Attack on Titan feat.KHR and A/Z Au.Fic [Cruhteo x Slaine , Levi xEren , 8059] GLIDE : WHITE and SILVER#04


Attack on Titan feat.KHR and A/Z Au.Fic [Cruhteo x Slaine , Levi xEren , 8059]  GLIDE : WHITE and SILVER#04

For HBD. Count Cruhteo

: Attack on Titan feat KHR Fanfiction Au
: Cruhteo x Slaine , Levi x Eren , 8059
: Romantic Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
           
     
     




สมกับที่อยู่ในทีมแข่งรถ ถึงแม้จะเป็นโฟลคสวาเกนก็สามารถซ่อมเสร็จภายในวันเดียว เจ้ารถเต่าสีเหลืองอ่อนจึงฟื้นคืนชีพอีกครั้งและตอนนี้มันก็กำลังวิ่งอยู่บนถนนมอนชิโอ้

แต่แทนที่สเลน ทรอยยาร์ดจะขับมันเข้าบ้าน เจ้ารถเต่ากลับจอดลงในตรอกใกล้ๆบ้านเยเกอร์แทน

ร่างโปร่งบางก้าวขาลงมาจากรถทั้งๆที่มันยังติดเครื่องอยู่ สองขาย่องๆเลาะกำแพงรั้วบ้านของตัวเองก่อนจะชะโงกใบหน้าได้รูปออกไปมองรั้วหน้าบ้าน มองแล้วมองอีกว่าบ้านข้างๆนั้นยังไม่มีใครกลับมาแน่ๆใช่ไหม

และพอเห็นว่าบ้านหลังนั้นยังคงเงียบกริบ ไม่มีรถประจำตำแหน่งจอดอยู่ สองขาจึงรีบวิ่งไปกดรีโมตประตูรั้วบ้านของตัวเองให้มันเปิดออกก่อนจะรีบวิ่งกลับมาที่รถแล้วขับเจ้ารถเต่าเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว

“ เฮ้อ....”   ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชานั่งถอนหายใจอยู่หลังพวงมาลัย...เขายังไม่พร้อมจะเจอหน้าคนข้างบ้านตอนนี้

เขายอมรับว่าเขากลัวผู้ชายคนนั้นจริงๆ...

ถ้าไม่ต้องข้องแวะอะไรกันอีกก็คงดี...

ไหล่บางสะดุ้งน้อยๆเมื่อนึกขึ้นได้ว่าควรจะรีบเข้าบ้าน มือทั้งสองข้างจึงกวาดกระเป๋าและผักผลไม้ที่แวะซื้อมาแล้ววิ่งเข้าไปในตัวอาคารก่อนจะปิดประตูลงกลอนเสียมิดชิด

นัยน์ตาสีมรกตทอดมองลูกบิดของประตู...นี่เขาจะต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัวแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่กันนะ...ไม่มีทางที่ผู้ชายคนนั้นจะเลิกทำร้ายเขาบ้างเลยเหรอ...








รถประจำตำแหน่งของCEOหนุ่มแห่งเฟอร์รารี่แล่นเข้าบ้านเมื่อแสงอาทิตย์หายไปพอดี การประชุมวันนี้ดูดพลังงานของเขาไปจนแทบไม่มีเหลือ แต่ทั้งๆที่มีเรื่องให้คิดอีกมากมาย ในหัวของเขามันกลับมีแต่เรื่องเมื่อเช้าอยู่เต็มไปหมด

ร่างสูงใหญ่ก้าวขาลงจากรถแต่แทนที่ในมือจะถือแฟ้มเอกสารอย่างทุกทีมันกลับมีตะกร้าผลไม้อยู่

ใบหน้าหยิ่งทระนงลอบมองไปยังโรงรถของบ้านข้างๆ  Volkswagen New Beetle Cabriolet กลับมาจอดอยู่ในนั้นแล้ว แสดงว่าเด็กนั่นก็คงกลับมาแล้ว?

นัยน์ตาสีฟ้าเหลือบมองตะกร้าผลไม้ในมือ...จะบอกว่ารู้สึกผิดเลยซื้อมาเพื่อขอโทษก็คงได้...ร่างสูงใหญ่เดินวนไปวนมาอยู่หน้าโรงรถบ้านของตัวเองอยู่พักใหญ่...แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่กล้าเอาไปให้...ตะกร้าผลไม้นั่นจึงย้ายไปวางนิ่งอยู่บนเคาน์เตอร์ครัวในบ้านเขาเสียแบบนั้น

ร่างสูงใหญ่กลับออกมาจากห้องน้ำด้วยเสื้อคลุมเนื้อดีที่สวมทับชุดนอนเรียบร้อย นัยน์ตาสีฟ้าทอดมองกล่องกำมะหยี่สีแดงเลือดนกที่วางอยู่บนทำงาน เขาตั้งใจจะเก็บแหวนของเด็กนั่นเอาไว้...มีแค่เขาคนเดียวที่รู้ว่าเด็กนั่นเป็นใครก็พอ

แต่ก็อีกนั่นแหละ คิดว่าจะปิดไปได้นานแค่ไหน ถ้าได้ลงแข่งคนทั่วโลกก็จะรู้ทันที แล้วมีหรือที่ค่ายรถหรูหูตาแพรวพราวสัญชาติอังกฤษนั่นจะไม่รู้เชียวว่านักขับของเฟอร์รารี่คนนี้เป็นใคร...นี่ไม่ใช่ว่ากำลังล้อเล่นกับเฟอร์รารี่ของเขาอยู่หรอกนะ?

คิ้วสีทองขมวดเข้าหากันแต่ยังไม่ทันจะได้คิดในแง่ร้ายอะไรต่อ ลมที่กรรโชกแรงอยู่ภายนอกก็ทำให้ไฟฟ้าในบ้านเริ่มจะกระพริบติดๆดับๆ

แล้วในที่สุดทั้งย่านมอนชิโอ้ก็มืดสนิท...

ไฟดับ?

CEOหนุ่มแห่งเฟอร์รารี่แหวกผ้าม่านมองรอบๆบ้าน ดูเหมือนไฟจะดับจริงๆเพราะทั้งไฟถนน ไฟในบ้านใกล้เรือนเคียงล้วนมืดไปหมด

ร่างสูงใหญ่จึงอาศัยแสงไฟจากมือถือเพื่อหยิบตะเกียงน้ำมันออกมา บ้านที่มืดมิดจึงสว่างขึ้นเป็นจุดๆ

แล้วป่านนี้เจ้าเด็กข้างบ้านจะเป็นยังไงบ้างเนี่ย?

สองขาขยับไปยืนอยู่หลังหน้าต่างก่อนจะลอบมองไปที่หน้าต่างของบ้านข้างๆ...มันยังมืดสนิท...เด็กนั่นหลับไปแล้วหรือไง?

ไม่น่าใช่...นี่ก็เพิ่งจะสองทุ่มเอง...หรือว่าจะหาตะเกียงหรือไฟฉายไม่เจอ?...มันก็เป็นไปได้เพราะยังไงนี่ก็ไม่ใช่บ้านของเด็กนั่น ไม่น่าจะรู้ว่าพวกเยเกอร์เก็บอุปกรณ์สำหรับตอนไฟดับไว้ที่ไหน


เคร้ง....


ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีทองหันไปมองทันทีที่ได้ยินเสียงของหล่นดังแว่วมาจากบ้านข้างๆที่ยังมืดสนิท...ไม่ใช่ว่าหาไฟฉายจนเดินชนอะไรเข้านะนั่น? 

เขาตัดสินใจหยิบตะเกียงอันหนึ่งขึ้นมาก่อนจะก้าวขาออกจากบ้าน แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องไปกดกริ่งรั้วหน้าบ้านให้เสียเวลา เขาก้าวขาไปยังประตูเหล็กข้างบ้านแทน


โครม!...


ดูเหมือนจะได้ยินเสียงของหล่นกับเสียงโครมครามดังมาจากในบ้านเยเกอร์เรื่อยๆ เดี๋ยวก็โดนตู้ล้มทับตายหรอก

“ สเลน!”   เขาตะโกนเรียกพลางทุบประตูบ้านไปด้วย...ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย

เสียงในบ้านเงียบไปทันทีที่ได้ยินเสียงเขาราวกับว่าคนที่อยู่ข้างในนิ่งค้างไป...หรือว่ากลัวเขาจะเข้าไป?

“ มะ เมี้ยว....”   แต่กลับมีเสียงแมวร้องออกมาแทน?  คิ้วสีทองขมวดเข้าหากันก่อนที่เส้นเลือดบนขมับจะเต้นตุบๆ

“ ไม่ต้องมาทำเป็นแมวร้องเลยนะ เปิดประตูเดี๋ยวนี้!  แล้วคราวนี้ฝ่ามือก็ทุบรัวแรงกว่าเดิม

“ ชั้นบอกให้เปิดไง สเลน!”   เจ้าเด็กนี่มันน่าโมโหจริงๆ นอกจากจะไม่ยอมเปิดยังมีเสียงของหล่นราวกับคนข้างกำลังลนตามมาเรื่อยๆ

“ ถ้าไม่เปิดชั้นจะพังประตูเข้าไป...นับหนึ่งถึงสาม...”   เขายื่นคำขาดแล้วในขณะที่ริมฝีปากกำลังขานเลขสอง...


แอ้ด....


ประตูที่เขาสู้รบอยู่นานก็ค่อยๆแง้มเปิดจนได้...เด็กนั่นมองออกมาด้วยท่าทางกลัวๆ เขาจึงถือวิสาสะผลักประตูเข้าไป แล้วสิ่งที่แสงจากตะเกียงของเขาส่องกระทบก็ทำเอาหัวใจเต้นกระตุกไปวูบหนึ่ง

ต้นแขนของเด็กนั่นมีเลือดออก...แล้วมันก็กำลังไหลเป็นทางลงมาจนเกือบจะถึงข้อมืออยู่แล้ว

“ ไปโดนอะไรมา?!”  เขาคว้าข้อมือบางเพื่อจะดึงร่างของอีกฝ่ายมาดูใกล้ๆ

“ โอ้ย...”   เด็กนั่นร้องออกมาเบาๆเมื่อเขาเผลอไปโดนแผลเข้า เขาจึงปล่อยมือแทบไม่ทัน

“ เจ็บเหรอ?”   ใบหน้าได้รูปพยักน้อยๆก่อนจะช้อนตามองเขาด้วยท่าทางหวาดๆ เนื้อตัวที่สั่นน้อยๆทำเอาเจ็บแปลบที่หัวใจอย่างไม่มีสาเหตุ

แต่เขาก็ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะกลัวเขาหรือไม่ มือดึงร่างโปร่งบางให้นั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นก่อนจะพับแขนเสื้อยืดคอกว้างของเด็กนั่นขึ้นไป...ดูเหมือนแผลจะไม่ได้ใหญ่เท่าไหร่ คงจะโดนแก้วบาดมา?

“ นั่งเฉยๆอยู่ตรงนี้ ถ้าชั้นกลับมาแล้วเห็นว่าเธอกระดิกตัวไปไหนละก็...โดนดีแน่”   เขาขู่ไปแบบนั้นแหละ สองขารีบเดินกลับมาบ้านของตัวเองเพื่อหยิบกล่องพยาบาล แต่ก่อนที่จะได้เดินกลับไปนัยน์ตาก็เหลือบไปเห็นตะกร้าผลไม้...มืออีกข้างจึงหิ้วมันมาด้วย...

“ ยื่นแขนมา”   ดูเหมือนเด็กนี่จะไม่ได้ขยับตัวไปไหนเลยตามที่เขาสั่งจริงๆนั่นแหละ เพราะร่างโปร่งบางแทบจะนั่งอยู่ที่เดิมเป๊ะๆ

“ เอ่อ...เดี๋ยวผมทำเอง...”   ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชาเอ่ยออกมาด้วยเสียงเบาๆ จะกลัวเขาขนาดนี้ก็ไม่แปลกในเมื่อเรื่องที่เขาทำไว้เมื่อเช้ามันเลวร้ายสำหรับคนคนหนึ่งจริงๆ

“ อยู่เฉยๆเถอะน่า”  เขาทำเป็นส่งเสียงรำคาญออกไปและนั่นก็ยิ่งทำให้คนที่ยังกลัวจนตัวสั่นไม่กล้าขยุกขยิกไปไหน ร่างโปร่งบางปล่อยให้เขาใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดแผลต่อไป

นัยน์ตาสีฟ้าลอบมองใบหน้าใสที่อยู่ใกล้แค่คืบ ถ้าตัดอคติส่วนตัวออกไปเขาก็ต้องยอมรับว่าเด็กนี่หน้าตาดีจริงๆ ทั้งผิวพรรณที่น่าจะเนียนนุ่ม ทั้งเส้นผมที่ราวกับเส้นไหม ทั้งเครื่องหน้าที่ได้รูปทุกอย่างไม่ว่าจะนัยน์ตา จมูกและริมฝีปาก...สมกับที่มาจากชาติตระกูลที่ดีจริงๆ

“ อึก...”   ใบหน้าสวยนิ่วหน้าเมื่อปลายสำลีในมือเขาเผลอไปโดนปากแผลเข้า เขาจึงต้องรีบละสายตาจากใบหน้าของเด็กนั่นมามองดูที่แผลก่อนที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวว่าเขาแอบมอง เป็นเพราะไฟยังไม่มาเขาจึงต้องขยับเข้าไปมองแผลใกล้ๆโดยใช้เพียงแสงของตะเกียง

ปลายสำลีจุ่มยาก่อนจะซับลงไปอย่างนิ่มนวลทำเอานัยน์ตาสีมรกตที่เคยมองอีกฝ่ายอย่างหวาดกลัวเริ่มจะมีสายตาที่อ่อนลง  ใบหน้าสวยลอบมองใบหน้าภายใต้กรอบผมสีทองที่อยู่ใกล้จนรับรู้ได้ถึงลมหายใจที่เป่ารดต้นแขน ไออุ่นๆที่แผ่ออกมาจากร่างกายสูงใหญ่นั่นราวกับเป็นคนละคนกับผู้ชายโหดร้ายที่ทำลายความภาคภูมิใจของเขาเมื่อเช้านี้เลย 

การกระทำของคนตรงหน้ากำลังทำให้เขาสับสนมึนงง  ตกลงคนคนนี้จะเอายังไงกับเขากันแน่ ถ้าเกลียดเขา ถ้าไม่ชอบขนาดบังคับให้อับอายต่อหน้าใครๆก็ไม่เห็นจำเป็นต้องมาคอยดูแลลับหลังแบบนี้เลยนี่

ตกลงคุณเป็นคนยังไงกันแน่...

ใจร้ายหรือว่าใจดี...

ผ้ากอซถูกปิดทับสำลีที่ปิดปากแผล เทปใสถูกแปะลงไปพอดีกับที่ไฟในบ้านเริ่มกระพริบติดขึ้นมา....แล้วถนนมอนชิโอ้ก็สว่างสไวไปด้วยแสงไฟอีกครั้ง

“ ขะ ขอบคุณครับ...”   ใบหน้าสวยก้มมองแผลที่ที่ถูกปฐมพยาบาลเรียบร้อย ร่างกายรู้สึกเกร็งไปหมดเพราะไม่รู้ว่าผู้ชายตรงหน้าจะหาเรื่องอะไรเขาอีกหรือเปล่า และคราวนี้หากถูกรังแกขึ้นมาอีกคงไม่มีใครมาช่วยเขาได้แน่

ร่างสูงใหญ่ที่เห็นปฏิริยาแบบนั้นก็ได้แต่ถอยห่างออกมาพร้อมกับถอนหายใจ ตะกร้าผลไม้ถูกยกไปวางไว้ใกล้ๆก่อนจะถือกล่องพยาบาลจากมาทั้งๆที่ไม่ได้เอ่ยแม้แต่คำว่าขอโทษ

นัยน์ตาสีมรกตมองตะกร้าผลไม้อย่างแปลกใจก่อนจะเงยหน้ามองแผ่นหลังกว้างที่เดินออกจากบ้านไปโดยไม่พูดไม่จา...ผลไม้นี่...หรือว่า...แทนคำขอโทษหรือเปล่านะ?

จู่ๆก็อยากจะยิ้มทั้งๆที่น้ำตารื้นขึ้นมา...ทำไมเขาต้องดีใจขนาดนี้ด้วยทั้งๆที่มันก็เป็นสิ่งที่คนทั่วไปเค้าทำกัน...คงจะเป็นเพราะมันเป็นคำขอโทษที่มาจากผู้ชายที่โหดร้ายคนนั้นละมั้ง












CEOหนุ่มนั่งลงข้างหลังกองเอกสารบนโต๊ะทำงานของตัวเองเหมือนกับทุกๆวัน อารมณ์ที่ขุ่นมัวดูเหมือนจะจางไปได้หน่อยที่อย่างน้อยเขาก็เอาผลไม้ไปให้เด็กนั่นแล้ว

ถึงแม้จะไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะบอกออกไปหรือเปล่า...


ก๊อกๆๆ


“ เข้ามา”   เขาเงยหน้าขึ้นไปเอ่ยอนุญาตให้ใครก็ตามที่เคาะประตูอยู่ เลขาส่วนตัวก้าวเข้ามาพร้อมกับแฟ้มเอกสารมากมายที่ไม่ได้น้อยไปกว่าที่กองรออยู่บนโต๊ะเลยสักนิด

“ เอกสารของสครูเดอเลีย เฟอร์รารี่ครับ”   CEOหนุ่มตอบรับก่อนจะให้เลขาวางเอกสารที่ถูกส่งมาจากทีมแข่งลงอีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะทำงาน

“ วันนี้ไม่มีประชุมนะครับ”   เลขาส่วนตัวรายงานอย่างที่ต้องทำเป็นประจำในทุกๆเช้า จู่ๆใบหน้าหยิ่งทระนงที่ฟังพลางกวาดสายตาไปตามตัวอักษรในเอกสารก็ตวัดเงยขึ้นมา

“ เช็คตารางของวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ให้ทีว่ามีนัดกับใครที่ไหนหรือเปล่า...ถ้ามีให้ขอเลื่อนไปก่อน แล้วจองตั๋วเครื่องบินไปเมลเบิร์นให้ที”

“ เมลเบิร์น? ออสเตรเลีย?”   เลขาทำหน้างงเพราะไม่มีวี่แววว่าเขาจะอยากไปที่นั่นมาก่อน

“ ใช่ จองเฉพาะขาไปก็พอ เดี๋ยวขากลับชั้นจะกลับกับพวกทีมแข่ง...อ้อ...จัดการเรื่องบัตรเข้าแพดด็อกวีไอพีให้ด้วย ชั้นไม่อยากไปนั่งอยู่ในพิตการาจ มันวุ่นวาย”   เลขาถึงกับอึ้งเพราะเขาแทบจะไม่เคยไปดูแข่งฟอร์มูล่าวันในสนาม ส่วนใหญ่ก็ติดตามแค่ผลการแข่งจากทางนี้มากกว่า

“ ครับ”   ชายวัยกลางคนรับคำก่อนจะเดินออกไปด้วยทางท่ายังไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่

ทำไม? ผู้บริหารอย่างเขาจะไปดูรถแข่งในสังกัดของตัวเองนี่มันผิดรึยังไง?!

ใบหน้าหยิ่งทระนงหันกลับมายังกองเอกสาร มีเรื่องให้เขาต้องอ่านต้องเซ็นต์อนุมัติมากมายก่ายกองเพราะเฟอร์รารี่ไม่ได้มีแค่ผลิตรถยนต์ราคาแพงขายอย่างเดียว นอกจากทีมแข่งรถสูตรหนึ่งแล้วเฟอร์รารี่ก็ยังมีทีมแข่งรถซุปเปอร์คาร์รวมไปถึงรายการแข่งขันที่จัดขึ้นมาเองอีกด้วย แล้วนี่ยังมีการแข่งอีกหลายรายการที่ถูกเสนอขึ้นมาว่าน่าจะไปร่วมทำทีมแข่ง แน่นอนว่าผลกำไรและสิ่งที่จะได้จากแต่ละรายการเขาก็ต้องพิจารณามันให้ละเอียดรอบคอบ

มือใหญ่คว้าเอกสารที่ถูกส่งมาจากสครูเดอเลียเฟอร์รารี่ทีมแข่งรถสูตรหนึ่งขึ้นมาเปิดอ่าน แล้วแค่บรรทัดแรกก็ทำเอาอารมณ์ที่กำลังดีๆถึงกับฉุนกึกขึ้นมาทันที

มันเป็นเอกสารขออนุมัติเรื่องบ้านพักของนักขับคนใหม่ว่าจะให้ซื้อบ้านในเขตฟิโอราโน่หลังหนึ่ง

คิดจะหนีไปจากเขาหรือไง?

รู้สึกไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย!

เพราะลึกๆในใจไม่อยากให้ย้ายไปไหน?

นี่เขาเป็นอะไรไป?

ทั้งๆที่แค่เซ็นต์นิดเดียว เจ้าตัวก่อความเดือดร้อนนั่นก็จะไปให้พ้นหูพ้นตา...ทว่า...มือใหญ่กลับโยนแฟ้มนั้นลงไปในถังขยะ

เลขาวิ่งหน้าตื่นเข้ามาเพราะเสียงกดเรียกรัวๆของเขา

“ ทำหนังสือแจ้งพวกทีมแข่งไปซะ...ว่าเด็กนั่นยังไม่ใช่นักขับของเฟอร์รารี่เพราะงั้นชั้นจะไม่เซ็นต์เรื่องบ้านพักให้ เอาไว้ให้พ้นสามสนามตามสัญญาก่อนค่อยเอาผลงานมาคุยกับชั้น”   ใบหน้าหยิ่งทระนงเอ่ยบอกด้วยสายตาดุดันทำให้เลขาส่วนตัวต้องรับคำอย่างไร้ข้อโต้เถียง ชายวัยกลางคนได้แต่แปลกใจ เพราะทุกครั้งที่เป็นเรื่องของสเลน ทรอยยาร์ด เจ้านายของตนมักจะไร้เหตุผลเสมอ ทั้งๆที่ปกติถึงจะน่ากลัวตามประสาผู้บริหารที่ต้องเด็ดขาดไปบ้างแต่CEOหนุ่มก็ใช่ว่าจะใจไม้ไส้ระกำ พวกทีมแข่งยื่นเรื่องขอบ้านพักให้นักขับคนใหม่นั่นตั้งหลายครั้งแบบนี้แปลว่าที่ที่อยู่ตอนนี้คงมีเรื่องให้ลำบากใจแน่ แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มกลับยังนิ่งเฉย

มันแปลกจริงๆนั่นแหละ...












“ นายไม่เคยเห็นเด็กนี่ตอนขับฟอร์มูล่าวันแล้วนายจะรู้ได้ไงว่าเขาไม่คู่ควรที่จะขับให้เฟอร์รารี่?”  

เพราะคำสบประมาทของเจ้าทีมบอสปีศาจนั่นแท้ๆทำให้คนที่ค่าตัวชั่วโมงละหลายพันยูโรอย่างCEOของเฟอร์รารี่ต้องมานั่งว่างงานอยู่ที่สนาม Melbourne Grandprix Circuit  ประเทศออสเตรเลียอย่างเสียมิได้!

เขาก็แค่จะตามมาดูให้มันรู้ๆกันไป เจ้าเอลวินจะได้ไม่มีข้ออ้างอะไรได้อีกถ้าเขาจะถอดเจ้าเด็กนั่นออก

ป้ายคล้องคอที่ระบุว่าเขาเป็นผู้ครอบครองบัตรชั้นวีไอพีทำให้สองขาสามารถเดินเข้าแพดด็อกได้เลยทันที...เขาไม่ใช่แฟนการแข่งรถฟอร์มูล่าวันเพราะงั้นเขาจึงไม่ได้สนใจโซนมากมายที่แต่ละทีมต่างจัดเอาไว้

CEOหนุ่มแห่งเฟอร์รารี่เดินขึ้นไปยังห้องรับรองที่อยู่ด้านบนของพิตการาจ แน่นอนว่ากว่าจะเดินมาถึงนี่ได้ก็มีแต่นักข่าวเข้ามารุมสัมภาษณ์เพราะนานทีปีหนเขาถึงจะออกมาปรากฏตัวที่อื่นนอกจากในงานสังคมชั้นสูงสักที  สองขาเดินผ่านอาร์มแชร์น่านั่งก่อนจะตรงดิ่งไปยังระเบียงที่สามารถชะโงกลงไปมองเห็นหน้าพิตการาจได้พอดี หลายๆคนคงตื่นตาเมื่อได้มองพิตเวิร์คที่สามารถเปลี่ยนยางทั้ง 4 ล้อได้ในเวลาเพียง 2.4 วินาที แต่เขากลับไม่ได้ตื่นเต้นอะไรกับมัน

ร่างสูงใหญ่เท้าแขนลงบนราวกั้นก่อนจะมองลงไปยังพิตการาจสีแดง ทีมวิศวกรต่างตรวจเช็คสภาพความเรียบร้อยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะช่วยกันเข็นรถไปยังสตาร์ทติ้งกริด เขามองเห็นร่างบอบบางของนักขับมือหนึ่งแห่งทีมม้าลำพองสวมชุดนักขับและหมวกกันน็อคเรียบร้อยนั่งอยู่ในรถที่ถูกเข็นผ่านฝูงชนไปเรื่อยๆ ดูเหมือน SF15-T HAYATO จะพร้อมลงคว้าชัยให้กับเฟอร์รารี่แล้ว

แล้วอีกคันล่ะไปไหน?

เท่าที่รู้มาผลการควอลิฟายของเมื่อวานก็ถือว่าดีใช้ได้นี่เด็กนั่น

นัยน์ตาสีฟ้ากวาดมองหาเจ้าเด็กข้างบ้านที่ยังไม่เห็นแม้แต่เงา พอไม่ได้เจอกันหลายวันถึงชีวิตของเขาจะกลับไปสงบสุขดังเดิมแต่มันกลับรู้สึกว่าขาดอะไรไป? ไอ้ชีวิตที่ต้องคอยแต่แก้ปัญหานี่สงสัยว่ามันคงจะซึมเข้าเส้นเลือดของเขาไปแล้วมั้ง เขาถึงได้รู้สึกว่าตอนที่เด็กนั่นอยู่บ้านมันน่าสนุกกว่าบ้านที่ปิดตายแบบนี้

SF15-T ที่เขียนตัวถังว่า SLAINE ถูกเข็นออกไปทั้งๆที่ไม่มีนักขับ  แล้วในที่สุดเขามองหาตัวเด็กนั่นเจอจนได้...

ร่างโปร่งบางในชุดหมีสีแดงเดินออกไปพร้อมกับเอเลน เยเกอร์ที่ถือร่มคันใหญ่ของเฟอร์รารี่ เจ้าเด็กแสบที่เขาเห็นมาแต่เล็กแต่น้อยกำลังพูดคุยกับสเลนด้วยใบหน้าจริงจัง คงกำลังคุยเรื่องเทคนิคของรถกันอยู่?

เขาขยับตัวหลบเข้าไปด้านในเพื่อไม่ให้เด็กนั่นเห็นว่าเขามาดู...เพราะเขารู้ตัวดีว่าเขาไม่ใช่กำลังใจแต่คงจะเป็นคนที่ทำให้เด็กนั่นเสียสมาธิซะมากกว่า...ถึงจะไม่ยอมรับแต่เขาก็ไม่อยากให้เฟอร์รารี่พ่ายแพ้

นัยน์ตาสีฟ้าทอดมองตามร่างโปร่งบางนั่นไป เวลาอยู่ในสนามเด็กนั่นราวกับเป็นคนละคนกับเจ้าเด็กข้างบ้านของเขา ใบหน้าท่าทางหวาดกลัวดูน่ารังแกมันหายไปคงเหลือไว้แค่ใบหน้าที่มุ่งมั่นในชัยชนะ

ร่างสูงใหญ่ออกไปยืนที่ขอบระเบียงอีกครั้งเมื่อรถทุกคันลงไปประจำกริดสตาร์ทเรียบร้อยแล้ว คนที่ยืนอยู่รอบๆเขาล้วนเป็นพวกคนมีชื่อเสียงเพราะราคาบัตรชั้นวีไอพีนี้ไม่ใช่ธรรมดา ทว่า ตอนนี้เขากลับไม่คิดจะหันไปทักทายใครเพราะสายตากำลังจับจ้องอยู่ที่นักขับมือสองของเฟอร์รารี่อย่างไม่อาจละไปไหนได้

คงเป็นเพราะบรรยากาศภายในสนามที่ทำให้เลือดในกายร้อนขึ้นมา คนที่ไม่เคยสนใจเรื่องการแข่งรถอย่างเขาถึงได้เฝ้ามองเจ้าเด็กนั่นไม่วางตา

สวย...

ทั้งๆที่อยู่ในหมวกกันน็อคจนมองไม่เห็นใบหน้าแต่เขากลับรู้สึกว่าเด็กนั่นสวยมากยามที่นั่งอยู่ในรถสีแดงเพลิงของเฟอร์รารี่...

เสียงดังกระหึ่มไปทั่วสนามเมื่อรถทั้งหมดเตรียมตัวออกวิ่ง...ในรอบแรกเป็นการวอร์มอัพทั้งหมดจึงวิ่งตามหลังรถเซฟตี้คาร์...จนกระทั่ววนกลับมาจอดที่กริดสตาร์ทอีกครั้งเพื่อรอสัญญาณไฟให้ดับลง

ช่วงเวลาที่รถทั้งหมดออกวิ่งไปพร้อมๆกันมันทำให้ขนลุกขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เสียงแหวกอากาศที่ดังก้องไปทั่วมันทำให้เขาเข้าใจแล้วว่าอะไรมันคือมนต์เสน่ห์ของรถสูตรหนึ่ง จากที่เขาเคยสนใจมันแค่ว่าเป็นต้นแบบของรถซุปเปอร์คาร์ที่ใช้วิ่งตามท้องถนนหรือไม่ก็เป็นแค่ช่องทางทำเงิน...สงสัยว่ากลับไปคราวนี้เขาคงต้องมองมันใหม่เสียแล้ว

จอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ฉายภาพอีกด้านหนึ่งของสนามที่เขามองไม่เห็น เศษยางกระจัดกระจายก่อนที่รถคันหนึ่งจะพุ่งไปเกี่ยวรถอีกคันหนึ่งจนหมุนเหวี่ยงชนเข้ากับแบริเออร์ข้างสนาม ภาพความรุนแรงนั้นทำเอาหัวใจแทบหยุดเต้น ใบหน้าของเขาชะงักค้างพลางมองแล้วมองอีกว่ารถที่ชนนั่นไม่ใช่สีแดง

นี่แค่จะเริ่มเองไม่ใช่หรือไง? ขนาดเขาดูอยู่ตรงนี้ยังหายใจไม่ทั่วท้อง แล้วคนที่ลงแข่งล่ะ? ไม่กลัวบ้างหรือไง?

แล้วเด็กนั่นก็แสดงคำตอบให้เขาได้เห็น เมื่อSF15-T SLAINE วิ่งผ่านโค้งวนกลับมาที่หน้าสแตนด์หลักอีกครั้ง เจ้ารถสีแดงคันนั้นมันไม่ได้มีความลังเลเลยที่จะพุ่งทะยานไปข้างหน้า ราวกับว่าเด็กนั่นหลงรักสายลมและความเร็วที่อยู่รอบตัวมากกว่าจะหวาดกลัวต่อความตาย

และความมุ่งมั่นนั้นมันก็กำลังทำให้เขาหลงใหลโดยไม่รู้ตัว...

การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆท่ามกลางจำนวนรอบที่ลดน้อยลง...ที่หนึ่งของสนามนี้คงเป็นที่แน่นอนแล้วว่า SF15-T HAYATOคงไม่ปล่อยให้ใคร เพราะเจ้าเด็กหัวเงินที่กล้าเมินเฉยต่อคำสั่งของเขามาไม่รู้กี่รอบนั่นเล่นนำโด่งทิ้งห่างที่สองอยู่เกือบๆนาที ถ้าไม่เผลอหลับในหรือทำลายตัวเองเข้าก็คงวิ่งใต้ธงตาหมากรุกก่อนใครแน่

นั่นหมายความว่าพื้นที่สำหรับสเลนก็จะเหลือแค่สองตำแหน่งเท่านั้น...หากเด็กนั่นคว้าที่สองหรือที่สามของสนามนี้มาไม่ได้ก็จะถูกถอดออกจากตำแหน่งนักขับตัวจริงทันที...เพราะเขาบอกแล้วว่าจะต้องขึ้นโพเดี้ยมทั้งสามสนาม

นัยน์ตาสีฟ้าจับจ้องอยู่ที่จอมอนิเตอร์สลับกับผิวสนามตรงหน้า SF15-T SLAINE กำลังขับเคี่ยวกับรถอีกสามคันอยู่ในกลุ่มรองลงมา แล้วมันก็มีจังหวะน่าหวาดเสียวอยู่หลายรอบจนเขาเผลอภาวนาในใจว่าพระเจ้าองค์ไหนก็ได้ช่วยส่งเด็กนั่นเข้าเส้นชัยไปที

ฝีมือการขับรถของสเลนไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ขนาดเขาไม่ได้รู้ลึกในด้านเทคนิคแต่แค่ดูก็รู้สึกขนลุกแปลกๆ เพราะการขับรถในสนามแข่งของเด็กนั่นมันค่อนข้างจะดุดันทีเดียว การตัดสินใจก็เด็ดขาดและไม่ยอมให้คันที่ตามหลังอยู่แซงนำตนไปได้ซ้ำยังต้องคอยไล่คันหน้าอีก นี่ถ้าไม่ได้มาติดการจราจรอยู่ในกลุ่มนี้ดีไม่ดีอาจจะวิ่งตามรถของโกคุเดระไปแล้ว

นี่น่ะเหรอ...ไอ้คนที่ขับรถเต่าหลบลูกหมาแล้วชนรั้วบ้านเขา?

เรื่องฝีมือขับฟอร์มูล่าวันของเด็กนั่นนี่เถียงเจ้าเอลวินไม่ออกเลยจริงๆ

นัยน์ตาสีฟ้าหันไปจับจ้องที่สนามอย่างเผลอลุ้นไปด้วยเมื่อกลุ่มรองนั้นยังคงแย่งชิงตำแหน่งกันอย่างไม่ลดละ รถของโกคุเดระวิ่งเข้าสู่รอบสุดท้ายแล้วนั่นหมายความว่าจากนี้ไปคงจะดุเดือดกว่าเดิมแน่ๆ

SF15-T SLAINE ตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่ 3 เจ้ารถสีแดงคันนั้นยังคงต้องขับป้องกันไม่ให้คันหลังแซงไปได้  ได้ยินเสียงสื่อสารระหว่างเด็กนั่นกับวิศวกรสนามของตัวเองอยู่เรื่อยๆผ่านการถ่ายทอดสดซึ่งเขาได้แต่กำมือแน่น...ที่เด็กนั่นขับแบบพะว้าพะวงแบบนี้ก็เพราะมัวห่วงตำแหน่งที่สามเพราะกลัวว่าจะไม่ได้ขึ้นโพเดี้ยม...แต่หากเขาเป็นวิศวกรสนามละก็เขาจะบอกเด็กนั่นว่า

“ สเลน...ไม่ต้องสนใจคันหลัง...แซงคันหน้าแล้วคว้าที่สองมาให้ได้”   คำพูดของเอลวินซ้อนทับลงบนประโยคที่กำลังอยู่ในหัวเขา เสียงที่ได้ยินผ่านการถ่ายทอดสดซึ่งตัดมาจากคำพูดที่ทีมบอสของเฟอร์รารี่คุยกับนักขับมือสองทำให้นัยน์ตาสีฟ้าถึงกับเบิกกว้าง...เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขากับเจ้าเอลวินคิดตรงกัน

ไม่ต้องสนใจข้างหลัง อย่ามัวแต่คิดจะปกป้องของที่น้อยกว่า แต่ให้ก้าวไปข้างหน้าแล้วคว้าของที่ใหญ่กว่ามาให้ได้...นี่คงเป็นคติประจำใจของคนเป็นบอส

และแค่สิ้นคำสั่ง เจ้ารถสีแดงก็หันไปสนใจแต่รถคันข้างหน้า แล้วก็ดูเหมือนว่าพอหมดสิ่งที่ทำให้พะวงไป SF15-T SLAINE ก็จะกลับมาเป็นพายุเพลิงที่เริ่มโหมกระหน่ำเผาไหม้ใครก็ตามที่ขวางหน้ามัน


ในที่สุดมันก็วิ่งเข้าหาธงตาหมากรุกเป็นคันที่สองจนได้...


ทีมวิศวกรต่างวิ่งเฮกันไปรออยู่หน้าโพเดี้ยมก่อนจะโบกมือให้กับเจ้ารถสีแดงที่วิ่งเข้ามาจอด ร่างโปร่งบางที่ยังไม่ทันจะได้ถอดหมวกกันน็อคกระโดดกอดเอเลน เยเกอร์ทั้งๆที่มีรั้วกั้น...สงสัยว่าวิศวกรรถของเด็กนั่นคงจะเป็นลูกบ้านเยเกอร์ไม่ผิดแน่

เขาได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่เต้นแรง เลือดลมสูบฉีดอย่างที่ไม่ได้เป็นมานาน...และถึงจะยังตั้งแง่อยู่บ้างแต่ในใจก็ยินดีกับชัยชนะครั้งนี้ของเด็กนั่นด้วย

สำหรับสนามนี้ก็ถือว่าสอบผ่าน


ถ้วยรางวัลถูกมอบให้โดยคนใหญ่คนโตของออสเตรเลีย แล้วช่วงเวลาแห่งการฉลองชัยก็เริ่มโดยขวดแชมเปญที่ถูกเปิดออก สายน้ำเป็นฟองฉีดพุ่งออกมาจากขวดท่ามกลางเสียงเฮดีใจจากแฟนๆของทีมเฟอร์รารี่และเหล่าลูกทีมที่อยู่ข้างล่าง  CEOหนุ่มยืนมองภาพใบหน้าเปื้อนยิ้มของเด็กนั่นก่อนจะตัดสินใจหันหลังกลับ

แต่แล้วเพียงเสี้ยววินาทีที่สเลนกวาดตามองมาทางนี้...มันก็ทำให้นัยน์ตาสีมรกตสบประสานกับนัยน์ตาสีฟ้าโดยบังเอิญ...ระยะห่างจากโพเดี้ยมถือว่าไม่ไกลจากแพดด็อกวีไอพีเพราะงั้นเด็กนั่นน่าจะเห็นว่าเขายืนอยู่ตรงนี้

ใบหน้าสวยที่กำลังยิ้มแย้มนิ่งค้างไปเล็กน้อย ร่างสูงใหญ่หันหลังกลับเพราะถือว่าหมดธุระของเขาแล้วจึงไม่ทันได้เห็นว่าริมฝีปากของสเลนกำลังเรียกชื่อเขา...










นักขับมือสองของทีมม้าลำพองวิ่งฝ่าผู้คนบนแพดด็อกวีไอพีทั้งๆที่เนื้อตัวยังเปียกโชกไปด้วยแชมเปญ กว่าจะสัมภาษณ์เสร็จ กว่าจะขอปลีกตัวออกมาได้ก็ผ่านมากว่าครึ่งค่อนชั่วโมง

ป่านนี้ผู้ชายใจร้ายคนนั้นคงจะไปไหนต่อไหนไปแล้ว...

ใบหน้าได้รูปลอบถอนหายใจ...วินาทีที่เห็นว่าอีกฝ่ายมาดูเขากลับดีใจอย่างบอกไม่ถูก...ไม่รู้ว่าทำไม...

ร่างทั้งร่างจึงวิ่งตามหาเผื่อว่าอีกฝ่ายจะยังอยู่...



จนแล้วจนรอดเขาก็หาร่างสูงใหญ่นั่นไม่เจอ...คงจะกลับไปแล้วจริงๆ...

ร่างโปร่งบางได้แต่เดินคอตกกลับมายังพิตการาจที่กำลังเก็บของกันอย่างขะมักเขม้น ถึงแม้ว่าใครต่อใครจะร่วมดีใจกับเขา แต่ไม่รู้ทำไมถึงอยากให้คุณครูเทโอยอมรับมากกว่าใคร

ก็...อาจจะเป็นเพราะนั่นเป็นอนาคตของเขากับเฟอร์รารี่ด้วยละมั้ง?


การเก็บของได้อย่างว่องไวก็ถือเป็นนวัตกรรมอย่างหนึ่งของทีมแข่งรถฟอร์มูล่าวัน เพราะแค่เวลาไม่กี่ชั่วโมงพิตการาจทั้งพิตก็ถูกเก็บเรียบร้อยเตรียมขนย้ายไปสนามต่อไปได้ทันที 

เพราะงั้นกลุ่มคนที่อยากกลับบ้านจัดจึงสามารถนั่งเครื่องบินกลับในเย็นวันนั้นได้เลย

ร่างโปร่งบางเดินเลาะเข้าไปในทางเดินตรงกลางระหว่างเบาะนั่งในเครื่องบินทั้งสองฝั่ง เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินส่วนตัวของเฟอร์รารี่เพราะงั้นในนี้จึงแดงเถือกไปหมด นัยน์ตาสีมรกตสอดส่องมองหาเบาะว่างๆ แล้วในขณะที่มองเห็นว่าโกคุเดระนั่งอยู่คนเดียวเขาจึงตั้งใจจะไปนั่งข้างๆ

ทว่า...เมื่อเดินมาถึง...เจ้านักขับมือหนึ่งซึ่งอายุมากกว่าเขาไม่กี่ปีดูเหมือนกำลังเพลิดเพลิน? อยู่กับโลกส่วนตัวของตัวเอง? นัยน์ตาสีมรกตคู่นั้นกำลังจ้องมองด้ายสีแดงที่พันกันไปมาอยู่บนปลายนิ้วของตัวเองแล้วก็ดูจะไม่ได้สนใจเลยด้วยว่าจะมีใครมายืนอยู่ใกล้ๆ

นั่นกำลังเล่นพันด้าย? แล้วไอ้ของแบบนี้มันเล่นคนเดียวได้ด้วยเหรอ?

ดูท่าทางจะสนุกอยู่นะ? เพราะงั้นเขาจึงเดินเลยไปอีกเบาะเพราะไม่อยากกวน

แต่นั่งลงได้ไม่ทันเท่าไหร่ เอเลน เยเกอร์ก็นั่งแหมะลงมาข้างๆพร้อมแผ่นกราฟอะไรมากมายในมือ

ayatori…ดูเหมือนจะชอบเล่นกับคุณยามาโมโตะ ชั้นก็ไม่เข้าใจนะว่ามันสนุกยังไง?”   ใบหน้ามนพูดออกมาในขณะที่พลิกกระดาษในมือเพื่อหาแผ่นที่ต้องการ....ที่พูดถึงนั่นคือสิ่งที่โกคุเดระเล่นอยู่สินะ?...เขาเงยหน้าขึ้นไปมองผ่านช่องระหว่างเบาะ ใบหน้าสวยที่กำลังจ้องด้ายในมือนั่นเหมือนลูกแมวยังไงไม่รู้...มันก็น่าละ ที่คนซึ่งเหมือนลูกหมาอย่างเอเลนจะไม่เข้าใจ

“ ชั้นอยากจะคุยจุดที่ต้องปรับกับนายไว้เลย เดี๋ยวจะลืม”   เขาพยักหน้ารับก่อนจะมองลงไปยังแผ่นกระดาษในมือของเอเลน ทว่า....


ป๊อก...


กระดาษขย๋ำเป็นก้อนๆ ก้อนหนึ่งถูกปามาใส่หัวสีน้ำตาลให้ลูกชายของบ้านเยเกอร์ต้องหันไปมอง

“ คุณรีไว?! เดี๋ยวสิครับ ผมกำลังคุยกับสเลนอยู่”   เจ้าของเรียกแล้วไม่ใช่เหรอน่ะ?...เขาได้แต่ยิ้มแห้ง...อันที่จริงจะคุยกันวันหลังก็ยังได้นะ

“ ต่อๆ...”   แล้วในขณะที่เอเลนหันมาหาเขา ก้อนกระดาษก็ถูกปามาเรื่อยๆ จนในที่สุดร่างโปร่งก็ทนไม่ไหว

“ เดี๋ยวชั้นมา.....หนอยแน่ะ ตาลุงจอมเอาแต่ใจนั่น!”   ใบหน้ามนหันมาบอกเขาก่อนจะลุกออกไป...แต่ไม่รู้ว่าใครจะจัดการใครนะนั่น

เขาหัวเราะเบาๆก่อนจะหันมองออกไปนอกหน้าต่าง เงาของใครบางคนนั่งลงมาข้างๆ เขาจึงพูดทั้งๆที่ไม่ได้หันไปมองเพราะคิดว่าเป็นเอเลน

“ ทำไมคราวนี้ไวจัง? ว่าแต่มีจุดไหนที่ชั้นต้องปรับนายก็บอกมาเลยนะ”   แต่ริมฝีปากช่างเจรจานั่นกลับเงียบไป ทำให้เขาหันมามองอย่างสงสัย และเมื่อเห็นว่าใครนั่งอยู่ข้างๆนัยน์ตาสีมรกตก็ถึงกับเบิกกว้าง

ร่างสูงใหญ่นั่นไม่ใช่เอเลน...แต่เป็นCEOหนุ่มแห่งเฟอร์รารี่!

“ คุณครูเทโอ....”   เขาเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่คิดว่ากลับไปนานแล้วจะมานั่งอยู่ตรงนี้

“ นี่แค่สนามแรก อย่าได้ใจไปนักล่ะ”   ใบหน้าสวยแอบยู่หน้าเมื่อได้ฟังประโยคแรกที่อีกฝ่ายพูดด้วย...จะยินดีกับเขาสักหน่อยไม่ได้หรือไงนะผู้ชายคนนี้...ทั้งๆที่อุตส่าห์ตามมาดูถึงนี่...

ร่างสูงใหญ่ไม่ได้เอ่ยอะไรต่อไปแล้วก็ไม่ยอมลุกไปไหน เขาจึงได้แต่นั่งนิ่งๆอยู่อย่างนั้น...ถึงจะไร้ซึ่งบทสนทนาแต่เขาก็พอจะรู้ว่าสายตาที่อีกฝ่ายมองเขาน่าจะเปลี่ยนไปบ้าง...อย่างน้อยในส่วนของเขาก็ไม่ได้สั่นกลัวตัวเกร็งที่จะต้องนั่งอยู่ข้างๆผู้ชายคนนี้แล้ว

นัยน์ตาสีมรกตที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันเริ่มหรี่ปรือเมื่อเครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า...แล้วในไม่ช้ามันก็ปิดลงพร้อมกับลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ

หัวสีชาเอนมาซบอยู่ที่ไหล่หนา ซึ่งCEOหนุ่มก็ปล่อยมันไว้แบบนั้น นัยน์ตาสีฟ้าลอบมองใบหน้ายามหลับของอีกฝ่ายที่สะท้อนผ่านบานหน้าต่างกระจกเครื่องบิน...เขาจะยอมมองเด็กนี่ใหม่ก็ได้ เพราะผลงานที่ผ่านมาก็ถือว่าไม่เลว







ทั้งๆที่คิดแบบนั้น...

แต่แล้วเจ้าเด็กข้างบ้านนี่ก็ทำให้ทุกอย่างกลับไปแย่ตามเดิม...






โครม!!!


เสียงชนโครมครามดังอยู่หน้าบ้านก่อนจะตามมาด้วยเสียงฟู่ๆ และนั่นมันก็ทำให้CEOหนุ่มต้องวิ่งออกไปดู

ใครมันมาทำอะไรอีกแล้วละเนี่ย? เขาเพิ่งจะซ่อมรั้วบ้านเสร็จไปเมื่อวานเองนะ

แล้วสายน้ำที่พวยพุ่งขึ้นมาจากพื้นฟุตบาทหน้าบ้านเขาก็ทำเอาอ้าปากค้าง...พุ่งเป็นน้ำพุแบบนี้ไม่ใช่ท่อประปาแตกธรรมดาแน่...ถ้าจำไม่ผิดมันมีหัวน้ำดับเพลิงสีแดงๆอยู่แถวๆหน้าบ้านเขาด้วยนี่?...อย่าบอกนะว่ามีใครขับรถชนมัน?

แล้ว “ใคร” ที่ว่านั่นมันก็คุ้นเสียยิ่งกว่าคุ้น...เพราะเจ้ารถเต่าสีเหลืองอ่อนที่จอดคาอยู่นี่มันคงเป็นคนอื่นไปไม่ได้

ร่างสูงใหญ่เดินออกไปถามคนที่ยืนลนลานอยู่ข้างรถอย่างละเหี่ยใจ

“ คราวนี้หลบตัวอะไรอีกล่ะ?”  นัยน์ตาสีมรกตช้อนขึ้นมามองเขาพลางหัวเราะแหะแหะ

“ ....ลูกแมวครับ....”   CEOหนุ่มแทบจะพุ่งไปดึงแก้มใสนั่นด้วยความหมั่นไส้

“ คราวหน้าก็ช่วยหลบรั้วบ้านชั้นบ้างเถอะ เธอนี่มันจริงๆเลย!








.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

To be Con.




ถถถถถถถถถถถ วันหยุดสามวันนี้ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะทำแผนเที่ยวที่ยังไม่ถึงไหนให้เสร็จ แต่กลายเป็นว่าถูกพ่อCEOกับนักขับคนใหม่ดูดไว้ซะงั้น อร๊ากกกกกก // วิ่งกรีดร้องจากไปย์

ขอบคุณทุกๆการติดตามและทุกๆคอมเม้นต์จากเมื่อตอนที่แล้วมากๆๆนะคะ อ่านแล้วอยากจะลงไปดิ้นด้วยความปลื้มใจ ฮืออออออ แล้วเจอกันตอนหน้านะก๊า >3<




9 ความคิดเห็น:

  1. อ๊าย!! /ตบโต๊ะรัวๆ/เขินมากค่ะ ในที่สุดสายตาก็เปลี่ยน ปากตรงกับใจก็ไม่มีใครว่านะท่านครูเทโอ้!
    ส่วนหนูสเลน เมตตามากจริงๆทีหลังหลบแล้วขับชนเข้าบ้านครูเทโอ้เลย แทนความคิดถึง

    กริ้ดลั่น/คุณกวางสู้ๆนะค่ะเป็นกำลังใจและรอติดตามเสทอค่ะ สู้ๆค่ะ ^^

    ตอบลบ
  2. ฮ่าๆๆๆ~~~~
    สองตอนติดๆเลยเหรอคะไฟแรงจริงๆเลยค่ะขุ่นพี่นึกว่าต้องเอาแกลลอนเบนซินส่งไปให้ซะแล้ว??

    เข้าเรื่องกันเถอะค่ะ!!
    ดีใจกับน้องผุดๆที่ในที่สุดคุณบอสก็มองน้องด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปอ่านสองตอนนี้แล้วอิสยาล่ะอยากเปิดฮาเร็มเลี้ยงน้องหมาน้องจริงๆเลยค่ะขอแบบตาสีเขียวขนเงินขนสีชากะลูกหมาขนสีน้ำตาลลล~~~~~นึกภาพเลยดลยค่ะตอนที่น้องตกใจจนร้องดสียงแมวออกมาเนี้ยแม่มน่ารักเกินไปแบ๊วววว~~~~โอยรู้สึกปลื้มปริ่มนอนตายได้อย่างสงบ

    ป.ลิง.1คุณท่านเนี้ยถึงจะไม่มีบทพูดแต่ยังคงความเกรียนได้อย่างจริงๆเลยนะคะ???
    ป.ลิง.2 นู๋ก๊กนั่งดล่นayatoriคนเดียวแล้วยิ้มมมมม~~~เป็นอะไรที่เกินความคาดหมายมั่กๆคิดถึงอิเนียนใช่มั้ยล้าคิดถึงเนียนใช่มั้ยๆๆๆๆ????
    ป.ลิง.3 ใกลวันเกิดอิเนียนแบ๊วพี่กวางสละเวลาให้มันบ้างเถอะนะคะมะนหายไปนานแล้วน้าาา~~~~~
    คิดถึงก๊กอิเนียน คิดถึงก๊กอิเนียนๆๆๆๆๆๆๆๆๆ~~~~~~~~~

    ตอนนี้กำลังเล่นคุณไสใส่พี่กวางค่ะ!!!!
    จงกลับไปปั่นคู่ก๊กกะอิเนียนซะ!!!!!!
    ก๊กกะอิเนียน ก๊กกะอิเนียน ก๊กกะอิเนียนๆๆๆๆๆๆๆๆ~~~~~~~~

    หึหึหึ////ทำเสียงหัวเราะชั่วร้ายสุดๆ////
    รอตอนใหม่ของทุกคู่อย่างใจจดใจจ่อค่ะ!

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ6 เมษายน 2558 เวลา 06:57

    กรื้ดดดดดดดดดด อยากจะกรีดร้องรัวๆเลยค่ะ อ่านไปยิ้มไป ท่านครูเทโอ้นี่ซึนเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ หลงน้องสเลนแล้วก็บอกมาเถอะ >3<

    จะขอเป็นกำลังใจและติดตามเสมอนะคะ ^q^ รู้สึกฟินมากๆเลยล่ะค่ะ

    ตอบลบ
  4. คุณครูเทโอ้ยอมรับน้องเถอะค่ะ
    น้องออกจะดุดัน...ตอนขับรถ
    อย่าซึนไปเลยค่ะ ห่วงก็บอก เดี๋ยวน้องย้ายหนีนะคะ

    สู้ๆนะคะ จะรอติดตามตอนไปเรื่อยๆค่ะ

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ7 เมษายน 2558 เวลา 04:09

    ว๊ายยยยยยย ครูเทโอ้ก็ ......... สงสารรถเต่าน้อยๆของสเลนค่ะ ชนแหลกมาก ...... คงต้องเคาะกันนานเลย งานนี้...... หลบลูกแมว..... รอบที่แล้วก็หมา โถ่ ใจงามนะคะสเลน 555 แต่รั้วพังๆมากๆ ระวังสะโพกจะพัง(?)ตามนะคะ

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ7 เมษายน 2558 เวลา 11:22

    สองคนแรกเป็นลูกแมวลูกหมา แล้วสเลนล่ะตัวอะไร ลูกหนู? ...ที่จะโดนราชสีห์กินรึเปล่า 5555+

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ13 เมษายน 2558 เวลา 06:57

    ง่ะ.เรารอท่านเคานต์กับปอบอย่างจดจ่อเลยอ่ะ อยากจะบอกว่าชอบท่านเคานต์กับสเลนมาก คนจิ้นคู่นี้เยอะแต่ไม่ค่อยมีคนแต่งฟิคเลย ความจิ้นหายไปพร้อมกับภาคแรกแหงเลย ....คุณคือที่พึ่งสุดท้ายของเรา

    ตอบลบ
  8. ฮืออออออออ กวางซามะทำเค้าคลั่งคู่ท่านเคานต์กับหนูสเลนแบบเต็มรูปแบบจริงจังงงง ฮือออออออออออออ น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก น่ารักมากเกินไปแล้ววนะคะ ไอ้ที่ว่าจะเชียร์เอลวิน(?)นี่ก็พูดไปแบบนั้นนะคะถถถถถ สเลนน่ารักมากกกเวลาอยู่กับท่านเคานต์จริงจังค่ะ คือคู่นี้น่ารักมากกกจริงจังงงงงงง สเลนที่หลบเลี่ยงคุณท่านเป็นลูกหมาหูลู่นี่น่ารักโฮกกกกกกกกก ทำไมบอบบางน่าฟัดแบบนี้นะ ฮือออ แต่ยิ่งหลบก็เหมือนจะไม่พ้นนะลูกกกนะ คนบนฟ้าเค้าอยากให้อยู่ใกล้ๆกัน พรหมลิขิตคู่นี้นี่มันจะก๊าวววมากไปแล้วววว

    เค้าโฮกฮากเลยค่ะที่เห็นคุณท่านค.(เรียกแบบนี้ได้ใช่มั้ยคะ Orz พิมพ์ท่านเคานต์นี่ลำบากนิ้ว(?)ในบางทีมาเลย แต่ทีคำว่าท่านท่อนขาที่ย๊าวยาวละพิมพ์เอาๆถถถถถถถถถถถถ) มาพร้อมตะกร้าผลไม้ในมือ!!!! จะไม่ให้ก๊าวววได้ยังไงคะ อ่านมาตั้งแต่ต้นนี้ยังไงท่านค.ก็ดูเป็นแค่พวกที่บ้างาน วันๆคิดถึงแต่เรื่องผลประกอบการแท้ๆ แต่วันนี้กลับมีเวลามาพะวงกับตะกร้าผลไม้ที่จะเอามาให้เด็ก แถมเดินวนไปวนมาแบบคิดไม่ตก จะตายยยยยยยนะคะจุดนี้ ทีไอ้ตอนจะร้ายใส่เค้าไม่เห็นจะคิดเยอะแบบนี้เลยเนี่ยยยยยยยย โอ่ยยยยยยยจะมาทำตัวน่ารักไปไหนนนนนอะไรตอนนี้คะท่านนนนน แต่ถึงจะมีใจให้เด็ก(?)แบบไม่ยอมรับแล้วก็ยังไม่วายคิดร้ายกับเด็กน้อยเรื่องชาติตระกูลอีกแน่ะ คนนี้มันน่ายื้อไม้เท้ามาฟาดตัวคนยื้อ(?)จริงๆเลยนะคะถถถถถถถถถ

    แล้วก็อย่างที่เค้าบอกไปว่า คนบนฟ้าเค้าอยากให้คู่นี้อยู่ใกล้ๆกัน ทั้งย่านถึงได้ไฟดับเป็นใจให้ได้มีโมเม้นท์(?)คืนดีกันในแสงสลัว(?)โรแมนติค(?)แบบนี้ ฮือออ แล้วอะไรคือคุณท่านค.เป็นห่วงเป็นใยตลอดแบบไม่รู้ตัวแบบนี้กันนนนน เค้าชอบที่คุณท่านค.ทุบประตูบ้านเรียก แล้วสเลนส่งเสียงแมวมาแทน น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกอ้ะค่ะะะ > __ < ไหนจะชอตที่เห็นสเลนบาดเจ็บแถมยังทำท่าหวาดกลัวที่จะขอความช่วยเหลือจากคุณท่านค.นี่ก็ด้วยยยย เพลงณเดช(?)มาเลยนะคะถถถถถถถถถถ ก็อยากไปรังแกเค้าไว้ทำไมกันเล่าาา สเลนเค้าไม่กล้าจะส่งยิ้มให้แบบที่ยิ้มให้ตอนที่ป๋ามารับหน้าบ้าน(?)หรอกนะ #เอลวิ๊นบอกจะพาดพิงถึงตูทำม้ายยยยยถถถถถถถถถ ก่อนจะมาฟินมากกกตรงที่คุณท่านค.อารมณ์เสียเพียงเพราะเห็นเอกสารอนุมัติบ้านใหม่ให้สเลน ก็ไหนบอกว่าไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเด็กนี่ไม่ใช่หรือยังไงคะท่านนนนนนนน เด็กนี่ขับรถมาชนประตูหัวใจ(?)ท่านเชียวนะะ ให้อยู่บ้านใกล้ตัวท่านก็ลำบากเหนื่อยปวดหัวไม่ใช่เหรอคะท่านนนน #ลงไปดิ้นเพราะโดนไม้เท้าฟาดข้อหาล้อเลียนถถถถถถถถถ แต่เค้าชอบฟีลแบบนี้นะคะ ฟีลไม่ยอมรับว่าให้ความสำคัญไปแล้วแบบนี้ ฮือออ เหมือนคนน่ารักบางคน(?)ที่อยู่กับหมี(?)เลยค่ะ > ____ < อ่านแล้วก็อยากรู้เลยค่ะว่าถ้าสเลนต้องย้ายไปจริงๆ คนๆนี้จะทำยังไงกันนะ โฮรวววววว ตื่นเต้นนนน

    อ่านพาร์ทนี้แล้วเค้าชอบข้ออ้าง(?)ของคุณท่านค.มากกกกกกกกกกกก คนๆนี้สรรหาข้ออ้างให้ตัวเองได้ตลอดดดดด ความเป็นจริงไม่ต้องมาดูการแข่งกับตาก็ได้ไม่ใช่หรือยังไง แล้วไหนจะการไม่นั่งเครื่องกลับแบบแยกอีก ทำไมต้องกลับพร้อมกับทีมมมม เพราะอยากอยู่ใกล้ๆเด็กใช่มั้ยเล่าาา โอ่ยยยยท่านอย่ามาทำตัวน่ารักกกกกกกกก เค้าขนลุกกับชอตที่คำพูดของเอลวินกับท่านค.เหมือนกันเป็นครั้งแรกมากๆๆ คือไม่รู้ทำไมแต่มันก๊าววววมากกกกกจริงๆค่ะ สองคนนี้จะคอสโอเวอร์(?)กันได้ใจไปล้าวววถถถถถถถถ และตอนที่สเลนเข้าที่สองไปนี่เค้าก็เฮด้วยเลย ฮืออออ ดีใจที่เจ้าหมาหูลู่ผ่านสนามแรกไปได้ > ___ < อีกสองสนามนะลูกนะ เอาให้คุณท่านค.น่าหงาย(?)เลยนะลูกนะ โอ่ยยย ชูป้ายเชียร์สเลนขาดใจถถถถถถ #มันไม่ค่อยจะลำเอียงเลยจริงๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แล้วอะไรคือหนูก๊กน่าจับด้ายพันรอบตัวแล้วฟัดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดมากกกขนาดนี้ค่ะกวางซามะะะ โอ่ยยยยยยย หนูก๊กน่ารักมากกกกกกกกก มาแค่นี้เค้าก็ฟินนะคะ ฮืออออออออออออ ยิ่งบรรยายว่าหนูก๊กจ้องด้ายเหมือนลูกแมวแล้วเค้าจะตายยยย ก็ไม่แปลกจริงๆที่เจ้าลูกแมวของหมีปัญญาอ่อน(?)จะสนุกกับการเล่นพันด้าย อดคิดไม่ได้เลยนะคะว่าตอนเล่นกับหมีแล้วจะพันกัน(?)นัวเนีย(?)เนียนขนาดไหนนนนนนนนนนนนนนนน ฮืออออออ มโนเองฟินเองถถถถถถถถถถ แล้วเค้าชอบการเปรียบเทียบมากๆๆที่ว่าเอเลนไม่เข้าใจว่าพันด้ายสนุกตรงไหน เพราะอเลนเป็นหมาน้อยน่าฟัดนี่จะตายยยยยยนะคะะะ ส่วนคุณท่านท่อนขาที่ไม่มีแม้กระทั่งบทพูดแต่ก็ยังทำให้ก๊าวได้นี่ก็ไม่ทนนนนนะคะ รู้สึกว่าพอว่างงาน(?)แล้วมาก่อกวนงานเอเลนสบายแฮเลยนะคะคุณท่านนนนนน โอ่ยยย คู่นี้ก็น่ารักกันตลอดดด วิธีเรียกลูกหมากลับไปหาจะน่ารักไปมั้ยยยยยยยยยยย ปากระดาษใส่หัวลูกหมาเรียกกลับไปฟัดแบบนี้นี่จะทนได้ยังไงงงงงงงงงงงงงงงงงกันนนนน

      และในระหว่างที่เค้าฟินโฮกกกกกกกกกับการที่คุณท่านค.ยอมมองสเลนใหม่ แถมยังจงใจนั่งข้างๆตลอดทางบนเครื่องบิน ซ้ำยังยอมให้นอนซบไหล่แบบไม่ผลักออกด้วยแบบนี้ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ ก็มาฟินหนักตรงที่ลูกหมาหูลู่ตั้งใจขับชนประตูหัวใจ(?)ของท่านค.ซ้ำอีกรอบบบถถถถถถถถถถ กะจะชนให้รักจนโงหัวไม่ขึ้น(?)กันไปข้างเลยใช่มั้ยยยลูกกกกกกกกกก โอ่ยยยย สเล๊นนนนนนนนนนนน จะดาเมจจจไปแล้ววนะคะกวางซาม๊าาาา ฮือออคู่นี้น่ารักมากจริงๆๆๆค่ะ เค้าเพ้อตลอดวันหยุดเลย อยากอ่านต่อมากมายว่าคู่นี้จะไปจบลงที่ตรงไหน ฮือออ เค้าเป็นกำลังใจให้กวางซามะนะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกๆเรื่องที่กวางซามะแต่งเลยค่ะ เค้าดีใจมากๆๆที่ได้อ่านฟิคกวางซามะ ฮืออ รักทุกเรื่องเลยค่ะ

      สุขสันต์วันสุดท้าย(?)ของวันหยุดสงกรานต์ด้วยนะคะะะะะ
      รักษาสุขภาพด้วยค่ะ > _ <

      ลบ