Psycho Pass Au.Fic [Kogami x Ginoza] LSD : 01


Psycho Pass Au.Fic [Kogami x Ginoza]   LSD : 01

: Psycho Pass  Fanfiction Au
: Kogami Shinya17 x Ginoza Nobuchika23
: Dangerous Romantic 
: NC-17



คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ








กลีบซากุระโปรยปรายเข้ามาในโถงทางเดินของโรงเรียนมัธยมปลายชื่อดังแห่งหนึ่ง....ปีนี้ญี่ปุ่นอากาศเย็นกว่าปีก่อนๆทำให้ซากุระยังบานอยู่ถึงแม้จะผ่านเปิดเทอมมาเกือบเดือนแล้วก็ตาม

ร่างสูงโปร่งในสูทเข้ารูปหอบเอกสารกองใหญ่มุ่งหน้าสู่ห้องพักครู อาคารเรียนที่เงียบสงบบ่งบอกว่าตอนนี้เลยเวลาเลิกเรียนมาแล้ว ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นทอดสายตาอ่อนโยนเมื่อนึกถึงลิงทโมนที่วิ่งกันอยู่เต็มทางเดินแห่งนี้เมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา

ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าเขาจะได้มาเดินอยู่ที่นี่.....

โรงเรียนมัธยมปลายที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานแห่งนี้ การจะได้มาเป็นครูของที่นี่ได้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย...จบมหาวิทยาลัยในระดับท็อปและยังสอบวัดระดับอาจารย์ได้ที่หนึ่ง...นั่นแหละเขา...กิโนสะ โนบุจิกะ


“ กิโนะเซ็นเซ~”    แต่แล้วความภาคภูมิใจก็หล่นวูบไปเพราะเสียงใสของเด็กสาวกลุ่มหนึ่งซึ่งยังไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง กลิ่นหอมๆวิ่งผ่านด้านข้างไปพร้อมกับเสียงหัวเราะต่อกระซิก

“ นี่! บอกแล้วไงว่าอย่าเรียกกิโนะเซ็นเซน่ะ!   มือไม่ว่างจะขยับแว่นเพราะงั้นเขาจึงส่งเสียงดุออกไป แต่ยัยเด็กพวกนั้นก็สะทกสะท้านเสียที่ไหน!

“ คิก กลับบ้านดีๆนะค้า~ อย่าไปเดินสะดุดอะไรเข้าอีกล่ะบาย~”   ใบหน้าทะเล้นหันมาโบกไม้โบกมือให้ก่อนจะวิ่งหนีไป เขาได้แต่ถอนหายใจอย่างหน่ายๆ

เป็นเพราะเขาเพิ่งจบมาใหม่ๆและเพิ่งจะมาเป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ได้ไม่กี่อาทิตย์ ความที่อายุใกล้ๆกันทำให้เด็กพวกนั้นมักจะเห็นเขาเป็นเพื่อนเล่นมากกว่าจะเคารพยำเกรงเหมือนครูอาวุโสคนอื่นๆ

หรือว่าเขายังดุไม่พอ?

ใบหน้ามนลองทำหน้าเข้มเลียนแบบอาจารย์ฝ่ายปกครอง เงาที่เห็นอยู่ในกระจกทำให้หลุดขำออกมา...บ้าจริง เขามัวทำอะไรอยู่เนี่ย?...กลับบ้านดีกว่า




ร่างสูงโปร่งเดินไปตามถนนยามเย็นซึ่งคนหายพลุกพล่านแล้ว ความจริงบ้านเขาไม่ได้อยู่ที่เมืองนี้ เขาจึงเช่าอพาทเม้นต์อยู่ตามลำพัง

สองขาตั้งใจจะเดินไปหาอะไรกินตามประสาหนุ่มโสด แต่พอเดินเข้าใกล้ตลาดได้ไม่ทันกี่ช่วงตึก เสียงอึกทึกของอะไรบางอย่างก็ทำให้ถึงกับชะงักก่อนจะหันไปมอง


โครม!!!


ลังไม้และอะไรอีกหลายอย่างล้มระเนระนาดไปตามร่างกายที่ถูกเหวี่ยงลงไป เงาร่างที่ย่างสามขุมเข้าไปหาคนที่ล้มกองทำให้เขาต้องยกมือขึ้นขยี้ดวงตาที่อยู่ภายใต้กรอบแว่น...นั่นคนกำลังตีกัน?

ไม่สิ ทำร้ายร่างกายอยู่ฝ่ายเดียวมากกว่า ในเมื่อร่างสูงใหญ่นั่นกำลังเงื้อไม้เบสบอลฟาดคนที่ขดอยู่ที่พื้นอยู่ฝ่ายเดียว


ผลั๊วะ!


แล้วนั่นมัน....ชุดนักเรียนโรงเรียนเขาไม่ใช่หรือไง...แน่นอนว่าเป็นคนกระทำ ส่วนคนถูกกระทำนั้นดูเหมือนจะเป็นเด็กต่างโรงเรียน?


ผลั๊วะ!!


ไม้เบสบอลฟาดลงไปที่หน้าท้องของคนที่สู้ไม่ไหว แต่ใบหน้านิ่งของคนลงมือก็ไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นหรือจะตาย ถ้าปล่อยไว้แบบนั้นคงแย่แน่

ใบหน้ามนหันไปหันมา ทั้งๆที่มีคนหยุดดูหลายคนแต่กลับไม่มีใครคิดจะเข้าไปห้าม? มันอะไรกันน่ะ? ทำไมกันล่ะ?

เขาหันกลับไปมองในซอกตึกนั่นอีกครั้ง จริงอยู่ที่คู่กรณีมีแค่สอง ทว่ายังมีคนอีกสามคนยืนพิงผนังคุมเชิงอยู่ แล้วทั้งสามก็ล้วนแต่งกายด้วยเครื่องแบบของโรงเรียนเขา...จากตอนแรกที่ไม่แน่ใจ แต่พอดูชุดหลุดๆรุ่ยๆที่สวมใส่อยู่เขาก็เริ่มจะจำได้รางๆ ว่านั่นมันกลุ่มเด็กมีปัญหาในโรงเรียนของเขา

แล้วคนที่กำลังซ้อมคู่อริอยู่ฝ่ายเดียวก็ไม่ใช่ใคร...นักเรียนในห้องของเขาที่แทบจะไม่เข้าเรียนเลย....โคงามิ ชินยะ!

“ นี่! หยุดเดี๋ยวนี้นะ โคงามิ!”    ไม่รู้วิญญาณครูประจำชั้นเข้าสิงหรือไง เขาถึงได้เดินตรงเข้าไปห้ามคนที่กำลังเลือดขึ้นหน้าอย่างไม่กลัวลูกหลง...จะว่าเลือดขึ้นหน้าก็คงไม่ถูกนัก เพราะเจ้าเด็กตัวโตนั่นฟาดไม้เบสบอลลงไปทั้งๆที่สีหน้าไม่เปลี่ยนเลยสักนิด

“ หยุด!”   เขาคว้ามือที่กุมไม้เบสบอลเปื้อนเลือดก่อนจะออกแรงยื้อยุดฉุดกระชากมันเอาไว้ ใบหน้าคมภายใต้กรอบผมสีดำสั้นหันมามองด้วยสายตาที่ไม่สะท้อนสิ่งใดกลับมา นัยน์ตาสีแซฟไฟร์มองเขาราวกับอากาศธาตุ ใบหน้าเฉยชาไม่มีแววตื่นตระหนกราวกับเรื่องที่ทำอยู่เป็นเรื่องปกติ  ความรู้สึกอันตรายๆที่แผ่ออกมาจากร่างกายสูงใหญ่นั่นคงจะมีแต่เขาคนเดียวที่กล้าเข้ามาห้าม

ถึงแม้ฝ่ามือของโคงามิจะยอมลดไม้เบสบอลลงแต่เจ้าเด็กนั่นกลับทิ้งมันไว้แล้วเดินจากไปหน้าตาเฉย

เมินกันเลยเร๊อะ?!

เขาหันไปมองด้วยใบหน้ามึนงง ร่างสูงใหญ่เดินไปโดยไม่แม้แต่จะหันมามองผลงานของตัวเอง เสียงผิวปากดังมาจากหนึ่งในสามคนที่ยืนพิงผนังอยู่ ก่อนที่เด็กพวกนั้นจะเดินตามโคงามิไปอีกราย

“ นี่! เดี๋ยวสิ!”    เขาตะโกนร้องเรียกแต่เจ้าเด็กพวกนั้นก็ไม่หยุด ตั้งใจจะเทศนาจะสั่งสอนเสียหน่อยแต่จะเดินตามไปแล้วทิ้งคนเจ็บไว้แบบนี้ก็ไม่ได้ ใบหน้ามนจึงได้แต่มองสลับกันไปมาระหว่างแผ่นหลังทั้งสี่ที่กำลังห่างออกไปเรื่อยๆกับคนที่นอนขดจมกองเลือดอยู่แทบเท้า

ปัดโธ่โว้ย!

เขาตัดใจจากเจ้าเด็กมีปัญหาพวกนั้นก่อนจะพาคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ถ้าเด็กนี่ตายขึ้นมาเดี๋ยวมันจะเป็นเรื่องใหญ่ ส่วนเจ้าสี่คนนั่นเขาค่อยไปจัดการพรุ่งนี้ที่โรงเรียนก็ได้!


“ พอจะทราบไหมครับว่าคู่กรณีเป็นใคร?”   ตำรวจท้องที่ถามเขาพลางอ้าปากหาวราวกับเป็นเรื่องที่แค่ลงบันทึกประจำวันก็จบๆไป เหมือนอีกฝ่ายก็จะรู้อยู่แล้วไหม? ยังจะมาถามเขาอีก

“ ไม่ทราบครับ ผมมาเห็นตอนที่คู่กรณีไปแล้ว”   เขาโกหกเพราะตั้งใจจะช่วยปกปิดความผิดให้กับโคงามิ เพราะยังไงเด็กนั่นก็เป็นเด็กในชั้นเรียนของเขา ถึงจะรู้ว่าทำแบบนี้มันไม่ดี แต่ยังไงก็ควรจะสั่งสอนกันก่อนที่จะให้ตำรวจช่วยถ้ามันไม่ไหวจริงๆ

“ ขอบคุณมากนะครับ อ่า...คุณกลับได้แล้วละคุณครู”   ตำรวจโบกมือให้เขาด้วยท่าทางขี้เกียจๆ ร่างสูงโปร่งจึงโค้งตัวให้น้อยๆแล้วออกจากโรงพยาบาลมา ก็ยังดีที่เด็กต่างโรงเรียนคนนั้นไม่ถึงตาย ไม่งั้นคงไม่จบง่ายๆแบบนี้หรอก

ใบหน้ามนถอนหายใจในขณะที่เดินกลับบ้าน...ไม่ว่าโรงเรียนไหนก็มีสินะ พวกตัวปัญหา...นี่เขาเพิ่งจะเป็นครูได้ไม่ถึงเดือนก็ต้องเจอบททดสอบจากพระเจ้านี่เข้าแล้วเหรอเนี่ย...

ขอให้มันผ่านไปด้วยดีที่ก็แล้วกัน...







แต่ดูเหมือนคำอธิษฐานของเขามันจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่...

“ โคงามิ ชินยะ?”    อาจารย์รุ่นลุงที่นั่งโต๊ะติดกันในห้องพักครูเงยหน้าครุ่นคิดก่อนจะส่ายไปมาราวกับว่าไม่ค่อยอยากจะเข้าไปยุ่งมากนัก

“ เป็นอาจารย์ใหม่อยู่ห่างๆไว้ดีกว่านะ เผลอไปมีเรื่องด้วยจะลำบาก”   ชายสูงวัยเอนหลังพิงเก้าอี้ก่อนจะเตือนเขาด้วยใบหน้าไม่ทุกข์ร้อน...ที่พูดถึงนั่นนักเรียนไม่ใช่หรือไง? คนที่อาจารย์อย่างพวกเขาควรจะใส่ใจไม่ใช่เหรอ?

“ ไม่แปลกไปหน่อยเหรอครับ? ทั้งๆที่โรงเรียนเราเน้นด้านการเรียน แต่เด็กมีปัญหาพวกนั้นกลับอยู่ได้ทั้งๆที่ไม่เข้าเรียนก็ไม่มีใครว่าอะไรนี่นะครับ?”   เขาเพิ่งจะมาอยู่ได้ไม่นาน จึงยังไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรในโรงเรียนที่ภาพลักษณ์ดูดีทุกอย่างแห่งนี้

“ ปล่อยๆไปเถอะอาจารย์กิโนสะ ถึงจะเรียนบ้างไม่เรียนบ้างแต่ฐานะทางบ้านของเด็กพวกนั้นจำเป็นสำหรับเรา”   อ้อ...พวกเด็กบ้านรวย?

“ ถึงโรงเรียนของเราจะอยู่ได้ด้วยชื่อเสียงที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนานในเรื่องผลการเรียนที่ดีเลิศ...แต่ว่านะ...ชื่อเสียงเพียงอย่างเดียวมันก็เอามาจ่ายค่าน้ำค่าไฟไม่ได้หรอก”   ชายสูงวัยพูดออกมาในขณะที่เตรียมตารางธาตุสำหรับชั่วโมงต่อไป

“ เราจำเป็นต้องมีเด็กพวกนั้นอยู่ในโรงเรียน”   ถึงจะไม่สนใจเรียน ถึงจะสอบตก ถึงจะเอาแต่หาเรื่องทะเลาะวิวาท แต่ยังไงก็ไล่ออกไม่ได้สินะ

แบบนี้ยิ่งไม่ยุติธรรมไปกันใหญ่ เทียบกับเด็กธรรมดาที่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนกันแทบตาย ยังไงเขาก็ไม่ยอมหรอก ถ้าจะอยู่ที่นี่ก็ต้องเข้าเรียนและประพฤติตัวให้มันดีๆด้วย!

ที่เขาทำ...ก็เพื่อตัวของเด็กพวกนั้นทั้งนั้น



เพราะงั้นร่างสูงโปร่งถึงได้มายืนมองบันไดทางขึ้นไปยังดาดฟ้าของอาคารอยู่ตรงนี้ไง

ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นมุ่งมั่นว่ายังไงก็ต้องคุยกับโคงามิ ชินยะให้รู้เรื่อง เขาตั้งใจมาตลอดว่าจะเป็นครูที่ดีให้ได้และมันไม่ใช่แค่เรื่องการสอนอย่างเดียว

สองขาก้าวขึ้นบันได เสียงดังของประตูทำให้หนึ่งในสี่คนนั้นหันหน้ามามอง...ความจริงแล้วนักเรียนในห้อง 2-C ของเขามีแค่โคงามิ ชินยะคนเดียว ส่วนอีกสามคนอยู่คนละห้องและด้วยความที่ไม่เคยเข้าเรียนเหมือนกัน เพราะงั้นถึงเขาจะเป็นครูสอนคณิตสาสตร์ทุกห้องแต่ก็แทบไม่เคยเห็นหน้าทั้งสามคนเลย  หลังจากเมื่อวานนี้เขาจึงกลับไปศึกษามาแล้วว่าใครเป็นใคร....เจ้าของใบหน้าเรียวที่กำลังมองเขาด้วยรอยยิ้มที่อ่านไม่ออกนั่นก็คือ มาคิชิม่า โชโกะไม่ผิดแน่ เส้นผมสีเงินยาวระต้นคอทำให้บุคลิกของเด็กคนนี้ดูสบายๆ ทว่าบรรยากาศที่ราวกับแม่เหล็กก็ทำให้เขารู้ว่าเบื้องหลังรอยยิ้มละมุนละไมนั่น เด็กนี่ก็อันตรายไม่แพ้โคงามิ ชินยะเลย

นัยน์ตาเข้มงวดกวาดมองอีกสามคนที่เหลือที่ไม่ได้สนใจคนมาใหม่อย่างเขาสักนิด คนที่ตัวเล็กสุดกำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนพิงผนังปล่องบันไดเล่นPSPอย่างเมามัน ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีน้ำตาลอมส้มของ คางาริ ชูเซย์ แทบจะติดจอก่อนจะทำหน้าสะใจบ้าง หงุดหงิดบ้าง...เขายังไม่มีธุระอะไรกับเด็กนี่ เพราะงั้นจึงขอข้ามไปก่อน...นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นเหลือบมองร่างสูงยาวอีกคนที่กำลังเปิดหนังสือ 18+ อ่านอย่างไม่อายฟ้าดิน ภาพของหญิงสาวอกโตที่อยู่บนหน้าปกทำให้เขาหน้าร้อนผ่าว แต่เจ้า ซาซายาม่า มิตสึรุ กลับยังนั่งดูมันหน้าตาเฉย...จะว่าหน้าตาเฉยก็ไม่เชิงนักหรอก ต้องบอกว่าหน้าตาไม่น่าเข้าใกล้เสียมากกว่า

ดูๆไปแล้วเจ้าพวกนี้ไม่น่าจะมาอยู่ด้วยกันได้เลยแหะ ไปกันคนละแนวมาก โดยเฉพาะร่างสูงใหญ่ที่นอนหลับสบายอยู่บนหลังคาปล่องดาดฟ้านั่น โคงามิ ชินยะ!

“ โอ่ย~~ โคจัง~ พ่อนายมาหาแน่ะ”   ถึงจะไม่ได้เหลือบตาขึ้นมาดูเขาแต่คางาริกลับเป็นคนตะโกนบอกคนที่ยังนอนนิ่งให้...แปลว่าเด็กพวกนี้ใช่ว่าจะไม่สนใจอะไรเลย อย่างน้อยก็ยังรู้จักเขา ยังรู้ว่าเขาเป็นครูคนใหม่ของที่นี่...แต่เดี๋ยวนะ...เขาไม่เคยมีลูกชายโตเป็นควายแบบนี้สักหน่อย!

“ โคงามิ! ลงมาคุยกับครูเดี๋ยวนี้!”    ปลายนิ้วขยับแว่นก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมอง หัวสีดำยุ่งเหยิงนั่นผงกขึ้นมามองเขาแว่บหนึ่งก่อนจะนอนต่อ ความกวนประสาทเล่นเอาเส้นเลือดที่ขมับกระตุกถี่...เจ้าเด็กนี่...

“ โคงามิ!”   สองมือกำแน่นก่อนจะตะโกนเรียกอย่างไม่ละความพยายาม มีแต่คนเตือนเขาว่าอย่ามายุ่งกับเด็กพวกนี้ แต่ในฐานะครูแล้วเขาก็ทำไม่ได้จริงๆ...ไม่ใช่ว่าไฟแรงอะไรหรอก....แต่เขาเองก็เคยได้รับความช่วยเหลือจากครูประจำชั้นมาเหมือนกัน...ถึงได้มายืนอยู่ในจุดนี้ได้

“ กิโนะเซ็นเซ~ อย่างเจ้าโคน่ะ มันต้องหน้าอกเน้นๆ ไม่งั้นไม่ยอมลุกหรอก”   ไม่พูดเปล่าเจ้าซาซายาม่ายังชูหนังสืออย่างว่าที่หน้าอกหน้าใจทะลักมาให้เขาอีกต่างหาก...น่ะเน้นๆบ้าอะไรเดี๋ยวเขาจะเอาไปเผาให้หมด!

ใบหน้ามนสะบัดกลับมาตั้งสมาธิกับเจ้าตัวการใหญ่ต่อ เขาก็ไม่รู้หรอกนะว่าความสัมพันธ์ของเจ้าพวกนี้เป็นยังไง ใครเป็นหัวหน้า? ใครสั่งใคร? แต่ดูจากท่าทางแล้วโคงามิน่าจะเป็นหัวโจก?

“ โคงามิ!! บอกให้ลงมา!”   แล้วในขณะที่เขาเต้นแร้งเต้นกาเหมือนคนบ้า กลับมีเพียงเสียงเย็นๆเสียงเดียวเท่านั้นที่ทำให้ร่างสูงใหญ่นั่นลุกขึ้นมาจนได้...

“ โคงามิ....”    มันเป็นเสียงของ มาคิชิม่า โชโกะ...

เขาเหลือบมองใบหน้าภายใต้กรอบผมสีเงินที่ก้มลงไปอ่านหนังสือต่ออย่างประหลาดใจ...โคงามิฟังมาคิชิม่า?

จะยังไงก็ช่างเถอะถือว่าดีกับเขาก็แล้วกัน

“ มีอะไรล่ะ?”   ใบหน้าคมภายใต้กรอบผมสั้นสีดำเอ่ยถามเขาด้วยท่าทางรำคาญๆ ร่างสูงใหญ่กระโดดลงมาจากหลังคาปล่องบันได เมื่อเทียบกับผู้ชายที่ถือว่าสูงอย่างเขาเจ้าเด็กนี่กลับสูงใกล้เคียงกันมาก เพราะตัวใหญ่และบรรยากาศที่ดูคุกคามแบบนี้หรือเปล่านะ เลยทำให้ดูน่ากลัว

“ ตามมา ชั้นมีเรื่องต้องคุยกับนาย”    ใบหน้าคมถอนหายใจอย่างหน่ายๆก่อนจะเดินตามเขามาด้วยท่าทางเฉยชา...ถ้าไม่นับที่ไปฟาดคนไม่ยั้งเมื่อวาน โคงามิก็ไม่ได้ร้ายกาจอย่างที่ใครๆกล่าวหาไม่ใช่หรือไง...อาจจะพอพูดคุยกันได้?

เขาบังคับให้ร่างสูงใหญ่นั่งลงไปในห้องเรียนที่ไม่มีใครอยู่แล้วก่อนจะเทศนาทั้งเรื่องทะเลาะวิวาทและเรื่องการเข้าเรียน ถึงโคงามิจะฟังไปหาวไปแต่เริ่มต้นด้วยการรับฟังมันก็ดีถมเถแล้ว

“ ถ้าเข้าใจแล้วตั้งแต่พรุ่งนี้ก็มาเข้าเรียนซะ ถึงนายไม่เรียนก็ไม่มีใครว่าอะไร แต่แบบนี้มันดีกับตัวนายหรือไง?”   สองมือยกขึ้นมากอดอกแล้วพูดใส่ตรงๆ ถึงแม้ว่าใบหน้าเฉยชานั่นจะหันไปมองกลีบซากุระโปรยปรายอยู่นอกหน้าต่างก็เถอะ

“ เอาละ ไปได้แล้ว”   เขาเองก็ปากเปียกปากแฉะมาพอแล้ว แต่ในขณะที่กำลังจะก้าวขาออกจากห้อง

“ นี่...”   เสียงทุ้มเรียกให้ฝ่าเท้าชะงักค้าง ใบหน้ามนหันกลับไปมองด้วยความสงสัย

“ เมื่อวานนายไม่ได้บอกตำรวจเหรอว่าชั้นเป็นคนทำ?”    เพราะปกติต้องมีหมายเรียกน่ารำคาญมาที่บ้าน แต่เมื่อวานกลับไม่มี....นัยน์ตาสีแซฟไฟร์มองอาจารย์ประจำชั้นที่เพิ่งจะได้เห็นหน้าชัดๆ...เพราะแทบไม่ได้เข้าเรียนเลยถึงได้เพิ่งรู้ว่ามีคนน่าสนใจอยู่ในห้องเรียนด้วย

“ เปล่า...พอดีชั้นจำชื่อนายไม่ได้...แล้วก็เรียกชั้นว่ากิโนสะเซ็นเซด้วยโคงามิ!”    มือบางยกขึ้นมาขยับแว่นก่อนที่ใบหน้ามนนั่นจะพยายามขมวดคิ้วให้ดูเข้มงวดแล้วเดินออกจากห้องไป...

จำชื่อเขาไม่ได้? ทั้งๆที่เรียกให้ได้ยินอยู่เต็มสองหูเนี่ยนะ?  ถึงจะทำเป็นไม่ใส่ใจแต่เขาก็รู้...ว่าเมื่อวานคุณครูประจำชั้นนั่นเรียกชื่อเขาแน่ๆ   

เป็นพวกปากไม่ตรงกับใจ?

รอยยิ้มร้ายปรากฏอยู่บนใบหน้าหล่อเหลา....พยายามปกปิดความผิดให้เขา? ด้วยความหวังดีจากใจจริงหรือแค่อยากจะทำตัวเป็นพ่อพระ?

หึ...ไม่ว่าจะแบบไหนก็น่าสนุกดีนี่...








และแล้วก็ไม่มีสัจจะในหมู่เด็กเลว

วันนี้เจ้าโคงามิและผองเพื่อนก็ไม่เข้าเรียนอีกแล้ว!

ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นของอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ ม.ปลายปีสองกำลังฟึดฟัดขนาดหนักจนแม้แต่เลิกเรียนแล้วความหงุดหงิดไม่ได้ดั่งใจนี้ก็ไม่หายไปสักที สองขาเดินจ้ำพรวดๆเข้าไปในย่านร้านค้าอย่างตั้งใจจะหาอะไรกินให้หายโมโห

ทว่า...


ผลั๊วะ!!


เสียงต่อยตีที่น่าจะเป็นกลุ่มใหญ่ก็ทำให้สองขาถึงกับชะงัก...อีกแล้วเหรอ?

นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นกวาดหาที่มาของเสียงก่อนจะเห็นกลุ่มเด็กต่างโรงเรียนกำลังต่อยกับคนที่คุ้นแสนคุ้น...เจ้าโคงามิ!

สองมือกำแน่นขึ้นมาทันที...ดูมันสิ! เขาเทศนาไปเป็นชั่วโมงๆว่าอย่าก่อเรื่องทะเลาะวิวาทอีก มันก็ฟังเสียที่ไหน! แล้วคราวนี้อีกสามคนที่เหลือก็ร่วมวงด้วยซะงั้น!

ร่างสูงโปร่งตั้งใจจะเข้าไปห้าม...แต่แล้วเสียงไซเรนที่ใกล้เข้ามาก็ทำให้ต้องหันไปมองอย่างเลิ่กลั่ก...ตำรวจ?

แย่ละสิ!

“ โคงามิ!”    เขาหันไปคว้าคอเสื้อของคนที่อยู่ใกล้สุดก่อนจะหลับหูหลับตาวิ่งออกมา  แรงต้านไม่ใช่น้อยทำให้เขารู้ว่าเขาลากเจ้าโคงามิมาด้วยสำเร็จ ยังไงก็ให้ตำรวจจับไปไม่ได้

“ วิ่งเร็วๆสิ! เดี๋ยวก็โดนรวบไปหรอก!”    ใบหน้ามนหันไปบอกร่างสูงใหญ่ที่วิ่งตามมาด้วยความมึนงง นัยน์ตาสีแซฟไฟร์เหลือบมองครูประจำชั้นที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้แถมยังลากเขาหนีตำรวจหน้าตาเฉย...คนเป็นครูเขาทำกันเหรอน่ะเรื่องแบบนี้?

“ แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก....”    ครูคณิตศาสตร์ร่างโปร่งคงถนัดแต่เรื่องใช้สมองถึงได้วิ่งไปหอบไป ใบหน้าคมของคนที่ยังวิ่งสบายๆก้มมองมือขาวๆที่ยังจับข้อมือของเขาเอาไว้ไม่ยอมปล่อย...จะมาวุ่นวายกับเขาทำไม? ทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้เชื่อฟังอีกฝ่ายเลยสักนิด



ปัง...



ประตูห้องปิดลงก่อนที่อาจารย์ร่างโปร่งจะทรุดตัวลงไปหอบแฮ่กอยู่ที่พื้น

พาวิ่งหนีตำรวจนี่ก็ว่าแย่แล้วนะ แต่ที่แย่กว่าคือดันเผลอพากลับมาหลบที่ห้องนี่แหละ!

มือบางข้างหนึ่งยกขึ้นมากุมขมับในขณะที่ยังหอบไม่หยุด...อยากจะบ้าตาย เพราะปกติไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตเสี่ยงๆ เวลาตื่นตระหนกแบบนี้ทีไรเขาเลยไม่ชินจนลืมตัวลากเจ้าโคงามิมาถึงนี่เสียได้

“ อ๊า~~ ชั้นน่าจะพาไปที่ร้านแมค...”   แน่นอนว่าเขาก้มหน้าพูดกับเสื่อทาทามิ ใบหน้ามนเงยขึ้นมาก่อนจะปรับกลับเข้าสู่โหมดอาจารย์ที่ต้องดูภูมิฐานต่อหน้านักเรียน

“ ยะ ยังไงก็หลบอยู่นี่สักพักแล้วกัน...”   มือบางยกขึ้นมาขยับแว่นจนคนที่เคยเห็นมาหลายครั้งเริ่มจะจับทางได้

“ แล้วคนอื่นล่ะ?”   เสียงทุ้มจึงถามออกไปอย่างตั้งใจจะลองเชิง

“ ถ้าหมายถึงเพื่อนของนายอีกสามคนละก็ ชั้นขอโทษด้วยก็แล้วกัน มันอยู่ไกลไปชั้นเลยดึงมาไม่ทัน”     พรืด....ใบหน้าคมหลุดขำกับความจริงจังของอาจารย์คนใหม่...นี่กะจะลากกลับบ้านมาทั้งสี่คนเลยหรือไง? จริงๆเขาไม่ได้ห่วงเจ้าพวกนั้นหรอก ไวอย่างกับปรอทแบบสามตัวนั่นยังไงก็หนีทันอยู่แล้ว

นัยน์ตาสีแซฟไฟร์ทอดมองร่างโปร่งบางที่ลุกไปยืนชงชาสำเร็จรูป...ความรู้สึกแปลกๆแทรกเข้ามาในหัวใจอย่างที่ไม่มีใครเคยเข้ามาได้นานแล้ว...แต่จะให้เขาไว้ใจมันคงเร็วเกินไป...

ใบหน้าที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวมองไปรอบๆห้องที่ดูเรียบง่าย

“ นายอยู่คนเดียว?”   คำพูดที่ไม่คิดจะสุภาพกับคนที่เป็นถึงครูของตัวเองทำให้ใบหน้ามนตวัดกลับมามองด้วยนัยน์ตาเข้มงวด

“ เดี๋ยวเถอะ! ชั้นเป็นครูของนายนะ เรียกชั้นว่าคุณครูสิ!

“ กิโนะ”    นั่น...แล้วดูมันเรียกกลับมาสิ...

“ เซ็นเซ!   ใบหน้ามนกระแทกเสียงห้วนใส่เจ้าคนที่นั่งลงไปบนเบาะรองนั่งอย่างถือวิสาสะ มือบางวางถ้วยชาลงไปพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันในความกวนประสาทของเจ้าเด็กตรงหน้า...แต่เดี๋ยวนะ...

เขานั่งลงไปที่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะญี่ปุ่นก่อนจะยื่นหน้าไปดมให้ชัดๆ  กลิ่นบุหรี่?  พอไม่ได้อยู่ในที่ลมโกรกอย่างดาดฟ้าหรือว่ากลางผู้คนอย่างในตลาด เขาจึงเพิ่งได้กลิ่นที่ลอยออกมาจากตัวของโคงามิ

“ นี่นาย...สูบบุหรี่ด้วยเหรอ?”   เขามองใบหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไรนั่นด้วยสายตานิ่งค้าง

“ ...........”   โคงามิไม่ตอบแต่หยิบซองบุหรี่ขึ้นมาวางไว้ให้ดู

“ ไม่ชอบเหรอ?”    ใบหน้าภายใต้กรอบผมสั้นยุ่งๆนั่นเงยขึ้นมาถามเขาอย่างไร้หางเสียงตามเดิม

“ ก็ไม่ได้อะไรหรอก แต่เพราะนายเป็นนักเรียนของชั้นไง จะปล่อยให้ทำผิดกฎของโรงเรียนคงไม่ได้”    ร่างโปร่งยกแขนขึ้นมากอดอกอย่างตั้งใจจะเทศนาแต่ใบหน้าคมก็หันหนีไปมองทางอื่นทันที


หึ...นักเรียนของชั้นงั้นเหรอ....


หน้าตาไม่รู้ร้อนรู้หนาวของเจ้าโคงามิบ่งบอกว่าเทศน์อะไรไปก็คงเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาแน่ ใบหน้ามนจึงได้แต่ถอนหายใจ

“ ถ้าหายเหนื่อยแล้วก็กลับบ้านไปสิ ป่านนี้ตำรวจคงกลับไปกันหมดแล้ว ให้ตายเถอะ มีเรื่องได้ทุกวันแบบนี้ไม่เจ็บบ้างหรือไง เอ้า พลาสเตอร์ยา!   มือบางควานหาพลาสเตอร์ยาในลิ้นชักข้างๆก่อนจะโยนมันให้โคงามิ

“ แปะให้ด้วยสิ ชั้นมองไม่เห็น”   แต่เจ้าตัวดีกลับตอบมาหน้าตาเฉย

“ ฮึ่ม....นายนี่มัน....”   เขาไม่รู้จะทำยังไงกับหมอนี่ดีแล้ว?! ในขณะที่กำลังกัดฟันกรอด ความคิดอะไรบางอย่างก็แว่บเข้ามา

“ จริงสิ...ชั้นแปะให้ก็ได้ แต่ต้องแลกกับนายต้องมาเข้าเรียนพรุ่งนี้นะ”    ใบหน้ามนยกยิ้มอย่างผู้ที่เหนือกว่า

“ หึ...แลกงั้นเหรอ....”    โคงามิหัวเราะในลำคออย่างที่เขาไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร แต่คำตอบพร้อมแก้มที่หันมาให้แปะพลาสเตอร์ก็ทำให้เขาพอใจยิ่งกว่าอะไร

“ เอาสิ พรุ่งนี้ชั้นจะเข้าเรียน”







ทั้งๆที่คาดหวังเอาไว้แค่ครึ่งเดียวแต่วันนี้โคงามิกลับทำให้คนทั้งห้องถึงกับตื่นตะลึง เมื่อร่างสูงใหญ่เดินล้วงกระเป๋ากางเกงข้างหนึ่งเข้ามาในห้องเรียนเมื่อถึงคาบคณิตศาสตร์ของเขา

ใบหน้าหล่อเหลานั่นคงจะป๊อปไม่น้อยถ้าลดบรรยากาศอันตรายๆนี่ลงซักครึ่งนึง เพราะถึงขนาดน่ากลัวแบบนี้ก็ยังมีสาวๆในห้องมองตาละห้อยอยู่หลายคน

“ รบกวนด้วยนะคร้าบ กิโนะเซ็นเซ~”   โคงามิไม่ได้เดินเข้ามาตามลำพัง เสียงยานคางของคนที่เดินตามหลังมาทำให้เขามองอย่างนึกปลง...เอาเถอะ...ถึงคางาริกับซาซายาม่าจะไม่ได้อยู่ห้องนี้ แต่แค่เข้ามาเรียนก็พอ เรื่องอื่นจะยังไงก็ค่อยว่ากันทีหลัง

แล้ว...มาคิชิม่า โชโกะล่ะ? ไม่ได้มาด้วยกันหรือไง?

เสียงลากโต๊ะเก้าอี้ดังอยู่หลังห้องทำให้เขากลับมาตั้งสมาธิกับการสอนต่อ คาบเรียนดำเนินผ่านไปอย่างไม่มีปัญหาอะไร ถึงแม้ว่าโคงามิจะไม่ได้จดโน้ตสักตัวแต่แค่นั่งจ้องเขาทั้งคาบโดยไม่หลับนี่ก็ดีแค่ไหนแล้ว

“ พรุ่งนี้จะมีการสอบย่อยนะ ไปอ่านทบทวนกันมาด้วยล่ะ”   มือบางวางชอล์กลงท่ามกลางเสียงครางอย่างโหยหวนของนักเรียนในห้อง แค่บอกว่าจะสอบนี่จะตายให้ได้กันเลยใช่ไหม?

“ ใครมีอะไรสงสัยไหม?”   เขาหันกลับมาถามพลางปิดหนังสือที่ใช้สอน  ทั้งๆที่คิดว่าวันนี้คงจบไปด้วยดี ทว่า ฝ่ามือของเจ้าตัวปัญหาก็ยกมือขึ้นมา

“ ว่าไงโคงามิ?”   ตาขวากระตุกอย่างเป็นลางบอกเหตุ จะมาไม้ไหนกันอีกล่ะหมอนี่

“ เซ็นเซ~ ถ้าผมมาสอบแล้วจะได้อะไรเป็นการแลกเปลี่ยน?”   เขาถึงกับอึ้งไป...อย่างงี้นี่เอง...เขาเข้าใจแล้วที่โคงามิหัวเราะตอนที่เขาบอกว่าจะแปะพลาสเตอร์ยาให้แลกกับการเข้าเรียน...นี่คงไม่ได้คิดว่าเขาจะต้องหาอะไรมาแลกตลอดหรอกนะถ้าจะทำให้หมอนั่นเข้าเรียนทุกวัน

“ กะ ก็ได้คะแนนไง...ถ้านายทำได้น่ะนะ”   มือบางยกขึ้นมาขยับแว่นท่ามกลางความสงสัยของนักเรียนคนอื่นๆในห้อง แค่เขาไปทำอีท่าไหนให้คนอย่างโคงามิ ชินยะมาเรียนได้นี่ก็เป็นคำถามประจำสัปดาห์แล้วไหม นี่ยังจะมีลับลมคมในอะไรอีก

“ คะแนน?”   แต่เจ้าตัวปัญหากลับยักไหล่ราวกับไม่สนใจสิ่งที่เรียกว่าคะแนน  ใบหน้ามนจึงได้แต่กัดฟันแน่น

“ ก็ได้! ถ้านายสอบผ่าน ชั้นจะทำตามที่นายขอหนึ่งอย่าง!”   ถึงจะรู้ว่ามันเป็นการขุดหลุมฝังตัวเอง แต่ที่เขากล้าท้าก็เพราะว่าอย่างเจ้าคนที่ไม่เคยเข้าเรียนนี่น่ะ ไม่มีวันเข้าใจคณิตศาสตร์ม.ปลายยากๆได้ในคืนเดียวหรอก!

“ หึ...ถึงแม้ว่าสิ่งที่ผมขอจะเป็น “จูบ” จากกิโนะเซ็นเซน่ะเหรอ?”   เสียงหือฮาดังทั่วห้องทันที สายตาหลายคู่หันไปมองหน้ากันก่อนจะหันมามองเขาว่าจะตัดสินใจยังไง...

หนอย...เจ้าบ้าโคงามิ...จะล้อเล่นก็ให้มันมีขอบเขตบ้าง!

เพราะคำท้าทายที่น่าหมั่นไส้ เพราะมั่นใจว่าโคงามิ ชินยะ ไม่มีทางสอบผ่านแน่ๆ เขาจึงได้รับปากไป

“ ตกลง...แต่ทำคะแนนให้ได้เกิน 60 ก่อนก็แล้วกัน!  ใบหน้าคมยิ้มรับที่มุมปากก่อนจะมองเขาด้วยสายตาราวกับหมาล่าเนื้อ


หนอย...เดี๋ยวเขาจะกลับไปออกข้อสอบให้ยากๆเลยคอยดู!





.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

To be con.





=[ ]=…………….

เอาหัวโขกกำแพง ไหนี้มาจากไหน~~~~~ TTvTT

จะว่าไป เพิ่งรู้ตัวค่ะว่าไม่เคยแต่งฟิค Au คู่นี้แบบเพียวๆเลย =[ ]=  มีแต่ไปร่วมแจมใน 17ฝนบ้าง พญาเหยี่ยวบ้าง ทั้งๆที่ปกติแล้วคุณกวางจะชอบแต่ง Au มากกว่า ฟิคอิงออริจินัลนี่หายากมาก แต่ฟิค PP ทั้งหมดกลับเป็นอิงออริจินัลซะงั้น 555 ก็...หวังว่าจะจบนะเรื่องนี้ // โดนโบกแบบไม่ปรานีถถถถ

ฝากฟิคมึนๆงงๆเรื่องนี้เอาไว้อีกเรื่องนะก๊า =w= ชื่อเรื่องอ่านว่า  แอลเอสดี...ก็อย่างที่คิดนั่นแหละ เป็นชื่อของยาเสพติดชนิดหนึ่งค่ะ เพราะเรื่องนี้พระเอกกับนายเอกนี่อย่างกับยาเสพติดของกันและกันเรย *q* รู้ว่าผิด แต่ก็ขาดไม่ได้ เสพย์แล้วจะมีฟามสุข *q*  ความรักต้องห้ามของศิษย์อาจารย์ก็แบบนี้แหละนะ *q* จำไม่ได้แระว่าเคยแต่งแนวนี้หรือเปล่า555 // ดูมัน // แต่งไปฟัง Magnet ไปฟฟฟฟฟ เพลงบ้าอัลไลเซ็กซี่เสียเลือดมาก *q*...

แปะเวอร์ชั่นเนโระซัง ไม่แน่ใจว่าคนไหนซ้ายหรือขวา แต่เสียงคนซ้ายนี่เซะซี่ขาดใจมากอ่ะ ฮือออออออออออออออ ท่อนที่ร้องด้วยเสียงแหบพร่าเหมือนเพิ่งตื่น(?)นี่แบบ...อ๊ากกกกก ต้องการอัลไลจากตรูววววว >/////<…ดีไซน์การร้องได้แบบ เร้าใจมากอ่ะ งื้อออออ >/////<





แล้วเจอกันตอนหน้า *w*




4 ความคิดเห็น:

  1. เอ่อ???
    เห็นรายชื่อนักเรียนเลวแต่ละคนแล้วไม่ใช่ว่าพี่กวางจะจัดหนัก5Pหรอกนะคะ?...แต่ละคน...แต่ละคนนี่เหนือคำบรรยายกันทั้งนั้น?...
    ยังแอบคิดอยู่เลยค่ะว่าคุณโคนี่ฝังใจเรื่องโชโกะจริงอะไรจริงขนาดตายไปแล้วยังตามมาหลอนได้อีก...อย่างกับรักมากแค้นมากเลยอ่ะยิงเค้าด้วยลูกโม่แล้วยังไม่พอยังมารัวM16ใส่แบบไม่ยั้งอีกสุดยอดจริงๆผู้ชายคนนี้แต่ยังไงก็สู้กิโนะไม่ได้หรอกนะ5555+++++
    ลุ้นระทึกมาทั้งเรื่องก็ยังไม่ลุ้นเท่ากับสองนาทีที่สองคนนี้เจอกันเลยด้วยซ้ำแค่สบตากันก็ทำเอากองอวยลอยไปถึงดาวอังคารแล้นนนน~~~~

    กิโนะเซ็นเซย์~~~
    ไปรับคำท้าแบบนั้นไม่รู้หรอกเหรอคะว่าเจ้าโคงามิมันหัวดีขนาดใหน???
    แย่แน่ๆ!!!...แอบลุ้นๆๆ!!!!!

    ปล.ไฟแรงมากค่ะพี่กวาง!!!!...เข้ามาทีได้อ่าน3ตอนรวดแบบนี้มีบ่อยๆเลยนะคะ555++++
    ต้องไปทำงานแระ!!!!

    ต่อให้จบนะคะสู้ๆ!!!!

    ตอบลบ
  2. มาต่อเถอะ ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ
    อ้อนวอน
    ตามเรื่องนี้มานานแต่ยังไม่ต่อจากตอนที่สองเลยง่าาา

    ตอบลบ
  3. anime psycho pass season หน้าจะมาแล้วอย่าลืมมาต่อด้วยเน้อ
    สัญญาแล้วววเน้อออ

    ตอบลบ
  4. มาต่อด่วนนนนน
    ห้ามดองงง

    ตอบลบ