KHRfeat.PP
Au.Fic [8059, KouGino] Juunana Sai ; 17ฝน : 03
Happy
Birthday GOKUDERA HAYATO 09/09 fanfiction.
:
KHR feat.Psycho Pass
Fanfiction AU.
:
8059 KouGino
:
Psycho Period Dark Romance
:
NC-17
คำเตือน :
เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย
หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
: เนื้อเรื่องต่อไปนี้ทำลายคาแรกเตอร์ค่อนข้างรุนแรง
หากรับไม่ได้ที่ตัวละครจะ “ไม่ปกติ” อย่าเข้ามาอ่านนะคะ
แสงจากตะเกียงยังคงสาดส่องไปทั่วเนินของศาลเจ้าอยู่ทั้งคืน
จากที่มีเพียงแค่คนงานของบ้านโกคุเดระ
ไม่นานคนในหมู่บ้านที่รู้ต่างออกมาช่วยกันค้นหาอย่างที่เรียกได้ว่าปูพรมมันทุกตารางนิ้ว
ทว่า...
ก็ยังหาตัวชายผู้น่าสงสัยคนนั้นไม่พบ
คงจะหนีไปตั้งแต่ตอนที่เขาไปเจอเข้าละมั้ง
เพราะถ้านับเวลาในช่วงที่เขารอยามาโมโตะกลับมาจากโรงเรียน
มันก็มากพอที่จะให้ใครสักคนเล็ดลอดออกไปจากหมู่บ้านที่ไม่มีขอบเขตนี้ได้
แต่เพราะแบบนั้นข้อสันนิษฐานของเขาที่ว่าอาจจะเป็นคนในหมู่บ้านที่ถูกจับไปขังเอาไว้มันจึงตกไป
เพราะไม่เห็นมีชาวบ้านคนไหนแสดงท่าทางมีพิรุธออกมาให้เห็นว่าเป็นคนของบ้านตัวเอง
ทางที่จะเป็นไปได้ก็คือคนร้ายหนีคดี
ไม่ก็โจร...
ยามาโมโตะกลับมานอนตอนใกล้จะสว่างเต็มที
และเพราะแบบนั้นใบหน้าคมในวันนี้จึงง่วงงาวหาวนอนไม่เริงร่าเหมือนทุกๆวัน
และมันก็คงจะเป็นสาเหตุให้กล่องข้าวกลางวันที่ร่างสูงจะต้องเอาไปโรงเรียนด้วยยังคงตั้งอยู่ตรงนี้...
เขาเดินเข้าไปในห้องรับประทานอาหารทันเห็นคาเอเดะกำลังทำหน้าครุ่นคิดว่าจะทำยังไงดีกับข้าวกล่องๆนี้
ปกติยามาโมโตะไม่เคยลืมเอาไว้แต่เมื่อคืนไม่ได้นอนก็คงจะมีอาการเบลอๆกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา
แต่เขากลับคิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก
ในเมื่อเด็กหนุ่มมีข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์อยู่ทั้งคน...อย่างคิโชคงจะเต็มใจเอามันไปส่งให้ถึงโรงเรียน
ใบหน้าเรียวหันซ้ายแลขวามองหาชายผู้น่าหวาดผวาคนนั้น...แล้วเสียงโหวกเหวกที่ดังอยู่ในสวนด้านหลังก็ทำให้เขาเข้าใจทันทีว่าทำไมคาเอเดะจะต้องมายืนคิดมากอยู่แบบนี้
เขาเผลอยิ้มกับภาพที่เห็น...ชายผู้น่าสะพรึงกลัวกำลังปีนต้นพลับพร้อมกับเอื้อมมือออกไปเก็บผลของมัน
โดยมีร่างบอบบางยืนบงการอยู่ข้างล่าง
“
ไม่ใช่! ขวาอีกนิด” โกคุเดระ ฮายาโตะ
ชี้นิ้วสั่งชายที่ใครๆก็ไม่กล้าเข้าใกล้ ความเอาแต่ใจของเจ้าตัวทำเอาคนที่ดูโหดเหี้ยมกลายเป็นแค่ตาแก่ธรรมดาๆคนหนึ่งไปซะแบบนั้น
“
ลูกนี้?” ปลายนิ้วกร้านจิ้มไปที่ลูกพลับใกล้มือ
ก่อนจะขยับไปอีกลูกเมื่อคนข้างล่างบอกว่าไม่ใช่
“
นั่นแหละๆ เอาลงมาดีๆนะคิโช”
ร่างบอบบางกระโดดเหยงๆอยู่ข้างล่าง
สองมือเอื้อมไปรับลูกพลับลงมาอย่างประคับประคอง
“
เอาอีกไหมคุณหนู?”
คนที่ยังอยู่บนต้นไม้ถามลงมาอย่างว่าง่าย
“
เอาไว้ให้เจ้าบ้ายามาโมโตะอีกลูกก็แล้วกัน”
แล้วสองนายบ่าวก็เก็บลูกพลับกันต่อไป
เห็นแบบนั้นก็พอจะรู้แล้วละ
ว่าคิโชคงจะไม่สามารถเอากล่องข้าวกลางวันไปให้ยามาโมโตะได้...
“
หมอเอาไปให้ไหม? ว่าจะลองไปเดินดูร้านค้าในหมู่บ้านพอดี
อยากไปดูโรงเรียนด้วย”
เขาอาสากับหญิงวัยกลางคนที่ยังคิดไม่ตก
ใบหน้าสงบหันมามองเขาด้วยแววตาขอบคุณ
แล้วเขาก็เดินตามทางที่คาเอเดะบอกมาจนถึงหน้าโรงเรียนเพียงแห่งเดียวของหมู่บ้านจนได้...
โรงเรียนแห่งนี้มีขนาดปานกลาง
เท่าที่เขาดูจากภายนอกก็มีนักเรียนไม่ถึงกับมากแต่ก็ไม่น้อย
อาจจะเป็นเพราะมันมีตั้งแต่ชั้นประถมไปจนจบมัธยมเลยละมั้ง
ทำให้มีเด็กมากกว่าที่เขาคาดเอาไว้
เด็กผู้ชายสวมชุดนักเรียนแบบกักกุรันสีดำสนิท
แต่เด็กผู้หญิงกลับยังให้ใส่กิโมโนอยู่ ถึงจะดูแปลกตาแต่ว่าก็ลงตัวดี
เรียวขาก้าวเดินเข้าไปในโรงเรียนที่ไม่ได้มีรั้วรอบขอบชิด
นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นพยายามมองหาร่างสูงที่คุ้นตา
ดูเหมือนเขาจะมาตอนที่นักเรียนเปลี่ยนคาบเรียนพอดี
ที่ระเบียงทางเดินของอาคารไม้จึงมีเด็กเดินกันเต็มไปหมด
และแล้วเขาก็หายามาโมโตะพบจนได้ ร่างสูงกำลังเดินจากอาคารไม้ไปยังแปลงเกษตรด้านหลัง
เวลาที่เด็กหนุ่มอยู่กับเพื่อนๆแบบนี้ทำเอาดูไม่รู้เลยว่านั่นคือนายใหญ่ของตระกูลโกคุเดระ
เพราะยามาโมโตะที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ก็คือเด็กหนุ่มธรรมดาๆที่เฮฮาอยู่กับเพื่อนๆเท่านั้นเอง
เห็นแบบนี้แล้วก็พาลนึกไปถึงเจ้าคนไข้ตัวดีของเขา...หาก
โกคุเดระ ฮายาโตะ ยังเรียนอยู่จะเป็นยังไงบ้างนะ?
กักกุรันอาจจะดูไม่ค่อยเข้าแต่ถ้าเป็นกิโมโนละก็ไม่แน่....
ในระหว่างที่เขากำลังจินตนาการพลางแอบหัวเราะอยู่คนเดียว
นัยน์ตาก็เหลือบไปเห็นเด็กผู้หญิงท่าทางเรียบร้อยคนหนึ่งหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่
สายตาของเธอมองตรงไปที่
ยามาโมโตะ ทาเคชิ ด้วยแววแน่วแน่
ชอบยามาโมโตะงั้นหรอ?
แต่ก็ไม่แปลกละ
ที่เด็กคนนั้นจะเนื้อหอม
รูปร่างหน้าตาก็จัดได้ว่าดีมากทีเดียว
อีกทั้งยังเป็นผู้นำของตระกูลที่มั่งคั่งที่สุดในหมู่บ้าน...จะมีสาวคนไหนไม่ใฝ่ฝันถึงกันบ้าง?
เขาเอากล่องข้าวไปส่งให้ก็เป็นอันว่าภารกิจที่ได้รับมาเสร็จสิ้นลง
สองขาจึงวกกลับไปเดินเล่นต่อที่ย่านร้านค้าซึ่งก็ไม่ได้หรูหราอลังการอย่างในเมือง
ที่นี่มีแค่ร้านขายของชำที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเพียงแค่นั้น...จะมีร้านขนมอยู่บ้างก็เพียงประปราย
มือยื่นไปรับสายไหมมาจากคนขาย
ประกายสีชมพูที่ดูน่ากินนั่นทำให้นึกถึงแก้มของคนที่เขาตั้งใจจะซื้อไปฝาก...ว่าแต่ป่านนี้จะเก็บลูกพลับเสร็จรึยังนะ?
และกว่าเขาจะกลับมาถึงบ้านได้
สายไหมก็ละลายไปนิดหน่อย
“
เห็นเค้าขายไม่หมดเลยซื้อมาฝากน่ะ” ปากพูดไปแบบนั้นทั้งๆที่ใจจริงตั้งใจซื้อมาให้ต่างหาก
เขายื่นสายไหมไปตรงหน้าร่างบอบบางที่นั่งอยู่หลังสมุดบัญชี โกคุเดระ
ฮายาโตะเงยขึ้นมามองด้วยแก้มป่องของใบหน้างอหงิก
“
ฮึ! คิดว่าจะจับชั้นฉีดยาด้วยการเอาขนมมาล่อรึไง? ใครมันจะโง่ไปติดกับ!!” พู่กันที่ใช้เขียนหนังสือถูกวางลงไปบนแท่นหมึกก่อนที่แขนบางจะยกขึ้นไปกอดอก
“
แต่ไหนๆก็ซื้อมาแล้ว เอามาสิ จะรับไว้ก็ได้”
ไอ้คำพูดคำจาอวดดีมันช่างเข้ากับใบหน้าเย่อหยิ่งนั่นจริงๆ
มือบางรับสายไหมไปด้วยดวงตาเป็นประกาย แล้วใบหน้าสวยก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้
มือบางอีกข้างจึงค่อยๆแกะไม้ที่พันสายไหมเอาไว้ออกเป็นสองอัน
“
เมื่อก่อนก็แบ่งกันกับน้องสาวแบบนี้”
เขามองไม้ที่พันสายไหมอย่างทึ่งๆ
เพราะตอนที่ถือมาไม่ได้สังเกตเลยว่ามันจะมีสองอัน...แสดงว่าคนขายคงจะรู้สินะว่าเขามาจากบ้านหลังนี้
จึงเผลอใส่ไม้มาให้สองอันตามความเคยชิน...
สายไหมครึ่งหนึ่งถูกยื่นกลับมาให้เขา...
“
อ๊ะ! แต่ว่าที่ให้นี่เพราะว่ามันละลายแล้วหรอกนะ” ก็จริงอย่างที่เจ้าคนไข้ตัวดีว่า
เพราะส่วนที่แบ่งให้เขามันคือส่วนที่ละลายอยู่นิดหน่อยนั่นแหละ
เขาได้แต่ลอบยิ้มกับความปากไม่ตรงกับใจของอีกฝ่าย...ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเด็กนี่ก็แค่อยากจะแบ่งสายไหมให้เขากินด้วยกัน...ทำไมเขาจะรู้ไม่ทัน
ในเมื่อเขาเองก็เคยทำมันมาก่อน
กับใครบางคนคนนั้น...
เขาดึงเข็มฉีดยาออกมาจากข้อพับแขนของ
โกคุเดระ ฮายาโตะ
ที่ยังนั่งละเลียดสายไหมด้วยใบหน้าเคลิบเคลิ้ม...ยาที่เขาฉีดให้เป็นยาบำรุงธรรมดาๆเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการรักษาอาการทางประสาทต่อไป
กล่องยาประจำตัวถูกปิดลง
ก่อนที่เขาจะนึกขึ้นมาได้ว่าน่าจะต้องนำแฟ้มประวัติคนไข้กลับไปคืนสถานีอนามัย
"
เดี๋ยวจะออกไปสถานีอนามัยนะ"
เขาเอ่ยบอกคนที่ยังนั่งเล็มสายไหมอยู่
"
อื้อ"
ใบหน้าราวกับตุ๊กตาตอบรับเบาๆ
เขาเดินออกจากบ้านอีกครั้งพร้อมแฟ้มประวัติคนไข้ในมือ
ว่าจะถามว่าฝาแฝดคนน้องชื่ออะไรก็ลืมไปเสียทุกที....
ร่างสูงโปร่งกลับมาถึงบ้านอีกครั้งตอนเย็นๆ
เพราะมัวเสียเวลาไปกับการจัดยาสามัญประจำบ้านที่คิดว่าเอามาติดบ้านไว้บ้างก็น่าจะดี
เรียวขาตั้งใจจะเลี้ยวเข้าประตูบ้านเหมือนทุกที
ทว่า
นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นเหลือบไปเห็นเงาวูบไหวอยู่หลังพุ่มไม้เข้าเสียก่อนจึงหยุดดูว่ามันคืออะไรกันแน่?
และหลังจากดูให้ดีๆ
แผ่นหลังเล็กบางของคนที่กำลังเอี้ยงๆมองๆเข้าไปในบ้านก็รู้สึกคุ้นตาอย่างน่าประหลาด...เด็กผู้หญิงท่าทางเรียบร้อยในชุดกิโมโนเหมือนที่เขาเห็นในโรงเรียนนี่มัน.....
เด็กที่แอบมองยามาโมโตะคนนั้น!
ตามมาถึงนี่เลยหรอ?
"
ขอโทษนะ มีอะไรกับคนในบ้านนี้หรือเปล่า?"
เขาเอ่ยถามแผ่นหลังของคนที่ยังแอบมองเข้าไปในบ้านจนไหล่บอบบางนั่นถึงกับสะดุ้งโหยง ใบหน้าเล็กแดงระเรื่อก่อนจะหันกลับมามองเขาด้วยท่าทางกล้าๆกลัวๆ
"
คะ คือว่า...."
เสียงแผ่วเบาพูดตะกุกตะกัก
"
มาหายามาโมโตะ?"
เขาเอ่ยออกไปเพราะคิดว่าเด็กสาวตรงหน้าคงจะไม่กล้าบอก
แต่ผิดคาดเมื่อใบหน้าเล็กส่ายไปมา
สายตาที่หวาดระแวงเหลือบมองรอบกายก่อนจะยอมกระซิบบอกกับเขาว่า
"
มาขอพบ...โกคุเดระคุงค่ะ" มาหา
โกคุเดระ ฮายาโตะ?
ทำไมกันล่ะ?
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ถามความสงสัยออกไป
เสียงเรียบของคาเอเดะก็เอ่ยแทรกเข้ามาเสียก่อน
"
ขอโทษนะคะ คุณหนูฮายาโตะไม่อยู่ค่ะ ไว้มาวันหลังแล้วกัน" หญิงวัยกลางคนยืนทำหน้านิ่งอยู่บนระเบียงทางเดินซึ่งมองเห็นได้จากประตูรั้วที่พวกเขายืนอยู่
สายตาที่เย็นเฉียบของคาเอเดะทำให้เด็กสาวถึงกับผวา
ร่างเล็กโค้งให้
ก่อนจะละล่ำละลักจากไป แต่ก่อนที่เด็กสาวจะหายไปจากตรงหน้าเขา
คำพูดหนึ่งซึ่งเอ่ยออกมาจากใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลของเด็กสาวก็ทำเอาเขาถึงกับงงงวย
“ คุณหมอคะ...ช่วยโกคุเดระคุงด้วยนะคะ...”
ช่วย?
เรื่องอะไรกันล่ะ?
เขาได้แต่มองตามแผ่นหลังเล็กนั่นไปพร้อมกับคำถามมากมายที่ติดอยู่ในใจ
"
ไม่ต้องไปสนใจเธอหรอกค่ะคุณหมอ"
เขาเดินเข้าไปหาคาเอเดะที่ยังยืนอยู่ที่เดิม นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นมองไปที่หญิงวัยกลางคนด้วยความสงสัยว่าทำไมต้องไปโกหกเด็กคนนั้นด้วย
ในเมื่ออย่าง โกคุเดระ ฮายาโตะ น่ะหรอจะไปไหนได้ ยังไงก็ต้องอยู่ในบ้านแน่นอน
"
เด็กคนนั้นก็แค่หนึ่งในผู้หญิงมากมายที่ชอบคุณยามาโมโตะ
และด้วยความที่คุณยามาโมโตะไม่เคยสนใจผู้หญิงที่ไหน ไม่เคยรับคำสารภาพรักจากใคร
เพราะต้องดูแลบ้าน ดูแลคุณหนูฮายาโตะ
ทำให้ผู้หญิงพวกนั้นพยายามทำทุกวิถีทางที่จะเข้ามาพบคุณหนูเพื่อบอกเรื่องนี้ให้รู้...ว่าคุณหนูไม่ควรจะยึดติดกับคุณยามาโมโตะและปล่อยเขาให้พวกเธอ"
เขาได้แต่ฟังสิ่งที่คาเอเดะพูดออกมาอยู่เงียบๆ
"
ทั้งๆที่พวกเธอก็น่าจะรู้...ว่าคุณหนูจะเป็นยังไงหากรู้เรื่องนี้...คุณหนูเธอเสียน้องสาวไปคนนึงแล้ว
หากต้องมาโดนแย่งพี่ชายอย่างคุณยามาโมโตะไปอีกคน เธอคงได้เสียสติจริงๆแน่...เพราะฉะนั้นพวกเราจึงปล่อยผู้หญิงพวกนั้นให้เข้ามาพบคุณหนูไม่ได้"
"
คุณหมอคะ....ขอร้องละค่ะ...ถ้าผู้หญิงคนนั้นมาอีกช่วยหาทางบ่ายเบี่ยงไปเสีย
อย่าให้เธอเข้าไปพบคุณหนูได้"
เขาได้แต่พยักหน้ารับคำไปด้วยความมึนงง
จะบอกว่าเด็กคนนั้นชอบยามาโมโตะ...แต่มาที่นี่โดยไม่พูดถึงยามาโมโตะสักคำ?
หลังจากเขาเห็นเงาที่น่าสะพรึงกลัวบนศาลเจ้า
เขาก็ไม่ได้ไปที่นั่นมาสองสามวัน
แต่มันก็ยากเกินไปที่จะห้ามใจไม่ให้หลงใหลบรรยากาศอันแสนสงบของที่นั่นได้
ตอนนี้เขาจึงมาด้อมๆมองๆอยู่แถวๆเชิงบันไดที่จะขึ้นไปยังศาลเจ้า
นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นหันซ้ายแลขวา
พยายามมองให้ทะลุเงาไม้ทุกเงาว่ามีใครซ่อนอยู่บ้างหรือเปล่า แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ขึ้นไปจนถึงศาลเจ้าได้โดยไม่พบใครสักคน
สงสัยว่าเจ้าของเงานั่นมันจะหนีไปจากที่นี่แล้ว?
จากนั้นมาอีกหลายวัน...เขาที่ไปยังศาลเจ้านั่น
ก็ยังคงไม่พบใครเหมือนเดิม
สายฝนโปรยปรายลงมาตั้งแต่ช่วงสายๆจนบ่ายแก่ๆมันก็ยังไม่หยุด
เพราะแบบนั้นวันนี้เขาจึงไม่ได้ออกไปไหน
ร่างบอบบางเจ้าของบ้านหลังนี้เองก็เช่นกัน
โกคุเดระ
ฮายาโตะ นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนพื้นเสื่อทาทามิของห้องเขียนหนังสือ ถึงแม้ว่าปกติเด็กนี่จะไม่ได้ออกจากบ้านแต่ก็ยังเดินไปเดินมาจากอาคารนู้นไปอาคารนี้
แต่พอฝนตกลงมา ก็เป็นอันว่าพวกเขาต่างถูกจำกัดเขตให้อยู่แต่ในเรือนฝั่งซ้ายไปโดยปริยาย
ดูเหมือนว่าเจ้าคนไข้หัวไวของเขาจะทำบัญชีของวันนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วถึงได้มานานแกร่วอยู่บนพื้นแบบนี้
เสียงของหยดน้ำที่ร่วงจากหลังคาตกลงมากระทบแผ่นไม้บนพื้นทำให้นึกถึงเสียงของเคนดามะ
ของเล่นซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่เด็กๆมาอย่างยาวนาน..แล้วก็ดูท่าว่าจะไม่ได้มีแต่เขาคนเดียวที่นึกถึง...ร่างบอบบางที่นอนคว่ำเกยคางเอาไว้กับหมอนใบเล็กเองก็กำลังขยับมือเหมือนเล่นเคนดามะในอากาศอยู่
"
เคนดามะ...ของชั้นเป็นสีแดง
ส่วนของน้องสาวเป็นสีชมพู...เมื่อก่อนเราอยู่ด้วยกันตลอด เล่นอะไรก็เล่นเหมือนกัน
เพราะงั้นของทุกอย่างจึงมีสองอัน...."
น้ำเสียงลอยๆเล่าออกมาเหมือนไม่ได้ตั้งใจ
"
อยากเล่นละสิ?" ใบหน้าสวยผงกขึ้นมาจากหมอนก่อนจะมองเขาอย่างนิ่งคิดไปนิดหนึ่ง
แล้วจึงเสหน้าไปอีกทาง
"
ไม่ได้อยากเล่นซักหน่อย แต่มือมันว่าง แล้วไอ้เสียงก๊อกๆนี่มันก็ชวนง่วงด้วยถ้าไม่หาอะไรทำ" อยากเล่นก็บอกมาเถอะ อ้อมไปเสียยืดยาว
เขาได้แต่มองร่างในกิโมโนที่ยังนอนคว่ำอยู่ใกล้ๆอย่างรู้ทัน
"
อยู่ที่ไหนล่ะ? เดี๋ยวไปหยิบให้"
"
ในห้องเก็บของ...ชั้นไม่ได้กลัวที่นั่นหรอกนะแค่มันมืด มองอะไรไม่เห็น" กลัวแน่ๆเลยอีแบบนี้
เขายิ้มออกมาเพราะรู้สึกว่าช่างเหมือนกับกำลังมองตัวเองในวัยเด็กจริงๆ
เขาลุกขึ้นมาก่อนจะเดินเลี้ยวไปตามระเบียงทางเดินที่มืดสลัวเพราะท้องฟ้าที่มืดมัว
ดูเหมือนคาเอเดะกับสาวใช้คนอื่นๆจะมีงานยุ่งในวันที่ฝนพรำแบบนี้ทำให้บ้านทั้งหลังแทบจะเหลือแค่เขากับโกคุเดระ
ฮายาโตะเพียงสองคน
ความกว้างใหญ่ผสมผสานกับความเงียบเหงาชวนให้เศร้าใจ
รวมทั้งประวัติความเป็นมาที่ไม่รู้ว่ามันผ่านความเป็นความตายของคนในตระกูลนี้มากี่รุ่น
ยิ่งชวนให้รู้สึกกดดันที่ปลายประสาท ...ไม่แปลกใจเลย...ที่คนซึ่งหัวใจสลายอย่างเด็กคนนั้นจะเป็นบ้าถ้ายังอยู่ในบ้านหลังนี้
เขาเปิดประตูห้องเก็บของเข้าไปอย่างไม่ได้คิดอะไร
ข้างในมันเป็นแค่ห้องโล่งๆซึ่งบานประตูตู้เก็บของถูกฝังผนังเอาไว้สองด้านซ้ายขวา
ทว่า
สิ่งที่สะดุดสายตาของเขาตั้งแต่ย่างเท้าเข้าไปก็คือผนังฝั่งตรงข้าม
มันเป็นผนังทึบที่กรุกระดาษสาสีแดงดั่งเลือดนก....และชุดเจ้าสาวสีขาวถูกแขวนอยู่กลางผนังนั่น...
จู่ๆขนก็ลุกชันขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ....
ทั้งๆที่กิโมโนเจ้าสาวนั้นขาวบริสุทธิ์...แต่ทำไมเขากลับรู้สึกว่า...มันคือชุดวิวาห์สีเลือด
ใบหน้าเรียวสะบัดไปมาไล่ความคิดในแง่ร้าย
ก่อนจะพยายามไม่สนใจชุดเจ้าสาวที่แขวนอยู่อย่างเดียวดายนั่น
สองขาก้าวเดินเข้าไปเปิดบานตู้เพื่อนค้นหาเคนดามะ จะได้รีบๆออกไปจากห้องนี้เสียที
ทว่า...
นัยน์ตาก็ต้องเบิกขึ้นมาอย่างสงสัยอีกครั้ง...
ทั้งๆที่
โกคุเดระ ฮายาโตะ เพิ่งจะบอกเขามาหยกๆ...ว่าของทุกอย่างต้องมีสองอัน...
แล้วทำไมสิ่งที่เขาเห็นอยู่ในตอนนี้...ไม่ว่าอะไรมันก็มีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น
จะบอกว่าทิ้งไปแล้ว?
แต่ว่ามันเป็นของน้องสาวฝาแฝดคนสำคัญไม่ใช่หรอ?
ถึงจะตายไปแล้วแต่โกคุเดระ ฮายาโตะ ก็น่าจะอยากเก็บของเอาไว้?
เขาหยิบเคนดามะออกมาก่อนจะเดินกลับไปยังห้องเขียนหนังสืออย่างพยายามไม่คิดอะไร...ถึงจะแปลกใจแต่มันก็มีความเป็นไปได้ที่ของของน้องสาวจะถูกทิ้งไปบ้างแล้วก็ได้
ร่างสูงโปร่งที่ตั้งใจจะเดินกลับไปหาคนไข้ในความดูแล
แต่เสียงพูดคุยที่ดังแว่วเข้ามาทำให้สองขากลับหยุดลงก่อนจะพยายามหาต้นเสียง
แผ่นหลังที่คุ้นตาของยามาโมโตะกำลังยืนคุยกับใครบางคนอยู่ที่โถงทางเข้าบ้าน
และเมื่อร่างสูงขยับกายวางกระเป๋าที่สะพายอยู่ลงบนพื้น เขาจึงได้เห็นว่าชายสองคนที่กำลังคุยกับเด็กหนุ่มคือตำรวจ
เกิดอะไรขึ้น?
บทสนทนาก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะเป็นความลับ
แต่เขากลับไม่ค่อยจะได้ยินเพราะถูกเสียงของสายฝนกลบไปจนหมด
ประโยคขาดๆหายๆทำเอาเขาเริ่มถอดใจ...เอาไว้ไปถามยามาโมโตะทีหลังก็ได้
แล้วในขณะที่ตั้งใจจะเดินจากไป...จู่ๆลมก็เปลี่ยนทิศทาง...ทำให้เขาได้ยินประโยคนี้อย่างชัดเจน
“
คุณยามาโมโตะพอจะนึกออกบ้างไหม ว่าใครมีแรงจูงใจมากพอที่จะฆ่านายใหญ่?”
ร่างกายเขาถึงกับแข็งทื่อ....นายใหญ่ไม่ได้ตายตามอายุขัย?
แต่ตายเพราะถูกฆาตกรรม...
นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นถึงกับเบิกกว้าง...จะว่าไปเขาก็ไม่เคยถามคนในบ้านนี้เลยว่านายใหญ่ตายด้วยสาเหตุอะไร
เป็นเพราะว่าหน้าตาท่าทางของคนในบ้านดูจะไม่ได้ตกใจหรือรับไม่ได้กับการตายของนายใหญ่
เหมือนทุกคนรู้และทำใจมานานแล้ว ทำให้เขาคิดเอาเองมาโดยตลอดว่าพ่อของ โกคุเดระ
ฮายาโตะ แก่ตายตามธรรมชาติหรือไม่ก็ป่วยเป็นโรคร้าย
ไม่ใช่ตายอย่างกะทันหันทั้งๆที่จริงแล้วมันเป็นแบบนั้น
“
ผมนึกไม่ออกเลยครับ...ก็อย่างที่รู้ๆกันว่าไม่น่าจะมีใครในหมู่บ้านที่ไม่รักพ่อ” เสียงทุ้มของเด็กหนุ่มเอ่ยตอบ
แล้วไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ขอตัวกลับไป
เขาได้แต่ยืนรอยามาโมโตะก้าวเข้ามาหา
ใบหน้าคมยังคงยิ้มแย้มมาให้เขาตามปกติ
“
มีอะไรหรือเปล่าครับคุณหมอ ฮะฮะ”
“
ตำรวจเมื่อกี้....” ปลายเสียงค่อยๆขาดหายไปเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นถามยังไง
“
อ๋อ...พวกเขามาสอบปากคำพยานน่ะครับ เพราะว่าผมกับฮายาโตะเป็นคนพบศพนายใหญ่” แต่ยามาโมโตะกลับตอบกลับมาด้วยใบหน้าราวกับไม่ได้ลำบากใจอะไร
จะมีหมองลงไปก็ช่วงท้ายของประโยคเพียงเท่านั้น
“
แล้วตอนนี้ยังหาตัวคนร้ายไม่ได้หรอ?”
“
ยังเลยครับ พวกเราได้แต่สงสัยว่ามันจะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์...หรือไม่ก็เป็นคนนอกหมู่บ้าน...ที่แค้นเพราะพวกเราไปขัดผลประโยชน์ของมันเรื่องการส่งออกสินค้าของที่นี่ออกไปข้างนอก...เพราะทุกคนในหมู่บ้านแห่งนี้ไม่น่าจะมีใครที่มีความแค้นหรือเกลียดชังพ่อถึงขนาดต้องฆ่ากันแบบนั้น”
เด็กหนุ่มขยับเข้ามายืนใกล้ๆ
ความสูงที่แทบจะเท่ากับเขาทำให้นัยน์ตาสีเปลือกไม้นั่นอยู่ใกล้จนเห็นความแข็งกร้าวได้อย่างชัดเจน
“
เราถึงได้ตามล่าตัวคนที่คุณหมอพบที่ศาลเจ้ากันแบบเอาเป็นเอาตายเลยยังไงล่ะครับ
เพราะมันคือผู้ต้องสงสัย...ว่าเป็นคนฆ่านายใหญ่”
ร่างกายเขาถึงกับนิ่งค้างไป...ตอนนั้นก็ยังสงสัยอยู่ว่าต้องค้นหากันทั้งคืนแบบนั้นเลยหรอ...แต่ถ้าสาเหตุมันคือเรื่องนี้เขาก็ไม่มีข้อสงสัยใดๆอีก
“
คุณหมอก็ต้องระวังตัวเอาไว้นะครับ ตราบใดที่เรายังจับมันไม่ได้...ผมมีลางสังหรณ์ว่ามันยังไม่ได้หนีไปไหน
เพราะคนของตระกูลโกคุเดระที่ดูแลเรื่องการส่งออกของสินค้าทั้งหมู่บ้านยังเหลืออีกตั้งสองคน....”
เด็กหนุ่มพูดกับเขาก่อนจะเดินกลับไปยังห้องของตน
ที่ว่าเหลืออีกสองคนน่ะ....หมายถึงตัวเองกับโกคุเดระ
ฮายาโตะ งั้นหรอ?
ไม่ตลกเลยนะ
ถ้าโกคุเดระ
ฮายาโตะถูกฆ่าตายไป เขาก็แค่เสียคนไข้ในความดูแลไปหนึ่งคน
แต่สำหรับคนในหมู่บ้านโคโตฮิระแห่งนี้ ถ้าไม่มีเด็กสองคนนั่น....มันจะต้องล่มสลายแน่ๆ
โดยเฉพาะหัวเรี่ยวหัวแรงอย่างยามาโมโตะ
ทาเคชิ
ยิ่งรู้เรื่องที่ยามาโมโตะเล่าให้ฟัง
เขายิ่งต้องระวังรอบกายให้มากขึ้น...จากที่ไม่ได้สังเกตอะไรอย่างจริงๆจังๆ
จากนี้ไปคงต้องมองดูทุกอย่าง...เผื่อว่าจะช่วยหาตัวคนร้ายได้บ้าง
เรียวขาก้าวเดินไปตามถนนซึ่งเป็นดินอัดแน่น
เป้าหมายของเขายังคงเป็นที่ศาลเจ้าตามเดิม...
เขาไม่เชื่อหรอกว่าคนคนหนึ่งจะหลบหนีไปได้โดยไม่ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้
มันอาจจะมีทางลับหรือไม่ก็มุมอับสายตาให้เจ้าคนร้ายนั่นซ่อนตัวก็ได้
และเขาจะพยายามหามันให้เจอ
สองขาเดินเลี้ยวเข้าไปในแปลงขายดอกไม้ตามปกติ
กลิ่นของดอกลิลลี่ที่โชยมาทำให้นึกถึงชุดเจ้าสาวที่อยู่ในห้องเก็บของ
เขารู้จาก
โกคุเดระ ฮายาโตะ เองว่าชุดเจ้าสาวที่แขวนอยู่บนผนังนั่นคือของของน้องสาวที่จะเอาไว้ใส่ในอนาคต
แต่ตอนนี้ก็คงไม่มีโอกาสได้ใช้มันอีกแล้ว
เขาได้แต่ก้มมองพื้นอย่างสงสัย...ทั้งๆที่ของชิ้นอื่นทิ้งไปจนหมด
แต่กลับยังเก็บชุดเจ้าสาวนั่นเอาไว้?
เขาเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งอย่างพยายามไม่คิดอะไรแล้วไล่สายตามองหาหญิงชราเจ้าของแปลงดอกไม้
สองขาเดินเข้าไปเรื่อยๆจนมายืนอยู่กลางแปลงดอกลิลลี่โดยที่ไม่รู้ตัว
จู่ๆกลิ่นที่เปลี่ยนไปก็ถึงกับทำให้เขาต้องยกมือขึ้นมาปิดจมูก
นี่มันไม่ใช่กลิ่นของดอกลิลลี่....
แต่เป็นกลิ่นของธาตุเหล็กที่เขาคุ้นเคยดี...
กลิ่นเลือด!!!
ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นพยายามมองหาว่ากลิ่นมันมาจากที่ไหน...เขาไม่ได้ตื่นตระหนกตกใจเพราะยังไงเขาก็เป็นหมอ....เพียงแต่กลิ่นที่รุนแรงขนาดนี้มันจะต้องมีเลือดไหลออกมาจากร่างกายมากมายแค่ไหนกัน?
มันไม่น่าจะเป็นแค่อุบัติเหตุธรรมดาๆเลย
เรียวขาก้าวเดินลึกเข้าไปในแปลงลิลลี่ก่อนที่จะสะดุดอะไรบางอย่างเข้า
มีด?
เป็นมีดทำสวนอันใหญ่แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาตกใจได้เท่าที่คมมีดมันเต็มไปด้วยสีแห่งชีวิต!
ร่างกายที่เริ่มแข็งเกร็งค่อยๆยืดตัวขึ้นมาก่อนจะหันหน้ามองไปยังทิศตะวันออก
ภาพที่สะท้อนแสงอาทิตย์ยามเช้าพุ่งเข้ามาในดวงตาจนมันต้องเบิกกว้าง....
ร่างของหญิงสาวในชุดกิโมโนสีขาวนอนนิ่งอยู่ท่ามกลางดอกลิลลี่ที่บัดนี้กลายเป็นสีแดงฉาน...
ใบหน้าที่หลับใหลของร่างไร้วิญญาณนั่นคุ้นตาเขาเป็นอย่างดี...
เพราะเด็กผู้หญิงที่เป็นศพอยู่ในแปลงลิลลี่นี้ก็คือ.....เด็กสาวที่ชอบยามาโมโตะคนนั้น....
แล้วบริเวณรอบๆศาลเจ้าก็ถูกปูพรมค้นหาตัวคนร้ายอีกครั้ง
แสงจากตะเกียงและคบไฟยังคงสว่างไสวไปทั่วเขตศาลเจ้าอยู่อีกหลายต่อหลายคืน.....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To
be Con.
น่าจะเป็นฟิคเรื่องแรกที่เขียนแนวลึกลับซับซ้อนโรคจิตอ่อนๆแบบนี้
^
^” คือมันเป็นอะไรที่ยากและท้าทายมากเลยค่ะ โฮวววววว
ตอนที่ลงมือแต่งยังคิดอยู่เลยว่าจะรอดไหมเนี่ยตรู T^T
วางพล็อตให้ซับซ้อนว่ายากแล้ว เขียนยังไงให้คนอ่านเดาไม่ถูกนี่ยากยิ่งกว่าค่ะ T^T เพราะมันหินแบบนี้เลยเลือกฟิคเรื่องนี้มาเป็นฟิควันที่ 9 เดือน 9
ของปีนี้ค่ะ เพื่อการันตีว่าเรื่องนี้จะจบ ฮ่าๆๆๆ ใช่มะ? ฟิควันที่ 9 เดือน 9
จบทุกเรื่องใช่มะ *w*
แล้วก็นอกจากความยากของเนื้อเรื่องแล้ว
การทำลายคาแรกเตอร์ของตัวละครก็เป็นอะไรที่ยัยมี๊กลัวโดนฆ่าหมกป่ามากๆเลยค่ะ >_< คือทั้งเรื่องดูเหมือนกิโนะจะปกติอยู่คนเดียว = =””
แต่ถึงจะขึ้นแนวเรื่องเอาไว้ว่า Psycho
แต่ไม่ได้มีไล่ฆ่าเลือดสาดอะไรแบบนั้นนะ
ไม่มีคนโรคจิตที่ถือมีดไล่ฟันกันอะไรแบบนั้น555
ฟิคเรื่องนี้จะออกสีหม่นๆแบบนี้ไปจนจบแหละค่ะ
เพราะเป็นกึ่งพีเรียดเลยอยากบรรยายออกมาให้มันดูนุ่มนวลแต่ก็ลึกลับน่าค้นหา
ไอดอลของฟิคเรื่องนี้คือ คินดะอิจิซีรี่ย์ที่เป็นนิยายเลยค่ะ
กลิ่นมันจะเก่าๆแบบนั้นเลย แต่ไม่ใช่แนวสืบสวนสอบสวนแบบนั้นนะ55 ฟิครักค่ะ
มันเป็นฟิครัก ฮืออออออออ เนอะ?...
ส่วนเรท
NC-17
บอกเอาไว้ล่วงหน้า(ยังทันไหมเนี่ย?) ว่าฉากกดมีน้อยมากค่ะ
แต่ที่ติดเรทนี้เอาไว้เพราะเนื้อหามันรุนแรงในด้านอื่นๆ คือถ้าอ่านจนถึงตอนจบจะรู้ว่า...มันรุนแรงยังไง
ไม่ต้องรอถึงจบเรื่องหรอกหล่อน แค่จบตอนนี้ก็ตายไปหนึ่งแล้วไง
ปกติเวลาลงฟิคจะไม่เคยมีความมั่นใจเลยค่ะว่าคนอ่านจะคิดว่ามันสนุกไหม...แต่สำหรับเรื่องนี้นี่ยัยมี๊มั่นใจมาก
คือ หนุกไม่หนุกตรูไม่รู้แต่ตรูจะแต่ง ฮ่าๆๆ (เกรียนมาก)
ถึงจะไม่มีใครอ่านหรือใครจะว่ายังไงตรูไม่สน ขอเมามันของตรูคนเดียวพอ =[ ]=!! ต้องขอขอบคุณทุกๆกำลังใจจากในเฟสด้วยนะคะ
ตั้งแต่วันแรกที่ประกาศว่าจะทำโปรเจคนี้ขึ้นมาก็มีคนให้ความสนใจและส่งกำลังใจมาให้ตลอดเลย
ดีใจมากๆๆๆๆเลยค่ะ >////<
ยะ
ยังไงก็ขอฝากฟิคน้อยๆเรื่องนี้เอาไว้ในอ้อมแขนอีกเรื่องนะคะ
อยากให้อ่านกันไปจนถึงบรรทัดสุดท้ายของเรื่องนี้จริงๆ โฮวววว
(แกก็แต่งออกมาไวๆดิวะ!!)
พาร์ทนี้คิโชที่เป็นชายที่ดูน่าอยู่ให้ห่างๆตั้งแต่แรก
ตอบลบเจออยู่กับหนูก๊กแบบนี้ให้คนละฟีลเลยจริงจัง
เป็นตาแก่ธรรมดาคนหนึ่งจริงจัง! แค่สั่งคนสวนเก็บลูกพลับยังน่ารัก
คนอาร๊ายยยย~~~ > __ < #ลำเอียงชัดเจน 5555
จริงๆอ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็ทำให้ความรู้สึกที่ตะหงิดๆแต่แรกเริ่มชัดเจน
จะว่ายังไงดีนะ รู้สึกว่ายามะสามารถปล่อยวางให้โกคุอยู่ที่บ้านได้สบายใจไปหน่อยมั้ยนะ
หรือเพราะคิดว่ามีคนที่ซื่อสัตย์คอยดูแลให้อยู่แล้ว
หรือเพราะโกคุจะปลอดภัยแน่นอนถ้าอยู่ที่บ้าน
หรือเพราะโกคุควรจะอยู่บ้านเพราะเป็นตัวอันตราย
หรือเพราะ.......
........อย่าลืมฉัน อย่าเดินหนีนะคะกวางซามะ วันนี้วันใจสับสน!!!!! 5555555
เพลงนี้มันเวิร์คกับฟิคเรื่องนี้จริงจัง #เซิ้ง #เซิ้งทำไม #เซิ้งอะไรฟ่ะ 5555
พาร์ทนี้พาใจหงุดหงิดและเริ่มเอาเล็บครูดกับโต๊ะ(?)
555555 ทำไมมันถึงมีแต่ปริศนา คำให้การ(?)ของแต่ละคน
ไม่ได้ตรงกับสิ่งของที่มีให้เห็นอยู่เลยล่ะหืออออ
ได้ข่าวกิโนะจังเขายังพยายามไม่คิดอะไร(?)
แต่คนอ่านคิดจนตีกันยุ่ง(?)แบ้วว 555
แล้วก็....มาแล้วววว ศพมาแล้ววววว #เซิ้ง #เซิ้งอะไรอีกแล้วฟ่ะ
จริงเป็นสิ่งที่หวังในใจลึกๆ(?)ว่าอยากให้มีศพ
แล้วศพก็มาจ้าาา 55555 T __ T แล้วไหงโดนฆ่าซะแล้วล่ะหนู
ตกลงหนูชอบใคร(?)ป้า(?)ยังไม่รู้เลย(?)
อย่างน้อยๆกวางซามะก็ยืดอกได้แล้วนะคะ
ว่ายัยคนบ้า(?)คนนี้มันเดาอะไรไม่ถูกสักกะอย่าง 55555
บอกแล้วค่ะ วันนี้หัวใจสับสน!! #มันก็เล่นไม่เลิกเว้ยเฮ้ย 5555 #ละเมอแน่ๆคืนนี้(?)
เราชอบแนวความคิดของกวางซามะมากๆเลยจริงจัง
และก็เห็นด้วยว่าพลอตแนวนี้มันหินจริงจัง
และกวางซามะก็ทำออกมาได้ดีสุดๆเลยด้วย การันตีจริงจัง * ^ *
ส่วนเรื่องฉากกด....เรากำลังมองโลกในแง่ดี(?)
ที่บอกว่ามีน้อย ก็แสดงว่ามันยังมี(?)ใช่มั้ยคะ กวางซาม้าาาาาาาาา
55555 #มันอดอยากมาจากไหนกัน
เค้าเป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ เป็นให้อยู่ตลอดเลยน้า
ฟิคเรื่องนี้ก็ยังพูดได้เต็มปากว่า สนุกมากๆๆ
ลุ้นมากๆๆ ลุ้นไปกับความอยากรู้อยากเห็นตามสัจธรรมการเป็นมนุษย์โลก(?) 55555
สำหรับเราอะไรที่มันเป็นความลับมันมีเสน่ห์มากจริงจังค่ะ
ความลับแนวลึกลับสยองแบบนี้นะคะ ไม่ใช่ความลับชาวบ้าน 555555