Tsurune. One-Shot.Fic [Shuu x Minato] หรือรักเรียกหา : 02 : END


Tsurune. One-Shot.Fic [Shuu x Minato]   หรือรักเรียกหา : 02 : END

: Tsurune ; kazemai koukou kyudou-bu Short Fanfiction 
: Fujiwara Shuu x Narumiya Minato
: Warmhearted
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ    
         



“สมเป็นเจ้าชายน้อยของคิริซากิ ยิ่งยิงก็ยิ่งเข้ากลางเป้ามากขึ้นเรื่อยๆเลยแหะ”



เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นรอบๆสนามแข่งยิงธนูเมื่อทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังเป้าของเด็กหนุ่มผู้ได้รับฉายา เจ้าชายน้อยแห่งคิริซากิ...ฟูจิวาระ ชู

แล้วก็เป็นดังคำกล่าวเหล่านั้น ลูกธนูที่ปักเพิ่มเข้าไปใหม่ขยับเข้าใกล้ศูนย์กลางของเป้ามากขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ เหมือนยิ่งยิงก็ยิ่งแม่นยำราวกับเป้าอยู่ใกล้แค่คืบ

แต่ใครเลยจะรู้ว่าสาเหตุแห่งความแม่นยำนั้นมันจะมาจาก...เด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่งซึ่งนั่งดูอยู่ข้างสนาม




นัยน์ตาสีม่วงเย็นยะเยือกของฟูจิวาระ ชู เหลือบมองคนสามคนที่นั่งอยู่ข้างสนาม ความจริงแล้วการสนใจอย่างอื่นนอกจากวิถีแห่งธนูในขณะที่กำลังแข่งขันนั้นเป็นเรื่องต้องห้าม แต่สำหรับเขาแล้วมันอาจจะให้ผลตรงกันข้ามก็ได้ ในเมื่อตอนนี้หน้าของเจ้าคนที่บังอาจกอดคอมินาโตะกำลังลอยมาแปะอยู่กลางเป้าของเขายังไงล่ะ


ปึก!!


เสียงปรบมือดังขึ้นจากรอบๆสนามเมื่อเขายิงเข้ากลางเป้าเป๊ะ เขายังคงชักสีหน้านิ่งเฉยในขณะที่เหลือบไปมองยังที่ที่สามคนนั้นนั่งอยู่ นารุมิยะ มินาโตะกับทาเคฮายะ เซยะ คืออดีตเพื่อนร่วมทีมยิงธนูของเขาตอนสมัยม.ต้นก่อนที่สองคนจะย้ายโรงเรียนไป ส่วนอีกคนหนึ่งเขาไม่รู้จักและก็เพราะไม่รู้จักนี่แหละถึงได้ทำให้เขารู้สึกขุ่นมัวที่หมอนั่นดูจะสนิทสนมกับมินาโตะมากจนเกินไป  เขาไม่พอใจ เพราะมินาโตะคือของของเขา



ปึก!!



เสียงปรบมือดังขึ้นอีกระรอกเมื่อธนูดอกถัดมาก็เข้ากลางเป้าเช่นกัน...ทุกคนคงจะไม่รู้...ว่าฟูจิวาระ ชู ยิ่งหึงก็จะยิ่งน่ากลัว เพราะเขากำลังจินตนาการว่ากำลังยิงหัวคนที่มายุ่งกับมินาโตะของเขาอยู่ ไม่ใช่ยิงเป้า!

เอามือออกไปจากไหล่ของมินาโตะได้แล้วเจ้าเสาไฟฟ้า!









ร่างสูงลดคันธนูลงก่อนจะเดินออกจากสนามแข่งด้วยท่วงท่าสง่างาม เขาผ่านรอบแรกไปได้สบายๆ และเมื่อนัยน์ตาสีม่วงเหลือบไปเห็นว่ามินาโตะเองก็กำลังลุกออกจากที่นั่งข้างสนามเช่นกัน...

“ผมขอไปห้องน้ำหน่อยนะครับรุ่นพี่”   เขาเอ่ยบอกรุ่นพี่ชื่ออะไรสักอย่างที่ยืนอยู่ตรงนั้นก่อนจะเดินจากมาโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร ตอนนี้ดวงตาของเขากำลังจับจ้องอยู่ที่ร่างโปร่งบางซึ่งเดินอยู่นอกอาคารอย่างไม่ให้คลาดสายตาก่อนจะเดินตามไป

อาจจะเป็นโชคดีที่ไม่มีใครอยากมาเข้าห้องน้ำในเวลานี้เหมือนพวกเขา เพราะงั้นเขาจึงมีเวลาเหลือเฟือที่จะยืนมอง นารุมิยะ มินาโตะ ที่กำลังก้มลงไปล้างหน้าอย่างไม่รู้ตัวว่าเขายืนอยู่ข้างหลัง นัยน์ตาสีม่วงทอดมองตั้งแต่เส้นผมสีดำสั้นที่นุ่มราวกับขนสัตว์ เขายังจำสัมผัสเวลาลูบหัวของมินาโตะได้ มันทำให้เขารู้สึกดีและผ่อนคลายจริงๆ นัยน์ตาสีม่วงไล่มองลงไปยังต้นคอด้านหลัง ซึ่งมันชวนให้อยากจะฝังร่องรอยเอาไว้  ไหล่ของมินาโตะก็บางจนไม่น่าเชื่อว่าจะมีแรงง้างคันธนูได้สวยงามขนาดนั้น เอวเล็กๆนั่นก็เต็มอ้อมแขนของเขาพอดี แล้วตอนนี้สายตาของเขาก็กำลังหยุดอยู่ที่บั้นท้ายที่อยู่ในกางเกงฮากามะ


กึ้ดๆๆ


เสียงหมุนก๊อกน้ำดังขึ้นและชั่วพริบตาที่มินาโตะเงยหน้าขึ้นมา สองขาของเขาก็ก้าวไปประกบร่างโปร่งบางนั่นทันที ข้อมือของคนที่ยังมึนงงถูกดึงเข้าไปในห้องน้ำห้องหนึ่ง


แกร่ก...


ก่อนที่เสียงล็อคประตูจะดังปิดท้าย ตัดขาดพวกเขาออกจากโลกภายนอก...

“ชู?”  มินาโตะเงยมองเขาด้วยสีหน้าแปลกใจ หยดน้ำที่เกาะพราวทั่วใบหน้ามนทำให้เขาหรี่ตามอง...มันทำให้นึกถึงเหงื่อเวลาที่......มือข้างที่ไม่ได้จับไหล่มินาโตะจึงยกขึ้นมาลูบหยดน้ำพวกนั้นออกไป ลูบไล้แก้มใสด้วยความนุ่มนวลก่อนที่มันจะไปหยุดอยู่ที่ต้นคอของมินาโตะ เขาบีบมันเบาๆแล้วดึงร่างโปร่งบางเข้ามาหา

“ขอเติมพลังหน่อย”  มืออีกข้างที่เคยจับอยู่ที่ไหล่ขยับไปกอดกระชับเอวบาง เขาโน้มใบหน้าลงไปกดจมูกเอาไว้ที่หลังใบหูของมินาโตะก่อนจะกดไล่ไล้ระเรื่อยลงมาตามซอกคอ มินาโตะที่ถูกเขาล็อคตัวเอาไว้ทำได้แค่ยืนนิ่งเกยคางไว้กับไหล่เขา มินาโตะคุ้นเคยกับท่าทีแบบนี้ของเขาดี เพราะตอนที่อยู่ด้วยกันสมัยม.ต้น หากเขากำลังอารมณ์ไม่ดีหรือมีเรื่องไม่สบายใจ เขาก็มักจะกอดมินาโตะเอาไว้แบบนี้เสมอ

ตอนที่รู้ว่าจะไม่มีมินาโตะในโรงเรียนม.ปลายของเขาอีกต่อไป...เขาแทบจะหายใจไม่ออก...

เขาไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้...เขาโกรธมินาโตะที่ทิ้งเขาไปโดยไม่บอกอะไรเขาสักคำ...เหมือนกับตอนนั้นที่มินาโตะเลิกมาที่โรงฝึก...กว่าเขาจะรู้ว่ามินาโตะเกิดอุบัติเหตุ เขาก็กลายเป็นคนที่หัวใจด้านชายิ่งกว่าเดิมไปแล้ว...เขาคิดว่ามินาโตะทิ้งเขาไป แต่มันไม่ใช่...เพราะงั้นเมื่อเขากลับมาเจอมินาโตะอีกครั้งตอนม.ต้น เขาจึงไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่าอีก มินาโตะคือโลกทั้งใบของเขา ต่อให้ใครจะสรรเสริญเยินยอเขายังไง คนที่อยู่ในสายตาของเขา คนที่เขาต้องการก็มีแค่มินาโตะ...จนกระทั่งมินาโตะทิ้งเขาไปอีกครั้ง เขารู้ดีว่ามันเป็นเพราะอาการตื่นเป้าของมินาโตะ เขารู้ว่ามินาโตะเจ็บปวด แต่ยิ่งเขาเร่งเร้ายิ่งเขากดดันมากเท่าไหร่ มินาโตะก็ยิ่งแย่...เขาทำอะไรไม่ได้เลย...เขาทำได้แค่รอ...รอจนกว่ามินาโตะจะกลับมาเอง...

แล้ววันนี้มินาโตะก็กลับมา...

คงไม่มีใครรู้หรอกว่าเขาดีใจแค่ไหน...

“มินาโตะ...ยังใช้สบู่กลิ่นเดิมอยู่สินะ”  เขาสูดกลิ่นที่ลอยออกมาจากซอกคอของมินาโตะเบาๆ กลิ่นของมินาโตะทำให้เขาผ่อนคลายถึงแม้มันจะไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมราคาแพงแต่เป็นแค่กลิ่นแป้งกลิ่นสบู่ธรรมดาๆเท่านั้นเอง

“อื้ม...”  ฝ่ามือของมินาโตะดึงรั้งอยู่บนแผ่นหลังของเขา มินาโตะเองก็กำลังกอดเขาอยู่เช่นกัน

“ชู...แล้วนี่จะแข่งรอบต่อไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”  เสียงนุ่มดังอยู่ที่หัวไหล่ มินาโตะทำให้เขาเสพติดจนไม่อยากจะไปไหนเลย จะมีใครรู้บ้างไหมว่าขุนนางผู้เย็นชาก็มีมุมแบบนี้กับเขาเหมือนกัน เขาซุกใบหน้าเข้าคลอเคลียซอกคอของมินาโตะต่อไป ใบหูที่เห็นอยู่ใกล้ๆกำลังแดงระเรื่อ

“ยังมีเวลา”   เขาว่าเขากำลังจะทนไม่ไหว...ห้าหกเดือนที่ไม่ได้เจอกันนี้มันนานเกินไป

“ชู?!”   มินาโตะร้องเรียกเขาอย่างตกใจเมื่อเขาสอดมือเข้าไปตรงรอยแหวกของฮากามะแล้วบีบบั้นท้ายของมินาโตะเบาๆ  เขายังจำได้ว่าเขาตามมินาโตะมาทำไม เสียงทุ้มเย็นเยือกจึงกระซิบกับใบหูสีแดง

“จะไม่ให้อภัยแล้วนะมินาโตะ...ถ้านายหนีฉันไปอีกเป็นครั้งที่สอง...ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม ฉันไม่ยกโทษให้แน่”  เขาไม่ได้ทำแค่ขู่แต่เขาตั้งใจเอาไว้แบบนั้นจริงๆ เขาจะจัดการทุกคนที่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับมินาโตะ เขาจะไม่เมินเฉยหรือปล่อยๆไปอีกแล้ว เพราะยิ่งโต มินาโตะก็ยิ่งดึงดูดผู้คนจนเขากลัว...กลัวว่าจะถูกใครแย่งไป

“ชู...”   แต่แล้วฝ่ามือที่ลูบลงมาบนหัวเขาก็ทำให้นัยน์ตาที่มืดมัวเบิกขึ้นเล็กน้อย หัวใจที่กำลังดิ่งลงไปในความมืดค่อยๆสงบลงอีกครั้ง เขาอมยิ้มอยู่กับลาดไหล่บางๆที่คอยปลอบประโลมและคอยแบกรับทุกๆอย่างของเขาอยู่เสมอ 

“โกรธอะไรเนี่ย?”  เมื่อเห็นเขาเริ่มสงบลง มินาโตะจึงเริ่มพูดคุยกับเขา

“เดี๋ยว! จะทำอะไรชู?”  แต่แล้วจู่ๆเขาก็เริ่มลงมือปลดกางเกงฮากามะของมินาโตะออกโดยไม่บอกกล่าว แน่นอนว่าคนที่ใส่ฮากามะมาทั้งชีวิตแบบเขาย่อมรู้วิธีปลดมันออกอย่างรวดเร็วจนมันลงไปกองอยู่ที่พื้นภายในไม่กี่วินาที ทั้งของเขาและของมินาโตะ...เขาว่าเขาทนไม่ไหวจริงๆนั่นแหละ

“ชู! จะทำอะไร?!   มินาโตะกระซิบถามอย่างตื่นตระหนก

“ไม่บอก”  

“ไม่บอกก็รู้เฟ้ย ที่นี่ไม่ได้นะชู”  มินาโตะพยายามห้ามเขาด้วยการใช้สองมือดันเขาออก แต่ยิ่งขัดขืนมันก็ยิ่งเพิ่มช่องว่างให้เขาแทรกเข้าไปมากยิ่งขึ้น เขาพลิกกายก่อนจะนั่งลงไปบนชักโครกที่ปิดสนิทแล้วดึงกึ่งบังคับให้ร่างโปร่งบางนั่งคร่อมลงมาบนหน้าตัก

“ได้สิ ถ้ามินาโตะกลั้นเสียงเอาไว้”

“ไม่ไหวหรอก- อื้อ~”  เขาประกบปิดริมฝีปากที่กำลังจะเถียงเขาไปซะ และมันคงไม่ดีแน่ถ้าเสื้อของพวกเขาจะเลอะไปด้วย โอบิสีม่วงจึงถูกดึงออกไปก่อนที่มันจะร่วงไปกองอยู่กับฮากามะ

มือที่จับลำคอของมินาโตะอยู่ต้องออกแรงกดเล็กน้อยเมื่อใบหน้ามนพยายามจะถอยหนี เรียวลิ้นแลบเลียริมฝีปากที่ถูกบดเบียดจนแดงระเรื่อเพื่อให้มันเผยอออกพอที่เขาจะสอดลิ้นเข้าไป เขาค่อยๆทักทายมินาโตะด้วยสัมผัสที่ละมุนละไม ค่อยๆเกี่ยวพันเรียวลิ้นนั้นอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน...ถอนลิ้นออกไปเมื่อรู้สึกว่ามินาโตะกำลังจะขาดอากาศหายใจ ก่อนจะประกบลงมาใหม่ด้วยสัมผัสที่เต็มไปด้วยรัก ความชื้นแฉะที่ผสมผสานกันจนแยกไม่ออกนั้นลื่นไหลราวกับสายน้ำ เรียวลิ้นที่พัวพันกันจนแยกไม่ออกทำให้ฝ่ามือที่ต่อต้านค่อยๆผ่อนแรงลง ความรู้สึกดีทำให้ทั้งร่างกายร้อนไปหมด เขาละออกไปเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ และหลังจากที่เว้นจังหวะหายใจ เขาก็ขยับริมฝีปากเข้าหากลีบปากฉ่ำเยิ้มที่ดึงดูดเขาราวกับเป้ากับลูกธนูนั่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาชอบ...ที่จะจูบมินาโตะอยู่แบบนี้ ชอบ...ที่จะจมดิ่งไปด้วยกัน มันมีทั้งจังหวะที่อ้อยอิ่งอ่อนโยน มีทั้งจังหวะที่เรียกร้องรุนแรง...มันเหมือน...กับการยิงธนู...แล้วเขาก็ชอบ...ที่จะได้มองแพขนตาดำขลับของมินาโตะในระยะที่ใกล้จนใครก็ไม่สามารถจะมองได้แบบเขาด้วย

“แฮ่ก...แฮ่ก...ชู...ถ้าจะทำ...ก็รีบทำ...นายต้องไปแข่งต่อนะ...”   คราวนี้เป็นมินาโตะที่พยายามดันตัวให้พ้นออกไปจากจูบของเขา นัยน์ตาของเขาเฝ้ามองใบหน้าแดงซ่านที่หอบจนตัวโยนนั่นอย่างหลงใหล มินาโตะ...สมกับที่เป็นหัวใจของเขาจริงๆ

ถ้ามีเวลามากกว่านี้...บางครั้ง...การมีอะไรกันแต่ละทีระหว่างเราสองคนก็กินเวลาหลายต่อหลายชั่วโมง...เพราะเขาชอบ...ที่จะดื่มด่ำไปกับมันมากกว่าจะแค่ทำๆให้จบๆไป มินาโตะก็รู้เรื่องนั้นดีถึงได้ไม่ยอมให้เขาทำในที่แบบนี้ตั้งแต่แรก

“ยกตัวขึ้นหน่อยสิมินาโตะ”  เขากระซิบบอกคนที่นั่งอยู่บนหน้าตัก ไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้กันมาหลายเดือน ถ้าเขาไม่เตรียมพร้อม มินาโตะอาจจะเดินกลับบ้านเองไม่ได้เย็นนี้ ใบหน้ามนค้อนให้เขาทีนึงถึงจะยอมทำตามก็เถอะ ก็จะให้หยุดตอนนี้ก็คงไม่ไหวในเมื่อทั้งเขาทั้งมินาโตะต่างก็ตื่นตัวขึ้นมาแล้วทั้งคู่

“ฮึ...”  เขาหัวเราะในลำคอเมื่อเงยหน้ามองมินาโตะที่กำลังขมวดคิ้วนิ่วหน้า เวลามินาโตะชักสีหน้าไม่สบอารมณ์แบบนี้ทีไร มันดันออกมาน่ารักทุกที

“อารมณ์ดีจริงนะ”  มินาโตะบ่นก่อนจะหรี่ตามองเขา

“ก็ต้องอารมณ์ดีสิ”  สองนิ้วของเขาจรดลงไปที่ริมฝีปากแดงช้ำก่อนที่มินาโตะจะเลียมันจนชุ่มโชก สองแขนผอมบางขยับมาโอบรอบลำคอของเขาเมื่อเขาย้ายปลายนิ้วไปจ่อไว้ที่ช่องทางเบื้องล่าง และเพราะอยู่ในท่านั่ง ปากทางจึงเปิดรับเขาเข้าไปไม่ยาก

“อึ่ก...”   สองแขนของมินาโตะกอดคอเขาแน่นใบหน้ามนก็ซบลงมาที่ไหล่เมื่อเขาสอดปลายนิ้วเข้าไป มันฝืดและคับแน่นอย่างที่คิด น้ำลายอย่างเดียวคงจะไม่ไหว เขาจึงย้ายมืออีกข้างไปที่แกนกลางลำตัวของมินาโตะ

“อ๊ะ~ ชู~”  แค่สัมผัสมินาโตะก็ร้องออกมาไม่เป็นภาษา

“ชู่ว~”  ใบหน้ามนส่ายไปมาว่าห้ามเสียงครางไม่ไหวแน่นอน เขากัดฟันก่อนจะกระซิบไปที่ใบหูแดง

“มินาโตะ...กัดไหล่ฉันไว้”  ถึงเขาจะชอบฟังเสียงครางของมินาโตะ แต่เขาก็ไม่อยากจะให้ใครมาได้ยินด้วยหรอก ใบหน้าแดงซ่านนั่นมีท่าทีลังเลแต่เขาก็ไม่ได้มีเวลาให้มินาโตะเลือกมากนัก ทันทีที่เขาสัมผัสแกนกายของมินาโตะ ริมฝีปากแดงช้ำจึงทำได้แค่งับไหล่ของเขาเอาไว้

“อื้อ~~”  เสียงอู้อี้ดังอยู่ที่ไหล่เมื่อเขาขยับฝ่ามือขึ้นลง มินาโตะหอบหายใจหนักหน่วงในขณะที่พยายามประคองสติแล้วกอดเขาเอาไว้ ถึงคนที่สุขสมจะเป็นมินาโตะคนเดียวแต่น่าแปลกที่ทั้งเสียงอันทรมาน ทั้งกลิ่นเหงื่อ ทั้งอ้อมแขน ทั้งร่างกายที่บิดเร่าของมินาโตะกลับกระตุ้นเร้าเขาจนขยายตัวถึงขีดสุด

“อึ่ก อื้อ~”  มินาโตะกระตุกวาบเมื่อไปจนถึงฝั่ง หยดน้ำสีขาวขุ่นพุ่งกระจายเต็มฝ่ามือและมันก็น่าจะมากพอที่จะช่วยให้มินาโตะไม่เจ็บ

“ชู...”   เขาปล่อยร่างที่โงนเงนให้เอนซบอยู่ที่หัวไหล่ ส่วนปลายนิ้วของเขากำลังรวบรวมของของมินาโตะก่อนจะใช้มันแทนสารหล่อลื่นส่งกลับคืนไปในร่างกายของมินาโตะเอง

“อึ่ก...”  ช่องทางด้านหลังไวสัมผัสกว่าที่คิด เพราะแค่เขาส่งสองนิ้วเข้าไปควานขยายให้มันอ่อนนุ่มขึ้น มินาโตะก็เหมือนจะตื่นตัวขึ้นมาอีกรอบ คงจะเป็นเพราะไม่ได้ทำมานาน

“มินาโตะ...”  เขากระซิบเรียกเบาๆก่อนจะกดจมูกคลอเคลียขมับ ใบหู ซอกคอของคนที่ซบอยู่ที่ไหล่ เสี้ยวใบหน้าของมินาโตะที่เขาเห็นบ่งบอกว่ามินาโตะกำลังทรมานไปกับความหอมหวานที่เขามอบให้ที่เบื้องล่าง แกนกายของมินาโตะขยายใหญ่อีกครั้งจนมันดันติดหน้าท้องของเขา เขาจูบขมับมินาโตะเบาๆก่อนจะเอ่ยออกไป

“จะเข้าไปแล้วนะ มินาโตะ”  เขาถอนนิ้วออกจนหมดทำให้ช่องทางที่เคยคับแน่นนั้นวูบโหวง ใบหน้าที่เคยซบอยู่ที่หัวไหล่ขยับออกมามองเขาด้วยดวงตาเชื่อมปรอย สองมือของเขาจับยึดบั้นท้ายของมินาโตะแน่น...ยกมันขึ้นช้าๆ...ก่อนจะกดมันลงมารับความเป็นชายของเขา

“อื้อ~~!!!”  มินาโตะพุ่งพรวดเข้ามากัดไหล่เขาจนต้องนิ่วหน้า แต่ว่ามันไม่เจ็บเลยถ้าเทียบกับความรู้สึกดีที่เกิดขึ้นเบื้องล่าง ข้างในตัวมินาโตะสุดยอดสำหรับเขาเสมอ มันทั้งร้อนทั้งอ่อนนุ่ม เขาหอบหายใจก่อนจะปิดตาแล้วดื่มด่ำไปกับเส้นทางที่ค่อยๆขยับเข้าไป...รู้สึกดีจนแทบจะทนไม่ไหว...

“อื้อ~”  นอกจากแรงกัดที่ไหล่ สองมือของมินาโตะยังข่วนหลังเขาจนรู้สึกแสบ แต่เขาก็ยังไม่หยุดกดบั้นท้ายกลมกลึงนั่นลงไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ ร่างกายของมินาโตะกำลังโอบกอดเขาเอาไว้ ทั้งภายในและภายนอก แรงบีบรัดทำเอาเขาแทบคลั่ง ต้องตั้งสติ ต้องสูดหายใจไม่รู้กี่ครั้งเพื่อไม่ให้เขาเผลอทำตามสัญชาติญาณดิบที่กำลังพุ่งพล่าน

แล้วในขณะที่เขาใส่ไปจนสุดทาง...เสียงบางอย่างก็ดังอยู่นอกห้องน้ำ

“มินาโตะ~~”  ชื่อที่ถูกเรียกอยู่ข้างนอกทำเอาเจ้าของชื่อถึงกับสะดุ้งเฮือก ร่างที่งับไหล่เขาอยู่แทบแข็งเป็นหิน เสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาทำให้นัยน์ตาของมินาโตะเบิกกว้าง แต่เขากลับยกมือขึ้นมากอดแผ่นหลังของมินาโตะอย่างใจเย็น

“มินาโตะ โฮ่ย~ นายอยู่ในห้องน้ำรึเปล่า?”  เสียงที่ไม่คุ้นเคยนี้ไม่ใช่ของเซยะ...ก็นับว่าโชคดีไป

“โทษทีนะ ฉันไม่ใช่มินาโตะอะไรนั่นหรอก”  เขาตอบออกไปในขณะที่พยายามผ่อนลมหายใจ เขาลอบกลืนน้ำลายในขณะที่ลูบหัวมินาโตะเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร

“ง่ะ โทษทีๆ”   เสียงข้างนอกตอบมาแล้วเสียงฝีเท้าก็เดินจากไป

“แล้วมินาโตะไปไหนหว่า ไหนบอกจะมาห้องน้ำ?”   เสียงอีกฝ่ายแว่วหายไปเรื่อยๆ เขาจึงถอนหายใจออกมาเบาๆ...เปล่าหรอก...เขาไม่ได้กลัวว่าคนข้างนอกจะจับได้ แต่ที่เขาต้องผ่อนลมหายใจ ต้องกลืนน้ำลาย ต้องตั้งสติให้มั่นเอาไว้นั่นก็เป็นเพราะว่า...

“มินาโตะ...ถ้ารัดแน่นขนาดนี้ฉันจะทนไม่ไหวเอานะ”  คนที่ออนท็อปอยู่ข้างบนสะดุ้งโหยงอีกครั้งก่อนที่ใบหน้ามนจะหันมาค้อนใส่เขาอีกรอบ มินาโตะคงจะตื่นตระหนกเลยเผลอรัดความเป็นชายของเขาซะแน่นเลยน่ะสิ

“เจ้าบ้าชู...จำไว้เลย...อึ่ก!”   เขาไม่ปล่อยให้มินาโตะบ่นจนเสร็จหรอก ในเมื่อข้างล่างพร้อมขนาดนี้เขาจึงขยับหยอกเย้าจนมินาโตะต้องรีบคว้าคอเขาเอาไว้เป็นหลัก ใบหน้ามนซบลงที่ไหล่เขาอีกครั้งแต่คราวนี้มินาโตะไม่ยอมกัดเขาไว้ ริมฝีปากสีแดงขบเม้มกันแน่น คงกลัวว่าเขาจะเจ็บไหล่สินะ เพราะอีกเดี๋ยวเขาต้องไปแข่งยิงธนูต่อ

มือใหญ่ยกขึ้นมาลูบหัวมินาโตะด้วยความเอ็นดู มินาโตะมักจะคิดถึงเรื่องของเขาและมองดูเขาด้วยสายตาไม่เหมือนใครอยู่เสมอ และมันก็ทำให้โลกที่มีเพียงสีเดียวของเขาเปลี่ยนแปลงไป

เขาได้รู้จักโลกที่สดใส ได้รู้จักความรัก...ก็เพราะมินาโตะ

“อื้อ~”  สองมือจับสะโพกของมินาโตะเอาไว้ก่อนจะขยับมันขึ้นลงตามแต่ใจ ใบหน้าของมินาโตะซบอยู่ที่หัวไหล่ เขาจึงได้ยินเสียงครางแผ่วเบาที่พยายามสะกดกลั้นเอาไว้นั้นแต่เพียงผู้เดียว

แกนกายของมินาโตะเสียดสีอยู่ที่หน้าท้องของเขา ฝ่ามือข้างขวาลูบไล้อยู่ที่สีข้างของมินาโตะ มันมีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ฝังอยู่ เขาลูบมันทุกครั้งที่เรามีอะไรกัน เขาไม่ชอบมันเลยเพราะมันเกือบจะพรากมินาโตะไปจากเขา อย่างน้อยเจ้ารอยแผลนั่นก็พรากมินาโตะที่สดใสร่าเริงคนนั้นไปจากเขาตลอดกาล มินาโตะแทบจะไม่ยิ้มอีกเลยหลังจากอุบัติเหตุครั้งนั้น เขาต้องใช้เวลาในการเยียวยามัน และเขาสาบานว่าเขายังมีเวลาให้มินาโตะอีกทั้งชีวิต

“อื้อ~ ชู~”   เขากดจมูกลงไปที่ขมับชื้นเหงื่อ ฝ่ามือเพิ่มความถี่ให้กับสะโพกของมินาโตะมากขึ้น ความรู้สึกดีนี้ทำให้เขามัวเมา มินาโตะเองก็บีบรัดสอดรับกับจังหวะการแทรกกายของเขา มันช่างเป็นการสอดประสานที่ลงตัว เขาเอง...ก็อยากให้มินาโตะกลับมายิงธนูได้อีกครั้ง เหมือนกับจังหวะที่เรามีอะไรกัน

“มินาโตะ พร้อมกันนะ”   เขากระซิบบอกข้างหูก่อนจะยกบั้นท้ายของมินาโตะขึ้นจนสุด แล้วกดมันลงมารวดเดียว แรงเสียดสีกระแทกกระทั้นนั้นทำเอาขึ้นไปถึงสวรรค์ได้ไม่ยาก น้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งทะยานเข้าไปในตัวมินาโตะจนอุ่นวาบเช่นเดียวกับหน้าท้องของเขาที่ถูกฉาบไว้ด้วยของของมินาโตะ

“ฮ้า...ฮ้า...ฮ้า...”   มินาโตะทิ้งตัวเอาไว้ในอ้อมแขนของเขา พวกเราทั้งคู่ต่างหอบหายใจหนักหน่วง...เนิ่นนาน...กว่ามันจะกลายเป็นปกติ

นัยน์ตาสีม่วงทอดมองหยาดหยดสีขาวขุ่นที่กระจายอยู่เต็มหน้าท้อง และเมื่อมินาโตะเห็นว่าเขามองอะไร ใบหน้ามนก็แดงเถือกขึ้นมาอีกรอบ

“เจ้าขุนนางลามกนี่”   มือบางคว้าทิชชูมาเช็ดอย่างรวดเร็ว รอยแดงที่ลามมาถึงใบหูทำให้เขาหัวเราะในลำคออย่างอารมณ์ดี มินาโตะไม่รู้หรอกว่าเวลาที่กำลังบ่นเขาแบบนั้นมินาโตะน่ารักขนาดไหน เหมือนพวกภรรยามือใหม่ที่บ่นเวลาสามีกลับบ้านช้าอะไรแบบนั้น แล้วก็เชื่อเถอะว่าไม่เคยมีใครบ่นเขาแบบนี้มาก่อน ขนาดคนที่บ้านเขาก็ยังไม่เคยบ่นเขาแบบนี้เลย หากจะตำหนิติเตียนก็จะต้องทำอย่างมีพิธีการ ความรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมแบบนี้จึงมีเพียงมินาโตะคนเดียวที่มอบมันให้เขา

“ขอบคุณนะ”   เขากระซิบข้างใบหูแดงระเรื่อนั่นเบาๆ

“แค่เช็ดของของฉัน ไม่ต้องขอบคุณหรอกน่า”  เขาอมยิ้มให้กับความไม่รู้เรื่องรู้ราวของมินาโตะ เขาจ้องมองใบหน้ามนที่กำลังตั้งอกตั้งใจเช็ดทำความสะอาดหน้าท้องของเขา

“ถ้างั้น เดี๋ยวฉันเช็ดของของฉันออกจากตัวนายให้ก็แล้วกัน”   เขาโน้มหน้าเข้าไปกระซิบใกล้ๆ มินาโตะถึงกับผงะถอยไปเมื่อเริ่มรู้ตัว แต่ยังไม่ทันห้าม ปลายนิ้วของเขาก็สอดเข้าไปเสียก่อน

“อึก...”   คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากัน มินาโตะซบหน้าลงมาที่ไหล่ของเขาอีกครั้ง ช่องทางที่ถูกเสียดสีเอาไว้ยังคงอ่อนนุ่มและไวต่อความรู้สึก และแค่เขาเปิดมันออก น้ำสีขาวขุ่นที่ไหลลงมากองรวมกันตรงปากทางอยู่แล้วก็ไหลออกมาทันที

“......”   ใบหน้ามนถึงกับกัดฟันแน่น ใบหูที่เกือบจะหายดีขึ้นสีแดงขึ้นมาอีกระลอก เขากดจมูกลงไปบนกลุ่มผมสีดำนิ่มๆพวกนั้น ก่อนจะปล่อยให้น้ำสีขาวขุ่นไหลลงไปตามฝ่ามือ และก่อนที่มันจะหยดลงพื้น มินาโตะก็ตะปบมันด้วยทิชชูเกือบหมดม้วน

ไว้ว่างๆเขาคงต้องเอาทิชชูมาบริจาคคืนให้สนามแข่งแห่งนี้เสียแล้วละ

มินาโตะถึงกับถอนหายใจก่อนจะมองเขาอย่างคาดโทษ แต่เขาก็ทำเพียงส่งยิ้มกลับไปให้ นัยน์ตาสีมรกตละจากใบหน้าของเขาก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ไหล่

“เจ็บไหม? ฉันว่าไปทำแผลก่อนดีกว่า...”   มินาโตะมองรอยฟันไม่รู้กี่รอยบนไหล่ของเขาอย่างกังวล เขาอมยิ้มที่มินาโตะห่วงเขาถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคู่แข่งของโรงเรียนมินาโตะก็ตาม

“แล้วจะให้บอกพยาบาลว่าถูกอะไรกัดมาล่ะ? ตัวมินาโตะ?”   ใบหน้ามนยู่หน้าก่อนจะบอกว่าไม่ขำกับมุขหน้าตายของเขา

“ยังไงก็ต้องพันแผลก่อน ตรงนี้เลือดออกด้วยเนี่ย”   มินาโตะควานหาผ้าเช็ดหน้าในกองเสื้อผ้าของตัวเองก่อนจะบรรจงเช็ดเลือดให้เขา และเมื่อเลือดหยุดไหล มินาโตะก็ฉีกผ้าออกครึ่งหนึ่งอย่างไม่เสียดายแล้วพันมันไว้รอบไหล่เขา

“สวมฮากามะให้หน่อยสิมินาโตะ”  มินาโตะช้อนสายตาขึ้นมองเขาก่อนจะพยักหน้าเบาๆ มือบางจับสาบเสื้อของเขาให้เข้าที่ปกปิดรอยแผลที่เจ้าตัวทำเอาไว้จนมิดชิดก่อนจะหยิบฮากามะสีดำของเขาขึ้นมา เขาทอดสายตามองทุกท่วงท่าของมินาโตะพลางอมยิ้ม

“มินาโตะยังสวมฮากามะเหมือนเดิมเลยนะ แบบนี้ไม่มีใครรู้แน่ว่าฉันไม่ได้สวมเองแต่เป็นมินาโตะสวมให้”   เพราะทั้งวิธีผูกและตำแหน่งของปมมันเหมือนกับวิธีสวมฮากามะของเขาเป๊ะ

“ก็ชูเป็นคนสอนฉันนี่ จำไม่ได้รึไง?”  

“จำได้สิ”   เขาไม่มีวันลืมหรอก วันแรกที่เราฝึกยิงธนูด้วยกัน เจ้าเด็กที่ไม่รู้แม้แต่วิธีสวมฮากามะคนนั้นโตขึ้นขนาดนี้แล้วนะเนี่ย...

สำหรับเขาแล้วมินาโตะคือความแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน กับโลกที่เคร่งครัดไปหมดของเขา ทุกวินาทีมีแต่ต้องฝึกฝนและฝึกฝน มินาโตะคือคนแรกที่ยิ้มให้เขาอย่างจริงใจ อยู่ข้างๆเขาด้วยความไร้เดียงสาและไม่หวังสิ่งใดตอบแทน แล้วมันจะแปลกตรงไหนที่มินาโตะจะกลายเป็นรักแรกและรักเดียวของเขา

เขาต้องการมินาโตะ

เพราะมินาโตะเป็นคนเดียวที่จะส่งแรงผลักดันมาถึงเขาได้ เป็นคนเดียวที่ก้าวขึ้นมาทัดเทียมเขาได้ เป็นคนเดียว...ที่อยู่ในสายตาของเขา


ชีวิตนี้เขามีเพียบพร้อมทุกอย่าง

เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาต้องการจากใจจึงมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น นั่นก็คือมินาโตะ



“เอ้า เสร็จแล้ว”  มินาโตะตบปุๆที่เอวของเขา ดูแล้วแยกไม่ออกจริงๆนั่นแหละว่าเขาไม่ได้เป็นคนใส่เอง

“ฉันก็จะใส่ให้นายบ้าง”   มินาโตะทำหน้างงๆแต่ก็ยอมให้เขาสวมฮากามะให้แต่โดยดี  เขาสูดกลิ่นกายของมินาโตะเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อโอบรอบลำตัวบางนั่นไปติดตะขอที่ด้านหลังให้

ต่างฝ่ายต่างละออกมาดูผลงานของกันและกันซึ่งมันเหมือนกันไม่มีผิด

“ไปแข่งเถอะ ขอให้โชคดีนะ ชู”  มินาโตะยิ้มให้เขาก่อนที่เราจะแยกย้ายกันออกจากห้องน้ำ

เขากลับเข้าสู่ลานแข่งยิงธนูอีกครั้ง ส่วนมินาโตะก็กลับไปนั่งรวมกับกลุ่มเพื่อน

เขามองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่สงบเยือกเย็นกว่าเมื่อชั่วโมงก่อน...ถึงจะไม่มีใครดูออกแต่เขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าฮากามะตัวนั้นเขาเป็นคนสวมให้...รู้ดีแก่ใจว่ามินาโตะเป็นของเขา


เท่านั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขายิงไม่พลาดเลยสักดอก


เพียงพอแล้ว...ที่จะทำให้หัวใจของเรายังคงเรียกหากันตลอดไป







.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

Story never End




นะ ตอนที่ 7 นี่ก็ว่าเปิดตัวแรงแล้วนะคะพ่อเจ้าชาย มาเจอตอนที่ 8 นี่ตายกันเป็นแถบๆอ่ะแม่ย๊กกกก โอ๊ยๆๆ ชูแรงมากกกกกกก เซยะก็แรงมากกกกกก ถึงขั้นประกาศสงคราม(?)กันเลยทีเดียว เหม่~~ ส่วนมาสะซังนี่มาแบบอ่อนโยนเรียบๆเคียงๆน้องไปเรื่อยๆนะคะ งานดีย์มากอ่ะเรือแต่ละลำในเรื่องนี้ >////< ทุกคนดูจะพุ่งเป้าไปที่มินาโตะแบบชัดเจน ละก็ลงมือแย่งชิงกันแบบชัดเจนด้วย555+ // อนิเมะกีฬาและมิตรภาพ คุณกวางต้องใจเย็นๆ...

ส่วนฟิคตอนนี้ก็เป็นการแต่งเอ็นซีแบบผู้ดีๆ(?)ที่ไม่ค่อยได้สัมผัสค่ะ ก๊ากๆๆ คือ...ถึงชูจะดูเป็นพวกเอส แอบร้าย แต่ยังไงก็ยังต้องคงความเป็นเจ้าชายๆเอาไว้อ่ะ ละก็ดูเป็นคนตรงๆเฉยๆเงียบๆใจเย็น มีสมาธิ มีความอดทน ไม่ได้หยาบคาย เพราะงั้นจะมาใช้ความรู้สึกนึกคิดดิบเถื่อนแบบคุณรีไวก็ไม่ได้ :v จะมาเอสเต็มขั้นแบบท่านเคานต์ ค.ก็ไม่ได้เพราะชูยังเป็นแค่เด็กม.ปลาย ไม่เนียนไม่กะล่อนแบบอิหมีด้วย นะ ก็เลยมีความยากในแบบของชูอ่ะแหละ 5555+ แต่เอาเหอะ เจอเอ็นซีของคู่ยูริ คิโยะยาสุ ยากกว่านี้มากกกกกค่ะ ก๊ากกก

ยังไงก็ขอขอบคุณทุกๆการติดตาม ทุกๆคอมเม้นต์ด้วยนะคะ มันคงเป็นวันช็อตแบบไม่ปะติดปะต่อแบบนี้ไปเรื่อยๆอ่ะแหละเรื่องนี้ ไม่มีพล็อตโครงหลัก ก็อ่านแบบไม่เอาสาระไปเนอะ 555+ แล้วเจอกันตอนหน้าค่า

โอยย น้องสเลน ไม่สิ เคนโช โอโนะซังพากย์เสียงชูดีมว๊ากกกกกก น้ำเสียงตอนบอกให้มินาโตะรับผิดชอบที่ก้าวเข้ามาในชีวิตเค้านี่มันทั้งเป็นเสียงแบบออกคำสั่งแล้วก็ขอร้องอ้อนวอนไปในตัวอ่ะ คือแบบ...มันชูมากอ่ะ >////< เวลาพูดกับคนอื่นจะเป็นอีกเสียงนึง แต่เวลาอยู่กับมินาโตะทำไมตรูได้ยินเสียงอ้อนๆด้วยฟ๊ะ โอยยยย ดีย์~~~

ป่ะๆ ไปได้แล้วหล่อน เวิ่นเว้อจริง555




2 ความคิดเห็น:

  1. มาอีกตอน
    เขียนเรื่อยๆ นะคะติดตามอยู่ค่ะ
    ชอบมากก

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ24 ตุลาคม 2562 เวลา 18:28

    พี่ชูคนร้ายกาจจจ

    ตอบลบ