Donten ni Warau Au S.Fic [Shirasu x Soramaru] “จะรักตลอดไป” : Revert 02 [END]


Donten ni Warau Au S.Fic [Shirasu x Soramaru]    “จะรักตลอดไป” : Revert 02 [END]

: Donten ni Warau Fanfiction 
: Shirasu x Soramaru
: Dark Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ






ทั่วทั้งร้านเงียบงันมีเพียงเสียงของสายฝนกับเสียงลมหายใจของเราสองคนเท่านั้นที่ดังให้ได้ยิน

การกระทำทุกอย่างต่างชะงักค้าง สองมือที่จับต้นแขนของเขาอยู่ดูอ่อนแรงเช่นเดียวกับใบหน้าของคุณชิราสึที่แสดงออกซึ่งความเจ็บปวดอย่างชัดเจน...เป็นอย่างที่คิดจริงๆ...คำสารภาพรักของเขาที่มาเอาป่านนี้มันทำให้ทุกอย่างสายเกินแก้และมีแต่จะทำให้เราทั้งคู่ต้องทรมาน

เขาน่าจะห้ามตัวเองให้ได้ เขาไม่น่าเผลอไผลไปกับบรรยากาศเก่าๆนี่เลย

ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีขาวถอนหายใจก่อนจะดันตัวเขาให้นั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ด้วยท่าทางเหมือนคนหมดแรง

“โซระมารุ.....นายกำลังจะทำให้ชั้นทนไม่ไหวนะ...”   ร่างสูงใหญ่คุกเข่าลงไปตรงหน้าทั้งๆที่สองมือยังคงจับอยู่ที่ต้นแขนของเขา สายตาเว้าวอนนั้นมันทำให้ก้อนอะไรบางอย่างแล่นขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอจนพูดอะไรไม่ออก

“.......”   เขามองลึกเข้าไปในดวงตาสีม่วงนั่นอย่างไม่คิดจะหลบตาอีกต่อไป...ต่างฝ่ายต่างรู้ดีอยู่แก่ใจถึงความรู้สึกของตัวเองที่ปกปิดเอาไว้ แต่เป็นเพราะปล่อยให้มันค้างคาจนเวลาล่วงเลยมาขนาดนี้...ทางออกมันเลยยิ่งบิดเบี้ยวจนแทบจะหาไม่เจอ

“.....แค่นายมายืนอยู่ตรงหน้า คิดว่าชั้นต้องใช้ความพยายามแค่ไหนกันที่จะไม่กระชากตัวนายมาขังเอาไว้...นายก็รู้ว่าชั้นเป็นยังไง ชั้นไม่อยากทำร้ายนายอีก...ชีวิตที่นายเลือกแล้วว่าจะเดินต่อไปโดยไม่มีชั้น...ชั้นไม่อยากจะไปทำลายมันอีก...”   คำคำหนึ่งซึ่งอยู่ในท้ายประโยคที่เศร้าสร้อยนั้นทำให้เขาถึงกับสะดุดกึกอย่างสงสัย

“เลือก? เลือกอะไรกันครับ?”   เขายังไม่ทันได้เลือกอะไรด้วยซ้ำ จู่ๆคุณชิราสึก็เดินออกไปจากชีวิตเขาเอง...เดินออกไปโดยไม่ถามเขาสักคำ...หรือว่า...มันจะมีอะไรที่เราเข้าใจกันผิดอยู่?

“...........”    ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีขาวนั่นก็เงยมองเขาด้วยสายตาชะงักค้างเช่นกัน

“หรือว่า....ในคืนวันนั้นนายจะออกตามหาชั้น?”    เสียงของคุณชิราสึฟังดูเลื่อนลอยราวกับไม่เชื่อว่ามันคือเรื่องจริง

“ใช่ครับ...ผมเป็นห่วงคุณแทบจะเป็นบ้า ผมออกตามหาคุณ...แต่ว่า...ก่อนที่ผมจะได้เจอคุณ...จูทาโร่ก็โทรมาบอกผมว่าพี่เท็นกะถูกรถชน ผมเลยต้องกลับบ้านในคืนนั้นเลยอย่างเลี่ยงไม่ได้...ผมตั้งใจจะกลับมาหาคุณอีกครั้งหลังจากที่เคลียร์เรื่องของพี่เท็นกะแล้ว...ผมตั้งใจจะกลับมาบอกคุณว่าผมเองก็รักคุณ...แต่คุณก็จากผมไปแล้ว...”    คำพูดที่อัดแน่นอยู่ในใจพรั่งพรูออกไปอย่างหยุดไม่อยู่ คุณชิราสึเองก็มีท่าทางตะลึงงันเช่นกันกับความจริงที่ตัวเองไม่เคยรู้เลย

“ชั้น....คิดมาตลอดเลยว่านายปฏิเสธชั้น...ชั้นไม่รู้ว่าเท็นกะเกิดอุบัติเหตุ...ชั้นรอนายอยู่บนดาดฟ้าทั้งคืน...พอเห็นว่านายคงไม่มาแล้วก็เลยตั้งใจจะเดินออกไปจากชีวิตของนาย ชั้นทำร้ายนายมามากพอแล้ว ถ้าไม่มีชั้นนายอาจจะมีความสุข...ชั้นคิดแบบนั้นมาตลอดก็เลยตั้งใจไม่ติดต่อกลับไป ตั้งใจว่าจะไม่เจอกันอีก....”   คุณชิราสึพูดออกมาด้วยท่าทางนิ่งค้างเมื่อเพิ่งจะรู้ว่าทางที่สวนกันไปมานี้มันเริ่มต้นจากการเข้าใจผิด

“มีความสุขอะไรกันล่ะครับ?! หลังจากที่ผมกลับมาแล้วเห็นว่าคุณเก็บข้าวของออกไปแล้ว ผมแทบจะเป็นบ้า ผมเป็นห่วงคุณมาก ผมกลัวว่าคุณจะทำร้ายตัวเองอีก ผมเฝ้าตามหาคุณมาตลอดห้าปี ที่ผมมาที่นี่จริงๆแล้วผมมาหาคุณต่างหาก...”   ร่างสูงใหญ่ตกตะลึงยิ่งกว่าเดิมจนนัยน์ตาสีม่วงนั่นเบิกกว้าง

“นายไม่ได้มาที่นี่เพื่อมาเรียนแค่นั้นเหรอ?”  

“ผมมาตามหาคุณต่างหาก!    เขาตะโกนออกไปตรงๆเพราะเริ่มรู้สึกแล้วว่าที่ทุกอย่างมันสายไปขนาดนี้เป็นเพราะว่าเราไม่เคยเปิดใจพูดกันตรงๆสักที ต่างฝ่ายต่างคิดไปเอง เรื่องของเรามันเลยอ้อมไปอ้อมมาแบบนี้

“ก็เมื่อวาน...ตอนที่ชั้นถาม...นายบอกว่านายมาเรียนทำอาหาร...ชั้นเลยคิดว่านายคงแค่บังเอิญมาเจอที่นี่ก็แค่นั้นเอง”    คุณชิราสึยังคงพูดด้วยท่าทางนิ่งค้าง นัยน์ตาสีม่วงสั่นพร่าราวกับกำลังเสียใจที่คิดไปเองจนเรื่องมันเลยเถิดมาขนาดนี้

“ผม...พูดไม่ออก...เพราะผมกำลังสับสน ผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำยังไง ผมกำลังช็อคเพราะเพิ่งรู้เรื่องลูกชายของคุณ...เรื่องที่คุณหนีมามีลูกอยู่ที่นี่ ทั้งๆที่ทำให้ผมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น...มันทำให้หัวใจของผมเจ็บจนสมองคิดอะไรไม่ออก”    เขาสารภาพออกไปตามตรง เพราะยังไงวันนี้ก็คงต้องเคลียร์กันให้จบ...ว่าคุณชิราสึจะเอายังไง ทั้งเรื่องของเขา ทั้งเรื่องของลูกชายและภรรยา....ต้องเอาให้จบ...ว่าคุณชิราสึจะเลือกใคร...หรือจะทิ้งใคร...

“โซระมารุ.......แค่นายบอกชั้น...ว่านายมาเพื่อตามหาชั้น...แค่นายพูดออกมาแบบนั้นคำเดียว...ชั้นก็ทิ้งทุกอย่างได้เพื่อนายแล้ว”    นัยน์ตาสีดำที่หลุบมองพื้นเงยขึ้นมามองคนที่ตัดสินใจได้อย่างง่ายดายด้วยสายตาเบิกค้าง...คุณชิราสึเลือกเขางั้นเหรอ?

“ชั้นคิดว่านายมาเรียนและแค่บังเอิญมาเจอชั้น...ชั้นเลยตั้งใจว่าจะไม่รบกวนความรู้สึกของนายอีก...ตั้งใจจะอดทนและมองนายอยู่ห่างๆเท่านั้นก็พอ”   นัยน์ตาสีม่วงที่สบประสานมามันมีแต่ภาพของเขาอยู่เต็มสองตา...คุณชิราสึเลือกเขาโดยไม่ลังเล...ไม่หยุดคิดแม้แต่วินาทีเดียวว่ามันจะต้องทำร้ายเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง?

“แต่พอเห็นนายยืนตากฝนอยู่หน้าร้านทั้งๆที่ดึกดื่นป่านนี้...นายมาหาชั้นในสภาพแบบนั้น...ความอดทนของชั้นมันเลยหมดลง...เพราะชั้นเริ่มมีความหวังว่าที่นายมาที่นี่...อย่างน้อยก็คงมีเรื่องของชั้นอยู่ในใจของนายบ้าง....เหมือนกับที่ชั้นเลือกที่จะมาอยู่ที่ฝรั่งเศส...เพราะคิดว่าอาจจะได้เจอนายอีกเข้าสักวัน...ใช่...ชั้นยังแอบมีความหวังเล็กๆนั่นอยู่ ชั้นเลยมารอนายอยู่ที่นี่...”    ทั้งๆที่ในหัวกำลังสับสนกับพฤติกรรมของคุณชิราสึ แต่ทุกถ้อยคำที่อีกฝ่ายพูดออกมามันก็ทำให้ความโหยหาล้นทะลักจนห้ามใจตัวเองไม่ไหวอีกต่อไป....ได้แต่คิดเข้าข้างตัวเองด้วยความเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ...ว่าถ้าจะหยุดคุณชิราสึไม่ให้ไปทำร้ายใครอีก


เราสองคนต้องอยู่ด้วยกัน


มือบางล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อกันหนาวก่อนที่กระดาษสีเหลืองกรอบจะถูกดึงออกมา เขาทอดมองมันด้วยสายตาที่ตัดสินใจแล้วว่าจะเอายังไงต่อไป

“ผมเพิ่งไปเจอจดหมายที่คุณเขียนถึงพ่อของคุณที่โรงพยาบาลเมื่อสามเดือนก่อนนี้เองครับ...คุณลุงเสียชีวิตไปก่อนที่จดหมายฉบับนี้จะไปถึง...ทางบ้านของคุณจึงไม่มีใครรู้เลยว่าคุณอยู่ที่ไหน...ก็นะ...หลังจากที่ผมตามหาคุณจนผมเริ่มท้อ ผมเลยกลับบ้าน เดินเล่นไปเรื่อยๆ ผ่านโรงเรียนม.ต้น ม.ปลายที่เราเคยอยู่ด้วยกัน ผ่านศาลเจ้าที่เราเคยไปงานดอกไม้ไฟด้วยกัน จนสุดท้าย...ผมเดินผ่านโรงพยาบาล...แล้วคุณพยาบาลที่ดูแลคุณลุงอยู่ก็จำผมได้ เพราะผมไปเยี่ยมคุณลุงกับพี่เท็นกะและคุณชิราสึบ่อยๆ คุณพยาบาลเลยฝากจดหมายของคุณที่เธอเก็บเอาไว้มาให้คนที่บ้านของคุณ...ผมถึงได้เพิ่งรู้...ว่าคุณอยู่ที่ไหน”

“งั้นเองเหรอ...พ่อ...ไม่อยู่แล้วสินะ...ชั้นนี่เป็นลูกที่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ”   คุณชิราสึมีสีหน้าสลดลงเมื่อเพิ่งรู้เรื่องทุกอย่าง

“แต่คุณก็ยังเป็นพ่อที่ดีได้นี่ครับ?”   เขาฝืนยิ้มให้อีกฝ่ายเมื่อต้องพูดถึงลูกชายของคุณชิราสึ

“โซระมารุ...ฟังนะ...ในเมื่อเรื่องที่ทำให้เราเข้าใจผิดจนต้องจากกันมาตั้งห้าปีก็เริ่มคลี่คลายแล้ว แต่ชั้นยังมีเรื่องของชิโรยูกิที่ต้องขอร้องนาย”   มือที่จับต้นแขนเขาหลวมๆกลับกระชับแน่น นัยน์ตาสีม่วงนั่นก็จ้องมองมาที่เขาอย่างจริงจัง...คุณชิราสึจะบอกให้เขายอมรับเด็กคนนั้นงั้นเหรอ?

“ชั้นจำเป็นต้องดูแลเขา...ถึงชั้นจะรักนายแต่ชั้นคงทิ้งเขาไปไม่ได้...เพราะงั้นให้เขาอยู่กับเราได้ไหม?”   คุณชิราสึยอมขอร้องเขาอย่างจริงจัง ทั้งๆที่ใจหนึ่งก็คิดว่าดีแล้วที่อย่างน้อยคุณชิราสึก็เปลี่ยนไปบ้าง อย่างน้อยก็ยังดูแลเด็กคนนั้น ไม่ทำร้ายไม่ทิ้งขว้าง...แต่พอคิดว่าจะต้องทนอยู่กับเด็กที่เป็นลูกของผู้หญิงคนอื่นแล้วเขาเองก็....

“เมื่อห้าปีที่แล้ว...หลังจากที่ชั้นออกมาจากอพาทเม้นต์ที่เคยอยู่กับนาย ตอนนั้นชั้นแทบไม่อยากจะมีชีวิตอยู่...ไม่ว่าจะที่ไหนในญี่ปุ่นมันก็ทำให้ชั้นนึกถึงแต่ความทรงจำที่เคยทำร่วมกับนาย...ชั้นเลยนึกถึงแม่ของชั้น...ตอนที่ท่านเลิกกับพ่อ ท่านพาน้องชายของชั้นย้ายไปอยู่ที่ฝรั่งเศส ชั้นเลยมาหาทั้งสองคนที่นี่...ตอนแรกก็ตั้งใจว่าคงอยู่ไม่นาน แต่บรรยากาศที่ต่างออกไปมันทำให้ความทรงจำที่เคยหลอกหลอนชั้นจนนอนไม่ได้เริ่มเบาบางลง...พอรู้ตัวอีกที ก็คิดว่ารอนายอยู่ที่นี่ก็ไม่เลวเหมือนกัน....”    เสียงทุ้มเล่าเรื่องของตัวเองไปเรื่อยๆซึ่งเขาก็ฟังผ่านๆหูเพราะในใจตอนนี้กำลังตีกันจนยุ่งเหยิง

“ตอนที่ชั้นมาถึงฝรั่งเศสน่ะ แม่ตายไปแล้วตั้งหลายปี ชั้นเลยอยู่ที่นี่กับครอบครัวของน้องชาย...ภรรยาของโคทาโร่ อ่า ต้องบอกว่าน้องสะใภ้ของชั้นนั่นแหละ เค้าเปิดร้านเบเกอร์รี่เล็กๆแต่ก็ขายดีมากจนชั้นที่มาช่วยงานวันๆแทบไม่มีเวลาทำอะไร ความวุ่นวายทำให้หยุดคิดถึงนายไปได้บ้าง...ชีวิตก็ดำเนินไปแบบนั้น...แต่แล้วเมื่อสองปีก่อน...น้องชายของชั้นกับน้องสะใภ้ตายเพราะอุบัติเหตุด้วยกันทั้งคู่...เหลืออยู่ก็แต่ชิโรยูกิที่ยังเล็ก...ชั้นเลยต้องกลายเป็นพ่อให้เด็กคนนั้นในฐานะญาติคนเดียวที่เหลืออยู่”    แต่แล้วเรื่องเล่าเนิบนาบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลของคุณชิราสึก็ทำเอาเขาแทบจะหยุดหายใจ

“เอ๊ะ? คุณว่าไงนะ? เด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกชายแท้ๆของคุณงั้นเหรอ? ทั้งๆที่หน้าเหมือนคุณอย่างกับแกะแบบนั้นน่ะเหรอครับ?!”   เขาเงยหน้าขึ้นไปคาดคั้นคุณชิราสึที่ยกมือยอมแพ้ นี่มันเรื่องอะไรกัน? คุณชิราสึโกหกอะไรเขาอีกหรือเปล่า? ตอนนี้เขาชักจะงงเป็นไก่ตาแตกแล้ว

“อ่า...จะว่าชิโรยูกิหน้าเหมือนชั้นก็ไม่เชิง...ต้องบอกว่าเหมือนพ่อเค้าที่เป็นฝาแฝดของชั้นมากกว่า”  

“ว่าไงนะ?! น้องชายที่คุณเล่ามานี่เป็นฝาแฝดของคุณเหรอครับ?! ทำไมไม่เห็นจะเคยรู้เลยว่าคุณมีฝาแฝด?!”   เขาแทบจะเขย่าคอคนที่ยังหัวเราะแหะๆจนแทบจะหลุดออกมาจากบ่า คุณชิราสึล้วงมือเข้าไปในลิ้นชักเคาน์เตอร์ก่อนที่จะหยิบกรอบรูปอันหนึ่งออกมา...ในรูปนั้นมันเป็นรูปของเด็กชายสองคน...ที่มีใบหน้าเหมือนกันราวกับถอดออกมาจากพิมพ์เดียวกัน

“รูปของชั้นกับโคทาโร่...พวกเราเป็นฝาแฝดกัน...แต่เพราะพ่อกับแม่เลิกรากันไป ต่างฝ่ายต่างเลยไม่พูดถึงกันและกันเพื่อไม่ให้ความทรงจำแสนสุขที่เคยมีด้วยกันตอนเด็กๆมันมาทำให้ใช้ชีวิตต่อไปได้ยากขึ้นน่ะ”

“ถะ ถ้างั้น...ชิโรยูกิคุงก็ไม่ใช่ลูกของคุณจริงๆ....”   เขามองรูปใบนั้นด้วยร่างกายที่นิ่งงัน แต่มันไม่ใช่ความเสียใจเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว ตอนนี้ในใจของเขากำลังเต้นระรัวด้วยความดีใจ โล่งใจ มันกำลังลิงโลดจนแทบจะกระโดดออกมาจากอกอยู่แล้ว!

“อื้อ ไม่ใช่ลูกชั้นหรอก...เป็นลูกของโคทาโร่กับน้องสะใภ้...เจ้าของร้านนี้น่ะ...พอทั้งสองคนตายไป ชั้นไม่อยากปิดร้าน ก็เลยทำต่อ”   ใบหน้าคมยิ้มอ่อนโยนมาให้แล้วมันก็ทำให้เขาดึงตัวอีกฝ่ายมากอดทันที ภูเขาในอกราวกับถูกยกออกไป ความขุ่นมัวในใจก็หายไปในพริบตา

“ถ้างั้นก็น่าจะรีบบอกกันเร็วๆสิคุณชิราสึบ้า! คุณรู้ไหมว่าผมช็อคแล้วก็กลับไปนอนร้องไห้มาทั้งคืนเลยนะ”   เขาบ่นงึมงำกับแผงอกที่ตนกอดอยู่ น้ำตาแห่งความดีใจไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ยังไม่ทันไรเขาก็นึกถึงภาพที่คุณชิราสึยืนโบกมือให้ชิโรยูกิคุงกับผู้หญิงที่ไหนไม่รู้นั่นได้เสียก่อน สองแขนจึงผลักร่างสูงใหญ่ออกไปอีกครั้ง

“แล้วผู้หญิงที่คุณออกไปยืนส่งก่อนที่จะเจอผมนี่ล่ะครับ? ไหนบอกว่าแม่ของชิโรยูกิคุงตายไปแล้ว? แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันครับ?”   เขามองใบหน้างงๆของคุณชิราสึด้วยสายตาคาดคั้น

“เอ๋? ผู้หญิง?....อ๋อ เมื่อกี้ใช่ไหม ก่อนที่ชั้นจะเห็นนายที่หน้าร้าน?....ผู้หญิงคนนั้นเป็นแม่บ้านที่ดูแลบ้านอยู่น่ะ ชั้นให้เค้ามารับชิโรยูกิกลับไปก่อน เพราะชั้นต้องอยู่เคลียร์บัญชีจนดึกแทบทุกวัน ไม่อยากให้เด็กคนนั้นนอนดึกน่ะ”   คุณชิราสึพูดออกมาราวกับเพิ่งนึกขึ้นได้

“จริงน่ะ?”   เขามองกลับไปอย่างไม่ไว้ใจ ก็คนคนนี้เคยโกหกเขามาตั้งหลายครั้งแล้วนี่นา

“จริงสิ...สาบานก็ได้...ชั้นไม่เคยรักใครอีกนอกจากนาย ไม่เคยต้องการใคร ถ้าไม่ใช่นายชั้นอยู่คนเดียวเสียยังดีกว่า...อีกอย่างนะ...คนที่นายเห็นนั่นคราวป้าแล้วนะ ยังไงชั้นก็ไม่ไหวหรอก”   มือใหญ่โบกปฏิเสธเป็นพัลวัน รอยยิ้มทีเล่นทีจริงของคุณชิราสึทำให้เขาอมยิ้มตามโดยไม่รู้ตัว

“งั้นเหรอครับ...ขอโทษที่สงสัยคุณนะครับ”   แล้วจากรอยยิ้มอ่อนโยนมันก็เริ่มจะดูเจ้าเล่ห์ขึ้นยังไงก็ไม่รู้

“เห๋~...โซระมารุคุงหึงชั้นอย่างนั้นใช่ไหม? ดีใจนิดๆนะเนี่ย~   คุณชิราสึกลับไปเป็นคุณชิราสึคนเดิมของเขาอีกครั้ง เป็นคุณชิราสึที่แสนอ่อนโยนแต่ก็ชอบแหย่ให้เขายิ้มได้เสมอ

“ไม่ได้หึงซักหน่อยครับ!”   เขายิ้มให้คนที่ยังนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า ฝ่ามือของเราทั้งคู่ต่างจับกันเอาไว้


ในที่สุดเวลาห้าปีที่แสนทรมานก็จบลงเสียที


เวลาห้าปี...ที่ช่วยพิสูจน์คำว่า “จะรักตลอดไป” ของพวกเรา


เพราะทั้งเขาทั้งคุณชิราสึ...ต่างก็ยังมั่นคงจงรักต่อกันไม่เคยเปลี่ยนแปลง...


ใบหน้าขยับเข้าหากันราวกับมีแรงดึงดูดก่อนที่ริมฝีปากจะแตะกันแผ่วเบา...รสจูบคราวนี้มันไม่ได้เรียกร้องเร่าร้อนเหมือนก่อนหน้า ทว่ามันกลับนุ่มนวล อ่อนโยนและหวานล้ำ เป็นจุมพิตสำคัญที่ถ่ายทอดทุกความคิดถึงให้ส่งผ่านไปยังกันและกัน...แทนทุกคำพูด...ที่คงจะบรรยายออกมาไม่หมดว่าพวกเขาคิดถึงกันขนาดไหน จากที่คิดว่าคงไม่สามารถลงเอยกันได้อีกแล้วกลับได้ทุกอย่างกลับคืนมา

“อยู่กับชั้นตลอดไปนะ โซระมารุ...”   ใบหน้าที่ละออกไปพูดกับเขาด้วยนัยน์ตาลึกซึ้ง และเขาก็พยักหน้ารับอย่างไม่ต้องลังเล

“ครับ...ผมจะอยู่กับคุณตลอดไป”   ริมฝีปากแนบชิดกันอีกครั้งราวกับจะใช้มันแทนคำสัญญา

บรรยากาศที่หอมหวานนี้ไม่รู้ว่ามาจากพวกเขาหรือขนมในร้านกันแน่...รู้แต่ว่าสายฝนหนาวเย็นที่โปรยปรายลงมานั้น...มันหยุดตกแล้ว...





.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.





Mont Blancหมดแล้วครับ ขอเพิ่มด้วย”   พนักงานเสิร์ฟชะโงกหน้าเข้ามาบอกข้างในครัวที่กำลังยุ่งกันหัวปั่น

“ขอ Tarte au citron ก่อนๆ”   อีกเสียงดังแทรกเข้ามาทำให้มือที่เตรียมจะหยิบแป้งสำหรับมองบลังค์ชะงักค้างก่อนจะเปลี่ยนไปหยิบส่วนผสมของทาร์ตแทน ตัวหนังสือง่ายๆถูกเขียนใส่กระดาษที่มีขีดฆ่ายาวเป็นหางว่าวเพื่อกันลืม...นี่เป็นกระดาษของวันนี้เท่านั้นนะ คิดดูสิว่าที่ร้านขายดีจนไม่มีเวลาพักขนาดไหน

“คุณโซระมารุ เดี๋ยวชั้นทำ Tarte au citron เอง”   เชฟขนมอีกคนที่เพิ่งจะเอาเค้กเข้าเตาอบหันมาช่วยเอาทาร์ตไปทำให้แทน...เขามาทำงานพิเศษที่ร้านของคุณชิราสึได้เกือบปีแล้ว ถึงจะเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยมันจะเหนื่อยแทบตาย แต่การได้อยู่ใกล้ๆกับคนที่เขารักความเหนื่อยนั้นมันกลับกลายเป็นความสนุก


“ก็เหมือนกับมีเซ็กส์ใช่ไหมล่ะ? เหนื่อย...แต่ก็สนุก”


เสียงทุ้มที่เจ้าเล่ห์นิดๆจู่ๆก็ดังขึ้นมาในหัวเรียกแก้มใสให้ร้อนผ่าวจนต้องเผลอยกมือปัดๆไล่ความคิดน่าอายนั่นออกไป

“ไม่เหมือนซักหน่อย คุณชิราสึบ้า!”   ริมฝีปากบ่นงึมงำทำให้ไม่ทันสังเกตว่าใครมายืนอยู่ข้างหลัง

“เรียกชั้นเหรอ?”  

“เจ้ย?!”   เสียงทุ้มที่จู่ๆก็ดังขึ้นมาข้างๆหูทำเอาไหล่ทั้งสองข้างสะดุ้งโหยง เขาหันไปมองคนที่จู่ๆก็โผล่มาอย่างคาดโทษ

“ถ้าจะมากวนละก็...ออกไปดูแลลูกค้าสิครับ”   ใบหน้าที่จริงจังอยู่เสมอทำให้ใบหน้าคมอมยิ้ม นัยน์ตาสีม่วงทอดมองอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู ต่อให้ผ่านอะไรมามากมายโซระมารุก็ยังคงเป็นโซระมารุของเขาวันยังค่ำ

“ก็ชั้นเหนื่อยแล้วนี่นา...เลยว่าจะมาพักหน่อย~”   ท่อนแขนแข็งแรงสอดเข้าไปกอดร่างโปร่งจากทางด้านหลัง ปลายคางค่อยๆเกยลงไปบนไหล่บางของคนที่ยังนวดแป้งไม่หยุด

“ถ้าเหนื่อยก็ไปนั่งพักที่ห้องพักพนักงานสิครับ!

“ไม่เอาอ่ะ ถ้าไม่ได้กอดโซระมารุก็ไม่หายเหนื่อยหรอก...ชั้นเป็นนายจ้างของนายนะ นายต้องทำตามที่ชั้นสั่งสิ”

“นายจ้างที่ลวนลามพนักงานในร้านนี่มันต้องแจ้งตำรวจไหมครับ?”   ใบหน้ามนหันมาค้อนให้ทีนึงแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้สะบัดเขาออก

“โหดจัง...”   แก้มแนบลงไปกับแก้มใส ผิวนุ่มๆของโซระมารุทำให้ไม่อยากจะละออกไปเลย เพราะงั้นต่อให้มีเสียงเรียกจากข้างหลัง เขาก็ยังอ้อยอิ่งจนถูกข้อศอกเล็กๆนั่นกระทุ้งเข้าจนได้

“คุณชิราสึคร้าบ~ คิดเงินคร้าบ~   เสียงเรียกดังมาจากหน้าร้าน เขาทำหน้าเสียดายก่อนจะจำใจเดินจากมา...เอาเถอะ...ยังมีเวลาที่จะอยู่ด้วยกันอีกเยอะ

ก็เพราะโซระมารุน่ะ...ย้ายมาอยู่บ้านเดียวกันตั้งนานแล้ว

คิดถึงผลที่ตามมาจากการที่โซระมารุย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วมันก็ทำให้อดขำในลำคอไม่ได้

ก็เท็นกะน่ะสิ


.
.
.
.

“ชิราสึ...แก!! ไอ้เพื่อนทรยศ! แกทำน้องชายชั้นท้องใช่ไหม? ถึงได้มีลูกหน้าเหมือนแกเด๊ะแบบนี้? ไอ้เด็กนั่นมันเรียกโซระมารุที่น่ารักของชั้นว่ามาม๊า เพราะงั้นพ่อเด็กก็ต้องเป็นแกแน่นอนเลย! หนอย...บอกกับชั้นว่าจะไปเรียนต่อที่เมืองนอกเมืองนา ที่ไหนได้คงจะหนีไปมีลูกกับแกสินะ?! ไอ้เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด! อย่าให้ชั้นเจอแกนะ จะตั๊นให้หน้าหงายเลยคอยดู! โซระมารุที่ใสซื่อแสนดี โซระมารุเทวดาตัวน้อยๆของชั้นกลายเป็นมาม๊าไปเสียแล้ว~~ ฮือ~~~    ภาพของเท็นกะ พี่ชายผู้หวงน้องชายคนรองราวกับจงอางหวงไข่กำลังโวยวายใส่เขาผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ในวันหนึ่งทำให้เขายิ้มแหยๆรับ จะว่าน่ากลัวเหมือนคุณพ่อดุๆที่หวงลูกสาวก็ไม่เชิง จะว่าฮากับความคิดเพี้ยนๆนั่นก็ไม่ใช่ เอาเป็นว่าวันนั้นเขาได้แต่ยิ้มรับไม่ว่าเพื่อนรักจะเต้นแล้งเต้นกาด่าเขาอยู่หน้าจอที่อีกซีกโลกนึงยังไงก็ตาม...เรื่องของโซระมารุเขาพร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำโซระมารุท้องก็เถอะนะ

“จะปิดแล้วนะพี่! โหยหวนน่ารำคาญจริงๆ จบม.ปลายมาได้ยังไงเนี่ย? ผู้ชายที่ไหนท้องได้กันเล่าไอ้พี่ปัญญาอ่อน เมาก็ไปนอนซะ!!”   ก็ยังคงมีแต่โซระมารุนั่นแหละที่กล้าด่าเท็นกะปาวๆ ปลายนิ้วเรียวจิ้มปิดวิดีโอคอลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างตัดรำคาญ...จริงๆเขาทั้งสองคนยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจที่จะบอกเรื่องนี้กับเท็นกะ แต่มีอยู่วันหนึ่งในขณะที่โซระมารุกำลังคุยผ่านจอกับพี่ชายอยู่นั้น ลูกชายของพวกเขาดันเดินผ่านมาแล้วเรียกโซระมารุว่า “มาม๊า” ตามปกติ...เท่านั้นแหละ...ความแตกดังเพล้ง

ถึงเท็นกะจะเข้าใจผิดเพี้ยนในบางเรื่อง แต่โดยรวมที่ว่าเขากับโซระมารุกำลังคบกันอยู่ทางนั้นก็รู้ไปเป็นที่เรียบร้อย...

กลับญี่ปุ่นคราวหน้า...จะโดนฆ่าไหมนะ?

.
.
.
.
.

ใบหน้าคมส่ายน้อยๆเมื่อนึกถึงเพื่อนรักที่ป่านนี้คงจะนั่งขัดลูกปืนทุกวันไม่ก็ท่องคาถาเสกคุณไสย์ใส่เขาอยู่แน่ๆ...ก็ใครจะไปคิด ว่าน้องชายที่เฝ้ารักเฝ้าหวงเฝ้าดูแลมาอย่างดี จะมาเสร็จคนใกล้ตัวที่เข้านอกออกในบ้านคุโมอย่างเขานี่เอง

แต่ก็นะ...กว่าจะได้มา เขาเองก็เลือดตาแทบกระเด็นเลยเหมือนกัน

นัยน์ตาสีม่วงเหลือบมองรอยแผลเป็นที่ข้อมือ...เขาไม่เคยนึกเสียใจเลยที่ทำเรื่องบ้าๆแบบนั้นลงไป และไม่ว่าจะถูกมองด้วยสายตาหวาดหวั่นแค่ไหน เขากลับยอมรับกับทุกคนตรงๆว่ารอยแผลนี้เป็นของโซระมารุ...

ใช่...เขาบอกกับทุกคนตรงๆว่าเขาเคยทำร้ายตัวเอง เคยคิดจะฆ่าตัวตายเพราะโซระมารุ  บอกให้ทุกคนรู้ว่าถ้าทำอย่างเขาไม่ได้ รักจนยกให้แม้แต่ลมหายใจอย่างเขาไม่ได้ก็อย่าคิดจะมายุ่งกับโซระมารุของเขา!

เพราะเขาไม่เอาไว้แน่...


“กลับก่อนนะคร้าบ~”    เสียงพนักงานในร้านบอกลาก่อนที่จะพากันออกไป

“อื้อ”   เขายิ้มแล้วโบกมือให้ทั้งๆที่ในใจยังคิดเรื่องน่ากลัวอยู่...แต่ก็เพราะเขาบอกกับทุกคนเรื่องรอยแผลเป็นที่ข้อมือของเขานี่แหละ ทำให้ไม่มีใครกล้ายุ่งกับโซระมารุอย่างที่คิดจริงๆ

คนปกติที่ไหนก็คงไม่อยากหลงเข้ามาในวังวนความรักป่วยๆของพวกเขาหรอก...ขนาดยัยเอริยังยอมล่าถอยแต่โดยดีเลย

โซระมารุเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่เขาออกจากอพาทเม้นต์มา ตัวเองก็เอาแต่ตามหาเขาเป็นบ้าเป็นหลังจนไม่ได้เจอหน้าผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าแฟนนั่นเป็นเดือนๆ ในที่สุดเอริก็เป็นฝ่ายบอกเลิก ทั้งสองคนกลับไปเป็นแค่เพื่อนที่หวังดีต่อกันแค่นั้น...แต่ก็นะ...เพราะเป็นเพื่อนผู้หวังดีน่ะแหละ ต่อให้เลิกกันไปแล้วแต่ยัยเอริก็ยังขัดขวางทุกวิถีทางที่จะให้โซระมารุคบกับเขา ทุกวันนี้ยังด่าเช้าด่าเย็นทุกทีที่โซระมารุเปิดวีดีโอคอลคุยด้วยแล้วเขาจงใจ...ไม่สิ บังเอิญเดินผ่าน...

รอยยิ้มมืดมนเผยอยู่บนริมฝีปากเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา มือยกขึ้นกดปิดสวิตซ์ไฟส่วนใหญ่ทำให้หน้าร้านดูมืดสลัว ต่างจากในห้องครัวที่ยังมีแสงไฟสว่างจ้าลอดออกมา เสียงเปิดฝาเตาอบพร้อมกับกลิ่นหอมหวานทำให้เขาอมยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปดู โซระมารุคงกำลังลองทำขนมอะไรใหม่ๆให้เขากินอยู่ละสิ

เพราะเสียเวลาไปห้าปี แถมยังมีช่วงที่ยังไม่รู้ใจกันก่อนหน้านั้นอีกทำให้แต่ละวันในตอนนี้ พวกเขาพยายามจะแสดงออกต่อกันอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ทุกวินาทีต่อจากนี้มีค่ามากที่สุด

“หอมจัง”   สองมือสอดเข้าไปจากทางด้านหลังก่อนจะรวบเอวบางเข้ามากอดเอาไว้ สันจมูกกดจูบขโมยแก้มใสไปหนึ่งฟอดจนเจ้าของมันหันมาค้อนควับๆ

“ที่ว่าหอมนั่นมันอะไรกันครับ?”   ใบหน้ามนมองมาอย่างคาดโทษ แต่ยิ่งโซระมารุทำแก้มป่องแค่ไหนมันก็ยิ่งน่ารักจนนึกอยากแกล้งขึ้นมายังไงไม่รู้ สองแขนจึงกระชับลำตัวบางให้แน่นขึ้นพลางกดจมูกฟุดฟิดไปตามเส้นผม ซอกคอ ลาดไหล่แล้วจบที่แก้มป่องๆนั่น

“ตัวนายที่มีแต่กลิ่นแป้งทำขนมแบบนี้น่ะ หอมที่สุดเลย”   คนในอ้อมแขนส่ายหน้าน้อยๆแต่ก็ไม่ได้ผลักไส ใบหน้ามนก้มลงไปมองผลงานที่เพิ่งเสร็จหมาดๆบนโต๊ะด้วยรอยยิ้มน้อยๆ

“เอ้า! ผมให้! กินแล้วจะหายเหนื่อย ผมรับประกัน!”   เขาเกยคางไว้ที่ไหล่บางก่อนจะทอดสายตามองเค้กชิ้นเล็กขนาดพอดีคำที่เป็นสีขาวล้วนยกเว้นส่วนประดับที่วางเยื้องไปด้านหนึ่งซึ่งมันเป็นดอกลาเวนเดอร์เล็กๆสีม่วง...หน้าตาของมันทำให้เขาเผลอยิ้มอย่างมีความสุข

ก็ดูเอาแล้วกัน...ท้องฟ้าที่เขาได้มามันช่างคุ้มค่ากับการแย่งชิงจริงๆ...เพราะฉะนั้นเขาไม่เคยนึกเสียใจเลย...กับทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยทำลงไปในอดีต





ประตูร้านถูกปิดลงก่อนที่ร่างสองร่างจะเดินเคียงข้างกันไปตามถนนที่ทอดสู่หอไอเฟล  สองข้างทางแทบจะไม่มีคนเดินสวนมาด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็นแบบนี้ใครๆก็คงนอนซุกอยู่ในบ้านอุ่นๆกันหมดแล้ว

ขาทั้งสองคู่ยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ ถึงแม้สถานีรถไฟใต้ดินจะไม่ได้อยู่ไกลมากนักแต่ลมหนาวที่พัดผ่านตึกสไตล์ยุโรปสองข้างทางมาปะทะใบหน้ามันก็ทำเอาหนาวไปถึงกระดูก

นัยน์ตาสีม่วงเหลือบมองร่างโปร่งบางที่เดินอยู่ข้างๆ ไหล่เล็กของโซระมารุห่อเข้าหากันซ้ำยังสั่นหงึกๆ แต่แทนที่เขาจะก้าวขาให้เร็วขึ้นเขากลับชะลอจังหวะการเดินให้ช้าลง

“โซระมารุ”   เสียงทุ้มเอ่ยเรียกคนที่เดินเยื้องไปข้างหน้าเบาๆ ใบหน้ามนที่แก้มใสแดงระเรื่อหันมามองอย่างสงสัยก่อนที่ริมฝีปากสีสดจะอุทานเบาๆเมื่อจู่ๆเขาก็สอดมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค้ทของโซระมารุแล้วจับมือบางเย็นเฉียบที่อยู่ในนั้นเอาไว้

ไออุ่นจากฝ่ามือของเขาแผ่ซ่านเข้าไปในมือของโซระมารุ แล้วมันก็ทำให้เจ้าของมือข้างนั้นหัวเราะน้อยๆออกมา ใบหน้าเปื้อนยิ้มของโซระมารุทำให้เขามีความสุข มือที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อโค้ทจึงดึงมือของโซระมารุให้ร่างโปร่งหยุดเดิน...ตรงนี้พ้นออกมาจากถนนซอยแล้ว มันจึงเป็นลานกว้างๆที่ข้างหลังมองเห็นหอไอเฟลได้อย่างชัดเจน

แสงไฟเรืองรองที่ส่องประกายออกมาจากสถาปัตยกรรมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฝรั่งเศสที่เห็นอยู่ทุกวันนั้นยิ่งสวยงามเมื่อวันนี้มีหมอกลงเล็กน้อย บรรยากาศราวกับอยู่ในฝันยิ่งภาพของโซระมารุที่ยิ้มอยู่ข้างๆเขาแบบนี้ไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นจริงได้ ใบหน้าคมภายใต้กรอบผมสีขาวจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะกระซิบที่ใบหูแดงระเรื่อนั่นเบาๆ

“มันมีวิธีที่ทำให้อุ่นยิ่งกว่าการจับมืออยู่อีกนะ โซระมารุ”   ใบหน้าคมละออกมาเพียงเล็กน้อยก่อนจะทอดสายตาสบประสานกับนัยน์ตาสีดำที่ไม่หลบหลีกไปไหน

“หื๋ม?...ยังไงล่ะครับ?”   ใบหน้ามนเชิดขึ้นท้าทายทำให้คนที่ก้มหน้าลงมาหัวเราะในลำคอเบาๆ หลังรอยยิ้มที่มีให้ใบหน้าคมก็ค่อยๆโน้มลงมาช้าๆ ลมหายใจที่ผสมผสานกันทำให้ร่างกายรู้สึกอุ่นขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ ยิ่งกว่านั้นยามที่ริมฝีปากแตะสัมผัส ความหนาวเย็นที่คอยเกาะกินอยู่รอบกายก็ราวกับถูกไฟแห่งรักเผาจนมอดไหม้ ถึงจะเป็นแค่จูบแผ่วเบาแต่มันก็ทำให้ร่างกายไม่หนาวเหน็บอีกต่อไป

ใบหน้าของทั้งคู่ละออกมาจากกันก่อนจะหัวเราะเบาๆ มือใหญ่ดึงมือบางทั้งๆที่ยังอยู่ในกระเป๋าเสื้อโค้ทให้ร่างโปร่งขยับเข้ามาใกล้ ถ้อยคำสั้นๆถูกเอ่ยออกไปดังเช่นทุกวัน

“ชั้นรักนายนะโซระมารุ”   ใบหน้าใสจึงยิ่งร้อนผ่าวจนความหนาวทำอะไรพวกเขาไม่ได้อีก

ใบหน้าของทั้งคู่หันไปมองหอไอเฟลที่ยังเรืองรองก่อนจะหันกลับมามองกันและกัน บรรยากาศหวานๆทำให้ริมฝีปากแนบชิดอีกครั้ง...และอีกครั้ง...

ใบหน้าคมละออกมาก่อนที่มือในกระเป๋าจะกระชับมือบางเบาๆ หัวสีขาวโน้มเข้าไปหาหัวสีดำก่อนจะเอ่ยออกมาว่า

“กลับบ้านกันเถอะโซระมารุ”

“ครับ...กลับบ้านของเรากัน”

รอยยิ้มถูกส่งให้กันอีกครั้งก่อนที่ร่างทั้งสองจะเดินเคียงคู่ต่อไป...ท่ามกลางแสงไฟระยิบระยับของมหานครที่ไม่เคยหลับใหล

ไม่เคยหลับใหล...


เช่นเดียวกับความรักของเราที่มีให้แก่กัน...





จะรักนาย

จะรักคุณ



ตลอดไป...








.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

จะรักตลอดไป

FIN.





ย๊ากกกกกกกกกกกกกกก จบ! แล้ว! กรี๊ดดดดดดดดดดดด >//////<

โอย ไม่ได้ทลายไหจนได้เขียนคำว่า FIN แบบนี้มานาน ดีจั๊ยดีจัย โฮววววววว >////< แล้วยิ่งไหนี้เป็นไหที่ดองเอาไว้อย่างนาน555 คุณกวางเองยังไม่คิดเลยว่ามันจะกลับมาเขียนต่อจนจบได้จริงๆด้วยอ่ะ ก๊ากๆๆๆ // โดนเตะ

อ่า...ต้องขอบคุณสำหรับทุกๆการติดตามมากๆๆเลยนะคะกับฟิคนอกกระแสเรื่องนี้ คือแค่มีคนบอกคุณกวางว่ารออ่านฟิคน้องฟ้าอยู่น้า อินี่ก็ปลื้มจนจะลอยไปถึงดาวลูกไก่แระค่ะ ดีใจมากกกกที่มีคนอ่านเรื่องนี้ด้วย >////< ถ้ามีโอกาสก็อยากจะแต่งฟิคน้องฟ้าอีกเหมือนกันค่ะ ชอบคาแรคเตอร์ของโซระมารุมากๆ น้องฟ้าน่ารักอ่ะ เหมือนเอเลนเลย ยิ่งได้เสียงของยูกิ คาจิซังมากพากย์ด้วย ตอนดูนี่วิญญาณเอเลนสิงมากอ่ะ555 จริงๆก็เป็น Allน้องฟ้านะคะ น้องฟ้ากินกับใครก็อร่อย เอิ้ก แต่ที่ชอบสุดก็คุณชิราสึนี่แหละ ชอบนิสัยกับความร้ายกาจของท่านอ่ะ หลอกตรูซะสนิทเลยพ่อพี่ชายที่แสนดี ที่ไหนได้กลายเป็นศัตรูที่รักซะงั้น =////=

ส่วนความรู้สึกที่มีต่อฟิคเรื่องนี้....อ่า...พวกซีรี่ย์ “จะรักตลอดไป” นี่มันเป็นซีรี่ย์ดาร์กแบบพระเอกเลวลากดิน เพราะงั้นจับคู่นี้ยัดลงเรื่องนี้แหละ!!! ....นะ....ความรู้สึกแรกตอนที่ตั้งใจว่าจะแต่งฟิคน้องฟ้าค่ะ // เอาหัวโขกกำแพง // ก็คุณชิราสึอ่ะ เหมาะกับคาแรกเตอร์ร้ายหลบในแบบนี้มากฟฟฟฟ คือต่อหน้ายิ้มแย้มทำตัวเป็นพี่ชายที่แสนดีแต่ในใจนี่ฟหกด่าสวง มาก!! ชอบ!! // อินี่.... // แล้วก็ตอนเริ่มแต่งไปได้ยินเพลง “รถของเล่น” ของวงเสือโคร่งมา....อะโห...หยุดไม่อยู่เรยทีนี้....”มันต้องใช้น้ำตาแค่ไหน ต้องร้องไห้กี่ครั้ง ให้เค้าและเธอทิ้งขว้างความรักแล้วเลิกลา ให้เธอเห็นว่ารักของผมให้เธอได้มากกว่า ต้องใช้สักกี่น้ำตาให้เธอเห็นใจ”....ฟฟฟฟฟฟ ฟังครั้งแรกนี่โดนมาก เพลงอัลไลมันใช่คุณชิราสึขนาดนี้!!! >////< ทุกวันนี้ฟังทีไรใบหน้ายิ้มดาร์กๆของท่านก็ลอยมาทุกทีเรยค่ะ หนูขอโทษ TvT

ฉากที่แต่งยากกลับเป็นฉากหวานๆตอนจบแหะ55555 ส่วนฉากเลวร้ายของพ่อคุณทูนหัวชิราสึนี่เป็นอะไรที่ลื่นไหลมาก ส่วนใหญ่จะแต่งรวดเดียวจบแทบทั้งนั้น เรียกว่าเมามันส์สุดๆ TvT  แต่ยังไงก็ต้องขออภัยแฟนๆคุณชิราสึด้วยนะคะที่ทำให้คาร์แรคเตอร์ท่านแปดเปื้อน m(_ _)m เอาไว้เรื่องหน้าที่ไม่ใช่ซีรี่ย์ “จะรักตลอดไป” ค่อยว่ากันใหม่เนอะ เหะเหะ แต่ส่วนตัวก็คิดว่าพระเอกของซีรี่ย์นี้ ซาสึเกะยังเลวร้ายที่สุดอยู่ดี คุณชิราสึยังมีมุมที่อ่อนแอ ยังมีมุมที่สำนึกผิด แต่เกะนี่แม่งแบบ....=v=””

ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งที่อยู่ด้วยกันกับฟิคป่วยๆเรื่องนี้ ขอบคุณที่รักที่คิดถึงมันนะคะ >////< แล้วเจอกันเรื่องหน้าค่า

ปล.เหลืออีก 10 วันแล้วตรูจะปั่นซอมบี้ทันไหมถถถถถ





1 ความคิดเห็น:

  1. จบแว้ว T^T อยากให้มีคู่รี่ต่ออีกชอบ ไม่ก้คู่ของชิราสึกับเท็นกะ จะว่าไปนิสัยชิราสึเรืาองนี้รู้สึกว่าคล้ายๆโคทาโร่ยังไงไม่รู้//ในความคิดเรา ตรงที่ว่าออกแนวขี้อ้อนนิดๆ สังเกตุจากตอนพิเศษตรงหน้าปกมังงะเล่มเท่าไรไม่รู้ลืม

    ตอบลบ