Attack
on Titan feat.KHR and A/Z Au.Fic [Cruhteo x Slaine , Levi xEren , 8059] GLIDE : WHITE and
SILVER#01
For
HBD. Count Cruhteo
:
Attack on Titan feat KHR Fanfiction Au
:
Cruhteo x Slaine , Levi x Eren , 8059
:
Romantic Drama
:
NC-17
คำเตือน :
เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย
หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
เสียงแหวกอากาศของยานยนต์ที่เคลื่อนที่ด้วยหลักอากาศพลศาสตร์ดังกระหึ่มไปทั่วสนามฟิโอราโน่
สนามส่วนตัวของเฟอร์รารี่ใช่ว่ารถที่อื่นจะมาวิ่งได้เพราะฉะนั้นรถสูตรหนึ่งที่กำลังวิ่งทดสอบอยู่ในสนามจึงเป็นรถของทีมสครูเดอเลีย
เฟอร์รารี่อย่างไม่ต้องสงสัย
“
เป็นไงบ้างรีไว?”
ทีมบอสร่างสูงใหญ่ขยับไปยืนใกล้ๆอดีตนักขับที่นับได้ว่าเป็นนักขับที่ดีที่สุดเท่าที่เฟอร์รารี่เคยมีมา
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเลิกขับไปแล้วแต่ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครคนนี้ก็ยังเข้าๆออกๆพิตการาจสีแดงเหมือนเดิม...เพียงแต่เปลี่ยนหน้าที่ไป
จากนักขับกลายมาเป็นเทรนเนอร์
“
ก็ไม่เลว...แต่การขับในสนามซ้อมกับในสนามจริงมันไม่เหมือนกัน จะพิสูจน์เด็กนั่นต้องส่งลงสนามจริงถึงจะรู้”
เสียงนิ่งเอ่ยออกมาทั้งๆที่ใบหน้ายังคงจับจ้องอยู่ที่รถสีแดงเพลิงในสนาม
“
นายก็รู้ว่าเราไม่มีเวลาต่อรองมากขนาดนั้น”
ใบหน้าของเอลวิน
สมิธมีแววหนักใจเมื่อพูดถึงตำแหน่งนักขับคนใหม่ที่หาเท่าไหร่ก็ยังไม่สามารถทดแทนรีไวได้ ยังดีที่ยังมีโกคุเดระอยู่เฟอร์รารี่จึงยังไม่ตกจากอันดับหนึ่ง
แต่ในฐานะทีมบอสแล้วเขาก็วางใจไม่ได้เพราะโกคุเดระเองเคยประสบอุบัติเหตุร้ายแรงมาก่อน
แล้ววันดีคืนดีก็มีบ้างที่ร่างกายจะไม่เชื่อฟังคำสั่งจนต้องหยุดแข่งบางสนามก็มี
“
หึ...มีอะไรที่บอสปีศาจอย่างนายยังต้องกลัวด้วยหรือไง?
ขนาดเรื่องเจ้าฮายาโตะนายยังต่อรองได้แล้วกับอีแค่ลองให้นักขับใหม่ลงสนามสักครั้งสองครั้งมันจะเป็นไรไป?”
รีไวยังคงพูดราบเรียบราวกับว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเองจนคนที่เป็นบอสนึกหมั่นไส้ขึ้นมา แหงล่ะ
ที่เจ้าหมอนี่มันยังยอมมาช่วยงานเฟอร์รารี่แทนที่จะไปนั่งเลี้ยงหมาอยู่บ้านเหมือนคนแก่ทั่วไปนั่นก็เป็นเพราะเรื่องเดียว....เอเลน
เยเกอร์ก็เป็นหนึ่งในทีมวิศวกรของเฟอร์รารี่...รีไวมันก็แค่มาเฝ้าแฟนสุดรักสุดหวงของมันเท่านั้นแหละ
“
ก็นั่นมันกลุ่มผู้บริหารเก่า...ตาแก่พวกนั้นขู่นิดขู่หน่อยก็ยอมแล้ว...แต่นายก็รู้ว่าตอนนี้เฟอร์รารี่เปลี่ยน
CEO
คนใหม่เป็นหนุ่มใหญ่ไฟแรง
แค่คิดว่าพรุ่งนี้จะต้องไปเถียงกับหมอนั่นชั้นก็ปวดหัวแล้วเนี่ย” รีไวหันมามองเขาด้วยสายตาสมน้ำหน้า
“
ก็แค่ปีศาจเจอกับปีศาจไม่ใช่รึไง?”
จะให้กำลังใจกันบ้างนี่ไม่มีละ...แต่เขาก็ยอมรับว่าผู้ชายคนนั้นทันเกมส์เขาทุกอย่าง
ฝีมือการบริหารก็ชั้นยอดไม่งั้นปีที่ผ่านมาจะทำกำไรให้บริษัทแม่ขนาดนั้นได้ยังไง แต่นึกถึงเจ้าผู้ชายตัวใหญ่ ผมสีทอง ตาสีฟ้าคนนั้นแล้วทำไมเหมือนส่องกระจกชอบกล
“
เจ้าฮายาโตะอยู่ไหน?”
คำถามของรีไวทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย เพราะปกติจะถามหาแต่เอเลนมากกว่า
“
คุยกับทีมวิศวกรอยู่ มีอะไรรึเปล่า?”
ถึงแม้ใบหน้าดุดันนั่นจะยังนิ่งเฉยแต่ประกายคมกล้าในดวงตาสีขี้เถ้าก็ทำให้เขารู้ว่ารีไวกำลังเอาจริง
“
ไปเรียกให้มาลงสนาม นายอยากจะทดสอบเด็กใหม่นั่นไม่ใช่หรือไง?” รีไวรูดซิปชุดนักขับสีแดงที่สวมอยู่ขึ้นจนถึงคอก่อนจะหันไปคว้าหมวกกันน็อค
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากำลังจะทำอะไร
“
ถ้าเด็กนั่นตามชั้นกับฮายาโตะไม่เกินครึ่งวินาที ชั้นถึงจะให้ผ่าน”
ใบหน้านิ่งหันมาบอกทิ้งท้ายก่อนจะก้าวขาไปยังพิตการาจ
และหลังจากที่เขาประกาศไปตามระบบสื่อสารของอาคารควบคุม ทั้งวิศวกรและผู้เกี่ยวข้องของทีมทั้งหมดก็กรูกันเข้าไปในพิตสีแดงแทบจะทันที
เพราะนานแล้วที่ไม่ได้เห็นการแข่งขันชั้นครูแบบนี้
เสียงกระหึ่มดังไปทั่วสนามเมื่อรถทั้งสามคันจอดลดหลั่นกันอยู่หลังไฟสตาร์ท
นัยน์ตาสีขี้เถ้าของอดีตนักขับมือหนึ่งของโลกจ้องมองรถอีกสองคันซึ่งอยู่ข้างหน้า
รถของเจ้าฮายาโตะอยู่หน้าเขาและคันหน้าสุดคือรถของเจ้าเด็กใหม่...ในเมื่อรถเหมือนกัน
การปรับแต่งก็เหมือนกัน ถ้าจะต่างก็คงที่ฝีมือ...ขอดูหน่อยก็แล้วกันว่าจะทำได้ขนาดไหน
จะทนรับความกดดันที่ต้องมีเขากับเจ้าฮายาโตะไล่หลังอยู่ได้หรือเปล่า
ถ้าทำไม่ได้ก็ไสหัวไปซะ
ไฟสตาร์ทค่อยๆดับลงทีละดวงและเมื่อถึงดวงสุดท้ายคันเร่งก็ถูกเหยียบมิดทันที
จะดีหรือไม่ดีก็ขึ้นอยู่กับการสตาร์ทนี่แหละ...และดูเหมือนเจ้าเด็กใหม่ก็พอได้เหมือนกันเพราะตอนนี้ทั้งเขาและเจ้าฮายาโตะต่างยังแซงขึ้นไปนำหน้าไม่ได้ทั้งคู่
รอยยิ้มพอใจปรากฏอยู่บนริมฝีปากอย่างนึกสนุก
ปกติเขาไม่เคยลงมาแข่งด้วยแบบนี้หรอกไม่ว่าจะนักขับหน้าใหม่คนไหน
แต่จากการได้ยืนดูเจ้าเด็กนั่นขับก็รู้สึกว่าเลือดในกายมันร้อนขึ้นมา
จะบอกว่าวิธีการขับของเด็กนั่นน่าสนใจเพราะมันให้ความรู้สึกขัดแย้งกันในตัวเองก็ไม่แปลกนัก
ทั้งๆที่มันเป็นการขับแบบนุ่มนวลเหมือนจะแซงใครไม่ได้แต่ความเร็วกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามรอบของสนาม
จะว่าดุดันเหมือนเขาก็ไม่เชิง
จะว่าขับแบบไม่สนใจใครเหมือนฮายาโตะก็ไม่ใช่...นุ่มนวลแต่ก็โหดเหี้ยม...การขับของเด็กนั่นให้ความรู้สึกแบบนั้นมากกว่า
เหมือนกับว่าทำได้ทุกอย่างเพราะไม่อยากแพ้...เพราะฉะนั้นเขาจึงอยากรู้...ว่าหากมีคนไล่ตามอยู่จะเป็นยังไง
จะแสดงความโหดเหี้ยมแบบไหนให้เห็น
“
คุณรีไว! อย่าหักโหมนะครับ! หลังคุณยิ่งไม่ดีอยู่!...โธ่...ชอบแอบทำอะไรเสี่ยงๆตอนผมไม่อยู่เรื่อยเลย!” กลับมาแล้วสินะเจ้าเด็กเหลือขอของเขา
เสียงบ่นมันถึงได้ดังมาตามวิทยุสื่อสารทันที...วันนี้ช่วงเช้าเอเลนกับยัยแว่นฮันซี่ไปดูอะไหล่ชิ้นใหม่ที่โรงงานของเฟอร์รารี่
เขาเลยแอบลงมาแข่ง
ไม่คิดว่าจะกลับมาไว้ขนาดนี้...ได้ยินเสียงยัยแว่นโหยหวนอยู่ไกลๆว่าทำไมไม่รอตนกลับมาก่อน...ป่านนี้เจ้าฮายาโตะคงจะปิดวิทยุสื่อสารหนีไปแล้ว
“
ไม่ต้องห่วง...คืนนี้ชั้นสามารถมีเซ็กส์กับนายได้ทั้งคืนเหมือนเดิมนั่นแหละ” เขาหยอกเย้าคนที่อยู่ปลายสาย...ที่เขาตัดสินใจแขวนพวงมาลัยปัญหาส่วนหนึ่งมันก็มาจากสภาพร่างกายที่เป็นไปตามอายุขัย
ก็ถ้ามันไม่ได้ปวดหลังถึงขั้นหมอสั่งให้เลิกเขาก็คงจะขับต่อไป
“
ใครมันจะไปห่วงเรื่องนั้นล่ะครับ!
แล้วสภาพรถกับสนามตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับ ผมจะเป็นวิศวกรรถให้” รถแต่ละคันจะมีวิศวกรคอยดูแลของใครของมัน
นั่นรวมไปถึงการสื่อสารตลอดการแข่งขันด้วย...เมื่อก่อนวิศวกรประจำตัวเขาคือยัยฮันซี่
แต่พอเขาเลิกขับ ยัยแว่นก็ถูกโยกให้ไปดูแลเจ้าฮายาโตะที่ขึ้นเป็นมือหนึ่งของเฟอร์รารี่แทน...และฤดูกาลที่จะถึงนี้
เอเลนก็กำลังจะได้รับหน้าที่ให้เป็นวิศวกรประจำรถอีกคัน
เพราะแบบนั้นเขาจึงต้องคัดให้ดี ทั้งฝีมือและความน่าไว้วางใจ
“
ปกติดี ยางล่ะ?” ใบหน้าภายใต้หมวกกันน็อคถามออกไปในขณะที่ดวงตาก็จ้องมองรถคันที่อยู่ข้างหน้า
เมื่อโค้งที่แล้วเจ้าฮายาโตะแซงขึ้นไปนำเด็กใหม่นั่นได้แล้ว
และต่อไปมันก็คือตาของเขา
“
ซ้ายหน้าอุณหภูมิมากกว่าล้ออื่นครับ ระวังการเข้าโค้งกับเบรกด้วยครับ” ทางตรงยาวข้างหน้านี้ไม่มีทั้งโค้งทั้งเบรก
เพราะงั้นคันเร่งจึงถูกเหยียบมิดเพื่อให้รถขยับเข้าไปดูดติดเจ้ารถสีแดงตรงหน้าที่ยังไม่มีแม้แต่ชื่อติดอยู่ที่ตัวถัง พวงมาลัยหักเลี้ยวเล็กน้อยเตรียมจะใช้แรงดูดนั่นดึงให้รถแซงขึ้นไปง่ายๆ...ทว่า
รถที่ดูเชื่องช้าของเจ้าเด็กใหม่กลับเร่งความเร็วหนีไป...หึ...คิดว่าเขาจะแซงเฉพาะทางตรง?
พอใกล้จะถึงโค้งก็จะยอมปล่อยไปแล้วค่อยว่ากันรอบใหม่?
ขับแบบนั้นไม่ใช่รีไวแน่นอน
“
เย็นนี้ไอ้หมีบ้ามันจะทำอะไรกิน?” ถึงแม้ว่าบทสนทนาจะฟังดูสบายๆแต่ความร้อนแรงในสนามกลับแปลผกผัน
รถที่นำเขาอยู่ไม่ถึงครึ่งวินาทีหันพวงมาลัยหนีเมื่อตระหนักแล้วว่าต่อให้ถึงสุดทางตรงเขาก็ยังไม่ชะลอความเร็วลงและเพราะแบบนั้นแค่เสี้ยววินาที
SF15-T LEVI ก็ปาดแซงก่อนจะหลุดโค้งได้อย่างเส้นยาแดงผ่าแปด
เสียงเบรกดังสนั่นหวั่นไหว
เท่าที่เห็นจากกระจกมองหลังรถของเจ้าเด็กใหม่ปัดไปเล็กน้อยก่อนจะกลับมาไล่เขาอย่างเจ็บใจ...คงไม่คิดละสิว่าจะมีคนใจถึงแบบนี้
“
ได้ยินว่าซูชิมากุโร่นะครับ” เด็กใหม่พยายามจะแซงคืนทว่าเขาก็ขับกันเอาไว้หมด
ต่อให้แซงเขาได้ในโค้งขวาแต่โค้งถัดมาเขาก็เสียบกลับไปเหมือนเดิม
เขากดคันเร่งจนเลขไมล์ไปถึง 300
กว่าแต่คนข้างหลังก็ยังตามมาติดๆ...โฮ่...กล้าใช้ได้
เพราะถ้าเร่งตามเขาขนาดนี้แล้วไม่รู้จังหวะเบรกละก็...เสยกำแพงข้างหน้าแน่
“
มากุโร่อีกแล้ว? เฮ้ เช็คยางขวาหน้าให้ที ชั้นรู้สึกว่ามันแปลกๆตอนเข้าโค้ง” มือในถุงมือสีแดงหมุนพวงมาลัยก่อนจะรู้สึกว่ารถส่ายนิดๆ
แต่ก็ช่วยไม่ได้ในเมื่อเพิ่งจะเบรกหูตั้งมาเมื่อกี้
นัยน์ตาสีขี้เถ้าเหลือบมองกระจกมองหลัง ถึงจะเจ้าเด็กใหม่จะลงไปกินหญ้าอยู่บ้างแต่ก็เอารถกลับมาก่อนจะถึงกำแพงได้ด้วยแหะ...ใช้ได้...
“
ความร้อนขึ้นครับแต่ขับต่อไปได้...มันก็ช่วยไม่ได้นี่นาในเมื่อโกคุเดระชอบปลามากุโร่
คุณยามาโมโตะจะชอบทำให้แฟนเค้ากินมันก็ไม่แปลกหรอก
เราสองคนไปขออาศัยเค้ากินก็อย่าบ่นมากเลยครับ”
ต่อไปให้ทดสอบโค้งกับเจ้าฮายาโตะก็แล้วกัน...คันเร่งถูกกดจนมิดอีกครั้งเพราะเขาตั้งใจจะแซง
SF15-T HAYATO ที่อยู่ข้างหน้า
แน่นอนว่ามันไม่ได้ง่ายเหมือนคราวที่ผ่านมา เจ้าเด็กในปกครองของเขาพัฒนาไปมาก
แต่มันยังขับแบบไม่สนใจใครยังไงก็ยังไม่สนใจใครอยู่อย่างนั้น เพราะงั้นชั่ววูบหนึ่งที่เจ้าฮายาโตะคิดว่าเขาจะแซงขวาตามสัญชาติญาณ
เขากลับหักพวงมาลัยออกซ้าย แล้ว SF15-T LEVI ก็แซง SF15-T
HAYATO ได้สำเร็จ
“
ชิ...เป็นหมีมันต้องแซลม่อนสิ!” ทางข้างหน้าเขากลับมาโล่งไร้ใครนำอีกครั้ง
มันช่างเป็นบรรยากาศที่ชวนคิดถึงจริงๆ
นัยน์ตาสีขี้เถ้ายังคงเหลือบมองการต่อสู้ของคู่หลังจากกระจก
ดูเหมือนเจ้าฮายาโตะคงต้องหัดสนใจคนรอบข้างบ้างแล้วถ้าจะมีคนไล่หลังที่ฝีมือไม่เลวขนาดนี้
ขนาดในโค้งยังสู้กับเจ้าฮายาโตะได้ก็ถือว่าไม่ธรรมดา
“
ครับๆ” ถึงตาจะดูรถคู่หลังแต่หูก็ยังฟังคนจากปลายสาย
ทุกวันนี้เขาขับรถด้วยร่างกายที่มันเป็นไปเองเสียมากกว่า
เพราะงั้นต่อให้คิดอะไรอยู่ในหัวก็ไม่เคยเสียสมาธิ
“
โฮ่ยเจ้าเด็กเหลือขอ วันนี้ไปกินข้าวข้างนอกกัน”
ปกติแล้วในการแข่งขันจะไม่มีการพูดเล่นกันแบบนี้หรอก
เพราะสิ่งที่พูดออกไปบางทีก็จะถูกนำไปออกอากาศให้คนทั้งโลกได้รู้ว่าตอนนี้เขากำลังสื่อสารอะไรกับวิศวกรส่วนตัวอยู่เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชม...อีกอย่างเขาก็ไม่ได้อยากจะสนทนาอะไรกับยัยแว่นบ้านั่นมากนักด้วย
ประสาทจะเสีย
“
เย้~~
อาหารไทย~” แต่เพราะที่นี่เป็นสนามส่วนตัวและก็ไม่ใช่การแข่งอย่างเป็นทางการ
ทั้งอีกฝ่ายก็เป็นเจ้าเด็กเหลือขอเพราะงั้นเลยไม่เป็นไร
“
ตามใจ” เบรกถูกแตะเล็กน้อยเมื่อต้องเข้าโค้ง
นัยน์ตายังคงมองอยู่ที่กระจกมองหลังและดูท่าทางสองคันนั่นจะไม่ยอมปล่อยให้เขาทิ้งห่างง่ายๆมันถึงไล่จี้มาไม่หยุด
“
Fastest
Lap ครับคุณรีไว
แต่ต้องเหยียบมากกว่านี้นะครับเพราะเด็กใหม่ก็ความเร็วเพิ่มขึ้นเหมือนกัน” รอบนี้เขาเร็วที่สุดในสามคันแต่ถึงอย่างนั้นก็ประมาทไม่ได้
ยิ่งได้ยินประโยคหลังจากเอเลนด้วยแล้ว
“
อืม...ยางของเด็กนั่นล่ะ?” ถูกหมุนนิดหน่อยเมื่อ SF15-T
HAYATO ตั้งใจจะเสียบหัวเข้ามาแซงเขา
แต่พอโดนเขาปิดมุมไอ้รถคันหลังสุดก็ตั้งใจจะแซงคืนรวดเดียวสองคัน...หึ...ฝันไปเถอะ...คันเร่งถูกเหยียบมิดอีกครั้งทั้งๆที่ใกล้จะถึงโค้งอยู่รอมร่อ
เขาปาดเข้าโค้งในได้สำเร็จและนั่นมันก็ทำให้เจ้าเด็กเมื่อวานซืนทั้งคู่จำต้องเบี่ยงออกวงนอกและไล่หลังเขาเหมือนเดิม
“
ถนอมยางได้ดีทีเดียวครับ”
ว่าแล้วเชียว..การขับที่ดูนุ่มนวลแบบนั้นมีผลกับยางจริงๆด้วย ริมฝีปากลอบยิ้มอย่างถูกใจ...จากนี้ไปคือของจริงแล้วสินะ
“
ชั้นจะเร่งความเร็ว คอยเช็คอุณหภูมิให้ด้วย” น้ำเสียงนิ่งเอ่ยบอกปลายสายอย่างไม่ทุกข์ร้อน
เขาขับรถสูตรหนึ่งมานานจนมันแทบจะกลายเป็นแขนขาของตัวเองไปแล้ว
“
ครับ” ความเร็วถูกเร่งขึ้นทำให้ทิ้งห่างสองคันข้างหลังได้เกือบวินาที
แต่ก็ประมาทเจ้าฮายาโตะไม่ได้เหมือนกันเพราะเจ้าเด็กนั่นมีทีเด็ดอยู่ที่การเข้าโค้ง
ถ้าเขาไม่หนีในทางตรงให้มากๆเข้าไว้มีหวังคงโดนแซงคืนช่วงทางโค้งแน่ๆ
“
นายว่าเด็กนั่นจะชอบผู้ชายหรือเปล่า?”
จู่ๆเขาก็ถามออกไป
“
ห๋า? สงสัยอะไรของคุณเนี่ย?” เขานึกหน้าเหวอๆเจ้าลูกหมานั่นออกเลยแหะและมันก็กำลังทำให้เขานึกขำ
“
ก็ต่อไปแกต้องเป็นวิศวกรให้มันนี่”
แน่นอนว่าไอ้พวกนักขับหล่อล่ำถูกเขาคัดทิ้งตั้งแต่ยังไม่ได้ทดสอบ
ส่วนเจ้าเด็กใหม่นี่ถ้าดูแค่รูปลักษณ์ละก็น่าจะปลอดภัยสำหรับเอเลนของเขาละนะ
“
โธ่...ผมไม่นอกใจคุณหรอกน่า...แล้วก็อย่าเผลอไปต่อยเข้าล่ะดูเค้าก็ไม่ใช่คนที่ทนทานอะไร” เสียงเง้างอดน่าแกล้งดังมาจากปลายสาย
ป่านนี้คงกำลังพองลมแก้มป่องๆนั่นอยู่แน่ๆ
“
หึ!” เขาหลุดหัวเราะในลำคอ...ไม่ใช่คนที่ทนทาน?...แต่การขับรถที่โหดเหี้ยมไม่ใช่น้อยนะ
มือที่จับพวงมาลัยส่ายไปนิดๆเมื่อรู้สึกถึงแรงปะทะจากทั้งทางซ้ายและทางขวา...เพราะมัวคุยกับเจ้าลูกหมานั่นแหละทำให้อีกสองคันไล่เขาทันตั้งครึ่งคันรถแล้ว!
เฟอร์รารี่สีแดงสดสามคันพุ่งทะยานแทบจะเป็นหน้ากระดานและต่างก็ไม่มีคันไหนยอมลดความเร็วให้ถึงแม้จะถึงโค้งหน้าในอีกไม่กี่วินาทีก็ตาม ถ้าเขาหมุนพวงมาลัยไปทางซ้ายตอนนี้เพื่อเตรียมเข้าโค้งต้องชนเจ้าเด็กใหม่แน่นอนแต่ถ้าไม่เลี้ยวก็โหม่งกำแพง...หึ...จะวัดใจกันใช่ไหม?
เพราะดูท่าทางเจ้าเด็กใหม่นั่นไม่มีแววว่าจะยอมให้เขาเลี้ยวแล้วนำไปก่อน
ต่อให้ชนหรือเขาพุ่งเข้าไปหากำแพงก็ไม่สน? เอางั้นก็ได้...เพราะงั้นเขาจึงผ่อนคันเร่งในชั่ววินาที
เฟอร์รารี่ทั้งสองคันจึงนำหน้าเขาไป ทว่าจังหวะที่ต่างก็เข้าโค้งนั้นเขากลับเหยียบคันเร่งเต็มที่อีกครั้งแล้วมุดหัวรถเข้าไปในมุมที่แคบกว่า
จากที่เจ้าเด็กใหม่เหมือนจะแซงเขาได้จึงกลับมาตามเขาอีกครั้งในโค้งถัดมานั่นแหละ
แต่เหนือฟ้ายังมีเจ้าฮายาโตะ
รถที่เหมือนจะหลุดโค้งของเด็กนั่นปาดหน้าเขาไปแค่นิดเดียว ตอนนี้ SF15-T HAYATO จึงเป็นจ่าฝูง
“ รอบนี้ Fastest Lap
เป็นของโกคุเดระครับ หมอนั่นอัจฉริยะเรื่องการเข้าโค้งจริงๆ
โอเวอร์สเตียร์ตลอดแต่กลับช่วยให้ความเร็วเพิ่มซะงั้น” โอเวอร์สเตียร์คือการเข้าโค้งเหมือนดริฟท์
ในขณะที่หัวรถเข้าโค้งท้ายจะปัดและถ้าควบคุมไม่อยู่รถก็จะหมุน แต่ถ้าสามารถใช้มันได้ก็จะทำให้ไม่ต้องลดความเร็วก่อนเข้าโค้งมากเท่าการเข้าโค้งปกติ
เรียกว่าเป็นการเข้าโค้งที่ควบคุมยากมากแต่เจ้าฮายาโตะกลับทำได้ดี
“
อืม...เจ้านั่นตั้งใจใช้โอเวอร์สเตียร์...ถ้าเป็นคนอื่นคงหลุดโค้งไปแล้ว” มันก็น่าภูมิใจอยู่หรอกนะในฐานะผู้ปกครอง
แต่ในฐานะนักขับด้วยกันแล้วมันน่าเจ็บใจชะมัด!
“
คุณรีไว...เด็กใหม่ก็ความเร็วเพิ่มขึ้นนะครับ”
เป็นอย่างที่คิดจริงๆด้วยสินะ ว่ายิ่งขับความเร็วก็จะยิ่งเพิ่มทั้งๆที่สภาพยางสึกหรอลงไปเรื่อยๆและนักขับส่วนมากจะความเร็วตก...ใช้ได้...นอกจากเร็วแล้วยังไม่รู้สึกถึงความประหม่าที่ต้องมาไล่ตามนักขับมือหนึ่งของโลกในอดีตและคนปัจจุบันเลยสักนิด
“
รอบสุดท้ายแล้วนะครับ สภาพความร้อนและความดันตอนนี้สามารถกดได้เต็มที่เลยครับ”
ดี...แทนที่จะหวั่นวิตกกับอันดับหนึ่งที่ถูกเจ้าฮายาโตะคว้าไปเขากลับกำลังยิ้มร้ายอยู่ภายใต้หมวกกันน็อค...ไม่ได้สนุกแบบนี้มานานแล้วและการแข่งขันมันก็ยังไม่จบจนกว่าจะได้วิ่งใต้ธงตาหมากรุกนั่นแหละ!
SF15-T
LEVI ยังคงทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่เหนือกว่ารถไฟหัวกระสุนของญี่ปุ่น
รถของเจ้าเด็กใหม่ตีคู่มากว่าครึ่งคันแค่เขาเข้าโค้งรถก็ถูกดูดเข้าหากันก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะสั่นสะเทือนไปหมด
มองเห็นปีกหน้าข้างขวาหลุดกระจายอยู่เต็มถนนจากกระจกมองหลัง
รถของเจ้าเด็กใหม่เซไปเล็กน้อยก่อนจะกลับมาไล่เขาต่อ
ถือว่าเก่งใช้ได้ที่บังคับรถให้วิ่งต่อได้ ปกติชนแบบนั้นมันต้องหมุนไปแล้ว
และหากไม่ไล่เขาต่อตอนนี้ ตำแหน่งนักขับมือสองของทีมม้าลำพองก็คงจะหลุดมือไปแน่ๆ
เขาหันกลับมาสนใจท้ายรถสีแดงคันข้างหน้า
เหลือทางตรงสุดท้ายแล้วสินะก่อนจะถึงเส้นชัย แน่นอนว่า SF15-T LEVI ก็ใส่แบบไม่มีอะไรจะเสีย
“
คุณรีไว!”
เจ้าเด็กเหลือขอกระโดดกอดคอเขาทันทีที่รถจอดลง
“
ผมนี่แทบลืมหายใจเลยตอนคุณเข้าเส้นชัยก่อนโกคุเดระแค่ 0.03 วินาที เป็นไงล่ะ
ฝีมือการบอกข้อมูลของผม!” .....ไอ้ที่ว่าจะกินอาหารไทยเย็นนี้น่ะนะ?
เจ้าลูกหมายิ้มแก้มปริพลางถูหน้าลงมาที่ไหล่ของเขา
“
อ๊า~~~ รีไว~~ รถนายมันต้องปรับแต่งขี้โกงอะไรแน่
ชั้นจะชำแหละมันเดี๋ยวนี้แหละ! การวิเคราะห์ข้อมูลของชั้นให้โกคุเดระไม่มีทางผิดพลาดเด็ดขาด
อ๊า~~~”
เจ้าฮายาโตะน่ะเดินถือหมวกกันน็อคด้วยใบหน้าตายไปนู่นแล้ว
ต่อให้แพ้เขาไปกี่วินาทีเด็กนั่นเคยสนใจเสียที่ไหน
แต่คนที่ร้องโวยวายกลับกลายเป็นยัยแว่นวิศวกรประจำตัวเสียแทน
“
คะ คุณรีไว...”
เสียงตะกุกตะกักที่ไม่คุ้นเคยเอ่ยเรียกให้เขาหันไปมอง
เจ้าเด็กใหม่กำลังก้มหัวให้อย่างไม่สมกับการขับที่เหลือกินนั่นเลย
“
ขอบคุณมากๆนะครับที่ช่วยลงแข่งกับผม
ถึงจะไม่ได้เป็นนักขับของเฟอร์รารี่แต่ผมก็ดีใจมากที่ได้แข่งกับคนในระดับตำนานอย่างคุณ”
เจ้าของผมสีชายังคงก้มหัวในขณะที่พูดประโยคยืดยาว
“
นายชื่ออะไร?” อดีตนักขับมือหนึ่งของเฟอร์รารี่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนิ่ง
ทำให้ใบหน้าได้รูปรับกับเส้นผมสีชาเงยหน้าขึ้นมา นัยน์ตาสีมรกตนั่นช่างเหมือนกับเอเลนและฮายาโตะจริงๆ
“
สเลน....สเลน ทรอยยาร์ดครับ” รีไวยิ้มที่มุมปากนิดๆก่อนจะเดินผ่านสเลนไป
ในขณะที่ใบหน้าได้รูปกำลังมึนงงที่ดูเหมือนกับอีกฝ่ายจะไม่ยอมรับ
แต่น้ำเสียงนิ่งกลับประกาศก้องออกไป
“
เพ้นท์ชื่อของหมอนี่ลงไปบนตัวถังรถได้เลย ชั้นให้ผ่าน”
SF15-T
SLAINE…
แค่นึกถึงชื่อที่ติดอยู่ที่ตัวถังรถคันที่สองของเฟอร์รารี่ขึ้นมาทีไรก็ทำให้ใบหน้าได้รูปอมยิ้มขึ้นมาทุกที
จากนี้ไปเขาก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งของบ้านสีแดงหลังนี้แล้วสินะ
แค่คิดก็แทบจะควบคุมความดีใจไม่อยู่
นัยน์ตาสีมรกตทอดมองไปยังแผ่นหลังกว้างของทีมบอสร่างสูงใหญ่
วันนี้คุณเอลวินพาเขามาที่สำนักงานใหญ่ของเฟอร์รารี่เพื่อเตรียมเอกสารยื่นเรื่องต่อ
FIA
เพื่อขอทำบัตรนักขับ
ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชาหันมองสองข้างทางอย่างตื่นตาตื่นใจ
เป็นเพราะใฝ่ฝันมานานแล้วในที่สุดก็ได้มาเดินอยู่ในนี้อย่างที่ฝันสักทีมันก็ต้องตื่นเต้นดีใจเป็นธรรมดา
“
หึ...พอได้เจอคนปกติอย่างเธอ ชั้นถึงเพิ่งรู้ว่าลูกทีมของชั้นนี่มันมีแต่พวกประหลาดคนทั้งนั้น”
จู่ๆเสียงทุ้มก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสบายๆทำให้เขาหันไปมองทีมบอสของตนอย่างแปลกใจ
“
ครับ?”
“
ก็คนปกติที่เพิ่งเคยเข้ามาที่นี่ครั้งแรกก็ต้องตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจใช่ไหมล่ะ?
แต่นายรู้ไหมว่าเจ้าคนที่ชั้นพามาที่นี่ก่อนหน้านายน่ะมันเป็นยังไง?
บางคนก็แผ่รังสีอย่างกับจะไปฆ่าใคร
บางคนก็ซังกะตายอย่างกับรอบๆตัวไม่ใช่โรงงานรถหรูแต่เป็นตลาดขายหมูธรรมดาๆ
บางคนก็เอาแต่โทรศัพท์ “คุณรีไวครับๆ” อยู่นั่นเอง อ้อ
แต่มันก็มีเหมือนกันนะพวกที่ตื่นเต้นเกินเหตุจนยามต้องลากออกมาเพราะนึกว่าพวกโรคจิตจะมาลักอะไหล่รถ...เพราะงั้นจากนี้ไปก็พยายามอยู่กับพวกบ้าๆนั่นให้ได้ล่ะ...สเลน” ใบหน้าหล่อเหลาหันมายิ้มให้และมันก็ทำให้ใบหน้าได้รูปตอบรับด้วยความยินดี
“
ครับ! ฝากตัวด้วยเช่นกันครับ!”
หัวสีชาก้มให้อีกหลายครั้งจนทีมบอสได้แต่โบกมือไปมา...จะว่านานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้เจอคนมารยาทงามแบบนี้...ก็ดูแต่ละตัวที่อยู่กับเขาสิ.......
ขาทั้งสองคู่ก้าวเข้าสู่อาคารสำนักงาน
เพราะที่นี่มีทั้งแผนกบัญชี ธุรการ การเงิน บุคคลและบริหาร...ใบหน้าสบายๆของเอลวิน
สมิธจึงกระตุกขึ้นมาทันที...จะเจอเจ้า CEO ปีศาจนั่นก็ไม่แปลกเลย...
“
สวัสดีครับคุณเอลวิน
นี่นักขับใหม่ที่ว่าใช่ไหมครับ?” แล้วทันทีที่ก้าวขาเข้าไปในห้อง เสียงทักจากพนักงานฝ่ายบุคคลที่เขาโทรนัดเอาไว้ก่อนก็ดังขึ้นทันที
“
ใช่ ฝากดูเรื่องเอกสารให้ด้วย รับรองว่าง่ายกว่ารีไวกับโกคุเดระเยอะ”
พนักงานฝ่ายบุคคลคนนั้นถึงกับหลุดขำยกใหญ่...เรื่องคราวนั้นกว่าจะเคลียร์กันได้ก็วุ่นวายไปถึงฝ่ายกฎหมายนู้น
“
ถ้างั้นเชิญทางนี้เลยครับ”
สเลนถูกพาไปที่ห้องด้านใน ทีมบอสร่างสูงใหญ่จึงเดินเตร่ไปนั่งลงที่ส่วนรับแขกแทน
“
ต่อไปเป็นประชุมผู้ถือหุ้นนะครับ น่าจะเริ่มในอีกสิบนาทีนี่แหละ” และก้นของเอลวิน สมิธยังไม่ทันจะถึงพื้นโซฟาดี
เสียงฝีเท้าของคนที่ไม่อยากจะเห็นหน้าที่สุดก็ดังอยู่ใกล้แสนใกล้
ใกล้จนจะหลบไปไหนก็ไม่ทันแล้ว เพราะฉะนั้น CEO ปีศาจที่ทีมบอสปีศาจกล่าวหาก็หันหน้ามาเห็นเข้าพอดี
“
นายเข้าไปก่อน เดี๋ยวชั้นตามไป”
ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีทองหันไปบอกเลขาส่วนตัวก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับเอลวิน
สมิธที่ดีดตัวขึ้นไปยืนตรงทันทีเช่นกัน
“
เรื่องนักขับใหม่เป็นยังไง?”
นี่ไม่คิดจะทักทายตามมารยาทที่ดีกันบ้างเลยหรือไง?
เปิดบทสนทนามาก็เข้าประเด็นทันที ไอ้คนบ้างาน! แน่นอนว่าเอลวินได้แต่ด่าในใจ...เพราะถึงเขาจะเป็นใหญ่ในสครูเดอเลีย
เฟอร์รารี่ซึ่งเป็นส่วนของทีมรถแข่ง แต่มันก็ยังอยู่ภายใต้อำนาจของฝ่ายบริหารของบริษัทแม่อย่างเฟอร์รารี่อยู่
เพราะงั้นเจ้าผู้ชายตัวใหญ่ ผมทอง นัยน์ตาสีฟ้า จะว่าหล่อก็หล่อแหละ
ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาจึงมีศักดิ์เป็นเจ้านายของเขาอีกที
แต่ถ้าคิดว่าทีมบอสอย่างเขาจะยอมให้ทุกอย่างละก็...ไม่มีทาง
ถึงครูเทโอจะเป็นใหญ่ที่สุดในเฟอร์รารี่
แต่หัวหน้าทีมแข่งที่เป็นหัวใจไม่แพ้กันอย่างเขาก็ไม่ได้น้อยหน้าหรอกนะ
“
ได้แล้ว นี่ก็พามาทำบัตรนักขับ”
เพราะอายุไล่เลี่ยกันพวกเขาถึงได้คุยกันแบบไม่เคยมีหางเสียง
“
ซื้อตัวมาจากทีมไหน? ทำไมชั้นไม่เห็นรู้เรื่อง?”
เนื่องจากทีมแข่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนารถ เฟอร์รารี่จึงต้องประคบประหงมกันพอสมควรและเพราะแบบนั้นไม่ว่าเรื่องอะไรในทีมแข่งคนเป็น
CEO
ที่ดูจะไม่ได้เกี่ยวข้องจึงต้องรับรู้ทุกเรื่อง
“
ไม่ได้ซื้อมาจากทีมไหนทั้งนั้นแหละ เป็นนักขับใหม่ แต่รีไวให้ผ่านแล้ว” พอเอลวิน สมิธพูดออกไปแบบนั้น CEOหนุ่มก็ทำท่าไม่พอใจทันที
“
ทำไมไม่ซื้อตัวนักขับเก่งๆที่มีประสบการณ์มาจากทีมอื่นล่ะ?
จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาปั้นเองแถมยังตัดกำลังคู่แข่งด้วย
นายคิดว่าค่าตัวนักขับแค่นั้นเฟอร์รารี่จะไม่มีปัญญาจ่ายหรือไง?” เอาแล้ว...พนักงานที่เดินผ่านไปผ่านมาเริ่มจะเดินหลีกกันเป็นแถบๆเพราะต่างก็รู้กันดีว่าหากสองคนนี้เจอหน้ากันทีไรเป็นต้องเถียงกันแทบเป็นแทบตายทุกทีด้วยความคิดที่ไม่เคยจะไปด้วยกันได้
คนหนึ่งก็สมกับที่เป็นผู้บริหาร
มองอะไรเป็นผลลัพธ์และกำไรไปหมด
ส่วนอีกคนก็สมกับที่มาจากทีมแข่งที่ส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอยู่กับความเสี่ยง จึงไม่เคยเดินตามกรอบเหมือนคนปกติทั่วไป
ทั้งๆที่มองภายนอกแล้วอย่างกับพี่น้องทะเลาะกันแท้ๆ...ด้วยรูปร่างหน้าตาที่คล้ายกันมากน่ะสิ
“
เรื่องค่าตัวน่ะไม่เกี่ยวหรอก
คนที่ทีมแข่งต้องการน่ะไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์โชกโชนก็ได้ ขอแค่เก่งและเข้ากับรถได้ก็พอ
นายก็เห็นไม่ใช่เหรอว่ารีไวกับโกคุเดระเริ่มต้นมายังไง?” ทีมบอสร่างสูงใหญ่เริ่มจะเท้าสะเอว ส่วนCEOหนุ่มก็เริ่มจะยกมือขึ้นมากอดอก
นัยน์ตาสีฟ้าที่ต่างก็จ้องกันอย่างไม่ลดละนั่นบ่งบอกว่าหากไม่มีใครเข้ามาขวางก็คงจะเถียงกันยันพรุ่งนี้แน่
“
แล้วนายจะรู้ได้ไงว่าคนใหม่นี่จะเหมือนรีไวกับโกคุเดระ? นั่นน่ะมันอาจจะเป็นปาฏิหาริย์ที่มีแค่สองคนในโลกก็ได้
เฟอร์รารี่ไม่มีเวลาจะมาเสียให้กับนักขับใหม่ๆที่ใช้ไม่ได้หรอกนะ”
“
นายไม่เคยไปเหยียบพิตการาจเลยสักครั้งแล้วจะรู้ได้ไงว่าคนไหนใช้ได้ใช้ไม่ได้?”
“
ก็ดูจากผลงานที่ผ่านมาไง? ทุกอย่างมันมีอยู่ในรายงานอยู่แล้ว”
“
แต่ผลงานที่ผ่านมามันก็การันตีไม่ได้หรอกนะว่าจะขับรถของเฟอร์รารี่ได้”
“
เอ่อ....” เสียงอ่อยๆของใครบางคนเสี่ยงตายแทรกเข้ามาระหว่างประกายไฟที่กำลังลุกโชนของสองบอสแห่งม้าลำพอง
และเมื่อใบหน้าภายใต้กรอบผมสีทองของทั้งคู่หันควับไปมอง
ชายคนนั้นก็ถึงกับสะดุ้งโหยง
“
มีอะไร?”
ครูเทโอถามออกไปด้วยน้ำเสียงห้วน
“
ได้เวลาเข้าประชุมแล้วครับ....” คนที่ออกมาตามคือเลขาส่วนตัวนั่นเอง
ใบหน้าหยิ่งทระนงพยักรับก่อนจะหันกลับมามองหน้าของเอลวินอีกรอบ
“
ชั้นขอให้นายตัดสินใจใหม่ แล้วค่อยคุยกัน”
CEOหนุ่มเดินกลับเข้าไปในห้องประชุม โดยทีมบอสของม้าลำพองทำแค่หยักไหล่อย่างไม่คิดจะรับฟัง...ยังไงเขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกสเลน
ทรอยยาร์ด
“
เอ่อ...มีอะไรกันหรือเปล่าครับ? เห็นคนมุ่งกันเพี้ยบ?” เสียงนุ่มถามออกมาจากคนที่เพิ่งเดินมาถึง
ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชาหันมองรอบตัวด้วยท่าทางเลิ่กลั่ก
“
ไม่มีอะไหรอก ว่าแต่เสร็จแล้วเหรอ?”
ทีมบอสส่ายหน้าอย่างระอาน้อยๆก่อนจะกลับมาสุขุมดังเดิม
“
เรียบร้อยแล้วครับ” ใบหน้าได้รูปยิ้มน้อยๆให้
วูบหนึ่งที่เอลวินเผลอคิดไปว่าอุตส่าห์ได้ดอกไม้มาไว้ในรังโจรทั้งที จะให้ทิ้งไปอย่างที่เจ้าครูเทโอว่าได้ไง?...นะ...ถึงเฟอร์รารี่จะมีดอกไม้อยู่บ้างแล้วก็เถอะ
แต่ดอกนึงก็อย่างกับน้ำแข็ง ส่วนอีกดอกนึงก็มีผึ้งจอมหวงเป็นเจ้าของ
ใครแตะเป็นโดนต่อย.....
“
ถ้างั้นก็กลับกันเถอะ
เรายังมีเรื่องต้องจัดการอีกมากหากเธอจะต้องใช้ชีวิตอยู่ที่มาราเนลโล”
และเรื่องใหญ่ที่ต้องจัดการที่ว่านั่นก็คือ...
“
ที่บ้านชั้นมีหมี...ถ้าคิดว่าอยู่กับมันได้จะมาอยู่ด้วยกันก็ได้” โกคุเดระ ฮายาโตะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
แต่คนอื่นๆที่ยืนอยู่รอบห้องประชุมในพิตการาจสีแดงต่างเหล่มองเจ้าของผมสีเงินอย่างหวาดผวา...หมีเหรอ?...ใครมันจะไปอยู่กับหมีได้ฟ๊ะ?!
“
ผ่านๆ” เอลวิน สมิธรีบโบกมือปัดไปทันที...ที่พวกเขากำลังทำกันอยู่นี้ก็คือการหาบ้านใหม่ให้สเลนนั่นเอง
“
บ้านผม...” เอเลน
เยเกอร์กำลังจะอ้าปากแต่เอลวิน สมิธก็โบกมือแทบจะทันที
“
นี่ก็ข้ามไปได้เลย”
เพื่อความปลอดภัยของสเลนเอง อย่าไปอยู่ในรังผึ้งนั่นเล้ย
อาจจะโดนต่อยไม่รู้ตัวแถมวันดีคืนดีอาจจะเห็นภาพน้ำผึ้งหยาดเยิ้มอีกเพราะรีไวกับเอเลน
เยเกอร์นั้นถือว่าทุกหลืบทุกมุมในบ้านคือ “เตียง”
“
บ้านชั้นๆ” เหมือนกัน...แค่ฮันซี่ โซเอะอ้าปากด้วยท่าทางดีใจจนโอเว่อร์แอคติ้ง
เอลวิน สมิธก็รีบหันหน้าไปทางอื่น
“
ผ่านๆ” เราอาจจะหาตัวนักขับคนใหม่ไม่เจอเพราะไปตายอยู่ใต้ซากอะไหล่รถในบ้านที่ดูเหมือนโกดังรถมากกว่านั่นก็ได้
“
ถ้างั้นก็ให้ไปอยู่บ้านนายสิเอลวิน”
รีไวที่ยืนกอดอกมองอยู่นานเริ่มรำคาญ
“
ไม่ได้หรอก...ซูซานเพิ่งจะคลอดลูก กำลังหวงมาก ใครเข้าใกล้ไม่ได้เลย
นายอาจจะถูกกัด”
ซูซานนี่เป็นลูกของซูซี่ที่เป็นหลานของซูฮันน่าสินะ? สรุปคือหมาของเอลวิน
สมิธนั่นแหละ
“
ถ้างั้นจะเอาไง?”
ต่างคนต่างทำท่าคิดไม่ตก...มั้ง?...เพราะสเลน ทรอยยาร์ดไม่ใช่คนอิตาลี
จึงไม่มีบ้านอยู่ที่นี่เลย
อันที่จริงก็กำลังจัดหาบ้านถาวรให้แต่ด้วยเจ้าตัวขัดขวางอย่าง CEOปีศาจ ทำให้ยังไม่อนุมัติสักที จะให้ไปอยู่อพาร์ทเม้นต์ก็ดูจะไม่ปลอดภัย
เอลวิน สมิธเลยคิดว่าจะให้ไปอาศัยอยู่กับคนในทีมไปก่อน
แต่หารู้ไม่ว่า
บ้านของคนในทีมนี่แหละที่มันอันตรายยิ่งกว่า...
“
เอ่อ...คือ...ให้ผมอยู่ที่การาจไปก่อนก็ได้นะครับ...” สเลน ทรอยยาร์ดเอ่ยออกมาอย่างเกรงใจ
ก็เพราะท่าทางไม่สู้ใคร อ่อนโยน แถมดูน่ารังแกแบบนี้นี่แหละที่ทำให้เอลวิน
สมิธไม่วางใจให้ไปอยู่อพาร์ทเม้นต์คนเดียว
“
จริงด้วย! ผมนึกออกแล้ว!”
จู่ๆเอเลน เยเกอร์ก็ตะโกนออกมา
“
ไปอยู่บ้านผมที่มอนชิโอ้ไหมครับ?
ตอนนี้ไม่มีใครอยู่เพราะแม่ผมย้ายตามไปดูแลพ่อที่โบโลญญ่า บ้านเลยปิดไว้เฉยๆ” ...มอนชิโอ้?
ย่านที่อยู่อาศัยของพวกคนรวยในมาราเนลโลสินะ...แถวนั้นมีแต่บ้านระดับผู้บริหารไม่ก็นักการเมืองใหญ่ๆหรือไม่ก็มหาเศรษฐี
เรื่องความปลอดภัยน่าจะไว้ใจได้อยู่ถึงแม้จะต้องอยู่คนเดียวก็คงไม่เป็นไร
“
ว่าไงสเลน?”
ทีมบอสหันไปถามความเห็นจากคนที่จะต้องไปอยู่
“
ได้ครับ”
นักขับคนใหม่พยักหน้าให้ก่อนจะหันไปยิ้มให้เอเลน...คนที่กำลังจะเป็นคู่หูกันในอนาคตอันใกล้
เพราะแบบนั้นอีกหนึ่งชั่วโมงให้หลัง
สเลน
ทรอยยาร์ดจึงมาขับรถอยู่บนถนนเส้นหนึ่งของมาราเนลโลซึ่งได้ชื่อว่าเป็นถนนที่มีที่ดินแพงที่สุดในเมืองนี้
Via
Monchio…
“
อยู่ไหนน้า...” โฟร์คสวาเกนสีเหลืองอ่อนขับอย่างเอื่อยเฉื่อยก่อนจะจอดลงข้างทางเพื่อดูแผนที่
นัยน์ตาสีมรกตจดจำเลขที่บ้านก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆตัว...บ้านแถวๆนี้นี่หลังใหญ่จริงๆ
ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีชาหันมองเลขที่บ้านที่ติดอยู่ที่รั้วไปเรื่อยๆ
ถ้าตามเลขฝั่งนี้ไปก็น่าจะใกล้แล้วมั้ง? เขามาในช่วงที่ทุกคนกำลังวุ่นวายเพราะงั้นจึงต้องมาที่บ้านตามลำพัง
มือบางวางแผนที่ลงก่อนจะย้ายมาจับพวงมาลัยของรถคู่ใจที่เอามาจากอังกฤษด้วย Volkswagen New Beetle Cabriolet คันนี้พ่อของเขาเป็นคนซื้อให้...แต่พูดก็พูดกันตามตรง
ถึงเขาจะขับรถสูตรหนึ่งจนนักขับระดับโลกอย่างคุณรีไวยอมรับได้
แต่กับรถบ้านธรรมดาๆนี่มันคนละเรื่องกันเลย เพราะงั้นเจ้าโฟร์คสวาเกนเพื่อนยากจึงมีแต่รอยเต็มไปหมด...
อ่า...ก็ในสนามกับนอกสนามมันไม่เหมือนกันนี่นะ...
ใบหน้าได้รูปได้แต่ยิ้มแห้งให้กับตัวเอง
สองมือพยายามบังคับพวงมาลัยให้ตรงที่สุดในขณะที่สายตาก็มองหาบ้านเยเกอร์เป้าหมาย
“
เจอแล้ว!” ทั้งเลขที่บ้าน
ทั้งนามสกุลที่เขียนติดเอาไว้ยืนยันว่าบ้านสีขาวหลังใหญ่นี้คือบ้านของเอเลนแน่นอน
และด้วยความดีใจจึงทำให้ไม่ทันเห็นว่าเบื้องหน้ามีลูกหมาตัวเล็กๆมาวิ่งผ่านตั้งแต่เมื่อไหร่
“
เหวอ?!!!!”
และเมื่อนัยน์ตาสีมรกตมองเห็นมันอีกที มือบางก็หักพวงมาลัยปีนขึ้นฟุตบาทหลบได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด
ทว่า...
หลบหมาได้ก็จริงอยู่
แต่ตอนนี้โฟร์คสวาเกนคู่ชีพกลับกำลังพุ่งพรวดเข้าหารั้วบ้านข้างๆอย่างกับจรวด!
“
อ๊า!!!! หลบไปครับ!!”
หัวสีทองๆของใครบางคนที่มองเห็นจากซี่ระแนงรั้วทำให้สเลน
ทรอยยาร์ดตะโกนสุดเสียง
ตอนนี้ที่ขาเหยียบคันเร่งหรือเบรกก็ไม่รู้แล้วด้วยอารามตกใจ
“
หื๋อ?”
และหัวสีทองที่ว่านั่นก็กำลังเงยหน้าขึ้นมาจากการรดน้ำต้นไม้อย่างสงสัยว่าใครมันมาโหวกเหวกโวยวายอะไรในย่านพักอาศัยที่เงียบสงบและผู้ดีที่สุดในมาราเนลโลแห่งนี้...แน่นอนว่า
CEOหนุ่มไฟแรงแห่งเฟอร์รารี่ไม่คิดหรอกว่าจะมีรถเต่าสีเหลืองพุ่งทะลุกำแพงบ้านเข้ามาทักทายแบบนี้...
โครม!!!
เสียงโครมครามหยุดลงพร้อมกับฝุ่นตลบอบอวล
รั้วบ้านที่เคยสวยงามกลายเป็นรูและมีรถเต่าสีเหลืองอ่อนเสียบคาอยู่…
“
แค่กๆๆ” คนบนรถไอเพราะฝุ่นควันยกใหญ่
แต่ส่วนอื่นของร่างกายกลับปลอดภัยอย่างไม่น่าเชื่อ กลับเป็นเจ้าของบ้านที่หลบได้อย่างฉิวเฉียดก่อนจะล้มหงายหลังและยังคงนั่งอ้าปากค้างกับสภาพรั้วบ้านของตัวเอง
ก็ถึงได้บอกไง...
ว่าพวกใช้ไม่ได้น่ะ
อย่าให้มันขับรถ!!
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To
be Con.
หลบไหที่พุ่งเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
อาห์~~~
คือแบบว่า...แบบว่า...ช่วงนี้
F1 เพิ่งเปิดฤดูกาลใช่ม้า คุณกวางเลยกำลังคลั่งอีกครั้ง5555
จากที่กำลังตั้งใจปั่นพญาเหยี่ยวให้วันเกิดเอเลน เลยแหกโค้งเปลี่ยนเป็น GLIDE
แทนซะงั้นถถถถถ ก็ตั้งใจจะเขียนธงตาหมากรุกให้จบนั่นแหละ
เขียนไปเขียนมามีตอนพิเศษงอกเรื่อยๆเลยค่าคุณแม่ขรา TvT
แถมมีคนมากระซิบบอกว่าวันที่ 26 เดือน 3 เป็นวันเกิดท่านเคานต์ค.
เพราะงั้น...ไหนๆก็ไหนๆละ เอา GLIDE ไปอีกตอน โอ้ทะเลแสนงาม~ ดูซิดูหมู่ปลา~~ TvT
ส่วนชื่อตอน
WHITE
and SILVER ก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษค่ะ (โดนตบ)
ตั้งไปงั้นแหละ5555 ก็...เป็นตอนพิเศษของ GLIDE ที่แอบใส่คู่ท่านเคานต์ค.xสเลน ลงไปด้วย >////< ไม่รู้ว่ากี่ตอนจบเหมือนกัน
ยังไงก็ฝากไว้อีกตอนนะก๊า
ตอนแรกว่าจะลง
Vers.
แต่ยังเขียนต่อไม่ได้ค่ะ กำลังดูว่าอนิเมะออริจะจบยังไง น่าจะมีส่วนที่ได้ใช้ในฟิคด้วยมั้งเพราะมันไม่ใช่ฟิค
Au.
แฮปให้ท่านเคานต์ค.ก่อน
สุขสันต์วันเกิดนะค้าท่านเคานต์ครูเทโอ
มีฟามสุขมากๆ
เกิดไปเรื่องหน้า(?)ก็ขอให้เข้าใจสเลนก่อนและได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันก่อน อย่าได้ตายไวเยี่ยงนี้
(โดนไม้เท้าฟาดยกที่หนึ่ง) ขอให้ได้ภรรยาที่ดีแสนดีต่อให้ลงแส้ยังไงก็ทนได้นะคะ (โดนไม้เท้าฟาดยกที่สอง)
เทียนบนหน้าเค้กอาจจะเยอะไปหน่อยก็ขอให้ดึงออกหมดไวๆและได้กินเค้กเร็วๆนะคะ (โดนไม้เท้าฟาดยกที่สาม...พอแล้ว~)
Happy Birthday คร่า
แล้วเจอกันตอนหน้าค่า
^ ^
เป็นการพบกันครั้งแรกที่น่าประทับใจมากคะ
ตอบลบกริ้ดแปบหนึ่งเลยค่ะ แงงง อ่านแล้วยิ้มทันที โบกธงเชียร์ท่านเคาทร์กับสเลน ในอนิเมก็สงสารสเลน ทำไมชีวิต ขนาดนี้
ตอบลบพอได้อ่านฟิคคุณกวาง ที่แต่งท่านเคาทร์กับสเลน ดีใจและชอบมากค่ะ สู้ๆนะค่ะ รอติดตามตอนต่อไปของทุกเรื่องค่ะ ลุ้นทุกเรื่อง สู้ๆค่ะ
เอ่อ~~
ตอบลบพี่กวางคะอ่านตอนนี้แล้วมันรูเสึกครั่นเนื้อครั่นตัวขึ้นมาทันที?
อยากได้รวมเล่มของเรื่องนี้ขึ้นมาทันทีเลยค่ะฮะฮะฮะ
แบบเห็นมันเงียบไปพักใหญ่แล้วนึกว่าใกล้คลอดแล้วซะอีกไหงถึงมีตอนพิเศษเพิ่มขึ้นมาอีกอ่ะคะ?
แต่ชอบค่ะแต่ก็อยากไปรวมเล่มไวๆอ่ะ?
ตอนนี้ชักเริ่มสับสนตัวเองเต็มที?
ไปล่ะค่ะรีบๆกลับมาต่อนาคะทั้งพญาเหยี่ยวทั้งอื่นๆๆๆๆๆที่อยู่ในสภานะด_งเอ๊ะเขียนผิด!!?
//ล้อเล่นค่ะแฮะๆๆๆ///
เค้าคิดถึงฟีลแข่งรถจริงๆนะคะ T __ T พอได้อ่านตอนใหม่ตอนนี้แล้วปริ่มมากจริงๆค่ะ เริ่มประโยคมาก็จะลงไปฟินแล้วนะคะ ฮือออ เค้าเสพย์ติดรถสูตรหนึ่งทางตัวอักษร(?)ของกวางซามะไปแบบไม่รู้ตัวแล้วนะคะ ฮือออออ คิดถึงมากกกกก คิดถึง GLIDE มากๆๆ เลยค่ะ ถึงจะเป็นตอนพิเศษ แถมยังมีคู่ที่เค้ายังไม่รู้จักดี(?)เท่าไหร่ แต่เค้าก็ดีใจมากจริงๆค่ะที่ได้อ่าน เพราะเค้ามั่นใจว่าเค้าต้องหลงรักคู่ใหม่(?)เพิ่มเข้าไปแน่ๆ ฮือออออ ขนาดตัวออริกวางซามะยังทำเค้าหลงได้เลยค่ะ!!! ฮืออออ โนเส๊ะะะะะะะ #โดนกวางซามะโบกข้อหามาตะโกนเรียกซอมบี้(?)อะไรแถวนี้ถถถถถ
ตอบลบเอาจริงๆเค้าชอบเวลาที่คนแก่(?)คุยกันนะคะถถถถถถถถถถถถ #โดนคุณท่านเตะเสยหลังจากที่โดนวิก(?)ยัดปากก่อนแล้วถถถถถ ก็แบบปกติสองคนนี้ไม่ค่อยได้มีฟีลคุยกันแบบมีสาระ(?)ได้ยาวๆขนาดนี้นี่เนาะคะ > _ < ทุกทีเอลวินก็จะออกมาเล็กๆน้อยๆ หนักๆก็มักจะมาแค่เสียงตามสายสั่งนี่สั่งนั่น หรือไม่ก็โดนสองพี่น้องโทรไปแจ้งว่าท่อแตก(?)มาซ่อมด้วยถถถถถ ยิ่งหลังๆมานี่คนทำท่อแตกเลี้ยงหมี(?)ไว้ซ่อมแล้ว หน้าที่พวกนี้เอลวินเลยไม่ได้แตะจนมีเวลาว่าง(?)เลี้ยงหมากันเลยทีเดียว #โดนเอลวินบีบคอข้อหาที่พูดมาทั้งหมดนี่ต้องการอะไรถถถถถถถถถถถถถ ก็เก๊าาารักเอลวินที่กวางซามะแต่งง้าาาาถถถถถ แต่เค้าชอบจริงๆนะคะคาแรคเตอร์ของเอลวินในมุมมองของกวางซามะ ชอบขนาดที่ว่าถ้าไม่ได้แซะด้วย(?)จะนอนไม่หลับ(?)กันเลยทีเดียวค่ะถถถถถถถถ #ซูซี่(?)สบายดีนะเอลวิ๊นนนถถถถถถถถถถ #โดนบีบคออีกรอบ
ตอนที่อ่านถึงคำว่า อดีตนักขับ ในช่วงที่อ้างอิงถึงท่านท่อนขานี่เค้าชะงักเลยค่ะ ชะงักในแบบที่ว่าต้องเลื่อนขึ้นไปอ่านชื่อเรื่องใหม่เลยนะคะ ถถถถถถถ อารมณ์ว่ากดเข้ามาอ่านผิดตอนหรือเปล่า กดตอนแรกถูกต้องแล้วใช่มั้ย ไม่ใช่ตอนสุดท้าย(?)หรืออะไรนะ ทำไมท่านท่อนขาได้ละทิ้ง(?)สังขาร(?)เอาไว้จนขับรถไม่ได้แล้วกันถถถถถถถ #โดนกระทืบไส้แตก แต่ตกใจจริงๆนะคะถถถถ แบบอะไรคือท่านท่อนขานักขับเบอร์หนึ่งแห่งทีมม้าลำพองถึงกลายเป็นอดีตกันนน ทำไมถึงเลิกขับ!!! สติแตกนึกไปว่าคุณท่านเกิดอะไรจนขับรถไม่ได้เหมือนตอนหนูก๊กไปซะแล้วค่ะ ตอนนั้นกวางซามะทำเค้าร้าวน้ำลายฟูมปาก(?)จนฝังใจ(?)ไปเลยนะคะถถถถ และกว่าเค้าจะตั้งสติมาอ่านต่อได้นี่ต้องไปเพ่งตรงชื่อ pairing อยู่นาน(?) #ไปเพ่งเพื่ออะไรก็ยังไม่รู้นะคะแต่เพ่งแล้วจิตใจสงบ(?)ค่ะถถถถถถถ แล้วพอได้อ่านต่อนี่เค้าสครีมเนื้อเรื่องต่อเลยค่ะ การที่นักขับมือหนึ่งถึงเวลาวางมือและผันตัวเองมาเป็นเทรนเนอร์แทนนี่เค้าฟินถึงความสามารถของคนๆนี้จริงจัง คุณรีไวจะเท่อะไรได้ตลอดแบบนี้กันนนนนน > ___ <
แล้วเค้าชอบตอนที่ท่านท่อนขาพูดกับเอลวินว่า ปีศาจเจอกับปีศาจมากๆ คือกับเอลวินถึงมุมมองปกติ(?)กับการซ่อมท่อ(?)จะไม่ได้อยู่ในฟีลน่าเกรงขามเลยแม้แต่น้อย #เดี๋ยวววถถถถถถถนี่หล่อนกำลังพูดถึงทีมบอสหรือช่างประปาถถถถ แต่ถ้าคิดจริงๆแล้ว ทุกอย่างที่ผ่านมานี่เพราะได้เอลวินเป็นคนจัดการทั้งหมด ปัญหาที่ไม่ว่าจะดิ่งลงเหวขนาดไหน คนๆนี้ก็ยังแก้ปัญหาและรับมือได้เสมอไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม จุดนี้เอลวินหล่อ(?)โฮกฮากเลยค่ะถถถถถถถถ > __ < และในระหว่างฟินกับความหล่อ(?)ของเอลวิน เค้าก็นึกอะไรได้ค่ะว่า ไอ้คนพูดมันก็ปีศาจไม่ใช่เรอะถถถถ ก่อนจะตระหนัก(?)ได้ว่า ท่านท่อนขาไม่ใช่ปีศาจแต่เป็นซาตาน(?)ที่ตามหาหัวใจแห่งราชันย์(?)จนกินเด็ก(?)ในตอนท้ายตะหากถถถถถ ส่วนเนียนที่สามารถสู้รบปรบมือกับซานตานจนขนาดอยู่ในถิ่นพักอาศัย(?)เดียวกันได้ ก็คงจะเพราะเป็น หมี(?)ในคราบซาตานนี่เองถถถถถถถถถถถถถ #แหม่ทั้งท่อนขาทั้งชิงุเระโซเอ็นนี่รัวกระซวกกันมาเลยทีเดียวมโนเล็กๆ(?)แค่นี้ก็ไม่ได้ถถถถถถ
แต่เค้าก๊าวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ฉากที่อดีตนักขับมือหนึ่งของโลก!!! และนักขับมือหนึ่งคนปัจจุบันที่น่าน้วยที่สุดดดดด(?)!!! #มันไม่ค่อยจะลำเอียงถถถถ ลงแข่งพร้อมกันเพื่อทดสอบเด็กใหม่ โฮรวววววววววววว สนามนี้สุดยอดดดดดดมากกกกกกกกก คนอ่านนี่ใจเต้นระรัว(?)เลยค่ะ > __ < และระหว่างที่เค้ากำลังตื่นเต้นไปกับการกลับมาลงสนามของท่านท่อนขา เค้าก็ต้องลงไปดิ้นเพราะความน่ารักสุดยอดดดของเจ้าลูกหมาาา โอ่ยยยยย เอเล๊นนนนนนนนถ้าลูกจะหายไปตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วโผล่มาด้วยประโยคโดนใจแบบนี้ขอน้วยรัวๆๆๆๆๆๆที๊ อะไรคือ หลังคุณยิ่งไม่ดีอยู่ กันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนคะลูกกกกกกกถถถถถฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ โอ่ยยยยยยยยยยยยยยย มันได้หลายความหมายนะลูกรักกกกถถถถถถ เค้าโดนใจมากจริงจังอ้ะะะคะกวางซาม๊าา คือลงไปดิ้นด้วยความโดนใจมากมายจริงจังงงงง มีแฟนอายุเยอะแล้วก็ห่วงกันอยู่แค่เรื่องเดียวละเนาะ กระดูกกระเดี้ยวมันต้องประคบประหงมเยอะหน่อยใช่มั้ยลูกรักกกกถถถถ #จุดนี้ขอแซะรัวๆแล้วจะยอมโดนกระทืบให้ตายเลยถถถถ แล้วคือดูพ่อคุณตอบกลับมา พอความรักราบรื่นล่ะหื่นได้หื่นดีจริงๆเลยนะคะะะะ ฮือออ เค้าชอบที่คุณรีไวหื่นเปิดเผย(?)แบบนี้จริงจังงงงงงงงง แต่ที่อยากชาบูกวางซามะสุดๆๆคือ ในระหว่างแข่งกันดุเดือดให้ใจเต้นกวางซามะสามารถแทรกบทคู่รักหวานเยิ้มให้เค้าสครีมไม่ได้หายใจเลย ฮือออออ อะไรคือได้เอเลนมาเป็นวิศวกรรถถถถถถ อะไรคือคุยกันสบายๆทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องรถทั้งๆยังอยู่ในสนามที่เดือดเป็นไฟ!! มิหนำซ้ำระหว่างเต๊าะเด็ก(?)ไปด้วยก็ยังจะขับแซงทั้งเด็กใหม่ทั้งหนูก๊กได้อย่างมีชั้นเชิง!!! คุณรีไวจะเท่ไปถึงไหนนนนนนนนอ้ากกกกกก คือมันได้ฟีลเหนือชั้นมากๆๆ ก็อย่างว่า เป็นถึงอดีตนักขับมือหนึ่งของโลกนี่เนาะคะ ฮืออออ หลงคุณรีไวจริงจังงงง แล้วยิ่งกวางซามะบอกว่าปกติแล้วนักขับจะมีสื่อสารกับวิศวกรรถ สมัยก่อนก็เป็นฮันซี่ที่พ่อคุณไม่คิดจะเสวนาให้มากความเพราะประสาทจะเสีย เค้าก็อดคิดไม่ได้เลยค่ะว่า ถ้าคุณรีไวยังลงแข่งอยู่แล้วได้เอเลนมาเป็นวิศวกรรถแบบครั้งนี้ มีหวังระหว่างแข่งพ่อคุณได้แหกโค้งแล้วมาลากเจ้าลูกหมาไปฮัดช่า(?)แหงแซะถถถถถถถถถ ฮือออ แต่เค้าก็ฟินจุดที่เอเลนผันตัวมาเป็นวิศวกรรถจริงๆนะคะ ถึงจะเกินความคาดหมายไปสักหน่อย แต่พอกวางซามะบรรยายมาแบบนี้แล้วเอเลนโตขึ้น ก๊าวมากกกขึ้นด้วยย ฮืออออออ รักเอเลนนนนนน > ___ < ส่วนประเด็นเรื่องที่ว่าเอเลนไม่นอกใจแน่ๆเพราะไม่คิดจะมองคนอื่นนอกจากคุณรีไวอยู่แล้ว แต่เพราะไอ้คนอื่นนี่เอาแต่จะมาจ้องเอเลนไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีนี่สิ ยังเป็นประเด็นให้คนแก่ไม่เลิกเหนื่อย(?)ได้อีกรัวๆจริงจังเนาะคะ ถถถถถถ ตรงจุดนี้ที่กวางซามะหยอดไว้ เค้าคิดกี่ทีๆๆเค้าก็ฟินนนนนนนนค่ะโฮรวววววววว > ___ < ก็เจ้าลูกหมามันมีเสน่ห์โฮกกกกกกนี่เนาะคะะะะ
ลบจริงๆฉากรถแข่งกันครั้งนี่เค้าชอบตอนหนูก๊กสุดๆๆเลยนะคะ ไม่ได้จะลำเอียงน้า #เหรออออถถถถ แต่ชอบการขับฟีลของหนูก๊กจริงจัง การขับแบบที่ไม่สนใจอะไรและไม่สนใจใครแบบนั้นใช่หนูก๊กสุดๆๆ แต่ในขณะที่ไม่สนใจก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สนใจเรื่องการขับซะทีเดียวเลยไม่อยากนั้นคงไม่มีทางแซงท่านท่อนขาขึ้นมาได้แน่ๆ แล้วก็เค้าแอบชอบคำว่าโอเวอร์สเตียร์กับหนูก๊กจังค่ะ > _ < ชอบในมุมที่ว่าหนูก๊กชอบใช้เนี่ยล่ะ ยิ่งพอเข้าใจว่าโอเวอร์สเตียร์คือการเข้าโค้งเหมือนการดริฟท์ที่มันคล้ายๆกับตีวงให้มีแรงเหวี่ยง?ถ้าคุมรถไม่ได้รถก็จะหมุน พอคิดแบบนี้แล้วก็เหมือนกับการจัดการกับแรงลมจังเลยค่ะ > __ < ถ้าคุมไม่อยู่รถก็หมุนหลุดออกนอกสนามแน่นอน แล้วหนูก๊กที่เหมาะกับพายุ(?)จะคุมไม่อยู่ได้ยังไง!!!! ฮืออออ คิดแล้วก็คลั่งงงงงงงงงงงงงงงงง คิดถึงวองโกเล่เลยค่ะ อยากกด(?)ผู้พิทักษ์วายุ๊วววววววววถถถถฟฟฟฟฟ > ___ <
แต่เหนือสิ่งอื่นใด ฉากที่คุณรีไวเป็นคนเข้าเส้นชัยไปนี่เค้าสครีมเลยค่ะ จะหล่อไปถึงไหนนนนนนนนนนนนนนก๊านนนนนนนนนนนนนนนนน รักแมทซ์นี้โฮกกกกกกกกกกกกกกก ถึงจะเป็นแค่การแข่งทดสอบฝีมือเด็กใหม่ก็เถอะ แต่มันสุดยอดจริงจังงงงงง ฮืออออออ แถมคุณท่านยังชนะหนูก๊กแค่ 0.03 วิ จะหล่อเกินไปแล้ววววววววววววว แอบชอบที่เจ้าลูกหมาถลาไปถูไถใบหน้ากับไหล่คุณท่านด้วยค่ะ ฮือออ จะน่ารักไปถึงไหนนนนนนน แอบขนลุกกับประโยคที่คุณรีไวให้สเลนผ่านด้วยค่ะ การที่ถูกคนๆนี้ คนที่เป็นถึงอดีตนักขับมือหนึ่งของโลกให้ผ่านนนนนน สเลนจะธรรมดาได้อย่างไรรรรร > __ < พอท่านท่อนขาประกาศมาแบบนั้นเลยยิ่งดูสุดยอดจริงจังค่ะ ฮือออ คนนี้ๆนี่ทำอะไรก็ดูเท่ไปซะหมดจริงๆๆ ฮือออ แบบนี้ลูกหมาถึงได้หัวปักหัวปำ(?) > __ <
ฉากปีศาจ CEO กับปีศาจทีมบอสฉะกันนี่เค้าถูกใจมากๆเลยนะคะ ถถถถถถ สมแล้วที่คุณรีไวบอกว่าเป็นปีศาจเจอกับปีศาจ นี่มันแทบจะกระดูกเบอร์เดียวกันเลยไม่ใช่หรือยังไงงงคะะถถถถถถ นี่ถ้าไม่มีเลขาส่วนตัวคุณท่านเคานต์มาขัดคงได้เถียงกันไปอีกยาว และเหนือสิ่งอื่นใดเค้าถูกใจบั้นท้ายเอลวินที่ไม่ได้นั่งมากกๆๆค่ะถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ #ประเด็นหล่อนมีแค่นี้ใช่มั้ยยยยถถถถถถถ
ลบแล้วเค้าถูกใจสุดๆตอนเรื่องบ้านมากๆๆค่ะะะ มาคนแรกเอลวินก็ให้ผ่านแล้วนะคะ คือผ่านเลยไปบ้านคนอื่นเลยจะดีกว่าถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ อะไรคือบ้านชั้นมีหมี ถ้าคิดว่าอยู่กับมันได้จะมาอยู่ด้วยกันก็ได้กันค่ะลูกกกกกกกกก จะน่ารักไปไหมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม แถมจบประโยคหนูก๊กนี่ที่คุณรีไวให้สัมภาษณ์ไว้ลอยเด่นเลยค่ะ ถถถถถถถถถถถถถถ สเลนหมีตัวนี้น่ะ สำหรับคนอื่นก็คงดุนะ แต่กับเจ้าฮายาโตะมันเป็นหมีค่อนข้างปัญญาอ่อนเลยทีเดียว ถถถถถถถถถ เพราะงั้นเอลวินเค้าเลยต้องให้ผ่านนะสเล๊นนนนนน แล้วพอจะเป็นบ้านเอเลน ก็ต้องผ่านแบบด่วน(?)เลยค่ะ ถถถถถถถถถ ถ้าไม่ใช่หมีในคราบซาตาน(?)ก็ทนไม้ทนมือ(?)อยู่ด้วยไม่ได้แน่นอนนะ #นี่ก็ยังไม่เลิกหัวใจราชันย์ถถถถถถถถถถ แล้วครั้นจะให้อยู่บ้านเอลวินก็ยังจะมีปัญหาเรื่องตระกูลซู(?)อีก ถถถถถถถถถถถ แค่ซูซี่เค้าก็ตบเข่าแดงแล้วนะคะ นี่ยังจะมีเรียงลำดับญาติเพิ่มซูซานและซูฮันน่ามาอีก ถถถถถถถถถถถถถถ #เอลวินบางทีฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมป่านนี้ฉันยังไมได้ตู้โทรศัพท์ถถถถถถถถถถถถถถถถถ โอ่ยยยชอบบบบบ รักฟิคกวางซามะะะะะ
ขอพูดถึงสเลนและท่านเคานต์บ้างถถถถถ ไม่ใช่ว่าไม่สนใจนะคะคู่นี้ แต่บอกตรงๆว่าเค้าอ่านแล้วก๊าวววววกับสเลนมากกกกกกอ้ะะะคะกวางซาม๊าา นี่เป็นครั้งแรกที่อ่านคาแรคเตอร์สเลนและท่านเคานต์ในฟิคของกวางซามะเลยค่ะ ทั้งๆที่จริงแล้วควรจะต้องอ่าน last word ก่อนแท้ๆ ฮืออออ ขออภัยจริงจัง แต่อ่านแค่ตอนแรกจากGLIDEเค้าก็สครีมมมมมมสเลนนนนแล้วค่ะ > _ < ทำไมสเลนน่ารักได้ขนาดนี้~~~~ ถ้าการอยู่ในสนามสเลนจะขับรถได้ทั้งนุ่มนวลและโหดเหี้ยมได้ในคราเดียวกันแบบนี้ แต่ในชีวิตจริงกลับขับได้น่ารักแบบที่คิดจะเสยแต่ประตูหัวใจ(?)ท่านเคานต์แบบนี้ #เดี๋ยวนะประตูอะไรนั่นฟฟฟฟฟฟฟฟ คือสเลนจะดาเมจจจจจโฮกฮากกกกมากไปแล้ววววนะคะกวางซามะะะ ฮือออออ เค้ารู้สึกว่าสเลนน่ารักมากจริงจังค่ะ !!!!! คือคาแรคเตอร์แบบนี้เค้าหลงจริงจังงงงนะคะ เวลาที่แข่งรถ กับเวลาปกติที่แทบจะปล่อยให้ห่างสายตาไม่ได้แบบนี้ ก๊าวววววมากกกกกกกก ฮืออออ ตามไปอ่านตอนต่อรัวๆๆเลยค่ะ
ปล. สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังให้ท่านเคานต์ที่เพิ่งจะรู้จัก(?)ด้วยนะคะถถถถถถถถถ
ปล.อีกรอบ เค้ารู้สึกว่ารถที่สเลนใช้เหมาะกับสเลนมากๆเลยค่ะ > ___ <
ปล.อีกรอบของอีกรอบ เค้าพยายามจะทยอยส่งเรียงความนะคะ แต่แค่ตอนแรกเรียงความเค้าก็ยาวเป็นหางว่าวไปถึงดาวอังคาร(?)แล้ว ฮืออออ แต่เค้าตั้งใจจะเม้นท์ให้จบครบ(?)ก่อนหมดวันหยุดแน่นอนค่ะ ฮืออออ ไม่รู้มันจะเม้นท์ฟิคหรือมันจะต่อฟิค(?) ถถถถถถถถถถ รักฟิคกวางซามะนะก๊า > __ <
ไม่รุ้จักเคาน์กับสเลนง่ะเลยอ่านงงๆ....แว้บมาอ่านตอนแรกก่อนเพราะยังไม่ได้อ่านเลยและเด่วจะอ่านเรื่อยๆจนถึงตอนล่าสุดเบยค่ะ!!!
ตอบลบ