Attack
on Titan.feat KHR Au Fic [8059 , Levi x Eren] Ai Kotoba : 05
:
Attack on Titan feat. KHR Gintama Psycho pass Fanfiction Au
:
8059 , Levi x Eren , Kogami x Ginoza , Takasugi x Katsura
:
Period Drama
:
NC-17
คำเตือน :
เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
รถม้ายังไม่ทันจะจอดสนิทร่างโปร่งบางที่นั่งลุกลี้ลุกลนอยู่บนนั้นก็รีบกระโดดลงมาทันทีก่อนจะวิ่งรี่ตรงไปยังเรือนพักของนายช่างใหญ่ประจำเขตก่อสร้าง
ฝ่ามือบางทุบประตูปังๆจนคนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงลุกมาเปิดให้ด้วยใบหน้าบูดสนิท
“
นายช่าง! แย่แล้ว!”
แต่เป็นเพราะคนที่เคาะนั้นมาทั้งชุดที่ใช้แสดงละครคาบุกิแถมใบหน้าที่ควรจะสวยหวานกลับตื่นตระหนกทำให้นายช่างหนุ่มไม่มีเวลาจะมาหาเรื่องอีกฝ่ายที่ส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายกลางดึก
“
เกิดอะไรขึ้นเจ้าเด็กเหลือขอ?”
เสียงทุ้มถามออกไปด้วยความสงสัย
เจ้าเด็กแสบที่ไม่เคยทุกข์ร้อนว่าจะไปก่อกวนใครกลับมีท่าทางแบบนี้
คงจะเกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้นแน่ๆ
“
แย่แล้ว...แฮ่ก...แฮ่ก...ช่วย...ช่วยไปกับข้าหน่อย...นายช่าง...” ถึงจะยังหอบไม่หยุดแต่ฝ่ามือบางก็เขย่าท่อนแขนเขารัวๆเพื่อรบเร้าให้เขาตามไป
แต่ร่างแข็งแกร่งก็ยังไม่ยอมขยับไปไหนเนื่องจากนิสัยของทหาร
ยิ่งเขาเป็นถึงหัวหน้าเพราะฉะนั้นไม่ว่าจะทำอะไรจึงจำเป็นต้องรู้ก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้นและจะต้องเตรียมแผนสำหรับรับมือยังไง
“
ไปก่อนเถอะน่า...เดี๋ยวข้าเล่าให้ฟัง ขืนชักช้ามันจะไม่ทันการ” แต่เรนก็ยังพยายามลากเขาไปให้ได้
ใบหน้านิ่งถอนหายใจพลางหันไปหยิบดาบญี่ปุ่นคู่กายก่อนจะเดินตามเด็กนั่นไปอย่างเสียมิได้...ทำไมคนอย่างเขาจะต้องมาตามใจเจ้าเด็กนี่ด้วย?!
นายช่างหนุ่มเดินทอดน่องมองตามร่างโปร่งบางที่วิ่งไปบนระเบียงเชื่อมอาคารทั้งๆที่อยู่ในกิโมโนยาวระพื้น
แสงจันทร์ยามค่ำคืนที่สาดส่องลงมาทำให้เขาละสายตาไปจากร่างของเรนไม่ได้เลย...เป็นเพราะเครื่องแต่งกายหรือยังไงกันนะที่ทำให้เด็กนั่นดูบอบบางราวกับดอกไม้แห่งรัตติกาลแบบนี้
สวย...
“
นายช่าง! เดินเร็วๆเข้าสิ! ไม่สิ ท่านควรจะวิ่งมากกว่านะ
ถ้าไปช้าละก็คุณคัตสึระแย่แน่...”
ใบหน้ามนหันมาเร่งเขาและเมื่อยังเห็นว่าเขาไม่ได้ก้าวขาไวกว่าเดิม สองแขนผอมแห้งจึงคล้องมาที่แขนข้างที่ถือดาบของเขาก่อนจะออกแรงลากให้เดินเร็วขึ้น...ก็รู้อยู่หรอกนะว่าเด็กนี่กำลังเดือดร้อน
แต่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลของเรนกลับทำให้เขารู้สึกพอใจอย่างบอกไม่ถูก...ทั้งๆที่เขาไม่ใช่คนชอบแกล้งแต่เจ้าเด็กตรงหน้ากลับทำให้เขานึกอยากจะรังแกให้น้ำตาปริ่มขึ้นมายังไงไม่รู้
“
ตกลงจะบอกได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น?”
เป็นเพราะเจ้าเด็กแสบนี่รีบเขาจึงตัดสินใจขี่ม้าไปเองแทนที่จะนั่งรถม้าที่จอดรออยู่
นายช่างหนุ่มที่อยู่ในชุดทหารแค่ครึ่งท่อนล่างเพราะข้างบนตอนนี้มันเหลือแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวอุ้มร่างโปร่งขึ้นไปนั่งบนหลังม้าก่อนที่ตัวเองจะกระโดดตามขึ้นไป
แล้วกว่าจะได้ถามก็เมื่อเจ้าม้าสีดำพุ่งทยานออกจากเขตก่อสร้างแล้วนั่นแหละ
“
ท่านรู้จักกลุ่มคิเฮย์ไตไหม? ยากูซ่าที่ชื่อกระฉ่อนทั่วภาคพื้นคันไซนั่นน่ะ
ตอนนี้พวกมันอยู่ที่โรงละครของข้า แล้วคุณคัตสึระก็รับมืออยู่คนเดียว
เราต้องไปช่วยคุณคัตสึระ!”
ห๋า?...นี่เจ้าเด็กเหลือขอนี่คิดจะให้เขาไปรบรากับยากูซ่าพวกนั้นด้วยตัวคนเดียวเนี่ยนะ?
ทำไมไม่บอกแต่เนิ่นๆเนี่ยไม่งั้นจะได้เรียกเจ้าโคงามิมาด้วย!
“
โฮ่ย...กลับไปตามเจ้าโคงามิก่อนเลย”
เขาบอกออกไปอย่างที่ในหัวคิด แต่เจ้าเด็กแสบก็รีบส่ายหน้ารัว
“
ไม่ทันแล้วครับ! ไม่เป็นไรหรอกน่า อย่างนายช่างต้องจัดการไอ้พวกอันธพาลนั่นได้แน่
ไปต่อเถอะครับ!”
ถึงจะดีใจก็เถอะนะที่เด็กนี่เชื่อมั่นในฝีมือเขา แต่กับไอ้พวกยากูซ่าหมาหมู่ที่ไม่มีกฎไม่มีเกณฑ์พวกนั้น......ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเนี่ยว่าเขาจะชนะ?
“
เฮ้อ...เจ้านี่มัน...” จอมก่อเรื่อง!...อ่า...ดูเหมือนโกคุเดระ
ฮายาโตะจะเคยเรียกเด็กนี่แบบนั้นให้เขาได้ยินอยู่ครั้งหรือสองครั้งนี่แหละ
และตอนนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่ามันหมายถึงอะไร
มือแข็งแรงกระตุกบังเหียนให้เจ้าม้าสีดำวิ่งต่อไปด้วยความไวที่ทำเอาแทบจะมองข้างทางไม่เห็น
จากที่มืดอยู่แล้วตอนนี้จึงเหมือนกับพวกเขาวิ่งอยู่ในโลกที่มีเพียงสองเรา
ชายกิโมโนพลิ้วไหวไปตามสายลม
บางครั้งมันก็กระทบบูททหารของเขาเบาๆ
เช่นเดียวกับเส้นผมยาวสีน้ำตาลที่ปลิวลู่มาโดนลำตัวหนา ทว่า มันกลับไม่ได้ทำให้รู้สึกรำคาญเลยแม้แต่น้อย
กลิ่นหอมของแป้งที่ลอยออกมาจากซอกคอระหงนั่นก็ชวนให้ความรู้สึกที่หลับใหลมันตื่นขึ้นมาชอบกลจนใบหน้าภายใต้กรอบผมสีดำขยับเข้าไปใกล้ก่อนจะอาศัยจังหวะที่ม้าโยกตัวกดจูบลงไปอย่างเผลอไผลซึ่งใบหน้ามนยังคงมองตรงไปข้างหน้าโดยไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเลยสักนิด...จะว่าดีหรือไม่ดีกันนะที่เจ้าเด็กนี่มันใสซื่อจนเกือบบื้อแบบนี้น่ะ?
นายช่างหนุ่มยิ้มบางๆท่ามกลางแสงจันทร์นวลตาที่ฉาบไล้ทางข้างหน้าให้ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นสีเงิน...ถ้าไม่นับหัวใจที่ร้อนลนแล้ว
บรรยากาศแบบนี้มันก็ไม่เลวเลย
ร่างโปร่งในกิโมโนตัวสวยกระโดดพรวดลงจากหลังม้าทั้งๆที่มันยังไม่ทันจะหยุดดี
สองขาวิ่งตรงไปยังโรงละครก่อนจะชะงักเพราะลืมไปว่าพาใครมาด้วย
“
เร็วๆสิครับ”
ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มจนงดงามหันไปเรียกคนที่ก้าวขาอ้อยอิ่งลงจากหลังม้า...นายช่างนะนายช่าง...ทีแบบนี้ละยืดยาดนัก
ทำไมไม่เห็นจะเหมือนกับตอนที่วิ่งไล่จับเขาช่วงที่เจอกันใหม่ๆนั่นเลย!
แต่ก็เพราะเคยไล่จับกันตั้งแต่ในน้ำยันบนบกมาแล้วแบบนั้นละนะที่ทำให้เขาตัดสินใจหันไปพึ่งพาคนตรงหน้า
ก็ถ้าไม่แข็งแรงจริงคงไม่มีทางจับเขาได้ตลอดแบบนี้หรอก!...แล้วสถานการณ์ตอนนี้ไปเรียกฮายาโตะมาก็คงไม่มีประโยชน์
เพราะถึงเด็กคนนั้นจะฉลาดขนาดไหนแต่เรื่องพละกำลังยังคงห่างชั้นจากเจ้าพวกกลุ่มคิเฮย์ไตอยู่หลายขุม...อีกอย่าง...พวกบ้านใหญ่ยามาโมโตะของเขาก็อยู่ไกลเกินไป
กว่าจะไปกว่าจะกลับก็คงไม่ทันการ
ครืด......!!
ประตูบานเลื่อนของโรงละครเปิดออกอย่างรวดเร็วตามความร้อนใจของร่างโปร่งบาง
แต่แล้วความว่างเปล่าก็ทำให้เรนถึงกับผงะ
เอ๋?
ไม่มี...?
ไม่เห็นจะมีใครอยู่สักคนเลยล่ะ?
ทั้งส่วนของที่นั่งคนดูทั้งบนเวทีกลับไม่มีพวกคิเฮย์ไตเลยสักคน...
เจ้าพวกป่าเถื่อนนั่นไปไหนกันหมด?
ใบหน้ามนเม้มริมฝีปากแน่นอย่างไม่ยอมแพ้
สองขาก้าวพรวดๆไปยังด้านหลังโรงละครโดยมีนายช่างหนุ่มเดินทอดน่องตามไปอย่างใจเย็น
ดาวเด่นของโรงละครเหลือบไปมองใบหน้านิ่งๆนั่นแล้วก็นึกหมั่นไส้ขึ้นมาตะหงิดๆ
ทั้งๆที่เขาร้อนใจขนาดนี้แต่นายช่างกลับยังดูสบายๆ...หนอย...มันน่าลวงไปให้ฉลามกัดนัก! เอาไว้คราวหน้าที่เขาพาลงทะเลก่อนเถอะ!
เงาร่างทั้งสองก้าวผ่านบานประตูรั้วซึ่งเป็นเขตส่วนตัวของเจ้าของโรงละคร...ขนาดที่นี่ก็ยังเงียบกริบ?
ไม่ใช่ว่าคุณคัตสึระโดนพวกนั้นฆ่าตายไปแล้วนะ?
ปังๆๆ
ฝ่ามือบางรัวลงไปบนประตูไม้ที่กั้นระหว่างระเบียงทางเดินด้านนอกกับเรือนส่วนตัวของเจ้าของโรงละครคนงาม
ได้ยินเสียงกุกกักก่อนจะตามมาด้วยเสียงโครมครามอยู่ข้างหลังประตูบานนั้น
และหลังจากเสียงทุกอย่างเงียบไปอีกพักใหญ่...ประตูไม้ก็เปิดออกมา...
แอ้ด....
“
เรน? มีอะไรรึ?”
เสียงที่คุ้นเคยเอ่ยถามเมื่อคัตสึระ
โคทาโร่เห็นว่าใครมาทุบประตูด้วยท่าทางร้อนรน
“
คุณคัตสึระ! เป็นอะไรหรือเปล่า?!
โดนไอ้พวกยากูซ่าป่าเถื่อนนั่นทำอะไรหรือเปล่า?!” สภาพหัวยุ่งน้อยๆกับกิโมโนที่ไม่ค่อยจะเรียบร้อยของเจ้าของโรงละครที่ปกติจะเนี้ยบอยู่ตลอดเวลาทำให้เรนถามอย่างตื่นตระหนก
มือบางเขย่าแขนคนที่เป็นดั่งผู้ปกครองพลางมองสำรวจไปทั่ว
“
อ๋อ...ข้าไม่เป็นอะไรหรอกเรน ใจเย็นก่อน”
แต่คนที่เพิ่งจะนึกขึ้นได้กลับหัวเราะแห้งๆพลางกระชับคอกิโมโนให้เข้าที่เข้าทาง
ร่างระหงขยับมายืนบังบานประตูเอาไว้เพื่อไม่ให้เรนมองเห็นว่า “อะไร”
ที่มันเป็นตัวการทำให้เขาอยู่ในสภาพแบบนี้
“
ค่อยยังชั่วหน่อย...แล้ว...พวกนั้นไปไหนกันหมดแล้วล่ะครับ?
ไม่น่าจะกลับไปง่ายๆ?”
ก็ยังดีนะที่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือเรน ถ้าเป็นฮายาโตะเขาคงจะปิดไม่มิด ริมฝีปากที่แดงช้ำน้อยๆจึงเอ่ยออกไป
“
ข้าก็แปลกใจ...แต่ว่าวันนี้พวกคิเฮย์ไตยอมกลับไปง่ายๆ...ข้าก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน” คงจะมีแต่เรนนี่แหละที่เชื่อคำโกหกของเขา
“
เอ๋? อืม...หรือว่า! พวกนั้นรู้ว่าท่านจะมาหรือเปล่านายช่าง? ก็เลยหนีหางจุกตูดไปแล้ว?!
สุดยอดเลย!”
ประโยคหลังเรนหันไปพูดกับอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล เขาจึงเพิ่งเห็นว่าเด็กคนนี้ไปพาใครมาด้วย
ใบหน้าสวยของคัตสึระพยักให้นายช่างหนุ่มเป็นเชิงทั้งขอบคุณและขอโทษที่เด็กในคณะละครของตนไปรบกวนดึกๆดื่นๆแบบนี้
ใบหน้าซังกะตายนั่นก็เพียงแค่พยักรับว่าไม่เป็นไรก่อนจะหันไปพูดกับเรนเหมือนกำลังเล่นกับลูกหมา
“
มันจะเป็นแบบนั้นได้ไงเล่า เจ้าเด็กเหลือขอนี่...” มือข้างหนึ่งละจากการกอดอกมายันหัวสีน้ำตาลของคนที่โผเข้าไปหาเอาไว้และภาพเหล่านั้นมันทำให้เขาถึงกับอมยิ้ม...ก็เรนเคยเชื่องกับใครแบบนี้เสียที่ไหน
นัยน์ตาสีดำทอดมองร่างทั้งสองที่อยู่ตรงหน้า...ดูท่าว่านายช่างเองก็คงจะเอ็นดูเด็กในคณะละครของเขาคนนี้ไม่ใช่น้อย
ไม่เช่นนั้นคงไม่ให้ความช่วยเหลือครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้หรอก
“
เรน! พานายช่างกลับไปพักผ่อนเถอะ
นี่ก็ดึกมากแล้ว...ทางนี้ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก”
เขาตะโกนบอกคนทั้งสองคน
“
แน่ใจนะครับ? ไม่ใช่ว่าพอพวกนั้นรู้ว่านายช่างกลับไปมันก็จะกลับมาใหม่นะ?”
เรนถามด้วยสีหน้าเป็นกังวลจนเขาถึงกับเผลอหัวเราะ...ก็พวกนั้นที่เด็กคนนี้ว่าน่ะ
ยังนอนเอกเขนกน่ารำคาญอยู่ข้างในนี่ต่างหาก
“
อื้อ ไม่ต้องห่วงหรอก พวกนั้นไม่มาแล้วละ”
ใบหน้าสวยพยักลงให้เรนคลายกังวล
แต่ดูท่านัยน์ตาสีมรกตนั่นจะยังไม่หมดห่วงเสียทีเดียว
“
ถ้าพวกมันย้อนกลับมาอีกท่านต้องรีบตะโกนเรียกข้านะ...อ่ะ...ข้าอยู่ไกลตะโกนเรียกอาจจะไม่ได้ยิน...ถ้างั้นจุดพลุ...ท่านรีบจุดพลุดอกใหญ่ๆเลยนะ
รับรองว่าข้ากับนายช่างจะรีบมา”
ได้ถามคนที่ถูกพาดพิงเค้าบ้างหรือเปล่าน่ะว่าเค้าจะมาด้วยไหม?
มือบางได้แต่ยกขึ้นปิดริมฝีปากที่ยังขำไม่หยุด ถึงแม้ในใจจะรู้สึกขอบคุณที่เรนเป็นห่วงเขาขนาดนี้ก็ตาม
“
อื้อ”
เขารับคำไปอย่างนั้นเพราะรู้ดีว่าไม่จำเป็นต้องจุดพลุที่ว่านั่นหรอก นัยน์ตาสีมรกตที่ยังไม่วางใจมองหน้าเขาอยู่ชั่วครู่จึงยอมถอยทัพกลับไปแต่โดยดี
“
นายช่าง!” แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะหันหลัง
เจ้าของโรงละครคานามารุสะก็ตะโกนเรียกเอาไว้ราวกับเพิ่งนึกขึ้นได้
“
....?”
ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่แต่ดูแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครส่งมาเพียงสายตาที่แสดงซึ่งความสงสัยโดยไม่ได้พูดอะไร
“
ขอบคุณท่านมากนะที่มาช่วย...อีกอย่าง...ข้าขอฝากเรนด้วย...”
นัยน์ตาสีขี้เถ้าเบิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับ
“
เอ๋? ฝาก?” ก็มีเพียงคนถูกฝากนั่นแหละที่ไม่เข้าใจว่าผู้ใหญ่เค้าพูดอะไรกัน เรนถูกมือแข็งแรงคู่นั้นลากจากไปแล้วประตูไม้ถึงได้ค่อยๆปิดลง
“
ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?”
เสียงที่ดังอยู่ข้างใบหูทำให้คัตสึระ โคทาโร่ถึงกับสะดุ้งโหยง
“
ทากาสุงิ...จะเข้ามาใกล้ก็ให้ซุ่มให้เสียงกันหน่อยสิ”
ใบหน้าสวยหันมาเง้างอดใส่แต่มือใหญ่กลับสอดเข้าไปรอบเอวบางที่พันโอบิไว้ลวกๆก่อนจะเกยใบหน้าคมเอาไว้ที่หัวไหล่
“
ถ้าส่งเสียงแล้วจะจับเจ้าได้แบบนี้หรือไง?”
มือซุกซนยังคงสอดเข้าไปตามรอยแหวกของกิโมโนทั้งข้างบนและข้างล่างทำเอามือบางไล่ตะครุบแทบไม่ทัน
“
แล้วไง? จะบอกข้าได้หรือยังว่าไอ้ผู้ชายหน้าตายนั่นมันเป็นใคร?” จริงสิ...ทากาสุงิยังไม่เคยเจอนายช่างเลยนี่นะ
ถึงได้แผ่รังสีไม่เป็นมิตรใส่เสียขนาดนี้
“
เขาเป็นนายช่างทหารที่จะมาสร้างสะพานจากชิโกกุข้ามไปเกาะฮอนชูน่ะ อีกหน่อยเวลาเจ้ามาหาข้าจะได้ไม่ต้องใช้แต่เรือเพียงอย่างเดียวไง”
ใบหน้าสวยพยายามงัดเรื่องดีๆมาพูดแต่ทำไมก็ไม่รู้ทากาสุงิถึงดูไม่ค่อยชอบใจผู้ชายที่เพิ่งพบหน้ากันเพียงครั้งเดียวคนนั้นเลย
“
แล้วทำไมเด็กนั่นถึงมากับเจ้าผู้ชายคนนั้น? เกี่ยวข้องกันยังไง?” อ่า....เข้าใจละ...เพราะเรนสินะ?
“
อืม...จะเรียกว่าผู้อุปถัมภ์ก็คงไม่ผิด...เพราะนายช่างซื้อตัวเรนไป...ในราคาที่ไม่มีใครกล้าสู้เลยละ
แต่เท่าที่ข้าแอบสังเกตดูก็ไม่เห็นว่าจะมีเรื่องในเชิงชู้สาวนะ
เหมือนอยากช่วยเด็กคนนั้นจากพวกลุงๆที่คอยตามตื้อมากกว่า”
“
แล้วทำไมเจ้าไม่บอกข้าล่ะ?
ถ้าเป็นเรื่องที่จะทำให้ไม่มีใครกล้ายุ่งกับเด็กนั่นข้าก็ทำได้...ไม่ต้องใช้เงินสักแดงเลยด้วย” เขาได้แต่ยิ้มละเหี่ยใจ...นี่คงคิดจะใช้กำลังข่มขู่คนอื่นๆเอาสินะ?
“
ถ้าเป็นเรื่องใช้อำนาจละก็...น้องชายเจ้า...ยามาโมโตะ ทาเคชิ
ก็เคยทำเพื่อกันเรนออกไปจากสาระบบนี้ ไม่ต้องถึงมือเจ้าหรอก...ทำไม?...เกิดหวงน้องขึ้นมาหรือไง?” คงมีเขาคนเดียวที่กล้าหยอกเย้าหัวหน้ากลุ่มคิเฮย์ไตแบบนี้...ก็นะ...ถึงเรนจะไม่เคยรู้ตัวเลยแต่ทากาสุงิก็คอยเฝ้ามองการเติบโตของเด็กคนนั้นมาตลอด
“
.....หึ.....ก็ไม่รู้สิ” แล้วท่าทางของทากาสุงิก็ทำให้เขาประหลาดใจ ปกติต้องปฏิเสธไปแล้ว
แต่นี่กลับ...
ใบหน้าสวยถึงกับถอนหายใจอย่างระอา...พี่ชายเจ้าแต่ละคนนี่ทำไมเหมือนกันได้ขนาดนี้นะเรน...ทั้งๆที่ต่างก็ห่วงเจ้าด้วยกันทั้งคู่แต่ดูสิ่งที่แสดงออกมาสิ!
พอสบายใจเข้าหน่อยเจ้าลูกหมาก็เดินไปกระโดดไปพร้อมฮั่มเพลงพื้นบ้านเบาๆ
พื้นไม้ของระเบียงทางเดินส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดยามที่ฝ่าเท้าในถุงเท้าสีขาวเหยียบลงไป
ชายกิโมโนยาวลากผ่านไม้กระดานเองก็ให้เสียงเข้ากันชอบกล
ใบหน้ามนหันกลับมายิ้มให้ก่อนจะก้าวกระโดดต่อไปพร้อมกับเสียงเพลง...ภาพที่ราวกับอยู่ในฝันนั้นสะกดให้ฝ่ามือแข็งแรงเอื้อมออกไปราวกับต้องมนต์....
“
นายช่าง...”
“
นายช่าง?” ฝ่ามือบางโบกไปมาอยู่ตรงหน้า
คนที่ถูกเรียกถึงได้รู้ตัวว่าเขาเผลอเอื้อมมือไปคว้าข้อมือของเด็กนั่นเอาไว้โดยไม่รู้ตัว
“
มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
นัยน์ตาสีมรกตใสแจ๋วจ้องเขาตาแป๋วและนั่นมันก็ทำให้รู้สึกเขินจนร้อนไปทั่วแก้ม
ใบหน้าที่ยังทำเป็นเฉยหันหนีก่อนจะนึกหาข้อแก้ตัว
“
นี่เจ้าคิดจะกลับไปเขตก่อสร้างทั้งสารรูปแบบนี่น่ะเหรอ?” ใช่ๆเปลี่ยนเสื้อผ้าไง
ที่เขารั้งเด็กนี่ไว้ก็เพราะจะบอกเรื่องให้เปลี่ยนเสื้อผ้าเสียก่อนที่จะกลับไป
“
เอ๋? ทำไมล่ะครับ? กลับไปแบบนี้ไม่ได้เหรอ?” ยังจะมีหน้ามาถาม จะไม่ให้เขาได้หลับได้นอนหรือไงถึงคิดจะแต่งตัวแบบนี้กลับไป?
ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่าเด็กนี่เป็นผู้ชายแต่สภาพตอนนี้ต่อให้เป็นคนดีอย่างเขาก็คงทนนอนอยู่ข้างๆโดยไม่ทำอะไรไม่ไหวหรอก!
“
ห้องแต่งตัวอยู่ไหน?”
ในขณะที่เจ้าเด็กตรงหน้ายังมึนอยู่เขาก็จัดการลากร่างโปร่งบางนั่นเข้าไปหลังเวทีเสียเอง
“
ทางนี้ต่างหากนายช่าง!” ข้อมือบางรั้งเขาไว้ก่อนจะชี้ไปอีกฝั่ง
ห้องพื้นเสื้อทาทามิห้องเล็กๆมากมายเรียงรายอยู่หลังเวที
เรนพาเขาเดินไปยังมุมหนึ่งซึ่งมีบันไดไม้พาดสู่ด้านบน
เมื่อร่างโปร่งบางปีนขึ้นไปเขาจึงหันหลังพิงบันไดอย่างตั้งใจจะรอตรงนี้
“
นายช่าง?! ขึ้นมาด้วยกันสิ ข้ามีอะไรจะให้ท่านดู”
ใบหน้าที่สวยยิ่งกว่าผู้หญิงทั่วไปชะโงกลงมามองเขาพร้อมกับกวักมือเรียก
รอยยิ้มซนๆนั่นทำให้เขาสงสัยจนเผลอปีนตามขึ้นไปจนได้
พอพ้นช่องแคบๆของบันไดนัยน์ตาสีขี้เถ้าก็เบิกขึ้นอย่างประหลาดใจ
เพราะห้องข้างบนนี้ไม่ได้ถูกแบ่งยิบย่อยแบบชั้นล่างแต่มันกลับเป็นห้องยาวๆเพียงห้องเดียว
ทั้งราวแขวนผ้าที่อัดแน่นไปด้วยชุดมากมาย
ทั้งตั่งชิดผนังแนวยาวซึ่งมีทั้งกระจกและเครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้าถูกวางอยู่เต็มไปหมด
ทั้งชั้นวางของซึ่งมีผมปลอมตั้งเรียงราย
ทุกๆอย่างในห้องนี้มันให้ความรู้สึกราวกับมีมนต์ขลัง
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่มีใครอยู่แต่เขาก็นึกออกถึงภาพความวุ่นวายซึ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวายามที่ละครใกล้จะเปิดม่านว่ามันคงอลหม่านน่าดู
นัยน์ตาสีขี้เถ้ากวาดมองหาเจ้าตัวดีที่เรียกเขาขึ้นมา
ทว่าร่างโปร่งบางนั่นกลับหายตัวไปท่ามกลางราวแขวนผ้าที่ตั้งซ้อนๆกันอยู่ตรงหน้า
แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปากเรียก…ร่างโปร่งบางกลับเยื้องย่างออกมาจากราวแขวนผ้าพร้อมกับพัดจีบที่ปิดบังใบหน้า
เสื้อคลุมฮาโอริสีแดงสดปักลวดลายดอกไม้สวมทับอยู่บนไหล่ ถึงจะไม่รู้ว่าเด็กนั่นเล่นอะไรแต่ภาพตรงหน้าก็ตรึงสายตาจนไม่อาจละจากไปได้
“
จอมใจ นวลใย เจ้าจอมขวัญ
เมื่อพบกัน
เมื่อสัมผัส พลันสับสน
ดั่งดอกไม้
อ่อนแอ คราแค่ยล
แท้จริงเจ้า
จอมคน จอมหัวใจ…”
บทกลอนเอื้อนเอ่ยพร้อมกับร่างโปร่งที่ก้าวขาเข้ามาใกล้
ลำตัวในฮาโอริสีแดงเอี้ยวอย่างเอียงอายก่อนจะหมุนราวกับดอกสึบากิที่ร่วงหล่นจากลำต้น
จนกระทั่งร่างระหงเซซบแทบจะแนบชิดกับแผงอกของเขา พัดจีบในมือจึงค่อยๆแง้มออกให้เห็นใบหน้าหยิ่งผยองราวกับหญิงสูงศักดิ์
นัยน์ตาสีมรกตหาได้ไร้เดียงสาเช่นปกติแต่มันกลับแฝงไว้ด้วยเสน่ห์ยั่วเย้าจนเขาหายใจไม่ทั่วท้อง
และเมื่อริมฝีปากที่แต่งแต้มไว้ด้วยสีแดงนั้นค่อยๆยกยิ้ม เขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป...
ตุบ....
มือแข็งแรงจับข้อมือบางกดลงไปกับพื้นเสื่อทาทามิ
ฮาโอริสีแดงแผ่ไปทั่วเช่นเดียวกับเส้นผมยาวสีน้ำตาล
ใบหน้าที่จงใจยั่วเขานิ่งค้างไปราวกับทำอะไรไม่ถูก นายช่างหนุ่มจึงค่อยๆโน้มตัวลงไป
ริมฝีปากขยับเข้าหากลีบปากสีแดงสด
ใบหน้าคมเปลี่ยนมุมเล็กน้อยจนในที่สุดมันก็ประกบลงไปบนริมฝีปากนุ่มนิ่มนั่นจนได้
กลิ่นหอมของเครื่องสำอางทำให้ความยับยั้งช่างใจดูเหมือนจะถดถอยลงไป
เพราะแทนที่สติของเขาจะช่วยกันดึงรั้งให้ออกห่างจากแรงยั่วเย้าตรงหน้า
ทว่าริมฝีปากเพียงแค่ละออกมาเล็กน้อยก่อนจะลากไล้ลงไปยังซอกคอระหง
และเพราะว่าแรงกดจูบบนผิวเนื้ออ่อนๆนั่นจึงทำให้คนที่ตะลึงตาค้างเริ่มได้สติ
“
นายช่าง? เดี๋ยว?!
ทำอะไรน่ะ?!”
ข้อมือบางที่ถูกเขากดลงกับเสื่อทาทามิเริ่มดิ้นรนขัดขืน และนั่นก็ทำให้สติที่หายไปของเขากลับมาเช่นกัน
ร่างแข็งแกร่งละออกมาทั้งๆที่ยังนั่งคร่อมร่างโปร่งบางอยู่
ใบหน้าคมพยายามปรับกลับมานิ่งเฉยก่อนจะเหลือบตาลงมองคนที่โดนกดอยู่บนพื้นราวกับตนไม่ได้ทำอะไรผิด
“
ลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ จะได้กลับเขตก่อสร้าง”
สองมือปล่อยข้อมือบางให้เป็นอิสระก่อนจะละออกไปยืนกอดอกแล้วหันหลังให้ ร่างโปร่งบางลุกขึ้นนั่งด้วยความมึนงง
“
ท่านไม่ชอบเหรอ...” เสียงหงอยๆเอ่ยถามมาจากข้างหลัง
สันกรามได้แต่กัดฟันกรอด...ถ้าไม่ชอบแล้วสติเขาจะหลุดขนาดนี้หรือไงเจ้าเด็กบ้านี่!
“
ข้าอุตส่าห์แสดงบทที่ข้าชอบมากให้ท่านดู
หาดูที่ไหนไม่ได้แล้วด้วยนะเพราะว่ามันแสดงไปตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน...” ..............ห๋า? บทละคร?
นั่นคือบทที่เคยแสดงมา?
“.............” เขาพูดอะไรไม่ออก
ดีนะที่ไม่หลุดปากบอกอะไรออกไป...ถึงจะรู้สึกว่าหน้าแตกอยู่บ้างแต่ก็ดีแล้วที่เจ้าเด็กนี่ยังใสซื่อเหมือนเดิม....เพราะหากเด็กนี่สวยพราวเสน่ห์แบบที่แสดงให้ดูเมื่อครู่คงอยู่ด้วยกันยาก...
“
นายช่าง....” เสียงหงอยๆยังคงดังมาจากข้างหลังทำให้เขาตัดบทด้วยการพูดราวกับรำคาญ
“
ชอบ! พอใจรึยัง?!
รีบๆไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วเจ้าเด็กเหลือขอนี่!” ใช่...ชอบ...
“
ครับ! เหะเหะ...”
เจ้าตัวดีที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวลุกขึ้นก่อนจะเดินไปนั่งลงที่หน้ากระจกบานเล็ก
มือบางค่อยๆแกะดอกไม้ประดับผมออกช้าๆ
ถึงแม้ว่าเขาจะยืนหันหลังให้แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบเหลือบมองเป็นระยะๆ
เพราะใบหน้าที่สะท้อนอยู่ในกระจกนั้นมันน่ามองน้อยเสียเมื่อไหร่
ใบหน้ามนหันไปหันมาพลางคลำหาอะไรอยู่บนหัวอยู่นานจนเขานึกสงสัย
เจ้าเด็กนั่นทั้งก้มก็แล้วเงยก็แล้ว หันซ้ายก็แล้วหันขวาก็แล้วแต่ก็ดูเหมือนจะหาอะไรบางอย่างที่อยู่บนหัวไม่เจอ
“
โฮ่ย” เขาไม่ได้ตั้งใจจะเร่ง
ก็แค่อยากจะถามว่าให้เขาช่วยหาเห็บให้ไหม?
“
ข้าหากิ๊บติดผมไม่เจอ...ฮ้าว....ง่วงแล้วด้วย....” เจ้าลูกหมาตัวดีพูดไปหาวไป
ทีเวลานอนนี่เป็นเด็กขึ้นมาเลยเชียว นายช่างหนุ่มจึงเดินเข้าไปหาอย่างช่วยไม่ได้
มือที่เคยจับแต่แบบก่อสร้างแตะลงไปบนเส้นผมนิ่มก่อนจะกวาดตามองหากิ๊บติดผมสีดำ
“
อยู่นิ่งๆสิ”
พอเขาช่วยหาเจ้าเด็กเหลือขอก็ย้ายมือตัวเองไปขยี้ตากับปิดปากหาวทันที
มันน่านัก
“
เอ้า!”
นิ้วยาวดึงกิ๊บติดผมที่ซ่อนอยู่ใต้ผมหนาออกให้
แต่ได้คืบเจ้าเด็กนี่ก็จะเอาศอก
“
ช่วยข้าถอดชุดด้วยสินายช่าง...ข้า...ฮ้าววว...ง่วง...อยากกลับไปนอน....” ไม่บอกก็รู้แล้วว่าง่วง
เล่นหาวซะขนาดนั้น
มือบางแตะๆไปที่ผ้าคาดเอวผืนใหญ่ซึ่งอยู่ด้านหลังก่อนจะออกคำสั่งกับนายช่างทหารอย่างเขา
“
มันน่าจะมีเข็มกลัดอยู่แถวๆนี้นะ
ท่านแกะมันออกให้ทีสิ...ปกติฮายาโตะจะเป็นคนช่วยข้าถอด
พอต้องเอาออกเองทีไรยุ่งยากทุกทีไอ้ชุดพวกนี้”
มือแข็งแรงจับผ้าคาดเอวพลิกดูก่อนจะเห็นเข็มกลัดอันใหญ่
เขาค่อยๆบรรจงแกะมันออกมาก่อนที่มันจะไปสะกิดเอวบางจนได้แผล ดูท่าว่าชุดนางเอกละครคาบูกิจะไม่ได้แค่ซับซ้อนธรรมดาแต่มันคงจะหนาหนักด้วยชั้นของกิโมโนหลายต่อหลายชั้นพวกนี้ด้วย
มือแข็งแรงวางผ้าคาดเอวลงไปบนพื้นเสื่อทาทามิ
ถึงแม้ว่าจะยังมีโอบิเหลืออยู่อีกชั้น
ทว่ากิโมโนที่เคยถูกรัดแน่นกลับคลายออกมาเล็กน้อย...แต่แค่เล็กน้อยมันก็ทำให้สายตาสามารถมองลึกลงไปจนเห็นแผ่นหลังขาวเนียนจนเกือบจะถึงเอว
อึก...
น้ำลายถูกกลืนลงไปในลำคออย่างยากเย็น...เช่นเดียวกับอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านของเขา
มือแข็งแรงช่วยถอดกิโมโนออกทีละชั้น...ทีละชั้น.......และเพราะว่ามันหนา...เจ้าเด็กนี่เลยยังไม่รู้ว่าลมหายใจของเขาที่เป่ารดอยู่บนไหล่บอบบางนั่นมันหนักหน่วงขนาดไหน
“
เสร็จแล้วละ เดี๋ยวที่เหลือข้าเปลี่ยนเองได้แล้ว ท่านลงไปรอข้างล่างก่อนก็ได้
เดี๋ยวข้าตามลงไป”
ใบหน้ามนหันมายิ้มให้อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว
หากเขาอยู่ตรงนี้อีกวินาทีเดียวคงได้ก่ออาชญากรรมแน่ๆ ร่างแข็งแกร่งจึงตวัดตัวเดินหนีก่อนจะลงบันไดไป
ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครยืนพิงผนังไม้ของโรงละครก่อนจะแหงนหน้ามองจันทรา...ได้แต่หวังว่าคืนนี้เขาจะหลับลง...
เจ้าม้าสีดำตัวใหญ่วิ่งกลับไปยังเขตก่อสร้างที่จากมาหลายชั่วโมง
เสียงเจื้อยแจ้วที่เคยเจรจาราวกับนกแก้วนกขุนทองเงียบหายไปเมื่อได้กลิ่นทะเลลอยมา
ใบหน้าของนายช่างหนุ่มจึงก้มลงไปมองคนที่นั่งอยู่ในอ้อมแขน
หลับ?
ขนาดอยู่บนหลังม้ายังหลับได้อีกนะเจ้าเด็กนี่...
เขตก่อสร้างที่เคยเต็มไปด้วยชายฉกรรจ์บัดนี้กลับเงียบสงบด้วยเวลาที่ผ่านพ้นไปเกือบครึ่งคืนแล้ว
ร่างแข็งแกร่งลงจากหลังม้าอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าคนที่ยังหลับปุ๋ยจะตื่น
ท่อนแขนแข็งแรงช้อนลำตัวบางขึ้นก่อนจะอุ้มกลับไปยังห้องพัก
นัยน์ตาสีขี้เถ้าทอดมองใบหน้ามนของคนที่ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นถึงแม้จะถูกวางลงบนเตียงเรียบร้อยแล้ว
ปลายนิ้วยื่นออกไปบดขยี้ริมฝีปากสีระเรื่อก่อนจะเผลอคิดไปว่า...หากไม่ใช่ปลายนิ้วแต่เป็นริมฝีปากของเขาเองจะเป็นยังไงกันนะ
ใบหน้าคมสะบัดรัวๆก่อนจะกระแทกตัวนั่งลงอีกฝั่งของเตียง
ฝ่ามือยกขึ้นมารองรับใบหน้าที่ก้มลงไป
อ่า...อาการหนักขนาดนี้ต่อให้ไม่เคยมีสิ่งที่เรียกว่าหัวใจแต่เขาก็รู้ว่ามันคืออะไร
แย่แน่....บอกเลยว่าแย่แน่ๆงานนี้...
ละครคาบุกิเรื่องจันทร์ข้างแรมนั้นใกล้จะปิดรอบการแสดงเต็มทีแต่กระนั้นคณะละครก็ไม่สามารถจะซ้อมละครเรื่องต่อไปได้เพราะคัตสึระ
โคทาโร่ยังไม่ได้เลือกว่าจะให้ใครรับบท “นกกระสา” นางเอกของละครเรื่องต่อไป
ทำให้ในหมู่นักแสดงเองต่างพยายามทำผลงานของตัวเองให้ดีเพราะไม่ว่าใครต่างก็อยากได้บทนี้กันทั้งนั้น
และถึงแม้ว่าจะไม่มีการทะเลาะวิวาทซึ่งเป็นเงื่อนไขหนึ่งในการพิจารณาคัดเลือกแต่บรรยากาศโดยทั่วไปก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย
ดูจะแย่กว่าแต่ก่อนด้วยซ้ำ...
คงจะเรียกได้ว่าเป็นสงครามเย็น?
เพราะเมื่อก่อนหากมีเรื่องไม่พอใจก็จะด่าทอลงไม้ลงมือกันซึ่งๆหน้า
ทว่าตอนนี้ทุกคนต่างเก็บกดเพราะไม่ได้ระบายความรู้สึกออกไป
ยิ่งใกล้เวลาคัดเลือกเท่าไหร่จึงยิ่งตึงเครียดมากเท่านั้น
ต่างคนต่างจ้องจับผิดคนอื่น ไม่ก็แอบใส่ร้ายป้ายสีกันลับหลัง
“
ฮ่าๆๆ รำท่าอะไรของเจ้าน่ะ? แน่ใจนะว่านกกระสาไม่ใช่เป็ดน่ะเรน ฮ่าๆๆๆๆ” โกคุเดระ
ฮายาโตะหัวเราะเสียยกใหญ่เมื่อนั่งมองเพื่อนสนิทของตนฝึกรำในท่วงท่าของนกกระสา
“
ยะ อย่ามาขำข้านะ! เจ้าเองก็เถอะ เลิกสะดุดชายกิโมโนหัวทิ่มหรือยังล่ะ?!”
เรนหยุดรำก่อนจะหันมายืนเท้าสะเอวแยกเขี้ยวใส่เพื่อนเพียงคนเดียวของตน
ท่ามกลางบรรยากาศที่ตึงเครียด
ก็มีแต่สองดาวเด่นเท่านั้นที่ทำตัวตามสบายและมีสมาธิอยู่กับการซ้อมบทของตน...และนั่นมันก็ทำให้คู่อริทั้งสามคนลอบมองด้วยสายตาหมั่นไส้ไม่พอใจ
ยิ่งได้เห็นใบหน้าที่สดใสและการสวมบทบาทที่ก้าวหน้าไปไกลกว่าใครก็มีแต่จะยิ่งเพิ่มแรงริษยามากขึ้นเท่านั้น
“
พี่ฮายาโตะ!”
เสียงใสของเด็กชายตัวเล็กๆเรียกอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าโรงละคร
และเมื่อนัยน์ตาสีมรกตหันไปมองก็เห็นน้องๆจากศาลเจ้ากำลังวิ่งเข้ามาหา
ใบหน้าเหยเกของเด็กชายทำให้คนเป็นพี่ตื่นตกใจ
“
เป็นอะไร?” คำพูดห้าวหาญไม่สมตัวเอ่ยถามน้องๆ
“
พี่คางุระ...พี่คางุระตีกับอาตี๋หัวเป็ดอีกแล้ว ฮือ~~”
พูดจบเด็กชายก็ร้องไห้โฮ...ไอ้เจ้าโซโกะมาหาเรื่องเด็กที่ศาลเจ้าอีกแล้วสินะ! เดี๋ยวพ่อจะตื้บให้!
“
เรน เจ้าซ้อมไปคนเดียวก่อน เดี๋ยวข้ามา”
ร่างบอบบางถลกแขนกิโมโนขึ้นก่อนจะเดินปึงปังออกไป
“
ฮายาโตะ! ให้ข้าไปด้วยไหม?!” เพื่อนสนิทตะโกนถามอย่างห่วงใย ถึงโอคิตะ
โซโกะจะเป็นเด็ก แต่ก็แสบสันใช่ย่อย
ไม่งั้นจะมาหาเรื่องทะเลาะกับคางุระได้ทุกวี่ทุกวันแบบนี้เหรอ
“
ไม่ต้องหรอก ข้าอัดมันคนเดียวก็พอ!” คนที่เดินไปถึงหน้าประตูตะโกนตอบกลับมา...มันก็จริงแหละที่เจ้าเด็กหัวโจกนั่นกลัวฮายาโตะ...ไม่สิ...ต้องบอกว่ากลัวพี่ชายเขา
ยามาโมโตะ ทาเคชิ มากกว่า...คนทั้งเมืองก็รู้ๆกันดีว่าฮายาโตะแตะได้ซะที่ไหน
ร่างโปร่งบางของเรนจึงหันกลับไปซ้อมบทต่อโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีสายตาสามคู่จ้องมองอย่างหาเรื่องอยู่
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความริษยาพยักเพยิดให้แก่กันเมื่อร่างบอบบางของโกคุเดระ
ฮายาโตะคล้อยหลังไป ร่างสามร่างที่เคยอยู่อีกมุมหนึ่งจึงเดินไปหาเรนที่อยู่ตามลำพัง
“
…...ขยันซ้อมจังเลยนะ แต่คิดเหรอว่าเจ้าจะได้บทนี้?
ซ้อมไปก็เสียเวลาเปล่าม้าง~” หนึ่งในสามอ้าปากหาเรื่องทันที
ถึงจะทะเลาะวิวาทไม่ได้แต่ใช้คำพูดถากถางก็คงไม่ถือว่าผิด
“
..........อย่ามายุ่งกับข้า ต่างคนต่างอยู่สิ!” เรนตวัดหน้ากลับมามอง
ถึงจะทำหน้าไม่พอใจแต่ก็พยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้...ตอนนี้จะมีเรื่องไม่ได้เด็ดขาด
“
หึ พอโกคุเดระไม่อยู่ เจ้ามันก็เป็นได้แค่หมาหัวหด!” ใบหน้าที่ลอยหน้าลอยตามีแต่จะทำให้คนที่โดนยั่วยุถึงกับตัวสั่น
กำปั้นถูกกำเข้าหากันอย่างพยายามระงับโทสะ
ถ้าเป็นปกติเขาคงได้ฟาดปากพวกมันไปสักทีสองทีแล้ว!
ร่างโปร่งบางตั้งใจจะถอยหนี
แต่อีกฝ่ายก็ช่วยกันล้อมหน้าล้อมหลัง
“
จะไปไหน? เจ้าจะซ้อมบทไม่ใช่เหรอ? เอาสิ! ซ้อมเลย!....แต่เป็นบทตัวประกอบน่ะนะ...ฮ่าๆๆๆ”
สามเสียงหัวเราะประสานกันดังก้องไปทั่วโรงละคร ใบหน้ามนได้แต่กัดฟันกรอด
นัยน์ตาสีมรกตจ้องเขม็งไปที่ทั้งสามคน
ในใจได้แต่นับแกะกระโดดข้ามรั้วไปมาตามที่ฮายาโตะสอนไว้เวลาที่ต้องระงับความโมโห
“
ถอยไป!”
มือบางยกขึ้นผลักอีกฝ่ายเพื่อให้หลีกทาง สองขาตั้งใจจะเดินไปศาลเจ้า
แต่ทว่ายังไม่ทันจะได้ก้าวออกจากวงล้อม
หัวสีน้ำตาลก็ถึงกับผงะก่อนจะเงยขึ้นตามแรงดึง
หนึ่งในสามนั่นดึงผมของเขาอยู่!
“
ปล่อยนะ!”
ฝ่ามือพยายามปัดมือของอีกฝ่ายออกแต่ดูท่าว่าคนหาเรื่องจะไม่ยอมปล่อยเขาง่ายๆ
“
สู้สิเรน ปกติเจ้าต้องฟัดไม่เลือกนี่? คราวนี้ก็ยกมือขึ้นมาตบมาต่อยพวกข้าสิ!” เสียงตะโกนอยู่ใกล้ๆหู
มือบางยกขึ้นไปกุมหัวที่เริ่มเจ็บจากแรงดึง...ไม่ได้...จะก่อเรื่องทะเลาะวิวาทไม่ได้
จะลงไม้ลงมือกับอีกฝ่ายไม่ได้ ไม่งั้นเขาจะไม่ได้เล่นบทนกกระสา
“
เจ้าลูกหมาหัวหด แค่นี้ก็ไม่กล้า ฮ่าๆๆๆ”
ยิ่งร่างโปร่งบางพยายามดิ้นให้หลุดเท่าไหร่เส้นผมก็ยิ่งพันมือของอีกฝ่ายจนมันรัดแน่น
ถึงจะเจ็บจนน้ำตาปริ่มแต่ใบหน้ามนก็ยังกัดฟันต่อไป อีกฝ่ายก็แค่ยั่วยุเขา
แล้วพอเขาลงมือเขาก็จะเป็นฝ่ายผิด! แค่นี้เขาก็คิดได้!
“
ปล่อยข้าสิ! เจ้าพวกหมาหมู่! พวกเจ้าเองก็เหมือนกันแหละ
อยู่คนเดียวก็ไม่มีน้ำยาแหละว้า!” มือบางยังคงปัดมือของอีกฝ่าย
ริมฝีปากช่างเจรจาไม่ยอมให้คนอื่นรังแกอยู่ฝ่ายเดียว
ถึงจะลงมือไม่ได้แต่เขาก็ยังมีปาก!
“
เก่งนักใช่ไหม?! เก่งนักก็หลุดไปให้ได้สิโว้ย!” แรงดึงที่เส้นผมยิ่งหนักหน่วงกว่าเดิม
แต่ถ้าคิดว่าอย่างเขาจะยอมให้รังแกเหมือนนางเอกละครน้ำเน่าละก็คิดผิด!
“
ปล่อยสิวะไอ้พวกหมาบ้า!” สองมือพยายามปัดมืออีกฝ่ายออกไป
ยิ่งปะทะริมฝีปากกันมากเท่าไหร่การควบคุมตัวก็มีแต่จะยิ่งลดลงเท่านั้น
หนึ่งในสามคนนั่นเดินไปหยิบมีดปอกผลไม้ก่อนจะเอามาถือใกล้ๆเส้นผมสีน้ำตาล
“
เอาซี่ ถ้าเจ้าไม่สู้ ข้าจะตัดผมเจ้าเดี๋ยวนี้แหละ”
ถึงอีกฝ่ายจะแค่ตั้งใจขู่แต่นัยน์ตาสีมรกตก็เบิกกว้างอย่างตกใจ
“
ปล่อยข้านะ! บอกให้ปล่อยไง!!”
ร่างโปร่งบางยิ่งดิ้นรนหนักกว่าเดิมเมื่อมองเห็นประกายสีเงินใกล้เข้ามาทางหางตา
หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวอย่างตื่นกลัว เพราะเส้นผมถือเป็นสิ่งสำคัญของนักแสดงอย่างพวกเขา
“
ปล่อย!!”
เรนตั้งใจจะใช้แรงเฮือกสุดท้ายผลักพวกนั้นออกไป
ทว่า...เพราะอีกฝ่ายซวนเซด้วยแรงผลักทำให้มีดปอกผลไม้ที่ไม่ได้คิดจะใช้จริงๆกลับตัดเส้นผมสีน้ำตาลขาดไปต่อหน้าต่อตา
“................”
นัยน์ตาสีน้ำตาลเบิกกว้างมองเส้นผมของตัวเองที่ลงไปกองอยู่ที่พื้นด้วยหัวใจหล่นวูบ....ไม่จริง....ไม่จริงใช่ไหม....
เคร้ง...
เสียงมีดในมือใครสักคนร่วงลงกระทบพื้น
สามคนนั่นก็มองอย่างตื่นตะลึงเช่นกัน
“
พวกเจ้าทำอะไรกันน่ะ?” เสียงของฮายาโตะดังอยู่ที่หน้าประตู
เรนจึงมองไปหาด้วยนัยน์ตาสั่นพร่า...แน่นอนว่าหยาดน้ำตาและสภาพของเพื่อนรักทำให้โกคุเดระ
ฮายาโตะถึงกับสติขาดผึง
“
พวกเจ้า!!”
ร่างบอบบางตรงเข้าตะลุมบอนกับสามคนนั้นทันทีโดยไม่สนใจว่าตัวเองจะถูกตัดสิทธิ์ให้รับบทนกกระสาหรือไม่
หมัดน้อยๆต่อยเข้าไปที่ร่างกายของสามคนนั้นทำให้คนที่ตั้งใจแค่หาเรื่องสวนกลับมาด้วยฝ่ามือทันที
“
อะ...ฮายาโตะ...” เรนยังคงทำอะไรไม่ถูก
กว่าจะเข้าไปห้ามเพื่อนรักทั้งสองฝ่ายก็ตีกันยกใหญ่ไปแล้ว
“
ฮายาโตะ หยุดเถอะ เดี๋ยวเจ้าก็โดนตัวสิทธิ์ไปด้วยหรอก!” อ้อมแขนเล็กพยายามรั้งตัวเพื่อนรักเอาไว้
แต่ฮายาโตะที่โดดเข้าใส่อีกฝ่ายอย่างไม่กลัวอะไรก็แรงเยอะใช่ย่อย
“
ปล่อยข้านะเรน! พวกมันแกล้งเจ้าขนาดนี้จะให้ทนได้ไง?! มันต้องสั่งสอนกันบ้าง!”
ถึงเอวบางจะถูกเพื่อนสนิทรวบเอาไว้แต่ฝ่าเท้าก็ยังยกเข้าใส่สามคนนั้นไม่หยุด
“
เกิดอะไรขึ้น? นี่! หยุดนะพวกเจ้า!!”
ต่อให้เป็นเสียงประกาศิตจากเจ้าของโรงละครก็ตาม
กว่าจะห้ามทัพทั้งคู่ได้ก็ใช้เวลาไปไม่น้อย
เสียงตะโกนดังก้องไปทั่วอยู่อีกพักใหญ่กว่าคัตสึระ
โคทาโร่จะแยกคู่กรณีออกจากกันได้ก็ทำเอาเยินไปทั้งสองฝ่าย
ทั้งห้าคนถูกจับให้นั่งทับส้นเป็นหน้ากระดานโดยมีร่างระหงเดินอยู่ด้านหน้าอย่างอ่อนใจ
นัยน์ตาสีดำทอดมองสภาพของแต่ละคนแล้วก็ให้รู้สึกเหนื่อยหน่าย
โดยเฉพาะเจ้าสองดาวเด่นที่คนหนึ่งก็มีรอยช้ำที่แก้มน้อยๆกับอีกคนผมก็ถูกตัดสั้นจนเกือบจะเห็นติ่งหู...สภาพแบบนี้จะแสดงไหวไหมเนี่ยคืนนี้
แต่ยิ่งกว่าอะไรก็คือสภาพจิตใจของทั้งคู่...โกคุเดระ
ฮายาโตะน่ะไม่เท่าไหร่หรอกเพราะยังหันไปฮึ่มๆใส่คู่อริ
แต่เรนนี่สิ....ดูจะหงอยๆลงไป
ก็แน่ละ...นักแสดงอย่างพวกเขาเส้นผมสำคัญยิ่งกว่าอะไร...
“
เอาละ...ไหนบอกข้าซิว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”
คู่กรณีสามคนนั่นพยายามจะฟ้องว่าตนเป็นฝ่ายถูกทำร้าย แต่คัตสึระ
โคทาโร่กลับเลือกฟังคนอื่นๆที่อยู่ในโรงละครตอนนั้นมากกว่า
“
สรุปว่าเจ้าสามคนเป็นฝ่ายหารื่องเรนก่อน?
ถึงจะไม่ได้ตั้งใจตัดผมจริงๆแต่ผลลัพธ์มันก็ออกมาเป็นแบบนี้เพราะความประมาทเลินเล่อของพวกเจ้า...ข้าจะทำโทษพวกเจ้า
ถึงจะยังไม่ไล่ออกแต่ความผิดครั้งนี้ก็ถือว่าหนักหนาสาหัส
เพราะฉะนั้นข้าจะให้พวกเจ้าทั้งสามคนพักงานเป็นเวลาครึ่งปี”
คำตัดสินเด็ดขาดเสียจนคนก่อเรื่องไม่สามารถอุทรณ์
ถึงจะร้องไห้คร่ำครวญแค่ไหนเจ้าของโรงละครคนงามก็ไม่คิดจะเปลี่ยนใจ ทั้งสามคนจึงได้แต่เดินคอตกออกจากโรงละครไป
“
และเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทแบบนี้อีก...ข้าจะประกาศเลยก็แล้วกันว่า...ใครที่จะได้รับบทนกกระสาไป...”
แล้วจู่ๆเสียงกังวานก็ทำให้คนทั้งโรงละครหันไปมองเป็นตาเดียว
สองดาวเด่นที่นั่งอยู่ตรงหน้าต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก มือของทั้งคู่ต่างหันไปกุมอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว
ร่างระหงของคัตสึระ
โคทาโร่เดินมาหยุดลงที่หน้าโกคุเดระ ฮายาโตะและเรน
นัยน์ตาที่อ่อนโยนทอดมองเด็กทั้งสองที่มองสวนกลับมาด้วยนัยน์ตาสั่นระริก
มือที่กุมกันอยู่ด้วยความตื่นเต้นระคนหวาดกลัวทำให้ใบหน้าสวยเผลออมยิ้ม
มันยากลำบากจริงๆ...ที่จะต้องเลือกใครสักคนในสองคนนี้
แต่เขาก็คิดมาอย่างดีแล้วว่าคนที่เหมาะสมกับบทนกกระสาที่สุดนั้นคือ....
“
โกคุเดระ ฮายาโตะ...ข้ายกบทนกกระสาให้เจ้า”
หัวใจดวงน้อยทั้งสองดวงแทบจะหยุดเต้น
แน่นอนว่ามีดวงหนึ่งดีใจดั่งได้ขึ้นสวรรค์
แต่ก็มีอีกดวง...ที่ราวกับกำลังดิ่งลงเหว....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
โปรดติดตามต่อต่อไป...ไป...ไป...
เหมือนได้ยินเสียงไหแตก
// หลบหม้ออย่างพลิ้ว~
// แหะแหะ ไม่ได้ปั่นเรื่องนี้มาซะนาน
พอดีเมื่อวันก่อนไปแฮปวันเกิดให้น้องสาวผู้น่ารักคนนึงแบ้วเค้าขอหรือข่มขู่ฟ๊ะไม่แน่ใจ5555มาก็เลยจัดให้ซะหน่อย
อิ๊อิ๊
สุขสันต์วันเกิดนะก๊าน้องบี
ย้อนหลังไปวันสองวันแต่ก็รีบปั่นให้เรยน้า
>3<
มีฟามสุขมากๆ ขอให้ความสุขไหลมาเทมานะคะ
แล้วก็ต้องขอขอบคุณแฟนอาร์ตที่วาดให้พญาเหยี่ยวมากๆ
แต่ละรูปนี่ทำเอายัยมี๊สติไม่อยู่กับตัว อยากกดหนูเรน...*q*....//ที่สติไม่อยู่กับตัวส่วนหนึ่งก็เพราะโดนท่อนขาฟาดใส่ไม่ยั้งนี่แหละถถถถ
ว่าแล้วก็แปะภาพที่น้องบีวาดให้ซะหน่อย
ง๊ากกกกกกกก จะเอา~~~~ฟฟฟฟฟฟฟ
รู้สึกเข้ากับตอนนี้เนอะ
*q* เพราะอันที่จริงดูรูปแบ้วใส่กันสดๆไม่ได้วางบทว่าจะมีฉากนี้ไว้ก่อน 55555
หนูเรนสวยอ่า~~~~~~~~~
แล้วก็อ่านตอนนี้จบก็อย่าเพิ่งขว้างเปลือกทุเรียนใส่คุณกวางเลยนะ
หนูเรนก็แค่กลับไปลุคซนๆเหมือนเดิมไง เนอะ // หลบหม้ออีกรอบ
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์จากตอนที่แล้วๆและจากเรื่องอื่นๆด้วยนะคะ
โอยยยย เห็นเม้นต์ทวงฟิคน้องฟ้าแล้วก็อยากจะรีบปั่นให้ ฮือออออ
เค้าเห็นนะไม่ใช่ไม่เห็น >////<
ขอบคุณทุกๆการติดตามด้วยนะคะ แล้วเจอกันตอนหน้าน้า~~
นายช่างคะ นายช่างชมตัวเองว่าเป็นคนดีด้วยยย เเต่การกระทำเเอบๆของนายช่างนี่เรียกว่าเเอบหาเศษหาเลยกับนู๋เรนนะคะ อร๊ายยยยยยยย มารับของขวัญ เเละขอขอบคุณอีกครั้งนะคะพี่กวาง นู๋เรนโดนทำร้ายจิตใจขนาดนี้ต้องรีบส่งไปให้นายช่างปลอบด่วนเลยคร๊าาาาาาาา เเล้วก็ในที่สุดพี่ก็มาต่อน้ำตาจิไหลลลล นู๋ไม่ได้ข่มขู่น๊าาา เเค่มองเเฟนอาตที่ร่างๆดองๆไว้ไม่ขยับเพราะนกกระสาเเละนกกระจิบไปเที่ยวนอกโลกมาต่รงหากล่ะคะฮาๆ เห็นเเบบนี้เเล้วค่อยมีกำลังใจในการวาดเอเลนกิโมโนหลุดลุ่ยจุงเบยยยยยย ขอบคุณอีกหลายๆครั้งค่ะ //กอดดดดด
ตอบลบเอ๊ะ!?....
ตอบลบทำไมถึงได้กลิ่นคนแก่หลงตังเองน้า~~
คึหึหึ...ถูกมารยาหญิงหลอกเอาจนลืมตัวเลยเหรอคะขุ่นท่านส่วนน้องนี่ก็ช่าง
น่ารักน่าอม?จริงๆเล้ย
ว่าแต่มันคือไอโคโตบะหรอกเร๊อะเข้ามาตอนแรกเจือกอานว่า
"โอเวอร์สเตีย"ซะอีก!!???
กร้ากกก~~~ไปแระค่ะมะกี้เห็นอะไรลอยมาแว๊บๆ!!
คุณกวางงงงง ทำร้ายหนูเรนมากกกกก
ตอบลบตัดบทได้อย่างไร้เยื้อใยจริงๆ
แต่จนตอนนี้ก็ไม่แน่ใจว่าอ่านชื่อตอนถูกรึยึง ฮาาา
หนูเรนน ทำไมต้องโดนทำร้ายร่างกายและจิตจแบบนี้ ค่าาาา แงๆๆ สามตัวนั้นอยู่หนายยย!! เค้าจะเอาไปต้มกิน(?)แง่งๆๆ
ตอบลบนายช่างค่าาา คนดีเขาไม่ทำกันแบ---(เสียงหาย) #ฮา
เรนทำไมพี่ชายนายแต่ละคนช่างงง---(สัญญาณขาด)
หนู ฮายาโตะ มีคนคอยคุ้มครองลับหลังด้วยยย อุกรี๊ดดด แบคอัพดี =w=b
ค้างงงมากค่าาพี่กวาง อย่าลืมมาต่อเร็วๆนะค่าาา>w< สู้ๆค่าา