Attack
on Titan feat.KHR and A/Z Au.Fic [Cruhteo x Slaine , Levi xEren , 8059] GLIDE : WHITE and
SILVER#17
For
HBD. Count Cruhteo
:
Attack on Titan feat KHR Fanfiction Au
:
Cruhteo x Slaine , Levi x Eren , 8059
:
Romantic Drama
:
NC-17
คำเตือน :
เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย
หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
ร่างโปร่งบางลุกจากเตียงอันอบอุ่นมายืนอยู่หลังบานหน้าต่างที่ยาวถึงพื้น
มือสีขาวแหวกผ้าม่านให้แสงแดดยามเช้าลอดเข้ามา ไอเย็นแผ่จากเนื้อกระจกทันที
แบบนี้คงเปิดหน้าต่างไม่ไหว
นัยน์ตาสีมรกตทอดมองสวนกุหลาบที่อยู่เบื้องล่างพลางอมยิ้ม
สวนกุหลาบของคุณพ่อยังคงสวยงามเหมือนเคยเลยนะ
“คุณครูเทโอ
ตื่นได้แล้วครับ...”
ใบหน้าได้รูปหันไปเรียกคนที่ยังหมกตัวอยู่ใต้กองผ้าห่มสีขาว
ร่างโปร่งเดินไปนั่งลงที่ขอบเตียงก่อนจะโถมตัวลงไปบนกองผ้าที่ปูนโปนขึ้นมา
คนที่นอนหันหลังให้จึงค่อยๆงัวเงียก่อนจะพลิกกลับมาหา
“อรุณสวัสดิ์ครับ”
คางมนเกยอยู่บนแผงอกของคนที่ยังไม่ค่อยจะตื่นดี นัยน์ตาสีฟ้ายังหรี่ปรือ
คงกำลังคิดอยู่สินะว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน
“อือ...อรุณสวัสดิ์”
“วันนี้จะกลับอิตาลีหรือเปล่าครับ?” เพราะCEOหนุ่มไม่ได้มีช่วงปิดฤดูกาลแข่งขันเหมือนเขา
ทุกๆวันจึงต้องทำงานตามปกติ
“เธอล่ะ?” เสียงทุ้มที่เพิ่งตื่นนอนฟังดูเซ็กซี่นิดๆ
“ผมจะอยู่ที่นี่จนกว่าพ่อจะอาการดีขึ้นน่ะครับ”
เขายังคงพูดกับอีกฝ่ายทั้งๆที่ปลายคางยังเกยอยู่บนแผงอกแข็งแรง
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เขาใกล้ชิดกับคุณครูเทโอโดยไม่รู้สึกเขินแล้วแบบนี้
“งานวันนี้ไม่มีอะไร
ชั้นยังอยู่ที่นี่ได้ แต่วันพรุ่งนี้คงต้องกลับเพราะมีประชุมผู้ถือหุ้น” มือใหญ่ขยับออกมาจากผ้าห่มก่อนจะม้วนเส้นผมสีชาเล่น
บอกตามตรงว่าเห็นยัยป้ามหาภัยนั่นแล้วไม่กล้าปล่อยสเลนเอาไว้คนเดียวเลย
ถึงจะรู้ว่าเด็กนี่คงไม่เป็นไรแต่ก็วางใจไม่ได้อยู่ดี
“ขอบคุณนะครับที่อยู่เป็นเพื่อนผม” ใบหน้าได้รูปยิ้มให้
ถึงที่นี่จะเป็นบ้านของเขา มีทั้งฮาร์กไลท์ที่พึ่งพาได้...แต่ก็ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขากลับอุ่นใจที่มีคุณครูเทโออยู่ข้างๆมากกว่าคนอื่น
“ลุกเถอะครับ
จะได้ลงไปทานอาหารเช้าแล้วไปโรงพยาบาลกัน”
“อืม”
CEOหนุ่มเดินตามร่างโปร่งบางเจ้าของบ้านลงไปยังห้องทานอาหารที่ชั้นล่าง
ตอนแรกเขานึกว่าจะเสียงดังโหวกเหวกมากกว่านี้เสียอีก
ปรากฏว่าบ้านซาสบาร์มกลับเงียบสงบ...ดูเหมือนญาติๆพวกนั้นจะไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ ซึ่งก็ถือว่าดีไป
แต่ดูจากโต๊ะกินข้าวตัวยาวที่ตั้งอยู่กลางห้องก็คงบอกได้เป็นอย่างดีว่าพวกญาติๆนั่นคงมาที่นี่บ่อยแน่ๆ
“เอ๋?
คุณพ่อจะกลับมาพักฟื้นที่บ้าน? อาการท่านดีแล้วเหรอครับ?” เสียงนุ่มของสเลนที่กำลังพูดอยู่กับฮาร์กไลท์ทำให้เขาหันไปมอง
“ท่านเป็นห่วงงานน่ะครับ
ผมก็ค้านแล้วแต่ท่านก็ไม่เชื่อ
ทางคุณหมอเองก็บอกว่าถ้ายอมพักผ่อนตามเวลาก็จะให้ออกมาครับ”
“โธ่~
คุณพ่อนี่ละก็...” ใบหน้าหยิ่งทระนงละจากสองคนที่ยืนคุยกันอยู่อย่างไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรนัก
ถ้าเป็นเขาเอง ในสถานะการณ์แบบนี้ก็คงไม่ยอมนอนแกร่วอยู่โรงพยาบาลเหมือนกัน
นัยน์ตาสีฟ้าทอดมองหนังสือพิมพ์ธุรกิจที่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร...มันไม่ดีขึ้นเลยนี่...แถมยังปิดข่าวไม่อยู่แล้วด้วยหนังสือพิมพ์ถึงได้เริ่มลงข่าวเกี่ยวกับสถานะการณ์ที่ไม่ดีนักของโรลส์-รอยซ์แบบนี้
เพราะงั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจเลยเมื่อเขาเปิดดูกระดานหุ้นในมือถือตอนสายๆ...หุ้นของบริษัทในเครือโรลส์-รอยซ์ร่วงระนาวกว่าเมื่อวานนี้อย่างเห็นได้ชัด...ถ้าไม่ทำอะไรบ้างคงจะแย่แน่ๆ
รถโรลส์-รอยซ์สีดำคันใหญ่แล่นเข้ามาทางประตูรั้วหน้าบ้านทำให้เขาละสายตาจากหน้าจอมือถือขึ้นไปดู
เห็นสเลนวิ่งออกไปยืนรอที่โถงทางเข้าและเมื่อรถคันนั้นหยุดลง
เจ้าบ้านซาสบาร์มก็ก้าวขาลงมา หน้าตายังซีดเซียวอยู่เลยแท้ๆ
“คุณพ่อก็น่าจะนอนพักอีกสักวันสองวัน” เสียงเง้างอดดังมาจากริมฝีปากของคนเป็นลูกชายที่เข้าไปช่วยพยุงคนเป็นพ่อ
“ชั้นไม่เป็นไรแล้วน่า...อ่า...อยู่ที่ห้องนี้ดีกว่า”
และเมื่อใบหน้าของซาสบาร์มหันมาเห็นว่าเขานั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นจึงเปลี่ยนแผนที่จะขึ้นไปข้างบนแล้วบอกให้สเลนพาเข้ามาในห้องที่เขาอยู่แทน
“ดูไม่ได้เลยสินะ” นัยน์ตาสีม่วงเลือบมองหน้าหนังสือพิมพ์ที่เขาเปิดคาเอาไว้ก่อนจะมองกระดานหุ้นในหน้าจอมือถือของเขา
เจ้าบ้านซาสบาร์มนั่งที่โซฟาอีกตัวก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่งตามเดิม
“อยากจะขอแรงหน่อย” CEOหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก
ถึงเขาจะมีความผิดติดตัวแต่ไอ้น้ำเสียงเจ้ายศเจ้าอย่างที่ใช้ขอร้องเขานี่มันน่าโมโหชะมัด
“แต่ผมไม่ทำงานฟรีหรอกนะครับ” เสียงทุ้มจึงเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงท้าทาย
“ก็ได้ไปแล้วนี่...ค่าตอบแทนน่ะ” แต่กลับกลายเป็นเจ้าของโรลส์-รอยซ์ที่โต้กลับอย่างที่เขาเถียงไม่ออก
ใบหน้ายโสพยักเพยิดไปที่ลูกชายของตัวเองที่ยังยืนงง...ตกลงซาสบาร์มรู้เรื่องระหว่างเขากับสเลนหมดแล้วสินะ?
“อ่า...ถ้างั้นก็ช่วยไม่ได้” เขายื่นหนังสือพิมพ์หน้าที่เป็นโฆษณาให้อีกฝ่ายดู
ในนั้นมีลายมือหวัดๆของเขาเขียนเอาไว้คร่าวๆในหลากหลายแผนผังว่ามีทางไหนบ้างที่พอจะทำได้...จริงๆก็แค่กระดาษทดที่เขาลองคิดเล่นๆดู
ไม่คิดหรอกว่าซาสบาร์มจะขอให้เขาช่วยจริงๆ
ร่างโปร่งบางเจ้าของผมสีชาได้แต่ถอยออกมายืนดูอยู่ไกลๆ
ถึงจะเรียนมาแต่ประสบการณ์ของเขาก็ช่วยอะไรโรลส์-รอยซ์ในตอนนี้ไม่ได้เลย...เรียกว่าต่างจากคุณครูเทโอลิบลับ
ใบหน้าได้รูปอมยิ้มอย่างภูมิใจในขณะที่มองCEOหนุ่มเถียงกับคุณพ่อ เพราะมีคนไม่มากนักหรอกที่เจ้าบ้านซาสบาร์มจะยอมขอความช่วยเหลือแบบนี้
“เพราะตัวเองเป็นคนก่อขึ้นมาก็เลยรู้ว่าจะแก้มันยังไงไงล่ะครับ” แล้วเสียงนิ่งที่ดังอยู่ข้างหลังก็ทำให้ใบหน้าได้รูปหุบยิ้ม
นัยน์ตาสีมรกตมองตามแผ่นหลังของฮาร์กไลท์ไป...ไม่จริงหรอกน่า...ฮาร์กไลท์น่ะก็แค่อคติกับคุณครูเทโอมากเกินไป
เสียงรถของผู้มาเยือนทำให้ใบหน้าได้รูปหันไปมอง
โรลส์-รอยซ์สีน้ำตาลเข้มที่คุ้นตาจอดลงที่หน้าโถงทางเข้า...อ่า...ไม่อยากเจอเจ้าของรถนั่นเลยแหะ
“นายของเธออยู่ไหน?
ชั้นอุตส่าห์ไปหาที่โรงพยาบาลแต่เช้าดันกลับมาก่อนซะนี่!” เสียงรบกวนโสตประสาทดังมาก่อนตัวเสียอีก
แล้วไม่นานคุณป้าเทเรซ่าก็ก้าวฉับๆเข้ามาในบ้านราวกับเป็นเจ้าของที่นี่
“พ่อเธอล่ะ?” ใบหน้าดุๆของหญิงวัยกลางคนทำให้เขาเสสายตาเข้าไปในห้องนั่งเล่นโดยอัตโนมัติ
และด้วยความที่เห็นกันมาตั้งแต่เขายังเด็กอีกฝ่ายจึงไม่รั้งรอที่จะให้เขาพูดออกมาแต่เดินตามสายตาของเขาไปในทันที
“นี่CEOนั่นยังอยู่อีกงั้นเหรอ?! ดีเลย! จะได้แฉกันให้เห็นจะๆไปเลย ดูนี่ซะ!
แล้วเธอจะปฏิเสธไม่ออกว่าพ่อลูกชายตัวดีของเธอมันทำงามหน้าไว้ขนาดไหน!” คุณป้าเทเรซ่ายื่นเอกสารปึกหนึ่งให้คุณพ่อ
ถ้อยคำที่พาดพิงมาถึงเขามีแต่จะทำให้มึนงงว่าเขาไปทำอะไรเข้าอีกแล้วล่ะ?
“คุณป้า...?” ใบหน้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อตวัดมามองเขาก่อนจะตวัดไปมองคุณครูเทโอพลางกัดฟันกรอด
CEOหนุ่มเองก็หน้าถอดสีเมื่อเห็นเอกสารปึกนั้น...เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“ถ้ามันไม่ชัดพอชั้นก็จะบอกให้ชัดๆ
ชั้นสงสัยมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วก็เลยให้คนในออฟฟิศชั้นไปหาข้อมูลตัวนี้มา
เรียกว่าแทบจะเค้นคอถามเลยละกว่าจะรู้ว่า...ไอ้คนที่มันมากว้านซื้อวัตถุดิบของโรงถลุงที่เราใช้อยู่น่ะ
มันก็คือเฟอร์รารี่! คนที่ทำให้เธอเครียด คนที่ทำให้โรลส์-รอยซ์ใกล้จะเจ๊งก็คือหมอนี่แหละ!!” นิ้วที่ระยิบระยับไปด้วยแหวนเพชรชี้ไปที่CEOหนุ่ม
“.........” ทุกคนในห้องได้แต่อึ้งไปไม่เว้นแม้แต่สเลน CEOหนุ่มได้แต่ยืนตัวชาอย่างไม่รู้ว่าควรจะแก้ตัวว่ายังไง
เพราะสำหรับผู้เสียหายแล้วไม่ว่าเขาจะพูดอะไรออกไปมันก็ฟังไม่ขึ้นทั้งนั้น
“แล้วชั้นก็คิดด้วยว่าเด็กนี่มันน่าจะรู้เห็นกัน!
ไม่งั้นเฟอร์รารี่มันจะจำเพาะเจาะจงมาเลือกโรงถลุงนี้หรือไงถ้าไม่รู้มาก่อนน่ะว่ามันเป็นของโรลส์-รอยซ์!” แล้วปลายนิ้วที่เต็มไปด้วยแหวนเพชรนั่นก็ชี้ไปที่สเลนก่อนจะกล่าวหาโดยที่เด็กนั่นได้แต่นิ่งค้าง
“คงจะบอกกันหมดแล้วสิ
เรื่องภายในของที่นี่น่ะ!” ใบหน้าที่ไม่คิดจะฟังอะไรกดดันคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างน่าสงสาร
“ไม่ใช่นะครับ!” ร่างโปร่งพยายามโบกมือปฏิเสธ
ซึ่งCEOหนุ่มได้แต่กัดฟันกรอด
“ผม....ถูกคุณพ่อเลี้ยงดูมา...แล้วผมจะทำลายโรลส์-รอยซ์ไปเพื่ออะไร...” ใช่
ยัยป้ามหาภัยนั่นเอาสมองส่วนไหนมาคิดว่าอย่างสเลนน่ะจะทำร้ายครอบครัวของตัวเองได้
แม้แต่จะขับรถชนหมาแมวยังทำไม่ได้จนต้องมาเสยกำแพงบ้านเขาแทนแล้วนับประสาอะไรกับเรื่องนี้! เขาที่แค่ยืนฟังยังควันแทบจะออกหู ยัยป้านั่นไม่ได้รู้เรื่องอะไรของสเลนเลย...
“จะไปรู้เหรอ?!
เธอก็อาจจะแค่อยากเป็นนักแข่งของเฟอร์รารี่จนตัวสั่น
เพราะงั้นไม่ว่าจะข้อมูลอะไรที่เอาไปแลกได้ เธอก็คงจะยอมแลก
มันไม่น่าแปลกไปหรือไงที่นักแข่งธรรมดาๆจะสนิทกับคนระดับCEOถึงขนาดนี้น่ะ?!”
“ถ้าคุณไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเด็กนี่ก็อย่าพูด!” และด้วยความเหลืออดเขาจึงตวาดออกไปโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนระดับสูงของโรลส์-รอยซ์หรืออะไร
ไม่สนใจว่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของใคร เป็นเจ้านายใคร หรือเป็นญาติเป็นป้าของใคร
และเพราะเขากล้าขึ้นเสียงกับเธอ คนอื่นๆในห้องจึงจ้องมองเขาอย่างอึ้งๆ
เชื่อเถอะว่าคงไม่เคยมีใครกล้าด่ายัยป้ามหาภัยนี่ถึงได้ระรานคนอื่นไปทั่วแบบนี้
ถ้างั้นมันต้องเจอกับเขา!
“ไปถามคนในเฟอร์รารี่ดูก็ได้ว่ากว่าสเลนจะได้ตำแหน่งนักขับตัวจริง
เด็กนี่ต้องพยายามด้วยตัวเองมากขนาดไหน
มันไม่ใช่อะไรที่คนที่วันๆเอาแต่หาเรื่องคนอื่นอย่างคุณจะเข้าใจหรอก!” และเมื่อเขาเอาจริงขึ้นมา
ทั้งใบหน้าทั้งร่างกายก็จะข่มขู่คู่ต่อสู้ได้อย่างอยู่หมัด
หญิงวัยกลางคนนี้ก็เช่นกัน ร่างที่ราวกับตู้เพชรเคลื่อนที่ได้ถึงกับก้าวถอยหลัง
“เป็นความจริงที่เฟอร์รารี่แย่งวัตถุดิบจากโรงถลุงนั่นมา
แต่ว่าผมไม่เคยได้ข้อมูลอะไรจากสเลนเลย ผมไม่รู้มาก่อนด้วยซ้ำว่าโรงถลุงนั่นส่งวัตถุดิบให้โรลส์-รอยซ์...ถ้ารู้ผมก็คงจะไม่ใช้ของที่นั่นหรอก” เขาผิดเขาก็ยอมรับ
แต่สเลนไม่ได้ผิดอะไรเพราะงั้นอย่าไปลงที่เด็กนั่น!
“ก็ได้ไปแล้วนี่
จะพูดอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ!” ถึงจะถอยหลังอย่างหวาดๆแต่ลูกพี่ลูกน้องของซาสบาร์มก็ยังไม่ยอมหยุดง่ายๆ
ริมฝีปากสีแดงยังคงจิกกัดด้วยเสียงที่เบาลงกว่าเดิมมาก
“.........” CEOหนุ่มได้แต่ยืนกำหมัดแน่น
นานแล้วที่เขาไม่ได้โกรธแทนใครแบบนี้
และเพราะถูกนัยน์ตาสีฟ้าจ้องเขม็งอย่างกดดัน
คุณป้าของสเลนเลยเปลี่ยนเรื่องด้วยน้ำเสียงงึมงำ
“นี่ก็ไม่รู้นะว่าพวกBMWจะถอนหุ้นออกไปเมื่อไหร่
ยิ่งข่าวลงหนังสือพิมพ์โครมๆแบบนี้คงขึ้นอยู่กับเวลาแล้วละว่าทางนั้นจะโทรมาตอนไหน” หญิงวัยกลางคนเดินไปหาสเลนก่อนจะจับต้นแขนเด็กหนุ่มแน่น
“ทางเดียวที่จะยื้อไว้ได้คือเธอต้องแต่งงานกับคุณหนูอัสเซลัมซะ
ทางนั้นจะได้ไม่กล้าทิ้งโรลส์-รอยซ์!” จู่ๆเทเรซ่าก็พูดเรื่องที่ทำให้CEOหนุ่มหน้าชา...จากที่ตั้งใจว่าจะเถียงทุกคำเพื่อปกป้องสเลนแต่ตอนนี้กลับพูดอะไรไม่ออก
“...........” แล้วก็ไม่ได้มีแต่เขา
เพราะร่างโปร่งบางเองก็อ้ำอึ้งไปเช่นกัน
“ผม....” และเมื่อไม่เห็นว่าเด็กหนุ่มจะยอมตอบรับ
ฝ่ามือที่จับต้นแขนอยู่จึงเพิ่มแรงบีบลงไปอีก
“ยังจะลังเลอะไรอีก!
บอกตามตรงว่าชั้นไม่เคยเห็นด้วยหรอกนะ
แต่สถานการณ์ตอนนี้เธอจะไม่ช่วยพวกเราบ้างเลยหรือไง?
คิดว่าใครเลี้ยงเธอมาจนปีกกล้าขาแข็งได้แบบนี้!”
“ใครคนนั้นไม่ใช่เธอก็แล้วกันเทเรซ่า...พอได้แล้ว...ชั้นอยากพัก
เธอกลับบ้านไปซะ เดี๋ยวนี้เลย...ฮาร์กไลท์ส่งแขกแล้วพาชั้นขึ้นข้างบน!” แล้วคำประกาศิตของเจ้าบ้านซาสบาร์มก็ทำให้ทุกคำพูดหยุดลง
“ครับ....”
ฮาร์กไลท์ตรงเข้าไปแยกหญิงวัยกลางคนออกไปก่อนจะพยายามเชิญให้เธอออกจากบ้านอย่างรักษามารยาท
“นี่!
ถ้าเธอไม่ฟังชั้นละก็!”
“เชิญครับ” มือในถุงมือสีขาวพยายามไล่ต้อนหญิงวัยกลางคนจนขึ้นรถไปได้
นัยน์ตาสีดำมองโรลส์-รอยซ์สีน้ำตาลนั่นจนลับสายตา...ทุกๆครั้งเขาต้องทนเห็นคุณเทเรซ่ามาหาเรื่องคุณหนูของเขาแล้วก็ทำได้แค่พยายามแยกเธอออกไป...เขาไม่เคยได้ตอกหน้าเธอแรงๆหรือไล่ให้ไปๆซะ...ไม่เคยทำได้อย่างที่CEOนั่นทำเลย
นัยน์ตาสีดำลอบมองร่างสูงใหญ่ของCEOเฟอร์รารี่ที่เดินตามคุณสเลนไปที่ห้องหนังสือ...ใช่...เขาก็แค่อิจฉาผู้ชายคนนั้นที่สามารถทำได้ดั่งใจ
ไม่ว่าจะเรื่องความรักที่มีให้คุณสเลนหรือแม้แต่เรื่องที่ปกป้องคุณสเลนจากญาติๆที่ร้ายกาจพวกนั้นได้...เขาก็แค่อิจฉาที่อีกฝ่ายทำได้ในสิ่งที่เขาอยากจะทำแต่ไม่เคยได้ทำเลยสักครั้ง
อิจฉา...อิจฉามาก...
ถึงแม้จะก้าวขาเข้ามาในห้องหนังสือได้สักพักแล้วแต่เสียงที่จะพูดคุยปรับความเข้าใจกลับเงียบหายไป นัยน์ตาสีฟ้าเหลือบมองแผ่นหลังโปร่งบางอย่างรู้สึกผิด
แต่ส่วนหนึ่งในใจก็คิดว่าสเลนน่าจะยอมเข้าใจ...ในเมื่อนี่มันคือธุรกิจแล้วอีกอย่างเขาก็ไม่รู้มาก่อนด้วยว่านั่นมันคือแหล่งวัตถุดิบของโรลส์-รอยซ์
“สเลน...” เสียงทุ้มลองเรียกอีกฝ่ายหยั่งเชิง
“........” แต่คนที่ยืนหันหลังให้ก็ยังไม่ตอบอะไรกลับมา นั่นเพราะว่าหัวสีชากำลังสับสน
“คุณครูเทโออาจจะอยากแก้เผ็ดโรลส์-รอยซ์ก็เลยก่อกวนจนทำให้หุ้นของเราตก...ผมก็ไม่อยากจะคิดหรอกนะครับ...แต่บางทีการที่เข้ามาพัวพันกับคุณสเลนเองก็...”
“คนคนนั้นตั้งใจจะทำลายโรลส์-รอยซ์นะครับคุณหนู”
“ไอ้คนที่มันมากว้านซื้อวัตถุดิบของโรงถลุงที่เราใช้อยู่น่ะ
มันก็คือเฟอร์รารี่! คนที่ทำให้เธอเครียด คนที่ทำให้โรลส์-รอยซ์ใกล้จะเจ๊งก็คือหมอนี่แหละ!!”
คำพูดของฮาร์กไลท์กับคุณป้าทำให้เขาไขว้เขว
ทั้งๆที่ควรจะเชื่อใจคุณครูเทโอว่าทั้งหมดมันก็แค่ความบังเอิญ
แต่เพราะคำพูดพวกนั้นมันเลยทำให้เขาขอร้องอีกฝ่ายออกไป...ในคำขอร้องที่จะทำให้อีกฝ่ายลำบากใจ
“คุณ...ปล่อยแหล่งวัตถุดิบนั้นคืนให้โรลส์-รอยซ์ได้ไหมครับ...” เสียงที่พูดสั่นเครืออย่างเห็นได้ชัด
รู้ทั้งรู้ว่ามันจะทำให้CEOหนุ่มลำบากใจแต่เขาก็ไม่มีทางเลือกแล้วในเวลานี้
เขาไม่อยาก...แต่งงานกับคุณหนูอัสเซลัม...
ไม่อยาก...ต้องจากคุณครูเทโอ...
เพราะงั้นไม่ว่าอะไรที่จะทำให้สถานะการณ์ของโรลส์-รอยซ์ดีขึ้น เขาก็จะทำ
ไหล่บางสั่นระริกอย่างพยายามห้ามน้ำตา
คนที่ยืนมองอยู่รู้สึกหมดแรงขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำขอร้องนั้น CEOหนุ่มนิ่งไปหลายนาทีแต่ไม่ว่าจะครุ่นคิดแค่ไหนสิ่งที่เขาทำได้ก็มีเพียงคำปฏิเสธเท่านั้น
“ชั้นก็อยากจะช่วย...แต่ว่าชั้นเป็นCEOของเฟอร์รารี่ ถ้าชั้นไม่ได้แหล่งวัตถุดิบนี้คนของเฟอร์รารี่ก็จะต้องเดือดร้อนเหมือนกัน”
แล้วเสียงทุ้มที่ปฏิเสธอย่างนุ่มนวลมันก็ทำให้ไหล่บางตกลู่
ร่างโปร่งเดินอย่างหงอยๆจากไปโดยไม่พูดอะไรอีก
ซึ่งร่างสูงใหญ่ก็ไม่ได้คิดที่จะตามไป...ตอนนี้...อย่างเขาคงไม่มีหน้าจะไปปลอบใจเด็กนั่นได้หรอก
ร่างสูงใหญ่ทรุดนั่งลงไปบนโซฟาในห้องหนังสืออย่างหมดแรง
เพราะรักถึงได้เจ็บปวดขนาดนี้ที่ไม่อาจจะช่วยอะไรเด็กนั่นได้
ไม่มีทางอื่นเลยหรือไง....
สองขาก้าวออกมาให้ห่างจากห้องหนังสือมากที่สุดก่อนจะหยุดเดินเมื่อเริ่มจะมองทางไม่เห็น...หยาดน้ำตาเย็นๆมันกำลังไหลลงมาตามแก้ม
เขาก็รู้ว่าคำขอนั่นมันเอาแต่ใจเกินไป
เขาก็รู้ว่าที่คุณครูเทโอพูดมามันถูกทุกอย่าง
แต่เขาก็ยังน้อยใจ...
ทั้งๆที่เขาพยายามหาทางที่จะได้อยู่ด้วยกันต่อไป
ทั้งๆที่พยายามทำยังไงก็ได้ที่จะไม่ต้องแต่งงาน
แต่คุณครูเทโอกลับไม่คิดจะช่วยเหลือเขาเลย...
หรือว่าที่จริงแล้ว...ผู้ชายคนนั้นไม่ได้อยากอยู่กับเขา...ถึงได้มองดูเขาแต่งงานกับคนอื่นได้....
มีแต่เขาหรือเปล่าที่คิดไปเอง...
ว่าเรารักกัน....
มือปาดหยาดน้ำตาที่ไหลลงมา
ทำไม...ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องมาเกิดกับเขาด้วย...ก็แค่รักใครสักคน...ทำไมต้องเจ็บแบบนี้ด้วย....
“ฮึก...” ร่างโปร่งพยายามกล้ำกลืนก้อนสะอื้นลงไปในลำคอ
สองขาพาตัวเองไปนั่งลงในเรือนไม้สีขาวที่อยู่ในสวนกุหลาบ
“อย่าเพิ่งเลยค่ะคุณพ่อ
ถือว่าหนูขอร้อง!”
แล้วเสียงใสของคุณหนูอัสเซลัมก็ดังมาจากตรงไหนสักที่ในสวนกุหลาบแห่งนี้
การที่จะได้ยินเสียงอันไพเราะนั่นขึ้นเสียงน้อยๆแปลว่าเรื่องที่พูดอยู่คงสำคัญน่าดู
“ช่วยปล่อยหุ้นส่วนในโรลส์-รอยซ์เอาไว้แบบนี้ก่อนนะคะ!
ตอนนี้พวกเค้ากำลังลำบาก หนูอยากจะช่วยเค้า นะคะคุณพ่อ!”
ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชาชะงักงันเมื่อรู้ว่าเรื่องที่คุณหนูอัสเซลัมกำลังคุยกับคนที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์คือเรื่องอะไร
หัวใจของเขาชาวาบก่อนจะกลับมาฉาบไล้ด้วยความอบอุ่นอีกครั้ง
คุณหนูอัสเซลัมกำลังขอร้องคุณพ่อของตัวเองเพื่อไม่ให้ถอนหุ้นออกไป...กำลังทำเพื่อเขา
กำลังช่วยเหลือเขาอย่างสุดกำลัง
แล้วเขาเองล่ะเคยทำอะไรให้คุณพ่อของเขาบ้างหรือเปล่า?
คุณครูเทโอล่ะเคยพยายามจะช่วยอะไรเขาบ้างหรือเปล่า?
“ทางเดียวที่จะยื้อไว้ได้คือเธอต้องแต่งงานกับคุณหนูอัสเซลัมซะ
ทางนั้นจะได้ไม่กล้าทิ้งโรลส์-รอยซ์!”
ที่จริงแล้วมันไม่ยากเลยไม่ใช่หรือไง
ที่จะตัดสินใจเลือกคนที่ดีกับเขาขนาดนี้ ต่อให้คุณป้าไม่บอก
ต่อให้จะไม่มีเรื่องของผลประโยชนทางธุรกิจมาเกี่ยวข้อง
คนที่อยู่เคียงข้างเขามาตลอด...ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไง
ไม่ว่าจะต้องเจอกับสถานการณ์เลวร้ายแบบไหน...คุณหนูอัสเซลัมก็ไม่เคยทิ้งเขาไป
แล้วมันจะมีเหตุผลอะไร...ที่เขาจะไม่เลือกเธอ...
นัยน์ตาสีมรกตเหม่อมองกุหลาบสีขาวที่อยู่ในสวน...เขาตัดสินใจแล้ว
เขาจะเลือกคุณพ่อ...จะเลือกโรลส์-รอยซ์
จะกลับไปทำหน้าที่ของลูกที่ดีเสียที...หลังจากที่หลงทางไปนาน
ถ้าวันนั้นเขาไม่หนีออกไป
ไม่คิดจะทำตามความฝันของตัวเอง
เส้นทางชีวิตของเขามันก็ต้องดำเนินไปแบบนี้อยู่แล้ว
เขาก็แค่กลับมาเดินในเส้นทางที่ตัวเองทิ้งไปก็เท่านั้น...
เพราะอย่างนั้นในมืออาหารเย็นที่แสนอึมครึม
เขาจึงประกาศกับทุกคนว่า
“ผม...จะแต่งงานกับคุณหนูอัสเซลัมครับ”
“สเลน?!!”
CEOหนุ่มได้แต่หน้าชาเพราะไม่คิดว่าสเลนจะตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่นแบบนี้
ยังโกรธเขาเรื่องเมื่อกลางวันอยู่หรือไงกัน
ที่ทำไปนั่นก็แค่ประชดหรือเปล่า...
แต่จะประชดด้วยการเอาชีวิตของตัวเองไปใส่ไว้ในกรงขังที่ไม่ได้ต้องการแบบนั้นเชียวเหรอ
ไม่ยอมหรอก...ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่ยอม...
จะหนีไปง่ายๆโดยไม่บอกอะไรเขาสักคำแบบนี้....
ไม่มีวันยอมแน่...
ร่างสูงใหญ่กินอาหารต่อไปด้วยสายตาที่จ้องมองเด็กนั่นอย่างกดดัน
นัยน์ตาสีมรกตเสหลบเขาอย่างต้องการจะหลบหน้าชัดๆ...จะต้องพูดกันให้รู้เรื่องให้ได้
“ถ้าตัดสินใจแล้วแบบนั้นก็ถือเป็นเรื่องน่ายินดี...คุณหนูอัสเซลัมมีอะไรจะค้านไหม?” เจ้าบ้านซาสบาร์มกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ยอมรับว่าตกใจกับการตัดสินใจในครั้งนี้ของสเลนอยู่บ้างแต่คนเป็นพ่อคงยินดีจากใจจริงไม่ได้หากสิ่งที่สเลนเลือกมันไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง
ถึงจะไม่ได้อยู่ใกล้ๆกัน
ไม่ได้เห็นหน้ากันทุกวันเหมือนแต่ก่อนแต่ทุกครั้งที่เขาไปเจอสเลนที่สนามแข่งหรือเด็กคนนั้นกลับบ้านมาในช่วงวันหยุดหรือเขาไปเยี่ยมที่อิตาลี...ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมานี้...รอยยิ้มของสเลนมันสวยงามกว่าตอนที่อยู่ที่อังกฤษกับเขาหลายเท่า
แค่นั้นมันก็พิสูจน์ได้แล้วว่าเด็กคนนี้มีความสุขขนาดไหนที่ได้อยู่ในถิ่นมาราเนลโล่นั่น
มีความสุขขนาดไหนที่ได้รักผู้ชายที่ร้ายกาจราวกับปีศาจคนนั้น
เขาไม่ได้เลี้ยงสเลนมาเพื่อเอาไว้ใช้ประโยชน์ทางธุรกิจ
เขาเลี้ยงเด็กนั่นมาก็เพื่อให้อยากมีชีวิตเป็นของตัวเอง ครั้งแรกที่เด็กนั่นหนีออกไปเพื่อทำตามความฝัน
ถึงเขาจะเป็นห่วงมากแต่ก็ดีใจที่ในที่สุดสเลนก็เลือกเส้นทางของตัวเองได้เสียที
ครั้งแรกที่รู้ว่าครูเทโอทำอะไรกับเด็กคนนี้บ้างเขาโกรธมากแต่ก็ค่อยๆยอมรับเมื่อสเลนตัดสินใจที่จะรักผู้ชายคนนี้
นัยน์ตาสีม่วงเหลือบมองผู้เป็นลูกชายสลับกับหน้าเจ้าครูเทโอที่ราวกับปีศาจกำลังจะเข้ายึดร่าง...ทะเลาะกันอยู่สินะ?...เรื่องที่เทเรซ่าเอามาพูดเมื่อกลางวันนั่นหรือเปล่า?
“เอ๋?....ยังใจเต้นไม่หายเลยค่ะ...คือว่า...ดีใจมากค่ะ...”
เด็กสาวที่อยู่ทานอาหารเย็นด้วยกันพูดออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
มือบอบบางยังคงกุมอยู่ที่หัวใจที่คงจะเต้นแรงของเธอ...นี่ก็อีกคน...เด็กสาวที่ใสซื่อบริสุทธิ์แบบนี้เขาจะหักหน้าด้วยการถามสเลนให้แน่ใจได้ยังไง
คงทำได้แค่ปล่อยไปตามกระแสน้ำ
เรื่องที่สเลนตัดสินใจเองก็คงต้องให้แก้ปัญหาด้วยตัวเอง
เขามีหน้าที่สนับสนุนเด็กนั่นไม่ใช่เข้าไปก้าวก่าย
“ถ้างั้นเรื่องทางผู้ใหญ่ชั้นจะจัดการให้
ส่วนเรื่องงานแต่งพวกเธอสองคนก็เลือกกันเองก็แล้วกัน โรลส์-รอยซ์อาจจะกำลังวุ่นวาย แต่ถ้ามีเรื่องน่ายินดีแบบนี้เกิดขึ้น
อะไรๆมันก็คงจะดีตามไปด้วย...”
“ขอบคุณครับ...”
“ขอบคุณค่ะ...”
ว่าที่เจ้าสาวและเจ้าบ่าวเอ่ยขอบคุณเจ้าบ้านซาสบาร์มพร้อมๆกัน
ใบหน้าของคนหนึ่งยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความดีใจ
แต่อีกคนถึงจะมีรอยยิ้มบนริมฝีปากแต่ดวงตาสีมรกตกลับดูเศร้าหมอง...
“สเลน!
เรามีเรื่องต้องคุยกัน!”
CEOหนุ่มอดทนรอจนคุณหนูของBMWกลับไป
มือใหญ่ถึงได้ลากร่างโปร่งบางไปคุยกันที่ห้องหนังสือตามเดิม
“ทำไมเธอถึงทำแบบนี้?
ชั้นเป็นคนรักของเธอไม่ใช่หรือไง...”
สองมือใหญ่จับมือบางเอาไว้
นัยน์ตาสีฟ้าพยายามจะจ้องลึกลงไปในดวงตาสีมรกตด้วยแววเว้าวอน
“จากนี้ไปมันจะไม่ใช่แล้วครับ...” แต่ใบหน้าสวยกลับก้มมองพื้นในขณะที่พูดออกมา ใบหน้าที่เรียบเฉยและคำพูดโหดร้ายทำให้CEOหนุ่มถึงกับนิ่งงัน
ที่ผ่านมามีแต่เขาที่เป็นฝ่ายทำร้ายจิตใจของสเลน
พอเป็นฝ่ายโดนเองบ้างจึงไปต่อแทบไม่เป็น
“ผมขอบคุณคุณมาก...ที่มอบฝันดีให้กับผม...แต่ผมก็ยากให้คุณเข้าใจ...นี่คือหน้าที่ของผมต่อตระกูลซาสบาร์ม...”
“เรื่องที่เรารักกัน...มันผิดมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว...”
“ขอโทษด้วยจริงๆนะครับ...ที่ผมทำให้ชีวิตของคุณผิดเพี้ยนไป” ใบหน้าที่ก้มมองพื้นค่อยๆเงยขึ้นมามองหน้าเขา
สายตาที่แน่วแน่ของสเลนบ่งบอกว่ามันเป็นการตัดสินใจในอนาคตของตัวเองไม่ใช่การประชดเพราะโกรธเขา
“เราจากกันด้วยดีได้ไหมครับ...คุณครูเทโอ...”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To
be Con.
แฮ่กๆๆๆ
ปั่นต่อไปย์
ขอบคุณทุกๆการติดตามและทุกๆคอมเม้นต์มากๆนะก๊า
>w<
แล้วเจอกันตอนหน้าค่า
ปล.ยังไม่ผ่านการQCเหมียนเดิมตอนนี้
ไว้แก้ทีเดียวในรวมเล่มถถถถ ไม่ทันแระ
อ๊าก!!!! เกิดอาการชักดิ้นชักงอ ไม่จริง แง!!! ไม่นะหนูสเลน!! ฮือๆๆๆ ลถ้นคะ ลุ้นมาก/กระอักเลือด/...ระ..รอติดตามเสมอนะคะพี่ น้องจะรอพี่คะ ถึงอารมณ์จริงๆคะ ลุ้นมาก เฝ้ารอเลยคะ สู้ๆนะคะพี่ เป็นกำลังใจให้คะ
ตอบลบอ๊าก!!!! เกิดอาการชักดิ้นชักงอ ไม่จริง แง!!! ไม่นะหนูสเลน!! ฮือๆๆๆ ลถ้นคะ ลุ้นมาก/กระอักเลือด/...ระ..รอติดตามเสมอนะคะพี่ น้องจะรอพี่คะ ถึงอารมณ์จริงๆคะ ลุ้นมาก เฝ้ารอเลยคะ สู้ๆนะคะพี่ เป็นกำลังใจให้คะ
ตอบลบนั่นงะ กะแล้วว่าต้องพายุลูกใหญ่ แต่นี่เราว่าไม่ใช่ใหญ่ธรรมดาแล้วอะค๊าาา รู้สึกว่าคราวนี้เราสงสารพ่อceoหนุ่มสุดเพอร์เฟ็คอย่างคุณครูเทโอสุดๆเลย งานนี้บอกได้คำเดียวว่าเป๋ เป๋มากๆอะ ฮือออ #ทีมครูเทโอ
ตอบลบ