Donten ni Warau Au S.Fic [Shirasu x Soramaru] “จะรักตลอดไป” : Revert 01


Donten ni Warau Au S.Fic [Shirasu x Soramaru]    “จะรักตลอดไป” : Revert 01

: Donten ni Warau Fanfiction 
: Shirasu x Soramaru
: Dark Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ






แก้วกาแฟหอมกรุ่นถูกวางลงไปบนโต๊ะเตี้ยหน้าเตียงแบบพับเป็นโซฟาได้ ห้องเล็กๆพอแค่หนูดิ้นตายไม่ได้ทำให้นัยน์ตาสีดำรู้สึกหม่นหมองเท่าความรู้สึกโดดเดี่ยวที่ต้องมาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง มือบางหมุนปิดเตาแก๊สบนเคาน์เตอร์ครัวกะทัดรัดก่อนจะก้าวขาสองสามก้าวก็มาถึงเตียงโซฟาได้ไม่ยาก ห้องเล็กๆที่เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นสีขาวถึงจะมีขนาดแค่หนึ่งในสามของห้องตอนที่เขาอยู่ในญี่ปุ่นแต่ค่าเช่ามันก็เอาเรื่อง...นั่นก็เพราะว่ามันอยู่ในอพาท์เม้นต์ซึ่งตั้งอยู่ในย่านใจกลางนครปารีส...เมืองแห่งแฟชั่นและอาหารที่ไม่ว่าเชฟคนไหนก็คงจะใฝ่ฝันถึง

ร่างโปร่งบางทิ้งตัวนั่งลงไปบนเตียงพับได้หนานุ่ม ฝ่ามือยกแก้วกาแฟขึ้นมาดื่มในขณะที่อีกมือก็พลิกแผนที่ไปมา...ใช่...เขาเพิ่งจะมาถึงที่นี่เมื่อวาน ถึงแม้จะเตรียมตัวเรื่องภาษาและที่พักมาอย่างดีแต่ทุกสิ่งทุกอย่างทุกสถานที่ล้วนเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับคนที่ไม่เคยจากบ้านมาไกลขนาดนี้แบบเขา

ทุกๆคนเข้าใจว่า คุโม โซระมารุ มาเรียนต่อด้านการทำอาหาร...พอบอกว่าเป็นประเทศฝรั่งเศสทุกคนก็เชื่อแบบนั้นทันที

แต่ที่จริงแล้วน่ะ...เขามาด้วยจุดประสงค์อื่นมากกว่า...

มือบางหยิบกระดาษเหลืองกรอบแผ่นหนึ่งขึ้นมาเทียบดูกับชื่อถนนในแผนที่...ถนนเส้นนี้อยู่ใกล้ๆหอไอเฟลเลยนี่นา...ดีล่ะ!

กาแฟถูกดื่มรวดเดียวจนหมดแก้วก่อนที่ร่างโปร่งจะลุกพรวดพราดหยิบเสื้อผ้าที่ยังกองอยู่ในกระเป๋าเดินทางออกมาแล้วพุ่งเข้าห้องน้ำไป

แสงแดดยามสายที่ลอดผ่านม่านหน้าต่างสีขาวเข้ามาตกกระทบบนแผ่นกระดาษเหลืองกรอบทำให้ชื่อและที่อยู่ที่เขียนอยู่บนนั้นช่างดูเลือนราง

แต่สำหรับเขาแล้ว...มันช่างเป็นชื่อที่แจ่มชัดอยู่ในหัวใจ...เป็นชื่อที่ยิ่งใหญ่พอที่จะเปลี่ยนชีวิตของเขาจนต้องตามมาถึงฝรั่งเศสนี่ได้

ชื่อและที่อยู่...ของคุณชิราสึ...ที่เขาหามานานแสนนาน...







ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีแล้วแท้ๆ แต่ฝรั่งเศสนั้นไม่ง่ายเลยจริงๆ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นภาษาฝรั่งเศส ถึงเขาจะพออ่านได้บ้างจากการร่ำเรียนภาษามาครอสสั้นๆแต่ถ้าเทียบกับภาษาอังกฤษที่เรียนมาตั้งแต่มัธยมต้นจนจบม.ปลายแล้ว...อะไรมันจะชินตากว่ากันไม่ต้องบอกก็รู้

“อ่า....”   ร่างโปร่งได้แต่ยืนเกาหัวแกรกๆกับป้ายในสถานีรถไฟใต้ดินที่ดูจะพิสดารพันลึกกว่าในโตเกียวเมืองที่ได้ชื่อว่ามีสายรถไฟพันกันยุ่งยิ่งกว่ายุงตีกันนั่นเสียอีก ทั้งๆที่อุตส่าห์มั่นใจว่าหากเขาพิชิตรถไฟในโตเกียวได้ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ไม่เป็นไรแล้วเสียอีก แต่เขาก็คิดผิดเมื่อมาเจอรถไฟฝรั่งเศสผู้ไม่สนใจสัญลักษณ์สากลใดๆทั้งสิ้น! ไม่งั้นเขาคงจะไม่หลงทางทั้งๆที่ทำการบ้านมาดีขนาดนี้หรอก!!

นัยน์ตาสีดำเหลือบมองชื่อสถานีรถไฟเทียบกับในแผนที่อีกที...คิดว่าน่าจะใช่แล้วนะ? สองขาจึงตัดสินใจเดินออกมาจากสถานี แล้วหอไอเฟลที่เห็นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลก็ทำให้เขาถึงกับถอนหายใจ...ใช่จริงๆด้วย...

ใบหน้ามนอมยิ้มน้อยๆก่อนจะเหลือบตาลงไปมองมือที่ซุกอยู่ในกระเป๋าเสื้อกันหนาว สัมผัสของกระดาษเหลืองกรอบแผ่นนั้นทำให้หัวใจรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก


ใกล้แล้วนะครับคุณชิราสึ...ผมใกล้จะได้เจอกับคุณแล้ว...


อยู่มาตั้ง 5 ปีแล้วทำไมเขาเพิ่งจะไปเจอกระดาษแผ่นนี้ทั้งๆที่ไม่ว่าจะไปหาที่ไหนหรือถามใครต่อใครก็ไม่มีใครรู้เลยว่าคุณชิราสึไปอยู่ที่ไหน

เขาเจอมันที่โรงพยาบาล...

มันเป็นจดหมายที่คุณชิราสึเขียนส่งมาถึงพ่อของคุณชิราสึเองเพื่อบอกว่าตนสบายดีและอยู่ที่ไหนไม่ต้องห่วง...ทว่า...จดหมายฉบับนี้ก็ไม่เคยถึงมือของคุณพ่อของคุณชิราสึเลยเพราะว่าท่านเสียชีวิตไปก่อนที่จดหมายจะมาถึงโรงพยาบาล ยังโชคดีที่นางพยาบาลซึ่งดูแลคุณพ่อของคุณชิราสึยังเก็บจดหมายฉบับนี้เอาไว้...เขาถึงได้มารู้เอาป่านนี้ว่าคุณชิราสึหนีเขามาไกลขนาดไหน...

เขาคงจะตัดใจ...ถ้าประเทศที่คุณชิราสึไปไม่ใช่ฝรั่งเศส...

เพราะฝรั่งเศสเป็นประเทศที่เชฟทุกคนล้วนใฝ่ฝัน...ว่าจะต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต

คุณยังรักและคาดหวังในตัวผมอยู่ใช่ไหมครับ? ถึงได้มารอผมอยู่ที่นี่...ในดินแดนแห่งอาหารเช่นนี้

เพราะงั้นเขาจึงมาที่นี่ด้วยความหวังเช่นกัน

“หวังว่าคงจะไม่ย้ายที่อยู่ไปแล้วหรอกนะ...นี่ก็ห้าปีมาแล้วด้วย...”   ริมฝีปากบ่นงึมงำพลางพยายามเทียบแผนที่ในมือกับป้ายชื่อถนน เขาจะได้รู้เสียทีว่าตัวเองยืนอยู่ตรงไหนกันแน่?


ซู่~~~~


จู่ๆลมแรงก็พัดมาอย่างไม่บอกไม่กล่าว เขายกมือขึ้นป้องใบหน้าโดยอัตโนมัติและนั่นมันก็ทำให้แผนที่ในมือปลิวไปตามสายลมทันที

“อ๊า?!!”   สองแขนพยายามไขว่คว้าแผ่นกระดาษที่ปลิวว่อนอยู่เหนือหัว สายลมรุนแรงทำให้มองอะไรแทบไม่เห็น สองขาก้าวไปมั่วๆจนไม่รู้ตัวเลยว่าลงไปอยู่บนถนนตั้งแต่เมื่อไหร่?!


ปรี๊นนนนนนนนน....


เสียงแตรลากยาวทำให้เผลอปิดตาแน่นแทนที่จะขยับตัวหนี ยังดีที่มือของใครบางคนดึงเขาหลบรถนั่นได้ทันแบบเส้นยาแดงผ่าแปด!


ตุ้บ!


ถึงจะหลบรถได้แต่แรงดึงมากมายขนาดนั้นมันก็ทำให้เขาเซถลาจนพาคนที่ช่วยชีวิตเขาล้มไปด้วยกัน นัยน์ตาสีดำยังคงปิดแน่นด้วยหัวใจที่เต้นจนแทบจะทะลุออกมาจากอก...เกือบไป...เกือบจะไม่มีชีวิตไปพบคุณชิราสึแล้วเชียว...

“เฮ้? เป็นอะไรหรือเปล่า?”   เสียงราบเรียบถามมาเป็นภาษาฝรั่งเศส หลังจากที่มึนงงและพยายามตั้งสติว่าตอนนี้ตนไม่ได้อยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วเขาจึงค่อยๆลืมตาก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปเพื่อขอบคุณผู้ช่วยชีวิต

แต่แล้ว...เส้นผมสีขาวหยักศกซึ่งยาวระต้นคอกับนัยน์ตาสีม่วงของคนที่เขานั่งทับอยู่ก็ทำเอาดวงตาเบิกกว้าง...นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าพรหมลิขิต...ชีวิตที่ถูกผูกกันไว้ย่อมหนีไม่พ้นกันเลยจริงๆ...

ในที่สุด...

ในที่สุดเขาก็เจอจนได้...

“คุณ...ชิราสึ.....”   สองมือสั่นๆยกขึ้นประคองใบหน้าที่แสนคิดถึงนั่นช้าๆ คนตรงหน้าเองก็มีท่าทางตกตะลึงเช่นกัน นัยน์ตาสีดำจ้องมองตั้งแต่หน้าผากจรดปลายคาง...ช่างเป็นใบหน้าที่แสนคิดถึง คุณชิราสึไม่เปลี่ยนไปเลย...ใบหน้านี้ราวกับถูกสตัฟฟ์เอาไว้

“เอ๋?”   เดี๋ยวนะ จะว่าสตัฟฟ์มันก็ยังไงอยู่...เพราะนี่มันเป็นใบหน้าของคุณชิราสึตอนอายุราวๆสิบขวบไม่ใช่หรือไงกัน?!

“เอ๋??”   ยิ่งถอยออกมาดูห่างๆก็ยิ่งรู้สึกว่าใช่ เพราะทั้งขนาดร่างกายก็หดเล็กลงเหมือนคุณชิราสึตอนสิบขวบจริงๆด้วย? เป็นไปไม่ได้? คุณชิราสึเด็กลง?

“โทษนะ รู้จักปะป๊าด้วยเหรอ?”   เด็กชายลุกขึ้นปัดตามร่างกายพร้อมกับมองเขาอย่างสงสัย เดี๋ยวนะ เมื่อกี้คุณชิราสึที่อายุสิบขวบพูดว่าอะไรนะ?

“ปะป๊า?....”   เขาถามออกไปด้วยใบหน้ามึนงง

“ใช่...ชิราสึคือชื่อของปะป๊า”   เด็กชายตอบกลับด้วยใบหน้าที่ถอดมาจากพิมพ์เดียวกับคุณชิราสึ สิ่งที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้มาเห็น สิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้ยินมีแต่จะยิ่งทำให้เขาสับสนจนจับต้นชนปลายไม่ถูก

“ปะป๊า?”    ริมฝีปากได้แต่ถามย้ำอย่างไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน

“ใช่ ปะป๊า”   เด็กชายใช้นัยน์ตาสีม่วงทอดมองเขาราวกับเป็นคนที่ไม่รู้จัก

“ปะป๊าที่แปลว่า...พ่อ?”   แค่เห็นเอกลักษณ์เด่นชัดบนเส้นผมและสีตาของเด็กชายก็ไม่ต้องถามแล้ว แต่เขาก็ยังอยากจะได้คำยืนยันว่าเขาไม่ได้เข้าใจภาษาฝรั่งเศสที่เด็กนั่นพูดผิดไป

“ก็พ่อสิ”   แล้วเด็กชายก็ช่วยยืนยันด้วยรอยกรีดลงไปบนหัวใจ...ช่วยย้ำชัดๆให้เขารู้ว่าคุณชิราสึไม่ได้มาที่นี่เพื่อรอเขาอีกต่อไป

ไม่จริง...

ไม่จริงใช่ไหม

ทั้งๆที่คุณขัดขวางผมกับเอริแทบตาย แต่คุณกลับหนีมามีลูกอยู่ที่นี่?

ร่างทั้งร่างรู้สึกชาจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ ตอนนี้ในหัวคิดอะไรไม่ออกแม้แต่จุดประสงค์ที่เขามาที่นี่...ใช่...เขาตามคุณชิราสึมาทำไมกัน...

“เฮ้? ดูท่าทางคุณอาการไม่ดีเลย ยังไงไปนั่งพักที่ร้านของผมก่อนก็แล้วกัน”   เขาไม่รู้ว่าเด็กชายพูดอะไร ไม่รู้ว่าร่างที่เล็กกว่าเขากำลังลากเขาไปไหน ตอนนี้ในหัวสมองมันมึนเบลอไปหมด


กริ๊ง....


เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นปลุกเขาออกมาจากภวังค์ ยังไม่ทันจะได้เตรียมหัวใจให้พร้อมเด็กชายก็พาเขามาเผชิญหน้ากับคนที่เขายังไม่อยากเจอที่สุด...

ทั้งๆที่เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วเขายังตามหาเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ยืนเช็ดแก้วอยู่หลังเคาน์เตอร์นั่นเป็นบ้าเป็นหลัง ทั้งๆที่ไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วเขายังอมยิ้มอย่างดีใจที่คิดว่าตนคงจะอยู่ใกล้ๆเจ้าของเส้นผมสีขาวนั่นแล้วแน่ๆ ทั้งๆที่ตลอดเวลาห้าปีที่ผ่านมานี้ไม่มีวินาทีไหนที่เขาจะไม่คิดถึงคนที่ยืนตะลึงจ้องมองเขากลับมาด้วยนัยน์ตาสีม่วงนั่นเลย

แล้วทำไม....

ทำไม....

“โซระมารุ...”   เสียงทุ้มที่เอ่ยออกมามีแต่จะยิ่งตอกย้ำว่าเขาจำคนไม่ผิด...คนตรงหน้าคือคนที่เขาเฝ้าตามหามาตลอดจริงๆด้วย...คนคนนี้เป็น “พ่อ” ของเด็กคนนั้นจริงๆด้วย

“คุณ...ชิราสึ...”   เขาเรียกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเลื่อนลอย...เพราะไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมาเจอสถานการณ์แบบนี้เลยไม่เคยเตรียมใจ ไม่เคยรู้ว่าจะต้องรับมือกับมันยังไง...

“คนรู้จักของปะป๊าจริงๆสินะ? ดูท่าทางไม่ค่อยสบายเลยพามานั่งพักน่ะ”   ใบหน้าที่เหมือนกันราวกับแกะหันไปพูดกับคนที่ยืนนิ่งค้างอยู่หลังเคาน์เตอร์ และเป็นเพราะเด็กชายนั่นแหละที่ทำให้ทั้งเขาทั้งคุณชิราสึต่างหลุดจากความฝันมาเผชิญกับโลกแห่งความเป็นจริงได้เสียที

ไม่มี...

ไม่มีอีกต่อไปแล้ว คุณชิราสึที่เขาเฝ้าตามหา...ถึงจะยืนอยู่ตรงหน้าแต่เขาก็รู้ตัวว่าเขาคงไม่มีสิทธิ์ที่จะรักอีกฝ่ายได้อีกต่อไป...

“จะเข้าไปทำการบ้านก็ไปสิชิโรยูกิ เดี๋ยวทางนี้ปะป๊าดูเอง”   คุณชิราสึหันไปพูดกับเด็กชายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เด็กชายจึงหันมามองเขาแว่บหนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปยังหลังร้าน

“นั่งก่อนสิ โซระมารุ”   คุณชิราสึเชิญให้เขานั่งลงที่หน้าเคาน์เตอร์ รอยยิ้มแห้งๆนั่นชวนกระอักกระอ่วนใจยังไงชอบกล...เขาไม่ควรจะมาเลยจริงๆ...คุณชิราสึอาจจะตัดใจจากเขาได้แล้วและตั้งใจเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่พอเขามายืนอยู่ตรงหน้าแบบนี้ ความทรงจำที่เคยทำเอาไว้มันเลยย้อนกลับมา...คุณชิราสึอาจจะนึกเสียใจอยู่ก็ได้...ที่เคยทำตัวบ้าบอแบบนั้นเพื่อเขา...

“ครับ...”   เขานั่งลงตามคำเชิญช้าๆ...ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเขาไม่ควรจะอยู่ที่นี่ ไม่ควรจะยุ่งเกี่ยวกับอีกฝ่ายไปมากกว่านี้...ถ้าเขารักคุณชิราสึเขาก็ควรจะปล่อยให้อีกฝ่ายได้ใช้ชีวิตที่เลือกแล้วนั่นอย่างสงบสุข

จะทำเหมือนตอนที่คุณชิราสึทำกับเขาและเอริไม่ได้...

เพราะเขากับเอริยังไม่ได้แต่งงานกัน...ยังไม่ได้มีลูก...ยังไม่ได้เป็นครอบครัวเหมือนคุณชิราสึในตอนนี้...

“ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกเลยนะ โซระมารุ...สบายดี...ไหม?...”   น้ำเสียงที่ถามออกมาช่างชวนให้คิดถึง มันเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย ชวนให้อยากจะพุ่งเข้าไปกอดอีกฝ่ายเอาไว้...แต่เขาก็ทำได้แค่จิกเล็บลงไปบนฝ่ามือของตัวเอง....ไม่ได้...จะทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด...

“สบายดีครับ...คุณชิราสึล่ะ? ไม่ติดต่อมาเลยตั้งหลายปี ผมกับพี่เท็นกะเป็นห่วงมากนะครับ”   เขาต้องพยายามอย่างหนักที่จะปั้นรอยยิ้มและน้ำเสียงให้เหมือนเดิม...จะทำให้คุณชิราสึหนักใจไม่ได้...ปลายเล็บจิกลงไปจนเจ็บไปหมด

“ก็สบายดี นายก็คงรู้...ว่าที่ชั้นไม่ติดต่อไปนั่นเป็นเพราะอะไร”    รู้สิ ผมรู้ดีเลยล่ะ! เพราะว่าคุณอยากจะตัดใจจากผม อยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้หญิงที่ผมไม่รู้จักใช่ไหมล่ะ?!  อยากจะตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายแต่ก็ทำได้แค่ฝืนยิ้ม

“เด็กคนเมื่อกี้...ลูกชายของคุณชิราสึสินะครับ...เห็นก็รู้แล้วว่าใช่...เหมือนคุณอย่างกับแกะ”   หน้าของเขาที่พูดประโยคนี้ออกไปมันยิ้มได้อย่างเป็นธรรมชาติไหมนะ? หรือว่ามันกำลังเศร้าหมอง? คุณชิราสึถึงได้ยิ้มเฝื่อนๆออกมา

“อืม”   ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีขาวยอมรับง่ายๆ นัยน์ตาสีม่วงเสไปมองพื้นเคาน์เตอร์อย่างไม่กล้าสบตากับเขา มือใหญ่เลื่อนแก้วน้ำส้มมาให้ ความอึดอัดที่เกิดขึ้นทำให้เขายกมันขึ้นดื่มพรวดๆ

“ช้าๆสิโซระมารุ”   มันช่างคุ้นหูเหลือเกิน...คำพูดที่แสดงออกว่าห่วงใยเขาพวกนี้...ทั้งๆที่อยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆแต่กลับเข้าไปกอดอย่างที่ตั้งใจไม่ได้ ทั้งๆที่ตามหาจนเจอแต่ก็สายไปแล้วทุกอย่าง...อยากจะร้องไห้...อยากจะแหกปากตะโกนให้โลกรู้...ว่าเขากำลังเจ็บเจียนตายขนาดไหน


5 ปีที่ผ่านมา...คุณยังลงโทษผมไม่สาสมใช่ไหม...ถึงได้ทำกันแบบนี้...


“นายมาทำอะไรที่นี่ล่ะ? มาเรียนเหรอ?”   ถ้าผมบอกว่าผมมาตามหาคุณ คุณจะว่ายังไง?  แต่เขาก็ตอบกลับไปแบบนั้นไม่ได้จึงเพียงแค่พยักหน้ารับ

“ครับ...ผมมาเรียนทำอาหาร”

“งั้นเหรอ...อยู่ที่นี่...ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ”   ช่วยกลับมารักผมที ถ้าผมตอบแบบนี้คุณจะว่ายังไง?!

“ร้าน...สวยดีนะครับ...ขายพวกเบเกอร์รี่เหรอครับ?”   ริมฝีปากเม้มแน่นก่อนจะพยายามหาเรื่องคุย

“อื้อ...ร้านของแม่ชิโรยูกิเค้าน่ะ”   ขนาดเปลี่ยนเรื่องคุยแล้วก็ยังไม่พ้นเรื่องของลูกกับเมียของคุณอีกสินะ

“ผมดีขึ้นแล้วละ...ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ พรุ่งนี้ผมมีเรียนแต่เช้า”   เขาไม่คิดจะรอฟังว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร สองขาลุกพรวดพราดออกมาอย่างทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว

เจ็บ...

มันเจ็บมาก...

สองมือปาดน้ำตาในขณะที่สองขายังคงวิ่งต่อไปเรื่อยๆ ต่อให้ไม่มีแผนที่ ต่อให้หลงทางหรืออะไรก็ช่าง!...ขอแค่ให้ไปไกลๆจากตรงนี้ก็พอ!

เพราะว่าเจ็บขนาดนี้ เขาคงห้ามน้ำตาไม่ไหวแน่


เขามาที่นี่ทำไม? เขามาที่นี่เพื่ออะไร? ได้แต่ถามตัวเองซ้ำๆอยู่อย่างนั้น....ทั้งวัน...ทั้งคืน...












จ๊อก.....

น้ำร้อนไหลลงจากกาต้มน้ำก่อนจะเอ่อล้นจนไหลออกจากปากแก้วอีกที ใบหน้ามนสะดุ้งน้อยๆหลังจากหลุดออกมาจากภวังค์เพราะน้ำที่นองเต็มเคาน์เตอร์มันเริ่มหยดลงไปโดนปลายเท้า

เอาอีกแล้ว...มัวแต่นึกถึงเรื่องเมื่อวานอีกแล้ว...

มือวางกาต้มน้ำที่เบาโหวงลงก่อนจะหยิบผ้ามาเช็ดน้ำด้วยนัยน์ตาหม่นหมอง....ใบหน้าอมทุกข์ที่สะท้อนอยู่บนหยดน้ำพวกนั้นมันเป็นแบบนี้มากี่ปีกันแล้วนะ...เขากินไม่ได้ เขานอนไม่หลับเพราะใครบางคนจากเขาไป.....จากเขาไปเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยทิ้งให้เขายังคงจมอยู่กับความคิดถึง ความโหยหา ความห่วงใย

คุณทำกับผมไว้ขนาดนี้...พอมีเวลามาคิดทบทวนให้ดี...มันจะดีแล้วแน่เหรอที่ผมจะปล่อยคุณไปง่ายๆ? ตัวคุณในสมัยก่อนยังทำทุกวิถีทางที่จะฉุดรั้งผมเอาไว้ แล้วถ้าผมจะทำแบบเดียวกัน...ในสายตาของคุณคิดว่ามันผิดหรือเปล่าครับ...คุณชิราสึ?

ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนช้าๆด้วยท่าทางเหม่อลอย มือหยิบเสื้อกันหนาวตัวยาวออกมาสวมทับร่างกายที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรแล้วในเวลานี้ สองขาก้าวออกมาจากห้อง



ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าร้านเบเกอร์รี่ที่เพิ่งมาเมื่อวาน...



ตลอดทางที่ผ่านมาเขาคิดมาหลายร้อยวิธีที่จะดึงคุณชิราสึกลับมาเป็นของเขาอีกครั้ง จะฉุดรั้งอีกฝ่ายให้กลายเป็นของเขาคนเดียว จะทำทุกวิถีทางต่อให้ต้องทำลายใครหรือแม้แต่ต้องทำร้ายตัวเองก็ไม่สน

เขาตั้งใจและมุ่งมั่นว่าจะทำแบบนั้น จะทำเหมือนที่คุณชิราสึเคยทำกับเขาและเอริ

ทว่า...

พอได้มาเห็นรอยยิ้มของคุณชิราสึที่ออกมายืนส่งลูกชายกับหญิงสาวคนหนึ่งที่หน้าร้าน...ความตั้งใจกลับล้มครืนทันที

เขาเพิ่งจะเคยเห็นผู้หญิงที่คุณชิราสึสร้างครอบครัวด้วย เขาดูไม่ออกหรอกว่าผู้หญิงคนนั้นหน้าตาเป็นยังไง เพราะสายฝนที่โปรยปรายลงมารวมทั้งหยดน้ำตาที่ไหลผสมผสานจนทุกอย่างช่างพร่ามัว...มีเพียงเรื่องเดียวที่ชัดเจนอยู่ในสายตาของเขา...

รอยยิ้มที่ดูมีความสุขของคุณชิราสึ...

มือใหญ่โบกน้อยๆให้กับแม่ลูกที่ถือร่มเดินจากไปก่อนที่ร่างสูงจะหันตัวเตรียมเดินกลับเข้าร้าน

แต่ชั่ววินาทีที่ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก คุณชิราสึกลับชะงักค้าง

“โซระมารุ?....”   ถึงเขาจะไม่ได้ยินเพราะเสียงของสายฝน แต่ริมฝีปากที่ขยับเป็นชื่อเขาก็ทำให้เขารู้ว่าคุณชิราสึเรียกเขาอยู่ ร่างสูงใหญ่เดินถือร่มข้ามถนนมาหาด้วยใบหน้าแปลกใจ

“ทำไมมายืนเปียกอยู่ตรงนี้ล่ะ? เข้ามาในร้านก่อนสิ”   มือที่อบอุ่นจับข้อมือที่เย็นเฉียบของเขาก่อนจะพาเดินเข้าไปในร้านที่มืดสลัว คุณชิราสึจัดการหาผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้เขา

“ผม....หลงทางน่ะครับ...ไม่มีอะไรหรอก...”    ใช่...เขาก็แค่กำลังหลงทาง หลงอยู่ในห้วงความรักที่รุนแรง...หลงอยู่ในนั้นจนลืมไปว่า...ตอนที่เขาเป็นฝ่ายถูกกระทำมันรู้สึกเช่นไร...ตอนที่คุณชิราสึยื้อยุดเขาเอาไว้ด้วยการทำร้ายตัวเอง...เขาก็เจ็บปวดไม่แพ้อีกฝ่ายนั่นแหละ

แล้วจะให้เขาทำแบบนั้นกับคนที่เขารักได้ยังไง?


พอเถอะ โซระมารุ...


ในเมื่อนายก็เห็นแล้วว่าคุณชิราสึมีความสุข แค่คุณชิราสึยังมีชีวิตอยู่เท่านั้นก็ควรจะพอได้แล้ว...

“เอ้านี่...น้ำผึ้งมะนาวอุ่นๆ อร่อยนะ”   ร่างสูงใหญ่ที่หายไปหลังเคาน์เตอร์กลับมาอีกครั้งพร้อมแก้วหอมกรุ่น เขารับมันมาพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ

“เดี๋ยวนี้คุณทำอะไรแบบนี้เป็นแล้วเหรอครับ? นึกว่าจะซุ่มซ่ามไม่เปลี่ยนเสียอีก...”   แก้วอุ่นๆถูกยกขึ้นจรดริมฝีปาก รสชาติละมุนละไมแต่ก็ช่วยเรียกความสดชื่นนั้นอร่อยอย่างที่คุณชิราสึว่าจริงๆ

“.....”    อีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไร ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีขาวเฝ้ามองเขาด้วยสายตาอ่อนโยนอยู่อย่างนั้น

“แล้วคนอื่นๆกลับกันไปหมดแล้วเหรอครับ?”   ใบหน้ามนเหลือบมองไปรอบๆร้านที่เงียบเชียบ...ไม่มีทั้งลูกค้าและพนักงานเสิร์ฟ ไม่มีแม้แต่เชฟที่ควรจะทำขนมอยู่ด้านหลัง

“อื้อ...กลับกันไปหมดแล้วละ ก็นี่มันได้เวลาปิดร้านแล้วนี่นา...”    คุณชิราสึยังคงมองหน้าเขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก เมื่อก่อนก็ยิ้มให้เขาแบบนี้ทั้งๆที่ในใจกำลังวางแผนทำร้ายเอริแท้ๆ...ว่าแต่...เขายืนอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหนกัน ดึกจนถึงขั้นร้านปิดแบบนี้แล้วเหรอเนี่ย เขาไม่รู้ตัวเลย

“งั้น...ผมก็กลับบ้างดีกว่า...”    เขาเงยหน้าขึ้นไปยิ้มฝืนๆให้อีกฝ่าย  อยู่ต่อไปก็รังแต่จะทำให้ความรู้สึกแปรปรวน...เขาควรจะกลับไปตั้งสติให้ดีก่อนที่จะกลับมาเจอคุณชิราสึอีกครั้ง...ในฐานะน้องชายกับพี่ชาย...


สำหรับพวกเรา...มันคงเป็นได้แค่นั้น...


เขาลุกขึ้นยืนช้าๆ พยายามไม่มองหน้า พยายามไม่สบตา...มันต้องจบ...เรื่องของเรา ความรู้สึกของเรา...มันต้องจบลงเพียงแค่นี้

นึกถึงรอยยิ้มของคุณชิราสึที่มีให้ลูกกับภรรยาของเขาสิ...

จะทำลายมันไม่ได้...

จะทำลายครอบครัวของคุณชิราสึไม่ได้


“ลาก่อนนะครับ”   เขาโค้งให้อีกฝ่ายก่อนจะตวัดตัวเตรียมจะวิ่งออกมา


ทว่า...


ฝ่ามือที่รั้งต้นแขนของเขาไว้ก็ทำให้ทุกความตั้งใจพังทลายลงทันที

แรงมหาศาลดึงเขากลับไปแล้วชั่ววินาทีร่างทั้งร่างก็จมอยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่าย แสงไฟที่มืดสลัวมีแต่จะทำให้ความโหยหายิ่งทบทวี...ถึงจะรู้ว่าผิดที่ทำแบบนี้...แต่หัวใจของเขากลับร่ำร้องหามัน

“อย่าไป โซระมารุ....อย่าไปจากชั้น....”   เสียงทุ้มเศร้าสร้อยที่กระซิบอยู่ที่ใบหูทำให้ก้อนสะอื้นจุกขึ้นมาถึงลำคอ น้ำตาที่พยายามกลั้นมันมานานค่อยๆไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่...ความรู้สึกรักยังเต็มแน่นอยู่ในหัวใจ

ตอนนี้....ต่อให้จะต้องทำลายครอบครัวของใคร เขาก็ไม่อาจต้านความต้องการของตัวเองได้อีก

ร่างโปร่งพลิกตัวกลับไปก่อนจะยื่นริมฝีปากเข้าหาริมฝีปากของคุณชิราสึทันที กลีบปากต่างบดเบียดเข้าหากันอย่างไม่สนใจบาปกรรมหรือศีลธรรมอะไรอีก สองแขนกอดรัดกันอย่างโหยหา แค่จูบแผ่วเบามันจึงไม่พอต่อความรู้สึกที่คิดถึงกันอย่างรุนแรง เรียวลิ้นจึงสอดใส่เข้าไปในโพรงปากก่อนจะเกี่ยวกระหวัดรัดพันกันครั้งแล้วครั้งเล่า

แผ่นหลังถูกดันจนติดกับตู้กระจกด้านหลังเคาน์เตอร์ทั้งๆที่ริมฝีปากยังคงบดเบียดกันอย่างเร่าร้อน เวลาห้าปีที่ต้องอดทนอดกลั้นมันทำให้ยามที่ตบะจะแตกก็แตกออกได้อย่างง่ายดาย

ใบหน้ามนเงยขึ้นน้อยๆเพื่อให้ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีขาวซุกไซ้ซอกคอได้เต็มที่ นัยน์ตาสีดำเหม่อมองภาพภายในร้านที่มืดสลัว


“ร้านของแม่ชิโรยูกิเค้าน่ะ”


ตอนนี้...เขาไม่สนใจอะไรแล้ว...ไม่ว่าจะผิดชอบชั่วดีเขาขอลืมมันไปสักวินาทีก็แล้วกัน

“คุณชิราสึ...ผมรักคุณนะครับ...”   เสียงที่พูดอย่างเลื่อนลอยของเขากลับทำให้คนที่กำลังกดจูบอยู่ที่ลาดไหล่ถึงกับเงยหน้าขึ้นมามองด้วยสายตาตื่นตะลึง

“โซระมารุ?...”   ร่างสูงจับต้นแขนของเขาเอาไว้ก่อนจะนิ่งค้างไปราวกับว่ามันเป็นคำที่รอคอยมานานแสนนาน

รู้ทั้งรู้ว่าถ้าพูดแบบนี้ออกไป...มันคงจะทำลายครอบครัวที่แสนอบอุ่นของคุณชิราสึพังพินาศแน่ๆ...

ดูจากที่คุณชิราสึรั้งเขาเอาไว้ก็พอจะรู้...ว่าคุณชิราสึยังรักเขาอยู่


ทั้งๆที่รู้ดีทุกอย่าง...แต่เขาก็ยังพูดออกไป


ทำไมความรักของเราสองคนถึงได้เลวร้ายขนาดนี้...

จะทำร้ายใครต่อใครไปถึงไหนกันนะ....







.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

To be Con.






เอาหัวโขกผนัง...ทำไมมันยังไม่จบละเฟ้ยยยยย  >[ ]< วะ หวังว่าตอนหน้าจะจบลงด้วยดีนาคะ ฮืออออออ ป่วยจริงๆเรื่องนี้ ป่วยทั้งพระเอกและนายเอกเลย! แต่บอกตามตรงว่าทุกครั้งที่กลับมาแต่งเรื่องนี้นี่จะเมามันส์มาก ก็เพราะพระ-นาง(?)มันร้ายลึกแบบนี้นี่แหละ กร๊ากกกก มี๊ชอบหล่อเลว เคี๊ยกๆๆ

อ่านะ ชื่อตอนพิเศษคือ Revert ตามเนื้อเรื่องเรย =w= นอกจากนี้ก็กลับมาเป็นฝั่งโซระมารุบ้างที่ต้องฉุดรั้งคุณชิราสึเอาไว้ มาดูกันต่อไปว่าน้องฟ้าจะตัดสินใจทำแบบพี่ขาวของเราหรือเปล่า TvT คิดว่าน่าจะสองตอนจบแหละนะคะ ความจริงอัดให้จบในตอนเดียวยังได้เรยแต่คุณกวางมันเหนื่อยแระ ขอหั่นตอนหน่อย ก๊ากๆๆ

ยะ ยังไงก็ขอขอบคุณทุกๆการติดตามและทุกๆคอมเม้นต์มากๆนะคะ แล้วเจอกันตอนหน้าค่า =v=






2 ความคิดเห็น:

  1. ตาน้องฟ้ามาแย่งพี่ขาวแล้วววว ถึงน้องฟ้า ความรักคือการแย่งชิงนะลูก สู้เค้าๆ
    รอตอนต่อไปค่าคุณกวาง

    ตอบลบ
  2. ฟิน คุณกวางสู้ๆๆๆ

    ตอบลบ