KHRfeat.PP Au.Fic [8059, KouGino] Juunana Sai ; 17ฝน : 01


KHRfeat.PP Au.Fic [8059, KouGino]  Juunana Sai ; 17ฝน : 01

Happy Birthday GOKUDERA HAYATO 09/09 fanfiction.


: KHR feat.Psycho Pass Fanfiction AU.
: 8059 KouGino
: Psycho Period Dark Romance
: NC-17

คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
                : เนื้อเรื่องต่อไปนี้ทำลายคาแรกเตอร์ค่อนข้างรุนแรง หากรับไม่ได้ที่ตัวละครจะ “ไม่ปกติ” อย่าเข้ามาอ่านนะคะ












.
.
.
.

“ เธอจะไม่หายไป...ตราบใดที่ฉันยังหายใจ

เพราะใบหน้าของเธอจะอยู่บนกระจกบานนั้น...ที่อยู่ตรงหน้าฉัน ”

.
.
.
.

นัยน์ตาสีมรกตกระพริบเปิดขึ้นมา...ท่ามกลางแสงที่ส่องผ่านบานประตูกรุกระดาษสา

ใบหน้าสวยที่ยังเหม่อลอย...ค่อยๆหันไปมองกระจกเงาบานใหญ่ที่ตั้งเอาไว้ไม่ไกลจากฟูกนอน

ก่อนที่ร่างบอบบางจะลุกขึ้นนั่งช้าๆ...ผ้าสีขาวของกิโมโนไหลหลุดลงไปจากไหล่ แต่คนที่ใส่กลับไม่ได้สนใจ

เรียวขาพยุงร่างกายตัวเองขึ้นมา...แล้วก้าวย่างอย่างเชื่องช้าไปยังหน้ากระจก

ฝ่ามือบางวางลงไปบนใบหน้าที่สะท้อนกลับมา...ริมฝีปากสีระเรื่อส่งยิ้มละมุนละไมไปให้คนที่ยืนอยู่ในนั้น

ปลายนิ้วเลื่อนไปเกลี่ยไล้เส้นผมสีเงินซึ่งยาวถึงกลางหลัง...ของคนที่ยังอยู่ในกระจก

ร่างกายและใบหน้าใสค่อยๆอิงแอบแนบชิดไปกับความเย็นเฉียบ นัยน์ตาเลื่อนลอยเหม่อมองใบหน้าที่อยู่ใกล้แสนใกล้

“ อรุณสวัสดิ์....”      และเมื่อเอ่ยคำนี้ออกไป...ในหูก็เหมือนกับจะได้ยินคำคำนี้ตอบกลับมา...


ถ้าฉันไว้ผมยาว.....ถ้าฉันใส่กิโมโน.....ไม่ว่าใครก็ไม่อาจพรากเธอไปจากฉันได้.....ไม่เว้นแม้แต่ความตาย...


เธอจะไม่หายไป...ตราบใดที่ฉันยังหายใจ

เพราะใบหน้าของเธอจะอยู่บนกระจกบานนั้น...ที่อยู่ตรงหน้าฉัน

.
.
.
.
.
.





มือเรียวปิดหนังสือเล่มเล็กที่ถืออยู่ลง ก่อนจะย้ายปลายนิ้วมานวดที่ขมับ...แรงขยับโยกไปมาของรถโดยสารประจำทางเก่าคร่ำคร่าทำให้ไม่สามารถจะอ่านหนังสือต่อไปได้...นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นจึงมองออกไปที่ทุ่งนาซึ่งไกลสุดลูกหูลูกตา

ก็นับว่ายังดีที่สีเขียวพวกนี้ทำให้สายตารู้สึกว่าจะผ่อนคลายขึ้น...

ถนนสองเลนเส้นเล็กๆยังคงมุ่งหน้าเข้าป่าฝ่าภูเขา ทางที่เป็นเพียงถนนโรยกรวดทำให้จำต้องเก็บหนังสือลงกระเป๋าถืออย่างช่วยไม่ได้  นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นเหลือบมองกระเป๋าใบใหญ่ที่อยู่ข้างกาย

จากนี้ไป...ชีวิตใหม่กำลังจะเริ่มต้น

ในหมู่บ้านเล็กๆที่ห่างไกลจากเมืองใหญ่...ห่างไกลความเจริญ...ห่างไกล...จากผู้ชายที่ทำร้ายกันเรื่อยมา

อดีตที่ไม่มีอะไรดี...เขาจะลืมมันให้หมด


รถโดยสารประจำทางค่อยๆชะลอความเร็วลงจากเดิมที่วิ่งช้าอยู่แล้ว หญิงชราเพียงคนเดียวที่นั่งมาด้วยกันหันมาค่อมหัวให้ก่อนจะก้าวขาลงไป

ในยุครอยต่อของสมัยเก่ากับสมัยใหม่แบบนี้ คงมีคนไม่มากหรอกที่จะได้นั่งยานพาหนะที่เรียกว่ารถ ยิ่งเมืองชนบทแบบนี้มีรถวิ่งผ่านแค่วันละเที่ยวนี่ก็นับว่ามากพอแล้ว

ล้อสีดำเริ่มหมุนอีกครั้ง...เขานั่งอยู่บนนี้มาตั้งแต่เช้าตรู่ จนอีกสักครู่ก็คงจะพลบค่ำพอดี...ตอนนี้แสงแดดที่ทอประกายอยู่บนยอดไม้เริ่มอ่อนแสงลงทุกทีๆ

ได้แต่หวังว่าเขาจะไปถึงหมู่บ้านโคโตฮิระก่อนที่จะมืด....






แล้วการเดินทางที่ยาวนานก็สิ้นสุดลง เมื่อรถโดยสารประจำทางจอดช้าๆที่หน้าป้ายรถเมล์เก่าคร่ำคร่าจนมองแทบไม่เห็นว่ามันเขียนอะไรไว้บ้าง

มือเรียวยกกระเป๋าใบใหญ่ลงไปวางไว้ที่หน้าม้านั่งซึ่งมีหลังคาเก่าๆคลุมแค่พอกันฝนได้  เรียวขาก้าวขึ้นไปบนรถอีกครั้งก่อนจะหยิบกระเป๋าถือและกระเป๋าเครื่องมือการแพทย์ลงมา

และเมื่อรถวิ่งช้าๆจากไป...เขาจึงถูกทิ้งเอาไว้ตามลำพังท่ามกลางเสียงหริ่งเรไร...

ใบหน้าเรียวหันไปมองรอบกาย มีเพียงถนนเส้นเล็กๆสายเดียวเท่านั้นที่เชื่อมต่อกับถนนที่เขายืนอยู่เข้าสู่หุบเขา...ดูท่าทางหมู่บ้านจะอยู่ลึกเข้าไปอีกไกลพอสมควร

ถึงแม้ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นจะยังนิ่งเฉย แต่ในใจก็วูบโหวงอยู่บ้างที่ต้องมายืนค้างเติ่งอยู่ตรงนี้...ที่นี่ใช่ทางเข้าหมู่บ้านโคโตฮิระแน่หรือเปล่านะ?

จะเอ่ยถามก็ไม่รู้จะถามใคร จะมองที่ป้ายรถโดยสารประจำทาง ชื่อที่เขียนไว้ก็จางจนอ่านไม่ออก...


และในขณะที่กำลังคิดว่าจะทำยังไงดี....ก็มีเสียงบางอย่างแว่วเข้ามาในหู....


รถยนต์สีดำที่ดูไม่เข้ากับป่าเขากำลังวิ่งมาตามทางที่แสนขรุขระ ขนาดในเมืองเองคนที่จะมีรถยนต์ขับได้ก็ต้องมีฐานะพอสมควร แล้วชนบทแบบนี้บ้านที่มีคงจะถือว่าไม่ธรรมดา

“ คุณหมอกิโนสะใช่ไหมครับ?”        เสียงสุภาพดังมาจากตำแหน่งของคนขับ ทำให้ใบหน้าของเขาพยักรับ หรือว่านี่จะเป็น...

“ ผมมาจากบ้านโกคุเดระ มารับคุณหมอครับ”        ชายร่างไม่ใหญ่ไม่เล็กลงมาจากรถก่อนจะช่วยขนกระเป๋าของเขาขึ้นไป ดูจากที่อีกฝ่ายยังแต่งกายด้วยชุดกิโมโนกับกางเกง ก็พอจะเดาได้ว่า ที่ที่เขากำลังจะไปคงจะเป็นตระกูลเก่าแก่ที่ยิ่งใหญ่ไม่น้อยในหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้

“ ขอโทษที่มาช้านะครับคุณหมอ พอดีที่บ้านกำลังมีงานน่ะครับ ไม่ทราบว่าคุณหมอรู้เรื่องหรือยัง?”      คนขับรถคุยกับเขาผ่านกระจกมองหลัง

“ ไม่ทราบเลยครับ มีอะไรเกิดขึ้นงั้นหรอ?”        มือเรียวยกขึ้นไปขยับแว่นด้วยท่าทางที่ติดเป็นนิสัยเวลาเจอเรื่องอะไรที่ทำให้ประหลาดใจ

“ เอ่อ...คือว่า....”      ใบหน้าที่มองเขาผ่านกระจกอึกอักอยู่สักพักกว่าจะตัดสินใจพูดออกมาได้

“ นายใหญ่...เพิ่งจะเสียไปเมื่อคืนนี้ขอรับ...ตอนนี้ที่บ้านกำลังจัดงานศพกันอยู่”       แล้วสิ่งที่อีกฝ่ายพูดออกมาก็ทำเอาใบหน้าเขาชาวาบไปหลายนาที...เพราะนายใหญ่คนที่ว่านั่นแหละ คือคนที่ว่าจ้างเขาให้เข้ามาเป็นหมอประจำตระกูลโกคุเดระอยู่ที่นี่

บทสนทนาดูเหมือนจะถูกกลืนหายไปในลำคอ ในรถยนต์ที่แล่นไปอย่างเชื่องช้าจึงเต็มไปด้วยความเงียบงัน

เขาได้แต่ปล่อยสายตาให้เหม่อลอยไปกับบรรยากาศของสองข้างทาง จากหุบเขาเริ่มเข้าสู่พื้นราบ...ทุ่งนาสีเขียวขจีแผ่ไกลไปจนสุดขอบภูเขาอีกด้าน...เท่าที่เขารู้มา หมู่บ้านโคโตฮิระเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่ถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขา เป็นหมู่บ้านที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวเองโดยแทบจะไม่ต้องพึ่งพาโลกภายนอก....เพราะแบบนี้มันจึงเป็นที่ที่เขาคิดจะหนีมาพึงพาอาศัย

เพราะไม่อยากจะพบเจอใครบางคนที่โลกภายนอกนั่นอีกแล้ว...

และจากข้อมูลของผู้ว่าจ้าง ก็ทำให้เขาพอจะรู้มาอยู่บ้าง ว่าตระกูลโกคุเดระถือเป็นตระกูลผู้ค้ำจุนหมู่บ้านแห่งนี้...เป็นตระกูลใหญ่ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานและคนในหมู่บ้านต่างก็ให้ความสำคัญ ยกให้ผู้นำตระกูลนี้เป็นผู้นำของหมู่บ้านด้วยเช่นกัน

แล้วนายใหญ่มาตายไปเสียแบบนี้....คนในบ้านจะทำยังไงกัน?

ในเมื่อทายาทเพียงหนึ่งเดียวนั้น..............


“ ถึงแล้วครับคุณหมอ”       รถยนต์คันใหญ่เลี้ยวเข้าไปในประตูที่น่าจะอยู่ด้านหลังบ้าน เพราะสายตาของเขามองเห็นปลายทางที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งกำลังมีคนแต่งชุดดำเดินเข้าออกไม่น้อยเลยทีเดียว

กำลังจัดงานศพกันอยู่จริงๆด้วยสินะ...

“ คุณหมอคะ เชิญทางนี้ค่ะ”       หญิงวัยกลางคนในชุดกิโมโนสีดำเดินมาต้อนรับเขา...ช่างเป็นวันไม่ดีเอาเสียเลยนะที่เข้าบ้านมาในวันแบบนี้...

“ พาผมไปส่งที่ห้องก็พอ”      เขาเอ่ยบอกหญิงตรงหน้าก่อนจะเดินตามร่างท้วมหน่อยๆเข้าไปในเรือนแบบญี่ปุ่นหลังใหญ่ บ้านทั้งหลังยังคงกลิ่นไอแบบโบราณเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ร่องรอยบนไม้บ่งบอกได้ถึงความเก่าแก่ของมัน....เสาเหล่านี้ผ่านความตายของคนในบ้านมากี่รุ่นกันแล้วนะ...

เรียวขาในเสื้อผ้าแบบสมัยใหม่เดินไปตามระเบียงทางเดินที่ซับซ้อนไม่ใช่น้อย ด้วยความที่เป็นบ้านหลังใหญ่ เรือนแยกจึงมีมากมาย...เขาคงต้องใช้เวลาศึกษาและจดจำเรือนหลังนี้อีกพอสมควรเลยกว่าจะคุ้นเคย

“ ห้องนี้แหละค่ะ ห้องของคุณหมอ”       หญิงวัยกลางคนนั่งลงกับพื้นก่อนจะเปิดประตูเลื่อนให้ มารยาทแบบญี่ปุ่นแท้ๆทำให้เขารู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก...เพราะถูกปฏิบัติราวกับว่าเขาเป็นเจ้านายอะไรประมาณนั้น

“ เดี๋ยวที่เหลือผมจัดการเอง ไปทำธุระต่อเถอะ”        เขาปล่อยเธอไปเพราะดูท่าทางจะยุ่งกันไม่ใช่น้อย

กระเป๋าใบใหญ่ถูกลากเข้ามาในห้อง ดูเหมือนเรือนที่ให้เขาอยู่นี้จะอยู่ใกล้ๆศูนย์กลางของบ้านเลยทีเดียว...เท่าที่หญิงรับใช้คนเมื่อกี้บอก ดูเหมือนเรือนใหญ่ที่สุดที่อยู่ตรงกลาง จะเป็นเรือนของนายใหญ่ ส่วนเรือนฝั่งซ้ายที่ติดกับเรือนของเขา....เป็นเรือนของทายาทเพียงหนึ่งเดียวของบ้านหลังนี้

มือหยิบผ้าออกมาจากกระเป๋า...ยังไงเสียเขาก็ควรจะไปล้างหน้าล้างตาแล้วไปทักทายเจ้าของบ้านสักหน่อย

ถึงแม้นายใหญ่จะตายไปแล้ว แต่สัญญาว่าจ้างก็ยังคงอยู่...อีกทั้งเงินก้อนใหญ่นั้นเขาก็ได้รับมาก่อนแล้วด้วย...ถึงแม้ตอนแรกจะรู้สึกแปลกๆอยู่บ้างที่ว่าจ้างโดยจ่ายเงินให้ก่อนแบบนี้ แต่มาคิดอีกทีมันก็อาจจะเป็นเรื่องปกติของตระกูลผู้มั่งคั่งแห่งหมู่บ้านชนบทแบบนี้ก็ได้

นายใหญ่คงต้องการให้เขามาที่นี่...มาเป็นหมอประจำตระกูลให้บ้านหลังนี้...มาเพื่อรักษาและคอยดูแลลูกชายเพียงคนเดียวของท่าน

ร่างสูงโปร่งก้าวขาออกจากห้องของตัวเอง ใบหน้าเรียวหันไปหันมาเพื่อมองหาห้องน้ำ เพราะเป็นบ้านแบบญี่ปุ่นจึงไม่มีห้องน้ำส่วนตัวในห้องนอน เขาจึงต้องใช้ห้องน้ำร่วมกับคนในเรือนฝั่งนี้

และก่อนที่ขาจะได้ก้าวเข้าไปในห้องน้ำ ร่างทั้งร่างก็ต้องชะงักลงเมื่อใครบางคนวิ่งพรวดพราดออกมาชนกับเขาเข้า

“ โอ้ย!”       เสียงอุทานเบาๆดังออกมาจากคนที่อยู่ตรงหน้า หน้าผากใสที่ชนแผงอกของเขาเข้าพอดีถอยออกไปพลางยกมือขึ้นลูบเบาๆ

ใบหน้าสวยเงยขึ้นมาก่อนที่นัยน์ตาสีมรกตจะจ้องเขาเขม็ง ริมฝีปากสีแดงเม้มแน่นก่อนจะทำแก้มป่อง เรือนผมสีเงินยาวสลวยถึงกลางหลังทำให้ร่างบอบบางที่อยู่ในกิโมโนสีขาวราวกับเป็นตุ๊กตา คนตรงหน้าน่ารักเสียจนเขาเข้าใจผิด...ว่าเป็นเด็กผู้หญิง

“ นายเป็นใครเนี่ย? แล้วทำไมมาเดินอยู่ตรงนี้? ถ้ามางานศพพ่อละก็ ข้างหน้านู้น!”       แต่คำพูดคำจาที่ฉะฉานผสมผสานกับเสียงที่ไม่ได้ใสเหมือนเสียงผู้หญิง ทำให้เขาเริ่มคิด อีกทั้งเด็กตรงหน้ายังเรียกนายใหญ่ว่า “พ่อ”

“ หรือว่าคุณคือ โกคุเดระ ฮายาโตะ?”      ไม่จริงน่า....

“ ใช่! แล้วก็หลีกไปได้แล้ว! คนกำลังรีบๆอยู่ไม่เห็นหรอเนี่ย?”       ร่างบอบบางแหวกตัวเขาก่อนจะวิ่งตึงตังกลับไปยังห้องที่เรือนฝั่งซ้าย ให้นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นได้แต่ยืนมองอย่างตกตะลึง


นี่น่ะหรอ...ทายาทเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลโกคุเดระผู้มั่งคั่ง...

นี่น่ะหรอ...คนที่จะให้เขามาคอยดูแล...มาคอยรักษา....

นี่น่ะหรอ...เด็กที่นายใหญ่บอกกับเขาว่า มีอาการทางประสาทอ่อนๆ...

เพราะดูยังไง...โกคุเดระ ฮายาโตะ...ก็ไม่เหมือนคนเป็นโรคประสาทเลยสักนิดเดียว



ร่างโปร่งบางเดินกลับเข้ามาในห้องของตัวเองอีกครั้งด้วยท่าทางครุ่นคิด...ทำไมเขาถึงได้ติดใจกับนัยน์ตาของเด็กคนนั้นนักนะ...

เอาเถอะ...ยังไงก็เพิ่งเจอกัน มันอาจจะยังมีอะไรที่เขาไม่รู้อยู่อีกก็ได้ ยังไงเอาไว้ถ้าตรวจให้ละเอียดก็คงจะรู้เอง...ว่าแต่แบบนี้จะถือว่าเขาเข้าไปทักทายเจ้าของบ้านแล้วได้หรือเปล่านะ?

ใบหน้านิ่งหันไปมองกระเป๋าก่อนจะตัดสินใจยังไม่ออกไปที่งานศพ การเข้าไปโดยไม่รู้จักใครก็คงจะเป็นภาระของเจ้าของบ้านเปล่าๆ...คืนนั้นเขาจึงได้แต่จัดข้าวของของตัวเองอยู่ในห้องตามลำพัง


“ คุณหมอคะ...”       เสียงของหญิงสาวดังอยู่ที่หน้าห้อง ฟังจากโทนเสียงแล้วเป็นคนละคนกับคนที่มาต้อนรับเขา

“ ครับ?”  

“ เชิญรับประทานอาหารค่ะ จะให้ยกมาที่นี่หรือจะไปทานพร้อมคุณหนูดีคะ?”     

“ ไม่ต้องยกมาหรอก เดี๋ยวผมออกไปทานพร้อมกับคุณหนู”      เขาตอบออกไปแบบไม่ต้องคิด...ยังไงก็อยากเจอเด็กคนนั้นให้ไว เขาจะได้ไม่ต้องมาค้างคาใจไปทั้งคืนแบบนี้

“ ถ้าอย่างงั้น...คุณหมอรอได้ใช่ไหมคะ กว่าพระท่านจะทำพิธีเสร็จก็อีกราวๆชั่วโมงนึง”

“ ได้”       หญิงสาวหายไปจากที่หน้าห้องแล้ว เขาจึงหันกลับมาเรียงตำราที่ขนมาด้วยต่อ

หนังสือเล่มหนาถูกวางซ้อนขึ้นไปบนชั้นไม้ที่ตั้งอยู่ในส่วนโทโคโนมะของห้องซึ่งปกติจะเอาไว้แขวนภาพหรือไม่ก็เอาไว้ตั้งแจกันดอกไม้  แล้วฝ่ามือก็ต้องชะงักไปเมื่อหนังสือเล่มหนึ่งถูกดึงออกมาจากกระเป๋า

ที่มุมล่างของปกยังคงมีรอยสีน้ำตาลเป็นวงกว้างติดอยู่...ถึงจะแห้งไปนานแล้วแต่มันก็คือรอยคราบกาแฟที่ใครบางคนเคยทำหกเอาไว้...

ปลายนิ้วลูบลงไปที่รอยด้วยดวงตาเหม่อน้อยๆ....ไม่ได้อยากจะคิดถึงมันเลย...

บาดแผลมันอาจจะแห้งไปนานแล้ว...แต่ไม่ว่ายังไงมันก็ยังคงหลงเหลือร่องรอยเอาไว้ในความทรงจำเสมอ...เหมือนกับคราบกาแฟบนปกหนังสือเล่มนี้นั่นแหละ

ใบหน้าเรียวสะบัดไปมาเพื่อไล่ความคิดที่จะทำให้จิตตกออกไป.....เขาลืมมันได้แล้ว...ลืมมันได้แล้ว.....

ได้แต่ย้ำกับตัวเองอยู่อย่างนั้น...





ฝ่าเท้าก้าวเดินตามหญิงวัยกลางคนคนเดียวกับที่มาต้อนรับเขาในคราวแรกไปตามระเบียงทางเดิน เธอบอกกับเขาว่าเธอชื่อ คาเอเดะ เป็นคนเก่าคนแก่ เป็นหัวหน้าแม่บ้านของที่นี่ อีกทั้งยังเป็นแม่นมที่เลี้ยง โกคุเดระ ฮายาโตะ มาตั้งแต่ยังแบเบาะด้วย

ใบหน้าสงบเสงี่ยมของคาเอเดะนั้นให้ความรู้สึกน่าเคารพ แต่อะไรบางอย่างในดวงตาของเธอก็ทำให้เขาคิดว่าคงจะผ่านเรื่องไม่ดีมาเยอะ...มันถึงได้มีแววมืดมนปนอยู่

ตอนนั้นเขาได้แต่คิดว่าคงจะเป็นเพราะงานศพที่กำลังจัดอยู่...นายเหนือหัวที่เลี้ยงดูกันมานานมาจากไปแบบนี้ก็คงต้องเสียใจเป็นเรื่องธรรมดา

โดยที่ไม่เคยรู้เลยว่า...แท้ที่จริงแล้วในสายตาของหญิงวัยกลางคนคนนี้....ไม่เคยมีคนอื่นอยู่เลยนอกจาก โกคุเดระ ฮายาโตะ



จากที่ คาเอเดะ บอก...ห้องที่ใช้รับประทานอาหารจะอยู่ที่เรือนฝั่งขวา

เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องเดินผ่านหน้าห้องของ โกคุเดระ ฮายาโตะ ก่อนจะข้ามไปอีกฝั่งของเรือน แล้วก็เหมือนสวรรค์จะรับรู้ถึงความค้างคาใจจึงส่งภาพที่จะไขทุกความสงสัยของเขามาให้เห็น

เมื่อเรียวขากำลังจะก้าวผ่านบานประตูหน้าห้องของเด็กคนนั้น....นัยน์ตาของเขาก็บังเอิญเหลือบมองเข้าไปตามรอยแยกเพียงเล็กน้อยของประตูที่คงจะปิดไม่สนิท

แล้วร่างทั้งร่างก็ต้องชะงันไปในทันที สองขาถึงกับหยุดยืนอยู่กับที่....เพื่อมองแผ่นหลังบอบบางของคนที่อยู่ในห้องให้ชัดๆ


โกคุดระ ฮายาโตะ กำลังยืนเหม่ออยู่หน้ากระจก มือบางขาวซีดแตะลงไปบนใบหน้าของตัวเองที่สะท้อนอยู่ในนั้น ก่อนจะค่อยๆแนบใบหน้าลงไป ฝ่ามือบางสัมผัสกระจกราวกับว่ามันมีชีวิต....


เขาได้ยืนมองภาพที่งดงามแต่ก็น่าขนลุกนั่นด้วยไม่อาจจะละสายตาไปไหนได้ ถึงจะไม่ต้องมีความรู้ทางด้านการแพทย์ แต่หากได้มาเห็นร่างบอบบางในตอนนี้ก็คงจะรู้ได้ทันที...ว่าเด็กคนนั้นมีอาการทางประสาทอย่างแน่นอน

ความสงสัยที่มีอยู่ในใจหมดไปในทันที...


“ คุณหมอ...ยังไงคุณก็คงต้องรู้เรื่องนี้...เพราะฉะนั้นฉันจะเล่าให้ฟัง...”       เสียงของคาเอเดะดังขึ้นมาจากข้างหลังทำเอาเขาถึงกับสะดุ้งน้อยๆ ใบหน้าที่รู้สึกว่ามีเหงื่อเกาะอยู่ที่ขมับหันกลับไปหาหญิงวัยกลางคนก่อนจะยกมือขึ้นมาขยับแว่นตามความเคยชิน

“ คุณหนูเธอน่าสงสาร...เธอไม่ได้เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิดหรอก...พวกเราเลยพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เธอหายเป็นปกติ”      น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยออกมาก่อนจะมองหน้าเขาซึ่งเป็นความหวัง...ฟังจากความรู้สึกที่ซุกซ่อนอยู่ในน้ำเสียงนั้นแล้วเขาก็พอจะรู้ว่าหญิงตรงหน้ารักและเทิดทูลคุณหนูของตนจริงๆ

และถ้าตอนนั้นเขาจะรู้ว่าความรักที่คาเอเดะมีให้ โกคุเดระ ฮายาโตะ มันมากมายขนาดไหน...เขาคงจะไม่อยู่ที่บ้านหลังนั้นข้ามคืนแน่ๆ

“ คุณหนูเธอมีน้องสาวฝาแฝดที่รักกันมากอยู่คนหนึ่งค่ะ”       คำพูดของคาเอเดะทำเอาดวงตาของเขาถึงกับเบิกกว้าง ก่อนจะหันกลับไปมองร่างบอบบางที่ยังซบอยู่ที่กระจก...หรือว่า...ที่โกคุเดระ ฮายาโตะ มองเห็นในกระจกนั่นจะเป็น....

“ อย่างที่คุณหมอคิดนั่นแหละ...น้องสาวฝาแฝดของเธอเสียไปเมื่อหลายปีก่อน....จากไปเพราะฆ่าตัวตาย”       จู่ๆขนก็ลุกเกรียวขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ เขาที่เป็นหมอทางด้านจิตวิทยา เคยรักษาคนที่มีอาการทางประสาทมาก็ไม่ใช่น้อย และสิ่งที่เขาเรียนรู้มาก็คือกรณีของฝาแฝดเป็นเคสที่รักษายากที่สุด

“ เมื่อหลายปีก่อน...น้องสาวฝาแฝดของเธอถูกข่มขืนโดยผู้ชายที่เป็นเพื่อนสนิท...เพราะช็อคจนแทบจะเสียสติ เช้าขึ้นมาพวกเราจึงพบว่าเธอผูกคอตายอยู่ในห้องของตัวเอง...คุณหนูฮายาโตะที่เป็นคนไปพบเข้าจึงช็อคตามไปด้วยอีกคน และถึงแม้ว่าพวกเราจะคอยดูแลอย่างดีไม่ให้คุณหนูฮายาโตะฆ่าตัวตายตามน้องสาวฝาแฝดไป...แต่เธอก็มีอาการทางประสาทอย่างที่เห็น...มันจะเกิดขึ้นเฉพาะเวลาที่เธอเห็นกระจกหรืออะไรก็ตามที่สะท้อนเงาของตัวเองได้...เพราะคนที่คุณหนูเห็นในภาพสะท้อนนั้นไม่ใช่ตัวเอง...แต่เป็นน้องสาวฝาแฝด”

“ และเพราะไม่อยากเห็นสถานที่ในความทรงจำที่เคยทำเรื่องต่างๆร่วมกันมา ทำให้คุณหนูปิดกั้นตัวเอง ฝังใจ ไม่ออกจากบ้านไปไหนมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา...ฉันก็แค่หวังว่าเธอจะมีอิสระจากพันธนาการนี้เสียที...คุณหมอ....ช่วยเธอด้วยนะคะ”       คำขอร้องของหญิงวัยกลางคนทำไมทำให้เขารู้สึกชาๆพิกล เพราะเรื่องราวที่ได้รับรู้มาทำให้เขารู้ว่า...มันไม่ง่ายเลย...ที่จะทำให้ฝาแฝดคนที่ยังเหลืออยู่กลับมาเป็นปกติได้ จากเรื่องสะเทือนใจของอีกครึ่งชีวิตที่ตายจากไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้




เรียวขาก้าวไปตามระเบียงทางเดินตามลำพัง เพราะคาเอเดะต้องเข้าไปพาตัว โกคุเดระ ฮายาโตะ ที่ยังไม่ยอมห่างออกมาจากกระจกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนแล้วจะตามมาที่ห้องรับประทานอาหารทีหลัง

ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นยังคงครุ่นคิดถึงวิธีที่จะช่วยเยียวยาเด็กคนนั้น ร่างกายโปร่งบางที่เข้าไปนั่งรออยู่ในห้องจึงไม่ทันรู้ตัว เมื่อจู่ๆก็มีเด็กผู้ชายผมสั้นสีดำสนิทคนหนึ่งเดินเข้ามา

“ สวัสดีครับ”      จนกระทั่งเสียงทุ้มเอ่ยทัก เขาถึงได้เงยหน้าขึ้นไปมองพร้อมกับร่างกายที่สะดุ้งน้อยๆ.....ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตกใจที่จู่ๆอีกฝ่ายก็โผล่มาหรือว่าเป็นเพราะสัญชาติญาณของความเป็นจิตแพทย์กันแน่....

“ คุณหมอกิโนสะใช่ไหมครับ?”      เขาพยักหน้ารับคำทักทายอย่างมึนงงสงสัยว่าเด็กผู้ชายร่างสูงตรงหน้านี้เป็นใคร

ดูจากชุดนักเรียนที่เด็กคนนี้สวมใส่อยู่ก็พอจะรู้ได้ว่าคงจะเป็นเด็กมัธยมปลาย ร่างกายที่สูงยาวสมส่วนทีเดียว ผิวสีแทนก็ทำให้หมออย่างเขาพอจะเดาได้ว่าเด็กผู้ชายคนนี้มีสุขภาพดี ใบหน้าหล่อเหลากับรอยยิ้มเป็นมิตรที่ส่งมาให้ก็ทำให้อยากจะยิ้มตอบทั้งๆที่เขาเป็นคนยิ้มยาก นัยน์ตาสีเปลือกไม้สุกใสช่างดูไม่มีพิษไม่มีภัย อีกทั้งฝ่ามือใหญ่ๆนั่นก็ดูจะพึ่งพาได้...เด็กคนนี้เป็นคนของบ้านที่อึมครึมหลังนี้งั้นหรอ?

“ ผม...ยามาโมโตะ ทาเคชิ...เป็นลูกบุญธรรมของนายใหญ่น่ะครับ ผมถูกเลี้ยงดูอยู่ที่นี่มาตั้งแต่จำความได้ จากนี้ไปก็ขอฝากตัวด้วยนะครับคุณหมอ ฮะฮะ”     เด็กหนุ่มตรงหน้าก้มศีรษะให้ก่อนจะหัวเราะออกมา ความร่าเริงและความไม่ถือตัวทำให้อยู่ด้วยแล้วสบายใจยังไงชอบกล

" กิโนสะ โนบุจิกะ จากนี้ไปก็ฝากตัวด้วยเช่นกัน"       เขาโค้งให้อีกฝ่ายตามมารยาท ถึงจะยังไม่รู้ว่าใครเป็นใคร เขาก็ควรจะสร้างความประทับใจเอาไว้ก่อน

นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นลอบมองร่างสูงที่เดินไปเปิดประตูเลื่อนฝั่งที่ติดกับสวนโดยไม่ต้องมีใครบอก...การกระทำที่เป็นธรรมชาติแสดงออกได้อย่างชัดเจนว่ายามาโมโตะคุ้นเคยกับบ้านหลังนี้เป็นอย่างดี...ทั้งๆที่เป็นถึงลูกบุญธรรม...แล้วทำไมนายใหญ่ถึงไม่ได้เล่าถึงเลยในจดหมายแนะนำตัวนั่น

หรือจะมีปัญหาทำนองว่า ไม่ไว้ใจลูกบุญธรรมที่ตัวเองชุบเลี้ยงมา ว่าจะคิดฮุบสมบัติของลูกชายที่พึ่งพาไม่ได้ของตน?

แต่ดูจากใบหน้าผ่องใสของยามาโมโตะ มันก็ไม่ได้ดูจะมีแววน้อยเนื้อต่ำใจที่ตัวเองเป็นแค่ลูกเลี้ยงเลยนี่?

“ ลำบากหน่อยนะครับ ที่ต้องให้มาในช่วงที่บ้านเรากำลังวุ่นวายแบบนี้”      ใบหน้าคมหันมายิ้มจางๆ เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าที่แขนเสื้อนักเรียนมีปลอกแขนสีดำที่แสดงถึงการไว้อาลัยติดอยู่...เขาส่ายหน้าให้อีกฝ่ายแทนคำตอบว่าไม่เป็นไร

“ ต้องขอโทษที่มาทักทายช้านะครับคุณหมอ พอดียุ่งกับเรื่องงานศพอยู่อย่างที่เห็น แล้ว...ได้เจอฮายาโตะหรือยังครับ?”      ร่างสูงขยับฟูกออกมาจากชั้นวางก่อนจะนั่งลงไป

“ เรียบร้อยแล้วครับ แต่เด็กคนนั้นคงยังไม่รู้ว่าผมเป็นหมอที่จะมารักษาเขา”      คงได้แค่บอกว่าเป็นหมอที่จะมาอยู่ประจำตระกูลของที่นี่ เพราะดูท่าทางแล้วคงไม่มีใครอยากจะบอกเด็กคนนั้นหรอกว่าตัวเองเป็นคนบ้าที่ต้องการการรักษา

“ เห็นแบบนี้แต่ผมอายุเท่ากับหมอนั่นนะ ฮะฮะฮะ”     

ครืด...!!!

แล้วเสียงเปิดประตูเลื่อนก็ดังขึ้นขัดบทสนทนาที่กำลังดำเนินอยู่ ร่างบอบบางในกิโมโนสีขาวเดินเข้ามาพลางหันไปมองหน้ายามาโมโตะด้วยใบหน้าบูดๆ

“ หัวเราะงี่เง่าอะไรของแกไอ้บ้ายามาโมโตะ?”     แต่ร่างสูงกลับมองตอบด้วยรอยยิ้ม มือใหญ่เลื่อนฟูกรองนั่งมาให้ ร่างบอบบางจึงนั่งลงไปข้างๆ ถึงท่าทางจะดูเหมือนไม่พอใจแต่ก็นั่งลงไปง่ายๆไม่ได้อิดออดอะไร

เขาพยายามสังเกตพฤติกรรมของทั้งคู่ให้ได้มากที่สุด ว่ามันมีปัญหาคลาสสิกแบบที่บ้านซึ่งมีลูกบุญธรรมมักจะเป็นอยู่หรือเปล่า

แต่ก็ดูเหมือนระหว่างการกินข้าวด้วยกัน มันจะไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นเลย...


โต๊ะวางถาดอาหารแบบญี่ปุ่นถูกวางลงตรงหน้าแต่ละคน ใบหน้าสวยของคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาก้มลงมองมันอย่างพินิจพิจารณา แล้วก็รู้สึกว่านัยน์ตาสีมรกตจะจ้องมองอยู่ที่แครอทในจานของตัวเองอยู่นานพอสมควร แก้มใสป่องออกมาเพราะริมฝีปากเม้มเข้าหากัน ก่อนจะหันใบหน้าไปมองถาดข้างๆซึ่งเป็นของยามาโมโตะ.....โกคุเดระ ฮายาโตะ ไม่ชอบแครอท?

“ ถึงไม่ชอบก็ต้องกินนะฮายาโตะ”     ใบหน้าคมยังคงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสบายๆ มือใหญ่หยิบตะเกียบคนโชยุกับวาซาบิให้เข้ากันก่อนจะเอาไปวางไว้บนถาดอาหารของร่างบอบบางแล้วหยิบเอาของอีกฝ่ายที่ยังไม่ได้ทำอะไรมาวางในถาดของตนแทน.....ทำให้อย่างงั้นหรอ?.....และพอร่างสูงพูดออกมาแบบนั้น ใบหน้างอหงิกก็หันกลับมาหยิบตะเกียบคีบแครอทเข้าปากด้วยท่าทางเหมือนไม่ยอมแพ้ ริมฝีปากสีสดเคี้ยวแครอทตุ้ยๆ.....ถ้าจะกินก็กินได้นี่นา?

“ เอ้า! ให้นี่เป็นรางวัล”      แล้วปลามากุโรในถาดของยามาโมโตะก็ถูกคีบมาวางลงบนถาดของ โกคุเดระ ฮายาโตะ นัยน์ตาสีมรกตเป็นประกายขึ้นมาทันที

“ เดี๋ยว! ชั้นไม่ใช่เด็กๆนะ ที่จะต้องให้รางวัลเมื่อกินผักได้น่ะ ฮึ! แต่จะกินปลานี่ให้ก็แล้วกัน!”      ใบหน้าเย่อหยิ่งสะบัดไปอีกทางอย่างไม่ได้รู้ตัวเลยว่าไอ้ที่ทำอยู่น่ะมันเด็กชัดๆ

แล้วมันก็เป็นแบบนี้ตลอดเวลาในการรับประทานอาหารด้วยกัน...

บรรยากาศรอบตัวสองคนนั้นมันไม่มีจุดไหนบ่งบอกเลยว่ามีความขัดแย้งใดๆต่อกัน ถึงแม้ โกคุเดระ ฮายาโตะ จะปากคอเราะร้ายใส่อีกฝ่ายแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยดื้อดึงจนถึงขีดสุด ก็แค่ทำไปเพราะปากไม่ตรงกับใจ?  ส่วนยามาโมโตะเองก็ดูเหมือนจะมีความสุขกับการถูกอีกฝ่ายเอาแต่ใจด้วย ไม่ว่าจะโดนด่าโดนว่าอะไรก็ยังยิ้มรับ ยังดูแลเป็นอย่างดี

เพราะฉะนั้นเขาคงจะตัดปัญหาเรื่องที่ว่ามีการทะเลาะเบาะแว้งหรือความไม่พอใจภายในบ้านหลังนี้ออกไปได้

เพราะทั้งสองคนดูจะรักกันดี...



ใช่...ตอนนั้นเขาไม่ได้เอะใจเลย...ว่าทั้งสองคนรักกันแบบไหน....

บางที...เรื่องร้ายๆมันก็ไม่ได้เกิดเพราะความขัดแย้งเสมอไป...หากแต่รักมากเกินไปจนไม่ว่าอะไรก็ทำได้ล่ะ....




ยามาโมโตะ พา โกคุเดระ ฮายาโตะ ไปส่งที่ห้องนอน ตอนนี้ในห้องรับประทานอาหารจึงเหลือเขาอยู่กับคาเอเดะที่เข้ามาเก็บถาดอาหารเพียงลำพัง

ที่จริงจะกลับห้องไปก่อนก็ได้อยู่หรอก....เพียงแต่...นอกจากสิ่งที่เขาเห็นมาด้วยตาแล้ว เขาก็อยากจะรู้ว่าคนอื่นๆคิดยังไงกับยามาโมโตะ ทาเคชิ ที่เป็นเพียงลูกเลี้ยงของที่นี่

“ ยามาโมโตะคุงนี่ดูจะพึ่งพาได้นะครับ”     เขาเริ่มเปิดบทสนทนากับหญิงวัยกลางคนด้วยคำพูดกลางๆ ไม่ได้ชื่นชมเกินไปและไม่ได้แสดงออกว่าไม่พอใจ ใบหน้าสงบของคาเอเดะหันมายิ้มให้ก่อนจะเล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงที่ยังราบเรียบเหมือนเดิม

“ ค่ะ...เป็นคนที่พึ่งพาได้มากเลยค่ะ...คุณหนูเธอก็เป็นแบบนั้น ส่วนนายใหญ่ก็มาเสียไปแบบนี้ ยังคิดไม่ออกเลยจริงๆค่ะว่าถ้าไม่มีคุณยามาโมโตะอยู่จะทำยังไงกัน”

“ คุณยามาโมโตะถูกรับมาเลี้ยงในฐานะลูกบุญธรรมของนายใหญ่ตั้งแต่ยังเด็ก ก็เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งพี่ชายที่คอยดูแลคุณหนูมาตลอด แล้วก็ตั้งแต่ที่คุณหนูเสียน้องสาวฝาแฝดไปจนกลายมาเป็นแบบนี้ คุณยามาโมโตะเลยต้องคอยดูแลตระกูลโกคุเดระให้ ซึ่งใครๆในหมู่บ้านต่างก็ยอมรับในความสามารถ อาจจะเป็นเพราะเห็นคุณยามาโมโตะมาตั้งแต่เด็กๆ เลยไม่มีใครคิดว่าเธอเป็นคนอื่น เธอเข้ากับคนง่ายค่ะ จึงไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร อีกทั้งเรื่องการจัดการเรื่องต่างๆในบ้าน ไม่ว่าจะเรื่องกิจการของครอบครัว เรื่องคน เรื่องในหมู่บ้าน...คุณหมอคงจะพอทราบมาอยู่บ้างว่า ตระกูลของเราเป็นตระกูลที่คอยค้ำจุนหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งคุณยามาโมโตะก็ทำได้ดีมาตลอด....คุณยามาโมโตะเป็นครอบครัวคนหนึ่งของบ้านหลังนี้ค่ะ”       คาเอเดะเล่าออกมาด้วยรอยยิ้มน้อยๆที่มุมปาก จากสายตาของหญิงวัยกลางคนคนนี้คงจะชื่นชมยามาโมโตะอยู่ไม่ใช่น้อย

และจากคำบอกเล่ามันก็ทำให้เขาได้รู้ว่า ยามาโมโตะ ทาเคชิ นั้นมีอิทธิพลในหมู่บ้านแห่งนี้มากทีเดียว...ในฐานะผู้นำของตระกูลที่คอยค้ำจุนหมู่บ้าน...ซึ่งมันควรจะเป็นหน้าที่ของโกคุเดระ ฮายาโตะ

พอรู้แบบนี้แล้วมันก็ทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้...ว่าหากวันใดที่คุณหนูตัวจริงของบ้านหลังนี้เกิดหายดีขึ้นมาล่ะ? ฐานะของยามาโมโตะจะเป็นยังไง...

ใบหน้าเรียวได้แต่สะบัดไปมา สงสัยว่าการมองโลกในแง่ร้ายของเขามันจะซึมอยู่ในร่างกายไปเสียแล้ว ถึงได้สงสัยคนที่พึ่งพาได้แบบนั้น

อีกอย่าง...เขาก็เห็นมากับตาแล้วนี่...ว่าความสัมพันธ์ของสองคนนั้นเป็นยังไง

ยามาโมโตะทำหน้าที่ของพี่ชายได้ดีขนาดไหน นัยน์ตาสีเปลือกไม้นั้นมองร่างบอบบางอย่างเป็นห่วงเป็นใย คอยดูแลเอาใจใส่ ทั้งๆที่ถ้าคิดจะฮุบเอาบ้านหลังนี้ไปเป็นของตัวเองโดยการส่งโกคุเดระ ฮายาโตะที่เป็นโรคประสาทอ่อนๆไปรักษาตัวไกลๆแล้วค่อยกำจัดทิ้งก็ทำได้ไม่ยาก  กลับยังคอยอยู่ใกล้ๆ คอยดูทรัพย์สมบัติเอาไว้ให้


คิดมาถึงตรงนี้แล้วก็ให้รู้สึกว่าคนไข้ของเขาคนนี้ช่างโชคดีจริงๆนะ...ที่มีคนที่รักและห่วงใยคอยอยู่ข้างๆ

ไม่เหมือนเขา...ที่ไม่สมหวังในความรักเลยต้องหนีมาอยู่ที่นี่...


“ คุณหมอจะให้ตัดยูคาตะให้หรือไม่คะ?”        คาเอเดะหันมาถามเขาด้วยใบหน้าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นมาได้ ทำให้เขาหลุดออกมาจากความคิดของตัวเอง

จะว่าไปคนของบ้านหลังนี้ก็ยังใส่กิโมโนไม่ก็ยูคาตะกันอยู่ คนในหมู่บ้านเองก็ใส่ชุดแบบตะวันตกกันแค่ประปรายเท่านั้น...ทั้งๆที่การจะทำตัวให้กลมกลืนกับที่นี่ก็คงต้องเริ่มจากเสื้อผ้าก่อน แต่เขากลับปฏิเสธหญิงวัยกลางคนไป เพราะยังไงก็ไม่ถนัด

เขาก้มศีรษะให้หญิงวัยกลางคนที่ยังเก็บถาดอาหารอยู่ ก่อนจะขอตัวกลับห้องของตัวเอง

เรียวขาก้าวเดินไปตามระเบียงไม้ที่เคยเดินผ่านมา สวนแบบญี่ปุ่นยามต้องแสงจันทร์นั้นดูช่างงดงาม แต่ความใหญ่โตของบ้านเมื่อเทียบกับจำนวนคนที่อาศัยอยู่แล้วมันก็ทำให้ดูเงียบเหงาจนความอ้างว้างเข้ามาเกาะกุมหัวใจได้ไม่ยาก บ้านที่มีร่องรอยแห่งความยาวนานยิ่งชวนให้รู้สึกหดหู่จนวูบหนึ่งในใจก็อยากจะให้ทุกอย่างมันจบลงไป

จนบางทีก็เผลอคิดไปว่า ให้คนที่หนีความเจ็บปวดจากบาดแผลทางใจอย่างเขามาอยู่ในบ้านที่ชวนให้น่าฆ่าตัวตายแบบนี้มันจะดีแน่หรอ?

แล้วกระแสความคิดกลับถูกหยุดลงด้วยเสียงแซ่กๆของอะไรบางอย่างที่แหวกพุ่มไม้ออกมา

สองขาที่กำลังก้าวเดินอยู่บนระเบียงชะงักค้างเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเงาร่างสูงใหญ่ของใครบางคน สิ่งแรกที่เห็นเด่นชัดคือดวงตาที่ปิดลงข้างหนึ่งด้วยรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ ใบหน้าที่ชวนขนลุกทำให้เขาถึงกับไม่กล้าขยับไปไหน ชายที่น่าจะสูงวัยพอสมควรยืนจังก้าอยู่ในสวน แสงจันทร์ที่สาดกระทบร่างกายของผู้ชายคนนั้นกลับทำให้มันดูบิดเบี้ยวจนน่าสะพรึงกลัว ในมือข้างหนึ่งถือมีดทำสวนอันใหญ่ และสิ่งที่ทำให้เขาตกใจคือ....ชายคนนั้นกำลังหันมันมาที่เขาและพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว!!!

“ ตายซะ!”      คำเดียวที่ได้ยินออกมาจากริมฝีปากแห้งผากก่อนที่ตัวเขาจะถอยหลบโดยอัตโนมัติ

โครม!!!

เสียงแผ่นหลังปะทะเข้ากับผนัง ตอนนั้นเขาไม่มีเวลาแม้แต่จะรู้สึกเจ็บ ลำตัวพลิกหลบคมมีดที่ตวัดลงมาเฉาะพื้นไม้ที่อยู่ใกล้ไม่ถึงคืบ

อะไรกัน?

นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ?

เขาได้แต่มองชายที่ดูวิกลจริตคนนั้นด้วยนัยน์ตาเบิกกว้างอย่างจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก ในใจเต้นระรัวจนแทบจะทะลุออกมาจากอก...เขาเพิ่งจะมาถึงที่นี่...ไม่มีทางที่จะไปสร้างความแค้นกับใครได้ไวขนาดนี้!

“ เดี๋ยวก่อน!”     ริมฝีปากยังไม่ทันจะตะโกนออกไปจนหมดประโยค คมมีดก็ฟาดลงมาอีกทีจนเขาแทบจะหลบไม่พ้น ฝ่าเท้ายกขึ้นยันชายตรงหน้าออกไปจนล้มหงายหลัง

“ แก...ฉันไม่ให้แกมาทำร้ายนายน้อยได้หรอก...”       นายน้อยอะไร? แล้วอีกฝ่ายเป็นใคร? เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักอย่าง!!!

“ กรี๊ด!!!”      ดูเหมือนเสียงโครมครามจะดังไปจนใครๆได้ยิน สาวใช้คนหนึ่งที่โผล่มาดูจึงถึงกับกรีดร้อง แต่ก็ดูเหมือนชายผู้บ้าคลั่งจะไม่ได้ฟังเสียงอย่างอื่นเลย


จนกระทั่ง...


“ หยุดนะคิโช!!”      เสียงประกาศิตถูกตะโกนออกมาจากปากของ ยามาโมโตะ ทาเคชิ...ร่างที่กำลังง้างมีดจะฟันเขาถึงกับนิ่งค้างไป

“ นายน้อย....”      มีดทำสวนค่อยๆลดระดับลง ความบ้าคลั่งจู่ๆก็หายไป ผู้ชายตรงหน้ากลายเป็นแค่ข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์เท่านั้น

“ อย่าทำอะไรเค้าคิโช...นั่นคือคุณหมอที่จะมาดูแลพวกเรา”      ถึงแม้ว่ามันจะยังคงเป็นเสียงของ ยามาโมโตะ ทาเคชิ ทว่าความสดใสในน้ำเสียงที่เขาเคยได้ยินมาก่อนหน้านี้มันหายไป ตอนนี้มันทั้งนิ่งสงบและทรงอำนาจ จนแม้แต่เขาก็ยังพลอยหยุดไปด้วยเลย

เด็กคนนี้...ไม่ธรรมดา....

ยามาโมโตะ ทาเคชิ ไม่ใช่เด็กหนุ่มผู้ร่าเริงและอารมณ์ดีธรรมดาๆอย่างที่เขาคิด....ไม่ใช่...


เขาได้แต่นั่งหอบอยู่ที่พื้นระเบียงกับเหตุการณ์หวุดหวิดที่จะได้ตามนายใหญ่ไปปรโลก  ที่อกซ้ายยังเต้นระรัวไม่หาย ผู้ชายที่จู่โจมทำร้ายเขาย้ายไปยืนสงบเสงี่ยมอยู่ตรงหน้ายามาโมโตะ

“ คาเอเดะ...พาคุณหมอไปที่ห้องที”     เสียงทุ้มเอ่ยสั่งหญิงวัยกลางคน ตอนนี้เขาพอจะรู้แล้วว่ายามาโมโตะคือนายใหญ่ของบ้านหลังนี้จริงๆ


สองขาที่ก้าวเดินตามแผ่นหลังของคาเอเดะยังสั่นอยู่น้อยๆ ผู้ชายที่ชื่อ คิโช นั่นเป็นใครกัน ทำไมถึงได้มีจิตมุ่งร้ายขนาดนั้น

“ ขออภัยในความเสียมารยาทของคิโชด้วยนะคะ คุณหมอ...”      เสียงราบเรียบของคาเอดะเอ่ยออกมาในขณะที่ยังพาเขากลับไปยังห้องพัก

“ คิโช เป็นคนสวนของที่นี่ค่ะ...เมื่อก่อนก็เป็นคนในหมู่บ้านนี่แหละ แต่โดนคนข้างนอกหลอกจนหมดตัว...ลูกชายเพียงคนเดียวก็ถูกฆ่าตาย...เลยกลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย และไม่ไว้ใจใครโดยเฉพาะกับคนนอกอย่างคุณหมอ...ตอนที่กำลังจะนอนตายเหมือนหมาข้างถนน ก็ได้คุณยามาโมโตะไปช่วยเอาไว้ อีกทั้งคุณยามาโมโตะยังเป็นคนขอร้องนายใหญ่ให้ช่วยรับ คิโช เข้ามาอยู่ในบ้านนี้ในฐานะคนสวน...คิโช เลยรักและเทิดทูลคุณยามาโมโตะมาก...เห็นคุณยามาโมโตะเป็นทั้งตัวแทนของลูกชายที่ตายไป เป็นทั้งนายเหนือหัวเพียงคนเดียว...เพราะฉะนั้นคิโชจึงเชื่อฟังแต่คุณยามาโมโตะ...ไม่ว่าคุณยามาโมโตะจะสั่งให้ทำอะไรหรืออะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณยามาโมโตะ คิโชก็จะลงมือทำให้”      จากเรื่องที่คาเอเดะเล่าทำให้เขาพอจะเข้าใจขึ้นมา ว่าทำไมชายคนนั้นถึงได้ทำร้ายเขา คงคิดว่าเขาจะเข้ามาหลอก เข้ามาทำร้ายนายของตนสินะ

เขาได้แต่พยักหน้าขอบคุณหญิงวัยกลางคนที่เดินมาส่งก่อนจะปิดประตูห้องของตนลง ใบหน้ายังคงเหม่อมองกระเป๋าเสื้อผ้าพลางคิดว่าคงต้องใช้เวลากว่าจะคุ้นเคยกับเรื่องราวของหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้


ตอนนั้นเขาไม่รู้หรอก...ว่าข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์คนนั้นสามารถทำให้ยามาโมโตะ ทาเคชิได้...แม้แต่การฆ่าคน








“ นายน้อย...ปล่อยไว้แบบนี้จะไม่เป็นไรแน่หรือครับ ให้ผมไล่มันออกไปไม่ดีกว่าหรือครับ”       คนที่ยืนอยู่ในสวนเอ่ยกับนายเหนือหัวที่ยืนอยู่บนระเบียง นัยน์ตามองมาที่เด็กหนุ่มด้วยความจงรักภักดี

ใบหน้าคมคายแค่มองตามแผ่นหลังของคุณหมอคนใหม่ไปจนลับสายตา มีเพียงเสียงเย็นๆเอ่ยออกมาจากใบหน้ามืดมนว่า

“ ไม่เป็นไร...”








เช้าวันที่สองของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในหมู่บ้านโคโตฮิระยังคงดำเนินผ่านไปด้วยความสงบ

เขาก้าวเดินออกมาจากห้องด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงแสลคที่คุ้นเคย ในมือถือเครื่องมือแพทย์สำหรับตรวจเบื้องต้นมาด้วย นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นกวาดมองหาแผ่นหลังบอบบางของคนไข้ในความดูแลแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา

ไปติดอยู่ที่กระจกบานไหนหรือเปล่านะ?

“ อรุณสวัสดิ์ครับคุณหมอ”      เสียงร่าเริงดังทักทายมาจากร่างสูงของยามาโมโตะที่บังเอิญเดินมาเจอกันที่ระเบียง  รอยยิ้มราวกับดอกทานตะวันนั่นมันทำให้เขาเผลอคิดไปว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นเพียงแค่ความฝัน

“ อรุณสวัสดิ์ยามาโมโตะ เห็น โกคุเดระ ฮายาโตะบ้างไหม? หมออยากจะตรวจร่างกายเสียหน่อยน่ะ”       เด็กหนุ่มตรงหน้าพยักหน้าเป็นทำนองว่าให้เดินตามมา ร่างสูงที่สูงแทบจะเท่าๆเขาอยู่ในชุดนักเรียน กระเป๋าที่สะพายบ่าอยู่ไม่ได้รู้สึกขัดตา แต่ว่าซองผ้าที่สะพายไหล่อยู่นั่นจู่ๆก็ทำให้รู้สึกขนลุกขึ้นมา


ดาบ ?


“ อ๋อ นี่เป็นของที่ใช้ในชมรมเคนโด้น่ะ ฮะฮะ”       ยามาโมโตะคงจะรู้สึกได้ถึงความสงสัยของเขาที่จ้องเอาๆไปที่ซองใส่ดาบ ใบหน้าคมจึงตอบออกมาเอง

บอกตามตรงนะว่าถ้าเป็นเด็กคนอื่นสะพายมันไว้เขาคงไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ แต่พอเป็นคนตรงหน้าเขากลับรู้สึกว่ามันดูน่าอันตรายจริงๆ

“ น่าจะอยู่ที่นี่แหละ...ฝากฮายาโตะด้วยนะครับคุณหมอ”       ใบหน้าคมส่งยิ้มสบายๆมาให้ก่อนจะเปิดประตูเลื่อนให้เขาเข้าไป  แผ่นหลังบอบบางที่อยู่ในกิโมโนสีม่วงอ่อนนั่งอยู่ในห้องนั้นจริงๆ

มันเป็นห้องโล่งๆที่มีโต๊ะเขียนหนังสือแบบญี่ปุ่นวางเอาไว้ตัวหนึ่ง กองหนังสือวางซ้อนๆกันอยู่บนเสื่อทาทามิอยู่ประมาณสี่ห้าเล่ม  ร่างบอบบางของโกคุเดระ ฮายาโตะ นั่งหันหลังให้ ขาเรียวภายใต้กิโมโนแกว่งไปมาอยู่ที่ระเบียงซึ่งเปิดออกสู่สวน และเมื่อเขาก้าวขาเข้าไป ใบหน้าสวยก็หันมามอง

“ อะไร? เจ้าหมอบ้านี่เองหรอ? มีอะไรล่ะ?”       คำพูดคำจาทำเอาเส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆขึ้นมาทันที แล้วเหมือนเขาจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆมาจากคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง

“ หมอจะขอตรวจร่างกายหน่อย”      เขานั่งลงไปใกล้ๆ ใบหน้าสวยงอง้ำอย่างเอาแต่ใจขึ้นมาทัน

“ ห๋า?”      น้ำเสียงติดจะหาเรื่องนั่นช่างไม่เข้ากับใบหน้าราวกับตุ๊กตานี่เลยจริงๆ

“ ยื่นแขนมา”      เขาเอ่ยเสียงแข็งกับคนไข้ตัวร้ายก่อนจะแบมือเพื่อให้อีกฝ่ายวางแขนลงมา

บางทีเขาอาจจะต้องเริ่มรักษาจากร่างกายก่อน อย่างน้อยก็ควรจะตรวจดูว่า โกคุเดระ ฮายาโตะ มีโรคประจำตัวอย่างอื่นอีกหรือไม่

“ จะตรวจอะไรล่ะ? ไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย?”      ใบหน้าบูดน้อยๆบ่นออกมา กว่าจะยอมยื่นแขนมาให้เขาวัดชีพจรได้ก็เล่นเอารู้สึกปวดหัวกับความดื้อของอีกฝ่าย

“ ตัวซีดขนาดนี้ยังบอกว่าไม่เป็นไรอีกหรือไง”       ปลายนิ้วแตะอยู่ที่ข้อมือเล็กบางของคนที่ยังทำท่าฮึดฮัด ใบหน้าสวยสะบัดไปอีกฝั่งจนผมสีเงินยาวแทบจะฟาดเข้ามาที่หน้าเขา...ปกติแล้วกับคนเพิ่งรู้จักกัน...จะมีใครกล้าเอาแต่ใจ ใส่กันเลยแบบนี้ไหมเนี่ย?

“ ฮึ!”      ใบหน้างอหงิกยังอุตส่าห์หันมา ฮึ ใส่เขา ทำเอามือยกขึ้นมาขยับแว่นอย่างพยายามระงับความหมั่นไส้ ในใจพยายามตั้งสมาธิกับการจับชีพจรอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุด

ทั้งๆที่ภายนอกออกจะน่ารักขนาดนี้ แต่นิสัยนี่คงจะไปกันคนละทางเลยสินะ แต่มันอาจจะดีก็ได้ที่เด็กคนนี้เป็นแบบนี้ เขาจะได้ไม่ต้องมีพิธีรีตองให้มากมาย จะได้สู้รบกันด้วยนิสัยจริงๆของเขาได้โดยไม่ต้องเกรงใจหรือระมัดระวังอะไร

นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นไล่มองไปตามท่อนแขนเล็กบาง นอกจากผิวที่ติดจะขาวซีดไปหน่อย เรื่องชีพจรก็ยังไม่พบอะไรที่น่ากังวล

เขาเหลือบไปมองร่างสูงของยามาโมโตะ ที่ยืนกอดอกอยู่ที่ประตู เห็นเด็กคนนั้นบอกว่าอายุเท่ากับ โกคุเดระ ฮายาโตะ และดูจากเครื่องแบบนักเรียนก็พอจะเดาได้ว่า ยามาโมโตะ น่าจะเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายปลาย

ถ้างั้นก็หมายความว่า เจ้าเด็กที่นั่งทำหน้าบูดอยู่ตรงนี้ก็น่าจะอยู่มัธยมปลายแล้วเช่นกัน?

แต่จากรูปร่างบอบบางที่อยู่ในกิโมโนทำให้ดูแทบไม่รู้เลยว่าไม่ใช่เด็กมัธยมต้น อีกทั้งใบหน้าที่ล้อมกรอบด้วยเส้นผมสีเงินยาวถึงกลางหลังยังดูอ่อนกว่าวัย อาจจะเป็นเพราะไม่ได้ออกไปไหน หรือเป็นเพราะรูปร่างหน้าตาที่ราวกับเด็กผู้หญิง เลยทำให้ดูต่างจากเด็กผู้ชายที่อายุเท่ากัน

“ นี่...ถามอะไรหน่อยสิ”     และที่ โกคุเดระ ฮายาโตะ อยู่ในสภาพราวกับเด็กผู้หญิงแบบนี้...ที่ไว้ผมยาว...ที่ใส่กิโมโน...ก็คงเป็นเพราะเงาในกระจก

“ อะไร?”      ใบหน้าสวยหันมาตอบด้วยเสียงห้วนๆ....ถ้าน้องสาวฝาแฝดยังมีชีวิตอยู่...เด็กคนนั้นคงจะมีรูปร่างหน้าตาเหมือน โกคุเดระ ฮายาโตะ ในตอนนี้แน่ๆ

“ เธออายุเท่าไหร่?”      แต่บางที...แฝดคนน้องอาจจะอ่อนหวานกว่าเจ้าเด็กที่กำลังแยกเขี้ยวตอบเขาด้วยใบหน้าบูดบึ้งคนนี้ก็ได้...



“ 17 ปี”






.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

To be Con.





ลงกัน 4 ตอนรวดค่ะวันนี้ ฮ่าๆๆๆ ก็มันเป็นวันสำคัญของมี๊นี่นา >/////<


สุขสันต์วันเกิดนะจ้ะหนูก๊ก


ถึงรีบอร์นจะจบไปแล้วแต่หนูก๊กก็ยังเป็นคนที่มี๊รักที่สุดในสามโลกอยู่นะจ๊ะ ปีนี้ก็โตขึ้นอีกปีถึงแม้จะยังอายุ14อยู่ก็เถอะ กร๊ากกกก มีความสุขมากๆจะได้สดใสๆมาเป็นกำลังใจให้มี๊ได้กิ๊วก๊าวต่อไป *w* คำอวยพรคงไม่มีอะไรมากเพราะก็อวยกันอยู่ทุกปี555 ยังไงหนูก็จะเป็นที่รักของมี๊และลูกเขย(?)ตลอดไป >////<



Happy Birthday GOKUDERA HAYATO !!!




ต่อไปขอเวิ่นถึงฟิคบ้าง

ในเรื่องกิโนะเป็นผู้ใหญ่(29) ก็เลยใช้คำแทนตัวที่กิโนะเรียกก๊กว่า “เธอ” อารมณ์ประมาณคุณครูเรียกนักเรียนอ่ะค่ะ เพราะจะว่าไปก๊กก็เปรียบเสมือนนายจ้างของกิโนะ ใช้ “นาย” มันดูใกล้กันไปหน่อย แล้วก๊กมันก็ดูน่างับแบบนั้นจะใช้ “คุณ” มันก็ดูห่างไกลไปหน่อย ก็เลยใช้ “เธอ” นี่แหละ ดูก้ำกึ่งดีว่าจะเรียกก๊กที่เป็นพี่ชายหรือน้องสาวฝาแฝด

จริงๆละอยากทำภาพประกอบและคำชี้แจ้งให้เป็นเรื่องเป็นราวกว่านี้ แต่ไม่ทันค่ะ โฮวววววว เอาเป็นว่าคร่าวๆตรงนี้ก่อนนะคะ



ยามาโมโตะ ทาเคชิ (KHR) อายุในฟิคคือ 17 ปี  – ร่างสูง , ใบหน้าคม , นัยน์ตาสีเปลือกไม้ , เจ้าของผมสั้นสีดำ , นายน้อย , ว่าที่นายใหญ่ , เด็กหนุ่ม

โกคุเดระ ฮายาโตะ (KHR) อายุในฟิคคือ 17 ปี – ร่างบอบบาง , ใบหน้าสวย , นัยน์ตาสีมรกต , ริมฝีปากสีแดงสด , เจ้าของเรือนผมสีเงินยาวถึงกลางหลัง , ร่างที่อยู่ในกิโมโน , คุณหนู

กิโนสะ โนบุจิกะ (PP) อายุในฟิคคือ 29 ปี – ร่างสูงโปร่ง , ใบหน้าเรียว , นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่น , ริมฝีปากสีระเรื่อ , คุณหมอ

โคงามิ ชินยะ (PP) อายุในฟิคคือ 29 ปี – ร่างสูงใหญ่ , ใบหน้านิ่ง , นัยน์ตาสีดำ (ของคุณโคนี่ยังบอกอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวสปอยด์ 555)



ส่วนรูปข้างล่างนี่ก็บรรยากาศไปคนละทางกับฟิคเล้ย ฮ่าๆๆ แต่สักวันหนึ่งก็อยากให้มีภาพแบบนี้เกิดขึ้นนะ >w<








ไปอ่านตอนต่อไปกันดีก่า....



7 ความคิดเห็น:

  1. มาแล้วววว ในที่สุดก้มาแล้ว>__<

    ก่อนอื่นเลยก้ต้อง

    HBDนะก๊กกกกกก ขอให้สวยวันสวยคืนแบบนี้ต่อไป มีความสุขกับสามีทาส(?)มากๆนะ

    ส่วนฟิค ตอนแรกที่อ่านคำโปรยขวัญนึกว่าจะเป็นแม่ของก๊กแหละพี่กวาง ไม่คิดว่าจะเป็นน้องสาวฝาแฝด>__< แบบเด็กมีปมแม่โดนพ่อฆ่าไรเงี้ย ต...แต่ว่านะ ที่พี่กวางเคยบอกไว้ว่าก๊กอาจจะเป็นคนบ้านี่คิดว่าล้อเล่นนะคะตอนแรก5555 แต่แบบ.... โฮกกกกกก ลูกสาววว ทำไมขนาดรับบทคนบ้ายังสวยได้อีกล่ะลูกกกก ทั้งโลกนี้มีแค่หนูเนี่ยแหละที่งามทุกบทบาทขนาดนี้ โอ้ยปลื้มมม///

    มาถึงตัวเนียน...นายโผล่ออกมาแบบดูเป็นคนดีกง่าที่เราคิดไว้เยอะเลยอะ(หลบไม้เบสบอล) แต่จริงๆก้ยังแอบคิดนู่นนี่นั่นในใจอยู่ใช่มั้ย แต่ถ้ารักก๊กดูแลก๊กแบบนี้ก้โอเคนะ ที่กิโนะบอกว่าสัญชาตญานจิตแพทย์นั่นแสดงว่าจริงๆนายแอบจิตอยู่ใช่ม๊ายยย จะรอฉากดาร์คของนายนะยาม้าาา(?)

    พี่กวางงงงง ตอนแรกว่าจะรออ่านข้ามคืน(?) แต่สุขภาพมันไม่เอื้ออำนวยอ่ะ พึ่งโผล่มาง้าบบ เรื่องนี้สนุกมากๆเลย มีปมให้ลุ้นไปเรื่อยๆ เห็นภาพวัฒนธรรมเก่าๆใหม่ๆกำลังผสมกันด้วย ชอบค่าาาาา ขวัญจะรอตอน5น้าาา เอามาไวๆน้าาาา แง่งงงงงง;w;/

    ตอบลบ
  2. อรั้ย พี่กวางขา
    ในทึ่สุดก็คลอดออกมาจนได้ คลอดวันดีซะด้วย อิอิ

    สุขสันต์วันเกิดนะจ้ะหนูก๊ก ขอให้สวยใส ขาวผ่องแผ่รัศมีเคะอย่างนี้ตลอดไปน้า

    แหม่ อยากเห็นยามะดาร์คแบบเต็ม ๆ จริง เห็นนิดเดียวเองอ้ะ

    หนูก๊กยังคงสวยงามน่ารักน่ากดเหมือนเดิมเลย อิอิ
    ถ้าหายดีแล้วอย่าเพิ่งตัดผมนะลูก
    นึกภาพหนูก๊กในลุคนี้มันชวนให้น้ำลายไหลแทนตาเนียนขึ้นมาเลยค่ะ
    จับกด จับกดเร็ว ๆ นะเนียน //ชักไปไกล 555

    กิโนะ ใคร ใครมันทำให้กิโนะช้ำใจ บอกมา คุณโคใช่มั๊ย
    ตัวกิโนะนี่เหมือนลักษณะนิสัยยังคงเป็นแบบออริจินอลเลยน๊า
    ดีแล้วล่ะ ชอบบบกิโนะจังแบบนี้ >_<

    รอ ๆ คุณโคออกโรง อยากเห็นกล้าม (((>///<)))

    สู้ ๆ นะคะพี่กวาง ชอบ (ฟิค) อ้ะ!!! (((^_^)))

    ตอบลบ
  3. สุขสันต์วันเกิดหนูก๊กด้วยคนค่า ยังไงหนูก๊กก็ยังคงเป็นตัวละครที่่อยู่ในใจเราเสมอ
    รักๆกันไปตลอด ก็หนูออกจะน่ารักขนาดนี้ และคนแถวนี้ก็ทำให้หนูน่ารักขนาดนี้ จะไม่รักกันได้อย่างไร ^^

    แค่คำโปรย แค่ขึ้นต้นก็พาขนลุกแล้วค่ะ
    บรรยากาศหลาย ๆ อย่างชวนอึดอัดดีจริง ๆ
    แลดูเรื่องนี้จะจิตกันทุกคน ชอบบบบ

    อ่อ แอบสงสัยอย่างค่ะ ช่างเวลาในฟิคนี่คือช่วงปรtมานไหนค่ะ
    ปัจจุบันนี้ หรือก่อนหน้านี้ 40 50 ปี หรือยังไงเอ่ย ^^

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ช่วงเวลาก่อนหน้านี้ค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่ากี่สิบปี555 ความตั้งใจคืออยากให้เป็นช่วงที่ญี่ปุ่นเพิ่งจะเปลี่ยนประเทศ เพิ่งยอมให้วัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาน่ะค่ะ

      ลบ
  4. เริ่มเรื่องมาก็คลั่งแล้วค่ะกวางซาม้าาาาา
    บอกตรงๆว่า ณ ทุกวันนี้ไอ้คนอ่านมันก็ไม่ปกติ 555555

    ทำไมมันถึงได้รู้สึกยิ้มแย้ม(?)ไปกับ
    ไอ้อาการพูดอรุณสวัสดิ์กับคนในกระจก
    หรือเพราะเรามักพูดคนเดียวบ่อย(?) 5555555
    โบกป้ายทางนี้ก็ต้องการหมอ(?)นะคะ > _ <
    #ถ้าจะหนักขนาดนี้ควรหลังคาแดง(?)จะดีกว่า - _ -

    เค้าดีใจที่ได้อ่านกิโนะจังอีกครั้ง #อ๊ากกกกกก > <
    จากที่เคยเป็นบ้า #จริงๆมันก็บ้าอยู่ตลอด - _ -
    ส่งเรียงความวันแม่(?)เล่าถึงความคลั่งไคล้ของคู่โคกิโนะ
    จากการอ่านฟิคของกวางซามะ
    ทุกวันนี้ก็ยังคลั่งไคล้ในความสัมพันธ์(?)ของคู่นี้อยู่น้า
    ถึงจะปวดใจที่คุณโคชอบทำให้กิโนะเจ็บอยู่ได้(?)ก็เถอะ
    เอะอะให้กิโนะเจ็บปวดร้าวราน(?)กับการถูกทิ้งเรื่อย
    มาเรื่องนี้ก็ยังจะไม่จำ(?)นะคุณโค
    ชอบให้กิโนะหนีแล้วมาลากกลับไปกด(?)ใช่มั้ย หืออออ
    #มันมโนไปไหนแล้ว 5555

    กลับมาเรื่องบรรยากาศฟิค
    เค้าชอบบบบบบบ T ___ T ฮือออ บรรยายดีไปแล้ว
    มันลึกลับซับซ้อนจนเหมือนว่าเค้ากำลังเดินอยู่ข้างๆกิโนะ (?)
    #มันยังไม่เลิกมโน 5555
    แต่ว่าบรรยายดีจริงๆนะคะ ตอนที่กิโนะรู้เรื่องสาเหตุของทายาทคนเดียว
    ของตระกูลโกคุเดระเป็นโรคประสาทแล้วขนลุก
    ขนไอ้คนอ่านก็ลุกตาม จนกำลังคิดว่ากวางซามะบรรยายว่าคนอ่านขนลุก(?)ไปด้วย

    แล้วก็เหนือสิ่งอื่นใด
    ก๊กกกกกกกกกกกสวยมากกก T ___ T
    ก๊กเหมาะกับกิโมโนสุดใจ(?) คนอะไรเอาแต่ใจแล้วโคตรน่าฟัดดด!!!
    ฮือออออ อิจฉาเจ้าบ้ายามาโมโตะ(?) 55555
    ชอบฉากที่กิโนะลอบมองพฤติกรรมคู่นี้มากๆเลย
    ฉากทานข้าวนี่ลงไปแดดิ้น(?)จากใจ คิดถึงคู่นี้ T __ T
    แค่ไอ้เจ้าบ้ายามาโมโตะ(?)ผสมโชยุกับวาซาบิให้ก๊ก ฉันก็ฟินได้(?) 5555

    เท่าที่จำได้ว่าเคยอ่านเรื่องแนวนี้แค่ครั้งนึงเป็นนวนิยายต่างประเทศ
    ตอนนั้นบอกตัวเองอย่างรุนแรง(?)ว่าฉันเกลียดการถูกหลอก(?) 55555
    จำได้ว่าปาหนังสือทิ้ง(?)....บนเตียง(?)
    และก็ต่อต้าน(?)การหักมุม(?)อย่างรุนแรง
    แต่ว่ากับเรื่องนี้ กับฟิคของกวางซามะ
    เค้าพลีกาย~~เต็มใจให้หลอก!! 555555

    ดีใจที่ได้อ่านฟิคคู่ 8059 ในวันพิเศษๆๆแบบนี้มากๆเลย
    พยายามโยนงานทิ้งทุกอย่างเพื่อมาอ่านให้ได้ คือไม่ว่ายังไงตูจะอ่าน
    ตูจะต้องอ่านวันนี้ 55555
    แน่นอนว่าเรื่องงานพรุ่งนี้อาจจะต้องแก้ผ้า(?)เอาหน้ารอด(?)

    เอาเป็นว่าสุขสันต์วันเกิดก๊กจังด้วยคนนะคะ
    ดีใจมากๆที่ได้หลงรักตัวการ์ตูนตัวนี้ ดีใจมากๆจริง > <
    ปล. รูปถูกใจมากมายค่ะ
    เป็นอะไรที่จัดแบบนี้(?)ให้สักฉากเถิดด(?)น้ากวางซาม้าา > 3 <

    ตอบลบ
  5. เริ่มเรื่องมาก็คลั่งแล้วค่ะกวางซาม้าาาาา
    บอกตรงๆว่า ณ ทุกวันนี้ไอ้คนอ่านมันก็ไม่ปกติ 555555

    ทำไมมันถึงได้รู้สึกยิ้มแย้ม(?)ไปกับ
    ไอ้อาการพูดอรุณสวัสดิ์กับคนในกระจก
    หรือเพราะเรามักพูดคนเดียวบ่อย(?) 5555555
    โบกป้ายทางนี้ก็ต้องการหมอ(?)นะคะ > _ <
    #ถ้าจะหนักขนาดนี้ควรหลังคาแดง(?)จะดีกว่า - _ -

    เค้าดีใจที่ได้อ่านกิโนะจังอีกครั้ง #อ๊ากกกกกก > <
    จากที่เคยเป็นบ้า #จริงๆมันก็บ้าอยู่ตลอด - _ -
    ส่งเรียงความวันแม่(?)เล่าถึงความคลั่งไคล้ของคู่โคกิโนะ
    จากการอ่านฟิคของกวางซามะ
    ทุกวันนี้ก็ยังคลั่งไคล้ในความสัมพันธ์(?)ของคู่นี้อยู่น้า
    ถึงจะปวดใจที่คุณโคชอบทำให้กิโนะเจ็บอยู่ได้(?)ก็เถอะ
    เอะอะให้กิโนะเจ็บปวดร้าวราน(?)กับการถูกทิ้งเรื่อย
    มาเรื่องนี้ก็ยังจะไม่จำ(?)นะคุณโค
    ชอบให้กิโนะหนีแล้วมาลากกลับไปกด(?)ใช่มั้ย หืออออ
    #มันมโนไปไหนแล้ว 5555

    กลับมาเรื่องบรรยากาศฟิค
    เค้าชอบบบบบบบ T ___ T ฮือออ บรรยายดีไปแล้ว
    มันลึกลับซับซ้อนจนเหมือนว่าเค้ากำลังเดินอยู่ข้างๆกิโนะ (?)
    #มันยังไม่เลิกมโน 5555
    แต่ว่าบรรยายดีจริงๆนะคะ ตอนที่กิโนะรู้เรื่องสาเหตุของทายาทคนเดียว
    ของตระกูลโกคุเดระเป็นโรคประสาทแล้วขนลุก
    ขนไอ้คนอ่านก็ลุกตาม จนกำลังคิดว่ากวางซามะบรรยายว่าคนอ่านขนลุก(?)ไปด้วย

    แล้วก็เหนือสิ่งอื่นใด
    ก๊กกกกกกกกกกกสวยมากกก T ___ T
    ก๊กเหมาะกับกิโมโนสุดใจ(?) คนอะไรเอาแต่ใจแล้วโคตรน่าฟัดดด!!!
    ฮือออออ อิจฉาเจ้าบ้ายามาโมโตะ(?) 55555
    ชอบฉากที่กิโนะลอบมองพฤติกรรมคู่นี้มากๆเลย
    ฉากทานข้าวนี่ลงไปแดดิ้น(?)จากใจ คิดถึงคู่นี้ T __ T
    แค่ไอ้เจ้าบ้ายามาโมโตะ(?)ผสมโชยุกับวาซาบิให้ก๊ก ฉันก็ฟินได้(?) 5555

    เท่าที่จำได้ว่าเคยอ่านเรื่องแนวนี้แค่ครั้งนึงเป็นนวนิยายต่างประเทศ
    ตอนนั้นบอกตัวเองอย่างรุนแรง(?)ว่าฉันเกลียดการถูกหลอก(?) 55555
    จำได้ว่าปาหนังสือทิ้ง(?)....บนเตียง(?)
    และก็ต่อต้าน(?)การหักมุม(?)อย่างรุนแรง
    แต่ว่ากับเรื่องนี้ กับฟิคของกวางซามะ
    เค้าพลีกาย~~เต็มใจให้หลอก!! 555555

    ดีใจที่ได้อ่านฟิคคู่ 8059 ในวันพิเศษๆๆแบบนี้มากๆเลย
    พยายามโยนงานทิ้งทุกอย่างเพื่อมาอ่านให้ได้ คือไม่ว่ายังไงตูจะอ่าน
    ตูจะต้องอ่านวันนี้ 55555
    แน่นอนว่าเรื่องงานพรุ่งนี้อาจจะต้องแก้ผ้า(?)เอาหน้ารอด(?)

    เอาเป็นว่าสุขสันต์วันเกิดก๊กจังด้วยคนนะคะ
    ดีใจมากๆที่ได้หลงรักตัวการ์ตูนตัวนี้ ดีใจมากๆจริง > <
    ปล. รูปถูกใจมากมายค่ะ
    เป็นอะไรที่จัดแบบนี้(?)ให้สักฉากเถิดด(?)น้ากวางซาม้าา > 3 <

    ตอบลบ
  6. ////ดองมานานนม เน็ตกาก เม้นไม่ติด....
    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    เปิดมาหนูรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง....เเบบเห็นเจ้เวิ่นๆลงเฟซ เเต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะเเต่งหนูก๊กเป็นคนบ้าจริง=[]= โอ้เเม่เจ้าาาา
    #เเต่หนูก๊กมีพลังงานอะไรบางอย่างมากๆ....//คิดไปเองหรือเปล่า

    อ่านๆไปชักเริ่มรู้สึกถึงลางอะไรบางอย่างงงงง=[]= ยามะเเลดูยิ้มเเย้ม (????) ละมุนละไม (????) ห่วงก๊กจากใจ เเต่ดูมีอะไรเเอบเเฝง อ๊าาาา คาใจ !!

    ไหนจะปริศนารัก(?????????????????) ของคุณโคกับคุณกิโนะอีก มันเกิดอะไรขึ้นกันค้าาา!?=[]= ว๊ากกกกก
    #สมองรวนพันกันจนยุ่งเหยิง

    ยังไงก็สุขสันต์วันเกิดหนูก๊กย้อนหลังเยอะๆเลยยTT////TT
    #ดองนานเกินไปเเล้วฉัน #กรรม #โดนตบ

    ตอบลบ