Attack on Titan feat.KHR Au.Fic [Levi xEren , 8059] GLIDE : 24[END]


Attack on Titan feat.KHR Au.Fic [Levi xEren , 8059]  GLIDE : 24[END]

: Attack on Titan feat KHR Fanfiction Au
: Levi x Eren , 8059
: Romantic Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
           

         




“ เอเลน?!”  เสียง....ของคนที่คุ้นเคยก็ทำให้นัยน์ตาสีมรกตถึงกับเบิกกว้าง


ทำไม....


ทำไมพ่อถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?


แถมยังอยู่ในสภาพที่ไม่ได้ต่างไปจากเขาอีกต่างหาก!


“ อื้อๆๆ!!”  ริมฝีปากพยายามร้องเรียกพ่อทั้งๆที่ทุกๆเสียงของเขาไม่อาจจะหลุดพ้นออกไปจากผ้าที่มัดไว้ได้เลยด้วยซ้ำ สองมือก็ถูกจับเอาไว้ด้วยมือหยาบกร้านของชายในชุดดำที่ดูแล้วน่าจะเป็นพวกนักฆ่าไม่ก็บอร์ดี้การ์ด

นัยน์ตาสีมรกตหันกลับไปมองพ่อของตนที่ถูกจับมัดมือไพล่หลังคุกเข่าอยู่ที่พื้นโกดังตรงหน้า ใครมันทำเรื่องบ้าๆแบบนี้?!

ร่างโปร่งพยายามจะกระโจนเข้าไปหาคนเป็นพ่อแต่ก็ไม่อาจสู้แรงของคนที่จับมืออยู่ได้

แล้วทุกความสงสัยก็ถูกไขกระจ่าง เมื่อร่างท้วมของใครบางคนเดินเข้ามา....


นั่นมัน....

ตัวแทนรัฐบาลของแคว้นเวเนโต....

คนที่เคยเป็นนายของพ่อเขา คนที่บังคับให้พ่อเขาทำเรื่องเลวร้าย คนที่ทำให้คุณรีไวต้องไปใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน คนที่บงการทุกสิ่งทุกอย่างของเรื่องนี้!


ริมฝีปากได้แต่กัดฟันกรอดในขณะที่ดวงตาก็จ้องเขม็งไปยังใบหน้าที่ดูจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับเรื่องที่ตัวเองทำลงไป ร่างท้วมหยุดยืนอยู่ตรงกลางโกดัง...ระหว่างเขากับพ่อ...

“ ไง? ไม่เจอกันนานเลยนะเยเกอร์ สบายดีไหม?”  ใบหน้าอวบอูมหันไปทักคนที่เคยเป็นลูกน้องตน

“ ท่าน!! จับเอเลนมาทำไม?! เขาไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้!”   ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นตะโกนบอกอย่างร้อนใจ จะมีพ่อคนไหนทนเห็นลูกชายที่รักเท่าลมหายใจต้องตกอยู่ในอันตรายแบบนี้ได้บ้าง

“ เกี่ยวสิ..เพราะเด็กนั่นจะทำให้การเจรจาง่ายขึ้น”   ร่างท้วมเหยียดมองลงมาราวกับตนเป็นผู้ที่เหนือกว่า

“ พูดตรงๆเลยก็แล้วกัน....ชั้นอยากให้นาย...ยอมรับกับสาธารณะชนไปซะ...ว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ในครั้งนี้แล้วก็เรื่องเมื่อสิบปีก่อนทุกอย่าง...”   สิ่งที่ใบหน้าอวบอูมพูดออกมามีแต่จะทำให้ร่างสูงยาวนิ่งค้าง ร่างทั้งร่างรู้สึกชาวาบ

นี่คิดจะให้เขาเป็นแพะรับบาปให้...โดยมีเอเลนเป็นตัวประกันอย่างงั้นหรอ....

ทั้งๆที่เก็บหลักฐานชิ้นนั้นเอาไว้ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองมาตลอด...แต่มันไม่มีความหมายอะไรเลยงั้นหรอ....


“ อื้อๆๆ!!”   เสียงต่อต้านอย่างเอาเป็นเอาตายของเอเลนคงกำลังบอกเขาว่าอย่าไปเชื่อพวกมัน

แต่จะให้เขาทำยังไงได้....

เอเลนเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเขา เขาเฝ้ารักเฝ้าฟูมฟักมาอย่างดีจะปล่อยให้มีอันตรายเพราะเรื่องที่เขาก่อเอาไว้ได้ยังไง...

ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นได้แต่แหงนมองอีกฝ่ายอย่างเจ็บใจ ทั้งๆที่หนีห่างออกมาได้แล้วแท้ๆ ทั้งๆที่ตอนนี้ตัวเองก็มีทั้งคนทั้งอำนาจแต่พอเอเลนตกอยู่ในกำมือของพวกนั้นตนก็ไม่อาจจะทำอะไรได้เลย แค่จะสั่งให้ลูกน้องเข้าไปแย่งตัวเอเลนมา...ใจก็ยังไม่กล้าพอ

กลัว....กลัวว่าถ้าพลาดไปเขาจะไม่ได้เจอเอเลนอีก....


สองมือที่กำแน่นได้แต่คลายออก....มีแต่คงต้องยอมรับโชคชะตาที่ฟ้ากำหนดมาแล้วละ


เพราะยังไงเขาก็ให้เด็กคนนั้นได้...แม้แต่ชีวิต







ถึงคนเป็นพ่อจะยอมรับต่อชะตากรรมแต่สำหรับคนที่แอบซ่อนตัวอยู่บนลังไม้เก่าๆที่กองสุมอยู่เหนือหัวคนพวกนั้นกลับไม่คิดแบบนั้น

ต่อให้เป็นสิ่งที่พระเจ้ากำหนดมา เขาก็จะขอฝ่าฝืนมันจนถึงที่สุด

หากไม่ดิ้นรนก็คงต้องตายเหมือนหมาข้างถนน...นั่นคือสิ่งที่เขาเรียนรู้มาทั้งชีวิต

นัยน์ตาสีขี้เถ้ากวาดมองทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ภายในโกดังอย่างพยายามจดจำทุกตำแหน่งให้ขึ้นใจ


ไม่ยอมยกให้หรอก...

ไม่ว่าใครก็ตาม เขาไม่มีวันยกเด็กนั่นให้หรอก!


ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครขยับตัวออกไปจากลังไม้อย่างเงียบงัน



ก่อนจะกลับมาอีกที...พร้อม Ferrari F12 Berlinetta!!



โครม!!!



ประตูโกดังที่ถูกชนจนลอยกระเด็นทำให้ทุกสายตาจับจ้องไปที่ไฟหน้ารถซึ่งกำลังสาดส่องเข้ามาอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ปืนในมือของนักฆ่าจึงไม่ทันจะถูกชักออกมาด้วยซ้ำ



เอี๊ยดดดดดด!!!



รถสีแดงเพลิงที่พุ่งเข้ามาราวกับพายุกระชากเบรคก่อนจะดริฟท์ปัดร่างทุกร่างที่ยืนขวางอยู่รอบๆ การกระทำที่บ้าระห่ำทำให้ทั้งพ่อของเอเลน ทั้งตัวแทนรัฐบาลคนที่บงการทุกอย่างได้แต่มองตาค้าง

ต่างจากคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย...ใบหน้านิ่งเผยรอยยิ้มออกมาราวกับรอยยิ้มของซาตาน....นัยน์ตาสีขี้เถ้าจับจ้องไปที่ร่างโปร่งบางซึ่งกำลังยืนมองมาด้วยดวงตาสั่นระริก สองมือของเด็กนั่นยังคงถุกจับกุมเอาไว้


หึ....

มันก็เหมือนตอนแข่งมอเตอร์ไซค์...


แต่คราวนี้เขาจะ F Line ในโค้ด GLIDE ด้วยเฟอร์รารี่!!


เสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ซุปเปอร์คาร์ดังก้องไปทั่วโกดัง จากที่ดริฟท์หมุนวนอยู่จู่ๆรถสีแดงนั่นก็เพิ่มความเร็วแล้วพุ่งทะยานเข้าไปหาร่างโปร่งบางของเอเลน เยเกอร์ทันที

ความเร็วราวกับสายลมปาดผ่านหน้าตัวแทนรัฐบาลร่างท้วมไปในชั่วพริบตา ก่อนที่ประตูรถจะเปิดออกพร้อมๆกับฝ่ามือที่เอื้อมมาคว้าลำตัวบางแล้วดึงเข้าไป  มืออีกข้างหมุนพวงมาลัยให้ท้ายรถปัดมารับกระสุนที่ดูเหมือนจะเพิ่งรู้ตัวว่าต้องยิง



ปังๆๆ!!



แต่ก็สายไปเสียแล้วเมื่อ F12 Berlinetta พุ่งทะยานออกมาจากโกดังเรียบร้อย

“ คุณรีไว!!!”   ท่อนแขนบางกอดเข้ามาที่คอของนักขับมือหนึ่งแห่งทีมม้าลำพอง ท่อนแขนข้างที่ไม่ได้บังคับพวงมาลัยจึงลูบลงไปบนเส้นผมสีน้ำตาลอย่างปลอบโยน แผ่นหลังของเด็กนั่นยังสั่นอยู่น้อยๆ...คงจะกลัวมากเลยสินะ

“ ไม่เป็นไรแล้ว...เอเลน”   ทำไมเขาจะไม่รู้...ว่าเด็กนี่ชอบให้เขาเรียกชื่อมากแค่ไหน...และทุกครั้งที่เขาเรียกออกไปมันก็เป็นราวกับมนต์สะกดให้ใบหน้าเปื้อนน้ำตากลับมายิ้มให้เขาได้อีกครั้ง

“ พ่อ!! ช่วยพ่อผมด้วยครับ!!”  จู่ๆใบหน้ามนก็ตะโกนออกมาด้วยท่าทางหวาดวิตก เขาจึงได้แต่เอ่ยออกไปเบาๆ

“ ไม่ต้องห่วงหรอก...พวกวองโกเล่เข้าไปแล้ว”  ชั่วพริบตาที่รถของเขาพุ่งออกมาที่หางตาก็เห็นพวกนั้นเดินเข้าไป...ไปขวางพวกนั้นมันก็เหมือนไปขวางมัจจุราชที่กำลังลากเดรัจฉานลงนรกนั่นแหละ


แค่มือปืนธรรมดาหรือจะสู้ผู้พิทักษ์ทั้ง5ของวองโกเล่ได้....ยิ่งวองโกเล่เดซิโม่มาด้วยแบบนี้คำว่าแพ้ยิ่งไม่มี






เสียงปืนดังอยู่ไม่นานนัก เศษซากเดนมนุษย์ก็ถูกผลักให้ลงไปพบยมบาลในนรก...

เหลืออยู่ก็แต่ตัวแทนรัฐบาลแห่งแคว้นเวเนโตที่ถูกซ้อมนอนกองอยู่ที่พื้นอย่างหมดสภาพ

ทั้งๆที่เคยยืนอยู่เหนือคนมากมาย เคยใช้อำนาจแย่งมาแม้แต่ลมหายใจของผู้อื่น แต่เงินทองมากมายที่ได้มาจากเลือดและน้ำตาเหล่านั้นมันกลับช่วยอะไรคนที่กำลังนอนร้องขอชีวิตนี่ไม่ได้เลย


ล้อสแตนเลสของรถเข็นหมุนวนออกมา  นัยน์ตาสีมรกตเหยียดมองคนที่ทำให้ตนต้องเป็นแบบนี้ด้วยความสมเพช

ฝ่าเท้าที่ไร้ความรู้สึกอยู่เหนือหัวของคนที่พยายามจะเงยหน้าขึ้นมาขอร้องเขาให้ไว้ชีวิต

“ ตอนที่แกเผาพี่น้องของชั้นทั้งเป็น เคยฟังเสียงร้องขอชีวิตของพวกเขาบ้างไหม...แล้วเคยรู้หรือเปล่าว่าตอนที่แกสุขสบายด้วยเงินที่ได้จากที่ดินแห่งความตายตรงนั้น ชั้นต้องไปตกนรกอยู่ที่ไหน....ถ้าเทียบกันแล้ว....แกยังได้ตายสบายกว่าพวกชั้นตั้งหลายเท่า”  ร่างที่อยู่บนรถเข็นยกปืนขึ้นมาจ่อหัวอีกฝ่ายด้วยมือที่ไม่สั่นแม้แต่นิดเดียว จนแม้แต่พวกลูกน้องของวองโกเล่เองยังรู้สึกว่า หากโกคุเดระ ฮายาโตะต้องการ...ก็น่าจะเป็นถึงระดับผู้พิทักษ์ของวองโกเล่ได้เลย

แต่กลับมีมือใหญ่ของใครบางคนยกขึ้นมาห้ามปืนกระบอกนั้นเอาไว้

ใบหน้าคมหันมามองด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเป็นฝ่ายตวัดดาบตัดคอของคนบงการเรื่องทุกอย่างนี้ด้วยมือของตัวเอง


นายยังมีอนาคตที่สดใสรออยู่ในสนาม เรื่องเลวทรามพวกนี้ให้ชั้นเป็นคนทำเองเถอะ โกคุเดระ...


นั่นคือสิ่งที่นัยน์ตาสีเปลือกไม้สื่อออกมาและร่างบอบบางก็ยอมรับมันแต่โดยดี



ร่างสูงใหญ่เข็นรถเข็นออกมาจากโกดังให้......ใบหน้าสวยเงยมองท้องฟ้าราวกับถูกปลดปล่อยจากพันธนาการที่มองไม่เห็นมาเป็นสิบปี

ทุกอย่างมันจบลงแล้ว....

และตั้งแต่วันนี้ไปเขาคงเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้เสียที.....










ร่างโปร่งบางยืนชะเง้อคอมองอยู่หน้าเฟอร์รารี่สีแดง ในใจเต็มไปด้วยความกังวล ยิ่งเสียงในโกดังเงียบหายไปแต่กลับยังไม่มีใครออกมาแบบนี้....

ร่างแข็งแกร่งที่ยืนพิงกระโปรงรถอยู่ด้วยกันตบหลังเบาๆเป็นเชิงปลอบใจ...แล้วในที่สุด...เมื่อร่างสูงยาวของคนเป็นพ่อเดินออกมา ร่างโปร่งบางก็ถลาเข้าไปหาทันที

“ พ่อ!!!”   ใบหน้ามนร้องไห้โฮอย่างโล่งใจที่พ่อของตนไม่เป็นอะไร สองแขนบางกอดร่างสูงเอาไว้แน่น

“ พ่อไม่เป็นไรแล้วเอเลน”   มือใหญ่ลูบหัวลูกชายอย่างปลอบโยน นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นทอดมองใบหน้าที่ร้องไห้ราวกับเด็กๆ  ทั้งๆที่คิดว่าตนคือคนเดียวที่จะปกป้องเด็กคนนี้ได้...แต่เรื่องในวันนี้ก็บอกให้เขารู้แล้วว่า...คงจะได้เวลาที่เขาจะต้องปล่อยเด็กคนนี้ไปจากอ้อมอกของพ่อเสียที


เอเลนได้เจอคนที่พร้อมจะปกป้องเขาด้วยชีวิตแล้ว....


ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นหันมาหาร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล อคติในใจดูเหมือนจะลดลงไปมากทีเดียว

“ ขอบคุณที่คุณเข้าไปช่วยเอเลน”   ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นเอ่ยขอบคุณอีกฝ่ายด้วยความจริงใจ

“ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าลูกชายของผมเลือกคนไม่ผิด...เพราะคุณไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียวที่จะเข้าไปเสี่ยงอันตรายเพื่อเขา”

“ ...........”   เพราะไม่คิดว่าคนเป็นพ่อจะยอมรับ นักขับมือหนึ่งของเฟอร์รารี่เลยพูดอะไรไม่ออก ใบหน้านิ่งจึงได้แต่พยักรับอย่างว่าง่าย    


นัยน์ตาสีขี้เถ้าทอดมองเอเลนที่กำลังพาพ่อไปปฐมพยาบาลก่อนจะรู้สึกได้ว่าข้างๆกายมีคนมายืนอยู่ใกล้ๆ...เป็นไอ้หมีวายร้ายเข็นเจ้าฮายาโตะมานั่นเอง


“ ถ้าเป็นผมนะ ผมจะรีบเรียกเค้าว่า คุณพ่อ~~ เลยละ....เนอะ คุณพ่อ~~~  แล้วมันก็ทำให้อารมณ์ที่กำลังดีๆของเขากระตุกไปได้ทุกที!

“ ใครเป็นพ่อแก?! เป็นแค่หมีอย่ามาสะเออะจะมีพ่อเป็นมนุษย์!”  

“ งั้นแค่ภรรยาเป็นมนุษย์อย่างเดียวก็คงได้สินะ”

“ แกนี่มันจะยอกย้อนไปถึงไหน ทำไมเมื่อกี้ไม่โดนกระสุนฝังหัวไปด้วยเลยห๊ะ ฮายาโตะเอาปืนมา ชั้นจะยิงมันแล้วเอาไปกองเนียนๆกับไอ้พวกนั้นซะเลย!


เสียงโต้เถียงหยอกล้อราวกับจะฆ่ากันให้ตายไปข้างยังคงดังอยู่อีกนาน...แต่มันกลับเป็นเสียงที่ทำให้รู้สึกเป็นสุข

ในที่สุดครอบครัวของพวกเขาก็กลับมายิ้มและหัวเราะไปด้วยกันอีกครั้งจนได้...












เป็นเพราะคดีของสองนักขับแห่งเฟอร์รารี่ทำให้เหล่าตัวแทนรัฐบาลทั้งหลายต่างถูกตรวจสอบเพื่อไม่ให้ใช้อำนาจไปในทางที่ไม่ควรอีก

ถึงแม้ คริชา เยเกอร์ จะรอดพ้นจากคดีเมื่อสิบปีก่อนไปได้ด้วยไฟล์เสียงที่เป็นหลักฐานยืนยันว่าถูกบังคับให้มีส่วนร่วม แต่ก็ยังต้องถูกย้ายกลับไปอยู่ที่โรมเพื่อรอไต่สวนคดีนี้ที่ต้องใช้เวลานาน ทำให้คนเป็นภรรยาตัดสินใจที่จะย้ายตามไปคอยดูแล

จะมีก็แต่ลูกชายนี่แหละที่ดื้อดึงทำยังไงก็ไม่ยอมไป คนเป็นพ่อเลยจำต้องฝากเอาไว้กับนักขับมือหนึ่งของเฟอร์รารี่ ก่อนที่จะยอมอนุญาตอย่างจำใจให้ย้ายไปอยู่ที่บ้านในเขตอุทยานด้วยกัน







ส่วนนักขับมือสองของทีมม้าลำพองก็เข้ารับการผ่าตัดที่ขาและทำกายภาพบำบัดจนมันค่อยๆกลับมาใช้การได้อีกครั้ง ด้วยความที่ยังเด็กร่างกายเลยฟื้นตัวไวประกอบกับพลังใจอันยิ่งใหญ่ที่อยากจะกลับไปขับรถให้ได้อีกครั้ง

แน่นอนว่าคนที่อ้างตัวว่าต้องรับผิดชอบที่ทำให้โกคุเดระ ฮายาโตะต้องเป็นแบบนี้ก็หาเรื่องเนียนมาอยู่ด้วยตลอดจนเจ้าของผมสีเงินอดสงสัยไม่ได้ว่างานการไม่มีจะทำหรือยังไง? วองโกเล่จ้างไอ้คนแบบนี้ไว้สักวันจะต้องเจ๊งแน่ๆ ถ้าเป็นเขาจะไล่ออกให้หมด!






เสียงจามจึงดังลั่นอยู่ในห้องของคฤหาสน์วองโกเล่เนื่องจากถูกนินทา  หน้ากระดานหมากรุกที่วองโกเล่เดซิโม่กำลังเล่นอยู่กับผู้พิทักษ์แห่งเมฆาจึงล้มระเนระนาด

“ นี่แกแพ้แล้วคิดจะล้มกระดานใช่ไหม? กล้าดีนักนะเจ้าสัตว์กินพืช!”  ทอนฟาถูกตวัดขึ้นมาพร้อมๆกับฝ่ามือของท้องนภาแห่งวองโกเล่ที่ยกขึ้นห้ามด้วยความตกใจ

“ ฮี้ เดี๋ยวครับ คุณฮิบาริ! มุคุโร่! นายเป็นคนทำใช่ไหม?!”   ใบหน้าของวองโกเล่เดซิโม่หันไปหาคนที่นั่งยิ้มละไมจิบชารดน้ำต้นคุณนายตื่นสายอยู่ 

“ โอย่ะ ถ้าจะตีกันละก็ได้เลยครับ ผมรับคำท้า คึหึหึ” 

“ซะที่ไหนล่ะ! นี่!หยุดนะทั้งคู่เลย! ตึกพวกนายพังจนต้องมาอาศัยที่นี่อยู่ ช่วยอย่าทำพังอีกได้ม๊าย~~”   

ก็นั่นแหละนะ วองโกเล่ที่เห็นว่าใหญ่คับฟ้า แต่ว่าวันสบายๆปกติแล้วก็จะประมาณนี้แหละ










บ้านกลางป่าที่เคยคิดว่าจะรกร้างกลับกลายเป็นบ้านที่อบอุ่นอีกครั้งเมื่อสมาชิกทั้งสี่กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตา

กลิ่นอาหารลอยออกมาจากบ้านฝั่งขวาก่อนที่จานสปาเก็ตตี้หน้าตาน่ากินสี่จานจะถูกวางลงบนโต๊ะไม้บนเฉลียง

“ เฮ้พวกนาย! กินข้าวกลางวันได้แล้ว”   นักขับมือหนึ่งของเฟอร์รารี่ละสายตาจากหนังสือตรงหน้ามาเหลือบมองร่างสูงใหญ่ของไอ้หมีบ้าที่อยู่ในผ้ากันเปื้อน อย่างน้อยก็มีประโยชน์อยู่บ้างละนะ เพราะทั้งเขาทั้งเจ้าเด็กสองคนนั่น ไม่มีใครที่ทำอาหารกินได้เลยสักคน

ร่างโปร่งบางสองร่างที่ขลุกอยู่ที่สนามแข่งรถบังคับวิทยุหันมาตอบรับเสียงเรียกของยามาโมโตะ  ตั้งแต่ที่เอเลนมาอยู่ที่นี่เฉลียงกว่าครึ่งก็ถูกยึดไปโดยสนามแข่งรถคันจิ๋วที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่

“ มาแข่งกันซักตาไหมครับ?! ใครออกก่อนเป็นคนแรกต้องล้างจาน!”  แล้วไอ้เจ้าเด็กเหลือขอนั่นก็เลี่ยงงานบ้านไปอย่างชาญฉลาดจนได้ แน่นอนว่าอีกคนที่มั่นใจในฝีมือของตัวเองก็ตอบตกลงทันที

“ อืม”  ใบหน้าของเจ้าฮายาโตะพยักลงทั้งๆที่มันยังเย็นชา แต่ประกายของความสนุกสนานในดวงตาก็ทำให้คนที่ฝีมือห่วยสุดอย่างไอ้หมีบ้านั่นตกลงตามไปด้วยอีกคน

เอาเถอะ...ยังไงเขาก็ไม่ใช่คนที่ต้องล้างจานแน่ ใบหน้านิ่งจึงพยักรับ


แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ เมื่อรถบังคับวิทยุทั้งสี่คันลงไปวิ่งในสนาม...แล้วรถของเจ้ายามาโมโตะก็หลุดแทรคไปตั้งแต่รอบแรก  ออกจากการแข่งขันและเป็นคนล้างจานตามคาด

มันก็ไม่เข็ดเลยจริงๆนะ...

ส่วนเขาเอง...ถึงจะเป็นมือหนึ่งในโลกแห่งความเป็นจริง แต่ให้ต้องมานั่งบังคับรถของเล่นแบบนี้มันก็อีกเรื่อง รถของเขาจึงหลุดแทรคเป็นคันต่อไป

เหลือก็แต่รถของเอเลนกับฮายาโตะแข่งกันตามลำพังท่ามกลางเสียงเชียร์น่าหมั่นไส้ของไอ้หมีวายร้ายนั่นกับเสียงโวยวายที่ไม่ยอมแพ้ของเจ้าเด็กเหลือขอของเขา

แล้วด้วยความที่รถปรับแต่งมาดีกว่า ทำให้ในที่สุดผู้ชนะจึงเป็นของเอเลนไป


“ คราวนี้ผมต้องเป็นแชมป์โลกรถบังคับวิทยุให้ได้!


เสียงตะโกนอย่างมุ่งมั่นนั่นมันทำให้คนที่เหลือถึงกับหัวเราะออกมา รู้สึกว่าดีจริงๆที่ฝ่าฟันทุกอย่างมาจนถึงวันนี้ได้...

บรรยากาศรอบกายนั้นเต็มไปด้วยความสุข...




เรื่องราวของพวกเรามันไม่ได้จบลงแค่นี้ แต่มันจะยังคงดำเนินต่อไปตราบเท่าที่พวกเรายังมีลมหายใจ....




ใครจะคิดว่าวันหนึ่ง คนที่ถูกตราหน้าว่าเด็กเหลือขอจะกลายเป็นหนึ่งในทีมวิศวกรของเฟอร์รารี่

ใครจะคิดว่าคนที่ไม่ค่อยจะพูดจะจากลับไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กกำพร้าในสถานรับเลี้ยงที่ตัวเองสร้างขึ้นมา

ใครจะคิดว่านักขับที่ถูกทาบทามจากนิตยสารแฟชั่นพอๆกับหนังสือรถจะสนุกสนานไปกับการเป็นเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นเล็กๆ

และใครจะคิดว่ามาเฟียเหม็นกลิ่นเลือดจะกลายมาเป็นพ่อครัวที่มีแต่กลิ่นคาวปลาแทน




แต่ไม่ว่าใครจะไปทำอะไรอยู่ที่ไหน...



ทุกๆเย็นก็จะมีเพียงที่เดียวที่ทุกคนจะกลับมา....





นั่นก็คือบ้านในป่าของมาราเนลโล่นั่นเอง....








.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

GLIDE
FIN.




*[ ]*

นะ ในที่สุด...ก็ได้เขียนคำว่า END ติดหลังเรื่องนี้ซักที ฮืออออออออออออออ ดีใจมากๆๆๆเลยค่ะ >////<

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่คุณกวางภาคภูมิใจมากที่ได้แต่งมันขึ้นมา นึกถึงช่วงเวลาที่จมอยู่กับมันก็ทำให้อดใจหายไม่ได้เหมือนกันค่ะที่มันจะจบลงแล้วแบบนี้ ทั้งดีใจทั้งเสียดายไปในคราวเดียวกัน555 เพราะเป็นฟิคที่หาข้อมูลมากที่สุดในบรรดาฟิคทั้งหมดที่แต่งมาเลยค่ะ ทั้งเรื่องรถฟอร์มูล่าวัน ทั้งเรื่องทีมเฟอร์รารี่ ทั้งเรื่องรถแข่งทามิย่าแล้วไหนจะเรื่องต่างๆของอิตาลี เมืองต่างๆ หาข้อมูลแม้แต่ชีวิตประจำวันของคนที่นั่น555 จากที่แทบจะไม่รู้อะไรตอนนี้เลยกลายเป็นแฟนของเฟอร์รารี่ไปซะงั้น แถมหลงรักมาราเนลโล่แบบไม่รู้ตัวอีกต่างหาก >////<

ยังไงก็ต้องขอขอบคุณทุกๆการติดตามที่มีให้กันเสมอมานะคะ ต้องขอโทษในหลายๆครั้งที่คุณกวางมันก็อู้บ้าง ออกทะเลบ้างจนหลายคนคงจะกังวลว่ามันจะเขียนจบได้ไหมเนี่ยชีวิตนี้อะไรงี้ 5555 ขอโทษและขอบคุณที่เป็นห่วง ขอบคุณสำหรับทุกๆเสียงทวง ทุกๆคอมเม้นต์ด้วยนะคะ ^ ^

สำหรับคาแรกเตอร์ของตัวละครในเรื่องนี้ ส่วนตัวแล้วกลับคิดว่าคู่ยามะก๊กนั้นเขียนยากกว่า คือการสื่ออารมณ์ของหนูก๊กที่ไม่ค่อยจะพูดจะจา กับยามะที่มันมีบางสิ่งอยู่ในใจแต่กลับยิ้มออกมาราวกับไม่คิดอะไรแบบนั้น เป็นอะไรที่รู้สึกยากจริงๆ ช่วงที่หยุดเขียนไปพักนึงก็เพราะตบตีกับตัวเองอยู่ค่ะว่าจะเอาไงกับคู่นี้ดี ^ ^” ก็ถ้ามีเรื่องผิดพลาดประการใดหรือมีตรงไหนที่มันยังไม่ดีก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ m(_ _)m

สำหรับ GLIDE ยังมีตอนพิเศษที่คิดเอาไว้ว่าจะเขียนอยู่อีก 3 ตอนค่ะ แต่ถ้าไปเจอเรื่องน่าจิ้นในสนามอีกก็อาจจะมีมากกว่านั้น555 ก็นะ...หาข้อมูลมาเยอะเลยต้องเอาให้คุ้มซักหน่อย อิอิ ทั้งสามตอนก็เป็นเรื่องเบาๆของทั้ง 4 คนกับเหตุการณ์ในอนาคตทั้งใกล้และไกล ไหนๆในเนื้อเรื่องหลักก็ไม่มีที่จะยัดเลยว่าจะเอา NC ของ 8059 ไปใส่ไว้ในตอนพิเศษนั่นแหละนะคะ >w<   ตอนพิเศษ 3 ตอนนี้จะอยู่ในรวมเล่มค่ะ ถ้าได้ทำอ่ะนะ5555 จ้าวแห่งการดองรวมเล่มถถถถถถถ


แล้วเจอกันเรื่องหน้าค่ะ

ฮือออออออ ต้องจากกันแบ้วสินะ GLIDE แอบสะเทือนจัย แง๊ๆๆ TT[ ]TT คงจะคิดถึงทุกครั้งที่ดู F1เลย *พราก*






5 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ14 กันยายน 2557 เวลา 03:10

    กรี๊ด ในที่สุดก็จัดการคนบงการได้ซะที

    รอรวมเล่ม รอ nc 8059 อิ อิ

    รวมพร้อมดาวตกไปเลยเหอะ

    ตอบลบ
  2. ชอบตอนที่ยามาโมโตะลงมือฆ่าคนบงการแทนโกคุเดระมากๆเลยค่ะ
    ดูเป็นผู้ชายที่ทำทุกๆอย่างเพื่อคนๆเดียวจริงๆเลย เท่มาก TvT
    ยินดีด้วยนะคะ ในที่สุดก็จบไปอีกเรื่องแล้ว (ถึงแม้ว่าหลังจากนี้ คนอ่านแบบเราอาจจะคิดถึงสองนักขับบ้าง ฮา)
    รอตอนพิเศษ รวมเล่ม และรอเรื่องใหม่อยู่นะคะะ !

    ตอบลบ
  3. ตะกุยจออออออออออออออย่างก้าวร้าววววววว(?) กวางซาม๊าาาาาา NC8059อ้ะะะะ ขอเค้าสักครึ่งย่อหน้า(?)เค้าก็ฟินแล้วนะก๊าาาา ฮืออออออออออออออ ให้รอถึงรวมเล่มจิลงแดงตายก่อน(?) ว่าจะพิมพ์เม้นท์พาร์ทสุดท้ายแต่อ่านมาถึงทอล์คแล้วไม่สครีมเรื่องนี้ไม่ได้จริงจัง!! อ้ากกกกกกกกกกกกก โบกพัดวีสุมไฟให้กวางซามะจริงจัง เค้าจะจอง(?)!!!นะคะ จองงงงงรวมเล่มจริงจัง ฮือออออออ อย่าลืมเก๊านะก๊าาา เค้ารักฟิคเรื่องนี้ของกวางซามะมากจริงๆนะคะ ฮืออออ เค้าดีใจที่ได้อ่านถึงตอนจบมากๆๆจริงจัง ฟิคเรื่องนี้เป็นอะไรที่กวางซามะแหกโค้ง(?)มาเพราะงานทามิย่าเนาะ แต่ก็เป็นฟิคที่ตราตรึงเค้ามากจริงๆค่ะ หลายๆอย่างที่รู้เลยว่ากวางซามะใส่ใจกับฟิคเรื่องนี้ขนาดไหน ทั้งฉากทั้งสถานที่ที่ทำให้เค้าอยากจะซื้อตั๋วเครื่องบิน(?)บินไปตามรอย(?)GLIDEแบ้วววถถถถ ทั้งเรื่องราวของการแข่งรถที่ก่อนหน้านี้ไม่รู้อะไรเลยแต่กวางซามะก็ทำให้เค้าหลงรักเรื่องราวในพิตการาจมากๆ รวมไปถึงรถบังคับวิทยุที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ด้วย รักเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ จริงๆก็รักมันทุกเรื่อง(?) ฮือออออ

    ตอนอ่านพาร์ทจบนี้เค้าขนลุกเลยค่ะตอนที่เห็นท่านท่อนขาดริฟท์ F LINE ด้วยโค้ด GLIDE เพื่อช่วยเอเลน เป็นอะไรที่สุดยอดมากจริงๆ!!!!!!! กวางซามะบรรยายดีมากจนได้ยินเสียงล้อ(?)เบย #ไอ้นี่มันก็เว่อร์ตลอดถถถ แต่เค้าได้ฟีลของจุดเริ่มต้นของคู่พี่น้องรีไวฮายาโตะขึ้นมาในหัวลางๆเลยจริงๆนะคะกับฉากนี้ ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกว่าความสามารถการขับรถทั้งมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ในสังคมด้านมือของท่านท่อนขาสั่งสมเมื่อเพื่อการนี้(?)ยังไงก็ไม่รู้จริงจัง ถถถถถ ยังคงยืนยันว่าเป็นตอนจบที่ดีมากๆๆจริงจังนะคะ ทั้งเรื่องที่คนร้ายตัวจริงที่โผล่หัวออกมาให้ชดใช้บาปกรรมที่ทำลงไปแล้วด้วยในที่สุด เค้าขนลุกอีกรอบเลยค่ะตอนที่กวางซามะบรรยายว่าพวกวองโกเล่เข้าไปแล้ว ฮือออ ฟีลมาเฟียมันใช่จริงๆ และก็คิดถึงวองโกเล่มากจริง อ้ากกกกกกกกกก เดี๋ยวต้องหาเรื่องไปเปิดรีบอร์นดูจนได้จริงจังค่ะ > __ < แล้วตอนที่ยามะมาขวางไม่ให้หนูก๊กต้องมือเปื้อนเลือดกันเค้าก็โฮกมากกกๆๆๆๆ อ้ากกกกกกกกก ชอบบบบบ ฮือออออ รักเถื่อน(?)ของเพชฌฆาตเพี้ยน(?)มันก๊าวมากจริงจังงงงง ฮือออออออ รักคู่นี้มากๆๆๆๆ

    เค้าประทับใจมากๆอีกเรื่องด้วยที่คุณพ่อของเอเลนก็ยอมรับในตัวท่านท่อนขาแบ้ววว ฮืออออ ก็นะยอมเสี่ยงชีวิตอย่างเท่(?)ซะขนาดนี้ จะไม่ยกให้ยังไงไหว(?)เนอะคุณพ่อ~~~ #คุณพ่อบอกว่าใครพ่อแก(?)แงงงงง แต่อ่านตอนจบแล้วเค้าก็คิดถึงการโต้เถียงหยอกล้อราวกับจะฆ่ากันให้ตายไปข้างมากๆๆเลยจริงจังนะคะ พอคิดว่าจะไม่ได้อ่านอะไรแบบนี้แล้วก็คิดถึงมากๆๆจริงๆ อ้ากกกก รักครอบครัวนี้มากมายยยยย ฮือออออ

    และเหนือสิ่งอื่นใดคือหนูก๊กขากลับมาใช้งานได้!!!!!!!!!!!!! ฮือออออออออ ขอบคุณกวางซามะที่ให้จบแบบนี้จริงจัง ความรู้สึกร้าวตอนที่รู้ว่าหนูก๊กต้องนั่งรถเข็นมันคาอยู่ในอก(?)ให้ปวดหนึบๆ(?)มาตลอดจริงจังนะคะ ฮืออออ พอเห็นตอนจบแบบนี้แล้วเค้าอยากจะกระโดดกอดกวางซามะให้หายใจกันไม่ออก(?)ไปข้างนึงเลยจริงจังงง แล้วเค้าก็ชอบมากเลยที่หนูก๊กบ่นยามะจนสึนะจามเสียจนล้มกระดานหมากรุก555555 เค้าฮาดังมากจริงจัง ตอนหมากรุกล้มแล้วมีคุณฮิบาริโมโหพร้อมทอนฟาแล้วพ่วงไปถึงมุคุโร่ที่กำลังจิบชารดน้ำต้นไม้คุณนายตื่นสาย นี่แบบบบบบ ฮืออออออ มันใช่วองโกเล่รุ่นที่สิบมากๆๆๆ ฮือออ คิดถึงมากมายเลยยยยยง้า จริงๆท่านท่อนขาน่าจะได้มาเห็นบรรยากาศแบบนี้ จะได้เข้าใจว่าเพราะความเพี้ยน(?)มันมีมาตั้งแต่บอส(?) เพราะอย่างนั้นหมีมันจะเพี้ยนตามมันคงไม่ใช่เรื่องแปลก #โดนเอ็กซ์เบิรน์เนอร์สามเท่า(?)ถถถถถถถถ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แล้วก็นะกวางซามะยังแถมฉากครอบครับสุขสันต์เล่นรถบังคับด้วยกันให้อีก ฮือออออ ฟินมากกก ฟินฮากระจายมากกกก ชอบยามะจริงจังงงงง อะไรมันจะเป็นตัวฮา(?)ได้ขนาดนี้ ถถถถถถถถ รู้ทั้งรู้ว่าไม่ชนะแน่ๆ และก็จะต้องเป็นคนแพ้และล้างจานทั้งๆที่เป็นคนทำกับข้าวด้วยเนี่ย มันไม่เข็ดจริงๆน่ะล่ะค่ะ ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ โอ่ยยยย หัวเราะปวดแก้มจริงจัง

      และท้ายที่สุดแล้วเค้าชอบมากๆที่ทุกคนต่างมีเส้นทางใหม่ของตัวเอง เส้นทางที่ถึงจะเป็นทางใหม่แต่ปลายทางของเส้นทางนี้ก็คือบ้านที่พวกเขาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว อ้ากกกกกกกกกก ฟินจริงจังงง ขอบคุณนะคะที่แต่งเรื่องนี้ ฮือออออ เค้าจะตั้งใจรอ NC (?)อย่างใจจดใจจ่อ(?)เลยนะคะกวางซามะ ฮือออออ มีคนแนะนำให้รวมพร้อมดาวตก(?)ซึ่งคนบ้าคนนี้ก็เห็นด้วยมากๆเลยนะคะ ถถถถถถถถถถถถถถถถถถ สงสาร(?)คนอยากมีไว้อ่านก่อนนอน(?)บ้างจิคะ > __ < #กวางซามะบอกว่าช่วยสงสารคนมีไหเต็มบ้านก่อนได้มั้ยถถถถถ

      รักฟิคกวางซามะจริงจังนะคะ
      ขออภัยด้วยที่เค้าแอบหายไปพักใหญ่ๆมากๆ(?) เค้ายังอยู่นะคะ ยังอยู่จริงๆ(?) ยังรักฟิคกวางซามะมากๆเหมือนเดิมจริงจัง คนบ้าคนนี้เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะกวางซามะ!!!

      ลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ25 ธันวาคม 2557 เวลา 08:50

    ฟินาเล่มากค่ะตอนจบ
    ทุกคนดูหล่อเท่ละอันตรายไปพร้อมกันๆจนเลือกสครีมไม่ถูก
    รีไวล์ก็ยังคงเป็นรีไวล์
    ฉากช่วยเอเลนคือเร้าใจมาก
    เอเลนอาจจะชิน
    แต่เราคิดว่าคุณพ่อคงช๊อคไม่น้อยที่ลูกชายถูกช่วยด้วยวิธีนี้
    และสุดท้ายก็ต้องยอมรับในตัวลูกเขย
    เพราะคงไม่มีใครแกร่งเกินกว่ารีไวล์และเหมาะสมจะดูแลเอเลนได้มากเท่ารีไวล์อีกแล้ว
    อีกอย่างคือเราชอบที่สุดท้ายทุกคนต่างก็มีเส้นทางเป็นของตัวเองและมีบ้านมีครอบครัวให้กับมาเจอกัน
    คือมันดูอบอุ่นมากกกกกกกกกก
    หลังจากที่ต้องใช้ชีวิตปากกัดตีนถีบฝ่าฟันกันมานาน
    อย่างที่รีไวล์บอก "หากไม่ดิ้นรนก็คงต้องตายเหมือนหมาข้างถนน"
    ถ้าไม่สู้ชีวิตก็ไม่เปลี่ยน
    ขอบคุณสำหรับฟิคดีๆเรื่องนีค่ะ

    ปล จะรวมเล่มมั๊ยคะ รออุดหนุนค่ะ

    ตอบลบ