KHRfeat.PP
Au.Fic [8059, KouGino] Juunana Sai ; 17ฝน : 06
Happy
Birthday GOKUDERA HAYATO 09/09 fanfiction.
Happy
Birthday YAMAMOTO TAKESHI 24/04 fanfiction.
:
KHR feat.Psycho Pass
Fanfiction AU.
:
8059 KouGino
:
Psycho Period Dark Romance
:
NC-17
คำเตือน :
เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย
หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
: เนื้อเรื่องต่อไปนี้ทำลายคาแรกเตอร์ค่อนข้างรุนแรง
หากรับไม่ได้ที่ตัวละครจะ “ไม่ปกติ” อย่าเข้ามาอ่านนะคะ
รุ่งเช้าต่อจากนั้นและวันถัดๆมา
ยามที่ต้องมองหน้า โกคุเดระ ฮายาโตะ มันก็อดไม่ได้ที่แก้มจะร้อนผ่าว
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าการหยอกเย้าของทั้งสองคนเป็นแค่การกระทำของพี่ชายกับน้องชาย
แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามันไม่ใช่...เพราะทุกอย่างล้วนทำไปในฐานะ...คนรัก
และเขาเพิ่งจะสังเกตเห็นสายตาของคนอื่นๆในบ้านที่บ่งบอกว่ารู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว
ในเมื่อยามาโมโตะ
ไม่ได้มีสายเลือดของตระกูลโกคุเดระ
เพราะฉะนั้นคงไม่มีใครคิดที่จะคัดค้าน...และเขาเองก็ตั้งใจจะปล่อยผ่านมันไปด้วยเช่นกัน
ตอนนั้นเขาลืมไป..ว่านั่นคือมุมมองของเขาซึ่งเป็นผู้ชายที่รักผู้ชายด้วยกัน...ไม่ได้มอง..ในฐานะผู้ปกครอง
เข็มฉีดยาถูกจิ้มลงไปบนท่อนแขนบอบบางของเจ้าคนไข้ตัวดีที่ทำหน้ายุ่งอย่างไม่ค่อยจะยอมเท่าไหร่นัก
ทั้งๆที่อายุตั้ง 17
ปีแล้วแต่เวลาจะฉีดยาทีไรเขากลับต้องหาอะไรมาล่อเป็นเด็กๆเสียทุกที
นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นเหลือบมองกองเปลือกทอฟฟี่อย่างอ่อนใจ
นี่เขาก็ไม่รู้จะสรรหาอะไรมาล่อลวงโกคุเดระ ฮายาโตะให้ยอมฉีดยาได้อีกแล้วนะ
ทั้งลูกกวาดเอย สายไหมเอย ขนมต่างๆเอย
เรียกว่าแทบจะกวาดมาทั้งหมู่บ้านแต่อาการของเด็กนี่ก็ดูเหมือนจะแค่ทรงตัวอยู่ก็เท่านั้นเอง
เขามองใบหน้าสวยที่ก้มลงไปดึงแขนกิโมโนลงหลังจากที่ฉีดยาเสร็จ
ใช่ว่าเขาจะใช้แต่ยารักษาหรอกนะ
ไม่ว่าจะเป็นวิธีการรักษาในรูปแบบใดเขาก็ลองมาหมดแล้วแต่ก็ดูเหมือนคนไข้ของเขาจะไม่ได้อาการดีขึ้นเลย
โกคุเดระ
ฮายาโตะ ยังคงเห็นกระจกไม่ได้เหมือนเดิม...
มือรีบเก็บกระจกเงาบานเล็กเข้าไปในกระเป๋าเสื้อเมื่อเห็นว่านัยน์ตาสีมรกตเปลี่ยนจากแววตาสุกใสเป็นเหม่อลอยเมื่อเขาเอากระจกออกมา
ทั้งๆที่รักษามาก็นานพอสมควรแต่ทำไมไม่ดีขึ้นเลยนะ?
โกคุเดระยังคงอาการกำเริบแทบจะทันทีที่เห็นกระจกอยู่เหมือนเดิม…
ทำไมกันนะ...ทั้งๆที่น่าจะใช้เวลาในการเห็นกระจกนานขึ้นกว่าอาการจะกำเริบ
แต่นี่กลับ....
เฮ้อ...เป็นอย่างที่คิด...กรณีของฝาแฝดนี่เป็นเคสที่หินสุดๆจริงๆ
เพราะในหัวมัวแต่ครุ่นคิดเรื่องวิธีการรักษาทำให้สองขาเดินมาถึงศาลเจ้าร้างได้ยังไงเขาก็ไม่รู้ตัว
ใบหน้าเรียวหันมองไปรอบๆ
ทั้งๆที่คิดว่าจะไม่มาที่นี่อีกแล้วแต่กลับควบคุมร่างกายของตัวเองไม่ได้
เหมือนที่เขาพยายามจะตัดขาดกับโคงามิมานานแต่ก็ไม่เคยทำได้จนต้องใช้วิธีสุดท้ายอย่างการหนี
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนวันโอบ้งก็ทำให้รู้แล้วว่าชีวิตนี้เขาคงหนีอีกฝ่ายไม่พ้น
ถ้าจะไม่ต้องทนเห็นหน้ากันอีกคงต้องตายจากกันไปเท่านั้น
หึ...ถ้าหมอนั่นเห็นเขามาที่นี่...จะต้องคิดว่าเขาคงใจอ่อนเหมือนทุกทีแล้วก็คงยอมกลับไปคืนดีง่ายๆเหมือนเดิมแน่ๆ
ไม่มีวัน...
คราวนี้เขาตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้ว
ว่าเขาจะปกป้องเจ้านายตัวน้อยจากหมาล่าเนื้ออย่างโคงามิ
เขาเลือกที่จะอยู่ข้าง
โกคุเดระ ฮายาโตะ
ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นสะบัดไปด้านข้างก่อนจะหันตัวกลับแล้วรีบก้าวพรวดๆออกไป
ก่อนอื่นคงต้องเลิกมาที่นี่
แต่ยังไม่ทันจะไปได้ถึงไหน...
“
กิโนะ” ไม่ได้มีแค่เสียงเท่านั้น
แต่อ้อมแขนแข็งแรงยังรวบตัวเขาไปกอดจากทางด้านหลังอย่างไม่ทันตั้งตัว
“
โคงามิ?! ปล่อย!!”
น้ำเสียงฉุนเฉียวเกรียวกราดถูกใช้เรียกร่างที่ยังอยู่ในชุดสีดำ
เขาอยากจะทำให้อีกฝ่ายรู้...ว่าระหว่างเรามันกลายเป็นเพียงแค่คนอื่นไปแล้ว
“
กิโนะ ฟังชั้นก่อนสิ...นะ”
เขาต่อต้านอ้อมแขนที่บีบรัดอยู่รอบกายอย่างเอาเป็นเอาตาย
แต่ยิ่งขัดขืนเท่าไหร่มันก็ยิ่งรัดจนดิ้นไม่หลุดมากขึ้นเท่านั้น
“
ชั้นไม่ฟัง!”
“
นายคิดถึงชั้นใช่ไหมล่ะ ถึงได้มาหาแบบนี้?”
ใบหน้าคมที่อยู่ใกล้แค่คืบหัวเราะเบาๆในลำคอและนั่นมันก็ยิ่งทำให้เขาฉุนขาดขึ้นมา
มาหยอกล้อกันเอาป่านนี้
มันสายเกินไปแล้ว!!
“
ตัวตนของนายมันไม่เหลืออยู่ในหัวของชั้นแล้วโคงามิ...” เขาพยายามข่มความรู้สึกแล้วพูดออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งที่สุด
“
จำเอาไว้...ที่ชั้นมาที่นี่ก็เพราะอยากจะเตือนนายในฐานะคนที่เคยอยู่ด้วยกัน...เข้ามอบตัวซะ...อย่าทำเรื่องเลวร้ายไปมากกว่านี้เลย
นายฆ่าเสาหลักอย่างนายใหญ่ก็ถือว่าแทบจะฆ่าทุกคนที่นี่แล้ว
นายก็รู้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้ต้องการคนของตระกูลโกคุเดระ ต้องการเด็กสองคนนั้น
หยุดทำร้ายพวกเค้า...รวมไปถึงชั้นด้วย”
ท่อนแขนที่โอบรัดลำตัวของเขาอยู่ชะงักค้างก่อนที่มันจะค่อยๆคลายออก
ร่างสูงใหญ่นิ่งงันไป
ใบหน้าคมนิ่งเฉยราวกับยอมรับในสิ่งที่เขาพูดและคงกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรกับเขาดีที่ดันไปรู้ความลับที่ตนปิดบังมาตลอดนี้เข้าให้
หึ...บางที...โคงามิอาจจะฝังเขาไปพร้อมๆกับหมู่บ้านนี้เลยก็ได้
“
พวกนั้น...ไม่สิ...ยามาโมโตะ ทาเคชิ บอกนายมาแบบนี้หรอกิโนะ?” โคงามิถามกลับมาด้วยน้ำเสียงเลื่อนลอย
กับคนที่ไม่สะทกสะท้านต่ออะไรง่ายๆอย่างอีกฝ่าย ที่อึ้งได้ขนาดนี้คงจะเป็นเรื่องที่ตนไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยสินะ...คงไม่คิด...ว่าคนที่ถูกปิดหูปิดตามาตลอดอย่างเขาจะรู้เข้าจนได้ว่าตัวเองไปทำอะไรเอาไว้บ้าง
“
...........คิดจะปิดบังชั้นไปถึงเมื่อไหร่?...”
น้ำเสียงที่เขาเอ่ยออกไปนั้นมันสั่นสะท้านอย่างช่วยไม่ได้ ในเมื่อมันเป็นคำถามที่เหลืออดแล้วจริงๆ
“
กิโนะ....” แต่อีกฝ่ายก็ยังปิดปากเงียบ
จะไม่ยอมรับออกมาตรงๆใช่ไหมกับสิ่งที่ตัวเองทำเอาไว้!
“
ตอบชั้นมาสิโคงามิ!! นายเห็นชั้นเป็นคนโง่ใช่ไหม? โง่!! ที่ไม่ว่านายจะหลอกล่อยังไง
ชั้นก็จะเชื่อและรอคอยนายได้ตลอดงั้นใช่ไหม?!
นายรู้บ้างหรือเปล่าว่าชั้นกังวล ชั้นห่วง ชั้นคิดถึงนายแค่ไหน
ตอนที่นายหายออกจากบ้านไปทำอะไรก็ไม่รู้เป็นเดือนๆ
ชั้นเฝ้ารอนายที่กลับมาพร้อมกับแผลเต็มตัว
นายรู้บ้างหรือเปล่าว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน?!
แล้วทั้งๆที่ชั้นเป็นห่วงนายแทบบ้า แต่นายกลับหายมาทำเรื่องแบบนี้!! ทำมากี่งานแล้วล่ะ?!
ถึงได้เงินกลับไปให้ชั้นตั้งขนาดนั้น ตอบมาสิโคงามิ ว่านายฆ่าคนไปกี่คนแล้ว?!!”
มือของเขาเขย่าอยู่ที่คอเสื้อของอีกฝ่ายราวกับคนที่กำลังคลั่ง
และทั้งๆที่เขาฟิวส์ขาด แต่โคงามิกลับแค่มองตรงมาด้วยสายตาเศร้าๆ
“
นายคิดมากเรื่องนี้เองสินะ ถึงได้ขอเลิกกับชั้น...” ร่างสูงใหญ่ทำราวกับเพิ่งรู้ถึงเหตุผลที่เขาขอเลิก...เพิ่งรู้ตัว...ว่าเพราะอะไรเราถึงไปกันไม่รอด...
“
ชินยะ....ชั้นขอร้อง...หยุดได้ไหมเรื่องที่นายกำลังทำอยู่...ถ้านายรับเงินเค้ามาแล้วชั้นจะคืนให้เอง” เขามองใบหน้าคมด้วยสายตาเว้าวอน...ชื่อ...ที่ไม่ได้เรียกกันมานานถูกเอ่ยออกมาเพียงเพื่อต้องการให้อีกฝ่ายเห็นใจ
แล้วมันก็เหมือนมีก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่ลำคอ
เมื่อนัยน์ตาสีดำนั้นไม่สะท้อนสิ่งใดกลับมาเลย
“
ชั้นคงทำตามที่นายขอร้องไม่ได้หรอกกิโนะ ตราบใดที่นายยังอยู่ที่นี่”
“
หมายความว่ายังไง?! ตอนนี้ชั้นก็รู้เรื่องทุกๆอย่างหมดแล้ว
ต่อให้นายจะพยายามไล่ชั้นกลับไปเพื่อปิดบังความจริงเอาไว้มันก็ไม่มีประโยชน์!”
“
มันไม่ใช่แบบนั้นนะกิโนะ ฟังชั้นสิ...มันไม่ใช่อย่างที่นายคิด
ที่ชั้นยังป้วนเปี้ยนอยู่ที่นี่เพราะว่าชั้นเป็นห่วงนาย ชั้นรักนายมากกว่าใครแล้วที่ปิดบังมาตลอดเพราะไม่อยากให้นายตกอยู่ในอันตราย...ฟังชั้น...ที่นี่มันไม่ปลอดภัยสำหรับนาย...ออกไปจากหมู่บ้านนี้ซะ...ถ้านายไป...ชั้นก็จะไม่อยู่ที่นี่เหมือนกัน”
มือใหญ่ที่จับไหล่ทั้งสองข้างของเขาทำราวกับรู้ดีว่าที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นที่หมู่บ้านโคโตฮิระกันแน่
แต่เขาจะไม่เชื่อ จะไม่ยอมให้โคงามิมากล่อมกันง่ายๆอีกต่อไปแล้ว!!
“
ปล่อยชั้น! ชั้นไม่เชื่อ!! ถ้านายไม่มอบตัวก็ตามใจ
ชั้นจะไปตามตำรวจมาจับนายที่นี่เอง!!” มือทั้งสองข้างปัดไปมาอย่างพยายามสะบัดตัวหนี
“
กิโนะ!!”
แล้วก็ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเริ่มอ่อนใจในความดื้อดึงของเขา
ร่างสูงใหญ่ถึงได้ปล่อยมือที่พยายามจับมือเขาเอาไว้
และในขณะที่เขาหันหลังเตรียมจะวิ่งหนี…
“
ก็ได้กิโนะ!”
เสียงที่ราวกับถอดใจเอ่ยออกมาทำให้สองขาของเขาชะงักงัน
“
ชั้นตั้งใจจะไม่บอกเรื่องนี้กับนายเพราะกลัวว่านายจะไปขุดคุ้ยมัน....แต่ถ้ามันจะทำให้นายได้รู้ว่าที่นี่อันตรายยังไง
ชั้นคงจำเป็นต้องบอก...ดูนี่สิ...”
เขาหันกลับไปหาอีกฝ่ายช้าๆจากที่คิดว่าก็แค่อยากจะรู้ว่าโคงามิจะมีลูกเล่นยังไงในการหลอกล่อเขาแต่พอหันไปเห็นของที่อยู่ในมือโคงามิเข้า...ร่างทั้งร่างก็ได้แต่ชาวาบ
ขวดเล็กๆที่กลิ้งอยู่บนฝ่ามือใหญ่นั้นคือสิ่งที่หมออย่างเขารู้จักดี...
มันคือสิ่งที่ถ้าใช้ติดต่อกันไปนานๆแล้วจะเกิดอาการหลอน...
....ยากล่อมประสาท....
ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นเงยมองใบหน้าคมด้วยนัยน์ตาเบิกกว้าง
แล้วยิ่งได้ยินสิ่งที่โคงามิพูดก็ยิ่งทำให้ก้าวขาไม่ออก
“
ชั้นเก็บมันมา...จากถังขยะของบ้านโกคุเดระ....”
หมายความว่ายังไง?
มีคนใช้ยานี้ในบ้านหลังนั้นงั้นหรอ?
และเมื่อคิดมาถึงตรงนี้
ขนทั่วร่างก็ลุกชันขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่...ถ้านึกดูให้ดี...ทั้งๆที่เขารักษา
โกคุเดระ ฮายาโตะ มานานหลายเดือนแต่เด็กคนนั้นกลับไม่ดีขึ้นเลย...หรือว่ามันจะเป็นเพราะ...
มีใครบางคนใช้ยานี้กับเด็กคนนั้น...ถึงได้ไม่หายสักที
แล้วจะทำไปเพื่ออะไรกันล่ะ?
ร่างโปร่งบางเดินครุ่นคิดไปตลอดทางกลับบ้าน
ยิ่งรู้แบบนี้เขายิ่งหนีเอาตัวรอดออกไปจากหมู่บ้านโคโตฮิระเพียงลำพังไม่ได้...ตราบใดที่คนไข้ตัวน้อยของเขายังตกเป็นเหยื่อของใครบางคนอยู่แบบนี้...
ไม่สิ...ถ้าจะถามว่าทำไปเพื่ออะไร...บางทีมันก็อาจจะพอมีคำตอบอยู่...
ถ้าเพื่อต้องการจะควบคุมโกคุเดระ
ฮายาโตะได้ง่ายๆ...ขังเอาไว้ไม่ให้ไปไหนโดยที่เจ้าตัวก็เต็มใจ...วิธีนี้มันก็ได้ผลดีเลยไม่ใช่หรือไง
แล้วบางที...ถ้าคนทำมีเป้าหมายอยู่ที่โกคุเดระ
ฮายาโตะตั้งแต่แรก......ฝาแฝดคนน้องอาจจะไม่ได้ฆ่าตัวตาย...แต่โดนฆ่าตาย...เพื่อจงใจทำให้โกคุเดระ
ฮายาโตะเสียสติแล้วก็ใช้ยานี้กล่อมให้ราวกับอยู่ในฝันแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ร่างทั้งร่างได้แต่รู้สึกชากับความคิดของตัวเอง.....
เขาจะปักใจเชื่อเลยคงไม่ได้
ถึงแม้ว่าในหมู่บ้านที่ห่างไกลจากโลกภายนอกแบบนี้จะมีโอกาสเกิดได้สูงก็เถอะ
แต่เขาก็อยากจะพิสูจน์ข้อเท็จจริงหลายๆข้อเสียก่อน
อย่างเช่นเรื่องของฝาแฝดคนน้อง...
ว่าความจริงแล้วมันเป็นยังไงกันแน่...เธอฆ่าตัวตาย...จริงๆหรือเปล่า...
เขาเลือกที่จะออกไปสอบถามความจริงเอาจากคนนอกบ้านเพราะรู้ดีว่าคนในบ้านโกคุเดระคงไม่มีใครตอบคำถามเขาแน่ไม่เช่นนั้นคงไม่ปิดเงียบไว้จนป่านนี้
สองขาก้าวเดินไปตามถนนปูหินเส้นเล็กๆที่ทอดตรงเข้าไปในย่านใจกลางหมู่บ้าน
ร้านขายของชำที่เคยมามองเห็นอยู่ในสายตา ร่างโปร่งบางจึงเดินเข้าไปหาทำทีเป็นจะซื้อของ
“
อ้าวคุณหมอของบ้านใหญ่...รับอะไรดีคะ?”
และเมื่อเห็นว่าเขาเป็นใคร
คุณป้าเจ้าของร้านที่ชะโงกตัวออกมามองก็ยิ้มให้ทันที
“
ผมอยากได้ลูกกวาดสักหน่อยน่ะครับ”
นิ้วเรียวยาวชี้ไปที่โหลใส่ลูกกวาดสีสันสดใส
หญิงสูงวัยถึงกับหัวเราะคิกคักขึ้นมาทันที
“
แหมๆ จะเอาไปล่อให้คุณหนูยอมฉีดยาอีกหรือไงคะ สงสัยป้าคงต้องหาลูกกวาดใหม่ๆมาเตรียมไว้ให้เสียแล้ว”
มืออวบอูมล้วงเข้าไปในโหลพร้อมหยิบลูกกวาดออกมาใส่ห่อกระดาษให้
ริมฝีปากช่างเจรจาก็ยังคงสรรหาเรื่องมาพูดคุยซึ่งนั่นแหละคือสิ่งที่เขาต้องการ
“
คุณหมอเป็นยังไงบ้างคะ อยู่ที่นี่มาก็ตั้งหลายเดือน พอจะคุ้นเคยบ้างหรือยัง”
“
ครับ...ที่นี่สงบ ไม่วุ่นวายเหมือนในเมือง
แถมทางบ้านใหญ่ก็ต้อนรับดูแลหมอเป็นอย่างดีเลยไม่มีปัญหาอะไรครับ” ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นทำทีเป็นก้มลงมองลูกกวาดในห่อก่อนจะตอบคำถามไปตามธรรมชาติ...ไม่เร่งร้อน...ไม่ถามจี้ลงไปตรงประเด็น...เพราะเขาก็ไม่แน่ใจว่าใครเป็นใคร
อาจจะมีคนรู้เห็นเรื่องของบ้านโกคุเดระปะปนอยู่กับคนในหมู่บ้านทั่วไปก็ได้
“
ใช่ไหมละคะ ไม่ใช่แค่คุณหมอนะ บ้านใหญ่ยังคอยดูแลพวกเราทั้งหมู่บ้าน
ถึงได้อยู่กันอย่างพอมีพอกินกันได้แบบนี้”
ฟังจากน้ำเสียงเขาก็รู้แล้วว่าหญิงสูงวัยเทิดทูลคนของบ้านใหญ่นั่นแค่ไหน และการที่จะได้คำตอบที่ดีกลับมาคงต้องเริ่มจากการชื่นชมคนที่คุณป้าแกเทิดทูลนั่นเสียก่อน
“
คุณหนูฮายาโตะเอง ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่เธอก็เป็นเด็กน่ารักนะครับ
ผมเลยรักษาได้อย่างสะดวกใจ”
“
แหมๆคุณหมอละก็”
หญิงสูงวัยทำท่าทางดีใจอย่างกับว่าคนที่เขาเอ่ยชมเป็นลูกเป็นหลานของตัวเองอย่างนั้นแหละ
“
นี่ถ้าน้องสาวฝาแฝดของเธอยังอยู่ คงจะน่ารักน่าเอ็นดูไม่แพ้กันแน่สินะครับ
คนน้องคงจะไม่เอาแต่ใจแล้วก็ปากร้ายเท่าคุณหนูฮายาโตะหรอกใช่ไหมครับ?” เขาหลุดหัวเราะออกไปเมื่อนึกถึงใบหน้าบูดบึ้งของเจ้าคนไข้ในความดูแลแต่ประโยคนอกจากนั้นคือคำถามที่เขาเริ่มโยกเข้าประเด็นโดยไม่ให้หญิงสูงวัยรู้ตัว
“
เอ...ก็...น่าจะอย่างงั้นแหละค่ะ ฮะฮะฮะ”
แต่น่าแปลก...ที่คุณป้าเจ้าของร้านกลับตอบมาด้วยท่าทางเหมือนคนนึกไม่ออก
เพราะถ้าเป็นปกติแล้วหญิงสูงวัยจะต้องบรรยายความน่าชื่นชมของเด็กคนนั้นให้เขาฟังยาวเป็นหางว่าวแน่ๆ
เขายื่นมือไปรับเงินทอนก่อนจะเดินออกมาจากร้านด้วยความสงสัยที่คาใจหนักกว่าเดิม...ดูเหมือนหญิงสูงวัยเจ้าของร้านจะไม่ได้จงใจปิดบังแต่เป็นลักษณะตอบไม่ได้เพราะไม่คุ้นเคยมากกว่า
เพราะอะไรกันล่ะ?
ในเมื่อสมัยก่อนเด็กแฝดของบ้านโกคุเดระน่าจะออกไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ
น่าจะเป็นภาพที่คุ้นตาของคนในหมู่บ้านไม่ใช่หรือไง?
ร่างสูงโปร่งเดินเข้าไปในร้านขายสายไหมก่อนจะสั่งสายไหมอันใหญ่เหมือนเดิม
“
นี่ครับคุณหมอ” ชายแก่เจ้าของร้านยื่นสายไหมสีชมพูมาให้เขาจึงยื่นเหรียญร้อยเยนกลับไปอย่างเป็นธรรมชาติ
“
เห็นทำสีชมพูให้ทุกครั้งเลย
นี่เป็นสีที่คุณหนูฮายาโตะหรือแฝดคนน้องชอบหรอครับ?” เขาเอ่ยถามคนที่กำลังนับเงินทอน
ชายแก่จึงตอบกลับมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“
เป็นสีที่คุณหนูฮายาโตะเธอชอบน่ะครับคุณหมอ ถึงแม้แกจะบ่นนู่นบ่นนี่ว่าไม่ได้ชอบ
แต่เวลามาซื้อก็จะสั่งสีนี้ทุกครั้งเลย ฮ่าๆๆ”
ปากไม่ตรงกับใจจริงๆแหละนะเจ้าเด็กนั่น
“
งั้นหรอครับ คงจะเป็นภาพที่น่าเอ็นดูน่าดูเลยนะครับ
เด็กแฝดหน้าตาน่ารักสองคนเดินกินสายไหมสีชมพูไปด้วยกันแบบนี้” เขาทำหน้าเหมือนอยู่ในภวังค์แต่ที่จริงแล้วนัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นกำลังลอบสังเกตพฤติกรรมบนใบหน้าของชายแก่อย่างไม่ให้คลาดสายตา
“
อ่า...ครับ...น่าเอ็นดู...มากทีเดียว”
อีกแล้ว...ช่วงจังหวะที่ถูกเว้นไประยะหนึ่งถึงจะเป็นแค่ช่วงเวลาไม่กี่วินาทีแต่จิตแพทย์อย่างเขาหรือจะดูไม่ออก
ว่าชายแก่ตรงหน้ากำลังนึกภาพตามที่เขาบอกซึ่งที่จริงแล้วมันไม่จำเป็นต้องใช้เวลานึก....ถ้าหากเคยเห็นมันจนชินตาจริงๆ
“
ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับ เพราะให้ไม้มาสองอันแบบนี้ทุกที
ผมเลยพลอยได้กินสายไหมที่คุณหนูเธอแบ่งให้ด้วยเลย อร่อยมากครับ”
“
ฮ่าๆๆ ดีใจที่ชอบนะครับคุณหมอ
เรื่องไม้ก็ไม่ต้องใส่ใจหรอกครับเพราะถ้าเป็นสายไหมอันใหญ่แบบนี้ก็จะต้องใส่ไม้ให้สองอันเป็นปกติอยู่แล้ว
ไม่งั้นมันไม่อยู่ครับ”
เขาเดินออกจากร้านมาอย่างพยายามเก็บอาการอึ้ง...เพราะที่เขาเข้าใจไปเองว่าทางร้านให้ไม้มาสองอันตามความเคยชินเพราะรู้ว่าเขาจะเอามาให้เด็กแฝด...เขาเข้าใจผิดไปเอง
ทางร้านให้ไม้สองอันเป็นปกติอยู่แล้ว...กับใครก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นเด็กแฝดของบ้านโกคุเดระ....
และจากการที่เขาแวะเข้าไปคุยกับชาวบ้านที่กำลังทำไร่
ทำนา ทำสวน อยู่ตามข้างทาง
จากที่แค่สงสัยว่าแฝดคนน้องถูกฆ่าตายหรือเปล่ากลับมีความจริงที่ชวนสงสัยมากกว่าเดิมผุดขึ้นมา
เพราะไม่ว่าจะคุณลุงที่กำลังทำไร่มันสำปะหลัง
คู่สามีภรรยาที่กำลังทำนา คุณป้าในสวนส้ม....ทุกคนต่างระบุรูปพรรณสัณฐานของแฝดคนน้องไม่เหมือนกันสักราย
บางคนบอกว่าผมสั้น บางคนบอกว่าผมยาว บางคนบอกว่าเธอเป็นเด็กเงียบๆเรียบร้อย
แต่บางคนกลับบอกว่าเธอเป็นเด็กร่าเริงสดใส....
มันยังไงกันแน่?
แต่ที่เหมือนกันทุกคนคืออาการตอนที่พูดถึงแฝดคนน้อง...พวกเขาไม่ได้คิดจะปิดบัง
ไม่ใช่ว่าไม่ยอมบอก...แต่บอกไม่ได้เพราะไม่คุ้นเคยมากกว่า
แผ่นหลังรู้สึกเย็นวาบขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้เมื่อความสงสัยที่ได้จากความเป็นจริงข้อนี้มันชัดเจนขึ้นมาในหัว
แฝดคนน้อง....มีตัวตนอยู่จริงๆหรือเปล่า......?
เพราะจนป่านนี้
ยังไม่มีใครเอ่ยชื่อของเด็กคนนั้นให้เขาได้ยินเลยสักคน.....
เสียงกรอบแกรบดังอยู่ใต้ฝ่าเท้าเมื่อเขาเหยียบย่ำลงไปบนใบไม้แห้งที่กองทับถมอยู่เต็มลานหินกว้างๆ
ทางเดียวที่เขาจะพิสูจน์ได้ว่าแผดคนน้องมีตัวตนอยู่จริงๆหรือเปล่าก็คือต้องมาเจอกับเจ้าตัวเท่านั้น
ใช่...
เขากำลังก้าวเดินเข้าไปในสุสานประจำตระกูลโกคุเดระ...
นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นสอดสายตามองหาป้ายหินหน้าหลุมศพที่ระบุวันชาตะหรือวันเกิดเอาไว้ว่าเป็นวันที่
9 เดือน 9 เพราะหากโกคุเดระ ฮายาโตะ
เกิดวันนั้นฝาแฝดของเด็กนั่นก็จะต้องเกิดวันเดียวกัน
แต่ไม่ว่าจะเดินหายังไงก็ไม่มี....
ไม่มีป้ายแผ่นไหนเลยที่มีวันชาตะคือวันที่
9 เดือน 9....
สองขาหยุดยืนนิ่งอยู่กลางสุสานด้วยความรู้สึกเคว้งคว้างราวกับเรือไร้เข็มทิศที่ลอยอยู่กลางทะเล
นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?
เด็กคนนั้น...
โกคุเดระ
ฮายาโตะ ไม่ได้มีฝาแฝด...แต่ภาพทั้งหมดมันเป็นแค่ภาพหลอน....
ภาพหลอน...ที่เกิดจากยากล่อมประสาท....
ขนทั่วทั้งร่างลุกชันขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
จู่ๆก็รู้สึกถึงความน่าสะพรึงกลัวของสิ่งที่อยู่รอบตัวขึ้นมา....
ไม่ใช่แค่เรื่องฝาแฝดที่ไม่มีตัวตนของโกคุเดระ
ฮายาโตะเท่านั้น
แต่ที่เขาขนลุกคือความน่ากลัวของหมู่บ้านโคโตฮิระต่างหาก...
ทั้งๆที่ทุกคนคงจะรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
คงจะรู้ว่าเด็กแฝดคนนั้นไม่มีอยู่จริงบนโลก แต่คนทั้งหมู่บ้านกลับช่วยกันเล่นละครราวกับว่าเคยมีเด็กผู้หญิงหน้าตาละม้ายคล้ายโกคุเดระ
ฮายาโตะวิ่งเล่นอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้จริงๆ
มันน่าขนลุกไม่ใช่หรือไง...
เพราะไม่ใช่แค่คนในบ้านเท่านั้นที่ช่วยกันโกหกปกปิดเรื่องนี้เอาไว้...แต่นี่มันคนทั้งหมู่บ้าน....
แล้วคนที่ออกคำสั่งคงจะไม่ใช่ใคร....เพราะหากเป็นนายใหญ่....เมื่อท่านตายจากไปแล้ว
คำสาปที่ปกคลุมหมู่บ้านนี้อยู่มันจะต้องสลายหายไป...แต่นี่มันกลับยังอยู่...
ใบหน้าของเขาถึงกับนิ่งค้างไปกับความจริงที่เพิ่งจะรับรู้....ว่าเขาอาศัยอยู่กับคนที่ทำเรื่องทุกอย่างนี้ภายใต้หลังคาเดียวกันมาตลอด
เพิ่งจะรับรู้ว่าเด็กหนุ่มคนนั้นน่าสะพรึงกลัวขนาดไหน....
เพิ่งจะรู้.....
ว่าทุกลมหายใจในทุกตารางนิ้วของหมู่บ้านโคโตฮิระแห่งนี้...เป็นของ
ยามาโมโตะ ทาเคชิ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To
be Con.
ลงสามตอนรวด
ขอยกช่วงเวิ่นไปไว้ตอนท้ายสุดเบยนะค้า >v<
[ขอออกตัว(?)ก่อนนะคะว่าจริงๆเค้าอ่านสามพาร์ทรวดค่ะ เพราะเค้าไม่มีสติ(?)และเวลาพอที่จะคอมเม้นท์ให้เป็นภาษาคน(?)ก่อนจะอ่านพาร์ทต่อๆไปค่ะ 55555 มันลุ้นจนกลัวน้ำลายจะฟูมปาก(?)ก่อนพิมพ์เม้นท์เสร็จนะคะ จริงๆเค้าคิดจะคอมเม้นท์รวบให้ทีเดียวที่พาร์ทจบ แต่ถ้าเป็นไปได้เค้าก็อยากจะเม้นท์ให้ทุกๆพาร์ทค่ะ แม้ว่ามันจะไม่ได้มีสาระ(?)อะไรเลยก็ยังจะอยาก(?)นะคะ ที่เค้าพิมพ์ก็เป็นความรู้สึกที่ได้ตอนที่อ่านพาร์ทนั้นๆค่ะ :) ]
ตอบลบกวางซามะขึ้นต้นพาร์ทนี้ทำร้าย(?)เค้ามากจริงจัง
กิโนะน่ะแก้มร้อนผ่าวเพราะได้เห็น(?) แต่ทางนี้ได้แค่เสียง(?)นะคะ! #จะจริงจังกับจุดนี้ไปไหน!!! 5555 แต่ถึงจะแบบนั้นแค่ฉากเสียง(?)คนบ้าทางนี้ก็นอนจมกองเลือดตายอย่างผาสุขจริงจังค่ะ 55555
ประเด็นจริงๆคือเค้าอยากบอกว่ากิโนะน่ารักมากกกกก > __ < พอคิดไปถึงว่ากิโนะหน้าแดงเพราะเวลามองหน้าหนูก๊กแล้วดันพาให้คิดไปถึงสิ่งที่ไปเห็นมาแล้วแบบบ อ๊ากกกกกกกกกกกก ฉันอยากเป็นหมา(?)ล่ากิโนะ(?) #โดนยิงไส้แตก(?)5555
แล้วก็ กิโนะก็ยังเป็นกิโนะที่น่ารักมากๆๆเวลาที่ชอบทำอะไรไม่ตรงกับใจถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคนในหัวใจ คือทั้งความคิดทั้งคำพูดก็เข้มแข็งเด็ดขาดอยู่หรอก ปากบอกว่าคุณโคเป็นคนอื่นไปแล้ว แต่พอเอาเข้าจริงๆถึงจะโดนทำร้ายมาขนาดไหนใจก็ยังจะโหยหาแค่คนๆนี้อยู่ดี อ๊ากกกกกกกก คุณโค๊~~~~~~ จะน่าอิจฉาเกินไปแล้วววว > [ ] <
พาร์ทนี้เค้าอ่านแล้วเค้าตื่นเต้นช่วงที่คุณโคมาพร้อมกับเบาะแสมากๆเลยล่ะค่ะ ยากล่อมประสาท!!! แล้วยิ่งอ่านต่อไปถึงช่วงที่คนในหมู่บ้านตอบเรื่องฝาแฝดคนน้องไม่ได้เลยก็ยิ่งตาตื่น(?)จิกหัวเข่า(?) #หล่อนอ่านฟิคหรือลุ้นสลากกินแบ่ง(?) 555555
แล้วเค้าก็ขนลุกจริงจังค่ะ เรื่องแฝดคนน้อง T _ T …….ที่สุสาน….ไม่มีหลุมศพแฝดคนน้อง……O ___ O ……….แล้วพอคิดย้อนไปถึงยากล่อมประสาทที่คุณโคเจอ เค้าก็ยิ่งขนลุกหนักเลย อ๊ากกกกกกก นี่มันหมู่บ้านอะไรรรรรก๊านนนน (บอกตรงๆว่าตรงนี้ยีหัว(?)ตัวเองแล้วนะคะ 55555) หากว่ายากล่อมประสาทนั่นทำให้เกิดแฝดคนน้องขึ้นมาในความคิดของคนที่ถูกใช้ยานั้น แล้วอะไรถึงทำให้ทุกคนในหมู่บ้านยอมพูดยอมทำสิ่งที่เป็นแค่ความหลอนในสติของคนเพียงคนเดียวให้เป็นความจริงได้ขนาดนี้!!!!!!!!!! อะไรที่จะมีอำนาจขาดนั้น และคนที่มีอำนานขนาดนั้นในตอนนี้ ในตอนนี้นายใหญ่เสียชีวิตไปแล้ว……..มันก็มีแค่…………………...แล้ว……ทั้งหมดนี่ทำเพื่ออะไร………….. #ลงไปนอนรอนักสืบโคโกโร่(?) #จะเรียกลุง(?)นั่นมาทำซากอะไรของหล่อน555555
ประโยคจบพาร์ทนี้เป็นอะไรที่เค้าลงไปนอน(?)ด้วยความดาร์กหล่อ(?)ของยามะมากค่ะ #หล่อนจะมาแหกโค้งลงคลองอะไรตอนท้าย 5555555 แต่คือมันจริงจังง่ะ ทั้งหมดมันก็โยงได้ตามที่กิโนะคิดจริงๆ แต่ถ้ามันไม่ใช่ที่กิโนะคิดอีกล่ะ
อ๊ากกกกกกกกกกกกก #โหยหวน(?)วิ่งไปสับสน(?)ที่พาร์ทต่อไป(?)
ขะ ขอเม้นท์เป็นตอนๆเลยนะคะ =w= แบบ กลัวเม้นท์รวดเดียวแล้วมันไม่ได้อารมณ์อ้ะ // บ้า!
ตอบลบคือเปิดมานี่แอบกรี๊ด คิดอยู่ว่ากิโนะซังจะมองหน้าหนูก๊กยังไง ฮาาาาาาาาา แต่แบบอ่านตอนนี้ไปแล้วเก๊าขนลุกหนักกว่าเก่าอีกอ่ะ...คือหนึ่ง เก๊าว่าอาการหนูก๊กมันแย่ลง แล้วทุกอย่างมันดูเหมือนเดินมาถึงจุดพีคของหนังแนวไซโคอะไรแนวเนี้ย สุดยอดอ่ะค่ะ มันให้ความรู้สึกแบบนั้นเลย ตอนนี้นี่ว่ากันด้วยความรู้สึกของตัวละครที่ส่งผ่านมาถึงคนอ่านล้วนๆ เก๊าอ่านไป เก๊าแทบได้ยินเสียงแบบ...เสียงระฆัง หรืออะไรสักอย่างที่มันดังออกมาท่ามกลางความเงียบ ดังเป็นจังหวะๆอ่ะ ยิ่งตอนที่กิโนะซังเดินไปตามสุสานนะ อย่างนั้นเลย แล้วพอไม่เห็นหลุมศพเท่านั้นแหล่ะ หือออออออออออออออออออออ นี่ขนาดแอบคิดเอาไว้แล้วว่ามันอาจจะออกมาเป็นแบบนี้ เก๊ายังรู้สึกขนลุกสุดๆเลยค่ะ
อันที่จริงมันบิ้วด์เรื่อยๆมาตั้งแต่กิโนะซังไล่ถามพวกพ่อค้า แม่ค้า หรือชาวบ้านในหมู่บ้านแล้ว แบบมันสั่งสมอารมณ์เรื่อยๆ แล้วพออ่านเป็นลำดับความคิดของกิโนะซังเท่านั้นแหล่ะ โฮววววววววววววววว โคตรพีค! ได้อารมณ์มาก มันคลายเรื่อยๆ แล้วสุดท้ายพอรู้ความจริง แล้วพี่กวางทิ้งประโยคๆหนึ่งไว้กับการแก้ปมสุดท้าย บรรยายไม่ถูก ถ้าเป็นในการ์ตูน คงเป็นเค้านั่งอยู่หน้าจอแล้วเขียนตัวโตๆว่า 'ซีด' อ่ะ ขนาดนั้น
ประโยคเนี้ย จริงๆ จริงๆเลย
เพิ่งจะรู้.....
ว่าทุกลมหายใจในทุกตารางนิ้วของหมู่บ้านโคโตฮิระแห่งนี้...เป็นของ ยามาโมโตะ ทาเคชิ
TT[]TT b