Attack
on Titan feat.KHR and A/Z Au.Fic [Cruhteo x Slaine , Levi xEren , 8059] GLIDE : WHITE and
SILVER#13
For
HBD. Count Cruhteo
:
Attack on Titan feat KHR Fanfiction Au
:
Cruhteo x Slaine , Levi x Eren , 8059
:
Romantic Drama
:
NC-17
คำเตือน :
เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
เอี๊ยด!!!!
เจ้ารถเต่าที่เพิ่งเคยเหยียบถึง
80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็นครั้งแรกเบรกลงตรงหน้าบ้านหลังใหญ่ในเขตมอนชิโอ้พอดีๆ
ร่างโปร่งบางที่อยู่หลังพวงมาลัยเปิดรถลงมาด้วยท่าทางตื่นๆ
ถึงแม้ว่าเขาจะเคยอยู่บ้านเยเกอร์ที่อยู่ข้างๆและเข้าบ้านของคุณครูเทโอได้โดยไม่ต้องผ่านประตูใหญ่
แต่ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่บ้านของเอเลนแล้วจึงจำต้องกดกริ่งหน้าบ้านของCEOหนุ่มอย่างช่วยไม่ได้
ริมฝีปากสีระเรื่อเม้มเข้าหากันในระหว่างรอเจ้าของบ้านออกมาเปิดประตูให้
ใบหน้าได้รูปที่ดูลนน้อยๆบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าคงมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
เจ้านักขับมือสองของเฟอร์รารี่ถึงได้วิ่งหน้าตั้งมาหาคนที่ยังไม่ทันจะได้แต่งตัวดีแบบนี้
“
มีอะไรรึสเลน?” CEOหนุ่มแห่งเฟอร์รารี่ออกมาเปิดประตูให้ทั้งๆที่ยังอยู่ในชุดคลุมชุดนอน
ก็นี่มันยังไม่ทันจะเจ็ดโมงเช้าดีด้วยซ้ำ
“
คุณประกาศขายบ้านของผมเหรอครับ?”
มือบางชูสัญญาที่เขียนไว้อย่างดิบดีเกี่ยวกับสัญญาซื้อขายบ้านที่ร่างโปร่งยังย้ายเข้าไปไม่ทันถึงเดือนด้วยซ้ำ
“
อ้อ...นึกว่าเรื่องอะไร...ใช่
ชั้นบอกให้เลขาประกาศขายตั้งแต่ก่อนที่ชั้นจะไปเซี่ยงไฮ้แล้วละ เพราะยังไงซะเธอก็คงจะไม่ได้อยู่ที่นั่นอีกหลังจากที่กลับมาจากสนามที่สาม”
ใบหน้าหยิ่งทระนงตอบรับอย่างไม่สะทกสะท้าน...นี่มีสิทธิ์อะไรมาประกาศขายบ้านของเขาตามใจเนี่ย?
แล้วไปเอาความมั่นใจมากจากไหนว่าเขาจะไม่กลับไปที่บ้านหลังนั้นอีก? นอกจากนี้แล้วจะให้เขาไปอยู่ที่ไหนล่ะ?
“
ถ้าผมไม่อยู่ที่นั่นแล้วจะให้ผมไปอยู่ที่ไหนล่ะครับ? โธ่...” ใบหน้าได้รูปเม้มริมฝีปากก่อนจะถอนหายใจ
กว่าเขาจะหาบ้านดีๆได้ก็ไม่ใช่ง่ายๆนะ ถ้าขายไปแล้วเขาจะทำยังไงล่ะ?
นัยน์ตาสีมรกตมองคนที่ยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อย่างคาดโทษ...เมื่อวานเพิ่งจะคืนดีกัน
วันนี้ก็มีโทรศัพท์มาหาเขาแต่เช้าว่ามีคนสนใจอยากได้บ้านหลังนั้นทั้งๆที่เขาไม่ได้รู้เรื่องการประกาศขายนี่เลยสักนิด
ทำอะไรไม่คิดจะปรึกษาเขาเลยหรือไงนะคนคนนี้!
“
เธอก็กลับมาอยู่ที่มอนชิโอ้นี่สิ”
พูดอะไรง่ายๆ เขาออกจากบ้านพวกเยเกอร์ไปแล้วจะให้ย้ายกลับมาใหม่ได้ยังไง
เกรงใจพ่อแม่ของเอเลนบ้างสิ เขาถอนหายใจในความเอาแต่ใจของคนตรงหน้าก่อนจะพูดออกไป
“
ไม่ได้หรอกครับ...เกรงใจพ่อกับแม่ของเอเลนเค้า...เดี๋ยวย้ายเข้าเดี๋ยวย้ายออกแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนละครับ”
“
แล้วใครจะให้เธอไปอยู่บ้านของเจ้าเด็กเยเกอร์นั่นเล่า...มาอยู่ที่บ้านของชั้นสิ” เอ๊ะ?
“
ครับ” เฮ้ย!
เผลอรับปากไปอีกแล้ว! ตั้งสติหน่อยสิสเลน! โธ่~
“
ดี ถ้างั้นเย็นนี้ชั้นจะไปช่วยเธอขนของ”
เขามองหน้าอีกฝ่ายอย่างมึนๆ
กว่าจะเข้าใจความหมายของการที่จะย้ายมาอยู่ด้วยกันใบหน้าก็แดงเถือกไปถึงใบหู
เอ๋~~~?!! เดี๋ยวนะ?!! นี่มันเหมือนคู่แต่งงานใหม่อะไรประมาณนั้นหรือเปล่า?!
ริมฝีปากสีระเรื่อได้แต่อ้าพะงาบๆโดยมีอีกคนยืนขำอยู่ในใจ
ท่าทางลนๆนั่นมันน่ารักน้อยเสียที่ไหน
“
กินอะไรมาหรือยัง? เธอมาก็ดีเลย เข้ามาชงกาแฟให้หน่อยสิ ชั้นจะไปแต่งตัว” เอ๊ะ?
“
ครับ” ........แล้วเขาจะเดินตามคุณครูเทโอเข้ามาทำไมเนี่ย?!
โธ่~
อาหารเช้าแบบง่ายๆอย่างขนมปังกับไข่ดาวถูกวางลงบนโต๊ะก่อนที่นัยน์ตาสีมรกตจะทอดมองผลงานของตัวเอง...วันนี้ก็คงทำได้เท่านี้แหละเพราะของสดที่อยู่ในตู้เย็นบ้านนี้มีอยู่ไม่กี่อย่าง...ก็สมเป็นบ้านหนุ่มโสดที่ไม่ทำอาหารแล้วละนะ
“
ต้องการอุปกรณ์ในครัวอะไรเพิ่มอีกไหมสเลน? อย่างพวกเตาอบหรืออะไรแบบนี้?
จะได้สั่งให้ช่างมาทำ”
ร่างสูงใหญ่เดินขยับเนคไทลงมาจากบันได
ใบหน้าได้รูปจึงส่ายปฏิเสธเบาๆ...นี่คุณครูเทโอคงไม่รู้เลยสินะว่าตัวเองมีครัวที่วิเศษขนาดไหนอยู่
“
เธอนี่ก็แปลกคนนะ อย่างบ้านซาสบาร์มน่าจะมีแม่บ้านทำอาหารให้?
แล้วทำไมถึงทำกับข้าวเป็น?”
มือใหญ่พาดสูทเอาไว้กับพนักพิงเก้าอี้ก่อนที่CEOหนุ่มจะนั่งลงหน้าจานอาหารเช้าที่ดูดีกว่าทุกวัน
“
ตอนเด็กๆสมัยที่ยังไม่ได้มาอยู่ที่บ้านซาสบาร์มผมต้องทำอาหารกินเองน่ะครับ
ก็เลยชอบทำ แล้วพอมาอยู่ที่บ้านนั้นก็เลยไปขอแม่บ้านทำบ่อยๆจนได้สูตรอร่อยๆมาด้วยละครับ”
ไม่ได้อยู่ที่บ้านซาสบาร์มตั้งแต่แรกเกิดหรอกรึ? CEOหนุ่มเก็บความสงสัยเอาไว้ในใจพลางไล่สายตามองหน้าหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในมือ
“
หื๋ม?...สูตรอร่อยๆ?”
เสียงทุ้มเอ่ยออกไปในขณะที่ยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม กลิ่นหอมกรุ่นช่างแตกต่างจากกาแฟที่เขาชงเองราวกับไม่ได้มาจากเมล็ดกาแฟถุงเดียวกัน
มีแค่เรื่องเดียวนี่แหละที่ต้องยอมแพ้เด็กนี่
“
ไว้วันหลังผมจะทำให้ทานนะครับ”
นัยน์ตาสีฟ้าเจ้าเล่ห์ตวัดขึ้นมามองคนที่เพิ่งขุดหลุมฝังตัวเอง
เพราะประโยคที่เพิ่งเอ่ยออกมานั้นมันมีความหมายว่าตนจะย้ายมาอยู่ด้วยกันที่นี่แต่โดยดีแล้วก็จะทำอาหารให้เขากินเหมือนคู่สามีภรรยาอะไรประมาณนั้น
ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชาที่เพิ่งรู้ตัวถึงได้แดงเถือกพลางก้มงุดอย่างอายๆ
“
เดี๋ยวจอดรถทิ้งไว้ที่นี่แหละ ชั้นจะไปส่งเธอเอง ตอนเย็นจะได้ไปขนของด้วยกัน” CEOหนุ่มวางแก้วกาแฟลงหลังจากจัดการอาหารเช้าจนหมดเกลี้ยง
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนก่อนจะหยิบสูทขึ้นมาสวม
“
อะ ครับ”
ร่างโปร่งรับคำพร้อมกับลุกขึ้นยืนตาม
นัยน์ตาสีฟ้าเหลือบมองมือบางที่ช่วยจับสูทของเขาให้เข้าที่ก่อนที่ใบหน้าหยิ่งทระนงจะชะงักไปเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้...นิสัยเสียของเขานี่แก้ไม่หายจริงๆ...เผลอออกคำสั่งกับสเลนไปอีกจนได้ทั้งๆที่ตอนนี้ฐานะของเขากับเด็กนั่นไม่ใช่เจ้านายกับลูกน้องแล้วแต่เป็นคนรักกัน...เขาควรจะรับฟังความคิดเห็นของอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
“
เอ่อ...หรือเธอคิดว่าไง?” เสียงทุ้มจึงเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่เด็ดขาดอย่างที่เคย
ทำให้คนที่กำลังช่วยจัดเนคไทเงยขึ้นมามองงงๆ
“
เอ๋?”
“
ก็...ถ้าไม่อยากทำตามที่ชั้นบอกก็พูดออกมาได้...นะ...คือ...ก็อย่างที่เธอรู้นั่นแหละว่าชั้นเป็นผู้บริหาร
ไอ้นิสัยชอบออกคำสั่งและคิดแทนคนอื่นมันเลยติดตัวมา...แต่ว่า...ถ้าจะเอามาใช้กับเธอมันก็ไม่ดีใช่ไหมล่ะ...เพราะงั้น...ชั้นเองก็...จะพยายามปรับตัว....” ใบหน้าหยิ่งทระนงพูดไปเสมองทางอื่นไปที่แก้มมีรอยแดงระเรื่อนิดๆเพราะชีวิตนี้ไม่เคยพูดอะไรกับใครแบบนี้มาก่อนและถ้อยคำตะกุกตะกักอย่างไร้ความมั่นใจนั่นมันก็ทำให้คนฟังได้แต่มองด้วยดวงตานิ่งค้าง
“
คุณครูเทโอ....” เสียงนุ่มเรียกชื่อของเขาเบาๆพร้อมกับรอยยิ้ม...คงไม่อยากจะเชื่อเลยสินะว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้จากเขา
ใบหน้าหยิ่งทระนงก้มซบลงไปที่ไหล่บอบบางเพราะไม่อยากให้สเลนเห็นใบหน้าที่ไม่เป็นตัวของตัวเองของเขา
“
ชั้น...อยากให้เธออยู่ข้างๆ...ไม่สิ...ชั้น...อยากอยู่กับเธอ...ไม่อยากให้มันต้องจบลงเหมือนตอนที่ชั้นคบกับผู้หญิงคนอื่นๆก่อนหน้านี้...ชั้น....”
รักเธอมากนะรู้ไหม....มันเขินจนพูดออกไปไม่ได้
ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆก่อนที่ใบหน้าของเขาจะถูกมือบางประคองขึ้นมาให้สบตากัน
นัยน์ตาสีมรกตที่ร้องไห้เพราะเขามาไม่รู้เท่าไหร่กำลังจ้องมองเขาด้วยสายตาอ่อนโยนยิ่งกว่าใคร
“
.....ไม่หรอกครับ...มันจะไม่จบลงง่ายๆหรอกครับ...คุณอย่าลืมสิว่าผมรักคุณทั้งๆที่คุณชอบออกคำสั่งแล้วก็ยังบังคับผมสารพัด...ผมรักคุณทั้งๆที่คุณเป็นแบบนั้น...เพราะงั้นผมไม่คิดจะเปลี่ยนให้คุณเป็นเหมือนคนอื่นๆหรอกนะครับ...”
ใต้แผ่นอกซ้ายของเขามันกำลังมีความอบอุ่นแทรกซึมเข้ามาจนเผลอยิ้มออกไป
บางทีสเลนอาจจะเป็นคนที่สวรรค์ส่งมาให้เขาก็ได้
เด็กนี่ถึงได้ยินดีหากจะต้องทำตามคำสั่งของเขาไปตลอดชีวิต
“
แค่...” ใบหน้าอมยิ้มเอ่ยบอกเขาที่กำลังยื่นหน้าเข้าไปใกล้
“
แค่?”
“
อ่อนโยนกับผมมากกว่าเดิมอีกซักหน่อยก็พอ...”
ได้ยินเสียงเส้นความอดทนขาดผึงอยู่ในหัว...น่ารัก...มาพูดจาน่ารักแบบนี้แล้วคิดว่าเขาจะปล่อยไปง่ายๆได้หรือไง?
“
เอ๊ะ?”
ตุ้บ....
ร่างโปร่งบางถูกผลักลงไปนอนอยู่บนโซฟาก่อนที่ใบหน้าหยิ่งทระนงจะตามลงไปกระซิบที่ใบหูด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์
“
เข้าใจแล้ว...คราวนี้ชั้นจะอ่อนโยนกับเธอ”
แล้วใบหน้าหยิ่งทระนงก็ละจากใบหูลงสู่ต้นคอระหงก่อนจะกดจูบมันซ้ำๆ
เส้นผมสีทองที่ละอยู่ที่ต้นคอและลาดไหล่ทำให้คนที่ตามไม่ทันยังคงมึนงง
“
เอ๊ะ? เดี๋ยวครับ? อ่อนโยนนี่มัน...?”
มือบางพยายามไล่ตะครุบมือใหญ่ที่ดึงชายเสื้อเชิ้ตสีแดงเลือดนกของชุดลำลองเฟอร์รารี่ออกมาจากเอวบางก่อนจะสอดเข้าไปลูบไล้หน้าท้องแบนเรียบ
“
อื้อ…”
ริมฝีปากร้อนๆที่ลากไล้ไปตามเส้นประสาทที่ต้นคอทำให้ร่างโปร่งบางครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้
สัมผัสชวนเคลิบเคลิ้มทำให้หัวสีชาที่อยู่บนหมอนอิงหันตะแคงให้ใบหน้าหยิ่งทระนงซุกไซร้ได้ถนัด
แต่ถึงอย่างนั้นความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็ทำให้มือสั่นๆต้องพยายามห้ามร่างสูงใหญ่ให้หยุด
“
คุณครูเทโอ...ต้องไปทำงาน...อะ...”
ปลายนิ้วยาวที่เคล้นคลึงมาถึงยอดอกทำให้ริมฝีปากสีสดเผลอปล่อยเสียงครางออกมาแทนเสียงห้าม
“
ไม่ต้องห่วงหรอก นี่ยังเช้าอยู่เลย ยังมีเวลาเหลือเฟือ”
เสียงทุ้มกระซิบบอกที่ใบหูก่อนจะไล้เลียมันให้คนถูกกระทำเสียวซ่านจนฝ่าเท้าถึงกับอยู่ไม่สุข
สองขาที่ถูกร่างสูงใหญ่แทรกอยู่ตรงกลางกดปลายเท้าลงไปบนโซฟาหนังอย่างดีเพื่อระบายอารมณ์
“
ตะ แต่สูทจะยับเอาได้นะครับ...อื้อ...”
ร่างโปร่งพยายามหาข้ออ้างแต่คนที่กำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีเลือดนกออกจากกันก็ดูจะไม่ได้สนใจฟังสักเท่าไหร่
ปลายลิ้นแลบเลียยอดอกสีชมพูข้างหนึ่งราวกับมันเป็นผลเชอร์รี่ที่วางอยู่บนของหวานหลังอาหารจนคนถูกกระทำถึงกับบิดเร่า
“
ไม่ต้องห่วงหรอก ชั้นยังมีสูทอีกเป็นร้อยรอให้เปลี่ยนอยู่ข้างบน” ปลายลิ้นเปียกแฉะแตะลงไปซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนน้ำลายชุ่มโชกอยู่บนยอดอกข้างนั้น
เพราะถูกจู่โจมส่วนอ่อนไหวบนแผงอกบางทำให้ร่างโปร่งเผลอแอ่นรับอย่างน่าอาย
นัยน์ตาสีมรกตที่สั่นพร่าเสมองฝ้าเพดานจึงไม่เห็นว่ามือใหญ่อีกข้างที่เคยลูบไล้อยู่ที่หน้าท้องและสะโพกกำลังปลดเข็มขัดออกอย่างแผ่วเบา
“
ตะ แต่อีกเดี๋ยวคนขับรถก็กำลังจะมา...อ้า...”
ไหล่บางสะดุ้งเฮือกเมื่อแกนกายถูกฝ่ามือร้อนๆกอบกุม
นัยน์ตาสีมรกตที่เหลือบมองเบื้องล่างสั่นระริกเพราะความต้องการกำลังตีกันมั่วกับความกลัว
“
วันนี้ไม่มาหรอก ก็ชั้นบอกแล้วนี่ว่าจะขับรถไปส่งเธอ ตอนเย็นจะได้ไปขนของกัน” สะโพกมนถูกยกขึ้นเล็กน้อยพอให้กางเกงสีดำกับชั้นในสีขาวลากผ่านไปได้
“
ตัวเล็ก...ไซส์อะไร? SS?” นัยน์ตาสีฟ้าจับจ้องอยู่ที่ชั้นในสีขาวที่เพิ่งถอดออกไปได้
ทำเอาเจ้าของมันต้องรีบคว้ากลับมาด้วยใบหน้าแดงเถือกยิ่งกว่าเก่า
“
โธ่...SSนั่นมันเด็กแล้วครับ!” มือบางหย่อนชั้นในไว้ไกลๆมือใหญ่
เพราะมัวแต่สนใจกางเกงในตัวจิ๋วนั่นพอหันสายตากลับมาอีกทีส่วนอ่อนไหวทั้งหมดของร่างกายก็ถูกยึดไปแล้วด้วยร่างกายของคนที่คร่อมอยู่ด้านบน
“
อะ...อื้อ~” ไม่ว่าจะซอกคอที่ถูกริมฝีปากร้อนกดจูบซุกไซร้
ไม่ว่าจะยอดอกที่ถูกปลายนิ้วบีบรัดหยอกเย้า
ไม่ว่าจะแกนกายที่ถูกมือใหญ่กอบกุมแล้วรูดมันช้าๆ
“
อ้า~”
นัยน์ตาสีมรกตปิดแน่นพร้อมกับสะบัดหน้าเงยหาอากาศ ไม่ว่าจะข้ออ้างอะไรก็ใช้กับอีกฝ่ายไม่ได้ผล
แต่ที่น่าโมโหก็คือร่างกายของตัวเองนี่แหละที่ไม่อาจปฏิเสธอีกฝ่ายได้
ถึงจะรู้ว่าเวลาและสถานที่มันไม่เหมาะสมแต่สัมผัสรัญจวนใจที่ทำเอาทั้งร่างกายอ่อนระทวยก็ทำให้ความคิดจะต่อต้านจมหายไปในความเคลิบเคลิ้มที่ถูกมอบให้
สองแขนโอบรอบแผ่นหลังกว้างตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ยังไม่ทันจะรู้ตัว...แบบนี้คงทำได้แค่ปล่อยเลยตามเลย
ส่วนอ่อนไหวที่ถูกกระตุ้นเร้าพร้อมๆกันทำเอาแทบคลั่ง
มีเพียงปลายเท้าที่มีอิสระพอที่จะกดลงกับโซฟาหนังไปมาเพื่อระบายความเสียวซ่านนั้นออกไปเพราะร่างกายส่วนอื่นถูกร่างสูงใหญ่ทาบทับเอาไว้
ถึงแม้ว่าคุณครูเทโอจะไม่ได้ถอดเสื้อผ้าออกแต่ความนุ่มลื่นของผ้าเนื้อดีที่อีกฝ่ายสวมใส่มันกลับทำให้เขารับรู้ถึงตัวตนของอีกฝ่ายได้ดีอย่างน่าประหลาด
“
อะ...”
ถึงจะพยายามห้ามเสียงน่าอายแต่ทุกครั้งที่มือใหญ่ๆนั่นย้ายตำแหน่งไปยังส่วนต่างๆบนร่างกายของเขา
ความร้อนผ่าวของมันก็ทำให้เผลอครางออกมาจนได้เสียทุกที...คราวนี้ก็เหมือนกัน...มันกำลังย้ายไปลูบไล้อยู่ที่โคนขาราวกับจะบอกว่าส่วนต่อไปที่จะล่วงล้ำคือ...
จู่ๆหัวใจดวงน้อยก็เต้นผิดจังหวะอย่างไม่ทราบสาเหตุ
เพราะเคยมีประสบการณ์มาแล้วถึงแม้ว่ามันจะต่างจากครั้งนี้ราวกับหนังคนละม้วนแต่ทุกอณูของร่างกายก็ยังจดจำได้ดีว่ามันกำลังจะเกิดอะไรขึ้น
จู่ๆภาพของคืนนั้นก็ย้อนกลับมาซ้อนทับกับภาพตรงหน้าราวกับสายฟ้าฟาด
ร่างกายที่ถูกปลุกเร้าจนยอมโอนอ่อนถึงกับแข็งทื่อขึ้นมาทันทีเมื่อภาพที่อื่นฝ่ายทำร้ายตนฉายชัดอยู่ในหัว...ผู้ชายคนนี้เคยเหวี่ยงเขาลงที่เตียง
ผู้ชายคนนี้เคยดึงข้อเท้าเขาที่พยายามจะหนี
ผู้ชายคนนี้ฉีกกระชากเสื้อผ้าของเขาจนไม่เหลือชิ้นดี
แล้วก็ผู้ชายคนนี้แหละที่ข่มขื่นเขาด้วยความป่าเถื่อน....ผู้ชาย...ที่มีผมสีทองและนัยน์ตาสีฟ้าคนนี้นี่แหละ...
“
ไม่...” ทั้งๆที่คิดว่าลืมมันไปได้แล้วแต่กลับไม่ใช่เลย
ความเจ็บปวดนั้นมันยังฝังอยู่ในส่วนลึกของจิตใจและมันก็กำลังทำให้ร่างกายของเขาสั่นระริกและหวาดกลัวพอที่จะปัดมือใหญ่ๆที่กำลังยื่นเข้ามานั่นออกไป
ใช่...เขายังกลัว...กลัวการที่จะต้องมีเซ็กส์
กลัวการที่ของของอีกฝ่ายจะสอดใส่เข้ามาอยู่ในร่างกายของเขา
เพราะมันเจ็บ...เขายังจำฝังใจ
เพราะงั้นจิตใต้สำนึกจึงต่อต้านทั้งๆที่ครั้งนี้มันเป็นความสมัครใจไม่ใช่ใช้กำลังบังคับเหมือนครั้งก่อน
“
ไม่....”
ใบหน้าได้รูปที่จู่ๆก็แข็งเกร็งขึ้นมาส่ายปฏิเสธเช่นเดียวกับมือบางที่ปัดมือใหญ่ที่ยื่นเข้าไปหาด้วยความสงสัยว่าเป็นอะไรไป
“
สเลน?”
เสียงทุ้มเอ่ยเรียกด้วยความตกใจเพราะจู่ๆร่างโปร่งบางก็นิ่งไปก่อนจะสั่นระริกราวกับกำลังหวาดกลัว
นัยน์ตาสีมรกตนั่นมองมาที่เขาแต่ก็เหมือนกับไม่ได้มองเขา นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
“
อย่า...”
ยิ่งมือใหญ่พยายามจะยื่นเข้าไปจับร่างกายขาวผ่องนั่นเท่าไหร่
สเลนก็ยิ่งต่อต้านอย่างรุนแรงจนเหมือนกับคนที่กำลังคลุ้มคลั่งจากความกลัว....เดี๋ยวนะ...เขาเคยเห็นสเลนเป็นแบบนี้...ตอนที่เขาไปตามเด็กนี่ที่อังกฤษ
ตอนนั้นก็กลัวเขาจนถึงกับเป็นลม
“
สเลน ใจเย็นๆสิ”
เขาพยายามจะจับสองแขนที่ปัดป้องตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย ใบหน้าสวยนั่นส่ายปฏิเสธราวกับคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่เขาคนนี้...แต่เป็นครูเทโอในคืนวันนั้น...
“
อย่า...ไม่!”
อาการของสเลนมีแต่จะทำให้แผ่นหลังรู้สึกชาวาบต่างจากหัวใจที่เจ็บจี๊ดขึ้นมาเพราะพอจะรู้ว่าสาเหตุที่ทำให้สเลนเป็นแบบนี้เป็นเพราะอะไร
“
สเลน...สเลน!”
อ้อมแขนแข็งแรงรวบคนที่ทั้งผลักไสจนกลายเป็นทุบตีเขาเข้ามาก่อนจะกอดรัดเอาไว้
ไม่ให้มีพื้นที่ที่ร่างโปร่งจะขยับตัวได้
“
สเลน...ไม่ทำ...ชั้นจะไม่ทำอะไรเธอ....”
เสียงทุ้มพยายามปลอบโยนอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยนที่สุดเช่นเดียวกับฝ่ามือใหญ่ที่กดหัวสีชาลงมารับจุมพิตที่ขมับ
“
สเลน....”
ร่างกายที่สั่นระริกนิ่งค้างไปแต่ก็ใช้เวลาหลายสิบนาทีกว่าที่ร่างโปร่งบางจะยอมสงบลงได้
ใบหน้าได้รูปได้แต่ชะงักไปก่อนจะเสหน้ามองพื้นเพราะไม่รู้จะมองใบหน้าหยิ่งทระนงนั่นยังไง
ร่างโปร่งบางเดินออกจากห้องน้ำใต้บันไดในขณะที่ร่างสูงใหญ่เดินลงมาจากข้างบนพอดี
“
เดี๋ยวชั้นไปส่ง” CEOหนุ่มเอ่ยบอกด้วยเสียงเรียบๆทำให้ใบหน้าได้รูปพยักรับเบาๆ
แล้วตลอดการเดินทางจากบ้านในเขตมอนชิโอ้ไปถึงสนามฟิโอราโน่พวกเขาทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย
เหมือนต่างฝ่ายต่างยังไม่แน่ใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นจึงได้แต่ปล่อยให้ความรู้สึกเหล่านั้นมันค้างคาอยู่แบบนั้น
“
ตอนเย็นชั้นประชุมเสร็จแล้วจะมารับ”
ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีทองหันไปบอกคนที่กำลังจะก้าวขาลงจากรถ
“
ครับ” ถึงใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชาจะยิ้มให้แต่นัยน์ตาสีมรกตนั่นก็ไม่ยอมสบตาเขาตรงๆ
นัยน์ตาสีฟ้าทอดมองร่างโปร่งในชุดลำลองของเฟอร์รารี่ที่กำลังเดินหายเข้าไปในสนามฟิโอราโน่....ถึงแม้ว่าพอจะรู้สาเหตุที่ทำให้สเลนไม่ยอมมีอะไรกับเขาจนถึงขั้นสุดท้ายแต่ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าความกลัวนั้นมันฝังลึกขนาดไหน
ตอนนี้เขาทำได้แค่คิดในแง่ดีว่ามันอาจจะเป็นเพราะช่วงเวลามันบีบบังคับเกินไปเพราะเป็นตอนเช้าหรือเปล่าที่ทำให้สเลนกดดันจนต่อต้านออกมาแบบนั้น
เขาคงต้องใจเย็นๆเพราะคนที่ทำร้ายเด็กนั่น
คนที่ฝังบาดแผลลงไปในหัวใจของสเลนก็คือเขาเอง
คงจะต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้มากกว่านี้...มากพอที่ความเชื่อใจที่แตกสลายจะกลับคืนมา...
และไม่ได้มีเพียงCEOหนุ่มเท่านั้นที่กำลังครุ่นคิดถึงเรื่องนี้
ในเมื่อวันทั้งวันหัวสีชาเองก็ไม่สามารถสลัดเรื่องราวเมื่อเช้าให้หลุดออกไปจากในห้วงคำนึงได้เลย
“
เลิกซ้อมก่อนที่นายจะเอา
SF15-T ไปเสยกำแพงตายซะสเลน...แล้วก็เดินไปหาเทรนเนอร์ของนายเดี๋ยวนี้เลยนะ
ให้หมอนั่นบำบัดจิตของนายก่อนเลยตอนนี้!” ใบหน้าได้รูปถอนหายใจในขณะที่กำลังเดินไปโรงยิม
เสียงของเอเลนที่พูดออกมาอย่างงอนๆทำให้เขาได้แต่ยิ้มแห้งกับตัวเอง...ทำให้หมอนั่นเดือดร้อนอีกจนได้
หลังจากที่วันนี้เขาซ้อมจับเวลาได้แย่ขนาดที่ไม่รู้จะแย่ยังไงแถมจะเสยๆกำแพงอย่างที่หมอนั่นว่าอยู่หลายรอบ
ก็เพราะว่ามัวแต่ใจลอยคิดถึงเรื่องเมื่อเช้านั่นแหละ...
คนอื่นคงจะไม่เข้าใจแต่ตัวเขารู้ดียิ่งกว่าใคร...ว่าเขาอาจจะมีเซ็กส์กับคุณครูเทโอไม่ได้อีก...
“
เฮ้อ....”
ใบหน้าได้รูปถอนหายใจด้วยความกลุ้มใจ ทั้งๆที่อุตส่าห์คืนดีกันได้แต่ทำไมปัญหามันถึงเกิดขึ้นมาอีก
แต่ความกลัวมันคือของจริงที่เขาควบคุมมันไม่ได้
พอสมองฉายภาพในคืนนั้นขึ้นมาเมื่อไหร่ร่างกายของเขาก็จะสั่นไม่หยุดและจิตใต้สำนึกก็จะสั่งให้ปฏิเสธทุกอย่าง
“
เฮ้อ...”
มือเปิดล็อกเกอร์ค้างเอาไว้แบบนั้นก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกรอบ...เอาน่ะ
อย่าเพิ่งยอมแพ้สิสเลน...ถึงจะกลุ้มใจแต่เขาก็อยากจะลองใหม่เพราะนี่เป็นครั้งแรกหลังจากคืนวันนั้น
บางทีถ้าเขาได้อยู่ใกล้ๆคุณครูเทโอมากกว่านี้ก็อาจจะทำให้อะไรๆมันดีขึ้น
โป๊ก!
เสียงเคาะเบาๆดังขึ้นพร้อมกับน้ำหนักของอะไรบางอย่างสับลงมาที่หัวทำให้นัยน์ตาสีมรกตหลุดออกมาจากภวังค์ก่อนจะหันไปมองเจ้าของห้องเทรนที่กำลังเคาะสันแฟ้มลงมาที่หัวเขา
“
คุณอินาโฮะ...”
ใบหน้าราวกับปลาตายมองลงมาที่เขาซึ่งนั่งอยู่ที่ม้านั่งในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ามานานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้
“
คนที่ไม่มีกล้ามเนื้อมานั่งเหม่อตอนกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเนี่ย...คิดว่ามันน่าดูหรือยังไง?” แล้วคำพูดกวนๆที่ดูเข้ากับใบหน้าราวกับหุ่นกระบอกนั่นอย่างไม่น่าเชื่อก็ทำให้แก้มป่องถึงกับพองลมออกมา
“
ขอโทษนะครับที่ผมมันไม่มีกล้ามเนื้อ แล้วถ้ามันไม่น่ามองก็ไม่ต้องมองสิครับ!
ฮึ่ม!” มือบางรูดซิปเสื้อวอร์มขึ้นก่อนจะสะบัดหน้างอนๆแล้วเดินเข้าไปในห้องเทรนทำให้ไม่เห็นว่าใบหน้าภายใต้กรอบผมสีดำกำลังมองตามไปด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
ทำไมคนที่จบจิตวิทยามาโดยตรงจะไม่รู้ล่ะว่าร่างโปร่งบางตรงหน้ากำลังมีเรื่องกลุ้มใจ...แล้วมันก็คงไม่พ้นเรื่องของคนที่ฝากรอยคิสมาร์คเอาไว้บนต้นคอขาวนั่นหรอก
การเทรนเริ่มตามโปรแกรมที่วางเอาไว้ตามปกติ
ทว่า
ที่ดูจะไม่ปกติก็คือเจ้านักขับมือสองของเฟอร์รารี่ที่เทรนไปถอนหายใจไปแล้วก็แทนที่จะหลบลูกบอลได้ง่ายๆกลับถูกบอลยักษ์นั่นอัดเข้าไปเต็มหน้า
“
.....ยอมแพ้แล้วสินะ โคโมริ....”
เทรนเนอร์จากแดนอาทิตย์อุทัยยืนมองคนที่โดนลูกบอลยักษ์ทับด้วยสายตาราบเรียบ
“
กะ ก่อนอื่น...เอามันออกไปจากตัวผมที...”
ถึงจะเป็นลูกบอลเบาๆที่ใช้ในการเทรนเรื่องประสาทสัมผัสที่ต้องไวกว่าคนทั่วไปเพื่อใช้รับมือเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้นในสนามแข่ง
แต่ด้วยความใหญ่โตของมันก็ทำให้คนที่ถูกทับอยู่ลุกออกมาเองลำบาก
“
นี่ถ้าเป็นในสนามแข่งป่านนี้นายคงหลบเศษชิ้นส่วนที่ปลิวมาไม่ทันแล้วก็เสยกำแพงตายไปแล้ว”
ใบหน้าราวกับปลาตายพูดเรื่องที่ควรจะตื่นเต้นไปพลางดันลูกบอลออกจากลำตัวบางไปพลาง
นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงทอดมองคนที่ลุกขึ้นมานั่งหัวยุ่งอยู่ที่พื้นโรงยิม...ก่อนที่จะเสียเวลาการเทรนไปมากกว่านี้สงสัยว่าเขาควรจะต้องแก้ที่ต้นเหตุก่อน...ร่างในชุดวอร์มจึงนั่งลงไปตรงหน้าเจ้าของเส้นผมสีชา
“
เป็นอะไรไปโคโมริ? เรื่องเงินอาจจะช่วยไม่ได้แต่ถ้าให้เป็นที่ปรึกษาละก็ คนที่จบทางด้านจิตวิทยาโดยตรงอย่างชั้นก็พอจะทำได้นะ” ก็แค่อยากรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร...ผู้หญิงคนไหนที่ทำให้คนตรงหน้าเป็นแบบนี้
“
อะ.....................”
ใบหน้าได้รูปนิ่งค้างไปก่อนจะมองหน้าไคซึกะ
อินาโฮะโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
จริงอยู่ที่เทรนเนอร์ของเขาคนนี้น่าจะช่วยเขาได้
คนที่ต้องแบกรับสภาพจิตใจของนักขับฟอร์มูล่าวันอย่างคนตรงหน้าน่าจะบำบัดความกลัวที่อยู่ในใจของเขาได้
แต่ว่าเรื่องที่กำลังคิดมากอยู่นี้ก็น่าอายเกินไปที่จะเอาไปปรึกษาอีกฝ่าย...
อีกอย่าง...มันก็อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิดก็ได้
ยังไงเขาก็อยากจะลองแก้ไขมันด้วยตัวเองก่อน...อยากจะลองค่อยๆอยู่ใกล้ๆกับคุณครูเทโอ้ไปก่อน
เผื่อว่าอะไรๆมันอาจจะดีขึ้น
“
มะ
ไม่มีอะไรหรอก...ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ...ผม...ขอลองแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อน...แต่ถ้าไม่ได้ผล...ตอนนั้นก็คงต้องรบกวนด้วย...”
ใบหน้าหงอยๆก้มลงมองพื้นทำให้ไม่รู้ว่าฝ่ามือของเทรนเนอร์กำลังเอื้อมมาที่แก้มของตน
ก่อนที่มันจะเปลี่ยนไปวางที่ลำคอระหงแทน...
“
หันหลังสิ จะนวดต้นคอให้”
“
ครับ”
ใบหน้าได้รูปเงยขึ้นมายิ้มให้โดยที่ไม่ได้รู้อะไรเลย...เพราะหน้ากากที่เฉยชานั้นมันซ่อนความรู้สึกทุกอย่างเอาไว้อย่างมิดชิด...
“
นั่นใคร?” เพราะเป็นพวกที่ชอบพูดจาสั้นๆ
ได้ใจความ ไม่เยิ่นเย้อ ทำให้บางครั้งคำพูดของCEOหนุ่มก็เหมือนกำลังหาเรื่อง
ยิ่งคนที่ถูกถามคือคู่ปรับตลอดกาลด้วยแล้ว เอลวิน
สมิธเลยเหมือนกำลังถูกร่างสูงใหญ่นี่ท้าต่อยทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองเลยสักนิด
“
ไคสึกะ อินาโฮะ เทรนเนอร์มือดีที่ชั้นไปดึงตัวมาจากญี่ปุ่น...นี่อย่าบอกนะว่านายจะหึงไม่เข้าเรื่องด้วยอีกคน?”
แค่นึกถึงตอนที่รีไวยังไม่ได้มาเป็นเทรนเนอร์ให้โกคุเดระ
เขาก็ปวดกระเพาะขึ้นมาทันที
เพราะตอนนั้นเขาต้องเปลี่ยนเทรนเนอร์มันแทบจะทุกเดือนก็เพราะไอ้หมีขี้หึงบางตัวนั่นแหละที่มันทำให้เทรนเนอร์ของเขากลัวจนขวัญหนีดีฝ่อหนีไปจากมาราเนลโล่ทั้งๆที่ยังไม่รับเงินเดือนบ้างละ
หนีออกนอกประเทศไปเลยก็มี
ที่หนักสุดนี่ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแล้วไปพบศพอีกทีตอนที่ทีมกู้ซากเรือไปเจอก้อนปูนปริศนาถูกจมอยู่ใต้ทะเลลึกนั่น
“
หึง? หึ ระดับชั้นไม่ทำเรื่องน่าละอายแบบนั้นหรอกน่า
ถ้าหมอนั่นช่วยให้สเลนปลอดภัยได้ ชั้นก็ไม่ว่าอะไร” ทีมบอสม้าลำพองมองCEOหนุ่มอย่างเหยียดๆ โห๋? ที่จับสเลนกดนี่ไม่ใช่เพราะหึงจนหน้ามืดหรือไง?
แล้วที่เขาดักคอเอาไว้ก็เพราะขี้เกียจเปลี่ยนเทรนเนอร์แล้วน่ะสิ
ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ เทรนเนอร์จะค่อนข้างใกล้ชิดแล้วก็ถูกเนื้อต้องตัวนักขับที่ตนดูแลค่อนข้างมาก
ง่ายต่อการเข้าใจผิดสุดๆ ไม่งั้นเจ้าครูเทโอมันจะจ้องสองคนที่อยู่ในโรงยิมตาไม่กระพริบแบบนี้เหรอ
“
ว่าแต่นายมาทำอะไรเนี่ย?”
ทีมบอสถามออกมาอย่างสงสัยเมื่อจู่ๆCEOปีศาจก็โผล่มาหลังเวลาเลิกงานไปแล้ว
“
มารับ”
ใบหน้าหยิ่งทระนงพยักเพยิดไปที่ร่างโปร่งบางที่ยังนั่งก้มหน้าให้เทรนเนอร์ส่วนตัวนวดที่หัวไหล่อยู่ในโรงยิมที่เห็นอยู่ไกลๆ
“
เห๋...ก็รักกันดีนี่นา...ชั้นนึกว่ามีปัญหาอะไรกับนายอีกแล้วหรือไง
เพราะวันนี้เด็กนั่นขับรถแบบใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย ยังไงชั้นคงต้องฝากนายดูด้วยนะครูเทโอ
บางทีสเลนอาจจะยังกลัวเรื่องที่เพิ่งประสบอุบัติเหตุมา” เอลวิน สมิธพูดกับCEOหนุ่มทั้งๆที่สายตายังไล่อ่านชาร์ตสรุปที่อยู่ในมือ
ทำให้ไม่เห็นว่านัยน์ตาสีฟ้าที่ทอดมองไปยังร่างโปร่งบางที่อยู่ไกลๆนั้นเป็นเช่นไร
“
อืม” ถึงจะรับปากไปแบบนั้นแต่เขาก็รู้ดีว่าเรื่องที่ทำให้สเลนคิดมากไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งประสบอุบัติเหตุมา
แต่มันเป็นเรื่องระหว่างพวกเขาสองคนต่างหาก
รู้....ว่าควรจะต้องแก้ปัญหาให้ได้...แต่จะไปเร่งรัดมันก็มีแต่จะทำให้แย่ลง...
เขาคงต้องปล่อยให้เวลาช่วยเยียวยาบาดแผลในใจของสเลนที่เขาทำเอาไว้ให้ค่อยๆหายไปเอง
“
อ๊ะ คุณครูเทโอ? มานานแล้วเหรอครับ?”
ใบหน้าได้รูปที่มีเลือดฝาดที่แก้มนิดๆจากการออกกำลังกายถามด้วยท่าทางลนๆเมื่อกลับมาที่พิตการาจแล้วเห็นCEOหนุ่มยืนรออยู่
“
ไม่นานหรอก กลับกันเลยไหม?”
นัยน์ตาสีฟ้าของทีมบอสเหล่มองเจ้าCEOปีศาจคู่ปรับ...ไม่นานอะไรล่ะ
มายืนแผ่รังสีอำมหิตอยู่ตรงนี้เป็นชั่วโมงๆแล้ว
“
ครับ...บอส...ผมกลับก่อนนะครับ”
ใบหน้าหล่อเหลาพยักให้
สองคนจึงเดินจากไป...แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อเลยนะว่าคนอย่างเจ้าครูเทโอที่รอใครไม่เป็นจะมายืนรอสเลนเป็นชั่วโมงๆแบบนี้...ความรักเปลี่ยนคนได้จริงๆแหะ
แต่ก็แค่บางคนละนะ...
“
คุณเอลวิน! สเลนล่ะ?! อย่าบอกนะว่ากลับไปแล้ว?
ผมกำลังจะเอาตารางซ้อมอันใหม่มาให้พอดี โธ่~”
นัยน์ตาสีฟ้าหันมามองเจ้าของเสียงโวยวาย...ความรักดูเหมือนไม่ค่อยจะได้เปลี่ยนไอ้คู่นี้สักเท่าไหร่...
“
เอาไปให้ที่บ้านก็ได้นี่”
รีไวที่เดินตามมาพูดราวกับว่าการไปบ้านเพื่อนร่วมงานหลังเลิกงานไปแล้วใครๆเค้าก็ทำกัน
“
จริงด้วย!”
.....ช่วยเกรงใจชาวบ้านเค้าบ้างเถอะ
เขาละละเหี่ยใจกับความดื้อรั้นอย่างไม่สนใจใครของไอ้คู่นี้จริงๆ
มันนึกจะทำอะไรก็ทำโดยไม่สนว่าคนอื่นเค้าจะเดือดร้อนหรือเปล่า
“
เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยให้ก็ได้...วันนี้สเลนต้องกลับไปเก็บของเตรียมย้ายบ้านน่ะ
คงจะยุ่งๆ”
“
เอ๋? ย้ายบ้าน? ย้ายไปไหนล่ะครับ? ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่อง?” ใบหน้ามนทำตาโตก่อนจะคาดคั้นเขาเพื่อเอาคำตอบ
“
ย้ายไปอยู่กับครูเทโอน่ะ” เพราะเจ้าCEOปีศาจนั่นยืนอยู่ตรงนี้เป็นชั่วโมงๆเขาถึงได้รู้เรื่องเข้าจนได้จากปากของหมอนั่น
“
ว่าไงนะ?! ย้ายไปอยู่กับคุณครูเทโอ?!”
“
อืม...ตามนั้นแหละ...”
“
ทำไมคุณเอลวินไม่ห้ามล่ะครับ?! ให้ตายเถอะ
เพิ่งจะคบกันไม่เท่าไหร่ก็ย้ายไปอยู่กับเค้าซะแล้ว ไม่ได้นะครับ คุณเอลวินเป็นผู้ใหญ่ก็ควรจะห้ามสิ”
.......คำพูดแบบนี้ไม่น่าหลุดออกมาจากปากของไอ้เด็กที่หนีตามรีไวไปตั้งแต่อายุ
15 เลยนะ...ทีมบอสยกแฟ้มขึ้นมาปิดหูพลางหันหน้าหนี
ยังดีที่รีไวลากเด็กนั่นออกไปได้
สองหูของเขาถึงได้กลับมาสงบสุขเสียที
มือบางไขกุญแจประตูบ้านเข้าไป
นัยน์ตาสีฟ้าจึงเพิ่งได้เห็นข้างในเป็นครั้งแรก
คราวที่แล้วที่เขามาตามสเลนก็อยู่แค่ข้างนอก
ถึงจะมีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งครบแต่ดูเหมือนจะเป็นของที่มากับบ้านมากกว่า
เพราะว่ากล่องหลายใบที่วางอยู่ตามมุมห้องกลับบ่งบอกว่าของที่เป็นของเด็กนั่นซึ่งขนมาจากบ้านเยเกอร์ยังไม่ทันจะได้รื้อออกมาเลย...ไม่รู้ว่าไม่มีเวลาหรือว่าเจ้าตัวไม่ค่อยมีกระจิตกระใจที่จะอยู่ที่นี่กันนะ
“
ขอโทษทีนะครับ...ของมันเกะกะไปหน่อย แหะแหะ”
ใบหน้าหยิ่งทระนงส่ายน้อยๆเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร
“
กล่องพวกนี้นี่ยกขึ้นรถเลยได้ใช่ไหม?”
เขาชี้ไปที่กล่องซึ่งยังปิดตายพวกนั้น
“
อ่ะ ครับ...ถ้างั้นเดี๋ยวผมขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าข้างบนนะครับ”
ร่างโปร่งบางเดินขึ้นไปชั้นบนและเมื่อเขายกลังพวกนั้นใส่รถเรียบร้อยก็ดูเหมือนข้างล่างจะไม่มีอะไรให้เก็บแล้ว...ไม่สิ...น่าจะยังมีของในครัวอีก
สองขาจึงเดินเข้าไปในห้องครัวเล็กๆเมื่อเทียบกับห้องครัวที่บ้านเขา
นัยน์ตาสีฟ้ากวาดมองว่ามีอะไรต้องเก็บบ้าง ทว่า
มันกลับไปสะดุดอยู่ที่กล่องข้าวรูปหมีสามใบที่วางซ้อนกันอยู่บนชั้น
ของอย่างอื่นยังไม่ทันจะได้รื้อออกมาจากลังแท้ๆแต่กลับเอากล่องข้าวพวกนี้ออกมา...
ใบหน้าหยิ่งทระนงอมยิ้มบางๆในขณะที่หยิบกล่องข้าวพวกนั้นขึ้นมา...บอกตามตรงว่าความน่ารักของมันไม่ได้เข้ากับเขาเลยสักนิด...แต่เขาก็รักมัน
มือใหญ่หยิบมันใส่ลังที่วางอยู่แถวนั้นก่อนจะถือออกจากห้องครัวมาแล้วพบว่าสเลนกำลังหอบผ้าสีขาวกองใหญ่ลงมาจากข้างบน
เท่าที่ดูแล้วไม่น่าจะใช่เสื้อผ้าของเด็กนั่น แต่เป็นผ้าคลุมเฟอร์นิเจอร์?
“
มาสิ เดี๋ยวชั้นช่วย”
เขารับปลายผ้าด้านหนึ่งมาจากมือบาง
ตอนนี้พวกเขากำลังช่วยกันคลุมตู้โชว์หลังใหญ่ทำให้ผ้าผืนอื่นๆถูกกองไว้เต็มพื้น
“
ถึงหรือเปล่าสเลน? ไม่งั้นก็ถือไว้ก่อนเดี๋ยวชั้นคลุมทางฝั่งนี้เสร็จค่อยไปคลุมทางนู้นให้”
เพราะตู้มันสูงกว่าสองเมตรคนที่ตัวเล็กอย่างเด็กนั่นจึงค่อนข้างมีปัญหาต่างจากร่างกายสูงใหญ่เช่นเขาที่คลุมมันได้สบายๆ
“
น่าจะพอได้นะครับ ฮึ่บ!”
ได้ยินเสียงกระโดดก่อนที่เสียงผ้าตลบขึ้นไปจะดังตามมา ทว่า
เมื่อเขาชะโงกตัวออกมามองหลังจากที่เพิ่งคลุมฝั่งของตัวเองเสร็จ
ภาพที่เห็นกลับเป็นสเลนกำลังจะล้ม?!
“
สเลน!!”
สองขาก้าวไปหาโดยอัตโนมัติเช่นเดียวกับสองมือที่เอื้อมออกไปคว้าร่างบางให้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขน
แต่หลักที่เสียไปก็ทำให้ทั้งร่างของเขาทั้งร่างของเด็กนั่นต่างล้มไปด้วยกัน
ตุ้บ...
นัยน์ตาของพวกเขาทั้งคู่ปิดลงเพื่อเตรียมรับแรงกระแทก
แต่เป็นเพราะล้มลงไปบนกองผ้าสีขาวพอดีทำให้ไม่เจ็บอย่างที่คิด
นัยน์ตาสีฟ้าค่อยๆเปิดขึ้นมามองคนที่ซบอยู่บนแผงอก
กองผ้าสีขาวทำให้รู้สึกราวกับกำลังนอนอยู่บนปุยเมฆ
เสียงลมหายใจและไออุ่นกำลังปลุกความต้องการให้ตื่นขึ้นมา ยิ่งใบหน้าสวยค่อยๆผงกหัวจากอกของเขาด้วยสีหน้างงๆก็ยิ่งทำให้เส้นความอดทนของเขาราวกับจะขาดเสียให้ได้
“
ปะ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ? คือ ผมขอโทษ...”
“
เป็น”
คำตอบสั้นๆแต่คนฟังยังไม่ทันจะได้ทำความเข้าใจ
ร่างสูงใหญ่ก็พลิกลำตัวบางให้ลงไปอยู่ข้างล่างอย่างรวดเร็ว
ใบหน้าได้รูปยังคงอ้าปากน้อยๆอย่างมึนงงและกว่าจะรู้ตัวก็หมดหนทางหนีไปแล้ว
“
อา...?”
ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชาหันมองซ้ายมองขวา
นอกจากกองผ้าสีขาวแล้วก็เห็นเพียงท่อนแขนแข็งแรงที่กางกั้นอยู่เท่านั้น
“
คุณครูเทโอ....”
นัยน์ตาสีมรกตช้อนขึ้นมองคนที่คร่อมอยู่ด้านบนอย่างเพิ่งจะรู้ตัวว่าบรรยากาศรอบกายตอนนี้มันล่อแหลมขนาดไหน
มือใหญ่ขยับคลายเนคไทออกทั้งๆที่ใบหน้าหยิ่งทระนงยังคงจ้องมองลงมาไม่วางตา
เขาใช้เวลาไม่นานในการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีเลือดนกบนแผ่นอกบางออก
ผิวขาวใสไร้รอยตำหนิใดๆทำให้นึกอยากจะขอบคุณพ่อของเด็กนี่ที่เลี้ยงดูมาอย่างดี
ถึงแม้ทุกวันนี้เขาก็ยังโดนเจ้าของโรลส์-รอยซ์เล่นงานจนละสายตาจากกระดานหุ้นไม่ได้เลยก็เถอะ
“
ฮ้า....”
เสียงหอบหายใจดังขึ้นเมื่อริมฝีปากของเขากดลงที่ซอกคอซึ่งยังมีร่องรอยจากเมื่อเช้าหลงเหลืออยู่
ผิวเนื้อเนียนนุ่มและลำตัวเล็กบางนี่ทำให้อยากจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัว
ยิ่งบรรยากาศที่น่ารังแกจากร่างกายที่สั่นน้อยๆก็ยิ่งกระตุ้นเร้าความต้องการของเขาให้สูงขึ้น
ริมฝีปากกดจูบซุกไซร้อยู่ที่ซอกคอและลาดไหล่ราวกับทำเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ...อาจจะดูโรคจิตแต่มันช่างเป็นซอกคอที่เย้ายวนมากจริงๆ
ยิ่งเสียงครางครือดังทุกครั้งที่เขาจูบมันพร้อมกับลำตัวบางที่ขยับเข้าหาด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้มมันก็ยิ่งทำให้ไม่อยากจะละออกมา
เพราะงั้นต่อให้เส้นผมสีทองจะยังคงปรกอยู่ที่ลำคอระหงแต่ฝ่ามือที่ไม่มีอะไรทำก็ลากสำรวจหน้าท้องแบนเรียบก่อนจะล้วงเข้าไปยังจุดอ่อนไหวที่อยู่กลางหว่างขา
“
อื้อ~~”
นัยน์ตาสีมรกตที่กำลังสั่นพร่าปิดแน่นพร้อมกับร่างข้างใต้บิดที่ไปมาเล็กน้อย
เขาละจากซอกคอมามองใบหน้าสวยๆที่เริ่มจะมีเหงื่อเกาะที่ไรผม
ฝ่ามือกอบกุมแกนกายที่เล็กกว่าของเขาเกือบเท่าก่อนจะรูดขึ้นลงช้าๆ
“
อ้า~~”
เอวบางแอ่นขึ้นมาพร้อมๆกับหัวสีชาที่กดลงไปบนกองผ้ามากกว่าเดิม
เสียงครางเซ็กซี่เร่งเร้าให้ความอดทนของเขาเหลือน้อยลงทุกที
มืออีกข้างจึงดึงกางเกงสีดำและชั้นในตัวเล็กนั่นออกไป ปลายนิ้วลูบไล้อยู่ที่โคนขา
ใบหน้าก้มลงไปจูบริมฝีปากสีระเรื่อเบาๆก่อนจะใช้ปลายลิ้นล่วงล้ำเข้าไป
ทั้งอยากให้สเลนผ่อนคลายและทำแบบนี้เด็กนี่จะได้มองไม่เห็นว่าข้างล่างมันกำลังจะเกิดอะไรขึ้น
“
อื้ม...” เสียงครางในลำคอทำให้รู้ว่าสเลนกำลังหลงมัวเมาอยู่ในรสจูบของเขาและนั่นก็เป็นการดีต่อปลายนิ้วที่ค่อยๆลุกล้ำเข้าไปในช่องทางคับแน่นที่เขาจำได้ดีว่ามันสุดยอดแค่ไหน
“
อื้อ?” แต่จู่ๆคิ้วสีชาก็ขมวดมุ้นเข้าหากัน
ฝ่ามือที่เคยโอบอยู่รอบลำคอของเขากลับผลักไสไหล่หนาจนเขาต้องถอนจูบออกมา
“
อึก...อย่า.....”
ร่างกายที่กำลังเคลิบเคลิ้มกลับสั่นสะท้านเมื่อปลายนิ้วล่วงล้ำเข้าไป...แค่นิดเดียวยังไม่ได้เลย
“
ไม่...ไม่เอา!!” นัยน์ตาสีมรกตปิดแน่นก่อนจะใช้เรี่ยวแรงมหาศาลที่ไม่รู้ไปเอามาจากไหนผลักไสและปัดป้องไม่ให้เขาเข้าใกล้...เอาอีกแล้ว...อาการกลัวกำเริบขึ้นมาอีกแล้ว
“
สเลน!” มือใหญ่รวบมือบางทั้งสองข้าง
ท่าทางที่กลัวจนเหมือนคนคลุ้มคลั่งทำให้เจ็บที่หัวใจกับภาพที่เห็น
สเลนทั้งต่อต้านทั้งขัดขืนอย่างรุนแรง รวมไปถึง...ร้องไห้...
“
สเลน”
ท่อนแขนแข็งแรงรวบลำตัวบางขึ้นมาก่อนจะกอดเอาไว้แน่น
ใบหน้าซบอยู่ที่ไหล่บางก่อนจะพร่ำกระซิบว่า
“ไม่เป็นไรนะ...ชั้นจะไม่ทำอะไรเธอ...ไม่ทำ...”
“
ฮึก...ฮึก...”
ถึงจะยังต่อต้านอยู่แต่เป็นเพราะอ้อมแขนของเขากอดเอาไว้จนไม่มีพื้นที่ให้ดิ้นรน
ร่างโปร่งบางจึงค่อยๆสงบลงได้ในที่สุด
ใบหน้าหยิ่งทระนงกดจูบที่หัวสีชาอย่างปลอบโยน
คนในอ้อมแขนนิ่งไปราวกับเพิ่งได้สติกลับคืนมา....ตอนนี้พวกเขารู้แน่ชัดแล้วว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นคืออะไร...ไม่ใช่ความกดดันเรื่องเวลาแต่ว่าสเลนกลัวเขาจนทำถึงขั้นสุดท้ายไม่ได้...เพราะสิ่งที่เขาเคยทำเอาไว้มันฝังลึกจนถอนไม่ออก
ก้อนหนักๆอะไรบางอย่างมันหน่วงอยู่ในใจและคงไม่ใช่เฉพาะเขาหรอกที่รู้สึก
“
ผม.....” เสียงนุ่มเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา
สเลนเองก็คงจะกำลังรู้สึกผิดที่ตอบสนองต่อความต้องการของเขาไม่ได้...แต่คนที่ผิดจริงๆมันคือเขาต่างหากที่ทำให้เด็กนี่เป็นแบบนี้...สองมือจึงประคองใบหน้าที่ราวกับจะร้องไห้ขึ้นมาก่อนจะจูบที่หน้าผากใสเบาๆ
“
ไม่เป็นไรนะสเลน...เราจะแก้ปัญหานี้ไปด้วยกัน...นะ”
เสียงทุ้มอ่อนโยนทำให้นัยน์ตาสีมรกตที่กำลังสั่นพร่าอย่างหาทางออกไม่เจอเหลือบขึ้นมามองหน้าเขา
ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชาพยักหน้าน้อยๆก่อนจะโผเข้าสู่อ้อมแขนของเขาอีกครั้ง
“
ครับ....” ริมฝีปากยังคงพรมจูบหัวสีชานั่นอยู่อีกพักใหญ่
ถึงจะหนักใจแต่คงมีแค่เวลาที่จะช่วยรักษาสเลนได้
ตอนนี้...เขาคงทำได้แค่อยู่ข้างๆ
ใช้หัวใจของเขาทำให้เด็กนั่นกลับมาเป็นเหมือนเดิม...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To
be Con.
หึฟ์
ลำบากซะบ้างนะพ่อซีอีโอ ก๊ากๆๆๆๆ หัวเราะอย่างชั่วร้ายก่อนจะโดนไม้เท้าฟาดตาย
กำลังค่อยๆเคลียร์รวมเล่ม
GLIDE ไปเรื่อยๆค่ะ แล้วก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเดือนหน้าเดือนเก้าค่ะถถถถถถถถถถถถ
ตายแน่ๆๆ ฟิควันที่เก้าเดือนเก้าปีนี้นรกแน่ๆ อร๊ากกกก
รายละเอียดบางส่วนของรวมเล่ม
GLIDE
แปะอยู่ช่วงทอล์ค GLIDE : [UN]FINISH
LINE#01 นะคะ สนใจเชิญรับชมได้ค่ะ *w*
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆการติดตามนะคะ
แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่า ^
^
รอตอนหน้าค่ะลุ้นๆๆๆ เราเข้าใจเสลนอยุ่นะว่ากลัว แต่ก็สงสารครูเทโอ้เหมือนกันแฮะ(?) รอตอนต่อไปค่าาาาาาา
ตอบลบคุณครูเทโอ เกือบจะได้กินมื้อเช้าที่อร่อยและสารอาหารครบถ้วนแล้วมั้ยละ โธ่ พ่อคุณ ไม่รู้จะสงสารรึสมน้ำหน้าดี #ทีมครูเทโอ้ แต่อย่างว่าละค่ะ อะไรที่ได้มาง่ายๆมักไม่ค่อยเห็นค่า นี่แหละ นุ้งสเลน เอาคืนให้หนักๆนะคะ
ตอบลบกำ สงสารจังค้างสินะ หึหึ คนอ่ายก็ค้างค่า!! หายไวไวนะสเลนจ๋า ไม่ได้เข้าอ่านนานมาก อ่านรวดเดียวเลยค่ะ สู้ๆนะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ คิกๆ
ตอบลบโอ้ยค้างมากค่ะ น้องสเลนท่าทางอาการแย่
ตอบลบคุณครูเทโอ้ใจร้าย รักษาน้องเดี๋ยวนี้ *ชิ้นิวววว*
ไม่งั้นจะส่งโฮะไปดูแลแทนแล้วนะคะ