Attack
on Titan feat.KHR Au.Fic [Levi xEren , 8059] GLIDE : 22
[HBD.HAYATO]
:
Attack on Titan feat KHR Fanfiction Au
:
Levi x Eren , 8059
:
Romantic Drama
:
NC-17
คำเตือน :
เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย
หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
ที่นี่....คือที่ไหนกัน....
นัยน์ตาสีมรกตเปิดขึ้นมาช้าๆท่ามกลางกลิ่นสะอาดๆที่ไม่คุ้นเคย
ทำไมรอบๆตัวถึงมีแต่สีขาวเต็มไปหมด....
คุณรีไว...คุณรีไวล่ะ?
ความเจ็บแปลบแล่นลิ่วขึ้นมาจากร่างกายที่พยายามจะลุกขึ้นนั่ง
ยิ่งความเจ็บที่ประท้วงมาจากช่วงล่างก็ยิ่งทำให้นึกออกจนได้...ว่าก่อนที่เขาจะหมดสติไปนั้นมันเกิดอะไรขึ้น
ความรุนแรงยังคงแฝงอยู่ในทุกอณูของร่างกาย....กลัว...เขากลัวผู้ชายคนนั้น...
นั่นไม่ใช่คุณรีไวที่เขารู้จัก...
“
เอเลน?”
เสียงที่คุ้นเคยทำให้เงยหน้าขึ้นไปมอง...ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของพ่อมองมาจากตรงนั้น
มือใหญ่ๆที่ไม่เคยทำร้ายเขายื่นออกมาหา
ไม่รู้ทำไมจู่ๆน้ำตามันก็รื้นขึ้นมา
“
พ่อ......”
สองแขนโผเข้าไปกอดร่างสูงโปร่งที่ยืนอยู่ข้างเตียง
อ้อมแขนโอบกอดเขาราวกับจะปกป้องจากคนที่จะเข้ามาทำร้ายไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนก็ตาม
“
ฮึก...ฮึก...” น้ำตาไหลลงไปอย่างห้ามไม่อยู่
ต่อให้เขาจะเป็นยังไง พ่อก็ยังรักและให้อภัยเขาอยู่เสมอ
ให้อภัย...
อย่างที่คุณรีไวคงไม่คิดจะให้อภัยเขา
คนคนนั้นถึงได้ทำร้ายเขาแบบนี้...
ใบหน้าภายใต้กรอบผมสีดำเงยมองห้องที่เรียงรายอยู่บนตึกของโรงพยาบาล...ไม่รู้ว่าป่านนี้เจ้าเด็กเหลือขอนั่นจะเป็นยังไงบ้าง
จะกลัว...จนหนีเขาไปจริงๆหรือเปล่า...
ลมหายใจถูกพ่นออกมาเบาๆ
บนใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยความกังวลระคนเป็นห่วง...ทั้งๆที่ตอนนั้นอยากจะให้เอเลนไปจากเขาซะจนต้องทำเรื่องชั่วช้าที่ไม่น่าให้อภัยแบบนั้นลงไป
แต่พอได้รู้ความจริงหลายๆอย่างก็เพิ่งจะมาสำนึกได้ว่าเขากำลังจะสูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตไป...
นัยน์ตาเลื่อนลอยทอดมองลงไปยังสองมือที่ใช้ทำร้ายเด็กนั่น....ถึงเขาจะใช้มันคว้าเอาตัวเอเลนกลับมาได้แต่เด็กคนนั้นจะกล้าจับมันอีกครั้งหรือเปล่าเขาไม่รู้เลย
ตอนนี้...เขาทำได้แค่อ้อนวอนเด็กนั่นเท่านั้น....
ได้โปรด...อย่าไปจากชั้น......เอเลน...
ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครตั้งใจจะเดินเข้าไปยอมรับผิดทุกอย่าง...ทว่า...ขายังไม่ทันจะได้ก้าวเข้าไปในตัวอาคาร
บอร์ดี้การ์ดในสูทสีดำก็ตรงเข้ามากันเขาเอาไว้ทันที...คงจะเป็นลูกน้องของพ่อเอเลนที่ถูกสั่งมาว่าให้กันเขาไม่ให้เข้าไปใกล้ลูกชายของตัวเอง
“
ถอยไป....”
เสียงนิ่งเอ่ยบอกอย่างไม่ได้กลัวเกรง
บอกตามตรงว่าคนพวกนี้ไม่ได้ครณามือเขาหรอก
“
ขอโทษครับ เราปล่อยคุณเข้าไปไม่ได้”
ร่างสูงใหญ่ยังคงยืนขวางจนถึงที่สุด...ไม่รู้หรือไงว่าหัวใจที่ร้อนลนของเขามันจะทำให้ห้ามกำปั้นของตัวเองไม่อยู่
นัยน์ตาสีขี้เถ้าจ้องเขม็งไปยังใบหน้าที่เริ่มมีเหงื่อแตกพลั่กของบอร์ดี้การ์ด
แต่ก่อนที่จะได้มีเรื่องมีราวกัน
ร่างโปร่งบางที่เขาเคยเห็นก็เดินผ่านหน้าไป....นั่นแม่ของเอเลน?
“
คุณ....”
เพราะไม่รู้ว่าชื่ออะไรเขาจึงเรียกออกไปแค่นั้น
ทั้งๆที่ตั้งใจจะขอโทษแต่ใบหน้าสวยที่หันกลับมามองเขานั้นมันมีแต่แววหวาดผวา
มือบางยกขึ้นไปปิดปากก่อนจะถอยหนีราวกับเห็นปีศาจ
ใบหน้าสวยส่ายน้อยๆอย่างไม่คิดจะฟังคำแก้ตัวใดๆจากเขา...ท่าทางหวาดกลัวแบบนั้นมันทำให้ร่างทั้งร่างได้แต่ชะงักค้าง...พอคิดถึงใจของคนเป็นแม่มันก็มีแต่จะทำให้เขายิ่งรู้สึกบาปหนักกว่าเดิม
“.......”
ร่างโปร่งบางหันหนีก่อนจะก้าวขาเดินไวๆเข้าไปในอาคาร
ฝ่ามือที่จะเรียกเธอจึงยกค้างเอาไว้อย่างนั้น
แล้วอีกไม่กี่นาทีให้หลัง
คนเป็นพ่อก็เดินตามมาติดๆ ใบหน้านิ่งสงบปรายตามองมาที่เขา...ไม่รู้ทำไมเวลาอยู่ต่อหน้าพ่อของเด็กนั่นมันถึงได้ทำให้เลือดในกายร้อนขึ้นมาแทนที่จะสำนึกผิดเหมือนตอนอยู่ต่อหน้าคนเป็นแม่
เขายอมรับ...ว่าลึกๆในใจเขาก็ยังโกรธที่ผู้ชายคนนี้ใช้วิธีสกปรกแบบนั้นมาลองใจเขา
พ่อของเด็กนั่นเป็นคนบีบบังคับให้เขาต้องทำเรื่องแบบนั้นเองไม่ใช่หรือไง
ถึงจะพูดเรื่องนี้ออกไปไม่ได้เพราะเขาก็เป็นลูกผู้ชายพอที่จะกล้ายอมรับความผิดของตัวเองโดยไม่โทษตัวต้นเหตุ....เขาผิดเองที่หลงไปตามเกมของอีกฝ่ายจนเผลอทำร้ายเด็กนั่นไป...
แต่ยังไงก็คงจะบอกได้แค่ว่า...เขากับพ่อของเอเลนคงต้องฉะกันไปอีกยกใหญ่
อีกฝ่ายคงไม่ยอมง่ายๆและเขาเองก็ไม่คิดจะยอมเช่นกัน
และทุกๆความรู้สึกเขาก็แสดงออกให้คนเป็นพ่อรู้ด้วยใบหน้าและสายตาที่จ้องเขม็งมองใบหน้าภายใต้กรอบแว่นนั่นอย่างไม่ลดละ...ไม่สลด
ไม่หงอจนอีกฝ่ายกดดันเอาได้.....หึ.....ใครยอมยกลูกให้ไอ้ผู้ชายก้าวร้าวอย่างเขานี่ก็คงบ้าแล้ว...รู้ทั้งรู้แต่ก็ยังอดที่จะท้าทายอีกฝ่ายไม่ได้
ร่างในสูทภูมิฐานเองก็ไม่หลบสายตาไปจากเขาเช่นกัน
มือใหญ่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดโทรออกต่อหน้าเขา
“
นั่นเอลวิน สมิธ ทีมบอสของเฟอร์รารี่ใช่ไหม?”
เสียงดังฟังชัดนั่นจงใจให้เขาได้ยิน
“
ผมคริชา เยเกอร์...คุณช่วยบอกนักขับของคุณให้เลิกยุ่งเลิกตามตอแย เอเลน เยเกอร์
ลูกชายของผมที....ถ้าคุณไม่อยากให้ทีมของคุณเดือดร้อนละก็...บอกเขาให้ผมที” ปลายสายถูกตัดทิ้งไป
ใบหน้าที่แสดงออกว่าเหนือกว่ามองมาที่เขาก่อนจะเดินเข้าไปในโรงพยาบาลด้วยก้าวย่างที่สุขุม
ฝ่ามือได้แต่กำแน่นอย่างเจ็บใจ...ให้ตายเถอะเขาไม่ถนัดรับมือกับคนที่เยือกเย็นแบบนั้นเลย!
ก็ดี....
ถ้าคิดว่าเขาจะยอมลามือกับคำขู่แค่นี้ละก็...คิดผิด!
ในเมื่อเขาเคยให้โอกาสเอเลนหนีไปก่อนที่จะคบกันแต่เด็กนั่นไม่หนีเอง...คิดจะไปจากเขาตอนนี้บอกได้คำเดียวว่า....มันสายไปแล้ว
ปีกสีขาวที่คิดจะโบยบินไปจากเขา...เขาจะเด็ดมันเอาไว้
นี่คือค่าตอบแทนที่ลูกชายของคุณมาทำให้ซาตานหลงรักยังไงล่ะ...
นักขับมือหนึ่งของเฟอร์รารี่จำต้องกลับมานั่งวางแผนด้วยใบหน้าหงุดหงิด
เพราะหลังจากที่วางสายจากพ่อของเอเลน
เจ้าเอลวินก็โทรมาหาเขาทันที....เสียงบ่นจนหูแทบชาทำเอารำคาญจนต้องรับคำไปแบบนั้น
‘
ขอแค่ไม่มีเรื่องเท่านั้นก็พอใช่ไหม?!’
‘
อือ....แค่นายไม่ไปหาเรื่องทางนั้นจนถูกสั่งแบนก็พอ...นายจะไปง้อเด็กนั่นยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องของชั้น’
แล้วบทสนทนาที่เขาคุยกับไอ้ทีมบอสเจ้าเล่ห์นั่นมันก็ทำให้เขาต้องกลับมานั่งอยู่ที่บ้านฝั่งขวาของเจ้าฮายาโตะอย่างจำใจ...เอลวินไม่ได้บอกให้เขาเลิกกับเอเลน...เพียงแต่จะทำยังไงก็ได้ที่ไม่ทำให้ทีมเดือดร้อน
แล้วอย่างเขาที่ไม่เคยใช้วิธีอะไรที่มันอ้อมค้อม
ไม่เคยคิดอะไรนอกจากลุยเข้าไปคว้าเอาสิ่งที่ต้องการมาตรงๆก็เลยต้องจำใจหันมาพึ่งพาหัวสมองอันซับซ้อนของเจ้าฮายาโตะกับสกิลเนียนขั้นเทพของไอ้หมีบ้าที่มันทำให้เขายอมยกเด็กในปกครองให้มาแล้วนั่นอย่างช่วยไม่ได้
ไม่เคยคิดเลยจริงๆว่าจะมีวันที่ต้องมานั่งสุมหัววางแผนกันทั้งสามคน...เพื่อเอาตัวเอเลนกลับมาเป็นครอบครัวของพวกเขาอีกครั้งแบบนี้
“
นายคิดไว้บ้างหรือเปล่าว่าจะง้อยังไง?”
ร่างบอบบางหันมาถามในขณะที่หมุนล้อรถเข็นเล่น
ดูเหมือนเจ้าฮายาโตะจะคุ้นเคยกับการที่ต้องใช้ล้อสแตนเลสนั่นแทนขาของตัวเองขึ้นมาบ้างแล้ว
จนบางครั้งเขาก็เห็นเด็กในปกครองไล่ฟาดหมีตัวโตได้อย่างสบายๆเพราะล้อนั่นมันทำให้เคลื่อนที่เร็วกว่าขาของมนุษย์
“
ชั้นจะใช้รถนี่...เอาข้อความไปส่งเพื่อให้เด็กนั่นออกมาหาที่ดาดฟ้า...” มือแข็งแรงวาง F138 คันจิ๋วลงไปบนโต๊ะหน้าโซฟา
ถ้าเป็นคนปกติอาจจะไม่รู้สึกอะไรกับรถบังคับวิทยุแบบนี้ แต่ถ้าเป็นเอเลนรับรองว่าคงหายงอนเป็นปลิดทิ้ง
“
แต่มันก็มีปัญหาตรงที่ว่า...ชั้นจะเอารถนี่เข้าไปใกล้ๆห้องของเอเลนได้ยังไงในเมื่อแม้แต่จะเข้าใกล้ตึกทั้งตึกยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ” แค่เขาโผล่หน้าไป
บอร์ดี้การ์ดคงกรูกันเข้ามาไล่อย่างเมื่อเช้านี้แน่
“
จะบังคับด้วยสัญญาณวิทยุให้มันแล่นไปตามทางเดิน
ก็คงมีใครมาหยิบมันไปทิ้งซะก่อน”
แหงละ...ทางเดินในโรงพยาบาลมันใช่ที่ที่รถบังคับวิทยุจะไปวิ่งไหม
ดูยังไงก็ไม่เนียน
ร่างแข็งแกร่งยกสองแขนขึ้นมากอดอกก่อนจะทิ้งร่างลงไปบนพนักพิงโซฟาอย่างจนใจ...การจะบุกเข้าไปหาเอเลนตรงๆในตอนนี้คือวิธีที่ต้องหลีกเลี่ยงเพราะมันเสี่ยงต่อการที่จะมีเรื่องกันจนอาจจะเดือดร้อนมาถึงเฟอร์รารี่...เขาถึงได้ต้องมานั่งหาวิธีล่อให้เอเลนเป็นฝ่ายออกมาหาเขาเองแบบนี้
ในขณะที่คนเป็นผู้ปกครองยังคิดไม่ตก
ใบหน้าสวยของโกคุเดระกลับนิ่งไปราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง
“
ไม่เห็นจะยากเลย...ถ้ารถมันเข้าไปเองไม่ได้ นายเองก็เอามันเข้าไปวางเองไม่ได้...งั้นก็ให้ใครสักคนเอาเข้าไปวางให้สิ...”
นักขับมือสองของทีมม้าลำพองพูดออกมาพลางหันหน้ามองร่างสูงใหญ่...แบบนี้คงไม่ต้องเดาแล้วล่ะว่าใครสักคนที่ว่านั่นเป็นใคร
“
ห๊ะ? ชั้นหรอ?” เพชฌฆาตมือหนึ่งในวงการมาเฟียชี้นิ้วมาที่ตัวเองด้วยใบหน้าเหวอๆ
“
ก็ชั้นเดินไม่ได้นี่ไอ้บ้า! อีกอย่าง
พวกการ์ดก็คงรู้จักชั้นกับรีไวดี...น่าจะโดนกันเอาไว้ตั้งแต่หน้าประตูแล้ว”
ร่างบอบบางอธิบายด้วยเหตุผลซึ่งคนที่ต้องทำได้แต่นั่งเหงื่อตก
“
พวกนั้นไม่คุ้นกับแก...ถึงจะรู้จักหน้าตามาบ้างแต่ถ้าแกปลอมตัวเป็นคนบ้าที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลก็คงไม่มีใครจับได้แน่นอน...อีกอย่างนะ
คนบ้าถึงจะเดินถือรถของเล่นไปไหนมาไหนมันก็ไม่แปลกใช่ไหมล่ะ
รับรองว่าเนียนสุดๆ”
ใบหน้าคมพยักรับอย่างลืมตัว...อือๆ...ก็ยังดีกว่าให้เป็นหมีแหละ...เอ๊ะ?!! เดี๋ยวนะ!!
“
คนบ้าเลยหรอโกคุเดระ? นายคิดว่าหล่อๆอย่างชั้นใครเค้าจะเชื่อว่าเป็นคนบ้า
อีกอย่างนะ โรงพยาบาลนั้นมันไม่ใช่โรงพยาบาลบ้าแล้วจะมีคนบ้าออกมาเดินได้ไง?
ทำไมไม่ให้ชั้นปลอมตัวเป็นคุณหมอสุดหล่ออะไรแบบนี้ล่ะ? โกคุเดระ~~” ใบหน้าเนียนๆกะจะโผเข้าไปซบคนที่นั่งอยู่ในรถเข็นแต่ก็มีทั้งมือบางและฝ่าเท้าของคนเป็นผู้ปกครองยกขึ้นมายันมันไว้ก่อน
“
โง่รึเปล่าแกน่ะ! ปลอมเป็นหมอคิดว่านางพยาบาลทั้งโรงพยาบาลจะจำไม่ได้หรือไง
ว่าไม่มีหมอหน้าตาโง่ๆแบบนี้
ถ้ามีคนโวยวายขึ้นมาแกก็เสร็จ...แต่คนบ้าเนี่ย...มันก็เดินบ้าของมันไป...ไม่มีใครสงสัยหรอกน่า!”
นั่นมันน่าสงสัยสุดๆเลยไม่ใช่หรือไง....ก็บอกแล้วไงว่ามันไม่ใช่โรงพยาบาลบ้า!
“
ตกลงตามนี้”
แล้วเสียงนิ่งของคนที่นั่งฟังแผนการอยู่นานก็สรุปทันที
ทำเอาคนที่ต้องรับบทบาทสำคัญถึงกับน้ำตาไหลพราก
ก็ได้ๆ
จะยอมช่วยก็ได้...
เห็นแก่ที่เอเลน
เยเกอร์ก็เคยช่วยให้เขาแอบเข้าไปหาโกคุเดระในโรงพยาบาลมาแล้วเหมือนกันนั่นหรอกนะ
เมื่อเตรียมการทุกอย่างจนพร้อม เช้าวันรุ่งขึ้นซึ่งอากาศโปร่งใส
สามคนจากบ้านในเขตอุทยานจึงมาซุ่มอยู่ในโรงพยาบาลโบโลญญ่าเพื่อรอโอกาสตอนที่พ่อของเอเลน
เยเกอร์ออกไปทำงานและแม่กลับบ้านเพื่อเตรียมของใช้จำเป็นของแต่ละวัน...ถึงมันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆแต่แค่นั้นก็พอแล้ว
“
พร้อมแล้ว”
เสียงจากปลายสายโทรศัพท์บ่งบอกว่ารีไวไปถึงดาดฟ้าของตึกที่อยู่ข้างกันเรียบร้อยแล้ว
จากตรงนั้นจะสามารถมองเห็นห้องพิเศษเดี่ยวของเอเลนได้รวมทั้งยังส่งสัญญาณรถบังคับวิทยุจากตรงนั้นได้ด้วย
โทรศัพท์ในมือบางถูกตัดสายไปก่อนที่ใบหน้าสวยจะหันมามองคนที่ยืนอยู่ด้วยกัน
ร่างสูงใหญ่ดูแปลกตาไปเพราะชุดที่สวมอยู่บนร่างกายไม่ใช่สูทสีดำที่คุ้นตาแต่กลายเป็นเสื้อผ้าของคนไข้
มือบางยื่นออกไปขยี้หัวที่เซตมาตามปกติให้ยุ่งเหยิง
“
อืม...หล่อมาก..ไปได้แล้ว!”
ไหล่บางสั่นหงึกๆอย่างพยายามกลั้นหัวเราะและนั่นก็ทำให้คนที่ปกติจะหน้าบานเป็นดอกทานตะวันถึงกับหน้าบูดเป็นครั้งแรก
ร่างสูงใหญ่สะบัดกายอย่างงอนๆเดินถือรถบังคับวิทยุเข้าไปในตึกคนไข้
โดยที่ไม่มีใครสงสัยเลยแม้แต่คนเดียว!
ใบหน้าคมยิ้มเนียนๆอย่างเจ็บใจ...เขาเหมือนคนบ้าตรงไหน?
ทำไมใครๆก็มองเพชฌฆาตสุดหล่ออย่างเขาเป็นคนไม่เต็มไปได้?
ขนาดถือรถของเล่นหน้าตาน่าสงสัยขนาดนี้เข้ามายังไม่มีใครทักสักคน...โกคุเดระนะโกคุเดระ! สักวันจะเอาคืนให้ลุกไม่ขึ้นเลย!
ร่างสูงใหญ่ส่งยิ้มให้บอร์ดี้การ์ดแต่ไม่มีใครกล้าสบตาเขาสักคน
พวกนั้นมองรถของเล่นในมือแล้วก็รีบหันหน้าหนีราวกับไม่อยากสุงสิงกับคนสติไม่เต็มยังไงอย่างงั้น
ถึงจะปวดใจนิดๆแต่มันก็ทำให้เขาปฏิบัติหน้าที่สำเร็จด้วยดี...เมื่อสองขาก้าวผ่านมาถึงหน้าของของเอเลน
เยเกอร์จนได้
มือใหญ่แอบแง้มประตูก่อนจะวางรถบังคับวิทยุลงไป
“
เรียบร้อย”
เสียงทุ้มกรอกไปที่หูฟังไร้สายซึ่งอยู่ในกระเป๋าเสื้อ..ถึงภารกิจจะสำเร็จแต่ร่างสูงใหญ่กลับนั่งเล่นกับกระถางต้นไม้อยู่ที่บันไดใกล้ๆ....เพราะยังไงเสีย...เด็กนั่นก็คงออกไปจากที่นี่คนเดียวไม่ได้แน่ถ้าไม่มีใครจัดการกับบอร์ดี้การ์ดที่อยู่หน้าห้องให้...
“
เฮ้อ....”
ร่างโปร่งบางนั่งถอนหายใจอยู่บนเตียงไม่รู้ว่าเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้ว
ถึงแม้ว่าร่างกายจะค่อยๆหายดี ไข้ก็ไม่มีแล้ว ที่ช่วงล่างก็เบาเจ็บลงไปมาก
แต่บาดแผลที่หัวใจทำยังไงก็ไม่หายปวดเสียที
คงจะเป็นเพราะจากกันมาด้วยความค้างคาใจและตั้งแต่วันนั้นคุณรีไวก็ไม่เคยโผล่หน้ามาให้เขาเห็น
ยังโกรธเขาอยู่งั้นหรอ...
หรือไม่กล้ามาเพราะว่าตัวเองเป็นคนทำร้ายเขา...
“
เฮ้อ....”
นัยน์ตาสีมรกตได้แต่ทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง
ความตั้งใจไม่ได้แน่วแน่เหมือนเดิมแล้ว ตอนนี้ความรู้สึกของเขามันกำลังยุ่งเหยิง...เขายอมรับว่าเขากลัวคุณรีไวที่เป็นแบบนั้น...ไม่เคยเห็น
ไม่เคยรู้จัก
นั่นอาจจะเป็นตัวตนของคุณรีไวที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในเมืองที่แสนโสมมของมิลานซึ่งหลับใหลอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ...
แต่ถึงจะกลัว
ถึงใจหนึ่งจะบอกให้ถอยห่างออกมาเพราะพวกเราคงต่างกันมากเกินไป
แต่หัวใจที่รักคุณรีไวก็ยังมีมากกว่า
แค่คิดว่าจะไม่มีอ้อมแขนแข็งแรงคู่นั้นโอบกอดเอาไว้เขาก็แทบทนไม่ได้
ทั้งๆที่ก็เป็นอ้อมแขนคู่เดียวกันกับอ้อมแขนที่ทำร้ายเขา....
ถึงจะเข้าใจว่าคุณรีไวทำลงไปเพราะอะไร...แต่มันก็รุนแรงเกินไปที่จะเอามาใช้กับคนที่รักกัน
“
เฮ้อ....”
ไม่รู้....เขาไม่รู้แล้วว่าจะต้องทำยังไง....จะรักต่อไปหรือจะเลิก...ไม่รู้...ไม่รู้ๆๆๆ
ไม่รู้อะไรทั้งนั้น!
“
อ๊า.......” ร่างโปร่งล้มตัวลงไปบนที่นอนก่อนจะมองฝ้าเพดานสีขาวด้วยนัยน์ตาเลื่อนลอย
ถ้าไม่ถูกทำเรื่องโหดร้ายแบบนั้นป่านนี้เขาก็คงจะยังดื้อดึงตามตื้ออีกฝ่ายต่อไป....แต่พอมาเป็นแบบนี้แล้วเขาถึงได้เพิ่งรู้....ว่าคุณรีไวคงจะโกรธเกลียดเคียดแค้นพ่อของเขามากแค่ไหน....ที่ผ่านมาเขาคงจะคิดอะไรง่ายเกินไป
บางทีบาดแผลที่ถูกทำร้ายมันก็ไม่ได้หายไปง่ายๆ
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นสิบปีแล้วก็ตาม
เหมือนกับรอยแผลที่คุณรีไวทำไว้กับเขา...มันจะจางหายไปง่ายๆได้หรือเปล่า...ไม่รู้...เขาไม่รู้เลย
นัยน์ตาสีมรกตทอดมองแอปเปิ้ลรูปกระต่ายที่แม่ปอกเอาไว้ให้
ตอนที่ลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นใบหน้านองน้ำตาของแม่ก็รู้สึกปวดแปลบไปทั่วหัวใจ...เพราะความเอาแต่ใจของเขาถึงได้ทำให้พ่อกับแม่ต้องเจ็บปวด
ต้องอับอายขายหน้า
ที่ผ่านมาเขาเอาแต่โกหกโดยไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของทั้งสองคนเลย
ไม่เคยสำนึกเลย...ว่าเขานั้นถูกรักมากแค่ไหน....
เลิกเสียดีไหมนะ...กับคุณรีไว....เพื่อพ่อกับแม่ของเขาเองด้วย....
จู่ๆก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมาเพราะหัวใจของเขารู้ดียิ่งกว่าใครว่าคงจะเลิกรักผู้ชายคนนั้นไม่ได้....
ต่อให้อยากจะเลิกแค่ไหนก็ตาม...
เสียงประตูเปิดออกทำให้มือบางยกขึ้นไปปาดน้ำตาลวกๆ...แม่กลับมาแล้วงั้นหรอ?
แต่เพิ่งจะไปเมื้อกี้นี้เองนี่? ลืมอะไรหรือเปล่า?
ในขณะที่มองหาร่างโปร่งของแม่เพื่อจะถามแต่อะไรบางอย่างที่วิ่งอยู่บนพื้นมันก็ทำให้นัยน์ตาสีมรกตถึงกับเบิกกว้าง
นั่นมัน....รถบังคับวิทยุ?...F138 ที่คันเท่าฝ่ามือ...
เสียงเครื่องยนต์จากมอเตอร์และฟันเฟืองที่ไม่ได้ยินมาหลายวันทำให้หัวใจรู้สึกปลอดโปร่งชอบกล
ใบหน้ามนอมยิ้มน้อยๆก่อนจะค่อยๆโน้มตัวลงไปหยิบเจ้ารถสีแดงเพลิงคันจิ๋วนั้นขึ้นมา
เพราะไม่คาดคิดเลยว่ามันจะเป็นของคนที่อยู่ในห้วงคำนึง....คิดแต่ว่าคงเป็นพ่อหรือแม่หรือเพื่อนของเขาเอามันมาให้
เพราะฉะนั้นเมื่อเห็นชื่อ
“ LEVI ” เขียนลงท้ายอยู่ในกระดาษข้อความ...
น้ำตาจึงไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว....
สิ่งที่เฝ้าคิดทบทวนมาหลายต่อหลายวันมลายหายไปทันทีที่เห็นข้อความ
ทั้งๆที่เอาแต่คิดๆๆ คิดว่าทำแบบไหนถึงจะดี
แต่แค่ตัวหนังสือเพียงประโยคเดียวกลับทำให้สมองว่างเปล่าขาวโพลน...
แล้วหัวใจก็กลับมาบงการทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนเดิม
‘
ชั้นรออยู่ที่ดาดฟ้า...ออกมาหาชั้นได้ไหมเอเลน...’
มันไม่ใช่ระโยคคำสั่งเหมือนทุกทีแต่ทั้งประโยคนี้มันคือคำอ้อนวอน....
คำอ้อนวอนของผู้ชายที่ทำร้ายเขา...
คำอ้อนวอนของผู้ชายที่ไม่เคยขอร้องใคร...
คำอ้อนวอนของผู้ชายที่เขารักยิ่งกว่าตัวเอง...
สองขาถึงได้ก้าวลงจากเตียงโดยไม่ยอมฟังเสียงคัดค้านจากสมอง...เพราะหัวใจของเขาอยากจะไปหา...อยากไปหาคุณรีไว...
ร่างกายชะงักไปเล็กน้อยเมื่อรับรู้ถึงสายตาที่จ้องมองอยู่...นัยน์ตาสีมรกตก้มมองรถบังคับวิทยุในมือ...การจะบังคับให้มันวิ่งมาหาเขาที่เตียงได้แปลว่าคนบังคับต้องมองเห็นเขาอยู่แน่ๆ
ใบหน้ามนค่อยๆหันไปมองหน้าต่างบานใหญ่ก่อนจะเงยมองขึ้นไปที่ดาดฟ้าของตึกข้างๆ
ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครยืนอยู่ตรงนั้นจริงๆ...
ใบหน้าที่มองเห็นอยู่ไกลๆนั่นกำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาปวดร้าว
ฝ่ามือของเขาแนบลงไปบนกระจกโดยที่ไม่รู้ตัว ในใจได้แต่ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
ว่าเขาคงไม่มีทางไปจากผู้ชายคนนี้ได้แน่ๆ
ไม่มีทาง....ไม่มีทางเลย...
สองขาวิ่งพรวดพราดออกมาจากห้อง
มือของบอร์ดี้การ์ดพยายามจะตะครุบตัวเขาเอาไว้ แต่จู่ๆคนพวกนั้นก็สลบไป
แล้วเขาก็ทำได้แค่หันไปโค้งให้ยามาโมโตะ
ทาเคชิที่ยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น
สองขาวิ่งตามทางเชื่อมตึกไปเรื่อยๆ
ต่อให้ร่างกายจะยังไม่หายดี ต่อให้ลมหายใจจะหอบถี่
แต่ขาทั้งคู่ก็ยังวิ่งต่อไปไม่ได้หยุด
วิ่ง....
วิ่งไปเรื่อยๆ...
วิ่งไปจนถึงประตูเหล็กที่กางกั้นโลกที่กำลังหาทางออกไม่ได้ของเขากับภายนอกที่กว้างใหญ่...และเมื่อมือเปิดมันออกไป....
ท้องฟ้าที่แสนสดใสก็กำลังรอเขาอยู่...
ร่างโปร่งบางวิ่งถลาเข้าไปหาอ้อมแขนที่อ้ารออยู่
ต่อให้คิดมาแค่ไหนว่าเขาจะกลัวอ้อมแขนที่ทำร้ายเขาคู่นี้หรือไม่
แต่พอได้จมหายลงไปในอ้อมแขนนี้อีกครั้ง
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยวนเวียนเคยหวาดกลัวอยู่ในหัวก็หายไปทันที
กลิ่นที่แสนคิดถึงทำให้ใบหน้าซบลงไปที่หัวไหล่แข็งแรง
ความอบอุ่นทำให้สองแขนตอบรับกอดกระชับร่างแข็งแกร่งเอาไว้
ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรให้มากมายเลยจริงๆ....
ยังไงเขาก็รัก...
รักคุณรีไว...
“
เอเลน...”
เสียงทุ้มที่กระซิบเรียกชื่อเขาอยู่ที่ใบหูทำให้นึกอยากจะร้องไห้....
“
ขอโทษนะ”
และพอได้ฟังประโยคนี้...ทำนบน้ำตาก็พังทลายลงไม่เหลือชิ้นดี
เขาร้องไห้โฮจนมือใหญ่ต้องยกขึ้นมาลูบหัวกันยกใหญ่
ร้องไห้ด้วยความดีใจที่อีกฝ่ายยอมรับกับสิ่งที่ตัวเองทำกับเขา
ดีใจที่อีกฝ่ายยอมให้อภัยเขา ดีใจที่จะไม่ต้องเลิกกัน
มือใหญ่ค่อยๆประคองใบหน้าเขาออกมาก่อนจะเกลี่ยไล้หยาดน้ำตาให้
ริมฝีปากที่อบอุ่นจูบลงมาที่ขมับแทนคำขอโทษทั้งหมดทั้งมวล
ซึ่งเขาก็รับมันด้วยรอยยิ้ม...
อาจจะดูเหมือนเขายอมให้อภัยอีกฝ่ายง่ายๆ
แต่ก็อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้เราไม่ได้เกลียดกัน
ยิ่งพอคุณรีไวเล่าเรื่องที่พ่อใช้ข้ออ้างว่าตัวเองเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดนั่นเพื่อให้เขาเลิกกับคุณรีไว
ทั้งที่จริงแล้วไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
ความหนักหน่วงที่คอยถ่วงอยู่ในใจมันก็หายไปทันที
จากที่เคยคิดจะเลิกกับคุณรีไวเพราะครอบครัวของเขาเป็นคนทำร้ายอีกฝ่ายเอาไว้จึงหยุดลงแค่นั้น
เมฆหมอกมันค่อยๆเคลื่อนผ่านไป...ตอนนี้ตรงหน้าเขามีเพียงท้องฟ้าที่สดใสเพียงเท่านั้น...
“
แล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? ยังมีไข้อยู่ไหม? ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?” เขาส่ายหน้าน้อยๆก่อนจะซบลงไปที่ไหล่แข็งแรง...พวกเขานั่งอยู่บนเก้าอี้เหล็กเก่าๆ
เหม่อมองผ้าปูเตียงสีขาวที่กำลังโบกพัดไปตามแรงลม
ถึงสถานที่จะไม่ได้มีความโรแมนติก แต่แค่ได้อยู่ด้วยกันไม่ว่าจะที่ไหนก็เต็มไปด้วยสีชมพูได้ทั้งนั้น
“
ไม่เป็นไรแล้วครับ...แต่ห้ามทำแบบนั้นกับผมอีกนะ...ผมกลัว” คุณรีไวพยักหน้ารับอย่างหนักแน่นจนเขาเผลอยิ้ม
“
แต่ถึงจะไม่มีเรื่องของฮายาโตะมาเกี่ยว...แต่กับพ่อของนาย...ก็คงจะไม่ง่ายที่จะคุยกันดีๆ”
ใบหน้านิ่งบอกออกมาตรงๆซึ่งข้อนี้เขาก็ได้แต่ยิ้มแห้งอย่างเห็นด้วย
ป่านนี้พ่อแม่เขาคงคิดว่าคุณรีไวเป็นอันธพาลไม่ก็หัวหน้ามาเฟียอะไรไปแล้ว...ยิ่งมีความเกี่ยวข้องกับพวกวองโกเล่ด้วยแบบนั้น
“
ช่างเถอะ...เพราะถึงจะอีกนานแค่ไหน...ชั้นก็จะทำให้พวกเขาเห็นว่าชั้นดูแลนายได้” ปกติไม่ค่อยจะยอมพูดยอมจาแท้ๆ
แต่พอพูดออกมาทีนี่ก็ทำให้เขาแทบจะเขินม้วนได้เลยแหะ คุณรีไวเนี่ย
“
แต่พ่อผมหัวแข็งมากเลยนะครับ”
เขาเงยขึ้นไปมองหน้าคนที่กำลังยกยิ้มที่มุมปากทั้งๆที่ยังซบอยู่ที่หัวไหล่
“
ขู่ชั้นหรือไงเจ้าเด็กเหลือขอนี่”
มือแข็งแรงบีบลงมาที่จมูกก่อนจะโยกมันเบาๆจนเขาได้แต่หัวเราะออกมา
“
เพราะงั้นช่วงนี้อาจจะเจอกันน้อยหน่อยนะครับ
พ่อคงเฝ้าผมแจแน่....แต่ว่า...ผมจะพยายามทำตัวเป็นเด็กดีเพื่อให้พวกเขาเห็นว่าผมคบกับคุณแล้วผมไม่ได้เสียหายอะไร” ใบหน้านิ่งเงยมองท้องฟ้าอย่างยอมรับกับการตัดสินใจของคนข้างกาย
เพราะเขารู้ว่ามันไม่ง่ายที่จะเรียกความเชื่อใจจากพ่อแม่ของเอเลนคืนมา
ในเมื่อทั้งคู่ก็เห็นแล้วว่าเขาเคยทำเรื่องเลวร้ายกับเด็กนี่ไว้มากแค่ไหน
“
อีกอย่าง...ผมจะช่วยพวกคุณหาหลักฐาน”
เสียงจริงจังของเอเลนเอ่ยออกมาทำให้เขาก้มลงไปมองอย่างสงสัย
“
หลักฐาน?”
“
ก็เกี่ยวกับเรื่องเมื่อสิบปีก่อนไงครับ...คุณบอกว่าพ่อผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจ้างวานฆ่าโกคุเดระ
แต่เรื่องเมื่อสิบปีก่อนที่เวโรน่า...พ่อของผมยังพัวพันอยู่ใช่ไหมละครับ”
“
อืม...” เป็นแบบนั้นจริงๆ
แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าพ่อของเอเลนจะทำไปเพราะถูกบังคับ...โดยมีครอบครัวเป็นตัวประกัน
“
ถึงจะไม่แน่ใจว่าจะหาอะไรเจอไหม แต่ผมก็จะลองแอบค้นห้องทำงานของพ่อที่บ้านดู....ผมเองก็อยากจะพิสูจน์ว่าพ่อของผมไม่ได้ผิดด้วยเหมือนกัน” ต่อให้จะมีส่วนพัวพันแต่ร่างโปร่งบางก็ยังเชื่อว่าพ่อของตนจะไม่ทำเรื่องเลวร้ายอย่างการฆ่าคน
หลังจากวันนั้น...
เอเลนยอมกลับไปอยู่ที่บ้านแต่โดยดี
ถึงจะเถียงกับพ่อแม่หัวชนฝาเรื่องที่ว่าจะไม่ยอมเลิกกับเขา
แต่เรื่องอื่นเด็กนั่นก็ยอมฟังพ่อกับแม่ทุกอย่าง
ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ก็ใช่ว่าเวลาที่จะเจอกันมันจะน้อยลงสักเท่าไหร่
ในเมื่อปกติแล้วเขาก็ต้องไปแข่งแทบจะเจอกันอาทิตย์เว้นอาทิตย์อยู่แล้ว
เพราะงั้นที่พ่อแม่เด็กนั่นไม่ค่อยเห็นว่าเอเลนหนีออกมาหาเขา...พวกเราก็แค่กลับไปเป็นเหมือนปกติ
จะไม่ปกติก็มีแค่ทุกครั้งที่พวกเขาเจอกัน
เพียงไม่นานคนเป็นพ่อก็จะมาลากเอเลนกลับบ้านไป
ปล่อยให้เขาได้แต่หงุดหงิดอยู่ตามลำพัง
ดูท่าทางว่าอุปสรรคชิ้นนี้เขาจะผ่านไปไม่ได้ง่ายๆอย่างที่คิดจริงๆ
คงต้องหาทางทำอะไรก่อนที่คุณพ่อหวงลูกชายนั่นจะจับเอเลนย้ายไปอยู่ที่อื่นหรือไม่ก็จับแต่งงานกับพวกลูกสาวรัฐมนตรีที่น่าสงสาร
“
เฮ้อ....”
โป๊กๆๆๆ!!
ในขณะที่เขากำลังนั่งถอนหายใจ
แล้วหมีควายที่ไหนมันมาทำเสียงดังหนวกหูซะจนอยากจะลุกไปไล่กระทืบมันให้ตายไปข้างจริงๆ
ใบหน้าทะมึนหันไปหาสาเหตุของเสียงสนั่นหวั่นไหวนั่น...ปกติเจ้าเด็กในปกครองของเขาจะอยู่กับพวกวองโกเล่ที่คฤหาสน์ในโรม
แต่พอเขากลับมาจากการแข่งตอนช่วงต้นสัปดาห์
ฮายาโตะก็จะกลับมาอยู่ที่นี่จนกว่าเขาจะไปแข่งต่อ...กับเด็กนั่นเขาไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะ
แต่กับไอ้หมีวายร้ายที่ติดสอยห้อยตามมาด้วยนี่สิ...ทำไมมันถึงได้กระตุกต่อมอยากกระทืบคนของเขาได้ขนาดนี้ก็ไม่รู้นะ?
ครืด!!!
ประตูเลื่อนฝั่งเฉลียงถูกเปิดออกก่อนที่นักขับมือหนึ่งของทีมเฟอร์รารี่จะก้าวไปยืนท้าวขอบวงกบประตูเอาไว้
จากที่ว่าจะไปไล่เตะไอ้หมีบ้านั่นให้หายหงุดหงิดซะหน่อยแต่พอเห็นสภาพของมันแล้ว...ปล่อยให้ตกลงมาตายเองคงจะง่ายกว่า
นักฆ่าที่ใครก็ว่าน่ากลัวกลับกำลังปีนต้นไม้ขึ้นไปตัดกิ่งที่ระหลังคาบ้านฝั่งขวาตามคำบัญชาของคนที่นั่งอยู่ในรถเข็นเบื้องล่าง
เจ้าเอลวินคงจะยิ้มเลยสินะแบบนี้....
แต่ก่อนที่สองขาจะก้าวกลับเข้ามาในตัวบ้าน
เสียงอัลฟ่าโรเมโอที่คุ้นเคยก็ดังแว่วเข้ามาในหู
“
คุณรีไว!! ผมไปเจอนี่เข้า!”
ร่างโปร่งบางของเจ้าเด็กเหลือขอโดดพรวดพราดออกมาจากรถด้วยท่าทางตื่นเต้น
และแล้วจิกซอว์ชิ้นสุดท้ายที่พวกเขากำลังตามหาอยู่....ก็ถูกค้นพบจนได้...
หลักฐานชิ้นสำคัญที่
คริชา เยเกอร์ เก็บมันเอาไว้เป็นอย่างดี....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To
be Con.
อะ
อีกสองตอน....แฮ่กๆๆ แต่คงไม่ทันแบ้วค่ะสำหรับวันที่ 9 เดือน 9
โฮววววววววววววววววว ตะ แต่ยังไง เดือน 9 ก็ยังมีอีกทั้งเดือนเนอะ *w* แถสีข้างถลอก ยะ ยังไงก็กราบขอประทานอภัยที่มันไม่จบในวันนี้นะคะ
ฮือออออออออ มี๊ขอโทษนะหนูก๊ก มี๊มัวแต่ไปรับพี่ชายหนูที่ดาวอังคารอยู่~~ *กัดผ้าเช็ดหน้า*
ก่อนจะออกทะเลมาแฮปให้ลูกสาว(?)ที่น่ารักของคุณกวางก่องดีก่า...
สุขสันต์วันเกิดนะก๊ะ
หนูก๊ก
>////<
อวยพรกันมาทุกปีก็ขอให้มีความสุขทุกปี555
ขอให้ได้เป็นมือขวาดังใจปรารถนา ขอให้ฮาเร็ม(?)เจริญรุ่งเรือง หมีรักหมีหลงนะลูกนะ
*q*…ถึงรีบอร์นจะจบไปแล้ว ถึงหนูก๊กจะไม่ได้โล้ดแล่นอยู่บนแผ่นกระดาษแล้ว แต่หนูก็จะเป็นที่หนึ่งในใจมี๊ตลอดไป
ปีหน้านี้โต(?)ขึ้นอีกปีก็ขอให้ได้เจอกับฟิคดีๆ(?) บทนางเอกดีๆ(?)นะลูกนะ >w<
HAPPY
BIRTHDAY GOKUDERA HAYATO!
แฮ่กๆๆๆ
เรียกว่าปั่นนรกกันอีกแล้วค่ะฟิควันที่ 9 เดือน 9 ปีนี้
ดูเหมือนจะทันแบบชิลๆแต่ก็ไม่ทันอีกตามเคย นี่มันอะร๊ายยยยยย >[ ]< นะ...ก็ยังคงเป็นไหใหญ่เหมือนเดิมปีนี้555 ความจริงแล้ว GLIDE เองก็เริ่มแต่งในเดือน 9 ของปีที่แล้วนะ ถึงมันจะดองจนข้ามมาอีกปีอย่างไม่มีสำนึกเลยก็เถอะถถถถถถถ
ก็ต้องขอขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดเลยนะคะ เหะเหะ
แปะภาพแฮปวันเกิดปีนี้ของหนูก๊กกันซักหน่อย
อิอิ ส่งหนูเลนเป็นตัวแทนมี๊และครอบครัว(?)ไปนะก๊า *w*
นะ...จะไม่มีเนียนได้ไง
ถึงแม้ว่าภาพมันจะใช้อันเดียวกับของเนียนปีที่แล้วก็เถอะนะถถถถถถ
แล้วเจอกันตอนหน้าค่า...ปั่นต่อไป
แฮ่กๆๆ
ฮืออออ เอเลนตื่นมาก็ยังเรียกหาท่านท่อนขาเป็นคนแรก!!!!! อ้ากกกกกกกกกก ทั้งที่ตัวเองต้องอยู่ในสภาพเจ็บทั้งตัวแบบนั้นแท้ๆ ฮือออ เริ่มต้นมาเค้าก็ไม่ทนแล้วจริงจังค่ะกวางซามะ แถมกวางซามะยังจัดให้เค้าได้เห็นมุมท่านท่อนขาที่กำลังอ่อนแอที่สุดให้ด้วย การได้เห็นคนที่แข็งแกร่งและไม่เคยจะเกรงกลัวอะไรกับใครเค้า กำลังอ้อนวอนสุดหัวใจ อ้อนวอนขอให้เด็กเหลือขอที่ตัวเองทำเรื่องชั่วช้าเพื่อผลักไสไปเองแท้ๆ ไม่ให้ทิ้งกันไปจริงๆแบบนี้ เค้าฟินมากกกกจริงๆนะคะ พลอตแบบนี้เค้าไม่ทนจริงจังงงงงงงงงงง แถมฉากที่ท่านท่อนขาได้ฉะกับพ่อตา(?)เค้าชักรู้สึกชอบ(?)ที่ได้เห็นบ่อยจริงจังถถถถถถ ทั้งๆที่ท่านท่อนขาเป็นรองกว่าแท้ๆแต่ก็ยังดึงดันปีนขึ้นกล่องเพื่อให้อยู่สูงกว่า #โดนเตะเสย555555555เนื่องจากมันไม่ใช่ประเด็นในช่วงท้าย นั่นล่ะค่ะ ชอบความเป็นปีศาจ(?)ซาตาน(?)ในตัวท่านท่อนขามากๆ > ___ < ซาตานเวลาที่หมายปองอะไรแล้วมันก็ต้องนี่นะ อ้ากกกกกกก คิดแบบนี้แล้วต้องกลับไปอ่านหัวใจราชันย์(?)อีกรอบบบที่แปดพันห้าสิบเก้า #ยังคงเป็นคนที่เม้นท์ออกทะเลตลอดเวลา!!
ตอบลบแล้วเค้าก็ก๊ากมากจริงๆนะคะที่เห็นว่าท่านท่อนขาที่ปกติใช้แต่ท่อนขา(?)ต้องมานั่งใช้หัวแบบนี้ 5555555555 โอ่ยยย ร้าวมาหลายตอน(?)ขอหัวเราะแบบไม่เกรงใจเพื่อความฟินเลยจริงจังค่ะ ไม่ใช่ว่าท่านท่อนขาไม่เหมาะกับทางใช้หัวอะไรหรอกนะคะ แต่การที่จะได้เห็นท่านท่อนขามานั่งคิดวางแผนทั้งวิธีการง้อและก็วิธีการที่จะได้เข้าไปง้อในปราการเหล็ก(?)ของคุณพ่อร้ายกาจแห่งปี(?)ด้วยใบหน้าหงุดหงิดกับหนูก๊กและหมีเนียนนี่มันทำให้เค้าก๊าวใจมากจริงจังงงง แถมคุณท่านยังยอมรับแล้วด้วยอีกแน่ะว่ายอมยกเด็กในปกครองให้หมีเนียนแล้วววววว อ้ากกกกกกกกกกก จุดเล็กๆแค่นี้เค้าก็ฟินนะก๊าาา แล้วไหนจะแผนการสุดยอดที่ได้มาจะโดนใจมากๆอย่างการให้หมีเนียนเลิกเป็นหมี(?)แต่ไปเป็นคนบ้า(?)แทนแบบนี้อีก เค้าฮามากจริงๆ 5555555 ถ้าไม่รักหนูก๊กจริงจะมีเพชฌฆาตที่ไหนมายอมทำเรื่องแบบนี้ให้กันเนี่ยยยย ถถถถถถถถ บทคนบ้า(?)มันก็ไม่เลวนักหรอกนะยามะ เชื่อคนบ้า(?)คนนี้ซี่ถถถถถถถถถถถถ #จุดนี้คนบ้าคนนี้รู้สึกเบิกบาน(?)เหมือนได้เพื่อน(?)มากๆเลยค่ะ55555555555 แล้วคือเค้าชอบมากกกกกกจริงจังกับการที่หนูก๊กขยี้หัวยามะให้ยุ่งแล้วบอกว่าหล่อมาก คือเราตบเข่าลงไปดิ้นเลยจริง หนูก๊กน่ารักกกกกกกกกกกกกกมากกกกกกก ถถถถถถถถถถถถ แล้วไหนพ่อคุณจะแสดงได้สมบทบาท(?)จนไม่มีใครสงสัยนั่นอีก สมบทบาทจนภารกิจเสร็จและสามารถเข้าไปนั่งเล่นกับกระถางต้นไม้ที่ข้างบันไดได้!!!!!!!! ถถถถถถถถถถถถถถถ โอ่ยยยยย ชอบพาร์ทนี้มากจนไม่รู้จะชอบยังไงแบ้วววว ขอบคุณกวางซามะที่เซอร์วิส(?)คนอ่านที่ช้ำหน่วงติดๆกันถึงสองพาร์ทได้หัวเราะมีความสุขขนาดนี้จริงจัง
และเหนือสิ่งอื่นใดของพาร์ทนี้คงไม่พ้นเรื่องที่ท่านท่อนขาง้อเอเลนด้วยการบังคับรถบังคับวิทยุ รถบังคับวิทยุที่เป็นดั่งจุดเริ่มต้นให้คนคู่นี้ได้พบกัน กำลังเป็นตัวกลางช่วยให้สองคนนี้ได้กลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง ฮือออออ เค้าประทับใจจุดนี้มากจริงๆนะคะ และทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เอเลนเอาแต่นั่งหาคำตอบเรื่องความรักของตัวเองอย่างหาคำตอบไม่ได้เลยแท้ๆ แต่เพียงแค่ได้รับประโยคอ้อนวอนจากคนที่รักหมดใจก็พลันได้คำตอบทันทีว่ายังไงก็เลิกรักคนๆนี้ไม่ได้ ฉากที่เอเลนมองหาท่านท่อนขาผ่านบานหน้าต่างและเห็นว่าท่านท่อนขาก็กำลังยืนมองมาที่เอเลนด้วยสายปวดร้าว เค้าน้ำตาไหลเลยจริงจังค่ะ คือคำตอบของเอเลนที่เฝ้าถามมาตลอดก่อนหน้านี้มันตอบได้แทบจะทันทีที่เห็นหน้าแล้วเลยจริงจัง ไหนจะการบรรยายระหว่างที่เอเลนวิ่งกลับไปหาหัวใจมันก็บิ้วท์เค้าสุดยอดจริงๆ การโผเข้ากอดกัน การที่ท่านท่อนขาเอ่ยคำขอโทษ ฮืออออออออออออออ เค้าชอบพาร์ทนี้มากจริงๆนะคะกวางซามะ เป็นพาร์ทที่เค้าอ่านกี่ครั้งเค้าก็น้ำตาไหลค่ะ น้ำตาไหลจริงๆนะคะ T _ T เป็นพาร์ทที่ดีมากๆจริงๆ เหมาะกับเป็นพาร์ทวันเกิดหนูก๊กเลยจริงจัง ฮือออออ รักฟิคกวางซามะมากๆๆ รักพาร์ทนี้มากๆๆ ฮือออออออ ยังไงก็สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังหนูก๊กหลายๆเดือนเลยจริงจัง ถึงจะไม่ได้อวยให้ในนี้(?)ตรงวันแต่คนบ้าคนนี้ก็รักหนูก๊กไม่แพ้คนบ้าคนนั้น(?)เลยน้าาาาา ถถถถถถถถ
ลบขอบคุณกวางซามะมากจริงจังที่แต่งพาร์ทนี้ ฮืออออออ #โดดน้วย
ปล.เค้าดีใจกับเอลวิน(?)จริงนะคะ ที่ได้คนบ้ามาช่วยผ่อนแรงเรื่องงานเบ็ดเตล็ด(?)แล้วถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ ว่าแต่เอลวินนนน ตู้โทรศัพท์ฉันล่ะะะะะะ #เอลวินบอกเลิกยุ่งกับตูทีเถอะะ~~~~~ถถถถถถถถถถถถถ
น้ำตาจะไหล
ตอบลบในที่สุดก็คืนดีกันซะที
ต้องยกเครดิตเรื่องแผนการให้ก๊ก
และที่สำคัญ "ความบ้า" ของยามะ
บางทีเราก็สงสารยามะนะ
เป็นคนบ้านซะเหมือนจริงเลย
นี่เอาตัวจริงมาเล่นหรือแค่สวมบทเฉยๆกันแน่