[Re-view] ตกหลุมรัก The Series ที่ดาวแม่ : Italia : ROME 01



: KW Original
: Romantic??
: PG (คือ...ถ้าไปกับเอเลนอาจจะ NC // โดนตบ)








เหมือนรีวิวของญี่ปุ่นก็ยังไม่เสร็จเนอะ ช่างมันแบ้วกัน // โดนเตะ

สำหรับทริปนี้เป็นทริปที่บอกตามตรงว่าไปกันแบบงงๆอีกแล้วค่ะ =[ ]= คือคุณกวางมันก็นั่งหาข้อมูลของประเทศอิตาลีเพื่อใช้แต่งฟิคเรื่อง GLIDE แล้วจู่ๆคุณเพื่อนก็ผีเข้าอะไรไม่รู้โทรมาว่า...กวาง ไปอิตาลีกัน....แน่นอนว่าเพราะกำลังบ้า GLIDE ขั้นแมกซ์เลยตอบตกลงไปแทบจะทันที...Orz...ฟิคเรื่องนี้ทำให้ตรูติดรถแข่งและเสียเงินอีกเป็นแสนเพื่อไปเก็บข้อมูล(?)ถถถถ

ก็เลยจะมาเล่าสู่กันฟังค่ะว่าไปเจออะไรมาบ้าง เพิ่งเคยก้าวขาออกจากเอเชียเป็นครั้งแรกเป็นอะไรที่รู้สึกแปลกใหม่ทีเดียวเพราะทางฝั่งยุโรปไม่เหมือนฝั่งเอเชียอย่างญี่ปุ่น จีน หรือข้างบ้านเราอย่างเวียดนาม สิงคโปร์เลย อย่างน้อยก็เรื่องชานม...หากินยากบัดซบเลยเว้ยค่ะะะะะ คุณกวางถึงขนาดต้องพกแบบซองชงเองไปจากประเทศไทยอ่ะ ไม่งั้นคงลงแดงตายไม่รอดกลับมาแน่ TvT ชีวิตคนติดชานมก็งี้ TvT

กลับมาเข้าเรื่องต่อ ส่วนใหญ่เวลาใครถามว่าไปไหนก็จะตอบว่าไปอิตาลีเพราะง่ายดี แต่ที่จริงแล้วทริปนี้ยังไปแวะอีกสองที่คือ สวิตเซอร์แลนด์และฝรั่งเศสค่ะ ลากกระเป๋าไปกันเองสองนางเหมือนเดิม ก็เริ่มต้นเหมือนชาวบ้านชาวเมืองเค้านั่นแหละค่ะคือการไปขอวีซ่า สำหรับสามประเทศนี้เราสามารถขอวีซ่าเชงเก้นครั้งเดียวก็เข้า-ออกได้หมดค่ะ แต่สำหรับมือใหม่ในการขอวีซ่าเชงเก้นอย่างคุณกวางนี่ค่อนข้างทุลักทุเลทีเดียวกว่าจะได้มา TvT คุณกวางอยู่ที่อิตาลีนานสุดคือ 5 วันแล้วก็เข้าอิตาลีเป็นประเทศแรกเพราะงั้นจึงต้องไปขอวีซ่าที่ VFS ITALY ขอบอกสำหรับคนที่จะไปขอวีซ่าอิตาลีนะคะ รีบไปทำแต่เนิ่นๆเถอะเพราะคุณกวางใช้เวลาขอ 1 เดือนเต็มถถถถ แค่ตอนเข้าไปยื่นเรื่องก็แทบอ้าปากค้างเพราะคนเยอะมว๊ากกกกกกก ขนาดไปแปดโมงครึ่งยังได้คิวที่ 90กว่า =[ ]= ถึงคนรับเรื่องจะน่ารักและตรวจเอกสารเร็วแต่ก็ตรวจละเอียดมากกกกกกกกกก เอกสารที่ใช้ก็เยอะมากกกกก ต้องขึ้นๆลงๆแก้เอกสารตั้งสองรอบอ่ะกว่าจะผ่าน...กว่าจะแก้เอกสารกว่าจะยื่นเสร็จอะไรเสร็จปาไปบ่ายสี่โมงเย็น *ทรุด*  หลังจากนั้นท่านก็เงียบหายไปอาทิตย์กว่าๆค่อยโทรมาที่ออฟฟิศคุณกวางค่ะ ก็สอบถามไปตามเรื่องตามราวว่ามีพนักงานชื่อนี้ไหม ออฟฟิศทำงานเกี่ยวกับอะไร จากนั้นก็หายไปอีกอาทิตย์กว่าๆ คราวนี้โทรมาขอนัดสัมภาษณ์คุณเพื่อนของคุณกวางคนเดียว =[ ]= มันเลยต้องบินจากขอนแก่นลงมากรุงเทพอีกรอบเพื่อสัมภาษณ์โดยเฉพาะ = ="" แถมคิวเต็มเหยียดกว่าจะถึงวันนัดรวมแล้วก็ 1 เดือนพอดี = ="" คือหลังจากสัมภาษณ์แค่วันเดียวท่านก็โทรมาแจ้งว่าให้ไปรับเล่มคืนได้ ผ่านแล้วจร้า TvT

นะ ด้วยความที่ลุ้นวีซ่าจนไฟมอด แผนทงแผนเที่ยวเลยไม่ได้เริ่มทำเท่าไหร่มาเผาเอาวันสุดท้ายอีกแล้วค่ะ ฮืออออ แล้วมันไม่เหมือนญี่ปุ่นไง ต้องเริ่มศึกษาใหม่หมดทั้งการขึ้นรถไฟ รถใต้ดิน รถบัส บลาๆๆ สรุปว่าทริปนี้เป็นการไปเที่ยวแบบมั่ว งง หลงสุดหูรูด555

แล้วก็อีกนั่นแหละ กว่าวีซ่าจะผ่านก็เหลือเวลาก่อนเดินทางไม่มากต้องตะบี้ตะบันจองออนไลน์ตั๋วรถไฟเอย ตั๋วเข้าสถานที่เอย วุ่นวายสุดขีดมากค่ะช่วงนั้น ^ ^" ข้ามไปแล้วกัน // โดนเตะอีกรอบ

มาเริ่มบินกันดีก่าาาาา >////<

ในที่สุดชีวิตยาจกนี้ก็มีโอกาสได้นั่งการบินไทย น้ำตาไหลพราก ที่น้ำตาไหลนี่ไม่ใช่อะไร แพงสลัดเลยค่ะ พรากๆๆ แต่อยากบินตรงด้วยความสบายนิดนึงก็เลย เอาวะ ขึ้นไปได้ก็กินแล้วก็นอน ตื่นอีกทีได้เวลากินอีกแล้ว =[ ]= คือเวลาที่อิตาลีจะช้ากว่าบ้านเรา 5หรือ6ชั่วโมงนี่แหละ เพราะงั้นเลยเท่ากับว่าอยู่บนเครื่องบินราวๆ 10 ชั่วโมงได้ แต่ไอ้เรื่องนอน 10 ชั่วโมงนี่สามารถอยู่แล้วอ่ะนะ5555 เพราะงั้นพอตื่นอีกทีบรรยากาศข้างนอกเครื่องบินเลยเป็นแบบนี้





แอร๊ยยยยย เริ่มสว่างแบ้วค่า >/////< ป่ะหนูเลน...ซักแชะลูก (ปล.รูปไม่ได้แต่งเพราะขี้เกียจอีกแล้วนะคะ5555 มาจากมือถือไงก็ลงแม่งงั้นแหละถถถถ)





คือหอบเอเลนกับคุณรีไวขึ้นเครื่องด้วยค่ะ ตอนตรวจกระเป๋าก่อนเข้าตม.ของไทยนี่เค้าส่องกระเป๋าคุณกวางอยู่นานมากกกกกก คงสงสัยว่าอินี่มันเอาตัวอะไรมาด้วยเนี่ย5555

ส่วนอันนี้บินอยู่เหนือน่านฟ้าอิตาลีแง้ว >////< ที่ไหนไม่รู้อ่ะแต่ท่าจะหนาวน่าดู




ในเครื่องบินนี่โหวกเหวกโวยวายมากค่ะ คือไปกับแก๊งพี่เลี่ยน(อิตาเลี่ยน)คณะใหญ่ เค้าสนุกสนานและทำตัวอย่างกับอยู่บ้านมาก555 ตอนถ่ายรูปอยู่นี่ก็มีพี่เลี่ยนคนหนึ่งมาคุยด้วย ภาษาอังกฤษตรูก็ยิ่งง่อยๆอยู่ถถถถ เค้าถามว่าจะมาเรียนเหรอ แอร๊ยยยยย ไอเลิฟอิตาลีก็เพราะแบบนี้แหละ >////< เป็นป้าแล้วค่ะไม่ได้ไปเรียนแต่ไปเที่ยวค่ะ กร๊ากกก

จนแล้วจนรอดก็ไปถึงสนามบิน Fiumicino Rome Italy โดยสวัสดิภาพ คือหล่อตั้งแต่ ตม.เลยทีเดียว *q*  ตอนเข้าอิตาลีไม่ต้องกรอกใบเข้าประเทศด้วยค่ะ ตอนแรกก็งงๆกับเพื่อนว่าทำไมบนเครื่องบินเค้าไม่แจกให้เรานะ บ้านนอกมากถถถถ  แล้วสนามบินเค้าก็ตื่นตาตื่นใจมาก จากอาคารที่ลงจากเครื่องบินมามันต้องนั่งรถไฟเพื่อไปอาคารที่รับกระเป๋ากับตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)อีกทีค่ะ คือเดินตามเค้าไปนะถึงได้รู้ นี่ถ้าเผลอเข้าห้องน้ำนานกว่านี้จนชาวบ้านเค้าไปกันหมดแล้วคงหาทางเข้าประเทศพี่เลี่ยนไม่เจอแน่ = ="" เหมือนหนังไซไฟเลยอ่ะ ที่เดินๆอยู่ก็ไปถึงชานชลาแบบงงๆแล้วก็มีโบกี้รถไฟที่ดูไม่ออกว่านั่นมันรถไฟเปิดอ้ารออยู่ =[ ]= 

นะ...ก็รับกระเป๋า ตรวจคนเข้าเมืองเสร็จก็ไม่น่าจะเกินเจ็ดโมงเช้า เป็นไฟล์ทที่เวลาดีมาก >w< 

จากนั้นก็เข้าเมืองโรมด้วยรถไฟค่ะ เดินตามป้ายที่เป็นรูปรถไฟไปเรื่อยๆ ลอดอุโมงไปอีกอาคารนึงก็จะเจอชานชลารถไฟเองแหละ สถานีรถไฟของอิตาลีนี่เข้าใจง่ายมากกกกกกเลยค่ะ ไม่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนแบบสถานีรถไฟญี่ปุ่น เพราะงั้นไม่มีอะไรต้องกลัวค่ะ555 รถไฟที่คุณกวางขึ้นก็ขบวนนี้  Fiumicino Aeroporto(07:53)-->Roma Termini(08:25) 00:32 ชม. ขบวนLEONARDO EXPRESS 3243 คนละ 14 EUR ตั๋วหน้าตาแบบนี้ค่ะ





อันที่จริงสามารถจองอนไลน์ได้นะขบวนนี้ แต่คุณกวางกลัวเครื่องบินดีเลย์เลยไปซื้อเอาดาบหน้าค่ะ  ภาพบรรยากาศภายในสถานีเป็นงี้ 




ที่กั้นมันจะเปิดตลอดเวลา หน้าที่ของเราก็คือเดินผ่านเข้าไปแล้วก็เอาตั๋วไปตอกบัตรที่เครื่อง Validateสีเขียวๆแดงๆที่เกาะอยู่ตรงรั้วน่ะ คือมันจะมีฝั่งนึงที่เครื่องนี่มันเสีย คุณกวางกับคุณเพื่อนก็สอดตั๋วเข้าไปสิมันก็ยังแน่นิ่ง เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากเพราะรถไฟก็กำลังวิ่งเข้ามาแล้ว ตอนนั้นงงมากจะถามใครก็ไม่มีพนักงานให้ถามซักคน ฝรั่งข้างหน้าเลยวิ่งออกไปถามคนขายตั๋ว ส่วนคุณกวางหันไปหันมา ลองตอกแม่งทุกเครื่องเลยเป็นไง? เลยเอาตั๋วไปสอดในเครื่องฝั่งตรงข้ามปรากฏว่า -ติ้ด- มีเสียงดังพร้อมกับไฟเขียวขึ้น......= =" สรุปว่าอิเครื่องเดิมมันก็แค่เสียสินะ ทำตรูเกือบตกรถไฟถถถถ

รถไฟมาแง้ว....




จากที่สนามบินมันจะวิ่งรวดเดียวไม่จอดไหน ลงอีกทีก็ที่สถานี Roma Termini เลยค่ะ เป็นสถานีรถไฟใหญ่สุดของโรม แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะหลง ที่นี่ทุกชานชลาจอดเรียงกันเป็นแพ ไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นๆลงๆด้วยอ่ะเพราะชั้นชานชลามันอยู่บนดินเลย ช๊อบชอบ >////< เข้าใจง่ายสุดๆ

คุณกวางพักที่โรงแรมใกล้ๆสถานีค่ะ ไปถึงอย่างเช้าไอ้เราก็นึกว่ามีเวลาชิลๆแน่เพราะจองตั๋วเข้าวาติกันไว้ตอน 11 โมง...ที่ไหนได้...หาโรงแรมเจอแต่เข้าไม่ได้เว้ยค่ะะะะะะ =[ ]= 


รูปนี้เป็นภาพแรกของโรมที่เห็น >////<โรงแรมอยู่ในบรรดาตึกเหล่านั้นแหละค่ะ  สายดำๆนั่นไม่ใช่สายไฟฟ้าแจกตามบ้านแต่เป็นสายไฟของรถรางค่ะ อาคารในโรมก็จะเป็นแบบนี้แทบทั้งหมด เรียกว่าร้านค้าต่างๆจะถูกตกแต่งให้เนียนๆไปกับอาคารที่ดูเก่าๆพวกนี้ เป็นอะไรที่งามมากๆเลยค่ะ





คือโรงแรมขนาดเล็กในอิตาลีน่าจะเป็นแนวนี้เยอะนะคะ เหมือนดัดแปลงจากอพาทร์เม้นต์อะไรงี้ เพราะทริปนี้คุณกวางมีโอกาสไปนอนในอพาทร์เม้นให้เช่าด้วย ผังอาคารเหมือนกันเลย  คือเราจะเห็นด้านหน้าตึกเป็นแบบนี้ใช่ป่ะ แต่ข้างในมันมีโรงแรมอยู่เพี้ยบเลย คือมันจะเป็นคอร์ตแล้วก็มีลิฟท์โบราณตัวเล็กๆอยู่ตรงกลาง โรงแรมนึงก็ชั้นนึงหรืออาจจะมีหลายชั้นก็แล้วแต่ คือทางเข้ามันจะเป็นประตูไม้ใหญ่ๆอย่างกะประตูวัดบานนึงค่ะ ถ้าเราไปถึงเราก็ต้องกดปุ่มcallเรียกที่โรงแรมให้เปิดประตูนั่นให้อ่ะ แล้วทีนี้โรงแรมที่คุณกวางพักกดเรียกเท่าไหร่ก็ไม่เปิด =[ ]= เอาแล้วไง...ทำไงดีฟ๊ะ ตอนแรกไม่รู้ระบบเค้าค่ะ ก็เดินวนไปวนมาหาทางเข้าแต่ก็ไม่มีตรงไหนน่าจะเป็นทางเข้าเท่าอิประตูบานควายนี่อีกแล้ว เลยเดินไปตึกข้างๆค่ะ เห็นชื่อโรงแรมเรียงเป็นตับเลยลองขึ้นไปมั่วๆดู ปรากฏว่าไปเจอเจ้าของโรงแรมนึงกำลังยืนคุยอยู่ตรงหน้าลิฟท์พอดี เค้าก็ใจดีมว๊ากกกก โทรถามให้ แต่...โทรไปก็ไม่รับ =[ ]= เค้าเลยเดินไปส่ง คือเค้าไม่ใช่คนในตึกนั้นเลยเข้าไปไม่ได้เพราะไม่มีกุญแจ สรุปก็คือจากที่เดินหากันสองคนเลยมีคนมาช่วยหาเพิ่มอีกคนโดยที่ยังเข้าไม่ได้เช่นเดิมถถถถถ ก็เลยรอจนมีคนในตึกออกมาค่ะ และด้วยความที่เจ้าของโรงแรมที่ไปช่วยหาเป็นคนอิตาลีเลยเจรจาจนเข้าไปได้ แล้วเหมือนเจ้าของโรงแรมที่คุณกวางจองไว้จะได้ยินว่ามีคนcallเรียกนะเลยลงมาดู แล้วพี่ทำไมไม่ตอบอัลไลหนูเลยละคร้าาาา ก็นั่นแหละ...กว่าจะเข้าได้เวลาก็ผ่านไปเกือบชั่วโมง =[ ]=

แปะรูปลิฟท์โบราณ คือมันน่ารักอ่ะะะะ >w< เป็นลิฟท์กรุไม้ค่ะแล้วก็จะเปลือยๆงี้แหละ เห็นเสาเห็นสายเห็นทุ่นน้ำหนัก คือเห็นโครงสร้างมันทุกอย่าง5555 แล้วเวลาใช้นะ มันจะมีประตูสองชั้นค่ะ บานนึงเป็นซี่ระแนงเหล็กของแต่ละชั้น ส่วนอีกบานเป็นบานไม้แบบบานเปิดคู่ของตัวลิฟท์ เวลาจะขึ้นลงต้องปิดประตูทั้งสองบานให้สนิท ไม่งั้นมันไม่ขยับนะเออ เพราะงั้นตอนออกจากลิฟท์เราก็ต้องปิดให้ดีค่ะ ไม่งั้นคนชั้นอื่นจะเรียกลิฟท์ไม่ได้ = =" ดูน่ารักแต่ยุ่งยากสุดหูรูดเลย5555

โครงเป็นเหล็ก ส่วนตัวลิฟท์ข้างในเป็นไม้ค่ะ




นี่ข้างในลิฟท์ คลาสสิคป่ะล่า >////< ตอนเห็นครั้งแรกนี่งงอ่ะ 5555




เข้าไปพักเล็กน้อยก็ได้เวลาออกตะลอนในโรมแง้ว เย้~~ ก่อนอื่นก็ระบบคมนาคมในโรม....เค้าจะมีรถไฟใต้ดินเรียกว่า Metroในโรมมีอยู่ 2 สายค่ะคือสาย A กับสาย B นอกนั้นก็เป็นรถรางกับรถเมล์ ซึ่ง...ตั๋วโดยสารของเค้าเป็นมิตรมากเลยอ่ะชอบ >w< เพราะว่าเราสามารถขึ้นอะไรก็ได้ไม่ว่าจะรถไฟใต้ดิน รถราง รถเมล์ ขึ้นแบบไม่จำกัดเที่ยวภายในเวลา 100 นาทีค่ะ(แต่รถไฟใต้ดินขึ้นได้เที่ยวเดียวนะ อย่างอื่นไม่จำกัด) คือถ้าจะไปไหนที่ต้องต่อหลายๆต่ออย่างในไทยบ้านเราก็ต้องเสียมันทุกสายเลยใช่ป่ะตั้งแต่รถเมล์ BTS รถเมล์อีกรอบอะไรงี้  แต่ที่อิตาลีเสียทีเดียวจะไปไหนก็ไปในเวลาที่กำหนดค่า >w<

หน้าตาตั๋ว แบบ Single ค่ะ มันจะเรียกว่า B.I.T. ราคา 1.5 ยูโร นอกนี้มันจะมีแบบ1day หรือหลายๆวันอยู่อีกอ่ะนะ  ก็เลือกใช้ตามความเหมาะสม แต่สถานที่ท่องเทียวในโรมส่วนใหญ่จะเดินถึงกันได้หมดเพราะงั้นคุณกวางเลยเลือกแบบ Single นี่แหละ ใช้แค่ไป-กลับ 2ใบก็พอ เพราะแบบ 1dayถ้าจำไม่ผิดมัน 4 ยูโรอ่ะนะ



ซื้อได้ที่เครื่องกดตั๋วในสถานีรถไฟใต้ดิน หรือร้าน Tabacchi (ร้านขายบุหรี่และของจิปาถะ จะเป็นซุ้มสีเขียวๆตามข้างถนน ถ้าประเทศไทยมี7-11หนใด อิตาลีก็มี Tabacchi หนนั้นถถถถ) ปล.อิตาลีเป็นประเทศที่ไม่มีร้านสะดวกซื้อและหาซุปเปอร์มาเก็ตยากมว๊ากกกกกกก คนอิตาลีเค้าซื้อของที่ไหนกันฟร๊ะะะะ

ตอนกดตั๋วก็ไม่ยากค่ะ เพราะมีภาษาอังกฤษแถมระบบยังเป็นแบบที่เข้าใจง่ายสุดๆ เปิดไปก็ให้จิ้มเลยว่าจะเอาตั๋วแบบไหน Single , 1day , 2day อะไรก็จิ้มไป ไม่ต้องมามึนยืนดูสถานีแล้วก็เทียบราคาแบบในไทยหรือญี่ปุ่น หรือถ้าขี้เกียจอ่านก็ดูราคาเอาก็ได้ ตั๋วที่มันราคา 1.5ยูโรนั่นแหละจิ้มซะ!

พอได้ตั๋วมาถ้าขึ้นรถไฟใต้ดินมันก็จะเป็นช่องกั้นเหมือนขึ้น BTS บ้านเรานี่แหละ ก็สอดตั๋วเข้าไป มันก็จะพิมพ์วันที่และเวลาที่เราใช้ตั๋วครั้งแรกมาให้ (อย่างในรูป ตอนแรกที่ซื้อมามันจะไม่มีสองบรรทัดเกือบล่างที่เขียนว่า Scad. 21/04/2015 10:19 - 21042015 08:39 02021530 M น่ะค่ะ แต่พอผ่านเครื่องแล้วมันจะพิมพ์มาให้) ตอนออกจากสถานีก็ไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ เดินออกไปเฉยๆเลย แล้วถ้าจะขึ้นรถเมล์ต่อก็เดินขึ้นไปเฉยๆเลย แค่เก็บตั๋วไว้ก็พอเพราะจะมีคนตรวจสุ่มขึ้นมาตรวจอยู่เหมือนกันค่ะ คุณกวางเจอมาแบ้ว มาอย่างกับมาเฟียอ่ะ แจ็กเก็ตดำมาเรย555

ส่วนถ้าใช้ตั๋วขึ้นรถเมล์เป็นครั้งแรก มันจะมีเครื่องตอกบัตรสีเหลืองๆติดอยู่ในรถค่ะ ก็เอาตั๋วไปสอดในนั้นแหละเดี๋ยวมันก็พิมพ์เหมือนกันนี่ออกมาให้ ตอกบัตร(Validate)เฉพาะครั้งแรกที่ใช้บัตรค่ะ ครั้งต่อไปไม่ต้อง เดินขึ้นได้เลย

เอาละ...ไปวาติกันซักทีเถอะ เดี๋ยวจะไม่ถึงเอาวันนี้5555



อันนี้เป็นแผนที่ที่คุณกวางส่องจาก Google map แล้วทำไปก่อน ก็นั่งรถไฟใต้ดินสาย A ไปลงสถานี Ottaviano โผล่ขึ้นมาก็เดินอีกนิดเดียวก็ถึงแล้วค่ะ

Vatican หรือ St.Peter Rome นี้มีสองส่วนด้วยกันค่ะ คือส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์กับส่วนที่เป็นโบสถ์ ลานหน้าโดมที่เราเห็นในรูปกันบ่อยๆนั่นเป็นโบสถ์ค่ะ ซึ่งในส่วนพิพิธภัณฑ์นั้นต้องเสียค่าเข้าค่ะ สามารถจองออนไลน์ไปได้และคุณกวางก็แนะนำให้จองไปนะ เพราะถ้าไปต่อแถวละก็....ยาวเป็นกิโลค่ะ =[ ]= ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ 20 ยูโรถ้าจองออนไลน์(ค่าตั๋วจริงๆ16 แต่จะมีค่าธรรมเนียมจองออนไลน์อีก4) จองได้ที่ http://biglietteriamusei.vatican.va/musei/tickets/do?action=booking

ส่วนลานด้านหน้าก็เดินดุ่มๆเข้าไปได้เลย555 แต่โบสถ์ต้องต่อแถวนะซึ่งเป็นกิโลพอกัน = =" แต่ไม่เสียคาเข้าค่ะ ยกเว้นแต่จะขึ้นยอดโดมถึงจะมีค่าขึ้นค่ะ เอาละ ไปพิพิธภัณฑ์กันก่อนเลยเพราะคุณกวางจองตั๋วไว้ 11 โมง เราก็แค่ปริ๊นท์ไฟล์ pdf ที่เค้าส่งเข้าเมล์มาให้ไปก็พอค่ะ




แต๊นนนนน ถ้าเดินมาถึงกำแพงสูงใหญ่นี่ก็แปลว่าถึงแล้วค่ะ สำหรับคนที่จองตั๋วออนไลน์มาก็เดินไปหน้าแถวได้เลย ส่วนคนที่ไม่ได้จองก็หาหางแถวเอาเองเถอะถถถถถถ

พอเข้าไปข้างในแล้วเราต้องเอาตั๋วที่ปริ๊นท์มาไปแลกเป็นบัตรแข็งๆก่อนค่ะ หน้าตาแบบนี้ หน้า-หลัง




จากนั้นก็เข้าไปกันได้เล้ย >w< อ้อ อย่าลืมหยิบแผนที่ก่อนนะคะ จะได้ไม่หลงแบบป้าสองคนแถวนี้ถถถถ คือคุณกวางไม่รู้ค่ะว่าต้องหยิบแผนที่ไปด้วย ก็เดินตัวปลิวเข้าไปแล้วปรากฏว่าวาติกันไม่ง่ายเลยค่ะ =[ ]= เส้นทางตัดกันไปมาอย่างเยอะแล้วของที่จัดแสดงทั้งรูปปั้น ทั้งภาพวาดก็เยอะมากกกกกกกกกกกกก เรียกว่าเดินกันขาลากเพราะหลงกันเลยทีเดียว แค่ตัวสถาปัตยกรรมก็อย่างอลังการแล้วอ่ะ แล้วงานที่อยู่ในนั้นแต่ละชิ้นนะ มีแต่สุดยอดๆทั้งนั้น เค้าให้ถ่ายรูปได้ด้วยค่ะ (คุณเพื่อนมันเดินไปถามคนเฝ้ามาแล้วเพราะไม่แน่ใจ) จะมีก็แต่โบสถ์ซีสทีนห้องที่พระมหาบิดามิเคลันเจโล(ไมเคิลแองเจโล)เพนท์เอาไว้เท่านั้นแหละที่ห้ามถ่าย ภาพที่เอานิ้วจิ้มกันอ่ะ คือคุณพ่อคะ...คุณพ่อเพนท์ทั้งโบสถ์นั่นได้ยังไงคะ แค่ยืนดูยังขนลุกไม่หาย มันยิ่งใหญ่อลังการมากๆเลยค่ะ >////< บอกตามตรงว่าก่อนหน้าที่จะไปอิตาลีคุณกวางลำเอียงรักโกธิคมากกว่าเรเนซองส์ แต่พอได้ไปเหยียบวาติกันเท่านั้นแหละ...แม่เจ้า....เรเนซองส์มันอลังการงานสร้างขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย กลับมานี่เปลี่ยนใจกันเลยทีเดียว *q* งานของอิตาลีสวยกว่าของฝรั่งเศสจริงๆค่ะในความรู้สึก มันเป็นสเกลเทพเจ้า(?)คือยิ่งใหญ่มาก งานสถาปัตยกรรมนี่มีแต่ใหญ่ๆให้ความรู้สึกอิมเเพคมากๆอ่ะ คือไปถึงไม่ต้องทำอะไรแค่ยืนอยู่ตรงนั้นก็อึ้งก็ฟินไปสิบชาติได้ เข้าใจแล้วว่าทำไมก่อนหน้านี้ชอบมันน้อยกว่าโกธิค เพราะงานของอิตาลีมันต้องไปยืนอยู่ตรงนั้นค่ะ ภาพที่ถ่ายมามันเก็บความรู้สึกไม่ได้เลยจริงๆ  ส่วนงานประติมากรรมนี่ก็อนาโตมี่สุดยอดมาก กล้ามเนื้อเป็นกล้ามเนื้อ ผ้าเป็นผ้า ที่สำคัญคือใบหน้าสวยแล้วก็มีชีวิตชีวามากๆเลยค่ะ เหมือนกับเรายืนมองเทพเจ้าอยู่จริงๆเลยอ่ะ *q*

มาไล่ดูรูปกันดีก่า ว่าคุณกวางมันถ่ายอัลไลในพิพิธภัณฑ์มาได้บ้าง





เอิ่บ..นี่อยู่ในพิพิธภัณฑ์จริงๆนาคะ 5555 เป็นคอร์ตด้านในค่ะ มีอาคารพิพิธภัณฑ์วาติกันล้อมไว้ทั้ง 4 ด้านเยย >////< หนูเลนแต่งตัวเหมือนหนาวมาก แต่ที่จริงแล้วอากาศประมาณ 20กว่าองศาค่ะ ใส่แต่เสื้อแขนสั้นเดินยังได้เลย = ="

















ในอิตาลีโดยเฉพาะที่โรมกับฟลอเรนซ์คุณกวางเห็นกลุ่มนักเรียนฝรั่งมาทัศนศึกษาเยอะมากเลยค่ะ ไม่แน่ใจว่าแค่เด็กอิตาลีหรือชาติอื่นด้วย แต่ไปที่ไหนก็จะได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กๆอยู่ตลอดเลยค่ะ ความเฮ้วนี่เหมือนในซีรี่ย์ฝรั่งที่เราดูๆกันเลยอ่ะ555  ทำเอานึกถึงฟิคเรื่อง CHECK ของน้องมิยะ แบบว่าจะมีหนูเลนหนูก๊กอยู่ในกลุ่มเด็กพวกนี้บ้างไหมน้าาาาา *q*

เข้าไปดูข้างในพิพิธภัณฑ์กันบ้าง
ข้างในมีรูปสลักเยอะมากกกกก คุณกวางถ่ายมาไม่เยอะเท่าไหร่เพราะแสงน้อย กล้องมือถือถ่ายยากแถมคนมหาศาลอีก5555 โอยยย อย่างกับมีชีวิตอ่ะ ดูสีหน้าท่าทางเธอสิคะะะะ *q*






ชอบเทพองค์นี้...หล่อมว๊ากกกกกกกก แล้วตอนไปยืนใกล้ๆนะ เหมือนเค้ายิ้มแล้วก็มองลงมาเลยอ่ะ โอยยย สองป้าได้แต่ไปยืนน้ำลายไหลลูบไล้(?)ท่านอยู่ตรงนั้น อยากขนกลับบ้านนนน ยุบหนอพองหนอ~~ 





กล้าม......*q*.....อนาโตมี่สวยจริงจังฟฟฟฟฟฟฟ ไปยืนน้ำลายไหลพรากเพราะดันนึกถึงคุณรีไวขึ้นมาถถถถถถ เห็นแบบนี้แต่แต่ละองค์นี่สูงใหญ่เป็นอนุสาวรีย์เลยนะ ขอชาบูคนปั้นหน่อยเถอะฟฟฟฟฟ





จิตรกรรมกันบ้าง อันนี้เป็นฝ้าเพดาน มีทั้งรูปวาดแล้วก็นูนต่ำ นูนสูง คือถ้าจะถ่ายมาทั้งหมดพิพิธภัณฑ์คงต้องใช้เวลาเป็นเดือนค่ะ เยอะมว๊ากกก แล้วก็มีแต่สวยๆทั้งนั้น >////<





แค่ทางเดินตรงนี้ก็ฆ่าคุณกวางตายได้แล้ว ง๊ากกกกกก มันจะอลังไปไหนฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ ดูในรูปอาจจะไม่เห็นอะไรแต่ในที่จริงนี่แบบขนลุกเกรียว เพราะมันมีมิติด้วยนูนต่ำนูนสูงอย่างที่บอก บางภาพที่แทบจะหลุดออกมาได้เลยอ่ะ







ศิลปินดังๆเค้าจะมีห้องที่เค้าเพนท์ทั้งห้องเองคนเดียวอยู่ค่ะ ของลีโอนาโด ดาวินชีก็มีค่ะแต่คุณกวางไม่ได้ถ่ายมาแบบว่าคนเยอะมากกกกกก ส่วนอันนี้ของราฟาเอลค่ะ คุณเพื่อนมันคลั่งมากเพราะเป็นศิลปินหนุ่มรูปหล่อแต่ตายตั้งแต่ยังอายุน้อย TvT




เห็นแว่บแรกนึกว่ารูปปั้น เดินไปดูใกล้ๆ เอ่าไม่ใช่นี่หว่า นี่มันวาดเอานี่ =[ ]= งานของราฟาเอลดูมีมิติมากๆเลยค่ะ 





อันนี้ฝ้าเพดานของห้องไหนซักห้องนี่แหละ(ดูมัน) 5555 สวยเน้อออออ >////<





เดินไปเดินมาก็จะเจอทางออก....




ต่อไปก็ไป Piazza St.Peter หรือลานหน้าโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ นครรัฐวาติกัน  >////< คือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ชีวิตนี้ก่อนตายตรูจะต้องไปดูให้ได้5555 เป็นสุดยอดดาวแม่(?)ของคุณกวางแล้วค่ะฟฟฟฟ

ก็เดินออกมาจากพิพิธภัณฑ์แล้วเดินเลาะกำแพงสูงใหญ่สเกลเทพเจ้านั่นไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงซุ้มโค้งแบบนี้



เห็นเสาใหญ่ๆข้างหลังนั่นไหม~~ เห็นเสาขาวๆนั่นหรือเปล่า~~ กรี๊ดดดด อย่างที่บอกแหละ สเปซมันอิมแพคมาก ตอนที่เห็นครั้งแรกนี่ขนลุกอีกแล้วค่ะ ใครจะคิดว่าพอลอดอิรูสองรูนี่ไปจะไปเจอพื้นที่เปิดโล่งที่โอบล้อมด้วยเสาต้นมหึมาแบบนั้น


มาถึงจนได้นะคะคุณแม่ขราาาา ฮือออออ ฟินมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่เคยไปที่ไหนแล้วฟินขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะ ยืนอยู่ตรงนั้นเป็นชั่วโมงสองชั่วโมง แถมยังไปนั่งฟินอยู่ในแขนรูปวงรีนั่นอีกพักใหญ่ๆเลยค่ะ โอยยย ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาบรรยายความยิ่งใหญ่อลังการของที่นี่ รูปไหนก็ไม่สามารถอธิบายได้เท่าสายตาจริงๆค่ะ แล้วดูปริมาณคนที่ต่อแถวเข้าไปชมภายในโบสถ์สิ....= =" 

















วันนี้มาถ่ายตอนบ่ายแล้วแสงมันเลยออกส้มๆ เดี๋ยวไว้ลงแบบสีฟ้าสดๆของวันพรุ่งนี้ที่มาถ่ายตอนเช้าอีกทีนะคะ...อาจจะสงสัยว่าคนบ้าอะไรไปที่เดียวกันถึงสองวัน ^ ^" ก็ดูแถวของวันนี้ซะก่อนสิ ต่อจนโบสถ์ปิดก็ยังไม่ได้เข้าแน่ถถถถ เพราะงั้นคุณกวางเลยนั่งชิลๆอยู่ข้างนอกก่อนจะปรึกษากับคุณเพื่อนว่า...แก...พรุ่งนี้อัดโคโลเซียมกับโรมันฟอรัมหน่อยแล้วกัน แล้วมาต่อแถวเข้าโบสถ์เซ็นต์ปีเตอร์แต่เช้ากันอีกทีเถอะ...และด้วยพลังแห่ง Pieta คุณเพื่อนก็ยอมตกลงจนได้ คือถ้าไม่ได้เข้าไปข้างในโบสถ์นี่ขอบอกเลยว่าต้องกลับมาเสียใจไปตลอดแน่ๆ เพราะข้างในโบสถ์สวยมากกกกกก สวยจนไม่รู้จะพูดยังไง มันลงตัวไปซะทุกอย่างเลย สมกับที่ศิลปินเอก สถาปนิกเอกแห่งยุคหลายต่อหลายคนดีไซน์ไว้จริงๆ ฮือออออ นอนตายตาหลับแบ้วค่ะคุณแม่ขรา TvT 

ภาพข้างล่างจะเป็นที่ถ่ายตอนเช้าของอีกวันนึงค่ะ *v*  ดูท้องฟ้าอันสดใสของโรมสิคร้าาาาา >/////<




ไว้ต่อในเอนทรีของวันพรุ่งนี้นะคะ มาดูว่าข้างในโบสถ์เป็นไง การขึ้นยอดโดมจะโหดขนาดไหน เล่นเอาป้าขาแทบลากเลยค่ะ

ส่วนของวันนี้ยังไม่หมดเท่านี้นะคะ แต่คุณกวางขอขึ้นเอนทรีใหม่ เดี๋ยวรูปจะโหลดไม่ขึ้นเอา5555 คือกลางวันมันยาวนานมากกกกกกกกก พระอาทิตย์อิตาลีใจดี๊ใจดี แถมให้ซะเยอะเบย ขยันมากค่ะขึ้นตั้งแต่ตีห้า ตกตอนสามทุ่ม =[ ]= เวลาเลยเหลือเฟือจนเดินต่อไป Piazza Navona , มหาวิหาร Pantheon , น้ำพุเทวี่ จบที่บันไดสเปน....








สำหรับหน้าวาติกัน...มาเอเลน...ซักแชะลูก....>/////<







หน้ามืดไปนิด เพราะถ่ายอยู่ในร่ม5555


และแน่นอนว่าจะขาดหนูก๊กไปได้อย่างไร งื้ออออออ >////< ตั้งใจพามาถ่ายแฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้เนียนที่นี่แหละ กร๊ากกกกก คือฉากบอกรักของคู่นี้ในเรื่อง GLIDE นี่วนไปเวียนมาอยู่ในหัวมาก







เจอกันเอนทรีหน้านะก๊า






4 ความคิดเห็น:

  1. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ13 พฤษภาคม 2558 เวลา 02:29

    อยากถามคุณกวางว่าเสียไปกี่แสน เผื่อเราจะได้เก็บตังไปบ้าง T3T

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. น่าจะแสนนิดๆนะคะ เดี๋ยวคุณกวางสรุปให้อีกทีนะคะว่าเท่าใดกันแน่ ^ ^

      ลบ