Tsurune. One-Shot.Fic [Shuu x Minato] หรือรักเรียกหา : 03 : END


Tsurune. One-Shot.Fic [Shuu x Minato]   หรือรักเรียกหา : 03 : END

: Tsurune ; kazemai koukou kyudou-bu Short Fanfiction 
: Fujiwara Shuu x Narumiya Minato
: Warmhearted
: PG


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ    
         




[นายกลับไปรอที่บ้านก่อนเลยก็ได้ วันนี้ฉันต้องไปซื้อของทำงานกลุ่มกับเพื่อน เลยออกจากโรงเรียนมาแล้ว]

นารุมิยะ มินาโตะกดส่งข้อความจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือถึงคนที่มักจะมาดักรอเขาอยู่ที่หน้าโรงเรียนแทบทุกเย็น ถึงชมรมยิงธนูของคิริซากิจะซ้อมหนักทำให้เลิกเย็นแต่ชมรมยิงธนูของคาเซไมเองก็ไม่ได้ต่างกัน เพราะงั้น ฟูจิวาระ ชู จึงมักจะมาทันก่อนที่เขาจะกลับบ้านเสมอ

แต่เพราะวันนี้มีรายงานกลุ่มที่ต้องใช้กระดาษสีและอุปกรณ์อีกหลายอย่างซึ่งเขาได้รับหน้าที่จากเพื่อนๆให้ไปซื้อ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องออกจากชมรมไวกว่าคนอื่น...และชูเองก็คงมาไม่ทัน



ครืด....ครืด.....



โทรศัพท์สั่นแทบจะทันทีหลังจากที่เขาส่งข้อความไป ที่หน้าจอของเขาบ่งบอกว่ามันไม่ใช่แค่ข้อความเข้าแต่เป็นสายเรียกเข้าเลยต่างหาก...ชูโทรมา...

“มินาโตะอยู่ที่ไหน?”   ชูยิงคำถามมาทันทีโดยไม่มีคำทักทาย มีเสียงดังจากข้างหลังทำให้เขารู้ว่าชูน่าจะยังอยู่ที่โรงเรียน

“กำลังจะไปร้านขายเครื่องเขียนที่หน้าสถานี ถ้ายังไงนาย”

“เซยะอยู่ด้วยหรือเปล่า?”   เขาพูดยังไม่ทันจบชูก็ถามแทรกกลับมา

“เซยะ? ไม่ได้มาหรอก ฉันมากับเพื่อนอีกคน?”  ถึงจะไม่รู้ว่าชูถามถึงเซยะทำไมแต่เขาก็ตอบไปตามความจริง

“ตอนแรกก็จะมาด้วยอยู่หรอก แต่พอดีวันนี้มาสะซังเองก็ติดธุระเลยไม่ได้มาชมรม เซยะเลยต้องคอยดูเรื่องกุญแจห้องชมรมน่ะ”   นึกถึงใบหน้าทะมึนตอนที่เซยะรู้ว่าจะมากับเขาไม่ได้แล้วก็แอบน่ากลัวเหมือนกันแหะ ก็แค่มาซื้อของ ไม่รู้จะห่วงอะไรนักหนา?

“งั้นเหรอ...ไปกับคนอื่นแค่สองคนโดยไม่มีเซยะงั้นเหรอ...เข้าใจแล้ว...แค่นี้ก่อนนะมินาโตะ......ไปหน้าสถานี”  แล้วโทรศัพท์ก็ตัดไป ถ้าเขาฟังไม่ผิด เหมือนชูจะสั่งคนขับรถให้พามาหน้าสถานี? ไม่ได้ไปที่บ้านเขา?


นัยน์ตาสีมรกตจ้องหน้าจอโทรศัพท์มือถืออยู่พักใหญ่ บางครั้งชูก็ทำตัวแปลกๆ?

“นารุมิยะคุง? ถึงร้านแล้วนะ เข้าไปกันเลยไหม?”  เสียงเรียกของเด็กสาวที่เดินอยู่ข้างๆทำให้เขาหลุดออกมาจากภวังค์  ช่างชูเถอะ ยังไงเดี๋ยวก็เจอกันที่บ้าน ไว้ค่อยถามแล้วกัน

“อื้อ”  ใบหน้ามนตอบรับเบาๆพร้อมหยิบกระดาษจดรายการของออกมาจากกระเป๋า

“มาซื้อของด้วยกันสองคนแบบนี้ เหมือนมาเดทเลยเนอะ” 

“ห๊ะ?”  ตะกร้าในมือแทบจะร่วงลงพื้นเมื่อจู่ๆเด็กสาวที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นก็พูดออกมาแบบนั้น เขาผงะไปน้อยๆเมื่อหันไปมองหน้าเด็กสาวที่กำลังหัวเราะกับคำพูดล้อเล่นของตัวเอง

“ซื้ออะไรก่อนดี? กระดาษสีไหม?”  เขาพยักหน้ารับก่อนจะปล่อยเด็กสาวเดินนำไปก่อน

เดทงั้นเหรอ...

เขารู้จักคำๆนี้แต่ไม่เคยสนใจและไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเองด้วย ไม่เคยคิดว่ามันสำคัญหรือพิเศษอะไร เอาจริงๆคือเขาไม่เคยสนใจเรื่องรักๆใคร่ๆแบบชาวบ้านชาวเมืองทั่วไป เขาบอกไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผู้หญิงคนไหนน่ารักกว่าคนไหน ไม่เข้าใจว่าพวกที่เรียกว่าป๊อปปูล่านี่แตกต่างจากคนทั่วไปยังไง เพราะคนที่เขาแยกออกว่าต่างจากคนอื่นก็มีแค่ชูเท่านั้น แล้วรู้ตัวอีกทีเขาก็มีความสัมพันธ์กับชูคนนั้นไปแล้ว เข้าใจว่ารักก็เมื่อรักไปแล้ว

จะว่าไปชูเองก็ไม่เคยจีบเขาด้วยซ้ำ?

ทุกอย่างเหมือนจะข้ามขั้นตอนไปหมด?

และทั้งเขาทั้งชูก็พอกันทั้งคู่ นอกจากธนูแล้วก็ไม่ได้สนใจอย่างอื่น เรื่องเดทอะไรนี่เลยไม่เคยมีอยู่ในหัวสักนิด...

“เอาสีนี้ดีไหมนารุมิยะคุง?”   เขาหันไปตามเสียงเรียกก่อนจะพยักหน้าเมื่อเห็นกระดาษสีในมือของเพื่อนอย่างไม่ได้คิดอะไร ใบหน้ามนหันกลับมามองกระดาษโน้ตก่อนจะหยิบกาวน้ำตามที่จดมา

“นารุมิยะคุงนี่...ชอบธนูมากเลยสินะ”  เด็กสาวคงพยายามชวนเขาคุย ถึงจะรู้สึกว่าเสียงมันอยู่ใกล้มากแต่เขาก็ไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นไปสนใจ สายตายังคงไล่มองสิ่งที่จดไว้ในบรรทัดต่อไป แต่ยังไงเขาก็ไม่ใช่คนไร้มารยาท เขาจึงส่งเสียงตอบในลำคอ

“อื้ม” 

“แล้ว...จะว่าอะไรไหม ถ้าฉันจะขอไปดูนารุมิยะคุงบ้าง ตอนซ้อมที่ชมรม...”

“ไม่ได้ ธนูก็คืออาวุธชนิดหนึ่ง ถ้าพลั้งมือ...มันอาจจะฆ่าเธอก็ได้   เดี๋ยวนะ นั่นไม่ใช่คำตอบของเขา!

“เอ๊ะ? เอ่อ...”   เด็กสาวหน้าเหวอไปเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้ามองหาเจ้าของเสียงเย็นๆนั่นพร้อมๆกับเขา

“ชู?”  เขาครางชื่อเจ้าคนที่จู่ๆก็โผล่มาจากไหนไม่รู้แถมยังไปขู่เพื่อนของเขาอีก เด็กสาวถึงกับทำหน้าหวาดๆแต่เมื่อได้มองหน้าชูดีๆก็ถึงกับตาค้างไปเลย

“เอ่อ....”  

“ฟูจิวาระ ชู จากโรงเรียนคิริซากิ ถ้าไม่มีอะไรแล้วเธอกลับไปก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวผมช่วยมินาโตะเอง”  เดี๋ยว! ไหงพูดเองเออเองแบบนั้น??! ชูแนะนำตัวเองก่อนจะไล่เด็กสาวกลับบ้านเสร็จสรรพ

“เอ๊ะ? อ่า?”   เด็กสาวหันไปหันมาอย่ามึนงงและตามชูไม่ทัน และชูก็อาศัยจังหวะนั้นหยิบกระเป๋านักเรียนยัดใส่มือเพื่อนร่วมชั้นของเขาก่อนจะดันไหล่เด็กสาวให้เดินออกไปจากร้านเสียแบบนั้น

“ไปเถอะ ทางนี้ผมจัดการเอง”  ชูยิ้มการค้าให้เด็กสาวก่อนจะโบกมือให้ซึ่งเขาดูยังไงนั่นก็โบกมือไล่ชัดๆ

“อะไรของนายเนี่ยชู?”  เขามองหน้าอีกฝ่ายก่อนจะก้มลงมองกระดาษจดรายการซื้อของที่ยังได้ไม่ถึงครึ่ง

“ต้องซื้ออะไรอีกบ้างล่ะ ไปซื้อสิ”  ชูดึงตะกร้าใส่ของในมือของเขาไป จากนั้นเจ้าชายน้อยของคิริซากิก็มาเดินตามเขาซื้อของต้อยๆ เขาหันไปมองชูอย่างสงสัย แต่เรื่องซักไซ้คงต้องเอาไว้กลับไปที่บ้าน ในเมื่อชูบ่ายเบี่ยงขนาดนี้คงไม่ยอมบอกเขาง่ายๆ

ร่างโปร่งบางเดินแทรกไปตามชั้นวางของและตอนนี้รอบตัวของเขาก็รายล้อมไปด้วยปากกาหลากสีหลากชนิด มือบางหยิบปากกาเมจิกขึ้นมาก่อนจะยืนเลือกระหว่างสีเขียวกับสีม่วง แล้วในขณะที่กำลังจะหันไปขอความเห็นของคนที่มาด้วยกัน เขาก็มองเห็นชูกำลังยืนจ้องอะไรบางอย่างอยู่?

มันเป็นกระดาษที่เอาไว้ลองปากกา เขามองตามสายตาของชูไปและก็เห็นว่ามีคนมาเขียนเครื่องหมายลูกศรมีชื่อคนสองคนอยู่ข้างๆ มันเป็นเครื่องหมายขอพรเรื่องความรัก? อะไรแบบนั้นมั้งนะเขาก็ไม่แน่ใจ แต่เห็นเพื่อนๆในห้องชอบเขียนกัน

“มินาโตะ...อยากให้ฉันทำอะไรแบบนี้บ้างหรือเปล่า?”   ชูหันมาถามเขาตรงๆ ซึ่งเขาก็ขมวดคิ้วหรี่ตามองเหยียดกลับไปตรงๆเหมือนกัน

“มันคืออะไรฉันยังไม่รู้จักเลย? ไม่ต้องไปสนใจหรอกน่า”   เขาส่ายหน้าก่อนจะหยิบปากกาเมจิกสีม่วงใส่ตะกร้าแล้วเดินออกมาจากมุมนั้น

“ตอนม.ต้น เราอยู่ด้วยกันตลอด ฉันมีแค่นาย นายเองก็มีแค่ฉัน เราไม่เคยสนใจ ไม่เคยคบคนอื่น...ฉันเลยไม่เคยรู้...ว่าคนรักทั่วไปเค้าทำอะไรกันบ้าง ถ้ามินาโตะอยากให้ฉันทำอะไร นายต้องบอกฉันนะ”  เสียงชูดังอยู่ข้างหลังและมันก็ทำให้เขาหันหน้ากลับไป

“ทำอย่างกับฉันจะรู้มากกว่านายงั้นแหละ เพราะงั้น ทำอย่างที่เราเป็นอยู่นี่ก็พอ”   สองมือยกขึ้นไปประคองแก้มของชูเบาๆ  จากคนที่ไม่ค่อยพูดอะไร คอยยืนมองเรื่องรอบกายจากที่สูง เดี๋ยวนี้ก็เริ่มจะเหมือนคนธรรมดากับเค้าบ้างแล้วสินะ ชูน่ะ



















ร่างโปร่งบางวางม้วนกระดาษและถุงใส่ของที่หอบหิ้วอยู่ลงบนโต๊ะหน้าโซฟา ในที่สุดก็กลับมาถึงบ้านเสียที

เขาตั้งใจจะขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมาทำอาหารเย็นแต่ก็ไม่ไวเท่าชู มือแข็งแรงจับข้อมือเขาก่อนจะลากขึ้นบันได กว่าทุกอย่างจะหยุดได้เขาก็นอนหงายหลังอยู่บนเตียงของตัวเองไปแล้ว

กระดุมกักกุรันถูกปลดออกก่อนจะตามมาด้วยกระดุมเสื้อเชิ้ต แล้วในขณะที่เขายังมึนงงกับอารมณ์ของชู

โอ๊ย! ริมฝีปากก็ต้องเปล่งเสียงออกมาเพราะจู่ๆก็รู้สึกเจ็บที่สีข้าง และเมื่อเขาค่อยๆหรี่ตาที่ปิดอัตโนมัติขึ้นมาดู...ก็เห็นชูกำลังกัดแถวๆเชิงกรานเหนือขอบกางเกงของเขาอยู่ ตำแหน่งมันใกล้เคียงกับรอยแผลเป็นของเขาเพียงแต่อยู่คนละฝั่ง

เดี๋ยว! ชู! นายจะทำให้ฉันเปลี่ยนชุดพละในห้องไม่ได้เอานะ”  เขาจับหัวสีน้ำตาลที่เสยสายตาขึ้นมามองเขาด้วยใบหน้านิ่งสนิท รอยฟันเรียงสวยอยู่เหนือขอบกางเกงหนึ่งรอย ที่เอวอีกหนึ่งรอย จะบอกว่าได้มาโดยบังเอิญใครเค้าคงเชื่อหรอก

บอกคนอื่นว่าถูก ตัวชู กัดเอาก็ได้”    ‘ตัวชูนี่มันเป็นยังไงฟ๊ะ? เจ้าสัตว์กินเนื้อหน้าตายแบบนั้นมันมีอยู่ในโลกด้วยเหรอ? เขาได้แต่ทำหน้าคาดโทษใส่อีกฝ่ายไป

ชูกอดเอวเขาไว้ก่อนจะซบใบหน้าเอาไว้กับหน้าท้องของเขา ใบหน้าหล่อเหลาที่เหมือนจะเฉยชานั่นแท้จริงแล้วกำลังอารมณ์ไม่ดี เขาดูออก

“ตกลงวันนี้เป็นอะไรของนาย?”   เขายกมือขึ้นมาลูบหัวชูเบาๆ ถึงจะถูกสรรเสริญเยินยอว่าเป็นขุนนางบ้างละ เป็นเจ้าชายน้อยบ้างละ แต่ชูก็มีมุมร้ายๆ มีมุมเอาแต่ใจเหมือนคนทั่วไปนั่นแหละ เพียงแต่เพราะหน้ากากที่สวมอยู่ทำให้คนอื่นดูไม่ออก

“........”   ริมฝีปากของชูยังคงปิดสนิท

“ชู...”   และเมื่อเขาถามย้ำอีกครั้ง อ้อมแขนของชูก็กอดกระชับเอวเขาราวกับกำลังหวงแหน

“ผู้หญิงคนนั้นชอบมินาโตะ ฉันเลยไม่อยากให้เธออยู่ใกล้นาย ในหัวของฉันกำลังคิดแต่เรื่องร้ายๆ ฉันอยากให้เธอหายไปจากข้างกายนายซะ”   แล้วคำตอบของชูก็ทำเอาเขาแทบจะตกเตียงเพราะมันเหนือคาดมาก ผู้หญิงคนนั้นนี่หมายถึงเพื่อนร่วมกลุ่มที่ไปซื้อของกับเขาน่ะนะ?

“ห๋า? ดูยังไงของนาย?”   เขาก้มลงไปมองชู

“ดูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือไง?”   ชูก็เงยมองอยู่ที่หน้าท้องของเขา

“ไม่เห็นจะรู้เลย?”   ใบหน้าได้รูปงดงามของชูนิ่งไปหลายวินาทีก่อนจะถอนหายใจออกมา ร่างสูงยกตัวคร่อมเขาไว้ก่อนจะขยับขึ้นมาหา ให้ใบหน้าและดวงตาของเราอยู่ในระดับเดียวกัน

“เฮ้อ...เอาจริงๆนะมินาโตะ ถ้าเซยะไม่ย้ายตามนายมาด้วยละก็ ต่อให้ต้องบังคับ ฉันก็จะจับนายขังไว้ที่คิริซากิแน่ๆ”

“อยู่ที่นั่นฉันจะได้อยู่ข้างๆนายตลอดเวลา แล้วก็จะไม่มีใครกล้ามายุ่งกับนาย อยู่ที่นั่นนายจะมีแค่ฉันและฉันและฉัน เหมือนอย่างสามปีที่นายเคยอยู่กับฉัน”   นัยน์ตาสีม่วงของชูมีทั้งแววจริงจัง มืดมน และเว้าวอน  เจ้าคนที่ไม่เคยทุกข์ร้อนกับเรื่องอะไรเพราะมีทุกอย่างเหนือกว่าใครๆกลับมีสายตาแบบนี้ให้เขา...

“ฉันตัดสินใจแล้ว พรุ่งนี้นายย้ายกลับไปคิริซากิกับฉันเลยแล้วกัน”   จากฉากซาบซึ้งกลายเป็นอ้าปากค้างทันที

“เดี๋ยวชู...มันไม่ขนาดนั้นหรอกน่า นายคิดมากไปแล้ว อย่างฉันเนี่ยนอกจากนายแล้วจะยังมีใครมาสนใจอีก”  เขาหันหน้าตะแคงข้างหนีสายตาตรงดิ่งราวกับลูกธนูนั่นอย่างหน่ายๆ ชูละก็...ห่วงเกินไปแล้ว

“มินาโตะ...นายควรจะคิดกลับกันนะ...ว่าคนอย่างฉันยังสนใจนาย แล้วคนอื่นจะไม่สนใจได้ไง”  แต่แล้วคำพูดของชูก็ทำให้นัยน์ตาของเขาเบิกกว้างก่อนจะหันกลับมาสบประสานสายตาที่แน่วแน่คู่นั้น...มันก็จริงของชูแหะ...อือ...?

“.......”   เขาจนซึ่งคำพูดไปพักใหญ่ แต่ก็ยังไม่คิดอยู่ดีนั่นแหละว่าจะมีใครมาสนใจคนอย่างเขา ชูอาจจะเป็นเจ้าชายที่ประหลาดสักหน่อยก็ได้?

“ถึงอย่างงั้นก็เถอะ ฉันก็อยากให้นายสบายใจนะชู ว่าฉันไม่รู้เรื่องหรอกว่ามีใครสนใจฉันหรือเปล่า เพราะงั้นฉันไม่มีวันมองใครนอกจากนายแน่”   เขายกสองมือขึ้นตบแปะๆลงไปบนสองแก้มของคนที่มองลงมาจากเบื้องบน นัยน์ตาสีม่วงอ่อนแสงลงก่อนที่ชูจะยิ้มบางๆ

“มินาโตะ...ฉันก็เหมือนกัน ฉันไม่เคยมองใครนอกจากนายเหมือนกัน”  

“ชั้นเชื่อ...นายแยกหน้าคนกับลูกธนูไม่ออกด้วยซ้ำ”  ชูหัวเราะในลำคอไปกับคำพูดของเขา ร่างสูงทิ้งตัวลงมานอนทับเขาไว้ หัวสีน้ำตาลซบอยู่ที่หน้าอกให้เขาลูบเส้นผมหยักศกนั่นเล่น


ถึงความรักของเขากับชูจะแปลกประหลาดไม่เหมือนคู่รักทั่วไปและไม่เป็นไปตามขั้นตอนอะไรเลย แต่อย่างน้อยเราก็ยังมีความรู้สึกพื้นฐานที่เหมือนกับคนอื่นๆอยู่...เราหึง...เราหวงกัน...และเราไม่อยากแบ่งปันอีกฝ่ายกับใครทั้งนั้น...


















ใช่...เขาเองก็ไม่อยากแบ่งมินาโตะกับใครทั้งนั้น...

ใบหน้าหล่อเหลาที่ซบอยู่ที่แผงอกเปลือยเปล่าของมินาโตะลอบยิ้มก่อนจะทอดสายตามองไปยังรอยกัดสองรอยที่ฝากไว้ที่สะโพกของมินาโตะอย่างมีเลศนัย


ฝากให้นายนะ...เซยะ...



















“มินาโตะ ทำไมยังไม่เปลี่ยนชุดอีก?”   เซยะเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าเขายังนั่งนิ่งอยู่กับโต๊ะในชุดกักกุรันเรียบร้อยทั้งๆที่เพื่อนๆกว่าค่อนห้องทยอยเดินออกไปโรงยิมในชุดพละกันหมดแล้ว

“................เปล่า...ไม่มีอะไร....”   ปกติเวลาที่กังวลเขามักจะเผลอจับรอยแผลเป็นที่สีข้างด้านซ้าย แต่คราวนี้เขากลับจับไปที่ด้านขวา...และมันคงไม่สามารถจะรอดสายตาของเซยะไปได้

เซยะตรงดิ่งเข้ามาจับข้อมือเขาไว้ ก่อนจะบังคับจับชายเสื้อเชิ้ตของเขาเลิกขึ้นดู...แน่นอนว่าร่องรอยที่ชูทำไว้ยังชัดเจนเด่นหราอยู่บนเอวของเขา ใบหน้าของเซยะถึงกับกระตุกก่อนจะยิ้มเย็นให้คนที่เห็นถึงกับเสียวสันหลัง

“....สักวันฉันจะฆ่ามัน...ไอ้สัตว์กินเนื้อหน้าตายวายร้ายที่มันกัดนายเนี่ย”

“นายรู้จัก ตัวชู ด้วยเหรอเซยะ?”   คงจะมีแต่เขาที่ถามออกไปอย่างไร้เดียงสา ก็มันไม่น่าเชื่อนี่นาว่าเซยะจะรู้จัก ตัวชู ที่อยู่ในความคิดของเขาด้วย?

“หึ...หึๆๆๆ”   ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นส่งเสียงหัวเราะเย็นยะเยือกจนเขาต้องโบกมือไปมา

“เซยะ?”


“เซยะ~ ???”








.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

Story never End



หมู่นี้คุณกวางมันฟิตอะไรขึ้นมา?? 55555+ ก็เรือมันแรง~~ ไม่ไหวจะเคลียร์มากอ่ะพ่อเจ้าชายนี่ ภาพตัวอย่างตอน 9 ที่ออกมาก็หล่อวัวตายควายหาย หล่อไม่สนพระจันทร์ไม่แคร์ดาวอังคารซะขนาดน้านนนน โอ๊ยยย ชู~~~ >/////<

ส่วนฟิคเรื่องนี้ก็ยังไม่มีเนื้อเรื่องอะไรเหมือนเดิม 5555+ เออ แต่งฟิคชิลๆแบบนี้ก็สบายใจดีนะคะ อย่างพวกเรื่องยาวนี่บางทีก็เครียดเหมือนกันเวลาแต่ง กลัวออกมางงไม่ลงตัว แต่ฟิควันช็อตก็ไม่ใช่ว่าจะอะไรก็ได้นะเว้ยคุณกวาง ควรมีเนื้อเรื่องบ้างงง 5555

ยังไงก็ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์ของสองตอนที่แล้วมากนะคะ >////< พอมีคนบอกว่าชอบ อยากให้เขียนไปเรื่อยๆก็ดีใจมากเลยค่ะ 5555 งื้อออออ >////<  เพราะตอนลงนี่ก็แบบ จะมีคนอ่านไหมว้า ฟิคแม่งไม่มีอะไรเลยแบบนี้ 5555 >/////<

แล้วก็ ยังไม่มีโอกาสได้ดู Banana Fish เลยค่ะ ไว้มีเวลาต้องหามาดูบ้าง พอจะรู้สปอยด์คร่าวๆของเรื่องมาบ้าง แต่ถึงจะยังไม่ได้ดูอนิเมะแต่ก็ติดเพลงปิด เพลง Prayer X มากๆๆๆๆเลยค่ะ โคตรเพราะ แล้วความหมายนี่แบบ โอ๊ยยยยยย โอ๊ยยยย มากๆๆๆ >/////<

เพลงนี้อ่ะค่ะ...




เวอร์ชั่นที่มีคนมาแปลไทยไว้ให้มันโดนลบไปแล้วอ่ะ เลยมีแต่ออริจินัล ^ ^ จริงๆก็ฟังเพลงนี้ตอนแต่งฟิค Tsurune ตั้งแต่ตอนมาสะซังมินาโตะแระ ชูมินาโตะก็ยังฟังอยู่ เป็นเพลงที่ดีงาม~~

ขอบคุณทุกๆการติดตามมากๆนะคะ แต่งคู่มาสะซังมินาโตะค้างไว้เรื่องนึง แต่เรือชูมินาโตะนี่แรงจริงอะไรจริง กัปตันร้ายกาจขนาดนี้มี๊ทนไม่ไหวใจสั่นเลยแอบแซงคิวก่อนซะงั้นค่ะ 5555+  ส่วนเซยะมินาโตะนี่ก็หาพล็อตดีๆให้อยู่ค่ะ ถ้ามีโอกาสคงได้เจอกัล~




3 ความคิดเห็น:

  1. ชอบๆ เอาอีกกก
    ชูคนนิ่งกับมินาโตะแบ๊วๆ

    ตอบลบ
  2. มาทวงนิยาย kougino psychopass เรื่อง LSD กันหน้านี้เลย
    อย่าลืมนะคะ anime มา season หน้า
    มาต่อให้จบโด้ยยยย อยากอ่านนน

    ตอบลบ
  3. ขำความตัวชูจัง555555

    ตอบลบ