Attack
on Titan feat.KHR and A/Z Au.Fic [Cruhteo x Slaine , Levi xEren , 8059] GLIDE : WHITE and
SILVER#15
For
HBD. Count Cruhteo
:
Attack on Titan feat KHR Fanfiction Au
:
Cruhteo x Slaine , Levi x Eren , 8059
:
Romantic Drama
:
NC-17
คำเตือน :
เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย
หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
“คุณอินาโฮะ...ผมมีเรื่องจะปรึกษาครับ”
ใบหน้าราวกับปลายตายเงยขึ้นมาตามเสียงเรียก
แล้วใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลของสเลน ทรอยยาร์ดก็ทำให้เทรนเนอร์จากแดนอาทิตย์อุทัยเดินไปล็อคประตูกระจกของห้องเทรนก่อนจะจับมือบางที่เย็นเฉียบให้เดินตามมา
ร่างโปร่งถูกกดให้นั่งลงที่ม้านั่งของเครื่องออกกำลังกายอันหนึ่ง
“ว่ามาสิ
โคโมริ...”
คงจะเป็นเรื่องที่ทำให้กังวลมาตั้งแต่เมื่อวันก่อนสินะ? เพราะดูจากอาการที่หนักไม่ใช่เล่นมันก็ไม่น่าที่สเลนจะแก้ปัญหาด้วยตัวเองได้รวดเร็วขนาดนี้...ในที่สุดก็ยอมให้เขาช่วยเสียที
“คือว่า...มันออกจะน่าอายไปหน่อย...แต่ผมกังวล”
ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชาก้มมองพื้นด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน
ถึงเขาจะชอบท่าทางแบบนั้นของสเลนแต่ตอนนี้ก็คงไม่ใช่เวลาที่จะไปแหย่อีกฝ่าย
เพราะงั้นจึงทำได้แค่นิ่งฟังสิ่งที่ริมฝีปากสีระเรื่อนั่นจะพูดออกมา
“คือว่า....เรื่องนี้...ช่วยเก็บเป็นความลับด้วยนะครับ...จะมีแค่คุณกับผมเท่านั้นที่รู้...” นัยน์ตาสีมรกตช้อนขึ้นมามองอย่างไม่แน่ใจว่าจะพูดดีไหม
ท่าทางที่เหมือนจะเปลี่ยนใจได้ทุกเมื่อเพราะความอายนั่นมันทำให้เขาต้องรับปาก
“อืม...เข้าใจแล้ว”
“ห้ามบอกใครจริงๆนะครับ” ขนาดเขาสัญญาแล้วก็ยังจะย้ำอยู่นั่นเอง
“อืม”
“หว๋า~
แต่มันน่าอายจนไม่รู้จะพูดยังไง...ผมว่าผมไม่...” ถ้าเป็นแบบนี้คงไม่ได้รู้เรื่องกันแน่
สันมือจึงสับลงไปที่หัวสีชาเข้าให้
โป๊ก!
“ตั้งสติแล้วพูดมาให้หมด
เจ้าโคโมริ” ใบหน้าซังกะตายเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
แต่ถึงกระนั้นมันก็ทำให้สเลนพอจะสงบลงได้บ้าง
“อ่า...ครับ....”
ใบหน้าได้รูปสูดหายใจเข้าลึกๆราวกับกำลังรวบรวมความกล้า...เรื่องที่จะปรึกษานี่มันต้องใช้แรงใจขนาดนั้นเลยหรือไง?
“คือว่า...คุณอาจจะตกใจสักหน่อย...แต่ผม...กับคุณครูเทโอ
CEOของเฟอร์รารี่...กำลังคบกันอยู่...ในฐานะคนรัก...” ไม่เห็นจะตกใจเลยสักนิด
ไม่ใช่ว่าใครๆในพิตการาจสีแดงนี่จะรู้กันหมดแล้วเหรอ?
“คือ....เรื่องที่ผมไปคบกับเขาได้ยังไงคุณไม่ต้องรู้หรอก
แต่ปัญหาของผมตอนนี้ก็คือ....” เขานิ่งเงียบเพื่อตั้งใจฟัง แต่คนตรงหน้าก็ยังลังเลที่จะบอก
“คือ....”
“คือ?” จนเขาต้องถามย้ำออกไป
สองมือบางบีบกันอยู่บนหน้าตักก่อนจะคลายออกอย่างตัดสินใจจะบอกเขาได้เสียที
หลังจากที่ปล่อยให้เขาลุ้นจนแทบจะง้างปากกันเสียให้ได้
“......ผม....มีเซ็กส์กับเขาไม่ได้....”
แล้วสิ่งที่ริมฝีปากสีระเรื่อนั่นพูดออกมาก็ทำให้นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงถึงกับเบิกกว้าง
เพราะสำหรับคู่รักแล้วปัญหานี้มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลย...ถึงจะสงสารสเลนอยู่บ้างแต่ส่วนชั่วร้ายในใจกลับกำลังลอบยิ้ม
เพราะนั่นเท่ากับว่ารอยแยกระหว่างCEOหนุ่มกับสเลนมันมีมากพอให้เขาแทรกเข้าไปได้
“ทำไม?
เพราะเป็นผู้ชายด้วยกัน?” เสียงนิ่งถามออกไป เพราะถึงจะคบ
ถึงจะรักกับผู้ชายได้ แต่ยังไงก็ยังเป็นผู้ชายด้วยกัน
เวลาจะทำเรื่องแบบนั้นอาจจะมีตะขิดตะขวงใจอยู่บ้าง?
“ปะ
เปล่าครับ...ไม่ใช่เรื่องนั้น...แต่มันเป็นเพราะว่า...ก่อนที่เราจะคบกัน
ก่อนที่จะรู้ว่ารักกัน....” ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชาก้มลงไปมองสองมือที่ถูกกันไปมาอย่างลังเลที่จะบอกเขาอีกครั้ง...
“คุณคุณเทโอ....เขา....” ยังมีเรื่องอะไรที่น่าอายกว่าที่บอกมานั่นอีกหรือไง?
“เขา....” ร่างโปร่งบางถึงได้ดูกระสับกระส่ายมากกว่าเดิม?
“.....เขา...เคยข่มขืนผมมาก่อน....ผมเลยกลัว...จนไม่สามารถจะตอบสนองความต้องการของเขาได้อีก....” ริมฝีปากของเขาอ้าค้างอย่างไม่รู้ตัวก่อนที่มันจะกลับมากัดกันแน่นเช่นเดียวกับสองมือที่สั่นระริก...ต้องบอกว่าเลวร้ายมากกว่าจะน่าอายสินะ
“ทุกครั้งที่พยายามจะมีอะไรกัน...พอถึงขั้นสุดท้ายร่างกายของผมก็จะปฏิเสธเขา
ต่อต้านเขาอย่างรุนแรง...ผมกลัวมาก....กลัว...” เขาทอดสายตามองคนที่ยังนั่งก้มหน้าค่อยๆเล่าให้เขาฟัง...ถ้าสเลนถูกทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้นมันก็ไม่น่าแปลกใจหรอกที่จะกลัวจนทำให้มีเซ็กส์อีกไม่ได้...คิดแล้วก็ได้แต่เจ็บใจ...ว่าทำไมคนที่ฝังรอยแผลนี้เอาไว้ถึงได้หัวใจของสเลนไป...ทำไมถึงยังรักคนที่ทำร้ายตัวเองขนาดนั้นได้ลง
“ผมไม่อยากเป็นแบบนี้ต่อไป....ผมอยากทำให้เขามีความสุข...แต่ผมก็รู้ว่าคงจะแก้ปัญหานี้เองไม่ได้...เพราะงั้นก็เลย...อยากจะขอร้องให้คุณอินาโฮะที่จบมาทางด้านจิตวิทยาช่วยผมหน่อย...ผมไม่กล้าไปปรึกษาจิตแพทย์เพราะถ้าข่าวนี้รั่วไหลออกไป
ไม่ใช่แค่ชื่อเสียงแต่คุณครูเทโออาจจะถูกดำเนินคดีในสิ่งที่เคยทำไว้กับผม” คิ้วสีชาขมวดเข้าหากันด้วยความกังวล
ยิ่งสเลนคิดจะปกป้องผู้ชายที่เลวร้ายคนนั้นมากเท่าไหร่
เขาก็ยิ่งอยากจะแย่งมาเป็นของตัวเองมากเท่านั้น...ในเมื่อคนดีๆมีไม่รัก...ถ้าชอบแบบร้ายๆอย่างCEOปีศาจนั่นเขาก็ทำได้
“ได้โปรด...ช่วยผมด้วย....” นัยน์ตาสีมรกตสั่นเครือเงยขึ้นมองเขาอย่างเว้าวอน
แววดำมืดในดวงตาของเขาจึงเปลี่ยนไปก่อนจะแสร้งทำเป็นเทรนเนอร์ที่แสนดีต่อไป
“เข้าใจแล้ว...ชั้นจะช่วยนาย...แต่มีข้อแม้ว่านายจะต้องทำตามที่ชั้นบอกทุกอย่าง” เสียงราบเรียบพยายามสะกดกั้นความรู้สึกในใจก่อนจะขุดหลุมล่อลวงให้คนตรงหน้าตกบ่วงลงมา
“ตกลงครับ!” ใบหน้าดีใจที่ยิ้มให้เขาอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวนั่นมันช่างน่าหลงใหลจริงๆ...เพราะแบบนี้สินะ
ถึงได้เป็นที่ต้องตาของคนแปลกๆอย่างเขากับCEOปีศาจนั่น
CEOหนุ่มแห่งเฟอร์รารี่ก้าวขาไปตามทางเดินที่เชื่อมต่อระหว่างอาคารของสนามฟิโอราโน่
วันนี้เขาไม่ได้แวะเข้าไปในพิตการาจสีแดงเพราะไม่อยากจะกวนเจ้าเอลวิน
อีกอย่างเขาก็รู้ว่าเวลาบ่ายๆเย็นๆแบบนี้สเลนอยู่ที่ไหน
สองขาจึงก้าวเดินต่อไปโดยไม่คิดจะถามไถ่หรือพูดกับใคร
ก็แค่เลิกประชุมไวกว่าที่คิดเลยตั้งใจจะมารับเด็กนั่นไปกินข้าวนอกบ้านเปลี่ยนบรรยากาศ
ซ้อมก็เหนื่อยจะแย่แล้วยังต้องกลับไปทำอาหารให้เขากินทุกวันแบบนี้ นานๆก็พักเสียที
แต่ทั้งๆที่รู้ว่าถ้ามาแล้วจะต้องเจอภาพบาดตาแบบไหน
ถึงกระนั้นก็ยังทำใจไม่ได้อยู่ดี
สองขาจึงหยุดชะงักเมื่อสองตามองเห็นผนังกระจกของห้องออกกำลังกาย
สเลนกำลังนั่นเหยียดขาอยู่ที่พื้นโดยมีเจ้าเทรนเนอร์หน้าตายกดหลังให้โน้มตัวลงไปจนแผงอกบางแทบชิดเข่า
แค่ความใกล้ชิดธรรมดาๆนี้ก็ยังทำให้เขาเผลอกัดฟัน เพราะงั้นเมื่อไคซึกะ
อินาโฮะเปลี่ยนไปนวดไหล่แล้วสเลนทำหน้าสบายมันจึงทำให้ใบหน้าหยิ่งทระนงสบถออกมาอย่างไม่ชอบใจ
ก็รู้แหละว่ามันเป็นงานแต่ยังไงมันก็หงุดหงิด
ยิ่งเห็นสายตาของเจ้าเทรนเนอร์นั่นก็ยิ่งไม่สบอารมณ์ ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะว่าสายตานั่นมันมากกว่าแค่เรื่องงาน
กับคนที่มีสายตาแบบนั้นมาก่อนอย่างเขาทำไมจะไม่รู้ล่ะว่าเจ้าเทรนเนอร์จากแดนอาทิตย์อุทัยนั่นมันกำลังคิดไม่ซื่อกับสเลน!
แล้วเจ้าคนรักของเขานี่ก็ไม่ได้รู้ตัวสักนิด
มันน่าหงุดหงิดตรงนี้ด้วย!
อยากจะเดินเข้าไปแยกทั้งคู่ออกจากกัน
อยากจะเดินเข้าไปขวางระหว่างกลาง แต่เขาทำได้ที่ไหน!
เด็กนั่นต้องมองว่าเขามันไร้เหตุผลถ้าทำแบบนั้น
และเขาไม่อยากเสียสเลนไปด้วยเรื่องงี่เง่าแบบนี้! อีกอย่าง
ถ้าเขาทนต่อแรงยั่วเย้านี้ไม่ได้ ทุกอย่างมันก็คงเข้าทางของเจ้าเทรนเนอร์นั่นแน่ๆ!
ร่างสูงใหญ่จึงสะบัดกายก่อนจะเดินกลับไปตามทางเดิมอย่างหงุดหงิด
เสียงทุ้มบอกคนขับรถทันทีที่ประตูรถประจำตำแหน่งปิดลง
“กลับไปที่สำนักงานใหญ่
ชั้นจะเคลียร์งานต่อ!”
ร่างโปร่งของนักขับมือสองแห่งทีมม้าลำพองเดินไปตามทางเดินที่มีแสงแดดสีส้มสาดส่องลงมา
มือบางใช้ผ้าขนหนูที่พาดอยู่ที่ลำคอซับไปตามใบหน้า
การได้คลายกล้ามเนื้อนั้นทำให้รู้สึกสบายจริงๆ
และการที่แต่ละวันๆเขายังกลับไปทำนู่นทำนี่ที่บ้านได้โดยไม่ปวดเมื่อยก็คงต้องขอบคุณคุณอินาโฮะนั่นแหละนะ
“ทำไมเป็นคนแบบนี้นะ
ให้ตายเถอะ!” เสียงผู้หญิงที่ไม่น่าจะมาดังแถวๆนี้ทำให้สองขาชะลอความเร็วลง
ร่างระหงที่กำลังเดินใกล้เข้ามาช่างคุ้นตา
นั่นก็เพราะว่าเขาเพิ่งจะเจอผู้จัดการช็อปสาวเมื่อวันก่อนนี่เอง
“สวัสดีครับคุณฟราเมี่ยน”
เสียงนุ่มเอ่ยทักทำให้หญิงสาวที่หอบลังสีน้ำตาลใบใหญ่เงยหน้าขึ้นมามอง
“อุ๊ยตาย
สเลน ทรอยยาร์ดนี่เอง สวัสดีจ้ะ”
ใบหน้าสวยยิ้มให้
“ดูท่าทางอารมณ์ไม่ดีนะครับ
มีอะไรให้ผมช่วยไหม?”
“อ้อ
ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ แค่แวะเอาเสื้อทีมแบบใหม่มาให้พวกทีมแข่งน่ะ
ของเธอเองก็มีนะ”
หญิงสาวคุ้ยของในลังก่อนจะบ่นต่อ
“ส่วนที่หงุดหงิดอยู่นี่ก็เจ้าCEOปีศาจนั่นน่ะสิ!
ชั้นแค่เอาเสื้อไปให้คนในสำนักงานใหญ่ที่สั่งไว้ ดันมาไล่ตะเพิดกันซะได้นี่
ไม่รู้ไปกินรังผึ้งที่ไหนมาถึงได้ฟาดงวงฟาดงาแบบนั้น ชิ!”
อ่า...นี่คุณครูเทโอไปออกฤทธิ์กับลูกน้องอีกแล้วเหรอเนี่ย...ใบหน้าได้รูปได้แต่ยิ้มแห้ง
ท่อนแขนผอมบางรับชุดลำลองของเฟอร์รารี่ชุดใหม่มาถือไว้ก่อนที่หญิงสาวจะก้าวฉับๆอย่างหงุดหงิดจากไป
ใบหน้าได้รูปอมยิ้มเมื่อนึกถึงCEOหนุ่ม...สงสัยเย็นนี้ต้องทำของโปรดเอาใจเสียหน่อย
แต่ของโปรดที่ว่านั่นก็ดูจะเป็นหมันเมื่อCEOหนุ่มกลับบ้านเสียดึกดื่น
“โทษที
มีงานด่วนต้องจัดการน่ะ”
ทั้งๆที่จริงแล้วเขานั่งซังกะตายสงบสติอยู่ที่ห้องทำงานเพราะไม่อยากจะเอาอารมณ์ร้ายๆมาลงกับเด็กนี่
รอให้ตัวเองใจเย็นลงก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน
“งั้นเหรอครับ...แล้ว...ทานอะไรมาหรือยังครับ...” ใบหน้าที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวถามออกมาด้วยความเป็นห่วง
ยิ่งสเลนดีแสนดีแค่ไหนมันก็ยิ่งทำให้เขาดูเลวร้ายมากขึ้นเท่านั้น ทั้งเอาแต่ใจ
ทั้งหึงทั้งหวงไม่อยากให้ใครมาเข้าใกล้เด็กนี่ ทั้งไม่มีเหตุผล
“กินแล้ว” แล้วความหงุดหงิดในการกระทำของตัวเองก็ทำให้เขาเผลอพูดกับสเลนด้วยเสียงแข็งๆ
“อ่า...เหรอครับ...ไม่เป็นไร
พวกนี้เดี๋ยวผมเอาไปกินกลางวันพรุ่งนี้”
ใบหน้าได้รูปสลดไปเล็กน้อยก่อนที่มือบางจะเตรียมเก็บจานอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ
นัยน์ตาสีฟ้าทอดมองอาหารอิตาเลี่ยนน่ากินที่ยังอยู่ครบทั้งสองจาน...ในใจนึกด่าตัวเองว่าทำไมไม่โทรมาบอกเด็กนี่
แต่อีกใจก็ดีใจที่สเลนรอเขา
“ช่างเถอะ
ชั้นจะกิน...เธอเองก็ยังไม่ได้กินใช่ไหมล่ะ?
อีกอย่างอาหารขยะพวกนั้นมันก็เทียบไม่ได้กับที่เธอทำให้ชั้นเลยสักนิด”
ร่างสูงใหญ่นั่งลงไปที่เก้าอี้ก่อนจะดึงจานอาหารมาจากมือของสเลน
ทำเอาใบหน้าหงอยๆยิ้มด้วยความดีใจขึ้นมาทันที
“ครับ” ร่างโปร่งบางนั่งลงไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“ว่าแต่คุณทานสองรอบแบบนี้ในมื้อเย็นจะไม่อ้วนเอาเหรอครับ?” CEOหนุ่มถึงกับหลุดหัวเราะในลำคอ
“หึ...ถึงชั้นจะไม่ได้เป็นนักกีฬาแล้วก็ต่อให้ชั้นจะกินมากแค่ไหน
ร่างกายมันก็เอาไปสร้างเป็นกล้ามเนื้อหมด ไม่เหมือนเธอหรอก ไม่ต้องกังวล”
“โธ่...ผมก็แค่ต้องควบคุมน้ำหนักตามที่ทีมต้องการ
ไม่งั้นป่านนี้ผมคงมีกล้ามเป็นมัดๆยิ่งกว่าคุณไปแล้ว”
ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชาบ่นขมุบขมิบพร้อมกับตักเนื้ออบเข้าปาก
ใบหน้าหยิ่งทระนงลอบมองด้วยรอยยิ้มบางๆ...ดีแล้วสินะที่เด็กนี่เป็นนักขับเอฟวันที่น้ำหนักแม้แต่ขีดเดียวก็มีผลต่อการปรับแต่งรถ
ทำให้ต้องคอยควบคุมน้ำหนักอยู่ตลอดเวลา
ร่างกายผอมบางนั่นถึงได้ยังคงสภาพอยู่ในแบบที่เขาชอบ
“จริงสิ
วันนี้คุณฟราเมี่ยนเอาชุดใหม่มาให้ด้วยครับ บอกว่าถูกคุณครูเทโอไล่ตะเพิดมา...มีอะไรหรือเปล่าครับ?” ....หงุดหงิดเรื่องอะไรอยู่หรือเปล่า
นั่นคือสิ่งที่ร่างโปร่งบางอยากจะถาม
“เปล่า
ไม่มีอะไร...เรื่องงานน่ะ”
ใบหน้าหยิ่งทระนงจงใจบ่ายเบี่ยงอย่างเห็นได้ชัด...มันน่าจะมีอะไรแน่ๆแต่เขาก็ไม่กล้ารบเร้าให้CEOหนุ่มพูด...ที่บอกเขาไม่ได้บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเขาก็ได้?
อย่างอะไรที่มันพัวพันไปถึงโรลส์-รอยซ์?
นัยน์ตาสีมรกตลอบมองคนที่นั่งทานอาหารอยู่ฝั่งตรงข้าม...ทั้งๆที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนหากมีอะไรไม่พอใจก็จะพูดออกมาทันที
ต่อให้มันจะทำร้ายจิตใจของเขาก็ไม่สน แต่ตอนนี้กลับพยายามปกปิดมันเอาไว้
ถึงจะรู้ว่าคุณครูเทโอพยายามจะใส่ใจความรู้สึกของเขา แต่หากไม่พูดออกมาบ้างเขาก็ไม่รู้หรอกว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่
ทั้งที่จะเอาแต่ใจกับเขาแค่ไหนก็ได้แท้ๆ...กลับกลายเป็นว่า...ยิ่งรักษาน้ำใจก็ยิ่งอึดอัด...
“วันนี้เปลี่ยนสถานที่เทรน”
จู่ๆเจ้าเทรนเนอร์หน้าตายก็พูดออกมาแบบนั้นเมื่อเขาก้าวขาเข้าไปในห้อง
“เอ๋?” ใบหน้าได้รูปยังจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก
ทำไมต้องเปลี่ยนที่ด้วยล่ะ? ที่นี่ไม่พร้อมหรือยังไง? ไฟไม่มาน้ำประปาไม่ไหล?
ทั้งๆที่เขายังมีแต่ความสงสัยแต่คุณอินาโฮะกลับก้าวขานำออกไปจากห้องหน้าตาเฉย
“จะไปไหนครับ?” ร่างโปร่งก้าวตามเทรนเนอร์จากแดนอาทิตย์อุทัยที่นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ
“ไปบ้านชั้น
รถนายจอดอยู่ไหน?”
เสียงนิ่งเอ่ยออกมาทั้งๆที่ยังมองตรงไปข้างหน้า
“ที่ลานจอดรถครับ
เอ๊ะ? แล้วทำไมต้องไปบ้านคุณด้วยล่ะ?”
นัยน์ตาสีมรกตมองตามหลังอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ
จนคนที่เริ่มจะรำคาญหันมาเผชิญหน้าด้วยสายตาราบเรียบ
“ก็อยากจะบำบัดไม่ใช่หรือไง...อาการกลัวที่จะมีเซ็กส์ของนายน่ะ?”
ใบหน้าสวยแดงเถือกก่อนจะหันรีหันขวางแล้วรีบยกฝ่ามือไปปิดปากคนที่พูดออกมาด้วยใบหน้าตายด้าน
“โธ่...อย่ามาพูดในที่แบบนี้สิครับ!...จะให้ไปไหนก็นำไปสิ” ริมฝีปากสีระเรื่อบ่นขมุบขมิบ
คราวนี้จึงยอมเดินตามเทรนเนอร์ประจำตัวไปแต่โดยดี
แล้วไม่นานเจ้ารถเต่าสีเหลืองอ่อนก็มาจอดอยู่หน้าบ้านที่ไม่ถือว่าไกลจากกลุ่มโรงงานของเฟอร์รารี่มากนัก...
“เข้ามาสิ”
เจ้าของบ้านเรียกคนที่ยังยืนเก้ๆกังๆอยู่ที่ประตูให้เดินเข้ามา
“รบกวนด้วยนะครับ...เห๋...บ้านคุณนี่ก็เป็นระเบียบกว่าที่คิดนะครับ” ถึงจะไม่เนี้ยบเท่าคุณครูเทโอก็เถอะ...
นัยน์ตาสีมรกตกวาดมองทั่วห้องรับแขกที่ดูเหมือนจะเป็นกึ่งห้องนั่งเล่นด้วย
บรรยากาศที่ดูเป็นกันเองเพราะทั้งเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งมันเป็นแบบเข้ากันบ้างไม่เข้ากันบ้างแต่ก็ลงตัว
บ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าของบ้านไปเลือกซื้อพวกมันด้วยตัวเองทีละชิ้นๆโดยไม่ได้ใช้ดีไซเนอร์ออกแบบ
มันจึงให้ความรู้สึกว่าเป็นบ้านของคนธรรมดามากกว่าที่ที่เขาเคยอยู่เยอะ
“จะเอาชาหรือกาแฟ?” เจ้าของบ้านที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์หันมาถาม
“ขอชาก็แล้วกันครับ” แล้วถ้วยชาแบบญี่ปุ่นก็ถูกส่งมาให้
ใบหน้าได้รูปมองมันด้วยดวงตาเป็นประกายเพราะไม่ค่อยได้สัมผัสวัฒนธรรมของทางเอเชียนัก
“จะเริ่มบำบัดด้วยนี่...”
มือของเทรนเนอร์จากแดนอาทิตย์อุทัยโบกซีดีที่อยู่ในกล่องก่อนจะใส่มันเข้าไปในเครื่องเล่นใต้โทรทัศน์
แล้วจากที่เขาคิดว่ามันคงจะเป็นซีดีสัตว์โลกน่ารักหรือสารคดีการแพทย์แต่เสียงแรกที่ลอดออกมามันกลับทำให้ใบหน้าร้อนผ่าว
“...อ้า...อื้อ.....”
เสียงคราง...ฟังยังไงก็เป็นเสียงครางในระหว่าง........แน่ๆ
“นะ...นี่มันซีดีอะไรกันครับ...” ร่างโปร่งขยับมานั่งทับส้นก่อนจะก้มหน้าก้มตาไม่มองภาพที่อยู่ตรงหน้า...คงไม่ต้องถามแล้วว่ามันซีดีอะไร
ในเมื่อภาพที่ชายสองคนกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่ในนั้นมันก็ฟ้องอยู่ชัดๆ!
“บำบัดแบบจิตแพทย์น่ะมันใช้เวลานาน
เท่าที่ชั้นรู้นายเองก็กลัวCEOนั่นแค่ตอนเวลาที่จะใส่เข้าไปใช่ไหมล่ะ?
เพราะงั้นก็ต้องดูให้ชัดๆ ว่ามันไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย...ดูสิ...หมอนี่ออกจะรู้สึกดีด้วยซ้ำใช่ไหม?” บางทีเขาก็นึกอยากจะรู้จริงๆว่าคุณอินาโฮะใช้น้ำเสียงตายด้านพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้หน้าตาเฉยได้ยังไง?!
“โธ่~~
ใครมันจะไปกล้าดูครับ~”
มือบางยกขึ้นมาปิดหน้าด้วยความอาย เสียงครางกระเส่าที่ดังออกมาจากโทรทัศน์ทำเอาได้แต่ปิดตาแน่น
“บอก-ให้-ดู-ยังไงล่ะ”
แต่คนที่ขยับมานั่งซ้อนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้กลับจับสองมือบางออกไปจากใบหน้า
แถมยังกระซิบด้วยน้ำเสียงกดดันอยู่ที่ใบหูให้เขาลืมตาขึ้นมาดู...นี่เขาคิดถูกแล้วใช่ไหมเนี่ยที่มาปรึกษาคนขี้แกล้งอย่างหมอนี่?!
“ไม่เอา~”
หัวสีชาส่ายไปมาปฏิเสธท่าเดียวแล้วมันก็ทำให้คนที่ตั้งใจจะช่วยเริ่มโมโห
“ไหนนายบอกว่าจะทำตามที่ชั้นบอกทุกอย่างไง?...ดูซะ” ไม่ว่าเปล่า
ฝ่ามือที่เคยนวดคล้ายกล้ามเนื้อให้เขาอยู่ทุกวันยังจับยึดปลายคางให้เขาต้องเผชิญหน้ากับบทรักที่เร่าร้อนนั่นอย่างช่วยไม่ได้
นัยน์ตาสีมรกตเหลือบๆมองนิดนึงก่อนจะอายจนทนไม่ได้แล้วต้องพยายามเสสายตาไปมองที่อื่น
แต่คนที่จับยึดทั้งร่างของเขาเอาไว้ก็ชะโงกหน้ามาจ้องตาเขาจนต้องหันกลับมามองภาพน่าอายนั่นอีกจนได้
“โธ่~
ดูก็ดูครับ...ปล่อยผมได้แล้ว...”
ร่างทั้งร่างยังคงจมอยู่ในท่อนแขนของเทรนเนอร์จากแดนอาทิตย์อุทัย
“ดูไปเถอะ
ชั้นจะจับนายเอาไว้แบบนี้ กันนายหนี เจ้าโคโมริจอมยุ่งยาก” ฮึ่ม...เขาก็ไม่ได้ยุ่งยากตรงไหน
ถ้าเทียบกับโกคุเดระหรือคนอื่นๆในทีม!
ใบหน้าได้รูปบ่นขมุบขมิบก่อนจะค่อยๆช้อนสายตาขึ้นมามองหน้าจอโทรทัศน์ตรงหน้าซึ่งกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มพอดี
น่าแปลกแหะ...ถึงสีหน้าของคนที่ต้องรับเอาความใหญ่โตนั่นเข้าไปจะดูทรมานแต่มันกลับดูมีความสุขมากกว่าจะทนทุกข์เพราะความเจ็บปวด...แล้วก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่ตอนไหนที่เขามองภาพตรงหน้าราวกับเป็นแค่กรณีศึกษา
“เป็นไง?
ไม่น่ากลัวเลยใช่ไหม?”
เสียงราบเรียบกระซิบอยู่ที่ใบหูซึ่งใบหน้าได้รูปก็พยักรับ...ที่เขากลัวส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะจินตนาการด้วย
เอาเข้าจริงในคืนนั้นมันยังมีความรู้สึกอื่นที่เขาหลงลืมไปเพราะถูกความเจ็บปวดที่หัวใจเข้ามาบดบัง...พอได้เห็นวีดีโอตรงหน้ามันกลับรู้สึกว่าไม่เห็นจะมีอะไรเลย
ก็เป็นแค่เรื่องที่ใครๆก็ทำกัน ไม่เห็นจะมีอะไรน่ากลัวเลยสักนิด
“เอาละ
จบภาคทฤษฎี...ต่อไปเป็นภาคปฏิบัติ”
เจ้าของบ้านกดปิดวีดีโอก่อนจะดึงให้เขาลุกขึ้นแล้วพาไปห้องข้างบนทั้งๆที่ยังไม่เข้าใจคำพูดของคุณอินาโฮะเลยสักนิด..ภาคทฤษฎีอะไร?...ภาคปฏิบัติอะไร?...แล้วทำไมเขาถึงต้องเข้ามาบำบัดถึงในห้องนอนของอีกฝ่ายด้วย?
“ไม่ต้องคิดว่าจะถูกทำอะไร
แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นคนทำ ไม่ต้องจินตนาการไปก่อน เข้าใจไหม?”
สองมือของเทรนเนอร์จากแดนอาทิตย์อุทัยจับอยู่ที่ไหล่ทั้งสองข้างพลางจ้องตาเขาตรงๆ
“อ่า...ครับ...” ถึงจะยังงงอยู่แต่เขาก็อยากจะหายจากความกลัวนี้จริงๆ
เพราะงั้นอีกฝ่ายให้ทำอะไรเขาจึงยอมทำตามโดยไม่สงสัย...ก็นี่เป็นเทรนเนอร์ที่เขาไว้ใจนี่นา
“จะคิดว่าชั้นเป็นครูเทโอก็ได้”
เสียงนิ่งกระซิบอยู่ที่ใบหู...อ๋อ...ถ้าเขาคิดว่าอีกฝ่ายเป็นคุณครูเทโอที่ทำให้เขากลัว
การบำบัดมันจะได้ผลสินะ?
ใบหน้าได้รูปจึงพยักรับโดยไม่แคลงใจ
หึ...ช่างไม่ระแวดระวังเอาเสียเลยนะ....
เทรนเนอร์จากแดนอาทิตย์อุทัยลอบยิ้มมืดมนอยู่ในใจ...จริงอยู่ที่เขาตั้งใจจะบำบัดให้สเลน...แต่ว่าเขาไม่ได้ทำเพื่อCEOของเฟอร์รารี่
เขาทำเพื่อตัวเองต่างหาก...
ร่างโปร่งบางถูกผลักให้ลงไปนอนบนเตียงก่อนที่เทรนเนอร์จากแดนอาทิตย์อุทัยจะก้าวขาไปคร่อมเอาไว้
คอเสื้อเชิ้ตสีเลือดนกค่อยๆถูกปลดกระดุมออก
นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงทอดมองคนที่นอนอยู่ใต้ร่างด้วยรอยยิ้มที่แทบจะดูไม่ออก
ใบหน้านิ่งโน้มลงไปก่อนจะสูดดมกลิ่นที่โชยออกมาจากซอกคอขาวนั่นเบาๆ...ปกติเขาทำได้แค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัส...แต่คราวนี้เขาจะแตะต้องผิวเนียนนุ่มนั่นด้วยริมฝีปากของเขาเอง
“อึก...”
ไหล่บางสะดุ้งน้อยๆเมื่อริมฝีปากกดจูบลงไปที่ซอกคอระหง...ความรู้สึกมันแตกต่างกันอยู่นิดหน่อยจริงๆด้วย
ก่อนและหลังจากที่ได้รับการบำบัด
นัยน์ตาสีมรกตปิดลงช้าๆเพื่อจินตนาการว่าคนที่อยู่ด้านบนคือคุณครูเทโอ
ยังไงมันก็เป็นแค่การบำบัด คุณอินาโฮะคงแค่จะทดสอบเขานิดๆหน่อยๆ
เพราะงั้นต่อให้ฝ่ามือจะสอดเข้ามาลูบไล้อยู่ที่หน้าท้องก็ไม่คิดจะว่าอะไร ต่อให้กระดุมจะถูกแกะออกไปอีกหลายเม็ด ต่อให้ลาดไหล่จะถูกพรมจูบไปทั่ว
ต่อให้ต้นขาจะถูกลูบผ่านเนื้อผ้า
ต่อให้ลมหายใจของคนข้างบนจะคลอเคลียอยู่ที่แผงอก....ต่อให้....เอ๋?...นี่มันไม่มากไปแล้วเหรอเนี่ย?
“อะ...คะ...คุณอินาโอะ...เดี๋ยวก่อน...”
สองมือพยายามจะดันร่างที่ทาบทับลงมานั่นออกไปเพราะรู้สึกว่าอีกฝ่ายชักจะแปลกๆ
แต่แรงมหาศาลที่ไม่คิดว่าจะมาจากคนที่ตัวเท่าๆกันมันก็ทำให้ร่างทั้งร่างถูกตรึงเอาไว้ที่เดิม
“อย่า...”
ซอกคอถูกจู่โจมอย่างหนักหน่วงอีกครั้งและเสียงปลดเข็มขัดมันก็ทำให้เริ่มจะรู้แล้วว่าอีกฝ่ายคิดจะทำจริงๆ...ไม่...ไม่ได้นะ...แล้วในขณะที่กำลังตั้งใจจะผลักเทรนเนอร์จากแดนอาทิตย์อุทัยออกไป
โครม!!
เสียงประตูที่ถูกกระแทกติดผนังก็ทำเอาคนที่อยู่บนเตียงสะดุ้งโหยง
แน่นอนว่าเจ้าของบ้านแค่เงยหน้าขึ้นไปมอง
“กำลังทำอะไรกันน่ะ?....”
เสียงกดต่ำทำให้นัยน์ตาสีมรกตถึงกับเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า CEOหนุ่มจะมายืนอยู่ตรงนี้...แล้วก็ดันมาเห็นภาพที่ล่อแหลมนี่เข้าพอดี
“ชั้นถามว่ากำลังทำอะไรสเลน!!”
มือใหญ่กระชากตัวเขาออกมาจากใต้ร่างของคุณอินาโฮะก่อนจะบีบข้อมือจนเจ็บไปหมด
“ปะ
เปล่า มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด...”
“แล้วจะให้ชั้นคิดยังไงได้อีก?!
คนรักของตัวเองมานอนกอดกับผู้ชายคนอื่น บอกชั้นมาซิว่าชั้นจะคิดอะไรได้อีก!” CEOหนุ่มกำลังโกรธจัดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแล้วมันก็ทำให้ร่างโปร่งบางได้แต่ละล่ำละลักอย่างพูดไม่ออก
“กลับบ้านเดี๋ยวนี้!!”
ร่างโปร่งบางถูกลากให้เดินตามโดยไม่สนใจว่าจะก้าวทันไหม
เฟอร์รารี่สีขาวขับราวกับพายุกลับไปยังบ้านในเขตมอนชิโอ้ทันที
นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงทอดมองห้องที่เหลือเพียงความว่างเปล่าอย่างไม่ได้แปลกใจอะไรนัก
มาจริงๆด้วยสินะ...
เพราะรู้ว่าCEOนั่นติดสัญญาณติดตามตัวเอาไว้ที่รถของสเลน
พอเห็นว่าขับมาในที่แปลกๆก็เลยตามมา...
จากนี้ไปก็มาดูกันหน่อยซิว่าหลุมพรางที่เขาขุดเอาไว้...ใครจะตกลงไป...ใครจะเป็นฝ่ายชนะ
เขา...หรือความรักของสองคนนั่น...
ตุ้บ!!
ร่างโปร่งบางถูกโยนลงไปบนเตียงในห้องนอนของบ้านในเขตมอนชิโอ้
ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะตามไปคร่อมเอาไว้ทันที
“ทีกับชั้น
เธอไม่ยอมท่าเดียว แต่กับหมอนั่นเธอกลับนอนนิ่งให้กอด...” มือใหญ่กดลงไปบนข้อมือที่พยายามจะขัดขืนเพราะต้องการแก้ไขความเข้าใจผิด
“มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดจริงๆนะครับ!
ผมกำลังให้คุณอินาโฮะบำบัดอาการกลัวให้ ไม่มีอะไรจริงๆ” นัยน์ตาสีมรกตมองตรงขึ้นมาจับจ้องใบหน้าหยิ่งทระนงด้วยแววเว้าวอน...
“ได้โปรด...เชื่อผม...ผมไม่เคยคิดจะนอกใจหรือรักใครนอกจากคุณ...” ใบหน้าวอนขอให้เชื่อใจมันทำให้CEOหนุ่มได้แต่กัดฟัน เขาก็อยากจะทำตามอยู่หรอกนะ
แต่ว่าภาพที่เห็นว่าสเลนกำลังกกกอดอยู่กับเจ้าเทรนเนอร์หน้าตายนั่นมันก็ทำให้สติที่มีถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี
เพราะรักมากถึงได้โกรธมาก เพราะรักมากถึงได้อยากทำลายก่อนที่ใครจะได้ไป
“พอกันที!
ชั้นทนมามากพอแล้ว!
คนที่ทำให้ความอดทนของชั้นมันหมดไปก็คือเธอเองนะสเลน!” มือใหญ่ฉีกกระชากเสื้อเชิ้ตสีเลือดนกจนกระดุมหลุดกระเด็น...ที่ผ่านมาเขาพยายามอดทนมาตลอด
พยายามไม่แสดงออกว่าหึงว่าหวงแค่ไหนเพื่อให้สเลนไม่ต้องลำบากใจ
แต่ในเมื่อถ้าเขาไม่แสดงออกแล้วเจ้าเด็กนี่มันจะไม่เคยรู้ตัวเลยว่าทำให้เขาแทบจะเป็นบ้าแค่ไหน
เขาก็ไม่คิดจะอดทนอีกต่อไป
จะกลับไปเป็นครูเทโอที่ใครๆก็เรียกว่าปีศาจร้ายเหมือนเดิม!
“คุณครูเทโอ
อื้อ?!” ใบหน้าหยิ่งทระนงจู่โจมเข้าที่ซอกคออย่างหิวกระหาย
มือใหญ่ปลดเข็มขัดก่อนจะดึงกางเกงสีดำออกไปให้พ้นต้นขาขาว
การกระทำที่ดูป่าเถื่อนทำให้ทำให้ร่างโปร่งเริ่มจะสั่นระริกด้วยความกลัว
ภาพในคืนนั้นมันค่อยๆซ้อนทับเข้ามาจนแยกไม่ออกแล้วว่าตรงไหนคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกันแน่
ลาดไหล่ที่ถูกกัดจนเจ็บทำให้สองมือยกขึ้นมาผลักไสร่างสูงใหญ่ที่ทาบทับออกไป
แต่มันก็แทบไม่ได้ผลในเมื่อหัวสีทองนั่นยังคงไล่กัดไปตามร่างกายบางเรื่อยๆ
“อึก!”
นัยน์ตาสีมรกตปิดแน่นทุกครั้งที่ฟันคมนั้นฝังลงมาบนร่างกาย
ถึงแม้จะมีจูบที่อ่อนโยนตามมาปลอบประโลมแต่มันก็ไม่ช่วยให้หัวใจที่กำลังตื่นกลัวนี้สงบลงได้เลย...มันมีแต่จะทำให้น้ำตาไหล...มีแต่จะทำให้นึกถึงความโหดร้ายของคืนนั้น
“อย่า...อย่าครับ!”
ร่างโปร่งสะดุ้งโหยงเมื่อสองขาถูกมือใหญ่จับแยกออกจากกัน
ถึงแม้ว่าร่างกายจะบิดเร่ารับฝ่ามือที่กอบกุมส่วนไวต่อความรู้สึกเอาไว้ ทว่า ปลายนิ้วที่ลูบไล้อยู่แถวๆปากทางเข้าทางด้านหลังก็ทำให้ร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน
กลัว....เขากลัว....
“อื้อ!!”
นัยน์ตาสีมรกตปิดแน่นก่อนที่ร่างกายจะกระตุกเฮือกเมื่อจู่ๆปลายนิ้วที่ไม่คิดจะฟังอะไรสอดใส่เข้ามา ปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายจึงเกิดขึ้นทันที
“ไม่...ไม่!!”
ร่างกายบางถอยหนีก่อนที่จะผลักไสอีกฝ่ายอย่างเอาเป็นเอาตาย
ทั้งร้องไห้ทั้งสั่นกลัวจนเหมือนคนกำลังคุ้มคลั่ง
ใบหน้าหยิ่งทระนงได้แต่กัดฟัน มือใหญ่ข้างหนึ่งยึดลำตัวบางเอาไว้
ส่วนปลายนิ้วอีกข้างก็ยังฝืนสอดใส่เข้าไป
“อย่า....ฮึก....อย่า!” ลมหายใจของคนถูกกระทำเริ่มจะหอบหนักจากความกลัว
และนั่นมันก็ทำให้CEOหนุ่มยอมหยุดมือ....ถ้าทำแบบนี้กับสเลนอีกครั้ง...หัวใจที่ถูกทำร้ายคงแหลกสลายอย่างไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมได้อีกแน่ๆ...เขาอยากจะให้มันเป็นแบบนั้นหรือไง...
มือใหญ่ดึงร่างกายที่กำลังสั่นระริกขึ้นมากอดเอาไว้
ถึงจะไม่มีคำพูดใดๆแต่รอยจูบที่ฝังลงไปบนกลุ่มผมสีชาก็แทนคำขอโทษและปลอบโยนได้เป็นอย่างดี...ถึงแม้ว่ามันจะนานเป็นชั่วโมงๆกว่าร่างโปร่งจะกลับสู่สภาวะปกติได้ก็เถอะนะ
ร่างสูงใหญ่ถือแก้วน้ำเข้ามาในห้องก่อนจะมาหยุดยืนอยู่ข้างๆเตียงซึ่งมีร่างโปร่งบางนั่งกอดเข่าอยู่บนนั้น
ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชาอมทุกข์จนCEOหนุ่มนึกด่าตัวเองที่ปล่อยให้ขาดสติจนทำเรื่องแย่ๆกับเด็กนี่ลงไปอีกจนได้
พอใจเย็นลงถึงได้เริ่มคิดว่ามันน่าจะเป็นแผนการที่เจ้าเทรนเนอร์หน้าตายนั่นวางเอาไว้
คนที่เขาต้องเล่นงานคือหมอนั่นต่างหาก!
“ถ้าผม...ตอบสนองต่อความต้องการของคุณไม่ได้...คุณ...จะยังรักผมอยู่ไหม?....” เสียงแผ่วเบาที่ถามออกมาทั้งๆที่ยังไม่ละใบหน้าไปจากหัวเข่ามันทำให้เขาเบิกตากว้าง
“ถ้าคุณ...จะทิ้งผมไป
จะเบื่อผม...ผมก็เข้าใจ...” ที่ใต้แผ่นอกซ้ายรู้สึกเจ็บแปลบจากคำถามของสเลน...กว่าจะถามแบบนี้ออกมาได้หัวใจดวงน้อยนั่นต้องเจ็บปวดแค่ไหนกันนะ....ทั้งๆที่คนที่ผิด...คนที่ทำให้สเลนเป็นแบบนี้...ก็คือเขาเองทั้งนั้น
มือใหญ่วางแก้วลงที่โต๊ะข้างเตียงก่อนจะดึงร่างโปร่งบางมากอดเอาไว้
“แล้วเธอล่ะ
จะยังรักฉันอยู่ไหมถ้าฉันจะหึงหวงเธอกับผู้ชายทั้งโลกเหมือนที่เป็นอยู่ในตอนนี้?”
คำพูดที่ยอมรับออกมาตรงๆทำให้นัยน์ตาสีมรกตเบิกค้างก่อนจะค่อยๆเงยหน้ามองเจ้าของอ้อมแขนที่กอดตนไว้
ที่ผ่านมาถึงบอสจะเคยเตือนอยู่บ้างแต่เป็นเพราะCEOหนุ่มไม่เคยแสดงออกเขาจึงไม่เคยรู้ว่าตัวเองก็กำลังทำให้อีกฝ่ายไม่สบายใจอยู่เหมือนกัน
พวกเขาก็แค่กังวลเรื่องของอีกฝ่าย...ก็แค่กังวลเรื่องของคนที่ตัวเองรัก....
โธ่...ถ้าแค่พูดคุยกันตรงๆเรื่องมันก็คงจะไม่ยุ่งเหยิงขนาดนี้
ไม่ต้องอึดอัด ไม่ต้องคิดมากขนาดนี้...
“อ่ะ...กับผู้หญิงชั้นก็หึงนะ” ใบหน้าได้รูปหัวเราะออกมาเบาๆ
ก่อนจะยกแขนขึ้นไปคล้องลำคอแกร่งเอาไว้
“ผมจะรักคุณตลอดไป
ไม่ว่าจะถูกหวงแค่ไหนก็ตาม...ที่คุณหึงก็เพราะว่าคุณรักผม...เพราะงั้นผมจะยอมให้คนที่รักผมคนนี้เอาแต่ใจกับผมได้...ถึงผมจะดีใจที่คุณพยายามเอาใจใส่ผม
แคร์ความรู้สึกผม แต่ผมก็ชอบในแบบที่คุณเป็นตัวของตัวเองมากกว่า”
“ถ้างั้นชั้นก็เหมือนกัน...ต่อให้เธอจะทำอะไรไม่ได้ชั้นก็ยังรักเธอที่เป็นเธอ”
ใบหน้าหยิ่งทระนงก้มลงมาก่อนที่จะจุมพิตริมฝีปากสีระเรื่อแผ่วเบา
“อ่า....แต่ว่าชั้นไม่ยอมหรอกนะเรื่องที่จะมีอะไรกับเธอไม่ได้”
แล้วร่างสูงใหญ่ก็กดร่างโปร่งบางลงไปนอนราบอยู่บนเตียง
“เอ๋?”
“ไหน?
ไปเรียนอะไรมาจากเจ้าเทรนเนอร์หน้าตายนั่นบ้าง? ทำให้ชั้นดูซิ?”
เสียงเซ็กซี่ที่ถามออกมาจากใบหน้าเจ้าเล่ห์ทำให้ใบหน้าสวยได้แต่ลนลาน
“เอ่อ...อ่า....”
“ไม่ต้องกลัว...คราวนี้ชั้นจะช่วยเธอเต็มที่”
“.....ครับ...” เพราะความรู้สึกว่าถูกคุกคามมันหายไปทำให้ความหวาดกลัวในหัวใจดูเหมือนจะเบาบางลงด้วย
หัวสีชาพยายามนึกถึงสิ่งที่เทรนเนอร์จากแดนอาทิตย์อุทัยเคยสอนให้ ทั้งความรู้สึกหลังจากที่ได้ดูวีดีโอพวกนั้น
ทั้งความรู้สึกที่ว่ามันไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด
ทั้งไม่คิดจะจินตนาการไปก่อนแต่ปล่อยให้ร่างสูงใหญ่เป็นฝ่ายนำ
เพราะงั้นสมองจึงล่องลอยคล้อยตามฝ่ามือและริมฝีปากที่เล้าโลมไปทั่วตัวด้วยความเชื่อใจว่าอีกฝ่ายจะไม่ทำให้เขาเจ็บ
สัมผัสที่ทำเอาร่างกายบิดเร่าราวกับจะทำให้เขาหลงมัวเมา
ทั้งที่คุณครูเทโอนั้นทั้งใจร้อนและเอาแต่ใจแต่กลับสัมผัสเขาอย่างเชื่องช้า
นั่นก็แสดงว่าอีกฝ่ายกำลังพยายามอยู่เช่นกัน...เขาเองก็จะยอมแพ้ง่ายๆไม่ได้
จะไม่วิ่งหนีต่อความกลัวนั้นอีก
“อื้อ~”
เสียงครางในลำคอหลุดรอดออกมาเมื่อหน้าท้องแบนเรียบถูกริมฝีปากกดจูบจู่โจมซ้ำไปซ้ำมา
ปลายเท้าจิกลงไปบนผ้าปูที่นอนอย่างต้องการระบายความเสียวซ่านจากฝ่ามือที่รูดขึ้นลงไปตามแกนกายของเขา
ได้ยินเสียงฝาขวดโลชั่นเปิดอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล นัยน์ตาสั่นระริกจึงแอบเปิดขึ้นมาดู
“หอมไหม?”
เสียงทุ้มเอ่ยถามในขณะที่ยื่นปลายนิ้วที่ชโลมได้ด้วยโลชั่นสีขาวมาให้ดม
ใบหน้าได้รูปจึงพยักหน้าช้าๆ...หอมสิ...เพราะนี่เป็นโลชั่นที่คุณครูเทโอใช้
“ถ้ามีนี่เธอก็จะไม่เจ็บ
คิดซะว่ากำลังจะมีกลิ่นของชั้นอยู่ข้างในร่างกายเธอยังไงล่ะ”
นัยน์ตาปรือปรอยกระพริบรับอย่างคล้อยตาม....มีกลิ่นของคุณครูเทโออยู่ในร่างกายของเขา...
และนั่นมันก็ทำให้นิ้วค่อยๆสอดเข้าไปได้...ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีอะไรที่ช่องทางคับแน่นนั่นจะยอมรับ
“อื้ม...” สัมผัสลื่นๆทำให้หัวคิ้วสีชาขมวดเข้าหากัน
ไม่ใช่เพราะเจ็บหรือกลัว
แต่ความเสียวซ่านยิ่งกว่าที่เคยเจอทำให้รู้สึกราวกับจะสำลักอะไรบางอย่างจนแทบทนไม่ไหว
ปลายนิ้วค่อยๆเพิ่มจำนวนอย่างนิ่มนวลจนเผลอครางออกไปอย่างสุขสม...มันไม่ได้น่ากลัว...ไม่ได้น่ากลัวเลยจริงๆ...
“อ่ะ?”
ปลายนิ้วถูกดึงออกไปก่อนที่สิ่งที่ใหญ่กว่าจะจ่ออยู่ที่ปากทางแทน
“เมื่อกี้กลิ่นของชั้น...ตอนนี้เป็นร่างกายของชั้นบ้างที่จะเข้าไปอยู่ในตัวเธอ”
เสียงทุ้มกระซิบอยู่ที่ใบหูก่อนที่ใบหน้าหยิ่งทระนงจะกดจูบคลอเคลียอยู่ที่ซอกคอ
สิ่งที่จดจ่ออยู่ที่ช่องทางเบื้องล่างค่อยๆสอดใส่เข้าไปอย่างใจเย็น
“อื้อ~~” นัยน์ตาสีมรกตปิดแน่น
ผนังภายในรับรู้ผ่านการเสียดสีว่าตอนนี้ร่างกายของคุณครูเทโอเข้ามาถึงไหนแล้ว...น่าแปลก...ที่มันกลับไม่ได้น่ากลัวแต่มันน่าอายจนจนแก้มใสแทบจะร้อนเป็นไฟ
ใบหน้าหยิ่งทระนงเห็นปฏิกิริยาที่ออกมาในทางที่ดีก็อมยิ้มน้อยๆ
“เข้าไปได้แล้วนะสเลน” ริมฝีปากกระซิบอยู่ที่ใบหูแดงระเรื่อก่อนจะเป่าลมร้อนใส่มันเบาๆ
“ฮึก
ฮึก...ครับ...” แต่แล้วเสียงสะอื้นที่ดังสวนกลับมาก็ทำให้CEOหนุ่มต้องละออกไปมองอย่างแปลกใจ
“เจ็บเหรอ?
หรือว่ากลัว?” และทันทีที่เขาถามด้วยสีหน้าตื่นๆ
สเลนก็ส่ายหน้ารัวๆก่อนจะตอบกลับมาเบาๆว่า
“เปล่าครับ...ผม...ดีใจ...” ใบหน้าและท่าทางอายๆแทบจะทำให้เขาคุมสติไม่ได้
สันกรามต้องกันกันแน่นเพื่อผ่อนความต้องการที่มากมายมหาศาลนี้ให้ลดลงบ้าง
ไม่งั้นเด็กนี่คงได้ตายคาอก
“ชั้นจะขยับละนะ
ถ้าเจ็บหรือกลัวก็บอก ชั้นจะหยุด...”
ถึงจะพูดไปแบบนั้นแต่ผนังภายในที่รัดอย่างไร้เดียงสาก็บ่งบอกให้รู้ว่าเขาคงได้แค่โกหก...ใครจะหยุดได้อีกเล่า
“อะ
อื้อ~”
นัยน์ตาสีมรกตปิดแน่นก่อนที่สองแขนจะคล้องมาที่ลำคอของเขา
ช่วงล่างขยับเข้าออกอย่างเชื่องช้าส่วนร่างกายท่อนบนก็โน้มไปกอดร่างโปร่งบางเอาไว้แน่น
หัวสีทองซุกไซร้คลอเคลียอยู่ที่ซอกคอระหงไม่รู้เบื่อ
“อะ
อ้า...”
เสียงครางดังขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อความเป็นชายกระแทกใส่ด้วยจังหวะที่ถี่กระชั้นมากขึ้น
ตอนนี้เด็กนี่คงมีแต่ความขาวโพลนอยู่ในหัว
ส่วนตัวเขานั้นกำลังจมดิ่งลงไปในความสุขสม
เป็นความรู้สึกดีที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครขนาดนี้มาก่อน
ดีจนแทบจะหลอมละลายเสียให้ได้
“อึก...อื้อ~
คุณ...ครูเทโอ....”
เสียงครางที่ผสมชื่อของเขาออกมาด้วยอย่างเผลอไผลทำให้ความอดทนพังทลาย
ร่างกายเบื้องล่างดึงออกมาจนสุดก่อนจะกระแทกกลับเข้าไปด้วยความหนักหน่วงจนความปรารถนาทั้งหมดทั้งมวลถูกส่งเข้าไปข้างใน
ความอุ่นวาบที่ฉาบไล้ผนังภายในทำให้ร่างโปร่งกระตุกเฮือกก่อนจะปลดปล่อยออกมาเต็มหน้าท้อง
“คุณครูเทโอ....”
ใบหน้าที่ดูออดอ้อนอย่างไม่รู้ตัวทำให้เขาขยับเข้าไปหา ก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปในริมฝีปากแดงช้ำ
รสจูบที่เร่าร้อนราวกับจะสั่งลาค่ำคืนอันแสนสุขเพื่อไปสู่เช้าวันใหม่...และก้าวใหม่ที่พวกเขาจะเดินไปด้วยกัน
“ชั้นรักเธอ”
ใบหน้าหยิ่งทระนงกระซิบเบาๆก่อนจะกดจูบขมับสีชาที่ชื้นแฉะไปด้วยเหงื่อ
นัยน์ตาสีมรกตสั่นพร่าราวกับจะหลั่งน้ำตาออกมาให้ได้...แต่มันเป็นน้ำตาแห่งความดีใจ...เสียงนุ่มตอบรับออกไปก่อนจะจมหายลงในอ้อมแขนที่แสนอบอุ่น
“ครับ...ผมก็รักคุณ”
“เอลวิน
นี่เป็นคำสั่งของCEO...เปลี่ยนเทรนเนอร์ให้สเลนใหม่ซะ!!” ทีมบอสของม้าลำพองนั่งมองCEOของเฟอร์รารี่ที่กำลังปล่อยรังสีทะมึนในขณะที่บุกเข้ามาในสนามฟิโอราโน่อย่างไม่สนใจใคร...ในที่สุดไอ้เจ้าปีศาจนี่มันก็ตบะแตกแล้วสินะ
นึกว่าจะทนได้ซักเดือนสองเดือน แต่นี่เพิ่งจะผ่านมาแค่สองอาทิตย์เอ๊ง~
“ชั้นไม่ไว้ใจหมอนั่น
หมอนั่นพยายามจะจับสเลนของชั้นกดนะนายรู้ไหม?!” ไม่รู้ว้อยยยย ไม่รู้อะไรทั้งนั้น! ทีมบอสถอนหายใจอย่างระอาในขณะที่มองเจ้าCEOปีศาจชี้นิ้วไปที่ไคซึกะ
อินาโฮะซึ่งอยู่ในห้องเทรนพลางด่าฉอดๆ
อุตส่าห์หมดปัญหาเรื่องการหาเทรนเนอร์ให้โกคุเดระไปได้
นี่ยังต้องมาเจอของสเลนอีกเร๊อะ?!
เทรนเนอร์นักขับเอฟวันนะไม่ใช่ปลาแซลม่อน มันถึงจะไปหาซื้อตามซุปเปอร์มาเก็ตได้น่ะ
นักขับของเขาทั้งคู่แทบจะเรียกได้ว่าเพอร์เฟ็คทุกอย่างเสียก็เรื่องเดียวแถมเหมือนกันเป๊ะ...ก็ไอ้เรื่องมีแฟนเป็นหมีขี้หึงนี่แหละ!
ทีมบอสผู้มีความอดทนหรือปลงตกก็ไม่รู้อย่างเต็มเปี่ยมได้แต่ปล่อยให้CEOหนุ่มด่าไป...เอาให้พอใจเลยแล้วกัน...เพราะดูท่าทางไคซึกะ
อินาโฮะเองก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่
เทรนเนอร์จากแดนอาทิตย์อุทัยยังคงนั่งทำตารางการฝึกให้นักขับมือสองด้วยใบหน้าราวกับปลาตายเหมือนเดิม
“คุณอินาโฮะ
ผมมีเรื่องจะคุยด้วยหน่อยครับ”
สเลนเดินยิ้มๆเข้าไปในห้องเทรนและนั่นมันก็ทำให้ใบหน้าตายด้านยอมเงยขึ้นมาจากชาร์ต
“ขอพูดตรงๆเลยนะครับ...ผม...คงไม่สามารถตอบสนองต่อความรู้สึกของคุณอินาโฮะได้...คุณ...หันไปมองคนอื่นเถอะครับอย่ามาเสียเวลากับผมเลย...ส่วนเรื่องเทรนเดี๋ยวผมจะพยายามไปกล่อมคุณครูเทโอให้
เพราะยังไงผมก็คิดว่าฝีมือการเทรนของคุณอินาโฮะนั้นช่วยในการแข่งของผมได้มาก”
หัวสีชาก้มลงไปอย่างต้องการจะขอโทษและปฏิเสธให้ชัดเจนซึ่งใบหน้านิ่งก็ทำได้แค่ถอนหายใจ
นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงทอดมองคนที่ยังค้างอยู่ในท่าโค้ง...เขารักหมอนี่...และเขาก็ไม่ได้อยากทำให้คนที่รักต้องลำบากใจ
ริมฝีปากจึงเอ่ยออกไป
“ก็ได้
ชั้นจะยอมถอย...”
ในเมื่อเขาสู้อุตส่าห์วางแผนซะขนาดนั้นแต่คนที่ชนะกลับกลายเป็นCEOนั่น มันก็คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะยื้อไว้ให้ต่างคนต่างเจ็บ
“จริงเหรอครับ! ขอบคุณมากๆนะครับคุณอินาโฮะ!”
ร่างโปร่งเงยขึ้นมาก่อนจะยิ้มให้ด้วยความดีใจ
แล้วในขณะที่สเลนเตรียมจะหันหลังเพื่อเดินออกจากห้อง
เทรนเนอร์จากแดนอาทิตย์อุทัยก็ขยับไปประกบข้างหลังพร้อมกับกระซิบที่ใบหู
“แต่นายก็อย่าเผลอล่ะ...เพราะชั้นไม่ได้บอกว่าจะตัดใจ”
“เอ๊ะ?” ในขณะที่สเลนหันมามองเขาด้วยดวงตาคู่โต
ริมฝีปากก็เป่าลมร้อนๆใส่ต้นคอระหงอย่างจงใจจะยั่วเย้า...เปล่า...เขาไม่ได้อยากจะแกล้งสเลนหรอก
แต่คนที่เขาตั้งใจจะยั่วโมโหคือคนที่กำลังเต้นเป็นเจ้าเข้าอยู่ข้างนอกนั่นต่างหาก
“หึ...”
รอยยิ้มน้อยๆปรากฏอยู่ที่มุมปากและนั่นมันก็ยิ่งทำให้CEOหนุ่มเดือดยิ่งกว่าเดิม
“นายเห็นไหมเอลวิน!
นายเห็นที่หมอนั่นทำกับสเลนของชั้นไหม?! นายต้องไล่มันออกเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
ทีมบอสที่น่าสงสารได้แต่เอาแฟ้มปิดหูพลางนวดขมับอย่างปวดเศียรเวียนเกล้า
ใครว่าทีมบอสเป็นกันได้ง่ายๆ อย่างน้อยในค่ายม้าลำพองนี่ก็ขอบอกเลยว่ามันไม่ใช่!
มีแต่ไอ้ตัวปัญหาทั้งนั้น!
ธงตาหมากรุกโบกสะบัดเหนือเส้นชัยในสนามบาเรนห์
สนามที่ 4
ของปฏิทินการแข่งขันและมันก็เป็นสนามที่ใช้ตัดสินอนาคตของนักขับมือสองแห่งทีมม้าลำพองด้วยเช่นกัน
เพราะถ้าสเลน
ทรอยยาร์ดไม่ได้ขึ้นโพเดี้ยมในสนามนี้
ก็ต้องออกจากการเป็นนักขับตัวจริงทันที...ถึงจะมีดีกรีเป็นถึงแฟนของCEO แต่ข้อตกลงที่ทำกันไว้ยังไงก็ต้องเป็นไปตามนั้น
และดูเหมือนทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี...ไม่สิ...นี่มันดีมากต่างหาก
เนื่องจากโกคุเดระ
ฮายาโตะจู่ๆก็ปวดขาซึ่งเป็นผลกระทบจากอุบัติเหตุร้ายแรงทำให้มีอาการอยู่บ้างนานๆครั้ง
จึงทำให้ในสนามนี้นักขับมือหนึ่งของเฟอร์รารี่ไม่ได้ลงสนาม และนั่นมันก็ทำให้รถสีแดงเพลิงอีกคันเข้าเส้นชัยเป็นที่หนึ่งแทน
ถือเป็นการก้าวเข้ามาเป็นครอบครัวอย่างเป็นทางการด้วยผลงานที่สุดยอดไปเลยนะ...
CEOหนุ่มที่ยืนดูอยู่ในแพดด็อกยิ้มบางๆให้กับภาพแห่งชัยชนะที่กำลังฉายอยู่ในจอมอนิเตอร์
สเลนกำลังขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโพเดี้ยมก่อนจะรับถ้วยแชมป์ของสนามนี้ไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
เสียงเพลงแห่งการฉลองชัยดำเนินต่อไปเรื่อยๆโดยที่CEOหนุ่มก็ไม่ได้คิดจะเข้าไปแทรก
ตอนนี้ปล่อยให้เพื่อนๆในทีมที่ร่วมสู้ด้วยกันมาได้ดีใจกับเด็กนั่นไปก่อน
เพราะสำหรับเขาที่อยู่ด้วยกันแล้วจะฉลองให้เมื่อไหร่ก็ทำได้
แต่เด็กนั่นกลับทำให้เขาแปลกใจ
เพราะหลังจากจบพิธีการมอบถ้วยแล้ว แทนที่ร่างโปร่งจะลงไปฉลองกับเพื่อนร่วมทีม
สเลนกลับวิ่งตรงมาที่แพดด็อก
“คุณครูเทโอ!
ผมชนะแล้ว!”
ร่างโปร่งกระโดดกอดเขาด้วยความลืมตัว
ใบหน้าที่กำลังยิ้มอย่างดีใจมันทำให้เขาอ้าแขนรับอย่างไม่ว่าอะไร
ถึงแม้จะถูกนักข่าวถ่ายภาพกันกระจายแต่คงไม่มีใครคิดหรอกว่าพวกเขาจะเป็นอะไรกันมากไปกว่าCEOผู้อยู่เบื้องหลังทีมแข่งกับนักขับคนหนึ่งของทีมที่อาจจะสนิทกัน
ทว่า...
ยังมีสายตาคู่หนึ่งซึ่งมองมาอย่างชะงักค้าง...
ทำไมถึงเป็นคุณครูเทโอล่ะ?
คนที่สเลนจะต้องวิ่งมาหาก็คือเธอไม่ใช่หรือไง?
ใบหน้าสวยปรับรอยยิ้มให้เป็นปกติก่อนที่คุณหนูของBMWจะเดินเข้าไปแสดงความยินดีกับว่าที่คู่หมั้นที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก
“สเลน...”
เสียงใสที่เอ่ยเรียกอยู่ด้านหลังทำให้อ้อมแขนที่กำลังกอดกันอยู่นั้นค่อยๆคลายออก
“คุณหนูอัสเซลัม” ใบหน้าอ่อนโยนหันไปหาหญิงสาวพร้อมรอยยิ้ม
“ยินดีด้วยนะคะ”
มือเรียวยื่นมาจับมือที่ยังมีเหงื่อเปียกชื้นเอาไว้...และคราวนี้แหละที่เสียงชัตเตอร์ดังระรัวมากกว่าเมื่อกี้หลายสิบเท่า
เพราะมันคงจะเป็นข่าวของหนังสือพิมพ์เช้าวันพรุ่งนี้แน่นอน
“ขอบคุณมากๆนะครับที่มาดูถึงนี่” ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชายิ้มให้ตามปกติ
แต่ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันมากมายพวกทีมแข่งก็มาฉกตัวสเลนไปเสียก่อน
เด็กสาวได้แต่ยืนมองเด็กหนุ่มถูกพาตัวไป
เธอรู้ว่าเวลาแบบนี้เธอควรจะปล่อยให้เขาได้ฉลองกับเพื่อนๆ
ไม่ควรจะทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเพราะมันน่ารำคาญ
ร่างระหงจึงเดินจากไปโดยไม่ให้สื่อสัมภาษณ์ใดๆ
นัยน์ตาสีเขียวทอดมองท้องฟ้าที่อยู่ระดับเดียวกับเครื่องบิน
ภาพที่สเลนกระโดดเข้าไปกอดCEOหนุ่มมันรบกวนจิตใจจนอดที่จะสงสัยไม่ได้
ใบหน้าสวยจึงก้มลงมองกระดานหุ้นที่เธอรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆมาพักใหญ่
เพราะBMWเป็นหุ้นส่วนของโรลส์-รอยซ์ทำให้เธอจำเป็นต้องสนใจทุกสิ่งทุกอย่างของหุ้นในกลุ่มนี้ด้วย เธอจึงรู้จึงเห็นมาตลอด...การต่อสู้ระหว่างเฟอร์รารี่กับโรลส์-รอยซ์...ไม่สิ...การต่อสู้ระหว่างคุณอาซาสบาร์มกับคุณครูเทโอ...
นัยน์ตาสีเขียวไล่มองข้อมูลฐานการผลิตของโรลส์-รอยซ์อย่างครุ่นคิด
ถึงภาพลักษณ์ของเธออาจจะดูเป็นแค่คุณหนูสวยใสไร้สมอง
แต่นั่นมันก็เป็นแค่ภาพลักษณ์ที่ไม่มีใครรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอ
ใบหน้าสวยเงยขึ้นมาจากข้อมูลในแฟ้มเอกสารเมื่อทุกอย่างเริ่มลงตัวอยู่ในหัว
ก่อนที่ริมฝีปากจะเอ่ยบอกคนสนิทที่นั่งอยู่ไม่ไกล
“คุณเอลเดริทโต้...พอจะเช็คให้หน่อยได้ไหมคะว่าเมื่อเรากลับถึงเยอรมัน
คุณพ่ออยู่ที่ไหน...ชั้นอยากจะคุยกับท่านเรื่องการแต่งงานระหว่างชั้นกับสเลน...อยากจะเร่งให้มันไวขึ้นน่ะค่ะ”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To
be Con.
ยัง....อุปสรรคความรักของท่านเคานต์ค.ยังไม่จบลงแค่นี้
ก๊ากๆๆๆ // โดนไม้เท้าฟาด
แล้วเจอกันตอนหน้าค่า
เหะเหะ
ปล.QCอีกทีในรวมเล่มเลยนะคะ
ตอนนี้เจอคำไหนแปลกๆก็ข้ามมันไปนะ TvT ไม่มีเวลาแล้ว โฮววววว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น