Attack on Titan feat.KHR Au.Fic [Levi xEren , 8059] GLIDE : 19
: Attack on Titan feat KHR Fanfiction Au
: Levi x Eren , 8059
: Romantic Drama
: NC-17
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
“ เอเลน...รอยที่คอนั่นอะไร?....”
สิ้นเสียงของพ่อมือบางก็ยกขึ้นไปปิดรอยที่คอด้วยใบหน้าแข็งเกร็ง....รอยนั่นมัน...ที่คุณรีไวทำเอาไว้...หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวเพราะกลัวพ่อจะจับได้
“ มะ ไม่มีอะไรนี่ครับ...ก็คงจะแค่แมลงกัด....” ใบหน้ามนยิ้มกลบเกลื่อนแต่ก็ปกปิดต่อคนเป็นพ่อไม่ได้เพราะใบหูสีแดงมันฟ้องอยู่ชัดๆว่ากำลังโกหก
“ งั้นหรอ.....งั้นก็ไปอาบน้ำเถอะ” แต่คนเป็นพ่อกลับยอมปล่อยลูกชายไปโดยไม่คาดคั้นอะไรมากมายนัก...เพียงแต่...นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นกลับมองตามแผ่นหลังโปร่งบางที่ดูแลมาอย่างดีไปด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
ทั้งๆที่ริ้นไม่เคยให้ไต่ ไรไม่เคยให้ตอมแล้วแมลงที่ไหนมันบังอาจมากัดลูกชายของเขา?!
“ นี่คุณ...คุณรู้จักแฟนของเด็กคนนั้นหรือเปล่า?” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนเป็นภรรยา...รอยแบบนั้นไม่ใช่แมลงธรรมดาแน่ๆ
“ ตายจริง?! เอเลนน่ะหรอจะมีแฟน? เค้าไม่เคยพูดถึงเลยนะ” แล้วก็คาดไม่ผิดกับปฏิกิริยาที่ดูจะตกใจของภรรยาเพราะเธอคงไม่คิดว่าลูกชายที่ดูเป็นเด็กตลอดเวลาในสายตาของพวกเขาจะเริ่มโตจนคิดที่จะดูแลใครสักคนแบบนั้น
“ จากพฤติกรรมหลายๆอย่างที่คุณเล่าให้ผมฟัง ทั้งเรื่องที่ติดเพื่อนจนไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง...ผมว่า...อาจจะไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดาๆ....”
“ อย่าทำหน้าน่ากลัวแบบนั้นสิคุณก็...ถ้าลูกจะรักใครสักคนเราก็ควรจะดีใจสิ...เอเลนไม่ได้เป็นเด็กเล็กๆให้เราดูแลตลอดไปหรอกนะคะ” หญิงสาวบีบลงไปที่ไหล่สามี ทั้งๆที่ปกติแล้วคนเป็นแม่นั้นไม่เคยที่จะลดลาวาศอกให้ลูกชายแต่กลับกลายเป็นว่าพอเป็นเรื่องนี้กลับยอมรับในการตัดสินใจของเอเลนดีกว่าคนเป็นพ่อเสียอีก
“ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร...แค่อยากรู้ว่าเป็นเด็กผู้หญิงที่ไหน ครอบครัวเป็นยังไง....” ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นกลับเยือกเย็นจนดูไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่
“ เอาไว้คุณก็ลองแอบถามลูกดูสิ...ถ้าเด็กดื้อนั่นจะยอมบอกคุณดีๆละก็นะ”
“ อืม....” ร่างสูงกลับไปจมอยู่หลังกองเอกสารทว่าในหัวกลับไม่มีตัวหนังสือที่อยู่บนกระดาษตรงหน้าเลยสักนิด เพราะเรื่องที่คิดอยู่ตอนนี้ก็มีแต่เรื่องรอยที่คอของคนเป็นลูกชายเท่านั้น.....
นัยน์ตาสีมรกตเปิดขึ้นในห้องสีขาวที่เริ่มจะคุ้นตา....ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาเมื่อสามอาทิตย์ก่อนกลิ่นของห้องนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
มันยังคงมีแต่กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่ทำให้รู้สึกอยากจะอาเจียน ทั้งๆที่อยู่กับกลิ่นน้ำมันกลิ่นยางมาเป็นปีเป็นชาติแต่กลับไม่เคยรู้สึกเข็ดขยาดจนอยากจะวิ่งหนีเท่ากับกลิ่นสะอาดๆแบบนี้เลยสักครั้ง
แต่เขาก็วิ่งหนีไปไหนไม่ได้...
นัยน์ตาสีมรกตทอดมองสองขาของตัวเองที่ยังคงอยู่ในเฝือก ทั้งๆที่มันดูใหญ่เทอะทะแต่เขากลับไม่รับรู้ถึงน้ำหนักของมันเลยแม้แต่นิดเดียว
ต่อให้เขาจะเป็นคนไม่สนใจโลกแค่ไหน แต่การเดินด้วยขาของตัวเองไม่ได้ ต้องติดแหง่กอยู่แต่บนเตียงแบบนี้บางทีมันก็นึกหงุดหงิดจนพาลอารมณ์เสียใส่ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในสายตา
แล้วใบหน้าสวยก็สะบัดมองไปรอบกายอย่างเพิ่งนึกขึ้นมาได้
ห้องที่เคยมีใครบางคนอยู่ด้วยตลอดและใบหน้าแย้มบานนั่นจะยิ้มมาให้เขาทุกครั้งที่ลืมตาขึ้นมาแต่วันนี้มันกลับว่างเปล่า...ไม่สิ...ไม่ใช่แค่วันนี้ แต่เป็นหลายวันมานี้ต่างหากที่เขาตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นหน้าของยามาโมโตะ ทาเคชิ
ไอ้หมีบ้านั่นหายไปไหน?
ริมฝีปากสีระเรื่อเม้มแน่น....อยู่ๆก็โมโหขึ้นมา....หมอนั่นทำให้เขาไปไหนไม่ได้แล้วยังจะทิ้งเขาไว้คนเดียวแบบนี้อีกหรือไง
ปลายนิ้วจิ้มลงไปบนโทรศัพท์มือถือก่อนจะกดส่งข้อความออกไป
แล้วไม่นานร่างสูงใหญ่ก็เปิดประตูเข้ามาด้วยท่าทางรีบร้อน
“ มีอะไรหรือเปล่าโกคุเดระ? โทษทีมัวไปซื้อนี่มาให้นาย...”
ตุ้บ!!
ใบหน้าคมยังไม่ทันจะพูดจบหมอนสีขาวก็ปาเข้ามาเต็มหน้า
“ ไปให้พ้น!” ห๋า?...ทั้งๆที่ตัวเองส่งข้อความไปบอกให้เขากลับมาเนี่ยนะ? ร่างสูงใหญ่ได้แต่ก้มลงไปเก็บหมอนด้วยรอยยิ้มจางๆ อย่างใจเย็น
“ เอ้า! ให้เจ้านี่อยู่เป็นเพื่อนเวลาที่ชั้นไม่อยู่” หมีสีดำตัวใหญ่ถูกวางลงไปข้างๆหมอนแล้วแทบจะทันทีมือบางก็จับมันปาทิ้งอย่างไม่ไยดี
“ ไอ้บ้า! แกคิดว่าชั้นเป็นเด็กประถมหรือไงที่ต้องให้พี่หมีอยู่เป็นเพื่อนน่ะ เอาไปทิ้งแล้วไสหัวไปซะ! ชั้นเกลียดแก ไอ้บ้าๆๆๆ!!” แล้วไม่ว่าอะไรที่อยู่ใกล้ตัว มือบางก็หยิบมันขึ้นมาปาใส่ร่างสูงใหญ่ราวกับคนกำลังคลั่ง
แต่สองแขนแข็งแรงก็ได้แต่ยกขึ้นกันสิ่งที่ปาเข้ามาเท่านั้น ปล่อยให้ร่างบอบบางอาละวาดจนกว่าจะพอใจ
“ แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก....” นัยน์ตาสีมรกตจ้องเขม็งมาที่เขาก่อนจะล้มตัวลงนอนหันหลังให้ ใบหน้าคมยังคงส่งยิ้มจางๆอย่างที่เข้าใจดีว่าที่โกคุเดระพาลใส่ทุกอย่างแบบนี้มันเป็นเพราะอะไร
ร่างสูงใหญ่เดินเก็บข้าวของที่หล่นกระจายอยู่รอบเตียงคนไข้...ตอนที่เขาไม่อยู่ก็จะส่งข้อความไปตามจิกให้กลับมา แต่ว่าพอกลับมาก็จะไล่ให้เขาไปให้พ้นหน้า ถ้าเขาอยู่ในห้องก็จะอาละวาดแล้วก็ทำเหมือนไม่อยากจะอยู่ใกล้ไม่อยากจะมองหน้า
ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่มีใครทนความเอาแต่ใจของเจ้านักขับนี่ไหวหรอก
มือใหญ่วางตุ๊กตาหมีสีดำเอาไว้ข้างๆคนที่ยังนอนหันหลังให้....ถึงแต่ก่อนโกคุเดระจะเป็นคนที่ยังไงก็ได้และไม่เคยสนใจอะไรแต่พอไปไหนมาไหนด้วยขาของตัวเองไม่ได้ ต้องใช้ชีวิตอยู่แต่บนเตียงในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆนี่มันจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะหงุดหงิดจนอาละวาดแบบนี้
แล้วก็เป็นกับเขาคนเดียวเท่านั้นเสียด้วย…
ตุ๊กตามือหมีสีดำถูกหยิบออกมาก่อนที่เตียงจะยุบยวบเมื่อร่างสูงใหญ่นั่งลงไป กระดาษแผ่นเล็กๆถูกมือนุ่มนิ่มคีบเอาไว้ก่อนจะเอาไปยื่นให้คนที่ยังนอนหันหลัง
ร่างบอบบางดึงไปดูด้วยความรำคาญแล้วใบหน้าที่เคยงอหงิกก็ค่อยๆคลายออก
‘ ออกไปข้างนอกด้วยกันนะ?’
มือนิ่มๆของเจ้าหมีสีดำเกาะไปที่แขนบาง นัยน์ตาเม็ดพลาสติกใสแจ๋วจ้องไปที่ใบหน้าสวยราวกับกำลังอ้อนให้ตอบตกลง
“ ฮึ! เห็นว่าขอร้องแทบเป็นแทบตายหรอกนะ! จะไปด้วยก็ได้!” ใบหน้าคมถึงกับอมยิ้มในความปากไม่ตรงกับใจ ทั้งๆที่ตัวเองเบื่อจนพาลใส่เขาทุกวันแบบนี้เพราะอยากออกไปข้างนอกแท้ๆ
“ แต่ว่าต้องเป็นตอนกลางคืนนะโกคุเดระ...เราต้องหนีคุณหมอออกไป” ร่างบอบบางพลิกกลับมามองหน้าเขาด้วยประกายระยิบระยับในดวงตา
“ จนกว่าจะถึงตอนนั้นนายต้องกินข้าวให้หมด จะได้มีแรง โอเคนะ” ใบหน้าสวยพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะรับจานข้าวที่ไม่ยอมกินมาตั้งแต่เมื่อกลางวันจนเขาต้องเอาไปเปลี่ยนมาหลายรอบไปถือไว้
เพราะปกติเป็นพวกเย็นชา บทจะเอาแต่ใจขึ้นมาใครก็คงจะรับมือไม่ไหว
ตอนอยู่กับรีไวก็ไม่เห็นดื้อแบบนี้นี่นา...หรือว่าเขาตามใจเกินไปนะ?
ช่วงเวลาที่ตั้งหน้าตั้งตาคอยค่อยๆย่างกรายเข้ามา ท้องฟ้าใสค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีดำ ใบหน้าสวยหันมองข้างนอกหน้าต่างสลับกับหน้าเขาตั้งไม่รู้กี่รอบ ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั่นคงอยากจะตะโกนบอกเขาให้พาออกไปได้แล้วแต่ความปากแข็งก็ยังมีมากกว่า
“ พร้อมหรือยังโกคุเดระ?” และเมื่อเขาถามออกไปแบบนั้น ใบหน้าสวยที่ดูจะตื่นเต้นดีใจจึงพยักหน้ารัวๆเหมือนเด็กๆ
ท่อนแขนแข็งแรงจึงสอดเข้าไปข้างใต้ลำตัวบางก่อนจะยกร่างเบาหวิวนั่นขึ้นมา โกคุเดระยกแขนมากอดคอเขาเอาไว้อย่างว่าง่าย
สองขาก้าวไปตามทางเดินที่เงียบเชียบ...อันที่จริงเขาบอกหมอเอาไว้แล้วว่าจะพาออกไป นางพยาบาลที่ผ่านมาเห็นจึงหลบให้โดยไม่เอ่ยห้ามแต่อย่างใด
“ จะไปไหน?” เสียงที่เอ่ยถามไม่ใช่เสียงของรีไวแต่อย่างใด แต่เป็นเสียงที่เปล่งออกมาจากใบหน้าที่อยู่ใกล้แค่คืบ
“ ความลับ” เขาเอ่ยบอกโกคุเดระทั้งรอยยิ้ม ใบหน้าบูดๆจึงแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะละมือข้างหนึ่งมาดึงจมูกเขา
“ ความลับเยอะดีนักนะ!”
“ ฮะ ฮะ ฮะ” เสียงหัวเราะร่าเริงดังขึ้นรับปลายนิ้วที่ยังบีบลงมา ใบหน้าคมแกล้งสะบัดหน้าหนีก่อนที่มันจะแอบกดลงไปบนแก้มใสที่อยู่ใกล้ ทำเอาคนที่รู้ตัวจนได้ละสองมือที่เคยกอดคอเขาดีๆมาทึ้งเส้นผมสีดำพร้อมแยกเขี้ยวใส่
“ เดี๋ยวตก โอ๊ยๆ” ราวกับโกคุเดระจะรู้ว่าเขาคงไม่มีทางปล่อยให้ตนหล่นลงไป ร่างบอบบางจึงก่อสงครามทั้งๆที่ยังให้เขาอุ้มอยู่แบบนั้น
สำหรับเขาแล้ว...แมวมันก็ต้องข่วนแบบนี้แหละถึงจะสมกับที่เป็นแมว
ร่างบอบบางถูกวางลงไปบนเบาะข้างคนขับก่อนที่ BMW 5 Series Sedan จะทะยานออกจากโรงพยาบาล
รถสีดำวิ่งผ่านย่านใจกลางของโรมไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ แสงไฟที่สาดกระทบผนังอิฐสีส้มของตึกซึ่งอยู่สองข้างทางทำให้นัยน์ตาสีมรกตมองมันด้วยความเพลิดเพลิน ทั้งๆที่เป็นรูปแบบอาคารที่มีอยู่ทั่วอิตาลีแต่พอไม่ได้เห็นมาเป็นเดือนๆจึงได้แต่มองราวกับเป็นของแปลกใหม่
ใบหน้าคมเหลือบไปดูคนที่นั่งมองข้างทางด้วยใบหน้าอมยิ้ม...อันที่จริงแค่พาออกมานั่งรถเล่นแบบนี้โกคุเดระก็คงจะพอใจแล้ว
แต่ว่า..เขายังมีที่ที่หนึ่งซึ่งอยากให้ร่างบอบบางไปด้วยกัน...
และเมื่อรถสีดำวิ่งข้ามแม่น้ำ Fiume Tevere สถานที่ที่ว่าก็มองเห็นได้อย่างชัดเจน
นครรัฐวาติกันและมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์....
สถาปัตยกรรมสำคัญของยุคเรเนซองส์ที่สร้างกันมากว่า 120 ปี สถาปนิกและศิลปินชื่อดังล้วนฝากผลงานไว้ที่นี่เพราะกว่ากว่าจะกลายมาเป็นวิหารผังไม้กางเขนอย่างในปัจจุบันมันก็ผ่านการออกแบบมาครั้งแล้วครั้งเล่า...ตั้งแต่สมัยเรเนซองส์จนมาเสร็จสิ้นเอาในยุคบาโรค
ท่อนแขนแข็งแรงอุ้มร่างบอบบางลงมาจากรถก่อนจะวางไว้ในรถเข็น ล้อสแตนเลสค่อยๆหมุนวนไปจนกระทั่งร่างทั้งสองมาหยุดยืนอยู่ที่กลางลานรูปวงรีที่โอบล้อมไปด้วยเสาโคโลเนียลสูงใหญ่ราวกับมีแขนของพระผู้เป็นเจ้าคอยโอบกอด
บรรยากาศราวกับถูกปกป้องและปลอบประโลมทำให้คนที่มีแผลที่หัวใจราวกับกำลังได้รับการเยียวยา...ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองยอดเสาโอบิลิสที่ตั้งอยู่กลางลานก่อนจะค่อยๆหันมองแนวเสาที่อยู่รอบตัว...ถึงจะเคยมาที่นี่แต่กลับไม่มีครั้งไหนเลยที่รู้สึกอยากจะร้องไห้เท่าครั้งนี้
มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก...
เหมือนถูกทอดทิ้งและถูกโอบกอดจากพระผู้เป็นเจ้าในเวลาเดียวกัน...
เพราะเขาเป็นเด็กไม่ดีงั้นหรอถึงได้ทิ้งเขาไป...แต่พระองค์ก็ไม่ได้ใจร้ายเพราะยังให้โอกาสเขาหายใจอยู่
เพราะยังหายใจอยู่...
ถึงได้รู้ว่ายังมีคนพร้อมที่จะอยู่ข้างๆเขา...ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีประโยชน์อะไรแล้วก็ตาม...
เพราะยังหายใจอยู่...
ถึงได้รู้ว่ายังมีสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวรอให้เขากลับไป...
เขายังมีทั้งบ้านในเขตอุทยาน...ยังมีทั้งพิตการาจสีแดง...
ยังมีทั้งอ้อมแขนของยามาโมโตะ...
นัยน์ตาสีมรกตกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่หยาดน้ำใสๆไม่ให้มันไหลลงมา หน้าผากซุกลงไปในอ้อมแขนแข็งแรงที่กอดเขาเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“ เวลาที่ชั้นมีเรื่องไม่สบายใจ...ชั้นก็มักจะมาที่นี่”
ใบหน้าคมเงยขึ้นมองจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ที่บัดนี้ไม่มีใครเหลืออยู่อีก พอไม่มีความวุ่นวายจากฝูงชนทำให้สถานที่แห่งนี้ช่างดูศักดิ์สิทธิ์และเต็มไปด้วยมนต์ขลัง
“ ถึงชั้นจะคร่าชีวิตใครต่อใคร แต่พระผู้เป็นเจ้าก็ยังรับฟังคนบาปอย่างชั้น...”
อ้อมแขนที่กอดร่างที่นั่งอยู่ในรถเข็นค่อยๆคลายออกก่อนที่ใบหน้าคมจะก้มลงไป สองมือเกลี่ยไล้รอยน้ำใสๆที่ขอบตาสีมรกตให้
“ และวันนี้ที่ชั้นพานายมา ก็เพราะอยากจะให้พระองค์ช่วยรับฟัง...”
ร่างสูงใหญ่คุกเข่าลงไปตรงหน้าร่างบอบบาง สองมือยื่นไปกอบกุมมือที่วางอยู่บนหน้าตักก่อนที่นัยน์ตาสีเปลือกไม้จะสบประสานไปยังนัยน์ตาสีมรกตด้วยแววตาที่จริงจังยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
“ หากชีวิตของชั้นยังขอพรได้อีกสักข้อ...ชั้นก็อยากจะวอนขอ...ให้พระผู้เป็นเจ้าคืนขาทั้งคู่ให้กับนาย...” และมันคงจะเป็นพรข้อสุดท้ายของคนที่ไม่สมควรจะขอพรอย่างเขา...
หยาดน้ำตาที่พยายามกักเก็บมันมาตลอดร่วงกราวลงมาบนหน้าตัก
ไหลบอบบางสั่นสะท้านไปกับคำขอพรของคนที่พระผู้เป็นเจ้าไม่รัก แต่กลับยินดีมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเขา
สำหรับตอนนี้...คิดว่าดีจริงๆที่ยังมีชีวิตอยู่...
มือใหญ่ลูบหัวสีเงินทั้งๆที่ยังนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้ารถเข็น ปล่อยให้สัมผัสแผ่วเบาช่วยปลอบโยนคนที่กำลังนั่งร้องไห้แทนคำปลอบใจใดๆ
ไม่ว่าจะนานแค่ไหน...เขาก็จะอยู่ข้างกายอีกฝ่ายตลอดไป...
นัยน์ตาสีมรกตหลั่งน้ำตาออกมาจนหมด ความรู้สึกที่มันอัดแน่นอยู่ในใจราวกับถูกยกออกไป...ทั้งเรื่องที่ต้องสูญเสียขาทั้งสองข้าง ทั้งเรื่องอนาคตของตัวเอง มันคือความเสียใจที่ไม่เคยได้แสดงออกไป เอาแต่เก็บมันไว้ข้างใน พอได้ระบายมันออกมาในหัวจึงโล่งอย่างบอกไม่ถูก
เขารู้สึกว่า...เขาพร้อมที่จะเดินหน้าต่อไปกับชีวิตที่ต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้แล้ว
แต่ก็มีอีกเรื่องที่ยังค้างคาอยู่ข้างใน ใบหน้าสวยจึงลอบมองคนที่ยังจ้องตนอยู่ ใบหน้าก้มลงหาหน้าตักของตัวเองอีกครั้งก่อนจะถามออกไปด้วยเสียงงึมงำ
“..........ชั้นน่ะ....เป็นคนสุดท้ายของแกเสมอเลยไม่ใช่หรือไง.....”
“ คนสุดท้าย?” เสียงทุ้มถามออกมาเพราะไม่เข้าใจ ทำให้ใบหน้าสวยยิ่งก้มงุดพูดพึมพำด้วยความอาย
“ ตอนนั้น...ตอนที่ชั้นหันปืนใส่วองโกเล่เดซิโม่ แกก็เลือกที่จะปกป้องบอสของแก...เลือกชั้นทีหลัง...แล้วยังคราวนี้....แกก็เลือกที่จะทำตามคำสั่งของวองโกเล่...แล้วค่อยมาขอโทษชั้นทีหลัง.....” เมื่อได้ฟังจนจบใบหน้าคมถึงกับยิ้มรับ เพราะสิ่งที่โกคุเดระกำลังสื่อออกมานั้นมันคือความน้อยใจไม่ใช่หรือไง? แล้วเขาก็ดีใจจนไม่รู้จะพูดยังไงที่โกคุเดระมีความรู้สึกแบบนี้ให้กับเขา ไม่ใช่ว่าจะให้เขาเป็นฝ่ายไล่ตามอยู่อย่างเดียว
“ เปล่าเลยโกคุเดระ...” สองมือย้ายมาจับมือบางไว้อีกครั้ง คราวนี้เขาจ้องใบหน้าสวยด้วยรอยยิ้ม
“ นายคือคนที่ชั้นนึกถึงเป็นคนแรกต่างหาก”
“ ที่ชั้นปกป้องสึนะ เพราะว่าหมอนั่นเป็นบอสของวองโกเล่...ถ้าสึนะเป็นอะไรขึ้นมา...ตัวนายเองจะเป็นยังไงนายรู้บ้างหรือเปล่า...วองโกเล่ไม่ได้มีแต่พวกเบื้องหน้าอย่างที่นายรู้จักนี่หรอกนะ พวกเรายังมีหน่วยลอบสังหารและผู้ดูแลนอกแฟมมิลี่อีก...การเป็นศัตรูกับสึนะเท่ากับเป็นศัตรูกับคนพวกนี้ด้วย แล้วชั้นบอกได้เลยว่าพวกนั้นน่ะมันพูดไม่รู้เรื่อง ฮะฮะ” นึกไปถึงพวกที่ชอบใช้แต่กำลัง เอาตัวเองเป็นใหญ่และขี้โวยวายก็คงไม่รู้จะใช้คำไหนนอกจากพวกพูดไม่รู้เรื่องแล้วละ
“ อย่างกับแกพูดรู้เรื่องงั้นแหละ....” ริมฝีปากสีระเรื่อบ่นงึมงำทำให้เขาได้แต่ยิ้มบางๆ
“ ส่วนเรื่องคราวนี้....ถ้าไม่ใช่เพราะนึกถึงแต่เรื่องของนาย ชั้นคงไม่มีวันยอมทำตามคำสั่งของวองโกเล่แน่ๆ...ชั้นน่ะเป็นพวกนึกอยากจะทำอะไรก็ทำมากกว่าที่นายคิดนะโกคุเดระ...แต่เพราะคิดว่านายอยากจะจบเรื่องเมื่อ 10 ปีก่อนมากแค่ไหน ชั้นก็มีแต่จะต้องทำตามคำสั่งของวองโกเล่...เพื่อให้ได้หลักฐานและพยานมา...เพื่อควานหาตัวของคนที่บงการเรื่องเมื่อ 10 ปีก่อนให้นาย...นายจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้เสียที” นัยน์ตาสีมรกตของนายมันควรจะสดใสให้สมกับที่เป็นอัญมณี...มันไม่ควรจะมีความขุ่นมัวใดๆมาฉุดรั้งเอาไว้
“ ชั้นนึกถึงนายเป็นคนแรก....แต่นายจะเป็นคนสุดท้ายที่ชั้นรัก....”
“ โกคุเดระ...ยกโทษให้ชั้นนะ...ขอให้ชั้นได้กลับไปอยู่ข้างๆนาย....”
หัวใจดวงน้อยพองโตจนรู้สึกได้ นัยน์ตาสีมรกตสั่นไหวจ้องมองใบหน้าคมที่มองมาด้วยสายตาอ้อนวอน
ในห้วงคำนึงกำลังนึกถึงชั่ววินาทีที่รถพลิกคว่ำ...ตอนนั้นมันมีแต่ใบหน้าของยามาโมโตะลอยมา...แล้วสิ่งเดียวที่คิดอยู่ก็คือไม่อยากตาย....
แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขาควรจะตอบออกไปยังไง....
ใบหน้าสวยจึงพยักลงช้าๆ คนที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าแทบจะยิ้มทั้งน้ำตา ใบหน้าดีใจโผเข้ามาหาพร้อมๆกับสองแขนที่กอดรอบเอวของเขาเอาไว้
ริมฝีปากสีระเรื่ออมยิ้มน้อยๆ ฝ่ามือยกขึ้นลูบเส้นผมสีดำด้วยความหมั่นไส้
“ ถึงชั้นจะไม่ยกโทษให้ แกก็คงจะเนียนมาอยู่ข้างๆอยู่แล้วใช่ไหมละ ไม่เห็นจะต้องมาขอ...”
“ นั่นสินะ ฮะฮะฮะ”
เสียงพูดคุยดังอยู่ในอ้อมกอดของพระผู้เป็นเจ้าไปอีกพักใหญ่
ความสบายใจทำให้ร่างบอบบางอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
และถึงแม้ว่าจะยังไม่มีความรู้สึกใดๆส่งมาจากขาทั้งสองข้าง แต่รูปร่างภายนอกนั้นก็หายดีจนเอาเฝือกออกได้แล้ว
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะได้อยู่ในโรงพยาบาลอันแสนจะน่าเบื่อซึ่งอยู่มาเกือบสองเดือน
ก่อนหน้านี้ก็มีการถกเถียงกันมาตลอดว่าออกจากโรงพยาบาลไปแล้วจะให้เขาไปอยู่ที่ไหน แต่จนแล้วจนรอดรีไวก็ต้องกัดฟันยอมให้เขาไปอยู่ที่คฤหาสน์วองโกเล่...
เพราะรีไวเองก็ไม่ได้อยู่บ้านตลอด การปล่อยเขาที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เอาไว้ตามลำพังมันก็คงเป็นเหมือนขนมของพวกนักฆ่าที่ยังตามล่าเขาอยู่แน่ๆ
ตรงกันข้าม...
หากเขาอยู่ในคฤหาสน์วองโกเล่...ฐานบัญชาการของมาเฟียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอิตาลี...ต่อให้ยามาโมโตะไม่อยู่...ก็ยังมีทั้งวองโกเล่เดซิโม่และผู้พิทักษ์คนอื่นๆที่ยังดูแลแทนได้อย่างไม่ต้องกังวลว่าใครจะกล้าเข้ามาล้วงคองูเห่า
“ ไม่ลืมอะไรแล้วใช่ไหม?” ใบหน้านิ่งของคนเป็นผู้ปกครองหันไปมองร่างบอบบางที่นั่งอยู่ในรถเข็น ถึงจะปวดใจแต่ก็ต้องยอมปล่อยให้ไปอยู่กับไอ้บ้าที่ถือตุ๊กตาหมีสีดำตัวใหญ่เดินไปเดินมาได้อย่างน่าไม่อายนั่น
“ อืม” ใบหน้าสวยพยักรับเบาๆ ส่วนใหญ่เขาก็ใช้แต่ของของโรงพยาบาล จะมีก็แต่ของใช้ของไอ้หมีบ้านั่นแหละที่ขนมาอย่างกับจะตั้งรกรากที่นี่
“ แกไม่เปลี่ยนใจแน่หรอ? เจ้าเอลวินมันก็บอกว่าถ้าแกจะตามไปที่สนามด้วยก็ได้” ใบหน้าสวยส่ายปฏิเสธ ได้แต่เก็บความหวังดีของทีมเฟอร์รารี่เอาไว้ในใจ...เพราะเขาคลุกคลีอยู่ในพิตการาจสีแดงมานานจึงรู้ว่าไม่ควรจะไปเป็นภาระ แค่ปกติก็แทบจะไม่ได้หลับได้นอนกันอยู่แล้วถ้ายังต้องมาดูแลเขาเพิ่มอีกคงลำบาก สู้ไปอยู่กับไอ้คนที่ว่างงานตลอดเวลาให้เขาจิกหัวใช้ได้ทุกเมื่อนั่นคงจะดีกว่า....อีกอย่าง...เฟอร์รารี่คงไม่มีทางรับมือกับนักฆ่าไหวแน่ๆ
“ ถ้าไม่ชอบที่นั่นก็โทรบอกชั้น ชั้นจะไปรับ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกด้วยความจริงจัง ยังไงก็คงวางใจไม่ได้ง่ายๆ...เพราะอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เล็กๆ เห็นเจ้าเด็กในปกครองนี่มาตั้งแต่ยังแบเบาะ...แล้วจู่ๆจะหายหน้าไป...
“ ทำเป็นคุณพ่อติดลูกไปได้คุณรีไวเนี่ย” เสียงสดใสแทรกเข้ามาแซวทำให้บรรยากาศหนักๆผ่อนคลายลง นักขับมือหนึ่งของเฟอร์รารี่หันไปคาดโทษร่างโปร่งบางที่มาด้วยกัน
“ โกคุเดระ เอานี่ไปอยู่เป็นเพื่อนนะ” ร่างโปร่งบางยื่น F138 คันจิ๋วให้พร้อมคันบังคับ ถึงหน้าตาภายนอกจะเหมือนกันแต่มันเป็นคนละคันกับที่คุณรีไวทำให้
“ ขอบใจ....” นัยน์ตาสีมรกตมองมันด้วยแววตาเป็นประกาย
“ อะไร? นายมีหมีของชั้นเป็นเพื่อนอยู่แล้วนะ” แล้วเสียงกวนประสาทก็ดังขึ้นมาพร้อมกับตุ๊กตาหมีสีดำที่พยายามจะเข้าไปแทนที่รถบังคับวิทยุ แน่นอนว่ามันไม่ได้มีแค่มือบางเท่านั้นที่ยันออกมาแต่ว่ามีท่อนขาช่วยด้วยอีกแรงหนึ่ง เดือดร้อนไปถึงร่างโปร่งบางที่ต้องพยายามแยกทั้งคู่ออกจากกัน
กว่าจะเดินมาถึงรถลีมูซีนที่จอดรออยู่ได้ ก็เล่นเอาเหนื่อยแทบตาย....
“ ไม่ต้องห่วงนะครับ...ผมจะดูแลโกคุเดระคุงเป็นอย่างดี” เพราะวองโกเล่เดซิโม่มารับด้วยตัวเอง...ทำให้คนเป็นผู้ปกครองยอมปล่อยไปแต่โดยดี
นัยน์ตาสีขี้เถ้าทอดมองจนลีมูซีนสีดำลับหายไปจากสายตา
คงต้องขอฝากสายลมให้ท้องฟ้าคอยดูแลไปสักพักแล้วละนะ...
“ กลับกันเถอะ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
แล้วไม่นาน Ferrari F12 Berlinetta ก็กลับมาถึงบ้านในเขตอุทยานของมาราเนลโล่
ร่างโปร่งบางเดินขึ้นบันไดไปบนเฉลียงไม้ด้วยท่าทางหวาดระแวง...ก็จะไม่ให้ระแวงได้ไง ตั้งแต่โกคุเดระไม่อยู่คุณรีไวก็จู่โจมเขาทุกที่บางทียังไม่ทันจะเข้าบ้านด้วยซ้ำ!
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหงาหรือเพราะความที่ไม่ได้เจอกันบางทีก็นานเป็นอาทิตย์ๆทำให้ทุกครั้งที่คุณรีไวกลับบ้านมาเขาก็แทบจะไม่ได้ลุกจากเตียง
แล้วก็คงเป็นเพราะโกคุเดระไม่อยู่นั่นแหละ ทำให้เขาเองไม่ต้องเกรงใจจนบางครั้งก็ไม่ได้กลับบ้านกลับช่องหลายวันติด บางทีก็อยู่ที่นี่จนกระทั่งคุณรีไวไปแข่ง
ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดเลยว่า ความรักจะทำให้ลุ่มหลงได้ขนาดนี้...
แล้วก็พูดยังไม่ทันขาดคำ....ขาเพิ่งจะก้าวเข้ามาได้บ้านฝั่งซ้ายได้ไม่กี่ก้าวเอวของเขาก็ถูกรั้งเอาไว้ด้วยมือแข็งแรง
“ เดี๋ยวครับคุณรีไว...” ไม่คิดจะพักเลยหรือไง? ตัวเองเพิ่งขับรถจากโรมมาถึงมาราเนลโล่แท้ๆ บางทีเขาก็นึกหมั่นไส้ในพลังงานที่ล้นเหลือของร่างกายที่ไม่ได้สูงไปกว่าเขาเลยนั่น!
แล้วก็ต่อให้เขาห้ามไปอีกฝ่ายก็ไม่คิดจะฟัง มือแข็งแรงยังสอดเข้ามาใต้เสื้อพร้อมกับใบหน้าที่ตามมาคลอเคลียอยู่แถวๆซอกคอ
“ คุณรีไว...อื้อ....” แผ่นหลังถูกดันไปชิดติดกระจกใสบานใหญ่ ยังดีที่อยู่ในป่าไม่งั้นใครต่อใครคงเห็นกันหมดแล้ว
ริมฝีปากประกบลงไปที่กลีบปากนุ่มก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปควานหาความหอมหวานที่ตักตวงเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ เสียงน้ำลายชื้นแฉะดังก้องอยู่ในหู ชายเสื้อถูกเลิกขึ้นมาทั้งๆที่ริมฝีปากยังคงนัวเนียกันอยู่เหมือนเดิม
แต่แล้วทุกอย่างก็หยุดชะงัก...เมื่อเสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้นมา....
ใบหน้านิ่งดูจะขัดใจกับคนที่บังอาจมาเอาในเวลาแบบนี้ ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครเดินไปหยิบรีโมตประตูรั้วด้วยท่าทางหงุดหงิดก่อนจะกดเปิดมันจากในบ้าน
เพราะคงไม่มีใครมาที่นี่นอกจากคุณฮันซี่หรือไม่ก็คุณเอลวิน...ซึ่งคุณรีไวก็ไปยืนกระดิกเท้ารออยู่ที่ประตูบ้านฝั่งซ้ายเรียบร้อยแล้ว
ต่อให้เป็นหัวหน้าวิศวกรหรือทีมบอสก็เตะได้...แบบนั้นสินะ
มือบางดึงชายเสื้อลงก่อนจะจัดให้เรียบร้อย...หวังว่าคนที่ยืนอยู่ข้างนอกคงจะไม่เห็นสิ่งที่เขากับคุณรีไวทำกันเมื่อกี้หรอกนะ...ไม่งั้นได้เอาไปล้อกันสนั่นพิตอีกแน่ๆ
สองขาเดินตามคุณรีไวออกไปรับคนมาใหม่
แล้วนัยน์ตาสีมรกตก็ถึงกับเบิกกว้างเมื่อมองเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นไม่ใช่ทั้งคุณฮันซี่และคุณเอลวินแต่กลับกลายเป็น...
“ พ่อ!!”
หัวใจดวงน้อยแทบจะหยุดเต้นเมื่อเห็นคนที่ไม่อยากให้มายืนอยู่ตรงนี้ที่สุด ในหัวมีแต่คำถามว่าพ่อรู้ได้ยังไง แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ใบหน้ามนหวั่นวิตกจนคนที่ยืนอยู่ข้างๆกันรับรู้ได้
“ พ่อ..มาได้ยังไง คือว่า” ใบหน้ามนพยายามจะหาข้อแก้ตัวแต่คนเป็นพ่อกลับยกมือขึ้นห้าม ร่างสูงยาวมองคุณรีไวตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ เชิญข้างใน” บรรยากาศที่ไม่ได้เป็นมิตรประกอบกับเขาเรียกอีกฝ่ายว่าพ่อทำให้คุณรีไวตัดสินใจเชิญคนที่อยู่ในชุดสูทภูมิฐานเข้าไปในบ้าน...แล้วพ่อก็เอ่ยแนะนำตัวทันทีที่นั่งลงบนโซฟา
“ ผมคือคริชา เยเกอร์ ถ้าเป็นเรื่องหน้าที่การงาน ผมคิดว่าคุณคงรู้ว่าผมเป็นใคร...แต่ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว คุณอาจจะไม่รู้ว่าผมเป็นพ่อของ เอเลน เยเกอร์...เด็กผู้ชายที่คุณกำลังยุ่งอยู่ด้วยนั่นแหละครับคุณรีไวแห่งเฟอร์รารี่” นักขับมือหนึ่งแห่งทีมม้าลำพองนิ่งอึ้งไปเมื่อได้ฟัง
ใช่...เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคือพ่อของเอเลน แต่ถ้าเป็นตำแหน่งที่ใหญ่คับฟ้าเมืองโบโลญญ่า มีหรือที่ใครจะไม่รู้จัก คริชา เยเกอร์...ผู้แทนรัฐบาลแคว้นเอมิเลีย-โรมัญญาที่ดูแลมาราเนลโล่อยู่กันล่ะ
เขาเพิ่งจะรู้ว่ากำลังยุ่งอยู่กับลูกชายของคนที่ใหญ่ไม่แพ้พวกวองโกเล่...
ทำไมถึงไม่เคยเอะใจเลย ทั้งการเลี้ยงดูที่ราวกับคุณหนูของเด็กนั่น ทั้งบ้านที่ตั้งอยู่ในเขตคนรวยระดับผู้บริหาร แล้วไหนจะอัลฟ่าโรเมโอรุ่นลิมิเต็ดคันนั้นอีก...
ที่ผ่านมาไม่เคยคิดถึงเรื่องฐานะ เพราะเขามั่นใจว่าเขาเลี้ยงเด็กนั่นได้...
“ ผมขอพูดตรงๆไม่อ้อมค้อมแล้วกันนะ” และคงจะไม่ยอมให้เขาพูดอะไรและไม่ยอมให้แก้ตัวด้วยสินะ...ก็ดี...จะได้เคลียร์ๆกันไป เขาเป็นลูกผู้ชายพอ กล้าทำก็กล้ารับ เขาจะรับผิดชอบเด็กนั่นเอง
“ พ่อ!! เดี๋ยวก่อน!” แต่กลับเป็นเอเลนเองที่มีท่าทางลนๆ คงจะเป็นเพราะรู้จักคนเป็นพ่อดีกว่าใครถึงได้ไม่ยอมบอกเขามาจนป่านนี้...คงกลัว...ว่าถ้ารู้แล้วจะถูกจับให้เลิกกัน
หึ...
ไม่มีวัน...
“ เอเลน...เรายังมีเรื่องต้องคุยกันนะ...” คนเป็นพ่อหันไปหาลูกชายด้วยใบหน้านิ่งและเพราะแบบนั้นทำให้ริมฝีปากที่ตั้งใจจะหาทางเลี่ยงได้แต่ปิดลง
ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นหันกลับมาหาเขาอีกครั้ง ท่าทางสุขุมเยือกเย็นนั่นมันทำให้ดูน่าเกรงขามเสียจนคิดไปว่าถ้าเขาเป็นแค่นักเลงข้างถนน ป่านนี้คงถอยหนีไปเรียบร้อยแล้ว
จะว่ากรรมมันตามทันหรือเปล่านะ เพราะว่าเขาก็เพิ่งทำแบบนี้กับไอ้หมีบ้านั่นไป เพียงแต่เขาไม่ได้ใช้ความเยือกเย็นเข้าสู้แบบนี้
“ คุณรีไว...ผมรู้ว่าคุณไม่ได้คบกับลูกชายของผมเพื่อเงิน...เพราะฉะนั้นผมจะไม่ถามว่าคุณต้องการเท่าไหร่...แต่ผมรู้ว่าคุณกำลังอยากได้ข้อมูล...ผมจะบอกคุณให้ก็ได้...แค่คุณยอมเลิกกับลูกชายผม” ว่าแล้ว...ยังไงคนระดับนี้ก็คงยอมไม่ได้ที่จะให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนผิดธรรมชาติมาคบกับผู้ชายด้วยกัน นอกจากนั้นก็ยังมีเรื่องหน้าตาในสังคมอีก...ซึ่งเขาไม่เคยแคร์
“ ข้อมูล?” ก็แค่ลองถามแหย่ไป ถึงใบหน้าของเอเลนจะดูกังวลระคนหวาดกลัวแต่ตัวเขาเองกลับไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร...ไม่ได้คิดจะทำตามคำสั่งตั้งแต่แรกอยู่แล้ว....เพราะงั้นไม่ว่าจะมาไม้ไหนเขาก็รับมือได้
“ ก็ข้อมูลที่ว่า...ใครเป็นคนจ้างวานฆ่า...ใครเป็นคนทำให้โกคุเดระ ฮายาโตะรถคว่ำยังไงล่ะ...คนที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง...ทั้งเรื่องนี้...แล้วก็เรื่องเมื่อ 10 ปีก่อน...” แต่แล้วเรื่องที่อีกฝ่ายบอกออกมามันกลับทำให้เขาอึ้งไป...คนคนนี้รู้ได้ยังไงว่าเขาพัวพันอยู่กับเรื่องอะไร เพราะเรื่องของฮายาโตะถูกปิดข่าวเอาไว้แล้วบอกสื่อว่ามันเป็นแค่อุบัติเหตุ...คนคนนี้รู้...แม้แต่เรื่องเมื่อ 10 ปีก่อนของเขาได้ยังไง
นั่นหมายความว่าคงจะรู้สินะ...ว่าก่อนที่จะมาเป็นนักขับของเฟอร์รารี่...เขาเคยเป็นยังไง เคยอยู่ในที่แบบไหนมาก่อน...
เพราะแบบนั้นคงจะยิ่งยอมไม่ได้...ที่จะปล่อยให้เอเลนคบกับคนอย่างเขาต่อไป...
“ คุณเชื่อถือข้อมูลของผมได้ เพราะผมเคยเป็นรองตัวแทนรัฐบาลอยู่ในแคว้นเวเนโต เคยดูแลเวโรน่าเมื่อ 10 ปีก่อน” นัยน์ตาสีขี้เถ้านิ่งค้างไปอีกครั้ง....เพราะแบบนั้นเองสินะ...ถึงได้รู้ได้เห็นว่าอะไรมันเป็นอะไร
“ พ่อ!!” เสียงตะโกนของเอเลนทำให้เขาหลุดออกมาจากภวังค์ ดวงตาสีมรกตมองมาที่เขาด้วยแววสั่นๆเพราะรู้ดีว่าเขากำลังโกรธแล้วก็อยากจะแก้แค้นให้ฮายาโตะมากขนาดไหน....ถ้าเพื่อสาวให้ถึงตัวคนทำ...คงกลัวว่าเขาอาจจะยอมทำตามเงื่อนไขของพ่อตัวเอง...
แผ่นหลังเอนพิงพนักเอาไว้เพื่อให้ผ่อนคลาย นัยน์ตาสีขี้เถ้าปิดลงชั่วครู่ราวกับกำลังตัดสินใจ
ทำไมเขาจะไม่อยากได้ข้อมูล ทำไมเขาจะไม่อยากกระทืบไอ้คนที่ทำให้ฮายาโตะต้องเป็นแบบนั้น
และทำไมเขาจะไม่รู้...ว่าตอนนี้เอเลนรู้สึกยังไง...กำลังกังวลจนแทบจะเป็นบ้าแค่ไหน...
เขาคงต้องแสดงให้เห็นสักหน่อย...ว่าหากซาตานหมายวิญญาณของใครเอาไว้แล้ว...ก็จะไม่ยอมปล่อยไปเป็นอันขาด
ในเมื่อเขาเคยให้โอกาสเอเลนแล้ว...แต่เด็กนั่นไม่ยอมหนีไปจากเขา...จนป่านนี้แล้วไม่ว่าอะไรก็ทำให้เขาปล่อยมือไม่ได้
“ ถ้าเป็นข้อมูล...เดี๋ยวพวกวองโกเล่ก็คงจะหามาได้...ถึงจะน่าเจ็บใจที่ต้องพึ่งพวกมันก็เถอะ”
ไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่ยอมปล่อยเด็กนั่นไป...
“ คุณจะบอกว่าคุณเลือกลูกชายผมมากกว่าเด็กที่คุณรักเท่าชีวิตคนนั้นสินะ...ผมว่า...คุณน่าจะเข้าใจความรู้สึกของผมนะ...ว่าทำไมผมถึงอยากให้คุณเลิกกับเอเลน...มันไม่ได้ต่างไปจากความรู้สึกที่คุณมีต่อโกคุเดระ ฮายาโตะเลย”
ไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่ยอมปล่อยเด็กนั่นไป...
“ ผมดีใจนะที่คุณรักลูกชายของผมจริงๆ แต่ผมมีลูกชายคนเดียว ผมต้องการเห็นเขามีอนาคตที่มั่นคง มีชีวิตที่แน่นอน...คุณเองก็คงจะรู้...ว่าการใช้ชีวิตเสี่ยงๆของคุณมันเป็นหลักประกันอะไรให้เอเลนไม่ได้”
ไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่ยอมปล่อยเด็กนั่นไป...
“ พ่อ! พอได้แล้ว! ยังไงผมก็ไม่ยอมเลิกกับคุณรีไวหรอก!”
ไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่ยอมปล่อยเด็กนั่นไป...
“ หึ....ผมว่าคุณน่าจะรู้จักลูกชายของคุณดีกว่าใครนะ...ต่อให้ผมบอกว่าจะเป็นอนาคตให้กับเขาเอง...แต่อย่างเจ้าเด็กเหลือขอจอมดื้อด้านนี่ ย่อมหยิ่งยโสเกินกว่าจะยอมให้ผมดูแลอยู่ฝ่ายเดียวแน่ๆ เขาจะไม่ฝากทุกอย่างเอาไว้กับผม เขาจะมีทางเลือกของเขาเองและเขาจะเดินตามความฝันของตัวเองเพียงเพราะเขาไม่ต้องการจะเป็นภาระของผม....ลูกชายของคุณเป็นแบบนั้น....เพราะงั้นต่อให้ผมจะตายไปเพราะแข่งรถ...แต่อนาคตของเขา...เขาจะรับมือกับมันได้แน่นอน”
ไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่ยอมปล่อยเด็กนั่นไป...
“........ไม่ว่ายังไงคุณก็จะไม่ยอมเลิกกับเอเลนใช่ไหม?”
“ ใช่...” ไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่ยอมปล่อยเด็กนั่นไป...
“ คุณจะไม่ยอมเลิก...ถึงแม้จะรู้ว่า...คนที่สั่งเผาบ้านเด็กกำพร้าเมื่อ 10 ปีก่อน คนที่ทำให้คุณต้องใช้ชีวิตร่อนเร่ คนที่สั่งเก็บโกคุเดระ ฮายาโตะ.......จะเป็นผมเองน่ะหรอ?”
ไม่ว่ายังไงเขาก็.............
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To be Con.
เข้าสู่ลูปสุดท้ายแบ้ว เย้~~~ อีกสี่ตอนจะจบไหมเนี่ย แง๊~~~ และที่กำลังหวาดวิตกอยู่ในตอนนี้ก็คือ ตอนหลังจากนี้ไปมีแต่พล็อตที่ร่างไว้คร่าวๆ......= =”””” แล้วจะทันวันที่ 9 ไหมเนี่ย แง๊....
ช่างมัน ปัดๆๆ
ขอแนะนำเพลงอีกเพลงนึงที่ฟังในช่วงนี้ค่ะ เป็นเพลงที่คิดว่ามันช่างเข้ากับภาพตอนที่ยามะก๊กอยู่ในลานหน้า St.Peter จังเลยน้า…>w<…เพลง I will จากเรื่อง AO Haru Dive ค่ะ เวลาเพลงนี้ขึ้นมาทีไรมันต้องเป็นฉากที่สุดยอดทุกเรย แอร๊ยยยย >////<
โหยหวนก่อนจะวิ่งจากไป แล้วเจอกันตอนหน้าถ้าคุณกวางยังมีชีวิตอยู่ ฮืออออ บ้าจริง! พวกลุงๆใน A/Z นี่จะนิสัยหล่อโฮกกันไปถึงไหน ง๊ากกกกกก
โอยยย ลุ้นมากๆค่ะสำหรับยามะโกคุ ในที่สุดก็โอเคแล้วสินะคะะะะ ฮือออออ ชอบตอนที่ก๊กกอดยามีมากๆค่ะ ดูอบอุ่นแล้วก็ผ่อนคลายสุดๆ น่ารักกกก
ตอบลบส่วนคุณรีไวก็ต้องมั่นคงไว้นะคะ ฮืออ TvT ความรักที่มีต่อเอเลนต้องชนะทุกอย่าง แม้กระทั่งความแค้นได้แน่นอนนน พ่อตากับเขยไม่ถูกกันมีถมไปค่ะ /เดี๋ยวๆๆ
คุณกวางสู้ๆนะคะะ รอติดตามอย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะะะ
ปล. ชอบI willเหมือนกันเลยค่ะ ฟังแล้วสดชื่นมากๆ ความหมายก็น่ารักมากด้วย TTvTT
ขออภัยที่หายกบาลไปนานอย่างสุดจิตจริงๆ ฮือออ
ตอบลบเค้ามาแปะเม้นท์แล้วนะก๊ะะะ กว่าจะได้แปะล่อพิมพ์ค้างเอาไว้เป็นเดือนๆเลย ฮือออ
#กวางซามะบอกหล่อนเป็นใคร แงงงงงง
T ___ T อยากจะน้วยกวางซามะมากๆจริงๆ ฮือออออออออออ รักคู่ 8059 สุดใจ ฮืออออ เวอร์ชั่นเนียนโตกว่าหนูก๊กมันฟินแบบนี้นี่เอง อ๊ากกกกกกกกก พาร์ทนี้ไม่ทนกับคู่ 8059มากๆๆ ฮือออ แม้จะดราม่า แต่หลายๆอย่างก็ลงตัวมากๆ การได้เห็นเพชฌฆาตมานั่งคอยเฝ้าดูแลคนป่วยทุกลมหายใจแบบนี้ มันยิ่งทำให้ฟินจริงๆ แค่นี้ก็ชัดเจนมากพอแล้วที่จะบอกว่ามันไม่ใช่หน้าที่ ไม่ใช่ความรู้สึกที่อยากจะชดใช้เพราะทำให้อีกฝ่ายเดินไม่ได้ แต่เพราะเป็นหัวใจถึงได้ยอมทุกอย่างแบบนี้ อ๊ากกกกกกกกกกก ไม่ทนนนนนนนนนนนนนน เค้าอ่านพาร์ทนี้ช่วง8059(?)วนหลายรอบมากๆๆ TT __ TT ฮือออ คือดีงาม(?)มากๆๆ ฮืออออ อีกคู่เดี๋ยวเค้าจะพูดอีกทีในภายหลัง #โดนกระทืบรัวๆถถถถถ
คือเค้าฟินมากๆจริงๆนะคะ หนูก๊กที่เอาแต่ใจแบบนี้ เอาแต่ใจแล้วอาละวาดกับยามะคนเดียวด้วยยยยย โฮรกกกกก แบบนี้จะทนไม่กดยังไงไหวววววววว #รู้สึกมันก็หมกหมุ่นอยู่แค่เรื่องเดียวเนี่ยล่ะถถถถถ แล้วคือยามะเอาใจน่ารักมากกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก โอ่ยอยากจะลากก.ไก่(?)สักสองหน้ากระดาษ(?) พออีกคนโตกว่าแล้วคือฟีลมันมุ้งมิ้งมากๆจริงค่ะ อยากให้ยามะตามเอาใจแบบนี้เยอะๆเบยยย ฮืออออ ไอ้เจ้าตุ๊กตามือหมีเนียนนี่จะไปหาซื้อได้ที่ไหนคะ!!!! เอลวิน!!!! #พอเถ๊อะะะะสงสารดันโจวบ้างอะไรบ้างงงแค่ตู้โทรศัพท์(?)ก็พอแล้วมั้งถถถถถถถ เค้าสครีมจริงๆนะคะการรับมือคนป่วยน่ากด(?)ของพ่อเนียนน่ะ รู้แม้กระทั่งวิธีทำให้คนปากไม่ตรงกับใจเลิกพาลได้แบบนี้แมวป่า(?)ตัวน้อย(?)จะไปไหนรอดดดดดดกันนน!!!
แล้วกวางซามะก็ให้เค้าฟินไม่เลิกเลยค่ะ ฮืออออ ฉากยามะอุ้มหนูก๊กแล้วหนูก๊กโอบรอบคอเป็นอะไรที่อยากได้อนิเม(?)!!!!!!!!!!!!! อ้ากกกกกก พ่อคุณใช้ทุกสถานการณ์ให้เป็นประโยชน์กับตัวเองจริงๆเลยนะพ่อเนียนนนน รถเข็นมีแต่ไม่ใช้เพราะถ้าอุ้มคนสวยอยู่ก็ฉวยโอกาสหอมได้ง่ายและแนบแน่น(?)กว่าเป็นไหนๆๆใช่มั้ยยยยย ฮือออ จะเป็นการลักลอบออกไปเที่ยวแบบที่คุณหมอรับรู้(?)นางพยาบาลเป็นใจ(?)ได้ดาเมจเกินไปแล้ววววววว
พาร์ทนี้เป็นอีกพาร์ทที่ตราตรึงใจเค้ามากจริงๆค่ะกวางซามะ ฉากที่ยามาโมโตะพาหนูก๊กไปที่นครรัฐวาติกันและมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ คือเป็นการบรรยายฉากที่สวยมากกกก สวยจริงๆนะคะ กวางซามาะบรรยายได้สุดยอดมากๆหลายๆอย่างไม่รู้จะพูดยังไงเลยค่ะ คืออยากจะตีตั๋ว(?)ไปตามรอยฟิคGlideมากๆถถถถถ #ปล่อยคนบ้ามันเพ้อเจ้อไปค่ะแค่พัทยา(?)มันยังไม่มีปัญญาไปถถถถถถ แต่คือจากที่ชอบประเทศฝั่งยุโรปแถบเวียนนา ตอนนี้เมนประเทศงอก(?)รัวๆเลยค่ะ ฮือออ กวางซามะบรรยายได้งดงามจริงจังง่ะ อยากไปปปปป ฮืออออ เค้าชอบมากๆๆเลยนะคะที่เปรียบเทียบลานหน้าเซนต์ปีเตอร์ที่มีเสาโอบิลิสล้อมรอบแบบนั้นว่าราวกับกำลังถูกแขนของพระผู้เป็นเจ้ากำลังโอบกอด คือมันใช่มากๆๆ แล้วฟีลเข้ากับหนูก๊กมากจริงๆค่ะ ฮือออ งดงามมากกก เค้าน้ำตาร่วงเลยค่ะ เหมือนเค้ารอคู่นี้(?)มานาน อยากได้ฟิลขัดเจนแบบนี้มานาน และกวางซามะก็จัดให้ คำขอพรของยามะเค้าไม่ทนจริงๆค่ะ ฮือออออ ไหนจะความกระจ่างของลำดับความสำคัญของหนูก๊กในใจยามะอีกกก ฮืออออออ ประโยคที่บอกว่า ฉันนึกถึงนายเป็นคนแรก แต่นายจะเป็นคนสุดท้ายที่ฉันรัก นี่มันยิ่งกว่าคำบอกรักหวานๆร้อยเท่าเลยจริงจัง!!!! ยามะถ้านายจะโตกว่าแล้วนายจะมาดาเมจแบบนี้ คนบ้าไม่ทนนนนนน ฮืออออออ ขอบคุณกวางซามะมากจริงๆนะคะ ที่แต่งคู่นี้ ฮืออออ รักกวางซามะมากจริงๆ ฮืออออ
ลบเค้าชอบฉากที่ผู้ปกครองมาส่งตัว(?)หนูก๊กเข้าห้องหอ(?)มากๆๆๆ #โดนท่านท่อนขากระทืบไปได้ทีเดียว(?)เพราะเหมือนว่าจะถูกใจหมีเนียน(?)ที่อยู่ไม่ไกลถึงได้เข้ามาช่วย(?) #นี่มันก็เออเองคนเดียวเป็นเรื่องราวตลอดถถถถถ คือไม่ทนนนนนกับท่าทางท่านท่อนขามากกกๆๆๆจริงนะคะกวางซามะ คืออาการปวดใจ(?)ที่ต้องยอมปล่อยให้เด็กในปกครองไปให้หมีเนียนกก เอ้ย ให้หมีเนียนคอยดูแล ยิ่งตอนที่บอกว่าถ้าไม่ชอบที่นั่นให้โทรบอกจะไปรับ นี่ก๊าวมากกกกกกกกกกกก อ้ากกกกกกกกกกกกกกก อยากจะได้ฟิคคู่นี้(?)ขึ้นมาสักสองหน้ากระดาษ(?) ฮือออออออออ แล้วคือเค้าขำยามะมาก ตอนที่สองสาว(?)เค้ากำลังมุ้งมิ้งกัน เอเลนให้รถบังคับ F138 แต่พ่อเนียนยังจะมาไม่พอใจกลัวน้องหมีดำจะโดนลืมซะอีกนี่ถึงได้พยายามเอาหมีเข้าไปแทรกแซง จนโดนทั้งมือบางทั้งท่อนขา(?)ยันออกมาแบบนั้น แถมยังเดือนร้อนเอเลนอีก ถถถถถถถถถถถถถถถ ชอบมากจริงๆๆๆๆๆๆค่ะ รักครอบครัวนี้มากๆจริงฮืออออออ
แล้วหลังจากที่ฟินคู่8059ได้ไม่นาน กวางซามะก็จัดรีเอให้อีกแต่ยังไม่ทันจะได้ที่(?)ก็ต้องมาตบเข่าฉาด(?)กับการโดนขัดจังหวะ แถมเป็นการขัดจังหวะที่ อ้ากกกกกกกกกกกกกกกก ถึงเค้าจะดีใจที่ท่านท่อนขามั่นคงอย่างหนักแน่นมากๆกับทุกๆเรื่องที่พ่อของเอเลนเสนอ แต่พอมาเจอเรื่องสุดท้ายนี่ถึงจะเป็นเรื่องที่แอบคิดเอาไว้อยู่แล้ว แต่พอมาได้ยินจริงๆแล้วก็อดจะขาวโพลนตามไปด้วยไม่ได้จริงๆ ฮือออออ ถ้าต้นเหตุทั้งหมดที่ทำให้โชคชะตาต้องมาลงเอยแบบนี้คือคนที่เป็นพ่อของคนที่ตัวเองรัก มันเจ็บปวดเกินไปปปปปปป อ้ากกกกกกกกกกกกก
ปล.ขอสครีมเพลง I will รัวววๆๆๆๆๆเลยยยยย คือตอนเลื่อนมาเจอเพลงแล้วถึงกับต้องเปิด แล้ววนไปอ่านอีกรอบบ!!??? ก็เพราะแบบนี้แลมันถึงเม้นท์ไม่เสร็จสักทีถถถถถถ T __ T
นั่งขำน้ำตาเล็ดกับพฤติกรรมของพวกปากไม่ตรงกับใจอย่างก๊กจริงๆ
ตอบลบพอเขาอยุ่ก็อาละวาด แต่พอไม่โผล่หน้ามาก็ส่งข้อความไปตาม
ให้มันได้อย่างนี้สิ
แถมเนียนก็ยอมด้วยไง โอ๋มากอ่ะ
สงสัยคงจะถือคติที่ว่า "รักภรรยาต้องเคารพภรรยา" ไรงี้
แต่อย่างว่าแหละ
ก๊กในสภาพนี้ย้ายไปอยุ่กับพวกสึนะน่าจะปลอดภัยกว่า
แถมยังมียามะมาคอยนัวเนียตลอดเวลาอีก
จะได้ไม่เบื่อไง
อุต๊ะ!
ไม่คิดว่าคุณพ่อของเอเลนจะประจันหน้ากับรีไวล์เร็วขนาดนี้
แถมมายังเปิดอัลติแสกหน้าเลยอีกว่าตัวเองอยุ่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด
คือดราม่าอ่ะ
ลุ้ันด้วย