Attack on Titan feat.KHR and A/Z Au.Fic [Cruhteo x Slaine , Levi xEren , 8059] GLIDE : WHITE and SILVER#10


Attack on Titan feat.KHR and A/Z Au.Fic [Cruhteo x Slaine , Levi xEren , 8059]  GLIDE : WHITE and SILVER#10

For HBD. Count Cruhteo

: Attack on Titan feat KHR Fanfiction Au
: Cruhteo x Slaine , Levi x Eren , 8059
: Romantic Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
           
         




เสื้อสูทเนื้อดีกับเนคไทราคาแพงถูกทิ้งเรี่ยราดตามโซฟาบ้าง เก้าอี้บ้าง โต๊ะทำงานบ้าง ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ของCEOหนุ่มจะทิ้งตัวนอนลงบนเตียงอย่างหมดสภาพ

ตั้งแต่กลับมาจากอังกฤษเขาก็ใช้ชีวิตอยู่ในห้องประชุมที่ออฟฟิศมาตลอดสองวัน กว่าจะแก้ปัญหาเรื่องหุ้นได้ก็แทบตายเลยทีเดียว...

คิดถูกแล้วที่กลับมา...เพราะว่าสาเหตุนั้นไม่ธรรมดาเลยจริงๆ...มันไม่สามารถจะสั่งการผ่านโทรศัพท์ได้ ทั้งการเก็งกำไร การซื้อหรือการเทขาย ต้องตามดูกับแทบจะเป็นวินาที...คนอื่นในเฟอร์รารี่คงไม่มีใครกล้าตัดสินใจ คงไม่มีใครกล้าต่อกรกับต้นเหตุนั่นแน่ๆ...และเพราะแบบนั้นเขาถึงรู้ได้ในทันทีว่าคนที่ทำให้หุ้นของเฟอร์รารี่ตกตั้งใจเล่นงานเขา...ตั้งใจท้าทายความสามารถของคนที่มีอำนาจตัดสินใจอย่างCEOของเฟอร์รารี่โดยตรง

ไม่แน่ว่าซาสบาร์มอาจจะรู้แล้วก็ได้...ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของตัวเอง

เพราะหุ้นตัวหนึ่งของโรลส์-รอยซ์คือสาเหตุของเรื่องนี้

แต่แทนที่ใบหน้าหยิ่งทระนงจะหวาดวิตก...รอยยิ้มกลับปรากฏที่มุมปาก

เอาสิ...เขาไม่กลัวหรอกถ้าจะสู้กันโดยมีตำแหน่งCEOของเฟอร์รารี่เป็นเดิมพัน 

แล้วซาสบาร์มจะได้รู้กัน...ว่าหากจะฝากอนาคตของโรลส์-รอยซ์ไว้ที่สเลน...คนที่เก่งพอจะอยู่ข้างๆเด็กนั่นได้ คนที่จะทำให้โรลส์-รอยซ์ผงาดค้ำฟ้าต่อไป...ต้องเป็นเขาเท่านั้น

ถือซะว่าการต่อสู้ในครั้งนี้ก็เพื่อพิสูจน์ฝีมือของเขาให้อีกฝ่ายเห็นก็แล้วกัน

ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงก่อนจะมองผ่านบานหน้าต่างไปยังบ้านข้างๆ...ซึ่งยังมืดสนิท

เด็กนั่นยังไม่กลับมา...?

ป่านนี้อาการจะเป็นยังไงบ้างนะ? แค่คิดก็กังวลจนอยากจะขึ้นเครื่องบินไปลอนดอนมันเสียตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอด

มือใหญ่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาตั้งใจจะกดจองตั๋ว แต่ปลายนิ้วยังไม่ทันได้สัมผัสหน้าจอ แรงสั่นจากสายเรียกเข้าก็ทำให้เขามองเบอร์ที่ขึ้นบนหน้าจอด้วยความเหนื่อยหน่าย...เลขาโทรมาป่านนี้...โรลส์-รอยซ์เล่นงานอะไรเขาอีกล่ะ?

“ ว่าไง?”   เขากดรับพลางเดินไปทิ้งตัวนั่งที่โซฟาก่อนจะยกขาขึ้นพาดโต๊ะเตี้ยอย่างเกียจคร้าน...ถ้างานมันจะเข้าถี่ขนาดนี้ บางทีเขาก็เหนื่อยเป็นเหมือนกันนะ

“ คุณครูเทโอครับ...เข้าประเทศมาแล้วครับ”   เลขาละล่ำละลักบอกด้วยความตื่นเต้นจนเขาฟังไม่รู้เรื่องว่าอะไรที่มันกำลังเข้ามา? งาน? หรือว่าวัตถุดิบสำหรับทำรถยนต์ที่สั่งไป?

“ ที่ว่าเข้าน่ะมันอะไร? ชั้นไม่เข้าใจ?”   หัวสีทองเอนพิงพนักโซฟาอย่างตั้งใจว่าคืนนี้เขาจะไม่ลุกไปจากตรงนี้ต่อให้มีงานเข้ามาก็ตามพอกันที! คืนนี้เขาต้องพัก!

“ สเลน...คุณสเลน ทรอยยาร์ดบินเข้าอิตาลีมาเมื่อกี้นี้ครับ! เอ่อ...ที่คุณครูเทโอบอกให้ผมคอยเช็คสายการบิน...”   แล้วข่าวของเลขาก็ทำเอาร่างกายที่เหนื่อยล้ากลับสดชื่นขึ้นมาทันที ลำตัวหนาเด้งจากโซฟามานั่งด้วยท่าทางตื่นเต้น

“ ดีมาก! ทำได้ดีมาก!”   ป่านนี้เลขาคงจะสงสัย...ว่าเขาจะอะไรกับเด็กนั่นนักหนา

“ แหะแหะ ครับ...”   ปลายสายหัวเราะเบาๆอย่างยินดี เพราะนานๆทีจะได้รับคำชมจากคนอย่างเขา

“ อืม...พรุ่งนี้ฝากขอตารางเวลาของสครูเดอเลีย เฟอร์รารี่ทั้งหมดให้ชั้นด้วย...แต่อย่าให้พวกนั้นรู้นะว่าคนที่ขอคือชั้น บอกว่าจะเอามาทำแผนการเดินทาง แผนการเงิน อะไรก็ได้”  เลขารับคำแล้ววางสายไป...ตอนแรกเขาก็ตั้งใจเอาไว้ว่าถ้าเคลียร์งานเสร็จแล้วเด็กนั่นยังไม่กลับมา เขาจะไปอังกฤษอีกครั้ง...แต่ในที่สุดเด็กนั่นก็เลือกอนาคตที่จะเดินไปกับเฟอร์รารี่...เพราะงั้นเขาก็แค่หาวิธีที่จะเอากลับมาเป็นของตัวเองให้ได้ก็เท่านั้น

หึ...ทั้งๆที่เขาโดนพ่อของเด็กนั่นเล่นงานซะแทบแย่ ทั้งๆที่เรื่องแผนการตลาดรั่วไหลก็ยังไม่กระจ่าง...แต่เขากลับไม่คิดจะวางมือจากเด็กนั่น


อยากได้...ไม่ว่ายังไงก็อยากได้....




จนแล้วจนรอดCEOหนุ่มของเฟอร์รารี่ก็ไม่ได้นอนติดต่อกันเป็นคืนที่สาม...

เขาถ่างตารอเจ้าเด็กข้างบ้านทั้งคืนแต่แล้วเด็กนั่นก็ไม่ได้กลับมา...สงสัยว่าจะจากสนามบินคงจะตรงไปสนามฟิโอราโนเลย?

ร่างสูงใหญ่เดินลอยๆเข้าไปในสำนักงานใหญ่ของเฟอร์รารี่ตามปกติ แต่วันนี้ดูCEOหนุ่มจะสิ้นฤทธิ์เพราะไม่ว่าใครจะทักทาย ใบหน้าหยิ่งทระนงก็แค่ผงกหัวรับโดยไม่ได้ดุด่าว่ากล่าวหรือหาเรื่องอะไรใคร

“ ตารางงานของพวกสครูเดอเลีย เฟอร์รารี่ครับ”   เลขาเอาแฟ้มอันหนึ่งมาวางตรงหน้าและมันก็มีค่าพอจะทำให้เขาตาสว่างขึ้นมาบ้าง

“ วันนี้สเลน ทรอยยาร์ดไปที่สนามฟิโอราโนหรือเปล่า?”

“ ไปครับ...เป็นเรื่องใหญ่ของพวกทีมแข่งเลยเพราะดูเหมือนคุณสเลนจะหายตัวไปหลายวันแล้ว...ไม่มีใครรู้ว่ากลับอังกฤษ...”   เขาพยักหน้าก่อนจะโบกมือไล่เลขาให้ออกไป นัยน์ตาสีฟ้ากวาดอ่านตัวอักษรในแฟ้มอย่างรวดเร็ว คงต้องขอบคุณสมองที่ทำงานอย่างหนักมาตลอด เพราะงั้นแค่ดูรอบเดียวเขาก็จำได้หมดว่าวันๆเด็กนั่นจะต้องทำอะไรที่ไหนบ้าง

“ ฮัลโหล...เดี๋ยวนายกลับบ้านไปเอา 458 Italia มาให้ชั้น แล้วก็ไม่ต้องมาขับรถให้สักสองสามวัน...ไม่ได้ไล่ออก แต่จะให้วันหยุดพักร้อน...อืม...แค่นี้นะ”   เขาวางหูโทรศัพท์ที่คุยกับคนขับรถไป...ที่นี้ก็จะได้ตามเด็กนั่นได้สะดวกๆหน่อย

มือใหญ่ปิดแฟ้มลงพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก ในหัวกำลังวางแผนมากมายเพื่อจะได้เข้าใกล้สเลน

ทว่า...

หน้ากระดาษแผ่นหนึ่งที่แลบออกมาจากแฟ้มก็ทำให้นัยน์ตาสีฟ้าเหลือบลงไปมองด้วยรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่ผิดสังเกตุ

นี่มันอะไรน่ะ? ทำไมถึงมีแผนการตลาดอยู่ตรงนี้?

แฟ้มถูกเปิดขึ้นอีกครั้งก่อนที่หน้ากระดาษจะถูกพลิกไปมาอย่างรวดเร็ว...เป็นเพราะเขาสั่งเลขาเอาไว้ว่า หากเป็นเอกสารที่ไม่ใช่สาระสำคัญก็ให้ใช้กระดาษรีไซเคิลพิมพ์ให้เขาก็ได้ เพราะงั้นหน้าหลังของตารางเวลาพวกนี้มันจึงเป็นกระดาษที่เคยถูกใช้มาแล้วครั้งหนึ่ง...ซึ่งเขาจะไม่ติดใจเลยถ้ามันจะไม่ใช่แผนการตลาดที่โรลส์-รอยซ์เอาไปใช้นั่น

ถึงตอนนี้มันจะไม่ถูกเอามาใช้อีกแล้วแต่ก็นับว่าเป็นเอกสารสำคัญ มันจึงถูกเก็บไว้ในห้องเอกสารอย่างดี...แล้วที่อยู่ในมือของเขานี่ล่ะ?

ดูเหมือนเป็นแผนการตลาดที่ถูกเอามาถ่ายเอกสารเพราะบางหน้าก็เบี้ยวอย่างเห็นได้ชัด...คนทำมันคงรีบน่าดู?

จู่ๆใบหน้าหยิ่งทระนงก็รู้สึกชาวาบ...ทำไมเขาถึงสงสัยสเลนไปได้...แทนที่จะสงสัยคนในไว้ก่อน...

“ ครับ?”   เลขาวิ่งหน้าตื่นเข้ามาเมื่อเขากดกริ่งเรียกรัวๆ มือใหญ่โยนหน้าหลังของแฟ้มเอกสารนั่นให้ชายวัยกลางคนดู

“ มีใครบางคนเอาแผนการตลาดมาถ่ายเอกสาร...และถ้าชั้นเดาไม่ผิด มันต้องเป็นคนเอาแผนการตลาดนั่นไปขายให้โรลส์-รอยซ์แน่ๆ...นายไปตรวจสอบบัญชีเงินเข้าของคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้ชั้นที...มันต้องมีใครบางคนได้ผลประโยชน์จากการกระทำในครั้งนี้แน่ๆและตัวเลขมันคงไม่ใช่น้อยเลย”    ใบหน้าของนายใหญ่แห่งค่ายม้าลำพองเอ่ยสั่งกับเลขาด้วยแววตาดุดัน...และใช้เวลาเพียงครึ่งวัน...บัญชีเงินฝากของคนที่เกี่ยวข้องกับแผนการตลาดครั้งนี้ก็มาอยู่ในมือของCEOหนุ่มเรียบร้อย

นัยน์ตาสีฟ้ามองตัวเลขหลักแสนยูโรที่อยู่ในมือก่อนจะเหลือบขึ้นไปมองชายคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้า....หมอนี่คือหัวหน้าฝ่ายการตลาด

“ จะอธิบายเกี่ยวกับตัวเลขในบัญชีนี้ว่ายังไง?...ทำไม...มันถึงเข้าหลังจากวันที่ชั้นเซ็นต์อนุมัติให้แผนการตลาดนั่นผ่านพอดี?”   มือใหญ่โยนปึกกระดาษแสดงรายการเงินเข้าออกของบัญชีเงินฝากลงไปบนโต๊ะ

“ ........เอ่อ...คือ....”   ใบหน้าของหัวหน้าฝ่ายการตลาดที่กำลังก้มลงไปมองปึกกระดาษนั่นมีเหงื่อแตกพลั่กทั้งๆที่อยู่ในห้องแอร์ ต่อให้เขาจะไม่ใช่ตำรวจเขาก็จับได้ว่าชายคนนี้มีพิรุธ

“ เพราะว่าถ้าชั้นยังไม่ให้ผ่าน งานของนายก็ไม่น่าจะไปขายโรลส์-รอยซ์ได้ใช่ไหม? นายเลยรอให้ชั้นแก้จนคิดว่ามันดีที่สุดแล้วค่อยเอาไปขายใช่ไหม? ตอบ!    ไหล่หนาสะดุ้งโหยง นัยน์ตาที่กรอกไปมานั้นคงอยากจะปฏิเสธเต็มทีแต่มันดันมีชื่อคนที่โอนเงินมาเด่นหราอยู่ในหน้ากระดาษ ซึ่งมันเป็นชื่อในนามของโรลส์-รอยซ์พอดี เลยกลายเป็นหลักฐานมัดตัวจนดิ้นไม่หลุด

“ ผะ ผม...ผม.....”    นัยน์ตาสีฟ้าคาดคั้นกดดันจนอีกฝ่ายไม่กล้ามองหน้า ร่างกายที่ร้อนลนจนแล้วซึ่งคำแก้ตัว หัวหน้าฝ่ายการตลาดจึงยอมสารภาพออกมาในที่สุด...

“ ผมขอโทษครับ!”    คนตรงหน้าก้มหัวขอโทษแต่มันไม่ได้ทำให้CEOหนุ่มนึกเห็นใจมีแต่จะโมโหมากขึ้นกว่าเดิม...ชายคนนี้ทำงานกับเขามาหลายโปรเจค ถึงฝีมือจะไม่ได้ดีเด่นอะไรแต่เขาก็ไว้ใจ

“ ผม...ผมเอาแผนนั่นไปขายให้โรลส์-รอยซ์เพราะว่าผมจำเป็นต้องใช้เงิน...ผม...ผมคิดว่าเดี๋ยวค่อยคิดแผนใหม่ให้เฟอร์รารี่ก็น่าจะได้.....”


ปึ้ง!


กำปั้นที่ทุบลงไปบนโต๊ะทำให้คนโดนสอบสวนสะดุ้งเฮือก

“ หึ! เดี๋ยวค่อยคิดให้เฟอร์รารี่ใหม่?...จะบอกอะไรให้นะ ว่าถ้าไม่มีชั้นคอยแก้ แผนการตลาดของนายก็ไม่มีวันขายได้หรอก!”   CEOหนุ่มกัดฟันมองคนที่นั่งตัวสั่นอยู่ตรงหน้าอย่างโกรธจัด

คนที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาโมโหจนเผลอเอาไปลงกับสเลน คนที่ทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้จนเผลอทำร้ายเด็กนั่นเข้า...ก็คือเจ้าผู้ชายคนนี้

แค่คิดถึงใบหน้าเจ็บปวดของสเลน คิดถึงบาดแผลที่เด็กนั่นได้รับจนถึงกับต้องหนีไปจากเขา แค่คิดถึงใบหน้าเศร้าๆที่ร้องไห้แทบเป็นแทบตายมันก็ทำให้สองมือถึงกับกำแน่น นัยน์ตาสีฟ้ามองหัวหน้าฝ่ายการตลาดอย่างเจ็บแค้น......หมอนี่...คือต้นเหตุ...

“ เรียกตำรวจมา! แจ้งข้อหาฉ้อโกงและให้ฝ่ายกฎหมายของเฟอร์รารี่ฟ้องร้องเอาค่าเสียหายสูงสุด!   คำสั่งประกาศิตทำให้คนผิดถึงกับลนลานเข้ามากราบกรานเขา

“ คุณครูเทโอ...ผมขอร้อง...เรา....เราน่าจะตกลงกันได้...”   อีกฝ่ายพยายามอ้อนวอน

“ ชั้นไม่มีอะไรจะตกลงกับนายทั้งนั้น”   แต่CEOหนุ่มก็ไม่คิดจะรับฟังและสะบัดตัวเตรียมเดินออกไป

“ ผม! ผมยกเงินก้อนนั้นให้คุณหมดเลยก็ได้! แค่อย่าเอาเรื่องผมจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเลย”    เพราะถ้ามีคดี...หมอนี่ก็จะทำอาชีพนี้ไม่ได้อีกเพราะคงไม่มีบริษัทไหนไว้ใจอีกแล้ว

ร่างสูงใหญ่หยุดยืนอยู่ที่ประตูก่อนจะพยายามห้ามใจไม่ให้หันกลับไปต่อยหมอนั่น...หึ...เงินแค่นั้นมันซื้อสเลน ทรอยยาร์ดคืนมาได้เสียที่ไหน!

“ เลขา...แจ้งข้อหาหมิ่นประมาทเพิ่มอีกกระทงด้วย...”   เสียงทุ้มเอ่ยโดยไม่หันกลับไปมองแล้วสองขาก็ก้าวออกมาจากห้องอย่างไม่ไยดี


ร่างสูงใหญ่เดินไปตามทางเดินหน้าห้องอย่างหมดแรง ความรู้ผิดยิ่งถาโถมเข้ามาเมื่อได้รู้ความจริงว่าสเลนไม่ได้ผิดอะไรเลยสักนิด

ทั้งๆที่ไม่ได้ผิดแต่กลับโดนเขาทำร้าย ถูกทำลายศักดิ์ศรีและความไว้เนื้อเชื่อใจ...คงโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเขาเอง

ใบหน้าหยิ่งทระนงถอนหายใจก่อนจะกลับมามีนัยน์ตามุ่งมั่น...มาถึงขั้นนี้แล้วคงปล่อยไปไม่ได้ ต่อให้จะยากเย็นแค่ไหนเขาก็จะทำให้เด็กนั่นกลับมาอยู่ข้างๆเขาให้ได้

รถประจำตำแหน่งแล่นกลับบ้านในเขตมอนชิโอ้เพราะในหัวสีทองจำได้ว่าวันนี้สเลนเลิกซ้อมตั้งแต่ตอนบ่าย อย่างเด็กนั่นคงไม่ได้ไปไหน ก็คงตรงกลับบ้านตามปกตินั่นแหละ


ทว่า...


เขาคิดผิด...

สเลนไม่ได้กลับมา...ไม่สิ...ต้องบอกว่ากลับมาแล้ว...แล้วก็ไปแล้วต่างหาก...

ร่างสูงใหญ่ยืนตัวช้าอยู่หน้าเฟอร์นิเจอร์ในบ้านเยเกอร์ที่ล้วนถูกคลุมด้วยผ้าสีขาว...เขาเห็นรถเต่าไม่อยู่เลยไขกุญแจบ้านเข้ามาดู...จึงได้รู้ว่าสเลนย้ายออกไปจากบ้านหลังนี้แล้ว


เด็กนั่น...จะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว...


ใต้แผ่นอกซ้ายเจ็บแปลบจนแทบจะยืนไม่อยู่ ร่างสูงใหญ่จึงทรุดนั่งลงไปที่โซฟาซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยทำแผลให้เด็กนั่นตอนที่ไฟดับ...ไม่มี...มันจะไม่มีภาพแบบนั้นอีกต่อไปอีกแล้ว

ทั้งๆที่คิดว่าจะอาศัยความใกล้ชิดที่อยู่บ้านติดกันเริ่มความสัมพันธ์ที่เคยตัดขาดนั่นขึ้นมาใหม่...แต่พอสเลนหนีเขาไปแม้แต่ที่นี่ก็ไม่กลับมา...เขาจึงเพิ่งรู้ตัวว่าโลกของเขากับเด็กนั่นมันช่างห่างไกลกันเหลือเกิน

เพิ่งรู้ตัว...ว่าสิ่งที่เชื่อมเราทั้งสองคนเอาไว้ สิ่งที่ทำให้เขาหลงรักเด็กนั่นก็คือบ้านหลังนี้...

แต่กว่าจะรู้สึกตัวก็ต้องสูญเสียมันไปเสียก่อน


นานแค่ไหนไม่รู้ที่เขานั่งอยู่แบบนั้น...

แสงแดดยามเย็นเปลี่ยนเป็นแสงไฟยามค่ำแต่เขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม...เขาเคยมีแฟนมาหลายคน แต่ไม่มีครั้งไหนที่เสียใจเท่าครั้งนี้ตอนที่เลิกกัน

ไม่สิ...กับสเลนจะบอกว่าเลิกก็คงไม่ได้ ในเมื่อเรายังไม่เคยเริ่มคบกันเลยสักวัน

เขาไม่อยากล้มเลิกความตั้งใจ...ไม่อยากเลิกหวัง...

เขารักเด็กนั่นมากเกินกว่าจะทิ้งมันไปง่ายๆ

ร่างกายสูงใหญ่จึงบังคับตัวเองให้ยืนขึ้นทั้งๆที่ยังรู้สึกวูบโหวง นัยน์ตาสีฟ้าเหม่อลอยด้วยความรู้สึกเศร้าหมอง สองขาเดินตรงไปยังห้องครัวซึ่งอยู่ด้านหลัง...เขาอยากจะเดิมพัน....

เดิมพันกับเรื่องเล็กๆที่เด็กนั่นกับเขามีร่วมกัน...หากสเลนทิ้งมันไปเขาก็จะยอมตัดใจ แต่ถ้าไม่...

มือใหญ่เปิดประตูห้องครัวเข้าไป เขาเคยเข้ามาที่นี่ตอนเด็กนั่นทำอาหาร เพราะงั้นเขาจึงรู้ว่าเจ้าสิ่งนั้นมันวางอยู่ตรงไหน

กล่องข้าวรูปหมีสีขาว...กล่องข้าวกลางวันของเขา...

อยากจะเดิมพันกับกล่องข้าวที่เขาเคยคิดว่ามันหน้าตาปัญญาอ่อน  ถ้าสเลนทิ้งมันไว้ที่นี่อย่างตั้งใจจะตัดขาดทุกอย่าง เขาก็จะเลิกหวังแล้วปล่อยเด็กนั่นไป แต่ถ้าสเลนเอามันไปด้วยก็แปลว่ามันยังมีความหมายกับเด็กนั่นอยู่

สองขาก้าวเขาไปใกล้ตู้ใส่ถ้วยจานด้วยหัวใจที่เต้นระรัว นัยน์ตาสีฟ้าจ้องมองผ่านบานทึบของตู้ราวกับจะมองให้ทะลุ ใจหนึ่งก็อยากรู้ว่ามันยังอยู่ไหม แต่อีกใจก็กำลังกลัว....

กลัวว่ากล่องข้าวนั่นจะยังอยู่ที่นี่....

มือใหญ่ค้างอยู่หน้าตู้ไม่รู้ว่านานแค่ไหน หัวใจเต้นอย่างรุนแรงจนรู้สึกได้ คิ้วสีทองขมวดเข้าหากันอย่างเตรียมใจยอมรับ...เพราะหากเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ตามหลักเศรษฐศาสตร์ที่เขาถนัด...โอกาสที่กล่องข้าวนั่นจะยังอยู่มันมีมากกว่า 90% เสียอีก

แต่เขาก็ยังอยากจะหวังกับอีก 10% ที่เหลือนั่น...

เพราะงั้นมือใหญ่จึงตัดสินใจดึงฝาตู้ออกมาก แล้วนัยน์ตาสีฟ้าก็ต้องเบิกกว้าง











ไม่มี.....




กล่องข้าวนั่นไม่ได้อยู่ที่นี่.....





มือใหญ่รื้อค้นหาจนทั่ว แต่ไม่ว่าจะในตู้ ที่อ่างล้างจาน ชั้นเหนือหัว หรือแม้แต่ในถังขยะก็ไม่มีวี่แววของเจ้ากล่องข้าวรูปหมีนั่นอยู่เลย

ไม่มี...มันไม่ได้ถูกทิ้งไว้ที่นี่...

นั่นก็แปลว่าสเลนเอามันไปด้วย...แปลว่าเด็กนั่นยังมีเยื่อใยให้เขาอยู่!

ใบหน้าหยิ่งทระนงยิ้มบางๆอย่างโล่งใจ...จากนี้ไปต่อให้จะยากเย็นแค่ไหนเขาก็จะทำให้เด็กนั่นกลับมาเป็นของเขาอีกครั้งให้ได้


เขาสาบาน









เพราะแบบนั้น...วันถัดไปร่างสูงใหญ่ของCEOหนุ่มจึงได้บุกไปถึงสนามฟิโอราโน

นัยน์ตาสีฟ้ากวาดมองกลุ่มคนในชุดสีแดงที่เดินสวนออกมาและไม่ว่าใครต่างก็มองนายใหญ่ของเฟอร์รารี่ด้วยสายตาหวาดผวา เพราะการที่CEOปีศาจมาถึงสนามด้วยตัวเองแบบนี้คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ประสบการณ์ที่ผ่านๆมาบอกลูกทีมม้าลำพองเอาไว้แบบนั้น คนส่วนใหญ่จึงเดินหนีให้ไกลเท่าที่จะทำได้

จะมีก็แต่ร่างโปร่งบางสองคนที่เดินคุยเรื่องรถกันไปจนไม่ได้สนใจรอบข้างนั่นแหละ

“ สเลน...”    เสียงทุ้มหลุดชื่อของอีกฝ่ายออกไปเบาๆเมื่อในที่สุดก็ตามหาเด็กนั่นเจอจนได้ ใบหน้าสวยที่กำลังคุยกับเอเลน เยเกอร์อยู่เงยขึ้นมองเขา สายตาที่สบประสานกันอย่างไม่ได้ตั้งใจทำให้ร่างกายทั้งคู่ต่างนิ่งค้างไป...ใบหน้าที่ไม่ได้เห็นมาหลายวันทำให้รู้สึกโหยหาจนอยากจะดึงตัวมากอดให้รู้แล้วรู้รอด ร่างสูงใหญ่จึงเดินเข้าไปหา

ทว่า...

ร่างโปร่งบางกลับเดินถอยหลัง...

“ เอเลน ชั้นขอตัวก่อน”   สเลนเอ่ยบอกกับวิศวกรของตัวเองทั้งๆที่ยังมองหน้าเขาตาค้าง ร่างโปร่งบางวิ่งหนีไปทันทีโดยที่ไม่ฟังแม้แต่เสียงเรียกของเอเลน เยเกอร์

“ เอ๋?! แต่เรายังคุยกัน.....”   ใบหน้ามนของเจ้าเด็กบ้านเยเกอร์อ้าปากค้างอย่างมึนงงที่จู่ๆคนที่กำลังคุยกันอยู่ดีๆก็วิ่งหนีไป  เขาได้แต่มองตามแผ่นหลังบอบบางด้วยหัวใจที่รู้สึกเจ็บแปลบ...เด็กนั่น...กลัวเขาและไม่ยอมให้อภัยเขาขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย...

“ อะไรของเค้าเนี่ย? ว่าแต่คุณ...มีอะไรล่ะ?”   นัยน์ตาสีมรกตดื้อรั้นที่เขาเห็นมันมาตั้งแต่เด็กหันมาจ้องเขาเขม็ง ทั้งพิตการาจสีแดงก็คงมีแต่เจ้าเอลวินกับพวกบ้านในเขตป่าของมาราเนลโลนี่แหละมั้งที่ไม่กลัวไม่เกรงเขา

“ ชั้นเอากุญแจบ้านของเธอมาคืน”    มือใหญ่ยื่นกุญแจคืนให้...ในเมื่อสเลนไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนั้นแล้ว กุญแจนี่มันก็ไม่จำเป็นสำหรับเขาอีกต่อไป

“ อ่อ...ครับ”   ที่จริงเรื่องกุญแจมันก็เป็นแค่ข้ออ้างเพราะที่เขามาสนามฟิโอราโนก็เพราะอยากคุยกับสเลนมากกว่า ในเมื่อเด็กนั่นไม่อยู่ตรงนี้แล้ว เพราะงั้นเขาจึง

“ ขอตัว”   ร่างสูงใหญ่หันหลังเดินจากไปทันที ทำเอาคนที่เพิ่งรับกุญแจมามองตามด้วยความมึนงง

“ เอ๊ะ? อะไรของพวกนี้เนี่ย?! คนนึงก็หนีไปดื้อๆ อีกคนจู่ๆจะมาก็มาจะไปก็ไป!   ร่างโปร่งบางยืนเท้าสะเอวด้วยใบหน้างอหงิก

“ เจ้าหมีขาวนั่นมันมาทำอะไร?”    เสียงของอดีตนักขับมือหนึ่งทำให้เอเลนหันไปมองว่าคุณรีไวมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

“ หมี? หมีที่ไหนล่ะครับ?  อ๊า~~ กลับบ้านกันเถอะ! ไหนๆก็ไม่มีใครอยู่ให้คุยด้วยแล้ว!”    ใบหน้ามนฟึดฟัดอย่างไม่สบอารมณ์เนื่องจากยังไม่ทันจะคุยกับสเลนจบ แต่อีกคนก็พูดออกมาด้วยท่าทางไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร

“ ไปสิ ชั้นน่ะจะที่นี่หรือที่บ้านก็ได้ทั้งนั้นแหละ”   มือแข็งแรงยื่นออกมาเพื่อรอให้มือบางจับมันเอาไว้

“ พูดเรื่องอะไรของคุณน่ะครับคุณรีไว?....”    นัยน์ตาสีมรกตเหล่มองใบหน้านิ่งๆนั่นอย่างไม่ไว้ใจก่อนจะยื่นมือออกไปจับมือของอีกฝ่ายไว้แล้วเดินออกไปด้วยกัน

คนกลุ่มท้ายๆเริ่มทยอยกลับไปแล้วแบบนี้ทำให้พิตการาจสีแดงกลับเข้าสู่ความเงียบงัน




แต่กระนั้นก็ใช่ว่าจะกลับกันไปหมดแล้วเสียทีเดียว...




นักขับมือสองของทีมม้าลำพองก้าวขาเร็วๆเพราะรู้ว่ามีคนตามอยู่ ใบหน้าได้รูปก้มหน้าก้มตาเดินต่อไปโดยไม่หันไปมอง แล้วร่างที่บางราวกับแมวก็หลบแผล๋วเข้าไปในห้องๆหนึ่งซึ่งดูเหมือนกับปิดอยู่

แผ่นหลังบางพิงแนบไปกับประตูก่อนจะแอบดูจากช่องกระจกที่ติดอยู่ด้านบนด้วยหัวใจที่เต้นระรัว...หัวสีทองเดินผ่านหน้าห้องไปอย่างที่คิด...คุณครูเทโอตามเขามาจริงๆด้วย...

มือบางยกขึ้นปิดปากด้วยสีหน้ากังวล...ผู้ชายคนนั้นต้องการอะไรจากเขาอีก จะบีบให้เขาอยู่ไม่ได้แม้แต่ที่นี่เลยใช่ไหมถึงได้ตามไม่เลิกแบบนี้

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงดีใจ...แต่พอเกิดเรื่องในคืนนั้นเขากลับกลัวมันมาตลอด...

ไหล่บางสะดุ้งเฮือกเมื่อรับรู้ว่ามีสายตาของใครบางคนจับจ้องมองอยู่ ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชาค่อยๆหันไปมองอย่างตื่นๆ...ห้องนี้ก็มีทางเข้า-ออกแค่ทางเดียวนี่? แล้วCEOหนุ่มเข้ามาได้ยังไง?

“ โค...โม...ริ....”    แต่ในขณะที่ประสาทรับรู้กำลังเกร็งเขม็ง เสียงเรียกนิ่งๆกับชื่อเรียกที่มีเพียงคนเดียวที่เรียกเขาแบบนั้นก็ทำให้ถอนหายใจแทบไม่ทัน

“ .....คุณอินาโฮะ....อย่าทำให้หัวใจจะวายสิครับ....”    ร่างโปร่งแทบจะทรุดนั่งลงกับพื้นอย่างโล่งใจที่อย่างน้อยคนตรงหน้าก็ไม่ใช่คนที่กำลังตามล่าเขา...นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองเทรนเนอร์ประจำตัวที่ยังทำหน้าซังกะตายไม่เปลี่ยน...ถึงจะดูเหมือนคนที่ไม่น่าจะช่วยเหลือใครได้แต่ ไคซึกะ อินาโฮะ ก็เป็นเทรนเนอร์มือดีที่เฟอร์รารี่ไปดึงตัวมาจากทีมแข่งรถชั้นนำของญี่ปุ่นเลยทีเดียว เพราะงั้นต่อให้จะอายุไล่เลี่ยกันเขาก็พูดกับอีกฝ่ายด้วยความสุภาพอย่างตั้งใจจะให้เกียรติ

“ หื๋ม........”   แต่คนที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แถมยังเรียกเขาว่า เจ้าค้างคาวบางครั้งก็ดูน่าหมั่นไส้จนอดที่จะหันหน้าหนีไม่ได้

“ อะ...อะไรครับ?”    ไม่รู้เป็นไง เขาถึงไม่สามารถจะสู้สายตาราวกับปลาตายที่จ้องอย่างไม่คิดจะปิดบังนั่นได้สักที เป็นต้องหันหน้าหนีไม่ก็เผลอทำอะไรเปิ่นๆให้อีกฝ่ายลอบยิ้มได้ทุกที!

“ มีเรื่องอะไรหรือไง? ปีกนายบาดเจ็บอยู่นี่โคโมริ”   ห๋า? ปีก? บาดเจ็บ? พูดอะไรไม่รู้เรื่อง! แต่ถึงจะพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้แต่คนตรงหน้าก็จบทางด้านจิตวิทยามาโดยตรง เพราะงั้นคงจะจับความเจ็บปวดบนใบหน้าของเขาได้ละมั้ง

“ มะ ไม่มีอะไรหรอกครับ....”   ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชาเอ่ยปฏิเสธพร้อมกับเสมองไปทางประตู ทำให้คนที่ดูอยู่รู้ได้ทันทีว่าคนที่มีเรื่องด้วยคงจะเป็นผู้ชายผมทองที่เดินตามมาคนนั้นสินะ

“ ถ้างั้นก็มาเทรนกันเถอะ”   แต่เทรนเนอร์ประจำตัวก็ทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วลากร่างโปร่งบางเข้าไปในห้อง...ถ้าจำไม่ผิด...ผู้ชายคนนั้นคือCEOของเฟอร์รารี่ที่ชื่อครูเทโอ? เขาไม่รู้จัก ไม่เคยพบกับคนคนนั้นตรงๆหรอก เคยเห็นหน้าผ่านทางหนังสือพิมพ์เท่านั้นแหละ...ไม่รู้ว่ามีอะไรกันหรอกนะ แต่มาตามถึงนี่คงจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆ

“ ถอดเสื้อออกสิ”   เทรนเนอร์จากแดนอาทิตย์อุทัยถือแผ่นชาร์ตก่อนจะหันมาบอกด้วยใบหน้าที่ราวกับว่ามีพิมพ์เดียว

“......ต้องวัดอะไรกันทุกวันนะครับ...โธ่....”   นักขับมือสองของเฟอร์รารี่บ่นงึมงำแต่มือก็รูดซิปชุดหมีสีแดงลงก่อนจะถอดเสื้อตัวในจนท่อนบนเปลือยเปล่า

“ ชั้นก็ต้องเก็บเอามาเป็นข้อมูลเพื่อวิเคราะห์น่ะสิ ว่าจะทำยังไงให้ร่างกายที่ไร้กล้ามเนื้อของนายแข็งแรงพอที่จะทนต่อความเร็ว350กิโลเมตรต่อชั่วโมงตลอดทั้งการแข่งเกือบๆสองชั่วโมงนั่นได้ไงล่ะ...ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่ต้องทำขนาดนี้หรอกแต่นี่เพราะว่าร่างกายของนายมันไร้กล้ามเนื้อไงล่ะ”    ....อื้อ...ไม่ต้องย้ำกันถึงสองรอบก็ได้ว่าร่างกายเขามันไร้กล้ามเนื้อ ไม่สมชายชาตรี หุ่นไม่ดี ไม่มีใครอยากมองน่ะ!

ว่าแต่เลิกเอานิ้วจิ้มตามผิวของเขาราวกับจิ้มเนื้อไก่เวลาไปจ่ายตลาดซักทีเถอะ มันจักจี้!

ใบหน้าได้รูปที่เม้มริมฝีปากแน่นแล้วหันมามองด้วยตาเขียวปั้ดน้ำตาปริ่มทำให้ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีดำแอบขำในใจ เวลาแหย่ทีไรก็สู้ไม่ได้บ้าง ลนลานบ้าง ตื่นๆบ้างอย่างนี้มันทำให้สนุกทุกที

เขาปล่อยให้เจ้าของผิวสีขาวราวกับหิมะหันไปบ่นงึมงำอยู่คนเดียว ปลายนิ้วของเขาลากสำรวจแผ่นหลังบอบบางจนไม่คิดว่าจะเป็นร่างกายของนักกีฬานั่นช้าๆ ถึงจะไม่มีกล้ามเนื้อแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหมอนี่มีร่างกายที่สวยงามจริงๆ...สวยงาม...จนบางครั้งเขาก็เผลอสัมผัสทั้งๆที่ไม่จำเป็นต่อการเทรนเลยสักนิด

แต่แล้วรอยจางๆของอะไรบางอย่างที่หลงเหลืออยู่บนผิวใสๆนั่นก็ทำให้ปลายนิ้วถึงกับสะดุดหยุดอยู่กับที่...นี่มันรอยอะไรกัน...?

“ เสร็จรึยังครับ? มันหนาวนะครับ”   ใบหน้าของสเลนหันมามองด้วยสายตาเคลือบแคลงแต่เขาก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หยิบสายวัดตัวมาขึงรอบแผ่นอกบางนั่นต่อ

“ ไม่ได้หนาขึ้นเลยซักมิล...”   ถึงจะพูดด้วยเสียงนิ่งแต่มันก็ทำให้คนถูกทักหน้าแดงเถือกด้วยความอายในร่างกายที่ไม่สมชายชาตรีของตัวเอง

“ โธ่...ช่างมันเถอะน่า! จะเทรนก็รีบเทรนเถอะ วันนี้มันเย็นแล้วนะครับ!”   ร่างโปร่งขยับหนีก่อนจะสวมเสื้อกลับตามเดิม รอยแดงระเรื่อที่ลามมาจนถึงใบหูทำให้คนแหย่ชอบใจ นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงทอดมองไปยังคนที่เดินไปที่เครื่องออกกำลังคอ...บอกตามตรงว่าเขาถึงกับกุมขมับตอนที่รู้ว่าต้องมาเป็นเทรนเนอร์ให้เจ้าคนที่ผอมกะหร่องนั่น... แต่ยิ่งอยู่ด้วยกันนานวันเข้า เขาก็ยิ่งรู้สึกสนุก...ยิ่งชอบ...









นักขับมือสองของทีมม้าลำพองสะพายกระเป๋าไว้บนไหล่ก่อนจะเดินออกจากอาคารในสนามฟิโอราโนด้วยท่าทางล้าๆ นัยน์ตาสีมรกตแทบจะปิดให้ได้ ตอนนี้เขาอยากนอนเต็มที เมื่อวานทั้งเก็บของย้ายบ้านแล้ววันนี้ยังต้องมาซ้อมมาเทรนจนพลังงานแทบจะไม่มีเหลืออยู่แล้ว

มือบางจึงเปิดประตูรถเต่าสีเหลืองอ่อนด้วยสภาพเบลอๆ ร่างกายเหนื่อยล้าแถมกำลังใจยังไม่มีอีก สิ่งที่ดีที่สุดคงเป็นการได้หลับสักงีบแค่นั้นนั่นแหละ

“ เฮ้อ...”   ใบหน้าได้รูปถอนหายใจในขณะที่สตาร์ทเครื่องยนต์ก่อนจะขับออกไป และด้วยความที่เหนื่อยจนไม่ได้มองรอบกายจึงไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีเฟอร์รารี่สีขาวดักรออยู่

และตอนนี้ Ferrari 458 Italia ก็กำลังสะกดรอยตาม Volkswagen New Beetle Cabriolet ไปติดๆ!









.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

To be Con.






โผล่มาแล้นตัวละครลับ555 เพื่อสีสันความรักของท่านเคานต์ค. ก๊ากๆๆๆๆ // โดนไม้เท้าฟาด

มีคนส่งแฟนอาร์ตมาให้อีกแล้ว งื้ออออออ ขอบคุณมากๆๆนะคะ >////<

เริ่มจากฉากงานเลี้ยงจากน้องเอแคลร์ ในรูปกำลังตบจูบกันเรยแต่คนดูรู้สึกฟินยังไงบอกไม่ถูก >////<






และพ่อCEOที่น่าหมั่นไส้เวอร์ชั่นใส่สูทถือแส้จากน้องปริมศรี 55555+ น่าสงสารน้องเหมียวจริงๆ กร๊ากกกกก





ขอบคุณทุกๆการติดตาม ทุกๆคอมเม้นต์จากตอนที่แล้วด้วยนะก๊า รีบแปะ รีบไปปั่นพญาเหยี่ยวต่อ แฮ่กๆๆ







8 ความคิดเห็น:

  1. 3 ........ 2 .......... 1 ............ กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ท่านครูขาาาาาาาาาาาาาาาาา บ่าวอยากกริ๊ดค่ะ ท่านครู ทำไมทำตัวน่ารักน่าฟัดแบบนั่นนนนนนนนนนนนนน

    ตอบลบ
  2. กรี๊ดดดด รีบๆไปง้อหนูสเลนนะคะ ท่านครูเทโอ //อยากเห็นท่านครูง้อหนูสเลนมากๆเลย โหมดหวานน ละลายหัวใจสเลนอีกซักรอบ อร๊ายยย

    ตอบลบ
  3. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  4. อะแฮ่มๆ เมื่อสี่ตอนที่แล้วเหมือนจะมีคนปฏิเสธตัวเองแล้วพยายามหนีหน้าสเลน
    แล้วตอนนี้มันอะไรรรร

    [[ แล้วซาสบาร์มจะได้รู้กัน...ว่าหากจะฝากอนาคตของโรลส์-รอยซ์ไว้ที่สเลน...คนที่เก่งพอจะอยู่ข้างๆเด็กนั่นได้ คนที่จะทำให้โรลส์-รอยซ์ผงาดค้ำฟ้าต่อไป...ต้องเป็นเขาเท่านั้น ]] ประโยคนี้มัน... ตั้งใจจะไปเป็นเขยท่านซาสเต็มที่เลยนี่หว่า 555

    สู้ๆนะคะท่านเคานต์ค. อ่อนโยนเข้าไว้ ตอนนี้สเลนกลัวไปหมดแล้วนะคะนั่น T.T

    ตอบลบ
  5. ลุ้นโฮะมากค่ะ เจ้าเล่ห์ซะจริง
    คุณครูเทโอ้คะ ตื้อค่ะ อ่อนโยนค่ะ เท่านั้นค่ะ!!!!
    น้องสเลนอย่าใจอ่อนง่ายนะคะ ฮาาาาาา

    ตอบลบ
  6. โอ้ยแซ่บบบบบบ
    โฮะโผล่มาแล้ว มันส์ค่ะมันส์ ><

    ตอบลบ
  7. เดี๋ยวพอเจอกันต้องเผลอข่มขืนเนื่องด้วยหงุดหงิดที่สเลนวิ่งหนีแหงเลยนี่ เคานท์ครูเป็นแบบนี้เราโคตรเซ็ง ขอบอก ...เรานี่พากย์ตามทั้งตอนอ่ะ
    ..ค่อยดีหน่อยนาโอะคุงโผล่ละ มีแค่หน้าเดียวแต่มาทีก็ให้คุ้มค่าตัวหน่อยเน่อ

    ตอบลบ
  8. จะบอกว่าชอบคู่ส้ม ค้างคาวมากกว่า งึ้ยยย

    ตอบลบ