ป๋อจ้าน Au.Fic [หวังอี้ป๋อ x เซียวจ้าน] GLIDE : 2x4 It’s me : 18


ป๋อจ้าน Au.Fic [หวังอี้ป๋อ x เซียวจ้าน]  GLIDE : 2x4 It’s me : 18

: ป๋อจ้าน Fanfiction Au
: หวังอี้ป๋อ x เซียวจ้าน
: Romantic
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
           : เนื้อเรื่องต่อไปนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจริงนะคะ
           : ข้อมูลจะไม่แน่นเท่า GLIDE ภาคก่อนๆนะคะ เพราะภาคนี้ข้ามมา 2 ล้อ ตรูขี้เกียจหาข้อมูลฝั่ง Moto GP โฟ้ยยยย // โดนตบด้วยหมวกกันน็อค





ตรู๊ดดดดด....ตรู๊ดดดดดดด....


มือบางกำโทรศัพท์ด้วยความกระสับกระส่าย เสียงรอสายที่ไม่มีคนรับสักทียิ่งทำให้ว้าวุ่นใจ

“จ้านเกอ?”    ในที่สุดหวังอี้ป๋อก็รับโทรศัพท์จนได้ ใบหน้ามนถึงกับถอนหายใจ

“นายอยู่ไหน?”   เขาถามออกไปด้วยเสียงอ่อนแรง เขารออยู่ที่บ้านในมาราเนลโล่มาสองวันแล้วแต่อี้ป๋อกลับหายเงียบไปจนเขาเริ่มร้อนใจ เป็นห่วง กลัวว่าอีกฝ่ายจะเป็นอะไรไป ทำไมถึงไม่กลับมาสักที

“........ผมอยู่เลสโม่...”   เสียงทุ้มเอ่ยออกมาเหมือนไม่อยากจะบอกเขานัก ทีมโรงงานของยามาฮ่าที่ทำรถแข่งในชั้นพรีเมี่ยคลาสหรือ Moto GPนั้นเป็นทีมลูกครึ่งญี่ปุ่น-อิตาเลี่ยน จึงมีเบสอยู่ทั้งสองที่ เบสในอิตาลีจะอยู่ที่เมืองเลสโม่ เหนือมิลานไปไม่ไกล...ใช่...ตอนนี้หวังอี้ป๋อก็อยู่ในอิตาลีเหมือนเขานี่แหละ

“.....ผม...คงไม่ได้กลับไปมาราเนลโล่ตลอดอาทิตย์นี้...พี่ไม่ต้องห่วงนะ ผมอยู่กับทีม”   ใบหน้ามนนิ่งไป ทั้งๆที่อยู่ใกล้แค่นี้ทำไมไม่กลับล่ะ? สมองประมวลผลอย่างไวก่อนจะได้ข้อสรุปว่า

“ทีมไม่ให้นายกลับมาหาชั้นใช่ไหม?”    จากตอนแรกที่เป็นห่วงจนกังวลไปหมด ตอนนี้เริ่มจะเดือดปุดๆขึ้นมา เสียงใสเลยยิ่งแข็งขึ้นเรื่อยๆ

“เพราะเห็นเวลาของดูคาติเร็วกว่าเลยคิดว่านายเอาข้อมูลมาบอกชั้นใช่ไหม?  ถ้างั้นนายก็ให้ชั้นคุยกับคนในทีมนายสิ  ให้ชั้นบอกพวกเค้า จะให้ชั้นยืนยันหรือจะให้ชั้นสาบานก็ได้ว่านายไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เลย นายจะบอกไปเลยก็ได้นะว่าชั้นคือคนที่ออกแบบรถฟอร์มูล่าวันให้ทีมเฟอร์รารี่ชนะและเป็นแชมป์โลกมาแล้วเจ็ดสมัยน่ะ”   เขาใส่เป็นชุดอย่างเหลืออด เขาเริ่มจะทนสภาพแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว

“แล้วก็นะ ถ้าเราจะแชร์ข้อมูลกันจริงๆละก็ นายไม่ต้องมาถึงนี่ก็ยังได้ นายบอกชั้นผ่านวีดีโอคอลนี่ก็ยังได้ ถ้าเราจะแชร์ข้อมูลกันจริงๆต่อให้ห้ามไม่ให้นายมา เราก็ยังหาทางบอกกันทางอื่นได้อยู่ดีนั่นแหละ!    ริมฝีปากสีสดร่ายยาวเหยียดอย่างไม่สนใจอะไรอีกแล้ว  ทำไมหวังอี้ป๋อต้องมาแบกรับความสงสัยจากคนในทีมแทนเขาด้วย  ทั้งๆที่อี้ป๋อไม่ได้ทำอะไรผิด พวกเราสองคนไม่ได้ทำอะไรผิด

“พี่...ใจเย็นๆก่อนนะ ผมไม่เป็นไรจริงๆ มันไม่ได้แย่อย่างที่พี่คิดหรอก...เพียงแต่การเจอกันตอนนี้มันอาจจะทำให้เรื่องยุ่งยากขึ้น”

“จะให้ใจเย็นได้ไง? นายถูกคนอื่นสงสัย นายถูกคนมองไม่ดี ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ชั้นเจ็บใจ...”   ฟันกระต่ายกัดเม้มริมฝีปากแน่น ขอบตาร้อนผ่าว สองมือกำจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้ออย่างโมโหแทน

“จ้านเกอ...ฟังผมนะ...อดทนอีกนิด แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น เชื่อผม...นะ”   หวังอี้ป๋อพยายามพูดกับเขาช้าๆให้เขาใจเย็นลง

“..........”   เขาโมโหมาก เขาอยากจะอาละวาดใส่ใครก็ตามที่ทำให้อี้ป๋อลำบากใจ อยากจะเขย่าคอแล้วตะโกนใส่หน้าว่าอย่ามารังแกหวังอี้ป๋อของเขานะ!

“จ้านเกอ...ทำตามผมนะ สูดหายใจเข้าลึกๆ ฮึบเร็ว แล้วค่อยๆผ่อนลมหายใจออก อย่าโมโห มันไม่ดีต่อสุขภาพ”   เขาพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ตัวเองตามที่อี้ป๋อบอก

“ฟังผมนะ...ทีมไม่ได้ห้ามผมไม่ให้ไปหาพี่ แต่เป็นเพราะเวลาของเราเป็นรองดูคาติ ทางทีมเลยไม่พอใจมากๆ ตอนนี้ทุกฝ่ายกำลังหาทางแก้ไข ทั้งทีมวิศวกรสนาม วิศวกรโรงงาน ช่างเทคนิคต่างๆกำลังหารือกันอยู่ที่นี่ ผมจึงควรจะอยู่กับพวกเขา แค่นั้นเอง...เรายังคงแข่งขันกันอย่างแฟร์ๆ พี่ทำรถได้ดีกว่า พวกผมก็ต้องหาทางพัฒนารถให้ดีขึ้นเพื่อเอาชนะทีมของพี่...มันคือการแข่งขันอย่างที่ผมเคยบอก ไม่มีอะไรจริงๆ”   เสียงทุ้มพยายามพูดกับเขาอย่างใจเย็น แล้วในเมื่อหวังอี้ป๋อพยายามจะพูดให้เขาเข้าใจ เขาก็ไม่ควรจะใช้โทสะตีโพยตีพายไปก่อนแต่ควรใช้เหตุผล

สิ่งที่หวังอี้ป๋อพูดมาเขาก็เข้าใจได้ ในภาวะที่ทีมกำลังอยู่ในช่วงยากลำบาก ถึงจะช่วยอะไรไม่ได้มากแต่การที่นักขับคอยอยู่ใกล้ๆคอยให้กำลังใจ มันก็มีผลกับทีมมาก  ในทางตรงกันข้าม ถ้าทีมกำลังลำบากแล้วอี้ป๋อกลับมาอยู่กับคู่แข่งอย่างเขา คิดว่าจิตใจของคนในทีมจะเป็นยังไง?

เฟอร์รารี่เองก็เคยมีช่วงที่ลำบากแบบนั้นเหมือนกัน ทำยังไงรถก็ชนะคู่แข่งไม่ได้ แต่เป็นเพราะทุกคนในทีมอยู่ด้วยกัน ร่วมมือร่วมใจร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกัน เจ้าพวกนักขับเองก็คอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆไม่ไปไหน พวกเราเลยผ่านมันมาได้

“แน่นะ...ไม่ได้มีใครว่าอะไรนายแน่นะ?”   ถึงจะเข้าใจแต่ก็ยังอดห่วงอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ดี

“แน่ครับ ไม่มีอะไรให้พี่ต้องกังวลหรอก เชื่อผมนะ”   เสียงทุ้มเอ่ยบอกเขาอย่างนุ่มนวล

“อื้อ  จะเชื่อก็ได้...แต่ถ้ามีใครว่าร้ายนายละก็ รีบบอกชั้นเลยนะ!   คนที่ฟังอยู่ปลายสายถึงกับอมยิ้ม ถ้ามีใครว่าร้ายเขาจริงๆจะบุกมาแก้แค้นแทนเขาหรือไงน่ะ? ไม่ดูตัวเองเลยนะเจ้ากระต่ายน้อยเอ้ย

“ครับ”   นักบิดแห่งทีมยามาฮ่าตอบรับให้อีกฝ่ายสบายใจ

“แล้วก็! อยู่ทางนั้นนายต้องกินข้าวให้ครบทั้งสามมื้อนะรู้ไหม ต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอด้วย เลสโม่น่าจะยังหนาวมากอยู่ นายมีเสื้อกันหนาวกับเสื้อโค้ทหรือเปล่า? ชั้นแอบเอาไปให้ได้นะ”   ใบหน้าหล่อเหลายิ้มแก้มแทบปริเมื่อได้ยินความห่วงใยและความใส่ใจที่ผ่านเสียงตามสายมา

“ไม่เป็นไรครับ ผมเอามาจากญี่ปุ่นแล้ว แล้วก็พี่นั่นแหละที่ต้องกินข้าวให้ครบสามมื้อน่ะ ถ้าผมกลับไปแล้วเจอว่าพี่ผอมลงอีกละก็ จะทำโทษซะให้เข็ดเลย”

“หงึ รู้แล้ว!

“ถ่ายรูปมาให้ผมดูด้วยล่ะว่าทำอะไรกิน”

“อื้อ”

“นอนห่มผ้าดีๆด้วยนะ”

“อื้อ~~~ นายเป็นหม่าม้าชั้นรึไง?”

“ไม่ใช่หม่าม้าครับ แต่เป็นสามี”

“งื้อ! ชั้นวางละ ดูแลตัวเองดีๆด้วย!”   แล้วปลายสายก็ตัดไปอย่างน่ารัก เขายังคงยิ้มค้างบางๆ ดวงตาคมกล้ายังคงทอดมองหน้าจอดำสนิทนั่นราวกับลืมละสายตาออกมา...การได้คุยกับจ้านเกอเมื่อกี้นี้ทำให้เขาสบายใจขึ้นมาก เอาจริงๆเขาก็กังวลอยู่เหมือนกัน กลัวว่าเจ้ากระต่ายจะไม่เข้าใจ ถ้างอแงไม่ให้เขาอยู่กับทีมแล้วให้เขากลับบ้านจะทำยังไง?

โชคดีที่แฟนเขาไม่งี่เง่าแบบนั้น อาจจะเป็นเพราะเจ้ากระต่ายก็อยู่ในทีมแข่งรถเหมือนกัน เลยเข้าใจสถานการณ์ของเขาดี

ส่วนเรื่องทีม ตอนนี้เขาไม่กังวลแล้ว




เพราะเขารู้แล้วว่าจะต้องทำยังไง...




หัวสีน้ำตาลนึกถึงบทสนทนาที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้...ระหว่างเขา...กับคุณครูเทโอ้ CEOของเฟอร์รารี่...

“สวัสดีครับ...ผมหวังอี้ป๋อ ขอคุยกับคุณหน่อยได้ไหมครับ?”   เขาเป็นฝ่ายโทรไปหาCEOหนุ่มเพราะต้องการความช่วยเหลือ

“หึ  โทรมาแบบนี้แสดงว่าคิดได้แล้วใช่ไหมว่าจะทำยังไง?”   ดูเหมือนอีกฝ่ายก็คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าเขาคงจะโทรไปเข้าสักวัน เอาจริงๆผู้ชายคนนั้นอาจจะคิดออกก่อนเขาตั้งนานแล้วก็ได้ว่าควรจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงดี

“ครับ...ถ้าอยู่ด้วยกันดีๆไม่ได้...ก็ทะเลาะกันให้แตกหักไปเลยแล้วกัน”   เขายกยิ้มมุมปาก

“เอาสิ จะให้ชั้นช่วยอะไรล่ะ?”   CEOของเฟอร์รารี่ไม่ถามเขาสักคำว่าจะทำยังไง แต่อีกฝ่ายกลับจะให้ความช่วยเหลือราวกับวางใจในแผนการของเขา เพราะรู้ว่าสุดท้ายแล้วเขาก็จะทำเพื่อเจ้ากระต่าย...

สมกับที่ใครต่อใครก็พูดว่าผู้ชายคนนั้นไม่สนใจวิธีการ ขอแค่ผลลัพธ์เป็นไปตามที่ตัวเองต้องการก็พอจริงๆ เขาค่อนข้างมั่นใจเลยว่าCEOของเฟอร์รารี่วางแผนอะไรบางอย่างไว้เพื่อขยายตลาดรถซุปเปอร์คาร์ของตัวเองเข้ามาในวงการ Moto GP โดยมีเจ้ากระต่ายเป็นจุดขาย และเพื่อการนั้นจึงให้ความร่วมมือกับเขาเป็นอย่างดี

ก็ดี! ถึงเขาจะเป็นหมากบนกระดานของผู้ชายคนนั้น แต่ก็ใช่ว่าหมากอย่างเขาจะไม่ได้รับผลประโยชน์เสียเมื่อไหร่

เขาจะได้เจ้ากระต่ายเป็นของตอบแทน ส่วนCEOของเฟอร์รารี่ก็ได้ผลประกอบการที่ดีขึ้น มันคือธุรกิจ!

“ผมอยากให้คุณใช้สื่ออิตาลีช่วยผมหน่อย”    เสียงทุ้มเอ่ยออกไป

“ไม่มีปัญหา”

“แล้วก็...มันอาจจะทำให้สถานะของเซียวจ้านถูกเปิดเผย มันจะมีปัญหากับทางคุณไหม?”

“ไม่มีหรอก...ที่ตอนแรกทางเราพยายามปกปิดตัวตนของเซียวจ้านไม่ให้ใครรู้ว่าเค้าคือคนออกแบบรถฟอร์มูล่าวันของเราเป็นเพราะเค้ายังเด็กมาก นายไม่รู้หรอกว่าในวงการฟอร์มูล่าวันมันโหดเหี้ยมขนาดไหน เราไม่อยากให้เค้าทำงานท่ามกลางความกดดันมากกว่า ส่วนเรื่องกลัวว่าจะถูกทีมอื่นดึงตัวไปนั้นเป็นเรื่องรอง นายก็รู้เงินเดือนของเซียวจ้านนี่ ไม่มีใครในวงการมอเตอร์สปอร์ตให้ได้มากกว่าเราแล้วละ”    ทำไมใบหน้าหยิ่งๆที่กำลังยกยิ้มราวกับผู้เหนือกว่าในโลกหล้าของท่านCEOปีศาจถึงลอยมาขนาดนี้...ก็จริง...เจ้ากระต่ายเงินเดือนสูงกว่าผู้บริหารบริษัทบางบริษัทเสียอีก

“ตอนนี้เซียวจ้านโตพอที่จะรับมือกับมันแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกไปก็ไม่เป็นไร”

“ครับ...ขอบคุณครับ”

“เรื่องแค่นี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับชั้นหรอก แค่นายดูแลดีไซน์เนอร์ของเราให้ดีก็พอ อย่าปล่อยให้เจ้าเด็กนั่นร้องไห้กระจองงอแงกลับมาแบบเมื่อวันก่อนอีก ทำคนทั้งทีมตกอกตกใจไม่พอ ยังทำเอาชั้นโดนสเลนบ่นจนไม่เป็นอันหลับอันนอนสามวันสามคืนติด ชั้นต้องใช้สมองในการคิดและตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆหลายเรื่องนะ ไม่ได้นอนชั้นก็ตายพอดี”   ท่านCEOปีศาจบ่นจนเขาถึงกับหัวเราะในลำคอ ต่อให้เป็นจอมมารก็ยังมีสิ่งที่พ่ายแพ้อยู่สินะ เหมือนเขาไม่มีผิด...แพ้สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆที่ดูไม่มีอันตรายไม่มีพิษสงอะไรเลย

“ครับ ผมจะระวังก็แล้วกัน”    เขาวางสายจากมาราเนลโล่ไปก่อนจะมองความมืดมิดด้วยสายตานิ่งสนิท ในหัวค่อยๆวางแผนจนมันเริ่มเป็นขั้นเป็นตอนที่ชัดเจน...









แล้วอีกหนึ่งอาทิตย์ให้หลัง ทีมแข่ง Moto GP ก็ต้องกลับไปที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์อีกครั้ง...



ในที่สุดฤดูกาลใหม่และสนามแรกอย่าง QNB Grand Prix of Qatar ก็เริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้ว!



เป็นเพราะช่วงทดสอบรถเมื่อสองอาทิตย์ก่อนนั้นไม่มีการถ่ายทอดสด สื่อและตากล้องก็มีแต่สื่อเฉพาะของสนาม เรื่องราวหลายๆอย่างจึงยังไม่เปิดเผยในวงกว้าง รวมทั้งผลการทดสอบมันก็เป็นเพียงทิศทางแต่ไม่สามารถจะวัดกันได้ว่าใครเร็วกว่ากันกันแน่ ทีมใหญ่ๆบางทีมก็ยังแอบกั๊กไม้ตายเอาไว้ไม่ยอมแบไต๋ให้ใครเห็น เพราะงั้นของจริงมันจะเริ่มโผล่หางออกมาก็อาทิตย์นี้แหละ สื่อและผู้ชมทั่วโลกจะเริ่มดูผลงานกันจริงๆจังๆในอาทิตย์นี้มากกว่า

ทว่า...ผลมันกลับออกมาเหนือคาด ไม่มีใครคิดว่าทีมอย่างดูคาติจะออกตัวแรงแซงรถของยามาฮ่าได้!

บอร์ดเทียบเวลาถูกโพสทั้งไอจี ทวิตเตอร์ หนังสือพิมพ์ รายงานสดจากสนาม เรียกว่าทุกช่องทางที่สื่อจะเผยแพร่กันได้ กลายเป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการแข่งรถจักรยานยนต์ทางเรียบเลยก็ว่าได้



Friday, 15:20 – 16:05 , Moto GP  Free Practice Nr. 1

Pos.     Num.    Rider                Team                           Time                 Gap
1          12        Dova                Ducati team                 1’59.168
2          85        Wang Yi Bo      Monster Yamaha          1’59.185          +0.017

สวัสดีครับ รายงานสดจากสนามโลไซอัล ประเทศกาตาร์ ขณะนี้จบช่วงซ้อม FP1 ด้วยความเซอร์ไพรส์ไปทั้งวงการ Moto GP หวังอี้ป๋อไม่ได้เป็นผู้นำฝูงหมาป่าตามที่ทุกคนคาดหมายแต่กลับเป็นทีมสีแดงจากอิตาลีทำได้ดีกว่าครับ ก็ต้องมาดูกันต่อใน FP2 ว่าความเร็วของดูคาตินั้นเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่?

‘Monster Yamaha ถึงกับเครียดเพราะไม่เคยถูกท้าทายขนาดนี้มาก่อน แต่ทีมบอสยังออกมาแสดงความมั่นใจว่าทีมจะต้องทวงตำแหน่งผู้นำคืนมาให้ได้ ส่วนหวังอี้ป๋อไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆทั้งนั้น เพราะมีข่าวลือลั่นพิตเลนว่าเกี่ยวข้องกับ Red Rabbit หวานใจของเจ้าตัว?

สื่อหลายๆสำนักเริ่มรายงานการเปิดฤดูกาลไปในทิศทางเดียวกัน ทีมดูคาติสร้างความตื่นตะลึงไปทั่วโลกเพราะที่ผ่านมาสนามกาตาร์แห่งนี้เป็นสนามถนัดของยามาฮ่าและอยู่ในตำแหน่งผู้นำมาตลอด โดยเฉพาะ3-4ปีหลังมานี้ไม่เคยมีใครเร็วกว่ารถหมายเลข 85 ของหวังอี้ป๋อได้ สนามแรกของปีที่หลายๆคนคิดว่าคงออกมาในรูปแบบเดิมๆ ยามาฮ่าคงชนะไปง่ายๆ กลับเปลี่ยนไปและมันยิ่งทำให้คนดูตื่นเต้นจนหันมาจับตามองสองทีมใหญ่ตาไม่กระพริบ




Friday, 19:00 – 19:45 , Moto GP Free Practice Nr. 2

Pos.     Num.    Rider                Team                           Time                 Gap
1          85        Wang Yi Bo      Monster Yamaha          1’58.421
2          12        Dova                Ducati team                 1’58.427          +0.006

ยามาฮ่าหืดขึ้นคอ ถึงจะกลับมาเป็นผู้นำได้แต่ก็สลัดดูคาติไม่หลุด โดว่านักบิดของดูคาติตามหลังหวังอี้ป๋ออยู่แค่ +0.006 วินาที   ใน FP3 วันพรุ่งนี้ดูคาติจะพลิกกลับมาได้หรือไม่? น่าสนใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับพิตจากอิตาลีกันแน่!’

ขณะนี้ผมยืนอยู่หน้าพิตของดูคาติเพื่อมาดูว่าอะไรคือตัวแปรสำคัญที่ทำให้ความเร็วของดูคาติก้าวกระโดดขนาดนี้?...ทุกคนเห็นนั่นไหมครับ? เป็นเขาจริงๆครับ Red Rabbit แฟนของหวังอี้ป๋อ! เอาไว้ผมจะดักจับใครสักคนในพิตดูคาติมาสัมภาษณ์สักหน่อยแล้วว่าอะไรเป็นอะไร? ทำไมแฟนของหวังอี้ป๋อถึงมาอยู่ที่นี่ได้? เท่าที่ผมทราบเขาเป็นวิศวกรของทีมแข่งรถเอฟวันเฟอร์รารี่?

สื่อจากทั่วโลกหันมาให้ความสนใจจนหน้าพิตดูคาติมีนักข่าวเอย ตากล้องเอย วนเวียนมาไม่ขาดสาย ตอนนี้ข่าวกระจายไปในวงกว้างกว่าตอนทดสอบรถมากและรูปถ่ายของเซียวจ้านก็ถูกลงมันในทุกสื่อ ลงกันกระหน่ำจนกลายเป็นคนดังของฝั่ง Moto GP ในชั่วข้ามวันไปแล้ว









ใบหน้าหล่อเหลาของหวังอี้ป๋อยิ้มเย็นๆเมื่อเห็นข่าวต่างๆจากในหน้าจอมือถือ จริงอยู่ที่เขากดดันไม่น้อยจากผลงานของตัวเองในวันนี้ แต่การที่สื่อต่างหันไปโฟกัสที่เจ้ากระต่ายก็อยู่ในแผนการของเขาด้วย

“อี้ป๋ออ่า...นายไม่เป็นใช่ไหม? ถูกทีมดุหรือเปล่า?”  

เขามองข้อความที่เจ้ากระต่ายส่งมา นัยน์ตาคมกล้าเหลือบมองเวลาก่อนจะลุกจากเตียงขึ้นไปเปลี่ยนชุด แต่การแต่งตัวของเขาอาจจะแปลกๆหน่อย

มือใหญ่ดึงหมวกแก๊ปลงมาปิดบังใบหน้า สองขาก้าวออกจากโรงแรมของตน ตอนนี้ข้างนอกมืดสนิท หากไม่มีการแข่งขัน Moto GP เมืองแห่งนี้ก็คงจะหลับใหลไปแล้ว แต่เพราะมีอีเว้นต์ที่ปีหนึ่งจะมีสักที ค่ำคืนนี้ของกรุงโดฮาจึงยังครึกครื้นอยู่ เขาขับรถออกไป ก่อนที่เจ้ารถสีขาวจะไปจอดลงใกล้ๆโรงแรมที่ทีมดูคาติพักอยู่

“ติดต่อห้องไหนคะ?”   พนักงานที่ล็อบบี้ถามเขาที่ถูกหมวกบังจนมองเห็นแค่ใบหน้าท่อนล่าง

“ห้อง 1108 ครับ”

“มาส่งพิซซ่านะคะ? เชิญค่ะ”   บัตรถูกแลกส่งมาให้ เขาจึงถือกล่องพิซซาขึ้นไป...ใช่ เขากำลังปลอมตัวเป็นพนักงานส่งพิซซ่า! คนอย่างหวังอี้ป๋อที่ทั้งหล่อทั้งรวยทำไมต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย? บางทีเขาก็สงสัยตัวเองเหมือนกัน


ก๊อกๆๆ


มือใหญ่เคาะประตูอยู่นานแต่ก็ไม่มีเสียงขานรับ แต่เขาก็ยังคงเคาะต่อไปเพราะมั่นใจว่าอีกฝ่ายอยู่ในนี้ นัยน์ตาคมกล้าทอดมองแหวนเงินกลมเกลี้ยงที่นิ้วนางข้างซ้ายซึ่งอีกฝ่ายก็มีเหมือนกัน มันคือเครื่องยืนยันว่าเจ้าจุดสีแดงๆในแอพสัญญาณติดตามตัวที่เขาเห็นอยู่นี่มันกำลังเดินวนไปวนมาอยู่หลังประตูนี่แหละ

หึ...ก็รู้จักกลัวรู้จักป้องกันตัวเหมือนกันนะเจ้ากระต่ายนั่น

“คะ ใครครับ?”   เสียงกล้าๆกลัวๆดังออกมาจนได้

“พิซซ่ามาส่งครับ”   เขายกยิ้มมุมปากอย่างนึกออกเลยว่าเจ้ากระต่ายกำลังทำหน้ายังไงอยู่ข้างใน คงจะเลิ่กๆลั่กๆอย่างน่ารักมากแน่ๆ

“แต่ผมไม่ได้สั่ง....”

“เอ๋? นี่ห้องคุณหวังอี้ป๋อหรือเปล่าครับ? คุณหวังอี้ป๋อเป็นคนสั่งมา”   เขายังยิ้มไม่หุบ รู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้แหย่เจ้ากระต่ายนั่นเล่น

“อี้ป๋อสั่งมาให้เหรอ? สักครู่นะครับ”   เจ้ากระต่ายยังไม่ยอมเปิด แต่กลับมีข้อความเข้ามาที่มือถือของเขาแทน


นายสั่งพิซซ่ามาให้ชั้นเหรอ?

ครับ กินเยอะๆหน่อย ผมเห็นพี่ผอมลง

อื้อ...ขอบใจนะ แต่นายจะให้ชั้นกินพิซซ่าตอนสี่ทุ่มเนี่ยนะ?

กินๆไปเถอะ ถ้าพี่อ้วนเดี๋ยวผมเบิร์นให้เอง

งื้อ!’


มีการส่งข้อความมาเช็คก่อนด้วยนะ ก็นับว่ารอบคอบทีเดียวเจ้ากระต่ายน้อย

แกร่ก...

ประตูค่อยๆเปิดออก ดวงตากลมโตมองมาที่เขาอย่างระแวดระวัง แต่เขายังไม่ทันจะได้เปิดเผยตัวเอง เจ้ากระต่ายกลับทักขึ้นอย่างตกใจ

“อี้ป๋อ?!! มาไงอ่ะ?”   นั่น...จำเขาได้ยันเงาเลยรึไงเนี่ย?

“ชู่ว”   มือใหญ่ปิดริมฝีปากช่างเจรจาก่อนจะดันร่างโปร่งบางแล้วก้าวตามเข้ามาในห้อง หมวกแก๊ปถูกดึงออกจากหัว เจ้ากระต่ายมองเขาตาค้างอีกรอบ

“รู้ได้ไงว่าเป็นผม?”   เขายิ้มให้คนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน หลายอาทิตย์มานี้เขาเครียดมาก การได้เห็นหน้าเจ้ากระต่ายคือทางเยียวยาเดียวของเขา การได้สัมผัสเนื้อตัวนุ่มนิ่มนั่นก็คือการผ่อนคลายของเขา มือใหญ่จึงดึงลำตัวบางมากอดไว้ด้วยความคิดถึง

“ชั้นจำกลิ่นนายได้”   เสียงอู้อี้ดังมาจากใบหน้าที่ซบอยู่บนไหล่  สองแขนของเจ้ากระต่ายก็กอดตอบเขาแน่น

“คนใช้น้ำหอมกลิ่นนี้ก็มีเยอะแยะ”   คางได้รูปเกยไว้บนไหล่บอบบาง บ้างก็หันหน้าไปดอมดมกกหูพร้อมพรมจูบต้นคอระหงแผ่วเบา

ยิ่งได้สัมผัสก็ยิ่งรู้สึกคิดถึงใจจะขาด...

“ไม่นะ ถึงจะใช้น้ำหอมเหมือนกันแต่ตัวนายจะมีกลิ่นเฉพาะกว่า เหมือนจะผสมกลิ่นเหงื่อจางๆ? แต่มันหอมมาก ชั้นชอบ”   เจ้ากระต่ายยังคงเจื้อยแจ้วด้วยรอยยิ้มต่อไป ไออุ่นที่ซึมผ่านร่างกายชักจะทำให้ทนไม่ไหว

คนแรงเยอะกว่าดันแผ่นหลังบางจนติดผนัง สองมือละจากอ้อมกอดตรงเข้าประคองแก้มใสให้อยู่นิ่งๆ ใบหน้าค่อยๆขยับเข้าไปใกล้จนรับรู้ถึงลมหายใจ ดวงตาคมกล้าหลุบต่ำจ้องมองปลายจมูกโด่งรั้น...หลังจากนั้นจึงค่อยๆไล่มองขึ้นไป...ค่อยๆสบประสานกับดวงตาใสแจ๋วที่มองเขาราวกับกระต่ายน้อยกำลังตื่นตระหนก  กลิ่นหวานๆที่ลอยอยู่ไม่ไกลทำให้หัวใจเต้นระรัว ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆขยับเข้าไปหา เขาเอียงหน้าน้อยๆเพื่อให้กลีบปากค่อยๆแตะสัมผัสจนแนบแน่น

ความนุ่มนิ่มราวกับเยลลี่สีชมพูทำเอาเขาแทบละลาย ความละมุนละไมทำให้เผลอกดจูบริมฝีปากแสนหวานซ้ำไปซ้ำมา ในหัวเต็มไปด้วยความมัวเมาจนเขาแทบจะละออกมาไม่ได้ หายใจก็ลำบากเพราะมีแต่กลิ่นของความรักเต็มไปหมด

สายตายังคงทอดมองริมฝีปากสีระเรื่อนั่นอย่างอาลัยอาวรณ์ แต่สองมือจำต้องค่อยๆปล่อยใบหน้าที่ประคองไว้ไป

แต่พอร่างกายห่างออกมาก็ทำใจไม่ได้  มือใหญ่ดึงคอร่างโปร่งบางมากอดแน่นๆอีกครั้งก่อนจะแข็งใจถอยออกมา

ทรมานเหลือเกิน...สักที่ในใจเขามันร่ำร้องบอกว่าจะทนไม่ไหวแล้ว อยากจะอยู่ใกล้ๆ อยากจะกอดไว้ทุกวัน

“จะกลับแล้วเหรอ...”   น้ำเสียงเศร้าๆเอ่ยถามเขา ได้เจอกันยังไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ

“ครับ ผมแลกบัตรไว้ ถ้าออกไปช้าที่ล็อบบี้จะสงสัยเอา”   เขาหันกลับไปลูบหัวเจ้ากระต่าย พยายามยิ้มให้ พยายามทำเหมือนว่าเขาไม่เป็นไร

“อื้อ ถ้างั้นก็...กลับดีๆนะ”   เจ้ากระต่ายเองก็คงไม่ต่างกัน ทั้งที่ริมฝีปากยิ้มแต่ดวงตากลับสั่นพร่า

“อย่าลืมเปิดดู”  เขายัดกล่องพิซซ่าใส่อ้อมแขนบางแล้วกลั้นใจเดินออกไป

มือบางถือกล่องพิซซ่าไว้ในขณะที่สายตาก็มองส่งร่างสูงสง่าเดินออกจากประตูไป น้ำตาแทบจะไหลลงมาให้ได้ อยากอยู่ด้วยกันให้นานกว่านี้ เขาควรจะทำยังไงดี...

ร่างโปร่งบางเดินกลับไปนั่งลงบนเตียงด้วยใบหน้าหงอยๆ เขาก้มมองกล่องพิซซ่าก่อนจะเปิดมันออกดูพลางถอนหายใจ เวลาแบบนี้ใครจะไปมีกระจิตกระใจกินพิซซ่ากันล่ะ? แต่อี้ป๋ออุตส่าห์ซื้อมาให้....

ถ้อยคำที่บ่นอยู่ในใจถูกกลืนหายไปเมื่อเขามองเห็นของในกล่องพิซซ่า...

เพราะว่ามันไม่ใช่พิซซ่า ไม่ใช่เจ้าแผ่นแป้งกลมๆ แล้วก็ไม่ใช่ไก่ทอด เฟรนช์ฟรายส์ หรืออะไรก็ตามที่ขายในร้านพิซซ่า แต่มันเป็น...


ดอกไม้ทะเลทราย?


ไม่สิ เจ้านี่มันคือดอกกระบองเพชร?


รีบูเทีย คานิวาล ผมให้พี่ ดูมันสิ น่ารักเหมือนพี่เลย

การ์ดแผ่นเล็กๆเขียนไว้ด้วยลายมือของหวังอี้ป๋อ จากที่เศร้าๆอยู่ดีๆตอนนี้เขาเขินม้วนจนจะเป็นก้อนแล้วเนี่ย~

“อาม่า~ หวังอี้ป๋อน่ารักมาก ทำไงดี~ งื้อออ”   ร่างโปร่งบางลงไปกลิ้งอยู่บนเตียง กลิ้งไปกลิ้งมาก่อนจะไปหยุดอยู่ตรงหน้ากระถางต้นกระบองเพชรเล็กๆซึ่งมีดอกสีชมพูบานสะพรั่ง มันบาน 4-5 ดอกพร้อมๆกัน

ปลายนิ้วจิ้มลงไปบนเจ้าดอกไม้สีชมพู มันน่ารักมากอย่างที่หวังอี้ป๋อบอก...นี่ในสายตาของอี้ป๋อ เขาเหมือนดอกไม้นี่งั้นเหรอ...แก้มใสแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เขินจนต้องกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงอีกหลายรอบ












บ่ายวันเสาร์การต่อสู้ระหว่างสองยักษ์ใหญ่ใน Moto GP ก็ยังคงดุเดือด

Saturday, 15:00 – 15:45 , Moto GP Free Practice Nr. 3

Pos.     Num.    Rider                Team                           Time                 Gap
1          12        Dova                Ducati team                 1’58.178
2          85        Wang Yi Bo      Monster Yamaha          1’58.283          +0.105

สนามนี้มันมากจริงๆครับ พวกเราไม่ได้เห็นการต่อสู้ที่สูสีขนาดนี้มาหลายปีแล้วตั้งแต่ที่หวังอี้ป๋อขึ้นมาครองบัลลังก์ ดูคาติพลิกกลับมาขึ้นนำอีกแล้วครับเมื่อจบการซ้อมใน FP3 เล่นเอาพิตสีน้ำเงินถึงกับนั่งไม่ติดอึมครึมกันไปทั้งพิตเลยทีเดียว

ดูคาติออกมาตอบแล้ว! Red Rabbit หรือชื่อจริงๆคือเซียวจ้าน วิศวกรที่ยืมตัวมาจากเฟอร์รารี่คือกุญแจสำคัญในการทำให้รถของดูคาติเร็วขึ้นจริงๆ

ทุกคนยังตั้งข้อสงสัย...ว่าแค่วิศวกรคนเดียวจะทำให้รถเร็วขึ้นได้ขนาดนี้จริงๆเหรอ? ได้รู้ข้อมูลอะไรมาจากหวังอี้ป๋อหรือเปล่า? เป็นไปได้ไหมว่าปีที่แล้วเจ้าตัวคลุกคลีอยู่กับคนในพิตยามาฮ่าเลยรู้อะไรดีๆมา?

สื่อทุกสำนักยังคงโหมกระพือประเด็นนี้ต่อไปจนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ชมเป็นจำนวนมาก คนส่วนใหญ่ต่างก็สงสัยเหมือนที่สื่อเสนอมา คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่เชื่อว่าจะสามารถทำรถให้เร็วได้ด้วยตัวคนเดียว





Saturday, 16:30 – 17:00 , Moto GP Free Practice Nr. 4

Pos.     Num.    Rider                Team                           Time                 Gap
1          12        Dova                Ducati team                 1’57.655
2          85        Wang Yi Bo      Monster Yamaha          1’57.983          +0.328

ยิ่งปรับแต่ง รถของดูคาติก็ยิ่งร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ นอกจากยามาฮ่าจะหาทางกลับขึ้นมานำไม่ได้ ยังถูกทิ้งห่างออกไปจนถึง +0.3 วินาที  งานนี้คู่รักดราม่าแห่งพิตเลนกำลังถูกจับตามองเป็นอย่างมาก หลายคนเชื่อว่าเซียวจ้านน่าจะได้ข้อมูลรถของยามาฮ่ามาจากหวังอี้ป๋อ

ท่ามกลางกระแสที่ร้อนระอุ สื่ออิตาลีกลับพร้อมใจกันออกมาตอบโต้ว่าเซียวจ้านไม่ใช่วิศวกรโนเนมที่ไม่มีฝีมือ แต่เป็นถึงตัวท็อปของ Ferrari design center เป็นดีไซน์เนอร์และวิศวกรออกแบบรถซุปเปอร์คาร์ของเฟอร์รารี่แทบทุกรุ่น พร้อมแนบภาพยืนยัน เซียวจ้านในงานเปิดตัวรถที่ดูแทบไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวกัน แต่ก็เป็นคนเดียวกัน!’

คนจากวงการซุปเปอร์คาร์และมหาเศรษฐีหลายคนออกมาโพสรูปรถเฟอร์รารี่ของตัวเองแล้วยืนยันว่านี่คือรถที่เซียวจ้านออกแบบ

ถ้าอย่างงั้น ตอนอยู่ในทีมแข่งรถฟอร์มูล่าวันของเฟอร์รารี่ล่ะ? เซียวจ้านจะมีหน้าที่อะไรกันแน่? ไม่ใช่ออกแบบแชสซีของรถแข่งที่เร็วที่สุดในโลกหรอกเหรอ?

สื่อยังคงรายงานข่าวกันอย่างเข้มข้น สื่ออิตาลีเริ่มแสดงหลักฐานที่ทำให้ตนเหนือกว่า ทำให้ประวัติของเซียวจ้านเริ่มถูกขุดคุ้ยมากขึ้น แล้วยิ่งขุดก็ยิ่งตะลึงในความไม่ธรรมดาของแฟนหวังอี้ป๋อคนนี้






การควอลิฟายจบลงท่ามกลางสนามที่แทบจะลุกเป็นไฟ และในวันพรุ่งนี้ทีมดูคาติถึงกับต้องจดจารึกไว้ ว่าพวกเขาสามารถออกสตาร์ทในอันดับที่ดีกว่ารถหมายเลข 85 ของหวีงอี้ป๋อได้สำเร็จ!

Saturday, 18:25 – 18:40 , Moto GP  Qualifying Nr. 2

Pos.     Num.    Rider                Team                           Time                 Gap
1          12        Dova                Ducati team                 1’56.975
2          85        Wang Yi Bo      Monster Yamaha          1’57.550          +0.575

หวังอี้ป๋อยอมให้สัมภาษณ์แล้ว! หลังจบควอลิฟายถึงประเด็นดังว่าตนไม่มีความจำเป็นต้องแชร์ข้อมูลรถให้เซียวจ้าน เพราะเซียวจ้านเป็นวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านแอโร่ไดนามิกอยู่แล้ว ส่วนเรื่องผลการควอลิฟายเจ้าตัวรับว่าไม่ซีเรียส ให้ดูกันวันแข่ง การวิ่งระยะยาวอาจทำให้ผลเปลี่ยนไป

คดีพลิก สื่ออิตาลีที่ใกล้ชิดกับทีมเฟอร์รารี่ออกมาเปิดเผยว่า เซียวจ้านคือคนออกแบบรถแข่งของเฟอร์รารี่ด้วย เป็นคนออกแบบแชสซีรถฟอร์มูล่าวันและทำให้เฟอร์รารี่ได้แชมป์โลกมาไม่รู้กี่สมัย เป็นอัจฉริยะที่เฟอร์รารี่พยายามซุกซ่อนไว้เพราะไม่อยากให้ใครมาดึงตัวไป เพราะงั้นการที่จะปรับแต่งรถจนเหนือกว่ายามาฮ่าได้อาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคนคนนี้

และเมื่อข่าวนี้ถูกเผยแพร่ เซียวจ้านก็ทำให้คนทั้ง Moto GP ถึงกับอึ้ง คนทางฝั่ง F1 เองหลายต่อหลายคนก็เพิ่งรู้ ตอนนี้แฟนของหวังอี้ป๋อจึงกลายเป็นคนดังในวงการมอเตอร์สปอร์ตไปแล้ว






นักบิดแห่งทีม Monster Yamaha นั่งมองข่าวผ่านหน้าจอมือถือพลางยกผ้าขนหนูขึ้นมาซับเหงื่อจากอากาศที่ร้อนจัด

หึ!  สมใจท่าน CEO ปีศาจแล้วสินะ ทั้งเก่ง ทั้งหน้าตาดีแบบนี้ รับรองว่าคงมีคนอีกไม่น้อยที่จะโดนเจ้ากระต่ายของเขาตกเอา แล้วยอดขายรถก็จะพุ่งปรี๊ดๆเพราะมีเหล่าสาวกใหม่เพิ่มเข้ามา

ส่วนเขา...ก็นับว่าแผนการนั้นผ่านมาได้ครึ่งทางแล้ว

ตอนนี้เขาแค่ต้องการทำให้ทุกคนรู้ว่าตัวเจ้ากระต่ายเองก็มีดีพอที่จะไม่ต้องมาขอให้เขาบอกข้อมูลรถให้ มือหนึ่งของเฟอร์รารี่น่ะ คิดเองได้อยู่แล้วเรื่องแค่นี้







ตัดภาพมาที่พิตสีแดงของทีมดูคาติ ลูกทีมกำลังเก็บของกันอยู่เพราะภารกิจของวันนี้เสร็จสิ้นแล้ว ทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสจากผลการควอลิฟายที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าพวกเขาจะเอาชนะหวังอี้ป๋อได้ พรุ่งนี้เจ้ารถสีแดงจะได้สตาร์ทจากตำแหน่งโพล!

ฟาบริซิโอ้เดินเข้ามาในพิตอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดกับอะไรบางอย่าง มันเป็นสิ่งที่ไม่เข้ากับรถ ไม่เข้ากับเครื่องยนต์ ไม่เข้ากับอะไหล่ ไม่เข้ากับน้ำมันเครื่อง ไม่เข้ากับอะไรทั้งนั้นในพิตการาจแห่งนี้

“ใครมันเอากระบองเพชรมาตั้งไว้ในพิตเนี่ย?”   ร่างสูงใหญ่ก้มลงไปมองกระบองเพชรต้นเล็กที่ออกดอกสีชมพูมุ้งมิ้งเต็มต้น

“ชั้นเอง”   สมาชิกใหม่ของทีมยืนทำแก้มป่องใช้สายตามองลอดแว่นแทนคำถามว่ามีปัญหาเหรอ? เล่นเอาพี่ใหญ่ในทีมถึงกับคิ้วกระตุก

“ของนายอีกแล้วเร๊อะ?! ไอ้ของไม่จำเป็นอย่างตุ๊กตาหมีกับกระบองเพชรเนี่ย นายจะขนมาด้วยทำไมฟ๊ะ? คิดว่ามาตากอากาศรึไง?”

“ใครว่าไม่จำเป็น?”   บางทีฟาบริซิโอ้ก็นึกอยากจะบี้ด้วยความหมั่นไส้เข้าซักที เรื่องฝีมือเขาไม่เถียงแต่ไอ้นิสัยเหมือนสัตว์เล็กกำลังหาเรื่องไดโนเสาร์เนี่ยขอทีเถอะ

“ช่างเถอะ ว่าแต่ นั่นนายเหรอ?”   หัวหน้าส่วนออกแบบเครื่องยนต์ยอมแพ้อย่างปลงๆก่อนจะหันไปถามเรื่องที่น่าสนใจกว่า มือใหญ่ชี้ไปที่รูปหนึ่งซึ่งสื่ออิตาลีลงไว้ เป็นรูปดีไซน์เนอร์ของเฟอร์รารี่ในงานเปิดตัวรถ

“อือ”   อีกฝ่ายพยักหน้ารับ

“เก๊กนานไหมกว่าจะได้แบบนั้น?”   เพราะคนในภาพนั่นสวยมาก ทั้งสวยทั้งหล่อจนเหมือนเป็นคนที่ไม่มีจริงอยู่ในโลก นับว่าหวังอี้ป๋อตาแหลมมากที่มองเห็นร่างนางฟ้าในคราบตัวเนิร์ดแบบนี้

“ไม่ต้องเก๊กอะไรเลยเพราะชั้นหล่อเป็นเรื่องปกติ”   เนี่ย...มันเป็นอย่างเงี้ยยยยย

“........ฮ่ะ? ฮ่าๆๆๆๆ”   ทั้งเขาทั้งคนที่ผ่านมาได้ยินต่างหัวเราะกันจนตัวงอ

“หัวเราะอะไร?!

“พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมหวังอี้ป๋อถึงดูเป็นห่วงนายนัก เจ้ากระต่ายเอเชียเอ้ย”   ทั้งกวนทั้งน่าเอ็นดู

“.......”   ใบหน้ามนทำหน้าหงิกใส่ พูดอะไรไม่รู้เรื่อง ร่างโปร่งบางจึงหันมาสนใจรถต่อ ถึงควอลิฟายจะจบลงแล้วแต่พวกเขายังต้องคิดเรื่องปรับแต่งสำหรับการแข่งวันพรุ่งนี้อยู่ เพราะเป็นการวิ่งระยะยาว 22 รอบการปรับแต่งจึงต่างจากวันนี้ที่วิ่งแค่รอบเดียวพอสมควร

“ถ้าว่างนักก็กดท้ายรถลงให้ชั้นซะ ลองกดทีละครึ่งเซ็นต์”   ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นพูดโดยไม่ละสายตาจากท้ายรถ

“นายนี่มันกวนจริงๆ ทำเองก็ไม่ได้แท้ๆ สั่งเอาๆอยู่นั่นแหละ”

“ถ้าชั้นทำเองได้ พวกนายตกงานกันหมดพิตแน่ หึ”

“คร้าบบบบ สั่งมาเลยคร้าบ นายรู้ตัวไหมว่าไอ้หน้าหงึๆของนายนี่มันน่าหมั่นไส้มาก เป็นแค่กระต่ายแดงแท้ๆ~ ตอนเห็นรูปนายในไอจีของหวังอี้ป๋อ พวกเราก็นึกว่านายเป็นพวกไม่สู้คน อ่อนหวาน น่ารักน่ารังแกซะอีก แต่ตัวจริงนี่...”   ฟาบริซิโอ้ถึงกับส่ายหน้า

“ยังไง? ตัวจริงชั้นมันเป็นยังไง?”

“ก็...ดีแล้วละที่เป็นแบบนี้ ดูเป็นคนในทีมแข่งรถดี แบบนี้สบายใจกว่า”

“งั้นเหรอ”

“แล้วเรื่องจริงหรือเปล่า ที่ว่านายเป็นคนออกแบบแชสซีให้รถฟอร์มูล่าวันของเฟอร์รารี่ด้วย?”   ในวงการมอเตอร์สปอร์ตเองก็แบ่งแยกออกไปเป็นหลายสาย แค่ที่เป็นรถก็มีทั้ง ฟอร์มูล่าวัน อินดี้คาร์ ซุปเปอร์คาร์ นาสคาร์ แรลลี่ จักรยานยนต์ทางเรียบ จักรยานยนต์วิบาก และอีกมากมายหลายร้อยหลายพันรายการ ไม่มีทางเลยที่พวกเขาจะรู้จักกันหมด ส่วนใหญ่ก็จะรู้จักกันแค่พวกนักขับที่เป็นหน้าเป็นตาของทีม แต่กับวิศวกรตัวเล็กๆแบบพวกเขา อยู่คนละวงการก็แทบไม่รู้จักกันแล้ว

“ใช่ รถของปีนี้ชั้นก็เป็นคนออกแบบ คันที่คุณรีไวได้แชมป์สมัยที่7กับ8ชั้นก็เป็นคนออกแบบ คันที่โกคุเดระได้แชมป์สมัยที่ 2,3,4,5ชั้นก็เป็นคนออกแบบ คันที่สเลนได้แชมป์ครั้งแรกชั้นก็เป็นคนออกแบบ ชั้นอยู่กับเฟอร์รารี่ในฐานะหัวหน้าวิศวกรฝ่ายออกแบบรถทั้งหมดไม่ว่าจะรถแข่งหรือซุปเปอร์คาร์ นายมีอะไรสงสัยอีกไหม?”   ร่างโปร่งบางตอบออกไป ป่านนี้แล้วคงไม่ต้องปิดแล้วแหละ รู้กันไปทั้งบางขนาดนี้แล้ว อีกอย่าง ถ้าเฟอร์รารี่ไม่อยากให้ใครรู้ก็ไม่มีทางที่ข่าวจะหลุดออกมาได้ แสดงว่าทางเฟอร์รารี่ตั้งใจจะให้เรื่องของเขาเป็นข่าวอยู่แล้ว

“........”   ฟาบริซิโอ้อ้าปากค้างไปแล้ว

“เฮ้ย!!! งั้นนายก็มือหนึ่งของฟอร์รารี่เลยอ่ะดิ? นี่พวกนั้นกล้าส่งนายมาได้ไง?!!   อีกฝ่ายตะโกนอย่างตกอกตกใจ

“ชั้นขอมาเอง เพราะหวังอี้ป๋อ จบไหม?”

“อ่อ...เข้าใจแล้วครับ....”   เป็นอันจบบทสนทนาไร้สาระได้เสียที ตอนนี้ร่างโปร่งบางย้ายมายืนมองท้องฟ้าอยู่หน้าพิตด้วยสายตากังวล...ทำไมวันนี้มองไม่เห็นดาวเลยล่ะ?...ชักจะอาการไม่ดีแล้วแบบนี้...


ฝน...คงจะไม่ตกลงมาหรอกใช่ไหม?




.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

To be con.


ตอนนี้ดูเหมือนจะสั้นๆ =q= แต่ไม่รู้จะตัดตอนยังไง TvT พายุไปเข้าตอนหน้าตอนเดียวไปเลยแล้วกันถถถ มาดูแทรคเปียกกันบ้างเนอะ >////< จริงๆตอนนี้ค่อนข้างเขียนยาก กว่าจะเขียนจบได้ก็เขียนๆลบๆอยู่นาน555 ข้อแรกคือมันเป็นเรื่องในสนามแข่งซึ่งทุกๆสนามมันก็จะมีไทม์ไลน์เหมือนๆกันแหละ ซ้อม ควอลิฟาย แข่ง ถ้าจะให้เขียนแบบบรรยายเหมือนเดิมมันก็จะไปซ้ำกับช่วงต้นๆเรื่องก็กลัวจะเบื่อ ก็เลยลองมาเล่าเรื่องในมุมของสื่อหรือนักข่าวที่ทำข่าวอยู่ในสนามแข่งดู แต่เขียนเองก็งงไทม์ไลน์เองถถถ ข้อสอง คุณกวางไม่ถนัดการแข่ง Moto GP มันก็เลยจะไม่ค่อยลื่นไหล อย่างเอฟวันจะค่อนข้างคุ้นเคยกว่าก็จะรู้ว่ามีประเด็นอะไรเอามาเขียนได้บ้าง แต่พอมาเป็นฝั่งมอเตอร์ไซค์นี่นั่งเหม่อเรยค่ะ 5555+ // ก้มลงกราบขอคะมา

ส่วนในตารางเวลา 1’57.550 ก็คือ 1 นาที 57.550 วินาทีนะคะ เป็นความเร็วที่รถวิ่ง 1 รอบสนามอ่ะนะ ประมาณๆ แต่ในวันแข่งจริงแต่ละรอบอาจจะช้ากว่านี้ เพราะรถจะหนักขึ้น(จากน้ำมันที่ต้องเติมไว้ให้วิ่งครบ22รอบ) และจะมีการจราจรจากรถคู่แข่งที่วิ่งอยู่ใกล้ๆ ทำให้ใช้ความเร็วได้ไม่เต็มที่อ่ะนะ

มีคลิปของสนามกาตาร์มาให้ดูล่วยค่ะ ไปดูความทะเลทรายล้อมรอบกันนะคะ =v=b




ส่วนอันนี้ดอกกระบองเพชร รีบูเทีย คานิวาลค่ะ โอย มันน่ารักกกก >/////<




แล้วก็ ขอบคุณทุกๆการติดตามและทุกๆคอมเมนต์มากๆๆนะคะ เป็นเขิลมากเวลาอ่าน >////< มีคนแปะรูปอี้ป๋ออุ้มอาม่ามาให้ด้วย5555+ ใช่ค่ะ อิมเมจอาม่าคือมาจากหมีแพนด้ายักษ์ของน้องป๋อนี่แหละค่ะ 55555+ พ่อแบกตุ๊กตาหมีได้น่าเอ็นดูมาก เห็นละอดไม่ได้ กร๊ากกก






แล้วเจอกันตอนหน้าค่า



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น