Attack
on Titan.feat KHR Au Fic [8059 , Levi x Eren] Ai Kotoba : 06.2
For
HBD.Hayato
:
Attack on Titan feat. KHR Gintama Psycho pass Fanfiction Au
:
8059 , Levi x Eren , Kogami x Ginoza , Takasugi x Katsura
:
Period Drama
:
NC-17
คำเตือน :
เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
นัยน์ตาสีมรกตทอดมองใบหน้าของตัวเองในกระจกก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ...ทั้งๆที่เขาได้ในสิ่งที่ต้องการมาแล้วแต่ทำไมไม่ดีใจเลยนะ?
แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีความคิดที่ว่าจะสละบทนกกระสาให้กับเรน
เพราะรู้ดีว่ามันจะเป็นการดูถูกเพื่อนเพียงหนึ่งเดียวของเขา...นอกจากนั้นคงจะทำให้คนที่เชื่อมั่นจนยกบทนี้ให้เขาต้องเสียความรู้สึกด้วย
ทางเดียวที่ทำได้คือไปพูดกับเรนให้รู้เรื่อง
เขาจะไม่ยอมเสียเพื่อนไปเพราะเรื่องแบบนี้แน่
ร่างบอบบางลุกขึ้นยืนด้วยสายตาแข็งกร้าวตรงข้ามกับความงดงามของใบหน้า
คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายแล้วที่ “จันทร์ข้างขึ้น” จะถูกแสดงที่โรงละครและเขาก็คงจะได้เจอกับเรนที่นั่น...ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง
ต้องกลับมาเป็นเหมือนเดิม...ก่อนที่จะเริ่มซ้อมเรื่องนกกระสากับพญาเหยี่ยวกันอย่างจริงจังในวันพรุ่งนี้
ฝ่าเท้าสีขาวสอดเข้าไปในรองเท้าเกตะ
แสงแดดสีส้มฉาบไล้ไปทั่วลานหินของศาลเจ้า อีกไม่นานลานนั่นก็จะได้เวลาหลับใหลหลังจากที่ต้องรองรับผู้คนมาทั้งวัน
ต่างจากที่ที่เขากำลังจะไปเพราะมันเพิ่งจะลืมตาตื่น
ร่างบอบบางยังคงใช้บันไดหินด้านหลังในการลงไปยังโรงละครคาบุกิ
แต่รองเท้าเกตะส่งเสียงก๊อกๆอยู่ได้ไม่กี่ครั้งมันก็เงียบไปเพราะสองขาหยุดนิ่งอยู่กับที่
“
ไง?” และร่างสูงใหญ่ที่ยืนกอดอกพิงเสาโคมไฟหินอยู่ตรงบันไดก็คือสาเหตุที่ทำให้เขาต้องหยุด
รอยยิ้มกวนประสาทที่ส่งมาพร้อมเสียงทักนั่นคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้บ้าทายาทเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลยามาโมโตะ
“
มีอะไร?!”
เสียงห้าวๆตอบกลับไปด้วยใบหน้างอหงิก เขาไม่ด่าให้ก็บุญแล้ว มืดค่ำป่านนี้ยังจะมารังควาญเขาอีกหรือไงนะเจ้าบ้านี่
“
ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากเห็นหน้าเจ้า”
นึกว่าจะมาต่อว่าเขาเรื่องของเรนเสียอีก
ใบหน้าสวยสะบัดหนีไปอีกทางทันที
“ฮึ่ม....ถ้าอยากเห็นหน้าข้าละก็
ไปซื้อบัตรแล้วก็ไปดูในโรงละครเลยไป!”
“วันนี้ข้าต้องไปทำธุระ
เลยอยู่ดูเจ้าไม่ได้” ดาบที่กระชับอยู่ในมือแทนที่จะคาดอยู่ที่เอวบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าธุระนั้นคืออะไร
“อวยพรให้ข้าหน่อยสิโกคุเดระ” น้ำเสียงอ้อนๆทำให้นัยน์ตาสีมรกตแอบเหลือบกลับมามอง
ถึงจะแปลกใจที่อีกฝ่ายไม่พูดเรื่องของเรนเลยแต่มันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขาที่จะต้องไปเข้าใจความคิดบ้าๆของเจ้ายามาโมโตะนี่
“ฮึ!
ถ้าเจ้าอยากได้พรละก็ เดินขึ้นไปบนศาลเจ้านู่น แต่ถ้าเจ้าอยากได้คำด่าค่อยมาหาข้า
เจ้าบ้า!” หลังจากด่าเสร็จร่างบอบบางก็สะบัดกายเดินลงบันไดไปทันทีปล่อยให้นัยน์ตาสีเปลือกไม้ทอดมองตามด้วยรอยยิ้มน้อยๆบนใบหน้า
“หึ....”
น่ารักจังเลยน้า....ท่าทางแบบนี้ของเจ้านี่แหละที่ข้าอยากเห็น
พอได้ข่าวเรื่องบทนกกระสาเขาก็นึกว่าจะนั่งซึมเพราะผิดใจกับเรนเสียอีก...แต่โกคุเดระยังด่าเขาได้แบบนี้แสดงว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก...ไม่สิ...ไม่ใช่ว่าไม่เป็นอะไร...แต่คนที่เขาเลือกคนนี้เข้มแข็งกว่าใครๆต่างหาก
เสียงก๊อกๆของรองเท้าเกตะที่กระทบบันไดหินเงียบหายไปเมื่อร่างบอบบางขยับกายมาหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ข้างทาง
แผ่นหลังในกิโมโนสั้นสีขาวเอนแนบไปกับลำต้นขรุขระให้มากที่สุดเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายสังเกตเห็น
ใบหน้าสวยภายใต้กรอบผมสีเงินรอจนร่างสูงใหญ่ในกิโมโนสีดำที่ปักตราตระกูลยามาโมโตะเดินผ่านไป
นัยน์ตาสีมรกตจึงค่อยๆปิดลง
สองมือยกขึ้นมากอบกุมกันเอาไว้ที่หน้าอกก่อนจะอธิษฐานต่อเทพยดาฟ้าดิน
อธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวง อธิษฐานด้วยหัวใจของข้าทั้งดวง...ขอให้ยามาโมโตะปลอดภัย…
นัยน์ตาสีมรกตเปิดขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจเบาๆ...ทำไมเขาจะไม่รู้สึกหงุดหงิดตัวเองที่ไม่สามารถบอกอีกฝ่ายออกไปตรงๆได้ว่าเป็นห่วง...
จริงอยู่ที่คงจะบอกว่าห่วงแบบคนรักไม่ได้
แต่จะห่วงแบบเพื่อน ห่วงแบบกลัวว่าคู่แข่งจะหายไป
หรือจะห่วงแบบไหนก็มีข้ออ้างตั้งเป็นร้อยเป็นพันแต่เขากลับพูดมันออกไปไม่ได้สักอย่าง...ดีแต่ทำตัวแย่ๆ
พูดออกไปแต่เรื่องร้ายๆ แล้วมันจะแปลกอะไรถ้ายามาโมโตะจะหันไปเลือกเรน
ริมฝีปากสีสดเม้มแน่นอย่างเจ็บใจในตัวเอง
นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความกังวลทอดมองตามแผ่นหลังสีดำที่เดินลงบันไดห่างไกลออกไปเรื่อยๆ...สุดท้ายแล้วแม้แต่รอยยิ้มอวยชัย...เขาก็ไม่ได้ให้อีกฝ่ายไป
นี่ถ้ายามาโมโตะเป็นอะไรขึ้นมา
คนที่ต้องเสียใจไปจนวันตายก็คงจะเป็นเขาเอง...
เสียงก๊อกๆของรองเท้าเกตะกลับมาดังก้องกังวานอีกครั้ง...และนั่นก็ทำให้ใบหน้าคมเผยรอยยิ้มน้อยๆออกมา
ร่างสูงใหญ่ของผู้นำตระกูลยามาโมโตะคนต่อไปยังคงก้าวขาลงบันไดไปเรื่อยๆ...เขาไม่จำเป็นต้องหันกลับไปมองก็รู้ว่าโกคุเดระที่น่าจะเดินนำเขาไปถึงไหนต่อไหนแล้วกลับเพิ่งจะเดินตามอยู่ข้างหลัง...โกคุเดระอาจจะไม่รู้ว่าหูของเขาดีขนาดไหน
ถึงจะห่างไกลออกมาแต่ว่าเสียงรองเท้าที่ดังอย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางผืนป่ายามเย็นแบบนี้มีหรือเขาจะไม่รู้ว่าโกคุเดระแอบหยุดอยู่ที่ไหนสักที่...รอให้เขาเดินผ่านหน้าไป
แล้วก็เฝ้าอธิษฐานให้เขาปลอดภัยอยู่ข้างหลัง...
นั่นแหละ
คนปากไม่ตรงกับใจที่เขาหลงรัก...
เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วทั้งโรงละครคานามารุสะเมื่อการแสดงรอบสุดท้ายของเรื่องจันทร์ข้างขึ้นปิดฉากลงด้วยดี
ถึงวันนี้ใครต่อใครจะแปลกใจไปตามๆกันก็เถอะที่เห็นว่าตัวนางของทั้งสองรอบมีเพียงโกคุเดระ
ฮายาโตะคนเดียว
เพราะจนแล้วจนรอดเรนก็ไม่กลับมา...
ใบหน้าสวยที่ยังมีเครื่องสำอางค์แต่งแต้มอยู่ครบถอนหายใจเบาๆให้กับกระจกเงา
คืนนี้เขาต้องขึ้นแสดงทั้งสองรอบซึ่งมันก็ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงของเขาหรอก
เพียงแต่...เขากำลังเป็นห่วงเรนว่าจะเป็นอะไรมากหรือเปล่า...ที่ผ่านมาก็ใช่ว่าเด็กคนนั้นจะไม่เคยเจอเรื่องทุกข์ใจ
แต่ต่อให้จะเศร้าหมองขนาดไหน เรนก็ไม่เคยทิ้งการแสดงไปแบบนี้
ริมฝีปากสีแดงเม้มแน่นในขณะที่สบประสานสายตาแน่วแน่ของตัวเองในกระจก
สงสัยว่าคืนนี้เขาคงต้องบุกไปถึงเขตก่อสร้างเสียแล้ว
ตอนแรกว่าจะรอให้เรนใจเย็นแล้วค่อยคุยกัน
แต่ถ้าเด็กคนนั้นเล่นหายไปแบบนี้มันก็มีแต่จะยิ่งน่าเป็นห่วงจนรอต่อไปไม่ได้
มือบางวางปิ่นปักผมที่เพิ่งถอดออกมาลงที่หน้ากระจก
แต่ยังไม่ทันที่จะได้เปลี่ยนเสื้อผ้าหรือว่าลบเครื่องสำอางออกไปจากใบหน้า
เสียงประตูเลื่อนที่ดังอยู่ข้างหลังก็ทำให้ต้องหันไปดู
“โกคุเดระ...เรนให้ข้ามาเรียกเจ้า
เค้าอยากคุยกับเจ้าน่ะ บอกว่าจะรออยู่ที่ห้องรับรอง” และแล้วสิ่งที่เพื่อนนักแสดงคนนั้นบอกก็ทำให้นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้าง
เรนกลับมาแล้วงั้นเหรอ?
ทั้งความกังวลและความเป็นห่วงทำให้ร่างบอบบางลุกขึ้นทันที
จิตใจที่จดจ่ออยู่แต่กับเรื่องของเรนมาตั้งแต่เมื่อกลางวันทำให้สองขาก้าวพรวดๆไปหาเพื่อนรักโดยไม่ติดใจสงสัยอะไร
ไม่ไตร่ตรองหรือระแวงดั่งเช่นที่เป็นยามปกติ
สายตาหลายคู่เหลือบมองไปที่ร่างบอบบางของโกคุเดระ
ฮายาโตะซึ่งลากกิโมโนหนาหนักที่ใช้ในการแสดงเดินไปตามระเบียงยาวเหยียดด้วยความแปลกใจ
เพราะไม่บ่อยนักที่ดาวเด่นของโรงละครจะออกมาด้วยชุดเต็มยศทั้งๆที่การแสดงจบไปแล้วแบบนี้
จากที่ว่าจะแยกย้ายกันกลับบ้านเลยต่างรีๆรอๆกันอยู่แถวนั้น
ร่างบอบบางยังคงก้าวเดินต่อไปโดยไม่สนใจสายตาของคนรอบกาย
เพราะตอนนี้ในหัวเขามีแค่เรื่องของเรนเท่านั้นและมันก็ทำให้คนที่ใจร้อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งร้อนใจเข้าไปใหญ่
ขอแค่ได้เห็นว่าเรนยังปลอดภัยดี ขอแค่ได้เห็นว่าเด็กคนนั้นไม่ได้เป็นอะไร...
ครืด!!!
ประตูเลื่อนถูกเปิดออกโดยไม่มีพิธีรีตองใดๆ
เสียงใสเรียกชื่อเพื่อนรักตั้งแต่ประตูยังไม่ทันจะเปิดดี
“เรน! เอ๊ะ?”
เพราะฉะนั้นเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งรออยู่กลางห้องไม่ใช่เพื่อนสนิท
ร่างบอบบางจึงชะงักงันทันที
ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันล่ะ?
เขาเข้าผิดห้องงั้นเหรอ? แต่ห้องรับรองของที่นี่ก็มีแค่ห้องเดียว
ไม่มีทางที่เขาจะมาผิดห้องแน่!
“ไงฮายาโตะจัง?
มาคุยกับข้าสักหน่อยสิคืนนี้...” อีกฝ่ายเรียกชื่อเขาอย่างชัดเจนเพราะงั้นไม่ใช่ความบังเอิญแน่ๆ
แล้วไหนจะสายตาโลมเลียนั่นอีก...อย่าบอกนะว่าหมอนี่คิดจะซื้อตัวเขา?
นัยน์ตาสีมรกตเหยียดมองร่างสูงใหญ่ที่ดูไม่น่าไว้ใจนั่นนั่งเอกเขนกในท่าทางสบายๆ
มือถือพัดโบกไปมาดูท่าทางเจ้าสำราญ
ใบหน้าราวกับจิ้งจอกนั่นบ่งบอกว่ายังอยู่ในวัยกลางคน...ยังมีแรงมีพลังไม่เหมือนพวกตาแก่หัวล้านหื่นกามที่เขาแค่ยันโครมสักทีสองทีก็ลุกไม่ขึ้น...เพราะงั้นสองขาจึงก้าวถอยหลังอย่างรับรู้ได้ถึงอันตรายที่ชายคนนั้นปล่อยออกมา
เขาไม่น่าจะสู้แรงหมอนั่นได้...เพราะงั้นรีบหนีดีกว่า
ตุ้บ!...
แล้วในขณะที่ขาเกือบจะก้าวผ่านบานประตู
แรงผลักที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนก็ดันเขากลับเข้าไปในห้องอีกจนได้ ความหนักของกิโมโนทำให้ร่างทั้งร่างล้มลงพื้นอย่างง่ายดาย
ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองคนที่ยืนเหยียดยิ้มขวางอยู่ที่ประตูก่อนที่นัยน์ตาสีมรกตจะต้องเบิกกว้าง...เพราะคนคนนั้นก็คือเพื่อนนักแสดงที่เป็นคนไปเรียกตัวเขามานั่นเอง
“เจ้าหลอกข้า!” หลอกเขาว่าเรนเป็นคนเรียก ใช้ประโยชน์จากความกังวลของเขาจนเขาไม่ทันไตร่ตรองให้ดีก่อนว่านี่มันคือกลลวง!
“ก็ช่วยไม่ได้นี่นา...ข้าไม่ได้หน้าตาดีเหมือนพวกเจ้าเลยขายตัวเองไม่ได้...เพราะงั้นก็ขอขายพวกเจ้าแทนก็แล้วกัน
คุณอาคนนี้ให้ราคาดีเสียด้วย ทำไมเจ้าไม่ลองรับพิจารณาดูล่ะ เผื่อจะได้สบายอย่างเรนมัน
ฮ่าๆๆ” ใบหน้าสวยได้แต่กัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจ อยากจะลุกไปต่อยเจ้าคนหลอกลวงที่ยืนหัวเราะร่านั่นเสียหน่อยแต่อีกฝ่ายก็ยักไหล่แล้วเดินหนีไป
“เดี๋ยว!
อ๊ะ?!”
เขาตั้งใจจะลุกตามไปทว่าแรงกระชากที่ข้อมือกลับทำให้ร่างทั้งร่างเซถลา
ก่อนจะรู้ตัวอีกที...ร่างบอบบางก็นอนราบอยู่กับพื้นเสื้อทาทามิไปแล้ว
“อ๊ะ?
ปล่อยข้านะ!” เงาร่างสูงใหญ่ที่ทาบทับลงมานั้นทำให้ทุกอย่างมืดไปหมด
สองมือถูกกดลงกับพื้น
ร่างแข็งแกร่งที่คร่อมทับอยู่ที่ต้นขาทำให้แค่จะดิ้นยังทำแทบไม่ได้
แรงกดทับมหาศาลบวกกับกิโมโนเต็มยศที่ใช้ในการแสดงทำให้แรงขัดขืนแทบจะไม่มีผลอะไร
“ไหน...ให้ข้าดูหน้าเจ้าชัดๆซิ...อืม...สวยจริงอย่างที่เค้าล่ำลือกัน...” ปลายพัดเชยคางมนขึ้นก่อนที่สายตาโลมเลียนั่นจะพินิจพิจารณาอย่างถี่ถ้วน
ริมฝีปากสีแดงเม้มแน่นอย่างเจ็บใจที่ขืนแรงอีกฝ่ายไม่ไหว
จะว่าไปเขาไม่เคยเห็นหน้าผู้ชายคนนี้มาก่อนเลย
หรือจะเป็นคนที่มาจากเกาะใหญ่ของญี่ปุ่นเลยไม่รู้ว่าหากจะแตะต้องเขาก็ต้องเตรียมใจเอาไว้บางส่วน
เพราะเขาเป็นคนรู้จัก เป็นเพื่อนสมัยเด็กของยามาโมโตะ ทาเคชิ
ตาลุงบนเกาะนี้เลยค่อนข้างเกรงใจ ถ้าเขาไม่ยอมละก็
ไม่มีใครกล้าใช้กำลังบังคับเขาได้แบบนี้หรอก ไม่งั้นคิดหรือว่าเขาจะรอดมาจนถึงป่านนี้
“ทั้งสวยทั้งบริสุทธิ์แบบนี้ข้ายินดีจ่ายไม่อั้นเลยนะ...อ่ะ...แต่เรื่องเงินไว้เจรจากันหลังจากนี้ก็ได้”
แล้วจู่ๆคอกิโมโนก็ถูกกระชากให้เปิดออกท่ามกลางความตื่นตะลึงของเขา สองมือยิ่งดิ้นรนขัดขืนหนักกว่าเก่า
แต่ไม่ว่าจะทั้งทุบทั้งตีทั้งเตะทั้งต่อย ฝ่ามือที่ช่ำชองนั่นก็คว้าไว้ได้หมด
“ปล่อยข้านะ!
ข้าไม่คิดจะเจรจาอะไรกับเจ้าทั้งนั้น ข้าไม่ได้ขายตัว!”
ริมฝีปากสีสดตะโกนโวยวายแต่อีกฝ่ายกลับยิ้มชอบใจอย่างไม่ยี่หระกับการกระทำของตัวเอง
ยิ้มอย่างไม่สนใจว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำลงไปนั้นมันทำให้คนอีกคนเหมือนตกอยู่ในนรก
“บอกให้ปล่อย!!”
ฝ่ามือบางพยายามจะตบเข้าที่ใบหน้าทว่ามันกลับถูกกดลงกับพื้น
หัวใจดวงน้อยที่ไม่เคยกลัวอะไรกลับเต้นระรัวอย่างหวาดกลัวสุดชีวิต
“หึๆ
จะดิ้นข้าก็ไม่ว่าหรอกนะ ฮ่าๆๆ”
เสียงหัวเราะอย่างชอบใจยิ่งทำให้น้ำตาพาลจะไหล
ใบหน้าราวกับจิ้งจอกนั่นก้มลงไปซุกไซร้อยู่ที่ซอกคอทำให้รู้สึกขยะแขยงจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่
เขาก็แค่รักในการแสดงแล้วทำไมจะต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ด้วย
เขาก็แค่อยากจะเก็บร่างกายเอาไว้ให้กับคนที่เขารัก แล้วทำไม...ทำไม!!
น้ำอุ่นๆไหลจากดวงตาลงมาตามสองแก้มด้วยความรู้สึกขมขื่น
ในหัวคิดถึงแต่แผ่นหลังกว้างของคนที่เขามอบหัวใจให้ คนที่เขาพึ่งพาได้อยู่เสมอ
“ยามาโมโตะ......” เสียงสั่นๆหลุดออกไปโดยไม่รู้ตัว
ร้องเรียกออกไปเพราะความกลัวถึงแม้จะรู้ดีว่ายามาโมโตะไปทำงาน
ไม่มีทางจะมาช่วยเขาได้
“ฮึก...” สองมือพยายามผลักไสร่างหนาๆนั่นออกไปแต่ก็ไม่ได้ผลเลย
มันยิ่งทาบทับลงมา ฝ่ามือที่น่ารังเกียจแหวกกิโมโนจนเผยให้เห็นต้นขา
“อย่า...” เสียงห้ามยิ่งสั่นเครือขึ้นเรื่อยๆ
แต่ถึงมันจะเปล่าประโยชน์เขาก็ยังดิ้นรนต่อไป ทั้งๆที่กลัวสุดหัวใจแต่หากเขาต้านอีกฝ่ายไม่ได้...หลังจากนี้เขาก็ไม่คิดจะมีชีวิตอยู่อีก...
หากข้ามองหน้าเจ้าไม่ได้แล้ว
ข้าจะอยู่ไปทำไม...ยามาโมโตะ...
“โกคุเดระ!!” แล้วจู่ๆเสียงทุ้มที่คิดถึงก็ดังขึ้นมา
โครม!!
พร้อมๆกับประตูเลื่อนที่พังกระจายด้วยปลายดาบ
ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับพายุโหมกระหน่ำ
ตั้งแต่ร่างที่คร่อมทับเขาอยู่ถูกกระชากขึ้นไปแล้วถูกเหวี่ยงไปกระแทกผนังเสียงดังสนั่น
จนกระทั่งยามาโมโตะดึงเขาเข้าไปหาแล้วกอดเขาเอาไว้ด้วยท่อนแขนที่แสนอบอุ่นนั่น
กลิ่นที่คุ้นเคยทำให้ไหล่บางถึงกับสั่นสะท้าน
ทำนบน้ำตาแห่งความกลัวพังทลายจนสายน้ำอุ่นๆไหลเปียกกิโมโนสีดำบนแผงอกแข็งแรงไปหมด
ยามาโมโตะมาจริงๆ...ยามาโมโตะมาช่วยเขาจริงๆ....
มือบางขย๋ำคอเสื้อกิโมโนสีดำแน่นทำให้อ้อมแขนยิ่งกอดกระชับจนไม่มีพื้นที่เหลือให้ความหวาดกลัวอีก
จากที่คิดอยากจะตายแต่ตอนนี้กลับดีใจเหลือเกินที่เขายังสามารถกลับมาอยู่ในอ้อมแขนนี้ได้อีก
“โกคุเดระ...ไม่เป็นไรแล้วนะ
ชั้นมาช่วยแล้ว...”
เสียงทุ้มพร่ำกระซิบอยู่ที่ใบหูของคนที่อยู่ในอ้อมแขน
ถึงแม้ร่างบอบบางจะค่อยๆสงบลงแต่แรงสั่นสะท้านที่รับรู้ได้ก็ทำให้ใบหน้าคมถึงกับกัดฟันกรอด
นัยน์ตาสีเปลือกไม้มืดมนตวัดขึ้นมองคนที่บังอาจรังแกหัวใจของเขาด้วยจิตสังหารแบบไม่คิดจะเอามันไว้แน่
“คุณชายยามาโมโตะ...สินะ?...อ่า...ไม่เห็นจะต้องเล่นแรงแบบนี้ก็ได้นี่นา
เรามาเจรจากันดีๆดีกว่าน่า...”
ผู้ชายคนนั้นค่อยๆลุกขึ้นก่อนจะบีบไหล่ตัวเองไปมา คงจะเจ็บน่าดูละสิท่า
“ข้าคือคิอิจิ
โกซาเอม่อน ลูกชายตระกูลคู่ค้ารายใหญ่ของยามาโมโตะไง เจ้าอาจจะไม่เคยเห็นหน้าข้าเพราะข้าก็เพิ่งเคยติดตามท่านพ่อมาที่ชิโกกุเป็นครั้งแรก
วันนี้เจ้าก็เพิ่งจะไปพบกับพ่อข้ามาใช่ไหมล่ะ?...นี่...อย่าให้เรื่องของนักแสดงคาบุกิไร้ค่าพวกนี้มาสร้างความบาดหมางระหว่างธุรกิจของเราเลยน่า...” เจ้าผู้ชายคนนั้นยังคงพร่ำเพ้ออะไรต่อไปด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อน
นัยน์ตาสีเปลือกไม้จึงเหลือบมองตราประจำตระกูลที่ปักอยู่บนอกเสื้อของอีกฝ่าย
ทำไมเขาจะจำไม่ได้ล่ะว่านั่นมันคือตราประจำตระกูลของตระกูลคู่ค้ารายใหญ่ของบ้านเขา
ร่างสูงใหญ่ที่ชะงักงันไปทำให้ฝ่ามือบางที่กำคอกิโมโนสีดำอยู่เผลอกำแน่นขึ้นเมื่อได้ยินว่าผู้ชายคนนั้นมีความสำคัญต่อตระกูลยามาโมโตะยังไง...เป็นถึงคู่ค้ารายใหญ่...หากเทียบกับนักแสดงคาบุกิที่ไร้เกียรติเช่นเขา
ต่อให้เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กแต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่ายามาโมโตะจะไม่เปลี่ยนใจยกเขาให้ผู้ชายคนนั้น
ถึงเขาจะเชื่อใจยามาโมโตะ
แต่อีกฝ่ายจะขัดขืนหน้าที่ที่มีต่อตระกูลได้หรือ
อีกอย่าง...เขาก็ไม่ใช่เรน...ไม่ได้เป็นคนรัก
ไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับยามาโมโตะเลย...
แล้วอีกฝ่ายจะยอมเสียคู่ค้าของตระกูลไปเพื่อแลกกับคนต่ำต้อยอย่างเขางั้นเหรอ?
ริมฝีปากสีแดงเม้มแน่นอย่างปวดร้าว
หัวใจดวงน้อยรู้สึกหน่วงๆเพราะน้อยใจในโชคชะตาของตนเอง...ทั้งๆที่รู้ตัวมาตลอดถึงชนชั้นที่ต่างกันของเขากับยามาโมโตะ
ทั้งๆที่ไม่คิดอาจเอื้อม
แต่หากอ้อมแขนที่กอดเขาเอาไว้นี้ยอมคลายออกแต่โดยดีเพื่อผลประโยชน์ของตระกูลล่ะ
เขาจะทำยังไง...หากที่พึ่งพิงสุดท้ายเป็นฝ่ายผลักไสเขาออกไปเอง...เขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง
ไหล่บางสั่นสะท้านหนักขึ้นเรื่อยๆอย่างห้ามความหวาดกลัวที่กำลังลามไปทั่วหัวใจนี้ไม่ได้...นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองดาบคาตานะที่คาดอยู่ที่เอวของยามาโมโตะ....หากมือใหญ่ผลักไสเขาออกไปเมื่อไหร่
เขาจะหยิบมันขึ้นมาแล้วฆ่าตัวตายไปซะ
หากไม่ใช่เจ้า
ข้าก็ไม่คิดจะยอมเป็นของใคร ขอให้รู้เอาไว้...
“ก็แล้วยังไง?”
แต่แล้วเสียงทุ้มที่ตอบออกมาพร้อมกับอ้อมแขนที่กอดกระชับเขาแน่นขึ้นก็ทำให้นัยน์ตาสีมรกตถึงกับเบิกกว้าง...ยามาโมโตะไม่ได้ผลักไสเขาออกไป...ไม่ได้เห็นแก่ประโยชน์ของตระกูลมากกว่าตัวเขา...
“เห๋?...เจ้านี่เข้าใจยากเสียจริง...อันที่จริงข้าก็เคยได้ยินมาอยู่หรอกนะว่าเจ้าสนิทกับนักแสดงคาบุกิคนนี้
แต่ข้าก็ไม่คิดหรอกนะว่าเจ้าจะว่าอะไรหากคู่ค้าคนสำคัญอย่างข้าอยากได้เพื่อนที่เป็นแค่นักแสดงคาบุกิของเจ้า...ถ้าเพื่อผลประโยชน์ในอนาคต
ข้าคิดว่าเจ้าก็น่าจะยอมยกนักแสดงนั่นให้ข้าได้”
คำพูดของผู้ชายคนนั้นเรียกไออำมหิตให้แผ่ออกไปจากร่างกายสูงใหญ่โดยที่คนพูดก็คงไม่รู้ตัว
ฝ่ามือบางของคนในอ้อมแขนกำกิโมโนของเขาแน่นขึ้นเมื่อได้ยินว่าผู้ชายคนนั้นมีความสำคัญต่อตระกูลของเขายังไง
มันบ่งบอกว่าโกคุเดระกำลังหวั่นไหวกับคำพูดของอีกฝ่าย...มันเป็นความผิดของเขาเองที่ไม่เคยบอกโกคุเดระให้ชัดเจนว่าสำหรับเขาแล้วโกคุเดระเป็นอะไร
มีความสำคัญแค่ไหน ร่างบอบบางในอ้อมแขนถึงได้ไม่มั่นใจแล้วก็กำลังหวาดหวั่น...กลัว...ว่าเขาจะทอดทิ้งแล้วยกตัวเองให้ผู้ชายคนนั้นเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า
ทว่า...เขาสนใจเสียที่ไหน...
ไม่ว่าจะเรื่องผลประโยชน์หรือต่อให้หลังจากนี้จะต้องมีปากเสียงกับพ่อเขาก็ไม่สน
เพราะสิ่งเดียวที่ช่วยเยียวยาให้เขายังเป็นมนุษย์
ยังมีสิ่งสำคัญที่เรียกว่าหัวใจ...ก็คือเจ้า โกคุเดระ ฮายาโตะ
“ข้าถามว่าก็แล้วยังไง?” ชั่วพริบตาที่เขาละอ้อมแขนออกมาจากโกคุเดระ
คมดาบที่เคยคาดอยู่ที่เอวก็ค่อยๆกดลงไปที่ท้องของผู้ชายคนนั้นโดยไม่มีใครทันได้ตั้งตัว
“อั่ก?!!”
ปลายดาบเยือกเย็นทะลุผ่านช่องท้องจนมองเห็นประกายคมกล้าอยู่อีกฝั่งของร่างหนา
เจ้าลูกชายของคู่ค้าทำได้แค่กระอั่กเลือดด้วยดวงตาเบิกโพลง
โกคุเดระ
ดูเอาไว้...นี่แหละคือชะตาของคนที่บังอาจมารังแกเจ้า...
ร่างสูงใหญ่ในฮากามะสีดำค่อยๆดึงดาบออกจากร่างของอีกฝ่ายอย่างใจเย็น
ใบหน้าคมยังคงนิ่งเฉยราวกับไม่ได้รู้สึกอะไรเลยกับการฆ่าคน และนั่นมันก็ทำให้ร่างบอบบางที่นั่งดูอย่างตื่นตะลึงถึงกับตัวสั่นระริกหนักกว่าเดิม
คมดาบที่เงื้อขึ้นเหนือหัวสะท้อนอยู่ในดวงตาสีมรกตก่อนที่มันจะตวัดลงไปอย่างรวดเร็ว
นัยน์ตาทั้งสองข้างจึงปิดลงตามปฏิกิริยาอัตโนมัติ แก้มข้างหนึ่งรู้สึกถึงน้ำอุ่นๆที่สาดกระทบใบหน้า
กลิ่นของชีวิตที่มากับน้ำนั่นไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันคือน้ำอะไร
และเมื่อนัยน์ตาสีมรกตเปิดขึ้นอีกครั้งไหล่บางก็ถึงกับผวา เพราะผนังสีขาวของห้องถูกทาทับด้วยสีแดงที่สาดกระเซ็นไปทั่ว
หัวของคนที่เพิ่งจะพูดจาอวดดีกลิ้งอยู่ที่พื้นด้วยดวงตาที่ยังเบิกโพลง
ติ๋ง...ติ๋ง....
เสียงเลือดหยดลงมาจากปลายดาบ...มันเป็นดาบสังหารที่ทั้งรวดเร็ว
รุนแรง และเงียบกริบ หากคนใช้จิตใจไม่นิ่งพอก็ไม่มีทางทำแบบนั้นได้แน่ๆ
เงาร่างสูงใหญ่ที่ยืนถือดาบทอดสายตามองศพไร้หัวด้วยฝีมือของตัวเองนั้นราวกับไม่ใช่ยามาโมโตะที่เขารู้จัก...ความโหดเหี้ยมของผู้นำตระกูลยามาโมโตะรุ่นต่อไปเขาเพิ่งเคยจะเห็นมันเป็นครั้งแรกและมันก็ทำให้ไหล่บางถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อใบหน้าคมที่มีเลือดกระเซ็นเลอะประปรายหันมาหา
ร่างในฮากามะสีดำเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าก่อนจะทรุดกายลงช้าๆ...และเมื่อนัยน์ตาสีเปลือกไม้สบประสานมาที่ดวงตาของเขา...เขาก็รู้ได้ทันทีว่าปีศาจร้ายตนนี้คือยามาโมโตะ
ทาเคชิของเขาคนเดิม
เพราะถึงจะจมอยู่ในกลิ่นคาวเลือด
ถึงจะเต็มไปด้วยจิตสังหาร แต่ดวงตาที่มองมายังเขามันยังคงอ่อนโยนไม่เคยเปลี่ยน...
ท่อนแขนแข็งแรงดึงตัวเขาเข้าไปกอดไว้ตามเดิม
ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านเข้ามาทำให้ร่างกายที่สั่นระริกด้วยความกลัวค่อยๆสงบลง...กลิ่นของยามาโมโตะทำให้ใบหน้าสวยที่เกยอยู่ที่ไหล่หนาค่อยๆหลับตาลงอย่างผ่อนคลาย...เขาไม่เคยคิดเลยว่าอีกฝ่ายจะทำให้เขามากขนาดนี้...แค่ปกป้องเขาจากเจ้าผู้ชายคนนั้น
แค่ไม่ผลักไสเขาออกไป ไม่ใช้เขาเพื่อผลประโยชน์ของตระกูล แค่นั้นก็พอแล้วแท้ๆ...เขาไม่ได้ต้องการให้มือของยามาโมโตะเปื้อนเลือดเพราะเขาเลย
ร่างบอบบางจึงละจากอ้อมแขนแข็งแรงนั่นเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆกอบกุมฝ่ามือที่เคยถือดาบนั่นขึ้นมาแล้ววางมันไว้ที่แผ่นอกซ้ายของตัวเอง
โอบกอดมือข้างนั้นไว้ด้วยสองมือและหัวใจของเขา เผื่อจะแบ่งเบาความหนักหนาที่มันต้องแบกรับเอาไว้ได้บ้าง
“โกคุเดระ...”
มือใหญ่อีกข้างยกขึ้นมาเช็ดรอยเลือดบนใบหน้าสวยด้วยปลายนิ้ว
ความหวาดหวั่นที่จะต้องเสียอีกฝ่ายไปทำให้ร่างทั้งสองต่างจมอยู่ในอ้อมแขนของกันและกันอีกครั้ง
“ใครเป็นคนหลอกเจ้ามา...ใครเป็นคนที่คิดจะขายเจ้า...บอกข้ามา”
เสียงทุ้มกระซิบถามอยู่ที่ใบหูเมื่อร่างบอบบางเริ่มหายสั่นกลัว
นัยน์ตาสีมรกตทอดมองหนองน้ำสีแดงบนพื้นทาทามิด้วยแววอ่านไม่ออก
เป็นเพราะว่าเขาจมอยู่ในอ้อมแขนของปีศาจหรือไร
หัวใจด้านที่ใสบริสุทธิ์ของเขามันถึงได้ถูกปิดตายไปแล้วแบบนี้ ทั้งๆที่เขาก็รู้ว่ายามาโมโตะจะถามชื่อของคนที่เอาเขามาขายไปทำไมและไม่มีทางเลยที่เพื่อนนักแสดงคนนั้นจะมีชีวิตรอด...
แต่ใบหน้าสวยกลับเอ่ยชื่อของหมอนั่นออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา...
ถ้ายามาโมโตะเป็นปีศาจร้าย...เขาเองก็คงไม่ได้ต่างกัน...
โครม!!
เพื่อนนักแสดงที่ขายเขาให้กับคิอิจิ
โกซาเอม่อนถูกยามาโมโตะลากออกมาที่ระเบียงทางเดินด้านข้างโรงละคร
เสียงกรีดร้องดังขึ้นทันทีเพราะคนส่วนใหญ่ยังคงอยู่เพื่อรอดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เริ่มจากที่เขาแต่งชุดการแสดงเต็มยศหายเข้าไปในห้องรับรอง
จากนั้นคุณชายเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลยามาโมโตะก็เดินกระทืบเท้าตามไปด้วยไออำมหิต
ไม่นานศพใครสักคนก็ถูกพวกซามูไรของตระกูลยามาโมโตะหามออกมา
จนกระทั่งมาจบลงที่ฉากตรงหน้านี่แหละ
“คะ
คะ คุณชายยามาโมโตะ...คือว่าข้าถูกผู้ชายคนนั้นบังคับ...ขะ ข้าไม่ได้ตั้งใจ....” ใบหน้าที่เคยยิ้มหยันให้เขากำลังหวาดผวาและไม่ว่าจะแก้ตัวยังไงใบหน้าเย็นชาของยามาโมโตะ
ทาเคชิก็ไม่เปลี่ยนไป นั่นทำให้เพื่อนนักแสดงที่หักหลังเขาคนนั้นหันมากอดขาเขาแทน
“....นี่…โกคุเดระเจ้าก็พูดอะไรบ้างสิ
บอกคุณชายยามาโมโตะไปสิว่าข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าถูกบังคับ...” นัยน์ตาสีมรกตเหยียดมองคนที่ตัวสั่นงันงกอยู่ที่เท้า
ทำไมไม่คิดถึงใจเขาบ้าง
ว่าตอนนั้นเขารู้สึกยังไงที่อีกฝ่ายเคยหลอกเขาไปขายให้ผู้ชายเลวๆคนนั้น
แล้วก็...หากคนที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็นเรน
หากคนที่เจอเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรน...เด็กคนนั้นคงจะใจอ่อนกับใบหน้าที่ร้องขอชีวิตทั้งน้ำตาของอีกฝ่าย...แล้วก็ยอมยกโทษให้
แต่บังเอิญว่าเขาไม่ใช่เรน...จิตใจของเขายังมีส่วนที่ดำมืด
เพราะงั้นริมฝีปากสีแดงจึงเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ
“........รู้ไหม...ว่าข้าจะไม่เอ่ยชื่อเจ้าก็ได้ตอนที่ยามาโมโตะถาม...แต่ข้าก็พูดชื่อเจ้าออกไปอย่างไม่มีลังเลเลย
ข้าเป็นคนบอกยามาโมโตะเอง...ว่าเจ้าตั้งใจจะขายข้าให้กับผู้ชายคนนั้น”
“...........” ริมฝีปากของอีกฝ่ายสั่นระริกเช่นเดียวกับนัยน์ตาที่สั่นพร่า
คอเสื้อกิโมโนถูกมือใหญ่ของยามาโมโตะลากออกไป เสียงโวยวายจึงดังขึ้นทันที
“เจ้ามันก็ปีศาจร้ายเหมือนยามาโมโตะ
ทาเคชินั่นแหละ! สมกันแล้วทั้งคู่! พวกเจ้าไม่มีวันอยู่อย่างสงบหรอก!
จากนี้ไปทุกคนจะหวาดกลัวเจ้า!
จะไม่มีใครรักเจ้าจากใจจริงหรอก!”
ฉั้วะ!!
คมดาบตัดคอที่กำลังตะโกนด่าทอนั่นอย่างรวดเร็วจนคำสาปแช่งทั้งหลายมลายหายไปในอากาศ
นัยน์ตาสีมรกตได้แต่ทอดมองหยดเลือดที่สาดกระเซ็นไปทั่วพื้นกรวดสีขาว
หัวที่กลิ้งไปไกลทำให้เสียงกรีดร้องดังกึกก้องพร้อมกับฝูงชนที่แหวกเป็นทาง
ไม่ต้องให้เจ้าบอกข้าก็รู้หรอกว่าตัวเองเป็นยังไง...
ช่างมันปะไร...ใครจะมองข้าด้วยสายตาหวาดกลัวยังไงก็ช่าง!
เพราะตลอดเวลาที่เขาถูกคิอิจิ
โกซาเอม่อนข่มเหง เขาก็ได้เรียนรู้แล้วว่าพลังเท่านั้นที่จะช่วยเขาได้
ความอ่อนแอและน้ำตานั้นไม่มีค่าอะไรเลย
เพราะงั้นเขาจึงปล่อยให้ยามาโมโตะประกาศออกไป
“เอามันไปทิ้งลงทะเล...แล้วพวกเจ้าก็จำเอาไว้ด้วยว่า
ใครกล้ามายุ่งกับโกคุเดระ ฮายาโตะ ข้าจะฆ่าให้หมดทั้งโคตร...รวมทั้งคนที่คิดจะขายคนของข้าให้กับคนอื่นด้วย”
น้ำเสียงนั้นไม่ได้กระโชกโฮกฮากแต่ความเย็นเฉียบมืดมนที่ปะปนอยู่ในทุกถ้อยคำนั่นต่างหากที่ทำให้คนที่ได้ฟังถึงกับหนาวไปถึงสันหลัง
มือใหญ่สะบัดเลือดที่ติดดาบออกก่อนจะเก็บมันเข้าฝัก
มืออีกข้างคว้าข้อมือบางก่อนจะพาเดินออกไปจากตรงนั้นโดยไม่สนสายตาของใคร
ไม่สนว่าตัวเองทำเรื่องใหญ่เอาไว้แค่ไหน
ขาทั้งสองคู่ก้าวเดินขึ้นไปตามบันไดหินด้านหลังศาลเจ้าด้วยความเงียบงัน
นัยน์ตาสีเปลือกไม้เหลือบมองไปยังคนที่เดินตามอยู่ข้างหลังเป็นระยะๆ
เพราะปกติเคยยอมให้เขาจูงมือแต่โดยดีแบบนี้เสียที่ไหน ใจจึงนึกเป็นห่วง
หึ....ใบหน้าคมยกยิ้มกับตัวเอง
ถึงเขาจะทำไปเพราะต้องการปกป้องโกคุเดระก็ตาม
แต่ร่างบอบบางที่ต้องมาเห็นเขาฆ่าคนกับตา เป็นใครก็คงจะหวาดผวาจนไม่อยากเข้าใกล้กันบ้าง
เรื่องนี้เขาไม่โทษโกคุเดระหรอก...
มือใหญ่จึงคิดจะปล่อยมือบางให้เป็นอิสระ...
ทว่า...
ชั่วพริบตาที่มือของเขาห่างออกมา
ชายแขนกิโมโนสีดำกลับถูกมือสีขาวข้างนั้นจับมันเอาไว้...
ใบหน้าคมเงยขึ้นมองพระจันทร์สีเงินด้วยรอยยิ้มบางๆ
โกคุเดระ...มันเป็นความผิดของเจ้าเองนะ...ที่ไม่ปล่อยมือของข้า...
เพราะจากนี้ไปต่อให้เจ้าสะบัดมือข้างนี้ออกอีกแค่ไหน...ข้าก็จะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป
แล้วมือใหญ่ก็เป็นฝ่ายสอดประสานเข้าไปในมือบาง
นิ้วทั้งห้าเกาะเกี่ยวจนแทบจะกลายเป็นหนึ่งเดียว
ร่างสูงใหญ่ในฮากามะสีดำเดินนำขึ้นไปบนบันไดหินโดยมีร่างบอบบางในกิโมโนยาวเต็มยศเดินตามท่ามกลางแสงจันทร์นวลตาที่สาดส่องลงมาจากฟากฟ้าก่อเกิดเป็นภาพอันงดงามจับตา
จากพสุธาสู่ราตรี...
รู้ตัวอีกทีทั้งคู่ก็มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าเรือนหนึ่งซึ่งอยู่ในเขตศาลเจ้าแล้ว
ร่างสง่ายังคงก้าวขาไปตามระเบียงทางเดินซับซ้อนของหมู่เรือนพักในศาลเจ้า
ถึงตอนนี้จะมีมิโกะอยู่เพียงคนเดียวแต่ศาลเจ้าโคโตฮิระก็ได้ชื่อว่าเป็นศาลเจ้าใหญ่ที่สุดในเกาะชิโกกุ
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่นักแสวงบุญจะต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต
แต่ห้องหับมากมายของกลุ่มอาคารนับสิบที่มีคนสร้างถวายก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใดในเมื่อร่างสูงใหญ่นั้นเคยวิ่งเล่นอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็กๆ
ยิ่งห้องของโกคุเดระเขาย่อมรู้ดีว่ามันอยู่ที่ไหน
ดึกขนาดนี้ทั้งท่านมิโกะทั้งน้องๆของโกคุเดระคงจะเข้านอนกันไปหมดแล้ว
บนระเบียงทางเดินยาวเหยียดถึงได้มีเพียงพวกเขาที่ก้าวขาเดินอยู่ตามลำพัง
ยิ่งร่างบอบบางที่เดินตามอยู่ข้างหลังไม่ปริปากพูดอะไร ไม่โวยวายเหมือนทุกที
มันก็ยิ่งทำให้บัดนี้แม้แต่เสียงของสายลมเขาก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน
โกคุเดระอาจจะยังขวัญผวากับเรื่องที่เพิ่งเจอมา
เพราะเขารับรู้ได้จากแรงสั่นสะท้านน้อยๆที่ส่งผ่านมาจากมือบางที่เขาจับเอาไว้
ต่อให้ทำเป็นเข้มแข็งแค่ไหนแต่เขาก็รู้ว่าเนื้อแท้นั้นโกคุเดระเป็นคนอ่อนโยน
ถึงจะฉลาดแกมโกงแต่ก็ไม่เคยคิดร้ายกับใคร
พยายามใช้ชีวิตของตัวเองอย่างเต็มที่ทั้งๆที่ไม่ได้มีเหมือนคนอื่นๆเขา
ถึงจะอดบ้างกินบ้างแต่โกคุเดระก็ยังรักศักดิ์ศรีและพยายามรักษามันมาตลอด....แต่กลับต้องมาถูกย่ำยีด้วยน้ำมือของไอ้สารเลวนั่น
ใบหน้าคมได้แต่กัดฟันกรอด...เขาย้อนเวลากลับไปไม่ได้จึงจำต้องโทษตัวเองที่ละสายตาไปจากโกคุเดระจนทำให้ร่างบอบบางที่อุตส่าห์ทะนุถนอมมาอย่างดีต้องมีรอยราคี...แต่ก็นับว่ายังดีที่เขาไหวตัวทันแล้วหนีออกมาจากงานสังสรรค์ของพวกผู้ใหญ่เพราะเอะใจว่าทำไมลูกชายของอีกฝ่ายถึงได้ไม่อยู่ในงานด้วย...ที่แท้มันก็คิดจะเล่นทีเผลอ...
แต่เขาไม่คิดจะเล่น...กับคนที่บังอาจมารังแกหัวใจของเขา
เขาไม่เสียใจเลยที่ลงดาบตัดคอมันไปซะ
ไม่สนใจด้วยว่าหลังจากนี้จะต้องเจอเรื่องหนักหนาสาหัสขนาดไหน เพราะพ่อคงไม่ปล่อยให้เขาลอยนวลอยู่เช่นกัน...ดีไม่ดีอาจจะลามมาถึงการมีอยู่ของโกคุเดระด้วยซ้ำ...
ใบหน้าเฉยชายังคงมองตรงไปข้างหน้า...เรื่องของพี่ชายคนโตลอยเข้าหัวมา...ตอนนั้นใครๆก็คิดว่าเขายังเด็ก
ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น...
แต่เขาเกลียดผู้ชายคนนั้น...เกลียดยามาโมโตะ
ชินสุเกะ...เขาถึงได้คอยเฝ้ามองพี่ชายอยู่เสมอ...ได้เรียนรู้...จากเรื่องที่เกิดขึ้นกับชินสุเกะและเขาก็จะไม่มีวันยอมให้ประวัติศาสตร์มันมาซ้ำรอยที่เขาแน่
โกคุเดระ
ฮายาโตะจะต้องไม่เป็นเหมือน คัตสึระ โคทาโร่...
เขาขอสาบาน...กับมือข้างนี้ที่เขาจับมันเอาไว้...
ครืด....
ประตูเลื่อนถูกเปิดออกอย่างแผ่วเบาก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะจูงมือร่างบอบบางเข้าไป
ในห้องของโกคุเดระยังคงมีแต่ตำราเกลื่อนกลาดอยู่เหมือนเคย
เขาจึงกดไหล่บางให้นั่งลงบนที่ว่างเดียวที่เหลืออยู่...บนพื้นเสื้อทาทามิซึ่งติดกับชานไม้อีกฝั่งหนึ่งของห้อง
ร่างสูงใหญ่เดินหายไปที่ระเบียงก่อนจะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับผ้าชุ่มน้ำผืนหนึ่ง
สวนแบบญี่ปุ่นที่เคยเขียวขจีในตอนกลางวันบัดนี้กลับหลับใหลอยู่เบื้องหลัง
แสงจันทร์นวลตายังคงตามมาฉาบไล้อยู่ที่ร่างบอบบางในกิโมโนเต็มยศซึ่งนั่งทับส้นอยู่ที่พื้น...นัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่ไร้ความดำมืดทอดมองภาพตรงหน้าอย่างหลงใหล...
ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะคุกเข่าลงไป...
มือที่ไม่เคยห่างจากดาบกลับสัมผัสแก้มใสแผ่วเบา...ความแข็งแกร่งราวกับถูกสะกดด้วยความบอบบาง
นัยน์ตาสีเปลือกไม้ยังคงทอดมองใบหน้าสวยไม่เว้นวาง จากแพขนตาสีเงินระยิบระยับไล่มาที่จมูกโด่งรั้นเป็นสันได้รูป...ก่อนจะมาจบลงที่ริมฝีปาก...
หัวแม่โป้งกดลงที่กลีบปากสีแดงซึ่งถูกแต่งแต้มเอาไว้...แล้วปลายนิ้วก็ค่อยๆลากจากซ้ายไปขวาช้าๆ....ช้าๆ...ความนุ่มนิ่มที่สัมผัสได้ทำให้อยากจะใช้ริมฝีปากของตัวเองบดขยี้ลงไปแทนปลายนิ้ว
ถึงใบหน้าคมที่ทอดสายตามองจะยังนิ่งเฉยแต่ใครเลยจะรู้ใจเขา..ว่ามันกำลังเต้นอย่างบ้าคลั่งขนาดไหน...
ชาดสีแดงที่แต่งแต้มอยู่บนกลีบปากค่อยๆถูกลบออกไป....จึงเหลือไว้เพียงริมฝีปากแสนบริสุทธิ์…
ผืนผ้าบรรจงเช็ดลงไปบนใบหน้าสวย
จะด้วยบรรยากาศพาไปหรือจิตใจของร่างบอบบางยังไม่เข้าที่ดีก็ไม่รู้
แต่ตอนนี้นัยน์ตาสีมรกตกำลังค่อยๆปิดลงเพื่อให้มือใหญ่เช็ดเปลือกตาที่เต็มไปด้วยสีสันออกให้
ปลายคางมนถูกเชยขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้นัยน์ตาสีเปลือกไม้มองเห็นได้ถนัด
แต่แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมากระทบทุกส่วนสัดบนใบหน้าก็ทำให้หัวใจดั่งหินผาถึงกับพังทลาย
อัญมณีสีมรกตคู่นั้นไม่ได้เล่นหูเล่นตาแต่กลับปิดลงด้วยความวางใจ
ริมฝีปากนั้นไม่ได้เอ่ยเชิญชวนแต่กลับรออย่างสงบนิ่ง
ฝ่ามือบางที่ยังจับชายกิโมโนสีดำอยู่ราวกับเห็นเป็นที่พึ่งพิง
ทุกสิ่งที่โกคุเดระแสดงออกมามันเป็นเพียงความไร้เดียงสาที่ทำให้ใบหน้าของเขาขยับเข้าไปหาโดยไม่อาจต้านทานได้
ยิ่งใกล้เท่าไหร่หัวใจก็ยิ่งสั่นระรัว
กลิ่นหอมอ่อนๆจากร่างกายบอบบางถูกสูดเข้าไปผ่านลมหายใจหนักหน่วง
น่าแปลกที่บรรยากาศเย็นๆเหล่านี้กลับเย้ายวนชวนให้เผลอไผล จะว่าหวานละมุนละไมหรือเร้าอารมณ์เขาก็บอกไม่ถูก
รู้แต่ว่ามันกำลังทำให้ชายชาตินักรบอย่างเขายอมสยบอยู่ในฝ่ามือสีขาวข้างนั้นได้
นัยน์ตาสีเปลือกไม้จับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากสีระเรื่อ
ใบหน้าคมเอียงหลบปลายจมูกรั้นเพื่อให้ริมฝีปากขยับเข้าไปได้มากกว่านี้
แต่ก่อนที่มันจะสัมผัสกัน...
เขากลับนิ่งค้างเอาไว้...เมื่อริมฝีปากสีระเรื่ออยู่ห่างจากริมฝีปากของเขาเพียงก้านธูปกั้น
นิ่งค้างอยู่อย่างนั้น...
เพื่อมองใบหน้าสวยที่เขาหลงรักมานานแสนนานนั่นให้ถนัดตา
เพื่อให้รับรู้ว่าเรายังอยู่ด้วยกันจากลมหายใจที่ผสมผสานจนแยกไม่ออก
เวลาน่าจะเดินผ่านไปหลายสิบนาทีที่เขาไม่ได้ขยับไปไหน
แล้วในที่สุดใบหน้าคมก็ค่อยๆละออกมา
ริมฝีปากที่เกือบจะสัมผัสกันกลับให้ความรู้สึกยั่วเย้า คำนึง
คิดถึงและโหยหามากกว่าจูบลงไปตรงๆเสียอีก
ตอนนี้ในกายของเขามันร้อนไปหมด...
แต่ก็ไม่คิดจะทำไปมากกว่านี้...
ข้าไม่ได้พยายามห้ามใจ
แต่ที่ยั้งตัวเองเอาไว้เพราะเจ้าคือเกียรติยศและศักดิ์ศรีที่ข้าจะไม่มีวันทำลายมันด้วยมือของตัวเอง
มือใหญ่กลับมาบรรจงเช็ดใบหน้าสวยต่อ
ทำให้นัยน์ตาสีมรกตค่อยๆเปิดขึ้นมา
ในหัวสีเงินนั่นอาจจะยังคิดเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงละครอยู่ทำให้แววตาก้าวร้าวเช่นยามปกติยังไม่กลับคืนมา
แล้วจากใบหน้าที่เต็มไปด้วยสีสันก็กลายเป็นใบหน้าเกลี้ยงเกลาเมื่อเครื่องสำอางถูกล้างไปจนหมด
มือใหญ่วางผ้าที่ใช้เช็ดหน้าลงข้างกาย
ก่อนที่มันจะย้ายไปยังโอบิที่ซ้อนทับกันหลายต่อหลายชั้น
ค่อยๆแกะออกทีละชั้น...ทีละชั้น...
เช่นเดียวกับกิโมโนตัวนอกที่ค่อยๆหลุดลงไปจากไหล่บางทีละชุด...ทีละชุด...
จริงๆแล้วกิโมโนที่ใช้ในการแสดงเช่นนี้คงมีวิธีที่จะกระตุกให้หลุดภายในทีเดียว
แต่เขาไม่รู้แล้วก็ไม่ได้สนใจจะให้มันหลุดง่ายๆแบบนั้นด้วย
เพราะร่างบอบบางที่นั่งเฉยๆให้เขาค่อยๆปลดกิโมโนออกทีละน้อยแบบนี้มันช่างเร้าอารมณ์จนต้องข่มสัญชาติญาณดิบลงไปพร้อมๆกับน้ำลายที่กลืนลงคอ
จากกิโมโนหลากสีสันในที่สุดก็มาถึงชั้นในที่เป็นเพียงกิโมโนสีขาวจนได้...นัยน์ตาสีเปลือกไม้ทอดมองมันอย่างเผลอไผลก่อนจะไล่ขึ้นมามองร่องรอยที่คิอิจิ
โกซาเอม่อนหลงเหลือเอาไว้ที่ซอกคอระหง
ร่องรอยของผู้ชายคนอื่น...
นัยน์ตาสีเปลือกไม้ดำมืดขึ้นมาทันที
มือใหญ่ยกขึ้นมาลูบรอยจูบบนต้นคอเล็ก
ถึงแววตาบนใบหน้าคมจะไม่ได้แสดงออกซึ่งความโกรธแค้นแต่มันก็มืดมนจนคนที่อยู่ในนรกต้องขวัญผวา
ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีดำขยับเข้าไปใกล้ก่อนจะประทับรอยของตนเองลงไปเบาๆ
แล้วนั่นมันก็ทำให้นัยน์ตาสีมรกตที่เหม่อลอยมาตลอดถึงกับเบิกกว้างอย่างคนที่สติเริ่มจะกลับมา
“เจ้าไม่กลัวข้าใช่ไหม?” นัยน์ตาสีเปลือกไม้ช้อนขึ้นมองด้วยแววเว้าวอน ใบหน้าสวยจึงส่ายไปมาน้อยๆ
รอยยิ้มหมองๆบนใบหน้าคมจึงเปลี่ยนไปเป็นรอยยิ้มเย็นๆตามเดิม
ฟูกสีขาวถูกปูลงบนพื้นเสื่อทาทามิก่อนที่มือใหญ่จะจับไหล่บางแล้วกดให้นอนลง
มือบางยังคงจับชายแขนเสื้อกิโมโนของเขาอยู่ เขาจึงเอื้อมมือไปลูบหัวสีเงินนั่นเบาๆ
ถ้อยคำที่เอ่ยออกไปด้วยเสียงทุ้มนั้นช่างหนักแน่น
จนแม้นแต่หัวใจที่หวาดกลัวและเหนื่อยล้าก็สามารถหลับตาลงได้อย่างวางใจ
“นอนเถอะโกคุเดระ...นอนซะ...ข้าจะนั่งอยู่ตรงนี้
จะอยู่ข้างๆเจ้าไม่ไปไหน เจ้าไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว
ต่อจากนี้ไปจะไม่มีใครทำอะไรเจ้าได้อีก ข้าสัญญา”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
โปรดติดตามต่อต่อไป...ไป...ไป...
ได้ข่าวว่าตอนที่
6.1 นั่นแฮปก๊กมาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว =[ ]= ปีนี้ต่อด้วย 6.2
แบบนี้มันจะดีรึ?!! // เอาหัวโขกผนัง...คุณกวางผิดไปแล้ว TvT
อะ
เอาน่า...อย่างน้อยๆครึ่งตอนหลังนี่ก็เป็นของ8059เต็มๆเรยนะ
ทดแทนของเมื่อปีที่แล้วด้วยเรยไง :v
สุขสันต์วันเกิดนะก๊าหนูก๊กลูก
>////<
ปีนี้ก็ยัง14
ฮ่าๆๆ ถึงภายนอกจะไม่โตไปไหนแต่เวลายาวนานที่เราอยู่ด้วยกันมามันโตเท่าแผ่นฟ้าแบ้วนะลูก
// พยายามซึ้ง ก๊ากๆๆ // อวยพรกันมาทุกปีๆ ปีนี้ขอเป็นคำขอบคุณแทนดีก่า
ขอบคุณที่เกิดมาให้มี๊รักนะลูกนะ >////< ดีใจที่ได้รักก๊ก!!!
นอกจากนี้ของขวัญยังควบวันเกิดคุณโคเมื่อเดือนที่แล้วด้วย5555
มีอยู่ครึ่งตอนแท้ๆ
แถมบทคุณโคก็ไม่มีอีกตอนนี้ถถถถ ยะ ยังไงก็...
สุขสันต์วันเกิดนะคะคุณโค~
ขอให้ได้กลับฮาเร็ม(?)ไวๆ
หล่อกายหล่อใจแบบนี้ตลอดไปน้า~~ >/////<
ส่วนฟิคพญาเหยี่ยวตอนนี้...จริงๆอยากบรรยายฉากที่ยามะลบเครื่องสำอางให้ก๊กให้มันอีโรติกๆกว่านี้
แต่เขียนยังไงมันก็ยังไม่ได้ซักที ฮืออออออ ให้อภัยเค้าด้วย TvT เอาเป็นว่าขอขอบคุณมากๆๆนะคะ ทุกๆการติดตามและทุกๆเสียงทวงเรยสำหรับเรื่องนี้
>///< มีแฟนอาร์ตส่งมาให้ล่วยแต่เป็นของรีเอ
เพราะงั้นไว้เก๊าแปะตอนหน้าน้า อิ หวังว่าตอนต่อไปจะมาในเร็ววัน555 // ผลั๊วะ!!
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
TvT/
ทำอัลไลไฟลนตลอดถถถถถ
คิดถึงหนูก๊กจางงง คิดถึงมากเลยยย แฮปปี้เบิร์ดเดย์น้าาหนูก๊ก ขอให้หนูก๊กสวยวันสวยคืน ยามะรักยามะหลงยกสมบัติตระกูลให้หมดเลย555
ตอบลบส่วนฟิคนั้นมีความฟินมากกก เชียร์ให้ยามะจับกด ลบรอยที่ไอชั่วร้ายมันทำไว้ สะจายที่มันตายยย วะฮะฮ่าๆ มาต่ออีกบ่อยๆนะคะพี่กวางงง อย่านั่งเรือบ่อยเดี๋ยวออกทะเล555 ช่วงนี่มีพายุเข้าเรือควรงดออกจากฝั่งน้า555
งืมมม ตัวจะต่อเรื่อง "KHR S.Fic [1859] คุณภรรยา(กำมะลอ)ที่รัก" ไหมอ่าาาา เค้าอยากอ่านต่อมากเลยยยยย
ตอบลบหนูรอฟิครีเอนะคะขอบคุณมากคะ^.^(อย่าเข้าใจผิดนะคะหนูอ่านทุกเรื่องที่มีรีเอน่ะค่ะเรื่องนี้ก่อ่านสนุกมากเรย)#ติ่งน้องเอเลนกะเฮียรีไวล์คะ ถถถถถ
ตอบลบมี้กวางอัพ 8059 แงงงงงดีจรัยยยยย ;;---;;
ตอบลบละมุนชอบบบบบบ คิดถึงก๊กของมี้ด้วยย ฮรืออออ ตอนแรกลุ้นหนักมากว่ามันไปเป็นยังไงกันนะ8059เนี่ย จะแอบรักกันไปถึงไหน เจ็บปวดแทนว๊อยยยยยย แต่ยามะดันรู้ว่าก๊กซึนแต่แกล้งไม่รู้ แงงงง ขอได้มั้ยผชคนเน้วววววว แต่อยากได้ก๊กมากกกว่า ฮรืออออ รอตอนต่อไปนะคะ รักกกก~