ป๋อจ้าน Au.Fic [หวังอี้ป๋อ x เซียวจ้าน] GLIDE : 2x4 It’s me : จะรักตลอดไป

  

ป๋อจ้าน Au.Fic [หวังอี้ป๋อ x เซียวจ้าน]  GLIDE : 2x4 It’s me : จะรักตลอดไป

 

: ป๋อจ้าน Fanfiction Au

: หวังอี้ป๋อ x เซียวจ้าน

: Romantic

: NC-17

 

 

คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ

           : เนื้อเรื่องต่อไปนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจริงนะคะ

           : ข้อมูลจะไม่แน่นเท่า GLIDE ภาคก่อนๆนะคะ เพราะภาคนี้ข้ามมา 2 ล้อ ตรูขี้เกียจหาข้อมูลฝั่ง Moto GP โฟ้ยยยย // โดนตบด้วยหมวกกันน็อค

 

 

 

GLIDE : 2x4 It’s me : Special Episode :

 

“I’ll love you forever.”

 

 

 

 

ถึงแม้ท้องฟ้าในมาราเนลโล่จะสว่างจ้าทั้งที่เพิ่งพ้นเวลาเช้ามาไม่เท่าไหร่ ถึงแม้ว่าผู้คนมากมายจะเริ่มต้นใช้ชีวิตกันแล้ว แต่ในบ้านของนักออกแบบรถตัวท็อปแห่ง Ferrari Design Center กลับยังเงียบฉี่

 

ไม่สิ...ไม่ได้เงียบสักหน่อย อย่างน้อยเสียงทั้งหมดในบ้านก็ไปรวมกันอยู่ที่ห้องนอนชั้นสองหมดแล้ว 

 

“อะ อ้า~  เสียงเตียงลั่นเอี๊ยดๆผสมผสานไปกับเสียงครางกระเส่า มือใหญ่ของนักบิดแชมป์ห้าสมัยกำลังจับยึดอยู่ที่เอวบางทั้งสองข้าง สองขาที่อ้ากว้างพาดอยู่บนต้นขาแกร่ง แกนกายแข็งแรงสอดใส่ถี่กระชั้นบ่งบอกว่าพวกเขาใกล้จะถึงปลายทางกันแล้ว

 

“อ๊า~~อี้ป๋อ~  กรงเล็บกระต่ายข่วนไปตามกล้ามเนื้อบนโคนขาของนักบิดหนุ่มเพื่อระบายความเสียวกระสันนั้นออกมา ฝ่ามือมังคุดเดี๋ยวกางเดี๋ยวหุบเช่นเดียวกับใบหน้าสวยที่สะบัดขึ้นอย่างทนต่อไปไม่ไหวแล้วกับรสรักถึงใจที่เขามอบให้ 

 

ใบหน้าหล่อเหลาที่มีเหงื่อไหลลงมาตามขมับก้มมองร่างกายที่บิดเร่าของเจ้ากระต่ายอย่างพึงพอใจ เขาจงใจจู่โจมจุดไวสัมผัสที่อยู่ข้างในและเขาก็ได้รับผลตอบแทนเป็นแรงบีบรัดรอบความเป็นชายของเขาจนทำเอาแทบจะคลั่งเสียให้ได้...ยิ่งกระแทกใส่ก็ยิ่งรัด ยิ่งกระแทกใส่ก็ยิ่งรัด......รู้สึกดี...รู้สึกดีเหลือเกิน...

 

อะ อ๊า อี้ป๋อ~ พอแล้ว ไม่ไหวแล้ว อ๊า~”   เสียงนุ่มครวญครางราวกับจะขาดใจเมื่อเขากระแทกกายเข้าใส่ถี่ยิบ ยังดีที่สะโพกมนมีหมอนรองไว้มันจึงไม่ต้องขยับมากจนเกินไป

 

อึก…”   สันกรามของเขากัดกันแน่นเมื่อใกล้จะถึงจุดสูงสุดเต็มที เขาจ้องมองเรือนร่างเซ็กซี่ที่กำลังครางไม่เป็นภาษาอยู่ใต้ร่างเขา เหงื่อที่เกาะพราวไปทั่วลำตัวบางยิ่งทำให้อยากกระแทกใส่ให้ลึกเข้าไปอีก

 

มือแข็งแรงจึงดึงรั้งท่อนขาขาวข้างหนึ่งขึ้นมาพาดไว้บนบ่า สองขาที่อ้ากว้างออกจากกันทำให้เขาสอดใส่เข้าไปได้มากยิ่งขึ้น

 

อ๊า~ อี้ป๋อ~ อี้ป๋อ~”    มือกระต่ายข่วนต้นขาเขาเสียไม่เหลือชิ้นดี มือบางอีกข้างขย๋ำผ้าปูที่นอนจนยับย่น ใบหน้ามนร้องจนเสียงดังไปทั่วห้อง คงไม่ไหวแล้วจริงๆ

 

ชั่วพริบตาเขารั้งร่างโปร่งบางมากอดไว้แน่น  แกนกายถูกดึงออกไปจนสุดแล้วกระแทกกลับรวดเดียวอย่างหนักหน่วง

 

อ๊าาาาาา~~~~!!”    ความปรารถนาที่รุนแรงถูกฉีดใส่ร่างกายอ่อนนุ่มจนบางส่วนไหลทะลักออกมา ความรู้สึกสุขสมเอ่อล้นจนเหมือนลอยอยู่บนท้องฟ้า ที่หน้าท้องของเขาเองก็เปียกแฉะไปด้วยของของเจ้ากระต่าย ร่างกายบางที่กอดไว้กระตุกหลายต่อหลายครั้ง ความรู้สึกเต็มอิ่มทำให้ข้างในยังตอดรัดเขาเบาๆไม่หยุด

 

แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก….”   เขาซุกไซร้ใบหน้าลงไปที่ซอกคอชื้นเหงื่อซึ่งยังหอบหายใจหนักๆ จุมพิตซึ่งเต็มไปด้วยรักจรดลงไปบนเส้นเลือดทั่วลำคอ ดวงตากลมโตยังเหม่อลอยไปไกลปล่อยให้เขากดจูบลาดไหล่ต่อไปโดยไม่ว่าอะไร

 

แผ่นอกแบนเรียบยังกระเพื่อมขึ้นลงจากความเหนื่อยล้า ความเปล่งปลั่งของผิวพรรณหลังจากมีเซ็กส์กับเขายิ่งทำให้เจ้ากระต่ายดูน่าหลงใหล ริมฝีปากจึงหยุดที่จะจูบไล่ลงไปเรื่อยๆไม่ได้

 

 

ปั่บ!

 

 

แต่แล้วจู่ๆก็มีมือหมีแพนด้าฟาดลงมาบนหัวเขา ทำเอาความคิดชั่วร้ายในสมองกระเด็นไปเสียหมด

 

หยุดเลย บอกแล้วไงว่าให้แค่รอบเดียว”    เขาเงยหน้าขึ้นไปสบกับดวงตาดุๆที่มองลงมา เจ้ากระต่ายดึงอาม่ามายันหน้าเขาไว้...ไอ้เจ้าแพนด้ามารผจญเอ้ย เขามองหน้านุ่มฟูของมันที่ถูกกางเกงเจ้ากระต่ายพาดปิดตาไว้อย่างนึกหมั่นไส้

 

จ้านเกออ่า~ไหนๆวันนี้ก็เป็นวันหยุด แล้วเราก็ไม่ได้เจอกันมาตั้งอาทิตย์นึงแล้วนะ~”   เขาพยายามอ้อนด้วยการขยับไปนอนข้างๆ มืออีกข้างก็แอบเหวี่ยงเจ้าหมีแพนด้าตัวเท่าตึกแฝดเซี่ยงไฮ้นั่นลงไปข้างเตียง

 

เมื่อคืนก็ให้ทำทั้งคืนแล้วไง! ตื่นมาตอนเช้านายก็ยังจะทำต่ออีกชั้นก็ให้ทำแล้วไง! แค่นี้ชั้นก็จะตายแล้ว ออกไปห่างๆเลย!”    เขาได้แต่ยิ้มแก้มยกอย่างเถียงอะไรไม่ได้ในเมื่อสิ่งที่อีกฝ่ายพูดมาเป็นความจริงทั้งหมด

 

ก็พี่อยากน่ากินขนาดนี้ทำไมล่ะ แค่เห็นผมก็หิวแล้วอ่า~”    เขาขยับหน้าไปคลอเคลียแก้มใสของคนที่มองเขาด้วยสายตาคาดโทษ

 

ชั้นเหนื่อยแล้ว วันนี้จะนอนแบบนี้ทั้งวันเลย นายไปหาข้าวหาปลามาให้ชั้นกินซะ”   เจ้ากระต่ายชักหน้าหงิกก่อนจะพลิกกายนอนคว่ำอย่างเกียจคร้าน แม้แต่เสื้อผ้ายังไม่ยอมลุกมาใส่ เขาจึงดึงผ้าห่มมาปิดท่อนล่างไว้ให้ ป้องกันตัวเขาเองนี่แหละจะตบะแตกเอาได้

 

ครับที่รัก”   ได้อยู่แล้ว หน้าที่เลี้ยงกระต่ายให้อ้วนพลีกินได้พอดีคำนั้นมันเป็นของเขาอยู่แล้ว ร่างสูงสง่าจึงคว้ากางเกงยีนส์ที่ถูกโยนไว้แถวนั้นมาสวมลวกๆ

 

กินพิซซ่าไหม? ผมจะได้โทรสั่ง”   เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แสงที่รอดผ่านผ้าม่านนั้นสว่างจ้า สายป่านนี้ร้านอาหารน่าจะเปิดกันหมดแล้ว

 

อื้อ...”   เจ้ากระต่ายตอบรับเบาๆมาจากหลังกองหมอนใบใหญ่ เขาอมยิ้มในขณะที่มองแผ่นหลังขาว...ปล่อยให้นอนอีกซักพักก็แล้วกัน

 

ร่างสูงสง่าเดินออกมาสั่งพิซซ่านอกห้องนอน ดวงตาเหลือบลงไปเห็นกระเป๋าเดินทางสองใบที่ยังวางอยู่หน้าประตู...เมื่อคืนเจ้ากระต่ายเพิ่งกลับมาจากบราซิล ส่วนเขาก็เพิ่งกลับมาจากสเปน หลังจากเจอกันที่หน้าประตูก็……….เพิ่งได้หยุดนี่แหละ 

 

นิ้วยาวเกาแก้มอย่างรู้สึกผิดนิดๆ แต่มันตั้งอาทิตย์นึงแล้วนะที่ไม่ได้เจอกัน เขาก็ต้องคิดถึงมากเป็นธรรมดาสิ เขาไม่ใช่เจ้าหมีแพนด้าหน้าโง่นั่นนี่ที่จะตามเจ้ากระต่ายไปทั่วโลกเพราะมันไม่มีอะไรทำ! น่าอิจฉาชะมัด!

 

 

 

 

 

กล่องใส่พิซซ่าถูกถือกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งในสามสิบนาทีให้หลัง ไออุ่นและกลิ่นหอมกรุ่นปลุกเจ้ากระต่ายขี้เซาให้ตื่นขึ้นมา หัวสีดำผงกมองดูจากกองหมอนแต่ก็นังนอนคว่ำไม่ยอมลุก เขาจึงนั่งลงไปบนเตียงทั้งที่ยังมีเพียงแค่กางเกงยีนส์ตัวเดียว

 

อือ...หิวแล้ว…”   เขายิ้มให้เจ้าคนที่แทบจะอ้าปากรอให้ป้อน มือใหญ่หยิบพิซซ่าออกมาก่อนจะยื่นไปตรงหน้า เจ้ากระต่ายกัดมันเข้าไปแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ เห็นกระพุ้งแก้มขยับไปมาแล้วก็นึกว่ามานั่งเลี้ยงกระต่ายจริงๆ ทำไมแฟนเขาถึงได้น่ารักขนาดนี้นะ แค่มองก็มีความสุขแล้ว~

 

นายก็กินด้วยสิ”   เจ้าคนที่เริ่มตื่นเต็มตายันตัวขึ้นมาน้อยๆเพื่อหยิบพิซซ่าแล้วจ่อมันมาที่ปากเขา อยากจะบอกเหลือเกินว่าร่างเปลือยเปล่ากับท่อนแขนขาวๆของตัวเองน่ะน่ากินกว่าพิซซ่าเป็นไหนๆ เขามองสะโพกมนที่โผล่พ้นผ้าห่มน้ำลายย้อย และเพราะแบบนั้นเจ้ากระต่ายจึงรีบยัดพิซซ่าใส่ปากเขาทันที

 

กินซะ จะได้หายหิว! งื้อ!”    เนี่ย พอคบกันนานๆแล้วมันไม่ดีแบบเนี้ย รู้ทันเขาไปหมด! ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงโดนเขาจับกินไปถึงไหนต่อไหนละกว่าจะรู้เรื่องรู้ราวอ่ะ!

 

อยากกินพี่มากกว่าอ่ะ...

 

กินเข้าไป พิซซ่าเนี่ย ยัดเข้าปากไปให้หมดเลย นี่แหน่ะ”   แล้วภาพการป้อนอาหารกระหนุงกระหนิงก็แทบจะกลายเป็นฉากฆาตกรรมเมื่อเจ้ากระต่ายยัดพิซซ่าใส่ปากเขาเอาๆ พอแล้ว~ ไม่กินพี่แล้วก็ได้~~

 

ว่าแต่จะไม่ลุกไปไหนจริงๆเหรอวันนี้?”    เสียงทุ้มเอ่ยถามหลังจากกล่องพิซซ่าลงไปกองอยู่ข้างเตียงเรียบร้อย  เขาเอนหลังนั่งพิงหัวเตียงโดยมีเจ้ากระต่ายนอนเกยหน้าอยู่บนต้นขา  มือใหญ่จับปอยผมที่ปรกละใบหน้าขึ้นทัดหูให้ด้วยความอ่อนโยน

 

ไม่ไป...เมื่อวานกว่าจะชนะได้ก็เหนื่อยแทบตายเลย วันนี้เลยอยากนอนเฉยๆ”    ใบหน้ามนพูดงึมงำทั้งที่ยังเกยคางไว้บนต้นขาเขา ก็มีอยู่บ้างเหมือนกันวันที่พวกเราจะใช้ชีวิตอยู่แต่บนเตียงแบบนี้ ในวันหยุดที่นานๆทีจะมีตรงกัน  การได้ทำตัวเกียจคร้านบ้างมันก็ดีเหมือนกัน

 

รอยนี่มัน…”   ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่ท่อนแขนของเขาก่อนที่แก้มใสจะขึ้นสีระเรื่อเมื่อนึกออกว่ามันคือรอยอะไร เขาจึงส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้

 

หงึ”    เจ้ากระต่ายเบะปากใส่รอยแดงเป็นทางมากมายที่อยู่บนนั้น  ตัวเองเป็นคนทำไว้แท้ๆนะ

 

สำนึกบ้างไหมเนี่ย? ข่วนผมเต็มแขนเต็มขาเต็มหลังเลย ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าคนอื่นไม่ได้ สำนึกบ้างไหม?”    ใบหน้าคมยิ้มหยอกเย้า

 

 

ผลั๊วะ!

 

 

มือกระต่ายจึงฟาดซ้ำลงมาก่อนจะแยกฟันคู่หน้าขู่

 

ใบหน้ามนกลับไปนอนซบต้นขาเขาเหมือนเดิม ดวงตาสุกใสไล่มองตามร่างกายของเขาไปเรื่อยๆราวกับจะสำรวจว่าเขาบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า...จากการแข่งขันในอาทิตย์ที่ผ่านมา

 

แล้วดวงตาคู่โตก็ไปหยุดอยู่ที่รอยแผลเป็นบนหน้าท้องด้านซ้ายของเขา มือบางเอื้อมมาลูบมันแผ่วเบา...ที่จริงแล้วมันก็เป็นแค่รอยแผลเก่าที่จางลงไปจนเกือบจะมองไม่เห็น เป็นแผลที่เกิดจากอุบัติเหตุตอนแข่งรถสมัยที่ยังอยู่ Moto2 อยู่เลย แผลนี้ต้องเย็บถึงห้าเข็ม มันจึงยังทิ้งร่องรอยเอาไว้

 

ปลายนิ้วเรียวลูบไล้ไปตามรอยแผลที่อยู่เหนือขอบกางเกงมาไม่เท่าไหร่


พี่ไม่ชอบมันเหรอ?”  เจ้ากระต่ายมักจะทำหน้ายุ่งทุกครั้งที่เห็นแผลเป็นนี้ของเขา

 

ก็ต้องไม่ชอบอยู่แล้วสิ จะให้ชั้นชอบที่มีรอยแผลบนตัวนายรึไง? จากนี้ไปห้ามมีมาให้เห็นอีกนะ  เขามองหน้ามุ่ยๆนั่นอย่างนึกเอ็นดู

 

ครับ

 

....ถ้างั้นผมไปสักปิดมันดีไหม?”   เจ้ากระต่ายเงยหน้ามองเขาทันทีที่พูดออกไป

 

“ห๊ะ? แบบนั้นมันก็เป็นแผลมากกว่าเดิมสิ? นี่นายได้ฟังที่ชั้นพูดรึเปล่าเนี่ยหวังอี้ป๋อ?

 

“รอยสักกับรอยแผลมันต่างกันนะครับ ที่จริงผมก็คิดไว้นานแล้วด้วย”

 

“แต่มันเจ็บไม่ใช่เหรอ

 

“เจ็บสิ แต่เพราะมันจะเป็นร่องรอยที่สำคัญ มันจะบันทึกช่วงเวลานี้ไปทั้งชีวิต มันถึงต้องเจ็บ...เพราะมันเจ็บเราถึงได้ไม่ลืม...เพราะมันเจ็บมันถึงคงอยู่ตลอดไป”

 

“......”   เจ้ากระต่ายทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างไม่แน่ใจว่ามันจะดีแน่เหรอ ใดๆก็คือกลัวเขาเจ็บนั่นแหละ เขาอมยิ้มกับความห่วงใยที่อีกฝ่ายมีให้

 

“พี่เลือกแบบให้ผมหน่อยสิ ผมอยากให้พี่เป็นคนเลือก”   เขายิ้มให้ใบหน้าที่มองมาด้วยความลังเล

 

...ทำไมให้ชั้นเลือกล่ะ? รอยสักนี้มันจะอยู่บนตัวนายตลอดไปเลยนะ ก็ต้องเอาลายที่นายชอบสิ”

 

“ถึงมันจะอยู่บนตัวผม แต่พี่คือคนที่จะมองเห็นมันนี่ครับ เอาลายที่พี่ชอบดีกว่า พี่เห็นแล้วจะได้สบายตา”

 

........ฉันเห็น?   ดวงตากลมโตเหลือบมองตำแหน่งของรอยแผลเป็นนั้นอีกครั้ง...มันเป็นตำแหน่งที่ไม่มีทางมองเห็นได้เลยถ้าหวังอี้ป๋อยังใส่เสื้อผ้า...

 

สีแดงเถือกเริ่มลามขึ้นใบหน้าใสจากปลายคางจนถึงกลางหน้าผากทันที มือบางตีลงที่สีข้างส่วนเขาก็หัวเราะร่า

 

“นาย! กำลังคิดเรื่องลามกอยู่ใช่ไหมเจ้าหมาป่าเจ้าเล่ห์?! ทำไมชั้นจะต้องไปเห็นรอยสักในที่ลับของนายด้วย?!

 

“ลับตรงไหน? เวลามีอะไรกันก็เห็นพี่มองมันทุกที”

 

“อ๊าาา! หุบปากไปเลยนะ! แค่เลือกลายให้ก็พอแล้วใช่ไหม?! ก็ได้! ชั้นจะเลือก ชั้นจะเลือก!”

 

เจ้ากระต่ายเปลือยแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะพลิกกายกลิ้งสองตลบไปหยิบแท็บเล็ตที่วางอยู่ที่โต๊ะข้างเตียงอีกฝั่งมา...นี่จะไม่ยอมใส่เสื้อผ้าจริงๆใช่ไหม? ถึงเจ้าตัวจะรู้สึกสบายดีก็เถอะแต่เขานี่ราวกับกำลังทำบททดสอบจากพระเจ้าอยู่เลยนะ!

 

 

 

 

 

 

เอาแบบนี้ไหม?”   หลังจากนอนหาข้อมูลอยู่สักพัก เจ้ากระต่ายก็ชูลายแบบยากูซ่าญี่ปุ่นที่สักกันเต็มหลังมาให้...ได้ข่าวว่าแผลเป็นของเขามันยาวแค่ 5เซ็นต์เองนะ...

 

หรือแบบนี้?”   งานนี้ยันต์ห้าแถวของดีประเทศไทยจะพลาดได้ไง เจ้ากระต่ายชูรูปพร้อมพรรณนาสรรพคุณเสร็จสรรพ...นายเป็นสายมูหรอกเร๊อะ แต่จะให้สักยันต์ห้าแถวในตำแหน่งที่เซ็กซี่ขนาดนั้นก็ไม่ไหวมั้ง 

 

“หรือลายกะโหลกไขว้ไหม?  ผมไม่ใช่ยาฆ่าแมลงหรือวัตถุอันตรายนะครับ!

 

ผมว่าสักรูปพี่ดีกว่า”   ผลั๊วะ!  มือกระต่ายฟาดมาที่ต้นแขนทันทีที่เขาเสนอออกไปบ้าง

 

งั้นก็ชื่อพี่?”

 

ไม่เอา ทำไมหน้าชั้นหรือชื่อชั้นต้องไปอยู่บนตัวนายด้วย นายไม่คิดเหรอว่าเวลาชั้นเห็นมันขึ้นมาจะน่าอายขนาดไหน?”   มือกระต่ายยังฟาดแขนเขาไม่หยุดซึ่งเขาได้แต่ยิ้มแก้มแตก เพราะเวลาที่เจ้ากระต่ายจะได้เห็นหน้าตัวเองบนตัวเขาได้เนี่ย มันก็ต้องเป็นเวลาอย่างว่าเท่านั้นแหละ

 

 

 

 

 

 

ร่างเปลือยเปล่าย้ายมานอนพิงพุงตุ๊กตาหมีแพนด้า แขนขานุ่มฟูของอาม่าที่โอบอุ้มเขาอยู่นี้ทำให้รู้สึกผ่อนคลายจนไม่อยากจะขยับร่างกายไปไหนเลย ปลายนิ้วเรียวสไลด์หน้าจอแท็บเล็ตไปเรื่อยๆเพื่อหารอยสักให้หวังอี้ป๋อ ในขณะที่เจ้าตัวกลับนอนดูโทรทัศน์สบายใจเฉิบอยู่ข้างๆ มือใหญ่กดรีโมทเปลี่ยนช่องไปเรื่อยทำให้เขานึกหมั่นไส้ขึ้นมาตะหงิดๆ เดี๋ยวก็ให้สักลายอาม่ามันซะเลยนี่!

 

เขายู่หน้าก่อนจะหันไปมองชั้นหนังสือที่อยู่ในห้องนอนว่ามีอะไรน่าสนใจพอจะเอามาเป็นรอยสักได้บ้างไหม จะสักเป็นรูปรถมอเตอร์ไซค์หรือรถF1มันก็จะหลอนไปหน่อย พวกเขาเห็นมันมาทั้งชีวิตแล้ว

 

แล้วอีกอย่าง...เขาก็อยากได้รอยสักที่สื่อความหมายถึงพวกเขาสองคนด้วย...

 

สันสีแดงของหนังสือนิยายเรื่อง Last Word โดดเด่นอยู่บนชั้น...ถ้าพูดถึงนิยาย...มันมีตำนานพื้นบ้านของจีนเรื่องหนึ่งซึ่งกล่าวถึงความรักนิรันดร์ของหนุ่มสาวที่ต้องพลัดพรากจากกันเพราะฐานะขวางกั้นอยู่...

 

 

Butterfly Lovers…

 

 

เหลียงชานปั๋ว-ยหวี่ จู้อิงไถ หรือ ม่านประเพณี คือชื่อที่ปลายนิ้วเรียวพิมพ์ลงไปในแท็บเล็ตเพื่อค้นหา  ดวงตากลมโตไล่อ่านเนื้อหาที่เสิร์จมาได้ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นเมื่ออ่านถึงตอนจบของบทความนั้น

 

ถึงแม้เรื่องราวของทั้งคู่จะจบด้วยโศกนาฏกรรมแต่มันก็เป็นรักนิรันดร์  

 

 

ท้ายที่สุด ผีเสื้อสองตัวที่บินคู่กันนั้นก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ไม่เปลี่ยนแปลง

 

 

ความรักที่เป็นอิสระเหนือพันธะใดๆ

 

 

พวกมันบินคู่กัน...เพราะงั้น...มันจะมีอยู่บนตัวของหวังอี้ป๋อคนเดียวไม่ได้...

 

 

“ฉัน...ก็จะสักด้วย”   จู่ๆเสียงนุ่มก็หันไปบอกนักบิดหนุ่ม

 

“ห๊ะ? พี่ว่าอะไรนะ?”   ใบหน้าหล่อเหลาหันมาถามเพราะคิดว่าฟังผิดไป

 

“ฉันก็จะสักด้วยไง”

 

“ห๋า??!   คราวนี้มือใหญ่ถึงกับทำรีโมทร่วงลงพื้นอย่างตกใจ

 

“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? แล้วจะสักเป็นรูปอะไร? ทำไมพี่ต้องมาสักด้วยล่ะ? พี่ไม่ได้มีแผลเป็นอะไรสักหน่อย?”   หวังอี้ป๋อทำหน้ามึนงง เขาจึงยื่นแท็บเล็ตไปให้ดู

 

 

...รูปผีเสื้อสีฟ้าคือลายที่เขาตั้งใจจะให้อี้ป๋อสัก...

 

 

“มันคือ Butterfly Lovers นายรู้จักตำนานเหลียงชานปั๋ว-ยหวี่ จู้อิงไถไหม?”   หวังอี้ป๋อนิ่งคิดก่อนจะตอบออกมา

 

“ใช่เรื่องที่นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อเข้าไปเรียนหนังสือ แล้วก็เจอกับพระเอกที่นั่นใช่ไหม? ที่ทั้งสองคนรักและผูกพันกันโดยที่พระเอกไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางเอกเป็นผู้หญิง? แล้วพอเรียนจบต้องแยกย้ายต่างฝ่ายต่างต้องกลับบ้าน นางเอกเป็นลูกสาวเศรษฐี ส่วนพระเอกนั้นยากจนข้นแค้น ที่บ้านเลยกีดกั้นจับนางเอกหมั้นหมายกับผู้ชายอื่น? ทั้งคู่จึงตรอมใจตายไปด้วยกัน แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นผีเสื้อบินเคียงคู่กันไป ใช่เรื่องนี้ป่ะ?”

 

“ใช่! นั่นแหละ!   ใบหน้ามนตอบอย่างกระตือรือร้น และเมื่อนักบิดหนุ่มได้ฟังเหตุผลว่าทำไมอีกฝ่ายถึงอยากสักด้วยแล้วก็อดที่จะใจเต้นไม่ได้

 

เพราะอยากให้ผีเสื้อของพวกเราบินอยู่คู่กัน

 

อยากให้สัญลักษณ์แห่งรักนิรันดร์เหล่านั้นมาอยู่บนตัวพวกเขา...

 

 

“....พี่นี่ก็โรแมนติกเหมือนกันนะครับ”   เขาอมยิ้มละมุนด้วยหัวใจที่แสนอบอุ่น ดวงตาคมกล้าทอดมองวงหน้าหวานอย่างไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะหลงรักใครได้มากเท่านี้อีกแล้ว

 

เขาดึงเจ้ากระต่ายให้ลุกขึ้นยืน...

 

แสงแดดทะลุม่านสีขาวทำให้ฉากหลังดูเปล่งประกาย

 

ร่างเปลือยเปล่าของเจ้ากระต่ายยืนหันหน้าเข้าหาร่างสูงสง่าที่สวมเพียงกางเกงยีนส์ตัวเดียว...ก่อนที่มือใหญ่จะค่อยๆปลดมันออกไป...จนไม่เหลืออะไรบนร่างกายของพวกเราอีก...

 

“ผีเสื้อของผมอยู่ตรงนี้...”   เขาจับมือบางมาวางไว้บนรอยแผลเป็นที่หน้าท้องด้านซ้ายของตัวเอง

 

“เพราะงั้นผีเสื้อของพี่ก็จะอยู่ตรงนี้...”   ก่อนที่มือของเขาจะย้ายไปที่หน้าท้องด้านขวาของเจ้ากระต่าย...เพราะเมื่อใดที่พวกเราหันหน้าเข้าหากัน

 

 

“พวกมันถึงจะบินเคียงคู่กัน...”

 

 

ใบหน้าแดงระเรื่อและหัวใจร้อนผ่าวยามที่ไล่มองผีเสื้อสีฟ้าที่จะอยู่บนร่างกายเปลือยเปล่าของกันและกัน  มันทั้งอบอุ่นและเซ็กซี่จนความรักและความต้องการเอ่อล้นออกมา

 

“รอยสักนี้จะไม่หายไปทั้งชีวิตเลยนะ พี่แน่ใจแล้วเหรอ?  

 

เขาเอ่ยถามเจ้ากระต่ายให้แน่ใจ แต่ใบหน้ามนกลับยิ้มให้และตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

 

“ก็เหมือนกับที่นายจะไม่หายไปจากชีวิตชั้นนั่นแหละ ชั้นแน่ใจ”

 

เขายิ้มให้คนที่รักสุดหัวใจคนนี้ก่อนที่ร่างกายจะค่อยๆขยับเข้าหา...

 

อ้อมแขนค่อยๆโอบกอดกันอย่างอ่อนโยน...

 

ริมฝีปากค่อยๆขยับเข้าใกล้เพื่อแลกจูบอันอ่อนหวาน...

 

เสียงสวบสาบเนิบนาบค่อยๆเกิดขึ้นอีกครา...

 

 

 

.

.

.

.

.

.

.

 

 

ผีเสื้อ...คือสัญลักษณ์ของความรักที่ไม่เปลี่ยนแปลง

 

 

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

 

I’ll love you forever.

End.

 

 

 

ฟิคนาคะ...เรื่องนี้เป็นแค่ฟิคเท่านั้นจริงจริ๊งงง ไม่ได้ไปอ้างอิงมาจากชีวิตจริงของใครเลยนาคะะะะ // แสยะยิ้ม  // แต่ตำแหน่งรอยสักตรงนี้นี่คือเซ็กซี่มากกกกอ่ะ งื้อออ >////<

 

เอาตอนพิเศษอีกตอนมาลงแทนไปก่อง ตอน ผีเสื้อสีรุ้ง ยังไม่เสร็จ ยาวอย่างกับจะเป็นเรื่องใหม่ได้5555 // ทรุด 

 

แจ้งความคืบหน้าเรื่องรวมเล่มกันหน่อยเนอะ เห็นคอมเม้นต์ถามถึง ยังค่ะ ยังไม่ได้เปิดพรี555 ตอนนี้ปกมาเรียบร้อยแล้น เหลือเนื้อเรื่องนี่แหละที่ยังไม่เสร็จ ตอนพิเศษก็คือแต่งไปเรื่อยมาก ถถถ ทั่นกัปตันขยันปากาวใส่ก็อย่างงี้แหละ เอิ๊ก เตรียมตั้งป้อมหวีดงาน dy แล้วเนี่ยค่ะ กรี๊ดดดด // ใจเย็ล555

 

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆการติดตามจากตอน 520 กะรัตมากๆๆนะคะ >////< อ่านแล้วแทบจะลอยไปดาวลูกไก่ งื้ออออ ปลื้มใจ >/////<

 

แล้วก็ยินดีมากค่ะที่ตกคนไปดู F1 ด้วยกันได้555 ปีนี้ชั้นจะไม่เป็นบ้าเป็นหลังตามลำพังแร้ว กร๊ากกก ฝากเชียร์ม้า(แดง)และถ้าว่างๆก็ตามไปเชียร์ยัยแสบเบอร์5กันที่แอสตันมาร์ติน(เขียว)ได้นะคะ ไบโพล่าแดกแน่ฤดูกาลนี้ ถถถ เขียว-แดงเป็นป๋อจ้านเชียว ^ ^

 

ลากันไปด้วย F1 Rewind  ของปี 2020 เพิ่งเห็นว่าลงแล้ว งื้อออ มันก็จะเงียบเหงาๆหน่อยของปีนี้เพราะไม่มีผู้ชมในสนาม ^ ^”

 

F1 Rewind: 2020 Season Montage



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น