Attack on Titan Au S.Fic [Levi x Eren] -- BiOS : another story B : 06 --


Attack on Titan Au S.Fic [Levi x Eren]  -- BiOS : another story B : 06 --


: Attack on Titan AU Fanfiction
: Levi x Eren
: Action  Horrors
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ






“ ฝูงบินโจมตีกองบินที่ 6 ฐานทัพอากาศโคมัตสึเรียกฐานทัพมิซาว่า....”  


เสียงทุ้มกรอกลงไปยังไมค์ซึ่งติดอยู่ที่หมวกกันน็อค แล้วมันก็เป็นอีกครั้งที่ฝั่งตรงข้ามมีเพียงเสียงซ่าๆตอบกลับมา

ไม่มี “คน” อยู่แล้วหรือไงนะ....


“ กองบินที่ 3 ฐานทัพอากาศมิซาว่าตอบด้วย!

นัยน์ตาสีขี้เถ้ากวาดมองกลุ่มควันที่ลอยคลุ้งอยู่ทั่วน่านฟ้า จะไม่มีเสียงตอบกลับมาก็คงไม่แปลกหรอก

“ รีไว...น่าจะเอาเครื่องลงแถวๆโรงเก็บเครื่องบินได้”   วิทยุสื่อสารจาก F-15J/DJ อีกลำดังขึ้นทำให้เขาเหลือบตาไปมองเครื่องบินรบที่ขับโดยพันโทโนเสะซึ่งกำลังโฉบลงไปใกล้ๆพื้นดินเพื่อดูลาดเลา...ไอ้บ้ายูยังคงทำอะไรบ้าระห่ำได้ตลอด ก็บินต่ำขนาดนั้นถ้าไม่บ้าก็ใจถึงน่าดูแหละ

หึ...ไอ้คนตัวใหญ่ที่ร้องไห้จะเป็นจะตายเมื่อหลายชั่วโมงก่อนนั่นมันใครกัน?  หมอนั่นที่เป็นแบบนี้ต่างหากถึงจะสมกับที่เป็นเพื่อนของเขา

“ แกลงไปก่อนเลยยู”   เขาตอบกลับวิทยุสื่อสารนั่นไป

“ โอ้ส~~!”    F-15J/DJ ที่บินอยู่ข้างหลังชะลอความเร็วก่อนจะเอียงตัวแล้วหันหัวไปอีกทาง ปีกทั้งสองข้างร่อนลงแล้วในไม่ช้าลูกล้อก็กางออกสัมผัสรันเวย์ แต่ถึงจะลงไปวิ่งอยู่บนพื้นความเร็วกลับไม่ได้ลดลง เครื่องบินที่ยูขับยังคงวิ่งตรงดิ่งไปยังโกดังที่ปิดสนิท

แล้วชั่วพริบตาที่หัวเครื่องบินกำลังจะชนเข้ากับประตูเหล็กม้วนของโกดัง เสียงปืนก็ดังลั่นทันที


ตูม!!


แน่นอนว่ามันไม่ได้ดังปังๆเหมือนเสียงปืนทั่วไป เพราะมันคือมิซไซส์เบอร์เล็กสุดที่ยิงออกไปจากเครื่องบินของเขา


โครม!!


ประตูเหล็กม้วนพังลงมาจนฝุ่นตลบอบอวล เครื่องบินของยูหยุดลงโดยมีเครื่องบินของเขาบินโฉบอยู่ข้างหลังเพื่อระวังภัยให้

“ เบาๆหน่อยสิคร้าบ~~พันเอกรีไว  เดี๋ยวไอ้ของที่อยู่ข้างในนี่ก็เละเทะหมดก่อนพอดี”   น้ำเสียงกวนประสาทยังคงดังมาตามวิทยุสื่อสารนั่นแปลว่ายูคงจะหาของที่พวกเขาต้องการเจอแล้ว

“ ชั้นจะร่อนลงแล้วนะ”   ปลายนิ้วดีดสวิตซ์ที่เรียงกันอยู่บนหน้าปัด ได้ยินเสียง ครับๆ ดังมาเบาๆ เจ้านั่นคงลงจากเครื่องบินแล้วสินะ

เหยี่ยวเหล็กที่บินอยู่บนฟ้าค่อยๆถลาร่อนลงสู่พื้นดิน เป็นเพราะเสียงของไอพ่นบวกกับมิซไซส์เมื่อกี้ทำให้ตอนนี้ไอ้พวกซอมบี้ต่างก็เดินโซเซเข้ามาในรันเวย์ ล้อวงใหญ่กวาดพวกมันอย่างไม่สนใจ  แล้วความเร็วก็ค่อยๆชะลอลงเมื่อมองเห็นรถบรรทุกทหารคันหนึ่งกำลังพุ่งเข้ามาหา

“ เอเลน”   เขาหันไปเรียกคนที่ยังสลึมสะลือ มือก็ถอดเข็มขัดนิรภัยกับหมวกกันน็อคไปด้วย...ไม่มีเวลาแล้ว...เพราะทันทีที่ F-15J/DJของเขาหยุดลง ใต้ท้องเครื่องบินก็คงเต็มไปด้วยฝูงซอมบี้

มือแข็งแรงเอื้อมไปช่วยร่างโปร่งบางปลดเข็มขัดนิรภัยก่อนจะดึงตัวเอเลนให้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขน เสียงตะกายเหล็กแกร่กๆดังมาจากเบื้องล่างและเมื่อเหลือบมองลงไปก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง.....มากันไวยิ่งกว่ามดเห็นน้ำตาลเสียอีกนะไอ้พวกผีไม่มีใครเอา


ปรี๊นนนนนนนน.....!!


เสียงแตรลากยาวทำให้แขนแข็งแรงกระชับเอวบางแน่น นัยน์ตาคมกล้ากะจังหวะอย่างแม่นยำก่อนที่จะกระโดดลงไป คนในอ้อมแขนได้แต่หลับตาปี๋


ตุ้บ!!!


เขากับเอเลนหล่นลงไปบนหลังคารถบรรทุกทหารคันนั้นพอดิบพอดีก่อนที่ร่างซึ่งกอดกันแน่นจะกลิ้งไปอีกหลายตลบ แล้วคนขับมันก็ไม่รอช้าให้เสียเวลา เจ้ารถสีเขียวขี้ม้าพุ่งทะยานไปยังรั้วของกรมทหารทันที

“ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”   เขาเงยหน้าขึ้นไปถามคนที่นั่งคร่อมอยู่บนลำตัว ใบหน้ามนส่ายไปมาก่อนที่มันจะค่อยๆขึ้นสีเมื่อเริ่มรับรู้ว่าตอนนี้ตนอยู่ในท่าที่ล่อแหลมขนาดไหน

ร่างโปร่งค่อยๆขยับกายอย่างอายๆลงไปจากตัวเขา ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครจึงลุกขึ้นนั่งช้าๆ กล้ามเนื้อที่เหนื่อยล้าจากการขับเครื่องบินทำให้ยังนั่งอยู่บนหลังคารถ นัยน์ตาสีขี้เถ้าเหม่อมองไปรอบๆ สภาพของฐานมิซาว่าก็ไม่ต่างจากที่ที่เขาจากมาเลยสักนิด...

เครื่องบินลำเลียงที่คุ้นตาแว่บผ่านหน้าไป...สภาพที่ยังดูดีอยู่ของมันทำให้เขาโล่งใจ....เจ้าพวกนั้นมาถึงที่นี่โดยปลอดภัยสินะ...หวังว่าอีกไม่นานคงจะเจอกัน

“ ลงไปข้างล่างกันเถอะ”   เขาหันหน้าไปบอกเจ้าลูกครึ่งซอมบี้ที่นั่งทับส้นอยู่ข้างๆ ถ้ามีหางเขาก็คงเห็นมันกระดิกไปมาอยู่แน่ๆ

ท่อนแขนแข็งแรงโยนลำตัวบางเข้าไปในท้ายรถบรรทุกก่อนจะโหนตัวตามไป ฮิโนะที่มีสติสมบูรณ์ถือปืนรออยู่ข้างใน กระจกที่กั้นระหว่างคนขับกับด้านหลังถูกทุบจนแตกทำให้เขาชะโงกหน้าไปคุยกับยูได้

“ เกิดเรื่องใหญ่แล้วละ”   ใบหน้าหล่อเหลายิ้มแห้งเมื่อเห็นหน้าเขา

“ อะไร?”   ยังจะมีเรื่องอะไรใหญ่กว่าที่เป็นอยู่นี่อีกหรือไง?

“ ชั้นไม่รู้จักสถาบันวิจัยนามิโมริน่ะสิ”    เออ....จะว่าไปก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆละนะ...ในเมื่อเขาเองก็ไม่ใช่คนที่นี่แถมชั่วชีวิตนี้ก็ไม่คิดว่าจะมีเรื่องอะไรเกี่ยวข้องกับพวกที่ใช้แต่หัวสมองอย่างที่นั่นก็เลยไม่เคยสนใจเลยว่ามันจะอยู่ตรงไหนในแผนที่โลก...ใบหน้านิ่งจึงหันไปหาตัวช่วยที่ยืนอยู่ข้างหลัง แต่ฮิโนะก็ทำได้แค่ส่ายหน้าพลางยิ้มแหยๆ ส่วนเอเลน....คงไม่ต้องคิดจะพึ่ง...แค่ให้เดินอยู่ในฐานทัพโคมัตสึก็ยังหลงเลยมั้งนั่น

“ เอาไงดี? จะให้วิ่งไปเรื่อยๆก็คงไม่ไหวหรอก ไอ้รถนี่ไม่ได้มีน้ำมันมากขนาดนั้นซะด้วย”   ริมฝีปากถึงกับสบถออกมา ในเวลาแบบนี้ถ้ามีเจ้าอิชิกาว่าอยู่ด้วยก็คงจะดี ถึงจะดูเหมือนเป็นคนที่ไร้ประโยชน์แต่กลับมีประโยชน์อย่างไม่น่าเชื่อ

และพอนึกถึงใบหน้าขี้ขลาดตาขาวของหมอนั่นขึ้นมา...ไอ้ของที่เจ้าอิชิกาว่ามักจะติดตัวเอาไว้เสมอก็ผุดขึ้นในหัวของเขาถ้าจะให้หาแผนที่ที่เป็นแผ่นกระดาษในตอนนี้คงยากยิ่งกว่างมเข็มในทะเล แต่ถ้าเป็นแผนที่ที่มีอยู่ในอินเตอร์เนตละก็....

“ แวะเข้าไปในบ้านหรือร้านค้าก็ได้ เราต้องหาคอมพิวเตอร์สักเครื่อง”   


โคร่ก.......


แล้วก็แทนที่จะใช้ปากตอบรับ ไอ้บ้ายูกลับใช้กระเพาะส่งเสียงออกมาแทน....ใบหน้าหล่อเหลาถึงกับหัวเราะร่า

อ่า....คงต้องแวะจริงๆนั่นแหละ


สภาพร้านค้าที่พวกเขาขับรถผ่านดูๆไปแล้วแวะไปก็คงไม่มีอะไรเหลือให้กิน กระจกที่แตกละเอียดกับชั้นวางของที่ล้มระเนระนาดแบบนั้นคงจะมีผู้รอดชีวิตคนอื่นเข้าไปกวาดของไปหมดแล้ว รถบรรทุกทหารจึงวิ่งผ่านมันไป

“ เฮย์โจว ถ้าเป็นที่นั่นล่ะครับ?”   ฮิโนะชี้ให้เขาดูอินเตอร์เนตคาเฟ่ซึ่งประตูเหล็กม้วนห้อยต่องแต่งอยู่ครึ่งหนึ่ง ถึงไม่รู้ว่าจะมีของกินหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆคือมันต้องมีคอมพิวเตอร์!

“ โฮ่ย ยู”   เสียงทุ้มหันไปสั่งคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย

“ โอ้สสสส”   มือใหญ่หมุนให้ล้อสีดำเลี้ยวออกข้างทางก่อนจะเหยียบคันเร่งเต็มที่


โครม!!


รถบรรทุกทหารพุ่งชนประตูม้วนเหล็กก่อนจะจอดคาเอาไว้แบบนั้น อย่างน้อยรถนี่ก็คงช่วยกันซอมบี้ได้สักพัก

เสียงปืนลูกซองในมือยูสับไกเตรียมส่องหัวใครก็ตามที่อยู่ข้างในตึกนี้ เช่นเดียวกับดาบญี่ปุ่นของเขาที่ถูกชักออกมาจากฝัก  เพราะประตูมันถูกพังอยู่ก่อนแล้วเขาจึงไว้ใจไม่ได้ว่าจะไม่มีไอ้พวกซากศพหิวกระหายอยู่ในนี้

ฝ่าเท้าในรองเท้าบูทเหยียบย่างลงไปบนเศษกระจกที่แตกละเอียด นัยน์ตาคมกริบจ้องมองเข้าไปในแสงสลัวๆ ประสาทสัมผัสทั้งหมดตื่นตัวทำให้ที่หน้าผากเริ่มจะมีเหงื่อซึม ถึงแม้คอมพิวเตอร์จะตั้งเรียงรายอยู่ตรงหน้า  ทว่า  หากไม่สำรวจดูทุกซอกทุกมุมจนแน่ใจว่าไม่มีซอมบี้ พวกเขาก็คงจะวางใจนั่งหาแผนที่กันไม่ได้

เขาส่งสัญญาณมือให้ยูไปดูในห้องครัวกับประตูหลัง ส่วนตัวเขาก้าวเดินขึ้นไปบนบันได นัยน์ตากวาดมองทุกตารางนิ้วแต่ก็ไม่เจออะไร ฝ่าเท้าตั้งใจจะเดินไปสำรวจห้องอื่นต่อ ทว่า


เคร้ง....


เสียงก้องกังวานของท่อนเหล็กทำให้ขนทั่วร่างลุกชัน ใบหน้านิ่งหันกลับไปมองตู้เหล็กเพียงใบเดียวในห้องนั่นทันที...เสียง...มันดังมาจากตรงนั้นไม่ผิดแน่

ยูก้าวขาตามขึ้นมาก่อนที่เขาจะส่งสัญญาณให้ส่องปากกระบอกปืนลูกซองไปที่ตู้นั่น  ลมหายใจถูกสูดเข้าลึกๆก่อนที่มือของเขาจะเอื้อมไปหามือจับของบานตู้ ใบหน้าพยักให้ยูแล้วกระชากประตูตู้ออก!


เคร้ง!!!


ท่อเหล็กหวดนำออกมา ทำให้เขากับยูผงะไป ดาบในมือถูกยกขึ้นกันมันเอาไว้ ยังดีที่ปฏิกิริยาของพวกเขาว่องไวถึงได้ไม่เผลอลั่นไกปืนใส่ไปซะก่อน เพราะการหวดท่อนเหล็กไปมาพร้อมกับตะโกน ย๊ากๆ แบบนี้ไอ้พวกซอมบี้มันทำไม่ได้แน่

“ โยชิดะ!”   เขาจับไหล่เล็กของโยชิดะ ไอโกะ ที่ยังหลับหูหลับตาหวดท่อเหล็กไปมาก่อนจะเขย่าให้รู้ตัว นัยน์ตาสีขี้เถ้ามองอดีตว่าที่คู่หมั้นด้วยดวงตาเบิกค้าง ทำไมเธอถึงมาอยู่ในที่แบบนี้ได้ล่ะ? ไม่ได้อยู่ที่สถาบันวิจัยนามิโมริหรือยังไง?

“ ระ รีไว....”   และเมื่อเธอเห็นว่าเขาเป็นใคร ท่อเหล็กในมือก็ถึงกับร่วงกราวเช่นเดียวกับร่างเล็กที่ทรุดลงไปนั่งกองอยู่บนพื้นอย่างหมดแรง

“ ดีใจจริงๆที่คุณมา...ดีจริงๆที่คุณยังมีชีวิตอยู่”   หากเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะโผเข้ามากอดเขาแล้วพูดจาเอาแต่ใจ แต่ตอนนี้ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าในตัวโยชิดะมีอะไรที่เปลี่ยนไป การที่ต้องเอาชีวิตรอดจากนรกแบบนี้อาจจะทำให้เธอเข้มแข็งขึ้นก็เป็นได้

“ เกิดอะไรขึ้น? เราคงต้องแชร์ข้อมูลกันเท่าที่มี เล่าให้ชั้นฟังหน่อยซิ”   ใบหน้าได้รูปที่ลบเครื่องสำอางออกจนหมดพยักลงน้อยๆ นัยน์ตากลมโตมีแววราวกับคนถอดใจแต่ไม่นานมันก็กลับมาแข็งกร้าวอีก

“ สักครู่นะคะ”   หญิงสาวลุกขึ้นก่อนจะก้าวฉับๆตรงไปยังตู้ที่เปิดคาอยู่ข้างหนึ่ง มือบางดึงคอเสื้อของใครอีกคนที่ซ่อนอยู่ในนั้นด้วยออกมา

“ จะหลบอยู่ในนั้นไปถึงเมื่อไหร่ยะ?! ออกมาได้แล้ว!”   คนที่ถูกเหวี่ยงลงไปนั่งตัวสั่นอยู่ที่พื้นทำให้เขาตะลึงเสียยิ่งกว่าตอนเจอโยชิดะ ไอโกะ...นั่นก็เพราะว่าหมอนี่คือคนที่ทำให้เขาตัดสินใจหาคอมพิวเตอร์จนเข้ามาในตึกหลังนี้...อิชิกาว่า มิซาโตะ!!

“ ฮะ เฮย์โจ?!”    เจ้าวิทยุการบินเอาแต่หลับตาสวดภาวนาจึงเพิ่งจะเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือเขา ใบหน้าดีใจจนร้องไห้ออกมานั่นทำให้เขาถอนหายใจพลางส่ายหน้า....หมอนี่ให้ผู้หญิงอย่างโยชิดะ ไอโกะออกมาไล่ฟาดซอมบี้แต่ตัวเองหลบอยู่ในตู้เนี่ยนะ? เฮ้อ...อนาคตสามีที่เป็นช้างเท้าหลังแน่ๆคนแบบนี้

แต่ก็อย่างที่บอกแหละ ว่าถึงมันจะไร้ประโยชน์แต่บางครั้งก็มีประโยชน์อย่างไม่น่าเชื่อ ดูจากโน้ตบุคที่ส่งสัญญาณไฟกระพริบตรงหน้านี่ก็ได้

พวกเขาทั้งหมดขึ้นมารวมกันอยู่ที่ห้องบนชั้นสอง แน่นอนว่าโยชิดะ ไอโกะกับอิชิกาว่าได้แต่อ้าปากพะงาบๆเมื่อเห็นหน้าเอเลนกับฮิโนะ เพราะทั้งสองคนก็เห็นมากับตาว่าเอเลนและฮิโนะถูกกัดและน่าจะเป็นซอมบี้ไปแล้ว 

เขาเล่าให้ทั้งสองคนฟังคร่าวๆว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง รวมทั้งสมมติฐานว่าเอเลนอาจจะมีแอนตี้ไวรัสอยู่ในร่างกาย และเมื่อถึงตาที่ทั้งคู่เล่าบ้างว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับกลุ่มคนที่มาจากฐานทัพของเขา ใบหน้าของโยชิดะ ไอโกะก็มีแววหมองลง

“ พวกเราเอาเครื่องบินลำเลียงลงที่ฐานมิซาว่าได้สำเร็จ ที่นั่นไม่มีคนเหลืออยู่แล้ว เราเลยฝ่าซอมบี้ออกมาได้ไม่ยาก พวกเราก็ใช้รถบรรทุกทหารเหมือนคุณนี่แหละ แต่ว่าตอนมาถึงที่สถาบันวิจัยจากที่คิดกันว่าจะทำยังไงให้พวกนั้นยอมช่วยเรา แต่กลับกลายเป็นว่าพวกนั้นเปิดประตูให้เราเข้าไปแต่โดยดี....”   โยชิดะ ไอโกะเป็นคนเล่าให้พวกเขาฟัง

“ พวกนั้นออกมาต้อนรับพวกเราอย่างดีเกินคาด...แต่ก็เพราะอีตานี่มัวแต่เงอะงะหาแว่นที่ตกอยู่บนรถไม่เจอ ชั้นเลยต้องช่วยหา...แล้วปรากฏว่า....พอตอนที่เราสองคนเดินตามหลังเข้าไป คนอื่นๆก็ถูกพาตัวเข้าไปข้างในกันหมดแล้ว....”   ใบหน้าสวยหันไปแยกเขี้ยวใส่อิชิกาว่าที่นั่งซับเหงื่ออยู่ข้างๆก่อนจะเล่าต่อไป

“ พวกนั้นไม่ได้คิดจะช่วยเรา....แต่ทุกคนที่ถูกพาเข้าไป...ถูกฉีดยาอะไรบางอย่าง...แล้วไม่นานพวกนั้นก็มีอาการทุรนทุราย....แล้วก็กลายสภาพเป็นซอมบี้ไปในที่สุด...”   โยชิดะ ไอโกะ พูดด้วยสีหน้าสลด ถึงแม้เธอจะเป็นเพียงแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆที่ยังมีความอิจฉาริษยาตามประสา แต่เขาเชื่อว่าในร่างกายของเธอมีเลือดของทหารอยู่ไม่ใช่น้อย

“ พวกเราเลยหนีออกมากันสองคน...เพราะหากยังอยู่ที่นั่นและพวกนั้นเจอเราเข้า...ก็คงไม่พ้นที่จะถูกนำไปทดลองแบบนั้นแน่...”   ใบหน้าของเขาถึงกับชาวาบอย่างไม่อยากจะเชื่อเลยว่า จะมีใครทำกับเพื่อนมนุษย์ที่หนีตายมาหากันได้ลงคอแบบนี้  ห้องทั้งห้องนั่งงันไปกับสิ่งที่ได้ยิน ขนาดยูเองก็ยังมีสีหน้าเคร่งเครียด

นอกจากเรื่องความชั่วช้าของพวกในสถาบันวิจัย อีกความรู้สึกหนึ่งที่ทำให้ในหัวถึงกับเคว้งคว้างเพราะที่พึ่งเดียวที่มีในตอนนี้กลับหลุดลอยไป

ไม่มีประโยชน์...สถาบันวิจัยนามิโมริไม่ได้คิดจะช่วยพวกเขา

แล้วจากนี้...จะทำยังไงต่อไปดี...


ถึงจะหนีต่อไปเรื่อยๆ...แต่มันก็คงเป็นเพียงการหนีที่ไร้อนาคต....


เขาเข้าใจแล้ว...ว่าทำไมโยชิดะ ไอโกะ ถึงมีสีหน้าของคนที่ถอดใจ...เพราะแบบนี้มันก็เท่ากับว่าเอาตัวรอดไปเพียงวันๆเท่านั้น

“ นั่นนายกำลังทำอะไรอยู่?”   หลังจากปล่อยให้ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบมานาน เขาจึงหันไปถามอิชิกาว่าที่ยังจ้องหน้าจอโน้ตบุคแม้จะอยู่ในความสิ้นหวังแบบนี้

“ พวกนั้น...ต้องซ่อนอะไรเอาไว้แน่ๆ ผมเลยแฮคระบบกล้องวงจรปิดตามถนนเพื่อจับตาดูพวกมัน...เพราะมีแต่เรื่องนี้ที่ผมทำได้...”   คำตอบของอิชิกาว่าทำให้เขาแปลกใจและมันก็ทำให้เขาเผลอหัวเราะในลำคอ...หึ...ถึงจะขี้ขลาดตาขาวแบบนี้แต่หมอนี่ก็ยังไม่ตัดใจที่จะรอดชีวิตให้ได้สินะ

เขาหันหน้าไปมองสีหน้าหวั่นวิตกของเอเลน....

ใช่...เขาเองก็จะไม่ละทิ้งความหวัง

ต่อให้พรุ่งนี้จะตายก็ขอให้วันนี้พวกเขาได้อยู่ด้วยกันให้ถึงที่สุด  ขอแค่ให้ได้อยู่ด้วยกันเพิ่มขึ้นอีกสักนาทีก็ยังดี


“ มะ เมื่อหลายชั่วโมงก่อนมีกลุ่มเด็กผู้ชายขับเบนซ์สปอร์ตสีขาวมา จากตอนแรกที่พวกนั้นยิงปืนกลใส่แต่พอเห็นหน้าเด็กคนหนึ่งในนั้นเข้า พวกมันก็หยุดยิงและเปิดประตูให้รถคันนั้นเข้าไป  แล้วก่อนที่เฮย์โจวจะมาถึงก็ดูเหมือนในสถาบันวิจัยนั่นจะมีเรื่องวุ่นวายอะไรบางอย่าง....”   เจ้าอิชิกาว่าเล่าให้ฟัง ถึงเขาจะไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันสำคัญตรงไหนแต่ก็ยังดีกว่าปล่อยไปเฉยๆ เขาเลยให้อิชิกาว่าจับตาดูพวกนั้นต่อไป เผื่อมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นเขาจะได้หาทางหนีทีไล่ทัน

“ เราจะปักหลักอยู่ที่นี่กันไปก่อน”  เขาตัดสินใจก่อนจะบอกออกไปซึ่งทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย พวกเขาเหนื่อยล้าเกินกว่าจะเดินทางไปเรื่อยๆได้ในตอนนี้ คงต้องพักกันเสียก่อน

“ คงต้องเสริมความแข็งแรงของชั้นล่างกันก่อนสินะ”  ยูลุกขึ้นบิดขี้เกียจแทนคำพูดว่าตกลง

“ เรื่องเสบียงอีกล่ะ แต่ก็ยังดีที่ที่นี่เป็นคาเฟ่ละนะ”   ฮิโนะเองก็ดูเหมือนจะรู้ว่าควรจะทำอะไร

“ เดี๋ยวก่อนค่ะร้อยโทโนเสะ เรื่องอาหารให้ชั้นจัดการเอง แต่อยากให้คุณดูเครื่องปั่นไฟให้มากกว่าเหมือนมันจะเสียอยู่?”   โยชิดะ ไอโกะเองก็ยอมร่วมมือด้วยถึงแม้ว่าเธอเองจะยังเขม่นใส่เอเลนอยู่บ้าง...แหงละ...ถูกเด็กนั่นแย่งคนที่ตัวเองชอบไปก็คงจะยอมรับกันไม่ได้ง่ายๆ

หญิงสาวพาฮิโนะที่น่าจะรู้เกี่ยวกับเครื่องกลที่สุดในหมู่คนที่ยืนอยู่ตรงนี้ไปดูเครื่องปั่นไฟ ถึงแม้ว่าพวกเขาคงไม่ได้ใช้มันในตอนกลางคืนแต่โน้ตบุคของเจ้าอิชิกาว่าก็ยังต้องการไฟฟ้าอยู่  คนทั้ง 6 ต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง สองขาของเขาเดินสำรวจตั้งแต่ชั้นบนสุดลงมาเพื่อหาว่ามีทางไหนที่ไอ้พวกซอมบี้จะเข้ามาได้อยู่หรือเปล่าถึงได้เพิ่งรู้ว่าตึกนี้มีทั้งหมด 3 ชั้นและดาดฟ้าอีกหนึ่ง

ฝ่าเท้าในรองเท้าบูทเดินกลับลงมายังชั้นล่างหลังจากปิดตายหน้าต่างทุกบานเรียบร้อยแล้ว ได้ยินเสียงยูตอกตะปูปิดทางเข้าออกเท่าที่จะทำได้อยู่ เขาจึงตั้งใจจะเดินเข้าไปช่วย  ทว่า...


“ น้ำ...”   เห็นแขนของฮิโนะยื่นขวดน้ำให้ผู้เป็นพี่ชาย เขาจึงเลี้ยวหลบเข้าไปหลังผนังแทนที่จะก้าวขาออกไป

“ ..........ซ่อม...เครื่องปั่นไฟเสร็จแล้วหรอ?....”  ยูรับขวดน้ำไปถือไว้ก่อนจะนิ่งไป...เขารู้ว่าอาการแบบนั้นไม่ใช่ว่าหมอนั่นจะหาเรื่องฮิโนะ แต่เป็นเพราะกำลังไม่รู้จะทำยังไงต่างหาก...หึ...พอเป็นเรื่องของฮิโนะ ไอ้บ้ายูนั่นมันจะงี่เง่าได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะก่อนหน้านี้ใช้วิธีหาเรื่องบังหน้า พอต้องพูดกันดีๆเลยได้แต่อ้ำๆอึ้งๆไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหนสินะ  ทีกับคนอื่นละเก่งนักพันโทโนเสะ!

“ อื้อ....”   ใบหน้าน่ารักก้มมองพื้นก่อนจะตอบกลับมาด้วยหน้าแดงๆ...ฮิโนะคงรู้สินะว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง

“ ........”   แล้วความเงียบก็โรยตัวอยู่รอบๆทั้งสองคน

“ ยังไม่ได้บอกใช่ไหมล่ะ...”   ก่อนจะเป็นฮิโนะที่โพล่งออกไป ใบหน้าเลิ่กลั่กนั่นจะว่าไปก็น่าเอ็นดูอยู่เหมือนกัน

“ หื๋อ?”   ไอ้บ้ายูตอบรับกลับมาด้วยใบหน้าเอ๋อๆ เขาควรจะขำดีไหมนะกับท่าทางเขินๆของคนคู่นี้

“ ยังไม่ได้บอกนายเลยว่า...ขอบคุณ....”   นี่ถ้ามีรูอยู่แถวนั้น ฮิโนะ คงจะมุดเข้าไปด้วยหน้าแดงเถือกนั่นไปแล้ว ร่างเล็กหลับหูหลับตาพูดออกมาก่อนจะตวัดตัวเตรียมจะวิ่งหนี...นี่ก็คงไม่ชินกับการที่จะต้องพูดดีๆกับอีกฝ่ายเหมือนกันสินะ ทั้งๆที่ฮิโนะเองก็พยายามแทบตายเพื่อให้ยูยอมรับ...หึ....อยากจะอวยพรให้เวลาของพวกเขามันยาวกว่านี้จริงๆ

“ ฮิโนะ!   มือใหญ่ข้างที่ไม่ได้ถือขวดน้ำคว้าท่อนแขนของคนที่กำลังจะหนีไปเอาไว้  เขาคิดว่ายูเองก็คงรู้...ว่าพวกเขาไม่ได้มีเวลายาวนานขนาดนั้น

“ อะ...อะไร....”   ฮิโนะหันหน้ากลับไปหาช้าๆ ไอ้บ้ายูจึงตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม

“ อยู่ด้วยกัน...ตรงนี้ก่อนสิ....”   และนั่นมันคงจะเป็นรอยยิ้มครั้งแรกที่ยูยิ้มให้ มันเลยทำเอานัยน์ตากลมโตถึงกับสั่นพร่า ใบหน้าของฮิโนะพยักลงช้าๆก่อนจะนั่งลงใกล้ๆ


เขาควรจะปล่อยให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันสินะ

เพราะงั้นสองขาจึงก้าวออกมา...หึ...ในหัวใจรู้สึกอุ่นๆยังไงชอบกล...


ร่างแข็งแกร่งตั้งใจจะเดินขึ้นไปประจำการอยู่บนดาดฟ้า อย่างน้อยจากตรงนั้นมันก็มองเห็นรอบๆได้ดีกว่าที่อื่น

“ ชั้นยังไม่ยอมรับนายหรอกนะจะบอกให้!”   แต่ในขณะที่กำลังก้าวขาผ่านหน้าห้องครัว เสียงของโยชิดะ ไอโกะก็ดังรอดออกมาให้ได้ยิน เขาก็ไม่ได้อยากจะแอบดูหรอกถ้าคนที่เธอคุยอยู่ด้วยจะไม่ใช่เอเลน...นี่ยังคิดจะหาเรื่องเด็กนั่นอยู่อีกเหรอเนี่ย?

เขาถอนหายใจ แต่ก่อนที่จะได้เดินเข้าไปลากเอเลนออกมา...

“ ปอกแบบนี้สิยะ ทำแบบนั้นจะเหลือเนื้อให้กินไหมเนี่ย?! ให้ตายเถอะถ้ารีไวอยู่กับนายต้องอดตายแน่!”   โยชิดะ ไอโกะกลับกำลังปอกเปลือกมันฝรั่งให้เอเลนดู? แล้วเด็กนั่นก็กำลังมองอย่างตั้งใจจะจดจำ  มือบางก็พยายามทำตามไปด้วย

“ แล้วรู้หรือเปล่าว่านี่เรียกว่าอะไร? มันฝรั่งไงยะ มันฝรั่ง! เวลาไปหาซื้อก็เรียกให้มันถูกๆจะได้ไม่ไปหยิบเผือกมาให้รีไวกิน!”   ถึงวิธีการสอนมันจะโหดไปหน่อย แต่กับเอเลนที่ไม่ได้สนใจท่าทางร้ายๆของโยชิดะก็คงไม่เป็นไรมั้ง เขาจึงปล่อยเด็กนั่นไว้แบบนั้น



ร่างแข็งแกร่งยืนอยู่บนดาดฟ้าของตึก นัยน์ตาสีขี้เถ้ากวาดมองไปรอบๆที่เหลือเพียงอาคารว่างเปล่าไร้เงาผู้คน ตึกแถวที่เคยดูดีเมื่อไม่กี่วันที่แล้วตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากอาคารในเมืองร้าง  ถนนหนทางที่เคยสวยสะอาดกลับเต็มไปด้วยเศษซากพังๆ แผ่นกระดาษฉีกขาดที่ปลิวไปเรื่อยๆทำให้รู้สึกวังเวงอย่างบอกไม่ถูก...นี่เหลือพวกเขาอยู่ในโลกใบนี้เพียง 6 คนหรือเปล่านะ...


ท้องฟ้าสีใสค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นสีดำ หมู่ดาวที่ถูกดวงอาทิตย์บดบังค่อยๆเปล่งแสงระยิบระยับขึ้นเรื่อยๆ....พอไม่มีไฟฟ้า...ดวงดาราที่หายไปจากเมืองใหญ่จึงหวนกลับมาอีกครั้งและตอนนี้มันก็กำลังพร่างพราวเต็มท้องฟ้า

เสียงเปิดประตูทำให้คนที่นั่งเฝ้าอยู่บนนี้มาทั้งวันหันไปดู...เอเลนโผล่หน้าออกมาพร้อมกับจานข้าวสองใบ

“ เฮย์โจว...ทานข้าวครับ”   จานใบหนึ่งถูกยื่นมาให้เขาก่อนที่ร่างโปร่งบางจะนั่งลงมาข้างๆ

“ บอกแล้วไงว่าก่อนกินข้าวต้องทำยังไง?”   ใบหน้ามนเหลือบมองเขาอย่างอายๆก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาหาแล้วจูบลงมาบนแก้มเขาเบาๆ

“ คนทั่วไปเขาทำแบบนี้กันจริงๆเหรอครับ.....”   เอเลนพูดพึมพำราวกับยังสงสัยในสิ่งที่เขาบอก...คนทั่วไปก็ไม่มีใครเค้าทำแบบนี้กันจริงๆนั่นแหละ

“ แล้วคนอื่นๆทำอะไรอยู่?”   เขาเฉไฉเปลี่ยนเรื่องในขณะที่ตักข้าวเข้าปาก แกงกะหรี่นี่เอเลนก็ช่วยทำด้วยสินะ นัยน์ตาสีมรกตถึงได้มองมาด้วยสายตาวิ้งวับราวกับกำลังรอคำชมจากเขา

“ อร่อย”   ใบหน้ามนจึงยิ้มแก้มปริก่อนจะลงมือกินของตัวเองบ้าง

“ สองคนที่เฝ้าชั้นล่างอยู่ก็กำลังกินข้าวครับ ส่วนคุณโยชิดะหลับไปแล้ว อีกคนก็นั่งมองจอสี่เหลี่ยมนั่นเหมือนเดิม”   สถานการณ์ยังปกติอยู่สินะ...ดีแล้วละ...

ข้าวในจานของเขาหายไปเกือบหมด นัยน์ตาสีขี้เถ้าถึงเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าที่ปลายนิ้วของเอเลนนั้นมีแต่รอยแดงเต็มไปหมด

“ รอยอะไร?”   เขาดึงมือบางมาดู...เหมือนจะเป็นรอยแผลที่สมานกันไปแล้วจึงเหลือแต่รอยแดงจางๆให้เห็นและอีกไม่นานรอยพวกนี้ก็คงจะหายไป

“ มีดบาดตอนทำกับข้าวครับ....มันยังไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่”   เอเลนหัวเราะแหะแหะ ทำให้เขาอดที่จะยื่นมือไปโยกหัวสีน้ำตาลนั่นไม่ได้

“ ไม่มีใครเก่งตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำหรอก แล้วเจ็บหรือเปล่า?”  

“ เจ็บตอนที่ถูกบาด แต่พอแผลติดกันก็ไม่เจ็บแล้วครับ”   ถึงจะสะดวกดีที่ไม่ต้องใส่ยารักษาแต่ว่ามันก็ยังมีความรู้สึกเจ็บอยู่เหมือนกันสินะ...แล้วถ้า...เป็นแผลที่อยู่ข้างใน...จะสมานตัวไวแบบนี้หรือเปล่านะ....

อีกอย่าง...เขาก็อยากจะทดลองให้แน่ใจ...จะได้คอยระวังตัวเอาไว้ไม่ให้ไปเลือดตกยางออกในสภาวะที่ทำไม่ได้

ฝ่ามือจึงหยิบมีดพกที่เช็ดคาเอาไว้ขึ้นมาก่อนจะกดปลายนิ้วลงไปเล็กน้อยพอให้เลือดปริ่มจากรอยแผล....


เลือด...ของเขา...


“ อึก...”   เสียงครางแผ่วๆดังมาจากร่างโปร่งที่นั่งอยู่ข้างๆ

เอเลนมีท่าทางเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่ามือบางจะค่อยๆวางจานข้าวลงราวกับยังมีสติแต่ร่างโปร่งกลับขยับเข้ามาหาเขาด้วยดวงตาหรี่ปรือ  แล้วริมฝีปากสีระเรื่อที่กำลังสั่นระริกอย่างพยายามห้ามความต้องการ “อยากกัด” ตามสัญชาติญาณของซอมบี้ก็งับลงมาที่ต้นแขนของเขาจนได้

ใช่จริงๆด้วยสินะ...

เลือดของเขากระตุ้นไวรัสซอมบี้ในตัวเอเลนจริงๆ


“ อื้อ~~”   เสียงออดอ้อนดังออกมาจากใบหน้าที่กำลังช้อนตาขึ้นมามองเขา...มีซอมบี้ที่ไหนทำหน้าแบบนี้ตอนจะกัดคนบ้าง? แถมเจ้าซอมบี้ตัวนี้มันยังไม่ยอมกัดจนกว่าเขาจะปลดกระดุมเสื้อให้เสียด้วยนะ...จะไม่ยอมถอดเองแต่จะส่งเสียงอื้อๆเอาแต่ใจอยู่แบบนี้แหละ

มือแข็งแรงจึงเลื่อนไปแกะกระดุมเสื้อของตัวเองออกอย่างช่วยไม่ได้ แผงอกบึกบึนกับกล้ามหน้าท้องสวยงามค่อยๆถูกริมฝีปากสีระเรื่อสั่นระริกนั่นไล่งับไปทั่ว

ความนุ่มนิ่มของริมฝีปากทำเอาเขาต้องกัดฟัน ปลายลิ้นชื้นแฉะที่ไม่ได้จงใจแตะแต่มันก็สัมผัสกับผิวเนื้อของเขาทำเอาลมหายใจรู้สึกติดขัด แผ่นหลังแข็งแรงจำต้องเอนพิงกำแพงคอนกรีตเพื่อรอรับเจ้าซอมบี้ที่ถาโถมเข้ามา ลำตัวบางที่กำลังยันแขนคร่อมเขาอยู่ดูเย้ายวนจนมือเผลอเลื่อนไปลูบบั้นท้ายนิ่มนั่นเบาๆ

ใบหน้ามนขยับขึ้นมาหาใบหน้าของเขาอย่างเชื่องช้า ริมฝีปากที่ขยับน้อยๆราวกับกำลังทรมานกับอาการอยากกัดของตัวเองนั่นมันเซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก นัยน์ตาสีมรกตสั่นพร่าจ้องอยู่ที่ริมฝีปากของเขาราวกับอยากจะจู่โจมมันใจแทบขาดและเมื่อเขาแล่บลิ้นเข้าไปไล้เลียกลีบปากนิ่ม เจ้าซอมบี้ก็ตรงเข้างับริมฝีปากเขาทันที

แรงกัดน้อยๆกลับกระตุ้นสัญชาติญาณดิบของเขาเสียมากกว่า เรียวลิ้นจึงสอดแทรกดึงดันเข้าไปในโพรงปากที่งับเขาทั่วแผงอกก่อนจะเกี่ยวกระหวัดรัดพันปลายลิ้นที่ไร้เดียงสา  ฝ่ามือแข็งแรงเลื่อนไปที่ท้ายทอยสีน้ำตาลก่อนจะกดมันลงมารับจูบที่แสนเร่าร้อน

เขาผ่อนแรงชั่วครู่ให้ริมฝีปากสั่นระริกนั่นได้ละออกมาหายใจ ก่อนจะเปลี่ยนมุมแล้วตามมาจูบซ้ำๆลงไปอีก น้ำลายที่ไหลย้อยลงมาตามคางมนปะปนกันจนไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร

“ อะ อื้อ~”   หัวสีน้ำตาลสะบัดหนีเมื่อเขาละริมฝีปากออกมาเล็กน้อย ปฏิกิริยาราวกับลูกหมาทำให้เขาเผลอหัวเราะในลำคอ และพอมีช่อง ใบหน้าของเจ้าซอมบี้ก็ขยับมางับต้นคอของเขาก่อนจะขยับริมฝีปากไล่ไปเรื่อยๆ

สัมผัสของรอยฟัน ลิ้น และริมฝีปากนิ่มๆนั่นยิ่งกว่าสารกระตุ้น เพราะตอนนี้ไม่ใช่แค่ลมหายใจของเขาจะหอบหนักแต่ข้างล่างเองก็เริ่มจะตื่นตัวอย่างห้ามไม่อยู่  ที่เป้ากางเกงชักจะอึดอัดจากการขยายตัว เขาจึงขยับใบหน้าเข้าไปนัวเนียกับแก้มใสก่อนที่สองมือจะโอบแผ่นหลังของคนที่ยังง่วนอยู่กับลาดไหล่ให้เข้ามาแนบชิด ริมฝีปากกดจูบซุกไซร้ไปที่ซอกคอของเจ้าซอมบี้บ้าง เสียงครางในลำคอจึงดังขึ้นมาเบาๆ

“ อ่ะ...”   เสื้อเชิ้ตสีขาวบนแผ่นหลังบางถูกดึงลงไป ลาดไหล่ขาวผ่องเผยออกมาต้องแสงจันทร์...หึ....จะว่าโรแมนติกน่าดูหรืออีโรติกดีก็ไม่รู้นะ กับการมีเซ็กส์บนดาดฟ้าท่ามกลางหมู่ดาวที่พร่างพราวอยู่รอบตัวแบบนี้

ท่อนขาบางที่นั่งคร่อมลำตัวเขาอยู่คงจะรู้สึกได้ถึงความร้อนที่กลางหว่างขา  เจ้าซอมบี้ขี้สงสัยไถลตัวไปตามท่อนขาของเขาและริมฝีปากก็ไม่อยู่เปล่าๆ มันยังคงงับไปตามกล้ามหน้าท้องของเขาลงไปเรื่อยๆ..เรื่อยๆ....

“ อึก....”    ไม่ไหว....เผลอหลุดเสียงออกไปจนได้...รู้สึกดีจนกลัวซะแล้วสิว่าถ้าปลดซิปกางเกงออกมามันอาจจะแตกใส่หน้าเจ้าซอมบี้ตัวดีนี่

“ อื้อ....”   นัยน์ตาสีมรกตช้อนขึ้นมามองเพราะต้องการอ้อนให้เขาดึงซิปออกให้....อ่า...เดี๋ยวก่อน...ขอสงบสติแป๊บ....

มือใหญ่จับหัวสีน้ำตาลให้อยู่นิ่งๆ แต่เจ้าซอมบี้กลับส่ายหัวหนีก่อนจะก้มลงไปงับซิปของเขาแล้วรูดลงช้าๆ...ทีแบบนี้ละถอดได้ซะงั้น?

นัยน์ตาสีมรกตจ้องมองความเป็นชายที่ขยายตัวเต็มที่อย่างสงสัย ริมฝีปากสั่นระริกนั่นอย่าบอกนะว่า...

“ อึก....”    งับ....เจ้าซอมบี้มันงับของของเขา!

“ เดี๋ยวเอเลน.....”    รอยฟันที่กดลงไปเบาๆ กับเรียวลิ้นที่สัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วไหนจะยังริมฝีปากนิ่มๆที่ไล่กดไปตามความแกนกาย...อ้า...รู้สึกดีจนแค่กัดฟันคงเอาไม่อยู่แล้วตอนนี้

เขาปล่อยให้เจ้าซอมบี้งับซะให้พอใจ มือแข็งแรงก็เลื่อนไปกอบกุมส่วนอ่อนไหวของเจ้าตัวดีเช่นกัน

“ อะ?! อื้อ!”   และแค่ฝ่ามือรูดขึ้นลงเบาๆ เจ้าซอมบี้ก็ถึงกับสะดุ้งโหยงครางเสียงหลงก่อนจะอมของเขาเข้าไป....อา~~ หยุดเดี๋ยวนี้...

“ อึก...”    สันกรามกัดกันแน่นอย่างไม่มีวันยอมถึงก่อนเจ้าเด็กนี่แน่ ฝ่ามือแข็งแรงกระชับส่วนอ่อนไหวของเจ้าซอมบี้แน่นก่อนจะรูดขึ้นลงแรงๆจนร่างโปร่งถึงกับบิดเร่า...แน่นอนว่าของของเขาก็ยังอยู่ในปากที่ไม่ยอมปล่อยมันออกมา

“ อื้อ~~”   นี่คงจะเป็นการต่อสู้ที่รู้สึกดีที่สุดในโลกแล้วมั้ง เพราะทุกครั้งที่มือเขาขยับ เรียวลิ้นที่โอบรัดของของเขาอยู่ก็ทำเอาแทบคลั่ง

ฝ่ามือรูดถี่กระชั้นตามอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ความอยากทำให้ควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่ไหวอีก มืออีกข้างที่ว่างจึงกดหัวสีน้ำตาลเข้ามาด้วยความรวดเร็วก่อนที่จะปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างใส่ปากของเจ้าซอมบี้จนส่วนที่รับไม่ไหวก็ไหลทะลักลงมายังปลายคางก่อนจะหยดแหมะๆลงพื้น...บอกตามตรงว่าใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบคาวสีขาวขุ่นของเจ้าเด็กตรงหน้ากำลังจะทำให้ของที่เพิ่งสงบลงไปตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง...จะให้ใส่เข้าไปทั้งวันทั้งคืนเลยก็ยังได้!

“ แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก.....”   เจ้าซอมบี้ละออกไปนั่งหอบจนตัวโยนและดูเหมือนคราวนี้จะยังไม่ยอมหมดแรงแล้วหลับไปง่ายๆ...มือบางจึงยกขึ้นไปปาดของเหลวที่ไหลอยู่ตามปลายคางก่อนจะพยายามคายของในปากออกมาอย่างไม่รู้ว่ามันคืออะไร....ไอ้ท่าทางไม่ประสีประสาแบบนี้น่ะขอทีเถอะ...

ฝ่ามือรวบข้อมือบางเอาไว้ก่อนจะกดลงกับพื้นดาดฟ้าจนแผ่นหลังที่ยังอยู่ในเสื้อเชิ้ตหลุดรุ่ยเอนราบไปกับพื้น...พอเริ่มชิน แค่รอบเดียวมันคงจะทำให้เหนื่อยไม่พอสินะ...ถ้างั้นก็....

นิ้วยาวล้วงเข้าไปในโพรงปากของเจ้าซอมบี้ก่อนจะกวาดเอาน้ำสีขาวขุ่นของตัวเองออกมา  ท่อนแขนอีกข้างยื่นออกไปให้งับเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ กางเกงที่ยังค้างๆคาๆอยู่ถูกดึงออกไปให้พ้นเรียวขา ท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงของดวงดาวก็ยิ่งขับให้ผิวขาวๆยิ่งดูผ่องใส

ไม่ไหว....ทนไม่ไหวแล้ว!

“ อื้อ?!”   ใบหน้ามนที่ยังกัดแขนของเขาอยู่ถึงกับสะบัดไปมาเมื่อปลายนิ้วแหย่เข้าไปในช่องทางคับแน่น

“ อ่ะ อื้อ”   เจ้าซอมบี้ละริมฝีปากออกไปก่อนจะสะบัดหน้าขึ้นด้วยท่าทางทรมาน สองขาที่ถูกเขาจับแยกออกจากกันพยายามจะต่อต้าน แต่เขาก็บอกแล้วไงว่าทนไม่ไหวแล้ว!

“ เอเลน”   ท่อนบนโน้มตัวลงไป เจ้าซอมบี้ที่ได้ยินเสียงเหลือบตาที่สั่นพร่ากลับมามองก่อนจะอ้าปากงับไหปลาร้าของเขา...เอาเลย...กัดเท่าที่อยากจะกัด...เขาจะได้จัดงานข้างล่างได้ง่ายขึ้น

ปลายนิ้วที่สองสอดใส่ตามเข้าไป ข้างในมันนุ่มนิ่มเสียจนไม่อยากจะคิดว่าถ้าเปลี่ยนจากนิ้วเป็นแกนกายของเขามันจะเป็นยังไง

“ อ๊า?”   ลำตัวบางกระตุกน้อยๆเมื่อเขาเริ่มขยายช่องทางด้วยการถ่างปลายนิ้ว ถึงจะเป็นซอมบี้แต่อีกครึ่งก็ยังเป็นมนุษย์ ปฏิกิริยาทางร่างกายจึงเหมือนเด็กที่ยังบริสุทธิ์ทั่วไป

“ อื้อ!!!”   จู่ๆเจ้าซอมบี้ก็บิดเร่าพลางกัดเขาซะเต็มแรงเมื่อปลายนิ้วกดลงไปที่จุดๆหนึ่งเข้า รอยแดงจากแก้มใสที่ลามมาถึงใบหูทำให้รู้ว่าน่าจะชอบ?

ปลายนิ้วจึงกดคลึงมันเบาๆจนเจ้าซอมบี้แทบคลั่ง...สองขาอ้าออกเชิญชวนโดยไม่รู้ตัวเช่นเดียวกับนัยน์ตาออดอ้อนทั้งๆที่ยังงับเขารัวๆ ปฏิกิริยาที่สับสนปนกันมั่วไปหมดแบบนี้มันทำให้เขารู้สึกพอใจยังไงบอกไม่ถูก 

สองนิ้วละออกมาเมื่อรู้สึกว่าข้างในมันขยายตัวพอที่จะรับของของเขาเข้าไป ความเป็นชายที่ขยายใหญ่อีกรอบจ่ออยู่ที่ปากทาง เขาจับหัวสีน้ำตาลให้ริมฝีปากสีระเรื่อขยับมาใกล้ลาดไหล่  เพราะทันทีที่เขาแทรกกายเข้าไป เจ้าซอมบี้ก็กัดไหล่เขาเพื่อระบายความเจ็บแสบที่เบื้องล่างอย่างรุนแรง

“ อื้อ!!”   แล้วมันก็งับไหล่เขาอยู่แบบนั้นตลอดเวลาที่แกนกายถูดสอดใส่เข้าไป ก็นับว่าเขายังปรานีที่ไม่กระแทกพรวดรวดเดียวทั้งๆที่ความอดทนของเขามันก็หมดลงแล้ว ยิ่งผนังอ่อนนุ่มนั่นมันห่อหุ้มของของเขาแล้วบีบรัดเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำเอาอยากจะคลั่งให้ได้เท่านั้น  สองมือจึงย้ายไปจับยึดที่สะโพกมนก่อนจะปล่อยวางความอดทนทั้งหมดที่มีเสียที

“ อะ? อื้อ?!! อะ....อ้า.....”    เขาเริ่มขยับจนเจ้าซอมบี้ครางเสียงหลง ใบหน้าที่สะบัดเงยขึ้นไปอ้าปากก่อนจะขยับลงมางับไหล่ของเขาซ้ำไปซ้ำมาเพื่อระบายความเจ็บปวดที่ค่อยๆแปรเปลี่ยนไปเป็นความเสียวซ่านหอมหวาน ท่อนแขนเล็กโอบมาที่รอบคอของเขาอย่างหาที่ยึดและมันก็ทำให้เขาขยับใบหน้าเข้าไปคลอเคลียซอกคอและแก้มใสของเจ้าซอมบี้ได้ง่ายขึ้น

ความเป็นชายถูกดึงออกไปเกือบสุดก่อนจะกระแทกกลับเข้าไปใหม่ ผนังภายในที่ถูกเสียดสีเรียกเสียงครางก่อนจะตามมาด้วยรอยกัดของเจ้าซอมบี้ ป่านนี้บนไหล่เขาคงจะมีแต่รอยฟันแน่ๆ

จังหวะการสอดใส่ค่อยๆหนักหน่วงขึ้นทุกๆที แรงขยับถี่กระชั้นตามอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูง ถึงร่างโปร่งจะบิดเร่าด้วยความทรมานแต่มันก็กลับขยับรับร่างกายของเขาราวกับกำลังสุขสม รู้สึกได้ถึงรอยเล็บที่ข่วนอยู่บนหลัง แต่ผนังที่ตอดรัดเขาอยู่มันก็ทำให้อยากกระแทกกายเข้าไปซ้ำๆอยู่แบบนี้

“ อะ อ๊า~...”   คราวนี้เจ้าซอมบี้ละจากไหล่ก่อนจะส่งเสียงครางสูงๆเป็นครั้งสุดท้าย ร่างกายกระตุกเฮือกก่อนที่ความปรารถนาทั้งหมดทั้งมวลจะถูกฉีดพุ่งออกมาเต็มหน้าท้อง สองมือของเขาจึงจับยึกสะโพกมนแน่นก่อนจะกดร่างกายลงไปรวดเดียว

“ อึก....”   ของเหลวจากร่างกายเขาไหลทะลักเข้าไปในร่างกายของเจ้าซอมบี้ที่ยังกระตุกไม่หยุด สันกรามถึงกับต้องกัดแน่นจากความรู้สึกดีที่สุดเท่าที่เคยมีเซ็กส์มา ทุกความปรารถนาถูกปลดปล่อยใส่ในตัวของเอเลนก่อนที่เขาจะก้มลงไปทิ้งจูบแสนหวานให้คนที่นัยน์ตาเริ่มจะหรี่ปรือ

หึ...เหนื่อยละสิ....

ฝ่ามือแข็งแรงเสยเส้นผมสีน้ำตาลชื้นแฉะออกไปจากใบหน้ามน นัยน์ตาสีมรกตปิดลง ลมหายใจที่เคยหอบถี่ค่อยๆปรับจนสม่ำเสมอ...เจ้าซอมบี้หลับไปแล้ว?

เขาจึงค่อยๆถอนกายออกมา ความปรารถนาสีขาวขุ่นไหลย้อยลงพื้นแทบจะทันที นี่ขนาดปล่อยออกไปรอบนึงแล้วนะยังเยอะขนาดนี้...ความต้องการของเขาที่มีต่อตัวเด็กนี่มันมากมายจริงๆ

สองมือจัดการกับเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะหันไปทำความสะอาดร่างกายให้กับคนที่หลับสนิทไปแล้ว ก็รู้อยู่หรอกว่าการหลั่งข้างในมันจะลำบากในภายหลังแต่เขาก็ยังอยากจะทำกับเด็กนี่ เพราะมันเหมือนเป็นการแสดงความเป็นเจ้าของ?

กว่าร่างของเขาจะได้เอนหลังพิงผนังทึบของราวกันตกได้ก็ผ่านไปอีกพักใหญ่...ใบหน้าเงยขึ้นมองท้องฟ้าที่ไม่เคยสนใจมันเลย...เพิ่งจะรู้นะว่าการได้นั่งดูดาวกับคนที่รักนี่มันทำให้ท้องนภาแสนธรรมดาสวยขึ้นมาตั้งไม่รู้กี่เท่า...ฝ่ามือของเขายังคงลูบเบาๆลงไปบนเส้นผมสีน้ำตาลของคนที่หนุนอยู่บนตัก...อยากจะนั่งดูดาวด้วยกันแบบนี้ไปอีกนานๆ

ทำยังไงพวกเขาถึงจะมีชีวิตรอด....

บอกตามตรงว่าตอนนี้ยังมืดแปดด้าน...




แล้วมันก็ยิ่งมืดมิดเข้าไปอีก...เมื่อยามเช้ามาเยือน....





“ เฮย์โจว....”

“ อืม...?”   เหมือนจะได้ยินเสียงของเอเลน?

“ เฮย์โจว...ตื่นเถอะครับ...”   หื๋ม? นี่เขาเผลอหลับไปงั้นหรอ? แต่ก็ไม่แปลกหรอกในเมื่อเมื่อวานก็มีอะไรเกิดขึ้นตั้งหลายอย่าง แถมเขายังใช้แรงกับเจ้าซอมบี้นี่ไปไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว...นัยน์ตาสีขี้เถ้าจึงเปิดขึ้นช้าๆก่อนจะพบว่าตำแหน่งระหว่างเขากับเอเลนมันสลับกันอยู่นิดหน่อยจากเมื่อคืน

“ เจ็บหรือเปล่า?”   เขาเงยหน้ามองคนที่ก้มลงมา มือข้างหนึ่งยื่นออกไปลูบแก้มใสของคนที่ให้เขานอนหนุนตัก ใบหน้ามนพยักหงึกๆสลับกับส่ายหน้าไปพร้อมๆกัน

“ อะไรล่ะนั่น?”   เขาถึงกับหัวเราะในลำคอกับท่าทางของเด็กนี่

“ เมื่อคืนเจ็บ แต่ตอนนี้ไม่เจ็บแล้วครับ.....”   ในใจนึกอยากจะให้ช่วงเวลาแห่งความสุขแบบนี้มีอยู่ตลอดไป แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ในเมื่อ...

“ เฮย์โจว....เสียง....มัน.....”   เอเลนเอ่ยบอกเขาในขณะที่กรอกตาไปมาเหมือนกำลังหาอะไรอยู่....เสียง?....เสียงอะไร?

สองหูของเขาจึงตั้งใจฟังบ้าง....อ่า...มีเสียงอะไรบางอย่างจริงๆด้วย...

ร่างกายจึงลุกพรวดพราดขึ้นไปยืนมองรอบๆตึก....แล้วภาพตรงหน้าก็ทำให้ขนแขนถึงกับลุกชัน....


เพราะตอนนี้รอบๆตึกของเขานั้นมันเต็มไปด้วยฝูงซอมบี้น่ะสิ!


พวกมันกำลังก้าวขาเข้ามาหาช้าๆราวกับรู้ว่าในตึกนี้มีคนอยู่...


แย่แล้ว....



แบบนี้แย่แน่ๆ!







.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

To be Con.






=[ ]=!!! ไหงตอนนี้ก็ยังไม่จบวะ?!! นี่มันยาวกว่าเวอร์ชั่นออริจินัลแล้วนะเนี่ยถถถถถถถถถถ ก็เพราะเวอร์ชั่น8059ไม่มีNCลากเลือดแบบนี้งัย....

จะว่าไปตอนนี้เนื้อเรื่องก็ไม่ค่อยจะเดินเท่าไหร่เลยอ่ะนะ 555  มีแต่เรื่องอย่างว่า(?)ที่อย่างกับไหแตกถถถถถถถ เก็บกดที่ไม่ได้รังแกหนูเลนมานาน? อุเหม่...ไม่ใช่หรอกค่า คุณกวางไม่ใช่คนหื่นแบบน้านนน

แต่มันเป็นเพราะเห็นว่าเป็นวันเกิดคุณรีไวเลยจัดเต็ม NC ให้ แต่ไม่ได้คิดว่าคุณรีไวหื่นหรืออะไรหรอกนาคะ ก็แค่เพราะเป็นวันเกิดคุณรีไวเลยต้องเต็มที่(?)ก็เท่านั้นเอ๊ง ก๊ากกกก  ใช่แล้นค่ะ สองตอนสุดท้ายนี่ตั้งใจแต่งให้แฮปให้คุณรีไวเนื่องในโอกาสครบรอบวันเกิดปีที่ 30 กว่าๆที่เวียนมาครบอีกปีแต่ฟิคเรื่องนี้ก็ยังไม่จบซักทีถถถถถถ ถึงของขวัญ(?)จะไม่เสร็จตามเป้าแถมตอนแรกเองก็ยังเลทมาหลายวัน แต่ยังไงก็ขอให้คุณรีไวมีความสุขมากๆๆๆนะคะ คิดสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนา ถึงแม้ว่าความปรารถนาที่อยากจะสูงขึ้นมันจะเป็นไปไม่ได้แล้วก็ตาม... แข็งแรงทรงพลังดั่งช้างสารเช่นนี้ตลอดไป ไม่งั้นกดเด็กที่เด็กกว่าตั้ง15ปีไม่ไหวนะเออ  ลูกน้องรักลูกหมาหลงหัวปักหัวปำเรยนะคะ


สุขสันต์วันเกิดค่ะรีไวเฮย์โจว~~


จับของขวัญผูกโบว์ยื่นให้ อิ๊อิ๊









สำหรับซอมบี้ตอนนี้ถ้ามีอะไรผิดๆงงๆไปบ้างก็ข้ามๆมันไปนะคะ = =”” แทบจะไม่ได้อ่านทวนอีกแล้วถถถถถ  นอกจากงานจะนรกแล้วก็ยังออกไปแตะขอบฟ้าก็เลย.............TvT

แล้วเจอกันตอนหน้าค่า ขอบคุณทุกๆการติดตามที่มีมาอย่างยาวนานนนนนนะคะ เหะเหะ  สำหรับใครที่อยากรู้ว่าในระหว่างที่คุณรีไวมัวแต่กดเด็กอยู่บนดาดฟ้า แล้วในสถาบันวิจัยมันเกิดอะไรขึ้นก็เชิญเวอร์ชั่น 8059 ได้จ้ะ =w=





6 ความคิดเห็น:

  1. ในที่สุดซอมบี้ก็มาอัพแล้วววว เย่ๆๆ เป็นซอมบี้ที่เซะซี่ที่สุดในสามโลกมากเบย
    แบบนี้ใครมันจะทนไหวเนอะ อิอิ
    เปลี่ยนเป็นเรื่องยาวเลยก็ได้นะคะคุณกวาง อุคริๆ

    สุขสันต์วันเกิดนะคะเฮย์โจว มีน้องเลนอยู่ข้างๆให้กดตลอดไปนะค้า

    สู้ๆกับงานนะคะ คอยเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ

    สุดท้ายนี้ ขอให้โชคดี ราบรื่นในทุกๆเรื่อง เจอแต่ความสุข สุขภาพแข็งแรง แต่งฟิคสนุกๆให้อ่านต่อๆไปในปีหน้านะคะ ^x^b


    ตอบลบ
  2. อ้ากกกกกกกกกก ในที่สุดก็ได้อ่านเรื่องนี้ต่อออ ฮืออออ ดีใจมากๆๆที่กวางซามะมาต่ออออ อ้ากกกกกก สารภาพว่าตอนกดเข้ามาอ่านนี่มือไม้สั่น(?)ด้วยความปิติ ในที่สุดก็ได้อ่านความคืบหน้าของคู่รักโนะเสะ(?)ล้าวววววว #โดนท่านท่อนขาเตะเสยถถถถถถ ต้องอวยคู่เมนก่อนสินะ ลงไปหมอบกราบขอประทานอภัย แต่ก็นั่นล่ะ มันอดใจไม่สครีมคู่รองไม่ได้จริงๆๆๆนะคะ ถึงจะเป็นคู่รองแต่ก็น่ารักมากอ่ะ ฮืออออ ชอบคู่นี้ …..ก่อนที่จะโดนกระทืบไส้แตกเค้าควรจะพูดถึงคู่เมนได้แล้วจริงจังถถถถถถ

    เค้าชอบบบบบบบบบบบบ ชอบบบมากๆๆเลยเวลาพันเอกและพันโทพูดหยอกเล่นกัน ถึงแม้จะอยู่ในสภาพที่ยังไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดต่อไปได้อีกนานแค่ไหนก็เถอะ แต่ฟีลแบบนี้มันทำให้เนื้อเรื่องน่ารัก(?)ขึ้นมากๆจริงจัง ยิ่งเห็นยูกลับมาทะเล้นก็ยิ่งหลงงงง(?) #นี่มันจะกู่ไม่กลับจริงๆแล้วนะคะถถถถถ #คนบ้าคลั่งตัวละครที่กวางซามะสร้างขึ้นมาเองจริงจังง่ะถถถถถถ

    เค้าแอบขำตรงเกิดเรื่องใหญ่ของยู คือมันใช่!! เพราะทั้งหมดที่อยู่ตรงนี้ไม่มีใครเน้นทางหัว(?)มาเลยสักคนถถถถถถ พอคิดไปถึงเวอร์ 8059 แล้วก็แบบฝั่งนั่นมีหัวกะทิอย่างหนูก๊กหายห่วง(?)อยู่แล้ว แต่ฝั่งนี้ดันมีแต่ลูกหมาน่าฟัด(?)และช่างซ่อมคนสวยน่าน้วย(?)จะไปถึงห้องวิจัยยังไงละนั่น โชคดีที่ท่านท่อนขายังคงเป็นผู้นำได้ดีเสมอถึงได้หาทางออกได้อย่างหล่อ > __ <

    เอาจริงๆตอนที่เข้าไปในคาเฟ่นี่เค้าโคตะระตื่นเต้นเลยค่ะถถถถถ ฟีลเล่มเกมส์ไบโอตอนที่ต้องเข้าไปสำรวจเพื่อเก็บไอเทมมามากๆๆ และการได้มาเจอโยชิดะกับอิชิกาว่าเป็นอะไรที่เกินคาดของเค้ามากจริงๆค่ะ อารมณ์เฮย์โจวเรียกหา อิชิกาว่าก็มาหลบอยู่ในตู้เลยซะแบบนั้นถถถถถ แอบขำที่พ่อคุณให้โยชิดะออกมาไล่ฟาดซอมบี้แล้วตัวเองไปหลบอยู่ในตู้มากๆ ฮาลั่นเลยค่ะตรงนี้ แล้วในขณะที่กำลังตื่นเต้นไปกับเรื่องที่โยชิดะเล่า เค้าสครีมลั่นเลยค่ะ!!! อะไรคือมีการเห็นกลุ่มเด็กผู้ชายขับเบนซ์สปอร์ตสีขาววววกันนนนน โฮกกกกกกกกกกกก อิชิกาว่าาาานายถ่างตาดูเด็กๆพวกนั้นไว้เลยนะอย่าได้กระพริบต๊าาาถถถถถ เนื้อเรื่องผูกเชื่อมกันแบบนี้ไม่ทนนนจริงจังค่ะกวางซามะ คือมาแค่รถเบนซ์เค้าก็สครีมคู่ 8059ได้(?) #อะไรมันจะโอเว่อร์ได้ทุกเรื่องขนาดนี้!!!ถถถถ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แล้วก็ว่าจะหยุดพักการสครีมคู่รอง(?)ไป แต่มันทำไม่ได้อ้ากกกกกกกกก ฮืออออ ถึงจะมามุ้งมิ้งกันให้ท่านท่อนขาได้แอบเหน็บแนม(?)นิดเดียว แต่เค้าก็ฟินนนนนนนนน ฮือออออ คู่นี้น่ารักกกง่ะ ยูที่ต้องเสแสร้งเกลียดฮิโนะมาตลอด ตอนกำลังไปไม่เป็นนี่โฮกมากกกกกกกก ฮิโนะนี่ก็น่าน้วยยยมากๆๆๆ ถ้าช่างซ่อมจะน่ารักขนาดนี้ ตอนที่ยูคว้าแขนฮิโนะไว้นี่แบบบอ้ากกก ชูป้ายไฟคนรักตระกูลโนะเสะ #โดนท่านท่อนขาถีบป้ายไฟอัดหน้าถถถถ ฮือออ อยากจะตะกุยขากวางซามะของNCคู่นี้บ้าง(?) ก็คงจะโดนท่อนขากวางซามะถีบมาด้วยถถถถถ แต่สักย่อหน้า(?)ก็ดีนะ #ยังอีก!!ถถถถ
      ขอแอบชอบโยชิดะตรงที่สอนเอเลนปลอกมันฝรั่งได้ม้ายยยยถถถถ เค้าชอบมากง่ะ รู้สึกขอบคุณแทนท่านท่อนขาที่หลังจากนี้ได้ไม่ได้กินเผือกแทนมันแล้วถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ

      และเหมือนจะจำได้ลางๆว่าครั้งที่แล้วเคยมีพูดไว้ว่าเพราะเอเลนแพ้เลือดท่านท่อนขา แล้วพ่อคุณจะสรรหาวิธีทำให้ตัวเองได้เลือดขนาดไหน..............แต่ไอ้การที่เอานิ้วไปบาดมีดเองให้เลือดออกนี่………..พ่อคุ๊ณณณณณณคิดจะไม่สรรหาวิธี(?)เลยยยยยยย เอากันง่ายๆแบบนี้เลยเร๊อะะะ แล้วคือเข้าใจเลือกเวลาด้วยยยยยยยย กินข้าวเสร็จก็ต่อของหวาน(?) อ้ากกกกกกกกกก ขอถอนคำพูดว่ากลุ่มนี้ไม่มีใครเอาหัวมาาา ท่านท่อนขาเอาหัวมาแน่นอน(?) นี่ถ้าเทียบกับยามะ(?)แล้วแตกต่าง!!!แตกต่างโดยสิ้นเชิงถถถถถถ รายนั้นนี่ไม่ได้ถึงไหนนน(?)กันเลยทีเดียวววว หัดดูท่านท่อนขาเป็นตัวอย่างบ้างงงงงถถถถถถถถถถ #ตกลงจะเน้นประเด็นอะไรถถถถถ

      ฮืออออออออออออออ ฟินนนนนนนนนนนนนนน ฟินนนนนนนนนนนนนนนมากกกก ตอนท้ายฟินมากกกกกกกกกกกกกก เค้าไม่รู้จะพูดยังไงกับความเซะซี่ของซอมบี้ตัวนี้จริงๆ ไอ้เสียงอื้อๆๆเนี่ย อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ท่านท่อนขาทนไม่ไหว ทางนี้ก็ทนไม่ไหวววเหมือนกันนนะค๊าถถถถถ เค้าอ่านวนประมาณ4รอบ(?)จริงจังงง ฮือออ หื่นมาซะขนาดนี้จะไม่หื่นกลับ(?)ได้อย่างไร #เดี๋ยววววว แต่มันเหมาะสม(?)กับเป็นฟิควันเกิดของท่านท่อนขามากๆแล้วจริงจังค่ะ ฮืออออ รักกวางซามะที่จัด NC ให้ขนาดนี้จริงจัง ไม่อยากจะบอกว่าตื่นมาลูกหมามันก็ทำตัวให้น่ากดอีกรอบบมากกกกกกกกอ้ากกกกกกกกกกกก อิจฉา(?)ท่านท่อนขาาาถถถถถถถถถ

      แล้วก็….กวางซามะจบค้างมากกกกกกก ฮืออออออ ค้างมากกกกกก กดกันจนซอมบี้มาล้อมแล้วแบบนี้ จะทำยังไงกันละนั่นนน ฮืออออ เค้าเป็นกำลังใจให้กวางซามะนะคะ รักฟิคซอมบี้มากมายเลยยยยยย

      ยังไงก็สุขสันต์วันเกิดท่านท่อนขาย้อนหลังให้อีกรอบนะคะ ดีใจที่ได้รักท่านท่อนขาเพราะกวางซามะมากๆค่ะ #ประเด็นมันแปลกๆนะถถถถถ ถึงความสูงมันจะช่วยไม่ได้แล้วอวยไปก็ไม่ได้อะไร(?) เพราะงั้นก็ขอให้ร่างกายแข็งแรงมีแรงกดลูกหมาได้รัวๆ(?)แทนนะก๊าาา ขอให้ลูกหมาอยู่ข้างกายให้กด(?)ตลอดไปเบยยยยยยด้วยยยยย รักท่านท่อนขาาาแต่น้อยกว่าเอเลนนน(?) #โดนกระทีบจมดิน
      ปล.รูป………………จะเอาของขวัญผูกโบว์ชิ้นน้านนนนนนนนนน แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก เอเลนน่ารักมากๆๆเลยจริงจังงง ฮือออออออ

      ลบ
  3. หูยยยยยยยย ได้อ่านแย้ววววววววกรี๊สสสสสสสสสรอมาเนิ่นนานค่ะพี่กวางงงงฮืออออ ถ้าแต่งยาวแล้วรวมเล่มจะรีบซื้อเลยค่ะะะ ////////////////

    ตอบลบ
  4. หยุดอัพแล้วหรือค่ะ ;-;) /กระซิกๆ (//////)

    ตอบลบ
  5. คงได้ยินเสียงพวกเธอครางกันเลยเดินมาล่ะมั้งเฮีย

    ตอบลบ