Tokyo
Ghoul Au S.Fic [Amon x Kaneki] คืนที่ไม่อยากตื่น : Intro
:
Tokyo Ghoul Fanfiction Au
:
Amon x Kaneki
:
Angst Warmhearted
:
PG-15
คำเตือน :
เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
รถตู้ที่ดูไม่เหมือนรถตู้เสียทีเดียวแล่นผ่านป่ารกทึบที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเขตชุมชนแต่บัดนี้กลับไม่มีใครอยู่เลยสักคน
อาม่อน
โคทาโร่
นั่งมองทิวทัศน์ของเมืองร้างผ่านบานหน้าต่างรถตู้หุ้มเกราะด้วยดวงตาเรียบเฉย
ปล่อยให้ภาพของบ้านเรือนที่ผุพังไปตามกาลเวลานั้นผ่านเลยไปเรื่อยๆ...เพราะทุกอย่างมันผ่านมานานจนคนรุ่นหลังอย่างเขาทำใจได้แล้วกับรอยแผลที่เคยเกิดขึ้นกับเมืองเมืองนี้
สิ่งที่ทำได้คือจะอยู่กับมันต่อไปได้อย่างไรต่างหาก
กับเมืองที่เคยเต็มไปด้วยชีวิตชีวา
เมืองที่เคยมีคนอาศัยอยู่อย่างมีความสุข...แต่ทุกคนกลับต้องทิ้งบ้านของตนไปในชั่วข้ามคืน...
เพราะนิวเคลียร์....
สองขาก้าวลงมาเมื่อเจ้ารถเหล็กสีขาวซึ่งเต็มไปด้วยอุปกรณ์มากมายจอดลง
ณ.ลานจอดรถที่ว่างเปล่า
เครื่องมือวัดกัมมันตรังสีถูกดึงออกมาใช้เป็นอย่างแรกเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะปลอดภัยจากรังสีร้ายที่ทำลายเนื้อเยื่อของมนุษย์ได้ภายในไม่กี่นาที
นิคมเชอร์โนบิลคือชื่อของสถานที่ที่เขายืนอยู่ตอนนี้
มันคือนิคมซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวคนงานส่วนใหญ่ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล
เมืองพริเพียต จังหวัดเคียฟ ตอนเหนือของประเทศยูเครนในปัจจุบัน
วันที่
26 เมษายน คศ.1986 เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 4
ที่กำลังทดสอบระบบอยู่กลับระเบิดขึ้นมาอย่างไม่คาดฝันและมันก็ทำให้สารกัมมันตรังสีแพร่กระจายไปทั่วจนสิ่งมีชีวิตใดๆก็ไม่สามารถจะอยู่ที่นี่ได้อีก
ประชาชนทั้งหมดถูกอพยพออกไปภายในคืนเดียว
ต้องทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้เบื้องหลังโดยไม่สามารถเอาอะไรติดตัวไปได้เลยเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของกัมมันตรังสี
แล้วจากเมืองที่เคยเต็มไปด้วยผู้คนหลายแสนจึงกลับกลายเป็นเมืองร้างไปในทันที
ทั้งๆที่ทุกอย่างในบ้านยังอยู่เหมือนเดิม
มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่หายไป...ช่างเหมือนกับในหนังสยองขวัญเสียนี่กระไร
เพียงแต่ครั้งนี่มันเป็นเรื่องจริง...
และเหตุการณ์นั้นมันก็ผ่านมา
25 ปีแล้ว...
“
เตรียมอุปกรณ์ครบแล้วใช่ไหม? แยกกันไปตามที่วางแผนไว้ได้เลย” เสียงจากระบบสื่อสารไร้สายดังอยู่ในรูหู
เพราะชุดป้องกันกัมมันตรังสีที่ใส่อยู่ทำให้ไม่สะดวกที่จะสนทนากันโดยตรงเท่าไหร่นัก
ใบหน้าหล่อเหลาภายใต้หมวกกันรังสีพยักหน้าให้เพื่อนที่มาด้วยกันก่อนจะเดินไปตามแผนที่ในมือ
ทำไมเจ้าหน้าที่พิเศษ
สำนักงานพลังงานปรมาณูแห่งยูเครนอย่างเขาถึงต้องเข้ามาทำอะไรเสี่ยงตายแบบนี้น่ะเหรอ?
ก็เพราะว่าหลังจากเกิดการระเบิดของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข
4 แล้ว ทางการของรัสเซียก็ได้สร้างอาคารหลังหนึ่งซึ่งทุกคนเรียกมันว่า
“โลงศพโบราณ” ครอบเตาปฏิกรณ์นั่นเอาไว้เพื่อป้องกันรังสีแพร่กระจายออกไปมากกว่านี้
และตอนนี้
“โลงศพโบราณ” ที่ว่านั่นก็กำลังจะหมดอายุขัยของมันแล้วน่ะสิ
เป็นเพราะรีบเร่งในการสร้างมันจึงมีความสามารถที่จะต่อต้านกัมมันตรังสีอยู่ได้เพียง
30 ปี แล้วนี่ก็ใกล้จะถึงเวลานั้นแล้ว
เจ้าหน้าที่พิเศษอย่างพวกเขาจึงถูกส่งเข้ามาสำรวจว่าในเมืองที่รกร้างแห่งนี้มีที่ไหนซึ่งปลอดภัยพอที่จะวางศูนย์บัญชาการการก่อสร้างโลงศพโบราณหลังใหม่ได้บ้าง
สองขาในชุดป้องกันอย่างดีเดินเหยียบไปบนลานคอนกรีตแตกๆพลางใช้เครื่องมือวัดไปตามจุดที่มาร์คเอาไว้ในแผนที่ ต้นหญ้าเล็กๆพยายามจะแทรกขึ้นมาตามรอยแตกของคอนกรีต ผ่านไปแค่ 25
ปีแต่ธรรมชาติที่พยายามจะกลืนกินสิ่งก่อสร้างที่ทิ้งร้างของมนุษย์ทำให้ที่นี่ดูวังเวงจนน่าขนลุก
ตึกสีหม่นที่หันหน้าเข้าหาลานแห่งนี้ก็ให้ความรู้สึกราวกับว่ามีสายตาของใครบางคนจับจ้องแผ่นหลังของเขาอยู่ตลอดเวลา
นี่ขนาดเขาไม่ใช่คนขวัญอ่อนแต่พอต้องมาอยู่ท่ามกลางเมืองร้างตามลำพังแบบนี้มันก็มีกลืนน้ำลายไม่ลงคอเหมือนกัน
ค่าตัวเลขถูกบันทึกลงไปในคอมพิวเตอร์พกพาเครื่องเท่าฝ่ามือก่อนที่สองขาจะรีบเดินไปให้พ้นๆจากตรงนี้
ร่างสูงใหญ่มาหยุดยืนอยู่หน้าเซ็นทรัลปาร์ค....สวนสนุกซึ่งไม่เคยมีเด็กคนไหนเคยได้ใช้งาน
เพราะมันมีกำหนดการจะเปิดตัวหลังจากวันที่เกิดเหตุระเบิดขึ้นเพียงแค่ 5 วัน
ยังไม่ทันจะได้มีใครขึ้นไปนั่งบนชิงช้าสวรรค์สีเหลืองนั่นเลยสักคน
และมันเองก็ยังไม่เคยหมุนวนเลยสักรอบ...
นัยน์ตาสีดำทอดมองมันอย่างนึกสลดหดหู่...เมืองทั้งเมืองถูกทิ้งร้างไปแบบนี้ก็เป็นเพราะความสะเพร่าของมนุษย์เองแทบทั้งสิ้น
มีการคาดเดากันไปต่างๆนานาว่าต้องใช้เวลาถึงร้อยไปจนถึงหมื่นปีกว่าสารกัมมันตรังสีจะเจือจางจนมนุษย์จะสามารถกลับมาใช้พื้นที่ตรงนี้ได้อย่างปลอดภัย
มันถึงจำเป็นต้องถูกทิ้งไว้เพื่อให้ธรรมชาติช่วยบำบัดสารพิษที่ยังลอยอยู่ทุกอณูบนพื้นดิน
ไม่มีใครอยู่ที่นี่...ถ้าจะมีก็คงเป็นสัตว์ป่าหรือไม่ก็หมาแมวที่เคยเป็นสัตว์เลี้ยงซึ่งเจ้าของทิ้งไว้เนื่องจากไม่สามารถจะเอามันไปด้วยได้...แน่นอนว่าเวลาผ่านมาขนาดนี้จากสัตว์เลี้ยงก็คงออกลูกออกหลานและกลายเป็นเพียงสัตว์ป่ากันไปหมดแล้ว
แอ้ด....
เสียงบานประตูของซุ้มขายตั๋วโทรมๆทำให้เขาถึงกับสะดุ้งโหยง
ใบหน้าคมค่อยๆหันไปมองแต่ความมืดที่อยู่ภายในก็ทำให้ไม่เห็นอะไร
แต่มัน...ก็ไม่น่าจะมีใครอยู่?
แต่แทนที่จะเดินผ่านไปเขากลับขยับเข้าไปหาบานประตูที่ยังไหวไม่หยุดนั่น...ก็แค่ลมพัดแหละน่า...ไม่มีอะไร...มันต้องไม่มีอะไร...
มือในถุงมือมิดชิดค่อยๆยกขึ้นไปหาบานประตูนั่น
ลมหายใจรู้สึกติดขัดเพราะหัวใจที่กำลังเต้นระรัว
ความกดดันส่งให้ประสาททั้งหมดของร่างกายตื่นตัว
เขาสูดลมหายใจเขาลึกๆก่อนจะเปิดประตูออกรวดเดียว
พั่บ!!
อะไรบางอย่างตีเข้ามาที่ใบหน้าซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยหมวกกันรังสี
หัวใจหล่นวูบไปไหนแล้วก็ไม่รู้...
สองแขนที่ยกขึ้นป้องกันใบหน้าตามอัตโนมัติค่อยๆลดระดับลงเมื่อทุกอย่างกลับมาเงียบงันตามเดิม...อะไรน่ะ?...นก....?
แล้วขนสีดำที่ร่วงเต็มพื้นก็ทำให้ใบหน้าคมถึงกับถอนหายใจ....น่าจะเป็นนกแหละนะ...?
สัตว์ที่อาศัยอยู่ที่นี่เองก็ปนเปื้อนกัมมันตรังสี
เพื่อความอยู่รอดของสายพันธ์พวกมันจึงมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของดีเอ็นเอจนเป็นที่มาของการกลายพันธ์
เพราะงั้นถ้าจะเจอสัตว์แปลกๆที่มีรูปร่างพิกลพิการเขาก็คงต้องทำใจ...ก็นะ...ถ้าไม่นับพวกหัวขโมยที่แอบเข้ามาขโมยข้าวของแล้ว
เขาก็เป็นกลุ่มคนกลุ่มแรกที่กลับเข้ามาเหยียบที่นี่อย่างเป็นทางการ อีกสักพักแหละกว่าพวกนักวิจัยจะเข้ามาตรวจสอบสายพันธ์สัตว์ในแถบนี้อย่างละเอียด
ร่างสูงใหญ่ละจากประตูที่เปิดอ้าไว้ก่อนจะกลับไปทำงานต่อ
และเพราะคิดว่ามันเป็นเพียงแค่นกอีกทั้งยังอยู่ในหมวกกันรังสีจึงไม่ได้รู้เลยว่ากลิ่นคาวเลือดนั้นคละคลุ้งแค่ไหน
หากก้มลงไปดูให้ดีก็จะเห็นได้ทันที...ว่าภายใต้เศษซากของขนสีดำนั่นมันมีเศษเนื้อติดอยู่ด้วย...
และหากหันกลับไปมองในความมืดนั่นอีกสักครั้ง...ก็จะเห็นได้ทันทีว่ามีดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่...
เป็นดวงตา...ที่สะท้อนแสงสีแดง....เพียงข้างเดียว...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To
be Con.
ถึงจะเป็นฟิคแลกก้นเอเลนแต่คุณกวางก็หาข้อมูลไม่ใช่น้อยนาคะ
ฮ่าๆๆๆ // หัวเราะทั้งน้ำตา // ทำไมตรูถึงได้ชอบแต่อะไรแบบนี้ถถถถ อยากไปยูเครน ฮืออออ
พูดถึงข้อมูลก่อน
อันที่จริงเรื่องพลังงานนิวเคลียร์เอย ปรมาณูเอย หรือโรงไฟฟ้าเอย คุณกวางไม่เคยรู้และไม่เคยมีอยู่ในหัวมาก่อนเลยค่ะ
เป็นอะไรที่ใหม่มากๆสำหรับตัวเอง
เพราะงั้นถ้ามีข้อมูลตรงไหนยังไม่ถูกต้องก็แจ้งเข้ามาได้นะคะ สมัยเรียนเคมีฟิสิกส์ก็คืนอ.ไปหมดแระถถถถถ
คือว่าวันหนึ่งนอนกลิ้งดูสารคดีชีวิตแมวเหมียวในเมืองร้างพริเพียตของช่อง Animal planet (ช่วงนี้F1ยังไม่แข่งเลยสิงอยู่ช่องนี้กับช่องดิสโคฟเวอร์รี่แทน5555)
แล้วแบบ โคตรปิ๊งเมืองร้างเมืองนี้มากเลยอ่ะ
คือแบบ...ทั้งๆที่เมื่อวานยังมีคนเดินอยู่เต็มไปหมดแต่ชั่วข้ามคืนก็กลายเป็นเมืองที่ไม่มีคนเลยสักคน
ทุกสิ่งทุกอย่างถูกทิ้งเอาไว้เหมือนเดิมทั้งหลอนทั้งหดหู่แต่พอเวลาผ่านไปมันก็กลับมีเสน่ห์ไปอีกแบบ
นะ ก็เลยขอยืมมาเป็นฉากของเรื่องเสียหน่อย แหะแหะ
ส่วนคู่ก็แรร์ไอเท็มอีกแล้วค่าคุณแม่ขรา
TvT ก็เค้าชอบอาม่อนนิ *เอานิ้วจิ้มดิน* คาดว่าจะไม่มีเอ็นซีนาคะเรื่องนี้
บลอคตรูยิ่งเอาแน่เอานอนไม่ได้อยู่5555 แต่เหมือนเค้าจะส่งอีเมล์มาว่าจะเปิดปกติแล้วนะ?
มั้ง? เอาเหอะ ไว้เกิดอัลไลขึ้นค่อยว่ากัลป์
ยังไงก็ขอฝากฟิคน้อยๆเรื่องนี้เอาไว้อีกเรื่องนึงนะคะ
อาจจะสับสนชีวิตเล็กน้อย ขนาดแนวเรื่องมันยังตีกันเลย555 Angst Warmhearted พร่อง TTvTT
กรี๊ดดดดดดดดด น้องงงง เปิดตัวน้องเดียวเน้!!!!!!!
ตอบลบ/เขย่าคอกวาง
หุๆๆๆๆๆๆ รอดตัวแล้วนะครับพี่กวางยินดีด้วยยยยยยยยย
ตอบลบอมรมาเดินวนๆในเมืองประหนึ่งสาวน้อยแล้วโดนเมะ(?)จ้องเลย กรั่กๆๆๆๆๆ
กำลังไม่มีอะไรอ่านพอดี แล้วพี่มาได้จังหวะมัก - -d
หรืองานนี้อาม่อนจะได้แมวกลายพันธ์ุกลับไปเลี้ยงหวา? หุๆๆ
พร้อมติดตามเด้อ
น้องกิ น้องกิอยู่ไหนนนนน *[ ]*
ตอบลบficแนวนี้ชอบมากเลยคะ ติดตามๆ
พี่กวาง!!!!
ตอบลบเชอร์โนบิลมันต้องมีไอ้ตัวที่ทำด้วยวัตถุจากต่างดาวคล้ายๆโลหะทนทานบางแย่างบนโลกแต่แข็งแรงกว่าร้อยเท่าประกอบกันเป็นคล้ายไส้เดือนปากมีหกแฉกเหมือนพยาทปากขอดำดินมาเสียงตึ๊ดๆๆๆๆๆแล้วก็โผล่มางับเอาออนิทริคไปก่อนที่เชฟโรเล็ตคาเมโร่สีเหลืองกะเวสเทิร์นสตาร์กะผู้พันเรนนิคจะไปถึงก่อนไม่ใช่เหรอคะ????????
กร้ากกกกกกล้อเล่นค่ะฮะฮะฮะ~~~~~~~