลหรี่มองร่างสูงที่เดินหัวเราะเหมือนคนบ้าออกจากโรงฝึกของชมรมไป เขาไม่เข้าใจ โกะโจเซนเซย์ก็ไม่ได้ตัวล่ำกล้ามใหญ่เป็นมัดๆเหมือนรถถังแต่กลับมีแรงมีพลังมากกว่าเขาเสียอีก ทั้งๆที่เขาเนี่ย! ต่อยกับประธานชมรมมวยสากลจนน็อคมาแล้วนะ!

 

ต้องบอกว่าโกะโจ ซาโตรุเป็นคนที่เขาแพ้ทางหรือไม่ก็เหมือนกันมากเกินไปดี?

 

อิตาโดริคุง นี่คือตารางการแข่งอินเตอร์ไฮรอบคัดเลือก...”   อินเตอร์ไฮอะไรเล่า? เขาไม่ได้จะอยู่ชมรมยูโดนานขนาดนั้นซะหน่อย ดวงตาสีเม็ดอัลมอนด์เหลือบมองประธานชมรมที่ตีเนียนเข้ามาแล้วก็ทำอย่างกับว่าเขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของชมรมไปแล้ว มันน่าโมโหตรงที่เจ้าพวกนี้มั่นใจนักหนาว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางเอาชนะโกะโจเซนเซย์แล้วออกไปจากชมรมยูโดได้นี่แหละ! ถึงเขาจะอยู่นี่มาเกือบสองเดือนแล้วก็เถอะนะ!

 

รอบแรกก็เจอสายแข็งเลย โรงเรียนที่เราต้องเจอก็...

 

เหวอ~ จะห้าโมงเย็นแล้วนี่ ผมไปก่อนละ!”   เขาเผลอตะโกนออกไปเมื่อเหลือบมองนาฬิกา ร่างที่ไม่ได้หนาอะไรมากลุกพรวดจากพื้นเบาะทิ้งให้ประธานชมรมยูโดนั่งยกมือค้างอยู่ตามลำพัง

 

แต่ว่าตาราง....

 

ลงๆไปเถอะ ผมยังไงก็ได้!”   มือเล็กโบกส่งๆไปก่อนจะรีบวิ่งปรู๊ดออกมาจากโรงฝึก

 

เขาต้องออกจากโรงเรียนตอนห้าโมงเย็นทุกวันและนั่นก็คือเหตุผลว่าทำไมเขาจึงเข้าชมรมอะไรจริงจังไม่ได้ เขาไม่สามารถอยู่ซ้อมจนมืดค่ำเหมือนสมาชิกคนอื่นๆ เพราะเขามีที่ที่จะต้องไป มีคนที่จะต้องดูแล

 

 

 

 

 

 

 

เด็กหนุ่มแวะร้านดอกไม้ที่ซื้อเป็นประจำ วันนี้เป็นกุหลาบกำใหญ่ที่อยู่ในมือเขา

 

ร่างโปร่งเดินทอดน่องไปเรื่อยๆตามเส้นทางที่คุ้นเคย จนกระทั่งมาหยุดลงตรงหน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

 

บอกแล้วไงว่าไม่ต้องมา! แกควรจะอยู่กับเพื่อนทำกิจกรรมชมรมสิ!”   เสียงตวาดดังขึ้นทันทีที่เห็นหน้าเขา แต่เด็กหนุ่มกลับเดินเข้าไปอย่างไม่ใส่ใจ มือเล็กหยิบแจกันก่อนจะแกะห่อดอกไม้ออกด้วยความคุ้นชิน

 

เสร็จหมดแล้วน่า ถ้าไม่ว่างผมก็ไม่มาหรอก”   เขาหันไปยิ้มร่าให้คนที่นอนอยู่บนเตียง ถึงจะทำหน้าบูดหงุดหงิดอารมณ์เสียอยู่ตลอดเวลา แต่ว่าในดวงตาของชายชรากลับกักเก็บความดีใจเอาไว้ไม่มิด

 

ตั้งแต่จำความได้อิตาโดริ ยูจิก็อยู่กับปู่แค่สองคนมาตลอด ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน มีแค่ปู่ที่เลี้ยงดูเขามาจนเติบใหญ่

 

 

 

 

 

 

 

มือสีแทนดึงผ้าห่มขึ้นคลุมถึงลำคอก่อนจะถอยออกมายืนมองคนที่ผล็อยหลับไปหลังจากทานข้าวทานยาเสร็จ เสียงครื้นๆของท้องฟ้าที่ใกล้เข้ามาทำให้เขาจำต้องตัดใจรีบกลับเพราะไม่รู้ว่าฝนจะตกลงมาเมื่อไหร่ เมื่อเช้าก็ลืมดูพยากรณ์อากาศเสียได้

 

ง่ะ...”   ยังไม่ทันจะวิ่งลงมาถึงชั้นหนึ่ง เสียงเปาะแปะๆก็ดังกระทบหน้าต่างกระจกเสียแล้ว

 

เขายืนเคว้งคว้างมองสายฝนในขณะที่คนอื่นๆต่างกางร่มฝ่าออกไป จากที่มีคนยืนอยู่หน้าตึกมากมายกลับค่อยๆทยอยหายไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ...จนในที่สุดก็เหลือเขาเพียงคนเดียว

 

ปัดโธ่...”   หลังจากพยายามควานหาร่มในกระเป๋าเผื่อมันจะโผล่ออกมาราวกับปาฏิหาริย์ แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่เจออะไรที่จะช่วยกันฝนได้เลยสักอย่าง มีแต่ชุดยูโดที่ยิ่งเห็นยิ่งชวนหงุดหงิดใจ ยิ่งเห็นยิ่งนึกถึงแต่ใบหน้าแย้มบานน่าหมั่นไส้

 

เฮ้อ...”   ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีพีชถอนหายใจ เศร้าไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ดวงตาสุกใสเหมือนแมวจึงเหลือบซ้ายแลขวาหาที่หลบฝน จะกลับขึ้นไปหาปู่ก็น่าจะใกล้หมดเวลาเยี่ยมแล้ว รออยู่แถวนี้ดีกว่าอีกไม่นานฝนคงหยุดตก

 

ร่างโปร่งนั่งยองๆลงไปที่มุมหนึ่งของทางเข้า ชายคาตึกก็สั้นเหลือเกิน ละอองฝนยังกระเด็นเข้ามาโดนชายเสื้อเขาอยู่เลยเนี่ย

 

แล้วในขณะที่นั่งมองฟองอากาศลอยไปกับสายน้ำอย่างไร้จุดหมาย เงาสีดำๆของอะไรบางอย่างก็ทาบทับลงมาบนหัว...

 

 

หื๋อ?

 

 

โกะโจเซนเซย์?”   เมื่อเงยหน้าขึ้นไป ดวงตาสีฟ้าสว่างสดใสก็มองผ่านแว่นดำมายังเขาและเงาที่มองเห็นก็คือร่มใสคันใหญ่นั่นเอง

 

ว่าแล้วว่ายูจิคุงต้องอยู่ที่นี่”   ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีหิมะยิ้มแฉ่ง ถึง95%ของผู้ชายคนนี้จะเป็นความกวนประสาท แต่อีก5%กลับเป็นกองไฟที่อบอุ่นสำหรับเขา ความรู้สึกของหญิงสาวที่ตกหลุมรักชายหนุ่มในวันฝนตกก็คงเป็นแบบนี้นี่เอง ก็ถ้าคุณนั่งเหงาๆจิ้มฟองน้ำเล่นอยู่ดีๆแล้วมีผู้ชายคนหนึ่งเดินถือร่มเข้ามาหา ความรู้สึกแบบว่า...นี่แหละใช่เลย! ก็คงเกิดขึ้นได้โดยง่าย

 

รู้ได้ยังไงครับ?”   เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนก่อนจะสะบัดหัวไปมาไล่ละอองน้ำที่ติดอยู่จนดูเหมือนลูกหมากำลังสลัดขน อิตาโดริ ยูจิไม่รู้เลยว่ามีคนกำลังจ้องมองเขาด้วยสายตาเอ็นดูแบบที่ไม่เคยมีให้ใครอยู่

 

ผมเป็นอาจารย์ที่สอนเธอ ก็ต้องรู้สิ”   ดวงตาใสแจ๋วจ้องมองอีกฝ่ายอย่างงงๆ โกะโจเซนเซย์เป็นอาจารย์ประจำห้องเคมีที่สอนวิชาวิทยาศาสตร์ไม่ใช่อาจารย์ที่ปรึกษาเขาเสียหน่อย เจอกันที่ห้องชมรมยูโดยังจะบ่อยกว่าอีก? แล้วจะรู้ได้ไงว่าปู่เขาอยู่ที่โรงพยาบาล?

 

จะกลับเลยไหม? นั่งรออยู่แบบนี้ไม่รู้หรอกนะว่าฝนจะหยุดเมื่อไหร่”   เขามองร่มก่อนจะพยักหน้าอย่างดีใจและไม่ได้คิดอะไร ร่างที่เล็กกว่าขยับเข้าไปยืนใต้ร่มคันเดียวกัน เขาเพิ่งเห็นว่าอีกฝ่ายสวมชุดยูกาตะสีเทา ไม่ใช่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงสแล็คแบบที่เห็นเป็นประจำตอนอยู่โรงเรียน แสดงว่าเซนเซย์มาจากบ้าน?

 

แต่ใส่ยูกาตะแบบนี้ก็เหมาะกับอีกฝ่ายมาก...

 

ที่จริงแล้วโกะโจ ซาโตรุนั้นเป็นผู้ชายที่หล่อมาก หล่อแบบที่ว่าไปเป็นดาราได้สบายๆ แล้วยังมีร่างกายที่สูงสมส่วน ผู้ชายคนนี้สูงถึง190ซม. หุ่นดีจนเป็นนายแบบก็ยังได้ จบจากม.โทไดด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เป็นเจ้าบ้านคนปัจจุบันของตระกูลใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีทั้งชื่อเสียงและฐานะ โกะโจ ซาโตรุนั้นเป็นผู้ชายที่มีทุกอย่าง

 

ยกเว้นสติ...

 

เอ้า~ ยิ้มหน่อยสิยูจิคุง~”   จู่ๆมือใหญ่ก็ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก่อนจะถ่ายรูปเซลฟี่คู่กับเขา

 

เย้~”   เขานี่ก็เหมือนคนบ้าจี้ เซนเซย์ชงอะไรมาเขาก็ดันเข้าขากับอีกฝ่ายไปเสียหมด ดูซิเนี่ย นอกจากจะยิ้มให้กล้องยังชูสองนิ้วแถมให้อีก 

 

ว่าแต่ถ่ายไปทำไมน่ะครับ?”   เขาเหลือบมองใบหน้าชั่วร้ายที่กำลังแสยะยิ้มในขณะที่กดพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์

 

จะส่งไปให้นานามิแล้วบอกว่าฉันเจอเด็กไม่ยอมกลับบ้าน สารวัตรนักเรียนอย่างหมอนั่นต้องรีบบึ่งมาแน่นอน พอมาถึงก็ ว้ายยย เข้าใจผิดแล้ว~”   อุ๊บ...เขาทั้งอยากหัวเราะทั้งสงสารอาจารย์นานามิที่ชอบถูกเจ้าคนเพี้ยนๆนี่แกล้งเอาอยู่เรื่อย

 

ก็ดูสิ เป็นซะแบบนี้อ่ะ แทนที่จะป๊อปในหมู่นักเรียนสาวๆ แต่ทุกคนกลับถอนหายใจแล้วบ่นออกมาเป็นคำเดียวกัน  หล่อเสียของ! แต่ก็ยังหล่อ!

 

เรียบร้อย~”   เจ้าคนที่แกล้งคนอื่นได้หันมายกนิ้วโป้งให้เขา

 

งั้นก็รีบไปกันเถอะครับ ผมไม่อยากเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย”   ถ้าอ.นานามิรู้เข้าเขาคงโดนบ่นจนหูชา คนคนนั้นยิ่งตรงเป็นไม้บรรทัดอยู่ด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

สายฝนกระทบร่มดังเปาะแปะๆ ถนนหนทางก็เฉอะแฉะไปหมด แต่น่าแปลกที่เขาไม่รู้สึกหนาวเลย อาจจะเป็นเพราะไออุ่นๆที่แผ่ออกมาจากร่างกายที่กระทบกันไปมานี่ก็ได้

 

คุณปู่เป็นยังไงบ้าง?”   เสียงทุ้มเอ่ยถามท่ามกลางเสียงของสายฝน คำถามนี้ทำให้เขาเหลือบมองเสี้ยวใบหน้าคมคายนั่นด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก

 

“...ก็เหมือนเดิมแหละครับ”   เพราะปู่เขามีนิสัยแบบนั้น ทั้งดื้อรั้นทั้งอารมณ์ร้ายจึงไม่มีใครมาเยี่ยมเลยนอกจากเขา ที่โรงเรียนเองเขาก็ไม่ได้สนิทกับใครมากพอที่จะคุยเรื่องนี้ด้วยได้ จึงไม่มีใครรู้ ไม่มีใครถามไถ่ ไม่มีใครให้เขาแบ่งเบาภาระในใจนี้ออกไปได้เลย ใบหน้าอึ้งๆจึงทอดมองไปยังพื้นถนนก่อนจะอมยิ้ม เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าดีใจเรื่องอะไร แต่ตอนนี้เขาอยากจะกระโดดกอดโกะโจเซนเซย์ชะมัด

 

เซนเซย์ ขอกอดทีได้ไหม?”   ไวเท่าความคิด เขาหันไปมองอีกฝ่ายด้วยสายตาวิ้งวับ

 

ก็ได้อยู่หรอก...แต่ยูจิต้องรับผิดชอบผมไปตลอดชีวิตเลยนะ ผมไม่เคยกอดใคร จากนี้ไปผมคงแต่งงานไม่ได้อีก”   ท่าทางเขินอายสะดีดสะดิ้งโอเว่อร์แอคติ้งนั้นมันคงจะน่าถีบในสายตาคนอื่น แต่กับเขาแล้ว

 

ฮ่าๆๆๆ”   อิตาโดริ ยูจิหัวเราะร่าเริง เพราะอีกฝ่ายเป็นแบบนี้แหละมันทำให้เขาไม่เคอะเขินเวลาเล่นด้วย 

 

เซนเซย์ ให้ผมถือร่มให้ไหม?”   พวกเขาสองคนคล้ายกันอยู่อย่างหนึ่งคือเป็นพวกช่างพูด พูดไปเรื่อยเปื่อย เจออะไรก็หยิบยกมาเป็นหัวข้อสนทนาได้หมด แล้วก็มักจะพูดสลับเรื่องไปมาแล้วแต่ว่าอะไรอยู่ในสายตาตอนนั้น มันจึงมักมีปัญหาเวลาคุยกับคนอื่นเพราะไม่ค่อยมีใครตามทัน แต่พอคุยกันเองกลับรู้เรื่องซะงั้น 

 

ไม่เอาหรอก ถ้ายูจิคุงลอบทำร้ายหัวผมจะทำยังไง”    จะหาว่าเขาแขนสั้นงั้นสินะ...ตามใจ งั้นเขาเดินตัวปลิวให้อีกฝ่ายถือร่มให้ก็ได้!

 

อ่ะ นั่นตู้กาชาปองใหม่นี่! เซนเซย์ ผมขอแวะแป๊บนึงได้ไหม? นะ!”   หน้าร้านสะดวกซื้อที่กำลังเดินผ่านอิตาโดริ ยูจิดันหันไปเห็นตู้กาชาปองของอนิเมะที่ติดตามอยู่เพิ่งมาลงใหม่พอดี ดวงตาสีเม็ดอัลมอนด์สุกสกาวจึงหันมามองเจ้าของร่มด้วยแววตาอ้อนๆโดยไม่รู้ตัว

 

เอาสิ ผมก็อยากแวะซื้อมันปิ้งตรงนั้นพอดี”   ร้านมันเผาควันฉุยตั้งอยู่ข้างๆเข้ากับบรรยากาศหนาวๆวันฝนพรำแบบนี้สุดๆ

 

สองร่างในร่มเดินเลี้ยวออกจากเส้นทางกลับบ้านโดยไม่มีใครห้ามใคร นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่พวกเขาสองคนเหมือนกัน ความพร้อมจะเอนจอยกับทุกสิ่งรอบตัวโดยไม่คิดเล็กคิดน้อยแบบนี้

 

 

ครึ่ก!

 

 

ไข่พลาสติกสีสันสดใสหล่นลงมาในช่องรับ มือสีแทนจึงเอื้อมไปคว้ามันออกมาด้วยความตื่นเต้น ดวงตาสุกใสลุกวาว หัวใจเต้นตุบๆอย่างลุ้นระทึกว่าจะได้ตัวละครที่ชื่นชอบไหม

 

ง่ะ! ทำไมได้เจ้าเรียวเมน สุคุนะอีกแล้วเนี่ย! หมอนี่มันตัวร้ายชัดๆ!”   ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีพีชทำปากยื่นอย่างไม่พอใจกับผลการไขกาชาปองของตัวเอง

 

โอ๊ะ นี่มันตู้ Jujutsu kaisenหรอกรึ ผมก็อยากได้”   ร่างสูงยาวเดินถือมันเผาหอมฉุยเข้ามาหา ว่าแต่เซนเซย์ดูอนิเมะโชเน็นแบบนี้ด้วยเร๊อะ?

 

อยากได้แพนด้าอ่ะ เซนเซย์เชื่อไหมว่าผมไขทีไรก็ได้แต่หมอนี่จนตอนนี้มีจะเต็มบ้านอยู่แล้ว อยากได้แพนด้าาาา

 

เอ้า ถือไว้ จะกินก็ได้นะ ส่วนแพนด้าคุงปล่อยเป็นหน้าที่ผมเอง”   มือใหญ่ยัดมันเผาใส่มือเล็กก่อนจะกำหมัดอย่างมุ่งมั่นว่าวันนี้พวกเขาต้องได้ตัวละครที่ชื่นชอบ

 

เอาละน้า~~”   อิตาโดริ ยูจิยืนมองอีกฝ่ายที่หมุนตู้กาชากองอย่างลุ้นระทึกจนเผลอกัดมันเผาที่มีรอยกัดอยู่แล้วเข้าปาก เสียงครึ่กๆๆของไข่พลาสติกที่ร่วงลงไปยิ่งทำให้ใจเต้นโครมคราม

 

แพนด้าคุง ขอให้เป็นแพนด้าคุงด้วยเถิด~~”   ดวงตาทั้งสองคู่จับจ้องอยู่ที่ไข่พลาสติกราวกับเด็กๆ นี่ถ้าไม่บอกคงไม่มีใครรู้แน่ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็นลูกศิษย์กับอาจารย์

 

 

แกร่ก

 

 

แล้วใบหน้าของทั้งคู่ก็ถึงกับแห้งผาก...เรียวเมน สุคุนะยังคงแสยะยิ้มออกมาจากไข่ให้นึกอยากจะปาลงถังขยะยังไงอย่างงั้น

 

ว้อยยยย เจ้าหมอนี่จะตามราวีฉันไปถึงไหน!!”   มันเผาถูกงับเข้าปากด้วยความเกรี้ยวกราด

 

อยากได้โจโกะคุงหรือฮานามิมากกว่าอ่ะ”   ชายหนุ่มผู้สูง190ซม.และอายุ28ปีทำหน้าละห้อยก่อนจะหย่อนกาชาปองลูกนั้นลงกระเป๋าเด็กหนุ่มไป ป่านนี้พระเอกของเรื่องอย่างฟุชิงุโระคงร้องไห้ไปแล้วที่เจ้าพวกนี้ดันสนใจไคจูกับวิญญาณคำสาปมากกว่าตน

 

ลองอีกทีก็แล้วกัน”   มือใหญ่หยอดเหรียญลงไปอีกรอบอย่างไม่ทุกข์ร้อน หัวใจของชายหนุ่มก็ต้องเต็มไปเปี่ยมไปด้วยความหวังและไม่ย่อท้อแบบนี้แหละ ส่วนเด็กหนุ่มหัวสีพีชที่ซัดมันเผาของคนอื่นไปครึ่งลูกแล้วก็เดินมาเกาะไหล่สูงใหญ่มองอย่างลุ้นระทึกอีกรอบ

 

แพนด้าคุงทีเถอะ…”

 

วิญญาณคำสาปทีเถอะ…”

 

 

แกร่ก….

 

 

ร่างสองร่างถึงกับยืนมองของในมือด้วยสภาพวิญญาณหลุดออกจากร่าง จากชีวิตที่มีสีสันกลับกลายเป็นสีขาวดำไปชั่วขณะ

 

กลับกันดีกว่าไหม ยูจิคุง…”   มือใหญ่หย่อนเรียวเมน สุคุนะตัวที่สามใส่กระเป๋านักเรียนของอิตาโดริ ยูจิก่อนจะรับมันเผาที่เหลือครึ่งนึงมากินต่อ

 

ครับ…”   เด็กหนุ่มตอบกลับด้วยสภาพยอมแล้วซึ่งทุกสิ่ง บางที...โลกนี้มันก็ไม่มีอะไรได้ดั่งใจเสมอไปนี่นะ...เรื่องนี้สอนให้รู้ไว้

 

 

ร่มใสถูกกางขึ้นอีกครั้ง ร่างสองร่างเดินเคียงข้างกันอีกหน

 

 

ตกลงเซนเซย์ออกมาร้านสะดวกซื้อสินะ?”   ดวงตาสุกใสหรี่มองถุงร้านสะดวกซื้อที่คล้องแขนโกะโจเซนเซย์อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ในถุงอวบอูมนั่นคงมีแต่ขนมที่หวานแสบไส้แน่ๆ ออกมาซื้อของแล้วก็คงจะบังเอิญเจอเขามากกว่า เพราะถ้าจะบอกว่าอีกฝ่ายจงใจออกมารับเขามันคงจะแปลกๆ

 

ใครว่าล่ะ ผมตั้งใจออกมารับยูจิคุงต่างหาก~ ก็เป็นนักเรียนที่น่ารักของผมและเป็นสมาชิกคนสำคัญของชมรมยูโดเรานี่นะ จะปล่อยให้ตากฝนจนเป็นหวัดได้ไง อะฮะๆๆ”   อย่ามาแถหน่อยเลย! ถึงเขาจะค่อนข้างเชื่อคนง่ายเพราะไม่คิดอะไรมาก แต่เจ้าคนที่ชอบหลอกให้เขาเชื่อเรื่องเพี้ยนๆนี่ก็ทำให้เขาต้องเริ่มหารสองทุกครั้งที่อีกฝ่ายบอกอะไรมา

 

เคยหลอกให้เขาไปนั่งเรียนเคมีอยู่คนเดียวทั้งๆที่เป็นวันหยุดของโรงเรียนบ้างละ หลอกให้เขาไปช่วยจัดเครื่องมือวิทยาศาสตร์ตอนพักกลางวันจนต้องกินข้าวที่ห้องพักครูบ้างละ บอกเวลาซ้อมของชมรมยูโดสลับกับสมาชิกคนอื่นๆบ้างละ ให้เขามาชมรมแต่เช้าทั้งๆที่ชาวบ้านมากันตอนเย็นบ้างละ เขาเคยทุ่มเซนเซย์ได้นะแต่มันไม่มีทั้งหลักฐานและพยาน! เจ้าคนสุดเกรียนนี่เลยไม่นับซะงั้น!

 

แต่ก็เพราะแบบนั้นแหละ ตั้งแต่เปิดเทอมมาเขาจึงอยู่กับโกะโจเซนเซย์มากกว่าเพื่อนในห้องเสียอีก แทนที่จะหาเพื่อนสนิทได้ก็ต้องมัวมาวุ่นวายอยู่กับอีกฝ่ายนี่แหละ

 

"ทางนี้ลัดไปบ้านผมได้”   เขาชี้ไปที่บันไดหินซึ่งตัดผ่านด้านหลังวัด รอบกายยังไม่ถึงกับมืดเท่าไหร่จึงยังมองเห็นกออะจิไซเต็มสองข้างทาง 

 

ดวงตาสุกใสเบิกขึ้นเล็กน้อย ดอกไฮเดรนเยียสีฟ้านับร้อยนับพันดอกชูช่อรับน้ำฝน ประกายระยิบระยับก่อให้เกิดภาพอันตระการตา เขาไม่เคยได้หยุดมองภาพแบบนี้เลย ทุกวันทำได้แค่รีบร้อนวิ่งผ่านมันไป หัวใจจึงเผลอเต้นแปลกๆ คงจะเป็นเพราะบรรยากาศชุ่มฉ่ำแสนโรแมนติกนี่สินะ

 

"ถ้างั้นก็เดินขึ้นไปกันเถอะ"   ใบหน้ามนเหลือบมองแผ่นหลังในยูกาตะสีเทาก่อนจะรีบก้าวเดินตาม  ขาของโกะโจเซนเซย์ยาวกว่าเขามากแต่เขาก็ยังก้าวตามทัน นั่นแสดงว่าอีกฝ่ายเดินช้าลงเพื่อรอเขา

 

 

หนึ่งคนในชุดยูกาตะยาวกรอมข้อเท้า 

 

หนึ่งคนในชุดนักเรียนมัธยมปลาย 

 

หนึ่งร่มใสที่กางกั้นพวกเขาให้เข้ามาอยู่ในโลกเล็กๆใบเดียวกัน

 

 

อ่ะ ว่าแต่เซนเซย์จะไปไหนนะครับ? จะแยกไปทางไหนก็บอกนะครับ”   มือเล็กยกขึ้นมาเกาท้ายทอยอย่างเขินหน่อยๆที่เพิ่งมาถามอีกฝ่ายเอาป่านนี้ โกะโจเซนเซย์ก็แค่ให้เขาติดร่มมาด้วยเฉยๆ ไม่ได้จะไปส่งเขาที่บ้านเสียหน่อย

 

ผมจะไปส่งยูจิคุงที่บ้าน”  

 

แค่ก...”   เด็กหนุ่มถึงกับสำลักอากาศ เซนเซย์อ่านใจคนได้หรือไงกันนะ?

 

มือเล็กยกขึ้นมาลูบที่อกซ้ายเหนือตำแหน่งของหัวใจพลางเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างระแวงๆไปด้วย ที่โหนกแก้มรู้สึกร้อนๆอย่างไม่รู้ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร

 

"เป็นไรไป? เจ็บคอเหรอ? เอาฮาเกนดาสรสสตอเบอร์รี่ไหม?"   มือใหญ่ล้วงถ้วยไอศครีมออกมาจากถุงร้านสะดวกซื้อแล้วยื่นให้ 

 

"ไม่เป็นไรครับ…"   เขายกมือปฏิเสธก่อนจะเสหน้าที่ร้อนผ่าวไปอีกทาง ถามว่าเจ็บคอไหมแต่ให้กินไอติมเนี่ยนะ ช่างเป็นคนที่ทำอะไรเกินสามัญสำนึกจริงๆผู้ชายคนนี้ แต่ถึงอย่างนั้นทำไมหัวใจของเขาต้องเต้นขนาดนี้ด้วยเนี่ย?

 

ถึงแล้วครับ…”   ทั้งสองร่างหยุดยืนอยู่ที่หน้าบ้านขนาดกลางหลังหนึ่ง

 

อื้ม! งั้นก็เข้าบ้านดีๆ”   เจ้าของเส้นผมสีหิมะโบกมือหยอยๆแต่ก็ยังไม่เดินจากไป ทำให้อิตาโดริ ยูจิอึกอักๆอยู่หลายวินาทีอย่างไม่แน่ใจว่าควรจะทำยังไงดี จะแค่โค้งขอบคุณก็พอหรือควรจะชวนอีกฝ่ายเข้าไปดื่มน้ำชาเพื่อเป็นการขอบคุณดี? แต่นี่ก็มืดแล้วถ้าเขาเอ่ยชวนจะเป็นการรบกวนอีกฝ่ายหรือเปล่า?

 

อ่า...ปัดโธ่...เขาไม่ถนัดคิดอะไรซับซ้อนเสียด้วย! เพราะงั้นริมฝีปากช่างเจรจาจึงโพล่งออกไปง่ายๆ

 

โกะโจเซนเซย์! ทานข้าวเย็นด้วยกันไหมครับ?!”   

 

เอ๊ะ?”   ขนาดมนุษย์สุดเพี้ยนอย่างโกะโจ ซาโตรุยังผงะจนแว่นดำหล่นลงไปที่ปลายจมูก เขาจะอ้าปากค้างกับคำพูดของตัวเองบ้างมันก็ไม่แปลก

 

ทำอะไรของนายเนี่ยยูจิ~~ ไหงไปชวนเค้ากินข้าวเฉยเลยล่ะเฮ้ยยยย แค่น้ำชา~~ แค่จะชวนเข้าไปดื่มชาอุ่นๆเท่านั้น~~

 

 

 

 

 

 

ร่างโปร่งหยิบผ้ากันเปื้อนมาสวมหัวก่อนจะถอนหายใจ  ดวงตาสุกใสกวาดมองกองวัตถุดิบที่อยู่บนเคาน์เตอร์ครัว มันไม่ได้มีอะไรพิเศษพอที่จะเอาไว้ทำให้แขกทานได้ ก็นะ...เล่นชวนแบบไม่ทันคิดก็หาได้แต่ของที่มีอยู่ในตู้เย็นแบบนี้แหละ

 

ใบหน้ามนหันไปมองเจ้าคนที่นั่งฮัมเพลงชิลๆแกะขนมกินอยู่ในห้องรับแขก...แต่อย่างโกะโจเซนเซย์คงไม่เป็นไรมั้ง อาหารแบบรสมือแม่ก็คงจะกินได้ แล้วก็อย่าเพิ่งกินขนมก่อนกินข้าวสิ!

 

ดวงตาสีอัลมอนด์จ้องมองน้ำซุปที่เดือดปุดๆอยู่ในหม้อ พออยู่ด้วยกันมาเกือบสองเดือนจึงทำให้เขาเริ่มมีภูมิต้านทานการก่อกวนของโกะโจเซนเซย์พอสมควร แต่ก็นะ เพราะเป็นอิตาโดริ ยูจิที่ใสซื่อและไม่คิดอะไรมากนี่แหละถึงทนได้!

 

เซนเซย์~ เข้ามาข้างหลังคนที่กำลังคนน้ำซุปในหม้อร้อนๆแบบนี้มันอันตรายนะครับ…”   ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีพีชหันไปเหลือบมองใบหน้าของอีกฝ่ายที่เกยอยู่บนไหล่ของตัวเอง ท่าทางเนือยๆเหมือนคนหิวจนหมดเรี่ยวหมดแรงนั่นทำให้เขาไม่ยกด้ามทัพพีขึ้นมาเคาะหัวสีหิมะนั่นไปสักทีสองที

 

ก็ผมได้กลิ่นหอมมากนี่นา ก็เลยอยากรู้ว่ายูจิคุงกำลังทำอะไร?”   ใบหน้าหล่อเหลาทำท่าสูดจมูกฟุดฟิด จะดมกลิ่นอาหารก็อย่ามาดมผ่านซอกคอคนอื่นได้ไหมครับ? มันจั๊กจี้นะ

 

ออกไปรอข้างนอกเลย~”    มือสีแทนยันหัวสีหิมะออกไปอย่างไม่สนใจว่าอีกฝ่ายเป็นถึงอาจารย์ของตัวเอง แต่แทนที่โกะโจ ซาโตรุจะถือสากลับหัวเราะร่าแล้วถอยออกไปยืนมองไกลๆ

 

อิตาโดริ ยูจินั้นมองแว่บแรกก็จะเหมือนกับเด็กม.ปลายทั่วไปไม่ได้มีอะไรโดดเด่น แต่ถ้ารู้จักกันนานพอก็จะรู้ว่าเด็กหนุ่มนั้นเป็นคนน่ารักมาก อาจจะด้วยนิสัยร่าเริงเข้ากับคนง่ายทำให้ใบหน้ายิ้มง่ายและตื่นเต้นกับทุกสิ่งรอบกายแบบนั้นน่าเอ็นดูขึ้นมา ที่สำคัญคือหายากมากหรือบางทีก็อาจจะไม่มีเลย  คนที่คุยกับเขารู้เรื่องและไม่ว่าจะชงอะไรไปก็เล่นกับเขา ตอบโต้เขาได้หมด ยูจิน่ารักตามธรรมชาติ ใสซื่อ ไม่ต้องปรุงแต่ง ไม่ต้องปรับตัวเข้าหาเขา พวกเราเข้ากันได้โดยเนื้อแท้ของนิสัยกันและกันอยู่แล้ว

 

เพราะแบบนั้น...ผมจึงสนใจเขามาก

 

 

 

 



หวังว่าจะถูกปากนะ”   ในที่สุดหม้อไฟกลิ่นหอมยวนใจก็ถูกยกมาตั้งบนโต๊ะญี่ปุ่นเตี้ย ของในหม้อกำลังสุกพอดีๆ ทั้งสีของผักและเนื้อต่างก็ดูน่ากินจนโกะโจ ซาโตรุกลืนน้ำลายเอื้อกให้เห็น ถึงจะดูเสียมารยาทแต่มันกลับทำให้เด็กหนุ่มเผลอหัวเราะออกมา จะว่าดีใจที่เห็นอีกฝ่ายอยากกินก็คงได้แหละ

 

จะทานละนะคร้าบ~”  สองเสียงเอ่ยประสานก่อนจะพนมมือตามวิถีของคนญี่ปุ่น เสร็จสรรพตะเกียบก็ถูกจับขึ้นมาทันที 

 

ลูกชิ้นนี่อร่อยจัง~ ยูจิคุงทำเองเหรอ?”   ดวงตาสีฟ้าทอประกายเมื่อกัดลูกชิ้นที่เขาทำเองเข้าไป ทำไมคำชมของโกะโจเซนเซย์ถึงทำให้ดีใจเหมือนเจ้าสาวที่เพิ่งทำกับข้าวให้สามีกินครั้งแรกแบบนี้เนี่ย?

 

ครับ ไม่ได้ทำยากอะไร”   เด็กหนุ่มเกาแก้มอย่างเขินๆ

 

ปกติทำอาหารกินเองเหรอ? ไม่ยักรู้เลยนะเนี่ย

 

ก็ไม่มีแม่คอยทำให้นี่ครับ ปู่ก็ไม่ทำ เพราะงั้นอยากกินอะไรก็เลยต้องทำเอง”   เขาพูดออกไปอย่างไม่ใส่ใจนัก ไม่สนด้วยว่าใครจะแสดงท่าทางเห็นใจยังไงที่เขาไม่มีพ่อแม่คอยดูแลเหมือนเด็กคนอื่น แต่คนตรงหน้ากลับไม่ได้มองเขาด้วยแววตาสงสาร โกะโจเซนเซย์เพียงแค่ยิ้มแล้วพูดออกมาว่า

 

ไว้ทำให้ผมกินอีกสิ

 

อะ...ครับ”   อีกฝ่ายมักจะทำให้เขาทำตัวไม่ถูก คงจะเป็นเพราะโกะโจ ซาโตรุนั้นผิดเพี้ยนไม่เหมือนใคร เขาจึงไม่เคยเห็นบรรทัดฐานของคนทั่วไปอยู่ในตัวของอีกฝ่ายเลย ซึ่งตัวตนของเซนเซย์กลับทำให้เขาสบายใจเมื่อได้อยู่ใกล้ๆ

 

จริงๆแล้วตั้งแต่ปู่เข้าโรงพยาบาล ผมก็แทบไม่ได้ทำกับข้าวเลย...ก็กินคนเดียวมันไม่อร่อย ก็เลยซื้อจากร้านสะดวกซื้อเอา

 

ผมกินเป็นเพื่อนได้ตลอดนะ”   สายตาแบบ...ชวนผมสิ ชวนผมก็ได้นะ! นั่นมันทำให้ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรต่อแล้ว...เขาเผลอหัวเราะในลำคอ 

 

อื้ม”    ก่อนจะยกนิ้วขึ้นมาถูปลายจมูกอย่างเขินๆในขณะที่มองอีกฝ่ายกินเอาๆด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย 

 

 

 

คงจะมีบางสิ่งบางอย่างเริ่มก่อเกิดขึ้นในใจ 

 

อาจจะเป็นคำสาปที่โกะโจ ซาโตรุร่ายใส่เขาก็เป็นได้ 

 

เพราะมันทำให้ใบหน้าของอีกฝ่ายมักจะเข้ามาอยู่ในห้วงคำนึงของเขาอยู่เสมอ

 

 

 

.

.

.

.

.

.

.

 

To be Con.

 

 

 

 

1 ความคิดเห็น:

  1. น่ารักหนุบหนับหัวใจมากเลยค่ะ ยูจิคุงคือเป็นต้าวก้อนนุ่มฟู 🥺💕 อาจารย์โกะโจคะ ดิชั้นสัมผัสได้ถึงความรว้ายกาจของคุณนะคะ! อย่ามาเนียนดมซอกคอลูกหนูของดิชั้นแบบนี้นะ! เห็นคุณกวางโพสว่าอัพเรื่องนี้ในเฟสแล้วรีบบึ้งตามมาอย่างรวดเร็วเลยค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ 💕💕💕

    ตอบลบ