Tsurune.
One-Shot.Fic [Shuu x Minato] หรือรักเรียกหา : 01 : END
:
Tsurune ; kazemai koukou kyudou-bu Short Fanfiction
:
Fujiwara Shuu x Narumiya Minato
:
Warmhearted
:
PG
คำเตือน :
เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
“ฉันจะไปบ้านนาย”
จู่ๆเจ้าคนที่มาดักรอเขาอยู่หน้าโรงเรียนก็พูดออกมาแบบนั้น
และเมื่อเขามองเข้าไปในดวงตาสีม่วงเฉยชาที่มักจะไม่สะท้อนสิ่งใดกลับมา...เขาก็รู้เลยว่า...เขาไม่มีทางปฏิเสธหมอนั่นได้
ฟูจิวาระ ชู….เขาไม่เคยปฏิเสธหมอนั่นได้มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ในเย็นวันหนึ่งซึ่งออดเลิกเรียกดังตามปกติ
แต่สิ่งที่ไม่ปกติก็คือสายตาของนักเรียนโรงเรียนคาเซไมที่กำลังเดินกลับบ้านต่างหันไปมองคนที่ยืนอยู่นอกรั้วโรงเรียนเป็นตาเดียว
แน่ละว่าเด็กผู้ชายคนนั้นต้องดูดีพอที่จะดึงดูดสายตาของใครต่อใครได้
นอกจากนั้นเครื่องแบบนักเรียนโรงเรียนเอกชนชื่อดังก็ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ใครๆต่างก็สนใจ
นั่นเด็กโรงเรียนคิริซากิไม่ใช่เหรอ?
โรงเรียนพวกลูกคุณหนูพ่อรวยนั่นน่ะเหรอ?
ท่าทางอย่างกับคุณชาย มารอใครกันนะ?
ถ้ามารอฉันก็ดีหรอก ฮ่าๆๆ
ตื่นได้แล้วย่ะ!
เสียงกระซิบกระซาบที่ดังบ้างเบาบ้างไม่ได้ทำให้ใบหน้านิ่งของคนรอเปลี่ยนแปลงไป
เด็กหนุ่มคนนั้นมีรูปร่างสูงสง่าและบุคลิกที่ชวนให้เชื่อว่าเป็นคุณชายจากตระกูลชั้นสูง
นัยน์ตาสีม่วงเฉยชาจับจ้องอยู่ที่ประตูโรงเรียนอย่างไม่สนใจสิ่งใดราวกับว่ามันมีเอาไว้มองสิ่งที่ตัวเองต้องการเพียงเท่านั้น
และเมื่อจักรยานคันหนึ่งค่อยๆเคลื่อนออกมาช้าๆ
ร่างสูงสง่าที่ยืนนิ่งมาตลอดก็ขยับออกไป
เอี๊ยด!
เจ้าของจักรยานเบรกแทบจะหัวทิ่มเพราะไม่คิดว่าจะมีใครบ้ากระโดดออกมาขวางหน้าแบบนี้และยิ่งไม่คิดไปใหญ่ว่าจะมีใครมาดักรอตนอยู่ที่หน้าโรงเรียน
นัยน์ตาสีมรกตตวัดมองใบหน้าของคนที่สูงกว่าก่อนที่ดวงตาคู่นั้นจะต้องเบิกกว้าง
“ชู…”
เสียงเบาๆที่ลอยออกมาจากริมฝีปากทำให้เขารู้ว่าเขาไม่ได้ฝันไป
“มินาโตะ…”
อีกฝ่ายก็เรียกเขากลับมาเบาๆเช่นกัน
ถึงใบหน้าได้รูปนั่นแทบจะไม่ได้เปลี่ยนไปแต่นัยน์ตาสีม่วงที่อ่อนแสงลงก็ทำให้รู้ว่าชูกำลังยิ้มให้เขาอยู่
“มาทำอะไรที่นี่?” นารุมิยะ
มินาโตะถามออกไปก่อนจะหันมองรอบกาย ไม่มีรถของบ้านฟุจิวาระจอดอยู่? แปลว่าชูมาเอง?
“ฉันจะไปบ้านนาย” จู่ๆเจ้าคนที่มาดักรอเขาอยู่หน้าโรงเรียนก็พูดออกมาแบบนั้น
และเมื่อเขามองเข้าไปในดวงตาสีม่วงเฉยชาที่มักจะไม่สะท้อนสิ่งใดกลับมา...เขาก็รู้เลยว่า...เขาไม่มีทางปฏิเสธหมอนั่นได้
ใบหน้ามนถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะลงจากจักรยานแล้วจูงมันออกเดินนำหน้า
ใช่...เขาไม่เคยปฏิเสธ ฟูจิวาระ ชู ได้เลยสักครั้ง เพราะเจ้าคนที่มีบุคลิกสูงส่งราวกับเจ้าชายที่กำลังเดินตามหลังเขาอยู่นี้ไม่มีใครเคยรู้เลยว่าแท้ที่จริงแล้วหมอนี่ไม่ฟังใคร
เอาแต่ใจ อ่านบรรยากาศไม่ออก ไม่สิ ไม่คิดจะอ่านบรรยากาศรอบตัวเลยต่างหาก
นึกอยากจะทำอะไรก็ทำด้วยกริยามารยาทแบบผู้ดีๆนั่น
นัยน์ตาสีมรกตหรี่มองเจ้าคนที่ก้าวขายาวๆมาเดินอยู่ข้างๆด้วยใบหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งๆที่คนมองกันทั้งถนน
ชูมักจะโดดเด่นเป็นที่ยอมรับและได้รับเกียรติให้เหนือกว่าใครๆอยู่เสมอ
ซึ่งเขาก็สงสัยมานานแล้วว่าทำไมชูถึงเลือกที่จะอยู่กับเขา เดินอยู่ข้างๆคนธรรมดาๆแบบเขาแทนที่จะไปคบกับเพื่อนที่ดูสมฐานะกันมากกว่านี้
แต่อันที่จริงเขาก็ไม่ได้เจอกับชูมาหลายเดือน ตั้งแต่ที่เขาย้ายจากคิริซากิมาเรียนที่คาเซไม
นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองปอยผมสีน้ำตาลอมเขียวที่ไหวไปตามแรงลม
มีทั้งความคิดถึงและความหวาดหวั่นผสมปนเปกันอยู่ในความรู้สึกของเขา
เรื่องระหว่างเรามันหวนกลับมาอีกครั้ง...หลังจากวันที่ได้เจอกันในการแข่งขันยิงธนูเมื่ออาทิตย์ก่อน…
ประตูบ้านถูกเปิดออกก่อนที่เขาจะเดินนำเข้าไป...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชูมาบ้านของเขา
ร่างสูงสง่าจึงก้าวขาตามเข้ามาด้วยท่าทางคุ้นเคย
เขาพาอีกฝ่ายขึ้นไปบนห้องนอนตามความเคยชินเช่นกัน
กักกุรันกับกระเป๋าถูกถอดแขวนไว้ก่อนที่จะหันไปบอกกับแขกที่กำลังกวาดสายตาไปรอบห้องของเขาด้วยท่าทางเหมือนกำลังซึมซับอะไรบางอย่าง
“ไม่ได้มานานแล้วสินะ เดี๋ยวฉันลงไปชงชามาให้
นายก็หาที่นั่งเอาตามสบาย”
“ตามสบาย?” ใบหน้าเฉยชาหันมามองพลางทวนคำพูดของเขา
“อะ อือ…” เขาพยักหน้ารับเพราะไม่ค่อยเข้าใจว่าชูต้องการจะสื่อถึงอะไร
ถ้าชูเป็นพวกไม่คิดจะอ่านบรรยากาศรอบตัว
เขาเองก็เป็นพวกที่แสดงความรู้สึกไม่เก่งและจับความรู้สึกคนอื่นไม่ได้เรื่องเช่นกัน
“อ๊ะ?” จู่ๆร่างทั้งร่างก็รู้สึกเหมือนถูกดึง
เพราะไม่ทันตั้งตัวแรงเหวี่ยงที่ไม่ได้มากมายนั่นจึงทำให้เขาล้มลงไปบนเตียงของตัวเอง
ตุ้บ…
“ชู?” เขาเงยหน้ามองคนที่ก้าวขาตามมาคร่อมอยู่เหนือร่าง นัยน์ตาสีม่วงคู่นั้นสั่นไหวน้อยๆยามที่ก้มลงมาจ้องมองเขา
จู่ๆริมฝีปากของชูก็โน้มลงมาบดขยี้กลีบปากของเขาก่อนจะสอดลิ้นเข้ามา
นัยน์ตาสีมรกตถึงกับเบิกกว้างก่อนที่สองมือจะพยายามดันไหล่ที่หนาขึ้นมากนั่นออกไป
เขาให้ทำตัวตามสบายแต่ไม่ใช่ว่าจะทำอะไรก็ได้สักหน่อย!
“อื้อ~”
เสียงในลำคอร้องประท้วงถึงแม้ว่าทุกสัมผัสในโพรงปากมันจะคุ้นเคยจนแทบจะคล้อยตาม
ความละมุนละไมแต่ก็ผสมไว้ด้วยความรุนแรงราวกับลูกธนูที่พุ่งตรงไปข้างหน้าคือจูบในแบบของชูที่ทำยังไงเขาก็ไม่มีวันลืม
ชูถอนริมฝีปากออกไปก่อนจะเปลี่ยนมุมแล้วประกบลงมาใหม่
แรงบดเบียดที่นุ่มนวลนั้นกดเขาจนแทบจะจมลงไปในหมอน รุกเร้าเขาจนแทบจะถอนตัวไม่ขึ้น
“ชู!” เขาดิ้นรนไปมาเมื่อริมฝีปากที่ขโมยจูบจากเขากำลังย้ายไปกดเม้มอยู่ที่ลำคอ
ฝ่ามือยกขึ้นมาดันหัวสีน้ำตาลนั่นออกไป แรงขนาดนี้ต้องเป็นรอยแน่ๆเจ้าบ้านี่!
“หยุดเดี๋ยวนี้ ชู” และเมื่ออีกฝ่ายรับรู้ว่าเขาไม่ยอม
ท่อนแขนแข็งแรงจึงเปลี่ยนจากการจู่โจมมากอดรัดเขาเอาไว้แทน
“เป็นอะไรของนาย?” ชูกอดเขาจากด้านหลังเขาจึงมองเห็นแค่เส้นผมสีน้ำตาลที่กำลังซบซุกอยู่ที่ไหล่
“ไม่ได้เป็นอะไร แค่ดีใจที่มินาโตะกลับมา...ฉันเชื่อ แล้วก็รอมาตลอด
ว่ามินาโตะจะกลับมา…” เสียงแผ่วเบาหลุดออกมาจากใบหน้าที่ยังซุกอยู่ที่ซอกคอของเขา
ใช่...พวกเขาไม่ได้เป็นแค่เพื่อนกัน ไม่ได้เป็นแค่ทีมเมทที่แข่งยิงธนูด้วยกัน
แต่เขากับชูมีความสัมพันธ์กันมากกว่านั้น
เรากอดกัน เราจูบกัน เรานอนด้วยกัน เราคบกันอยู่ แล้วเราก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เราเลิกกันแล้วหรือยัง…
ทุกอย่างยังคาราคาซังตั้งแต่วันที่เขาหันหลังให้ธนู พอเขาไม่ได้ยิงธนู
ชูก็ไม่สนใจเขาอีก จนเขาได้แต่คิดว่าที่ชูอยู่กับเขาก็เป็นเพราะธนูเพียงเท่านั้น
“ทำไมก่อนหน้านี้...นายถึงไม่พูดอะไรเลย
มาพูดเอาป่านนี้เนี่ยนะ…” เขาตัดพ้อออกไป
เขาเคยเสียใจมากกับโรคที่เขาเป็น แต่ตอนนั้นชูก็ไม่ได้พูดอะไร
ไม่มีแม้แต่ความเห็นใจหรือคำปลอบใจ...จนในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวแล้วเดินจากมา
ร่างกายที่ถูกกอดเอาไว้รับรู้ถึงแรงกอดที่กระชับยิ่งขึ้นอีก
ที่ลาดไหล่ก็รู้สึกถึงใบหน้าที่ซุกเข้ามามากกว่าเดิม...เหมือนชูกำลังขอโทษ...ผ่านอ้อมแขนนี้
“ฉันไม่มีคำพูดที่จะใช้กับนายในตอนนั้น ฉันไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
นายถึงจะไม่เสียใจ”
“จนนายหายไป ฉันถึงได้รู้สึก ว่าทำไมฉันถึงไม่พยายามทำอะไรเพื่อนายเลย”
“นายเกลียดฉันใช่ไหม นายไม่รักฉันแล้วหรือเปล่า
นายถึงได้เลิกยิงธนู ฉันเอาแต่คิดแบบนั้นและมันก็ทำให้ฉันกลัว...ทำให้ฉันไม่กล้ามาพบหน้านาย...ฉันกลัว...ว่านายจะเมินเฉย
กลัว...ว่านายจะไล่ฉันออกไปจากชีวิตของนาย...ฉันจึงทำได้แค่รอ...รอด้วยความเชื่อว่านายจะกลับมาจับธนูอีกครั้ง…”
และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้รู้ความรู้สึกของชู
เพิ่งจะได้รู้ว่าชูเองก็กังวลกับเรื่องของเขาขนาดไหน
เขารู้ว่าชูเองก็รักเขาและที่ต้องทนเห็นเขาเจ็บปวดแต่ไม่สามารถจะทำอะไรได้
ชูเองก็คงจะเจ็บปวดไม่ได้น้อยไปกว่าเขา
ตอนนี้...เขาเข้าใจทุกอย่างแล้ว...
ชูยังคงกอดเขาไม่ปล่อยแม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน
ชูยังคงซุกหน้าเอาไว้กับไหล่ของเขาถึงแม้ว่าจะไม่ได้พูดอะไร
แต่แค่นี้มันก็ทำให้ความรู้สึกกลัวยามที่ต้องเผชิญหน้ากันอีกครั้งของเขากับชูค่อยๆมลายหายไป
ความรู้สึกเก่าๆค่อยๆไหลย้อนกลับคืนมา...ความรู้สึกที่เรียกว่า “รัก”
“....มินาโตะ...ในชีวิตที่น่าเบื่อของฉัน...มีเพียงนายเท่านั้นที่เป็นเป้าหมายและทำให้ฉันยิ้มได้
เพราะฉะนั้นในวันใดที่นายทิ้งฉันไป...ฉันคงมีชีวิตอยู่ได้ แต่ไม่มีรอยยิ้ม”
…อยู่ได้
แต่ไม่มีความสุขงั้นสินะ...เขายิ้มออกมาบางๆก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบเส้นผมสีน้ำตาลที่พาดอยู่บนไหล่เบาๆ
“ชู…”
“มันจะไม่มีวันนั้น ชู”
“ถ้านายเชื่อว่าฉันจะกลับมา...ฉันก็จะกลับมา…”
เขาเองก็ให้คำมั่นสัญญา
เพราะว่าเขาเองก็ยากจะตัดชูออกไปจากชีวิตได้แล้วเหมือนกัน
เพราะถ้าเขาตัดชูออกไปได้
เขาคงไม่หันกลับมาหาธนูอีก ไม่กลับมาเริ่มต้นใหม่กับมันอีก
หรือจะเป็นเพราะรักของนายมันเรียกหากันนะ...ชู
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
Story
never End
เออ
ตรูว่าตรูควรจะหันมาแต่งวันช็อตฟิคแบบนี้นะ มันจะได้จบๆได้บ้าง 55555+ //
โดนไหทุ่มใส่ นี่ก็สั้นไปโฟ้ยยยยย
ก็มันแบบว่า...เจอตอนที่
7 นี่เข้าไปถึงกับคลั่งเลยค่ะ อร๊ากกกกก พ่อเจ้าชายนี่เห็นนิ่งๆที่ไหนได้
ร้ายไม่เบานะคะ~~~ >////< จะกระซิบจะคุยกันละทำไมต้องจับหน้าท้องของมินาโตะด้วยยยยย
ถึงจะถามถึงแผลก็เถอะ แต่ถามธรรมดาไม่ต้องจับก็ได้ไหมมมมม
ละตำแหน่งที่จับมันทำมี๊คิดมากอ่ะ // ลงไปดิ้น >/////<
ก็นะ...ตอนนี้
Tsurune
นี่เรือแล่นกันเต็มน่านน้ำเรยคร่า มาเต็มทั้ง มาซากิมินาโตะ เซยะมินาโตะ
ชูมินาโตะ มี เรียวเฮมินาโตะด้วยนะตรูอ่ะอันที่จริง
// เอาหัวโขกกำแพง
ละนี่ดันไปติดหนังจีนเรื่อง
หงสาประกาศิต ค่ะ ดูละคิดถึงองค์ชายเก้ากับเจ้าเด็กคณะงิ้วมากเรยค่ะ อ๊ากกกกก
แล้วเจอกันตอนหน้า
เรือไหนซักลำแหละ ก๊ากๆๆๆๆ TvTbb ขอบคุณสำหรับทุกๆการติดตาม
ทุกๆคอมเม้นต์ ทุกๆกำลังใจมากๆนะก๊า อะเห่ะๆ
ชอบคู่นี้จังค่ะ >//<
ตอบลบอยากจะถามคนเขียนว่าดูเรื่อง banana fish รึเปล่า
แนะนำให้ไปดู ถึงจะไม่วาย แต่จิ้นมากกก (แอชxเอย์จิค่ะ)
อิอิ