Donten ni Warau Au S.Fic [Shirasu x Soramaru] “จะรักตลอดไป” : 03


Donten ni Warau Au S.Fic [Shirasu x Soramaru]    “จะรักตลอดไป” : 03

: Donten ni Warau Fanfiction 
: Shirasu x Soramaru
: Dark Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
           
         




อันที่จริงก็ไม่อยากจะให้ขาที่หักไปนี่หายไวนักหรอกนะ

แต่คงจะเป็นเพราะโซระมารุดูแลเขาอย่างดีจนตอนนี้สามารถตัดเฝือกออกได้แล้ว...

“ หมอนัดมาดูอาการอีกครั้งอาทิตย์หน้านะคะ”   มือใหญ่รับใบนัดมายัดลงกระเป๋าอย่างไม่ได้ใส่ใจมากนัก  สองขาที่กลับมาใช้งานได้ตามปกติก้าวออกมาจากโรงพยาบาล...เย็นป่านนี้แล้วเหรอเนี่ย...

ร่างสูงเดินทอดน่องผ่านย่านร้านค้า สายตากวาดมองเข้าไปในซุปเปอร์มาเกตโดยอัตโนมัติเพราะมันเป็นที่ที่เขากับโซระมารุมักจะมาด้วยกัน...ช่วยกันเลือกว่าวันนี้จะซื้ออะไรไปทำอาหารเย็นดี


แต่แล้ว...


วันนี้กลับมีคนอื่นยืนอยู่ข้างๆโซระมารุ....ยืนอยู่ในที่ที่เป็นของเขา...


ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีขาวเปลี่ยนจากที่กำลังอารมณ์ดีเป็นเย็นชาทันทีเมื่อดันเห็นคนที่ไม่คิดว่าจะเห็นในซุปเปอร์มาร์เกตนั่นเข้า....

โซระมารุกับเอริ....

ทั้งสองคนกำลังเดินเลือกซื้อของสดอยู่ด้วยกัน

นัยน์ตาสีม่วงจ้องเขม็งไปยังเด็กสาวอย่างที่ใครผ่านไปผ่านมาก็คงรับรู้ได้ว่าเขากำลังไม่พอใจ ฝ่ามือถึงกับกำแน่นก่อนจะพยายามผ่อนลมหายใจ

คราวนี้ก็คงจะใช้อาการบาดเจ็บหรือป่วยมาอ้างไม่ได้แล้วสินะ...แต่ก็ช่างเถอะเพราะเขาเองก็ยังมีอย่างอื่นให้อ้างได้อีก มือใหญ่จึงล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก่อนจะกดโทรหาโซระมารุ

“ คุณชิราสึ? ตัดเฝือกเสร็จแล้วเหรอครับ? มีอะไรหรือเปล่าครับ?”   ใบหน้ามนถามออกมาโดยที่ไม่รู้เลยว่าเขายืนมองผ่านกระจกบานใหญ่อยู่หน้าร้าน

“ เสร็จแล้วละ ตอนนี้กลับมาถึงอพาทเม้นต์แล้ว...”   เขาเว้นจังหวะนิดหน่อยทำทีให้เหมือนกำลังหนักใจที่จะต้องพูดออกไป

“ คุณชิราสึ?”

“ โซระมารุคือว่า...จู่ๆฟองมันก็ทะลักออกมาจากเครื่องซักผ้า....”   แน่นอนว่าเขาโกหกทั้งเพ

“ ห๊ะ?! จู่ๆมันจะทะลักออกมาได้ยังไงล่ะครับ? คุณแอบซักผ้าใช่ไหม? แล้วนี่คุณใส่ผงซักฟอกลงไปกี่ช้อนครับ? อ๊า~~ เดี๋ยวผมกลับไป คุณยืนอยู่เฉยๆเลยนะ ห้ามทำอะไร แล้วก็ห้ามหนีไปไหนด้วย!”   แต่โซระมารุก็ยังเชื่อเขา ใบหน้ามนตะโกนออกมาโดยไม่สงสัยในตัวเขาเช่นเดิม ร่างโปร่งที่เขามองเห็นผ่านกระจกหันไปโค้งขอโทษขอโพยต่อผู้หญิงคนนั้นก่อนจะรีบก้าวขาออกมา

หึ...เห็นไหมล่ะ...ว่าสำหรับโซระมารุแล้ว เขาน่ะเป็นที่หนึ่ง


ใช่...เขาจะต้องเป็นที่หนึ่ง...


“ คุณ?!....ก็ไหนว่า.....”   เอริชะงักงันเมื่อเขาก้าวขาเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าเธอหลังจากที่โซระมารุออกไปแล้ว มีเพียงรอยยิ้มเย้ยหยันน้อยๆส่งให้เด็กสาวก่อนที่เขาจะวางกล่องถุงยางอนามัยลงไปบนเคาน์เตอร์คิดเงิน....วางลงไป...อย่างตั้งใจจะให้เด็กสาวเห็น

เธอเองก็ร้ายกาจถึงขนาดเข้าถึงตัวโซระมารุได้....กับเรื่องแค่นี้ก็คงจะเข้าใจแล้วสินะว่าเขากำลังประกาศสงครามกับเธออยู่

“ โซระมารุน่ะ แยกไม่ออกหรอกนะว่าระหว่างเพื่อนกับแฟนมันต่างกันยังไง....หึ...ก็ทำถึงขนาดนี้แล้วเขายังคิดว่าชั้นเป็นแค่พี่ชายอยู่เลย”   ถึงเขาจะไม่ได้พูดว่าขนาดนี้ที่ว่านี่มันขนาดไหน แต่มือที่รับห่อถุงยางอนามัยมาจากพนักงานคิดเงินก็ทำให้เด็กสาวยืนตาค้างราวกับแข็งเป็นหินไปแล้ว...เขารู้...ว่าอย่างเอริคงจะระแคะระคายเรื่องของเขาอยู่บ้าง อย่างน้อยก็คงจะรู้แหละว่าเขาตั้งใจจะกันไม่ให้เธอเข้าใกล้โซระมารุ

แต่เธอคงเพิ่งจะเข้าใจ...ว่าเขาไม่ได้กันไว้ในฐานะพี่ชาย แต่เป็นศัตรูหัวใจต่างหาก

ยอมแพ้ซะสิ  บอกเลิกกับโซระมารุเลยสิ  เธอทนได้เหรอที่แฟนหนุ่มของเธอไปนอนกับผู้ชายด้วยกันแบบนี้...เลิกเลยสิ...เลิกกันไปเลย!!









สองขาในรองเท้าบูทสูงเดินขึ้นบันไดอพาทเม้นต์ด้วยใบหน้าของคนที่เหนือกว่า...เขาทิ้งเด็กสาวที่ยังตะลึงตาค้างเอาไว้ตามลำพัง

ถึงแม้ว่าเรื่องเซ็กส์เขาจะโกหก เพราะอันที่จริงแล้วเขาไม่เคยทำเรื่องแบบนั้นกับโซระมารุ เขาต้องการจะถนอมเด็กคนนั้นเอาไว้ ต้องการมีอะไรกันด้วยความรักทั้งสองฝ่าย ต้องการให้โซระมารุยอมเขาจากหัวใจ...อีกอย่าง...มันก็ยังไม่ถึงเวลาที่โซระมารุควรจะรู้...ว่าที่จริงแล้วความรู้สึกของเขามันไม่ใช่แค่พี่ชาย...เขายังบอกตอนนี้ไม่ได้

แต่มันก็เป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆนั่นแหละ...ว่าโซระมารุนั้นแยกไม่ออกหรอกว่าระหว่างเพื่อนกับแฟนมันต่างกันยังไง ผู้หญิงคนนั้นก็แค่ยัดเยียดคำว่าแฟนให้โซระมารุเรียกตนทั้งๆที่โซระมารุไม่ได้เข้าใจเลยสักนิด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่เป็นแฟนกันเค้าทำอะไรกันบ้าง

และเขา...จะเป็นคนทำให้เข้าใจเอง...

“ กลับมาแล้ว”    ประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงวิ่งตึงตังที่ดังมาจากแถวๆหน้าห้องน้ำ

“ ไปไหนมาครับ? แล้วไหนคุณบอกว่าฟองมันทะลักออกมา? ผมไม่เห็นมีอะไรเลย?”   ใบหน้าที่มักจะจริงจังจนดูน่าแกล้งนั่นส่งสายตาดุๆมองมาอย่างคาดคั้น

“ ฮะฮะ โทษที...ยังไม่ทันจะบอกนายก็รีบวางสายไปซะก่อน....เครื่องซักผ้าที่ว่านั่นของร้านหยอดเหรียญข้างล่างน่ะ...ก็ลุงมัตสึดะแกตาไม่ค่อยดีใช่ไหมล่ะ? แกเลยให้ชั้นหยอดเหรียญเครื่องซักผ้าให้ มันก็เลย....”   แน่นอนว่านี่ก็เป็นเรื่องที่เขากุขึ้นมา

“ อ่ะ....นี่คุณไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเขาหรอครับเนี่ย? ตายละ วันพรุ่งนี้ต้องเอาขนมไปขอโทษเค้าเสียนะครับ ผมจะไปซื้อมาให้ ไม่ไหวเลยคุณชิราสึเนี่ย...ถ้าไม่มีผมจะอยู่ได้ไหมเนี่ย?!

“ อยู่ไม่ได้หรอก”   

“ ห๊ะ?”

“ ถ้าไม่มีนายชั้นคงอยู่ไม่ได้.........ก็นายกลายเป็นคุณแม่ของชั้นไปแล้วนี่ ฮะๆๆ”   ใบหน้ามนงอหงิกขึ้นมาทันทีก่อนจะหยิบทัพพีขึ้นมาไล่ฟาดเขา

ถึงแม้สองขาจะวิ่งหนีเชิงหยอกเย้าแต่สิ่งที่พูดนั่นมันคือเรื่องจริง...เขาอยู่ไม่ได้...ถ้าไม่มีโซระมารุ...

ถ้านายจะเฉลียวใจสักนิดก็น่าจะรู้นะว่าไม่มีลูกชายคนไหนจะเป็นจะตายหรืออยู่ไม่ได้เพราะแม่หรอก โซระมารุ

“ แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก...เดี๋ยวนี้...คุณน่ะ...ชักจะเหมือนพี่ใหญ่เข้าไปทุกที...ทั้งๆที่เมื่อก่อนออกจะเรียบร้อยแท้ๆ...”   ร่างโปร่งยืนถือทัพพีหอบแฮ่กอยู่หน้าเคาน์เตอร์ก่อนจะหันไปหยิบผักออกมาจากถุงผ้า...ก็นายมันน่ารักน่ารังแกนี่นาแล้วชั้นก็ไม่ได้เรียบร้อยอะไรเพียงแต่คนที่อยู่ด้วยกันมันดันเป็นเท็นกะยังไงล่ะ ใครอยู่กับหมอนั่นก็กลายเป็นคนเรียบร้อยทั้งนั้นแหละ...ถ้าตอบออกไปแบบนี้มีหวังโดนไล่ไปนอนนอกห้องแน่ๆ

“ วันนี้ทำอะไรกินงั้นเหรอ?”   เขาเลยเลี่ยงไปถามเรื่องของที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์แทน

“ สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศดีไหมครับ?”   ใบหน้ามนที่กำลังโพกผ้าสามเหลี่ยมบนหัวหันมาถาม ร่างโปร่งในผ้ากันเปื้อนทำให้เขาทอดสายตามองด้วยความเอ็นดู


น่ารัก...แต่ก็ทำได้แค่กดความรู้สึกทุกอย่างเอาไว้...

ยังให้โซระมารุรู้ความในใจของเขาตอนนี้ไม่ได้...ไม่ได้เด็ดขาด...

เพราะเขายังไม่แน่ใจ...ว่าโซระมารุจะรับได้แค่ไหน...

หากบอกว่ารักออกไปแล้วมันจะทำให้เขาต้องสูญเสียโซระมารุไปละก็...ให้เขาอยู่เป็นศัตรูกับผู้หญิงหรือผู้ชายที่หลงรักโซระมารุทั้งโลกแบบนี้ยังจะดีกว่า ให้ไปรบรากับคนอื่นก็ยังดีกว่าการที่โซระมารุจะเดินไปจากเขาหลายร้อยเท่า


“ อื้ม...”   เสียงทุ้มตอบรับเรื่องสปาเกตตี้ทำให้ร่างโปร่งบางหันกลับไปหยิบมะเขือเทศที่ดูจะเยอะเกินไปนั่นออกมาล้าง

“ วัตถุดิบเหลือจากคาบเรียนน่ะครับ...พอดีเอริกินมะเขือเทศไม่ได้ก็เลยให้ส่วนของตัวเองมาด้วย”   เอาอีกแล้ว...ชื่อของผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว....มือใหญ่หยิบผลสีแดงยื่นเข้าไปในสายน้ำเพื่อชำระล้างมัน...อันที่จริงเขาก็ไม่ได้อยากฟังเรื่องของผู้หญิงคนนั้นแต่ก็ไม่อยากขัดโซระมารุที่กำลังพูดอยู่...เขาจึงทำได้แค่นิ่งฟัง

“ แปลกดีนะครับ...ผมเพิ่งจะเคยเห็นคนแพ้มะเขือเทศนี่แหละ แค่กินนิดเดียวก็ผื่นขึ้นหน้าแล้ว ยังดีนะครับที่คุณชิราสึไม่ได้แพ้อะไร ผมเลยทำให้กินได้ทุกอย่าง”   โซระมารุหันมายิ้มให้เขาโดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าภายใต้หน้ากากราวกับคนใจดีของเขามันกำลังยิ้มร้าย...ผู้หญิงคนนั้นแพ้มะเขือเทศ? หึ...ใช่สิ...ดีจริงๆที่เขาไม่ได้แพ้อะไร...เพราะเท่านี้เขาก็มีไพ่ที่เหนือกว่าแล้ว

นัยน์ตาสีม่วงจึงจับจ้องไปยังผลสีแดงใสที่อยู่ในมือด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก...



“ ตกลงว่าพรุ่งนี้คุณจะไปงานชิมอาหารที่โรงเรียนผมใช่ไหมครับ?”   โซระมารุเอ่ยถามในขณะที่เขากำลังล้างจานสปาเก็ตตี้ที่เพิ่งกินเสร็จกันไปอยู่...งานชิมอาหารก็เปรียบเสมือนงานเทศกาลประจำปีของโรงเรียนทั่วๆไปนั่นแหละ เพียงแต่ว่าโรงเรียนของโซระมารุเป็นโรงเรียนทำอาหาร เพราะงั้นแต่ละห้องก็เลยทำกันแต่ร้านที่เกี่ยวกับอาหาร ใครๆจึงเรียกมันว่างานชิมอาหารแทน

“ อื้ม”   เขาตอบรับทั้งๆที่ไม่ได้หันไปมอง

“ แล้วแบบฟอร์มที่ให้กรอกล่ะครับ? เดี๋ยวผมต้องเอาไปให้อาจารย์ประจำชั้นก่อนตอนเช้า แล้วตอนสายๆคุณค่อยตามไปก็ได้ครับ”   แบบฟอร์มที่ว่าก็คือแบบตอบรับการเข้าร่วมงาน ซึ่งหากไปในฐานะคนทั่วไปก็ไม่จำเป็นต้องกรอกอะไรให้ยุ่งยากหรอก เพียงแต่เขาต้องไปในฐานะตัวแทนผู้ปกครอง จึงต้องเซ็นต์เอกสารนั่นด้วย

“ เอาไปเขียนระหว่างที่รอหมอแล้วละ อยู่ในกระเป๋าน่ะ นายไปหยิบได้เลยมือชั้นเปียก”   โซระมารุพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไปใกล้กระเป๋าสะพายของเขา ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีขาวแอบเหลือบตามองก่อนจะยิ้มเย็นๆที่มุมปาก

ที่เก็บแบบฟอร์มไว้ในกระเป๋านั้นเขาจงใจ...เพราะเขาอยากให้โซระมารุไปเห็นของอย่างอื่นที่อยู่ในกระเป๋าต่างหาก...

“ อ๊ะ....”    ฝ่ามือที่ยังเปียกโชกเช็ดด้วยผ้าเช็ดมือก่อนจะก้าวขาอย่างใจเย็นไปหาคนที่ยังมองของในกระเป๋าด้วยใบหน้าชะงักงัน  ร่างสูงใหญ่ขยับไปยืนอยู่ข้างหลังร่างโปร่งก่อนจะก้มลงไปกระซิบที่ใบหู

“ ถุงยางอนามัยนั่นมันมีอะไรงั้นเหรอ?”   ไหล่บางสะดุ้งโหยง ใบหน้ามนแดงเถือกจนถึงใบหูก่อนจะปล่อยกระเป๋าของเขาร่วงลงพื้น ท่าทางตื่นๆทำให้เขาถึงกับหัวเราะในลำคอ...เรื่องงานบ้านงานเรือนละเก่งนักแต่กับเรื่องที่ผู้ชายทั่วไปเค้าเห็นเป็นเรื่องธรรมดาเจ้าคนตรงหน้ากลับไม่ประสีประสา

“ อะ มะ ไม่มีอะไร...คุณชิราสึ....”   คำพูดตะกุกตะกักเอ่ยงึมงำออกมาจากใบหน้าที่ไม่ยอมสบตาเขา

“ หื๋ม?”   เขาจึงยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้ามนที่ก้มงุดก่อนจะดึงมือของโซระมารุให้หันมาเผชิญหน้า

“ คุณ...ใช้ของแบบนั้นด้วยเหรอครับ....”   นัยน์ตาสีดำเหลือบขึ้นมามองอย่างอายๆแต่เขากลับตอบไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ ใช้สิ...ก็ชั้นเป็นผู้ชายนี่...นายเองก็น่าจะเคยใช้ไม่ใช่หรอ? กับแฟนของนาย...”  

“ ไม่เคยครับ!!”   ร่างโปร่งตะโกนกลับมาแทบจะทันทีและนั่นก็เรียกรอยยิ้มบางๆบนใบหน้าของเขา

“ ผม...ผม...ให้เกียรติเธอ...”   โซระมารุเสหน้าหลบตาพลางหาข้ออ้าง สองแก้มใสคงร้อนแทบจะเป็นไฟเพราะตอนนี้มันแดงจนไม่รู้จะว่ายังไง

“ แน่ใจเหรอว่าแค่ให้เกียรติ? ไม่ใช่ว่านายไม่ได้รู้สึกอะไรจนไม่เคยคิดเรื่องแบบนี้กับเธอหรอกเหรอโซระมารุ?”   เสียงทุ้มเอ่ยออกไป ถึงมันจะราบเรียบแผ่วเบาแต่มันกลับคาดคั้นกดดัน

“ กะ ก็บอกว่าผม...” 

“ ลองจูบกับชั้นดูไหมล่ะ? มันจะไม่ใช่แบบที่ทำกับนายมาตลอดหรอกนะ...เพราะมันเป็นจูบที่ผู้ชาย...เค้าใช้ทำกับคนที่ตัวเองรัก”   เขาพูดออกไปด้วยใบหน้าที่ยังยิ้มจางๆ...นายจะเข้าใจบ้างไหม...ความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของชั้น...

ใบหน้ามนเงยขึ้นมามองเขาราวกับกำลังมึนงง ถึงจะไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องทำแบบนั้นแต่โซระมารุที่กำลังสับสนก็ไม่ทันได้คิดต่อต้าน ฝ่ามือใหญ่ตรงเข้าจับยึดปลายคางมนเอาไว้ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะแนบลงไป...ที่กลีบปากนุ่มนิ่มนั่น....

“ อื้อ?!....”   ริมฝีปากของเขาบดเบียดลงไป ปลายคางที่ถูกบีบน้อยๆทำให้กลีบปากสีระเรื่อค่อยๆเผยอออก เรียวลิ้นจึงสอดใส่เข้าไปโดยไม่คิดจะขออนุญาติ

ลิ้นที่ไร้เดียงสาผลักไสเขาอย่างคนที่ไม่คุ้นกับเรื่องแบบนี้ ถึงเขาจะเคยสอดลิ้นเข้าไปแต่ตอนนั้นโซระมารุคงไม่คิดว่ามันคือจูบแบบที่คนรักเขาทำกัน ร่างโปร่งจึงไม่ได้มีอาการตื่นๆเหมือนตอนนี้ 

“ อื้ม...”   โซระมารุถอยหนีแต่ท่อนแขนแข็งแรงก็รั้งเอวบางเข้ามา ริมฝีปากยังคงบดเบียดเข้าไปเช่นเดียวกับปลายลิ้นที่ตวัดพัวพันลิ้นไร้เดียงสาจนฝ่ามือที่เคยผลักไสกลับค่อยๆโอนอ่อนผ่อนตามเรื่อยๆ 

ก่อนหน้านี้เขาก็เคยมีแฟน...เคยจูบกับผู้หญิงหลายต่อหลายคน...แต่เขากลับจำภาพของพวกเธอไม่ได้เลย...เพราะทั้งตอนที่จูบ ทั้งตอนมีเซ็กส์ ใบหน้าที่เขามักจะมองเห็นกลับเป็นใบหน้าของโซระมารุ...และมันก็เทียบกับตัวจริงไม่ได้เลยสักนิด

ปลายลิ้นเปียกแฉะยังคงเกี่ยวกระหวัดรัดพันไล่ต้อนจนคนที่อ่อนต่อเรื่องแบบนี้เริ่มจนมุม เสียงน้ำลายคละเคล้าไปกับเสียงริมฝีปากที่กำลังดูดกลืนซึ่งกันและกัน ทั้งความหอมหวานทั้งความรัญจวนใจทำให้คนที่เคยต่อต้านกลับเป็นฝ่ายเรียกร้องจากเขาแทน จากที่บังคับกลับค่อยๆอ่อนหวาน จากรุนแรงกลับค่อยๆทำให้เคลิบเคลิ้มจนแทบจะขาดใจ

เขาอาจจะทำเรื่องเลวร้ายไว้กับผู้หญิงพวกนั้นแต่ยังไงก็คงต้องขอบคุณที่ช่วยสอนให้เขาช่ำชองพอที่จะทำให้ตัวจริงของเขารู้สึกดีแบบนี้ได้

เขาละออกไป ปล่อยให้โซระมารุได้หอบหายใจ แต่ริมฝีปากของเขาก็ยังกดจูบเบาๆซ้ำไปซ้ำมาอยู่ที่ริมฝีปากแดงช้ำ...ไม่เคยรู้สึกดีขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยรู้สึกต้องการใครเท่าโซระมารุเลย

“ เดี๋ยว?! อื้อ!”   แผ่นอกบางยังไม่ทันจะหายใจปกติแต่ใบหน้าเย้ายวนโดยไม่รู้ตัวก็ทำให้เขาอดใจไม่ไหวจนสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากที่หวานราวกับลูกอมนั้นอีกครั้งจนได้ ใบหน้าของโซระมารุเงยขึ้นมารับจูบที่เร่าร้อนต่างจากครั้งแรกที่อ่อนหวาน ความรู้สึกเหมือนถูกดูดเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปแม้แต่ลมหายใจก็แทบจะไม่เหลือหรอ

“ พะ พอแล้ว...ครับ...”   ร่างโปร่งหอบจนตัวโยนเมื่อเขาปล่อยริมฝีปากแดงช้ำให้เป็นอิสระในอีกหลายนาทีต่อมา ใบหน้าของเขายังคงนัวเนียคลอเคลียอยู่ที่แก้มใสและกลีบปากนุ่มอยู่อีกพักใหญ่

หน้าผากแนบอยู่ที่หน้าผากใสทำให้ลมหายใจหอบถี่ยังคงเป่ารดซึ่งกันและกัน...ปากของโซระมารุนั้นหวานจนต่อให้ลิ้มลองเท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อ ริมฝีปากที่ยังอยู่ใกล้ๆจึงขยับจูบเบาๆไปอีกหลายครั้ง จากที่คิดว่าจะพอแล้วแต่ความนุ่มนิ่มนั่นก็ร้ายกาจจริงๆ นัยน์ตาสีม่วงจึงมองลึกลงไปในดวงตาสีมรกตที่กำลังสั่นพร่าราวกับรอคำอนุญาติ

ริมฝีปากขยับเข้าไปหากลีบปากนุ่มอีกครั้งอย่างแผ่วเบา...และคราวนี้เขาก็เข้าไปโดยได้รับอนุญาติมันจึงเป็นจูบที่หวานล้ำกว่าสองครั้งที่ผ่านมา....

โซระมารุทรุดลงไปนั่งหอบอยู่ที่พื้นทันทีที่เขาถอนริมฝีปาก สภาพราวกับเพิ่งถูกสูบวิญญาณทำให้เขาทอดสายตามองพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก

“ พรุ่งนี้...ก็ลองเอาไปทำกับเอริจังดูสิ”   เขาหันหลังเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นพร้อมกับหัวเราะในลำคอเบาๆ...ใบหน้าเหวอๆของโซระมารุทำให้เขาไม่กลัวเลยที่จะท้าออกไปแบบนั้น


เข้าใจหรือยังว่าความรู้สึกที่นายมีต่อผู้หญิงคนนั้นมันก็เป็นแค่เพื่อน

คิดดูให้ดี...ว่านายจูบกับผู้หญิงคนนั้นได้แบบนี้หรือเปล่า....













ร่างสูงเดินผ่านประตูรั้วของโรงเรียนเข้าไป แต่ไหนแต่ไรเขาก็เป็นที่สนใจของใครต่อใครอยู่แล้วเพราะงั้นมันจึงเป็นความเคยชินที่จะต้องเดินผ่านเสียงกรี๊ดกร๊าดหรือสายตาของเด็กผู้หญิงที่มองมาจากรอบๆตัว

สองขาเดินผ่านถนนและลานกว้างหน้าอาคารเรียนโดยไม่ได้สนใจมันมากนักทั้งๆที่ตอนนี้มันเต็มไปด้วยร้านรวงที่แต่ละห้องต่างขนอาหารนานาชนิดมาประชันกัน เสียงเรียกแขกเข้าร้านดังมาจากทั้งพ่อบ้าน ทั้งเมดกระโปรงฟูฟ่อง กี่เผ้า แฟนตาซีและอะไรต่อมิอะไร  สีสันส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ต่างไปจากงานเทศกาลของโรงเรียนมัธยมปลายทั่วๆไปนักหรอก เพียงแต่เมนูอาหารของแต่ละร้านนี่ต้องถือว่าระดับชั้นนำเลยจริงๆ

นัยน์ตาสีม่วงกวาดมองหาห้องของโซระมารุ ที่จริงมันก็แค่การมาพบครูประจำชั้นประจำปีเท่านั้นแหละ เขาก็แค่มานั่งจิบชาฟังคุณครูพูดอะไรไปไม่ได้มีอะไรมากถึงขนาดต้องให้พ่อแม่หรือพี่ชายแท้ๆอย่างเท็นกะถ่อมาจากต่างจังหวัดหรอก

แล้วในที่สุดเขาก็หาห้องเรียนของโซระมารุเจอจนได้ ทว่า...

นี่เขามาเช้าไปหรือเปล่านะ? ห้องเรียนที่ควรจะจัดโต๊ะจัดเก้าอี้สำหรับผู้ปกครองให้เป็นระเบียบเรียบร้อยมันจึงยังวางระเกะระกะและบนโต๊ะเองก็ยังเต็มไปด้วยหม้อที่มีอาหารหอมฉุย ถาดใส่เครื่องปรุงและวัตถุดิบที่ตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆพอดีคำ....ดูจากปริมาณของมันสงสัยว่าจะเตรียมไว้ขาย? อาจจะกำลังรอคนมายกมันลงไปที่ลานด้านล่าง?

ขายาวในรองเท้าบูทสูงเดินเข้าไปในห้องที่ไม่มีใครอยู่ สมาชิกส่วนใหญ่คงกำลังวุ่นวายอยู่ในร้านข้างล่างกันหมด  นัยน์ตาสีม่วงทอดมองผักหน้าตาน่ารักที่ถูกเด็ดใบเอาไว้อย่างสวยงาม เหมือนจะเป็นพวกใบอะไรสักอย่างที่ใส่ในอาหารฝรั่งเศสหรือเปล่านะ? เรื่องอาหารเขาก็ไม่ได้เชี่ยวชาญเสียด้วย แต่ที่เดินดูพลางอมยิ้มนี่ก็เพราะคิดว่าโซระมารุก็เป็นหนึ่งในคนที่ทำมันขึ้นมา

นัยน์ตาสีม่วงเหลือบไปเห็นหม้อที่ตั้งอยู่ริมสุด ที่ฝาของมันมีแผ่นกระดาษเขียนคำว่า “อาหารกลางวัน” แปะอยู่...หม้อนี้เป็นอาหารที่ทำเลี้ยงคนในห้องสำหรับมื้อกลางวันงั้นเหรอ?

เสียงหยอกล้อเฮฮาตามประสาเด็กผู้ชายดังแว่วมาทำให้สองขาพาตัวเองออกมาจากห้อง เด็กๆคงยังเตรียมของกันไม่เสร็จเขาเลยไม่อยากจะยืนอยู่ตรงนั้นเพราะมันเป็นการรบกวน แผ่นหลังในเสื้อเชิ้ตสีขาวจึงเอนพิงผนังห้องข้างๆเอาไว้และไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังแต่หนึ่งในเสียงพวกนั้นดันมีเสียงของโซระมารุอยู่ด้วยนี่สิ

ริมฝีปากเผลออมยิ้มเมื่อเสียงเข้มงวดดังแว่วเข้ามาในหู ขนาดอยู่กับเพื่อนๆก็ยังเอาจริงเอาจังไม่เปลี่ยนเลยนะโซระมารุ

“ ของที่จะขายใครจะเป็นคนทำก็ได้ แต่ของที่จะกินกันเองนี่ยังไงก็ต้องให้โซระมารุมือหนึ่งของห้องเป็นคนทำละนะ ฮ่าๆๆ”   เสียงร่าเริงนั่นคงจะเป็นของเพื่อนโซระมารุ?

“ ถึงจะยอไปก็ไม่มีอะไรให้หรอกนะ แล้วพวกนายมันก็แค่ขี้เกียจไม่ใช่หรือไง? รีบๆขนลงไปได้แล้ว”   หึๆ...นี่สิ...โซระมารุตัวจริงของเขา

“ คร้าบ...”   เสียงขานรับเชิงล้อๆดังตามมาก่อนที่จะได้ยินเสียงเด็กๆช่วยกันขนหม้อและถาดใส่วัตถุดิบออกไปจากห้อง

ว่าแต่...โซระมารุเป็นคนทำอาหารกลางวันที่คนทั้งห้องจะต้องกินงั้นเหรอ?

ความคิดบางอย่างแว่บเข้ามาในหัวก่อนที่ร่างสูงจะเดินเข้าไปในห้องอีกครั้ง

ผลมะเขือเทศถูกบีบจนเละคามือก่อนที่น้ำสีแดงดั่งโลหิตจะไหลหยดลงไปในหม้อที่ติดกระดาษว่าอาหารลางวัน...แค่ครึ่งลูกคงไม่ทำให้รสชาติเปลี่ยนไปเท่าไหร่และคนอื่นกินก็คงไม่เป็นไร


แต่กับเอริแล้วมันไม่ใช่....


เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาทำให้ไม่มีเวลายิ้มเยาะ เศษซากของมะเขือเทศถูกรวบใส่กระดาษทิชชูก่อนจะรีบเดินออกจากห้อง

ร่างสูงเดินสวนกับเด็กผู้หญิงสองคนที่หันไปกรี๊ดใส่กันอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก  เขาก็แค่หาที่ทำลายหลักฐาน  จากนั้นก็แค่นั่งรอเวลาอย่างใจเย็น...


รอ...จนการพบผู้ปกครองผ่านไป

รอ...จนได้เวลาอาหารกลางวัน

รอ...จนผู้หญิงคนนั้นเปลี่ยนเวรขึ้นมากิน

แล้วก็รอ...จนกระทั่งช้อนในมือบางร่วงลงพื้นพร้อมผดผื่นเม็ดเล็กๆที่ขึ้นมาเต็มใบหน้าใส


“ เอริ?!!

“ เป็นอะไร?! อย่าบอกนะว่ามะเขือเทศ?  ไปกินยาแก้แพ้ที่ห้องพยาบาลก่อนเถอะ!”  เพื่อนผู้หญิงที่อยู่ด้วยกันถลาเข้าไปประคองเอริด้วยท่าทางตื่นตระหนก

“ โซระมารุเป็นคนทำอาหารที่พวกเรากินไม่ใช่เหรอ? ผู้ชายคนอื่นจะไม่รู้ก็ไม่เป็นไร แต่โซระมารุเป็นแฟนเธอไม่ใช่หรือไง ทำไมเรื่องแค่นี้ถึงไม่รู้? แล้วที่จริงมันไม่ต้องใส่มะเขือเทศก็ได้ไม่ใช่เหรอซุปนี่น่ะ!”   เพื่อนคนหนึ่งโวยวายพลางช่วยกันพยุงเด็กสาวออกไป

ดี...ใส่ไฟกันเข้าไปแบบนั้นแหละดี...เอริจะได้คิดว่าโซระมารุไม่ใส่ใจเธอ...น้อยใจ...แล้วก็เลิกๆกันไปซะ!










ที่ลานด้านหน้าอาคารยังคงครึกครื้นกันตามปกติ...ไม่มีใครรู้เลยว่าข้างบนนั่นมันเกิดอะไรขึ้นและเขาก็ยังคงก้าวขาเดินเข้าไปร้านของโซระมารุด้วยใบหน้ายิ้มแย้มตามเดิม

“ อ๊ะ! คุณชิราสึ! อาจารย์บ่นเสร็จแล้วเหรอครับ? มานั่งนี่ก่อนสิผมมีอะไรอยากให้ชิมด้วยละ”   โซระมารุทักเขาก่อนจะรีบดึงแขนให้เข้าไปนั่งโต๊ะหนึ่งในร้าน ร่างโปร่งไม่ได้อยู่ในชุดเชฟสีขาวแต่กลับเป็นชุดพ่อบ้านที่มีผ้ากันเปื้อนคาดอยู่ที่เอว...ลุคแบบนี้ก็ดูน่ารักดีนะ

“ มาแอบดูอะไรกัน? นี่พี่ชายชั้นห้ามยุ่งเด็ดขาด!”   ใบหน้ามนหันไปแยกเขี้ยวใส่บรรดาสาวๆในห้องที่ต่างชะโงกหน้าออกมามองด้วยสายตาเป็นประกายก่อนจะบ่นเสียดายเมื่อโซระมารุประกาศห้ามอย่างเด็ดขาด

อันที่จริงเขามันก็เป็นแค่พี่ชายไม่ใช่หรือไง...แล้วแบบนั้นจะหวงเอาไว้ทำไมล่ะโซระมารุ....

ช่วยรู้ตัวทีได้ไหม...ว่าชั้นไม่ใช่พี่น้องแท้ๆอย่างเท็นกะหรือจูทาโร่ ไม่จำเป็นต้องหวงไม่ใช่หรือไง...

เพราะนายเป็นแบบนี้แหละ...ชั้นถึงได้ยิ่งถลำลึก...


“ แย่แล้ว!”   เด็กสาวคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาทำให้ทุกสายตาต่างหันไปมองเป็นตาเดียว

“ โซระมารุ...โซระมารุล่ะ...”   ร่างเล็กยังคงหอบจนตัวโยน คนที่ถูกถามหาจึงเดินเข้าไปตรงหน้า

“ ชั้นอยู่นี่ เกิดอะไรขึ้น?”

“ เอริ...เอริน่ะผื่นขึ้นเต็มหน้าเลย นายเอามะเขือเทศใส่ลงไปในซุปด้วยหรือไงโซระมารุ...”   ถาดในมือบางร่วงลงพื้นทันที ใบหน้ามนที่ยังตะลึงๆส่ายน้อยๆก่อนที่ร่างโปร่งจะวิ่งพรวดพราดออกไปทันที

“ ชั้นจะไปห้องพยาบาล!”   เสียงที่ตะโกนบอกกลับมาทำให้สองมือใหญ่ที่วางอยู่บนต้นขาถึงกับกำแน่น....ใจเย็นไว้ชิราสึ...นายก็แค่รอต่อไป...อีกไม่นานหรอก....อีกไม่นาน....



ร่างสูงก้าวขาตามร่างโปร่งบางไป...หลังจากรอเวลาให้มากพอที่ทั้งคู่จะทะเลาะกันจนถึงขั้นบอกเลิก...มือหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก่อนจะกดหาโซระมารุ

“ ครับคุณชิราสึ...”   ถึงเสียงจากปลายสายจะฟังดูไม่สดใสแต่ก็ไม่ได้ฟูมฟาย? ประโยคที่คิดไว้เพื่อปลอบโยนจึงจำต้องเปลี่ยนกะทันหัน

“ โซระมารุ...ชั้นไม่แน่ใจว่าตอนนี้ชั้นอยู่ที่ไหนในโรงเรียนของนาย...มีเครื่องอะไรแปลกๆเต็มไปหมดเลยน่ะ?”   มันก็เป็นแค่ข้ออ้างให้โซระมารุออกห่างจากผู้หญิงคนนั้นแล้วมาหาเขาเท่านั้นแหละ

“ อ๊ะ! นั่นอาจจะเป็นห้องหมักชีส? คุณชิราสึ คุณอย่าไปจับอะไรมั่วๆนะครับ! ยืนอยู่นิ่งๆเลยเดี๋ยวผมไปรับ”   ริมฝีปากถึงกับยิ้มแห้ง จะว่าดีหรือไม่ดีกันนะที่โซระมารุเข้าใจว่าเขาเป็นคนซุ่มซ่ามทำอะไรไม่ได้เรื่องทั้งๆที่จริงแล้วมันก็แค่การเสแสร้งแกล้งทำแทบทั้งนั้น

ไม่เอะใจเลยน้าโซระมารุ...นายคิดว่าชั้นอยู่คนเดียวมาได้ยังไงช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยแล้วนายยังเรียนมัธยมต้นอยู่ที่บ้านนอกน่ะ


“ โซระมารุ! อย่าไปนะ! นายต้องอยู่ที่นี่กับชั้น! ชั้นรู้ว่าผู้ชายคนนั้นมันอยู่แถวๆนี้แหละ มันโกหกนาย! มานี่! เอาโทรศัพท์มา! ให้ชั้นคุยกับมันเอง!   เสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวดังแทรกเข้ามาในโทรศัพท์...ไม่ต้องบอกเขาก็รู้ว่ามันเป็นเสียงของใคร

“ เดี๋ยว? เอริ!”   มีเสียงยื้อแย่งและเสียงด่าทอที่ราวกับจะคลุ้มคลั่งให้ได้ของเด็กสาวก่อนที่โทรศัพท์จะถูกตัดสายไป

ความแตกจนได้สินะ...ถ้างั้นก็ช่างมันเถอะ เดินไปรับโซระมารุกลับบ้านมันทั้งอย่างงี้เลยแล้วกัน

ว่าแต่...ทำไมยัยเอริถึงไม่โกรธโซระมารุล่ะ? ทำไมถึงยังไม่ทะเลาะกันใหญ่โต ทำไมไม่โมโหจนขอเลิกกันไปเสียล่ะ? ทำไมยังอยู่ด้วยกัน ทำไมยังคุยกันได้อีก?!

แล้วทุกความสงสัยของเขาก็ไขกระจ่างเมื่อร่างสูงเดินสวนกับเด็กผู้หญิงสองคน...ที่เขาเคยเดินสวนตอนที่เพิ่งจะใส่มะเขือเทศลงไปในหม้อ!

อย่าบอกนะว่ายัยพวกนี้เอาไปเล่าให้เอริฟังน่ะว่าเจอเขาแถวๆห้องเรียน...อย่างเอริต้องรู้แน่ว่าคนที่ทำคือคู่อริอย่างเขาไม่ใช่โซระมารุ...


บัดซบ!


สองขาก้าวเข้าไปในห้องพยาบาลอย่างนึกหงุดหงิดเต็มที ต้องโทษความโดดเด่นทางกายภาพของเขาที่ทำให้ยัยเด็กพวกนั้นจำได้...ถึงจะแค่เอาไปเม้าท์ว่าเจอพี่ชายสุดหล่อของโซระมารุที่หน้าห้อง แค่นั้นมันก็ทำให้แผนของเขาพังได้แล้ว!

“ มาแล้วเหรอ! มาได้ก็ดี...โซระมารุนายบอกชั้นมาซิว่านายเคยเล่าเรื่องที่ชั้นแพ้มะเขือเทศให้ผู้ชายคนนี้ฟังบ้างหรือเปล่า?!”   เสียงของเด็กสาวทักขึ้นทันทีที่เขาก้าวขาเข้าไปในห้องพยาบาล ท่าทีอ่อนน้อมที่พยายามจะมีให้เขามาโดยตลอดตอนนี้มันกลับไม่มีหลงเหลืออยู่อีก มีเพียงเสียงแข็งๆกับสายตาก้าวร้าวส่งมาให้เพียงแค่นั้น


หึ...ก็ไม่แปลก...ในเมื่อเราเป็นศัตรูกัน


“ .....ก็....เคยเล่าให้ฟังอยู่หรอก แต่คุณชิราสึมาเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ?”   ยังคงมีแต่โซระมารุที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรตามเดิม ใบหน้ามนถึงได้หันมองหน้าเด็กสาวทีมองหน้าเขาที

“ มิกิกับมามิเล่าให้ฟังว่าเจอผู้ชายหน้าตาดีที่หน้าห้องเรียนของเราตอนเช้า ไม่คิดว่าจะเป็นพี่ชายของโซระมารุเพราะว่าไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย...”

“ ห๋า? ก็แล้วมันเกี่ยวกันยังไงล่ะ? คุณชิราสึก็คงแค่หลงทางตามปกติของเค้านั่นแหละ”

“ ตาสว่างได้แล้วโซระมารุ! ผู้ชายคนนี้น่ะอยู่เบื้องหลังทุกอย่าง เป็นตัวการที่ทำให้ชั้นต้องเป็นแบบนี้ไง!   เด็กสาวตะโกนใส่หน้าโซระมารุอย่างเหลืออด ใบหน้าที่เคยขาวใสบัดนี้เต็มไปด้วยผื่นสีแดงและดูท่าว่าคงต้องใช้เวลากว่ามันจะยุบ

“ คุณแอบเอามะเขือเทศไปใส่ในหม้อใช่ไหม?!  เอริหันมามองเขาอย่างหาเรื่อง ซึ่งเขาก็เพียงแค่นิ่งเฉยตอบกลับไป ปล่อยให้โซระมารุที่ยังเชื่อเขาสนิทใจเป็นฝ่ายเอ่ยปกป้อง

“ เดี๋ยวก่อนเอริ คุณชิราสึเค้าจะทำแบบนั้นไปทำไมล่ะ? ในเมื่อเค้า”

“ เค้ารักนายไงโซระมารุ!   จู่ๆเอริก็โพล่งออกมาทำเอาเขาถึงกับหน้าชา

“ วะ ว่าไงนะ....”   แล้วก็ไม่ได้มีแต่เขาที่ทำอะไรไม่ถูกเพราะเหตุการณ์ตรงหน้ามันอยู่นอกเหนือจากแผนการที่วางเอาไว้ โซระมารุเองก็ตะลึงงันเช่นกัน

“ ตอบมาสิ! ว่าคุณเองก็รักโซระมารุเหมือนชั้น!!   เด็กสาวหันมาตะโกนใส่หน้าเขาอย่างคาดคั้น  ซึ่งเขาทำได้แค่ส่งสายตาดุดันกลับไป สองมือกำแน่นอย่างพยายามระงับอารมณ์ไม่ให้หลุดอะไรออกไป...หยุดพล่ามได้แล้ว! หยุดพูดเดี๋ยวนี้! จะให้โซระมารุรู้ตอนนี้ไม่ได้!

“ คนที่เอาคุกกี้ที่ชั้นทำไปทิ้งถังขยะ คนที่ทำให้ชั้นกับโซระมารุต้องทะเลาะกันเพราะเรื่องนั้น คนที่แกล้งป่วย คนที่เดินออกไปให้รถชนเองเพื่อจะได้รั้งโซระมารุให้อยู่ดูแล คนที่ตั้งใจจะทำให้เราเลิกกันก็คือพี่ชายที่นายคิดว่าแสนดีคนนี้นี่แหละโซระมารุ!”   เด็กสาวแฉออกมาอย่างหมดเปลือกและเขาก็ไม่ได้คิดเอาไว้ว่าจะรับมือกับเรื่องนี้ยังไง...ไม่เคยคิด...ว่าตัวเองจะตกเป็นฝ่ายถูกไล่ต้อนเสียเองแบบนี้

“ โซระมารุ กลับบ้านกันเถอะ เอริจังคงยังไม่หายดีถึงได้พูดอะไรไม่รู้เรื่องแบบนี้”   มือใหญ่ตรงเข้าไปจับข้อมือของคนที่กำลังชะงักค้างเอาไว้ก่อนจะออกแรงลากให้เดินออกมาด้วยกัน....อย่าไปฟังนะโซระมารุ...นายน่ะเชื่อแต่ชั้นก็พอ...เชื่อชั้นสิ เชื่อชั้นเหมือนเดิมเท่านั้นสิ!

“ เดี๋ยว...เดี๋ยวครับคุณชิราสึ...”   เขาไม่ฟังเสียงของโซระมารุที่ยังหันหน้ากลับไปมองเด็กสาว สองขาพาเดินออกมาให้ไกลจากความจริงที่เขาพยายามปกปิดมันเอาไว้แทบตายนั่น

“ คุณมันไม่ปกติ! โซระมารุอย่าไป! อย่าอยู่ใกล้ผู้ชายคนนั้น”   ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายและข้าวของแตกกระจายมาจากเบื้องหลัง เพื่อนๆของเอริต่างกรูเข้าไปตะครุบตัวเด็กสาวที่ราวกับกำลังจะเสียสติเอาไว้


เขารู้...ว่าคนที่เสียสติไม่ใช่เอริหรอก...

แต่เป็นเขาเองต่างหาก










โซระมารุก้าวขาตามแรงลากของเขาโดยไม่พูดอะไรสักคำ ไม่แม้แต่จะถาม ไม่แม้แต่จะโวยวาย

นายกำลังคิดอะไรอยู่โซระมารุ...

ได้โปรด...อย่าคิดอะไรน่ากลัวๆอย่างเรื่องที่อยู่ในหัวของชั้นตอนนี้เลย...




“ คุณชิราสึ!”   โซระมารุสะบัดมือที่ถูกจับกุมอยู่ทันทีที่ก้าวขาเข้ามายืนอยู่ในห้อง

“ พูดความจริงกับผมได้ไหมครับ...ตอบผมมา...ว่าที่เอริพูด...เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า...”   นัยน์ตาสีดำช้อนขึ้นมามองเขาอย่างเว้าวอน ใบหน้าที่ราวกับจะร้องไห้ของโซระมารุทำให้เขาได้แต่กัดริมฝีปากแน่น

“ มันไม่มีอะไรหรอกโซระมารุ...เอริจังก็คงแค่เพ้อจากพิษไข้....”

“ คุณชิราสึ!”   โซระมารุตะโกนออกมาราวกับจะบอกว่าไม่อยากฟังคำโกหกของเขาอีกต่อไปแล้ว ร่างโปร่งทรุดลงนั่งบนโซฟาก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าด้วยท่าทางเจ็บปวด

ภาพตรงหน้าทำเอาหัวใจของเขาแทบจะแหลกสลาย ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำมาราวกับกำลังจะพังทลายลงไปต่อหน้าต่อตา...

นี่สินะ...สิ่งที่เขาต้องชดใช้ให้กับเรื่องเลวร้ายที่ทำลงไป

ทั้งผู้หญิงที่เขาคบด้วยเพราะเห็นเป็นแค่ตัวแทนของโซระมารุ ทั้งเอริที่ถูกเขากลั่นแกล้งใส่ร้ายสารพัด...ทั้งหมดนั้นเขาทำเพื่อให้ได้โซระมารุมา...และนี่ก็คือค่าตอบแทนด้วยการที่เขากำลังจะเสียโซระมารุไป

“ โซระมารุ...ชั้นขอโทษ...”   ร่างทั้งร่างทรุดลงไปคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่ม มือใหญ่เอื้อมออกไปกอบกุมมือบางที่ยังคงปิดหน้าร้องไห้เอาไว้ ใบหน้าขยับไปชนกับหน้าผากใสราวกับจะอ้อนวอนเป็นครั้งสุดท้าย

“ ชั้นขอโทษ...”   เสียงสั่นพร่าเอ่ยออกไปด้วยหัวใจที่แทบจะขาดให้ได้ ไม่อยากรับรู้อีกแล้วว่าโซระมารุจะตัดสินโทษเขายังไง


ทีทำกับคนอื่นเอาไว้กลับไม่เคยรู้สึกอะไร พอถึงทีของตัวเองกลับอยากได้รับการให้อภัย...นายนี่มันเลวจริงๆนะชิราสึ


“ ผมจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่น”   แล้วสิ่งที่โซระมารุพูดก็ทำเอาเขาผงะออกมามองตาค้าง หัวใจราวกับถูกกรีดจนฉีกขาดเพราะนี่เป็นเรื่องเดียวที่เขากลัว....กลัว....ว่าโซระมารุจะทิ้งเขาไป

“ อย่าไป โซระมารุ ขอร้องละ อย่าไปจากชั้น”   สองมือพยายามฉุดรั้งมือบางที่สะบัดออกไปจากมือของเขา ใบหน้ามนหันมามองหน้าด้วยนัยน์ตาแข็งกร้าวแต่ก็เอ่อคลอไปด้วยรอยน้ำตา

“ แล้วคุณจะให้ผมอยู่ที่นี่ได้ยังไงในเมื่อคุณคิดไม่ซื่อกับผม?! คุณโกหกผม! ผมไม่ชอบที่คุณเล่นลับหลัง ไม่ชอบที่คุณทำร้ายคนอื่น และที่ไม่ชอบที่สุดก็คือคุณทำร้ายตัวเอง!   น้ำตาค่อยๆไหลลงไปตามแก้มใสของคนที่ตะโกนสิ่งที่อยู่ในใจออกมา...โซระมารุร้องไห้....และคนที่ทำให้น้ำตาพวกนั้นมันไหลลงมาก็คือเขาเอง...คือเขาเอง...คนที่บอกว่ารัก คนที่พยายามปกป้องไม่ให้น้ำใสๆพวกนั้นมันไหลลงมา แต่แล้วคนที่ทำให้ทุกอย่างพังทลายมันก็คือตัวเขาเอง

“ แล้วถ้าชั้นบอกกับนายตรงๆล่ะ  นายจะยอมฟังชั้นหรือเปล่าโซระมารุ?”   เสียงที่อ่อนล้าค่อยๆเอ่ยกับคนตรงหน้าราวกับจะหมดแรง

“ ถ้าชั้นบอกว่าชั้นรักนาย...รักนายมาตลอด...และมันก็ไม่ใช่ความรักแบบพี่น้อง...นายจะยอมรับชั้นได้งั้นเหรอ?”   ใบหน้ามนนิ่งอึ้งไป ร่างกายที่เขาพยายามจะฉุดรั้งเอาไว้ถอยห่างออกไปช้าๆ



จนแล้วจนรอด โซระมารุก็เดินจากไป....



ในห้องที่เคยอยู่กันสองคนตอนนี้มันกลับว่างเปล่า...

ไม่มีเงาของใครอยู่เคียงข้างเขาอีกต่อไปแล้ว...


ไม่มีอีกต่อไปแล้ว...



ร่างสูงเดินโซเซเข้าไปในห้องน้ำ ภาพแห่งความสุข ภาพแห่งรอยยิ้มยังคงล่องลอยอยู่ในทุกซอกทุกมุมของห้องนี้...และก็ไม่มีวันที่มันจะเลือนหายไปจากหัวใจของเขาได้

ร่างกายทรุดนั่งลงข้างๆอ่างอาบน้ำสีขาวอย่างหมดแรง...ตอนนี้เขาคิดไม่ออก...คิดไม่ออกเลยว่าจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไงหากไม่มีโซระมารุอยู่ข้างๆ


มีดปอกผลไม้จึงกรีดลงไปบนข้อมือซ้ำไปซ้ำมาราวกับว่านี่เป็นทางออกเดียวของเขา


โซระมารุรู้ดีว่าเขาซุ่มซ่ามกับเรื่องงานบ้าน...อาหารทำออกมาทีไรก็กินไม่ได้ทุกที...

เพราะแบบนั้น...ถ้าโซระมารุยังห่วงเขาอยู่ก็ต้องกลับมาดูเรื่องข้าวเย็นของเขาแน่

แต่ถ้าไม่กลับมา


เขาก็แค่ตายจากไปก็เท่านั้น...


ความรักของเขาไม่ใช่การเสียสละ...หากไม่ได้มาก็อย่าเห็นกันอีกเลยดีกว่า




เขาอยู่ไม่ได้...ถ้าไม่มีโซระมารุ.....







.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

To be Con.





สะ สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังไปหลายวันเลยนะคะ ฮ่าๆๆ  TTvTT  อย่าเพิ่งขว้างอะไรม๊า เค้าจะรีบปั่นต่อเดี๋ยวนี้แหละ โฮวววววววววววววววว

นะ...รับปีใหม่กันด้วยฟิคโรคจิตแห่งปีกันเลยทีเดียวแหะแหะ (โดนแฟนๆชิราสึซังรุมกระทืบ) เหมือนไม่ได้แต่งแนวนี้มานาน ขาดตกบกพร่องตรงไหนไปก็ขออภัยด้วยนะคะ ฮือออออ แต่ชอบมากเลยค่ะแนวตัวเอกร้ายๆเนี่ยฟฟฟฟฟฟ

ขอบคุณทุกๆการติดตามและทุกๆคอมเม้นต์มากๆเลยนะคะ ดีใจมากกกกกอ่ะที่มีคนอ่านเรื่องนี้ด้วย5555 น่าจะมีแต่คนสงสัยว่ามาจากไหนก๊านนนนเรื่องนี่! อ้อ สำหรับฟิคดาวอังคารที่ถามมา...ใกล้แล้วค่ะ...คุณกวางกำลังปั่นตอนพิเศษอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ค่ะ TvTb ได้เรื่องเมื่อไหร่เดี๋ยวก็ลงประกาศในบลอคนี่แหละค่ะ คิดว่าซีซั่นสองคงมาพอดีๆ อิอิ

แปะการ์ดปีใหม่กันซักหน่อย 




สวัสดีปีแพะน้อยกันนะค้า ปีที่ผ่านมาก็ต้องขอขอบคุณทุกๆการติดตาม ทุกๆกำลังใจที่ส่งให้กันตลอด ถึงคุณกวางมันจะอู้ จะออกทะเล จะออกนอกโลก จะไห จะบลาๆๆกันไปซะหน่อย ก็ยังมีคนไปลากกลับมาตลอด555 ขอบคุณมากค่า >3< ปีนี้ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวอีกปีนะคะ งื้อออออ




3 ความคิดเห็น:

  1. กรี๊ดดดด สุดท้ายแล้วมันก็เป็นอย่างที่คิดเลยค่ะว่ากว่าชิราสึซังจะรู้ตัวต้องรอให้เห็นน้ำตาของน้องโซระก่อน ;{};) /กรีดร้องงงง
    แต่ถ้าขุ่นพี่เป็นอะไรไปมันก็จะเป็นตราบาปให้น้องโซระอีกนะคะ พรากกก หรือสุดท้ายแล้วต้องพึ่งพี่เท็นกะมาช่วยพูดให้คิดได้กันนะ!?

    ตอบลบ
  2. โอ๊ย ทรมานจิตใจจจจค่ะ
    โซระมารุ กลับมาก๊อน ถถถ
    ไม่ค่อยมีคนแต่งฟิคเรื่องนี้เลยค่ะ
    ดีใจทึ่คุณกวางแต่งนะคะ
    รอติดตามชมตอนหน้าค่ะ
    สู้ๆ

    ตอบลบ
  3. กะแล้วค่ะว่าต้องเป็นงี้ กะแล้วว่าเดี๋ยวน้องต้องรู้ความจริง Y w Y #พรากก

    ตอบลบ