KHRfeat.PP Au.Fic [8059, KouGino] Juunana Sai ; 17ฝน : 05


KHRfeat.PP Au.Fic [8059, KouGino]  Juunana Sai ; 17ฝน : 05

Happy Birthday GOKUDERA HAYATO 09/09 fanfiction.

: KHR feat.Psycho Pass Fanfiction AU.
: 8059 KouGino
: Psycho Period Dark Romance
: NC-17

คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
                : เนื้อเรื่องต่อไปนี้ทำลายคาแรกเตอร์ค่อนข้างรุนแรง หากรับไม่ได้ที่ตัวละครจะ “ไม่ปกติ” อย่าเข้ามาอ่านนะคะ






เสียงกลองและเสียงเครื่องดนตรีญี่ปุ่นดังแว่วอยู่ทั้งวัน...

ตอนนี้ที่หมู่บ้านโคโตฮิระกำลังอยู่ในช่วงโอบง...ประเพณีที่เชื่อกันว่าบรรพบุรุษที่ตายไปจะกลับมาจากปรโลก ทุกบ้านจะทำความสะอาดหลุมศพและคอยจุดโคมไฟเอาไว้ที่หน้าบ้านเพื่อรอต้อนรับดวงวิญญาณเหล่านั้น

ที่บ้านตระกูลโกคุเดระเองก็ถือปฏิบัติเช่นกัน...

แตงกวาและมะเขือม่วงที่นำตะเกียบ 4 อันมาเสียบเอาไว้แทนขาของม้าและวัวถูกนำไปวางไว้บนแท่นบูชา...นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นทอดมองพิธีการเหล่านั้นซึ่งเมื่อก่อนที่บ้านเขาก็เคยทำ....แต่ตอนนี้...กลับไปก็ไม่มีใครอยู่แล้ว...เทศกาลรวมญาติมันจึงไม่จำเป็นสำหรับเขาอีก

ดูเหมือนคนของบ้านนี้ก็จะอยู่กันครบ ทั้งๆที่น่าจะมาจากหลายครอบครัวแต่กลับไม่มีใครกลับบ้านของตัวเองสักคน...จะเป็นไปได้ไหมที่คนซึ่งอยู่ที่นี่จะเป็นคนที่ไม่มีบ้านให้กลับ...เหมือนกับเขา

จะเป็นไปได้ไหมที่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็ถูกช่วยมาเหมือน คิโช....

แผ่นหลังของเขารู้สึกหนาวเย็นแปลกๆ...เพราะถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็เชื่อได้เลยว่าทุกคนในบ้านหลังนี้จะเทิดทูลนายของตนจนยอมยกให้ได้แม้แต่ชีวิต

ซึ่งตรงจุดนี้แหละที่น่ากลัว...






เขาเดินผ่านห้องห้องหนึ่งซึ่งสาวใช้กำลังนั่งทำโคมกระดาษกันอยู่...โคมพวกนั้นคือโคมที่จะนำไปลอยที่แม่น้ำเพื่อนำทางดวงวิญญาณบรรพบุรุษกลับสู่ปรโลกในคืนสุดท้ายของเทศกาลโอบง

นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นมองโคมกระดาษอย่างสงสัย...ว่าใครจะเป็นคนนำไปลอยได้ ในเมื่อยามาโมโตะไม่อยู่?

เด็กหนุ่มเข้าไปในเมืองเพื่อจัดการเรื่องการขนส่งสินค้าถึงแม้ว่าอาทิตย์นี้จะเป็นวันหยุดยาวก็เถอะ และกว่าจะกลับก็คงดึกๆ

ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นหันไปมองห้องเขียนหนังสือ ก่อนจะก้าวขาไปหา...จะว่าเขายุ่งไม่เข้าเรื่องก็ได้ แต่ว่า....

" ฮายาโตะ...คืนนี้ออกไปลอยโคมที่ริมแม่น้ำด้วยกัน"        เขาเอ่ยบอกเจ้าคนไข้ตัวดีที่ตอนนี้ว่างงานสุดๆเพราะเป็นวันหยุดเลยไม่มีบัญชีให้ต้องทำ

" ไม่......”       เสียงใสเอ่ยออกมาทั้งๆที่ใบหน้ายังไม่ยอมเงยจากหนังสือในมือให้เขาได้แต่ถอนหายใจในความดื้อดึง

“ ไปด้วยกัน”      และเขาก็ยังยืนยันเสียงแข็ง

“ ไม่ๆๆๆ ไม่อยากไปกับกิโนะหรอก!!"         ใบหน้าสวยสะบัดไปอีกทางก่อนจะปฏิเสธอย่างไร้เยื้อใย...เขาก็รู้หรอกว่าเด็กนี่จะไม่ยอมออกจากบ้านไปไหน...เพราะกลัวที่จะต้องเห็นสถานที่แห่งความทรงจำซึ่งทำให้เจ็บปวดใจในระหว่างที่น้องสาวฝาแฝดยังมีชีวิตอยู่...และเขาก็รู้...ว่าจะทำยังไงให้ โกคุเดระ ฮายาโตะ ยอมออกจากบ้านได้

" หึ...กลัวผีละสิ ถึงไม่กล้าออกไปน่ะ"        ใบหน้าเรียวยิ้มท้าทายด้วยสายตาเย้ยน้อยๆจนใบหน้าสวยได้แต่หันมามองอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ไอ้เรื่องจะให้ยอมแพ้ต่อคำสบประมาทง่ายๆน่ะไม่ใช่วิถีของพวกปากไม่ตรงกับใจหรอก!

" ใครกลัว?! แค่ไปลอยโคมใช่ไหม?! ไปก็ได้! แค่นี้ไม่เห็นจะเท่าไหร่เลย! ฮึ!"      ใบหน้าสวยเชิดขึ้นอย่างเย่อหยิ่งสองแขนผอมบางยกขึ้นมากอดอก ให้เขาลอบยิ้มอยู่ในใจเมื่อหลอกล่อเจ้าคนไข้ตัวดีออกจากบ้านได้สำเร็จ เพราะนอกจากเหตุผลเรื่องการทำตามประเพณีแล้ว มันยังถือเป็นผลดีต่อการรักษาของเขาด้วย....การทำให้คนไข้ยอมออกไปเผชิญกับความเป็นจริงได้มันก็เป็นแนวทางหนึ่งซึ่งเขาคิดจะใช้ในการรักษา

“ ถ้างั้นก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ แล้วมาเจอหมอที่นี่”      

“ อย่ามาสั่งนะ!”       ริมฝีปากสีแดงแยกเขี้ยวใส่เขาทันที แต่ร่างบอบบางก็ลุกออกไปจากห้องแต่โดยดีจนเขาได้แต่ส่ายหน้า

" คุณหมอคะ...คุณยามาโมโตะไม่อยู่แบบนี้ เกรงว่า...."       คาเอเดะกระซิบบอกออกมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล จนเขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่หญิงวัยกลางคนกำลังกลัวอยู่คืออะไรกันแน่ระหว่างกลัวว่าจะดูแลโกคุเดระ ฮายาโตะไม่ได้ หรือกลัวว่ายามาโมโตะจะไม่พอใจหากรู้ว่าเขาพาเด็กคนนี้ออกไปนอกบ้าน

" ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวหมอคุยกับยามาโมโตะเองถ้าเขากลับมา...นายใหญ่เพิ่งจะเสียไปอย่างน้อยก็ควรให้ลูกชายไปส่งวิญญาณสักครั้งนะครับ"        อย่าให้เด็กคนนั้นต้องอกตัญญูเหมือนเขาเลย....

เพราะเขาไม่เคยได้ส่งวิญญาณให้พ่อของตัวเองเลยสักครั้ง...

ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อคงได้แต่พูดว่าไม่เคยลงเอยกันด้วยดี...มันจบ...ตั้งแต่วันที่เขาเดินออกจากบ้านมา...เพราะโคงามินั่นแล้ว




“ กิโนะ!”       โกคุเดระ ฮายาโตะโผล่หน้ากลับมาอีกครั้งทั้งๆที่ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า เสียงเรียกทำให้เขาหันไปมองอย่างสงสัย ก่อนที่บางมือจะยัดอะไรบางอย่างมาใส่มือเขา

“ ถ้าจะให้ชั้นไปละก็ กิโนะต้องใส่นั่น ไม่งั้นชั้นก็ไม่ไป”       ใบหน้าสวยเชิดขึ้นอย่างผู้เหนือกว่าก่อนจะส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ เขาได้แต่ก้มมองของในมือ มันคือ....ยูกาตะ....

“ น่ะ......”       แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้คัดค้าน ร่างบอบบางก็เดินตัวปลิวจากไปเรียบร้อยแล้ว

มือยกขึ้นมาขยับแว่นก่อนจะมองเห็นรอยยิ้มของคาเอเดะอยู่ที่หางตา


ก็ได้...

ใส่ก็ได้....


ก็แค่ใส่ยูกาตะเอง!!!




เขาได้แต่ยืนถอนหายใจอยู่หน้ากระจกก่อนจะมองภาพที่ไม่คุ้นตาของตัวเอง  ยูกาตะเนื้อดีสีเขียวเข้มพาดผ่านอยู่บนลำตัว ทั้งแขนเสื้อทั้งความยาวที่ข้อเท้ามันช่างพอดีกับตัวเขาราวกับว่ามันถูกสั่งตัดมาให้เขาอย่างนั้นแหละ

ถึงจะเกิดและเติบโตมาในช่วงที่ญี่ปุ่นกำลังอยู่ก้ำกึ่งระหว่างยุคเก่ากับยุคใหม่เนื่องด้วยเพิ่งจะยอมรับวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามาใช้เมื่อไม่นานมานี้ แต่ด้วยหน้าที่การงานทางทหารของผู้เป็นพ่อทำให้เขาแทบจะใช้ชีวิตตามอย่างชาวตะวันตกเรื่อยมา เสื้อผ้าของญี่ปุ่นแบบนี้จึงใส่เฉพาะในวันที่มีพิธีการเท่านั้น

สองแก้มรู้สึกร้อนผ่าวเมื่อรับรู้ได้ถึงความเบาโหวงโล่งโจ้งทั้งท่อนบนและท่อนล่าง มือจับกระชับสาบเสื้อเข้าหากัน เวลาเดินก็ต้องระวังไม่ให้รอยแหวกมันมากเกินไป

อ้า....ทำไมมันลำบากขนาดนี้! เด็กนั่นอยู่ในชุดกิโมโนทั้งวันทั้งคืนแบบนั้นได้ยังไงกันนะ?!

เขาก้าวขาออกจากห้องด้วยใบหน้าแดงเถือก สายตาของสาวใช้ที่มองมานั้นมันเต็มไปด้วยรอยยิ้มอึ้งๆซึ่งเขาไม่เข้าใจความหมายของมันเลย...ให้ตายเถอะ....เขาต้องพยายามท่องเอาไว้ในใจว่า ทั้งหมดนี้ก็เพื่อลากเจ้าคนไข้ตัวดีออกจากบ้านให้ได้....เพื่อการรักษา....เพื่องาน!!!

ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ โกคุเดระ ฮายาโตะ!



เขาเดินลงส้นด้วยความอายไปตามระเบียงทางเดิน และตอนที่กำลังจะก้าวผ่านห้องของเด็กนั่นบานประตูเลื่อนก็ถูกเปิดออกเสียก่อน

“ หึ....”       เสียงหัวเราะในลำคอดังออกมาจากใบหน้ากวนๆที่ไม่เข้ากับรูปลักษณ์ของ โกคุเดระ ฮายาโตะหลังจากที่ไล่มองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนที่เจ้าตัวดีจะเดินนำหน้าไป

เห็นแล้วมันน่าจับฉีดยาให้หายซ่าซะจริงๆ!

มือยกขึ้นขยับแว่น ก่อนจะหันไปมองประตูห้องที่เปิดคาไว้......ดูเจ้าคนไข้วายร้ายมันทำสิ...แม้แต่ประตูก็ยังต้องให้เขามาคอยตามปิดให้!

และก่อนที่บานเลื่อนจะถูกปิดลง สายตาเขาก็เผลอเหม่อมองไปที่กระจกเงาบานใหญ่ซึ่งบัดนี้มีผ้าคลุมเอาไว้...ถ้าไม่ทำแบบนั้น โกคุเดระ ฮายาโตะ คงไม่ยอมออกจากห้อง...


วูบหนึ่งที่เขารู้สึกหวั่นใจ.....ก็ได้แต่ปลอบตัวเองว่าวันนี้คงไม่เป็นไร...

แค่ไม่ให้เห็นกระจกเงาที่ไหนก็พอ....








เสียงเพลงจากเครื่องดนตรีของญี่ปุ่นดังอยู่ทั่วหมู่บ้าน เพราะโอบงนอกจากพิธีกรรมที่แต่ละบ้านต่างกระทำตามที่ว่ามา ที่ลานของหมู่บ้านเองก็ยังมีงานเทศกาลและการร่ายรำพื้นบ้านโบราณที่เรียกว่า บงโอโดริ อยู่ด้วย ซึ่งจะจัดเวียนกันไปตามสถานที่ต่างๆจนครบรอบหมู่บ้าน

พวกเขาเดินสวนชาวบ้านที่เดินมาเป็นกลุ่มบ้าง มาเดี่ยวๆบ้างซึ่งล้วนแล้วแต่ใส่ชุดยูกาตะเพราะมันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่จะเข้าร่วมงานเทศกาล เสียงทักทายอย่างเคารพนบนอบถูกส่งมาให้พวกเขาก่อนที่คนเหล่านั้นจะตะลึงอึ้งค้างไปเมื่อสังเกตเห็นว่า คุณหนูผู้ไม่เคยออกจากบ้านมานานแล้วกำลังเดินอยู่ท่ามกลางข้ารับใช้นับสิบ

ความโดดเด่นของ โกคุเดระ ฮายาโตะ ยังคงสะกดทุกสายตาเอาไว้ได้เป็นอย่างดีถึงแม้ว่าวันนี้ร่างบอบบางอยู่ในยูกาตะสีดำ

ซึ่งเขาก็ภาวนาให้มันเป็นแบบนั้นจะได้ไม่มีใครมองเห็นเขาซึ่งอยู่ในชุดที่ทำเอาอยากจะมุดดินหนีนี่....ถึงแม้ว่าคำภาวนาจะดูไม่ค่อยได้ผลก็ตาม...ไอ้สายตาสนอกสนใจกับใบหน้าอมยิ้มเมื่อมองเห็นเขาพวกนั้นมันคืออะไรกัน? อ้า...ชักอยากจะกลับบ้านขึ้นมาแล้วสิ!

เขาได้แต่เดินก้มหน้าก้มตาอย่างไม่สนใจความสง่าและใบหน้าที่ต้องเชิดขึ้นทุกครั้งที่มักจะทำเป็นปกติ

รู้สึกว่าวันนี้สถานที่จัดบงโอโดริจะอยู่ห่างออกไปจากบ้านตระกูลโกคุเดระอยู่พอสมควร เสียงดนตรีมันจึงดังแว่วมาแค่แผ่วเบา...และเพราะแบบนั้นทำให้แถบนี้คนที่เดินสวนมาก็บางตาลงอย่างเห็นได้ชัด

มีคนที่เขาไม่เคยเห็นหน้าอยู่ในกลุ่มคนพวกนั้นด้วย สงสัยว่าคงจะเป็นญาติพี่น้องที่ออกไปทำงานนอกหมู่บ้านแล้วก็กลับมาเฉพาะโอบงซึ่งเป็นเสมือนวันรวมญาติ

แบบนี้...ก็คงจะมีคนนอกเข้ามาอยู่พอสมควร...ใครเป็นใครคงจะแยกออกลำบาก...ยิ่งมืดๆแบบนี้ด้วย...


และเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ใบหน้าของเขาก็ถึงกับนิ่งค้างไป...

ถ้างั้นก็หมายความว่า โคงามิ ย่อมแฝงตัวเข้ามาได้โดยง่าย ในคืนที่ใครเป็นใครบ้างก็ไม่รู้แบบนี้...


“ กิโนะ?”        เสียงเรียกจากคนที่เดินอยู่ข้างๆทำให้ใบหน้าเรียวซึ่งเริ่มจะมีเหงื่อแตกค่อยๆปรับให้กลับมาเป็นปกติ

“ ขากลับแวะไปซื้อสายไหมมาให้ด้วยนะ เอาสีฟ้ากับสีชมพูอย่างละห้าอัน”      จะกินให้ฟันผุไปเลยรึยังไงน่ะ? เขาได้แต่ส่ายหน้าพลางอมยิ้ม

“ เข้าใจแล้ว”      ดูเหมือนการได้ก่อกวนเขาตลอดทางที่เดินมา...ไม่ว่าจะพยายามทำให้เขาตกใจกลัวด้วยการเอามือเย็นๆของตัวเองมาแตะที่หลังคอเขาบ้างละ เล่าเรื่องผีบ้างละ เอาหน้าไปส่องตะเกียงแล้วเรียกให้เขาดูบ้างละ....จะทำให้ร่างบอบบางลืมเลือนเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในที่ที่เดินผ่าน สามารถก้าวขาเข้าไปในสถานที่ที่เคยอยู่กับน้องสาวฝาแฝดได้โดยไม่มีอาการทางประสาทกำเริบขึ้นมา

ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไปการจะรักษาให้หายก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม


“ กิโนะ ถึงแล้ว....”       นัยน์ตาสีมรกตของคนที่ยืนอยู่ข้างๆเบิกกว้างเมื่อมองเห็นภาพตรงหน้า

นัยน์ตาของเขาก็นิ่งค้างไปเช่นกันเมื่อได้มองไปยังแม่น้ำสีดำที่บัดนี้ต่างมีโคมกระดาษเปล่งแสงระเรื่อลอยออกไปเป็นสาย ประกายระยิบระยับทอรับกับดวงจันทร์กลมโตที่อยู่ด้านบนจนคนที่ไม่ได้มีหัวเรื่องความสวยความงามอย่างเขายังรับรู้ถึงคำว่า “สวย” ได้เลย

เขายื่นมือไปให้โกคุเดระ ฮายาโตะ ก่อนจะค่อยๆพาร่างบอบบางนั่นลงจากถนนบนคันดินมายืนอยู่บนผืนหญ้าในตลิ่ง เสียงสายน้ำไหลเอื่อยๆกลบเสียงเพลงที่ลอยมาไม่ถึงแถวๆนี้ บรรยากาศที่ราวกับมีมนต์ขลังทำให้เผลอมองอยู่นานสองนานจนกระทั่งสาวใช้จุดเทียนที่ตั้งอยู่ในโคมไฟกระดาษแล้วยื่นมันมาให้

“ ส่งวิญญาณให้พ่อและคนในบ้านของเธอสิ”      เขาก้มลงไปบอกร่างบอบบางที่เงยหน้าขึ้นมามอง ใบหน้าสวยพยักรับก่อนจะนั่งลงไปชายน้ำ

มือบางรับโคมกระดาษไปจากเขาก่อนจะวางมันลงไปในน้ำเบาๆ...เจ้าโคมที่เปล่งประกายนั้นค่อยๆลอยออกไปในแม่น้ำท่ามกลางรอยยิ้มน้อยๆของเขา


ทว่า....


สิ่งที่ไม่คาดฝันก็ทำเอาหุบยิ้มแทบไม่ทัน...



จากตอนแรกที่เขาคิดแค่ว่า.....ไม่ให้ โกคุเดระ ฮายาโตะ เห็นกระจกเงาที่ไหนก็พอ....

แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามันไม่พอ....


ในเมื่อเขาลืมไป...ว่าแผ่นน้ำยามค่ำคืนนั้นก็สะท้อนเงาจันทร์ได้...

ซึ่งแน่นอนว่า....ใบหน้าของ โกคุเดระ ฮายาโตะ ก็สะท้อนกลับมาได้เช่นกัน



ใบหน้าสวยตกอยู่ในภวังค์ทันทีที่มองเห็นเงาของตัวเองอยู่ในน้ำ แก้มใสขยับเข้าไปใกล้ด้วยสายตาแสนคิดถึง มือที่เพิ่งจะปล่อยโคมกระดาษออกไปแตะลงบนแผ่นน้ำสีดำสนิท เส้นผมสีเงินยาวค่อยๆไหลจากบ่าก่อนจะแผ่สยายลงไปในน้ำ

“ ฮายาโตะ!!”      เขาตะโกนเรียกอย่างแตกตื่นเช่นเดียวกับสาวใช้ที่อุทานกันอย่างตกใจเมื่อคุณหนูเพียงหนึ่งเดียวของพวกเธอทำท่าจะหายลงไปในน้ำ

ใบหน้าสวยมีอาการเหม่อลอยอย่างเห็นได้ชัด นัยน์ตาสีมรกตก็จ้องมองแต่ภาพที่สะท้อนอยู่ในน้ำ เขาจึงได้แต่คว้าต้นแขนเล็กๆนั่นเอาไว้แต่โกคุเดระ ฮายาโตะในยามนี้กลับมีแรงมากกว่าที่เขาคิด ร่างบอบบางแข็งขืนไม่ยอมละออกมาจากแผ่นน้ำ

เขาได้แต่สบถออกมาในความหละหลวมของตัวเอง สองแขนยื้อยุดฉุดกระชากร่างบอบบางให้ขึ้นมาจากในน้ำ

“ ฮายาโตะ!! ฟังนะ! นั่นมันเป็นเงาของเธอเอง ไม่ใช่น้องสาว!”       แต่ไม่ว่าเขาจะตะโกนอะไรออกไปเด็กคนนั้นก็ไม่ได้รับรู้อีก สองแขนบางยังคงพยายามอย่างหนักที่จะไขว่คว้าหาเงาตรงหน้า ร่างทั้งร่างก็ออกแรงต่อต้านเขาอย่างเต็มกำลัง

ถึงแม้ว่าเขาจะเคยเห็นอาการของเด็กนี่ตอนที่อยู่หน้ากระจกมาแล้ว แต่เขาก็เพิ่งจะเคยแยกร่างบอบบางออกมาจากเงาสะท้อนเป็นครั้งแรก

มันไม่ง่ายเลยจริงๆ...

ทั้งๆที่ไม่น่าจะมีแรงให้ขัดขืนมากมายขนาดนี้ แต่ตอนนี้เขารู้ซึ้งเลยว่าคาเอเดะต้องแข็งแรงมากขนาดไหนถึงเอาเด็กนี่อยู่

“ ฮายาโตะ!!”      เหงื่อไหลลงมาตามใบหน้า ทั้งๆที่การยื้อยุดอีกฝ่ายเพิ่งจะผ่านไปยังไม่ถึงนาที ในใจได้แต่เต้นระรัวเมื่อยิ่งดึง ทั้งเขาทั้งโกคุเดระ ฮายาโตะต่างยิ่งถลำลงน้ำมากกว่าเดิม

“ ปล่อย!”       แขนบางยังคงสะบัดมือเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย


และแล้วในขณะที่กำลังไม่รู้ว่าจะทำยังไง...


ท่อนแขนแข็งแรงของใครบางคนก็สอดเข้ามาอุ้มร่างบอบบางของ โกคุเดระ ฮายาโตะ ขึ้นไปจากน้ำ

“ ยามาโมโตะ....”      เขามองเด็กหนุ่มด้วยสายตาตกตะลึง ลมหายใจของเขายังคงหอบหนักหน่วง

“ ปล่อยนะ!!”       ร่างบอบบางที่ถูกอุ้มขึ้นฝั่งยังคงเอื้อมมือออกมาไขว่คว้าแผ่นน้ำ ใบหน้าสวยสะบัดต่อต้านอย่างรุนแรงจนเส้นผมเปียกชื้นสะบัดกระจาย วูบหนึ่งที่ใบหน้าคมของยามาโมโตะซึ่งมองมายังเขามันทำเอาขนลุก....ความมืดมนนั้นมันสอนให้เขารู้จักกับคำว่า...น่ากลัว...

แต่แล้วมันก็เปลี่ยนกลับไปเป็นใบหน้าร่าเริงตามปกติ...

“ บอกให้ปล่อยไง!!”      คนที่ถูกอุ้มยังคงโวยวายอย่างไม่ได้สติ ใบหน้าสวยยังคงเหม่อลอยน้อยๆ ท่าทางเหมือนฝาแฝดที่ถูกจับแยกกันมันทำให้คนที่เห็นอดสงสารไม่ได้

“ ฮะฮะฮะ  อย่าดื้อสิฮายาโตะ.....คุณหมอครับ! ช่วยลอยโคมต่อให้ที เดี๋ยวผมพาฮายาโตะกลับบ้านก่อน”      เด็กหนุ่มบอกเขาด้วยเสียงสบายๆ ทั้งๆที่เขาฉุดกระชากร่างบอบบางนั่นแทบตายกลับทำอะไรแทบไม่ได้...แต่ยามาโมโตะกลับอุ้มได้ง่ายๆแบบนั้น

“ อะ อื้อ...”       เขาพยักหน้ารับอย่างยังทำอะไรไม่ถูก รู้สึกทึ่งในพละกำลังของยามาโมโตะและความเยือกเย็นในการรับมือกับอาการทางประสาทที่กำเริบขึ้นมาอย่างกะทันหันของโกคุเดระ ฮายาโตะ

“ ไม่ไป!! ไม่กลับ!! ปล่อยนะ!!!”      ร่างบอบบางยังคงดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนจนคอยูกาตะสีดำของยามาโมโตะแหวกออกให้เห็นแผงอกแข็งแรง...ถึงกล้ามเนื้อจะยังมีไม่เท่าโคงามิแต่สำหรับเด็กอายุเท่านี้ก็นับว่ามีร่างกายที่ดีมากทีเดียว

เขาได้แต่ยืนมองยามาโมโตะอุ้ม โกคุเดระ ฮายาโตะ ที่ยังคงดิ้นพล่านกลับบ้านอย่างรู้สึกผิด

เป็นเพราะเขาไม่ระวังเอง....เป็นเพราะเขาไม่คิดให้รอบคอบเอง...


“ ขอโทษนะ....”








โคมไฟกระดาษอันสุดท้ายถูกปล่อยออกไปจากมือของเขา นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นเหม่อมองดวงไฟที่ค่อยๆลอยไปตามกระแสน้ำ ดวงจิตอธิษฐานให้บรรพบุรุษรวมทั้งนายใหญ่ได้ตามแสงนำทางนี้กลับไปโดยปลอดภัย

ถึงแม้เขาจะยังรับปากอย่างเต็มปากเต็มคำไม่ได้ว่าจะดูแลทายาทเพียงหนึ่งเดียวได้ดีแค่ไหน แต่เขาก็จะพยายามให้มากกว่านี้

ข้างในยังไม่ค่อยสบายใจจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เขาจึงลุกขึ้นด้วยความเงียบงัน

“ พวกเธอกลับไปก่อน เดี๋ยวหมอจะไปซื้อสายไหมให้คุณหนู”       เขาหันไปบอกสาวใช้ก่อนจะเดินตามเสียงเพลงไปยังสถานที่จัดบงโอโดริตามลำพัง...ตอนนี้เขายังไม่อยากพูดคุยอะไรกับใคร

พวกสาวใช้แยกไปอีกทาง ส่วนเขาได้แต่เดินไปตามถนนที่เปลี่ยวเหงา เวลาแบบนี้คงไม่มีใครมาเดินอยู่แถวๆนี้แล้วละ ส่วนใหญ่ก็คงจะอยู่ที่สถานที่จัดบงโอโดริกัน

เขาก้มลงมองถนนดินอย่างหงอยๆ ถึงแม้เวลาที่อยู่ต่อหน้าใครเขาจะทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรแต่ลึกๆแล้วเขาก็ไม่สบายใจเอาเสียเลย

ในเวลาแบบนี้หากโคงามิยังอยู่....



ใบหน้าถึงกับผงะไปเล็กน้อยเมื่อนึกขึ้นได้ว่ากำลังคิดถึงอะไรอยู่

ไม่...

ผู้ชายคนนั้นจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาอีก...และเขาจะต้องอยู่ตัวคนเดียวตามลำพังให้ได้

จะไม่คิดถึงคำปลอบโยน จะไม่คิดถึงรอยยิ้ม จะไม่คิดถึงอ้อมแขนที่คอยเป็นกำลังใจให้ในยามที่ท้อแท้....จะไม่คิดถึงมัน....



ที่เขาแยกออกมาเดินคนเดียวในที่มืดๆเปลี่ยวๆแบบนี้ก็ไม่ได้หวังว่าอีกฝ่ายจะมาหา....เขาก็แค่จะไปซื้อสายไหมก็เท่านั้นเอง!




“ กิโนะ....”

แต่แล้วเสียงทุ้มต่ำก็ทำให้ขาถึงกับชะงัก ใบหน้าเรียวกวาดมองไปรอบๆอย่างคิดว่าหลอนไปเอง


ทว่า...


เงาวูบไหวที่ตกกระทบอยู่ที่พื้นก็ทำเอาร่างกายได้แต่นิ่งงันซึ่งแปลผกผันกับหัวใจที่กำลังเต้นกระหน่ำจนแทบจะทะลุออกมาจากแผ่นอก

ไม่จริงน่า....


แล้วคำขอในใจของเขาก็ไม่เป็นผล....เมื่อร่างสูงใหญ่ของคนที่คุ้นเคยค่อยๆก้าวขาออกมาจากเงาของเพิงไม้ตรงหน้า

ทั้งใบหน้าหล่อเหลาที่ยังนิ่งเฉย ทั้งดวงตาสีดำที่มองตรงมาที่เขาอย่างแน่วแน่ ทั้งร่างกายที่ถึงแม้จะอยู่ในยูคาตะสีน้ำเงินเข้มทว่าเขาก็รับรู้ได้ถึงมัดกล้ามที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ผืนผ้าได้เป็นอย่างดี....ทุกๆอย่างมันช่างคุ้นเคย จนเผลอปล่อยให้ความโหยหาเข้ามาเกาะกุมหัวใจไปหลายนาที...

“ โคงามิ....”     เขาเรียกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงลอยๆ ก่อนจะผงะถอยหลังเมื่อหลุดออกมาจากภวังค์ได้....


ไม่นะ....

เขาจะต้องไม่เผลอหลงใหลไปกับคำล่อลวงนั่นอีก!



“ กิโนะ...ฟังชั้นนะ...”       เสียงทุ้มที่ขึ้นจมูกนิดๆยังคงชวนฟังเหมือนเคย แต่ในยามนี้สิ่งที่อีกฝ่ายจะเอ่ยออกมาก็มีแต่จะทำให้เขาเจ็บปวด


ไม่ฟัง....

จะไม่ฟังคำแก้ตัวใดๆทั้งนั้น!!


มือใหญ่ที่กำลังจะเอื้อมมาแตะมือเขาถูกปัดออกไปอย่างไม่ไยดี

“ กิโนะ...”      โคงามิเพียงแค่เรียกเขาโดยไม่เอ่ยตะคอกหรือแสดงความหงุดหงิดอะไรออกมา....อย่าทำเหมือนสำนึกผิดแล้วแบบนั้นทั้งๆที่นายไม่ได้รู้สึกมันจริงๆ

มือที่กำลังจะจับข้อมือเขาถูกสะบัดออกไปอีกครั้ง เขาตั้งใจจะถอยหนี ร่างกายจึงหลับหูหลับตาตั้งท่าจะออกวิ่งเหมือนเมื่อคราวก่อน

“ กิโนะ!”      แต่คราวนี้ท่อนแขนแข็งแรงตวัดรอบเอวจับตัวเขาเอาไว้ได้เสียก่อน

“ ปล่อยนะ! เราไม่มีอะไรจะต้องคุยกันอีกแล้ว!”       บาดแผลและความเจ็บปวดที่อีกฝ่ายสร้างมันเอาไว้ในใจเขา ทำให้ร่างกายต่อต้านสุดกำลัง

“ กิโนะ ฟังชั้นก่อน!”      ร่างสูงใหญ่ยังคงตะครุบตัวเขาเอาไว้ อ้อมแขนนั้นรัดเขาแน่นจากทางด้านหลัง

“ ไม่ฟัง!!”       และเขาก็ยังสะบัดตัวหนี ทั้งดิ้นทั้งไม่ยอมแพ้

“ กิโนะ”       โคงามิพยายามจะกอดเขาเอาไว้ในอ้อมแขน แต่แรงดิ้นรนขัดขืนจากเขาก็มีมากเกินไปอีกทั้งยังเสี่ยงที่ใครจะมาเห็นเข้า ร่างสูงใหญ่จึงหมดความอดทนแล้วลากเขาเข้าไปในเงามืด


ครืดดดด....!!!



ประตูเลื่อนของเพิงไม้ที่เขาคิดว่ามันปิดตายกลับถูกกระชากเปิดออกก่อนที่ร่างของเขาจะถูกเหวี่ยงเข้าไป สัมผัสนุ่มๆแต่ก็บาดมือทำให้เขารู้ว่าตอนนี้ร่างกายของเขากำลังล้มอยู่บนกองฟาง

โรงเก็บฟาง?

จะที่ไหนก็ช่างเพราะตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาคิดถึงเรื่องนั้น เขาสะบัดหน้ากลับมามองคนที่กำลังเลื่อนประตูปิดลงด้วยสายตาดุดัน ร่างกายพยายามลุกขึ้นเพื่อจะหนีไปให้ได้

และด้วยความดื้อดึงของเขาทำให้โคงามิต้องจับตัวเอาไว้แล้วเหวี่ยงกลับมาบนกองฟางดังเดิม

ร่างสูงใหญ่ตามลงมาคร่อมเขาเอาไว้โดยไม่คิดจะเผื่อเวลาให้เขาขัดขืนได้อีก ข้อมือทั้งสองข้างถูกจับรวบเอาไว้เหนือหัว


แล้วริมฝีปากก็ประกบปิดกั้นเสียงด่าทอของเขาทันทีเช่นกัน


“ อื้อ!!”     เรียวลิ้นร้อนที่ช่ำชองถูกสอดใส่เข้ามาในปาก รสสัมผัสที่คุ้นเคยนั้นชวนให้โหยหา ความหอมหวานระคนเรียกร้องของโคงามิไม่เคยเลยที่จะทำให้เขาหนีรอดไปจากเงื้อมมือคู่นี้ได้ ปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดกอดรัดกวาดต้อนทุกความรู้สึกไปจนหมด

นานแค่ไหนไม่รู้ที่เขาถูกจู่โจมด้วยริมฝีปากของอีกฝ่าย ร่างกายรู้สึกอ่อนระทวยไปกับการล่อลวงที่หนักหน่วง

แต่กระนั้น เมื่อริมฝีปากของร่างสูงใหญ่ละออกไป...และต่อให้เรี่ยวแรงของเขาแทบจะไม่มีเหลือ เขาก็ไม่มีทางยอมง่ายๆต่อให้ลมหายใจจะหอบถี่แค่ไหนก็ตาม

“ อึก....”       ริมฝีปากที่ตั้งใจจะประกบลงมาอีกครั้งถูกเขากัดจนได้กลิ่นคาวเลือด สองมือยังคงพยายามดิ้นรนให้หลุดจากการจับกุม

นัยน์ตาของหมาล่าเนื้อเหลือบลงไปมองรอยเลือดจากมือที่เช็ดมุมปากของตัวเอง และยามที่มันเหลือบขึ้นมามองเขาอีกทีก็มีแต่จะทำให้ร่างกายรู้สึกถึงอันตรายจนต้องถอยหนี

“ อย่านะ โคงามิ...”       นัยน์ตาที่ดำมืดคู่นั้นเขารู้จักมันดี...และโคงามิจะไม่หยุดจนกว่าจะได้สิ่งที่ต้องการ

ฝ่ามือใหญ่กระชากชายยูกาตะให้แหวกออกก่อนจะจับขาของเขาแยกออกจากกัน แค่นั้นก็รู้แล้วว่าเขากำลังจะโดนทำอะไร

“ อย่า!”      ร่างกายจึงพยายามจะดิ้นรนถอยหนี ทว่า เขาก็ไม่เคยสู้แรงอีกฝ่ายได้เลย

“ โคงามิ อย่า อื้อ!!”       นัยน์ตาได้แต่หลับแน่นเมื่อความเจ็บแล่นลิ่วขึ้นมาจากช่วงล่าง น้ำตาไหลลงมาโดยที่ไม่รู้ตัว เมื่อจู่ๆอีกฝ่ายก็กระแทกแกนกายเข้ามารวดเดียว ความห่างหายจากเรื่องแบบนี้มานานทำเอาเจ็บจนแทบขยับไม่ไหว

“ เจ็บ....โค....”       ร่างกายสั่นระริกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ถึงแม้จะพยายามผ่อนลมหายใจแต่ก็ไม่ช่วยอะไร นัยน์ตาภายใต้รอบแว่นจึงได้แต่หลับแน่นโดยปล่อยให้น้ำตาไหลลงไปตามแก้มใส

ไม่ใช่แค่ร่างกายที่รู้สึกเจ็บ แต่ที่ใจมันยิ่งปวดกว่าหลายเท่า

“ อึก...”       เขาได้แต่กัดฟันทน คนที่ขยับโดยที่ไม่สนใจเขา


เอาเลย...อยากจะทำอะไรก็เชิญ...เสร็จแล้วจะได้ไม่ต้องโผล่หน้ามาให้เขาเห็นอีก....

คงมีแค่นี้แหละ ที่โคงามิต้องการจากเขา...


เจ็บ...จนทำยังไงน้ำตาก็ไม่หยุดไหล...



“ กิโนะ...”       เสียงทุ้มยังคงพร่ำกระซิบอยู่ที่ใบหู ถึงเสียงนั้นมันจะยังอ่อนโยน ทว่า สิ่งที่โคงามิทำกับเขามันกลับไร้ซึ่งความปราณี

ความปรารถนามากมายถูกปลดปล่อยออกมาด้วยร่างกายของเขา ด้วยน้ำตา ด้วยเสียงสะอื้นของเขา


แรงขยับครั้งสุดท้ายแทรกเข้ามาอย่างหนักหน่วงก่อนที่ความอุ่นวาบจะซึมซาบอยู่ในร่างกาย  โคงามิคงเพิ่งจะเห็นว่าเขาร้องไห้ ริมฝีปากรสบุหรี่ที่คุ้นเคยจึงขยับมาไล้เลียกลีบปากเขาเบาๆก่อนจะสอดใส่ปลายลิ้นเข้ามา

คิดจะใช้จูบที่อ่อนหวานทำให้เขาเคลิบเคลิ้มจนยอมให้อภัยหรือยังไงกัน


“ แฮ่ก...แฮ่ก....”       มีเพียงเสียงลมหายใจหอบถี่ที่สอดประสาน เพราะตลอดเวลาที่มีอะไรกันเขาพยายามกลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่ให้อีกฝ่ายได้ยิน

จะไม่มีวันให้รู้หรอกว่า ท่ามกลางความรุนแรงพวกนั้น ร่างกายของเขาเผลอตอบรับมันไปแค่ไหน


ก็แค่ร่างกาย...ที่ไม่อาจต่อต้านความต้องการได้ก็เท่านั้น


“ กิโนะ...ฟังนะ”       มือใหญ่จับมาที่ไหล่ซึ่งยูกาตะหลุดลุ่ยของเขา นัยน์ตาสีดำจ้องมองมาด้วยแววจริงจัง แต่ความจุกแน่นที่อยู่ในใจมันก็ไม่อาจจะทำให้เขาทนมองหน้าอีกฝ่ายได้ ความน้อยใจในสิ่งที่โคงามิทำเหมือนเขาเป็นของตายที่จะยอมกันง่ายๆแค่ใช้เซ็กส์เข้าช่วย มันทำให้ไม่คิดจะฟังอะไรอีก

สองมือกำลงไปบนกองฟางแน่น ก่อนจะปาเส้นฟางพวกนั้นใส่ใบหน้านิ่งที่ชะงักไป มือที่จับไหล่เขาอยู่ชักกลับไปเพื่อป้องกันหน้าตัวเอง และเพราะแบบนั้นมันจึงมีช่องว่างพอให้เขาผลักอีกฝ่ายจนหงายหลัง

ร่างกายที่ยังเจ็บร้าวลุกขึ้นโดยไม่สนใจว่าอะไรมันจะไหลลงมาตามเรียวขา นัยน์ตาที่พร่ามัวไปหมดมองไม่เห็นแม้แต่ทางข้างหน้า

ทว่า..

เขาก็ยังวิ่งออกไป...โดยไม่สนใจเสียงเรียกที่ดังอยู่ข้างหลัง


ไม่ฟัง....

จะไม่ฟังอะไรทั้งนั้น....


เพราะไม่อยากเจ็บใจในความใจอ่อนของตัวเองไปมากกว่านี้อีกแล้ว...









เขาเดินโซเซกลับเข้ามาในบ้านซึ่งมีเพียงแสงจากคบไฟสลัวๆ ทุกคนคงจะหลับกันไปหมดแล้ว

ดีแล้วละที่จะไม่ต้องเจอกับใครในตอนนี้ เพราะปลายจมูกกับขอบตาที่ยังแดงระเรื่อก็ทำให้เขาไม่รู้จะตอบว่ายังไงถ้ามีใครถามว่าไปทำอะไรมา  ถึงแม้จะพยายามจัดยูกาตะให้เข้าที่เข้าทางแต่หัวยุ่งๆที่เต็มไปด้วยเส้นฟางก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้มันเนี้ยบเหมือนสภาพตอนปกติของเขา

ร่างกายได้แต่เดินอย่างเหนื่อยล้าไปตามระเบียงทางเดิน ความเหนอะหนะที่ยังค้างคาอยู่ข้างในทำให้ไม่สามารถจะหลอกตัวเองได้ว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ริมฝีปากจำต้องเม้มแน่นอย่างพยายามห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลลงมาอีก...จะไปคิดถึงมันทำไม...ในเมื่อโคงามิก็คงไม่ได้คิดอะไร ถึงได้ทำกับเขาแบบนี้



“ อึก.....อ้า......”        ทว่า...เสียงครางที่ดังมาจากที่ไหนสักที่ก็ทำให้ขาถึงกับชะงักค้าง นัยน์ตาเบิกกว้างพลางหันมองรอบกายด้วยความระมัดระวัง...

เสียงครางแบบนี้มัน....

“ ฮะ...อ้า....ยามะ.....อ่ะ....”        แผ่นหลังรู้สึกชาวาบไปกับเสียงที่ได้ยิน เพราะถึงแม้มันจะต่างจากโทนปกติเล็กน้อยแต่เสียงนั่นมันเป็นเสียงของ โกคุเดระ ฮายาโตะ อย่างแน่นอน

เขาขยับเข้าไปหลบอยู่หลังเงามืดของมุมห้อง และเมื่อมองดูให้ดีๆห้องนี้มันคือห้องของยามาโมโตะไม่ผิดแน่

เงาวูบไหวที่มองเห็นรางๆจากกระดาษสาที่กรุประตูทำให้เขาถึงกับตกตะลึงอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน...ว่าสองคนนั้นจะมีความสัมพันธ์กันในรูปแบบนี้...เพราะทั้งเสียงทั้งการขยับกายมันช่างคล้าย...กับสิ่งที่เขาเพิ่งไปเผชิญมา

แต่มันต่างกันตรงที่ โกคุเดระ ฮายาโตะ ไม่ได้ขัดขืน ไม่ได้ถูกยามาโมโตะใช้กำลังบังคับเหมือนที่เขาโดน

เสียงครางอย่างสุขสมที่ยังคงเล็ดรอดออกมาทำให้เขาตัดสินใจจะปล่อยไป เรียวขาก้าวถอยหลังก่อนจะเดินอ้อมกลับห้องของตนด้วยทางอื่น


ตกลงว่า...

สองคนนั้นมีความสัมพันธ์กันยังไงกันแน่? ไม่ได้เป็นแค่พี่ชายกับน้องชายหรอกหรอ?



หัวใจของเขายังคงเต้นแรงเมื่อนึกถึงเสียงที่เพิ่งไปได้ยินมา ในหัวกำลังนึกทบทวนดูว่า...สองคนนั้นก็ไม่เคยบอกเขานี่...ว่าเป็นแค่พี่น้อง...ไม่ได้เป็นคนรัก

ยิ่งปากไม่ตรงกับใจอย่าง โกคุเดระ ฮายาโตะ ก็คงไม่แปลกหรอกที่จะไม่ยอมบอกเขาตรงๆ


และยิ่งเป็นแบบนี้ความสงสัยว่าทำไมยามาโมโตะถึงยอมทำเพื่อเด็กนั่นขนาดนั้นจึงหมดไปทันที

ทั้งคอยเป็นห่วงเป็นใย ทั้งสายตาที่มองอย่างหวงแหน ไหนจะบ้านหลังนี้ที่คอยดูแลเอาไว้ให้อย่างดี....ถ้าแค่ความรักของพี่ชายคงไม่สามารถทำให้กันได้ขนาดนี้แน่ๆ



ถึงจะยังตกใจแต่เขาก็คงจะไม่เข้าไปขัดขวาง

ในเมื่อตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ เขาก็เห็นมากับตาว่ายามาโมโตะรัก โกคุเดระ ฮายาโตะ มากขนาดไหน

ทั้งๆที่เด็กคนนั้นไม่ปกติ...แต่ยามาโมโตะก็ไม่คิดจะทิ้งไป ยังคงคอยดูแลเอาใจใส่ราวกับของล้ำค่าอยู่เหมือนเดิม




เขาควรจะดีใจด้วยต่างหาก...ที่คนไข้ในความดูแลได้เจอคนที่ดีแบบนั้น

ไม่เหมือนเขา....ที่ได้เจอคนอย่างโคงามิ







.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

To be Con.




อย่าฆ่าหนูที่เขียนเอ็นซีของเรื่องนี้ได้ชั่วร้ายมาก ฮ่าๆๆ สนใจเอ็นซีแบบหนักหน่วงเชิญ “ในห้องที่แสงส่องไม่ถึง” เบยค่ะ

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์จากสี่ตอนที่แล้วมากๆๆๆนะคะ >////< ดีใจที่ยังมีคนอ่านคู่นี้อยู่ 555 อ่านคอมเม้นต์ไปก็ดิ้นไปทุกอันเลยค่ะ ขอบคุณมากๆนะค้า >3<

แปะรูปแฮปก๊กรูปสุดท้ายของปีนี้...อิอิ





โอย อยากจิแนะนำเพลงที่กำลังฟังอยู่ตอนแต่งตอนนี้จริงๆ Calm Envy ของ the GazettE ค่ะ คือเพลงแม่งโคตรกิโนะมว๊ากกกกกกก ขอบคุณคำแปลอันแสนรวดร้าวจากน้อง Nicha ด้วยนะค้า  จิ้ม>>Calm Envy [the GazettE]

ฟังแล้วอยากจะกัดผ้าเช็ดหน้าขาดจริงๆ T^T






สำหรับ Theme song ของฟิคเรื่องนี้คงยกให้หลายๆเพลงของกาเซตเลยค่ะ ถึงแม้ชื่อเรื่องและความรู้สึกหลักๆจะได้มาจากเพลง Juunana Sai แต่จริงๆที่ฟังอยู่ก็มีทั้ง  Cassis , Reila , Calm Envy , Pledge ลองไปหาฟังดูเถอะค่ะ โคตรเพราะทุกเพลง โฮวววววว เป็นวงที่ทำเพลงช้าได้สุดยอดมากอ่ะ รวดร้าวไปถึงทรวงในเบยค่ะ



แล้วเจอกันตอนหน้าค่า




10 ความคิดเห็น:

  1. ทำไมอ่านๆไปเริ่มรู้สึกว่สตัวเนียนมันเป็น เดอะ ลาสบอสของเรื่องนี้กันนะ=w=♡

    ปวดใจฉากก๊กอาละวาดจะลงน้ำ เอาแรงมาจากไหนเยอะแยะลูกก แต่แอบคิดว่าเป็นเพราะเคะด้วยกันเลยฉุดกันออกมาไม่ได้รึเปล่า พอเมะเค้ามาอุ้มพรวดเดียวตัวลอยเลย (ฮา) นึกหน้ายามะตอนนั้นออกเลยค่ะ จริงๆหมอนี้ต้องโมโหอยู่แน่ๆ(ที่ไปพาสุดที่รักเค้าออกจากบ้านมาให้คนอื่นเห็นความสวย #ไม่ใช่) แล้วแกก้ทำหน้าเนียนกลบเกลื่อนความดาร์คไป

    แล้วยังไง ฉากเอ็นซี2ฉากนั้นมันยังงายยย มีทั้งแบบเนื้อๆเน้นๆ(เน้นเลือดและน้ำตา?) กับที่มาแต่เสียงเเต่นึกภาพออก คุณกิโนะะะ ทำไมไม่เจาะรูกระดาษสาละค้าาาา ทำไมไม่ยืนฟังนานกว่านั้นหน่อยอ่าาาา

    ยังไงห๊าเนียน ไหนแกบอกจะพากลับบ้าน ทำไมไม่ไปส่งก๊กที่ห้องก๊ก เอาเข้าห้องตัวเองทำมายยย>////< ไม่ต้องให้ออกมาซัก2วันเลยนะ ทำโทษที่ไปกับชาย(?)อื่น ฮาาา XD

    พี่กวางงง สนุกมากๆเลยค่า อยากอ่านตอนต่อไปแล้วอ้าา เอามาเร็วๆน้าา รักษาสุขภาพด้วยนะคะ>~<☆

    ตอบลบ
  2. อรั้ยย พี่กวางงขา

    เอ็นซีสองคู่ในตอนเดียว
    แม้คู่นึงจะได้ยินแต่เอฟเฟกต์ก็เถอะนะ
    ทำเอาเลือดกำเดาหยดแหมะ ๆ ได้ง่าย ๆ เลยค่า
    (แต่รู้สึกว่าเอ็นซีคู่หลังนี่จะเรียกได้เยอะกว่านะ ถึงจะมีแต่เสียงก็เถอะ แอบลำเอียง 555)

    คุณโคนี่ยังคงรุนแรงไม่เปลี่ยนเลยน๊า // แอบนึกไปถึงสัญญาที่เขียนบนน้ำ ฉากตรงบันไดนั่น >_<
    มันอารมณ์เดียวกันเลยค่า แต่อันนี้รู้สึกจะเลอะเทอะไปหน่อยนะ ฟางบาดกิโนะบ้างรึเปล่าเนี่ย เหอ ๆ
    (แอบฟินตอนที่กิโนะบอกว่าแค่เห็นก็รู้สึกได้ถึงเรือนร่างที่เป็นแต่มัดกล้าม บร๊ะ!! (((>//<)))

    สู้ ๆ นะคะพี่กวาง แอบเห็นคำผิดบางคำ แล้วอดขำตอนอ่านไม่ได้ // โดนตรบ
    เดี๋ยวแคพรูปไลน์ไปให้นะคะ

    ตอบลบ
  3. "ร่างบอบบางยังคงดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนจนคอยูกาตะสีดำของยามาโมโตะแหวกออกให้เห็นแผงอกแข็งแรง...ถึงกล้ามเนื้อจะยังมีไม่เท่าโคงามิแต่สำหรับเด็กอายุเท่านี้ก็นับว่ามีร่างกายที่ดีมากทีเดียว"
    คุณหมอ . . . . คิดอะไร??
    ไม่รู้ แต่คิดภาพแผงอกยามะแล้วฟินเลยยยยย >/////<
    แล้วฉากนั้นมันอะไร!?!!!!
    ได้ยินแต่เสียง มันอาจจะไม่ใช่อย่างคุณหมอคิดก็ได้นะคะ คุณหมอน่าจะแอบดูให้เห็นชัดๆจะๆกันไปเลย #ผิด

    สนุกมากค่ะ จะรอติดตามตอนต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไปเรื่อยๆนะคะ^^

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ13 กันยายน 2556 เวลา 06:25

    แพล่บบบบบบบบบบบบบบ =q=
    น้ำลายหกกล้ามยามะตอนยูกาตะแหวก
    แล้วยังมาน้ำลายหกกล้ามคุณโคตามมโนกิโนะอีก
    คุณหมอจริงๆมีปมเรื่องกล้ามใช่มั้ยคะ? เหมือนในออฟฟิเชียลโปรไฟล์ของไซโคพาสที่บอกว่าจริงๆแล้วกิโนะแอบอยากมีกล้ามอยู่ลึกๆ? ฮาาาา

    ส่วนตัวชอบฟีลงานโอบ้งมากเลยค่ะ
    รู้สึกมันเป็นเทศกาลที่อบอุ่น แต่ก็เป็นอบอุ่นแบบแอบเหงาๆดี
    คุณกวางเก็บรายละเอียดฉากลอยโคมได้สวยมากกกก จนขอแอบฟินเล็กๆ > <"

    พาร์ทเอ็นซีของโคกิโนะ อ่านแล้วปวดตับจี๊ดเลยค่ะ
    คุณโคจะมาง้อ(?)ทั้งที แต่กิโนะโค่ดดดดดื้อเลย อร๊าย
    /ซับน้ำลายกล้ามคุณโคอีกหนึ่งแพล่บ

    ยามะก๊กที่มาแค่เสียงและเงาก็ฟินได้ >_______<
    ช็อตอุ้มก๊กขึ้นจากน้ำก็พระเอกสุดๆ
    ดูเป็นคู่ที่รักกันดี (แบบมีปมเล็กๆละมั้ง?)
    ดาร์กยามะเริ่มหลุดตอนปรายตามองคุณหมอนี่แหละ
    จะรอดูความดาร์กขั้นเลเวลอัพนะคะ ฮี่ :p

    รอตอนต่อนะค้าาาาา (:

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ13 กันยายน 2556 เวลา 10:58

    > _____ <

    ตอบลบ
  6. ไอ้ฉากคุณหมอคนสวยชวนคนไข้คนสวยไปลอยโคมนี่มันอารายยยยยย
    > ____ < ชอบบบบอ่ะ ชอบบบมากๆเลยค่ะกวางซาม้าา
    ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกอยากเซิ้ง(?) ด้วยความที่ชอบทั้งคู่(?)
    แล้วทั้งคู่ก็นิสัยช่างถอดแบบได้เหมือนเป๊ะขนาดนี้!!!!!
    ตายยยย!!! ฉันแพ้ทาง(?)แบบเน้~~~~ > ___ <
    แล้วไหนจะคนสวยสองคนในชุดยูกาตะพากันไปเดินเฉิดฉาย(?)
    หยอกล้อ(?)กัน ล่อตะเข้กัน(?)แบบไม่รู้ตัว(?)
    ถึงขั้นกัดผ้าเช็ดหน้าด้วยความฟิน(?)ลงไปแดดิ้น(?) > <

    อ่านฉากเทศกาลแล้วนึกภาพตามแล้วบอกตรงๆว่าสวยมากๆ T _ T
    อ่านแล้วก็จิอยากไปลอยโคมจริงๆเลย

    ตอนกิโนะยื้อยุดชุดก๊กไว้ไม่ให้หายลงไปในน้ำ ใจกลัวจะได้ลงน้ำคู่(?)มากมาย
    ในหัวนี่เรียกร้อง(?)ว่า อ่าวเฮ้ย ไอ้พ่อพระเอกสองตัวมาทำงานกันสักตัวสิเฮ้ยย!!!
    แถมพระเอกของเรา(?)ก็เรียกได้ดั่งใจ(?)
    ตอนที่อ่านถึงว่า ยามะมาอุ้มก๊กขึ้นไปจากน้ำนี่แบบ
    อ๊ากกกก มันต้องแบบเน้~~~ > ____ < ชูป้ายเชียร์(?)สุดแขน
    อุ้มเข้าโซน อุ้มเข้าโซน อุ้มเข้าโซน แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก 555555 #บ้าเข้าไป
    แล้วก็สายตาดาร์คโหมดของยามะที่เห็นเรื่องนี้.....ถึงจะรู้สึกว่าโคตรเท่ก็เถอะ
    แต่อย่ามาทำใส่กิโนะเซ่ > [ ] < )/ กิโนะเจ็บเยอะแล้วนะ #ลำเอียงสุดๆ 5555

    แล้วคุณโค~~~~~!!!!! > ___ <
    ปากบอกให้กิโนะฟัง มาง้อเค้าไม่ใช่เหรอออ~~~
    แล้วไหงมากดเอาใจคนอ่าน(?)แบบเน้~~~~
    ถึงจะรุนแรงกับกิโนะจนไม่อยากยกให้(?)
    แต่ ณ จุดนี้มันก็บอกได้อย่างดีว่านี่คือคุณโคตัวจริง(?) 555555
    ฉากกดคู่นี้ไม่ว่ายังไงก็ฟินในความรุนแรง(?)
    เพราะยิ่งคุณโครุนแรงแค่ไหน มันก็เหมือนกับกำลังสื่อว่าคุณโคจริงจังมากเท่านั้น
    #สรุปฉันมันพวกSM 555555

    และเหนือสิ่งอื่นใด....
    กวางซามะค่ะ....NC เสียงครางสองบรรทัดนั่น
    สองบรรทัดนั่น!!!!!! เรียกเลือดกระฉูดสาดกระจาย(?)กว่าคู่ลากเข้ากองฟาง(?)มากมาย
    > __________ < โอ่ยยยยยยย ไม่รู้จะบรรยายยังไง 55555
    ทำไมกิโนะไม่นอนฟัง(?)หน้าห้อง(?)เลยล่ะกิโน๊ะ~~~~
    ฮือออออ ถูกกวางซามะกลั่นแกล้ง(?) 555555

    เค้าเป็นกำลังใจให้ตลอดนะคะ
    ยังยืนยันว่าชอบฟิคกวางซามะมากๆ ไม่ว่ายังไงก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ
    ดีใจมากๆๆจริงๆที่ได้อ่านนะคะ > <
    รักษาสุขภาพด้วยนะคะ~~~~

    ปล. เพลงวงนี้มันสะท้านทรวงถูกใจจจริงๆเบย T __ T

    ตอบลบ
  7. แหมๆๆๆ คุณหมอคะ ที่รับมือเด็กซึนได้ดีนี่เพราะเป็นจิตแพทย์
    หรือเพราะตัวเองก็ซึนเหมือนกันคะเลยเดาทางได้ไม่ยาก ฮ่าๆๆ
    ชอบจริง ๆ เวลาที่คุณหมอหาทางรับมือกับความซึนของหนูก๊ก ก็มันน่ารัก >//<

    อ่า.... ว่าแต่ยูกาตะนี่มันสุดยอดจริง ๆ เลยค่ะ (ในหลาย ๆ ความหมาย) (-.,-)_b

    ตอบลบ
  8. ได้อ่านแล้ว...รู้สึกเหมือนชินยะจะพยายามบอกอะไรสักอย่างให้หมอกิโนะฟัง
    แต่ทิฐิโคตรจะบังตาเลย... ปมเก่ายังไม่คลาย ปมใหม่ก็มาเกยเสียแล้ว ลึกลับมากค่ะ
    ลุ้นเหมือนทุกคนจะพยายามปกปิดเรื่องจริงเอาไว้ เหมือนพวกคนในบ้านทุกคนจะช่วยกันปิดความลับกันหน้าดู (.___. )......
    ใครจะตายเป็นคนต่อไป !?
    ยามาโมโต้ จะดาร์คได้มืดมนขนาดไหน !?
    ฮายาโตะ มีปมหลังอะไร !?
    หมอกิโนะ จะหนีแฟนเก่าได้สักกี่น้ำ !?
    ชินยะ กำลังสืบอะไรอยู่ !?
    ชอบแนวสืบสวนดราม่านิดๆแบบนี้ ลุ้น บีบอารมณ์ดี รอตอนต่อไปค่ะพี่สาว :)

    ตอบลบ
  9. เชื่อเลย...ว่าเม้นท์นี้มันต้องแม่มกลายเป็นสแปม =w=

    แอบอู้ของแถมวันเกิดอิเนียนแล้วย่องมาหาก่อนล่ะค่ะ อิอิ คือสมแล้วอ่ะ สมแล้วจริงๆกับคำเตือนเก๊าว่าเรื่องนี้นี่มันไม่ธรรมดาจริงๆอ่ะ คือคิดเลยว่าขนาดคนอ่านขนยังลุก คนแต่งต้องไม่แพ้กันแน่ๆ แต่ชอบจริงๆเลยค่ะ ชอบทั้งการผูกปม การบรรยาย การดำเนินเรื่อง การแสดงความรู้สึกของตัวละครซึ่งเรื่องนี้นี่ความรู้สึกนึกคิดมันนำมาเป็นอย่างแรกเลยอ่ะ ในสายตาของผู้อ่าน ชอบมากๆที่ให้กิโนะซังเป็นคนดำเนินเรื่อง เพราะด้วยความที่เข้ามาอยู่ใหม่ ต้องเจออะไรที่ไม่คุ้นเคย การเข้าไปอยู่ในที่ๆไม่ถูกไม่ควร หรือพบเห็นอะไรผิดปกติ มันทำให้ผู้อ่านมีอารมณ์ร่วมด้วยมากๆเลยค่ะ ขนลุกจริงๆ เสียวสันหลังวาบๆทุกครั้งที่มีการเกิดเรื่องเลยค่ะ

    แบบเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในเมืองลับแล เมืองต้องห้าม หมู่บ้านคำสาปอะไรประมาณนั้นเลยอ่ะ// ฮืออ ชอบอารมณ์นี้จริงจัง

    เปิดเรื่องมาตั้งแต่ตอนแรกเก๊าก็แอบผวาแล้วอ่ะ แบบ เรื่องแฝดนี่อะไรๆมันก็เป็นเรื่องน่ากลัวในสายตาเก๊าอยู่แล้วอ่ะ คือเคยดูหนังเรื่อง แฝด แล้วหลอนไม่หาย ชอบตอนหนูก๊กเอาหน้าแนบกระจกมากค่ะ คือ...มันดูกำลังสื่อสารกับใครสักคน กำลังอยู่ในภวังค์ โลกที่เข้าไม่ถึง เอิกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไอ้มิยะขนลุกครัช TT[]TT ตอนเม้นท์นี่ยังไม่หายเลยค่ะ บรรยากาศให้มาก แถมทุกสิ่งทุกอย่างที่คนในตระกูลพูดมันก็ดูเป็นปริศนา น่าสงสัยไปหมดอ่ะ เง้อออ ชอบ

    คือชอบตอนที่ช่วยกันปิดที่กันฝนนั่นมาก น่ารักอ้ะ แบบเก๊าจินตนาการอยู่ว่าตัวละครสองตัวโดยผู้วาดผู้ออกแบบคนเดียวกันแม้คนละเรื่องนี้ พอมาอยู่ด้วยกันในฟิคเรื่องนี้แล้ว เข้ากันได้อย่างประหลาดเลยค่ะ ชอบที่กิโนะซังเอ็นดูหนูก๊กขึ้นเรื่อยๆ แล้วหนูก๊กก็ทำตัวให้น่าเอ็นดูมากๆ น่ารักจริงๆค่ะ โอยยยยย เห็นคนปากไม่ตรงกับใจกับคนชอบเก็บความรู้สึกมาอยู่ด้วยกันนี่มันกิ๊วก๊าวมากอ่ะค่ะ อือออออออ รวบมากอดสองคน // แล้วเอาลงหลุมไปด้วยกัน กร๊ากกกก

    ชอบอีกทีตอนที่หนูก๊กให้กิโนะซังไปหาของในห้องเก็บของ แล้วกิโนะซังไปเจอชุดเจ้าสาว แล้วเห็นว่าของทุกอย่างมันมีอย่างละชิ้นนั่นแหล่ะ...เหร้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ขนลุกซู่เลยครัช...อันนี้ลุกจริง ลุกเต็มสตรีมเลยด้วย พอคิดผนวกเข้ากับที่กิโนะซังหาแฟ้มประวัติน้องสาวหนูก๊กไม่พบ กับอะไรหลายๆอย่างที่พี่กวางสื่อออกมาเรื่องชื่อนั่นด้วย ทำให้เค้าแอบคิดว่า...นี่ลูกสาวไอ้มิยะจิตเข้าขั้นเลยหรือเปล่า....อ่านผสมๆคิดถึงอินโทรตอนแรกสุดแล้วมันไปไกลจริงจัง

    ตอบลบ
  10. ขอโทษพี่กวาง ณ ที่นี้ มันบอกตัวอักษรเกิน เลยต้องตัดเม้นท์มาอีกเม้นท์ค่ะ

    เรื่องสาวน้อยที่มาหาหนูก๊กถึงบ้านนั่นก็น่าสงสัย คือ...เท่าที่อ่านแล้วคิดไม่น่าจะชอบยามาโมโตะจริงๆนั่นแหล่ะค่ะ คือแล้วพอเจ้าหล่อนถูกพบกลายเป็นศพงี้ อะไรๆมันชักเข้าเค้าอ่ะ...แล้วไหนจะเรื่องชุดกิโมโนเปื้อนเลือดหนูก๊กนั่นอีก โอวววว ทุกอย่างทำให้คิดไปไกลแล้วค่ะ จะถูกจะผิดไม่รู้แหล่ะงานนี้ แต่ว่ามันสนุกมากๆจริงๆ ขนลุกทุกตอนเลยก่ะ

    ต่อไปขอพูดถึงความรักและตัวละคร อยากบอกว่าแอบปลื้มคาร์แร็กเตอร์อิเนียนเรื่องนี้มากๆก่ะ >v< มันดาร์กได้เป็นเวล่ำเวลามาก แล้วดาร์กแต่ละทีนี่โคตรเท่ห์อ่ะ อย่างกับองค์ลง เหมือนถูกวิญญาณเจ้าตระกูลเข้าสิง เง้อออออออออออออ เท่ห์ไป ชอบจริงจังเวลาที่มันสั่งการหรือทำอะไรสักอย่างด้วยสีหน้ามืดมนๆนั่น ทำให้อิเนียนเรื่องนี้น่ากรี๊ดอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ คือแอบชอบตอนที่กิโนะซังบอกว่า อิเนียนมันเหมาะกับอะไรดำๆญี่ปุ่นๆ โอกกกกกกกกกกกกกกก ลูกเขยเบอร์หนึ่งหล่อขาดใจเบยยยยยย T////T

    มาถึงคุณโค สารภาพว่าตอนคุณโคโผล่นี่ไอ้มิยะกรี๊ดแตก โผล่มาได้แบบไม่ธรรมดาจริงๆ แล้วก็อยากรู้มากๆว่าคุณโคเกี่ยวข้องอะไรกับคนในตระกูลโกคุเดระหรือเปล่า อยากเห็นตอนอิเนียนกับคุณโคป๊ะกัน // ถีบไอ้มิยะลงหลุมไป เง้อออออออออออออออออออออออ นี่ตั้งใจมาง้อหรือมาทำอะไรๆคุณหมอฮะ งื้ออออออออ เป็นตัวละครอีกตัวที่ไอ้มิยะจิ้นภาพตามตอนคุณโคใช้สายตา โฮกกกกกกกกกกก ได้ใจเคอะ!

    ส่วนเคะสองคนนั้น ไม่ต้องให้พูดค่ะ น่ารักมากๆ ชอบความคิดที่จะปกป้องของกิโนะซังจังเลยค่ะ ชอบเวลาที่สองคนนี้อยู่ด้วยกันจัง อารมณ์เหมือนตอนหนูซือกับหนูก๊กในดาวตกกลับมา ตอนที่กิโนะซังสาบานว่าจะไม่ให้ใครมาทำร้ายดอกไม้ไฟนี้เป็นอันขาด ไอ้มิยะกรี๊ดลั่นบ้าน น้ำตาร่วง อือออออ ลูกสาวหม่ามี้น่ารักมากจนมีคนรักเพิ่มอีกคนแล้ว...แต่กลัวจริงๆ กลัวอนาคตค่ะ กลัวว่ากิโนะซังจะช็อค จะเจ็บ หรืออะไรก็ตามกับการกระทำหนูก๊กจัง

    ชอบที่หนูก๊กเรียกกิโนะซังว่า กิโนะ ด้วย ฉากกอดของทั้งสองคนนั้นประทับใจสุดยอดเลยค่ะ TTvTT

    ก๊าวสุดตอนนี้เบยยยยยยย กิโนะซังกับยูคาต่าาาาาาาาาา เชร้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! เหมาะไปค่ะ! คิดภาพแล้วใจเต้นตึกตัก มันต้องดูดีมากๆแน่ๆ ยิ่งเดินคู่ไปกับหนูก๊กยิ่งกรี๊ดบ้านแตกค่ะ อือออ สองคนนี้เรื่องนี้ดูดีไป T////T ไม่ว่ากันเรื่อง NC เพราะของเก๊าน่าปาไหกว่านี้เยอะ//ปาได้ตั้งแต่ตอนนี้ ฮ่าๆๆๆ....เก๊าว่ามันก็ดูเหมาะลงตัวกับเนื้อเรื่องแล้วด้วยแหล่ะค่ะ คือ...ยิ่งเป็นคุณโคบรรยายฉากของอิเนียนกับหนูก๊กนั่นแล้วมาเปรียบเทียบกับตัวเอง มันรันทดได้ใจอ่ะ

    แหงะดูนาฬิกา เวรกรรม จะเที่ยงคืนแบ้ว จะติดตามเรื่องนี้แน่นอน ขอบคุณสำหรับฟิคดีๆ ได้อารมณ์ขั้นพรีเมี่ยมแบบนี้ค่ะ...คว้าคนแต่งมากอด อิอิ สู้ๆนะก๊ะ มวฟๆ

    ตอบลบ