Attack on Titan feat.KHR and A/Z Au.Fic [Cruhteo x Slaine , Levi xEren , 8059] GLIDE : WHITE and SILVER#07
For HBD. Count Cruhteo
: Attack on Titan feat KHR Fanfiction Au
: Cruhteo x Slaine , Levi x Eren , 8059
: Romantic Drama
: NC-17
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
เพราะมีเรื่องรบกวนจิตใจจึงทำให้สนามนี้นักขับมือสองของเฟอร์รารี่คว้าที่สามมาได้แบบหืดขึ้นคอ...ก็เล่นเข้าเส้นชัยก่อนที่สี่แค่ 0.05 วินาที จะไม่ให้ทั้งพิตสีแดงลุ้นกันจนตัวโก่งได้ยังไง โดยเฉพาะเอเลน เยเกอร์ วิศวกรประจำ SF15-T SLAINE ที่กระโดดจนแทบจะข้ามรั้วกั้นเพื่อกอดคอนักขับคู่หูที่ยังมีท่าทางมึนงงหลังจากลงมายืนอยู่ข้างรถ เป็นเพราะรอบสุดท้ายร่างโปร่งบางเหยียบกระจายจนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าได้ที่สามมายังไง
“ อย่าทำให้ชั้นนั่งไม่ติดเก้าอี้สิเจ้าบ้านี่” ถึงจะบ่นด้วยน้ำตาปริ่มแต่ใบหน้ามนก็อมยิ้มทั้งๆที่สูดน้ำมูก มือของเอเลนจับหมับลงไปที่แก้มใสซึ่งขึ้นสีเลือดฝาดจากความร้อนภายใต้หมวกกันน็อคก่อนจะออกแรงดึงใบหน้าของสเลนไปมา เส้นผมสีชาที่ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อสะบัดซ้ายทีขวาทีแต่กระนั้นริมฝีปากสีระเรื่อก็ยังยิ้มแย้ม นัยน์ตาสีมรกตทอดมองเอเลนอย่างนึกขอบคุณ
เกือบไป...ถ้าเขาช้ากว่านี้แค่ 0.05วินาที อนาคตของเขากับเฟอร์รารี่ก็คงจบเห่แน่ๆ
ร่างโปร่งบางในชุดหมีสีแดงกอดหมวกกันน็อคไว้ข้างเอวในขณะที่เดินถอนหายใจไปที่เครื่องชั่งน้ำหนัก ปล่อยให้ลูกทีมม้าลำพองส่งเสียงเฮกันอยู่ด้านหลังเพราะตอนนี้เขาต้องเตรียมขึ้นรับถ้วยรางวัลแล้ว
นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองตัวเลขบอกน้ำหนักที่หน้าปัด...ถึงแม้ว่าน้ำหนักก่อนแข่งและหลังแข่งจะห่างกันอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน...แต่หากเทียบกับเมื่อสนามก่อน...ตอนนี้น้ำหนักมันลดลงไปหลายกิโลทีเดียว
ก็เพราะว่าเอาแต่คิดมากเรื่องผู้ชายโหดร้ายคนนั้นจนพาลไม่อยากอาหารไปด้วย...แย่จริงๆ...ทั้งๆที่คนต้นเหตุอาจจะไม่ได้รับได้รู้อะไรด้วยเลยแต่เขาก็ไม่สามารถจะเลิกคิดได้...ทำไมจะต้องไปใส่ใจ ในเมื่ออีกฝ่ายก็คงไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตา ไม่มีดีไม่มีค่าอะไร วันๆเอาแต่ทำเรื่องเดือดร้อนให้...ผู้ชายคนนั้นคงจะรำคาญเขาเต็มที...
“ เฮ้อ....” ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชาเผลอถอนหายใจอย่างลืมตัว ทำให้คนที่ได้ที่หนึ่งของสนามซึ่งรออยู่ในห้องรับรองของผู้ชนะอยู่ก่อนแล้วเดินเข้ามาหาก่อนจะส่งกระแสจิตถาม
ใช่...นัยน์ตาสีมรกตของโกคุเดระน่าจะถามเขาว่า เป็นอะไร? ไม่ดีใจเหรอ?
“ ดีใจครับ...แต่ก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ที่ทำให้ทุกคนในทีมต้องคอยเป็นห่วง...” เพราะเขาไม่มีสมาธิ ทุกคนในทีมถึงได้ต้องพยายามแทบตายเพื่อให้เขาเร็วขึ้นแม้แต่วินาทีเดียว ทั้งเอเลนที่ต้องคอยจี้เขาแทบจะทุกโค้ง ทั้งบอสที่ต้องงัดทุกกลยุทธมาใช้ ทั้งโกคุเดระที่วันนี้ดูจะพยายามขับอย่างไม่ให้มีปัญหาเพื่อให้ลูกทีมคนอื่นช่วยเหลือเขาได้เต็มที่ ทั้งพิตสต็อปที่ต้องรับความกดดันในการเปลี่ยนยางอย่างไม่พลาดแถมต้องเร็วกว่าปกติด้วยซ้ำ...ทุกคนพยายามเพื่อเขาขนาดนี้ แต่เขากลับ...
มือเย็นๆตบปุๆลงมาที่หัวของเขาสองสามที นัยน์ตาจึงเบิกกว้างเมื่อรับรู้ว่าเจ้าคนที่เย็นชาพอๆกับน้ำแข็งกำลังปลอบใจเขาอยู่
“ ไปกันเถอะ...” ใบหน้าของเขาพยักรับก่อนจะหันมองตามร่างบอบบางของโกคุเดระไปยังทางออกโพเดี้ยม แสงสว่างจ้าที่สาดกระทบชุดหมีสีแดงนั้นให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
และเมื่อก้าวเดินออกไป...เสียงเฮที่รอต้อนรับเขาอยู่ก็ทำให้ความห่อเหี่ยวของจิตใจค่อยๆหายไปทีละเล็กละน้อย...ที่ใต้แผ่นอกซ้ายกำลังล้นปรี่ไปด้วยความดีใจ...ดีจริงๆ...ดีจริงๆที่เขายังมีโอกาสมายืนอยู่ตรงนี้อีกครั้ง...ไม่เช่นนั้นเขาคงต้องเสียใจไปตลอดแน่ๆกับความพ่ายแพ้ของตัวเอง
มือบางยื่นออกไปรับถ้วยจากรัฐมนตรีคมนาคมของมาเลเซีย และในขณะที่อีกสองคนซึ่งยืนอยู่บนโพเดี้ยมด้วยกันกำลังรับถ้วย นัยน์ตาสีมรกตก็เหลือบไปมองที่แพดด็อกอย่างตั้งใจ...ใช่...เขาตั้งใจจะมองหาผู้ชายที่โหดร้ายคนนั้น...แต่ไม่ว่าจะมองหาแค่ไหนก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของCEOหนุ่มเลย
ไม่มาดูจริงๆด้วยสินะ...
จู่ๆหัวใจที่อุตส่าห์พองโตขึ้นมาได้ก็แฟ่บลงไปอีก...ไอ้เรื่องที่อีกฝ่ายไม่ชอบเขา เขาก็พอจะรู้อยู่หรอก แต่ทั้งๆที่อาทิตย์ก่อนก็ยังดีๆอยู่เลยแท้ๆแล้วทำไมถึงได้กลับมาร้ายกาจใส่เขาอีกก็ไม่รู้...โกรธเรื่องอะไรอยู่งั้นเหรอ? ไม่ยอมบอก ไม่ยอมพูด ไม่ยอมคุย ไม่ยอมปรับความเข้าใจแบบนี้แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองทำอะไรผิดอีก ทั้งๆที่แค่บอก เขาก็ยินดีจะปรับปรุงตัวแท้ๆ…
เอ๋?
แล้วทำไมเขาจะต้องปรับปรุงตัวเพื่อผู้ชายคนนั้นด้วยล่ะ?
ใบหน้าได้รูปนิ่งค้างไปกับความรู้สึกของตัวเอง...ถึงเขาจะเป็นคนหัวอ่อนแบบนี้แต่ที่ผ่านมาก็ใช่ว่าจะยอมใครต่อใครไปหมด...ขนาดกับญาติๆของตระกูลซาสบาร์มเขาก็ยังสู้รบปรบมือมาไม่รู้เท่าไหร่ แล้วทำไมกับผู้ชายใจร้ายคนนั้นถึงได้ยอมทุกอย่างขนาดนี้?
นี่มันเกินกว่าเรื่องอนาคตของเขากับเฟอร์รารี่ไปแล้วหรือเปล่า?
เพลงชาติอิตาลีที่บรรเลงขึ้นมาเพื่อให้เกียรติที่หนึ่งของสนามอย่างโกคุเดระกับทีมผู้ผลิตสัญชาติอิตาลีอย่างเฟอร์รารี่ดังกระหึ่มทำให้นักขับมือสองของทีมม้าลำพองหลุดออกมาจากห้วงความคิดของตัวเอง มือบางยกขึ้นไปโบกน้อยๆให้กับกลุ่มแฟนๆที่ใส่เสื้อสีแดงซึ่งต่างก็ไชโยโฮ่ร้องเมื่อเสียงเพลงจบ หลังจากนี้ก็ได้เวลาของแชมเปญและสัมภาษณ์!
“ ยังตื่นเต้นอยู่ไหมครับกับสนามที่สองในชีวิต?” ไมค์สีดำถูกยื่นมาจ่อปาก เป็นธรรมเนียมของการขึ้นโพเดี้ยมว่าหลังจากรับถ้วยจะมีการสัมภาษณ์เล็กๆน้อยๆจากพิธีกรซึ่งเป็นที่รู้จักของคนในประเทศอย่างดารานักร้อง ไม่ก็นักกีฬาชื่อดังอะไรประมาณนั้น
“ ก็...ครับ...” มือบางยกขึ้นมาลูบเส้นผมสีชาอย่างเขินๆ ยังไงก็ไม่ชินกับการต้องออกสื่อที่กำลังแพร่ภาพไปทั่วโลกแบบนี้
“ ตอนนี้ถือได้ว่าเป็นนักขับน้องใหม่ที่ถูกจับตามองมากที่สุดของวงการยานยนต์เลยนะครับ เพราะความกดดันแบบนั้นหรือเปล่าทำให้ดูเหมือนในสนามนี้จะทุลักทุเลพอสมควร?” คำถามที่มักจะถูกยิงเข้ามาตรงๆเล่นเอาจุกไปนิดหน่อยแต่กระนั้นใบหน้าได้รูปก็ยังยิ้มรับพร้อมกับหัวเราะแห้ง
“ ฮะฮะ...ไม่ใช่หรอกครับ...ต้องขอบคุณทุกๆคนด้วยซ้ำที่ส่งกำลังใจมาให้ผม...เพราะฉะนั้นก็อยากจะให้จับตามองผมแบบนี้ต่อไปด้วยนะครับ...โดยเฉพาะ...คนที่ไม่ได้อยู่ในสนามนี้” ประโยคสุดท้ายจงใจฝากไปถึงคนที่ไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตา ถึงเขาจะไม่มีค่าพอให้ถ่อมาดูถึงที่นี่แต่ก็อยากจะให้รู้ไว้ว่าเขาจะทำให้ได้...เพราะฉะนั้นก็จับตาดูเขาให้ดี....มอง...มาที่เขาที...
“ คนที่ไม่ได้อยู่ในสนาม?” เสียงสงสัยของพิธีกรถามย้ำทำให้เขาปรับสีหน้ากลับไปยิ้มบางๆตามปกติก่อนจะกลบเกลื่อนไปว่า
“ เอ่อ...ผมหมายถึงแฟนๆทางบ้านน่ะครับ...” อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ได้ติดใจอะไรแต่กลับหัวเราะเสียยกใหญ่
“ ฮ่าๆๆ...ทรอยยาร์ด คุณควรจะสอนการเอาใจใส่และสนใจแฟนๆแบบนี้ให้กับนักขับอีกคนนึงของเฟอร์รารี่บ้างนะครับ...เอาล่ะ...มาดูกันเถอะว่าวันนี้ผมจะสัมภาษณ์โกคุเดระได้กี่คำ?!” พิธีกรหันไปจ่อไมค์ใส่โกคุเดระต่อ ถึงเจ้าตัวจะยังทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวแต่ก็เพราะโกคุเดระเป็นแบบนี้อยู่เสมอนั่นแหละที่ทำให้แฟนๆต่างมองว่ามันเป็นบุคลิกที่น่ารักน่าเอ็นดูจนมีคนตามเชียร์มากมายโดยที่ไม่ต้องเสแสร้งหรือเรียกร้องความสนใจอะไร ซึ่งเขานับถือความเป็นตัวของตัวเองแบบนี้ของโกคุเดระมาก
นัยน์ตาสีมรกตกวาดมองไปที่แพดด็อกอีกครั้งอย่างไม่ละทิ้งความหวัง แต่แทนที่จะได้เห็นคนที่ตามหากลับเห็นใบหน้าที่คุ้นตาของใครอีกสองคน
คุณพ่อ? กับคุณหนูอัสเซลัม?
รอยยิ้มอบอุ่นที่มาจากใบหน้ายโสกับท่อนแขนเล็กๆที่โบกไปมาจนแทบหลุดของหญิงสาวทำให้เขายิ้มรับด้วยความดีใจ...ต่อให้ผู้ชายใจร้ายคนนั้นจะไม่สนใจเขาแต่ก็ยังมีพ่อมีเพื่อนที่เห็นว่าเขามีค่า
“ สเลน~~~ ยินดีด้วยนะคะ บอกตรงๆว่าหัวใจยังเต้นแรงไม่หยุดเลย ฉันเพิ่งรู้ว่าการแข่งรถมันสนุกแบบนี้นี่เอง” เสียงไพเราะดังขึ้นแทบจะทันทีเมื่อเขาถูกเรียกไปที่หลังพิตการาจ มือนุ่มนิ่มของคุณหนูอัสเซลัมจับมาที่สองมือของเขาด้วยความคุ้นเคย ใบหน้าสวยภายใต้กรอบผมสีทองยาวสลวยที่ส่งยิ้มมาให้ทำให้ใบหน้าของเขาร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ รู้สึกเขินๆเมื่อได้รับคำชมถึงแม้อีกฝ่ายจะใจดีกับเขาแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้วก็เถอะนะ
“ ทำได้ดีมากนะสเลน” ร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างๆหญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าอมยิ้มและนั่นก็ยิ่งทำให้ใบหน้าของเขาแดงเถือก
เขาดีใจ...ที่ทำให้คนคนนี้ภูมิใจในตัวเขาได้....เพราะที่ทำมาทั้งหมดนี้ก็เพื่อจะกลับไปเดินเคียงข้างอีกฝ่ายได้อย่างไม่อายใครนั่นแหละ
“ ขอบคุณครับ...คุณพ่อ...คุณหนูอัสเซลัมด้วย...ไม่คิดว่าจะมาดู...ผม...ดีใจมากๆเลยครับ” ใต้แผ่นอกซ้ายมันกำลังแผ่ซ่านไปด้วยไออุ่นๆ คุณพ่อหันไปหาบอสที่เดินเข้ามาพอดี เขาจึงเพิ่งเห็นว่าหน้าตาของลูกทีมแต่ละคนนั้นกำลังเหวอกันขนาดไหนเมื่อเห็นว่าเขายืนคุยอยู่กับใครและเขาเรียกอีกฝ่ายว่ายังไง
“ ผมขอยืมตัวลูกชายสักคืนสองคืนได้ไหมคุณเอลวิน? ว่าจะพากลับบ้านเสียหน่อย แล้วจะพาไปส่งที่มาราเนลโลเองไม่ต้องห่วง” แต่ดูท่าทางทีมบอสของสครูเดอเลีย เฟอร์รารี่จะไม่ได้มีท่าทางแปลกใจอะไร...แน่ละ...อย่างเอลวิน สมิธน่าจะรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นใคร
“ เชิญครับ” ใบหน้าหล่อเหลาถึงได้ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร แต่คงไม่มีใครรู้หรอกว่าในหัวสีทองนั่นกำลังคิดอะไรอยู่
ทีมบอสของม้าลำพองเหลือบมองทั้งสามคนที่ยืนคุยกันอยู่หลังพิตการาจด้วยความรู้สึกชอบใจ ก็ดูสิว่าเด็กในทีมเขาแต่ละคนธรรมดาเสียที่ไหน โน่นก็มาเฟีย นั่นก็ลูกชายนักการเมือง แล้วนี่ยังจะทายาทมหาเศรษฐี ดูท่าเรื่องสปอนเซอร์ของทีมจะสดใสละงานนี้
ร่างโปร่งบางที่เคยอยู่ในชุดนักขับมาทั้งวันเปลี่ยนไปใส่ชุดลำลองของเฟอร์รารี่ก่อนจะก้าวขาไปหาสองคนที่นั่งรออยู่
“ พร้อมแล้วครับ” ใบหน้าของผู้เป็นพ่อพยักให้ก่อนจะออกเดินนำหน้า ปล่อยให้เขากับคุณหนูอัสเซลัมเดินตามอยู่ข้างหลัง
ท่อนแขนบางของคุณหนูในเครือ BMW คล้องมาที่แขนของเขาตามความเคยชิน ใบหน้าใสเงยขึ้นมาพร้อมกับยิ้มให้แล้วชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย...พวกเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ เล่นด้วยกัน ไปมาหาสู่กันอยู่บ่อยๆ จะดูสนิทสนมกันมากกว่าคู่ค้าทางธุรกิจก็คงไม่แปลก เพราะงั้นเขาจึงปล่อยให้เธอเกาะแขนเดินต่อไปโดยไม่ได้คิดอะไร
แต่กับสายตาของคนอื่นแล้วมันอาจจะไม่ใช่....
โดยเฉพาะกับCEOหนุ่มแห่งเฟอร์รารี่ที่ลอบมองพวกเขาอยู่ไกลๆมาตั้งแต่แรกแล้วนั่น!
มีเวลากว่าสองอาทิตย์กว่าสนามที่สามจะเริ่ม เพราะงั้นลูกทีมส่วนใหญ่จึงกลับมายังมาราเนลโลอันเป็นฐานที่ตั้งของสครูเดเลีย เฟอร์รารี่
หลังจากหยุดพักกันไปสองวันทำให้สนามฟิโอราโนในวันนี้ดูคึกคักกว่าปกติ เสียงที่มักจะดังอยู่แล้วยิ่งดังน่าหนวกหูกว่าเดิมเมื่อลูกทีมต่างตะโกนคุยกันข้ามหัวไปมา โดยเฉพาะเวลาหลังจากทดสอบรถเสร็จซึ่งต่างคนต่างรู้สึกผ่อนคลาย หัวข้อคุยเล่นที่ค้างไว้บนเครื่องบินจึงถูกยกมาคุยกันต่อ
“ นายคิดว่าแค่สวิงจะจับมันได้เหรอ? มันเป็นงูยักษ์ไม่ใช่หรือไง?” ลูกทีมคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมาในขณะที่มือก็ไขน็อตให้เข้าที่
“ อย่าว่าแต่จับเล้ย หาตัวมันให้เจอก่อนเถอะ ขนาดคนญี่ปุ่นยังไม่เคยเห็น” ลูกทีมอีกคนตอบกลับในขณะที่จดตัวเลขบอกปริมาณน้ำมันที่ลดลงใส่ในชาร์ตที่ถืออยู่
“ แต่โกคุเดระบอกมาเองนี่ว่าจะไปจับ เพราะงั้นมันต้องมีแหงๆ ชั้นว่าเราควรจะเอารถบรรทุกคอนเทรนเนอร์ของเรานี่แหละไปใส่”
“ เด็กนั่นตั้งใจจะเอามาเลี้ยงไว้กับหมีหรือไง? แล้วหมีมันจะไม่จับกินเอาเหรอ? หรือว่าเจ้างูนั่นจะกินหมีกันหว่า?”
“ นายเคยเห็นหมีของโกคุเดระด้วยหรือไงถึงคิดว่ามันจะกินงู?”
“ ไม่เคยหรอก แต่คุณรีไวบอกไว้นี่นาว่าหมีนั่นมันดุมาก”
ลูกทีมต่างคุยกันอย่างสนุกสนานจะมีก็แต่นักขับมือสองเท่านั้นที่ไม่รู้เรื่องว่าคนอื่นๆคุยเรื่องอะไรกัน ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชาจึงได้แต่ยิ้มแห้งหันไปหันมามองคนนู้นทีคนนี้ทีอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก...แหงละ...เรื่องที่คุยกันมันก็น่างงจริงๆนั่นแหละ
“ อ่า...นายไม่ได้กลับพร้อมพวกเรานี่นะสเลน ลืมไป ฮ่าๆๆ” ลูกทีมคนหนึ่งหันมาเห็นเขาเข้าจึงเพิ่งจะนึกขึ้นได้
“ ก็ตอนขึ้นเครื่องบินกลับจากมาเลเซียน่ะ จู่ๆโกคุเดระก็ชวนพวกเราไปจับสึจิโนะโกะกันตอนไปแข่งที่ญี่ปุ่น...เอ่อ...รู้สึกว่ามันจะเป็นงูยักษ์ในตำนานพื้นบ้านของญี่ปุ่นน่ะ นายก็รู้ว่าเด็กนั่นชอบอะไรแปลกๆแบบนั้นแหละถึงได้เลี้ยงหมีไว้ในบ้านไง ฮ่าๆๆ” เขาถึงกับร้องอ๋อออกมาเมื่อหนึ่งในลูกทีมเล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของบทสนทนาชวนงงนั่น
“ แต่พูดก็พูดเถอะนะ...อาจจะดีแล้วก็ได้ที่นายไม่ได้กลับด้วยกันน่ะสเลน” จู่ๆลูกทีมคนนั้นก็ยิ้มอย่างหวาดๆราวกับกำลังนึกถึงบรรยากาศที่น่าขนลุก
“ ครับ?” เขาหันไปมองอีกฝ่ายอย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
“ นายจะได้ไม่ต้องมาเจอบรรยากาศมาคุๆที่เจ้าCEOปีศาจนั่นปล่อยออกมาตลอดทางกลับแบบที่พวกเราเจอไง” และแล้วชื่อของใครคนหนึ่งซึ่งอยู่ในประโยคก็ทำให้หัวใจถึงกับเต้นกระตุก
“ เดี๋ยวนะครับ...คุณครูเทโอกลับมากับเครื่องบินของทีมด้วยเหรอครับ?” ใบหน้าได้รูปผงะไปก่อนจะถามอีกฝ่ายด้วยท่าทางตื่นๆ ถ้ากลับมากับเครื่องบินของทีมนั่นก็แปลว่าผู้ชายคนนั้นไปมาเลเซีย.......คุณครูเทโอไปดูเขาแข่ง!!!
“ ใช่สิ...น่ากลัวโคตรๆเลยผู้ชายคนนั้น ใครได้ไปเป็นแฟนมีหวังตกนรกทั้งเป็นแน่ นี่เห็นเถียงกับบอสมาตลอดทางเลยเหมือนกัน....อ้าว? สเลน? สเลน?!” ร่างโปร่งบางลุกพรวดพราดขึ้นมาอย่างตั้งใจจะกลับบ้านทำให้ลูกทีมคนนั้นร้องเรียกด้วยความสงสัย ตอนนี้เขาไม่อยากจะคิดอะไรแล้วเพราะความดีใจมันกำลังเต็มแน่นอยู่ในอก ในหัวกำลังคิดอยู่ว่าต่อให้ต้องขับรถชนกำแพงรั้วก็จะทำแล้ว เพื่อให้ได้คุยกับคุณครูเทโอตรงๆ ทั้งๆที่ไปดูทำไมไม่ออกมาให้เห็นบ้าง ทั้งๆที่เขาดีใจมากขนาดนี้
“ ฮันซี่!” ทว่า สองขายังไม่ทันจะได้ก้าวไปไหน เสียงทุ้มที่กำลังตะโกนเรียกหัวหน้าวิศวกรของเอลวิน สมิธก็ทำให้ลูกทีมทุกคนหันไปมอง
“ มีใครเห็นฮันซี่บ้างไหม?” บรรดาลูกทีมต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เพราะจะว่าไปก็ไม่เห็นวิศวกรสาวมาพักใหญ่ๆแล้ว
“ มีอะไรหรือเปล่าบอส?” ลูกทีมคนหนึ่งเอ่ยถาม
“ ต้องไปแต่งตัวแล้ว วันนี้มีงานเลี้ยงประจำปีที่สำนักงานใหญ่น่ะสิ มีแต่ระดับผู้บริหารกับหุ้นส่วนรายใหญ่ จะไม่ไปก็ไม่ได้” ทีมบอสร่างสูงใหญ่เอ่ยออกมาด้วยใบหน้านิ่ง ถึงจะไม่ค่อยได้ใส่ใจงานเลี้ยงชั้นสูงแบบนี้มากนักแต่ถ้าเป็นงานที่เฟอร์รารี่จัดเองก็ยากที่จะปฏิเสธ
“ อ๋อ...งานนั้นอีกแล้วสินะครับ ที่จัดแบบเป็นทางการ บอสจะไปคนเดียวก็ไม่ได้เลยต้องให้คุณฮันซี่ที่เป็นผู้หญิงคนเดียวในทีมไปด้วย” มันเป็นมารยาทสังคมที่จะต้องเข้างานแบบนี้เป็นคู่ เพราะงั้นทุกๆปีเขาจึงมักจะลากยัยฮันซี่ไปด้วยตลอด
“ อืม” แล้วปีนี้ก็คงจะเป็นแบบนั้น...ถ้าไม่ติดที่ว่า....
“ บอส! คุณฮันซี่หลับอยู่นี่ครับ!” พอได้ยินคำว่า “หลับ” เท่านั้นแหละ มือใหญ่ถึงกับยกขึ้นกุมขมับ...อุตส่าห์บอกเอาไว้แล้วแท้ๆนะว่าวันนี้ต้องไปงานเลี้ยง...ร่างสูงใหญ่จึงเดินเข้าไปใกล้ๆวิศวกรสาวที่นอนหมดสภาพอยู่บนโซฟาในห้องพัก ทั้งเขี่ย ทั้งเขย่า ทั้งตะโกน เหลือก็แต่เตะให้กลิ้งนี่แหละแต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมตื่น!
“ เหมือนจะไม่ได้นอนมาสามวันแล้วครับ...บอสก็รู้ว่าเวลาวันหยุดทีไรคุณฮันซี่ก็ชอบหมกตัวอยู่ในโกดังบ้านตัวเองจนไม่ได้หลับได้นอนอย่างงี้ทุกที” ทีมบอสปีศาจกำลังจะกลายเป็นปีศาจสมชื่อก็คราวนี้...รู้สิ...เขารู้ดีเลยล่ะว่าเวลายัยฮันซี่หลับน่ะต่อให้เอารถเอฟวันมาวิ่งทับก็ไม่ตื่น!
ร่างสูงใหญ่ทรุดนั่งลงที่เก้าอี้อย่างคิดไม่ตก จะไปคนเดียวก็ไม่ได้เสียด้วยเพราะบัตรเชิญก็ระบุมาแล้ว เพราะเป็นงานสังคมชั้นสูงอีกทั้งหุ้นส่วนและลูกค้าที่จะมาก็มีแต่ระดับใหญ่ๆทั้งนั้น...คงต้องหาใครไปแทนฮันซี่...แต่ในเวลาด่วนๆแบบนี้ก็คงต้องหาเอาใกล้ๆตัวนี่แหละ
นัยน์ตาสีฟ้ากวาดมองรอบตัว...ในพิตการาจที่มีแต่ชายโฉดแบบนี้คงจะสิ้นหวัง...แต่เดี๋ยวนะ พิตการาจสีแดงของเขาก็ใช่ว่าจะมีแต่ผู้ชายสูงล่ำดำใหญ่เสียที่ไหน ไอ้ที่ตัวเล็กๆเอวบางร่างน้อยสูงร้อยเจ็ดสิบก็มีอยู่ตั้งสามคน! น่าจะใส่ชุดของยัยฮันซี่ได้!
ทีมบอสร่างสูงใหญ่หันไปมองโกคุเดระ ฮายาโตะที่กำลังนั่งเล่นพันด้ายอยู่ข้างรถของตัวเอง....ถึงจะสวยมากแต่นิสัยไม่สนใจใครของเด็กนี่คงไม่ไหว ถ้าพาไปงานแล้วเมินลูกค้าไม่ก็หนีกลับหน้าตาเฉยเขาคงแย่แน่ แล้วพอหันไปมองเอเลน เยเกอร์...ถึงจะน่ารักมากแต่ไอ้กลุ่มก้อนดำทะมึนที่คอยเฝ้ายิ่งกว่าเงานั่นทำให้เขาคงต้องมองผ่านเด็กนี่ไป งั้นก็เหลือแค่...
ทั้งอ่อนหวาน กิริยามารยาทงาม แถมมาจากครอบครัวแบบนั้นคงถูกฝึกเรื่องการเข้าสังคมมาอย่างดี ไม่มีใครเหมาะไปกว่านี้อีกแล้ว!
“ สเลน...นายไปกับชั้น” ใบหน้าหล่อเหลาหันไปบอกนักขับมือสองของตัวเอง
“ เอ๊ะ? ผม?” ปลายนิ้วเรียวชี้เข้าหาตัวเองด้วยใบหน้ามึนงง
“ ใช่...แน่นอนว่านายต้องแต่งชุดของฮันซี่” และแล้วทีมบอสปีศาจก็ลากคนที่กำลังงงออกไปอย่างไม่คิดจะให้ปฏิเสธ
“ เอ๋?~~~”
ชุดเกาะอกสีขาวส่งให้ผิวเนียนละเอียดยิ่งเปล่งประกาย เช่นเดียวกับชายกระโปรงที่สั้นเหนือเข่าทว่าฟูฟ่องราวกับเจ้าหญิงก็ยิ่งทำให้คนที่เอลวิน สมิธควงเข้ามาในงานยิ่งเป็นที่จับตามองของแขกชั้นสูงทั้งหลาย ท่าทางอายๆยิ่งส่งให้ใบหน้าใสอมชมพูดูมีเลือดฝาด พวกผู้บริหารเองก็แปลกใจเพราะปกติแล้วต้องเป็นฮันซี่แต่คราวนี้กลับเป็นสาวน้อยผมสีชาหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง ซึ่งจะว่าคุ้นก็ใช่ ไม่คุ้นก็ไม่เชิง
แต่ในขณะที่หลายๆคนเดากันไปต่างๆนานาว่าสาวน้อยคนนั้นเป็นใคร กลับมีคนคนหนึ่งที่จำได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น…
นัยน์ตาสีฟ้าของCEOหนุ่มแห่งเฟอร์รารี่เบิกกว้างเมื่อมองทีมบอสคู่ปรับเดินเข้ามาในงาน แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงไม่ใช่เจ้าเอลวินแต่เป็นคนที่เดินอยู่ข้างๆมากกว่า
นั่นมัน...เจ้าเด็กข้างบ้านของเขา...สเลน ทรอยยาร์ดไม่ผิดแน่
ทำไมเขาถึงรู้ได้น่ะเหรอ? ก็เพราะเขาเองก็เคยจินตนาการเอาไว้ ว่าหากเด็กนั่นใส่ชุดของผู้หญิงคงจะออกมาประมาณนี้แน่ๆ...ถึงในความเป็นจริงมันจะยิ่งกว่าที่เคยคิดไว้หลายเท่าเลยก็เถอะ
สวย...
สวยมาก....
ใบหน้าหยิ่งทระนงผงะไปเมื่อรู้สึกตัวว่ากำลังคิดอะไรอยู่...ไม่สิ...เขาไม่ควรจะเห็นดีเห็นงามกับการกระทำผิดธรรมชาติของเด็กนั่น!
นัยน์ตาสีฟ้าจ้องเขม็งไปที่ร่างโปร่งบางในกระโปรงแสนสวยอย่างไม่พอใจ ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มอย่างงดงามทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดยามที่มันยิ้มให้ใครต่อใครเมื่อเอลวินแนะนำให้เด็กนั่นรู้จัก...บอกกับคนอื่นว่ายังไงล่ะ? พามาด้วยในฐานะอะไร? แฟน? คนรัก? คนรู้จัก?
ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีทองสะบัดไปอีกทางก่อนจะยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มอย่างอารมณ์ไม่ดี...ตกลงเด็กนั่นจะคบกับใครกันแน่? หรือหว่านเสน่ห์ไปทั่วอย่างที่คิดจริงๆ?
“ รับเครื่องดื่มไหมครับ?” บริกรถือถาดที่เต็มไปด้วยแก้วยื่นมาตรงหน้าร่างโปร่งบาง ใบหน้าหวานพยักเบาๆก่อนจะหยิบแก้วน้ำส้มขึ้นมา...ทั้งๆที่เขาไม่ได้ชอบสักหน่อยแต่อยู่ในชุดแบบนี้จะไปกระดกไวน์ก็ใช่ที่ นักขับมือสองของเฟอร์รารี่ได้แต่เหลือบมองทีมบอสของตัวเองที่กำลังคุยอยู่กับลูกค้าอย่างนึกเคือง
บอสนะบอส...ให้เขามาทำเรื่องน่าอายแบบนี้ได้! ถ้าใครรู้เข้าว่าจริงๆแล้วเขาเป็นใครคงจะไม่มีหน้าไปขับรถได้อีกแน่ๆ ฮือออออ...ถึงอยากจะร้องไห้ก็ทำได้แค่ร้องอยู่ในใจเพราะยังไงก็มีแต่จะต้องเล่นละครตามน้ำให้จบๆไปเสียก่อน
ใบหน้าสวยลอบถอนหายใจก่อนจะมองเห็นตัวเองในกระจกเงาที่กรุอยู่บนเสา....นี่เขามาทำอะไรอยู่ที่นี่กันเนี่ย แทนที่จะได้กลับบ้านแล้วไปคุยกับคุณครูเทโอให้รู้เรื่อง ปรับความเข้าใจกันไปซะ
เอ๊ะ? แต่ถ้าพูดถึงคุณครูเทโอที่เป็น CEO ของเฟอร์รารี่ก็น่าจะต้องมางานนี้ด้วยน่ะสิ?
จู่ๆเหงื่อเม็ดใหญ่ก็ไหลซึมไรผม...แย่แล้ว...ถ้าผู้ชายคนนั้นเห็นเขาในสภาพแบบนี้เขาคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน มีหวังคงได้รังเกียจเขามากขึ้นแน่ๆ โธ่...เรื่องเก่าก็ยังไม่ทันจะได้คุยกันให้รู้เรื่องเลยแท้ๆ...
ริมฝีปากที่เคลือบไปด้วยลิปสติกเม้มแน่นก่อนจะพยายามกวาดสายตามองหาCEOหนุ่ม อย่างน้อยถ้ารู้พิกัดของอีกฝ่ายเขาก็จะได้หาทางหลบก่อนที่คุณครูเทโอจะเห็นเขาเข้า
แล้วในที่สุดก็หาเจอได้ไม่ยาก...เพราะผู้ชายคนนั้นนับว่าโดดเด่นไม่ใช่น้อยเลย
ทั้งๆที่คนที่มางานมีแต่คนที่ดูดีมีชาติตระกูลแต่CEOหนุ่มกลับโดดเด่นอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนพวกนั้น ร่างสูงใหญ่ในสูทสีขาวดูสง่างามราวกับท่านเคานต์ในเทพนิยาย ใบหน้าหยิ่งทระนงที่กำลังคุยกับหุ้นส่วนรายใหญ่ก็ดูเป็นงานเป็นการแต่กลับมีเสน่ห์ชวนหลงใหล
ก็ไม่น่าแปลกใจหรอก...ที่ข้างกายจะมีหญิงสาวที่สวยสะพรั่งยืนอยู่ไม่ห่าง
จริงสิ...คุณครูเทโอเองก็ต้องมากับผู้หญิงสักคน
แล้ว...ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน?
นัยน์ตาสีมรกตจ้องมองภาพเจ้าชายกับเจ้าหญิงตรงหน้าด้วยดวงตาสั่นไหว...ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ดาราหรือนักร้อง ไม่ใช่นางแบบหรือนางงามจักรวาล แต่กลับเป็นผู้หญิงที่ดูเฉลียวฉลาดปราดเปรียวซ้ำยังสวยเฉี่ยวและหุ่นดีมาก ดูจากการที่เธอเองก็พูดคุยกับลูกค้าของเฟอร์รารี่ได้อย่างไม่มีติดขัดแสดงว่าเธอเองคงจะคบกับคุณครูเทโอมานาน
เป็นแฟนกันงั้นเหรอ?
จะว่าไปเขาก็ไม่เคยรู้เลยว่าผู้ชายคนนั้นมีแฟนอยู่แล้วหรือเปล่า? ได้แต่คิดเอาเองว่าน่ากลัวขนาดนั้นคงไม่มีผู้หญิงที่ไหนทนได้...ทั้งๆที่มันอาจจะไม่ใช่ เพราะคุณครูเทโอก็นับว่าเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟคทุกอย่าง ทั้งหน้าที่การงาน รูปร่างหน้าตา...เวลาอยู่กับคนที่รักอาจจะนิสัยคนละเรื่องกับตอนที่อยู่กับเขาก็ได้...
ทำไมรู้สึกเศร้าจัง...
นัยน์ตาสีมรกตเหลือบกลับมามองภาพของตัวเองในกระจกเงาอีกครั้ง....อย่างเขา...ไม่มีอะไรให้เทียบกับผู้หญิงคนนั้นได้เลย...น่าจะเป็นคนแบบที่คุณครูเทโอรำคาญด้วยซ้ำ
“ สเลน...ถ้าหิวก็ไปหาอะไรกินก่อนได้นะ” เสียงกระซิบดังมาจากทีมบอสร่างสูงใหญ่ เขาพยักหน้าหงอยๆก่อนจะปล่อยให้บอสยืนคุยกับผู้บริหารตามลำพัง
จู่ๆก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมา ถึงอาหารจะเป็นบุฟเฟ่น่าทานแต่ก็ไม่นึกอยากกิน สองขาเลยเดินหลบหลีกผู้คนก่อนจะก้าวออกไปยังระเบียงซึ่งไม่มีใครอยู่...ออกมาสูดอากาศหายใจเสียหน่อยดีกว่า...แล้วก็จะได้ไม่ต้องทนเห็นภาพบาดตาในงานด้วย
เหมือนจะเข้าใจ...ความรู้สึกของตัวเองขึ้นมาบ้างแล้วแหะ...
เข้าใจ...ว่ามันคงเป็นไปไม่ได้...
“ ผมขอตัวไปห้องน้ำสักครู่ คุณอยู่นี่ไปก่อนแล้วกันนะ” CEOหนุ่มแห่งเฟอร์รารี่หันไปบอกหญิงสาวที่มาด้วยกัน ยังไม่ทันที่ใบหน้าสวยจะพยักหน้าให้ ร่างสูงใหญ่ก็ออกเดินไปเสียก่อน...เดินไป...ในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับห้องน้ำ...
เพราะถึงเขาจะยืนคุยกับบรรดาหุ้นส่วนรายใหญ่แต่สายตาก็ลอบมองสเลน ทรอยยาร์ดอยู่ตลอด...เขาถึงได้รู้ว่าตอนนี้เด็กนั่นเดินออกไปที่ระเบียงตามลำพัง
นัยน์ตาสีฟ้าเหลือบมองเอลวิน สมิธที่ดูจะติดพันกับตาแก่ผู้บริหารรุ่นเก่า อีท่านั้นคงจะคุยกันอีกยาวแน่ และเมื่อเขาเหลือบกลับไปมองหญิงสาวที่เขาพามาด้วยกันก็ดูเหมือนเธอจะไม่ได้สนใจเขามากมายนักถึงแม้ว่าเขาจะเดินไปคนละทางกับห้องน้ำเลยก็ตาม...แหงละ...ในเมื่อเราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว...ถึงจะเคยคบกันในฐานะคนรักมาก่อน แต่ก็ไปกันไม่รอดจึงเปลี่ยนความสัมพันธ์มาเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น....ทั้งๆที่มีแต่คนบอกว่าเราเหมาะสมกันทุกอย่าง แต่ว่าบางครั้งความรักมันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม...เพราะมั่นใจด้วยกันทั้งคู่จึงไม่เคยคิดจะคล้อยตามความรู้สึกของอีกฝ่าย สุดท้ายก็ต้องเลิกกัน
เพราะงั้นเขาถึงรู้ตัวดี...ว่ากับผู้หญิงเพอร์เฟคแบบนี้ไม่มีวันไปกับเขารอด
ถ้าจะรักใครสักคนอีก ก็ขอแบบเชื่อฟังเขา ว่านอนสอนง่าย ไม่มีปากไม่มีเสียงอะไรแบบนั้นจะดีกว่า
ประตูกระจกเลื่อนเปิดออกเผยให้เห็นแผ่นหลังขาวเนียนของคนที่ยื่นเกาะอยู่ที่ระเบียง สายลมอ่อนๆพัดเส้นผมสีชากับชายกระโปรงสีขาวให้พลิ้วไหวน้อยๆ ถึงภาพตรงหน้าจะสวยงามจนสะกดสายตา ทว่า อารมณ์คุกรุ่นที่กักเก็บมาตลอดก็มากเกินกว่าจะพ่ายแพ้ต่อบรรยากาศที่แสนโรแมนติก
ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปใกล้ๆอย่างเงียบเชียบก่อนจะเอ่ยปากถามลอยๆเป็นเชิงทดสอบ...ว่าคนที่เอลวินพามาจะใช่เจ้าเด็กข้างบ้านของเขาแน่หรือไม่
“ นี่...เธอซื้อกล่องข้าวหมีนั่นมากี่ใบนะ?” แล้วริมฝีปากที่เคลือบเอาไว้ด้วยลิปสติกก็ตอบออกมาด้วยความเผลอไผล ทั้งๆที่ยังไม่ทันจะได้หันมามองเลยด้วยซ้ำว่ามีคนยืนอยู่ข้างหลังตน
“ 3 ใบครับ...อ๊ะ?!” มือบางรีบยกขึ้นมาปิดปากก่อนจะตวัดตัวกลับไปมองอีกฝ่ายด้วยท่าทางลนๆ...คุณครูเทโอมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?!....ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาประชิดตัวมากขึ้นจนเขาได้แต่ถอยหนีจนติดราวกันตก
“ สเลน ทรอยยาร์ดจริงๆด้วยสินะ?” ใบหน้าหยิ่งทระนงก้มลงมาถามใกล้ๆด้วยน้ำเสียงกดดัน สายตาคมกริบคู่นั้นตวัดมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าแต่เขาก็พยายามก้าวข้ามความอายก่อนพยายามยิ้มให้ แต่แล้วความตั้งใจจะเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องที่อีกฝ่ายมาดูเขาแข่งก็ต้องพังครืนลงไปเมื่อปากร้ายๆนั่นเริ่มทำงาน
“ คิดอะไรอยู่ถึงได้แต่งตัวน่าอายแบบนี้มางานเลี้ยงของเฟอร์รารี่? คิดจะทำให้พวกเราต้องอับอายหรือไง? ถ้าผู้ถือหุ้นรู้ว่าเธอเป็นใครคิดว่าชั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? นักแข่งรถในทีมกลับแต่งตัวเป็นผู้หญิงหลอกใครต่อใครเค้าไปทั่วแบบนี้ ไม่อายตัวเองบ้างหรือไง?” คำพูดของอีกฝ่ายมีแต่จะทำให้เขายืนตัวชา รู้สึกน้อยใจเพราะเขาก็ไม่ได้อยากจะทำสักหน่อยแต่เป็นเพราะบอสขอร้องก็เลยต้องทำเรื่องน่าอายแบบนี้ พอจะเอ่ยปากแก้ตัว…
“ ไม่ใช่นะครับ...ก็บอส...” อีกฝ่ายก็สวนกลับทันทีโดยไม่คิดจะฟัง
“ อย่ามาพูดให้ขำว่าอย่างเจ้าเอลวินมันจะหาผู้หญิงพามาด้วยไม่ได้ มีแต่เธอนั่นแหละ คิดอะไรอยู่ถึงได้เสนอตัวให้เขาพามาล่ะ? คิดว่าหมอนั่นจะช่วยให้เธอได้เป็นนักขับตัวจริงของเฟอร์รารี่ได้งั้นสิ? ถึงได้ยอมแลกแม้แต่ศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายแบบนี้น่ะ?”
“ มันไม่ใช่แบบนั้น....” ริมฝีปากอยากจะเถียงแต่ก็สู้อีกฝ่ายไม่ได้ ไหล่บางที่กำลังสั่นสะท้านยิ่งทำให้ฝ่ายกดดันยิ่งรู้สึกว่าอยากรังแกมากขึ้นไปอีก ท่อนแขนแข็งแรงจึงรวบเอวบางเข้ามาจนแทบจะแนบชิดไปกับหน้าท้องของตัวเอง ใบหน้านิ่งขยับเข้าไปใกล้คนที่แทบจะร้องไห้อยู่รอมร่ออย่างจงใจเน้นย้ำประโยคที่กำลังจะเอ่ย
“ ถึงจะหว่านสเน่ห์ใส่เอลวินไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก เพราะคนที่เซ็นต์อนุมัติก็คือชั้น...ถ้าเธออยากเป็นนักขับตัวจริงของเฟอร์รารี่อย่างไม่เลือกวิธีแบบนี้ละก็...คนที่เธอควรเข้าหาก็คือชั้น ไม่ใช่หมอนั่น!” แล้วจู่ๆริมฝีปากร้ายกาจนั่นก็ฉกฉวยกลีบปากนุ่มไปอย่างรวดเร็ว ฝ่ามือใหญ่บีบปลายคางมนให้ริมฝีปากที่ถูกบดเบียดอ้าออกพอให้ปลายลิ้นร้อนสอดใส่เข้าไปได้ จุมพิตที่คุกคามและเอาแต่ใจมีแต่จะทำให้คนถูกบังคับดิ้นรนถอยหนี ยิ่งปลายลิ้นปียกแฉะรุกรานเข้ามาราวกับควานหาอะไรบางอย่างไปทั่วก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกกลัว สองแขนจึงรวบรวมกำลังทั้งหมดเพื่อผลักร่างสูงใหญ่ออกไป
“....แฮ่ก...แฮ่ก.....” ร่างโปร่งหอบถี่ก่อนจะพยายามถอยหนีเมื่อCEOหนุ่มพยายามจะคว้าตัวเขากลับไป
“ อย่า อื้อ!” ริมฝีปากประกบลงมาอีกครั้งเมื่อเขาหนีไม่พ้น ต้นแขนถูกบีบจนรู้สึกเจ็บไปหมด นัยน์ตาสีมรกตปิดสนิทเพราะไม่อยากเห็นหน้าของคนเจ้าอารมณ์ ถึงจะเป็นจูบที่ไม่ได้รู้สึกดีอะไรแต่เมื่อมันถอนออกไปร่างกายโปร่งบางก็แทบทรุดลงกับพื้น
“ ปล่อยผม อื้อ?!” ท่อนแขนที่รั้งตัวเขาเอาไว้ทั้งๆที่คิดว่าจะช่วยพยุงแต่มันกลับกระชากตัวเขากลับเข้าไปในอ้อมแขนแข็งแกร่งนั่นอีก...แล้วริมฝีปากก็ประกบจูบลงมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
นี่มัน...อะไรกัน...
เกลียดเขามากไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมถึงทำกับเขาแบบนี้?
หรือนี่คือวิธีที่จะใช้เหยียบย่ำความรู้สึกของเขา?
“ ปล่อยผม!” ท่อนแขนบางผลักแผงอกแข็งแรงออกไป พอคิดได้แบบนั้นต่อให้มือใหญ่จะพยายามดึงเขากลับไปแค่ไหน สองมือก็ยิ่งดิ้นรนขัดขืนยิ่งกว่าที่ผ่านมา
เพี๊ยะ!!
แล้วก็ไม่รู้ว่าตอนไหน...ที่เผลอตบหน้าของคุณครูเทโอไป...
“ อะ...คือ....” อยากจะถามว่าเจ็บไหม เขาไม่ได้ตั้งใจ แต่สายตาดุดันนั่นมันก็มีแต่จะทำให้เขาถอยหนี สองขารีบวิ่งออกมาจากตรงนั้นก่อนที่อีกฝ่ายจะคว้าตัวเขาทัน
ตุ้บ...
ร่างโปร่งบางชนกับไหล่หนาของใครบางคนเข้า และเมื่อเงยหน้ามองก็ทำให้เผลอจับแขนของอีกฝ่ายแน่น
“ บอส...” นัยน์ตาที่สั่นระริกเช่นเดียวกับมือบางที่สั่นจนรู้สึกได้ทำให้เอลวิน สมิธรับรู้ว่านักขับคนใหม่ของตนกำลังกลัวอะไรบางอย่าง และเมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองร่างสูงใหญ่ในสูทสีขาวที่กำลังก้าวเดินเข้ามาหาด้วยใบหน้านิ่งสนิทก็ทำให้พอจะเดาได้ทันทีว่าสเลนกำลังกลัวอะไร
“ อยู่นี่เองเหรอสเลน? กลับกันเลยไหม?” ทีมบอสดันแผ่นหลังบางให้หลบไปยืนข้างหลังแล้วเป็นฝ่ายยืนเผชิญหน้ากับเจ้าCEOปีศาจนั่นแทน มาหาเรื่องอะไรเด็กนี่อีกล่ะ? บางครั้งเขาก็ไม่เข้าใจเจ้าครูเทโอเลยว่าจะจองล้างจองผลาญอะไรสเลนนัก ไปดูที่สนามแข่งมาสองรอบแล้วก็น่าจะเห็นกับตาแล้วนี่ว่าเด็กนี่เก่งขนาดไหน...แล้วทำไมถึงไม่คิดจะเก็บไว้ข้างๆกาย? ทำไมถึงไม่อยากจะให้เป็นนักขับของเฟอร์รารี่?
“ เด็กนั่นอยู่บ้านข้างๆบ้านชั้น ให้กลับกับชั้นก็ได้” ใบหน้าหยิ่งทระนงเอ่ยออกมาทั้งๆที่สายตาก็ยังจ้องเขม็งมาที่คนที่หลบอยู่ข้างหลัง...ท่าทางแบบนี้จะปล่อยให้ไปด้วยได้ไง?
“ ไม่เป็นไร ชั้นเป็นคนพาสเลนมา เพราะงั้นมันก็เป็นหน้าที่ของชั้นที่ต้องพาเขาไปส่ง อีกอย่าง นายก็ต้องดูแลคู่ควงของนายเองไม่ใช่รึไง?” ทีมบอสม้าลำพองพยักหน้าไปด้านในห้องจัดเลี้ยงที่ใกล้จะได้เวลาเลิกงาน
“ ขอตัว” เอลวิน สมิธตัดบทสั้นๆก่อนจะจับมือของสเลนแล้วพาเดินออกไปด้วยกัน...ท่ามกลางสายตาดำมืดที่มองตามไปอย่างไม่พอใจ
เฟอร์รารี่สีดำของทีมบอสแห่งพิตการาจสีแดงจอดลงที่หน้าบ้านเยเกอร์ในเขตมอนชิโอ้ ร่างโปร่งบางกล่าวขอบคุณสักครู่แล้วก้าวขาลงมาโดยไม่ได้ให้เอลวิน สมิธขับรถเข้าไปส่งถึงในบ้านเพราะไม่คิดว่าจะมีอะไร ทันทีที่นักขับคนใหม่ของทีมเข้าไปยืนโบกมือให้อยู่ในรั้ว Ferrari 599 GTB ก็แล่นออกไป
ไฟหน้ารถที่สว่างชัดค่อยๆห่างออกไปเรื่อยๆตอนนี้จึงมีเพียงแสงสลัวๆของดวงโคมไฟซึ่งอยู่ในสนามเท่านั้นที่ช่วยให้คนที่ยังอยู่ในชุดราตรีฟูฟ่องเดินเข้าบ้านถูก มือบางล้วงกุญแจออกมาจากในกระเป๋าถือด้วยท่าทางเหนื่อยๆ ชุดนี่ทั้งหนาวทั้งหนัก ผมก็ถูกตรึงจนชักจะเจ็บหนังหัว หน้าก็เหมือนถูกพอกเอาไว้ด้วยอะไรเหนอะๆ สรุปแล้วเขาอยากจะรีบอาบน้ำแล้วลงไปนอนพังพาบบนเตียงสุดๆแล้วตอนนี้
นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองบ้านข้างๆตามความเคยชิน แสงไฟที่ลอดบานหน้าต่างออกมาทำให้รู้ว่าCEOหนุ่มกลับมาแล้ว...เอ๋? ทำไมมาถึงก่อนเขาอีกล่ะ? ไม่ได้ไปส่งผู้หญิงคนนั้นหรือไง?
หรือว่าพามาด้วย?
ใบหน้าได้รูปรีบก้มลงมองพื้นถนนเพราะกลัวว่าอาจจะเห็นภาพบาดตาจากบานหน้าต่างพวกนั้น
ถึงจะยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกัน ถึงทุกอย่างจะดูเหมือนเลวร้ายลงไปกว่าเดิม...แต่อย่างน้อยก็ต้องขอบคุณงานเลี้ยงในคืนนี้...ที่ทำให้เขาเข้าใจตัวเองมากขึ้น
ในที่สุดก็รู้สักที...ว่าความรู้สึกในหัวใจนี้มันคืออะไร...
ใบหน้าสวยถอนหายใจในขณะที่ก้าวขาเข้ามาใต้ชายคาบ้าน...ถึงจะรู้แล้วจะทำอะไรได้...ในเมื่อตอนนี้คุณครูเทโอคงจะอยู่กับ....
นัยน์ตาสีมรกตละจากพื้นขึ้นมามองที่ประตูบ้านอย่างตั้งใจจะไขกุญแจ...ทว่า...เงาร่างที่ยืนขวางประตูอยู่นั้นก็ทำให้นัยน์ตาสีมรกตถึงกับเบิกกว้าง
“ คุณ...” เป็นเพราะไม่ได้มองมาทางนี้เลยจึงไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนยืนกอดอกดักรออยู่ และคนที่จะทำแบบนี้ได้แน่นอนว่าต้องเป็นคนที่เข้า-ออกบ้านของเขาได้โดยที่ไม่ต้องผ่านประตูหน้า....
“ คุณครูเทโอ?” ถึงจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมาทำอะไรอยู่ตรงนี้แต่ใบหน้านิ่งสนิทติดจะน่ากลัวนั่นก็ทำให้ขาเรียวก้าวถอยหลัง...เพราะรสจูบที่ยังติดอยู่ที่ริมฝีปากทำให้รู้สึกกลัวอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
“ อ๊ะ?” ทว่าฝ่ามือที่จู่โจมเข้ามาอย่างรวดเร็วก็ทำให้เขาไม่ทันจะได้ทำอะไร มือใหญ่รวบเอวเขาก่อนที่ลำตัวจะลอยหวืดขึ้นไปกลางอากาศแล้วไปพาดอยู่บนไหล่แข็งแรง
“ คุณครูเทโอ?! อึก!” ร่างกายพยายามดิ้นให้หลุดเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะทำอะไร ในสมองมึนงงอย่างจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก รู้แต่ว่ากลิ่นแอลกอฮอล์ที่โชยอ่อนๆตอนอยู่ในงานเลี้ยง...ตอนนี้มันแรงมากกว่าเดิมหลายเท่า
เมาหรือเปล่า?
“ คุณครูเทโอ?! นี่!” มือบางพยายามเขย่าแผ่นหลังกว้างเพื่อให้อีกฝ่ายได้สติ แต่ร่างสูงใหญ่ก็ยังคงเดินดุ่มๆกลับไปบ้านของตัวเองโดยไม่คิดจะสนใจเสียงเรียกของเขาเลยสักนิด
ตุ้บ...
ร่างโปร่งบางถูกโยนลงไปบนเตียงกว้างใหญ่ เพราะเป็นนักขับรถสูตรหนึ่งจึงมีปฏิกิริยาที่ไวพอสมควร ร่างโปร่งถอยหนีทันทีที่แผ่นหลังสัมผัสกับเนื้อนิ่มๆของผ้าปูเตียง
“ คิดจะทำอะไรของคุณ?” ถึงจะกระถดกระถอยหนีไปจนชิดหัวเตียงแต่คนที่ก้าวขาคร่อมตามมาก็มีแต่จะทำให้หัวใจดวงน้อยตื่นตระหนก
“ ทำต่อจากที่ระเบียงไง” ใบหน้าหยิ่งทระนงที่เอ่ยออกมานิ่งๆบ่งบอกว่ากำลังเอาจริง
“ เอ๊ะ?”
“ ยังไงเธอมันก็ได้ทั้งผู้ชายผู้หญิงอยู่แล้วนี่? กับชั้นอีกคนคงไม่เป็นไร” มือใหญ่ตรงเข้าจับต้นแขนเล็กก่อนจะออกแรงลากให้กลับไปกลางเตียง
“ เดี๋ยว?! พูดอะไรของคุณ?! เมาแล้วใช่ไหมครับ?!” เงาที่ทาบทับลงมามีแต่จะทำให้ใบหน้าได้รูปหวาดผวา ถึงเขาจะไม่ประสีประสากับเรื่องบนเตียงแต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้อะไรเลย...
“ บอกไว้ก่อนเลยนะว่าชั้นไม่ได้เมา” และนัยน์ตาสีฟ้าที่จ้องมองลงมามันก็บอกกับเขาแบบนั้นจริงๆ...อีกฝ่ายยังมีสติครบถ้วน...และตั้งใจจะรังแกเขาจากใจจริง
...คิดจะใช้วิธีนี้เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขาหรือยังไง....
“ ปล่อยผม ผมจะกลับบ้าน” ร่างโปร่งพยายามหาทางหนี แต่คนที่ปล่อยให้หนีไปจนสุดปลายเตียงก็จับข้อเท้าเขาไว้ก่อนจะลากกลับมาเหวี่ยงลงกลางเตียงเหมือนเดิม ใบหน้าที่ดูจะชอบใจเมื่อเห็นเขาหวาดกลัวมีแต่จะทำให้นึกอยากหนีไปให้พ้นๆ มือแข็งแรงกางกั้นลงมาก่อนที่ใบหน้ามืดมนจะก้มกระซิบใกล้ๆ
“ เธอจะยุ่งกับผู้ชายหน้าไหนหรือคุณหนูของBMWมันก็เรื่องของเธอ แต่เอลวินเป็นบุคลากรที่สำคัญของเฟอร์รารี่...อย่าคิดจะไปปั่นหัวหมอนั่นเล่นเพื่อให้ตัวเองได้อยู่ในทีม” ริมฝีปากสีระเรื่อเม้มแน่นอย่างพยายามห้ามความสั่นสะท้านที่สะท้อนออกมาจากหัวใจ เขาเคยคิดแบบนั้นเสียที่ไหน ทำไมอีกฝ่ายถึงไม่เคยมองเขาในแง่ดีบ้าง...พอกันที
“ ถ้าผมมันน่ารังเกียจขนาดนั้นแล้วคุณจะมายุ่งกับผมทำไม?! ที่คุณกำลังทำอยู่นี่มันก็ไม่ได้ต่างจากที่คุณว่าคนอื่นหรอกครับ!” เขาตะโกนออกไปอย่างเหลืออด ในใจมันเจ็บร้าวไปหมดจนน้ำตาปริ่มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
“ ต่างสิ...” แต่คนที่ทำร้ายกันครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังไม่คิดจะปรานี
“ เพราะชั้นไม่มีวันหลงเธอเหมือนพวกนั้นยังไงล่ะ” ใบหน้าสวยนิ่งค้างไปตามร่างกายที่ชาวาบ ต่างจากหัวใจที่รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงจนอยากจะควักมันออกมาแล้วปาทิ้งไปซะ
เลวร้าย...
นี่เขา...หลงรักผู้ชายที่เลวร้ายแบบนี้ไปได้ยังไง...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To be Con.
=[ ]= จะมีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยนางเอกหรือไม่ หรือสาวเจ้าต้องชอกช้ำระกำใจต่อไป...โปรดติดตามตอนหน้า...หน้า...หน้า.....
*โดนตบ* ก็ไอ้คนที่จับกดนางเอกอยู่มันก็พระเอกนั่นแหละ! จะไปหวังม้าขาวจากไหนได้อีกถถถถถถ เอาใหม่ๆ
จะมีตัวร้ายขี่ม้าขาวมาช่วยนางเอกจากพระเอกหรือไม่ หรือสาวเจ้าจะต้องเป็นของพระเอกต่อไป....=[ ]= เริ่มงง ช่างแม่งถถถถ
จะมีตัวร้ายขี่ม้าขาวมาช่วยนางเอกจากพระเอกหรือไม่ หรือสาวเจ้าจะต้องเป็นของพระเอกต่อไป....=[ ]= เริ่มงง ช่างแม่งถถถถ
แล้วก็ต้องกราบขออภัยที่หายหัวไปหลายอาทิตย์ TvT หนีไปเที่ยวไม่ได้เข้าออฟฟิศเกือบเดือน กลับไปอีกทีเลยแทบไม่ได้โงหัวเลยค่ะ เมาหลังคาแทบอ้วก TqT กำลังเขียนแบบบ้านหลังหนึ่งอยู่ คือหลังคาแม่งมันส์มากกกกกก เป็นบ้านสไตล์ New England ผสมวินเทจ มีระดับอะเสราวๆ 8 ระดับได้ถถถถ แน่นอนว่าเป็นหลังคา Hip ถ้า Lean to จะไม่บ่นซักคำ TvT บ้านปกติตัด section 5 รูปก็หรูแล้ว อิหลังนี้ตัดกันไป 10 รูป TvT หลังกะปิ๊ดเดียวแต่ความยากระดับบอสเรย ฮืออออ แถมงานเร่งขี้แตกถถถถ กว่าจะได้หายใจหายคอก็เมื่อเคลียร์หลังคาได้หมดแล้วนี่แหละค่ะ
ช่างเรื่องงานแม่งไปค่ะ
เมื่อวันก่อนตามอ่านเพจ F1 star แล้วแอดมินเค้าแปะวีดีโอนี้ไว้เลยตามไปส่องค่ะ อยากจะบอกว่าดูไปขำไปฟฟฟฟฟ คือไม่ได้ขำนิโก้นะคะ แต่ขำเพราะคิดตามว่า...คุณรีไวที่เป็นเทรนเนอร์จะต้องมาทำอะไรแบบนี้ใช่ไหมเนี่ย55555 คือตอนแรกคุณกวางไม่คิดว่าการเทรนให้นักขับฟอร์มูล่าวันจะมีการละเล่น(?)อย่างอื่นด้วย ก็นึกว่ามีแต่การออกกำลังกายกับฝึกใช้ไอ้เครื่องโยกหัวกับหมุนพวงมาลัยน้ำหนักนั่นแค่นั้น ที่ไหนได้.......ก๊ากๆๆๆๆๆๆ ไม่เข้ากับหน้าคุณท่านเลยบอกตามตรง5555555555 ยิ่งคนที่เทรนให้เป็นก๊กด้วยนี่ยิ่ง...5555555555555+
คือหนูก๊กน่ะ มักจะมีปัญหากับเทรนเนอร์ เนื่องจากมีหมีมาคอยป่วน ทำให้ต้องเปลี่ยนเทรนเนอร์บ่อยๆจนเอลวินเริ่มขี้เกียจหา ประกอบกับคุณรีไวจะเลิกขับ F1 ด้วยอาการปวดหลังตามอายุ เอลวินเลยขอให้รีไวมาเป็นเทรนเนอร์ให้หนูก๊ก ตอนแรกคุณท่านก็ไม่อยากทำหรอก กะจะตามเฝ้าเอเลนอย่างเดียว แต่เอลวินก็งัดไม้แข็งมาใช้ ขู่ว่าถ้าไม่เป็นเทรนเนอร์ให้ก๊ก รีไวก็จะไม่ใช่คนของเฟอร์รารี่อีกต่อไปเพราะฉะนั้นก็จะตามไปเฝ้าเอเลนในสนามแข่งด้วยไม่ได้ นั่นแหละ คุณท่านเลยต้องยอมทำ แต่ก็ยังไม่วายตั้งเงื่อนไขว่าจะเทรนให้ก๊กคนเดียว เพราะงั้นเทรนเนอร์ของสเลนเลยเป็นคนอื่นค่ะ *w* ส่วนจะเป็นใครก็ไว้คอยดูกันนะก๊ะ เหลือคนเดียวแล้วนี่ที่ยังไม่มีบท! เพื่อสีสันความรักของท่านเคานต์ค.อีกแล้ว ก๊ากๆๆๆ // หลบไม้เท้า
อันที่จริงมีตอนพิเศษเรื่องปัญหาระหว่างหนูก๊ก หมี และเทรนเนอร์อยู่เหมือนกันค่ะ เป็นตอนที่ชื่อว่า GLIDE : 40 km/hr คือพล็อตเรื่องแม่งจบไปนานแล้ว แต่เมื่อไหร่จะได้ลงมือแต่งเนี่ยถถถถถถ
อ้อ...สำหรับใครที่ดูคลิปเทรนเนอร์แบ้วสงสัยว่าหนุ่มคนนี้เป็นใคร เขาคือนิโก้ รอสเบิร์กค่ะ นักขับของเมอซิเดส จีพี คนปัจจุบัน(2015) ตอนอยู่ในชุดนักขับก็ว่าตัวเล็กแบ้วนะ พอได้มาดูตอนใส่ขาสั้นแบบนี้ ขาโคตรเล็กเลยค่ะ *q*....ปะ เปล่านะ...เค้าเปล่านอกใจนักขับม้านะ....*q*...
แล้วเจอกันตอนหน้า อาจจะช้าเล็กน้อยเพราะ NC ยาวเหยียด TvT เค้าไม่ถนัด *พรากกกกก*
แงงงง สู้ๆนะค่ะ อย่าลืมพักผ่อนด้วยนะค่ะ ^^
ตอบลบท่านครูเทโอ้!!! จะซึนไปถึงไหนเนี้ย เข้าใจผิดคิดเองไปหลายมากจริงๆสงสารหนูสเลน แงงง
รอฉากNC ค่ะ บวกให้กำลังใจพี่กวางนะค่ะ สู้ๆค่ะ
รอคิดตามผลงานทุกเรื่องค่ะ ^^
NC NC NC!!!
ตอบลบไม่ค่อยจะหื่นเลย 55555
ขอบคุณมากๆนะคะ
NC NC NC!!!
ตอบลบไม่ค่อยจะหื่นเลย 55555
ขอบคุณมากๆนะคะ
โอ้ยยย ค้างมากค่ะ ฮาาาา
ตอบลบแต่กำลังคิดว่าน้องต้องร้องไห้จนคุณ CEO ใจอ่อน >///<
ว่าแต่คุณครูเทโอ้ตอนนี้แรงมากค่ะ แซงทางโค้งไปเลย
ป๋าเอลวินดูแลน้องดีๆนะคะ
ค้างมากค่ะอีกรอบ 5555
ตอนแรกแอบลุ้นนะคะ ท่านค.อาจจะได้สติ หรือน้องอาจจะดิ้นละหนีไปได้
ตอบลบแต่พออ่านคอมเม้นต์ของคุณกวางท้ายฟิคแลัว = =;;; โชคดีนะจ๊ะสเลน
อย่ารุนแรงมากนะคะท่านค.
ส่วนเทรนเนอร์ ถ้าเป็นคนที่คิดไว้นี่เราขำอะค่ะ 555
เพราเทรนเนอร์ของม้าลำพองจะมีแต่พวกหน้าตายและเตี้..... //ตืด ตืด สัญญาณขาดหาย
รอตอนต่อไปอย่างจดจ่อ รอดูความซาดิสม์ของท่านเคานท์
ตอบลบโอ้ย คุณกวางใจร้ายตัดให้รูสึกค้างได้ขนาดนี้ ฟฟฟฟฟ
ตอบลบท่านครูเทโอ้รังแกนุ้งสเลนรุณเรงไปแล้ว เดี๋ยวน้องบินกลับบ้านขึ้นมาจะแย่เลยนะ
เราก็หวังฉากต่อไปเป็น NC นะคะ แต่พออ่านข้อความคุณกวางมันชวนให้นึกถึง
ผู็หวังดีของนุ้งสเลน ไม่รู้จะมีบทมาไหมแต่ถ้ามีท่านครูเทโอ้คงแกล้งน้องยากขึ้นแล้วล่ะ
แต่ขอตอนต่อไป NC ได้ไหม ฟฟฟฟฟ
ไหนๆก็จะรวบหัวรวบหางน้องเขาขนาดนี้แล้ว อิwอิ
ฟินจนแอบเอาสเลนเก็บไปวาดแล้วค่ะ T - T //แต่ไม่กล้าส่งให้ดูค่ะ เขินนนนนนน T ///////// T ท่านครูอ่ะ หึงแล้วพาลจริงๆ.............. อยากจะวิ่งไปสไลด์แล้วตบหัวเเฮียสักฉาดค่ะ ตาลุงปากแข็งงงงงงงงงงงงงงงงงงง Q[]Q ซึนอีก โอ้ยยยย อยากให้สเลนเอาคืนจนสเลนลุกไม่ขึ้น(?) เลยค่ะ
ตอบลบ