Attack on Titan Au.Fic [Levi xEren] Ryuusei : 06.1


Attack on Titan Au.Fic [Levi xEren]  Ryuusei : 06.1

For HBD.EREN

: Attack on Titan Fanfiction Au
: Levi x Eren
: Period Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
    : และเพื่อให้ชื่อตัวละครเข้ากับท้องเรื่องซึ่งเป็นฟิคแนวย้อนยุคของญี่ปุ่นจึงขอดัดแปลงชื่อจากคุณรีไวเป็น อาคามะ ริวาอิ , เอเลนเป็น โกคุเดระ เรน
         





ในที่สุดหนึ่งอาทิตย์ที่แสนจะน่าเบื่อในคุกใต้ดินก็สิ้นสุดลงเสียที ตอนนี้นายน้อยแห่งอิสุถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว...

ร่างโปร่งยืนอยู่หลังบานหน้าต่างแคบๆของปราสาทมัตสึโมโตะ มือบางยกขึ้นบังใบหน้าเมื่อแสงแดดเจิดจ้าที่ไม่ได้เห็นมาเสียหลายวันส่องกระทบเต็มสองตา...กว่าจะปรับให้ชินได้ก็ต้องใช้เวลาหลายนาที

นัยน์ตาสีมรกตทอดมองไปยังบ้านเมืองที่อยู่นอกหน้าต่าง...รู้สึกคิดถึงขึ้นมาถนัดตา...นี่ขนาดเขาถูกขังอยู่แค่อาทิตย์เดียวยังรู้สึกโหยหาอิสระมากขนาดนี้ แล้วกับคนที่ถูกคุมขังนานกว่าเขาเป็นปีๆ...ความรู้สึกที่มีใครสักคนคอยพูดคุยด้วยของแม่ทัพแห่งโคฟุ เขาเข้าใจดีเลยละ...เข้าใจเลยว่าทำไมผู้ชายคนนั้นถึงได้หลงรักพี่ชายของเขา

เสียงตอกตะปูผสมผสานกับเสียงโหวกเหวกโวยวายที่ดังอยู่ไกลๆทำให้เขาเรียกสายตาที่กำลังเหม่อมองท้องฟ้ากลับลงมา...รู้สึกจะดังมาจากแถวๆศาลเจ้าประจำเมืองมัตสึโมโตะ?

และเมื่อนัยน์ตาสีมรกตทอดมองลงไปยังบริเวณนั้นก็เห็นกลุ่มคนหลายสิบคนกำลังช่วยกันซ่อมบำรุงทำความสะอาดยาไต รถที่ใช้ในขบวนแห่ในงานเทศกาล อีกทั้งตัวศาลเจ้าที่เคยเงียบสงบบัดนี้ก็กำลังถูกประดับประดาด้วยแถบผ้าหลากสีสัน

หรือว่ากำลังจะมีงานเทศกาลอะไรหรือเปล่านะ?

นัยน์ตาสีมรกตสุกใสเปล่งประกายระยิบระยับทันที...เรื่องแบบนี้เขาจะพลาดได้ไง!

เพราะงั้นตอนกินข้าวเย็นร่วมกันกับแม่ทัพแห่งตะวันตก ริมฝีปากสีระเรื่อจึงถามออกไปหลังจากที่อดใจไว้ไม่อยู่

“คือ....”  

“.......”   นัยน์ตาสีขี้เถ้าเพียงแค่เหลือบขึ้นมามองใบหน้าใสที่มีแววซุกซน ท่าทางลุกลี้ลุกลนนั่นช่างดูน่าสงสัยแต่มือแข็งแรงก็ยังคีบปลาเข้าปากด้วยท่าทางเหมือนไม่สนใจนักทั้งๆที่ตั้งใจรอฟังอยู่ว่าเจ้าลูกหมานี่จะหาเรื่องแผลงๆอะไรมาให้เขาปวดหัวอีก นี่ขนาดเพิ่งถูกปล่อยตัวออกมาจากคุกนะ คำว่าเข็ดหลาบนี่คงไม่มีอยู่ในหัวสีน้ำตาลนั่นเลยสินะ

“เมื่อกลางวันข้ามองเห็นจากบนปราสาท...ว่าศาลเจ้าในเมืองกำลังจะมีงานเทศกาลใช่ม๊า...ข้าก็เลยสงสัยว่า...ข้าจะไปด้วยได้หรือเปล่าน้า....”   อ้อ...ทำเป็นพูดอ้อมค้อม...ที่แท้ก็อยากไปงานเทศกาลสินะ

มือใหญ่วางถ้วยข้าวสวยลงบนโต๊ะก่อนจะพยายามชักสีหน้าไม่สบอารมณ์ซึ่งมันคงจะทำให้คนทั้งปราสาทถึงกับหนาวๆร้อนๆ แต่เจ้าคนที่เขาอยากให้กลัวกลับไม่ได้รับรู้ถึงความไม่พอใจที่เขาปล่อยออกไปนั่นเลย ใบหน้ามนยังคงจ้องเขาด้วยประกายวิ้งวับอย่างมีความหวัง ทำเอามือใหญ่ถึงกับกำแน่นขึ้นมาอย่างชักจะโมโหจริงๆ

“ห้ามไป...คนที่ไม่ใช่มัตสึโมโตะอย่างเจ้าไม่มีสิทธิ์เข้าไปในศาลเจ้า...ถ้าเข้าใจที่ข้าพูดแล้วก็จงอยู่อย่างสงบเสงี่ยมแต่ในปราสาทนี่ซะ อย่าให้ข้าเห็นว่าเจ้าฝ่าฝืนคำสั่งของข้าออกไปเที่ยวเล่นเชียวล่ะ...เจ้าคงรู้นะว่าโทษของมันคืออะไร”   นัยน์ตาคมกล้าดุดันจ้องเขม็งไปที่ใบหน้ามนซึ่งสลดลง แน่นอนว่าเขาไม่ได้เห็นใจหรือสงสาร  เจ้าตัวน่ารำคาญแบบนี้พาไปด้วยก็เกะกะเปล่าๆ เขาเองก็มีหน้าที่ต้องดูแลความสงบเรียบร้อยถึงแม้จะเป็นในงานรื่นเริงแบบนั้นก็ตาม คงไม่มีเวลาจะมาดูแลเจ้าเด็กนี่ได้หรอก

“แต่ข้า...”   ใบหน้ามนพยายามจะหาข้ออ้างแต่เสียงทุ้มก็เอ่ยออกมาด้วยความเด็ดขาด

“ไม่มีแต่”   ใบหน้าคมส่งรังสีดำทะมึนออกไปกดดันให้อีกฝ่ายเชื่อฟัง...แต่ก็นะ...ถ้าเจ้าเด็กตรงหน้ายอมเชื่อฟังแต่โดยดี ท่านแม่ทัพแห่งตะวันตกก็คงไม่ต้องเหนื่อยสู้รบด้วยมาจนถึงตอนนี้หรอก

ใบหน้าสวยๆนั่นกำลังขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างไม่พอใจแถมบ่นขมุบขมิบอะไรบางอย่าง แน่นอนว่าเขาไม่จำเป็นต้องฟังก็รู้ว่าคงจะกำลังก่นด่าเขาอยู่แน่ที่ไม่ยอมตามใจ...เห็นแล้วมันน่านัก

ท่านแม่ทัพแห่งตะวันตกเองก็จ้องกลับไปอย่างไม่ลดราวาศอกเช่นกันไม่ว่านัยน์ตาสีมรกตนั่นจะพยายามกดดันให้ปล่อยตัวเองไปแค่ไหนก็ตาม...คงต้องบอกว่าตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะเคยเจอเป็นคนแรกนี่แหละที่กล้าต่อล้อต่อเถียงกับเขาขนาดนี้...ทั้งๆที่ใครๆต่างก็กลัวเขาจนหัวหดแต่เจ้าเด็กนี่กลับกล้าดื้อรั้นกับคนอย่างเขา...ไม่รู้ว่าเลี้ยงมายังไงนะบ้านใหญ่ของตระกูลโกคุเดระนั่น เป็นแบบนี้กันทุกคนเลยหรือเปล่า?


ถ้าใช่...เขาก็ชักจะไม่แปลกใจที่พวกคามาคุระจะหลงใหล...


ใบหน้าคมผงะไปกับความคิดของตัวเอง...หลงใหล?...หลงใหลอะไรกัน?...ไอ้ความดื้อรั้นแบบนี้มันน่าขยี้ให้ตายคามือต่างหาก!

ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารก่อนจะก้าวพรวดๆออกไป ทำเอาคนที่อุตส่าห์กดดันอยู่ตั้งนานได้แต่งงกับพฤติกรรมของอีกฝ่าย ใบหน้ามนมองตามแผ่นหลังในยูกาตะสีน้ำเงินเข้มนั่นไปอย่างไม่พอใจ

อะไรล่ะ...แค่ไม่ใช่คนของมัตสึโมโตะก็เข้าไม่ได้หรือไง? โกหกชัดๆ เพราะเมื่อกลางวันเขายังเห็นอยู่เลยว่ามีซามูไรที่ปักตราของตระกูลที่อยู่ในแถบเอโดะเดินอยู่ในศาลเจ้านั้นน่ะ! ไม่อยากให้เขาไป จะกีดกันเฉพาะเขาคนเดียวก็บอกมาเถอะ!

“ฮึ่ม....”   ริมฝีปากสีระเรื่อเม้มแน่น...ถ้าบอกเขาดีๆว่ามันมีอันตรายหรือคนมากมายเกินไปหรืออะไรก็แล้วแต่เขายังจะพอยอมฟังเหตุผลอยู่บ้างเพราะเขาก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว...แต่พอถูกกีดกันด้วยเหตุผลไม่เข้าท่าแบบนี้ความดื้อดึงในสายเลือดมันก็เหมือนจะเต้นตุบๆขึ้นมาทันที

หนอย...ห้ามกันดีนักใช่ไหม? ได้...แล้วข้าจะทำให้ท่านเห็นว่าท่านห้ามคนอย่างข้าไม่ได้หรอก!











ร่างโปร่งบางก้าวขาตึงตังกลับไปยังห้องของตน ใบหน้ามนเหลือบซ้ายแลขวาก่อนจะปิดประตูบานเลื่อนทุกบานที่จะมองเห็นจากข้างนอกได้  ขาเรียวในฮากามะสีดำตรงดิ่งไปยังหีบเสื้อผ้าที่ขนมาจากอิสุด้วย  มือบางค่อยๆเปิดมันออก  รอยยิ้มซุกซนปรากฏบนใบหน้ามนทันทีที่มองเห็นชุดที่ซุกอยู่ก้นหีบ

ดีนะที่เอามาด้วย...

นัยน์ตาสีมรกตทอดมองกิโมโนสีม่วงอ่อนที่มีลวดลายซากุระสวยสดใสสมกับที่เป็นกิโมโนที่เอาไว้ใส่ให้เด็กผู้หญิง...หึๆๆ...ผู้ชายป่าเถื่อนไร้ความละเอียดอ่อนอย่างท่านน่ะ แยกไม่ออกแน่ว่านี่คือข้า!

ใบหน้ามนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนจะดึงกิโมโนสีม่วงอ่อนตัวนั้นออกมาจากหีบตามด้วยเครื่องประดับผมและโอบิ...กล่องสีดำใบเล็กๆที่ใส่เครื่องสำอางเอาไว้ที่อยู่ก้นหีบก็ถูกยกออกมาเช่นกัน...ก็อย่างที่บอกแหละว่าเขาเองต้องแต่งชุดเด็กผู้หญิงเพื่อเข้าร่วมงานบวงสรวงเทพเจ้าตามธรรมเนียมของอิสุเพราะเป็นหลานชายคนเล็กอยู่นานจนฮายาโนะหลานสาวตัวจริงเกิดมาทำหน้าที่นี้แทนนั่นแหละ เขาถึงได้คุ้นเคยกับชุดพวกนี้...ถึงแม้ว่าชุดบวงสรวงสีแดงนั่นมันจะอลังการกว่านี้มากก็ตาม

ใบหน้าซุกซนแอบชะเง้อชะแง้ลอบมองลงไปที่ด้านหน้าปราสาท จนในที่สุดม้ากลุ่มสุดท้ายก็ออกไปจนได้...ฮึ! เจ้าท่านแม่ทัพนั่นคงจะคิดว่าเขางอนจนปิดประตูหน้าต่างไม่ยอมพูดคุยกับใครสินะ ถึงได้ไม่ให้ใครมาคอยกวนเขาเพราะกลัวเขาจะรบเร้าขอไปด้วย...เอาเถอะ...เดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้ารู้ถึงศิลปะการแต่งหน้าขั้นสูงของอิสุให้เอง!

ร่างโปร่งบางตรงรี่ไปนั่งอยู่หน้ากระจกก่อนที่แป้งเนื้อละเอียดจะถูกเกลี่ยลงไปบนแก้มใส  ใบหน้าที่ได้รูปอยู่แล้วดูสวยหวานละมุนละไมขึ้นมาทันทีที่มีเครื่องสำอางแต่งแต้ม  แผ่นชาดสีแดงถูกริมฝีปากคาบเอาไว้ก่อนจะกดลงไปให้กลีบปากอวบอิ่มดูน่าสัมผัสขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า  เขาใช้เวลาไม่นานใบหน้าใสๆก็เปลี่ยนไปเป็นใบหน้าของสาวน้อยอย่างที่ใครๆก็คงจำไม่ได้แน่นอนว่านี่คือ โกคุเดระ เรน นายน้อยแห่งอิสุ!

ผมยาวสีน้ำตาลที่มัดไว้อยู่เสมอถูกปล่อยให้สยายเต็มแผ่นหลัง เครื่องประดับผมรูปดอกไม้เล็กๆถูกติดลงไปให้ดูสมเป็นผู้หญิงยิ่งกว่าเดิม ถึงแม้นัยน์ตาสีมรกตจะยังคงไว้ซึ่งแววซุกซนแต่รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปคงไม่มีใครจำเขาได้แน่

มือบางหยิบกิโมโนมาเปลี่ยนด้วยความคุ้นเคย...อันที่จริงเขาก็ไม่ได้คุ้นกับกิโมโนผู้หญิงที่ซับซ้อนขนาดนั้นหรอกนะ ต้องบอกว่าคุ้นกับกิโมโนตัวนี้มากกว่า เพราะว่าตอนอยู่ที่อิสุเขาก็ปลอมตัวแบบนี้แอบย่องหนีท่านพ่อออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกบ่อยๆ...แต่ก็นะ...คงต้องขอบคุณท่านแม่ด้วยที่ทำให้เขาแต่งหน้าได้ชำนาญขนาดนี้ เพราะท่านแม่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดอันดับหนึ่งในการหนีไปเล่นนอกบ้านของเขาน่ะสิ

นายน้อยแห่งอิสุจ้องมองตัวเองในกระจกก่อนจะรู้สึกคิดถึงผู้เป็นมารดา...เพราะว่าใบหน้าที่สะท้อนอยู่บนกระจกเงานั้นมันช่างคล้ายกับใบหน้าของท่านแม่นัก...ไม่ว่าจะเป็นวิธีการแต่งหน้า เขียนคิ้ว ทาปาก...เขาก็จำมาจากใบหน้าของแม่แทบทั้งนั้น











ร่างโปร่งบางเดินตัวปลิวผ่านทหารยามของปราสาทออกมาได้อย่างง่ายดาย  เพียงแค่บอกว่าตนเป็นข้ารับใช้ที่เพิ่งมาอยู่ใหม่เจ้าพวกทหารยามที่มองกันตาค้างก็ยอมปล่อยเขาไปโดยไม่ถามอะไรซักคำ

มัตสึโมโตะที่เคยหลับใหลตั้งแต่หัวค่ำกลับคึกครื้นตื่นเต็มที่ด้วยแสงไฟประดับประดามาตั้งแต่ทางเข้าปราสาทไปจนถึงตัวศาลเจ้า ขบวนแห่ที่เริ่มมาตั้งแต่ช่วงเย็นทำให้นายน้อยแห่งอิสุจำต้องเร่งฝีเท้าเพื่อที่จะได้ทันดูขบวนรถที่สวยสดงดงามนั่นในช่วงสุดท้ายก่อนที่จะเข้าสู่ศาลเจ้า ร่างโปร่งแหวกฝูงชนจนได้ไปยืนแถวหน้า ขบวนรถตระการตาทำให้ใบหน้ามนถึงกับจ้องมองด้วยความตื่นตะลึง รอยยิ้มกว้างเผยออกมาตามความสุขที่เอ่อล้นอยู่ในใจ จนขบวนรถค่อยๆเคลื่อนผ่านหน้าไป บรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะจากรอบกายยิ่งทำให้รู้สึกว่าดีจริงๆที่ตัดสินใจหนีออกมาแบบนี้

การออกร้านที่ยาวเหยียดตั้งแต่หัวถนนไปจนสุดทางขึ้นสู่ศาลเจ้าทำให้ใบหน้าสวยหันไปมองอย่างตื่นตา ร่างอ้อนแอ้นในกิโมโนสีม่วงอ่อนไหลตามฝูงชนเข้าไป ร้านรวงที่จะไม่ได้เห็นในยามปกติทำให้นัยน์ตาสีมรกตระยิบระยับไปด้วยความตื่นเต้น ไม่ว่าจะร้านของเล่นแปลกตาหรือว่าร้านขายอาหารแผงลอย บางร้านเขาก็ไม่เคยเห็นในอิสุเลยด้วยซ้ำ งานเทศกาลนี่มันดีจริงๆนั่นแหละ!

ร่างโปร่งบางชะโงกหน้ามองอ่างปลาทองอย่างหมายมั่นปั้นมือว่าคืนนี้จะตักกลับไปให้ได้ เพราะแต่ไหนแต่ไรมาเขาก็ไม่เคยตักเจ้าปลาอวบอ้วนนั่นด้วยตัวเองได้เลยสักครั้ง จะว่าเป็นเอกลักษณ์หรือเพราะความใจร้อนของคนในตระกูลโกคุเดระก็ไม่รู้ แต่คนที่มีสายเลือดเดียวกับเขานี้ก็ไม่เคยมีใครตักปลาทองสำเร็จเลยสักคน ไม่ว่าจะท่านพ่อ ท่านพี่ ท่านอา ไม่ต้องพูดถึงฮายาโนะที่มักจะผลาญกระบวยกระดาษจนแทบจะหมดร้าน แน่นอนว่าไม่ได้ปลาสักตัวเช่นกัน...เพราะงั้นคนที่มักจะตักปลาให้พวกเราพี่น้อง ก็คือท่านอาทาเคชิ

นึกถึงรอยยิ้มเย็นๆแต่ก็ใจดีนั่นขึ้นมาเลยน้า~

สองขาภายใต้กิโมโนสีม่วงอ่อนเตรียมจะก้าวขาเข้าไป แต่เสียงแกร๊งๆจากร้านข้างๆก็หันเหความสนใจของเขาไปเสียก่อน เอ๋? อะไรน่ะ? เหมือนเกมโยนห่วงเลย?  แต่นัยน์ตาสีมรกตจับจ้องร้านข้างๆอยู่ได้ไม่นาน ร้านของเล่นที่อยู่ถัดออกไปก็ดูน่าสนใจยิ่งกว่า อ๋า~ นั่นอะไรน่ะ? เขาไม่เคยเห็นในอิสุเลย?!

ร้านของเล่นในงานนี่มันน่าสนุกจริงๆ! คอยดูเถอะเขาจะไปเล่นมันให้หมดทุกร้านเลย!

อ่ะ แต่ก่อนหน้านั้น...

เด็กคนหนึ่งถือแอปเปิ้ลเคลือบน้ำตาลเดินผ่านหน้าไป...ใช่แล้ว...ถ้าเขาไปเล่นร้านของเล่นแล้วได้ของรางวัลมา มันก็ถือของกินลำบากใช่ไหมล่ะ? ร้านของกินที่เรียงรายอยู่ตรงหน้าก็น่ากินไปหมด เพราะงั้นเขาควรจะกินให้เรียบร้อยเสียก่อนแล้วค่อยไปเล่น!

หึๆๆ เรน เจ้านี่ฉลาดจริงๆ...


และแล้วแอปเปิ้ลเคลือบน้ำตาลสีแดงสดก็เป็นอย่างแรกที่เข้ามาอยู่ในมือบาง ทั้งสีสันและความหวานกรอบทำให้ริมฝีปากอวบอิ่มค่อยๆกัดกินมันอย่างเอร็ดอร่อยจนเจ้าของร้านถึงกับยิ้มแก้มปริ

เกี๊ยะไม้ที่ฝ่าเท้าเปลือยเปล่าสวมอยู่ก้าวเดินไปเรื่อยๆ เพราะปากยังกัดแอปเปิลเคลือบน้ำตาลอยู่ทำให้ตอนนี้ร่างบางทำได้แค่เหลือบมองว่ามีร้านของเล่นอะไรน่าสนใจอีกบ้าง แขนข้างที่ว่างไพล่หลังเอาไว้ก่อนจะเดินต่อไปด้วยความสบายใจโดยที่ไม่รู้เลยว่าความน่ารักสดใสของตัวเองนั้นมันเด่นสะดุดตาแค่ไหน


ผลั่ก!!


ตุ้บ!


แล้วจู่ๆแรงกระแทกที่หัวไหล่ก็ทำให้ไม้เสียบแอปเปิลที่ถืออยู่หล่นลงไปกลิ้งกลุกๆบนพื้น คนที่ยังกินมันได้ไม่ถึงครึ่งถึงกับผงะก่อนจะก้มลงไปมองอย่างเสียดาย

“เฮ้ เดินดูคนหน่อยสิ”   เสียงกรรโชกไม่ได้ทำให้ใบหน้ามนยอมละจากแอปเปิ้ลสีแดงที่แน่นิ่งอยู่บนพื้น ร่างโปร่งบางมองมันตาละห้อย...ออกจะอร่อยแท้ๆ~

“แย่จังน้า~ เดินไม่ระวังแบบนี้เดินต่อไปคนเดียวจะไหวเร้อ~ ให้พวกพี่ชายเดินด้วยดีกว่าไหม? จะได้ไม่ไปชนใครอีก”   เสียงเห่าหอนไม่ได้ทำให้นายน้อยแห่งอิสุหันมาสนใจ จนกระทั่งกลุ่มคนตัวใหญ่ที่รุมล้อมเริ่มทนไม่ไหวที่ร่างในกิโมโนสีม่วงอ่อนไม่แม้แต่จะสนใจคำยั่วยุ มือหยาบกร้านของใครสักคนจับเข้ามาที่ข้อมือบาง และมันก็ทำให้ร่างโปร่งสะบัดมันออกทันทีราวกับเป็นสัญชาตญาณที่ถูกฝึกฝนมาจนมันฝังลึกอยู่ในกายโดยที่ไม่รู้ตัว นัยน์ตาสีมรกตดุดันตวัดมองกลุ่มคนที่ยืนอยู่โดยรอบจึงเพิ่งได้รู้ว่าคนที่ล้อมตนอยู่นั้นมันพวกอันธพาลชัดๆ

“...แอปเปิลของข้า....หนอย...พวกเจ้านั่นแหละที่เดินมาชนข้า! ข้าเดินของข้าอยู่ดีๆนะ!   ใบหน้ามนยังมีหันไปมองแอปเปิ้ลเคลือบน้ำตาลอย่างเสียดายอีกแว่บหนึ่งก่อนจะตวัดกลับมาจ้องหน้าพวกอันธพาลอย่างเอาเรื่อง เขามั่นใจว่าเขาไม่ได้ไปเดินระรานใครหรือเดินไม่ระวัง เห็นอย่างนี้ร่างกายของเขาก็ถูกฝึกมาราวกับนักรบคนหนึ่งเหมือนกันนะ เพราะงั้นการที่จะเฉียดเข้าไปใกล้ใครเกินความจำเป็นนั้นแทบไม่มีทางเลย จะมีก็แต่อีกฝ่ายนั่นแหละที่จงใจหาเรื่องเขา!

“อ้าวๆ พูดจาไม่น่ารักเหมือนหน้าตาเลยนะจ้ะสาวน้อย”   มือหยาบกร้านพยายามจะลูบมาที่ใบหน้าแต่นายน้อยแห่งอิสุก็เบี่ยงตัวหลบ ใบหน้ามนงอง้ำ นัยน์ตาสีมรกตจ้องเขม็งมองอีกฝ่ายอย่างแข็งกร้าวและไม่ได้มีแววว่าจะเกรงกลัวคนที่ตัวใหญ่กว่าเท่านึงพวกนั้นเลย ทั้งๆที่ฝูงชนรอบกายต่างแหวกเป็นวงด้วยไม่มีใครอยากจะเข้ามายุ่งเกี่ยว สายตาทุกคู่ต่างมองมาอย่างหวาดๆระคนเห็นใจแต่ก็ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้ามาช่วย

“ข้าไม่ให้พวกเจ้าชดใช้ค่าแอปเปิลให้ข้าก็ดีแค่ไหนแล้ว?!   แน่นอนว่านายน้อยแห่งอิสุเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าต้องการความช่วยเหลือ ริมฝีปากที่ถูกแต่งแต้มเอาไว้ยังคงอ้าด่าอีกฝ่ายฉอดๆ เพราะตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ในอิสุนั้นไม่มีใครไม่รู้จักนายน้อยคนเล็กสุดของตระกูลโกคุเดระ จึงไม่เคยมีใครกล้าเข้ามาหาเรื่องแบบนี้ นั่นทำให้ร่างโปร่งบางไม่เคยรู้เลยว่าภายนอกนั้นอันตรายเพียงใด

“ว่าไงนะ?!   ฝ่ามือหยาบกร้านตรงเข้าจับข้อมือบางก่อนจะออกแรงบีบแล้วดึงร่างในกิโมโนสีม่วงให้เดินตาม เรี่ยวแรงมหาศาลนั้นทำให้นายน้อยแห่งอิสุตกใจนิดๆ 

“โอ๊ย! ปล่อยนะ!   ร่างโปร่งออกแรงต่อต้านขัดขืน ท่อนแขนบางพยายามสะบัดฝ่ามือที่บีบรัดนั่นให้หลุด แต่อีกฝ่ายก็มีแรงมากมายจริงๆ

“บอกให้ปล่อยไงเล่า!”   ริมฝีปากที่ถูกแต่งแต้มเอาไว้ตะโกนโวยวาย สายตาที่อยู่รอบกายต่างมองมาด้วยแววสงสารแต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วย ใบหน้ามนได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ต้องยอมรับว่าเขาสู้แรงเจ้าพวกนี้ไม่ได้เลย แต่ถ้าเป็นเรื่องการต่อสู้ระยะประชิดเขาก็เคยฝึกฝนมาบ้าง เพราะงั้นร่างโปร่งจึงตั้งใจจะใช้สิ่งที่ร่ำเรียนมา

“ง่ะ....”    ทว่า ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร ชายกิโมโนที่สอบเข้าก็ทำเอาแทบจะสะดุดหัวทิ่ม นายน้อยแห่งอิสุก้มลงไปมองตัวเองอย่างเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เขาไม่ได้ใส่ฮากามะตามปกติแต่อยู่ในชุดของอิสตรี...ปัดโธ่~ ชุดของผู้หญิงนี่มันลำบากเกินไปแล้ว! จะอ้าขาเตะก้านคอพวกมันก็ทำไม่ได้! บ้าจริงใบหน้ามนได้แต่ร้องตะโกนอยู่ในใจ

“ปล่อยข้าๆๆ!!”   ส่วนภายนอกก็ทำได้แค่สะบัดแขนอย่างเอาเป็นเอาตายกับร้องโวยวายให้คนได้ยิน.....และแล้วเสียงโหวกเหวกก็ส่งอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยเขาจนได้

“โฮ่ย....”    เสียงทุ้มเย็นเฉียบเอ่ยอยู่เบื้องหลังกลุ่มอันธพาล และแค่เสียงอันเป็นเอกลักษณ์เพียงสั้นๆคำเดียวแค่นั้นก็ทำให้ทุกอย่างหยุดลง ทุกสรรพเสียงหยุดนิ่งราวกับเวลาถูกหยุดเอาไว้ ใบหน้าโฉดชั่วของกลุ่มอันธพาลค่อยๆหันไป เช่นเดียวกับฝ่ามือหยาบกร้านที่ค่อยๆคลายจากข้อมือบางช้าๆ....

“เหวอ! ท่านแม่ทัพ!   เจ้าพวกอันธพาลร้องเสียงหลงก่อนจะวิ่งหนีแตกกระเจิงทันทีโดยที่เจ้าของชื่อ ท่านแม่ทัพนั่นยังไม่ได้ขยับตัวแม้แต่คืบเดียว

นัยน์ตาสีขี้เถ้าเย็นชาทอดมองทางที่กลุ่มอันธพาลวิ่งหนีไป ก่อนจะหันกลับมาสำรวจความเสียหายตรงหน้า.....แล้วนัยน์ตาของผู้ปกครองมัตสึโมโตะก็ถึงกับเบิกกว้างอย่างตกตะลึงเมื่อมองเห็นใบหน้าของเด็กสาวที่ถูกพวกอันธพาลเล่นงาน

“เจ้า....”   เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เพราะเด็กสาวตรงหน้าช่างชวนให้คิดถึงเจ้าเด็กจากอิสุที่ถูกขังอยู่ในปราสาทมัตสึโมโตะเสียนี่กระไร...คล้าย....คล้ายกับเรนมากทีเดียว...

“อ่ะ เอ่อ...ขะ ขอบคุณ...นะคะ...ท่านแม่ทัพ...คือ...ถ้าไม่ได้ท่าน ข้าต้องแย่แน่ๆ....”    แต่ใบหน้าเอียงอายที่ไม่กล้าสบตาเขาตรงๆกับท่าทางที่ดูเรียบร้อยอ่อนหวานแบบเด็กผู้หญิงก็ทำให้แม่ทัพแห่งตะวันตกส่ายหน้าเบาๆ...คงไม่ใช่หรอก...เพราะเจ้าเด็กเหลือขอแก่นกะโหลกนั่นต้องทำหน้าฮึ่มๆใส่เขาสิ ไม่มีทางมายืนช้อนสายตามองเขากล้าๆกลัวๆแบบนี้หรอก  อีกอย่าง  ถึงจะคล้ายกันมากแต่เด็กสาวคนนี้ก็มีใบหน้าที่ดูละมุนละไมกว่า งดงามสมเป็นผู้หญิงกว่าเจ้าเด็กจากอิสุมาก

“ถ้าไม่ได้เป็นอะไรมาก ก็กลับบ้านได้แล้ว ยิ่งดึกจะยิ่งอันตราย”    ใบหน้าคมละสายตาที่เอาแต่จ้องมองเด็กสาวก่อนจะเอ่ยออกไป....รู้ตัวอีกทีก็เผลอมองเสียนาน  ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่แต่แข็งแกร่งยิ่งกว่าใครจึงก้าวขาเดินออกไปจากตรงนั้นโดยพยายามไม่สนใจเด็กสาวอีก

“ฟู่.....”    ใบหน้ามนลอบถอนหายใจเบาๆเมื่อท่านแม่ทัพแห่งตะวันตกหันหลังเดินจากไป....หัวใจเกือบวายแล้วไหมล่ะ! ใครจะไปคิดว่าอัศวินขี่ม้าขาวที่มาช่วยเขาไว้จะเป็นเจ้าแม่ทัพใจร้ายที่กลั่นแกล้งเขาอยู่ทุกวันนั่น!

แถมสายตาที่จ้องเอาๆเมื่อกี้ก็ทำหายใจไม่ทั่วท้อง ที่เขาหลบตาไม่กล้ามองอีกฝ่ายตรงๆก็เพราะกลัวจะถูกจับได้หรอก ไม่ได้อายอะไร แถมที่ดูเรียบร้อยอ่อนหวานนี่ก็เพราะไม่กล้าจะขยับตัวไปไหน ก็ถ้าเขาเดินหรือทำท่าทางอะไรบางอย่าง เจ้าท่านแม่ทัพไร้ยางอายชอบจับผิดนั่นต้องจับได้แน่ๆว่าเป็นเขา...โธ่~ ก็ใครจะไปคิดว่าจะมาเจออีกฝ่ายเข้าเต็มๆแบบนี้ เขาอุตส่าห์หลบเลี่ยงอย่างดีแล้วเชียว  ดีนะ ที่อีกฝ่ายดูไม่ออก เขาถึงได้รอดพ้นจากการโดนทำโทษมาได้อย่างหวุดหวิด

“สงสัยวันนี้จะลางไม่ดี...กลับก่อนก็ได้...”   ริมฝีปากสีสดบ่นงึมงำกับตัวเองก่อนจะตัดสินใจก้าวขาเตรียมจะกลับปราสาท

“สายไหมไหมจ้ะ สายไหม~”    แต่แล้วเสียงร้องเรียกลูกค้าของร้านรวงต่างๆก็ทำเอาขาที่เตรียมจะก้าวออกไปนั้นถึงกับชะงัก...ง่า~ ยังไม่ได้ชิมสายไหมกับดังโงะของมัตสึโมโตะเลยนะ ข้าวโพดปิ้งกับมันปิ้งตรงนั้นก็น่ากิน แถมยังไม่ได้เล่นในร้านของเล่นซักร้านเลยด้วย...ถ้าจะกลับตอนนี้มันก็......

ใบหน้าสวยหันไปมองร้านรวงที่ยังคึกคักไปด้วยผู้คนอย่างเสียดาย แต่ถ้าอยู่แล้วอันธพาลพวกนั้นแอบดักซุ่มเล่นงานเขาอีกล่ะจะทำยังไง แต่จะให้กลับทั้งๆที่ยังไม่ได้กินของที่อยากกินมันก็....

อ่า...เอาไงดีนะ?

ใบหน้ามนหันไปหันมาอย่างลังเลก่อนที่นัยน์ตาสีมรกตซุกซนจะหันไปเห็นบรรดาพ่อแม่ที่หอบลูกจูงหลานมาเที่ยวในงานหรือบรรดาคู่รักที่ต่างเดินจับมือกัน...ไม่เห็นพวกอันธพาลจะไปหาเรื่องพวกนั้นเลย........จริงด้วย! ถ้าเขาเดินคนเดียวมันก็เป็นไปได้ที่จะเกิดอันตราย แต่ถ้าเขาไม่ได้มาคนเดียวเจ้าพวกอันธพาลนั่นคงไม่กล้ามาหาเรื่องเขาอีกแน่

“หึๆๆ”   ใบหน้ามนอมยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะรีบสอดส่ายสายตามองหาคนที่จะเดินด้วยทันที...แน่นอนว่าไม่ใช่ใครก็ได้แต่ต้องเป็นคนที่เขารู้จักและปกป้องเขาได้เพียงแค่ปรายตามอง....และคนที่จะทำให้อันธพาลวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนแบบนั้นได้ก็มีแค่....



“........”   นัยน์ตาสีขี้เถ้าของแม่ทัพแห่งตะวันตกเหลือบมองร่างอ้อนแอ้นในกิโมโนสีม่วงอ่อนลายดอกซากุระที่กำลังเดินตามหลังเขาต้อยๆ จะว่าบังเอิญเดินกลับบ้านทางเดียวกับทางที่เขาจะไปตรวจตราความเรียบร้อยพอดีมันก็ไม่น่าใช่ เพราะนี่ก็ครึ่งชั่วยามมาแล้วที่เด็กสาวเดินตามเขาไม่ห่าง แถมใบหน้าน่ารักนั่นยังมองนู่นมองนี่ราวกับกำลังเพลิดเพลินกับงานเทศกาลมากกว่าจะมองเพื่อหาทางกลับบ้านเสียอีก

“นี่เจ้า...จะมาเดินตามข้าทำไม? ยังไม่กลับบ้านอีกรึ?”   แล้วในที่สุดคนความอดทนต่ำก็เอ่ยถามเสียงทุ้ม  แปลกใจตัวเองอยู่ไม่น้อยเหมือนกันที่เขาไม่นึกรำคาญเด็กสาวจนใช้กำลังไล่ตะเพิดไป ก็ขนาดทหารรับใช้เขายังไม่ยอมให้ติดตามมาสักคน นับประสาอะไรกับเด็กผู้หญิงที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าคนนี้

“คือว่า...ข้ายังอยากเดินดูอะไรอีกหน่อย...แต่ข้าก็กลัวอันธพาลพวกนั้น...เลยอยากจะขอเดินตามท่านอยู่ห่างๆได้ไหม...ข้าสัญญาว่าจะไม่รบกวนท่าน...นะคะ...ท่านแม่ทัพ....”   แล้วคำพูดตรงไปตรงมาของเด็กสาวก็ทำเอาชายชาติทหารถึงกับชะงักไปน้อยๆ ยิ่งผนวกกับนัยน์ตากลมโตที่ช้อนขึ้นมองเขาอย่างเว้าวอนและร่างกายของอิสตรีที่ดูอ่อนแอมันก็ทำให้สัญชาตญาณที่อยากจะปกป้องของผู้ชายเอ่อล้นขึ้นมา

“ตามใจ...”   เสียงทุ้มเอ่ยออกไปอย่างไม่เป็นตัวเองนัก  สองแก้มรู้สึกร้อนผ่าวก่อนที่เจ้าของปราสาทมัตสึโมโตะจะเสสายตาไปมองร้านรวงข้างหน้าแล้วก้าวขาเดินต่อไป  จู่ๆหัวใจที่ตายด้านมานานก็เต้นแรงจนรับรู้ได้...น่าแปลกใจ...น่าแปลกใจจริงๆ...ทั้งๆที่ปกติก็มีผู้หญิงมาให้เลือกมากมาย ทั้งท่านหญิงสูงศักดิ์ ทั้งสาวชาวบ้านที่สวยจัดจ้าน แต่เขากลับไม่เคยชอบพอใคร ไม่เคยตกลงปลงใจกับใคร ไม่เคยใจเต้นแรงกับใครแบบนี้มาก่อน  เพราะคิดมาตลอดว่าว่าผู้หญิงนั้นเรื่องมาก อ่อนแอ น่ารำคาญ มีไว้ก็เป็นภาระเปล่าๆ

แต่เขากลับไม่รู้สึกรำคาญท่าทางที่ไร้เดียงสาแต่ก็อยากรู้อยากเห็นของเด็กนั่นเลย...ตรงข้าม...มันกลับน่ามองจนละสายตาไปไม่ได้เลยต่างหาก

เพียงแต่...มันน่าเจ็บใจ...ที่เขาดันชอบใบหน้าที่คล้ายกับเจ้าเด็กเหลือขอที่ป่านนี้คงจะงอนตุ๊บป่องอยู่ในปราสาทนั่นไปเสียได้...


ใช่...ที่เขายอมให้เด็กสาวขนาดนี้...ก็เพราะว่าเด็กสาวมีส่วนที่คล้ายกับ...เรน










.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

โปรดติดตามต่อไป...






อ๊ากกกกกก ตัดมาครึ่งตอนก่อนค่ะ เพราะที่เหลือเขียนไม่ทันถถถถถ คือจะรอให้ครบตอนก็คงหมดวันนี้ไปก่อนแน่5555 คุณกวางตรวจไซต์ก่อสร้างรัวๆมากช่วงนี้ เหนื่อยสลัดผัก กลับมาก็สลบเหมือดตลอด ^ ^” แต่จะรีบปั่นที่เหลือมาลงให้ไวเลยน้า~~

เอาละ  มาถึงวาระแห่งชาติของเราก่อน


สุขสันต์วันเกิดน้าหนูเลน~~~


อีกไม่กี่วันซีซั่นสองก็จะฉายแบ้ว ขอให้เป็นเจ้าหญิงถูกชิงตัวไปมา เอ้ย ขอให้เป็นพระเอกที่มีแต่คนรักเยอะๆเลยนาลูก =w= อยู่เป็นขวัญและกะลังใจให้มี๊ได้โม่ยต่อไปย์ *q*b ขอให้คนแก่รักคนแก่หลงนาลูก :v


แล้วเจอกันอีกครึ่งที่เหลือในเร็ววัน5555 ขอบคุณที่ยังติดตามกันอยู่นะคะ ฮือออออ คุณกวางแม่งออกทะเลไปไกล กว่าจะวกกลับมาได้5555 >////<





4 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ20 เมษายน 2560 เวลา 06:21

    รอตอนต่อค่ะ>_<

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ6 พฤษภาคม 2561 เวลา 07:32

    ว้ายยยย แล้วอย่างงี้ถ้าถูกจับได้หนูเรนจะโดนอารายน้าาาาา
    สนุกและน่ารักมากคะ ฟิน...รออยู่นา

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ5 ธันวาคม 2561 เวลา 11:00

    ปักๆรอๆ งื้อลุ้นมากเลย ถ้าถูกจับได้ทีนี้จะโดนขังไว้ที่ไหนน้าาา

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ2 กรกฎาคม 2562 เวลา 12:38

    ลุ้นๆ

    ตอบลบ