Aldnoah.Zero
Au.Fic [Cruhteo x Slaine] - Last Word - : 04
:
Aldnoah.Zero Fanfiction Au
:
Cruhteo x Slaine
:
Romance Period
:
NC-17
คำเตือน :
เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย
หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
ร่างโปร่งบางยืนอยู่หน้ากระจกโดยปล่อยให้ช่างแต่งกายจัดการกับเสื้อผ้าหน้าผมของตนไป
นัยน์ตาสีมรกตทอดมองไปที่พื้นอย่างไม่กล้ามองหน้าตัวเองในกระจก สองแก้มใสแดงระเรื่อยิ่งส่งให้เครื่องสำอางที่ฉาบไล้เอาไว้อ่อนๆยิ่งดูชวนมองยิ่งขึ้นไปอีก
เอวบางถูกดึงจนแน่น
กระโปรงที่ฟูฟ่องทำให้ดูมีสะโพกเหมือนหญิงสาววัยแรกแย้มจนดูไม่ออกว่านั่นคือเด็กผู้ชาย
ไหล่เปลือยเปล่าขาวนวลเนียนยิ่งมีถุงมือที่ยาวขึ้นไปถึงข้อศอกก็ยิ่งส่งให้ร่างโปร่งบางดูน่าทะนุถนอมมากขึ้นไปอีก
ปรอยผมสีชายาวลงมาประบ่าถูกม้วนเป็นลอนสวยงามราวกับเส้นผมของตุ๊กตา
ความพลิ้วไหวราวกับเส้นไหมนั้นทำออกมาได้ดีจนดูไม่รู้ว่ามันเป็นผมปลอม
อาจจะเป็นเพราะใบหน้ามนดึงดูดสายตาเอาไว้ได้หมดอยู่ก่อนแล้วด้วยกระมัง
“
ช่วยหมุนทางซ้ายนิดนึงค่ะ”
ช่างแต่งกายเอ่ยบอกร่างโปร่งบางจึงขยับตามฝ่ามือที่จับเอวหมุนจากตำแหน่งเดิมไปเล็กน้อย
ดูเหมือนจะยังมีดอกไม้ผ้าต้องประดับเพิ่ม การแต่งตัวของเขาจึงยังไม่เสร็จเสียทีทั้งๆที่ยืนอยู่ตรงนี้มานานกว่าชั่วโมง
เพราะยืนอยู่เฉยๆ
ในหัวจึงได้นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นบนระเบียงดาดฟ้าคืนนั้นขึ้นมาได้ทุกที
หลังจากนั้น....ท่านเคาท์ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ยังคงปั้นหน้าบึ้งตึงพูดจาไม่รักษาน้ำใจใส่เขาเหมือนเคย
ตกลงว่าแค่เมาอย่างนั้นใช่หรือเปล่า?
เจ้าของผมสีชาลอบถอนหายใจ....ใบหน้าที่ทั้งเขินอายทั้งกังวลน้อยๆกลับทำให้ร่างโปร่งดูน่ารังแกมากขึ้นไปอีกยามที่อยู่ในชุดแบบนี้...และก็คงจะมีแต่เจ้าตัวเท่านั้นแหละที่ไม่รู้
“
เสร็จรึยัง? องค์หญิงรอนานแล้วนะ”
เสียงดุดันของเจ้าของปราสาทดังขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะเดินเข้ามา
จากที่ตั้งใจจะดุด่าเรื่องที่ว่าต้องให้องค์หญิงนั่งรอแบบนี้มันใช้ไม่ได้
แต่เมื่อนัยน์ตาสีฟ้ามองเห็นร่างโปร่งบางที่ค่อยๆหันหน้ามา....ภาพตรงหน้ากลับตราตรึงจนร่างกายได้แต่ชะงักค้าง
ทุกสิ่งทุกอย่างนิ่งงันราวกับถูกความงดงามนั้นสะกดจนแม้แต่คำพูดใดๆก็ไม่อาจจะเอ่ยออกไปได้...
สวย...จนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นแค่ก้อนกรวดที่เก็บขึ้นมาจากพื้นดิน...
แล้วก็คล้าย....กับคนที่นั่งอยู่ในหัวใจของเขามาก...
หากจะเผลอมีความรู้สึกใดๆด้วยก็คงไม่น่าแปลกใจเลย...
“
ท่านเคาท์?....มัน...แปลก...หรอครับ?”
ใบหน้ามนช้อนสายตาขึ้นมาถามก่อนจะก้มลงไปบีบมือของตัวเองด้วยความกังวล
เสียงของสเลนทำให้เขาหลุดออกมาจากภวังค์ก่อนจะปรับสีหน้าให้กลับมาหยิ่งทระนงตามเดิม
“
เปล่า....”
ร่างสูงใหญ่สะบัดกายหันหน้าหนีไปอีกทาง...ไม่อยากมองไปมากกว่านี้เพราะเขาก็เริ่มกลัวหัวใจของตัวเอง
ได้แต่พร่ำบอกตอกย้ำให้ตัวเองสบายใจ...ว่าที่เขาเผลอไปก็แค่เพราะเด็กนั่นหน้าคล้ายคนที่เขารักก็เท่านั้น
ถ้าจะแทนก็แทนได้แค่ร่างกาย...ส่วนหัวใจเขาคงไม่มีวันยกให้...
“
.......ไม่ชอบ...หรอครับ?”
เพราะเขาหันหลังให้ เด็กนั่นเลยยิ่งถามด้วยเสียงกังวลหนักกว่าเดิม
ร่างสูงใหญ่จึงก้าวขาออกมาก่อนจะทิ้งท้ายเอาไว้ให้ใบหน้ามนขึ้นสีแดงระเรื่อ
“
ไม่ใช่...”
นั่นแปลว่าชอบได้หรือเปล่านะ?
สองมือดึงชายกระโปรงฟูฟ่องขึ้นเล็กน้อยก่อนจะก้าวขาเดินตามแผ่นหลังกว้างไปด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ
ถึงแม้จะรู้ดีว่าคงเป็นเรื่องที่คิดไปเองแต่กับคนที่ดูถูกดูแคลนเขาอยู่ตลอดเวลาได้แค่นี้ก็คงดีที่สุดแล้ว
ไม่กล้า...ที่จะหวังอะไรไปมากกว่านั้น...
รถม้าแล่นไปตามถนนโรยกรวดจากปราสาทวอร์วิคมุ่งหน้าสู่ปราสาทของตระกูลฟราเมี่ยน
แสงคบไฟระยิบระยับทอดเป็นสายทำให้ใบหน้ามนของคนที่ไม่เคยเห็นมองมันด้วยดวงตาเป็นประกาย
เบื้องหน้ามีรถม้าอีกหลายคันกำลังมุ่งไปทางเดียวกัน บรรยากาศราวกับอยู่ในเทพนิยายทำให้เริ่มจะเข้าใจความรู้สึกของซินเดอเรล่าขึ้นมาชอบกล
ใบหน้ามนอมยิ้มน้อยๆโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีสายตาของคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามลอบมองอยู่
ลอบมองอย่างละเอียด...ตั้งแต่เครื่องประดับรูปดอกไม้เล็กๆที่ติดอยู่บนเส้นผมสีชา ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มอย่างลงตัว ลำคอระหงที่มีสร้อยเพชรเม็ดงาม ลำตัวบางก็อยู่ในชุดที่สูงศักดิ์
ทุกอย่างดูครบสมบูรณ์...จะมีก็แต่มือบางในถุงมือสีขาว...ที่ยังว่างเปล่าไร้สิ่งใดจับจอง...
ถึงแม้ว่าจะไม่ยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามเท่าปราสาทยุคกลางแห่งวอร์วิคเชียร์แต่ปราสาทของท่านเคาท์ฟราเมี่ยนก็สวยงามจนคนที่เพิ่งจะก้าวขาลงมาจากรถม้าอดที่จะมองมันด้วยสายตาตื่นตะลึงไม่ได้
“
กระหม่อมจะรออยู่ที่ห้องรับรอง ถ้ามีอะไรก็ให้สเลนมาเรียกนะขอรับ”
เคาท์ครูเทโอเอ่ยบอกองค์หญิงก่อนจะโค้งตัวให้น้อยๆ
แต่คนที่มียศสูงกว่ากลับเอ่ยออกมาด้วยท่าทางเป็นกันเอง
“
เสียดายจังที่เป็นงานเลี้ยงของเด็กผู้หญิง
เราเลยอดที่จะได้อวดคู่เต้นรำที่ดีที่สุดแห่งปราสาทวอร์วิคเลย!
ตอนซ้อมยังสง่างามขนาดนั้น ถ้าท่านเคาท์เต้นรำกับสเลนในชุดนี้รับรองว่าทุกสายตาจะต้องจองไม่กระพริบแน่”
ใบหน้าสวยคงตั้งใจจะหยอกเย้าแต่ใบหน้ามนกลับเขินอายจนทำอะไรไม่ถูก
“
องค์หญิง?!” เสียงทักดังขึ้นจากด้านหลัง
ร่างระหงจึงหันไปทักทายคุณหนูที่เพิ่งจะก้าวขาลงจากรถม้ามา
ทิ้งให้ร่างสูงใหญ่กับร่างโปร่งบางยืนอยู่ด้วยกันตามลำพัง
“
เจ้าจดจำแผนผังของที่นี่ได้แล้วใช่ไหมสเลน?”
เสียงทุ้มเอ่ยเน้นย้ำทำให้ใบหน้ามนพยักหน้ารัวๆ
“
ถึงไม่น่าจะมีอะไรแต่ก็กันไว้ก่อน...ถ้าเกิดเรื่องขึ้นเจ้าก็มาตามเราที่ห้องรับรองเข้าใจใช่ไหม?
ฝากดูแลองค์หญิงด้วย
อย่ามัวแต่หลงระเริงล่ะ”
นัยน์ตาสีฟ้าเหยียดมองมาที่เขา...ต้นประโยคยังทำให้รู้สึกดีใจที่อีกฝ่ายพอจะเห็นว่าเขามีค่าพอที่จะพึ่งพา
แต่พอประโยคถัดมาก็ยังไม่พ้นจิกกัดให้เขาช้ำใจอีกตามเคย ใบหน้ามนจึงพยักรับอย่างปลงๆ
ร่างโปร่งบางตั้งใจจะเดินไปหาองค์หญิงที่กำลังคุยอย่างออกรสอยู่กับคุณหนูจากตระกูลผู้ดีที่เขาไม่รู้จัก แต่ยังไม่ทันที่เรียวขาจะได้ก้าวไปไหน
ต้นแขนกลับถูกมือใหญ่รั้งเอาไว้เสียก่อน
แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ท่านเคาท์ทำให้เขาใจเต้นระรัว...
เมื่อจู่ๆฝ่ามือที่รั้งเขาเอาไว้ก็ย้ายไปหยิบแหวนออกมาจากอกเสื้อ...ก่อนจะสวมมันลงไปบนถุงมือสีขาวเหนือนิ้วนางข้างขวาของเขา...
มันเป็นแหวนเงินวงเล็กๆที่มีหัวเป็นโครงรูปดอกกุหลาบดอกใหญ่
เส้นสายกลีบดอกที่ซ้อนไปซ้อนมาของมันเป็นอัญมณีที่เขาไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร...ไม่อยากจะคิดว่าประกายสีขาวทั้งหมดนั้นจะเป็นเพชร....เพราะมันคงไม่เหมาะที่จะมาอยู่บนมือของเขา
“
กุหลาบแห่งวอร์วิค...เจ้ามาจากตระกูลครูเทโอของเรา จะปล่อยให้เข้าไปในงานด้วยมือที่ว่างเปล่าแบบนั้นได้อย่างไร...ไปได้แล้ว”
ใบหน้าแดงระเรื่อพยักรับด้วยจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ความรู้สึกที่กำลังเอ่อล้นอยู่ข้างในมันคืออะไร...ใครก็ได้ช่วยบอกเขาที...
ภายในห้องจัดเลี้ยงนั้นใหญ่โตโอ่อ่า
ข้าวของเครื่องใช้ล้วนประณีตสมกับที่เป็นตระกูลผู้ดี ดอกไม้นานาพันธุ์ถูกประกับประดาอยู่โดยรอบ
กลิ่นหอมฟุ้งของมันให้ความรู้สึกว่าสมแล้วที่เป็นงานเลี้ยงของเหล่าสตรีผู้สูงศักดิ์
เด็กสาวในชุดราตรียาวต่างกำลังยืนพูดคุยหัวเราะต่อกระซิก
เครื่องประระยิบระยับที่ต่างใส่มาอวดกันส่งประกายทำให้ทั้งห้องดูขาวนวลตา
ร่างโปร่งบางหลบออกมายืนชิดติดผนังหลังจากที่องค์หญิงพาไปแนะนำตัวและเขาก็ถูกซักไซ้ด้วยความสนใจจนรู้สึกเหนื่อยกับการตอบคำถาม
ถึงแม้จะสนุกดีและมีแต่เรื่องน่าสนใจแต่เขาก็เริ่มจะเมากลิ่นน้ำหอมและแสงวิบวับจากเครื่องประดับพวกนั้น
พอได้ออกจากวงสนทนามายืนหายใจหายคอ
นัยน์ตาที่ทอดมองเข้าไปยังด้านในของงานก็ได้แต่ขอบคุณในโชคชะตาของตัวเอง...ใครจะคิดว่าคนอย่างเขาจะได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในงานสังคมชั้นสูงแบบนี้
เมื่อสามเดือนที่แล้วเขานึกภาพที่อยู่ตรงหน้าไม่ออกเลยทีเดียว
ทุกๆวันมีแต่เรื่องที่ว่าวันนี้จะมีอะไรกินหรือเปล่า
ยิ่งพักหลังๆก็ยิ่งเอาแต่หวาดกลัว...ว่าวันนี้จะหนีรอดหรือเปล่า
เพราะฉะนั้นเขาจะไม่มีวันลืมพระคุณอันใหญ่หลวงขององค์หญิงที่ช่วยชีวิตเขาแล้วยังฝากฝังเขาไว้ในที่ที่ปลอดภัย
ไม่มีวันลืมว่าต่อให้ต้องแลกด้วยลมหายใจเขาก็จะต้องปกป้ององค์หญิงให้ได้
นัยน์ตาสีมรกตจึงไม่ลดละที่จะสังเกตทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบกาย
ต่อให้เป็นที่ที่ไม่คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม
น้ำผลไม้ในแก้วทรงสูงถูกยกขึ้นไปจรดริมฝีปาก
เสียงเพลงลีลาศเริ่มบรรเลงคลอไปเรื่อยๆแต่ร่างโปร่งบางก็ยังยืนอยู่ที่เดิม
ถึงแม้ว่าจะมีคนแวะเวียนเข้ามาทักทายเพราะหลายๆคนก็คงอยากจะผูกสัมพันธ์เอาไว้ด้วยคิดว่าเขาเป็นคนของตระกูลครูเทโอผู้ยิ่งใหญ่
แต่เขาก็เพียงแค่พูดคุยโต้ตอบไปตามมารยาทเพราะสายตายังคงเอาแต่ระแวดระวังภัยให้องค์หญิง
อันที่จริงกับงานเลี้ยงส่วนตัวที่แทบจะไม่มีราชองครักษ์ซ้ำคุณหนูผู้สูงศักดิ์ยังขนเครื่องประดับและเพชรพลอยออกมาใส่กันเต็มที่แบบนี้
หากเขาเป็นโจรละก็คงไม่ปล่อยให้โอกาสนี้ผ่านไปแน่
ใบหน้ามนส่ายน้อยๆกับความคิดของตัวเองก่อนที่จะอมยิ้ม...สงสัยว่าจะอยู่กับท่านเคาท์ครูเทโอมากไปถึงได้มองทุกอย่างในแง่ร้ายไปเสียหมด
พอนึกถึงใบหน้าเย่อหยิ่งนั่นขึ้นมา...สายตาก็ทอดลงไปที่แหวนบนนิ้วนางข้างขวาอย่างลืมตัว...เขาไม่รู้ประวัติของมันแต่คุณหนูหลายคนที่เห็นกลับมีสีหน้าราวกับอยู่ในฝัน
คำพูดที่ว่า ‘ดีจังเลยน้า...เราก็อยากได้กุหลาบแห่งวอร์วิคมาไว้ในครอบครองบ้าง’
มีแต่จะทำให้เขามองมันอย่างสงสัย ว่ามันมีความสำคัญอย่างไร
เท่าที่องค์หญิงเล่าให้ฟังคร่าวๆเท่าที่เวลาจะมี
ดูเหมือนที่ปราสาทของตระกูลครูเทโอนั้นจะมีกุหลาบสายพันธ์พิเศษอยู่และมันก็ถูกขนานนามว่า...กุหลาบแห่งวอร์วิค...เขาที่เดินเล่นอยู่ในนั้นทุกวันแต่กลับไม่รู้ตัวแบบนี้
ทำให้รู้สึกอายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
และแหวนวงนี้ก็คงจะทำเลียนแบบกุหลาบนั่นอย่างไม่ต้องสงสัย
ทั้งๆที่เขาแยกไม่ออกเลยว่ามันต่างจากกุหลาบธรรมดาตรงไหนแต่คุณหนูหลายๆคนกลับแยกออก ‘ไม่มีใครเขาเอาเพชรเป็นสายแบบนี้มาทำหัวแหวนหรอกนะ
มีแต่คนของตระกูลครูเทโอเท่านั้นแหละที่มีสิทธิ์ได้ครอบครองมัน’ และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งคำบอกเล่าของคุณหนูที่แวะมาขอดูแหวนในมือเขา
เป็นเพชรจริงๆด้วยสินะ....
เพราะมาที่งานนี้เขาถึงได้เพิ่งจะรู้ตัว...ว่าสามเดือนที่ผ่านมาเขาอยู่กับท่านเคาท์ที่นับว่าใกล้ชิดกับเชื้อพระวงศ์มากที่สุดในแผ่นดินอังกฤษ
แน่นอนว่าด้านฐานะเองก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
ขนาดบรรดาคุณหนูที่น่าจะร่ำรวยพวกนั้นยังฝันถึง...
เวลาล่วงเลยผ่านไปจนใกล้จะเที่ยงคืน
ที่กลางฟลอร์เต้นรำไม่เหลือใครอยู่อีกแล้วด้วยต่างก็คงจะเหนื่อย ตอนนี้ท่านหญิงองค์น้อยจึงพักจับกลุ่มพูดคุยกันอยู่ที่โต๊ะและเก้าอี้เสียมากกว่า
ใบหน้ามนหันออกไปมองนอกระเบียงที่อยู่ติดกับห้องจัดเลี้ยง บ้านเมืองที่อยู่รอบๆปราสาทมืดสนิทไปนานแล้ว มีเพียงที่นี่ที่ยังคงมีแสงไฟและเสียงเพลงคลออยู่เบาๆ
เงาสีดำๆของอะไรบางอย่างที่กำลังหมอบคลานอยู่แถวๆชายสวนทำให้นัยน์ตาสีมรกตจ้องเขม็ง...เงาที่กำลังคืบคลานเข้ามานั้นมีมากกว่าหนึ่งและมันอาจจะถึงสิบ
ถึงจะมีสนามหญ้าผืนใหญ่ขวางอยู่แต่นั่นก็ดูไม่น่าไว้วางใจเลยสักนิด
แล้วยิ่งมันเข้ามาใกล้เท่าไหร่
ร่างโปร่งก็ยิ่งก้าวขาถอยเข้าไปในงานมากขึ้นเท่านั้น นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองหาองค์หญิงอัสเซลัมก่อนจะขยับเข้าไปใกล้
แล้วไม่ทันที่จะได้บอกกล่าวอะไร….
เพล้ง!!!!
เสียงแก้วแตกกระจายก็ดังขึ้นมาเรียกเสียงกรีดร้องให้ก้องอยู่ทั่วห้อง
“
กรี๊ด!!!!”
ร่างระหงในชุดกระโปรงยาวต่างวิ่งกันให้จ้าละหวั่น
เป็นเพราะมีแต่ผู้หญิงเสียงร้องอย่างตกอกตกใจจึงดังจนแสบแก้วหู
มือบางยกขึ้นมาปิดหูก่อนจะวิ่งหลบโต๊ะที่ล้มไปตามแรงชน
เกิดอะไรขึ้นน่ะ?
จู่ๆก็มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
เงาดำๆที่เขาเห็นมันอยู่ในสวนพวกนั้นกระโดดพรวดพราดเข้ามาอย่างไม่เกรงกลัว
ทั้งดาบในมือทั้งผ้าสีดำที่คาดปิดใบหน้าทำให้ไม่รู้เลยว่าพวกนั้นเป็นใคร
แต่จากท่าทางอันตรายๆเขาก็บอกได้แค่ว่าพวกนั้นไม่ได้มาดี
หรือว่านี่จะเป็นการปล้นอย่างที่เขาคิดเอาไว้จริงๆ?!
“
องค์หญิง!”
มือบางคว้าแขนของร่างระหงที่มีท่าทางตื่นๆเอาไว้ได้ทัน
“
สเลน?!”
ใบหน้าสวยดูคลายกังวลลงนิดหน่อยเมื่อเห็นหน้าเขา
“
ทางนี้ครับ”
แผนผังของปราสาทที่อยู่ในหัวถูกเรียกออกมาใช้ ตอนนี้ต้องไปหาท่านเคาท์ครูเทโอก่อน!
นัยน์ตาสีมรกตกวาดมองไปรอบห้อง
คนในชุดสีดำพวกนั้นแยกย้ายกันไป
บ้างก็ตรงเข้าไปขวางพวกคุณหนูที่กำลังกลัวตัวสั่นพร้อมขู่ให้ส่งเครื่องเพชรมา
บางคนก็กำลังกอบโกยแจกันถ้วยโถโอชามซึ่งประดับไว้ในห้องเพราะของพวกนี้ล้วนแล้วแต่มีราคา
น่าจะเป็นโจรอย่างที่เขาคิดจริงๆ
และคงจะเป็นโจรที่ไม่กลัวตายถึงขนาดกล้าทำเรื่องอุกอาจแบบนี้กับปราสาทของท่านเคาท์ได้
ร่างโปร่งจับข้อมือขององค์หญิงก่อนจะพาวิ่งไปในทางที่ไม่มีพวกนั้นยืนอยู่
ยังดีที่นี่ไม่ใช่การลอบปลงพระชนม์ พวกนั้นจึงไม่ได้พุ่งเป้ามาที่องค์หญิงมากนัก
“
ขออภัยนะครับ” เสียงนุ่มนวลเอ่ยออกไปในขณะที่ยกมือขึ้นป้องกันศีรษะให้องค์หญิงก่อนจะพาวิ่งไปด้วยกัน
ถึงจะหลุดออกมาจากห้องจัดเลี้ยงได้แต่ข้างนอกเองก็วุ่นวายไม่แพ้กัน เมื่อบรรดาพ่อบ้านหรือทหารส่วนตัวของพวกคุณหนูทั้งหลายต่างพยายามต่อสู้เพื่อจะบุกเข้าไปช่วยคุณหนูของตน
ใบหน้ามนมองหาเคาท์ครูเทโอแต่ก็ไม่เห็นสิ่งใดนอกจากความชุลมุนและเสียงกรีดร้อง
“
ทางนี้ครับ”
ถึงแม้ว่าเขาเองจะตื่นตกใจไม่แพ้คนอื่นๆ แต่ก็ต้องฝืนเข้มแข็งไว้
ต้องสงบใจแล้วพาองค์หญิงหนีไปให้ได้ เพราะนี่คือหน้าที่ของเขา
คือสิ่งเดียวที่เขาทำได้
สองขาพาร่างระหงวิ่งหลบเสาดอกไม้ที่ล้มระเนระนาด
ยังไงก็ไปที่ห้องรับรองก่อน เผื่อท่านเคาท์จะรออยู่ที่นั่น
“
จะไปไหน?!” เสียงเหี้ยมดังขึ้นในขณะที่จู่ๆร่างใหญ่ยักษ์ในชุดสีดำก็กระโดดเข้ามาขวางหน้า
ทำให้เขาเอาตัวเข้ากันองค์หญิงให้หลบอยู่ข้างหลังแทบไม่ทัน
“
ถอดสร้อยแหวนเงินทองของเจ้าออกมาให้หมด!.....หืม?....ตรานั่น....” ใบหน้าที่โพกผ้าสีดำจ้องมองไปที่ตราราชวงศ์ที่เข็มกลัดขององค์หญิง
แต่แทนที่จะกลัวเกรงจนถอยหนีไป
โจรไร้หัวคิดตรงหน้ากลับคิดว่าจะกอบโกยได้มากกว่านี้ถ้า....
“
เฮ้ย! มีคนของราชวงศ์อยู่ด้วย จับมันไปเรียกค่าไถ่ดีไหม?!” เสียงห้าวตะโกนบอกพรรคพวกอย่างสามหาวทำให้เขาได้แต่ขนลุกเกรียว
แค่หมอนี่คนเดียวเขาก็สู้ไม่ได้แล้วถ้าไปเรียกพวกมาอีก...
เพล้ง!!!
สองมือบางยกแจกันทุ่มใส่หมอนั่นจนร่างยักษ์ทรุดลงไปนั่งกุมหัวที่พื้น ถึงจะกลัวจนทำอะไรไม่ถูกแต่เขาก็ยังพยายามตั้งสติก่อนจะรีบดึงข้อมือขององค์หญิงที่มีท่าทางตื่นๆให้วิ่งออกมาจากตรงนั้น
“
ตามมันไปสิวะ!”
เสียงตะโกนไล่หลังมาทำให้สองขาวิ่งไม่หยุด
“
อ๊ะ?!” เสียงอุทานดังขึ้นพร้อมๆกับที่มีแรงดึงจากด้านหลังทำให้สองขาก้าวไปข้างหน้าต่อไม่ได้
และเมื่อหันกลับไปถึงได้รู้ว่าชายกระโปรงขององค์หญิงถูกพวกมันจับเอาไว้จนได้
ประกายสีเงินวาววับเข้ามาในหางตา
ถึงจะไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่ร่างกายของเขาก็ขยับเข้าไปรับมันแทนองค์หญิง
“
สเลน!!” ต้นแขนรู้สึกเจ็บแปลบและเมื่อลืมตาขึ้นมาดูก็เห็นเลือดสดๆไหลลงไปจากปากแผลจากคมดาบ
“
สเลน....” เสียงสั่นๆขององค์หญิงเรียกเขาอย่างกลัวๆ
ที่แขนขวาเจ็บจนขยับไม่ขึ้นแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็จะไม่ปล่อยให้พวกมันมาทำอะไรองค์หญิงได้
แขนซ้ายยกขึ้นกันร่างระหงให้หลบไปอยู่ข้างหลัง
“
อึก...”
ความเจ็บที่แล่นลิ่วขึ้นมาทำให้ภาพตรงหน้ารู้สึกพร่ามัว
นี่เขาเริ่มตาลายจนเห็นว่าคนในชุดสีดำมีหลายร่างหรือเปล่า
ไม่สิ...
เขาไม่ได้ตาลายแต่ว่าตอนนี้พวกโจรราวๆสี่ห้าคนกำลังยืนล้อมเขาอยู่ต่างหาก!
“
โห๋?...นั่นมันกุหลาบแห่งวอร์วิคไม่ใช่หรอ?
ไม่ผิดแน่...ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหลังนั่นต้องเป็นคนของราชวงศ์แน่ๆ”
ใบหน้าหิวกระหายจ้องมองแหวนกุหลาบที่อยู่บนมือขวาของเขาก่อนจะจ้องมองมาด้วยสายตาเป็นประกายอย่างหาได้กลัวเกรงต่อเหล่าราชองค์รักษ์ไม่
คนพวกนี้ไม่คิดบ้างหรือไงว่าจับคนของราชวงศ์ไปเรื่องมันไม่น่าจะจบง่ายๆ....แต่ถ้าคิดมันก็คงจะไม่บ้าพอจะบุกเข้ามาปล้นปราสาทของท่านเคาท์แบบนี้หรอก!
ร่างโปร่งบางเริ่มโซเซจากแผลที่ต้นแขน
แต่กระนั้นก็ยังป้องกันคนที่ยืนหลบอยู่ข้างหลังอย่างสุดความสามารถ
“
หลบไป!” และเมื่อเห็นสายตาแน่วแน่ของเขาที่จ้องกลับไปอย่างไม่ลดละ
ดาบคมกล้าในมือก็ยกขึ้นมาจ่ออยู่ที่คอเขาทันที
“
เฮ้ย....เอามันไปด้วย...นังเด็กนี่ก็มาจากตระกูลรวยน่าดูเหมือนกัน” เพราะมีดาบจ่ออยู่ที่คอทำให้เขาทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้
ร่างทั้งร่างได้แต่สั่นสะท้านไปกับความกลัว ข้างในรู้สึกเจ็บใจกับความอ่อนแอของตัวเองที่แม้แต่องค์หญิงที่เขาสาบานด้วยชีวิตว่าจะปกป้องให้ได้แต่เอาเข้าจริงเขากลับทำอะไรไม่ได้เลย
ทำยังไงดี....
เขาควรจะทำยังไงดี....
ในขณะที่นัยน์ตาสั่นระริกกำลังพยายามมองหาทางหนีอย่างสุดความสามารถแต่สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวกลับเป็นเสียงเรียกให้ใครคนนั้นมาช่วย
ช่วยด้วย...
ช่วยผมด้วยท่านเคาท์!
ปัง!!!
เสียงดังสนั่นทำให้ไหล่บางสะดุ้งโหยง
ทุกการเคลื่อนไหวหยุดไปหลายวินาทีเพื่อที่จะมองว่าเสียงนั้นมันคืออะไร
“
ถ้ารู้ว่านั่นเป็นคนของตระกูลครูเทโอ...เจ้าก็ควรจะถอยไปให้ห่างๆก่อนที่เราจะเป่าหัวเจ้าจนกระจุย”
แล้วนัยน์ตาสีมรกตก็ต้องเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าร่างสูงใหญ่ที่คุ้นตากำลังก้าวเดินออกมาจากเงามืด...พร้อมกับปืนสลักลวดลายงดงามในมือ...
ถึงมันจะมองดูสวยงามแต่ก็เป็นสิ่งที่มอบความตายให้กับผู้อื่น
และในสมัยนี้ปืนก็มีแต่ขุนนางเท่านั้นที่พกได้...สำหรับโจรมันจึงเป็นของอันตรายจนต้องยอมลดดาบลงจากคอของเขา
จู่ๆความวุ่นวายที่อยู่รอบกายก็สงบลงพร้อมๆกับการปรากฏตัวของท่านเคาท์แห่งวอร์วิคเชียร์...
“
ทะ ทหารนี่...!!” เสียงดังออกมาจากปากที่โพกผ้าสีดำ
ดวงตาที่โผล่ออกมาเพียงอย่างเดียวจ้องมองไปที่คนกลุ่มใหม่ที่กำลังขี่ม้าเข้ามายังปราสาทของท่านเคาท์ฟราเมี่ยน
“
เฮ้ย! หนีเร็ว!”
ถึงจะตะโกนบอกพรรคพวกแบบนั้นแต่ก็ไม่ทันแล้ว เมื่อทหารราชองค์รักษ์วิ่งเข้ามาตะครุบตัวพวกโจรเอาไว้ได้เกือบหมด
ร่างโปร่งบางลดแขนที่กางกั้นปกป้ององค์หญิงลงด้วยความเบาใจ
ใบหน้ามนเงยมองร่างสูงใหญ่ที่เดินเข้ามาด้วยนัยน์ตาที่เริ่มจะพร่ามัว
“
สเลน?”
“
สเลน?!!” แล้วภาพตรงหน้าก็ขาวโพลนก่อนที่ร่างโงนเงนจะล้มลง....
น่าแปลก...ที่เขากลับรับรู้ได้ว่าสิ่งที่รองรับร่างกายของเขาเอาไว้นั้นมันช่างอบอุ่นเสียเหลือเกิน....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To
be Con.ไหม๊ถถถถถ
A/Z
จากตอนแรกที่เป็นอนิเมะที่ดูระหว่างกินข้าวไม่ได้ติดอะไรมากมาย
แล้วไหงตอนนี้ถึงได้ติดงอมแงมอย่างงี้ละค้า....T[ ]T...สเลนได้ใจคุณกวางเกินไปแบ้วค่ะ
โฮวววววว อยากรังแกรัวๆ (โดนไม้เท้าฟาด)
ดูจนถึงตอนที่10นี้ก็ให้คิดว่า...ตอนนี้สเลนจะเสียใจไหมนะเรื่องที่ไม่เชื่อใจท่านเคาท์
เพราะถ้าบอกท่านเคาท์ไปตั้งแต่แรกว่าองค์หญิงยังอยู่ เรื่องมันอาจจะไม่เป็นแบบนี้
อิท่านเคาท์เองก็เอสซะเหลือเกิ๊น เด็กมันเลยไม่เชื่อใจ
ถ้ายอมฟังสเลนบ้างสักนิด......แง๊....ต่างฝ่ายต่างมารู้ความจริงเอาตอนนี้ที่มันสายไปแล้วอ่ะ
TT[ ]TT
หนีไปนั่งเล่นตุ๊กตาอยู่ในมุมมืด....=_=….
ส่วนฟิคเรื่องนี้แต่งไปก็นึกถึงการ์ตูนเรื่อง
“กุหลาบแวร์ซายส์” ไป5555 ท่านออสการ์ขรา…. >////<….อันที่จริงจำเนื้อเรื่องไม่ค่อยจะได้หรอกนะเพราะว่ามันตั้งแต่สมัยที่คุณกวางยังอยู่อนุบาล
พอเอามารีปริ๊นท์ก็เมื่อสี่ห้าปีก่อนเลยไหม ซื้อมาแต่ยังอ่านไม่จบเลย555
เป็นเรื่องเกี่ยวกับราชวงศ์ของฝรั่งเศสช่วงพระนางมารีอองตัวเนตนะถ้าจำไม่ผิด(ดูมัน...เคยจำอะไรได้บ้างไหมถถถถ)ช่วงก่อนปฏิวัติอ่ะ
แบบว่าชอบเรื่องในยุคนั้นมากค่ะ เสื้อผ้าหน้าผม พระราชวังอลังการอะไรงี้ >////<
สำหรับฟิคดาวอังคารเรื่องนี้ก็ต้องขอขอบคุณทุกๆการติดตามนะคะ
*v* แล้วเจอกันตอนหน้าค่า
ก็แบบว่ายังไม่ค่อยอยากให้ GLIDE จบไง
เลยหาเรื่องออกนอกโลกไปเรื่อย :v (โดนกระทืบรัวๆๆๆ)
สนุกมากลุ้นระทึก ตอนเเรกเเอบคิดว่าถ้าไม่ใช่งานเลี้ยงเด็กผู้หญิง นี่อยากให้มีคนมาจีบสเลนเลยนะเนี่ย
ตอบลบตอนนี้ท่านเคานต์ซึนมากๆ ถึงมากที่สุด >< แหวนนั่นมันอะไรกันคะ!
ตอบลบสเลนในงานเลี้ยงของสาวน้อย แอบคิดว่าเจ้าตัวคงลำบากใจไม่น้อยนะคะ สารภาพว่าตอนอ่านไปคิดว่าสเลนเกือบเท่ค่ะ ช่วยองค์หญิง แมนมาก แต่พอนึกว่าสเลนแต่งหญิงอยู่เท่านั้นแหละ ;-; ขอโทษนะสเลน แต่งหญิงก็แมนได้น้า
ป.ล. ท่านเคานต์ปรากฎตัวได้พระเอกมากๆ ค่ะ ขออนุญาตกรี๊ดให้ดังๆ
ป.ล.ล. แอบช้ำกับอนิเมค่ะ TvT ต่างคนต่างไม่เชื่อใจกัน ท่านเคานต์ก็หวดเอาๆ สเลนคงกลัวท่านจะไปหวดองค์หญิง #ไม่ใช่ละ