Attack on Titan feat.KHR Au.Fic [Levi xEren , 8059] GLIDE : 06


Attack on Titan feat.KHR Au.Fic [Levi xEren , 8059]  GLIDE : 06

: Attack on Titan feat KHR Fanfiction Au
: Levi x Eren , 8059
: Romantic Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
           

         



เฟอร์รารี่สีแดงสดวิ่งผ่าน Duomo di Milano ที่ยังคงเปล่งประกายละมุนละไมถึงแม้ว่าจะอยู่ในเวลากลางคืน

จากในตัวเมืองมิลานที่ยังคงวุ่นวายแม้จะดึกดื่นแค่ไหนค่อยๆร้างไร้ผู้คนเมื่อเข้าเขตที่เรียกได้ว่าเป็นแหล่งเสื่อมโทรม...รถที่สวนกลับมาเรียกว่าแทบจะนับคันได้...เพราะฉะนั้นทุกสายตาจึงจ้องมองมาเมื่อรถหรูหราที่ไม่น่าจะมาวิ่งอยู่แถวนี้ขับผ่านหน้าไป

บ้านเรือนเก่าๆที่ปลูกสร้างอย่างแออัดจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นที่เดียวกับเมืองศิวิไลซ์ซึ่งมีแฟชั่นนำสมัยอย่างมิลาน...ย่านหัวถนนนั้นเต็มไปด้วยซ่องสกปรกและหญิงค้าประเวณีที่ยืนเรียกแขกอยู่ต่างก็มองรถสีแดงกันตาวาว แต่เฟอร์รารี่ก็ขับผ่านมันไปอย่างไม่คิดจะชายตาแลด้วยซ้ำ

แสงไฟหน้ารถสาดส่องไปทั่วทั้งถนนที่เริ่มจะเล็กลงเรื่อยๆ...สิ่งที่มันสาดกระทบนอกจากประตูผุเก่าของอาคารที่ไม่รู้ว่ามันร้างหรือยังมีคนอยู่กันแน่ ก็ยังสาดให้เห็นร่างของคนจรจัดที่นอนอยู่ตามข้างถนน หรือไม่ก็กลุ่มคนที่ดูท่าทางเมายานั่งตาลอยอยู่ตามเสาไฟที่ติดๆดับๆ....แต่กับที่ที่อันตรายจนคนปกติไม่กล้าเข้ามา ใบหน้าที่นิ่งเฉยก็ยังไม่สะทกสะท้านกับมันเลยสักนิด

เฟอร์รารี่สีแดงสดยังคงวิ่งด้วยความเร็วที่ไม่ได้ลดลงเลยถึงแม้ว่าจะทำให้ชายคาของอาคารสองข้างทางแทบจะปลิวหายไป ถัดจากย่านใจกลางของแหล่งเสื่อมโทรมซึ่งคนที่อาศัยอยู่ในนั้นราวกับคนที่ไร้วิญญาณ ห่างกันไม่มากนักสภาพบ้านเรือนที่แออัดก็เหมือนจะพอดูได้ขึ้นมาหน่อย

เพราะถนนสายนี้มันคือที่ซุกหัวของมิจฉาชีพที่ยังพอจะมีแรงหาเงินมากินมาใช้ได้อยู่บ้าง....ทั้งลักเล็กขโมยน้อย จี้ปล้นชิงทรัพย์ รวมไปถึงการพนัน...ซึ่งแน่นอนว่ามันมีทั้งการพนันแบบปกติ...รวมไปถึง...พนันรถ...ซึ่งเงินเดิมพันจะสูงกว่าการพนันอย่างอื่น


ใช่....ผู้ชายที่ชื่อ รีไว เคยเป็นคนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกมืดแห่งนี้มาก่อน


นัยน์ตาสีขี้เถ้าเหลือบมองวงไฮโลที่ยังคงทอยลูกเต๋ากันอยู่ที่ซอกข้างถนนอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร....ในเมื่อเรื่องผิดกฎหมายทุกอย่างเขาเคยทำมาหมดแล้ว...ขอแค่ไม่ต้องทนต่อความหนาว ไม่ต้องทนต่อความหิว...แม้แต่ความตายเขาก็ไม่กลัว

เดิมทีก็เป็นแค่เด็กกำพร้าที่แม้แต่พ่อแม่ยังไม่ต้องการ ทั้งๆที่คิดว่าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั่นคือบ้าน แต่มันก็ถูกเผาจนวอดวาย....เขาที่หนีออกมาได้พร้อมกับฮายาโตะได้แต่โซซัดโซเซแอบหนีขึ้นรถไฟโดยหลบอยู่ในโบกี้ที่ใช้ขนถ่าน....แผลไฟไหม้ที่ได้มาตอนเข้าไปดึงฮายาโตะออกมาทำให้เขาสลบไปเป็นอาทิตย์ ก่อนที่จะมารู้ตัวอีกที....เมื่อลืมตาขึ้นมาที่นี่

เขายังจำได้ดีถึงนัยน์ตาสีมรกตที่มองดูเขาอยู่ใกล้ๆ ใบหน้าราวกับจะร้องไห้นั้นพูดไม่ได้อยู่เป็นปีด้วยความหวาดกลัว


โลกใบนี้มันโหดร้าย...


และการที่จะอยู่ให้ได้...เขาจำเป็นจะต้องละทิ้งจิตใจของมนุษย์ไป...ละทิ้งความกลัวที่จะตาย

มือที่ไม่เคยทำเรื่องสกปรกกลับต้องยอมแปดเปื้อน...เพียงเพื่อให้ได้เงิน...ทั้งลักเล็กขโมยน้อย ต่อยตี จนขยับขึ้นไปถึงการพนันรถ

เขาใช้ชีวิตไปวันๆในโลกที่ไม่มีอนาคตและไม่มีแม้แต่แสงสว่าง...จนกระทั่ง...ได้เจอกับเอลวิน...ทุกๆอย่างจึงเปลี่ยนไป


เขากับฮายาโตะเดินออกไปจากที่นี่โดยไม่มีความลังเล


แต่การที่จะก้าวขาออกไปจากโคลนตม...ความสกปรกโสมมมันก็ยังคงติดตัวเขาไปตลอด...ต่อให้ล้างด้วยน้ำที่สะอาดขนาดไหน กลิ่นไอที่ดำมืดก็ยังคงติดอยู่ที่มือของเขา

เพราะแบบนี้...จึงไม่อาจยื่นมันไปจับมือของคนที่แสนบริสุทธิ์และอยู่ในโลกที่สวยงามนั้นเอาไว้ได้


เพราะมันคงจะไม่คู่ควร....









หากไม่รัก....คงไม่มีความคิดที่จะปล่อยมือจากไป....

หากไม่รัก....คงจะไม่มีความหวังดี....

หากไม่รัก....คงจะไม่รู้...ว่าเราอยู่ด้วยกันไม่ได้....









เขา....

รักเด็กนั่น?.....


















“ ทำไม...ที่นี่ถึงดำแบบนั้นล่ะครับ?”

“ ที่นี่ถูกไฟไหม้จ้ะ...แต่ตอนนี้มันกำลังจะถูกเปลี่ยนเป็นห้างสรรพสินค้าแล้วนะ...ถ้าเราได้กลับมาที่เมืองนี้อีก...แม่จะพาเอเลนมานะ”


เมืองนี้....?


อ่า...จำได้แล้ว....

เมืองที่เขาอยู่ตอนเด็กๆ เพราะต้องย้ายตามพ่อซึ่งไปทำงานอยู่ที่นั่น....


เวโรน่า....


ผืนดินตรงนั้นมันเหลือแต่ตอตะโก เด็กๆที่ยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไรอย่างเขาถึงได้จำมันติดตา

แล้วทำไม....ถึงได้มาฝันเห็นเอาตอนนี้นะ?




นัยน์ตาสีมรกตค่อยๆเปิดขึ้นช้าๆ ภาพข้างหน้าทำเอามึนเบลออย่างบอกไม่ถูก ร่างกายดูเหมือนจะไม่ใช่ของตัวเองเพราะมันเบาโหวง

แล้วที่นี่....มันที่ไหนกัน?

หัวคิ้วขมวดมุ่นก่อนที่จะพยายามกระพริบตาเพื่อไล่ความเบลอ...สิ่งที่เห็นอยู่ใกล้แค่คืบคือพื้นสกปรกมอมแมมซึ่งใบหน้าเกยอยู่ และเมื่อพยายามมองออกไปให้ไกลกว่านั้น ก็เห็นแต่เท้าและท่อนขาของคนเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว....ห้าสิบ...ไม่สิ...ดีไม่ดีอาจจะถึงร้อยคน...

กลิ่นบุหรี่ลอยคลุ้งเข้ามาแตะจมูก หมอกควันที่ลอยอยู่ทั่วไปหมดคือที่มาของกลิ่นนี่เองสินะ

นัยน์ตาสีมรกตหรี่ลงก่อนจะพยายามปรับโฟกัสให้มากขึ้น...นอกจากเท้าของคนมากมายแล้ว สถานที่ที่คล้ายโกดังเก่าๆแห่งนี้ยังเต็มไปด้วย....รถ?

มีทั้งมอเตอร์ไซค์แบบธรรมดาและแบบคันใหญ่ มีทั้งรถยนต์ที่ถูกปรับแต่งให้ดูแตกต่างจากรถทั่วไป....เดี๋ยวนะ....มีรถอยู่คันหนึ่งซึ่งเขารู้สึกคุ้นตา...เหมือนกับว่าจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน...

รถของบ้านอาร์มินที่บอกว่าหายไป?

น่าจะใช่....ถึงจะถูกปรับแต่งนิดหน่อยและไม่มีป้ายทะเบียน...แต่รอยบุบที่เขาชนเอาไว้ตอนฝึกขับรถมันยังอยู่

แล้วทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่?

ถูกขโมยมา?

หรือว่ารถที่อยู่ที่นี่ทั้งหมดจะเป็นรถที่ถูกขโมยมา?

ร่างทั้งร่างตั้งใจจะลุกไปดูใกล้ๆ ทว่า เมื่อลองขยับตัวถึงได้เพิ่งรู้ว่าสองมือถูกมัดไพล่หลังอยู่

“ อื้อ?!”      และปากก็ถูกปิดเอาไว้ด้วยผ้า จนไม่ว่าเสียงตะโกนใดๆก็ไม่อาจจะหลุดรอดออกไปได้

ร่างโปร่งบางดิ้นขลุกขลักอยู่ที่พื้นอย่างไม่ยอมแพ้และนั่นก็ทำให้คนที่นั่งอยู่บนโซฟาเก่าๆรู้ตัวว่า.... “รางวัล” ของงานนี้ฟื้นขึ้นมาแล้ว

“ ไง....”       ฝ่าเท้าในรองเท้าผ้าใบขยับมานั่งยองๆอยู่ตรงหน้า นัยน์ตาสีมรกตดื้อรั้นจึงเหลือบขึ้นไปมองอย่างหาเรื่องทั้งๆที่ตัวเองก็ถูกมัดอยู่แท้ๆ และสายตาแข็งกร้าวแบบนั้นมันก็ทำให้อีกฝ่ายถึงกับยิ้มอย่างถูกใจ มือหยาบกร้านบีบที่ปลายคางมนก่อนจะพลิกใบหน้าให้หันไปหันมา

“ ใช้ได้นี่...สมกับที่เป็นของของรีไว...ยังช่างเลือกไม่เปลี่ยนเลยนะหมอนั่น”      ใบหน้ามนสะบัดหนีด้วยสายตาที่ไม่ได้กลัวเกรง ร่างที่นอนอยู่กับพื้นพยายามยันตัวเองจนลุกขึ้นมานั่งได้ถึงแม้ว่ามือจะยังคงถูกมัดเอาไว้ก็ตาม

คนพวกนี้รู้จักคุณรีไว?....หรือว่าผู้ชายที่โหดร้ายคนนั้นจะเคยอยู่ที่นี่?

นัยน์ตาสีมรกตกวาดมองไปรอบๆโกดังเก่าๆอีกครั้ง...ดูยังไงๆมันก็ไม่น่าจะใช่สถานที่ที่ดีเลย....ทำไมคุณรีไวถึงได้เคยอยู่ในที่แบบนี้ล่ะ?

หรือว่าสาเหตุของนัยน์ตาที่เย็นชาอยู่ตลอดเวลา...มันจะถูกหล่อหลอมมาจากที่แบบนี้...


คุณ....เคยผ่านชีวิตแบบไหนมากันแน่...


“ ลูกพี่...ที่ซ่องโทรมาบอกว่าเห็นเฟอร์รารี่ขับมาทางนี้...น่าจะเป็นรีไว”      เสียงหนึ่งดังออกมาจากกลุ่มคนที่ไม่น่าไว้ใจ ทั้งบุหรี่ทั้งขวดเหล้ากองให้เกลื่อนพื้นไปหมด...แต่ชื่อที่ออกมาจากปากของคนคนนั้นก็ทำให้นัยน์ตาสีมรกตถึงกับเบิกกว้าง

คุณรีไวมาที่นี่?

ตามมาช่วยเขางั้นหรอ?

ถึงจะไม่แน่ใจและไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ ที่ผู้ชายคนนั้นจะยังเห็นเด็กเหลือขออย่างเขาอยู่ในสายตา...แต่ทั้งหัวใจก็อบอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก


“ เอาตัวมันไปที่หลัก”       เสียงของผู้ชายที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำเอ่ยบอกคนที่ยืนอยู่แถวๆนั้น.......หลักอะไร?

ถึงแม้ว่าในหัวจะยังมีแต่คำถาม...แต่สิ่งที่เขารู้ก็คือ คุณรีไวน่าจะมาที่นี่ตามลำพัง...แล้วแบบนี้...จะสู้กับคนเยอะขนาดนี้ได้ยังไง?

หัวใจที่อุ่นวาบฉาบไปด้วยความกังวลทันที....นี่เขากำลังจะทำให้ผู้ชายคนนั้นต้องเดือดร้อนใช่ไหม?....เพราะความดื้อดึงของเขา เพราะความอ่อนแอของเขา ที่แค่จะปกป้องตัวเองยังทำไม่ได้ จนโดนจับตัวมาง่ายๆแบบนี้?

ถึงจะไม่รู้ ถึงจะจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก....แต่ยังไงเสีย...เขาก็คือสาเหตุที่ทำให้คุณรีไวอาจจะต้องเจ็บตัว


ร่างโปร่งบางที่ถูกกระชากให้ลุกขึ้นยืนจึงต่อต้านดิ้นรนขึ้นมาทันที....หนี.....เขาจะต้องหาทางหนีไปให้ได้....ไม่อยากเป็นตัวถ่วงไร้ค่าที่ต้องให้คนคนนั้นมาช่วย ไม่อยากจะเป็นแค่เด็กเหลือขอที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากดื้อรั้นไปวันๆอีกแล้ว

“ อื้อ!!!”      เพราะไม่คิดว่าเขาจะดิ้น พวกนั้นจึงปล่อยให้เขาหลุดมือไปได้ แต่ขาก้าวไปไม่ทันเท่าไหร่

หมัดของคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวโจกนั่นก็ซัดเข้ามาที่หน้าท้องอย่างไม่มีปราณี

“ อุก.....”     จุกจนแทบจะทรุดลงไปกับพื้น สันกรามได้แต่กัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจ เส้นผมถูกดึงจนใบหน้าหงายขึ้นไปตามแรงกระชาก

“ ทำตัวดีๆ...ถ้าชั้นเปลี่ยนใจขึ้นมา แม้แต่หน้ารีไว แกก็อาจจะไม่ได้เห็นนะไอ้หนู ซ่องแถวนี้ผู้ชายอย่างแกก็ขายได้”     

“ อั่ก!!!”      แล้วความจุกที่หน้าท้องก็ถูกซ้ำด้วยด้วยท่อนขาจนร่างทั้งร่างลงไปกองกับพื้นจนได้

สองแขนถูกหิ้วขึ้นไป ร่างกายสั่นระริกจนไม่อาจจะดิ้นรนหรือขัดขืนอีกฝ่ายได้อีก ใบหน้ามนได้หอบหายใจอย่างเจ็บใจ...คนพวกนี้ต้องการอะไร? ทำไมต้องใช้เขาล่อคุณรีไวมาถึงที่นี่


นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?!!.....




ร่างโปร่งบางถูกโยนเข้าไปในเบาะหลังของรถคันหนึ่ง ก่อนที่เสียงกระหึ่มจะดังขึ้นมาจากทั่วทุกสารทิศ มันมีทั้งเสียงมอเตอร์ไซค์และเสียงรถยนต์....คนพวกนี้กำลังจะไปไหนกัน?...ใบหน้าที่เกยอยู่บนเบาะเหม็นอับได้แต่นอนฟังเสียงพวกนั้นโดยไม่อาจจะทำอะไรได้

ไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่าเขาจะต้องมาเจอกับเรื่องอะไรแบบนี้

เพราะตั้งแต่เกิดมาก็ถูกเลี้ยงดูอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีพร้อมมาโดยตลอด...จึงไม่เคยรู้...ไม่เคยเห็น...ว่ามันยังมีที่ที่เป็นแบบนี้อยู่อีก...

ร่างกายสั่นระริกพยายามลุกขึ้นนั่งเมื่อรู้สึกว่ารถมันกำลังเคลื่อนที่...แล้วสิ่งที่ผ่านเข้ามาในสายตาก็ทำให้ใบหน้าถึงกับนิ่งค้างไป....สองข้างทางที่อยู่นอกหน้าต่างรถนั่นมันอะไร...ผู้คนที่ตั้งวงพนันกันอย่างไม่กลัวกฎหมาย...บ้านเรือนที่เหมือนสลัมซอมซ่อ...คนท่าทางมอซอที่นอนอยู่ข้างถนนแล้วยังจะพวกที่นั่งดมกาว...หญิงสาวท่าทางจัดจ้านนุ่งน้อยห่มน้อยที่ยื่นกันเกลื่อน...และผู้คนเหล่านั้นก็ไม่ได้หันมาสนใจเลยทั้งๆที่มีรถวิ่งออกไปเป็นร้อยๆคันแบบนี้

ทุกอย่างมันเหมือนกับว่า....นี่เป็นเรื่องชาชินที่เกิดขึ้นอยู่ทุกวัน...ทุกวัน...


ที่แบบนี้มันอะไรกัน....



คุณรีไว...เคยอยู่ในที่แบบนี้น่ะหรอ?


โลกของเขากับผู้ชายคนนั้น...มันจะต่างกันเกินไปหรือเปล่า...





ฝูงรถหยุดลงที่ถนนสายเก่าซึ่งไร้เงาผู้คน  ปิกอัพสองคันจอดขวางถนนเอาไว้ทั้งสองด้าน ทั้งมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ที่เหลือต่างจอดเปิดไฟนิ่งๆราวกับกำลังรอคอยการมาเยือนของใครบางคน

ร่างโปร่งบางถูกจับไปมัดอยู่ที่เสาใต้สะพานลอย ร่างกายที่เพิ่งจะถูกทำร้ายมายังคงดิ้นต่อต้านแล้วมันก็เริ่มสร้างความรำคาญให้กับคนที่เป็นหัวโจก

ฝ่ามือจึงตบลงมาเบาๆที่ใบหน้ามนก่อนที่ใบหน้าโฉดๆนั่นจะยื่นเข้ามาใกล้....พร้อมกับใบมีดพกที่แนบลงมาที่แก้มใส

“ อยู่นิ่งๆหน่อยสิไอ้หนู...เดี๋ยวมีดมันก็ฝากรอยลงไปหรอก...”    น้ำเสียงเย็นๆตั้งใจขู่เข็ญนั่นติดจะหัวเราะน้อยๆ ความลำพองใจอย่างไม่กลัวกฎหมายนั่นมันทำให้ใบหน้ามนถึงกับทนไม่ได้

“ พวกแกต้องการอะไร?!”       เสียงตะโกนใส่หน้าทันทีที่ผ้าถูกดึงออกให้.....ทำไมถึงได้กล้าทำเรื่องแบบนี้?!

“ ห๋า?...ก็ไม่เห็นจะมีอะไรเข้าใจยาก?....”      น้ำเสียงน่าหมั่นไส้เอ่ยออกมาราวกับว่านี่เป็นเรื่องปกติ

“ มันก็เป็นแค่การเดิมพัน...เป็นการพนันอย่างหนึ่งก็เท่านั้นเอง...เพียงแต่รางวัลของงานนี้เป็นนายก็เท่านั้นแหละ”      ริมฝีปากแห้งผากนั่นแสยะยิ้มออกมาอย่างน่ารังเกียจ...รางวัลอะไรกัน?....แล้วการเดิมพันที่ว่ามันคืออะไร?

“ จะเรียกค่าไถ่หรือไง? ถ้างั้นก็ติดต่อไปที่พ่อชั้นสิ! ไปยุ่งกับคุณรีไวทำไม?!”      ใบหน้ามนเอ่ยออกไปโดยที่นัยน์ตาสีมรกตยังไม่สั่นไหวแม้แต่นิดเดียว...ที่กล้าพูดออกไปขนาดนี้เพราะพ่อของตนก็ไม่ใช่ตาสีตาสาที่ไหนที่จะช่วยลูกชายเพียงคนเดียวของตัวเองไม่ได้

“ ฮ่าๆๆๆ...ก็บอกแล้วไง..ว่านี่มันคือการเดิมพัน...ของรางวัลที่อยากได้ ไม่ว่าจะเป็นเงินหรือผู้หญิง...ก็ต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อที่จะให้ได้มาทั้งนั้นแหละ...มันถึงจะสนุก”      นัยน์ตาสีมรกตได้แต่มองอีกฝ่ายอย่างพูดอะไรไม่ออก...อย่าบอกนะว่านี่คือการทำเพื่อความสนุก?

ไม่หรอก...ไม่น่าจะใช่แค่นั้น เพราะเริ่มเห็นคนที่นั่งอยู่บนหลังมอเตอร์ไซค์รวมไปถึงหน้ากระโปรงรถ ต่างวางเงินลงไปในลังเก่าๆใบหนึ่ง...มันคือการพนัน....และเงินพวกนั้นก็จะเป็นส่วนแบ่งของการเดิมพัน

บางทีพวกนี้คงต้องการรังควาญคุณรีไว...เพราะรู้ว่านักขับของทีมเฟอร์รารี่คงไม่ต้องการเงินเดิมพันแค่นี้...ถึงได้จับตัวเขามาเพราะเข้าใจผิดว่าเขาเป็น....คนรักของคุณรีไว.........ซึ่งมันไม่ใช่...

นัยน์ตาสีมรกตถึงกับนิ่งค้างไปอย่างนึกอะไรขึ้นมาได้....

ถ้าอย่างงั้น...ก่อนที่จะมาเจอกับเขา...จะมีคนรอบตัวคุณรีไวที่ถูกทำแบบนี้มาก่อนแล้วหรือเปล่า?

ผู้ชายคนนั้นถึงได้เย็นชา...และไม่เคยหันหน้ามาหาเขาเลย...ไม่เคยแม้แต่จะเรียกชื่อ...เพราะไม่ต้องการให้เขาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ไม่ต้องการให้เขาต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้?


ยอมที่จะอยู่ตัวคนเดียว ยอมที่จะไม่มีใคร เพราะไม่ต้องการให้คนที่ตนรักต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้?

แค่คิดถึงความโดดเดี่ยวนั้น มันก็อดที่จะรู้สึกปวดในหัวใจแทนไม่ได้


“ คงต้องโทษตัวเองแหละนะ ที่เลือกหมอนั่น...ที่ต้องมาเจอเรื่องร้ายๆแบบนี้ ก็เพราะว่านายเป็นเด็กของรีไวไงล่ะ...ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีใครทนได้ กลับไปก็เลิกคบกันทุกราย...นายเองก็คงเหมือนกันสินะ?”      เขาได้แต่กัดฟันกรอดก่อนจะจ้องหน้าชั่วๆนั่นเขม็ง

ทำไม...ถึงต้องทำกันขนาดนี้....คุณรีไวเคยไปสร้างความแค้นอะไรให้หรือไง?

แต่ยังไม่ทันจะได้กัดฟันถาม แสงไฟจากหน้ารถที่พุ่งเข้ามาราวกับจรวดก็ทำให้ทุกสายตาต่างหันไปมอง

เสียงเบรคดังสนั่นเมื่อเฟอร์รารี่สีแดงสดจอดลงอย่างกะทันหัน แสงไฟจากหน้ารถที่สาดส่องอยู่ทั่วทำให้มองเห็นเป็นหมอกควันจางๆ ร่างกายที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครก้าวขาลงมาจากรถช้าๆ ไออำมหิตแผ่ออกมาจนคนที่อยู่รอบๆได้แต่แหวกทางให้

ชายเสื้อโค้ทสีดำสะบัดไปมาตามแรงลม เงาร่างทะมึนนั่นค่อยๆก้าวเข้ามาช้าๆ ช้าๆ และเมื่อสองขาก้าวเข้าสู่แสงไฟจึงทำให้เห็นว่า ทั้งใบหน้าทั้งร่างกายยังคงนิ่งสนิทราวกับว่าไม่ได้สะทกสะท้านเลยที่จะต้องมายืนอยู่คนเดียวท่ามกลางคนเป็นร้อยแบบนี้

นัยน์ตารีขวางที่เย็นเฉียบมองตรงไปยังร่างโปร่งบางที่ถูกมัดอยู่ที่เสาใต้สะพาน...ภาพที่เห็นมาจนชาชินกลับทิ่มแทงลงไปให้หัวใจเจ็บแปลบ...เพราะเป็นเด็กนั่นงั้นหรอ...ที่ทำให้เขารู้สึกเจ็บมากกว่าครั้งไหนๆ

" ไง...ไม่เจอกันนานเลยนะรีไว?"       นัยน์ตารีขวางตวัดขึ้นไปมองคนที่กระโดดลงมาจากรถมอเตอร์ไซค์ เมื่อก่อนเขาเคยคิดว่าหมอนี่เป็นเพื่อน...แต่ตั้งแต่ตอนที่เกิดเรื่องคราวนั้นความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...ทั้งๆที่เขาคิดจะล้างมือแล้วเดินจากไปด้วยดี ทว่า หมอนี่กลับยังยึดติดกับทุกอย่าง....ทั้งความชิงชังและความแค้น

แล้วคนที่ต้องมาโชคร้าย....ก็คือคนรอบๆกายของเขาเอง....

มีเพียงฮายาโตะเท่านั้นที่หมอนี่ไม่คิดจะทำอะไร หรืออาจจะทำไม่ได้เขาก็ไม่แน่ใจ...หรือไม่มันก็คงจะรู้ว่าถ้าแตะต้องเด็กคนนั้นเขาคงไม่ยอมให้เรื่องจบแค่การเดินกลับไปง่ายๆแบบทุกทีแน่

และคนที่มันจับมาในคราวนี้ก็เหมือนกัน


เขาคงต้องทำให้พวกมันรู้ว่าเขาจะเอาจริง...


"..........."        นัยน์ตาราวกับซาตานมองอีกฝ่ายโดยที่ไม่คิดจะพูดอะไร ในเมื่อทุกอย่างเขาก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่ามันจะต้องทำยังไง

ในเมื่อนี่มันคือการพนันรถ...

ถ้าเขาชนะ...เขาก็จะได้ตัวเด็กนั่นคืนไป

แต่ถ้าเขาแพ้...เด็กนั่นก็จะเป็นของอีกฝ่ายซึ่งมันจะทำอะไรก็ได้ เว้นเสียแต่ว่าเขาจะเอาเงินที่มากพอมาไถ่ตัวคืน

กติกาที่เหลือจะเป็นยังไงก็ช่าง เพราะวันนี้เขามาเพื่อจะชนะเท่านั้น


เขาต้องได้ตัวเด็กนั่นคืน



" พอดีว่าทางเราหารถที่ดีพอจะแข่งกับเฟอร์รารี่ของนายไม่ได้ว่ะ เพราะงั้นคงต้องขอ...ให้นายแข่งกับเราด้วยเจ้านั่น...."      แล้วปลายนิ้วของคนพูดก็ชี้ไปที่มอเตอร์ไซค์คันใหญ่สองคันที่จอดอยู่คู่กัน

นัยน์ตารีขวางเหลือบมองมันเล็กน้อย.....จะยังไงก็ช่าง.....เพราะไม่ว่ารถอะไรเขาก็เคยจับมาหมดแล้ว

" ขอคุยกับเด็กนั่นหน่อย"       นั่นคือคำแรกที่เขาพูดออกไป  คนตรงหน้าแค่หยักไหล่น้อยๆก่อนจะยอมให้ลูกน้องต่อโทรศัพท์ไปที่คนซึ่งยืนอยู่ไกลแสนไกล






โทรศัพท์มือถือถูกแนบมาที่แก้มใส ให้คนที่ถูกมัดอยู่มองคนที่ยื่นมันมาด้วยท่าทางไม่ไว้ใจ แต่แล้วเสียงที่ส่งผ่านมาจากปลายสายก็ทำให้นัยน์ตาสีมรกตถึงกับเบิกกว้าง....


“ เอเลน....”       


เพราะนั่นคือครั้งแรก....ที่ผู้ชายคนนั้นเรียก “ชื่อ” ของเขา

น้ำเสียงของคุณรีไวที่พูดออกมาว่า....“เอเลน”.....ทำไมมันถึงได้ทำให้ดีใจจนอยากจะร้องไห้แบบนี้....


ริมฝีปากสีระเรื่อที่สั่นระริกพยายามเม้มไม่ให้น้ำตาไหลลงมา ก่อนที่นัยน์ตาสั่นพร่าจะมองตรงไปยังคนที่ยืนอยู่ไกลแสนไกล สองหูตั้งใจฟังสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังจะเอ่ยออกมา


“ .....อย่าหลับตา....มองชั้น......มองแต่ชั้นเท่านั้น....”


จะบอกว่าให้เชื่อใจตนอย่างนั้นใช่ไหม...

ตอนนี้...แม้แต่หัวใจทั้งดวง....เขายังยกให้ได้เลย...


ใบหน้ามนจึงพยักรับช้าๆพร้อมกับเสียงขึ้นจมูกที่ตอบออกไปว่า

“ ครับ...”





แล้วปลายสายก็ถูกตัดไป

มีเพียงความเชื่อใจเท่านั้นที่ส่งผ่านไปถึงกันและกัน






F Line ด้วย GLIDE โอเคไหมรีไว?....จะได้สมกับที่เป็นการชิงตัวเจ้าสาว ฮ่าๆๆ”       โค้ดซึ่งเป็นที่รู้กันในหมู่นักพนันรถของกลุ่มนี้ทำให้คิ้วบนใบหน้านิ่งขมวดขึ้นมาเล็กน้อย แต่รอบกายกลับมีแต่เสียงหัวเราะทั้งๆที่ไม่มีเรื่องตลกเลยสักนิด

“ ........”      ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครเดินไปยังมอเตอร์ไซค์สีดำก่อนจะกวาดตามองมันคร่าวๆ ว่าไม่ได้มีอะไรตุกติกที่เครื่องยนต์หรือตัวถัง...เขาไม่ได้โต้แย้งกับสิ่งที่อีกฝ่ายบอก ถึงจะรู้ว่ามันอันตรายขนาดไหน แต่เถียงไปก็คงไร้ประโยชน์...สู้รีบๆจบมันให้เร็วๆดีกว่า

F Line คือโค้ดของการเข้าเส้นชัย ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ได้ตัดสินด้วยการคาดเชือก  ถึงแม้ว่ารถของตนจะไปถึงก่อนแต่ถ้ายังไม่สามารถทำตามกติกาที่ตั้งเอาไว้ได้ก็ไม่ถือว่าชนะ...และกติกาพวกนั้นมันก็ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อความสนุกของคนดู...แต่กับคนแข่งแล้วถือว่ามันเสี่ยงมาก

เพราะฉะนั้นจึงมีไม่น้อยเลย...ที่ตายแบบง่ายๆเพราะแข่งรถ

โค้ดของ F Line ก็จะต่างกันไป มีตั้งแต่การเข้าเส้นชัยง่ายๆด้วยการคว้าธงหรือสิ่งของที่อยู่ในระดับเดียวกับคนขับ ไปจนถึงวางไว้ในที่สูงหรือไม่ก็อยู่ที่พื้นดิน...ซึ่งความเร็วระดับนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะคว้ามาได้

และ GLIDE คือโค้ดที่ยากที่สุด...

เพราะสิ่งที่ต้องคว้ามาให้ได้เพื่อชัยชนะนั้นไม่ใช่ทั้งธงหรือสิ่งของ


แต่เป็นคนทั้งคนที่ยืนอยู่ที่หลักนั่นต่างหาก


มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะคว้าคนทั้งคนให้ขึ้นมาอยู่บนรถที่กำลังวิ่งด้วยความเร็วขนาดนั้นได้

ถ้าเขาพลาดแค่นิดเดียว....ทั้งตัวเขา ทั้งรถ แล้วก็ทั้งเด็กนั่น...


อาจจะลื่นไถลจนถึงตายเลยก็ได้







เสียงเฮลั่นดังอยู่รอบกาย...ความหิวกระหายราวกับปีศาจร้ายชั้นต่ำทำให้ที่แห่งนี้ดูเหมือนอยู่ในนรก

เสียงกระหึ่มดังขึ้นมาเมื่อมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ทั้งคู่ต่างก็ถูกติดเครื่อง

นัยน์ตาสีขี้เถ้ามองไปยังคนซึ่งยืนอยู่ที่เสาใต้สะพานโดยไม่สนใจอย่างอื่น ทั้งสติและสมาธิถูกรวบรวมเอาไว้ที่ร่างโปร่งบางนั่นเพียงอย่างเดียว...ร่างทั้งร่างโน้มลงไปก่อนที่มือจะบิดคันเร่งด้วยความพร้อมที่จะออกตัวได้ทุกเมื่อ

เสียงเบิ้ลเครื่องยนต์ทุ้มต่ำยิ่งทำให้คนที่ดูอยู่รอบๆเริ่มตื่นเต้น เสียงตะโกนโฮ่ร้องจึงดังก้องจนไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้ในละแวกนี้ เพราะต่างก็รู้กันดีว่าถนนสายมรณะเส้นนี้กำลังเปิดประตูสู่นรก




ยกเว้นก็แต่ BMW สีดำที่พุ่งฝ่าทุกอย่างเข้ามาจนคนที่นั่งเบาะข้างคนขับได้แต่เหงื่อหยดไปกับค่าซ่อมรถที่แพงระยับคันนั้น






เชือกที่มัดอยู่รอบลำตัวบางถูกปลดออกไป นัยน์ตาสีมรกตจึงได้แต่มองอย่างสงสัยก่อนที่ใบหน้ามนจะหันกลับไปมองมอเตอร์ไซค์คันใหญ่สองคันที่เห็นอยู่ไกลลิบ เสียงกระหึ่มจากการบิดคันเร่ง รวมทั้งเสียงเฮลั่นมันกำลังทำให้เขาอยู่ไม่สุข

ที่ฝ่ามือกับฝ่าเท้ารู้สึกเย็นเฉียบ ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ หัวใจที่พยายามสะกดให้สงบมันกลับยิ่งเต้นระรัวมากขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่คร่อมอยู่บนมอเตอร์ไซค์สีดำสนิทนั่นคือคุณรีไว


กลัว....


ใช่...เขากำลังกลัว....

กลัวอย่างที่ไม่คิดว่าคนอย่าง เอเลน เยเกอร์ ที่ไม่เคยกลัวใครหรืออะไรมาตั้งแต่เด็กๆจะกลัวได้


กลัวว่าผู้ชายคนนั้นจะบาดเจ็บ กลัวว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นอันตราย กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ....กลัว...ทุกๆอย่าง....

และเพราะความกลัว ร่างกายเลยยิ่งสั่นสะท้านจนแม้แต่นัยน์ตายังไม่อยากจะเปิดขึ้นมามอง ไม่อยากจะรับรู้ ไม่อยากจะเห็นภาพที่อีกฝ่ายอาจจะตายไปต่อหน้าต่อตา



“ เอเลน....”

แต่เสียงทุ้มที่ยังคงก้องอยู่ในหูก็ทำให้นัยน์ตาสีมรกตเปิดค้างขึ้นมา...และเพราะว่าทั้งสองคนที่ลงแข่งไม่ได้ใส่หมวกกันน็อค...เขาจึงมองเห็นได้อย่างชัดเจน

ว่าใบหน้าที่เคยเย็นชา เคยโหดร้ายกับเขาเสมอมา....กำลังจ้องมองเขาอย่างไม่ละสายตา



“ มองชั้น...”

และคำคำนั้นมันก็ทำให้นัยน์ตาสีมรกตที่กำลังสั่นระริกค่อยๆมองตรงไปยังร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใคร....ด้วยความเชื่อมั่นอันแน่วแน่

เชื่อ....

ว่าคุณรีไวจะต้องชนะและพาเด็กเหลือขออย่างเขากลับบ้าน...






แล้วในที่สุด...ธงที่อยู่ด้านหลังร่างโปร่งบางก็โบกสะบัดเป็นสัญญาณการออกตัว



มอเตอร์ไซค์สองคันพุ่งออกมาพร้อมๆกัน เสียงที่ดังก้องทำให้ทุกสายตาจับจ้องอย่างไม่กระพริบ ภาพตรงหน้านั้นรวดเร็วราวกับพายุ เพราะรถสองคันต่างไล่บี้กันอย่างไม่ยอมลดละ

.
.
.

ถุงมือหนังสีดำบิดคันเร่งด้วยใบหน้าที่ยังนิ่งสนิท ในหัวไม่จำเป็นต้องคิดอะไรอีกนอกจากเรื่องของคนที่ยืนอยู่ใต้สะพาน......เขาสาบานว่าจะชนะ

สองมือที่ถูกมัดเอาไว้ได้แต่กำแน่น รถที่แล่นเข้ามาหาไม่อาจทำให้นัยน์ตาที่กำลังสั่นสะท้านละไปจากมอเตอร์ไซค์สีดำได้......เขาจะเชื่อมั่นต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

.
.
.

หัวใจที่ยังคงเย็นเยียบดุจน้ำแข็ง ไร้ซึ่งความหวั่นไหวแม้สายลมรุนแรงจะปะทะใบหน้า ต่อให้ร่างกายต้องพุ่งฝ่าอากาศที่เสียดแทงเข้ามา .....สิ่งที่ยังคงอยู่ในสายตาก็มีเพียงหนึ่งเดียว

ใต้แผ่นอกซ้ายถึงแม้จะเต้นระรัว แต่ความหวาดกลัวก็ไม่อาจจะสั่นคลอนความเชื่อมั่นนั้นได้ นัยน์ตาสีมรกตปิดลงอย่างช้าๆ ก่อนที่จะเปิดขึ้นมา......เพื่อที่จะไม่ละสายตาไปจากคนบนหลังมอเตอร์ไซค์สีดำ

.
.
.

เสียงแหวกอากาศยังคงดังเป็นเส้นตรง เช่นเดียวกับทุกสายตาที่มองตามราวกับจะหยุดหายใจ

จากปลายถนนด้านหนึ่งไปถึงอีกด้านหนึ่ง มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ใช้เวลาบิดไม่กี่วินาที

และความเป็นความตายมันก็อยู่ตรงโค้งสุดท้ายนี่แหละ



เสาใต้สะพานมองเห็นอยู่ตรงหน้า และก็คงจะใช้เวลาไม่ถึงวินาทีในการที่จะเอื้อมมือไปคว้าร่างโปร่งบางมา

รถสองคันที่ขับคู่คี่สูสีกันมาตลอดยังคงไม่มีใครยอมลดความเร็วลง....ยิ่งใกล้จะถึงเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นเหมือนการวัดใจ...หากใครใจไม่ถึงพอก็ต้องเตรียมรับกับความพ่ายแพ้

สันกรามของคนบนมอเตอร์ไซค์คันข้างๆเริ่มกัดฟันแน่น นัยน์ตาที่เริ่มจะว่อกแว่กเหลือบมองมอเตอร์ไซค์สีดำที่ขับเคี่ยวกันมาตลอด...เพื่อจะพบว่ามันยังคงวิ่งต่อไปโดยไม่หวั่นไหวแม้แต่นิดเดียว

ฟันที่กัดกันแน่นนั้นรู้ตัวดี...ว่าตนทำแบบคนคนนั้นไม่ได้....

ยังกลัว...ที่จะตายอยู่...



และนั่นมันก็ทำให้ชั่ววินาทีที่ควรจะยื่นมือออกไปคว้าคนที่เป็นเส้นชัย มือของมอเตอร์ไซค์คันข้างๆกลับทำไม่ได้



ถุงมือหนังสีดำจึงตวัดลำตัวบางของคนที่ยืนมองด้วยนัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างเข้ามาไว้ในอ้อมแขนได้สำเร็จ

หัวใจที่แทบจะหยุดเต้นทำให้อ้อมแขนบางตวัดกอดร่างแข็งแกร่งที่เริ่มชะลอมอเตอร์ไซค์ลงจนลำตัวแทบจะจมหายเข้าไปในร่างกายของอีกฝ่าย

แขนข้างหนึ่งที่กอดตอบกลับมารวมทั้งเสียงหัวใจที่ได้ยินอย่างชัดเจนมันทำให้นัยน์ตาสีมรกตถึงกับหลั่งน้ำตา

“ คุณรีไว....”

แต่ก่อนที่จะได้ดีใจไปกับชัยชนะ....เสียงของอะไรบางอย่างก็ทำให้ใบหน้านิ่งต้องหันกลับไปมองที่เสาใต้สะพาน



ติ้ดดดดดดดดดดดด.......



เสียงเล็กๆที่ลากยาว ทำให้นัยน์ตาสีขี้เถ้าถึงกับเบิกกว้าง

ระเบิดเวลา?

ฝ่ามือที่เริ่มชะลอความเร็วของมอเตอร์ไซค์กลับบิดมันอย่างรุนแรงอีกครั้ง หัวใจที่กลายเป็นน้ำแข็งกลับเต้นกระหน่ำจนทำเอาคนในอ้อมแขนได้แต่เงยหน้าขึ้นมามองอย่างมึนงง


" กอดชั้นเอเลน.....กอดให้แน่นๆ"        เสียงทุ้มที่เอ่ยออกมามีแต่จะทำให้ใบหน้ามนเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก็ทำให้สองแขนบางตวัดกอดร่างของอีกฝ่ายเอาไว้โดยไม่ถามอะไร


แล้วทุกเสียงที่ดังกระหึ่มอยู่ทั่วถนน....ก็ถูกกลบไปด้วยเสียงเพียงเสียงเดียวที่ดังขึ้นมาในชั่วพริบตา




ตูมมมมมมมมมม!!!!!!!





แรงระเบิดทำให้สะพานลอยพังลงมา และมันก็ทำให้มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ที่กำลังพุ่งหนีด้วยความเร็วเสียหลักจนลื่นไถลลงไปที่ข้างทาง

อ้อมแขนแข็งแรงกอดลำตัวบางเอาไว้แน่น ร่างสองร่างหลุดลอยไปในอากาศก่อนจะตกลงมาที่พื้นแล้วกลิ้งตลบไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ



โครม!!!!



มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ที่ขี่มาจนถึงเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้วลอยไปกระแทกกับแบริเออร์คอนกรีตจนพังยับ ไฟลุกท่วมขึ้นมาทันทีที่ถังน้ำมันแตกพร้อมๆกับแรงระเบิด


ร่างสองร่างที่กลิ้งไปกับพื้นหญ้าข้างถนนหยุดลงก่อนที่ร่างแข็งแกร่งจะรู้สึกตัวด้วยความมึนเบลอ ร่างกายรู้สึกได้ถึงแรงกระแทก แต่เป็นเพราะคนในอ้อมแขนที่ยังนิ่งสนิททำให้ร่างที่เจ็บแปลบไปหมดค่อยๆขยับลุกขึ้นมาดู


แล้วหัวใจที่ไม่เคยสั่นคลอนกับสิ่งใด...กลับแทบขาดใจไปกับภาพตรงหน้า


เลือดไหลอาบลงมาจากขมับจนเลอะแก้มใสๆ นัยน์ตาสีมรกตดื้อรั้นปิดสนิท เช่นเดียวกับปากดีๆที่ไม่ยอมเปิดขึ้นมาพูดกับเขาอีก

" โฮ่ย.....เอเลน....."       เสียงที่เอ่ยออกไปสั่นจนไม่คิดว่ามันจะเป็นเสียงของตัวเอง ฝ่ามือได้แต่ยกขึ้นมาตบเบาๆลงไปบนใบหน้ามน

" เอเลน....."       แต่ไม่ว่าจะเรียกยังไงคนในอ้อมแขนก็ไม่ยอมขยับ เลือดยังคงไหลลงมาไม่หยุดจนเขาเริ่มใจหาย

" เอเลน......."      อยากให้ชั้นเรียกชื่อไม่ใช่หรอ....ตื่นขึ้นมาฟังสิไอ้เด็กเหลือขอ....

ฝ่ามือได้แต่เขย่าร่างที่สลบไสลอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้ข้างในใจของเขามันไม่รู้แล้วว่ากำลังรู้สึกยังไง มันทั้งเจ็บ ทั้งปวด ทั้งกังวล ทั้งหวาดกลัว

กลัวจนไม่คิดว่า....คนที่แม้แต่ความตายของตัวเองยังไม่เคยกลัว...จะกลัวความตายของใครบางคนได้มากมายขนาดนี้


" เอเลน...."


" เอเลน!!!"











เสียงระเบิดทำให้คนที่ขับ BMW สีดำถึงกับสะดุ้งเฮือก

ปิกอัพจอดขวางถนนอยู่มีคนยืนโบกว่าให้กลับรถไป ตรงนี้ห้ามผ่าน แต่ใบหน้าสวยกลับไม่ได้สนใจ ฝ่าเท้ากระแทกคันเร่งจนรถยนต์คันหรูพุ่งชนปิกอัพจนหันไปอีกทาง คนที่ยืนอยู่ต่างวิ่งหลบกันให้จ้าละหวั่น และมันก็ทำให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆถึงกับยิ้มแห้ง....สงสัยจะไม่ต้องเสียค่าซ่อมแล้วละ ซื้อใหม่ไปเลยน่าจะดีกว่า

รถสีดำแหวกฝูงชนที่มองตามด้วยความมึนงงก่อนจะพุ่งลอดสะพานลอยที่หักพาดอยู่กลางถนนไปอย่างไม่กลัวว่ามันจะถล่มลงมาทับเอาเลยสักนิด หัวจิตหัวใจที่ไม่ได้เกรงกลัวอะไรทำเอาร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างๆยิ่งถูกใจ...จากที่ว่าจะแค่หยอกเล่นกลับกลายเป็นละสายตาไม่ได้....

จากที่คิดจะเข้าใกล้เพราะคดีเพลิงไหม้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเมื่อสิบปีก่อน กลับกลายเป็นถอนตัวไม่ขึ้น....


BMW หยุดลงใกล้ๆที่ที่มีไฟไหม้ นัยน์ตาสีมรกตมองเห็นมอเตอร์ไซค์ที่ถูกไฟคลอกจึงรีบกวาดตามองหาคนสองคนที่น่าจะอยู่แถวๆนี้

มือบางเปิดประตูรถก่อนจะก้าวขาลงไป ถึงแม้ใบหน้าสวยจะยังคงนิ่งเฉยแต่การกระทำด้วยความร้อนใจก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าร่างบอบบางนี้กำลังตื่นตระหนก

แล้วนัยน์ตาสีมรกตก็ต้องเบิกกว้าง เมื่อมองเห็นแผ่นหลังของคนที่ได้ชื่อว่าผู้ปกครองซึ่งกำลังกอดเด็กคนนั้นในสภาพสลบไสลอีกทั้งยังมีเลือดโชกเอาไว้แน่น ใบหน้าที่นิ่งเฉยอยู่ตลอดของรีไวกลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดซ้ำยังพร่ำกระซิบเรียกชื่อของเด็กคนนั้นไม่ได้ขาด

เสียงมอเตอร์ไซค์ที่แว่วเข้ามาในหูทำให้ใบหน้าสวยหันกลับไปมองด้วยดวงตาดุดัน....พวกนั้นคิดจะมาซ้ำหรือยังไง

และเขาจะไม่ปล่อยมันเอาไว้แน่


ร่างบอบบางก้าวขาขึ้นมานั่งในรถสีดำอีกครั้ง ก่อนจะมองตรงไปยังไฟหน้ารถมอเตอร์ไซค์หลายสิบคันที่สาดส่องมาทางนี้ ใบหน้าเย็นชายังคงเย็นเฉียบเช่นเดียวกับหัวใจ มือขยับเกียร์ก่อนจะเหยียบคันเร่งจนแทบจะจมมิด คนที่นั่งอยู่ข้างๆได้แต่ยิ้มสบายๆ ถึงแม้ว่า BMW จะพุ่งออกไปราวกับทอร์นาโด

พายุสีดำกวาดมอเตอร์ไซค์ที่สวนมาด้วยใบหน้าที่ยังนิ่งเฉย เสียงเบรคดังลั่นเมื่อรถคันหรูตวัดปัดท้ายก่อนจะหมุนวนกลับมาทางเดิมแล้วไล่บี้รถที่หนีกันให้จ้าละหวั่น ทั้งเสียงกรีดร้อง ทั้งเสียงแตรยาว ทั้งกลิ่นยางที่ลุกไหม้ ทำให้ถนนสายนี้ราวกับกำลังตกอยู่ในนรก

ร่างบอบบางที่อาละวาดจนพอใจเริ่มมองหาไอ้ตัวการของเรื่องนี้

แล้ว BMW ที่ยับไปค่อนคันก็ไปหยุดลงตรงหน้าคนที่คุ้นตาเป็นอย่างดี  ขาเรียวก้าวลงไปอย่างไม่ได้กลัวเกรงก่อนที่จะไปเผชิญหน้ากับชายที่คงจะกลายเป็นหัวโจกของโลกโสมมแห่งนี้ไปแล้ว

" ไง...ฮายาโตะจัง...ไม่ได้เจอกันนานก็ยังติดพี่ชายเหมือนเดิมเลยนะ"       รอยยิ้มน่าขยะแขยงถูกส่งมาให้ แต่ใบหน้าสวยกลับไม่ได้รู้สึกอะไร

" เลิกยุ่งกับรีไวสักที"      ริมฝีปากสีระเรื่อพูดออกไปด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

" งั้นจะให้ไปยุ่งกับนายแทน?  ดีไหม? ฮ่าๆๆ"     เสียงหัวเราะน่าหมั่นไส้ดังขึ้นมาจากรอบๆ ฝ่ามือหยาบกร้านกระชากข้อมือบางขึ้นไปหมายจะหยอกล้อ



ทว่า...



เสียงหัวเราะก็กลายเป็นเสียงร้องอย่างเจ็บปวดขึ้นมาทันที....เมื่อมือที่จับอยู่รอบข้อมือบางนั้นถูกคมดาบฟันจนขาดโดยไม่ทันตั้งตัว


" อ๊ากกกกกกกกกก!!!!!"       เลือดสาดกระจายจนมีบางส่วนกระเซ็นมาโดนใบหน้าสวย แต่คนที่เห็นทุกอย่างกลับยังคงนิ่งเฉย

เพราะสิ่งที่จู่ๆก็เกิดขึ้น ทำให้รอบข้างนั้นพากันแตกกระเจิง สายตาหวาดผวาต่างจ้องมองไปยังร่างสูงใหญ่ผู้ถือดาบไว้ในมือ ทั้งๆที่บุกมาตามลำพังแล้วยังทำร้ายหัวโจกของคนกลุ่มใหญ่ แต่ใบหน้าคมกลับยังยิ้มสบายๆ

และประกายดาบคมกล้ารวมทั้งสายตามืดมนก็ทำใครหลายๆคนเริ่มจะจำได้...ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร

" วอง...วองโกเล่....."        เสียงครางอย่างแผ่วเบาเอ่ยออกมาจากใครสักคน เรียกให้คนที่นั่งหน้าซีดกุมมือที่ขาดไปให้เงยหน้าขึ้นมามองอย่างตกตะลึง

ถึงแม้จะเป็นกลุ่มก้อนที่ดำมืดเหมือนกันแต่อันธพาลชั้นต่ำกับมาเฟียก็ยังมีความแตกต่าง

นัยน์ตาสีเปลือกไม้กวาดมองไปที่กลุ่มคนซึ่งเริ่มถอยหนีตัวใครตัวมัน...ต่างจากรถยนต์สีดำนับสิบที่พร้อมใจกันเข้ามาจอดล้อมเอาไว้....นี่แหละคือความห่างชั้นของเศษสวะที่ได้แต่ใช้ชีวิตไปวันๆ เพราะพวกมันไม่มีความสามัคคีและขี้ขลาดตาขาว

" จะช่วยทำตามความต้องการของโกคุเดระได้หรือเปล่า?"       ปลายดาบชี้ลงไปที่คอหอยทำให้ใบหน้าของคนก่อเรื่องพยักรับอย่างหวาดๆ...เพราะไม่คาดคิดว่าร่างบอบบางนั่นจะเป็นคนของวองโกเล่ไปแล้ว

ทั้งๆที่ผ่านมาก็มีฝีมืออย่างที่พวกมาเฟียอยากได้ตัวมาตลอด แต่ทั้งรีไวทั้งโกคุเดระต่างไม่คิดจะเข้ากับแฟมมิลี่ไหน จนคนที่นี่ต่างก็แปลกใจว่าทำไมถึงไม่คิดจะออกไปจากโลกมืดที่ไม่มีอนาคตแห่งนี้






ร่างบอบบางปล่อยให้ร่างสูงใหญ่จัดการคนพวกนั้นไป นัยน์ตาสีมรกตกวาดมองหาเฟอร์รารี่สีแดงที่น่าจะอยู่แถวๆนี้ และเมื่อพบเป้าหมาย รถคู่กายก็ทะยานออกไปหาคนที่ยังนั่งอยู่ข้างๆกองไฟ




เสียงเรียกชื่อคนในอ้อมแขนยังคงดังไปตลอดทาง นัยน์ตาสีมรกตละจากถนนมามองคนที่น่าสงสารซึ่งถูกลากเข้ามาเกี่ยวด้วยทั้งๆที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราว

มือแข็งแกร่งของรีไวซึ่งนั่งอยู่บนเบาะข้างๆยังคงประคองอยู่ที่ใบหน้าอาบเลือดของคนที่ตนอุ้มเอาไว้ ริมฝีปากจูบอยู่ที่ขมับของคนที่ยังหลับไม่ได้สติ

เฟอร์รารี่สีแดงเลี้ยวเข้าไปในโรงพยาบาลมิลาน


ด้วยความหวัง....


ว่าวันพรุ่งนี้...นัยน์ตาสีมรกตที่สดใสและเต็มไปด้วยความฝันคู่นั้น....มันจะลืมตาขึ้นมา....




















“ คิดว่าไม่น่าใช่นะ สึนะ...โกคุเดระกับคุณพ่อ เกี่ยวข้องกับพวกนี้หลังจากที่ออกมาจากเวโรน่าแล้วน่ะ”     เสียงที่ดังมาจากปลายสายโทรศัพท์ทำให้คนที่นั่งอยู่หลังลีมูซีนสีดำซึ่งจอดอยู่ไกลๆถอนหายใจออกมา...ไม่ใช่งั้นหรอ....ถึงจะพลาดไปแต่รอยยิ้มน้อยๆก็ปรากฏอยู่บนใบหน้าเล็กเมื่อฟังเสียงปลายสายที่ดูจะเน้นย้ำซะเหลือเกินว่าเด็กผมเงินกับคนที่อยู่ด้วยกันนั่นเกี่ยวข้องกันยังไง

เจอคุณพ่อแบบนั้น สงสัยงานนี้ผู้พิทักษ์พิรุณของเขาคงได้เลือดตาแทบกระเด็นอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแน่...


“ คึหึหึ....ดูเหมือนจะเสียเวลาเปล่าสินะครับ...สึนะโยชิคุง”      แล้วเสียงเย็นๆก็ทำให้นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้เหลือบไปมองร่างสูงโปร่งที่นั่งยิ้มละไมพิงประตูรถอีกฝั่งอยู่ข้างกันๆ...นานๆทีถึงจะเห็นคนคนนี้ทำงานทำการให้สมกับที่เป็นผู้พิทักษ์หนึ่งในห้ากับเขาบ้าง...หรือจะเป็นเพราะเรื่องคราวนี้มีความเกี่ยวข้องกับคดีที่มาเฟียไปเผาสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ากันนะ ผู้พิทักษ์แห่งสายหมอกของเขาถึงได้ยื่นมือเข้ามาช่วย

จากการไล่บี้ของผู้พิทักษ์แห่งเมฆาก็ทำให้รู้ว่าคดีนี้ไม่ใช่ฝีมือของวองโกเล่...เพราะวองโกเล่ไม่มีสาขาอยู่ในเวโรน่า ซ้ำยังไม่เคยได้ผลประโยชน์อะไรจากห้างสรรพสินค้าที่ถูกสร้างขึ้นมาทับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั่นเลย

มีใครบางคนกำลังใช้ชื่อของวองโกเล่ในการข่มขู่ผู้คนเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง...

และตอนนี้วองโกเล่ก็กำลังตามล่าตัวมันอยู่


“ ผมว่าข้อมูลของผมน่าสนใจกว่าตั้งเยอะ...แน่นอนว่าผมไม่ได้ทำเพื่อวองโกเล่และไม่ได้ทำเพื่อคุณ”

“...........”      ใบหน้าเล็กของบอสวองโกเล่ได้แต่เหล่มองเจ้าของผมทรงแปลกประหลาดนั่นอย่างหมั่นไส้...ถ้ารู้ข้อมูลแบบนั้นจะเก็บเงียบแล้วตามมาด้วยทำไมกันเนี่ย?! รีบๆส่งมาให้ตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่องไปแล้ว!

กระดาษแผ่นหนึ่งถูกดึงออกมาจากสูทสีดำ ก่อนที่มือเล็กๆซึ่งยิ่งใหญ่กว่าใครในดินแดนมาเฟียของอิตาลีจะยื่นไปรับมันมา นัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลไหม้กวาดมองตัวหนังสือบนหน้ากระดาษอย่างตั้งใจ

นี่มันอะไรกัน?

เอกสารทางราชการที่คนข้างๆไปเอามาได้ยังไงก็มิทราบได้นั้น มันระบุว่า...คริชา เยเกอร์...เคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วย-ผู้แทนของรัฐบาลแคว้นเวเนโต ก่อนที่จะถูกแต่งตั้งให้ไปเป็นผู้แทนของรัฐบาลประจำแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน....


พ่อของ เอเลน เยเกอร์ เคยอยู่ในเวโรน่า...ในช่วงเวลาที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั่นถูกไฟไหม้!


แล้วคนที่เซ็นอนุมัติให้มีการสร้างห้างสรรพสินค้าขึ้นมาแทนที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็ไม่ใช่ใคร....เพราะลายเซ็นภายใต้ตราปั๊มว่าอนุมัติ ก็คือ คริชา เยเกอร์ นั่นเอง


มันน่าสงสัยไม่ใช่รึไง...ที่เซ็นไวขนาดนี้...ทั้งๆที่มันเป็นที่ดินที่เพิ่งจะมีคนตายหมู่แล้วยังไม่รู้อีกว่าเป็นที่ของใครเพราะมันเป็นที่ดินบริจาค

แม้แต่ตัวห้างสรรพสินค้าเองก็ยังไม่มีชื่อเจ้าของที่แน่ชัดให้สืบสาวได้ มีแต่รายชื่อผู้ร่วมหุ้นเท่านั้น


ตอนนี้จึงรู้แค่ว่า  คริชา เยเกอร์ น่าจะมีส่วนพัวพันกับคดีนี้อย่างแน่นอน

ที่ตำรวจสรุปผลว่าเป็นไฟไหม้ธรรมดาไม่ใช่การวางเพลิง ก็คงเป็นเพราะแบบนี้เองสินะ....คนนอกไม่มีใครรู้ว่าที่จริงแล้วมันคือการวางเพลิง ส่วนคนในบ้านก็รู้แค่ว่าคนข่มขู่คือวองโกเล่....ที่เป็นตัวปลอม

ถ้าอย่างงั้นก็หมายความว่า...

ตอนนี้ยังมีพยานเหลืออยู่อีกสองคน...ที่จะสามารถยืนยันได้ว่ามันเป็นการวางเพลิง...

ที่สองคนนั้นไม่ออกมาบอกใครก็เพราะคิดว่าคนทำคือมาเฟีย...เสียเวลาเปล่าที่จะเรียกร้อง....

และการที่คนที่ลงมือตัวจริงยังไม่ฆ่าสองคนนั้นทิ้งก็เพราะไม่รู้...ว่ามีเด็กสองคนหนีรอดไปได้...

ถ้าหากวันหนึ่งทั้งสองคนรู้ว่าไม่ใช่ฝีมือของวองโกเล่ และอีกฝ่ายก็รู้ว่ายังมีพยานหลงเหลืออยู่....


อะไรมันจะเกิดขึ้น?


ใบหน้าเล็กได้แต่ชะงักค้างไป....เรื่องนี้ต้องรีบบอกยามาโมโตะ...

ว่าสองนักขับของทีมเฟอร์รารี่อาจจะกำลังตกอยู่ในอันตราย!!








.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

To be con.







ใครอย่าแซวเชียวนะว่าขาเฮย์โจวจะถึงหร้อ...ถ้าขับมอเตอร์ไซค์ เดี๊ยะๆ ฮ่าๆๆๆ อะร๊ายยย คราวที่แล้วก็ศาลเตี้ย...ศาลเตี้ยแล้วมันผิดตรงหนายยย ฮ่าๆๆ(<<ยัยนี่แหละจะโดนฟันหลังคอก่อนใคร)


เชี่ยยยยย โดนอนิเมะตอนสุดท้ายทำร้ายค่ะ โฮววววววววววววว มันมายังง๊ายยยยยอ่ะไอ้ฉากนี้!!!! คือในมังงะมันไม่มีค่ะ แล้วคุณกวางก็ดูโดยที่ไม่ได้เข้าเฟส ไม่เคยได้โดนสปอยด์ใดๆมาก่อน คือถึงขั้นกรีดร้องไม่เป็นภาษาเลยอ่ะ โฮกกกกกกกกกกกกก รักทีมงานไม่ไหวแล้ว ยังจะอุตส่าห์เซอร์วิสให้จนหยดสุดท้ายจริงๆ กรี๊ดดดดดดดดดดดด เฮย์โจวคะ ทั้งๆที่ขาเจ็บก็ยังจะอุตส่าห์ไปช่วยเด็กคลั่งออกมาอีกนะคะ ไม่ห่วงตัวเองแต่ห่วงอีกคนมากกว่าแบบนี้มี๊รักตายเลยค่ะ กรี๊ดดดดดดด



โอยยยย ซับ...ต้องไปหาซับดู เพราะจน ณ บัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเฮย์โจวพูดว่าอะไร แต่ตรูสครีมไป8059บ้านแล้ว อร๊ากกกกกกกกกก

คือดูแล้วก็มาอินกับฟิคตัวเองอ่ะ เพราะว่า GLIDE ตอนที่ 6 นี้เฮย์โจวก็กำลังไปช่วยเด็กเหมือนกัน แล้วพล็อตที่วางไว้ เด็กก็ได้รับบาดเจ็บที่หัวเหมือนกัน คือเห็นฉากที่เอเลนลืมตาขึ้นมาบนเตียงโดยมีผ้าพันแผลพันหัวเอาไว้ ทางนี้ถึงขั้นกรี๊ดเลยค่ะ อะไรมันจะใช่ปานนี้ โฮกกกกกกกกก สครีมเสร็จรีบเปิดฟิคปั่นต่อทันที ไม่ไหวแล้วววววววว








แล้วก็...จากการที่มาบ่น(?)ชุดใหญ่เกี่ยวกับความสะเทือนใจที่จองฟิกเกอร์เฮย์โจวไม่ทัน ก็เลยมีคนช่วยแนะนำร้านที่เค้าเปิดพรีให้ โฮววววว ขอบคุณมากๆๆๆเลยนะคะพี่งู ดีใจมากๆอ่ะ ไม่คิดว่าจะได้แล้วนะเนี่ย TAT // เก็บเงินเก็บทองไว้ไถ่ตัวเอเลนและสามี(?)ต่อไป... (ฮากับคอมเม้นต์ของคนที่จะซื้อเฉพาะท่อนขา(?)มากๆเลยค่ะ 5555+)

เพราะว่าหมู่นี้ไม่ค่อยได้เข้าไปอ่านเฟสคนอื่นๆ เลยไม่รู้ว่าเค้ามีอะไรกันหรือไปถึงไหนแล้ว555 จะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่กำลังอินกับอะไรบางอย่างมากๆ เพราะรู้ตัวดีว่าเป็นคนที่ถูกล่อลวงง่าย แล้วก็สะเทือนใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่องง่าย เบื่อง่าย (นิสัยชั่วร้ายมาก//แต่ถ้ารักอะไรขึ้นมานี่.....) เพราะงั้นจะปิดหูปิดตาตัวเอง เพื่อให้ไม่ให้วอกแวกอ่ะนะ ไม่งั้นไม่ลงไวขนาดนี้หรอก ฮ่าๆๆ เพราะงั้นต้องขอขอบคุณทุกๆคนที่แชร์ข่าวสารหรือหารูปอะไรต่อมิอะไรส่งมาให้ตลอดเลยนะคะ >/////< ได้รู้อะไรกับเค้าบ้างก็ตรงนี้แหละ555 (เมิงจะอยู่ป่าไปไหนเนี่ยคุณกวาง)


แล้วก็...สำหรับฟิคตอนนี้ แอบมีเพลงมาแนะนำค่ะ...ที่จริงตอนแต่งเรื่องนี้ ฟังวนอยู่ 3 เพลงคือ GLIDE(bun ver.) , O Fortuna(The Piano Guys ver.) แล้วก็เพลงนี้....PLEDGE ของ The GazettE แต่ที่เพิ่งเอามาลงเพราะคิดว่า มันน่าจะเข้ากับฟิคตอนนี้ดีอ่ะนะ แค่ดนตรีก็อย่างเจ็บแล้วอ่ะ โฮวววววววว ฟังเพลงนี้ไป จิ้นเฮย์โจวบิดมอไซค์เข้าไปหาเอเลนแล้วมัน...อร๊ากกกกกก




แต่เนื้อเพลงเก๊าไม่ค่อยแน่ใจนะ คืออ่านแล้วยังงงๆค่ะ ตีความไม่ถูกว่าตกลงมันยังไงกันแน่ ใครรู้ช่วยสรุปให้ตรูฟังที แต่ดนตรีนี่แบบ...จะเพราะไปไหนอ่ะ โฮววววว กาเซตแม่งทำเพลงช้าเพราะมว๊ากกกกกกกกก แล้วนี่ก็ได้ข่าวมาว่ากำลังจะมีข่าวดีในไทยเร็วๆนี้...คือถ้าคุณน้องจะมา คุณพี่ต้องขายไตไปดูแล้วค่ะ โดนลูกสาว เอ้ย ลูกชายพร้อมสามี(?)ทำร้ายจนแม้แต่แกลบก็จะไม่มีให้กินแล้วค่ะ แต่ยังไงก็จะไปดูให้ได้เลยค่ะ ฮืออออ....รุกิ จะจิบิอย่างที่เห็นในจอไหมนะ แฮ่กๆๆๆ ชอบผู้ชายตัวเล็กค่ะ น่าร้ากกกก (มือเบสที่รักเมิงแต่ละคนนี่ตัวเล็กมาก?)....>v<...



แล้วก็มีคอมเม้นต์ถามมาว่า คุณฮิกับทูน่า(รวมมุคุคุด้วย)อายุเท่าไหร่ เพราะส่งผลต่อการจิ้น กร๊ากกกก ทูน่าเท่ายามะ 21ปี คุณฮิกับมุคุคุ 23 ค่ะ

ส่วนการควอลิฟาย เป็นการจับเวลาก่อนแข่งรวมทุกทีมค่ะ ฟอร์มูล่าวันจะมีนักขับทีมละสองคนเท่านั้น และจะต้องส่งลงทั้งคู่ทุกสนาม (มั้งนะแต่เคยอ่านข่าวเจอว่าถ้านักขับตัวจริงบาดเจ็บเค้าก็จะให้นักขับสำรองลงแทน // แต่ละทีมจะมีตัวจริงอยู่สองคนค่ะ) การควอลิฟายเหมือนจะทำหลายรอบนะไม่แน่ใจ แล้วก็เอาเวลาที่ดีหรือผ่านเกณฑ์อะไรซักอย่างมาเรียงลำดับทั้งหมดทุกคนที่ลงแข่ง ใครดีที่สุดก็ได้ออกสตาร์ทในรอบจริงเป็นคันแรก แล้วก็ไล่ลงไปตามลำดับในรอบควอลิฟาย น่าจะประมาณนี้นะ ถ้าใครทราบข้อมูลที่เป็นเรื่องเป็นราวมากกว่านี้ก็บอกเก๊าได้นะ555 // จะเห็นว่าในฟิคเขียนเกี่ยวกับการควอลิฟายไม่ค่อยละเอียด เพราะคุณกวางมันยังไม่มีข้อมูลที่แน่นอนค่ะ555


และสุดท้าย...มีคนวาดภาพทีมเฟอร์รารี่ของฟิคเรื่องนี้มาให้ค่ะ โฮวววววว ขอบคุณมากๆๆเลยค่ะ น้องเจมฐิ(?) โคตรอยากเห็นภาพนี้เลยอ่ะ เลยเอาขึ้นปกเฟสซะเบย >w<







ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆการติดตามนะคะ แล้วเจอกันตอนหน้าค่า ^ ^






19 ความคิดเห็น:

  1. /สครีมแบบสะใจสุดๆตอนไอ้ตัวเนียนดาร์คแล้วฟันมืขาด/ ... ทำไมขวัญเป็นคนแบบนี้ 555 แต่มันชอบอ้าา ชอบเนียนโหดๆหื่นๆเนียนๆแสบๆแบบเน้ มันกร๊าวใจค่า 55555


    หลังจากตอนที่แล้วที่อดเห็นฉากขับรถไล่บี้มาเฟีย ตอนนี้ได้มาเห็นไล่บี้อันธพาลแทน เป็นอันโอเคค่า ติดใจเพราะรู้สึกว่ามันก๊กกก ก๊กดี อะไรจะพินาศตรูไม่สน ขอให้ได้อัดเป็นพอ วะฮะฮะฮะฮ่าาาา ติดใจแล้วใช่มั้ยเนียนน


    #ขอโทษคะพอดีเก็บกดจากการอ่านหนังสือสอบ //ตั้งสติ59วินะ

    ดีใจมากที่วองโกเล่โผล่มากันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา สึนะนี่ยังไง แอบเชียร์ผู้พิทักษ์ตัวเองหรือแอบสมน้ำหน้ากันเนี่ย 555 เจอคุณพ่อแบบนี้ก้น่าสมน้ำหน้...เอ้ยน่าสงสารเนียน

    แล้วก้คิดถึงตาหัวสัปป้านี่อีกคน รู้สึกพี่ท่านจะไม่มีบทบาทอีกเลยตั้งแต่เรื่องหิมะฯ(หืม?) อยากแซะมานานแล้วนะมุคุโร่ ชอบเหลือเกินเลยนะไอ้การค่อยๆปล่อยข้อมูลมาทีละนิดเนี่ย ตั้งแต่ในออริแล้ว ฮาาา

    ส่วนคุณฮิ.... ไปไล่ขย้ำถึงไหนแล้วค้า มาขย้ำให้เห็นจะๆหน่อยจิ แถวนี้มีสัตว์กินพืชเป็นแถวเลยนะ //แผนล่อฮิมาหาเฮีย(?)

    ....มัวแต่สครีมKHRด้วยความคิดถึงจนลืมคู่หลักไป....

    สงสารเอเลนนน ใครมันกล้าซ้อมหนูลูกกก ร่างกายหัวใจและความเอ็มนี่ยกให้ขุ่นพี่รีไวล์ซ้อมได้คนเดียวนะเฟร้ย!! ว่าแต่ขาเฮียบิดมอไซต์ถึงจริงๆสินะ....อืมๆ... #อดแซะเลย

    ฉากแบ็กกราวด์ตอนแข่งรถนี่นึกถึงเรื่องFast & Furious เลยค่ะ เห็นภาพลุ้นละทึกสุดๆเลยค่ะพี่กวาง พี่กวางเคยคิดจะไปเอาดีทางด้านผู้กำกับมั้ยคะ ฮี่ๆ มันสนุกจริงๆน้า


    แต่ไปๆมาๆเหมือนจะมีกระแสดราม่าอีกแล้ว...แถมมาจากคนใกล้ตัวซะด้วย...เอาไงดีล่ะเฮย์โจว จะเลือกช่วยฝั่งพ่อตาหรือชำระแค้นในอดีต เพราะยังไงวองโกเล่คงเตรียมลุยอยู่แล้ว(และยามะคงหนีบก๊กไปด้วยไม่คืนให้เฮียแหงแซะ)

    ไม่ว่าจะเป็นยังไงก้ตาม.....ขวัญจะรออ่านตอนหน้าค่าา พี่กวางง พี่กวางขาา//บีบๆนวดๆให้/ นี่จะสองอาทิตย์แล้วหน้า แข่งเอฟวันงวดหน้าจะมาแล้วใช่มั้ยอะ แรงบัลดาลใจพี่กวางจะมาแล้วใช่มั้ยคะ จะรอตอนต่อไปน้าา ฮาาา รักษาสุขภาพด้วยนะคะ พักผ่อนเยอะๆน้า

    #กลับไปอ่านหนังสือสอบต่อ เหมือนจะสับสนว่าอันไหนหลักอันไหนรองจริงๆค่ะ ถถถถ

    ตอบลบ
  2. ซุ่มอ่านมาตั้งแต่ตอนแรกมานาน(โดนต่อยผลัวะ!!) แต่ไม่ไหวกับตอนนี้เลยออกมาสครีมหน่อยค่ะ
    ฮื่อออออออ อ่านแล้วใจเต้นตุบๆ
    คืออ่านไปนึกภาพไปแล้วหวาดเสียวมาก ขี่ด้วยความเ็ร็วขนาดนั้นแล้วยังต้องไปคว้าตัวเอเลนมาให้ได้อีก หัวใจจะวายค่ะ โฮฮฮ
    รัก..แล้วใช่ไหม ไม่งั้นไม่ทำถึงขนาดนี้สินะคะ เอเลนลืมตาขึ้นมาเร็วๆนะคะ คนที่เฝ้ามองตลอดเค้าเริ่มหันกลับมามองแล้วนะ
    เรื่องเริ่มมีปมเข้มข้นขึ้นทุกทีๆ คุณพ่อของเอเลนเกี่ยวอะไรคะเนี่ย โอยยย ต้องติดตาม
    สึนะน่ารักจังเลยค่ะTvT แอบอยากเห็นตอนสึนะคุยกับเอเลนชอบกล มันคงมุ้งมิ้งน่ารัก (หลังจากก๊าวฮายาโตะเล่นรถกับเอเลนตอนที่แล้วไปแล้ว)

    ได้กำลังใจก่อนไปพรีเซนต์งานพรุ่งนี้เพราะฟิคเรื่องนี้แล้วค่ะ ฮืดดด..

    ติดตามเสมอนะคะ^^

    ปล.ตอน 25 ตอนที่เฮย์โจวไปช่วยเอเลน เฮย์โจวพูดว่า "อย่ากินพยานคนสำคัญสิ เจ้าเด็กบ้า"
    เจ้าเด็กบ้า...คือเฮย์โจวใช้ว่า "บากะยาโร่ว" อ่ะค่ะ ไม่รู้จะแปลยังไง เจ้าเด็กบ้าดูเหมาะสุดแล้ว อ้ากกกกกกกกก
    ดูไปก็ลูปแต่ตอนนค่ะแล้วก็มีแต่ บากะยาโร่ว เต็มหัวไปหมด T///////////T ทำไมเฮย์โจวเรียกแบบนี้แล้วก๊าวในใจจังเลย

    ตอบลบ
  3. เหมือนเรา(NichaChaCha)0tเคยเเปลเพลงนี้ค่ะพี่กวางงงงงงงงงงงงง
    ขอคุ้ยก่อนนะคะะะะะะะะะะะะะ

    เพลงมันประมาณอย่าเสียใจไป...แม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วนะคะ น่าจะแนวนี้นะคะ

    เอเลนน่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกก ฮ์อออออออออออออออ ดูท่าจะดราม่ายาวววววววววววววววว คุณรีไวจะเอาไงล่ะนั้นถ้ารู้ ว่าสุดท้ายแล้วเอเลนเป็นลูกของคนที่ทำให้ชีวิตตัวเอง....มาเป็นแบบนี้ ฮืออออออออออ

    ตอบลบ
  4. อรั้ย มาแล้ว!!!

    ชอบฉากบรรยายบรรยากาศข้างทางอะค่ะ เห็นภาพชัดเจนเลย ทำให้รู้อีกด้วยว่า รีไวล์กับหนูก๊กที่ดูเย็นชานิ่งเฉยแบบนี้นี่มันเพราะอะไร ทั้งสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าถูกเผา แล้วยังจะต้องมาใช้ชีวิตอยู่แบบนั้นอีก TT

    ...อ่านแล้วสะเทือนใจกับเฮียรีไวขามาก จากคนเย็นชาตาขวางกลายเป็นเริ่มแสดงความรู้สึกออกมาบ้าง ชอบมากเลยไอฉากที่เรียกชื่อเอเลนไม่หยุดแล้วก้มลงไปจูบหน้าผากเนี่ย เอเลน ฟื้นขึ้นมาเร็ว ๆ นะลูก หายไว ๆ น๊า TT

    ตอนที่รีไวล์บอกเอเลนให้มองชั้นนะเนี่ย เป็นอะไรที่แบบ อร้างงง ฟินสุด ๆ คือประมาณว่า "เชื่อใจผมนะที่รัก คุณจะต้องปลอดภัย" คำพูดนี้มันลอยเข้ามาในหัวเลยอะ (((>///<)))

    แต่ดูเหมือนคุณว่าที่พ่อตาจะมีปัญหากับลูกเขยตาขวางในอนาคตซะแล้วสิ อย่าบอกนะว่าจะเอาไปลงที่หนูเอเลนในตอนหลังอะ อรั้ยยย ชะรอยว่าคู่รองจะเคลียร์กันได้ก่อนซะแล้ว ...แต่จะใช่อย่างนั้นรึเปล่าคงต้องรอดูกันต่อไป อิอิ

    ชอบฉากวายุคนสวยขับรถไล่บี้พวกอันธพาลอะ เป็นอะไรที่สะใจมากเลย เข้ากับตัวหนูก๊กมาก คือเป็นสายลมพัดฉิวจริง ๆ อะ แล้วก็ยิ่งสะใจมากขึ้นกว่าเดิมตอนที่พ่อตัวเนียนตัดมือไอหัวโจกฉับ ๆ ...มาเงียบ ๆ แต่ก็เริ่มจะมีบทบาทบ้างแล้วสินะเนียนเนี่ย 555

    แล้วก็นะ ทั่นฮิออกโรง?? ได้เงียบมากขอบอก 555 แอบนั่งรอมาตั้งนาน แต่พ่อหัวสับปะรั่วนี่มันยังไง ไม่ได้กล่าวถึงมาก่อนแต่มาออกตัวอยู่ข้าง ๆ ทูน่าน้อยอย่างนั้นน่ะ // แอบจิ้น 6927 ณ เวลานี้ >_<

    สู้ ๆ นะคะพี่กวาง >_<

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ1 ตุลาคม 2556 เวลา 11:20

    กลิ่นดราม่ามาแต่ไกลเลยค่ะเมื่อทางฝั่งวองโกเล่แก้ปมแล้วไปจ๊ะเอ๋กับพ่อของเอเลน
    ถ้างานนี้เฮย์โจวรู้ความจริงแล้วจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือมั้ยคะนี่
    แววดราม่าใกล้เข้ามาจริงๆอ่ะ #แต่ไม่เป็นไรแนวนี้ยิ่งชอบ
    แต่ฉากขับรถชิวตัวเจ้าสาวของเฮย์โจวนี่ก๊าวใจแบบจริงจังค่าา
    มองเห็นภาพเลย ยิ่งตอนที่เอเลนเลือดอาบแล้วเฮย์โจวกอดเอาไว้แล้วก็พร่ำเรียกชื่อไปด้วย
    มันแบบ .. เจ็บปวดใจไปด้วยจริง T^T

    สู้ๆนะคะ ขอบคุณที่ปั่นฟิคสนุกๆและก็ดีๆแบบนี้มาให้อ่าน
    ฟินนนนนนนนนนนนน !!!

    ตอบลบ
  6. รีไว เท่มากให้ตายเต๊อะ!!!

    ตอนที่เรียกชื่อเอเลนครั้งแรก น้ำตาแทบจะหยดแหมะๆ แทนเอเลน โฮกก
    แล้วยิ่งตอนที่ไอ้หนูหัวแตก แล้วพี่แกกอดเอาไว้แล้วเรียกชื่อ แม่ยกเจ็บปวดหัวใจตาม ฮรื้ออ

    ฮายาโตะ คนนี่ก็เป็นพายุคลั่งตลอดเวลา ชอบตอนขับบีเอ็มไล่บี้ไอ้พวกนั้น
    แล้วก็ยามะมาเฟียหวงเมียที่ไปฟันแขนไอ้เลวนั้นขาด สะใจเว่อร์! ชอบยามะลุกนี้ๆ

    วองโกเล่ไม่มีเอี่ยว แต่ไหงมีชื่อพ่อเอเลนมาเอี่ยวด้วยเนี่ย
    ลองจินตนาการแล้ว ถ้าความจริงเผยออกมาแล้วคงเจ็บปวดสุดขั้วแน่ T_T
    ยิ่งพี่กวางขึ้นสถานะว่า Romantic Drama อะ...โอเค เห็นตั้งแต่แรกแล้วแต่ก็ยังอ่าน
    นี่อาจจะมีปมให้ดราม่ามากกว่านี้อีกหรือเปล่า?

    รอตอนหน้านะคะ เป็นกำลังใจพี่กวาง สู้ๆ ^^//

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ1 ตุลาคม 2556 เวลา 19:45

    กรี๊ดดดดดด เริ่มแอ็คชั่นรุนแรง อิฉันชอบดาร์คเนียนมาก ที่เด็ดสุดคือที่เรียกรีไวว่าเป็นคุณพ่อของโกคุเดระนี่แหละ

    สึนะมาน้อยๆ แต่มาทีไรฟินมาก ชอบตรงที่ว่ามือเล็กๆซึ่งยิ่งใหญ่กว่าใครในดินแดนมาเฟียของอิตาลี แหม มีทั้งสัปป้ามีทั้งท่านฮิคอยดูแล แถมพ่อเนียนอีกคน ใครกล้ามาแหยมสิ

    ส่วนรีไวกับเอเลนและพ่อของเอเลน อันนี้ท่าจะดราม่ายืดยาว รออ่านต่อนะคะ

    ตอบลบ
  8. มาซะที......เข้ามาดูทุกวันวันละสองเวลาเลยนะฮะเนี่ย
    และในที่สุดพี่ก็มาอัพ555555555555555555555555

    เฮย์โจวนี่แบบเพื่อเอเลนมากกกกกกกกกกกกก
    เป็นอะไรที่มันช่างฟินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
    ทั้งแว้นโฉบตัวเจ้าสาว ไหนยังช่วยกันระเบิดให้อีก...
    ถึงสุดท้ายเอเลนจะเจ็บหนัก แต่ช็อตที่เฮย์โจวเรียกชื่อแล้วก็กอดไว้แน่นนี่มัน......โอ้ยกิ้วก๊าวหัวใจดีจัง
    (ได้ข่าวว่าเอเลนเจ็บหนักนะ//แว่วเสียงลึกลับ.....มะเป็นไรหรอก...เคะเมนหลักของเรื่องไม่เป็นไรมากหรอก....มั้ง?)
    อย่าเป็นไรนะลูกกกก เอเลนนนนนนนนนน

    ก๊กคุงก็แว๊วซะ.......ร่วมด้วยช่วยกันเหงื่อตกกับยามะ........รถคงไม่ต้องซ้อมแล้วล่ะ...ซื้อใหม่ดีกว่า....โอ้ยหัวใจจะวายเพียงแค่คิดว่ารถราคาแพงมันมีรอย
    ฮาที่ยามะเรียกรีไวว่าคุณพ่อ
    แล้วที่สึนะคาดการณ์ว่ายามะคงได้เลือดตากระเด็นแน่กับพ่อตามหาโหด55555555

    ของแทรก...อย่างคู่182769ได้ไหม? โอ้ยยยยยยมัน...มัน..มัน......//ตะกายกำแพง
    ป๋าเอเลนมีเอี่ยวด้วย?!!!! หวังว่านี่คงไม่ทำให้เกิดดราม่าหน่วงหัวใจตอนหลังนะ

    โอ้ยยยยยยยยย รีไวเอเลนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
    โบกป้ายไฟเชียร์สุดใจขาดดิ้นเลนคร้าบบบบบบบบบบบบ

    เอาตอนต่อไปมานะพี่กวางงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง//ตะกายรั่วบ้านพี่กวาง<<<<<ท่าทางจะอาการหนัก

    ตอบลบ
  9. ไม่ระบุชื่อ2 ตุลาคม 2556 เวลา 01:00

    หลังจากที่เกาะจอคอยมาหลายวัน ตอนที่หกก็มาแบบกระชากใจสุดๆ
    อยากจะสครีมให้โลกรู้ว่าลูกชายหนูหัวแตก!!
    โอ้วววววววววววววววว วันนี้ที่รอคอยมาถึงแล้ว เฮย์โจวกำลังจะเสียน้ำตาให้ไอ้หนูของเราแล้วใช่มั้ย? // โดนเสียบ
    ตอนแรกนึกว่าเฮย์โจวจะเป็นฝ่ายเจ็บหนักซะอีก แต่ก็ดีแล้ว เอเลนต้องสำออยมากๆเฮย์โจวจะได้รักและเอ็นดู กร้ากกกกกกกกกกก // โดนเสียบรอบสอง
    ทูน่า!! มายก้อดดดด นี่จะขนมาหมดแก๊งเรยชิมิ จะได้เตรียจิ้น
    เฟลนิดส์นุง หนูก๊ก!! ทำไมไม่มุ้งมิ้งกะไอ้หนูเราหน่อยง่าาาาาาาา // วิ่งกลับไปอ่านตอนที่แล้ว
    ไททันตอนที่ 25 อ้ากกกกกกกกกกกกกกก ไม่นะๆๆๆๆๆๆๆ อย่าเพิ่งจบเด้ แล้วหนูจะเอาไรดู ToT
    แต่แล้วพระเอกก็มาปลอบใจ.....ฉากนี้ ฉากนี้มังงะไม่มีจริงๆด้วย มาได้ไง กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซ รักเฮย์โจวที่สุดเลย // สติล่องลอย.......

    ตอบลบ
  10. ฮืออออ ไม่รู้ว่าจะสครีมเป็นภาษาไหนถึงจะเท่ากับความรู้สึกคลั่งไคล้ต่อฟิคกวางซามะที่มี..... #

    โปรยดอกไม้โปรยดอกไม้ #โดนท่อนขาที่เคารพเสยเพราะทำพื้นสกปรก(?) #แต่เค้าเสพย์ติดฟิค

    กวางซามะจริงจังอ้าาา > _ <

    เค้าไม่เคยผิดหวังในการอ่านฟิคของกวางซามะเลยสักครั้งจริงจัง
    ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหนกวางซามะสามารถทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่ตรงนั้น(?)ได้จริงๆเลย
    บรรยายดีมากจริงๆนะคะ เค้าประทับใจ ฮืออออ
    ตอนที่แล้วว่าลุ้นแล้ว ลุ้นว่าเอเลนจะเป็นยังไง จะเกิดอะไรขึ้น
    แต่พาร์ทนี้บอกตรงๆว่าลุ้นมันทุกประโยค!!!! อ่านแล้วได้อารมณ์ตัวเองกลิ้งโท่โล่(?)ไปมาอยู่เบาะ

    หลังBMWด้วยความเร็วราวพายุหมุนของการเหยียบคันเร่งของคนสวยที่ปนไปด้วยความวิตก

    กังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับผู้ปกครอง #เดี๋ยวๆ #รู้สึกจะมโนหนัก 555555

    พาร์ทนี้ใจมันไม่สงบเลยจริงจัง เป็นการแอบอ่าน(?)ด้วยใบหน้าที่เครียดสุดๆ
    เครียดจนเพื่อนมาสะกิด(?)ถามว่าไอ้กองงานโปรเจคที่เอ็งกองไว้เต็มโต๊ะ[เพื่อบังการกระทำอันแสน

    อุกอาจ(?)อย่างการอ่านฟิคในเวลางาน]มันกำลังล้มเหลว(?)งั้นหรือออ 555555
    แต่ถึงพาร์ทนี้จะพาใจไม่สงบจนว้าวุ่น(?)
    แต่ว่า.....ถ้ามันทำให้เฮย์โจวเข้าใจความรู้สึกตัวเองขึ้นมาได้แบบนี้มันฟินมากกกจริงจัง
    โอ่ยยยฟินจริงจังนะคะ ในระหว่างที่ขับรถมาด้วยความเร็วสูง
    แต่ในหัวกลับเอาแต่หาเหตุผลให้กับการกระทำของตัวเองแบบนั้น มันจะโฮกฮากกไปแล้วว
    แถมยังตัดพ้อ(?)ว่าไม่คู่ควรอีก เฮย์โจวตัดพ้อ(?)แม่เจ้าาาา(?) จะดาเมจไปไหนนนนน > __ <
    แล้วไอ้ที่บอกว่าไม่อาจยื่นมือไปจับมือของคนแสนบริสุทธิ์.....
    ได้ข่าวพ่อคุณจับไปทั่ว(?)แล้วไม่ใช่เร๊อะะะะะ > //// [ ] //// <

    จริงที่ว่าโลกใบนี้มันโหดร้าย....
    โหดร้ายมาก....แม้กระทั่งท่อนขาก็ไม่มีขายแยก(?) #รู้สึกจะไม่ใช่ประเด็นอย่างสิ้นเชิง 5555555

    และก็อยากบอกกวางซามะมากว่า พาร์ทนี้ลงไปดิ้นตายแล้ว
    เฮย์โจวเท่โฮกกกกกกกกกกกกกกกกก มาเพื่อจะชนะเท่านั้น!!
    #พ่อคุณชนะตั้งแต่เริ่มเรื่อง(?)แล้วขอบอก 5555555
    แล้วที่ขอคุยกับเอเลนก่อนแข่งเนี่ยยยยย มันทั้งระทวย(?)และละลายยยยย!!!!(?)
    ใจเต้นตึกตักเลยจริงจังอ่ะ ที่เรียกชื่อเอเลน.....
    คืออ่านฟิค แต่ทำไมเสียงพ่อคุณดังก้องในหัวได้ขนาดนี้ฟ่ะ!!!!! อ๊ากกกกกก
    แล้วบอกให้มองแต่สามีเท่านั้นแบบนี้อีกกกก แม่เจ้าาาาา
    การจับตัวภรรยาไปผูกกับเสา(?) ทำให้สามีตะบะแตก(?)
    #บอกตรงๆว่า ณ จุดนี้ โคตรฟาเธอร์มาเธอร์(?)ดีใจที่ตัวเองชื่อ เสา (?) 555555555
    #มันเอาแม้กระทั่งเสาเว้ยเฮ้ยยย!!!!!
    แล้วที่บรรยายตอนแข่ง F LINE บอกตรงๆว่าตาเอาแต่จ้องทุกตัวอักษรจนลืมกระพริบตา
    เพราะกระพริบอีกทีเจ็บมากอ่ะ (มันคือความไร้สติของคนอ่าน - _ -)
    แต่ลืมบรรยากาศรอบนอกจริงจัง ลืมไปแล้วว่าแกกำลังการอุกอาจ(?)อยู่
    ลืมจนเหมือนกับตัวเองกำลังตบตีเบาะฝั่งยามะ(?)ว่าลงไปเคลียร์พื้นที่เด๊ะ~~~~
    คนสวยเขาขับลำบากกกกก เดี๋ยวไปไม่ทันโฟ้ยยย 5555555 #มันยังจะพยายามมโน

    แล้วการเรียกชื่อเอเลนที่ไม่ยอมเรียกมาตลอดแต่แรก
    ทำให้ต้องเรียกถี่ด้วยความรู้สึกบอบช้ำจนได้ T __ T
    เอเลนนนนน รีบๆตื่นมาโมเอ้(?)กับผ้าพันที่หัวเร็วเข้า > _ <
    #ช่วยเศร้าตามท่านท่อนขาที่เคารพนิดนึงเถอะ - _ -
    ฮือออออ แต่พลอตคู่นี้มัน โฮกฮากกกกกกกกก เฮย์โจวที่มุ่งมั่นกับการช่วยคนสำคัญ
    คนสำคัญที่ต่างไปจากหนูก๊ก (มันยังจะขอเอี่ยว 555) มันโฮกฮากมากจริงๆ
    เค้าชอบบบบบบบบบบบบ T ___ T เค้าอ่านวนนนนนนนนแล้ววนอีก.....

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. .......จริงๆพาร์ทนี้ชอบยามะมากๆเลยล่ะค่ะกวางซามะ #ได้ข่าวมันมีบทพูดอยู่สองประโยค 555555
      ไม่รู้สิ ถึงจะเป็นแค่บทบรรยายก็ตาม แต่เพราะพาร์ทนี้ความเครียดของเรา
      หายไปบางช่วงเพราะเหงื่อ(?)ที่หน้ายามะ 5555555555555
      เค้าขำจริงจังอ่ะ ที่บอกว่าไม่ต้องซ่อมรถแล้วซื้อไปเลยดีกว่า มันได้ใจมากๆ 5555555555
      ใจจริงนึกว่ายามะจะได้เนียน แต่พอเอาเข้าจริงๆสถานการณ์แบบนั้นคงไม่ใช่เวลา
      คนที่ตัวเองตกหลุมรักไปแล้วแบบไม่รู้ตัว กำลังวิตกแบบนั้นนี่เนอะ
      แถมรู้ใจภรรยา(?)ด้วย!!!!!! รู้ใจด้วยการไม่ขัดใจขัดอารมณ์ภรรยาเลยแม้แต่น้อย
      ทำเพียงแค่ปล่อยให้ภรรยาจัดการทุกอย่างกับรถที่ต้องซื้อใหม่(?)ตามต้องการ
      แม่เจ้าาาาา คู่นี้ฟินได้เอง(?)ตลอดดดด 555555
      แล้วที่สุดของที่สุดคือ!!!!!! แค่จับมือหนูก๊ก พ่อสมเนียนตัดมือทิ้งเลย!!!!!!!!
      อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก ถึงประโยคที่พูดต่อมาจะไม่ได้บอกว่า
      อย่ามาแตะต้องของของตัวเอง(?)ก็เถอะ
      แต่ถ้าไม่สำคัญกว่าใคร ไม่จริงจังกว่าใคร คงไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้ก็ได้นี่นะ
      #เซิ้งเงียบๆในใจ(?)ในระหว่างการกระทำอุกอาจ #ทรมานจริงจัง T _ T

      เค้าอยากอ่านต่อนะคะ เค้าอยากให้ยามะได้พูดอะไรกับก๊กบ้างจัง รอมุมมองความรู้สึกยามะและหนูก๊กอยู่น้าาา ถึงแม้ว่าจะฟินออกหน้าออกตาไปกับคู่เฮย์โจวเอเลนแล้วก็ตาม - _ -

      และท้ายๆเรื่องทำให้คิดถึง KHR มากกกกกกกจริงจัง
      มีท่านมุมาด้วยยย ท่านมุยังคงยียวนดั่งสายหมอกจริงจัง
      และแถมมาพร้อมกับข้อมูลที่น่าสนใจตลอดดดด ดราม่ามัน....กำลังจะเริ่มแล้วสินะ T ___ T

      เค้าเป็นกำลังใจให้กวางซามะเสมอน้าาาา
      ให้กำลังใจอยู่ห่างๆเสมอเลยยย :D

      ลบ
    2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

      ลบ
    3. (บางสิ่งบางอย่าง(?)บอกให้ย้อนกลับมาดูคอมเม้นท์ของตัวเองที่ไม่เคยเป็นผู้เป็นคน และ....
      เรียงความวันแม่(?)ท่อนแรก(?)ก็หายไปจริงๆด้วย T __ T
      ดีนะเค้าสครีมใส่ Note Pad ถึงขั้นเซฟ(?)กลัวหาย(?) ไม่ได้ถามมเขาเลยว่าเขาอยากได้ไหมน่ะหืออออ T __ T)

      [[[[องก์หนึ่งจุดหนึ่ง]]]] << _ <

      เค้าไม่เคยผิดหวังในการอ่านฟิคของกวางซามะเลยสักครั้งจริงจัง
      ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหนกวางซามะสามารถทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่ตรงนั้น(?)ได้จริงๆเลย
      บรรยายดีมากจริงๆนะคะ เค้าประทับใจ ฮืออออ
      ตอนที่แล้วว่าลุ้นแล้ว ลุ้นว่าเอเลนจะเป็นยังไง จะเกิดอะไรขึ้น
      แต่พาร์ทนี้บอกตรงๆว่าลุ้นมันทุกประโยค!!!! อ่านแล้วได้อารมณ์ตัวเองกลิ้งโท่โล่(?)ไปมาอยู่เบาะหลังBMWด้วยความเร็วราวพายุหมุนของการเหยียบคันเร่งของคนสวยที่ปนไปด้วยความวิตกกังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับผู้ปกครอง #เดี๋ยวๆ #รู้สึกจะมโนหนัก 555555

      พาร์ทนี้ใจมันไม่สงบเลยจริงจัง เป็นการแอบอ่าน(?)ด้วยใบหน้าที่เครียดสุดๆ
      เครียดจนเพื่อนมาสะกิด(?)ถามว่าไอ้กองงานโปรเจคที่เอ็งกองไว้เต็มโต๊ะ[เพื่อบังการกระทำอันแสน

      อุกอาจ(?)อย่างการอ่านฟิคในเวลางาน]มันกำลังล้มเหลว(?)งั้นหรือออ 555555
      แต่ถึงพาร์ทนี้จะพาใจไม่สงบจนว้าวุ่น(?)
      แต่ว่า.....ถ้ามันทำให้เฮย์โจวเข้าใจความรู้สึกตัวเองขึ้นมาได้แบบนี้มันฟินมากกกจริงจัง
      โอ่ยยยฟินจริงจังนะคะ ในระหว่างที่ขับรถมาด้วยความเร็วสูง
      แต่ในหัวกลับเอาแต่หาเหตุผลให้กับการกระทำของตัวเองแบบนั้น มันจะโฮกฮากกไปแล้วว
      แถมยังตัดพ้อ(?)ว่าไม่คู่ควรอีก เฮย์โจวตัดพ้อ(?)แม่เจ้าาาา(?) จะดาเมจไปไหนนนนน > __ <
      แล้วไอ้ที่บอกว่าไม่อาจยื่นมือไปจับมือของคนแสนบริสุทธิ์.....
      ได้ข่าวพ่อคุณจับไปทั่ว(?)แล้วไม่ใช่เร๊อะะะะะ > //// [ ] //// <

      จริงที่ว่าโลกใบนี้มันโหดร้าย....
      โหดร้ายมาก....แม้กระทั่งท่อนขาก็ไม่มีขายแยก(?) #รู้สึกจะไม่ใช่ประเด็นอย่างสิ้นเชิง 5555555

      [[[[จบองก์หนึ่งจุดหนึ่ง]]]]

      ลบ
    4. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

      ลบ
  11. ไม่ระบุชื่อ2 ตุลาคม 2556 เวลา 04:17

    เย้!!!!(เพิ่งว่าง)แววดรามา่เริ่มคืบคลานเข้ามาใกล้ทุกทีๆม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!
    มันต้องมีซัมทิงวร็องงงง!!!!! ป๋าคริชาแกต้องไม่ใช่คนไม่ดีแน่ๆๆๆๆ(ภาวนาในใจ) คนอื่นสครีมกันซะจนไม่รู้จะสครีมอะไร = = ดาเมจแต่ล่ะอย่างมันช่างรุนแรง รวดร้าวเสียเหลือเกินนนนนน

    เฮย์โจวรู้ใจตัวเองชัดเจนแล้วช่างน่าดีใจยิ่งนัก T___T ยังต้องมานั่งเศร้าซึมเพราะนู๋เอเลนอีก ตื่นมาซร้าาาาา!!!!
    ได้โปรดตื่นมาให้คุณพี่สารภาพความในใจเดี๋ยวเน้!!!(เดี๋ยวๆๆ) พระเอกก็ต้องแบบนี้ล่ะเน้อ เค้าว่าความรักที่ไร้อุปสรรคมันไม่ใช่ความรักที่แท้จริงหรอกเน่อ ดราม่าบ้างอะไรบ้างพอให้ฝนตกแล้วคอยสายรุ้งเมื่อฟ้ากระจ่างมันชวนให้ซาบซึ้งกว่าเยอะ
    จากตอนที่แล้ว นู๋โกคุจิ(ตั้งเอง//ซะงั้น)น่ารักง่าาาาาาาา!!!! โมเมนต์เล็กๆที่น่ารักมากมายยยย//ตายๆๆ
    ป๋าคริชาใหญ่(?)ขนาดนั้นเชียว มิน่าเอเลนบอกให้ไปเคลียร์กะพ่อ5555+

    วองโกเล่ยังคงสืบต่อไป(สายออลทูน่าพากันฟิน)แม้จะไม่ปวดตับเท่าอนิเมแต่ดูท่าคงจะปวดใจยิ่งกว่าเยอะ ดีแล้วล่ะๆไม่ง่ายเกินไปก็ดีจะได้เดาเรื่องไม่ถูกแล้วมีอะไรให้ลุ้นไปอีกนาน เริ่มอินไปกับอิตาลีอ่านไปฟินไปแถมยังได้ความรู้(??)

    เข้าใจฟีลของเฮย์โจวนะ เพราะรักเลยไม่อยากให้ต้องมาลำบากด้วยกัน อยากรู้นักว่าเส้นทางมันจะบรรจบกันได้ยังไง ดูเหมือนจะเดินกันอยู่คนล่ะโลกเลย เชื่อใจในความดื้อด้านของเอเลนว่าต้องดั้นด้นมายืนเคียงข้างกันแน่ๆถ้าเกิดรู้ความในใจของเฮย์โจวขึ้นมา มันต้องเป็นอะไรที่น่าประทับใจ(ล่ะมั้ง)แน่ๆเบย(เพ้อพกไปไกล)

    เอาเถอะๆจะตั้งหน้าตั้งตารอ และจะเป็นกำลังใจให้เสมอๆคร่าาาาาาาา!!!!!

    ตอบลบ
  12. ตอนนี้ฟินมากๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ คุณกวางแต่งเก่งมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    เราอ่านแล้วอินจนเหมือนอยู่ในเหตุการณ์เลย โดยเฉพาะการแข่งรถชิงตัวเอเลนนั่น มันเป็นอะไรที่เจ๋งมากๆ
    เฮย์โจวเท่สุดๆเลยค่ะ
    แล้วตอนนี้เฮย์โจวก็เริ่มรู้ใจตัวเองแล้ว เอเลนก็ยอมยกหัวใจให้ แต่ดันมาสลบไปซะอีก แถมพ่อเอเลนยังมีซัมติง
    โหยยยยยยยยยยยย กระชากใจสุดๆ เอาตอนต่อไปมานะคะะะะะะะะ >_____________<

    ยามะ -.,- เอ็งกลัวเรื่องค่าซ้อมรถเรอะ ขำอ่ะ อีตาเนียน
    เอ็งคิดอะไร๊!?!!!!! เขาหน้าสิ่วหน้าขวานกันอยู่ เอ็งมัวคิดค่าซ้อมรถกับซื้อรถใหม่
    "เป็นแฟนก๊กต้องอดทน รถพุ่งชน(คนอื่น)ต้องไม่เสียดาย" ฮ่าๆๆ
    แล้วอะไรคือ โกคุเดระกับคุณพ่อ //ตอนแรกเราเข้าใจว่าเป็นพ่อจริงๆของก๊กซะอีกค่ะ
    จนสึนะมีรอยยิ้มน้อยๆขึ้นมานั่นแหละค่ะ ถึงบางอ้อเลย
    เนียน เลือดตากระเด็นแน่ๆเอ็ง สู้เขานะ
    ก๊๊กทั้งสวย ทั้งเริศ ทั้งเก่ง ทั้งเร้าใจ(?)ขนาดนี้ เอามาเป็นของตัวเอง(?)ให้ได้นะ #ผิดดดดดดดดด

    ก๊กก็เด็ดมาก มองหาแต่ผู้ปกครอง พออาละวาดเสร็จก็ซิ่งไปช่วยคุณพ่อ(ตาของเนียน?)กับคุณแม่(ในอนาคต?)เลย
    ทิ้งบักเนียนให้จัดการต่อ นึกว่าจะมีซีนให้ได้อิ๊อ๊ะซะอีก //แค่นี้ก็ฟินแล้ว >w< เนียนผู้ทำตามความต้องการของก๊กเสมอๆ
    แล้วก็เนียน เอ็งทำให้ใบหน้าสวยเปื้อนเลือด เคลียอะไรๆเสร็จแล้ว อย่าลืมมาเช็ดทำความสะอาดให้ด้วยนะ อิ_______อิ

    มุคุยังคงมาพร้อมข้อมูลตลอดๆ ไม่ได้ทำเพื่อคุณอะไร ก็ช่วยอยู่ไม่ใช่เรอะ แหมมมมมม~
    ดราม่าเริ่มซับซ้อนมากขึ้นอีกแล้ว
    รอติดตามตอนต่อไปนะคะ สู้ๆค่ะ

    ปล.เรารอฟิคคุณกวางมากกว่ารอสปอยด์วันพีชอีกค่ะ หุหุ ตอนนี้ติดฟิคคุณกวางมากกว่าการ์ตูนที่อ่านทั้งหมดเลย

    ตอบลบ
  13. ไม่ระบุชื่อ4 ตุลาคม 2556 เวลา 12:28

    ตอนนี้รีไวล์เท่ห์มาก กดดันทั้งทางรีไวล์และทางเอเลน สื่อออกมาแบบลุ้นระทึกกับฉากแข่งรถใต้ดินมากๆค่ะ

    กลิ่นไอความดราม่าคุกกรุ่นแล้ว ไม่นะเอเลน พึ่งจะรักกันแท้ๆ อย่าบอกว่า จะกลายเป็นจำเลยรัก


    โธ่ๆ หนูเอเลนแสนซื่อ ไม่อยากมโนเลยว่าจะรวดร้าวทุกข์ระทมแค่ไหน


    ชอบตอนที่โกคุอยู่กับเอเลนมากค่ะ เหมือนวันเด็กที่ขาดหายไปกลับมาอีกครั้ง

    น่ารักเหมือนพี่น้อง อีกอย่างก็วัยเดียวกันอีก


    ชอบฟิคเรื่องนี้มากอ่ะ พอๆกับแสงสว่างเลย แบบฟิลมันแหวกแนว เนื้อหาตอนหวานก็เขินน ตอนกดดันก็ระทึกสุดๆอีก

    ฟินมากอ่ะ ขออนุญาติวาดแฟนอาร์ตนะคะ ฟินจนทนไม่ไหวแล้ว

    http://s49.photobucket.com/user/blood_hana/media/glide_zpsde63b625.jpg.html


    หนูก๊กกับเอเลน

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ขอบคุณมากๆๆๆค่ะ blood_hanaซัง หนูก๊กกับเอเลนโมเอ้สุดจะทานทนมากๆๆเลยค่ะ โฮววววววว น่าร้ากกกกกก >////< เปิดเข้าไปรังสีโมเอ้แผ่ออกมาจนเอามือบังหน้าแทบไม่ทัน อ้าาาา มี๊จะไม่ทน >////<

      ขอบคุณมากๆๆๆเลยนะคะ ดีใจมากๆๆๆเลยค่ะ ปลื้มจนจะลอยออกนอกระบบสุริยะแล้วค่ะ โฮวววววว ในที่สุดก็ได้เห็นภาพก๊กกับเอเลนคู่กัน >/////<

      อร๊ากกกกก ลงไปกลิ้งกลุกๆๆอยู่ที่พื้น >/////< ท่านบลัดทำให้เก๊ากลับดาวโลกไม่ถูกแล้วเนี่ยค่ะ ดีใจ แอร๊ยยย

      ลบ
  14. กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
    รีไวล์เท่มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
    "มองแต่ชั้นเท่านั้น"
    ขนาดไม่ใช่เอเลนก็ฟินค่ะท่าน
    ฉากแข่งมอเตอร์ไซค์สุดยอดมาก
    ลุ้นตื่นตาตื่นใจมาก

    เอาแล้วไง
    อยากริิอาจแตะต้องก๊กเรอะ
    เป็นไงล่ะ
    เจอเนียนดาร์กลงดาบเข้าไป
    เงิบไปดิ่
    จะได้รุ้ซะมั่งว่าเด็กใคร
    แอบขำเนียนเล็กๆที่เรียกรีไวล์ว่า "คุณพ่อ"
    คือมั่นหน้ามากกกกกก

    ข้าสัมผัสได้ถึงความดราม่า
    วองโกเล่ไปสืบรู้อะไรมา
    ทำไมพ่อของเอเลนถึงมีเอี่ยว
    แล้วรีไวล์จะทำเช่นไร
    ถ้าอยากรู้ก็จงตามต่อไปซะ//คุณกวางไม่ได้กล่าวไว้

    ตอบลบ