Psycho Pass S.Fic [Kogami x Ginoza] The WOLF and The HOUND


Psycho Pass S.Fic [Kogami x Ginoza] The WOLF and The HOUND

: Psycho Pass  Fanfiction from Movie
: Kogami Shinya x Ginoza Nobuchika
: Romantic 
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
              : สปอยด์มูฟวี่แหลกลานเลยนะคะ ใครคิดว่าจะดูมูฟวี่อย่าเพิ่งอ่านน้า






“ เดี๋ยวฉันจะไปจัดการกับประธานฮั่น ส่วนกิโนสะซังตามโคงามิซังไปทีนะคะ”

“ หมายความว่าให้ชั้นจัดการกับหมอนั่นยังไงก็ได้สินะ?”

คำพูดเหล่านั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัวเช่นเดียวกับเสียงฝ่าเท้าเพียงคู่เดียวที่ดังก้องไปทั่วทางเดิน เพราะความวุ่นวายในชัมบาล่าโฟลตทำให้อาชญากรแอบแฝงอย่างเขามีโอกาสได้ออกนอกประเทศเป็นครั้งแรก

แล้วมันก็คงจะเป็นครั้งแรกที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน...ว่าเขาจะได้พบกับหมอนั่นอีก

คนหนึ่งต้องหนีหัวซุกหัวซุน คนหนึ่งถูกขังในฐานะหมาล่าเนื้อ


นี่สินะจุดจบของพวกเขา...


นัยน์ตาคมกริบเหลือบมองหน้าจอเสมือนที่ข้อมือ มันกำลังระบุว่าไม่ไกลจากที่เขาอยู่มากนักมีคนคู่หนึ่งกำลังต่อสู้กัน...ถ้าเป็นทหารธรรมดาคงยอมจำนนไปแล้ว เพราะงั้นจึงมีโอกาสที่หนึ่งในสองคนนั้นจะเป็น โคงามิ ชินยะ...อดีตเพื่อนสนิทและอดีตคนรักของเขา

สองขาวิ่งตรงไปหาทันที...ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะโกรธหมอนั่นจนไม่อยากมองหา ไม่มีทางจะวิ่งเข้าไปหา แล้วก็คงจะปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น...แต่ตอนนี้...เขาไม่มีอิสระที่จะทำแบบนั้นได้อีกแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมุมมองที่เปลี่ยนไปหรือทำใจได้แล้วกันนะ เขาถึงได้ไม่อยากจะมานั่งเสียใจภายหลังอีก

อยากเจอ

ไม่อยากเจอ

สองคำนี้มันตบตีอยู่ในหัวเขามานานแค่ไหนกันแล้ว...แต่สุดท้ายหัวใจก็เป็นฝ่ายชนะ

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะคิดแล้วคิดอีกว่าหากเจอหน้ากันจะปั้นปึงใส่ยังไง...แต่ตอนนี้เขาทำเพียงก้าวขาออกไปแล้วปล่อยให้หัวใจเป็นคนจัดการ

หึ...บางทีการที่เขากลายเป็นอาชญากรแอบแฝงมันก็คงจะดีเหมือนกัน


โครม!!


เสียงการต่อสู้อย่างดุเดือดได้ยินตั้งแต่เขายังไม่ทันจะได้ก้าวเข้าไปในห้อง อะไรบางอย่างลอยผ่านหน้าเขาไปแต่เขาก็ไม่มีเวลาเบิกตาหรือแม้แต่จะดีใจ โคงามิที่ล้มกองอยู่กับพื้นตรงนั้นทำให้สองขาตรงเข้าหาคนที่กำลังเล่นงานหมอนั่นอยู่ทันที!


ปึก!


โดมิเนเตอร์ถูกปัดกระเด็นด้วยท่อนแขนที่เป็นเหล็กกล้าเหมือนแขนของเขา ผมยาวสีดำสนิทก้มหลบในชั่วพริบตาที่หมัดหนักๆสวนมา ถึงจะไม่ค่อยได้ต่อสู้จริงๆจังๆแต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่เก่งเรื่องแบบนี้ ในเมื่อตอนที่โคงามิยังอยู่ หมอนั่นก็พยายามสอนศิลปะการป้องกันตัวให้เขาเสมอ


ถ้าชั้นไม่อยู่ อย่างน้อยมันก็จะปกป้องนายแทนชั้น


คำพูดเหล่านั้นมาจากคนที่กำลังลุกขึ้นแล้วสวนหมัดเข้าหาคู่ต่อสู้แทนเขาที่ถูกเหวี่ยงออกมา พอเห็นสภาพสะบักสะบอมของโคงามิเต็มๆตาก็ทำให้เขารู้ว่าจะปล่อยหมอนั่นจัดการคนเดียวไม่ได้

เขาต้องช่วย

เพราะงั้นฝ่าเท้าจึงกวาดเข้าไปที่ขาชายผิวดำคนนั้นในขณะที่โคงามิกำลังเล่นงานท่อนบน จะว่าหมาหมู่เขาก็ยอมรับ เพราะหมาล่าเนื้อทำงานเป็นทีม

หมาป่าก็เช่นกัน

หมัดที่สอดประสานกันอย่างลงตัวทำให้คู่ต่อสู้แปลกใจอยู่ไม่น้อยเพราะคงไม่คิดว่าอาชญากรสงครามอย่างโคงามิกับเจ้าหน้าที่ของซีบิลอย่างเขาจะเข้าขากันขนาดนี้ ชายผิวดำเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัดทำให้หมอนั่นต้องงัดไม้ตายออกมา ท่อนขาที่ซ่อนอาวุธเอาไว้ทำให้โคงามิโดนซัดจนกระเด็น แต่เขากลับเห็นช่องทางแล้วเตะร่างยักษ์นั่นจนล้มลงก่อนที่เขาจะตรงเข้าล็อคอีกฝ่ายไว้ที่พื้น ทั้งๆที่คิดว่ามันคงจบแล้วแต่เขาคงจะอ่อนหัดเกินไป เพราะเสียงสัญญาณที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรและดังมาจากไหนทำให้โคงามิถึงกับเบิกตาค้าง หมอนั่นพุ่งพรวดเข้ามาก่อนจะจับคอของศัตรูแล้วบิดให้มันหักทันที!

ชั่ววินาทีที่นัยน์ตาสบประสานกันนั้น โคงามิก็บอกให้เขาโดด!!



ตูม!!!!



ระเบิดทำลายทุกอย่างในห้องนั้นจนพังยับ เขาทำได้แค่นั่งหอบหายใจก่อนจะใช้กำแพงเหล็กกำบังร่างกายเอาไว้ ใบหน้าเรียวหันกลับมามองคนที่นั่งอย่างหมดสภาพอยู่ไม่ไกล....นอกจากใช้โดมิเนเตอร์แล้วเขาไม่เคยฆ่าคนด้วยมือเปล่า...แต่โคงามิทำได้...หมอนั่น...คงจะผ่านเรื่องอันตรายมามากมาย แค่คิดว่าหมอนั่นต้องเอาชีวิตรอดมายังไง ความโกรธความเกลียดที่อีกฝ่ายทิ้งเขาไปก็มลายหายทันที

ปืนพกที่ตกอยู่ที่พื้นถูกหยิบขึ้นมาก่อนทีเขาจะจ่อมันเอาไว้ที่หัวสีดำยุ่งเหยิงนั่น

กี่ครั้งกันแล้วนะที่เขาหันปืนใส่โคงามิ

แล้วก็กี่ครั้งกันแล้วนะที่หมอนั่นทำแค่ยิ้มแล้วหลับตายอมรับ...ยอมให้เขายิงโดยไม่คิดจะขัดขืนแม้แต่น้อย

ไม่ว่าจะใครหน้าไหน...โคงามิ ชินยะก็ซัดหมัดใส่...มีเพียงเขา...มีเพียงกิโนสะ โนบุจิกะเท่านั้น...ที่หมอนั่นยอมจำนนโดยไม่คิดแม้แต่จะยกมือขึ้นมาสู้

บางครั้งเขาก็นึกหงุดหงิดกับรอยยิ้มของหมอนั่น...เพราะมันไม่ใช่รอยยิ้มที่ยอมรับในชะตากรรม...แต่มันเป็นรอยยิ้มที่รู้ทัน...ว่าเขาก็ไม่สามารถจะทำอะไรหมอนั่นได้เช่นกัน!

มันน่าฟาดด้วยสันปืนให้กบาลแยกเลยจริงๆ!


“ ชั้นติดหนี้นายอยู่ครั้งหนึ่ง เพราะงั้นไสหัวไปซะ”   เขายื่นปืนกระบอกนั้นไปตรงหน้าคนที่ยังนั่งคุกเข่า โคงามิทำหน้าแปลกใจก่อนจะเงยขึ้นมายิ้มให้

“ นายจะปล่อยชั้นไป?”   เสียงทุ้มที่ไม่ได้ยินมานานทำให้คิดถึงจนไม่อยากจะยืนอยู่ตรงนี้ อยากจะให้อีกฝ่ายรีบๆไปเสียที...ก่อนที่เขาจะทนไม่ไหว

“ ใช่...รีบไปซะ...อย่าให้ผู้สังเกตการณ์สึเนะโมริต้องแบกภาระทางจิตใจไม่เข้าเรื่องไปมากกว่านี้อีกเลย”   ....รวมทั้งเขาด้วย....อย่าให้เขาต้องแบกภาระทางจิตใจที่รักใครไม่ได้แบบนี้ต่อไปอีกเลย...

ใบหน้าคมภายใต้กรอบผมสั้นสีดำยิ้มจางๆ ร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามลุกขึ้นยืนก่อนที่เขาจะตัดสินใจจบทุกอย่างลงด้วย...หมัดเพียงหมัดเดียว


โครม!!


โคงามิลอยตามแรงหมัดไปกระแทกผนังดังลั่น เขาสะบัดผมหางม้าก่อนจะหันหลังให้เตรียมจะจากไป...ชาตินี้คงจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว...ถ้าถามว่าเสียใจไหม แน่นอนเขาแทบจะเป็นบ้าเลยล่ะข้างในตอนนี้...ทั้งๆที่หากจับอีกฝ่ายกลับไป ก็อาจจะพอโน้มน้าวซีบิลให้ไว้ชีวิตได้บ้าง...แต่มันจะมีประโยชน์อะไร...ในเมื่อโคงามิก็คงจะถูกขังทั้งเป็นเหมือนที่เขาโดน...ดีไม่ดีอาจจะจบชีวิตอยู่ที่คุกของอาชญากรแอบแฝงนั่นก็ได้

ถึงจะอยู่ห่างไกล ถึงจะไม่ได้เจอกันอีก...แต่เขาก็อยากให้คนที่เขารักได้มีอิสระ...ที่เขาคงจะไม่มีวันได้มันมาไว้ในมืออีกแล้ว

“ กิโนะ”   ชื่อเรียกที่มีเพียงคนเดียวที่เรียกเขาแบบนี้ทำให้สองขาหยุดชะงัก สองหูตั้งใจฟังคำบอกลาที่กำลังจะออกมาจากปากของโคงามิ


“ มีเซ็กส์กันไหม?”


“ ห๋า?”    เขาหันกลับไปถลึงตาใส่ไอ้คนที่กำลังทำหน้าทะเล้นมาให้อย่างไม่อยากจะเชื่อหู เวลาแบบนี้มันควรจะซึ้งไม่ใช่หรือไง?

ร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามขยับลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้ามาหา ใบหน้าคมที่จ้องมองเขาไม่วางตาทำให้ทำอะไรไม่ถูก...โคงามิมีพลังในการโน้มน้าวจิตใจคน...และเขาก็กำลังถูกพลังนั่นดึงดูดจนห้ามตัวเองไม่ได้

“ ว่าไงกิโนะ?...ถ้านายปฏิเสธ...ก็ต่อยชั้นแล้วเดินจากไปซะสิ”   เสียงทุ้มกระซิบอยู่ที่ใบหูเช่นเดียวกับปลายจมูกที่คลอเคลียอยู่ใกล้ๆซอกคอ...กลิ่นเหงื่อที่คุ้นเคยทำให้แขนขาที่คิดจะต่อต้านตกลงข้างลำตัว...เขารู้ว่าเขาควรจะทำอย่างที่โคงามิบอก...ต่อยหมอนี่แล้วก็รีบหนีไป...แต่ส่วนลึกในใจกลับเรียกร้องให้เห็นแก่ตัวเป็นครั้งสุดท้าย

เขาจะไม่ได้เจอผู้ชายคนนี้อีกแล้ว...

ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย...

แทนที่ฝ่ามือจะผลักไส มันจึงทุบลงไปบนไหล่หนานั่นเบาๆ...ยังไงก็ขอปากไม่ตรงกับใจสักหน่อย...จะให้ยอมรับหมอนี่ดีๆเขาคงทำไม่ได้...ก็เหมือนกับที่เขาเป็นเพียงคนเดียวที่โคงามิจะไม่ทำร้าย....โคงามิก็จะเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ว่ายังไงเขาก็แสดงความรู้สึกตรงๆออกไปไม่ได้

“ นั่นชั้นถือว่านายเลือกแล้วนะกิโนะ...”   นัยน์ตาสีดำจ้องลึกลงมาในดวงตาของเขา...ตอนนั้นเขาไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร นึกว่าแค่เรื่องตรงหน้าเฉยๆจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย

ร่างแข็งแกร่งดันร่างกายของเขาให้ก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็วก่อนที่แผ่นหลังจะรับรู้ถึงแรงปะทะจากโลหะที่เย็นเฉียบของชั้นเหล็ก เมื่อมองดูรอบกายถึงได้รู้ว่าเขาน่าจะอยู่ในโกดังเก็บของหรืออะไรบางอย่าง เพราะบางส่วนของห้องก็ถูกทำลายจนกลายเป็นซากกองระเกะระกะ

ริมฝีปากรสบุหรี่กดจูบคลอเคลียไปตามลำคอของเขาราวกับหิวกระหาย กลิ่นของยาสูบที่ติดตัวโคงามิอยู่ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย...แต่ก็นั่นแหละในประเทศทุรกันดารแบบนี้จะไปหา Spinel สีเขียวได้จากที่ไหน  ใบหน้าของเขาเงยตามสัมผัสที่ชวนให้เคลิบเคลิ้ม ถึงโคงามิจะจู่โจมเขาราวกับสัตว์ป่าแต่ความโหยหาก็ทำให้หลงลืมไปว่าพวกเขาอยู่ในสถานการณ์และสถานที่แบบไหน  นัยน์ตาเข้มงวดเหลือบมองผ่านบานกระจกที่แตกร้าวลงไปยังเบื้องล่าง ทั้งเฮลิคอปเตอร์ กลุ่มควัน และทหาร ไม่มีอะไรอยู่ในความสงบเลย

แต่เขากลับมัวทำเรื่องแบบนี้...

มันไม่ถูก มันไม่ควร...รู้ทั้งรู้แต่ก็ห้ามตัวเองไม่ได้

“ อึก”    ในขณะที่ต้นขาซึ่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามกดช่วงล่างของเขาเอาไว้กับผนัง ฝ่ามือของโคงามิก็จับลงไปที่ส่วนอ่อนไหวทั้งๆที่มันยังอยู่ในกางเกงก่อนจะบีบคลึงโดยไม่ทันให้ตั้งตัว ริมฝีปากได้แต่เม้มเข้าหากันแน่นเพื่อกักเก็บเสียงในลำคอไม่ให้หลุดรอดออกไป เพราะห่างหายกับเรื่องแบบนี้มานาน ความต้องการจึงถูกปลุกเร้าได้โดยง่าย

ยิ่งฝ่ามือที่คุ้นเคยกับร่างกายของเขาเป็นอย่างดีด้วยแล้ว...

ชุดกันกระสุนถูกปลดลงไปกองกับพื้นด้วยความรีบเร่ง เพราะเวลาไม่มีแล้วหรือไงนะโคงามิถึงได้ดูร้อนลนชอบกล

“ โทษทีกิโนะ...ช่วยหน่อย”   สิ่งที่โคงามิต้องการให้เขาช่วยคือปลดกระดุมเสื้อสูทและเสื้อเชิ้ตตัวใน แต่เขากลับยิ้มร้ายก่อนจะสอดมือเข้าไปในกางเกงทหารของหมอนั่นแทน...

“ กิโนะ?”   ใบหน้าคมนิ่งอึ้งก่อนจะต้องกัดฟันเมื่อมือของเขาเริ่มลูบไล้สิ่งที่อยู่ใต้ชั้นในนั่นช้าๆ...ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงไม่มีวันทำแบบนี้แน่ แต่ว่าตอนนี้เขาอยากให้โคงามิรู้สึกดีที่สุดก่อนที่จะต้องจากลา  ใบหน้าจึงขยับเข้าไปกระซิบใกล้ๆใบหูของหมอนั่น

“ ในเมื่อนายเป็นฝ่ายชวน...ชั้นก็จะทำให้นายรู้ว่าสามปีที่ผ่านมา...ความเป็นอาชญากรมันสอนอะไรให้กับชั้นบ้าง”   โคงามิหัวเราะในลำคอทั้งๆที่ยังกัดฟัน

“ เชิญครับราชินี...แค่อย่ากลับใจนึกอยากใส่เข้ามาในตัวชั้นก็พอ”   เขากระทุ้งเข้าไปที่หน้าท้องของเจ้าคนที่บังอาจแซวก่อนที่มืออีกข้างจะปลดเข็มขัดสีดำออก ร่างทั้งร่างคุกเข่าลงไปตรงหน้าแล้วรูดซิปลงด้วย...ปาก

“ อึก...”   เป็นเสียงจากในลำคอของโคงามิเมื่อปลายลิ้นของเขาค่อยๆไล้เลียความเป็นชายที่กำลังขยายใหญ่...โคงามิมักจะทำแบบนี้ให้เขาเพราะงั้นเขาจึงรู้ว่ามันจะรู้สึกดีขนาดไหน...ค่อยๆเลีย...จากโคนจรดปลาย...ก่อนจะกลืนกินมันเข้ามาไว้ในปาก...

นัยน์ตาคมกริบเหลือบขึ้นไปมองใบหน้าที่กำลังพยายามอดทนอดกลั้นซึ่งมองลงมาที่เขาเช่นกัน รอยแดงที่แก้มของโคงามิถึงจะไม่มากแต่มันก็หายากน่าดูที่เขาจะได้เห็น เพราะส่วนใหญ่คนที่เต้นอยู่บนฝ่ามือของหมอนั่นจะเป็นเขาเสียมากกว่า

ฝ่ามือใหญ่ดึงที่รัดผมของเขาออกทำให้เส้นผมสีดำตกลงมาประบ่า มือของโคงามิทัดปลายผมไว้ที่ใบหูของเขาช้าๆในขณะที่ยังคงกัดฟันทนต่อปลายลิ้นของเขา...ถึงจะไม่ได้เชี่ยวชาญ ไม่ได้ช่ำชอง แต่เพราะเป็นเขาที่ทำให้ใช่ไหม...ใบหน้าของหมอนั่นถึงได้ดูรู้สึกดีขนาดนี้

“ ไม่ไหวแล้วกิโนะ โทษทีนะ”   มือแข็งแรงดึงหัวของเขาออกไปจากความเป็นชายของตัวเองก่อนจะทรุดนั่งลงกับพื้น มืออีกข้างดึงร่างของเขาให้ตามลงไปบนหน้าตัก

“ หันหลังก็แล้วกันนายจะได้ไม่เจ็บ”   มือของโคงามิจับลำตัวของเขาให้หันหน้าออก แผ่นหลังจึงปะทะเข้ากับแผงอกแข็งแรงของหมอนั่น ถึงจะมีเสื้อเชิ้ตกั้นอยู่แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงมัดกล้ามที่ดูจะมากกว่าตอนอยู่ที่กรมความปลอดภัยด้วยซ้ำ

“ อึก...”   มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาปิดปากเมื่อโคงามิกดสะโพกของเขาลงไปรับความเป็นชายที่ขยายใหญ่นั่น ถึงแม้ว่ามันจะเปียกแฉะไปด้วยน้ำลายของเขาแต่ช่องทางที่ยังไม่ทันจะได้ทำให้เคยชินก็แทบจะรับไม่ไหว แต่แกนกายใหญ่ก็ยังฝืนสอดใส่เข้ามา

“ โคงามิ เดี๋ยว! ไปตายอดตายอยากที่ไหนมาห๊ะเจ้าบ้า ช้าๆ อื้อ”   น้ำตาแทบจะไหลลงมาเมื่อสะโพกถูกกดลงไปจนสุด ปลายเล็บถึงกับจิกลงไปบนกางเกงทหารของหมอนั่น ถ้ามันขาดขึ้นมาจะโทษเขาไม่ได้นะ!

“ สามปี....อึก...ชั้นไม่ได้นอนกับใคร มันอึดอัดจะตายอยู่แล้วกิโนะ”   แล้วมันเป็นความผิดของชั้นรึไงเล่าที่ทำให้แกนอนกับใครไม่ได้!  ท่อนแขนแข็งแรงกอดกระชับร่างกายเขาเข้าไปจนแนบแน่น คอเสื้อเชิ้ตถูกดึงลงไปให้ริมฝีปากกดจูบผิวเนื้ออ่อนๆบริเวณลาดไหล่ได้ถนัด

“ ชั้นก็...อ่ะ”    ผนังภายในเผลอบีบรัดหมอนั่นอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะฝ่ามือใหญ่ๆสอดเข้ามาใต้เสื้อเชิ้ตของเขาแล้วหยอกเย้ายอดอกจนเสียวซ่านไปหมด

“ โทษทีนะกิโนะ”   ดูเหมือนคนที่ทำให้กำแพงความอดทนของหมอนั่นถล่มลงไปจะเป็นเขาเอง เพราะงั้นต่อให้ถูกพลิกกลับมานอนราบอยู่บนพื้นก็คงไม่มีสิทธิ์บ่น

“ อึก....”   โคงามิขยับกายราวกับกำลังบ้าคลั่ง สองมือของเขาต้องยึดพื้นเอาไว้เพื่อรอรับความสุขสมที่ถาโถมเข้ามา แล้วไม่นานพายุลูกแรกก็จบลงอย่างรวดเร็ว ความอุ่นวาบไหลทะลักอยู่ในร่างกายเช่นเดียวกับที่หน้าท้องของเขาซึ่งเต็มไปด้วยน้ำสีขาวขุ่น

“ ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า.....”   เสียงหอบหายใจดังสลับกันไปมา โคงามิดึงให้เขาลุกขึ้นไปนั่งบนหน้าตักเหมือนเดิม เพียงแต่คราวนี้เขาหันหน้าเข้าหาหมอนั่น

ท่อนแขนแข็งแรงกอดกระชับแผ่นหลังของเขาให้หน้าท้องของเราแนบชิดกันโดยไม่มีอะไรกั้น หัวใจที่ยังเต้นกระหน่ำรับรู้ถึงกันได้อย่างชัดเจน แกนกายของโคงามิยังอยู่ในตัวเขา มันคุ้นเคยเสียจนไม่อยากจะดึงออกมาเลย...

“ กิโนะ...”   ใบหน้าคมที่มีแต่รอยช้ำเงยมองหน้าเขาด้วยสายตาเหงาๆ จนเขาอดที่จะยกมือขึ้นมาลูบไล้ใบหน้าที่คิดถึงแทบตายนั้นไม่ได้ ปลายนิ้วค่อยๆสอดเข้าไปในกลุ่มผมสีดำยุ่งเหยิงก่อนจะดึงหัวของโคงามิมากอดเอาไว้


ไม่อยากให้เวลานี้จบลงเลย...


เขาละใบหน้าออกมาทั้งๆที่สองแขนยังคล้องอยู่ที่ลำคอแข็งแกร่ง...ความรู้สึกที่ไม่อยากจากกันทำให้ต่างฝ่ายต่างพ่ายแพ้...ทั้งๆที่ควรจะแยกย้ายกันไปได้แล้วแต่ใบหน้าทั้งคู่กลับขยับเข้าหากัน

ริมฝีปากรสบุหรี่ขยับเข้ามาใกล้กลีบปากของเขา นัยน์ตาสีดำจ้องมองมันราวกับเป็นผลไม้ที่หากินได้ยาก เรียวลิ้นแลบเลียมันไปมาโดยไม่ยอมล่วงล้ำเข้ามา เพราะรู้ดีว่ารสจูบของโคงามิเป็นยังไงทำให้ริมฝีปากของเขาเผลออ้าน้อยๆอย่างรอคอย

กว่าเรียวลิ้นจะสอดใส่เข้ามาได้ก็เมื่อกลีบปากชักจะแดงระเรื่อ  มุมแล้วมุมเล่าที่ต่างขยับใบหน้าเข้าหากันเพื่อให้ปลายลิ้นสอดประสานนานเท่านาน


แสงแดดยามเย็นส่องผ่านบานหน้าต่างที่แตกร้าว สาดกระทบเข้าที่ร่างสองร่างที่ยังกอดก่ายกันไม่หยุด ท่ามกลางฉากหลังที่เต็มไปด้วยควันไฟและไอสีแดงจากเปลวเพลิง ต่อให้ความวุ่นวายและเสียงปืนจะดังแค่ไหน มันก็คงไม่อาจจะทำให้พวกเขาละออกจากกันได้ในเวลานี้


“ อ่ะ....”   เสียงหอบหายใจของคนที่พยายามกดเสียงครางเอาไว้ทำให้มือใหญ่ช่วยปิดปากของเขาด้วยอีกแรง ถึงจะทรมานที่เปล่งเสียงออกไปไม่ได้แต่เขาก็ไม่อยากให้คนที่เดินอยู่หน้าห้องรู้ว่าพวกเขาอยู่ในนี้

“ โค...”   สองขาที่พยายามยันตัวเองเอาไว้สั่นระริกเมื่อแรงกระแทกครั้งสุดท้ายสอดใส่เข้ามา น้ำรักไหลลงไปตามเรียวขาเพราะว่ามันชักจะมากเกินกว่าที่เขาจะรับได้ นี่มันรอบที่สามหรือสี่แล้วก็ไม่แน่ใจ รู้แต่ว่าต่อให้มีรอบต่อไปเขาก็ไม่คิดจะสนใจอะไรอีกแล้ว


อยากจะจมดิ่งอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป


“ กิโนะ...”   โคงามิพลิกร่างของเขาให้นอนหงายก่อนจะไล้เลียตามร่างกายของเขาอีกรอบ

“ ฮ่า...ฮ่า....ฮ่า.....”    เขาได้แต่หอบหายใจแล้วปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจ ฝ่ามือลูบไล้เส้นผมสั้นสีดำแล้วพูดออกมาด้วยเสียงเหม่อลอย

“ โคงามิ...ถ้าชั้นรู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้...ในวันนั้นเมื่อสิบปีก่อน...ชั้นคงไม่บอกแกหรอกว่าชั้นจะเป็นผู้สังเกตการณ์...ถ้าชั้นไม่ลากแกมา...ป่านนี้แกอาจจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในญี่ปุ่นอยู่ก็ได้....”   เขาเป็นคนเปลี่ยนชีวิตของโคงามิเอง ถึงแม้ว่าโคงามิจะเลือกทำตามใจแต่จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ก็มาจากเขาเอง

“ อื้อ...”   แรงดูดที่ลาดไหล่ทำให้เผลอหลับตาแน่น

“ ถึงนายจะไม่บอกชั้น...ก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนอนาคตได้...เพราะไม่ว่ายังไงชั้นก็จะตามนายมาอยู่ดี...กิโนะ...อนาคตที่ชั้นเลือกคือนายต่างหาก”    นัยน์ตาเข้มงวดที่กำลังสั่นพร่าค่อยๆเปิดขึ้นมามองอีกฝ่าย...อย่าทำให้ชั้นอยากจะร้องไห้ได้ไหม...ในเมื่อเรากำลังจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว

สองมือประคองใบหน้าของโคงามิเอาไว้เพื่อมองให้เต็มตา ก่อนจะกดให้มันแนบลงมาที่แผงอกเปลือยเปล่าของเขา...ยิ่งกอดกันมากเท่าไหร่...ก็ยิ่งรู้ว่าเวลากำลังจะหมดลงมากเท่านั้น

“ กิโนะ...รักชั้นไหม...”   ใบหน้าที่แนบอยู่ที่หน้าอกเอ่ยถามออกมาเบาๆ

“ ถึงขนาดนี้แล้วยังจะถามอีกหรือไงเจ้าบ้า”   เขาเคยบอกหมอนี่ไปหรือยังนะว่า รักมาก...

“ ชั้นอดทนรอวันนี้มาตลอดเลยนะ...วันที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน”   ใบหน้าคมเงยขึ้นมามองเขาแล้วสายตาของโคงามิก็ทำให้เขาแปลกใจ

เพราะมันไม่มีความเศร้าที่จะต้องจากลาเขาอยู่เลย?

“ โค?”   ร่างแข็งแกร่งขยับตัวขึ้นมาก่อนจะปิดปากเขาด้วยจูบที่หอมหวาน  มือใหญ่ยกลำตัวของเขาให้ขึ้นไปนั่งอยู่บนชั้นวางของ แสงแดดยามเย็นที่สาดกระทบลงมาบนตัวเขาทำให้โคงามิยิ้มบางๆ

“ สวยมากกิโนะ...”    สวย? ภาพของเขาที่นั่งอยู่ท่ามกลางเมืองที่พินาศย่อยยับแบบนี้น่ะรึ สวย?


ตอนนั้น...เขาไม่เข้าใจสิ่งที่อยู่ในหัวของโคงามิเลย





















ตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจ...


นิ้วเรียวรัวลงไปบนคีย์บอร์ดถึงแม้ในหัวจะเอาแต่คิดเรื่องของโคงามิก็ตาม...สุดท้ายแล้วก็มีเซ็กส์ต่อจนสลบไป พอตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นโคงามิแล้ว...

หมอนั่นไปแล้ว...

“ พิมพ์ผิดไม่ใช่เหรอคะกิโนสะซัง?”   ใบหน้าของผู้สังเกตการณ์สึเนะโมริยื่นเข้ามาใกล้พลางกรอกตามองตัวอักษรที่เขาพิมพ์ไว้บนมอนิเตอร์

“ อ่ะ โทษที”   เผลอใจลอยจนทำงานผิดซะได้ ไม่สมกับเป็นเขาเลยจริงๆ

หลังแถลงการณ์การลาออกจากตำแหน่งของประธานฮั่นดูเหมือนจะทำให้หลายๆฝ่ายพอใจกับประชาธิปไตยแท้จริงที่กำลังจะได้รับ แต่ถึงอย่างนั้นสถานการณ์ในชัมบาล่าโฟลทก็ไม่ถึงกับสงบเสียทีเดียว กองกำลังหลักที่ถูกจับไปทำให้ภายในเกิดความอ่อนแอ เพราะงั้นสมาชิกหน่วยที่หนึ่งของกรมความปลอดภัยที่ถูกส่งมาจึงต้องอยู่ดูแลระบบต่อจนกว่าจะเข้าที่เข้าทาง

ใช่...ตอนนี้เขายังไม่ได้กลับไปญี่ปุ่น

“ มันมีอะไรบางอย่างแปลกๆ แต่ชั้นก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร?”    จู่ๆสึเนะโมริก็พูดออกมาในขณะที่เดินไปนั่งยังเก้าอี้ของตัวเอง

“ เหมือนเรื่องทุกอย่างจะจบไปด้วยดี แต่เหมือนมันจะดีเกินไป?”    ใบหน้าเล็กขมวดคิ้วจนเขานึกขำ

“ เธอเป็นพวกคิดในแง่ลบแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”   แล้วยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ สัญญาณเตือนก็ดังขึ้นทั่วห้อง

“ เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”   สองขารีบวิ่งไปยังห้องบัญชาการซึ่งมีหน้าจออยู่เต็มไปหมด แผนที่ชัมบาล่าโฟลทถูกเรียกขึ้นมาพร้อมกับจุดสีแดงที่จู่ๆก็กระพริบอยู่รอบเมือง

“ นั่นอะไร?”   สึเนะโมริถามคุนิซึกะที่อยู่ในห้องนี้ตั้งแต่แรก

“ ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติได้ค่ะ...ดูเหมือนจะเป็นการวางระเบิด...นี่คือภาพของระเบิดเวลาแบบประกอบเองที่ถูกติดตั้งอยู่รอบๆชัมบาล่าโฟลท”   ......การก่อการร้ายยังไม่จบสิ้นสินะ ทั้งๆที่พวกเขาก็เสนอประชาธิปไตยให้แล้วแท้ๆ

“ เราต้องปลดชนวนระเบิดออกก่อนที่ประชาชนจะได้รับอันตราย แต่ดูจากจำนวนที่มากขนาดนี้คงต้องแยกกันไป”   ผู้นำหน่วยที่หนึ่งออกคำสั่ง ดูจากเวลาที่กำหนดให้ระเบิดพร้อมกันแล้วไม่มีทางเลยที่พวกเขาจะปลดมันได้หมดหากไปด้วยกัน เพราะที่นี่ไม่ใช่ญี่ปุ่น โดรนที่มีจึงไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะปลดชนวนระเบิดได้

“ กิโนสะซังไปทางเหนือ คุนิซึกะซังไปทางตะวันออก สุโกซังไปทางใต้ ชิโมสึกิซังไปทางตะวันตก ชั้นจะเก็บกวาดตรงใจกลางเอง  ส่วนฮินาคาว่าคุงอยู่ที่ศูนย์บัญชาการคอยให้ตำแหน่งพวกเรา”  

“ แต่รุ่นพี่คะ! จะให้หน่วยปฏิบัติการไปตามลำพัง...”    ผู้สังเกตการณ์เด็กสุดก็ยังคงตั้งแง่กับหมาล่าเนื้ออยู่ เพียงแต่ตอนนี้ไม่มีเวลาจะมาเถียงกันแล้ว

“ ถ้าเข้าใจแล้วก็แยกย้ายได้!”   คำสั่งสุดท้ายเอ่ยบอกก่อนที่ทุกคนจะวิ่งออกไปด้วยความรวดเร็ว















กิโนสะ โนบุจิกะ ไปทางเหนือสินะ...

กล้องส่องทางไกลถูกลดระดับลงก่อนที่มันจะถูกเก็บเข้าไปในผ้าคลุมสีดำ รอยยิ้มร้ายเผยอยู่ที่มุมปากก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะเดินไปหาปืนไรเฟิลที่สแตนด์บายรออยู่ที่พื้น

คนที่ดักซุ่มอยู่นอนลงไปก่อนที่นัยน์ตาสีดำจะเฝ้ามองผ่านเลนส์ของลำปืน


รอ...ให้เป้าหมายไปถึงยังจุดที่ติดตั้งระเบิดเอาไว้...

รอ...จนร่างโปร่งบางของกิโนสะ โนบุจิกะเข้าไปใกล้เพื่อจะปลดชนวนระเบิด

รอ....ก่อนจะเหนี่ยวไกปืนให้พุ่งตรงไป

เพราะถึงแม้กิโนสะ โนบุจิกะจะปลดชนวนระเบิดได้...



ตูม!!!!!!



ระเบิดลูกนั้นมันก็ยังทำงานเพราะกระสุนปืนของเขาอยู่ดี...



โทษทีนะ....กิโนะ...



















เสียงระเบิดลูกใหญ่ที่ดังขึ้นมาทำให้ใบหน้าของหน่วยที่หนึ่งทุกคนหันไปมองยังทิศทางนั้นด้วยความพรั่นพรึง

“ ฮินาคาว่า เกิดอะไรขึ้น?!”    สึเนะโมริตะโกนผ่านระบบสื่อสารด้วยความตกใจ ที่อกซ้ายรู้สึกหวาดกลัวจนไม่อาจจะควบคุมสติได้ ทั้งๆที่ยังไม่ถึงเวลา แล้วทำไมระเบิดลูกนั้นถึงทำงานล่ะ?

“ ดะ ดูเหมือนจะมีมือปืนซุ่มอยู่ด้วยครับ ส่วนกิโนสะซังขาดการติดต่อไปครับ...”    ใบหน้าเล็กกัดริมฝีปากแน่น ถึงแม้จะเชื่อมั่นว่าคนที่เป็นเหมือนพี่ชายของเธอคนนั้นจะไม่เป็นอะไร แต่สังหรณ์ใจไม่ดีก็ทำให้อยู่เฉยไม่ได้อีก

ใช่...เธอสังหรณ์ใจมาหลายวันแล้ว...ว่ากำลังจะถูกพรากคนสำคัญไป...

“ ฮินาคาว่าคุงช่วยหาตำแหน่งของมือปืนให้ที คนที่เหลือให้หาทางปลดระเบิดต่อไป ส่วนชั้นจะไปดูที่เกิดเหตุเอง”   ต้องไปดูให้เห็นกับตา...ว่ากิโนสะซังไม่เป็นอะไร...ใบหน้าที่คอยเข้มงวดกับเธอเสมอจะต้องหันมายิ้มให้แล้วบอกว่า เธอควรจะห่วงตัวเองก่อนเถอะผู้สังเกตการณ์สึเนะโมริ

ใช่...ต้องไม่เป็นอะไร...

ต้องไม่เป็นอะไร....


แต่เศษซากที่เหลือจากแรงระเบิดก็มีแต่จะทำให้ร่างเล็กทรุดนั่งอย่างหมดแรงเมื่อมาถึง น้ำตารินไหลลงมาอย่างห้ามไม่ไหวเมื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอคือท่อนแขนเหล็กกล้าที่พังยับ...สายรัดข้อมือของหน่วยปฏิบัติการณ์ช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดีว่านี่คือแขนของกิโนสะ โนบุจิกะ

เลือดที่สาดกระเซ็นไปทั่วทำให้รู้ว่าร่างกายที่เป็นมนุษย์นั้นไม่เหลืออยู่อีกแล้ว

หญิงสาวได้แต่นั่งอย่างหมดหวังก่อนจะร้องไห้กอดแขนที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวเอาไว้


“ กิโนะสะซัง!!
























รถบุโรทั่งที่เต็มไปด้วยกองฟางวิ่งปุเลงๆไปตามถนนลูกรังขรุขระซึ่งมุ่งหน้าออกจากชัมบาล่าโฟลท เมืองใหม่อันแสนศิวิไลซ์ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

ร่างสูงใหญ่ในชุดทหารสีเขียวขี้ม้านั่งด้วยท่าทางสบายๆอยู่บนกองฟางท้ายรถ ใบหน้าคมภายใต้กรอบผมสั้นสีดำเหม่อมองท้องฟ้าอย่างรู้สึกว่าพอแล้วกับการต่อสู้ที่หาที่สิ้นสุดไม่ได้


พอแล้ว...เพราะเขาได้สิ่งที่ต้องการมาแล้ว...


นัยน์ตาสีดำเหลือบไปมองคนที่นอนสลบสไลอยู่ข้างๆ มือใหญ่ยกขึ้นไปเกลี่ยไล้เส้นผมยาวสีดำขลับให้ออกไปจากใบหน้าสวย

เขาอดทนรอมาสามปี...ก็เพื่อสิ่งนี้...

แผ่นดินกว้างใหญ่ไม่มีทางอยู่แล้วไม่ใช่หรือไงที่จะหาที่สงบๆไม่ได้เลย

เขารู้...ว่าการจะพาตัวอาชญากรแอบแฝงออกมาจากระบบซีบิลของญี่ปุ่นโดยตรงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งอีกฝ่ายเป็นหน่วยปฏิบัติการด้วยแล้ว...

หมาล่าเนื้อถึงจะถูกเลี้ยงดูอย่างดีเพื่อให้ปฏิบัติตามหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ถึงกระนั้นปลอกคอก็จะใหญ่กว่าหมาบ้านทั่วไป


ไม่มีทางเลยที่เขาจะได้ตัวมา


จนกระทั่งเขามาถึงประเทศโลกที่สามแห่งนี้...ที่ที่มีสงครามมาอย่างยาวนานและมันคงจะหยุดให้เขาอยู่ที่นี่ไม่ได้ถ้าไม่ได้มีระบบซีบิลมาเกี่ยวข้อง....จากตอนแรกที่เพียงแค่ดู แต่สุดท้ายก็ทนไม่ได้จนต้องเข้าไปช่วยสอนวิธีการต่อสู้กับโดรนให้แก่คนธรรมดาที่ต่อต้านการนำซีบิล่าซิสเต็มเข้ามาใช้ จนเขากลายเป็นที่ปรึกษาของกลุ่มต่อต้านไป ซึ่งเขาก็ไม่ได้รังเกียจอะไรเพราะอย่างน้อยมันก็ยังดำเนินไปในทิศทางเดียวกับแผนที่อยู่ในใจของเขา

ถ้าลักพาตัวในขณะที่ยังอยู่ในญี่ปุ่นไม่ได้ ก็แค่ล่อให้ออกมานอกญี่ปุ่นก็พอ...

บางคนอาจจะเรียกมันว่ากลุ่มปฏิบัติการกู้ชาติ บางคนอาจจะเรียกมันว่าอาชญากรสงคราม บางคนอาจจะเรียกมันว่าผู้ก่อการร้าย


แต่สำหรับเขามันก็แค่ปฏิบัติการณ์ชิงตัวเจ้าสาวก็เท่านั้น


เขาให้เลือกแล้ว...ถ้ายอมมีเซ็กส์กับเขาแปลว่าอีกฝ่ายยังรักเขาอยู่และเขาก็จะเดินหน้าต่อไป...เรื่องระเบิดเมื่อวานก็แค่จะทำให้ตัวตนของอีกฝ่ายหายไปจากระบบซีบิล...ทำให้เหมือนตายไปแล้วจะได้ไม่ถูกตามล่าอีก

คิ้วเรียวขยับเข้าหากันทำให้รู้ว่าอีกไม่นานคนที่เขาเฝ้ารอก็จะตื่นขึ้นมา....เขาอาจจะถูกต่อยจนหน้าหันที่ทำอะไรตามอำเภอใจ แต่ในเมื่ออีกฝ่ายรักเขาจนยอมปล่อยเขาไป ไม่จับเขากลับไปให้ซีบิลลงโทษ แล้วมันผิดหรือไงที่เขาเองก็อยากจะให้คนที่เขารักมีอิสระ


อยากจะอยู่ด้วยกัน...


แพขนตาค่อยๆกระพริบเปิดขึ้นมา ใบหน้างัวเงียนั่นยังคงมึนงงแต่กระนั้นก็เรียกชื่อเขาเบาๆ

“ โค?”

รอยยิ้มถูกส่งไปให้พร้อมกับคำที่อยากจะพูดกับอีกฝ่ายมานานแล้ว


“ โอคาเอรินาไซ...กิโนะ”











.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

Story never End.








อย่าไปเอาอะไรกับมันมากเพราะมันเป็นแค่ฟิคสดถถถถถถถถถถถถถถถถ >[ ]< อันที่จริงใช้เวลาแต่งน้อยมาก ขาดการคัดกรองสุดๆ แง๊ // หมู่นี้ว่างเฉพาะกลางคืนค่ะ เลยดูเหมือนนาน TvT

เปลี่ยนตอนจบมูฟวี่เค้าซะกลายเป็นนิยายวายตาหวาน(?)ไปเลย55555 // โดนสับ // ก็เค้าอยากให้สองคนได้อยู่ด้วยกันนี่ งื้อออออ ไหนๆแบบแยกกันไปก็อยู่ในมูฟวี่แล้วไง ฟิคเลยขอต่างไปนิดดดดด555 // ต่างมากเลยแก จากปฏิบัติการกู้ชาติเป็นปฏิบัติการชิงตัวเจ้าสาวเนี่ยถถถถถ // ทรุด

คือไม่ได้วางพล็อตอะไรจริงจังอ่ะนะ อาจจะมีงงๆไปบ้างก็ขออภัย แต่งด้วยแรงสครีมล้วนๆ555 คือ Psycho pass movie มันฟินมว๊ากกกกกกกกกกกกกก ฟินจนไม่รู้จะว่าไงอ่ะ คือตอนดูแค่ตัวอย่างก็ยังกลัวๆอยู่นะว่าคุณโคแม่งจะลาสบอส แต่ที่ไหนได้ โคตรพระเอกเหมือนเดิมเรยค่ะ // น้ำลายไหลพราก....กล้าม....// ที่สำคัญคือไม่คิดว่าจะเซอร์วิสกระจุยกระจายสาว(วาย)กรี๊ดกันสนั่นโรงทั้งเรื่องขนาดนี้ฟฟฟฟฟฟฟฟฟ มีเซอร์วิสทุกคู่อ่ะ!!! คือตอนเปิดเรื่องนี่ คุณโคสึเนะ เอาไปกินเลยค่ะ มันโฮกมาก  จากนั้นก็ยังมีแอบ คุณโคโชโกะซัง นิดนึง....แต่อัลไลคือการที่นางเอกไล่ให้พระรองไปหาพระเอกในตอนจบค้า~~~~ จบพีคๆด้วยคุณโคกิโนะอ่ะฟฟฟฟฟฟฟ >/////< คือก่อนไปดูนึกว่าสองคนนี้สู้กัน ที่ไหนได้...เค้าร่วมมือกันต่างหาก งื้ออออ แล้วกิโนะน่ารักมว๊ากกกก // ลงไปดิ้น // อัลไลคือการที่ซึนกับคุณโคแค่คนเดียวอ่ะคะ *q* ส่วนคุณโคก็ย๊อมยอมกิโนะ ยอมจริงๆ5555 มีแอบถามถึงด้วยนะตอนต้นๆเรื่อง เหม่....คิดถึงล่ะสิ! // มโนชนะเลิศค่ะฟฟฟ // อ่ะแต่ตอนจบจริงๆก็ยังมีแอบเซอร์วิส สึเนะกิโนะด้วยค่ะ โอยแม่จ้าว เลือกไม่ถูกเลยงานนี้ >////< กรี๊ดคอแตกถถถถ

สรุปว่ากลับมาเป็นบ้าเป็นหลังอยู่ที่บ้านต่ออีกหลายยกฟฟฟฟฟฟ อยากจะรีวนดูอีกหลายๆรอบจริงๆ แผ่นก็ออกอย่างช้า อร๊ากกกก // ดิ้น >[ ]<

เป็นอนิเมะเสียสติของคุณกวางมันจริงๆค่ะ PP  ออกอะไรมาทีไรนี่กรี๊ดคอแตกทุกที!

งื้อออออ แล้วเจอกันใหม่นะค้า >v<  คือมันไม่พออ่ะ ในหัวมันยังมีแต่คุณโคกิโนะวนไปวนมา อร๊ากกกกก คลั่งขนาดนั้น





2 ความคิดเห็น:

  1. “ กิโนะ....มีเซ็กส์กันไหม?”
    คำนี้มันช่างเหมาะกับคุณโคสุดติ่งไปเลยค่ะ!!
    คิดถึงหน้ากิโนะตอนตกใจแล้วมันฟินไปถึงโลกที่สามเลยโว้ยค่ะ!!!!
    ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้เห็นคุณโคยิ้มส่งสายตาโหยหาสุดๆให้กิโนะแบบนี้เน้อะเล่นเอากองอวยกรี้ดไม่ดูคนข้างๆเลยค่ะขนาดคนที่นั่งอยู่แถวหน้ายังหันมามองเลยแล้วแถวหลังมันจะเหลือเร้อะ555~~
    คนอื่นเค้ากรี้ดตอนพระนางเจอกันแต่อินี่ล่อซะสั่นโรงตอนพระเอกมาเจอศรีภรรยา5555///บ่งบอกตัวตนได้ชัดเจนมาก///

    จากที่ผิดหวังจากภาคสองมาอ.แกคงจะเข้าใจกองอวยล่ะมั้งคะ??
    ถึงได้เซอร์วิสกันขนาดนี้กิโนะสวยมากคุณสามีก็พระเอกแบบสุดๆ
    คุณโคต้องภูมิใจมากแน่ๆที่ศรีภรรยาสุดที่รักเก่งวันเก่งคืนแถมสวยขึ้นผิดหูผิดตาแบบนี้ปลื้มปริ่มนอนเกลือกกลิ้งที่ลานหน้าบ้านจนหญ้าตายเลยค่ะพื้นที่ในห้องมันไม่พอ???

    แค่เรื่องสั้นมันไม่พอหรอกค่ะพี่กวางเซอร์วิสยาวๆด้วยฟิคยาว25ตอนจบให้แพทอีกสักเรื่องที!!!!
    เมื่อคืนก็กรอกลับไปดูฉากนี้แม่มทั้งคืนเลยค่ะโดนดาเมททำร้ายจนดิ้นตายไปหลายรอบมาก!!!

    ตอบลบ
  2. เอื้อ!!! สารภาพเลยค่ะ ว่ายังไม่ได้ดูมูฟวี่ แต่!! เต็มใจโดนสปอยเพราะฟิคนี้ สุดยอดเลยค่ะ ชอบประโยคาี่คุณโคถามคุณกิโนะจัง 5555 นึกภาพออกเลยค่ะ โรแมนติก?! ดีนะคะ ☺️☺️ เรื่องรักระหว่างรบนี่มันมีมนต์ขลังนะคะ ยิ่งเป็นคู่นี้ยิ่งให้ความรู้สึกเซ็กซี่ด้วย อ่านไปตัวจะแตกไป ปฏิบัติการชิงตัวเจ้าสาวของคุณโคนี่ทั้งดุเดือดและรุนแรงสมแล้วจริงๆที่ได้ตัวเจ้าสาวมา

    อ่านแล้วยิ่งทำให้อยากดูมูฟวี่มากกว่าเดิม ฮือออ เมื่อไหร่แผ่นจะออก 😭😭

    ตอบลบ