Donten ni Warau Au S.Fic [Shirasu x Soramaru] “จะรักตลอดไป” : 02
: Donten ni Warau Fanfiction
: Shirasu x Soramaru
: Dark Drama
: NC-17
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
“ ฮัดชิ่ว!” เสียงจามตามมาด้วยเสียงสั่งน้ำมูกฟืดฟาดทำให้คนที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างเตียงมองคนป่วยด้วยสายตาเป็นห่วง
“ ดูท่าจะอาการหนักกว่าที่คิดนะครับ? เมื่อวานยังดีๆอยู่เลยแท้ๆ ไปทำอีท่าไหนมาเนี่ย? โตจนป่านนี้แล้วยังจะมานอนซมเพราะเป็นหวัดอีก ไม่ไหวเลยคุณชิราสึเนี่ย” ถึงปากจะบ่นแต่มือบางกลับแนบลงมาที่หน้าผากเพื่อวัดความร้อนที่แผ่ออกไปจากตัวเขา
ใช่สิ...เมื่อวานยังดีๆอยู่แต่พอรู้ว่านายจะไปงานวันเกิดของผู้หญิงคนนั้น ชั้นถึงได้ไปนอนแช่น้ำอยู่ค่อนคืนจนกลายเป็นแบบนี้ไง
“ ทานยาแล้วนอนพักนะครับ เดี๋ยวตอนเย็นผมกลับมาดู” โซระมารุพยุงให้เขาลุกขึ้นนั่งก่อนจะแกะยามาวางไว้บนฝ่ามือให้
“ รีบไปโรงเรียนเถอะ เดี๋ยวจะสายเอา” เขาเอ่ยด้วยเสียงอ่อนแรง ถึงแม้ใบหน้ามนจะดูห่วงๆแต่ก็ยอมหอบข้าวของไปโรงเรียนแต่โดยดี
และทันทีที่เสียงประตูปิดลง ร่างสูงก็เดินโซเซเข้าไปในห้องน้ำ...มือใหญ่เทเม็ดยาลงไปในชักโครกก่อนจะกดมันจนยาสีขาวกลืนหายไปกับสายน้ำ…
ไม่ใช่ว่าเขาแกล้งป่วย…แต่เป็นเพราะไม่อยากจะหายก็เลยไม่กินยาพวกนี้ยังไงล่ะ
“ แปลกจัง? นอนพักทั้งวันทำไมไข้ยังไม่ลดอีกล่ะ? หรือว่าฝืนลุกขึ้นมาทำงาน?” นัยน์ตากลมโตมองเขาอย่างคาดโทษก่อนจะเสยผมสีขาวที่ชุ่มแฉะไปด้วยเหงื่อออกไปจากใบหน้า
“ ไปหาหมอดีกว่าไหมครับ? อาการไม่ใช่เบาๆเลยนะ” โซระมารุมองหน้าเขาพลางบิดผ้าขนหนูผืนเล็กก่อนจะเช็ดลงมาที่ลำคอ ใบหน้ามนดูจะกังวลเมื่อกลับมาจากโรงเรียนแล้วอาการของเขาไม่ดีขึ้นเลย
มือบางเลิกเสื้อของเขาขึ้นก่อนจะลากผ้าอุ่นๆนั่นไปตามกล้ามหน้าท้อง นัยน์ตาสีม่วงจ้องมองคนที่เหมือนจะเขินน้อยๆแต่ก็ยังเช็ดตัวให้เขาต่อไป...เขาชอบดูเวลาที่โซระมารุทำอะไรให้เขาแบบนี้ที่สุด...ชอบเงาสะท้อนจากดวงตาสีดำน้ำงามคู่นั้นที่มันเป็นภาพของเขา...ชอบรอยยิ้มที่ฉายออกมาเมื่อกำลังนึกเรื่องของเขา
“ เดี๋ยวผมไปทำข้าวต้มให้นะครับ จะได้กินยา แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นต้องไปหาหมอนะครับ ถ้าดื้อละก็จะโทรไปเรียกพี่ใหญ่มา” ร่างโปร่งลุกขึ้นก่อนจะสวมผ้ากันเปื้อนลงไปบนชุดนักเรียน แขนบางเอื้อมไปผูกเชือกที่หลังเอวพลางขู่เขาให้เชื่อฟังด้วยท่าทางน่ารักๆแบบนั้น
“ หึ...เท็นกะน่ะขอเถอะ มาก็มีแต่จะทำให้ป่วยหนักกว่าเดิม” เขาหัวเราะด้วยเสียงแหบแห้ง นึกถึงวันที่อยู่ด้วยกันสี่คนแล้วก็มีแต่จะปวดหัว
“ นอนหลับไปก่อนก็ได้ครับ” ร่างโปร่งโน้มตัวเข้ามาใกล้ก่อนที่ปลายนิ้วจะเกลี่ยปลายผมของเขาออกให้ ทั้งนัยน์ตาที่ทอดมองลงมา ทั้งริมฝีปากที่ยิ้มอย่างอ่อนโยนยิ่งทำให้ไม่อยากจะยกให้ใคร
เขานอนมองฝ้าเพดานสีขาวท่ามกลางกลิ่นหอมฟุ้งของข้าวต้มที่โซระมารุทำ....จะอยู่ดูแลเขาใช่ไหมคืนนี้...จะไม่ไปปาร์ตี้วันเกิดของผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม?...โซระมารุ
นัยน์ตาสีม่วงเปิดขึ้นมาก่อนจะพบว่ามีเพียงแสงสลัวๆของโคมไฟที่หัวเตียง...
เขาเผลอหลับไปงั้นเหรอ? แล้วโซระมารุล่ะ? ยังอยู่ใช่ไหม?
ร่างสูงลุกขึ้นนั่งช้าๆ ในหัวปวดจนแทบจะระเบิดจากพิษไข้ นัยน์ตากรอกไปมาแต่ก็ไม่เจอใคร...นอกจากกระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆที่วางอยู่ข้างถ้วยข้าวต้มที่ซีลเอาไว้อย่างดี
‘ ถ้าตื่นแล้วก็กินข้าวต้มแล้วก็กินยาซะนะครับ ผมแค่เอาของขวัญไปให้เอริ แล้วจะรีบกลับมา...โซระมารุ...”
แกร่บ....
กระดาษที่เคยแบนเรียบถูกขย๋ำจนเป็นก้อน ฝ่ามือใหญ่ที่กำมันเอาไว้สั่นระริกด้วยความไม่พอใจ...นัยน์ตาสีม่วงทอดมองเข้าไปในความมืดก่อนจะลุกขึ้นยืนช้าๆ....
ไม่ให้ไป...
สองขาก้าวออกมาจากห้องทั้งๆที่ร่างกายยังเดินโซเซ
ไม่ให้ไป.....
ฝ่ามือยันไปยังผนังเพื่อพยุงร่างกายเอาไว้ ถึงแม้นัยน์ตาจะพร่าเลือนแต่จิตใจยังคงแน่วแน่
ไม่ให้ไป.....
สองขาก้าวออกมาจนถึงหน้าอพาท์เม้นต์จนได้ ไอความร้อนที่แผ่ออกจากร่างกายทำให้รู้สึกโงนเงน
เพราะเป็นแค่หวัดงั้นเหรอ นายถึงไม่อยู่กับฉันแล้วเลือกไปหาผู้หญิงคนนั้น....
แล้วถ้ามันมากกว่าหวัดล่ะ?
นายจะรีบมาหา....มาอยู่ข้างๆชั้นหรือเปล่า...โซระมารุ....
“ หึ...” เสียงหัวเราะดังอยู่ในลำคอพร้อมๆกับรอยยิ้มเลื่อนลอยที่เผยอยู่บนใบหน้า
แล้วขาก็ก้าวลงไป....
บนถนนที่รถกำลังวิ่งกันขวักไขว่.....
เอี๊ยดดดดดดดดด.....!!!
โครม!!!
“ คุณชิราสึ!!” อ่า....นายมาหาชั้นจริงๆด้วยสินะ น้ำเสียงที่ร้อนรนแบบนั้น นายคงจะรีบมาเลยใช่ไหม โซระมารุ?
“ หมอครับ! เค้าเป็นยังไงบ้างครับ?!” เสียดายจัง...ที่ชั้นไม่ได้เห็นหน้าของนาย เพราะตอนนี้เปลือกตามันหนักอึ้งเต็มที...
“ ญาติกรุณารอข้างนอกนะคะ”
“ คุณชิราสึ! คุณชิราสึ!!” นั่นคือเสียงสุดท้ายที่เขาได้ยิน....ไม่สิ...นั่นคือเสียงสุดท้าย...ที่เขาอยากจะได้ยิน...
โซระมารุที่ร้องเรียกเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย...โซระมารุที่กำลังตะเกียกตะกายร้องไห้จะขาดใจ...โซระมารุที่มองแต่เขา ร้องหาแต่เขา....
นั่นแหละ...คือสิ่งที่เขาอยากเห็น....
บรรยากาศเบาๆทำให้นัยน์ตาเปิดขึ้นมาในที่สุด...
สีขาวสว่างจ้าทำให้ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงหรือว่าอยู่ในฝัน ไม่รู้ว่าตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่หรือว่าตายไปแล้ว...
อะไรบางอย่างที่เป่ารดมือของเขาอยู่ทำให้นัยน์ตาสีม่วงเหลือบลงไปมอง...โซระมารุ?...กำลังฟุบหลับอยู่ใกล้ๆกับฝ่ามือของเขา?...อ่า...ใช่แล้ว...นึกออกแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น
มือใหญ่ขยับขึ้นไปวางไว้บนหัวสีดำก่อนจะลูบไล้มันช้าๆ ใบหน้าที่กำลังหลับปุ๋ยทำให้เขาถึงกับอมยิ้ม....นอนเฝ้าเขาอยู่ที่นี่ทั้งคืนเลยสินะ
“ อือ...?” เสียงอืออาดังออกมาจากใบหน้าที่เริ่มขยุกขยิก นัยน์ตากลมโตค่อยๆเปิดขึ้นมาช้าๆ
“ คุณชิราสึ?” เสียงงัวเงียเปล่งออกมาก่อนที่ร่างโปร่งจะค่อยๆลุกขึ้นนั่งอย่างคนเพิ่งตื่นนอน และพอสติเริ่มจะกลับเข้าที่ โซระมารุก็ผวามาหาเขาทันที
“ คุณชิราสึ! ฟื้นแล้วเหรอครับ?! คุณจำผมได้ใช่ไหม? แล้วคุณไปทำอะไรที่นั่น คุณรู้หรือเปล่าว่าผมเป็นห่วงคุณจนแทบบ้าเลย ให้ตายสิเจ้าคนป้ำๆเป๋อๆนี่...ฮึก....” โซระมารุทั้งตื่นตระหนก ทั้งดีใจที่เขาฟื้นขึ้นมา ทั้งต่อว่า ทั้งทุบลงมาที่แขนเขาเบาๆ ก่อนจะไปจบลงที่น้ำใสๆไหลออกมาจากดวงตา หัวสีดำเอนซบลงมาที่ไหล่ของเขาราวกับคนที่เพิ่งจะยกภูเขาออกจากอก แรงสะอื้นน้อยๆทำให้เขายกมือขึ้นไปลูบเส้นผมนิ่มอย่างปลอบโยน
“ ชั้นไม่เป็นไรแล้วโซระมารุ...” ใบหน้าขยับไปคลอเคลียใบหน้าใสที่ซบอยู่ที่หัวไหล่ ริมฝีปากจูบซับรอยน้ำตาถึงแม้ว่าจะเป็นเขาเองที่ทำให้มันไหลลงมาก็ตาม...
ขอโทษนะโซระมารุ...ชั้นมันก็แค่ผู้ชายโรคจิตที่ไม่คิดจะยกนายให้ใครก็เท่านั้นเอง
เพราะขังนายเอาไว้เหมือนนกไม่ได้...ชั้นเลยต้องทำแบบนี้...
“ หิวไหมครับ?” โซระมารุละออกไปก่อนจะถามเขาด้วยรอยยิ้ม และทันทีที่เขาส่ายหน้าความเจ็บแปลบก็แล่นลิ่วเข้ามาจนเผลอปิดเปลือกตาลงข้างหนึ่ง
“ อ้า! อย่าเพิ่งขยับตัวสิครับ! คุณน่ะโดนรถเฉี่ยวจนหัวแตก ส่วนขานี่ก็หักจนต้องผ่าตัดแล้วก็เข้าเฝือกเอาไว้ คงจะเดินเองไม่ได้ไปอีกสักพักนั่นแหละ จริงๆเลย คุณเดินลงไปทำอะไรครับ? ทั้งๆที่ผมบอกว่าไปแค่แป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับแท้ๆ” มือบางพยุงร่างกายของเขาให้นอนลงไปก่อนจะบ่นเป็นชุด ก็เพราะว่าอยู่กับผู้ชายไม่ได้เรื่องอย่างเขา เท็นกะ แล้วก็จูทาโร่มาตลอด โซระมารุถึงต้องคอยดูแลความเรียบร้อยราวกับแม่คนที่สองให้แบบนี้
“ ว่าจะไปหาหมอน่ะ แต่พอเดินลงมาถึงตรงนั้นจู่ๆก็วูบไป...ขอโทษด้วยนะ...แบบนี้นายก็ไม่ได้ไปงานวันเกิดเอริจังเลยสินะ?”
“ ครับ...โรงพยาบาลโทรไปตอนผมไปถึงบ้านเอริพอดี ก็เลยรีบมาที่นี่ก่อน ขอร้องละคุณชิราสึ คราวหลังช่วยพึ่งพาผมบ้างเถอะ ให้ผมพาไปหาหมอเอง...เพราะถ้าคุณเกิดไม่ฟื้นขึ้นมาผมจะทำยังไง” โซระมารุทำหน้ายุ่ง คิ้วสีดำที่ขมวดเข้าหากันทำให้เขารู้ว่าโซระมารุกำลังโทษตัวเองที่ไม่ดูเขาให้ดี กำลังน้อยใจที่เขาไม่คิดจะพึ่งพา กำลังคิดว่าเป็นเพราะตัวเองไม่แข็งแกร่งพอเขาถึงไม่ร้องขอให้ช่วยเหลือ....โซระมารุมักจะคิดแบบนี้เสมอ...มักจะมองว่าถูกเขากับเท็นกะทิ้งเอาไว้ข้างหลัง
ทั้งๆที่จริงแล้วเขาก็แค่อยากจะปกป้องเอาไว้....ในแบบที่ผู้ชายทั่วไปเขาทำให้กับคนที่เขารัก....
“ ครับๆ” เขาเอื้อมมือไปลูบแก้มใสก่อนจะยิ้มให้...ได้สิ....ถ้าอยากให้เขาพึ่งพาขนาดนั้นละก็....
“ ถ้างั้นจนกว่าจะหาย ก็ฝากนายดูแลชั้นด้วยก็แล้วกันนะ โซระมารุ” ใบหน้ามนพยักรับอย่างแข็งขันโดยไม่คิดจะสงสัยในตัวเขาอีกตามเคย....ไม่รู้เลยว่านี่มันคือแผนการที่เขาวางเอาไว้ตั้งแต่แรก...
เขาออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นอยู่ที่อพาทเม้นต์โดยมีโซระมารุคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง
นอกจากไปโรงเรียนหรือออกไปซื้อของสดสำหรับทำอาหาร โซระมารุก็ไม่ได้ไปไหนอีก ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะโทรมาชวนอยู่บ้างแต่โซระมารุก็มักจะหันมามองเขาก่อนที่จะปฏิเสธคำชวนของเด็กสาว นัยน์ตาที่สดใสคู่นั้นคงไม่ไว้ใจที่จะให้เขาอยู่คนเดียวอีก
ดี...แบบนี้แหละดีแล้ว....อีกไม่นานหรอก....
ความอดทนของคนเรา...มันไม่ได้มีมากมายนักหรอก....
โดยเฉพาะกับเด็กสาวในวัยที่กำลังเพ้อฝัน...
“ แอบทำงานอีกแล้วหรอครับ?” ถ้วยชาหอมกรุ่นวางลงที่โต๊ะหน้าโซฟาที่เขากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ ทั้งไข้ ทั้งแผลที่หัวแทบจะหายสนิทแล้วก็ยังเหลือแค่เฝือกที่ขานี่แหละที่หายช้ากว่าอย่างอื่น
“ ถ้าแค่ทำงานกับคอมพิวเตอร์นี่ ไม่เป็นไรหรอกโซระมารุ” เขาหันไปยิ้มให้คนที่นั่งลงบนเบาะรองนั่งข้างๆโต๊ะเตี้ย
โทรทัศน์ที่เปิดเอาไว้มีแต่ภาพบรรยากาศของวันคริสต์มาส ถึงแม้ว่าอากาศจะหนาวเย็นแต่บรรดาคู่รักต่างออกไปเดินเล่นท่ามกลางไฟสีแดงสีเขียวที่ประดับประดาอยู่ทั่วเมือง เสียงจิงเกอร์เบล จิงเกอร์เบล ไม่ได้ดังออกมาจากในโทรทัศน์เพียงอย่างเดียว แต่รอบๆอพาท์เม้นต์เองก็มีเช่นกัน ป่านนี้ตามถนนหนทางคงจะสวยน่าดู
“ ขอโทษนะ...ทั้งๆที่เป็นวันคริสต์มาสกลับต้องมาอยู่เป็นเพื่อนชั้นแทนที่จะได้อยู่กับเอริจัง” สองมือที่รัวอยู่บนคีบอร์ดของโน้ตบุคหยุดลง ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีขาวซึ่งถูกคาดเอาไว้ด้วยที่คาดผมที่โซระมารุให้มาแกล้งทำเป็นสลดทั้งๆที่ในใจกำลังเย้ยหยันผู้หญิงคนนั้น
“ ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะผมไม่ดูคุณให้ดีก็เลยบาดเจ็บแบบนี้ ผมก็ต้องคอยดูแลสิ” .....หึ รู้ทั้งรู้ว่าที่โซระมารุยังอยู่ตรงนี้เพราะอะไร...ไม่ได้อยู่เพราะว่ารักเขา....แต่เขาก็ยังใช้ความรู้สึกผิดเพื่อรั้งโซระมารุเอาไว้
จะมีใครเลวร้ายเท่านายอีกไหมนะ ชิราสึ...
แต่เขาก็ยอมรับ...
ว่าหากย้อนเวลากลับไปได้...เขาก็ยังจะทำเหมือนเดิม...
“ โซระมารุ ไปด้วยกันหน่อยสิ” มือใหญ่ปิดโน้ตบุคลงก่อนจะดึงเสื้อกันหนาวที่พาดอยู่บนโซฟามาสวม
“ เอ๋? จะไปไหนน่ะครับ? คุณยังออกไปเดินไกลๆไม่ได้นะ” ร่างโปร่งพุ่งเข้ามาช่วยพยุงเขา ก่อนจะคว้าไม้ค้ำมาส่งให้ โซระมารุหยิบเสื้อกันหนาวมาสวมลวกๆก่อนจะเดินตามมาด้วยความสงสัย
“ ไม่ได้ไปไหนไกลหรอก...เพราะบางทีอะไรดีๆก็อยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิดนะโซระมารุ” เสียงทุ้มเอ่ยลอยๆออกไปพลางก้าวขาขึ้นบันไดอพาทเม้นต์ นัยน์ตาสีม่วงแอบเหลือบมองใบหน้าของคนที่เดินอยู่ข้างๆพลางลอบยิ้ม
ใช่...บางทีมันก็อยู่ใกล้เสียจนนายไม่เคยมองเห็นมันเลยยังไงล่ะ...
ขาข้างที่เป็นปกติก้าวสลับกับขาข้างที่เข้าเฝือกจนในที่สุดพวกเขาก็มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูบานที่อยู่บนสุด
มือจับลงไปที่ลูกบิดประตูก่อนจะหันไปมองหน้าโซระมารุพลางยิ้มให้ ใบหน้ามนดูจะตื่นเต้นเล็กๆกับสิ่งที่อยู่หลังบานประตู
และเมื่อเขาเปิดมันออกมา
ใบหน้าท้องฟ้าของเขาก็ถึงกับยิ้มกว้าง นัยน์ตาสีดำเบิกค้างอย่างตื่นตะลึงไปกับภาพที่สวยสดงดงามตรงหน้า
สองขาก้าวออกไปบนดาดฟ้าที่ราวกับเป็นระเบียงยื่นเข้าไปในอากาศ แสงไฟวันคริสต์มาสระยิบระยับสุดลูกหูลูกตา เสียงเพลงที่ดังมาจากที่ไกลๆก็ทำให้ร่างโปร่งเผลอกางแขนหมุนตัวด้วยท่าทางมีความสุข
“ ว้าว~~ สวยจังครับคุณชิราสึ มาดูตรงนี้ด้วยกันสิ” โซระมารุกวักมือเรียกเขาที่ยังคงยืนอยู่ข้างหลังบานประตู แค่ได้มองดูนายยิ้มนายหัวเราะก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
ร่างสองร่างต่างยืนเกาะผนังราวกันตกคอนกรีตก่อนจะชี้ชวนให้ดูตรงนั้นตรงนี้ สีสันแห่งความสุขฉาบไล้ไปทั่วท้องฟ้ายามราตรี
โดยที่ไม่รู้เลยว่า...
โทรศัพท์มือถือที่ทิ้งเอาไว้ในห้องกำลังสั่นอย่างต่อเนื่องด้วยสายเรียกเข้าของใครบางคน
และ “ เอริ ” ก็คือชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอนั้น
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To be Con.
โปรดฟังเพลงนี้.....
Planetarium piano ver.ร้องโดย neroซัง โฮวววววววววววววว เพราะอ่า~~~ ทำคลั่งเลย ขอบคุณรีเซทคุงที่ส่งมาให้นะคะ คือกำลังปั่นเรื่องนี้อยู่แล้วก็รู้สึกว่ามันช่างเข้ากันเสียนี่กะไร *กระซิก* ให้ความรู้สึกหวานๆแต่ก็ขมๆ เงียบๆงึมๆอะไรแบบนี้ โฮววววววว อยากจะเปิดคลอตอนสองคนเค้าขึ้นไปดูไฟวันคริสต์มาสบนดาดฟ้าจริงๆ >////<
เพลงนี้เวอร์ชั่นออริจินัลเป็นของ Otsuka Ai ประกอบละครรักใสๆหัวใจ 4 ดวงเวอร์ชั่นญี่ปุ่นอ่ะ คือคุณกวางแม่งสครีมดับมาตั้งแต่เพลงของ ai แล้ว โคตรเพราะ นี่เพิ่งจะเคยได้ยินเวอร์ชั่นเสียงผู้ชาย ง๊ากกกกกกกกกกกกก ไม่ทน!!!
ปล่อยไอ้คนข้างบนมันเพ้อไปค่ะ มาพูดถึงฟิคกันบ้าง
อย่าเพิ่งแขยงชิราสึซังกันนะค้า TT[ ]TT ถึงจะดูโรคจิตไปนิด(นิดเร๊อะ) แต่เค้าก็ทำเพราะเค้ารักอ่ะนะ *พราก* จะโดนแฟนๆชิราสึซังฆ่าตายไหมถถถถถ
ขอบคุณคอมเม้นต์จากตอนที่แล้วมากๆๆนะคะ >v< กร๊ากกกก ถ้าตัวร้ายละครไทยละก็..ไม่ใช่เอริหรอกค่ะ...ชิราสึซังของเรานี่ต่างหากถถถถถถถถถถถ
แล้วเจอกันตอนหน้าค่า...กำลังเข้าขั้นวิกฤตสุดชีวิตแบ้วเนี่ยตอนนี้ TTvTTb
ชิราสึซังงงงช่างลงทุนยิ่งนักกกก น้องโซระมารุช่างขี้บ่นสมเป็นคุณแม่ประจำบ้านคุโมจริงๆค่ะ(?) แต่ความใสซื่อนั่นก็บังตา หารู้ไม่ว่าอีกฝ่ายน่ะร้ายนักกก แม่หนูเอริเอ๋ย ริจะเป็นสะใภ้บ้านคุโมยังต้องผ่านอีกหลายด่าน
ตอบลบโอ๊ะ - - ไม่ธรรมดาแล้วค่ะ
ตอบลบปล.อย่าลืมหนูเสลนนะเคอะ ; - ;
ชอบความยันของชิราสึมากค่ะ แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ตอบลบ