Attack on Titan feat.KHR Au.Fic [Levi xEren , 8059] GLIDE : 07


Attack on Titan feat.KHR Au.Fic [Levi xEren , 8059]  GLIDE : 07

: Attack on Titan feat KHR Fanfiction Au
: Levi x Eren , 8059
: Romantic Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
           
         



นัยน์ตาสีขี้เถ้าเฝ้ามองใบหน้าซึ่งยังหลับพริ้ม

แสงสลัวๆจากภายนอกที่ลอดผ่านบานหน้าต่างกระจกเข้ามาทำให้เสี้ยวหน้าที่ซีดเซียวยิ่งดูขาวราวกับกระดาษ...เส้นผมสีน้ำตาลที่ปรกอยู่บนหน้าผากถูกเกลี่ยออกไปด้วยมือของคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงมาตลอด ผ้าพันแผลที่พันเอาไว้รอบศีรษะทำให้ใจของคนที่ได้แต่มองเจ็บแปลบอย่างที่ยาขนานไหนๆก็คงไม่มีทางรักษาหาย

ถึงหมอจะยืนยันว่าคนที่สลบไสลไม่ได้สติอยู่บนเตียง จะไม่ได้บาดเจ็บสาหัสและน่าจะฟื้นขึ้นมาในวันพรุ่งนี้ แต่คนที่เป็นสาเหตุของเรื่องทั้งหมดอย่างเขาก็ไม่อาจจะเบาใจได้

พรุ่งนี้อาจจะตื่นขึ้นมา...แล้วถ้ามันยังมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกล่ะ?

ใครจะรับประกันว่าเอเลนจะลืมตาขึ้นมามองเขาได้ทุกครั้ง....


สองมือเอื้อมไปกอบกุมมือบางที่วางอยู่ข้างลำตัว...ก่อนที่หัวจะก้มลงไปจรดหน้าผากเอาไว้กับมือที่เคยสัมผัสรอยแผลเป็นบนแผ่นหลังของเขาข้างนั้น



เขาไม่ใช่คนที่จะสนใจ ว่าใครจะเดือดร้อนยังไงกับการกระทำของตัวเอง...แต่หากเป็นคนที่ปักใจว่าจะรัก

จากผู้ชายที่เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกมืด ก็กลับกลายเป็นแค่ผู้ชายที่อ่อนแอคนหนึ่ง




กับคนที่ปักใจว่าจะรัก

เขาทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นอีกฝ่ายร้องไห้

ทนไม่ได้...ที่จะต้องเห็นอีกฝ่ายบาดเจ็บ...เพราะอดีตที่ดำมืดของตัวเอง





โลกของเรามันต่างกันมากเกินไป...


นักขับฟอร์มูล่าวันคันใหญ่ที่อยู่ใกล้กับความตาย กับรถบังคับวิทยุคันเล็กของเด็กชายที่เต็มไปด้วยความฝัน




หากไม่รัก....คงจะไม่รู้...ว่าเราอยู่ด้วยกันไม่ได้....












นัยน์ตาสีมรกตค่อยเปิดขึ้นมาช้าๆ แสงสว่างจ้าที่ผ่านบานหน้าต่างกระจกเข้ามาทำเอาตาพร่ามัว

ที่หัวรู้สึกปวดตุบๆและหนักจนไม่อยากจะขยับไปไหน ร่างกายจึงนอนอยู่นิ่งๆตามเดิม

นัยน์ตาที่เริ่มจะชัดเจนขึ้นมาบ้างกวาดมองไปรอบๆกาย กลิ่นยาและห้องที่ขาวสะอาดก็ทำให้เดาได้ไม่ยากว่าตอนนี้เขาคงนอนอยู่ที่โรงพยาบาล

สิ่งที่ฝังอยู่ในความทรงจำครั้งล่าสุดคือเสียงระเบิด แล้วจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้อีก...ทั้งๆที่ภาพที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นมันยังคงกระจ่างชัดอยู่เต็มหัว...ว่าเขาถูกพาตัวไปเจอกับนรกแบบไหน ถูกทำให้หวาดผวายังไง....ทั้งอดีตของคุณรีไว ทั้งเสียงมอเตอร์ไซค์ที่พุ่งเข้ามาหาราวกับพายุ ทั้งๆความรู้สึกที่หลงเหลืออยู่น่าจะเป็นความกลัว...แต่ทั้งหัวใจของเขากลับรับรู้ได้แต่ความอบอุ่นของอ้อมแขนที่กอดเขาเอาไว้เพียงเท่านั้น


เอเลน....

เสียงทุ้มต่ำที่เรียกชื่อของเขามันไม่ใช่ความฝัน


มองชั้น...

และความเชื่อมั่นมันจะไม่มีวันสั่นคลอน


กอดให้แน่นๆ

ถึงแม้ว่าอดีตของคุณจะเป็นยังไง ผมก็จะจับมือที่แปดเปื้อนคู่นั้นเอาไว้ไม่มีวันปล่อยอย่างแน่นอน




ที่ขอบตาจู่ๆก็รู้สึกร้อนขึ้นมา ทำให้เปลือกตาต้องพยายามกระพริบเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลลงไป...เขาไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ...จะมัวขี้แยไม่ว่าจะเรื่องดีใจหรือเสียใจแบบนี้ไม่ได้

และเพราะเสียงสูดน้ำมูกที่ดังออกไป ทำให้ใครอีกคนที่อยู่ในห้องขยับเข้ามามองอยู่ที่ข้างเตียง

นัยน์ตาสีมรกตทั้งสองคู่ต่างกระพริบปริบๆก่อนจะจ้องมองกันและกันอยู่แบบนั้น....

คนป่วยก็ได้แต่อึ้งเพราะคาดไม่ถึงว่าคนที่เฝ้าไข้ตนอยู่จะเป็น โกคุเดระ ฮายาโตะ ที่มายังไงก็ไม่รู้....ส่วนคนที่ยืนอยู่ก็ไม่ค่อยจะพูดจะจาอยู่แล้วเลยได้แต่ส่งสายตาแทนคำถามว่า เจ็บตรงไหนหรือไงถึงได้ร้องไห้?

เล่นเอาร่างสูงใหญ่ในสูทสีดำที่เนียนตามมา ถึงกับต้องหันหน้าไปแอบหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นคนเฝ้ากับคนป่วยที่ยังคงสื่อสารกันผ่านสายตา

ทำไมเขาถึงได้มองเห็นเป็นกระต่ายสองตัวกำลังคุยกันอยู่ไปได้นะ?



“ เอ่อ...คือว่า....”       แล้วคนที่ช่างเจรจากว่าก็เริ่มเอ่ยปากออกมาก่อน

“ คุณรีไว...ละครับ...เค้าไม่ได้บาดเจ็บ...ใช่ไหมครับ...”      เสียงแผ่วเบาถามร่างบอบบางที่ยืนอยู่ข้างเตียงอย่างไม่ค่อยจะแน่ใจ ว่าการถามถึงคุณรีไวกับคนตรงหน้าจะดีแล้วแน่หรือเปล่า..เพราะเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทั้งสองคนเป็นอะไรกัน

ถ้าคนคนนี้เป็นตัวจริงขึ้นมา...การที่ถูกเขาไปถามหาคนรักของตัวเองจะทำให้เข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า...

เพราะยังไงซะตอนนี้...เขามันก็เป็นแค่คนที่รักผู้ชายคนนั้นข้างเดียว...

แล้วความรู้สึกที่ตัวเองมีต่อคุณรีไว...ก็ทำให้รู้สึกละอายต่อคนที่ยืนอยู่ข้างๆขึ้นมา...


ใบหน้ามนหันมองไปจนทั่วห้องแต่ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของคนที่ไปช่วยเขาเอาไว้ ในใจเริ่มกังวลว่าหรืออีกฝ่ายจะเป็นอะไรหรือเปล่า เพราะตอนที่ได้ยินเสียงระเบิดเขาจำได้ดีว่าอ้อมแขนของคนคนนั้นพยายามปกป้องเขาเอาไว้ขนาดไหน

“........”       แต่ใบหน้าสวยที่ล้อมกรอบด้วยผมสีเงินก็ส่ายหน้าช้าๆ แทนคำตอบว่าไม่ได้บาดเจ็บอะไร


แล้วถ้าอย่างงั้น...การทีคุณรีไวไม่อยู่ที่นี่....คงจะเป็นคำตอบอย่างดีสำหรับเขาแล้วก็ได้

ว่ายังไงก็คงเป็นได้แค่เด็กเหลือขอเหมือนเดิม...

การที่ยอมเรียกชื่อเขา...ก็คงแค่อยากให้เชื่อมั่นว่าอีกฝ่ายจะพากลับบ้านได้ก็เท่านั้น...เพราะเขามันอ่อนแอ ไร้ประโยชน์และทำได้แค่ดื้อดึงไปวันๆ แค่จะปกป้องตัวเอง แค่จะหนีออกมาจากพวกนั้นให้ได้...ก็ยังทำไม่ได้เลย

คุณรีไวก็แค่รู้สึกว่าต้องรับผิดชอบ...ก็เท่านั้นเอง


“ นายจะทิ้งรีไวไป...เหมือนที่คนอื่นๆทำหรือเปล่า”      แต่แล้วเสียงนิ่งๆที่เอ่ยออกมาจากคนที่ยืนอยู่ข้างเตียงก็ทำให้ใบหน้ามนหลุดออกมาจากห้วงคำนึง ก่อนจะหันไปมองใบหน้าสวยที่ก้มลงมาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“..........?”      เขาได้แต่ทำหน้างง เพราะไม่เข้าใจสิ่งที่โกคุเดระ ฮายาโตะ สื่อออกมาเลย

“ หมอนั่น...กำลังโทษตัวเอง...ว่าเป็นคนทำให้นายต้องบาดเจ็บ กำลังคิดว่าตัวเองที่มีอดีตอย่างที่นายก็เห็นแล้วว่าเลวร้ายขนาดไหน...ไม่คู่ควรที่จะอยู่ข้างๆนาย”       สิ่งที่ใบหน้าสวยพูดออกมานั้นมันมีแต่จะทำให้เขานิ่งอึ้งไป

คุณรีไวกำลังคิดแบบนั้นอยู่น่ะหรอ? 

ไม่คู่ควรกับเขาอะไรกันเล่า....เขาเองต่างหากที่ไม่คู่ควรกับคนที่แข็งแกร่งแบบนั้นเลย


“ ถ้านายจริงจังกับรีไว...ควรจะพูดกันให้รู้เรื่อง...เพราะถ้านายปล่อยมือตอนนี้...นายจะคว้ามือของหมอนั่นเอาไว้ไม่ได้อีกเลย”    

“ เท่าที่ชั้นรู้มา...นายน่าจะดื้อกว่านี้ไม่ใช่หรอ?”

เขาได้แต่เงยหน้ามองใบหน้าสวยนั่นด้วยสายตานิ่งค้าง...ทำไม โกคุเดระ ฮายาโตะ ถึงพูดเรื่องแบบนี้กับเขาได้โดยไม่รู้สึกอะไร ไม่ได้แสดงสีหน้าเจ็บปวด แถมยังดูจะเป็นห่วงแบบไม่รู้จะแสดงออกมายังไงด้วยซ้ำ....ตกลงว่าคนคนนี้ไม่ใช่คนรักของคุณรีไว?

ถึงจะอายุเท่าๆกัน ถึงขนาดร่างกายจะไม่ได้ต่างกันเลย แต่คนคนนี้กลับดูยิ่งใหญ่ในสายตาของเขาเหลือเกิน


“ ฉัน...อยากแข็งแกร่งเหมือนนายบ้าง...”      ตอนนี้...เขาดีใจที่ครั้งหนึ่งเคยได้อิจฉาคนแบบนี้

“ นายไม่จำเป็นต้องแข็งแกร่งเหมือนฉันหรอก...เพราะถ้านายแข็งแกร่ง...รีไวก็จะไม่มีเหตุผลให้ต้องปกป้องนายน่ะสิ”

“ ..........”      ใบหน้าสวยที่พูดแบบนั้นออกมาด้วยสีหน้าที่ยังไม่เปลี่ยนไปเลยมันทำให้เขาอึ้งก่อนจะเปลี่ยนเป็นอมยิ้มน้อยๆ แล้วประโยคถัดไป....มันก็ทำให้ความคลางแคลงใจสงสัยทุกๆอย่างของเขาจางหายไปทันที

“ ที่ฉันจำเป็นต้องแข็งแกร่ง...เพราะน้องชาย...ไม่อาจจะอยู่กับพี่ชายไปตลอดชีวิตได้หรอก...”

เขาได้แต่มองอีกฝ่ายด้วยนัยน์ตาเบิกกว้าง...ตกลงว่าคนตรงหน้ากับคุณรีไวเป็นแค่พี่น้องกัน?...ถ้าอย่างนั้นโกคุเดระ ฮายาโตะก็ต้องเคยอยู่ในที่แบบนั้นมาก่อนด้วยน่ะสิ...ถ้าเป็นแบบนี้เขาก็พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมคุณรีไวถึงได้ดูเป็นห่วงอีกฝ่ายมากนัก

ถ้าต้องอยู่ในที่แบบนั้นมันก็ไม่แปลกหรอก ถ้าจะไม่อยากให้ใครมาแตะต้องน้องชายของตัวเอง


“ อีกอย่าง...ฉันต้องฆ่าหมอนี่...เพราะงั้นฉันจะอ่อนแอไม่ได้”             แล้วนัยน์ตาสีมรกตเย็นชาก็ตวัดกลับไปหาร่างสูงใหญ่ในสูทสีดำที่เขาไม่รู้จักว่าเป็นใครด้วยคำพูดที่ชวนให้งง...จะฆ่าแล้วทำไมมาด้วยกันล่ะ?

“ ฮะฮะฮะ”     แล้วร่างสูงใหญ่นั่นก็แค่หัวเราะออกมาโดยไม่ได้มีทีท่าว่าจะกลัวเลยสักนิด

เขาได้แต่นอนมองทั้งสองคนอย่างรู้สึกโล่งในใจอย่างบอกไม่ถูก อย่างน้อยอะไรบางอย่างมันก็เคลียร์ออกไปได้บ้าง

เหลือก็แค่เรื่องของคุณรีไว....



ก๊อกๆๆๆ



เสียงเคาะประตูห้องรัวๆก่อนที่ร่างคุ้นตาจะพรวดพราดเข้ามา

“ เอเลน!!!”      ดูท่าว่าแม่ของเขาจะเพิ่งรู้เรื่อง ถึงได้วิ่งหน้าตาตื่นมาแบบนี้

หญิงสาวที่หน้าตาละม้ายคลายลูกชาย ลูบหน้าลูบหัวลูบตัวคนที่นอนอยู่บนเตียงด้วยท่าทางเป็นห่วงมาก...ในเมื่อคนเป็นแม่ก็มาถึงแล้ว ร่างบอบบางที่นั่งเฝ้าอยู่ทั้งเช้าจึงพยักหน้าให้คนป่วยแทนคำลา เมื่อคืนกว่าจะเย็บแผลที่หัว กว่าจะส่งตัวจากมิลานมายังโรงพยาบาลที่มาราเนลโล่ ก็ผ่านไปครึ่งค่อนคืน แล้วกว่าร่างบอบบางจะเคลียร์กับทีมเฟอร์รารี่ที่วิ่งกันให้จ้าละหวั่นเพราะจู่ๆนักขับทั้งคู่ก็หายตัวไป และกว่าจะได้กลับมาเจอรีไวที่มาราเนลโล่ก็แทบจะสว่างคาตา

สองขาเดินออกจากห้องผู้ป่วย ก่อนจะตามมาด้วยร่างสูงใหญ่ เสียงแม่ลูกคุยกันอยู่ข้างหลังทำให้ใบหน้าคมแอบหันไปมอง


“ เอเลน! นี่ลูกอายุ 15 แล้วนะ เลิกซนจนหัวร้างข้างแตกแบบนี้ซักทีเถอะ รู้ไหมว่าแม่ตกใจแค่ไหนตอนที่พ่อโทรมาบอก? แล้วนี่ไปปีนอัฒจันทร์ยังไงถึงได้ตกลงมาเนี่ย?! พ่อเองเค้าก็เป็นห่วงลูกมากนะ ยังถามอยู่เลยว่าจะให้ย้ายไปโรงพยาบาลที่โบโลญญ่าไหม พ่อเค้าจะได้หาหมอเก่งๆมาดูให้ จะได้อยู่ใกล้ๆพ่อด้วย ดีไหม?”

“ ไม่เอาหรอก...แม่ก็บ่นอยู่ได้ ไม่ได้เป็นไรมากซักหน่อย....”       เสียงพูดคุยในห้องเงียบหายไปเมื่อมือใหญ่จำต้องปิดประตูลง ถึงจะอยากแอบฟังอีกหน่อย แต่คนที่เดินลิ่วๆอย่างไม่คิดจะคอยกันก็ทำให้ต้องตัดใจ

นัยน์ตาสีเปลือกไม้นิ่งสนิทเหลือบมองไปที่ป้ายชื่อผู้ป่วยที่ติดอยู่หน้าห้อง ก่อนที่สายตาจะหยุดอยู่ที่นามสกุล เยเกอร์...

ดูเหมือนเด็กนั่นกับแม่จะอยู่ในบ้านที่มาราเนลโล่กันตามลำพัง ส่วนคนเป็นพ่อน่าจะอยู่ที่โบโลญญ่าเพราะเป็นที่ทำงาน  คงจะเป็นเพราะระยะห่างระหว่างมาราเนลโล่กับโบโลญญ่าไม่ถือว่าไกล ยังสามารถไปมาหาสู่กันได้โดยใช้เวลาไม่นาน แม่ลูกจึงไม่จำเป็นต้องย้ายตามผู้เป็นพ่อไปอยู่ที่โบโลญญ่าซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นเอมิเลีย-โรมัญญา

เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกันมันเลยทำให้เด็กคนนั้นยังคงเติบโตขึ้นมาอย่างบริสุทธิ์ผุดผ่องได้...ถึงแม้ว่าผู้เป็นพ่อจะทำเรื่องไม่ดีอะไรไว้ก็ตาม...







เสียงฝีเท้าสองคู่ดังก้องไปตามทางระหว่างห้องที่เงียบงัน เพราะแบบนั้นเสียงฮั่มเพลงเบาๆอย่างอารมณ์ดีของคนที่เดินอยู่ข้างหลังจึงทำให้ใบหน้าสวยที่ได้ยินอย่างชัดเจนงอหงิกขึ้นมาทันที นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน...อยากจะฆ่ามันให้ตายๆไปซะจะได้ส่งเข้าห้องดับจิตของที่นี่ไปเลย!

แล้วในระหว่างที่สองขาเดินผ่านรถเข็นอาหารที่จอดอยู่หน้าห้องพิเศษห้องหนึ่ง มือบางก็เอื้อมออกไปดึงส้อมก่อนจะหันพรวดไปจู่โจมเข้าที่คอหอยของคนที่เดินตามมา

ทว่า มือใหญ่กลับรับมันเอาไว้ได้ด้วยท่าทางสบายๆ แถมยังตวัดพลิกลำตัวบางให้แผ่นหลังถูกกดติดเอาไว้กับผนัง ทั้งๆที่ส้อมก็ยังจ่ออยู่ที่คอของตน

แขนผอมๆยกขึ้นมายันแผงอกแข็งแรงที่ขยับเข้ามาใกล้ก่อนจะถูกมือใหญ่จับเอาไว้ ใบหน้าคมพยายามก้มลงไปหากลีบปากสีระเรื่อ แต่แรงขัดขืนมหาศาลก็ทำให้ร่างทั้งสองร่างต่างสั่นระริก

เมื่ออีกคนก็พยายามจะเอาส้อมจิ้มคอของอีกคน...ส่วนอีกคนก็พยายามจะก้มลงมาจุมพิตที่ริมฝีปากของอีกคน...การต่อสู้ที่มีความเป็นความตาย(?)เป็นเดิมพันจึงดำเนินต่อไปด้วยความเงียบงัน จนกระทั่งเสียงฝีเท้าของพยาบาลสาวก้าวเข้ามาจากที่ไกลๆ

“ เอ่อคือ...มีอะไรกันหรือเปล่าคะ?”       น้ำเสียงกล้าๆกลัวๆทำให้มือบางยอมลดส้อมลงก่อนจะส่งสายตาอาฆาตไปที่ใบหน้าคมซึ่งยังคงยิ้มรับ ใบหน้าสวยสะบัดไปอีกทางอย่างไม่สบอารมณ์ทำให้ร่างสูงใหญ่เป็นฝ่ายหันไปตอบพยาบาลสาวด้วยตัวเอง

“ ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมกับแฟนทะเลาะกันนิดหน่อย”       ไม่ว่าเปล่านิ้วโป้งยังยกขึ้นมาชี้ว่าคนตรงหน้านี่แหละคือ แฟน ที่ว่า  เล่นเอาริมฝีปากสีระเรื่อถึงกับอ้าค้างก่อนที่แก้มใสจะกลายเป็นสีชมพู

“ ใครเป็นแฟนแกไอ้บ้า! ชั้นคือคนที่จะฆ่าแกต่างหาก!!”      ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากพยาบาลสาว ทำเอาคนที่ยังหน้าแดงถึงกับทนอยู่ต่อไปไม่ได้ ร่างบอบบางก้าวขาฉับๆกลับไปที่รถด้วยใบหน้าบูดสนิทอย่างที่ถ้าคนทั้งพิตการาจสีแดงมาเห็นเข้าคงจะตะลึงจนตาค้างแน่ๆ

เพราะนอกจากรีไว ก็ไม่มีใครรู้หรอก...ว่าเขาจะทำหน้าแบบนี้เป็นด้วย




ทันทีที่ประตูรถฝั่งคนขับปิดลง เสียงปิดประตูอีกข้างก็ดังขึ้นมาแทบจะพร้อมๆกัน และนั่นมันก็ทำให้ใบหน้าสวยเงยขึ้นไปมองไอ้คนที่มันยังคงเนียนตามมานั่งอยู่ในรถหน้าตาเฉย...ลองเอาสีข้างเสยกำแพงดูซะดีไหมนะ?...เอาให้เละไปเลยดีไหมนะ?...ถึงจะโดนเอลวินบ่นซักหน่อยเรื่องสถิติการทำรถพังที่เขายังอยู่อันดับหนึ่ง แต่ถ้าส่งไอ้บ้านี่ไปยมโลกได้มันก็น่าจะคุ้มอยู่นะ?

“ หมดประโยชน์แล้วก็ไสหัวกลับรังของแกไปสิ!”      มือบางเข้าเกียร์ก่อนจะเหยียบคันเร่งให้ Ferrari California ป้ายทะเบียน 59 พุ่งทะยานออกไปยังถนนที่ผู้คนพลุกพล่านของย่านร้านค้าในมาราเนลโล่...นอกจากวันที่ฝนตกเฟอร์รารี่สีแดงคันนี้ก็จะเปิดประทุนอยู่ตลอด...รถสปอร์ตสีเพลิงนั้นช่างเข้ากับผิวขาวๆกับเส้นผมสีเงินของคนขับจนคนที่เดินผ่านต้องหันมามอง

และถึงแม้ว่าบนใบหน้าสวยจะมีแว่นกันแดดสีชาปกปิดใบหน้าอยู่ แต่ลักษณะที่โดดเด่นขนาดนี้ก็ทำให้ใครๆในมาราเนลโล่ต่างจำได้ดี และมีไม่น้อยเลยที่ส่งยิ้มมาให้ รวมทั้งสายตาสงสัยว่าคนที่นั่งข้างๆนั้นเป็นใคร

“ ใจร้ายจัง...นายจำไม่ได้แล้วหรอว่าตอนนี้ชั้นไม่มีรถใช้ เพราะใครก็ไม่รู้เอา BMW ของชั้นไปบดขยะซะเละทั้งคันเลยน่ะ”     น้ำเสียงเซื่องซึมไม่ได้ทำให้น่าสงสารขึ้นมาเลยสักนิด แต่มันน่าหมั่นไส้จนคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยได้แต่เม้มปากอย่างพยายามอดทนที่จะไม่เอาสีข้างรถไปเสยกำแพงเข้าซะก่อน

ยังไงนั่นมันก็เป็นเงินที่ได้มาแบบไม่บริสุทธิ์อยู่แล้วนี่...เจ๊งไปซักคันสองคันก็ช่างมันเถอะ!


Ferrari California เลี้ยวเข้าไปจอดยังลานจอดรถหน้าซุปเปอร์มาเก็ตอย่างไม่สนใจแล้วว่าไอ้คนที่นั่งข้างๆนั่นมันจะนั่งไปถึงไหน

ร่างบอบบางก้าวขาลงมาจากเฟอร์รารี่สีแดง ก่อนคว้ารถเข็นแล้วลากมันไปที่ชั้นผักสดด้านใน

นัยน์ตาสีมรกตจ้องมองใบสีเขียวอ่อนของผักกาดแก้วด้วยแววระยิบระยับ แล้วมือก็โกยมันใส่รถเข็นก่อนจะหันไปหยิบสารพัดผักสลัดตามลงไปจนในที่สุดกว่าครึ่งรถก็เต็มไปด้วยผัก

แต่แล้วความเพลิดเพลินจากการเดินช็อปปิ้งก็ถูกขัดจังหวะ เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นร่างสูงใหญ่ในสูทสีดำยืนอยู่ใกล้ๆ

“ จะตามมาทำไม?!”     ใบหน้าสวยฟึดฟัดขึ้นมาทันทีที่เห็นใบหน้าบานแฉ่งที่ช่างขัดแย้งกับไอ้ของที่สะพายอยู่บนไหล่นั่น

“ เปล่าตามนะ...ชั้นก็แค่มาซื้อ....”       ร่างสูงใหญ่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งๆที่ดูยังไงก็ตามมาชัดๆ นัยน์ตาสีเปลือกไม้เสไปมองชั้นวางของและเมื่อถูกจ้องจับผิดนานๆเข้า ใบหน้าเจ้าเล่ห์จึงหันกลับมาหาร่างบอบบางก่อนจะเอา ของ ที่ว่าจะซื้อออกมาให้ดู

“......ไอ้นี่น่ะ”       มือใหญ่แบกล่องถุงยางอนามัยให้นัยน์ตาสีมรกตเห็นเต็มตา....ก่อนที่ใบหน้าสวยจะแดงเถือกขึ้นมาทันที.....ถึงเขาจะโตมาในที่แบบนั้น แต่รีไวก็คอยกันไว้ไม่ให้ใครมายุ่งด้วย เลยไม่เคยมีแฟน...ไม่เคยมีเซ็กส์

ร่างบอบบางสะบัดหน้าให้ก่อนที่จะเดินหนีไป ใบหน้าคมจึงได้แต่ยืนอมยิ้ม....คงต้องขอบคุณ คุณพ่อ สินะ ที่ช่วยรักษาความบริสุทธิ์ของโกคุเดระเอาไว้ให้เขา

ร่างสูงใหญ่ก้าวขาไวๆตามไป ใบหน้าคมชะโงกเข้าไปดูอยู่เหนือรถเข็น แล้วก็เห็นว่ามันมีแต่ผัก........เป็นกระต่ายหรือไงน่ะ?

“ ไม่ได้นะ กินแต่ผักแบบนี้จะเอาโปรตีนมาจากไหน? ตัวนายถึงได้บางเฉียบแบบนี้ไง”

“ ฉันจะกินอะไรมันหนักหัวแกตรงไหน  อ๊ะ?!”      แล้วรถเข็นก็ถูกร่างสูงใหญ่ลากกลับไปที่กระบะขายปลาหน้าตาเฉย แล้วต่อให้ร่างบอบบางจะพยายามยื้อยุดฉุดกระชากรถเข็นกลับมาแค่ไหนแต่แรงก็ดูเหมือนจะสู้อีกฝ่ายไม่ได้เลยสักนิด

แล้วแซลม่อนกับมากุโร่ก็ถูกแพ็คอย่างดีก่อนที่จะวางลงไปข้างๆกองผักในรถเข็น...ทั้งกุ้ง ไข่ และอะไรต่อมิอะไรที่ดูแปลกตาสำหรับร่างบอบบางถูกวางลงไปจนเต็มรถ ถึงไม่รู้ว่าหมอนั่นจะทำอะไรแต่ถ้าจ่ายทั้งหมดนี่ให้ก็ช่างหัวมันเถอะ


มือบางวางถุงใส่ของมากมายลงไปที่หลังรถ ก่อนจะต้องมาคิ้วกระตุกกับคนบางคนที่มันย้ายตัวเองมายึดตำแหน่งคนขับของ Ferrari California ไปในขณะที่ตนเผลอ

“ ลงไป”

“ ไม่ลง”

“ ลงไปนะ!

“ ไม่ลง”

เส้นเลือดที่ขมับถึงกับเต้นตุบๆ ใบหน้าสวยพยายามข่มใจเอาไว้ก่อนจะเดินไปยังที่นั่งข้างๆคนขับอย่างช่วยไม่ได้...ไอ้บ้านี่มันจะกวนประสาทเขาไปถึงไหน...คงต้องหาทางฆ่ามันให้ตายไวๆซะแล้ว!

“ นายก็ควรจะพักบ้างนะ เมื่อคืนยังไม่ได้นอนเลยนี่นา”      มือใหญ่ขยับเกียร์แล้ว Ferrari California ก็ค่อยๆออกตัวอย่างช้าๆให้สมกับที่เป็นรถสปอร์ตที่ควรจะขับกินลมชมวิวมากกว่าจะไปแข่งกับเครื่องบิน

แก้มใสร้อนผ่าวขึ้นมาน้อยๆ ถึงแม้ว่าปกติเขาจะเย็นชาแล้วก็ไม่รู้สึกรู้สากับเรื่องอะไร...แต่กับความใส่ใจที่คนอื่นมีให้ เขาก็รับรู้ได้

ยิ่งมาเจอคนที่พูดออกมาตรงๆว่าห่วงใย ไม่เหมือนกับรีไวที่ไม่เคยพูดเคยจา...มันยิ่งทำให้เขาทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะรับมือยังไง

ใบหน้าสวยจึงสะบัดไปข้างๆก่อนจะยกมือขึ้นมากอดอกแล้วทิ้งตัวลงไปบนเบาะสีดำ สองข้างทางที่ไม่เคยสังเกตเห็นชัดเจนขึ้นมาในสายตา มันทำให้เขาเพิ่งจะรู้ว่า เขตอุทยานของมาราเนลโล่นั้นสวยงามขนาดไหน....

ว่าแต่....ไอ้บ้านี่มันรู้ทางได้ยังไง? ถึงมันจะเคยไปบ้านเขามาแล้วก็เถอะ แต่คราวที่แล้วมันสลบอยู่ไม่ใช่หรอ?


“ ไม่ต้องห่วงนะ ถึงชั้นจะเป็นมาเฟียแต่เรื่องขับรถนี่ปลอดภัยแน่นอน”       น้ำเสียงสบายๆเอ่ยออกมาจากใบหน้าคม เส้นผมสีดำที่ละไปตามแรงลมนั้นกลับให้ความรู้สึกเหมือนยมทูตที่กำลังเคลื่อนที่ นัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่มีแววมืดมนฉายอยู่ตลอดเวลากำลังมองตรงไปข้างหน้า และระหว่างที่พวกเขาสองคนอยู่ด้วยกัน ความเงียบงันมันแทบจะไม่มีอยู่เลย

“ นี่แกหาว่าชั้นขับรถไม่ปลอดภัยรึไง?!”      ปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัยก็ทำให้รถเขาพังไปคันนึงแล้วกันน่ะ...

“ ฮะฮะฮะ”       คงจะเป็นเพราะไม่ว่าเรื่องอะไรที่เขาพูดออกไป คนข้างๆก็จะหาเรื่องด่ากลับมาแทบจะทันที...โกคุเดระที่เป็นแบบนี้กับเขาคนเดียวนี่มันเร้าใจน้อยซะที่ไหน

และกว่า Ferrari California จะเลี้ยวเข้าบ้านได้ ร่างสูงใหญ่ก็โดนด่าไปอีกหลายรอบ



ตู้เย็นของบ้านทางฝั่งขวาก็ไม่ใช่หลังเล็กๆ แต่ตอนนี้มันกลับมีผักเรียงเต็มแน่นอย่างสวยงาม คนที่นั่งคุกเข่าเอาผักเข้าตู้มองมันด้วยสายตาเป็นประกายก่อนจะหยิบบางส่วนออกมาเพื่อทำอาหารของวันนี้...โดยมีแขกไม่ได้รับเชิญยืนแร่ปลาราวกับว่านี่เป็นบ้านของตัวเองอยู่หลังเคาน์เตอร์ใกล้ๆ

ใบหน้าสวยงอหงิกขึ้นมาทันทีที่เห็นใบหน้าคม แขนเสื้อเชิ้ตถูกพับขึ้นไปถึงข้อศอกยิ่งส่งให้ร่างสูงใหญ่นั่นดูสมชายจนน่าอิจฉา ร่างบอบบางจึงเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะกระทืบเท้าลงไปบนเท้าอีกฝ่ายในข้อหาน่าหมั่นไส้ จนร่างสูงใหญ่ได้แต่กุมเท้าร้องโอยโอด

มือบางกลับมารื้อค้นถุงที่เหลืออยู่แล้วก็เพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่า...เขาลืมซื้อน้ำสลัดมา!

ฝ่าเท้าจึงเหยียบลงไปบนเท้าของคนที่เพิ่งจะหายเจ็บซ้ำอีกรอบ...เพราะไอ้บ้านี่แหละที่มันมาก่อกวนการซื้อของของเขา

“ โอ๊ย?!! ที่รัก??!”      ยังมีหน้ามาสงสัยว่าเขาเหยียบทำไม ใบหน้าสวยจึงแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะเดินดุ่มๆไปที่บ้านอีกฝั่ง


มือบางเปิดประตูเข้าไปก่อนจะพบกับความเงียบเชียบ...รีไวไม่อยู่หรอ?...แต่ Ferrari F12 Berlinetta ยังจอดอยู่เลยนี่?

ร่างบอบบางจึงเดินเข้าไปที่หน้าโซฟาก่อนจะพบว่าคนที่ได้ชื่อว่าผู้ปกครองไม่ได้ไปไหนแต่หลับสนิทอยู่ตรงนั้น ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครนอนเหยียดยาวชันขาขึ้นมาข้างหนึ่งอยู่บนโซฟาสีดำทั้งๆที่เสื้อผ้าก็ยังอยู่ในชุดเดิม...ใบหน้าสวยได้แต่มองอีกฝ่ายอย่างนิ่งงัน....นี่เหนื่อยขนาดไหนกัน ถึงได้ทำให้คนคนนี้ถึงกับมาหลับอยู่ตรงนี้ได้?

ถึงแม้ว่าสองมือจะสกปรกและแปดเปื้อน แต่รีไวจะไม่ยอมให้ที่อยู่อาศัยหรือร่างกายไร้ระเบียบ นิสัยรักสะอาดของคนตรงหน้าเป็นมาตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จนมาถึงตอนนี้มันก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง

เพราะฉะนั้นการที่มานอนหมดสภาพอยู่ตรงนี้...คงไม่ใช่เบาๆแล้วละ

เหนื่อยที่ร่างกาย...หรือว่าเหนื่อยที่หัวใจกันแน่นะ?....


“ รีไว....”       ร่างบอบบางเรียกทั้งๆที่ยังยืนมองด้วยใบหน้านิ่ง

“ รีไว”      ร่างแข็งแกร่งขยับเล็กน้อยก่อนที่เปลือกตาข้างหนึ่งจะพยายามเปิดขึ้นมา

“ อือ...ฮายาโตะ...?”       เสียงในลำคอตอบออกมาก่อนที่เปลือกตาจะปิดลงอีกครั้ง

“ มาเอาน้ำสลัด”     

“ อือ....”      แล้วลมหายใจก็เข้าออกสม่ำเสมอตามเดิม ทำเอาใบหน้าสวยได้แต่หันไปหันมาอย่างไม่รู้จะทำยังไง ฝ่าเท้าก้าวเบาๆขึ้นไปหยิบผ้าห่มผืนบางก่อนจะพยายามคลุมร่างที่ยังหลับสนิทโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว

ถ้าจะต้องมาคิดมากขนาดนี้ อยากทำอะไรก็ทำลงไปเลยสิ...

อดีตของพวกเรา...ใช่ว่าจะเลือกได้เสียเมื่อไหร่





คนที่ผิด...คือคนที่ทำให้เราต้องไปเจอกับเรื่องแบบนั้นต่างหาก...

และเขาสัญญาว่าจะชำระหนี้แค้นนี้ให้ได้ ไม่ว่ามันจะเป็นใครหรือต่อให้รีไวจะไม่ต้องการก็ตาม




เพราะเขาไม่เหมือนรีไว...ไม่ได้เป็นผู้ใหญ่...และไม่คิดจะปล่อยให้สิ่งที่ต้องการหลุดมือไป

ต่อให้เป็นวองโกเล่หรือใครที่ใหญ่ค้ำฟ้ามาจากไหน...ถ้าเขาคิดจะฆ่า...มันจะต้องไม่รอด





ร่างบอบบางเดินกลับมาพร้อมขวดน้ำสลัด สภาพของรีไวยิ่งทำให้รู้สึกเคืองคนที่ยังฮั่มเพลงเบาๆอยู่หน้าเตาไฟฟ้า สองขาจึงเดินเข้าไปใกล้ๆอย่างตั้งใจจะกระทืบซ้ำลงไปที่ฝ่าเท้าอีกรอบ

“ อ๊ะ!”     แต่มีหรือที่ผู้พิทักษ์แห่งวองโกเล่จะยอมถูกเหยียบเป็นครั้งที่สาม ร่างสูงย้ายฝ่าเท้าในชั่วพริบตาทำให้ร่างบอบบางถลาเข้าหาร่างของอีกฝ่ายแทน

“ ปล่อยนะไอ้บ้า!”      ใบหน้าคมหัวเราะรับกับคนที่เข้ามาหาเขาเองแท้ๆ สองมือใหญ่ได้แต่ยกขึ้นอย่างยอมแพ้ อีกอย่างมันก็เต็มไปด้วยข้าวด้วยแหละ

ใบหน้าสวยฟึดฟัดเมื่ออีกฝ่ายรู้ทัน ร่างทั้งร่างเลยหันไปหั่นผักของตนต่อ นัยน์ตาสีมรกตลอบมองไอ้คนที่หยิบของในครัวใช้อย่างไม่คิดจะขออนุญาตด้วยสายตาเคืองๆ...ไอ้บ้านั่นจะทำอะไรก็ไม่รู้ละ แต่เขาไม่ยอมแบ่งผักสลัดให้มันกินแน่!

ร่างบอบบางถือถ้วยสลัดของตัวเองไปนั่งที่ปลายเคาน์เตอร์ และเมื่อน้ำสลัดถูกลาดลงไป มือบางก็ตักผักเข้าปากโดยไม่คิดจะสนใจอีกฝ่ายเลยสักนิด...เอาไว้กินเสร็จเมื่อไหร่เขาจะใช้มีดแร่ปลานั่นแหละแร่หนังหน้าบานแฉ่งของมันออกมา!

แล้วแก้มที่กำลังเคี้ยวสลัดตุ้ยๆก็ต้องชะงักลง เมื่อจู่ๆจานที่มีก้อนข้าวที่แปะด้วยปลาดิบสองก้อนถูกยื่นมาวางตรงหน้า.....นี่มัน...

“ อาหารญี่ปุ่น...เรียกว่าซูชิ...ลองกินดูสิ หรือว่านายไม่กล้า?”     และเมื่อถูกท้ามาอย่างนั้นมีหรือคนตรงหน้าจะยอม มือบางหยิบซูชิเข้าปากทั้งๆที่นัยน์ตาสีมรกตยังจ้องเขม็งอย่างจะหาเรื่องร่างสูงใหญ่อยู่ตลอดเวลา

“.........”      และเมื่อสิ่งที่อีกฝ่ายทำให้เข้าปากไป นัยน์ตาสีมรกตก็เปลี่ยนมาระยิบระยับอย่างห้ามไม่อยู่

“ เป็นไง? ใช้ได้ไหม?”      ถึงไม่ถามร่างสูงก็ดูออกว่าคนตรงหน้าชอบ เพราะถ้าไม่ถูกปากก็คงคายทิ้งให้เห็นจะๆแน่นอน แต่นี่กลับค่อยๆเคี้ยวช้าๆแล้วก็กลืนลงคอไป...เล่นเอาคนมองน้ำลายไหลตามเลยแหะ...แต่คนละความหมายกับคำว่าหิวนะ

“ กะ ก็...งั้นๆแหละ”      นัยน์ตาสีมรกตเสไปมองอย่างอื่นก่อนจะแอบเหลือบมามองซูชิที่เหลือ ร่างสูงใหญ่จึงเลี่ยงไปทำหน้าอื่นๆให้ เพราะไม่ว่าจะวางลงไปกี่จานมันก็หายเกลี้ยงทั้งๆที่ปากก็บอกว่า...งั้นๆแหละ


ถ้วยชาที่ไม่เหลือน้ำสักหยดถูกวางลงไปบนเคาน์เตอร์ ท่ามกลางรอยยิ้มราวกับดอกทานตะวันของคนที่ทำให้อีกคนกินอาหารครบห้าหมู่ได้สำเร็จ ใบหน้าสวยหันหนีอย่างไม่ยอมรับความจริง ก่อนจะย้ายตัวเองมาที่หลังเคาน์เตอร์

“ ถอยไป...ชั้นจะล้างเอง เดี๋ยวแกทำถ้วยจานของชั้นแตก”      ใบหน้าคมอมยิ้มน้อยๆ ถ้าจะพูดออกมาให้เขาชื่นใจซักหน่อยว่าอยากจะช่วย...มันจะทำให้ขาดใจตายเลยหรือไงนะ

“ ถ้างั้น ขอยืมโซฟาหน่อยนะ ง่วงสุดๆเลยละตอนนี้”     ใบหน้าสวยพยักให้ส่งๆไป....ก็แค่รอให้มันหลับเขาจะได้เชือดมันง่ายๆก็เท่านั้นแหละ

ร่างสูงใหญ่เดินไปล้มตัวลงนอนอยู่บนโซฟาสีขาว ปลายขายาวยื่นออกมาให้เห็นถุงเท้าและกางเกงสีดำ.....ไอ้บ้านั่นมันจะสูงเกินไปแล้ว!

มือบางเก็บล้างถ้วยจานอย่างนึกหงุดหงิด และเมื่อเสียงจากโซฟาเงียบหายไป ร่างบอบบางก็ค่อยๆย่องไปหาตู้เย็น ก่อนที่มือจะแง้มเปิดมันอย่างแผ่วเบา นัยน์ตาสีมรกตกวาดหาสิ่งที่ต้องการ แล้วก็เจอมันในที่สุด

มา...กุ...โร่....?

ริมฝีปากสีระเรื่อพยายามอ่านภาษาญี่ปุ่นที่แปะอยู่ที่บาร์โค้ดบนห่อปลา...ทำไมมันไม่เขียนเป็นภาษาอิตาลีนะ?!

“ อื้อ....”       เสียงขยับตัวที่ดังมาจากโซฟาทำเอามือบางรีบยัดชิ้นปลาที่เหลือนั่นเข้าตู้เย็นไม่ทั่วไม่ทัน...จะให้ไอ้บ้านั่นเห็นไม่ได้...แล้วเขาก็ไม่ได้ชอบปลานั่นซักหน่อย...ไม่ได้ชอบเลยซักนิดจริงๆนะ


จานใบสุดท้ายถูกคว่ำลงไปบนซิงค์ก่อนที่สองมือจะถูกเช็ดด้วยผ้าสีแดง ร่างบอบบางเดินอย่างเงียบเชียบไปที่โซฟา แล้วใบหน้าผ่อนคลายของคนที่หลับเป็นตายก็ทำให้เผลอยืนมอง...ทั้งๆที่รู้ว่าเขาจ้องจะเอาชีวิต แล้วทำไมยังกล้าหลับโดยไร้การป้องกันแบบนั้นอีก?

จะว่าไป...เมื่อคืนหมอนี่เองก็แทบไม่ได้นอนเหมือนกันนี่?

แล้วที่มาช่วยเขาแบบนี้...ต้องการอะไรกันแน่?

เขาไม่คิดหรอกว่ามาเฟียจะทำอะไรลงไปโดยไม่หวังผล...ไม่เช่นนั้นวองโกเล่คงไม่ยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้

ไม่คิดด้วยว่าพวกนั้นต้องการจะไถ่โทษ


เสียงฟี้ๆ ดังออกมาจากริมฝีปากที่อ้าออกน้อยๆ ทั้งๆที่ตั้งใจจะไปหยิบมีดหั่นผักแต่ทำไมของที่ถือกลับมาดันเป็นผ้าห่มซะแบบนั้น?

มือบางกางมันออกก่อนจะคลุมลงไปแบบลวกๆ อย่างต้องการจะบอกให้รู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้หรอกนะ ก็แค่กลัวว่ามันจะอ้างว่าหนาวแล้วขึ้นไปนอนกับเขาอย่างเมื่อครั้งแรกนั่นอีก!







แสงจันทร์ที่ลอดผ่านกระจกบานใหญ่ทำให้ภายในบ้านไม่ได้มืดสนิท...และแสงสลัวๆนั้นมันก็ทำให้มองเห็นว่าร่างสูงใหญ่กำลังยืนนิ่งอยู่ข้างเตียง

นัยน์ตาสีเปลือกไม้ทอดมองใบหน้ายามหลับใหลของคนที่อยู่บนนั้นด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก

เขาทำงานเพื่อวองโกเล่มามากมาย...แน่นอนว่ามันไม่ใช่งานของนักบุญ


หากเลือกได้...เขาก็อยากจะให้คนตรงหน้าหันมาหาวองโกเล่

หากเลือกได้...เขาก็ไม่อยากจะทำงานนี้เลย


ถ้าถึงเวลา...เขาจะทิ้งมันไปแบบทุกๆครั้งได้ไหมนะ....ความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นในใจของตัวเองในตอนนี้

เพราะมีคนเคยกล่าวเอาไว้...


ว่าเพชฌฆาตจะต้องไม่มีหัวใจ....















ล้อสีดำบดเบียดไปกับพื้นถนนด้วยความเร็วที่รถปกติไม่มีทางทำได้ มือหมุนพวงมาลัยให้ F138 LEVI เลี้ยวไปตามโค้งหักศอก สันกรามที่อยู่ภายใต้หมวกกันน็อคสีแดงกันฟันแน่นเพราะแรงที่ปะทะเข้ามาตามร่างกายก็แปลผันตรงกับความเร็วที่ยิ่งเพิ่มขึ้น

“ รีไว...เร็วเกินไปแล้ว...นี่สนามซ้อมนะ เดี๋ยวได้แหกโค้งหน้าหรอก”     เสียงของวิศวกรสาวดังมาตามวิทยุสื่อสารและนั่นก็ทำให้เสียงสบถดังสวนกลับไปทันที

ความเร็วที่เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงอย่างไม่คงที่ของนักขับมือหนึ่งแห่งทีมเฟอร์รารี่นั้นทำเอาคนทั้งพิตการาจถึงกับแปลกใจ ภาพการวิ่งและอัตราต่างๆที่ฉายอยู่ในมอนิเตอร์นับสิบทำให้ทีมวิศวกรชั้นหัวกะทิต่างยืนมองกันอย่างคิดหนัก...ว่าตกลงมันเป็นที่รถหรือเป็นที่คนขับกันแน่  F138 LEVI ถึงได้แปรปรวนขนาดนี้

กระดาษขนาดใหญ่ถูกกางลงบนโต๊ะก่อนที่ทีมวิศวกรจะเริ่มถกเถียงกันว่ายังมีตรงไหนที่การปรับแต่งยังไม่ดีพอ เส้นดินสอถูกขีดๆเขียนๆลงไปด้วยภาษาที่คนปกติไม่เข้าใจ รวมทั้งภาพสเก็ตเป็นรูปโครงรถ ชิ้นส่วนอะไหล่และเครื่องกลที่อยู่ภายใน โดยปล่อยให้ทีมบอสร่างสูงใหญ่ยืนมองมอนิเตอร์ต่อไป

นัยน์ตาสีฟ้าเหลือบมอง F138 LEVI ที่ยังวิ่งอยู่ในสนามซ้อมของทีมเฟอร์รารี่สลับกับแผ่นกระดาษที่มีรูปสเก็ตของทีมวิศวกร...เขาแทบจะไม่เคยเห็นรีไวเป็นแบบนี้...หรือมันจะมีอะไรกวนใจหมอนั่นอยู่?....อย่างเช่น...เจ้าเด็กที่น่าจะอยากได้กระดาษสเก็ตแผ่นนี้...

ใบหน้าที่ล้อมกรอบด้วยเส้นผมสีทองมองไปที่มอนิเตอร์ก่อนจะเห็น F138 HAYATO วิ่งเข้าไปใกล้ๆ...ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงชอบมองเวลาที่สองคนนั่นขับรถอยู่ด้วยกัน

เฟอร์รารี่คันที่แปรปรวนดูเหมือนจะเริ่มสงบลง ความเร็วที่ไม่คงที่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ รถสีแดงเพลิงสองคันวิ่งไล่กันไปด้วยอัตราสม่ำเสมอ...นอกจากความบาลานซ์ทางวิศวกรรมยานยนต์แล้ว...ภาพของเฟอร์รารี่ที่ราวกับเปลวไฟซึ่งพุ่งพัวพันกันไปเรื่อยๆนั้นมันก็ดูสวยงามราวกับงานศิลปะ

ทีมบอสร่างใหญ่หลุดยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงใบหน้าของนักขับทั้งคู่...คงจะไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากริมฝีปากทั้งๆที่ยังวิ่งอยู่ข้างๆกัน  นัยน์ตาของทั้งสองคนคงจะมองตรงไปข้างหน้า ถึงแม้ว่าจะมีบางเวลาที่เหลือบมามองกันอยู่บ้างก็ตาม

มันทำให้เขาคิด...ว่าเขาตัดสินใจถูกแล้ว...ที่เอามาจากที่แบบนั้นด้วยกันทั้งคู่...เพราะว่าถ้าแยกกันอยู่ เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าจะควบคุมได้ยังไง


เสียงโวยวายที่ดังผ่านสายเข้ามาทำให้นัยน์ตาที่กำลังจ้องอยู่ที่มอนิเตอร์ละไปมอง เช่นเดียวกับคนทั้งห้องที่ต่างก็สงสัยว่าใครมาส่งเสียงอะไร

มือใหญ่จึงโยกสวิตซ์อันหนึ่งซึ่งทำให้มอนิเตอร์ตัวซ้ายสุดเปลี่ยนภาพไปเป็นอินเตอร์คอลที่อยู่ในตึกรับรองของสำนักงานใหญ่ Scuderia Ferrari....แล้วภาพของเจ้าเด็กหัวน้ำตาลที่กำลังถูกยามรวบตัวเอาไว้ก็ทำให้คนทั้งห้องต่างหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ รู้สึกว่าพอได้เห็นหน้าของเด็กนั่นทีไรก็อยากจะยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ ในห้องที่กำลังตึงเครียดจึงผ่อนคลายลงทันที

ทีมบอสร่างสูงใหญ่ถึงกับส่ายหน้าให้กับความดื้อรั้นของเด็กนั่น...ตกอยู่ในอันตรายจนหัวแตกเลือดอาบก็ยังไม่มีกลัวเลยหรือไงนะ?...แต่จะว่าไปก็มาได้จังหวะพอดีเลย

“ ขอผมพบกับคุณรีไวหน่อยครับ! ผมมีเรื่องต้องคุยกับเค้า!!”      เจ้าเด็กร่างโปร่งบางตะโกนผ่านอินเตอร์คอลมาและมันก็ทำให้ใบหน้าของคนทั้งห้องถึงกับนิ่งค้างอย่างแปลกใจ...ปกติจะต้องตะโกนปาวๆว่าขอข้อมูลหน่อยๆแล้วก็จะต้องพยายามหนีรีไวแทบตายเลยไม่ใช่หรือไง...แล้วทำไมวันนี้ถึงได้...

มือใหญ่ของทีมบอสจึงเปิดวิทยุสื่อสารไปยัง F138 LEVI ก่อนจะพูดออกไป

“ รีไว...เด็กนั่นมาหานายแน่ะ เอาไงดี?”

“ บอกไปว่าชั้นไม่อยู่”      เสียงตอบกลับมาสั้นๆยิ่งทำเอาคนทั้งห้องอ้าปากค้างกว่าเดิม...ปกติจะต้องหยุดรถทันทีแล้วลงมาลากเด็กนั่นไปขังเอาไว้ไม่ใช่หรือไง แล้วทำไมคราวนี้รีไวถึงจงใจหลบ?

มือใหญ่ปิดวิทยุสื่อสารก่อนจะมองดูที่มอนิเตอร์อีกสักพัก...ความเร็วของ F138 LEVI ที่อุตส่าห์รักษาระดับได้กลับแปรปรวนขึ้นอีกครั้งอย่างเห็นได้ชัด

เป็นอันว่าวิศวกรทั้งห้องต่างวางกระดาษและปากกาลง เพราะสาเหตุคงไม่ใช่ที่เครื่องยนต์แล้วละ...แล้วทุกสายตาก็หันไปมองเจ้าตัวดีที่ยังตะโกนโวยวายอยู่ในอินเตอร์คอลทั้งๆที่บนหัวก็ยังมีผ้าพันแผลพันอยู่เป็นตาเดียว

“ ฮัลโหล....เอเลน...สินะ?”       ทีมบอสร่างสูงใหญ่ตัดสินใจพูดออกไป...เพราะยังไงนอกจากจะเป็นบอสของทีมเฟอร์รารี่แล้ว เขาก็ยังเป็นเหมือนผู้จัดการด้านปัญหาชีวิตของนักขับสองคนนั่นด้วย...ในเมื่อเป็นคนไปพาออกมาก็เลยต้องรับผิดชอบดูแลในหลายๆเรื่อง

“ ครับ...ขอพบกับคุณรีไวหน่อยได้ไหมครับ? ขอร้องละครับ”      รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนริมฝีปากของร่างสูงใหญ่...ยังดีที่เด็กนี่ดื้อพอที่จะยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองเชื่อต่อไป เรื่องที่มันควรจะจบแบบแบดเอน มันเลยถูกยื้อเอาไว้และอาจจะกลายเป็นแฮปปี้เอนก็ได้

“ อ่า...หมอนั่นให้ชั้นมาบอกเธอว่า...ไม่อยู่...แต่อีกซักพักก็น่าจะกลับแล้วละ ถ้าเธอไม่รีบก็ไปรอที่รถสิ...Ferrari F12 Berlinetta น่าจะจอดอยู่ที่ลานจอดรถ”

“ ครับ!!”      เสียงที่ตอบรับกลับมามันฟังแล้วเหมือนลูกหมาที่หาเจ้าของเจอยังไงก็ไม่รู้ ภาพจากปลายสายหายไปพร้อมๆกับเสียงโวยวายที่เงียบลง...คงต้องฝากความหวังไว้ที่เด็กนั่นแล้วสินะ





เป็นเพราะตั้งใจจะตรงดิ่งกลับบ้าน ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครจึงเดินออกมาจากอาคารด้านหลังโดยที่ยังอยู่ในเสื้อวอร์มสีแดงของทีมเฟอร์รารี่ ที่แผงอกมีคำว่า LEVI ปักอยู่เพื่อให้รู้ว่ามันเป็นของใครแถมยังเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้โฆษณาอีกด้วย

แต่แล้วขายังไม่ทันจะได้ก้าวไปถึงรถ เสียงเรียกที่คุ้นเคยก็ทำให้ร่างทั้งร่างถึงกับนิ่งงัน

“ คุณรีไว!!”      เสียงปนหอบน้อยๆนั่นทำให้รู้ว่าคงจะวิ่งตามเขามา แต่เขาก็ไม่คิดที่จะหันหน้ากลับไปมอง


เพราะยังกลัว...หัวใจของตัวเอง...


“ ขอผมคุยด้วยหน่อยได้ไหมครับ...”      ร่างแข็งแกร่งยังคงยืนหันหลังให้โดยไม่พูดอะไร...ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเด็กนั่นจะตัดสินใจยังไง...บางทีเขาอาจจะไม่ต้องหนี บางทีเด็กนั่นอาจจะเป็นคนปล่อยมือไปจากเขาเอง....เพราะคงไม่มีใครทนคบกับคนที่มีอดีตเลวร้ายอย่างเขาได้ ซ้ำยังไม่รู้ด้วยว่าในอนาคตจะต้องเจอกับเรื่องอันตรายถึงชีวิตแบบนั้นอีกหรือเปล่า

เป็นใครก็คงจะเข็ดขยาดหวาดกลัว....



“ ผมรักคุณ!!


แต่แล้วทุกตรรกะในโลกล้วนถูกเด็กนั่นทลายลงไปไม่เหลือชิ้นดี คำบอกรักที่จู่ๆก็พูดออกมามันทำเอาร่างทั้งร่างถึงกับชาวาบก่อนที่ฉาบไปด้วยความอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก หัวใจที่กลายเป็นน้ำแข็งกลับเต้นแรงจนรู้สึกได้ถึงชีพจรที่ไม่ปกติ นัยน์ตาสีขี้เถ้าได้แต่เบิกกว้างอย่างที่อีกคนคงไม่มีทางได้เห็น

นี่คงจะเป็นการสารภาพรักที่ไร้ความโรแมนติกที่สุดในโลกแล้วละ


ทว่า...


มันกลับทำให้นัยน์ตาดุดันถึงกับสั่นพร่า....

ทั้งที่ดีใจแต่ใต้แผ่นอกซ้ายกลับปวดหนึบ...ภาพของเด็กนั่นในสภาพโชกเลือดยังคงทิ่มแทงใจจนสองมือจำต้องกำแน่น...



“ ชั้นไม่ได้รักนาย...ทุกอย่างที่ทำลงไปมันเป็นเพียงแค่ความรับผิดชอบ”

แล้วคำโกหกก็จำต้องพูดออกไปให้ชัดเจน ยังดีที่เขาหันหลังให้ เด็กนั่นจึงไม่รู้ว่าเขากำลังทำหน้าแบบไหนอยู่


“ เด็กเหลือขอที่ยังไม่ทิ้งของเล่นอย่างนาย...แน่ใจแล้วหรอว่ามันคือความรัก...มันอาจจะเป็นแค่ความหลงใหลในสิ่งแปลกใหม่ก็ได้...ไปคิดดูให้ดีๆแล้วก็เลิกยุ่งกับชั้นและทีมเฟอร์รารี่ได้แล้ว...มันน่ารำคาญ”       คำพูดทำร้ายจิตใจถูกส่งออกไป ทำให้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังถึงกับนิ่งงัน

“............คุณรีไว....”        ดูเหมือนเด็กนั่นก็คงจะจุกไปกับคำพูดของเขาไม่น้อย...แต่ที่หัวใจของเขามันก็รู้สึกเจ็บจนชาไม่ได้ต่างกันนักหรอก

เจ็บ...จนไม่อยากจะก้าวเดิน

แต่เขาต้องก้าวจากไปให้ได้...จะต้องไม่หันหน้ากลับไปหาเด็กนั่นอีก....

ถ้าไม่เช่นนั้นวันข้างหน้า...เอเลนอาจจะเจ็บมากกว่านี้อีกหลายเท่า....


เขาต้องปล่อยมือ....




“ คุณรีไว.....”        น้ำเสียงเศร้าๆพยายามเอ่ยเรียกไม่ให้เขาเดินจากไป แต่แผ่นหลังที่ยังอยู่ในชุดสีแดงก็ตัดสินใจก้าวขาตรงไปที่รถ


“ ผมรู้ว่าคุณโกหก!! คุณจะบอกว่าคุณไม่รักผมก็ไม่เป็นไร เพราะว่าผมไม่เชื่อ!! ผมจะไม่ยอมปล่อยมือคุณ ได้ยินไหมคุณรีไว!!”       เสียงตะโกนลั่นที่ดังอยู่ข้างหลังทำเอามือที่กำลังจะเปิดประตูถึงกับชะงักค้าง

สันกรามได้แต่กัดฟันกรอดอย่างพยายามห้ามตัวเองไม่ให้หันกลับไป

ต้องห้ามทั้งหัวใจและสัญชาตญาณดิบที่กำลังร้อนดั่งไฟอยู่ในร่างกายนี้ด้วย

ลมหายใจถูกสูดเข้าลึกๆเพื่อสะกดอารมณ์ของซาตานที่กำลังพุ่งพล่านอยู่ข้างใน.......อยากจะกระชากตัวเด็กนั่นเข้ามากอดเอาไว้...ปลดเปลื้องเสื้อผ้าสีขาวนั่นออกไป แล้วเอาความสกปรกจากร่างกายของเขาทาทับให้ทั่ว อยากจะทำให้ปีกที่แสนบริสุทธิ์นั้นแปดเปื้อนและโบยบินไปไหนไม่ได้อีก

อยากจะทำให้เป็นของเขา....อยากจะทำให้เป็นของเขา.....



ปัง!!!



ประตูรถถูกปิดลงพร้อมกับเหงื่อที่แตกพลั่กทั่วใบหน้า ฝ่ามือแข็งแกร่งยกขึ้นมาลูบที่ขมับของตัวเองก่อนจะควานหากุญแจรถ

ไม่ได้....เขาจะต้องรีบไปจากที่นี่....จะอยู่นานกว่านี้ไม่ได้

เพราะบางที...คนที่อันตรายที่สุดสำหรับเด็กนั่น...อาจจะเป็นตัวเขาเอง


“ คุณรีไว!!!”      เสียงตะโกนยังดังไล่หลังมา ทั้งๆที่ Ferrari F12 Berlinetta วิ่งออกมาจากที่จอดแล้ว


นัยน์ตาสีขี้เถ้ามองไปที่กระจกมองหลัง ก็ยังเห็นเจ้าเด็กดื้อวิ่งตามรถมาอีก...



วิ่งตามมา.....





ก่อนที่จะเริ่มโซเซ............






แล้วก็ค่อยๆ......








ล้มลงไป….








.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

To be con.







ตัดตอนได้น่าฆ่ามากค่ะคุณกวาง = =”” อะ เอาน่า...ตอนหน้าจะเป็น NC แรกของเรื่องนี้ (แล้วนิ้วนั่นไม่ใช่รึไงครับ?! // เอเลน) เพราะงั้นขอยัยมี๊ไปรวบรวมสติและสมาธิแป๊บ กร๊ากกกก เอาเข้าไป โดนทั้งอาถรรพ์หมายเลขเจ็ดทั้งเอ็นซีเลยคราวนี้

วันนี้เพิ่งมีการแข่ง F1 ที่เกาหลีไปค่ะ ถึงแม้ว่ากองทัพม้าลำพอง(เฟอร์รารี่)จะไม่ติด 1 ใน 3 แต่ว่าวันนี้แข่งกันมันส์มว๊ากกกกกกกก คือมีความรู้สึกว่าสนามแม่งโหดกว่าที่สิงคโปรยังไงก็ไม่รู้ > <” คือโค้งหักศอกแบบน่าหวาดเสียวเยอะ แล้วสนามแม่งก็ไม่เอื้อต่อการแซงได้ง่ายๆเลยอ่ะ เลยเห็นรถเสียหลักแบบน่าสะพรึงอยู่หลายรอบเลยค่ะ ทีมเฟอร์รารี่เองก็เกี่ยวกันเองตั้งแต่เริ่มเลย ทำให้คันนึงอันดับตกไปอยู่เกือบท้ายแน่ะ โฮววววว แต่จนแล้วจนรอดก็กลับมาอยู่หนึ่งในสิบได้ ฟู่วววว รถของเรดบลูถึงกับไฟไหม้ไปคันนึงเลยอ่ะ(ส่วนอีกคันได้ที่หนึ่งไป) เรียกว่าดูนัดนี้แล้วได้ไอเดียปั่นฟิคมาอีกเพี้ยบเลยอ่ะ โฮกกกกกกก


แล้วก็...ต้องขอขอบคุณรูปแฟนอาร์ตที่วาดให้ฟิคเรื่องนี้ด้วยนะคะ คือสองสามวันที่ผ่านมานี่คุณกวางลงไปดิ้นกับพื้นด้วยความดีใจจนตอนนี้พื้นสะอาดวิ้งเลยค่ะ แอร๊ยยยยย กรีดร้องทุกครั้งที่ได้เห็นเลยอ่ะ ขอบคุณมากๆๆๆจริงๆค่ะ คือถ้าไม่ติดเรื่องเวลาอันหาได้ยากนี่คงรีบปั่นกระจุยแล้วอ่ะตอนนี้ TAT โฮววววว ดีใจ





ภาพจากน้องเจมฐิ Dark Swon กันอีกรอบ คราวนี้เอาแบบออริมาให้ดู อิอิ >////< ชอบบรรยากาศของรูปมากๆๆเลยค่ะ ให้ความรู้สึกเป็นทีมดีจัง >////<







ภาพจากมิวซังค่ะ เห็นครั้งแรกนี่สครีมไปแปดบ้านเลยอ่ะ เอเลนน่าร้ากกกกก โอยยยย อยากจะเอาหน้าไปถูไถต้นขานั่นจริงจังเบยค่ะ แฮ่กๆๆ คือแค่มิวซังวาดให้ก็ดีใจจะตายอยู่แล้ว แล้วยังมาแบบลงสีจัดเต็มอีกต่างหาก...ดีใจจนออกนอกระบบสุริยะไปแล้วค่ะ กรี๊ดดดดด







ภาพจากน้องปิ่นค่ะ เอเลนใต้ต้นเมเดนแฮร์ นี่ก็เป็นอีกฉากที่คนแต่งอยากเห็นมว๊ากกกกกก หน้าเอเลนแม่งน่าอุ้มกลับบ้านมากเค่อะ....คุณกวางมันยังไม่ทันจะกลับถึงดาวโลกก็ออกนอกระบบสุริยะกันอีกรอบ >////<






ภาพจากท่านบลัด blood_hana ถึงขั้นน้ำตาไหลพรากเลยค่ะตอนได้เห็นรูปนี้ คือแบบ...ก๊กกับเอเลนอ่ะ...ก๊กกับเอเลน!!! ฟินจนไม่ต้องหาทางกลับดาวโลกแล้วค่ะ โอยยยย น่าร้ากกกกกกกกก ลงไปดิ้นแป๊บ (แต่ตกใจมากเลยค่ะที่เห็นชื่อท่านบลัดเด้งขึ้นมาในเมล์แจ้ง ไม่คิดว่าจะอ่านฟิคเรื่องนี้ด้วย >/////< ขอบคุณนะค้า)







และภาพสุดท้ายที่เพิ่งได้มาสดๆร้อนๆ >w< จากคุณ chibi-kingyo ค่ะ เขย่าจอพร้อมกรีดร้อง อร๊ากกกกกกกก หน้าทั้งคู่โคตรได้ฟิลเลยอ่ะ >[ ]< โฮวววววว เห็นแล้วเจ็บปวดแทนคนในรูปเลย *กัดผ้าเช็ดหน้า*


ขอบคุณเจ้าของภาพทุกๆภาพมากๆๆๆๆนะคะ ดีใจมากๆๆๆเลยค่ะ ไม่รู้จะพูดออกมายังไงแบบว่าดีใจสุดๆเลยอ่ะ >////< เห็นทุกรูป ทุกคอมเม้นต์ ทุกเสียงทวงที่ส่งมาให้มันมีไฟจะปั่นต่อไปแบบสุดๆเลยค่ะ แต่ว่าที่ตอนนี้ออกมาช้า แถมเนื้อหายังไม่กระเตื้อง เพราะส่วนใหญ่ติดเรื่องเวลา งานที่ออฟฟิศไม่ถึงกับเยอะแต่มันหน่วงแบบแปลกๆเพราะช่วงนี้เป็นงานยื่นขออนุญาตแทบทั้งนั้นเลยค่ะ การติดต่อกับโยธาเขตนี่เป็นอะไรที่ไม่ถนัดอย่างแรง สภาพคุณกวางเลยเหมือนขึ้นเขียงอยู่ตลอดเวลาอ่ะช่วงนี้ *ทรุด*

ละ แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ ^ ^





10 ความคิดเห็น:

  1. ไอ้ตัวเนียนนั่นมันยังไงกันนน เนียนตามเค้าไปทุกที่เลยนะะะะะ แถมโมเมว่าก๊กเป็นแฟนตัวเองหน้าตาเฉยอีก!!! หมั่นไส้ค่าาา ดีใจที่8059มีบทมากขึ้น แงงงงงง

    หยั่งกับคู่ข้าวใหม่ปลามัน มาทำอาหารงุ้งงิ้งๆกันสองคนหน้าตาเฉย ไหนบอกจะฆ่ามันไงก๊กกกกก นี่อะไรกินของเค้าเสร็จไปแอบคุ้ยตู้เย็นหาเนื้อปลาเพิ่มอีก ทำเป็นแมวไปได้ลูกกก ฟฟฟฟฟฟฟ แถมไอ้ตอนซื้อของนั่น!!! มันยังไงห๊าเนียนนนนนนน ไอ้ถุงยางนั่นนะ ซื้อแล้วต้องใช้นะแกห้ามเอามาอ้างเฉยๆ!!! (เฮ้ย)

    แล้วไอ้หมาป่าตัวนั้นมันยังไง มองเค้าเป็นกระต่ายหย้าตาเฉย! ทำไมถึงมองอย่างเดียวล่ะ!!จับกินไปเลยเซ่!!(ตกลงพวกใคร) ก๊กกินซูชิของยามะไปดีแล้ว เพราะสลัดของก๊กเก๊าจะกินเองง นี่ขุ่นพ่อขรายังไม่รู้ใช่มั้ยว่าพาผู้ชายเข้าบ้านมาก ฮาาาาาา ฉากขอน้ำสลัดมันดูน่ารักยังไงก้ไม่รู้อะค่ะ


    สครีมข้ามไปข้ามมาแบบสติแตก และยังมีจุดที่อยากสครีมต่อแต่ไม่มีเวลา เดี๋ยวมาเม้มเพิ่มให้น้าพี่กวางง เหลือสอบอีกตัวนึงแต่โดดมาอ่านก่อนค่า แง้;w;

    ตอบลบ
  2. ยามะกับก๊ก น่ารักกิ๊บกิ๊วมาก อ่านไปอบยิ้มไป งื้อออ จอมดาร์กก็เนียนตลอดเวลา
    ส่วนก๊ก แม้จะไล่เค้าไปไหนสุดท้ายก็ไม่ได้ไล่ไปแบบจริงๆ จังๆ ซักที มีเขินตอนมันโมเมว่าเป็นแฟนอีกด้วย
    แล้วฉากเอาผ้าห่มไปห่มให้ แย้กกกก หนูซึนได้น่ารักมากลูกกกกก
    ยามะทำงานอะไรให้วองโกเล่อยู่? กำลังล่อลวงให้ก๊กเข้าวองโกเล่? ระวังหัวใจให้ดีๆ นะแก
    ดราม่าโชยมาอีกแล้วววว แว้วว แว้วววว

    ตอนแรกนึกว่า 8059 จะมาแบบสวีต (?) จัดเต็ม อ่านมาท้ายๆ มีรีเอด้วยแหะ
    มาแบบไม่เยอะเท่าแต่ทำเอาสกรีมไปแปดบ้านสิบบ้าน มันมีหลายอารมณ์มากเลย แย้กกก
    ไม่คิดว่าเจ้าหนูเยเกอร์จะสารภาพรักไปแบบตรงๆ อย่างนั้น แล้วเจ็บปวดมากกับคำพูดรีไว
    ฮรื้อออ แต่ว่าเฮียแกเริ่มควบคุมตัวเอง (?) ไม่อยู่แล้วสินะ เจอคำพูดเอเลนเข้าไปแบบนั้น

    ฉากวิ่งตามรถแล้วล้มลงไป... อ๊ากกกก กำลังคิดอยู่ว่ามันค้างสิ้นดี
    พอเลื่อนมาอ่านตรงทอล์ค ....โอเคค่ะ ที่เดาไว้ก็ไม่ผิดซะทีเดียว 555555 (แกคิดไรอยู่่วววว)

    ตอบลบ
  3. อรั้ย หนูก๊กกับตาเนียนได้มีบทบาทกับเค้ามั่งแล้ว เป็นอะไรที่รอมานานมาก // แอบลำเอียง 555

    ยามะนายมองเคะทั้งสองเป็นกระต่ายตาสีเขียว ๆ เหมือนกันทั้งคู่เลยสินะ ไม่ ๆ ต้องไม่เหมือนสิ ก็เจ้ากระต่ายตัวพี่น่ะ มันพิเศษทางใจนายเลยนะ // แต่ก็เหมือนจริง ๆ นะ กระต่ายตัวพี่ กับตัวน้องเนี่ย ชอบอะ

    ฉากในครัวนั่นมันอะไร กุ๊งกิ๊งมุ๊งมิ๊งกันอยู่นั่นล่ะ คนอ่าน ๆ ไปกัดลิ้น??ตัวเองลุ้นไปอยู่น๊า โดยเฉพาะไอฉากกระทึบเท้าแล้วพลาดไปอยู่ในอ้อมแขนมาเฟียนั่นน่ะ ...รีบล้างมือเอาเศษข้าวออกแล้วจับกระต่ายถลกหนัง?? เลยสิเนี๊ยนน

    ส่วนคู่ป๋าตาขวางกับกระต่ายตัวน้องเนี่ย มันยังไงกันห๊าาา เค้าบอกรักเสียงดังขนาดนั้น หันกลับมามองเค้าบ้างสิน่ะ ไม่ใช่มองผ่านตาหลัง?? จะมามืดจากไหนไม่รู้ล่ะ เอาเจ้าตัวเล็กนี่ไปเลี้ยงเดี๋ยวก็จะสว่างขึ้นเอง // เพ้ออะไร

    วันนี้เห็นพี่กวางเอาลิงค์ดูออนไลน์มาลงแล้วในเฟซ แต่แบบ ๆ ดูไม่ได้อ๊า เนตตุกเฉยเลย ไม่เป็นไร อ่านของพี่กวางก็ไม่ต่างกับอยู่ขอบสนาม(รัก) 555

    สู้ ๆ นะคะพี่กวาง ทั้งเรื่องฟิค เรื่องงาน เรื่องสุขภาพน๊า ^_^

    ตอบลบ
  4. มาซะที.....
    ถึงว่าล่ะมันตะหงิดๆให้เข้ามาซธหน่อย...หัลงจากกลับมาจากที่เรียน55555

    ดราม่ากันต่อ....
    แต่ดราม่ายิ่งกว่าคือการที่พี่กวางตัดจบซะแบบ........
    กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ//พ่นไฟ

    ตอนหน้าNCสินะ........คำๆเดียว...หยุดสิ้นซึ่งทุกอย่าง......และลืมสิ้นซึ่งทุกอย่าง
    รอตอนต่อป้ายยยยยยยยยยยยยยยยยย//ตะกุยกำแพง
    โฮกกกกกกกกกกก.....มีแนวว่าจะมาแนวเถื่อนๆซะด้วย...อุฮิ ชอบจุง..... แนวเถื่อนๆหื่นๆเนี่ย(เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!) มัยจะเป็นงั้นแน่เร้อะ
    แหงมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    รอตอนต่อไปครับ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    ตอบลบ
  5. พาร์ทนี้ทั้งๆที่หนูก๊กหน้าบูดหน้างอหงิกเกือบซะทั้งหมด
    แต่คนอ่านเอาแต่นั่งยิ้มเยิ้ม(?)จนเป็นบ้า ไม่ใช่ว่าชอบให้คนสวยทำหน้าบูดนา
    แต่เพราะชอบสาเหตุที่ทำให้ต้องทำหน้าแบบนั้นมากกว่า > __ <
    ถึงแม้ว่าพ่อสมเนียนมันจะยังไม่ได้นัวเนีย(?)คนสวยให้คนอ่านแดดิ้นตายแต่มันก็อิอั๊งมากๆเลยน้า
    อารมณ์เอาแต่ใจของคนสวยน่าฟัดกับไอ้คนท่าทางเนียนๆที่เอาแต่หัวเราะหน้าบานระรื่นอยู่ข้างๆตัวนั่นน่ะ!!!
    กวางซาม๊าาาาาา เก๊าคิดถึงคู่นี้จริงจัง T ___ T คิดถึงจนต้องขอพูดถึงคู่นี้ก่อนเลย
    อะไรคือการที่พ่อสมเนียนอยู่คุมภรรยา(?)ตัวติดตลอดเวลาขนาดนี้ค๊าาา
    ภรรยาไปเฝ้าคนป่วยแทนคุณพ่อ(?)ที่กำลังเฮิร์ท(?) พี่แกก็นั่งอยู่ด้วยตลอดดด!!!
    ภรรยาไปจ่ายตลาด พี่แกก็จัดแจงบำรุง(?)ภรรยาซะชุดใหญ่!!!! เข้าใจเอาของโปรดเข้าล่อ(?)ซะด้วย> <
    คนที่ตัวเองเอาแต่ประกาศไปทั่วว่าอยากฆ่าให้ตายกลับยอมให้ขับรถตัวเอง
    แถมยอมนั่งลงที่นั่งข้างคนขับอีกตะหาก!!!! บอกตรงๆว่าฟินเรื่องรถของคู่นี้ที่สลับกันใช้มากมาย
    ถึงแม้ว่าฝั่งหนูก๊กจะต้องเรียกว่าเอารถไปพัง(?) 555555 มากกว่าไปใช้ก็เถอะนะ > ___ <
    แล้วไหนจะมีชอตทำอาหารให้ภรรยาทาน เกลียดเค้าไม่ใช่เหรอลูก จะฆ่าเค้าไม่ใช่เหรอลูกก
    กระทืบเท้าเค้าไปตั้งสองที(?)นะลูก แต่ทานของเค้าตุ้ยๆเลย หนูก๊กกกกกจะน่ารักไปไหนนนนนน >__ <
    ยังไม่พอ มีเนียนขอภรรยานอนโซฟา แล้วยังได้ผ้าห่มจากคนสวยอีกแน่ะ > _ <
    โอ่ยยยย จิย้ายมาอยู่ด้วยกันเลยเถอะ คนอ่านคลั่ง 5555555
    บอกตรงๆว่าอ่านชอตนี้แล้ว คิดถึงโดจินเรื่องนึงจริงจังจนต้องไปรื้อโดจินมามโนต่อ(?)เพราะจะลงแดง(?) 55555
    มันให้อารมณ์อยากให้มันต่อแบบนี้(?)จริงจัง 555555

    http://sphotos-a.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn2/1380021_10202002751327615_758395279_n.jpg



    กลับมาที่เอเลนบ้าง อยากจิตายให้ได้กับการคุยกันด้วยสายตา(?)ของกระต่ายน้อยน่ารัก(?)ตาสีมรกตสองตัว(?)> ________ < งดงามมากไปแล้ววววฉากนี้ งดงามมากจริงจังงงง อ๊ากกกกสองคนนี้อยู่ด้วยกันแล้วพลังดาเมจทำลายล้างพินาศ(?)มากมายจริงจังนะคะกวางซามะ T ___ T

    แล้วก็ในที่สุดเอเลนก็เข้าใจสถานะระหว่างท่านท่อนขากับหนูก๊กแล้ว
    ประโยคที่บอกว่าน้องชายไม่สามารถอยู่กับพี่ชายได้ตลอดไป นี่ชัดเจนจริงจัง T _ T
    และมันก็ทำให้เอเลนยอมเป็นฝ่ายสารภาพรัก > ___ < แน่นอนว่าถ้ารอท่านท่อนขาคงอีกพันปี(?)555555
    แต่เค้าชอบบบบบบบบอ้ะ ถึงมันจะมีความดราม่าผสม แต่เค้ารู้สึกว่าเอเลนน่ารักมากกกกกเเอเลนน่ารักมากจริงจัง T ___ T ฮือออ น่าฟัดดดด
    และเฮย์โจวยอมรับซะเถอะว่าไอ้อาการที่เอาแต่บอกว่าไม่คู่ควรน่ะ มันไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง(?)555555
    เป็นซาตานน่ะยังไงมันก็อดทนได้ไม่นาน(?)นักหรอก ไปถามลูกเขย(?)ดู 555555
    คืนนี้ได้อ่านหัวใจราชันย์อีกรอบ > ___ <

    เค้าดีใจที่ได้อ่านฟิคกวางซามะทุกครั้งน้า แล้วก็ยังคงคอยเป็นกำลังใจให้เสมอเลย
    ฟิคของกวางซามะทำให้เราที่เจอเรื่องแย่ๆ เครียดๆมา หายได้ทันทีทุกครั้งที่อ่าน
    อยากตอบแทนให้บ้างจัง แต่คนบ้าทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง T _ T คนบ้ายอมรับผิด(?)
    เอาเป็นว่ากวางซามะรักษาสุขภาพเยอะๆนะคะ เค้ายังคอยติดตามอยู่เสมอ
    แล้วก็ไม่คิดจะลืมฟิคของกวางซามะน้า อย่างเรื่องสิบแปดฝนมันร้าวในใจสิ้นดี(?)เค้าก็ยังแอบไปอ่านอยู่นะ ชอบแอบไปอ่านเวลาที่อยู่ๆในหัวมันมีเพลงผุดขึ้นมาว่าวันนี้วันใจสับสน(?) #ได้ข่าวว่าชื่อเรื่องมัน 17ฝน 55555

    ปล.เค้าปลื้มปิติกับทุกๆๆรูปที่มีคนวาดให้กวางซามะมากๆเลยล่ะค่ะ รู้สึกดีใจ ประทับใจ ตื้นตันใจแทนมากๆๆๆจริงๆ ทุกรูปมันโฮกฮากกจริงจัง ฮืออออ ชอบบบบมากจริงๆๆ

    ตอบลบ
  6. กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด
    ขอกรีดร้องอย่างบ้าคลั้งสัก3วิ พี่กวางทำอากิอารมณ์ค้างงงงงง(???)
    แต่งได้หน่วงโดนใจคนรักดราม่าคู่นี้มากๆอย่างเคย
    พี่กวางขอฟลัดทีได้ไหมค๊าาาาา (โดนเตะปลิว ถถถถถถภ)
    คุณรีไวเป็นพระเอกเมพๆฝุดๆ รักมากจึงต้องยอมทิ้งห่าง อร๊ายยยยยยยย เขิลแทน ส่วนน้องเอเลนที่บอกจะไม่ปล่อยมืออ่ะ ไม่ปล่อยตอนเข้าห้องด้วยใช่ป่ะ(โดนเอเลนตบ) ส่วนพี่ก๊ก เฮียจะซึนเดไปไหนค่าาาาา น่ารักมากกกกกก ยามะคุงก็ใช่เล่นกะหล่อนเวอร์ๆ แต่ก็น่ารักนะ 5555555 ยังไงก็ตามรีบมาอัพนะจ๊ะ
    ปล.อย่าลืมสัญญาที่แข่งกันระหว่างคนวาดกะคนแต่งฟิคน๊าาาา
    ปลล.อากิจากเฟส Akimoto Akira เน้อ >w<!!!!

    ตอบลบ
  7. อ้ากกกกกกก หาทดก่ดก้า่ดาสหวเ่พก่าสิมาสเ่กิอ่าดกมสวเาะร้ิ่อำกาท
    รอพาร์ทหน้าอยู่นะค้าาา ;w; สู้ๆค่ะ !! ><><

    ตอบลบ
  8. กระต่ายทั้งสองของยามาโมโตะ >///////////< น่ารักเว่อออออออออ~
    สิงยามาโมโตะแล้วเข้าไปคลุกคลีกับกระต่ายอย่างเนียนๆ //โดนชิงุเระคินโทคิเสย
    ก๊กคุงมาเฝ้าไข้ว่าที่คุณแม่(?) น่ารักจัง ก๊กสนับสนุนเอเลนสุดๆ ฮ่าๆๆ ชอบบบบบบ ชอบที่ก๊กบอกเอเลน
    “ เท่าที่ชั้นรู้มา...นายน่าจะดื้อกว่านี้ไม่ใช่หรอ?”
    “ นายไม่จำเป็นต้องแข็งแกร่งเหมือนฉันหรอก...เพราะถ้านายแข็งแกร่ง...รีไวก็จะไม่มีเหตุผลให้ต้องปกป้องนายน่ะสิ”
    >////////////////////<~

    ยามะนี่ก็เอาแต่เกาะติดไม่ยอมรุกหนักๆ(?)สักที
    ศึกส้อมปะทะปากนั่นอีก ยาม๊าาาาาา ทำไมเอ็งไม่ออกแรงอีกนิดดดด?? เราชูป้ายไฟเชียร์สุดใจเลยนะ
    //โดนsystema C.A.I. บึ้ม

    ช็อต ลงไป ไม่ลง ของคู่นี้น่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ คนนึงก็ดื้อ คนนึงก็ด้าน(?) โอยยยยย~ น่ารักชะมัด
    เนียน เอ็งอุตส่าซื้อ"ไอ้นี่"มาทั้งที ทำไมเอ็งไม่ใช้? เสียดายของนะ ฮี่__________ฮี่

    เฮย์โจวก็พระเอกสุดๆ เท่มากค่ะ พยายามตัดใจเพื่อไม่อยากให้เอเลนเดือดร้อน
    โหยยยยยยยยยย~ คุณพ่อ(?)จะปล่อยให้หนูก๊กกำพร้าแม่ไปถึงไหนคะ?? #ผิดดดดดดด
    เอเลนดื้อต่อไป เฮย์โจวใจอ่อนแล้ววววว
    เป็นการสารภาพรักที่ . . . น่ารักแบบเอเลนๆมากค่ะ ฮ่าๆ

    และความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองกับเด็กในปกครองก็ยังคงละมุนละไมเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ ^___________^
    รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆ

    ตอบลบ
  9. ลองย้อนกลับมาดูแล้วสะพรึง!!!ลืมเม้นตอนนี้ได้ยังไง!!!!!!//ทรุดorz||||
    คราวที่มาอ่านก็เม้นแล้วนะแต่ดันเกิดแอคซิเดนท์ทำให้ไม่ได้กดเผยแพร่(ซะงั้น)

    เป็นอะไรที่แบบว่า...รีไวล์ซามะเจ้าขาาาาาาาาาาาา TOT// ไม่เป็นไรนะเจ้าคะนู๋เอเลนเค้าตายยาก(?)อยู่แล้ว
    แอบกลัวนิดๆว่าพ่อคุณจะตีห่างน้องเค้าเพราะห่วง แล้วก็ตีห่างจริงๆด้วย!!! อย่าทำให้คนเค้ารักแล้วเดินหนีอย่างนั้นเซ่!!!
    ก็นะ พระเอกก็เงี้ย - - (ยามะยกไว้ก่อน) แต่คงต้องทำตามสัญชาติญาณอยู่่แล้วสินะๆทนไม่ไหวอยู่แล้วเหอๆๆ(หัวเราะอย่างมีอัลไล) ยามะจิ นายเนียนเฟร้อๆ แต่...เมื่อไหร่จะพิชิตใจสาวเจ้าแล้วเอาขันหมากมาสู่ขอห๊ะ!!!มัวแต่อุ้บอิ้บไว้ไม่บอกไม่กล่าว คนเค้าจะเข้าใจผิดจนเผลอๆเชือดนายตายนะเหวย

    เอาแล้วล่ะสิ งานนี้....ป๋าคริชาทำอะไรกันแน่เนี่ย??แลดูมีเงื่อนงำลึกล้ำ(?) เรื่องความดื้อกับความใสซื่อของเอเลนพอให้อภัย หม่าม๊าคลาร่าเจ๋งดีจริงๆที่เลี้ยงลูกสาว(ผิด!!)ได้น่ารักน่าจับ_ด ได้ขนาดนี้ Y__Y ซาบซึ้งๆ

    โกคุจิน่ารักอ่ะ! >__< เป็นหนึ่งในกองอวยใช่มั้ยล่ะๆ//โดนตบ
    นายเข้าใจผู้ปกครองของนายดีอยู่แล้ว เพราะงั้นจงเป็นแม่สื่อ(?)ที่ดีให้สองคนนี้ซะนะ
    กระต่ายกับกระต่ายอยู่ด้วยกัน...น่ารักเฟร้อ!!!(น่าจะมีสิงห์กะสิงห์เจอะกันคงจะมันส์...น่าดู)

    สุดท้าย ทั่นรีไวล์เทคแคร์ว่าที่ภรรยาด้วย(โอเนกัยชิมัส//โค้งงามๆ) อย่าใจร้ายมากไปกว่านี้เลยนะคร้าาาาาา T0T สงสารว้อยยยย!

    พยายามสครีมอย่างสุดกำลัง ได้แค่นี้//ค่อกๆแค่กๆ 55555+
    เป็นกำลังใจต่อไป เรื่องราวช่างน่าติดตามยิ่งนัก สู้ๆนะเจ้าคะ ไฟท์โตะ!!!!

    ตอบลบ
  10. คือเนียนตอนนี้มันน่าหมั่นไส้มากอ่ะ
    ก็เข้าใจว่าพยายามจะจีบเขา
    แต่วิธีของนายมันน่าหมั่นไส้จริงๆ
    เข้าถึงเนื้อถึงตัวไม่เกรงใจ "คุณพ่อ" ของอีกฝ่ายเลยรึไง
    แต่ก๊กเวลาเขินแล้วน่ารักอ่ะ
    คือดูโวยวายเหวี่ยงวีนซึ่งถูกใจเนียนเขาล่ะ

    แต่ตอนนี้ถ้าจะถามหาความเจ็บก็มีอ่ะ
    รีไวล์รู้ตัวว่ารักเขาแล้วแต่ก็กลัวว่าจะทำลายความบริสุทธิ์ของเอเลนซึ่งโตมาแบบโลกสวยๆไป
    ประมาณว่า "เธอดีเกินไป"
    ส่วนเอเลนก็รักรีไวล์แล้วด้วยเลยตามไปสารภาพรัก
    แต่กลับโดนอีกฝ่าย(พยายาม)ตัดเยื่อใย
    แถมขับรถหนีจนต้องวิ่งตามอีก
    รีบวนรถกลับมารับเอเลนให้ไวเลยค่ะท่าน
    ไม่งั้นคนอ่านจะไปพากลับมาดูแลเองนะคะ//โดนเตะปากฟันหลุด

    ตอบลบ