Attack
on Titan. Au Fic [Levi x Eren] ในห้อง...ที่แสงส่องไม่ถึง TYL : 14
:
Attack on Titan Fanfiction AU
:
Levi x Eren
:
WarmHearted Romantic
:
NC-17
คำเตือน :
เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย
หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
กลิ่นของโรงพยาบาลยังคงค้างคาอยู่ในจมูก
ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะกลับมายืนอยู่หน้าประตูห้องที่คอนโดแล้วก็ตาม...
หลายวันมานี้เขาต้องเข้าไปรับเอกสารแล้วยังต้องไปทำความคุ้นเคยกับโรงพยาบาลของตระกูลเยเกอร์
ถึงจะไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงและที่นั่นเองก็เป็นที่ที่สะอาด...แต่มันก็เต็มไปด้วยกลิ่นเลือดด้วยเช่นกัน...ไม่รู้ว่ามันจะติดตัวเขากลับมาแค่ไหนกันนะ
มือเปิดประตูห้องเข้าไปก่อนจะได้ยินเสียงเพลงเบาๆ...วันนี้เอเลนไม่ได้ไปไหน
ดูเหมือนจะคิดงานใหม่อยู่
ขาก้าวเข้าไปตามปกติ
แต่แล้วอะไรบางอย่างที่ไม่ปกติก็ทำให้นัยน์ตารีขวางต้องเหลือบลงไปมอง...
ไอ้กระดาษพับไปพับมารูปร่างสามเหลี่ยมที่ดูคล้ายนกนี่มันอะไร?
ใบหน้านิ่งสนิทก้มลงไปมองใกล้ๆ...รู้สึกว่ามันจะคล้ายๆอะไรบางอย่างที่เขาเคยเห็นในรายการโทรทัศน์เมื่อวันก่อน.....เรียกว่าอะไรนะ?....เครื่องบิน?
มือเก็บมันขึ้นมาก่อนจะก้าวขาเดินต่อเข้าไปในห้อง
แต่ยังไม่ทันจะเดินได้กี่ก้าวไอ้ของหน้าตาเหมือนกันมันก็วางอยู่ที่พื้นอีก
คราวนี้คิ้วถึงกับกระตุกขึ้นมานิดหน่อย มือหยิบเจ้าเครื่องบินกระดาษอันน้อยขึ้นมาก่อนจะพบว่ามันถูกพับมาจากกระดาษสเก็ต...เส้นที่ตีกันยุ่งจนดูไม่ออกว่ามันคืออะไรถูกขีดอยู่บนกระดาษที่ไม่ใช้แล้วนั่น...นี่ตกลงว่ามันเป็นประติมากรรมหรือขยะที่ปาไม่ลงถังกันแน่?
ในขณะที่กำลังตั้งใจจะเดินเข้าไปถามเจ้าตัวดีที่คงจะอยู่แถวๆนี้
เสียงอะไรบางอย่างก็ดังขึ้นมาให้ได้ยิน
แกร่บ....
และเมื่อก้มมองลงไปก็พบว่าฝ่าเท้าของเขากำลังเหยียบอยู่บนเครื่องบินกระดาษอีกอัน...และมันก็ถูกพับขึ้นมาจากกระดาษสเก็ตเช่นกัน...คราวนี้ไม่ได้มีแค่เส้นที่ดูไม่รู้เรื่อง
แต่ที่ปีกของมันข้างหนึ่งกลับมีรูปอะไรบางอย่าง....เป็นรูปหน้าคนที่วาดด้วยเส้นง่ายๆคล้ายๆในหนังสือการ์ตูนที่เจ้าเด็กนั่นชอบอ่าน...แต่ว่าไอ้ใบหน้ากลมป๊อกของผู้ชายที่มีนัยน์ตารีขวาง
ดูท่าทางอารมณ์ไม่ดี
มีผมแสกกลางและยังไถ่เกรียนครึ่งล่าง...อย่างงี้แล้วยังจะให้เขาคิดว่ามันเป็นใครได้อีก?!
แต่เดี๋ยวนะ
ไอ้ท่าทางเหมือนจะปล่อยลำแสงได้เหมือนในการ์ตูนยอดมนุษย์นี่มันยังไง? คิดว่าหัวหน้าทหารรีไวเป็นใครกันห๊ะไอ้เจ้าเด็กนั่น?!!
เขาเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะกวาดสายตามองหาร่างโปร่งบางของเจ้าตัวดีที่ทำห้องเลอะ
ก่อนที่มันจะพบแต่สิ่งที่ทำเอาเส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆ ในเมื่อตอนนี้ที่พื้นห้องนั่งเล่นนั้นมีแต่เครื่องบินกระดาษให้เกลื่อนไปหมด!!
นี่คิดว่าใครต้องมาคอยตามเก็บกวาดให้กันห๊ะ?!!
สองขาเดินดุ่มๆเข้าไปหาคนที่ยังนั่งเหม่ออยู่ที่โซฟา
ใบหน้ามนเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่จนไม่ได้รู้เลยว่าเขาก้าวขาเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว
แล้วเครื่องบินกระดาษในมือบางก็ถูกปล่อยออกไปให้บินร่อนอยู่ในอากาศก่อนจะแลนดิ้งลงมาที่ใบหน้าของเขา!
แกร่บ!!!
ดีที่มือคว้ามันเอาไว้ได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด
ฝ่ามือกำเครื่องบินกระดาษที่ดับอนาถก่อนจะมาถึงแก้มของเขาแค่นิดเดียว!
“
อ่ะ! หะ หัวหน้า!!.....” แล้วก็ดูเหมือนเจ้าตัวดีจะเพิ่งรู้ตัว
ไหล่บางถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นเขายืนอยู่ท่ามกลางรังสีดำทะมึนตรงหน้า
คิ้วกระตุกถี่ยิบเช่นเดียวกับเส้นเลือดที่ขมับที่แทบจะแตกปรี๊ดออกจากกันด้วยความโมโห
“
กะ กลับมาแล้วหรอครับ แหะแหะ....”
เสียงหัวเราะแห้งๆอย่างที่ยังพอจะมีสำนึกอยู่บ้างดังออกมาจากใบหน้ามนที่มีเหงื่อแตกพลั่ก
ร่างโปร่งบางถอยหลังไปตามแนวยาวของโซฟาเมื่อมือของเขายื่นเข้าไปหาใบหน้าของตน
“
ทำอะไรอยู่น่ะหาไอ้เจ้าเด็กเหลือขอ?”
เสียงเย็นเอ่ยออกไปพร้อมกับสองมือบีบแก้มใสโยกไปมาอย่างนึกหมั่นเขี้ยว ทำห้องเลอะไม่พอ
ยังคิดจะฆ่าสามีตัวเองด้วยเครื่องบินกระดาษนั่นอีกต่างหาก...แบบนี้มันต้องจับสั่งสอนซะให้เข็ด
“
เอ็บอ่ะอัวอ้า....อ่อยอ่อนอับ.....”
คำพูดไม่ได้ศัพท์ถูกเอ่ยออกมา น้ำตาปริ่มนัยน์ตาสีมรกตจนต่อมซาดิสของเขาเริ่มจะทำงาน
ก็รู้ทั้งรู้นะว่าถ้าทำห้องสกปรกจะโดนอะไร
แต่ก็ยังทำเลอะได้ไม่เว้นแต่ละวัน
แล้วจะไม่ให้เขาคิดได้ไงว่าไอ้เจ้าเด็กนี่มันมีความมาโซอยู่ในไขสันหลัง!
สองมือยอมปล่อยแก้มที่ถูกดึงจนย้วยออกก่อนจะหันไปคว้าเอาลำตัวบางขึ้นมาแล้วมุ่งหน้าเข้าไปในห้องนอน
“
หัวหน้า?! เดี๋ยวก่อนครับ! จะเก็บเดี๋ยวนี้แหละ!! อุก!”
เสียงโวยวายหยุดลงเมื่อร่างโปร่งบางถูกโยนไปที่เตียง
“
ก็มันคิดไม่ออกอ่ะ...เลยพับเครื่องบินเล่น...มาเล่นด้วยกันไหมครับหัวหน้า?!” ใบหน้ามนพยายามชักชวนคนที่ยืนอยู่ปลายเตียง
แต่ดูท่าว่าใบหน้าทะมึนจะไม่สนใจการละเล่นที่ว่านั่นเลยสักนิด มือแข็งแรงยกขึ้นไปดึงเนคไทลงมาจากคอเสื้อก่อนจะรูดมันออกมา
สองเข่ายันพื้นเตียงลงไปให้ร่างโปร่งบางถอยหนีด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
“
ไอ้ของแบบนั้นชั้นไม่เล่นหรอก...ถ้าจะเล่นละก็...มีอย่างอื่นที่น่าสนุกกว่าให้เล่นไม่ใช่หรือไง?” แล้วคราวนี้คนที่พยายามทำใจดีสู้เสือก็ถึงกับยิ้มไม่ออก
น้ำตาแทบจะไหลพรากออกมาจากนัยน์ตาสีมรกตเมื่อเพิ่งรู้ว่าทำตัวเองแท้ๆ สองมือถูกเนคไทมัดเอาไว้อย่างจนใจจะต่อต้าน
และไม่นานกางเกงขายาวที่ใส่อยู่ก็หายไปจากเรียวขา
“
หัวหน้า...อย่ารุนแรงมากนะครับ เดี๋ยวผมต้องออกไปข้างนอก อึ๊ก!” ยังไม่ทันจะพูดจบปลายนิ้วชุ่มโชกก็สอดใส่เข้าไปในช่องทางคับแน่นทันที
ไหล่บางสะดุ้งโหยง นัยน์ตาสีมรกตหลับตาปี๋
พอๆกับที่ปลายนิ้วของเขารับรู้ได้ถึงแรงบีบรัดจากร่างกายที่กำลังตกใจ
“
แล้วมันจะเรียกว่าทำโทษได้ยังไงล่ะ?” รอยยิ้มถูกใจระบายอยู่บนใบหน้าของเขายามเมื่อได้มองท่าทางทรมานของเจ้าเด็กตรงหน้า
ร่างกายที่ถอยหนีตามสัญชาติญาณกับเสียงครางที่ราวกับจะขาดใจมันทำให้เขามีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่ได้ทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายจนต้องถามว่า
“นายเกลียดฉันหรือเปล่า” แต่เขาก็ยังได้เห็นใบหน้าของเอเลนในแบบที่เขาชอบด้วยวิธีนี้ได้อยู่
ท่อนแขนแข็งแรงโอบรอบต้นขาขาวก่อนจะดึงเข้ามาหาตัวทั้งๆที่ปลายนิ้วยังฝังอยู่ในช่องทางคับแน่น
หนึ่งในสองนิ้วที่สอดใส่เข้าไปขยับแตะลงไปในมุมที่คุ้นเคย
“
อื้อ!!!”
ร่างโปร่งบางถึงกับกระตุกเฮือกทันที ใบหน้าที่แดงระเรื่อถึงกับหันไปซุกหมอนเพื่อซุกซ่อนเสียงครางเอาไว้
และส่วนอ่อนไหวของเจ้าเด็กตรงหน้าก็ตั้งชันขึ้นมาโดยที่เขาไม่ต้องเล้าโลมมัน
“
ฮะ อ้า....หะ หัวหน้า...”
ปลายนิ้วยังคงกดย้ำลงไปที่จุดนั้นจนใบหน้ามนทนไม่ไหว
จากที่พยายามซุกหมอนเอาไว้กลับสะบัดเงยขึ้นไป ปลายเท้าของสองขาที่อ้ากว้างจิกลงไปบนพื้นเตียงด้วยท่าทางทรมาน
“
พอ...พอแล้ว..ครับ...อื้อ!!”
น้ำเสียงเว้าวอนถูกเอ่ยออกมาพร้อมๆกับนัยน์ตาสีมรกตที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำใสๆ
ร่างกายที่บิดเร่านั้นช่างเร้าใจเขาจนหยุดมือไม่ได้ และในขณะที่ค่อยๆดึงนิ้วทั้งคู่ออกมาก่อนจะกดแกนกายของเขาเข้าไปแทน
“
Sie
sind das Essen
und wir sind die Jager!!”
เสียงโทรศัพท์ของเอเลนก็ดังขึ้นมา
ทำให้กิจกรรมที่ทำอยู่นิ่งค้างไปทันที
เขาได้แต่มองที่โทรศัพท์สีขาวที่กำลังสั่นนั่นอย่างนึกหงุดหงิด...ใครมันช่างเลือกเวลาโทรมาได้น่ากระทืบขนาดนี้!
“
หัวหน้า....” ใบหน้ามนมองมาที่เขาเป็นเชิงถามว่ารับได้ไหม
แล้วมันก็ทำให้เขานึกอะไรดีๆออก
“
รับสิ”
เขาตอบไปทั้งๆที่ร่างกายยังคาอยู่ในร่างกายของเอเลน
มือสั่นระริกเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ก่อนจะกดรับสาย
“
ฮัลโล....อาร์มิน....อื้อ เสร็จแล้ว....อะไรนะ! อยู่หน้าห้อง?!! ไหนว่าจะให้ชั้นเอาไปให้ไง อ๊ะ!”
ผนังภายในที่ถูกเสียดสีด้วยแกนกายทำเอาคนที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ถึงกับสั่นพั่บๆ
เสียงครางที่หลุดออกไปถูกปิดเอาไว้ด้วยมือบางอีกข้างแทบไม่ทัน
ใบหน้ามนหันมาน้ำตาคลอใส่เขาจนดูน่าสงสาร แต่การลงโทษก็คือการลงโทษ
เขายังคงขยับต่อไปโดยไม่สนใจคนที่ต้องพยายามพูดกับปลายสายให้เป็นปกติทั้งๆที่ตอนนี้ความต้องการมันกำลังทยานสูงจนร่างกายสั่นระริก
“
ปะ เปล่า....ไม่มีอะไร...ดะ เดี๋ยวเอาออกไปให้ รอแป๊บนะ อึก!...หัวหน้า!” โทรศัพท์ถูกวางสาย
ปลายนิ้วของเอเลนจิกลงมาที่ท่อนขาของเขาอย่างหมดความอดทน เสียงครางถูกปล่อยออกไปตามจังหวะที่ร่างกายโยกคลอนตามแรงกระแทกที่หนักหน่วง
“
ฮะ อะ...หะ หัวหน้า...ช่วย..ช่วยเร่ง
อะ....เร็วหน่อยครับ....อะ...”
ริมฝีปากสีระเรื่อเอ่ยออกมาทั้งๆที่ดวงตายังปิดแน่น...ดูเหมือนเจ้าเพื่อนสนิทนั่นจะมาเอาของอะไรสักอย่างสินะ...ดี...เพราะการลงโทษให้เข็ดหลาบมันยังไม่จบแค่นี้หรอก
“
อึ๊ก....หัวหน้า?”
จู่ๆเขาก็หยุดขยับทำให้ทุกความต้องการมันค้างเติ่งอยู่แบบนั้น
นัยน์ตาสีมรกตเปิดขึ้นมามองเขาอย่างเว้าวอนระคนสงสัย
“
เพื่อนนายมาเอาของไม่ใช่หรอ? เอาออกไปให้สิ”
เขาพูดออกไปด้วยใบหน้านิ่งซึ่งมันคงจะดูเจ้าเล่ห์ในสายตาของเด็กนั่น
ไม่งั้นเอเลนคงไม่มองมาที่เขาด้วยริมฝีปากสั่นระริกซึ่งอ้าค้างน้อยๆแบบนั้น
และใบหน้าจนมุมที่มีน้ำตาปริ่มก็ยิ่งทำให้อยากแกล้ง
เขาจึงก้มลงไปกระซิบแผ่วเบาที่ข้างใบหูแดงระเรื่อให้คนตรงหน้าได้แต่อ้าปากค้างยิ่งกว่าเดิม
“
ออกไปทั้งๆอย่างนี้แหละ”
“
หัวหน้า...ใจร้าย....อื้อ!!”
เสียงครางดังสวนกลับมาทันที แต่ยังไม่ทันที่เด็กนั่นจะได้ต่อว่าอะไร
ร่างทั้งร่างก็ถูกเขาอุ้มขึ้นมาทั้งๆที่มันยังค้างคาอยู่แบบนั้น
ใบหน้ามนที่ซบอยู่ที่หัวไหล่หอบหายใจหนักหน่วง ที่ช่วงล่างรัดเขาแน่นกว่าเดิม
สองแขนผวากอดคอของเขาเอาไว้อย่างกลัวจะร่วงลงไป เช่นเดียวกับสองขาที่กระหวัดเกี่ยวกันเอาไว้อย่างน่าอาย
ใบหน้ามนร้อนราวกับไฟถึงได้ไม่ยอมเงยออกมาจากไหล่ของเขา
“
ของนั่นอยู่ไหนล่ะ?”
“
อึก...กระดาษ...บนโซฟา...อ๊ะ...”
แค่ขยับขาก้าวเดิน แรงสั่นสะเทือนก็ทำให้ร่างโปร่งบางถึงกับสะดุ้งเฮือก
ร่างกายสั่นระริกราวกับกำลังจะทนไม่ไหว
แต่ยิ่งใกล้ประตูห้องมากขึ้นเท่าไหร่ก็มีแต่ต้องกัดฟันทน
“
อึ๊ก....” เขาปล่อยร่างของเด็กนั่นลงที่หลังประตู
ช่วงเวลาสั้นๆที่ช่องทางด้านหลังเป็นอิสระได้หายไปแทบจะทันทีเมื่อแกนกายของเขาสอดใส่กลับเข้าไปตามเดิมจากทางด้านหลัง
ร่างโปร่งบางทรงตัวไม่อยู่แล้ว แผ่นหลังเนียนจึงใช้แผ่นอกของเขาเป็นหลักยึด
“
เปิดประตูสิ”
เสียงทุ้มกระซิบอยู่ที่ใบหูทำให้มือสั่นระริกจำต้องค่อยๆแง้มประตูออกไป
“
เอเลน?” เสียงของเจ้าเด็กเพื่อนสนิทดังลอดเข้ามาอย่างสงสัย
ที่เอเลนไม่ยอมเปิดประตูแต่โดยดีเหมือนทุกที
“
ทะ โทษทีนะอาร์มิน....ชะ ชั้นกำลัง...ฉีดยา....ฆ่าแมลง อึ๊ก!....อยู่น่ะ...”
แผ่นกระดาษถูกสอดเข้าไปตามรอยแยกเพียงเล็กน้อยของประตู
“
งั้นหรอ? นาย...ไม่เป็นไรแน่นะเอเลน?”
เพื่อนที่แสนดียังคงถามออกมาด้วยความเป็นห่วง...โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าไอ้คนที่กำลังฉีดยาฆ่าแมลงน่ะมันกำลังจะตายเพราะถูกแมลงร้ายจู่โจมไม่ยั้ง
สะโพกมนถูกมือแข็งแรงจับยึดเอาไว้
การแทรกกายยังคงดำเนินต่อไป...แต่ก็นับว่าเขาปราณีมากแล้วนะที่ขยับแค่เบาๆและเชื่องช้า...ก็ตั้งใจแค่จะเรียกเสียงครางเท่านั้นแหละ
“
มะ ไม่เป็นไร...ชะ ชั้นเปิดประตู....นาน...ไม่ได้น่ะ....เดี๋ยวห้องอื่น...จะว่าเอา
อึก....” คำพูดที่แทบจะไม่ปะติดปะต่อปนมากับเสียงสะดุ้งเป็นพักๆทำให้เพื่อนตัวเล็กยังไม่ยอมจากไปไหน
“
นายโอเคแน่นะ เอเลน?” เพื่อนผู้แสนดีก็ยังคงถามย้ำแล้วย้ำอีกด้วยความห่วงใย
“
อ๊ะ....มะ ไม่เป็นไร จริงๆ....อิ๊ก...”
แต่คนที่อยู่หลังประตูดูเหมือนใกล้จะถึงขีดความอดทนเต็มที
สองมือสั่นระริกจับยึดลูกบิดเอาไว้แน่ ที่ช่วงล่างยังคงถูกเขาขยับเข้าออกเบาๆ
“
แน่นะ?” เสียงจากข้างนอกเหมือนจะวางใจจากไป
“
อื้อ....อึก.....”
ทำให้เจ้าของแผ่นหลังเนียนที่เขากอดอยู่ดูโล่งอกไปได้บ้าง
“
แต่ชั้นว่าชั้นเข้าไปดูดีกว่า นายมันไม่น่าไว้ใจเลยเอเลน
เดี๋ยวเป็นลมอยู่คนเดียวจะทำไง?”
แล้วคำพูดของเพื่อนผู้แสนดีก็ทำเอาร่างโปร่งบางถึงกับสะดุ้งโหยง
มือถลาไปจับฝ่ามือเล็กๆที่เตรียมจะเปิดประตูเข้ามาเอาไว้แน่น
“
มะ ไม่เป็นไร...จริงๆ..อาร์มิน....หัวหน้ารีไว....ก็อยู่....อึ๊ก.....” ใช่...ยืนอยู่หลังประตูด้วยกันนี่แหละ...เขาได้แต่ลอบยิ้มออกไปก่อนจะก้มลงเป่าลมอุ่นๆเข้าที่ซอกคอ
ทำเอาคนที่ต้องอดทนถึงกับหลุดเสียงครางออกไป
“
งั้นหรอ....”
เพื่อนร่างเล็กยังคงอึกอักอยู่หน้าห้อง
“
ชะ ชั้นโอเคน่า...อ๊ะ....อาร์มิน....”
พูดไปครางไปแบบนี้ใครมันจะไม่เป็นห่วงกันบ้างล่ะ
ยังดีนะที่คนที่มาไม่ใช่ยัยผู้หญิงมืดมน ถ้าเป็นแม่นั่นคงจะบุกเข้ามาไม่ฟังเสียงแล้วละ
“
งั้น...ชั้นกลับก่อนนะ...ถ้ามีอะไร...ก็โทรหาชั้นนะ”
ดูเหมือนเจ้าเพื่อนร่างเล็กจะยอมจากไปทั้งๆที่ยังไม่วางใจเท่าไหร่
“
อะ อื้อ...ขอบใจนะ อาร์มิน...”
แล้วพอเสียงฝ่าเท้าค่อยๆก้าวหายไปจากหน้าห้อง
ประตูที่ปิดลงก็ต้องรองรับแผ่นหลังบางที่ยันเข้าไปทันที สองเท้าลอยขึ้นมาจากพื้นเพราะเขาช่วยประคองสะโพกมนให้
การสอดใส่รุนแรงสมกับที่ใช้เวลาในการอดทนมานาน
“
อะ อ๊ะ หะ หัวหน้า!”
เสียงครางถูกปล่อยออกมาหลังจากที่ต้องกัดฟันมาจนจะทนไม่ไหว
สติที่มีอยู่ดูเหมือนจะล่องลอยไปไกลตามแรงกระแทกที่สอดใส่เข้าออก
สองแขนบางกอดยึดต้นคอของเขาเอาไว้ก่อนจะโยกตัวรับกับจังหวะที่เหมือนจะไม่ทันใจ
“
อะ อ๊า!!!” แล้วไม่นาน
ความต้องการมากมายก็ล้นทะลักออกมาจากร่างกายของพวกเขาทั้งคู่
น้ำสีขาวขุ่นที่มากกว่าปกติพุ่งเลอะมาเต็มหน้าท้องของเขาเช่นเดียวกับที่มันหยดแหมะๆออกมาจากช่องทางด้านหลังของเด็กนี่ก่อนที่จะร่วงลงเต็มพื้นหน้าประตู
“
ฮ้า...ฮ้า.....ฮ้า....หัวหน้า......”
ใบหน้ามนยังคงหอบหายใจหนักหน่วง นัยน์ตาสีมรกตจ้องมาที่เขาอย่างคาดโทษ
ริมฝีปากสีระเรื่อเม้มแน่นอย่างทำอะไรไม่ได้
แล้วใบหน้ามนก็ขยับเข้าใกล้ลาดไหล่ของเขาก่อนจะงับเข้าให้หนึ่งที.....นี่คงจะเป็นวิธีระบายความแค้นสินะ?
เขาเพียงแค่นิ่วหน้าเล็กน้อยกับรอยฟันที่เรียงอยู่บนไหปลาร้า....ก็แค่พรุ่งนี้ต้องไม่ใส่เสื้อคอกว้างก็เท่านั้นแหละ
สองแขนค่อยๆปล่อยให้ร่างที่ยังยันประตูอยู่ไหลลงไปนั่งกับพื้น
ริมฝีปากตรงเข้าไปสอดใส่ลิ้นร้อนเข้าไปในปากที่เพิ่งจะงับเขาเมื่อครู่
ทั้งน้ำลายและปลายลิ้นต่างเร่งเร้าให้ร่างกายของเขาที่ยังค้างคาอยู่ในร่างกายของเด็กนี่ขยายใหญ่ขึ้นมาอีก
และกว่าการลงโทษจะจบลง
ก็อีกสองรอบให้หลังนู่นแหละ
ร่างเปลือยเปล่านอนคว่ำหน้าอย่างหมดแรงอยู่บนเตียง
แค่ขยับก็รู้สึกว่าความเจ็บจี๊ดมันจะประท้วงมาจากช่วงล่าง
ใบหน้ามนพลิกกลับมามองเจ้าเครื่องบินกระดาษอันน้อยที่ตกอยู่ไม่ไกลอย่างนึกหมั่นไส้เพราะบนปีกข้างหนึ่งมีรูปการ์ตูนล้อเลียนคนที่ทำให้เขาต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้วาดเอาไว้
หัวหน้านะหัวหน้า....ไม่เคยปราณีกันบ้างเลย...ดีนะที่ไม่ต้องเอาชีสไปให้อาร์มินแล้วน่ะ
นึกถึงอาร์มินแล้วก็ให้หน้าร้อนเป็นไฟขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่....ไม่รู้จะถูกจับได้หรือเปล่านะ...ว่าเขาไม่ได้ฉีดยาฆ่าแมลงแต่กำลัง.......
“
อ๊า~~~~”
ใบหน้าหันกลับมาซุกอยู่ที่หมอนก่อนจะส่ายไปมา เขาอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี
แล้วดูคนทำสิยังไปยืนชงชาสบายๆอยู่เลย!
กลิ่นชาหอมกรุ่นลอยมาจากเคาน์เตอร์ครัว
พอได้นอนนิ่งๆก็ดูเหมือนสะโพกที่เคยชินกับเรื่องแบบนี้แล้วจะฟื้นตัวได้ไม่ยาก
มือจึงควานหานาฬิกาข้อมือมาดูเวลาแล้วก็พบว่าเพิ่งจะบ่ายสามเอง
จริงสิ...ไหนๆก็ไม่ต้องไปหาอาร์มินแล้ว
เขาไปถ่ายรูป Site
เอาไว้มาทำพรีเซ็นต์กับ Site Analysis ดีกว่า
เผื่อว่าไปเห็นสถานที่ที่จะต้องดีไซน์
อาจจะทำให้นึกอะไรออกขึ้นมาบ้าง
จะได้ไม่จิตว่างจนต้องนั่งพับเครื่องบินกระดาษเล่นจนรกห้องให้ใครมากดเอาๆได้อีก!
“
อื้อออ......” เสียงครางแผ่วๆดังออกมาเมื่อสองมือพยายามยันร่างกายให้ลุกขึ้น
กิจกรรมที่เล่นเอาแทบล้มประดาตายมันยังคงเล่นงานช่วงล่างของเขาไม่หาย
“
จะลุกไปไหน?”
แล้วเสียงทุ้มที่ทักมาจากประตูห้องนอนก็ทำเอาอยากจะแยกเขี้ยวใส่...ถ้าไม่กลัวจะโดนกดอีกรอบละก็นะ...
“
ว่าจะไปดู Site น่ะครับ...หัวหน้าไปด้วยกันหน่อยสิครับ....” พยายามส่งสายตาอ้อนๆไป
เพราะยังไงอีกฝ่ายก็ต้องรับผิดชอบที่ทำให้เขาลุกไม่ขึ้นแบบนี้!
“
ฮึ...แล้วทีนี้จะจำได้รึยังว่าห้ามทำห้องเลอะ”
เสียงทุ้มดังอยู่ใกล้ๆก่อนที่ลำตัวเขาจะลอยหวือขึ้นไปกลางอากาศ
รู้ตัวอีกทีก็ถูกหิ้วเข้าห้องน้ำไปเรียบร้อยแล้ว...ไม่เข้าใจจริงๆว่าทั้งๆที่เขาสูงกว่าแล้วก็ไม่ได้เบาๆแต่ทำไมหัวหน้าถึงหิ้วเอาๆได้ง่ายดายขนาดนี้?
สมกับที่เป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งที่สุดของมวลมนุษยชาติจริงๆ!
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังเป็นช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ
แต่ท้องฟ้าภายนอกกลับมืดครึ้มด้วยสายฝนที่โปรยปรายลงมา
อากาศช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงที่เริ่มเย็นๆกลับหนาวจับใจเมื่อบวกกับพลังของสายฝน...นัยน์ตาสีมรกตเหลือบไปมองหัวหน้ารีไวที่กำลังนั่งใส่บูทสีดำสูงถึงหัวเข่า
กางเกงสีขาวเข้ารูปที่หัวหน้าสวมอยู่มันช่างชวนให้คิดถึงเครื่องแบบของทหาร ยังดีที่ท่อนบนเป็นเสื้อสีดำแขนสามส่วนไม่ใช่เสื้อเชิ้ตสีขาว
ใบหน้ามนอมยิ้มน้อยๆก่อนจะมองตัวเองในกระจก...ดูเหมือนเราจะใจตรงกันเพราะเขาเองก็แต่งตัวไม่ได้ต่างไปจากหัวหน้า
เพียงแต่สลับสีกัน...ใบหน้าหันกลับไปมองนอกหน้าต่างอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจหยิบผ้าคลุมไหล่ผืนใหญ่กรุยชายสีดำออกมา
ก่อนที่ผืนหนึ่งจะถูกวางไว้บนไหล่ของหัวหน้า ส่วนอีกผืนอยู่บนบ่าของเขา
“
ข้างนอกน่าจะหนาวน่ะครับ” มือขยับผ้าคลุมไหล่ให้คนที่ไม่เคยใช้...หัวหน้าในลุคแบบนี้ก็ดูเท่ห์ดีเหมือนกันนะ
“
โฮ่ยเอเลน...”
เสียงนิ่งเอ่ยเรียกให้เขาเงยหน้าขึ้นมา
ก่อนที่ฝ่ามืออุ่นๆจะแนบมาที่หน้าผาก
“
ครับ?”
นอกจากรู้สึกเพลียนิดหน่อยแล้ว เขาว่าเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรนะ?
“
เปล่า...แค่รู้สึกว่าหน้านายมันซีดๆ”
มือแข็งแรงถูกชักกลับไปก่อนที่ใบหน้านิ่งจะทำไม่รู้ไม่ชี้
“
ก็เพราะใครกันเล่า....” เขาได้แต่บ่นงึมงำในขณะที่เดินตามแผ่นหลังที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรออกไปจากห้อง
เบนซ์สปอร์ตสีขาวขับออกจากเมืองมุ่งหน้าไปยังเมืองข้างๆ
ทั้งๆที่ปกติจะขับรถแข่งกับเครื่องบิน
แต่วันนี้หัวหน้ากลับขับช้ากว่าปกติ
นัยน์ตาสีมรกตแลมองเสี้ยวหน้าที่ยังคงนิ่งสนิทก่อนจะยิ้มออกมา...เพราะเขารู้สึกว่าหัวหน้าอยากจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานๆ...ต่อให้มันจะเป็นแค่การขับรถฝ่าสายฝนพรำๆ
แต่มันก็ยังทำให้เป็นเรื่องโรแมนติกได้...หากเรายังคงมีชีวิตอยู่คู่กัน
ใบหน้ามนเอนซบไปที่ไหล่แข็งแกร่งอย่างไม่มีเหตุผล...รู้แค่ว่าอยากจะทำแบบนี้กับอีกฝ่ายก็เท่านั้น...เหมือนกับที่เขาอยากจะเรียก
“หัวหน้าๆๆๆ” ซ้ำไปซ้ำมา
ใบหน้าจึงเผลอซุกลงไปที่ไหล่แข็งแรงก่อนจะสะบัดถูไถไปมาโดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า
คนที่กุมพวงมาลัยอยู่ต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหนที่จะไม่หักพวงมาลัยเข้าข้างทาง
Site ที่จะใช้ทำโปรเจคในครั้งนี้เป็นปราสาทเก่าที่จะเอามาปรับปรุงให้เป็นห้องสมุดสมัยใหม่
ซึ่งพวกเขาต้องดีไซน์ยังไงก็ได้ให้กลิ่นไอของปราสาทโบราณนั้นยังคงอยู่...ทั้งๆที่ดูเหมือนไม่น่าจะยากสำหรับเขาที่คุ้นเคยกับภาพในอดีตที่ถูกขังอยู่ในปราสาทโบราณแบบนี้มาหลายปี...ทว่า...ภาพที่นึกออกดันเป็นภาพที่มีแต่หัวหน้ารีไวเสียนี่...
บนเครื่องบินกระดาษพวกนั้นมันถึงได้มีแต่เส้นที่ยุ่งเหยิงอย่างที่เห็น
เบนซ์สปอร์ตสีขาวขับผ่านย่านเมืองเก่าที่รายล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบเรเนซองส์...ถึงจะเป็นปราสาทเหมือนกันแต่รูปแบบทางสถาปัตยกรรมก็ต่างกันอยู่นิดหน่อย
และด้วยทางเข้าที่ยังคงเก่าแก่ ทำให้ไม่สามารถจะขับรถไปถึงที่หน้าปราสาทได้
เบนซ์สปอร์ตจึงจำต้องจอดอยู่ที่ปลายถนนด้านหนึ่ง
ร่างโปร่งบางลงมาเดินเคียงข้างกับร่างแข็งแกร่ง
ขาทั้งสองคู่ก้าวไปตามทางเดินปูหินซึ่งถูกย้อมจนเป็นสีดำในวันที่ฝนพรำแบบนี้
บรรยากาศที่มืดครึ้มยิ่งส่งให้ย่านเมืองเก่าแห่งนี้ดูมีมนต์ขลัง
สองข้างทางต่างรายล้อมไปด้วยตึกแถวแบบโบราณ
เพราะเป็นแค่ย่านพักอาศัยจึงไม่ได้รับการดูแลมากนัก
อาคารบางหลังทั้งๆที่มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมแต่กลับถูกปล่อยปละละเลยจนเก่าโทรม
นัยน์ตารีขวางเหลือบมองใบหน้ามนของคนที่เดินอยู่ข้างๆ
ผิวที่ซีดขาวราวกับกระดาษทำให้พอจะรู้ได้ว่าเจ้าเด็กนี่อาการยังไม่ค่อยดีนัก
นัยน์ตาสีขี้เถ้าจึงหันกลับมามองสองข้างทางตรงหน้าที่แทบจะไม่มีคนเดินสวนมาเพราะว่ามันเป็นวันที่ฝนตก
ไอของอะไรบางอย่างลอยกรุ่นออกมาจากร้านค้าเพียงไม่กี่ร้านที่เปิดอยู่ทำให้ใบหน้านิ่งหันไปดู
ก่อนที่จะเอื้อมมือไปดึงรั้งฝ่ามือบางให้หยุดอยู่กับที่
“
เอเลน...ยืนรออยู่ตรงนี้ก่อน”
และเมื่อเอ่ยจบ เรียวขาในบูทสูงถึงเข่าก็ก้าวเข้าไปในร้าน
นมอุ่นๆที่ควันลอยกรุ่นอยู่เหนือหม้อถูกสั่งเพื่อคนที่ยืนรออยู่ข้างหลัง
นัยน์ตาสีมรกตมองตามแผ่นหลังของคนที่เคยถูกเรียกว่าความหวังของมวลมนุษยชาติ...ใบหน้านิ่งที่เหลือบมองหม้อต้มนมสดที่คงจะไปสั่งมาเพื่อเขาทำเอารอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าอย่างห้ามไม่อยู่
นึกถึงภาพในอดีตแล้วก็ไม่คิดจริงๆว่าพวกเราจะได้มีวันที่ได้อยู่ด้วยกันโดยไร้ความกดดันแบบนี้....ตัวเขาในอดีตคงจะคิดไม่ถึงเลยสินะว่าผู้ชายที่โหดร้ายคนนั้นจะมาทำอะไรหวานๆให้กันได้แบบนี้
ใบหน้ามนพยายามเก็บอาการดีใจเอาไว้
ก่อนจะเงยหน้ารับหยดน้ำที่หล่นลงมาจากฟ้า...อาการเพลียยังคงหลงเหลืออยู่...ทำให้ยามเมื่อก้มหน้าลงมาอีกครั้งก็รู้สึกหน้ามืดจนต้องยกมือขึ้นไปยันผนังเอาไว้
ร่างกายซวนเซจนชนเข้ากับคนที่เดินสวนมา
ตุ้บ....
รู้ตัวอีกที
อีกฝ่ายก็หงายหลังลงไปแล้ว
"
อ่ะ...ขอโทษครับ"
นัยน์ตาที่มืดไปชั่วขณะกลับมาเป็นปกติ
จึงได้เห็นว่าคนที่เขาชนล้มคือผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ท่าทางไม่น่าไว้ใจคนหนึ่ง
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเคราสบถเสียงดังก่อนจะลุกขึ้นมาเตรียมหาเรื่อง
"
เดินให้มันดีๆหน่อยสิ!..ไอ้....หื๋ม..." ถ้อยคำกระโชกโฮกฮากขาดหายไปเมื่ออีกฝ่ายมองหน้าเขาชัดๆ
ปลายเสียงที่ลากยาวอย่างมีเลศนัยทำให้เขาเบี่ยงตัวตั้งท่าจะเดินหนี
“
นี่...ชนล้มแล้วไม่คิดจะรับผิดชอบเลยหรือไง...แค่ไปเดินเล่นด้วยกันก็พอน่า...โอเคไหม?” โอเคบ้าอะไรล่ะ!
หน้าตาท่าทางอย่างกับโจร ไปด้วยแล้วจะโดนทำอะไร เด็กอนุบาลมันยังรู้เลย! ถึงเขาจะอยู่กับคนที่ทำหน้าโหดตลอดเวลา ซาดิส
วันๆก็คิดแต่เรื่องบนเตียง แต่ว่าเลเวลความภูมิฐานมันต่างกันเฟ้ย
“
ปล่อย!” ท่อนแขนพยายามสะบัดมือหยาบกระด้างที่จับลงมา
ริมฝีปากเตรียมจะด่าออกไปถ้าอีกฝ่ายยังเซ้าซี้
“
อย่าดื้อน่า...มาเดินคนเดียวในที่เปลี่ยวๆแบบนี้ก็คงตั้งใจมาหาคนเดินด้วยอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ?” ห๋า?!! ไอ้หมอนี่มันบ้าหรือมันเมากันแน่เนี่ย?!..เขาพยายามแข็งขืนไม่ให้ถูกลากไปได้
แต่ก่อนที่จะได้โวยวาย
ร่างกายก็รู้สึกเซน้อยๆเมื่อคนที่จับแขนเขาอยู่ถูกฝ่าเท้าของใครบางคนยันไปจนติดกำแพง
โครม!!!
ความรุนแรงมันทำเอากันสาดเก่าๆร่วงลงมาทับชายร่างใหญ่ที่ได้แต่ทำหน้างง
“
........”
แก้วนมอุ่นๆถูกยัดใส่ลงไปในมือบาง ก่อนที่ใบหน้านิ่งจะปลายตามามองเป็นทำนองว่า...ปล่อยให้อยู่คนเดียวไม่ได้เลยนะไอ้เด็กเหลือขอนี่
“
หนอย...แก! มายุ่งอะไรด้วยวะ!!”
ร่างที่ลงไปกองเป็นรอบที่สองลุกขึ้นมาพร้อมกับเสียงคำราม
กำปั้นใหญ่ๆนั่นตั้งใจจะอัดเข้าใส่คนที่ดูขนาดตัวไม่ได้น่ากลัว...ทว่า
โครม!!
ฝ่าเท้าของหัวหน้าทหารรีไวก็ยังคงแข็งแกร่งและไวยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก
ร่างยักษ์ลอยตามแรงถีบก่อนจะล้มลงไปบนซากกันสาดอีกที
“
ชั้นก็แค่เป็นสามีของเด็กนี่...มีปัญหาอะไรไหม?” เสียงเย็นๆเอ่ยออกมาจากใบหน้าที่ดูจะแสยะยิ้มเล็กน้อย
แล้วท่อนขาก็หวดลงไปที่ลำตัวของคนที่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปาก
จากที่เคยเป็นฝ่ายขู่กรรโชก
ตอนนี้เลยได้แต่ร้องโหยหวน เมื่อท่อนขามันยังคงตามไปกระทืบซ้ำจนทั้งร่างกายทั้งใบหน้าของอีกฝ่ายแตกยับ
ดูเหมือนคนหาเรื่องจะไม่มีโอกาสได้โต้กลับเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ร่างโปร่งบางที่ยืนดูอยู่ข้างหลังได้แต่สงสารชายผู้โชคร้ายคนนั้น
เพราะหัวหน้ารีไวไม่เคยปล่อยใครก็ตามที่กล้าเข้ามายุ่งกับเขา...ตั้งแต่ในอดีตมาแล้ว...หากเป็นคนที่ไม่รู้จักอย่างหมอนี่ก็จะโดนซ้อมทันทีแบบนี้แหละ...แต่ถ้าเป็นคนรู้จักก็จะกลายเป็นเขาเองที่จะโดนกดจนลุกไม่ขึ้น
แล้วห้ามไปก็ไม่เคยฟังซะด้วยนะ...
ใบหน้ามนได้แต่ยิ้มแห้ง
แผ่นหลังแข็งแกร่งที่กำลังอัดคนที่ตัวใหญ่กว่าหลายเท่าทำเอารู้สึกว่านี่แหละ...หัวหน้าทหารรีไวตัวจริง...
ใบหน้านิ่งก้มมองคนที่กองอยู่ที่พื้นด้วยสายตาเหยียดๆ
ฝ่าเท้าเสยปลายคางให้ใบหน้าที่บวมปูดเงยขึ้นมา ทั้งรอยช้ำรอยแตกที่มีทั่วทั้งตัวคงจะทำให้ขยับไม่ได้ไปอีกสักพัก
สภาพปางตายคงจะทำให้อีกฝ่ายจำไปชั่วชีวิตว่าอย่าได้คิดจะลวนลามใครโดยไม่ดูตาม้าตาเรือแบบนี้อีก
มือแข็งแรงดึงเส้นผมให้ใบหน้าโชกเลือดเงยขึ้นมา
ก่อนจะพูดออกไปด้วยเสียงเย็นๆว่า
“
โฮ่ย...รู้จักโรงพยาบาลเยเกอร์ไหม?....ถ้าไปที่นั่น ชั้นจะรักษาให้ฟรี ไสหัวไปซะ” แล้วมือแข็งแรงก็สะบัดปล่อยหัวของผู้ชายคนนั้นก่อนมืออีกข้างจะหันมาลากร่างโปร่งบางให้เดินออกไปจากตรงนั้น
เดี๋ยวครับหัวหน้า!
ตกลงว่าที่รับดูแลโรงพยาบาลแทนเขานี่จะเอาไว้ทำเรื่องแบบนี้เองเร๊อะ?!
นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองใบหน้านิ่งที่ยังคงไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการไปอัดคนมาหมาดๆ
ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ยืนเช็ดมือด้วยผ้าเช็ดหน้าอยู่ข้างๆ
ถึงจะโหดไปบ้างแต่เมื่อรู้สึกถึงความอบอุ่นจากแก้วนมที่อยู่ในฝ่ามือ
รอยยิ้มก็ระบายออกมาน้อยๆบนใบหน้าของเขา
ร่างโปร่งบางนั่งอยู่บนขอบกระถางต้นไม้
ด้านหลังคือปราสาทเก่าที่ตอนนี้ปิดไม่ให้ใครเข้า
แก้วนมอุ่นๆถูกยกขึ้นมาจรดที่ริมฝีปาก พอได้นั่งพัก
อาการหน้ามืดตาลายเพราะความเพลียก็ดูเหมือนจะค่อยๆหายไป
และไม่นานใบหน้าที่เคยซีดเซียวก็ดูเหมือนจะค่อยๆซับสีเลือด
ร่างโปร่งบางลุกขึ้นมาเดินถ่ายรูปบริเวณรอบๆได้เป็นปกติ
โดยมีอีกคนคอยเดินตามอยู่ห่างๆ
ถึงจะไม่มีคนใช้มานานแล้ว
แต่บริเวณรอบๆปราสาทก็ไม่ได้รกร้าง
มีเพียงหญ้าขึ้นบ้างเป็นบางจุด...คงจะมีเจ้าหน้าที่คอยมาดูแลเป็นบางครั้งคราวละมั้ง
กล้องถ่ายรูปถูกยกขึ้นมาเก็บภาพของปราสาทเก่าตรงหน้า
ภาพที่ผ่านเลนส์ของกล้องเข้าสู่สายตาทำให้คิดถึงสถานที่ที่เคยอยู่ด้วยกันเมื่อพันปีก่อน...หัวหน้าเองก็คงจะเป็นเหมือนกัน
เพราะเมื่อเขาหันไปมอง
ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่นั่นก็กำลังยืนจ้องปราสาทเก่าเหมือนกำลังคิดถึงเรื่องราวในอดีตอยู่
สองขาเดินเข้าไปหาก่อนจะเอ่ยปากเรียกอีกฝ่ายเบาๆ
"
หัวหน้าครับ"
และเมื่อใบหน้านิ่งหันมา
แขนบางข้างหนึ่งก็สอดเข้าไปในวงแขนที่ล้วงกระเป๋าอยู่
ใบหน้ามนขยับไปใกล้ใบหน้านิ่งก่อนจะยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดถ่ายรูป...โดยมีปราสาทเก่าเป็นฉากหลัง
และนี่ก็คงจะเป็นรูปแรกเลยมั้ง...ที่พวกเขาถ่ายด้วยกัน...
รอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้ามน
ก่อนที่ร่างโปร่งบางจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก้มหน้าลงไปเซฟรูปเอาไว้ในมือถือ...โดยที่ไม่ทันได้เห็นว่าที่ใบหน้านิ่งเองก็เต็มไปด้วยรอยแดงระเรื่ออยู่เช่นกัน
ขาทั้งสองคู่ก้าวเดินกลับไปตามทางเดิมเมื่อร่างโปร่งบางถ่ายรูปจนพอใจแล้ว
ประกายแสงเริ่มจะหายไปจากฟากฟ้า
สายฝนที่เริ่มตกลงมาอีกครั้งทำให้ความหนาวเหน็บหวนคืน
ถนนที่มีหมอกและไอเย็นลอยอยู่ดูมืดมัว
มือบางทั้งสองข้างยกขึ้นมาถูกันก่อนจะเป่าลมร้อนๆจากในร่างกายออกไปให้มันอุ่นขึ้น
และการกระทำของเขาก็อยู่ในสายตาของคนที่เดินอยู่ข้างๆตลอด
มือแข็งแรงล้วงเข้าไปในกระเป๋าหลังของกางเกงก่อนจะดึงถุงมือคู่หนึ่งออกมา....แล้วยื่นมาตรงหน้าเขา...นัยน์ตาสีมรกตได้แต่เบิกกว้างแล้วหันไปมองใบหน้าที่ยังคงนิ่งเฉย...ในใจมันอุ่นวาบจนร้อนไปถึงใบหน้า
"
ซื้อมาจากร้านขายนมน่ะ แต่ว่ามันเหลืออยู่คู่เดียว" เขาไม่ได้สงสัยหรอกว่าไปเอามันมาจากไหน...แต่เขาดีใจต่างหากที่คนตรงหน้าทำเพื่อเขา...ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆแค่ไหนก็ตาม
ใบหน้ามนอมยิ้มก่อนจะหยิบถุงมือมา
ก่อนจะแยกมันออกจากกัน ยื่นข้างซ้ายให้หัวหน้า ส่วนข้างขวาเขาเก็บเอาไว้เอง
"
หัวหน้าใส่ข้างซ้ายเอาไว้นะ...ส่วนผมจะใส่ข้างขวา"
ใบหน้านิ่งรับถุงมือกลับคืนไปด้วยแววตาสงสัย
และไม่ยอมใส่จนเขาต้องจับมือข้างซ้ายนั้นมาใส่ให้เอง
และเมื่อถุงมือต่างสวมอยู่บนมือของเราทั้งคู่แล้ว
เขาก็ยื่นมือซ้ายของตัวเองออกไปจับมือขวาของหัวหน้าเอาไว้
ใบหน้านิ่งหันมามองเขาด้วยนัยน์ตาเบิกขึ้นน้อยๆ
แก้มของหัวหน้าแดงขึ้นมาก่อนจะสะบัดหน้าไปอีกฝั่งอย่างพยายามซ่อนรอยแดงนั้นเอาไว้
แล้วขาทั้งสองคู่ก็ก้าวต่อไปในถนนที่เงียบสงบ...
หากเรายังเดินไปด้วยกันแบบนี้....มือทั้งสี่ข้างก็จะอุ่นด้วยกันทั้งหมด....จริงไหมครับ...หัวหน้า
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To
be Con.
นอกจากตัวละครปริศนาทั้งหลายจะยังไม่มีชื่อ
แม้แต่สถานที่ที่ใช้เป็นฉากในเรื่องยังไม่รู้เลยค่ะว่าตกลงมันอยู่ที่ไหนกันแน่ =[ ]=!!! ตกลงบ้านเอเลนนี่มันอยู่ที่ไหนในโลกกันแน่ฟ๊ะ?!!
คือตัดสินใจไม่ได้เลยปล่อยมันไว้งั้นแหละ555(โดนโบก)
คือธรรมเนียมปฏิบัติมันคล้ายจะไปทางญี่ปุ่น
แต่เรื่องรับน้องและในรั้วมหาวิทยาลัยนี่ก็ไทยแน่นอน
แต่ฉากดันอยากให้ออกไปทางยุโรปแถวๆเยอรมัน *สลบ*
สรุปตรูไม่รู้ค่ะว่าตกลงมันอยู่ที่ไหนและจะเอาไงดี555
เป็นฟิคเรื่องแรกที่ฉากไม่ชัดเจนขนาดนี้ โปรดอภัยให้หนูด้วย T^T
555
มีคนเม้นต์เตือนเอเลนจากรูปที่ คุณ DarkSwon วาดเอาไว้
ที่แปะอยู่ท้ายตอนที่ 13 ว่าถ้ารักตัวกลัวลุกไม่ขึ้นละก็
อย่าปาเครื่องบินกระดาษในมือออกไปจะดีกว่า...คือว่าไม่ทันแล้วค่ะ...เพราะในขณะที่อ่านเม้นต์ก็ถึงกับตบเข่าฉาด
ทำไมคิดเหมือนตรูเลยเนี่ย กร๊ากกกก ก็เลย...จัดซะ...*w*...แต่ฮามากกับคำนิยามของฟิคเรื่องนี้
ฮ่าๆๆๆ มีคนบอกเอาไว้ว่ามันคือ "ฟิคโชกเลือด(กำเดา)"
....อะร๊ายยย เค้าออกจะตั้งใจแต่งให้มันเป็นฟิครักหวานซึ้งนะ กร๊ากกกก
ก่อนจะเวิ่นอะไรขอแฮปย้อนหลังให้น้องชายของเก๊าก่อนนะ
สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะค้า
รีเซ็ทคุง >3<
มีความสุขมากๆนะคะ
ขอให้ทำสงคราม(?)ที่ไหนก็เป็นฝ่ายชนะ เอาลูกสาวมาครอบครองได้ดังหวังนะคะ กร๊ากกกก ขอให้พี่สาวทั้งหลายเอ็นดู(หรือกลั่นแกล้ง?)แบบนี้ตลอดไปเบยนะคะ
สุขภาพแข็งแรงเลือดลมสูบฉีดดี(?)จะได้มีแรงรับลูกสาวคนที่สี่เข้าบ้านนะคะ ฮ่าๆๆ
พอดีกว่า ยิ่งอวยพรยิ่งเหมือนจะหาเรื่องโดนตื้บ ^ ^”” ไงก็แฮปปี้ๆน้า
ว่าแต่ของขวัญแบบเป็นชิ้นเป็นอันนั่นมันส่งถึงบ้านยังหว่า?
แล้วก็สำหรับตอนที่
14 นี้ก็ขออภัยในความล่าช้าจริงๆค่ะ ตอนนี้พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเพราะติด Project Juunana
Sai
อยู่ค่ะ โฮวววว ทุกอย่างถูกหยุดไปเพราะยัยมี๊ปั่นมันไม่ทันนี่แหละ
กระซิก มันยังคงมีความสำคัญต่อคุณกวางเสมอค่ะสำหรับฟิควันที่
9 เดือน 9 อ้าาาา ปีนี้ก็จะเป็นปีที่ห้าแล้วจินะ ที่ได้ทำแบบนี้ ก็นะ
ปีนึงจะมีสองวันที่ยัยมี๊ปั่นฟิคเป็นบ้าเป็นหลังให้ >////< จะมีคนจำได้ไหมนะว่าฟิคพวกนี้เกิดขึ้นมาในสองวันนี้นี่แหละ
09-09-09 วิชาเนียน ร้อยเล่มเกวียน
09-09-09 Princess Diary
09-09-09 IF ; I LOVE [18]
09-09-10 พบ
09-09-11 Lipstick
09-09-12 Ryuusei
24-04-10 สิ่งที่เรียกว่าหัวใจ
24-04-10 PiERROT
24-04-10 บันทึกของพี่ชายคนเล็ก [02]
24-04-10 Alice
in Vongola world [02]
24-04-11
Heart of DEMON
24-04-11 บันทึกของพี่ชายคนเล็ก [04]
24-04-12 Bios
24-24-13 Ryuusei
ก่อนไปปั่นต่อ
ขอแอบแปะรูปหน่อย...มีคน (ชื่อChinji Yuกับ Nnso Arts) วาดรูปปลากรอบ “ในห้อง...ที่แสงส่องไม่ถึง” ให้ค่ะ
น้ำตาไหลพรากด้วยความดีใจ ขอบคุณมากๆๆๆๆนะค้า เห็นแล้วกำลังใจพุ่งปรี๊ดเลยอ่ะ
โฮวววว
Illus.
by Nnso Arts
Illus.
by Chinji Yu
Illus.
by Chinji Yu
แล้วเจอกันตอนหน้าค่า
>////< *นอนจมเลือดกำเดาตัวเอง*
ตอบลบคุณกวางค่ะ ทำไมตอนนี้มันหวานอย่างนี้เนี่ยยยย
เฮย์โจวเวอร์ชั่นนี้เค้าเริ่มอิจฉาเอเลนแล้วอ่าาาา เค้าก็อยากได้บ้างงง /// โดนโบก
อ่านไป นั่งเขินไป นั่งจิกหมอนไป จนคนข้างๆ เริ่มหาว่าบ้า ><
แบบอ่านแล้วมันรู้สึกได้เลยว่าเฮย์โจวดูอ่อนโยนกับเอเลนมากกกก เหมือนพยายามทนแทนเวลาเป็น 1000 ปีที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันไป
ว่าแต่เฮย์โจวค่ะ ประกาศอย่างเต็มตัวว่าเป็น สามีของเด็กเนี่ย ไปสู่ขอกับคุณแม่เค้ามาแล้วเหรอค่ะ อิอิ
โอยย ว่าแต่ฉากเรทนี่แบบว่า เขินอ่า อ่านแล้วสงสารเอเลนที่โดนลงโทษขนาดนั้น หรือไม่ควรสงสารดี เพราะว่าคงจงใจทำห้องรก เพราะรู้ว่าถ้าทำรกแล้วจะโดนลงโทษยังไง อาร์มินสินะที่น่าสงสาร ใสซื่อไม่รู้เรื่องอะไรเลย แอบเชียร์ให้หน้าประตูเป็นมิคาสะแทน คงได้ฉะกับหัวหน้ามันเลยย
ขอตัวไปเติมเลือดก่อนนะค่ะ รออ่านตอนหน้าค่าาา
อรั้ย ทั่นหัวหน้า ไอ้การลงโทษชวนสยิวนั่นมันอะไรกันคะ / กำเดาแทบพุ่ง
ตอบลบว่าแต่เอเลนนี่ล่ะก็น้า ต่อจากนี้ไปต้องจำให้ขึ้นใจนะว่าถ้าคิดอะไรไม่ออกให้ทำห้องเลอะเข้าไว้ หุหุ...
แอบสะใจฉากผู้บริหารโรงพยาบาลซ้อมโจรที่จะมาขโมยศรีภรรยาตัวเอง ...มันต้องอย่างนี่ซี่!!!
สู้ ๆ เด้อค่าพี่กวาง (((>_<)))
เกือบน๊อคคาคอมเพราะเสียเลือดมากเกินไป
ตอบลบเฮย์โจวลงโทษได้ถูกใจมากค่ะ//ปาดเลือดกำเดา
อยากเป็นอาร์มินขึ้นมาทันที เผื่อจะได้เห็นอะไรดีๆ
เฮย์โจวน่ารักมว๊ากกกก
ทั้งนมทั้งถุงมือ เป็นห่วงสุดที่รักสินะ
แต่แอบฮาตรงที่บอกให้ไปโรงพยาบาลนี่แหละ
คิดได้ไง
ใช้อำนาจที่มีอย่างคุ้มค่าจริงๆ
เพิ่งเจอและไล่อ่านมาตั้งแต่แรก ขอบอกว่าพาร์ทแรกสนุกมากกก
ตอบลบน้ำตาจิไหลอยู่หลายรอบ ครบรสเลย อ่านไปฟินไป ไม่อยากจะละสายตาออกจากฟิคเลยค่ะ
พาร์ทสองก็สนุกไม่แพ้กันแต่บรรยากาศของฟิคจะเบาๆ กุ๊กกิ๊กน่ารัก อ่านแล้วสบายใจกิ๊บกิ๊วมากค่ะ ^^
และพออ่านมาถึงตอนนี้ รู้สึกบุคคลผู้เป็นความหวังของมวลมนุษยชาตินี่มีหัวทางด้านครีเอทอยู่เหมือนกันนะคะ
สรรหาวิธีมาลงโทษเอเลนมากมายหลากหลายมาก 555 แต่ที่ประทับสุดๆก็วิธีนี้แหละค่ะ
คิดได้ไง ใจนึงก็สงสารเอเลนนะ แต่อีกใจนึงเข้าข้างหัวหน้ารีไว
แต่คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่แบบน้องอามินที่รักของเราเนี่ยแบบ น้องจะเป็นห่วงเพื่อนไปไหนคะ 5555
เอเลนบอกโอเคก็ปล่อยๆผ่านไปเถอะลูก เชื่อเอเลนเค้าหน่อย ถือว่าช่วยๆเพื่อน >///< (อ่านไปกำเดาจะพุ่ง ลุ้นว่าน้องอามินจะได้เห็นของดีมั้ย 55)
และอีกตอนแอบสะใจและกระทืบไลค์ รีทวิตอะไรก็ได้ให้โลกรู้ 5555 กับประโยคที่ว่า “ ชั้นก็แค่เป็นสามีของเด็กนี่...มีปัญหาอะไรไหม?”
หัวหน้าค๊าาาาาา!!!!!! เป็นแค่สามีนี่คืออะไรค๊าาาาา !!!!! >>>> ฟินสุดค่าาาาาาาาาา <3
สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้คุณกวางนะคะ มีผลงานดีๆแบบนี้ออกมาเรื่อยๆ ส่วนเราก็Bookmark Blog ของคุณกวางไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ ^^
แล้วจะติดตามผลงานอีกเรื่อยๆนะคะ
มาอัพแว้ววววว ..ยะฮู้~~~~~~~
ตอบลบบทลงโทษของหัวหน้านี่มันช่าง "โช๊ะๆ" มากเลย55555
เล่นซะ...อย่างกะต้องการแสดงหนังสดให้คุณเพื่อนดูเล่นๆเป็นขวัญตาประมาณว่า
"นี่ภรรยาฉัน ...อย่ามายุ่ง!!"
(มีความรุ้สึกว่าพี่แกพร้อมจะทำจริงๆถ้ามีคนมายุ่งมากไปไงไม่รู้)
อารมณ์พาสสองนี่มันเป็นแบบนี้จริงๆ(แหง ล่ะมีคนจ้องตีท้ายครัวเพียบเลยนี่)
กระทืบคนซะเละแล้วบอกให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลตัวเองนี่มัน...... นี่มันเป็นการโฆษณาแบบใหม่ของโรงพยาบาลรึ?
ไอหมอนั่นมันจะมีบุญลากสังขารไปถึงโรงบาลรึเปล่าเหอะ = =;
ประกาศความเป็นสามีเต็มขั้น ..และข้ามขั้น ...ไปสู่ขอก่อนดีไหมครับเฮียรีไว= =;
ฮุๆๆๆ จะนั่งยุพี่ให้มีภาคสองซะดีไหมนะ55555
รอต่อนต่อไปอยุ่นะเด้ออออออ
อยากเข้าไปสิงอาร์มินตอนอยู่หน้าประตูจังเลยค่ะ อยากได้ยินเสียงครางเคะๆของเอเลน อร้ายยยย *q* ฉากเรทตอนนี้ประทับใจที่สุดแล้วค่ะ อ่านวนตั้งสองสามรอบ555 เฮย์โจวลงโทษศรีภรรยาได้แบบว่า*ฟืดฟาด* สุดๆเลยค่ะ เอเลนจ๋าหนูต้องคิดใหม่แล้วนะ เฮย์โจวไม่ได้เป็นผู้ชายที่คิดแต่เรื่องบนเตียงแต่คิดจะ'ทำ'กับหนูทุกที่นะ กร้ากกก สถานที่นี่ไม่เป็นไรค่ะยิ่งหลากหลายสถานที่ยิ่งไปเดท(?)ได้หลากหลายบรรยากาศ ส่วนตัวชอบฉากฮจ.ให้ถุงมือมากๆมีแอบซึนใส่เอเลนแถมหน้าแดงด้วยยย แหนะๆ #น่าร้ากกกก
ตอบลบรอตอนต่อไปนะคะคุณกวางไฟท์โตะ!!
ตอนใหม่มาแล้ว เย้ๆ (ทำไมเราต้องมาเจอตอนคืนวันอาทิตย์ที่ต้องปั่นงานส่งวันจันทร์ด้วยน้า T^T)
ตอบลบสำหรับตอนนี้โฮก อีกแล้ว มันไม่รู้จะหาคำไหนมานิยามอีกแล้ว ว่าแต่เฮย์โจวฮะ?...ช่างเป็นการลงโทษเรื่องความสะอาดที่ได้ผลประโยชน์เข้าตัวเต็มๆเลยนะฮะ
เฮียนี่มันSสุดใจขาดดิ้นจริงๆ เห็นหน้าเอเลนตอนน้ำตาปริ่ม หรือหน้าทรมานนี่ได้เรื่องตลอด แล้วการลงโทษอันแสนยาวนานก็เริ่มขึ้น จนคนอ่านนอนจมกองเลือดกันเป็นแถบ ไม่ไหวนะเนี่ย เข้ามาอ่านทีไรโลหิตจางตลอดเลยพี่น้อง ช่างโชกเลือดจริงๆ
ว่าแต่เอเลนนี่ก็ไม่เคยเข็ดเลยเนอะ ว่าทำไรไปแล้วจะโดนอะไรก็รู้อยู่ตลอด แต่นายก็ยังทำมันซ้ำๆอยู่อย่างนั้นจนเราก็รู้สึกเห็นด้วยแล้วล่ะว่านายคงจะMอย่างที่เฮย์โจวบอกจริงๆอ่ะแหละ ๕๕ ว่าแต่ไอ้ไปหน้าประตูนั่นมันอะร้ายยยยยยยย สงสารเอเลนบ้าง อะไรบ้าง แกล้งกันซะขนาดนั้น ฉีดยาฆ่าแมลงอยู่คิดได้นะเอเลน ๕๕ อาร์มินคงช็อคอ่ะถ้ารู้
พอมีตอนที่ไปปราสาทอีก สองคนนี้ก็คิดถึงเรื่องเก่าๆ เราเองอ่านไปก็คิดถึงตอนที่อ่านฟิคเรื่องนี้ตอนแรกๆเหมือนกัน เหมือนนานเนอะแต่ความจริงมันแค่แป๊บเดียว(แต่งเร็วมาก ซูฮกเลย สนุกด้วย^^b ไม่ต้องลอยนะขอรับอันนี้พูดจริง)
ชอบความใส่ใจของเฮย์โจวมากคือแบบว่าพอเห็นผู้ชายเตี้ย เย็นชา โหดร้าย ป่าเถื่อน ซาดิส์ หื่น เอิ่มม เยอะล่ะๆ(ยังไงเขาก็ชาบูเฮียนะ เฮย์โจวFC เฮ้!!) มาทำอะไรแบบนี้ ตั้งแต่นม ขนมตุ๊บตั๊บแจกชาวบ้านเพื่อช่วยเอเลน(คงมาจากความหวงซะส่วนใหญ่ หรือเฮียแกอาจคันไม่คันมือเพราะปกติตกลงไม้ลงมือกับเอเลนสมัยก่อน ๕๕) แหมออกตัวแรงเลยนะเฮียสามีเต็มปากเต็มคำเลย แล้วก็ถุงมือนั่นน่ะ มันแทนแล้วมันก็สื่ออะไรหลายๆอย่าง แล้วก็ฟินสุดๆตรงที่บอกว่า "หากเรายังเดินไปด้วยกันแบบนี้....มือทั้งสี่ข้างก็จะอุ่นด้วยกันทั้งหมด" อุ่นวาบมาถึงคนอ่านเลย ขอแบบนี้สักคนบ้างสิ ๕๕
สำหรับฉากในเรื่อง ไม่แน่นอนก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ขอรับ เราอ่านไปก็เพลินของเราไป (คนอื่นก็ไม่รู้กับเขาหรอกนะ เหอๆ) เป็นความหลากหลายที่ลงตัวดีออกขอรับ อารมณ์มหาลัยไทยที่อยู่เมืองนอก กลับบ้านมาก็เจอบรรยากาศแบบญี่ปุ่น ๕๕
ขอบคุณสำหรับฟิคสนุกๆเรียกเลือดนะขอรับ ติดตามผลงานต่อไปน่อ
ตอบลบโฮกกกกกกกกกกกกก กวางซาม๊าาาา > _ <
ถ้าฉากทำโทษมันจะทำให้คนอ่านเลื่อนเม้าส์ขึ้นลงจนจะพัง(?)แบบนี้~~~~
เลือดนี่เจิ่งนอง(?)เป็นคลองริมตลิ่ง ลอยกระทง(?)ได้สบาย
บอกตรงๆว่าอ่านจบแล้วต้องขอไปม้วนหน้า(?)
ตีลังกาให้สมองมันกลับมามีสติ 55555
เพราะนึกคำพูดที่เป็นภาษาคนมาอธิบายความฟินไม่ออก
ณ จุดนี้ขอสิงประตู(?)เถิดดดดดแม่เจ้าาา แฮ่ก แฮ่ก(?)
เพราะมันไม่ไหวแล้ว~~~ (ไม่ไหวอะไรของเอ็งคะ)
555555 นี่ขนาดมันพยายามมีสติแล้วมันยังเม้นท์ไม่รู้เรื่อง
แต่ว่า เราชอบบบบ ไม่สิ เรารักกกกฟิคเรื่องนี้
ดีใจที่ได้อ่านมากๆทุกครั้ง และเราก็อยากให้มันเป็นเล่ม(?)ด้วย
มันกระชุ่มกระชวย(?)ทุกครั้งที่ได้อ่าน จริงๆนะคะกวางซามะ
จากที่เหนื่อยๆ เครียดๆ หรือว่ากำลังงอแง(?)อยู่ในอารมณ์ที่เกลียดวันจันทร์(?)
แค่ได้มาอ่านฟิคของกวางซามะ
มาอ่านถึงการแสดงออกอย่างหอมหวาน(?)
ของผู้ชายที่แข็งแกร่งที่สุดของมวลมนุษย์ชาติซึ่งเป็นสามีของบุตรเยเกอร์(?)
(ถ้าสรรพนามมันจะยาวขนาดนี้ 5555555)
ก็รู้สึกอารมณ์ดีสุดๆเลย > _ <
พร้อมนอนยิ้มหลับสบายฉายรีรันฉากโชกเลือดในฝันต่อแบบไม่สะดุด
จริงๆแล้วเฮย์โจวเข้าใจเลือกข้ออ้าง(?)ของการลงโทษให้ดูสมเหตุสมผล(?)มาก
ไอ้การที่จะทำโทษเอเลน ด้วยเรื่องที่เอเลนทำเป็นกิจวัตร(?)อย่างทำห้องรกเนี่ย
มันเป็นเรื่องที่คนอ่านรู้สึกเห็นดีเห็นงามจริงๆ(?)
รกทุกวัน(?)กดทุกวัน(?) แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก 55555555555
เหนือสิ่งอื่นใด!! ท่อนขา!!!! ช่วงล่าง!!! เอ่อ อันแรกก็พอเนาะ 5555
ท่อนขาที่แสนคิดถึง(?)คัมแบคแล้ว~~~~~ (จุดพลุ เซิ้งรอบกองไฟ)
ตอนอ่านถึงสาวน้อย(?)ที่ซึ่งมีสามี(?)เป็นถึงผู้ชายที่แข็งแกร่งที่สุดของมวลมนุษย์ชาติ
กำลังถูกลาก ในหัวนี่คือท่อนขาเฮย์โจว(?)มาแล้วนะคะ
และก็มาจริงๆค่ะ 555555 เราตบเข่าฉาด(?)แบบได้ใจสุดๆ
เหมือนจะเชียร์มวย(?) 555555 และไอ้ประโยคที่พ่อคุณแสดงว่าเป็นเจ้าของน่ะ
ประโยคนั้นน่ะ ประโยคนั่นน่ะ พูดบ่อยๆๆ(?)น้าาาาเฮย์โจว 55555
คนอ่านมันฟินาเล่ไปถึงดาวนาเม็ก(?)แล้ว
เรายังชอบการบรรยายบรรยากาศสถานที่ของกวางซามะเสมอนะคะ
ถึงจะระบุไม่ได้ว่าเป็นสถานที่ตำแหน่งไหนบนโลก(?)แต่ว่า
เราจินตการตามได้ไม่ยากเลยจริงๆ
ฉากควงแขนถ่ายรูปคู่มีแบคกราวน์เป็นปราสาทเก่า
อยากจิตะโกนกู่ก้อง(?)ให้มีคนวาดให้เสพ(?)
ณ จุดนี้เกลียดตัวเองที่เป็นแต่ไก่เขี่ยมากมาย T _ T
เพราะขนาดรูปวาดฉากผูกเนคไท
ตอนเห็นเรายังระบำฮาวาย(?)ด้วยความปลาบปลื้มแทนกวางซามะไปด้วยจริงจัง
เป็นกำลังใจให้กวางซามะอยู่ห่างๆเสมอนะคับ *^*
ท้อแท้(?)เมื่อไหร่ คิดซะว่ายังมีคนบ้า(?)คอยดันหลัง(?)อยู่เสมอน้า~~~
ตอนนี้กวางซามะก็กำลังปั่น 17ฝน แบบสุดหูรูดอยู่
ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ ~~~
ไม่ให้เข้ามาอ่านเพราะอายุไม่ถึง 18!!! ซุ่มทำบล็อคเลยไม่อยากล็อคเอาท์อากู๋ ต้องหาวิธีบัคเนียนๆมาอ่านแล้วเม้นด้วยความฟิน
ตอบลบจารย์พี่ทำนู๋ปลื้มค่ะ >_____< เอาแฟนอาร์ตมาเติมเต็มซะจนเลือดท่วมจอออออ ทำเอานั่งยิ้มไปมาจนแทบตกเก้าอี้ (ผู้ปกครองอยู่ข้างหลังทำเอาเสียวแวบๆ) อ่านแล้วก็ลืมๆนึกไป เออแฮะ...ฉากแปลกๆ แต่ก็พยายามไม่สนใจ ช่างมันๆ ชอบเฮย์โจวตรงที่ "ชั้นเป็นสามีของไอ้เด็กนี่" อ่านแล้วฟินสุดๆ = = ไม่มีอะไรไปนอกจากความหวานเบาๆ(แต่ฟินแรงๆ)บางทีเรื่องนี้ก็ดูเหมือนจะลืมๆไปว่าเดิมทีแล้วไททันมีอยู่จริง เพราะดันมีอนิเมในเรื่องซะด้วย(การ์ตูนประวัติศาสตร์??) ชอบธีมมหาลัยนะคะไม่รู้ว่าถ้าได้เข้า มศก. ตามที่ฝันไว้มันจะเป็นงี้รึเปล่า ตื่นเต้นนิดๆกับชีวิตมหาลัย เป็นกำลังใจให้ต่อไป สู้ๆนะ!ทาเคชิ!!
อ่านตอนนี้จบแล้วรู้สึกเหมือนโลหิตจะจาง น้ำตาลจะขึ้นเลยค่ะ มันช่างหวานได้เลือดพุ่งมากกกกกกกกกกกก
ตอบลบเฮย์โจวววววว ร้ายกาจยิ่งนัก >////< คิดอยู่ว่าถ้าคนที่มาเอาของตอนนั้นเป็นมิคาสะ คงจะฮาดีพิลึก ฮ่าๆๆๆๆ
ไม่มีคำบรรยายใดใดซักคำให้ลึกซึ้ง กับฟิคที่ต้องแลกด้วยเลือดฟิคนี้เลย ฮื่ม ฮืม
ตอบลบอ่านฟิคนี้แล้วเป็นอะไรที่ทรมานทรกรรมสังขารเรามากค่ะ >_<! อ่านครึ่งแรกจบต้องมานั่งเช็ดเลือด(กำเดา)ที่หน้าจอโน้ตบุ๊ค พอเช็ดเสร็จไม่ทันไรต้องนั่งเอาไบก้อนมาฉีดไล่มด! ความหวานกร๊าวใจด้านล่างนั่นมันอะร๊ายยยยย โอ๊ย หนูเอเลนเสน่ห์แรงเหลือหลาย รีไวคะ ทำรอยแค่ที่คอกับตามตัวมันคงไม่พอแล้วมั้งคะ สงสัยต้องทำที่แขนที่ขาและที่ใบหน้าอันแสนจะน่ารักน่าจับ ปอ ลออำ ไม้โท นั่นด้วยล่ะมั้งคะ (ถ้าทำจริงสภาพเอเลนจะเป็นไงเนี่ย=[]=;;; ฮ่าๆๆๆๆๆๆ)
สนุกมากเลยค่ะ ชอบเรื่องนี้เหมือนดิม ฮุฮิ
นึกภาพการ์ตูนเฮย์โจแล้วมันฮา ฮ่าๆๆๆๆ ขอโทษนะ แต่มันช่วยไม่ได้จริงๆ ดันนึกภาพเฮย์โจวอยู่ในชุดอุลตร้าแมนแล้วปล่อยแสงแบบนั้นซะแล้ว (ขออภัยในความเสื่อมนะฮะ ฮ่าๆๆๆ)
ตอบลบแล้วเหม่อขนาดไหนกันเนี่ยขนาดสามีตัวเองมาอยู่ตรงหน้าแล้วยังไม่รู้ตัว ฮ่าๆๆ
ทั้งเหม่อทั้งปาเครื่องบินนั่นใส่แบบนี้...ลงโทษไปเลยค่ะ! ฉันสนับสนุน!! (เกี่ยว?)
จะว่าไปแล้วคนที่อยู่กับเฮย์โจวได้ก็ต้องมาโซพอตัวล่ะนะ ไม่จะเอเลนหรือทีมรีไว แต่ว่าได้อยู่ข้างเฮย์โจวทั้งทีมันก็คุ้มล่ะน้า
ก็แค่ความเอสของเฮย์โจวมันจะทะลุปรอทเวลาอยู่กับเอเลนแค่นั้นเอง เนอะ ^^
เดี๋ยวนี้ไม่ห้ามนะเอเลน เพราะรู้สินะว่าห้ามไปก็ไร้ประโยชน์ ...จริงๆ นะ ไอ้ประโยคที่บอกว่าอย่ารุนแรงมากน่ะ มันเหมือนกับจะบอกให้เฮย์โจวจัดเต็มยังไงไม่รู้ อยากปล้ำเอเลนมากค่ะ ณ จุดนี้!!
ร่างกายที่ถอยหนีตามสัญชาติญาณกับเสียงครางที่ราวกับจะขาดใจมันทำให้เขามีความสุขอย่างบอกไม่ถูก >>> เอสมากค่ะเฮย์โจว...
...อ่านไปต้องนั่งเอามือปิดปากไว้...อยากจะสครีมให้ลั่นหอมาก เรทเร้าใจมากค่ะ สงสารเอเลนนิดนึงที่โดนลงโทษ...แต่เพื่อความฟินของแม่ยก ก็ยอมๆ โดนไปเถอะนะลูกนะ
ปลายนิ้วของเอเลนจิกลงมาที่ท่อนขาของเขาอย่างหมดความอดทน >>> ตรงนี้เรียกเลือดที่สุดค่ะ...จิ้นตามแล้วอยู่ไปอยู่ใต้เตียงสองคนนี้เป็นที่สุด แบบ..อร๊ายยยยยยยยยยย ไม่ไหวนะ มันร้อนแรงกันมากกกกก
แล้วไอ้คำแก้ตัวอย่างฉีดยาฆ่าแมลง....คิดว่าอาร์มินรู้แน่ค่ะ คือตอนแรกอาจจะไม่รู้ แต่ตอนหลังที่โดนไล่มากๆ นี่รู้ชัวร์ว่าเอเลนโดนทำอะไรอยู่
อันที่จริงน่าจะเป็นมิคาสะที่มาตอนนี้นะ นึกแล้วมันน่าจะสนุก ไม่จืดแหง คงจะมีแมทช์ สามีสุดหล่อ vs สาวน้อยซิกแพ็ค *กระโดดหลบหลังบังเกอร์*
เฮย์โจวลงโทษได้คุ้มมากค่ะ ถอนทั้งทุนแถมได้กำไรมหาศาลเลยทีเดียว อิจฉาค่ะ
ตอนเฮย์โจวโดนอ้อนบนรถนั่น...นับถือความอดทนมากค่ะ เจ้าตัวดีอ้อนขนาดนั้นมันก็น่าหักพวงมาลัยเข้าข้างทางจริงๆ นั่นล่ะ โอ้ย ยิ่งอ่านยิ่งอิจฉาแต่ก็ดีใจกับทั้งคู่นะ
ดีแล้วล่ะที่ได้มาเจอกันแบบนี้ ที่ได้อยู่ด้วยกันซะทีน่ะนะ
เอิ่ม...เอเลน ไอ้ตรง ถึงจะอยู่กับคนหน้าโหดตลอดเวลา ชาดิส วันๆ ก็คิดแต่เรื่องบนเตียง เนี่ย แน่ใจนะว่าชม ถ้าเฮย์โจวรู้นี่...ได้รางวัลอีกแหงเลยนะ
ไอ้บ้านั่นก็เล่นไม่ดูคน ไปเล่นเอาคนของเฮย์โจว โดนแค่นี้ก็ถือว่าปราณีมากแล้วนะ เฮย์โจวเท่มากค่ะ!!
แต่ว่า...อัดคนแล้วโปรโมทโรงพยาบาลตัวเองนี่มันก็ค่อนข้างจะ....นะ ละไว้ละกัน คนหล่อทำไรไม่ผิดค่ะ!!!
ตอนนี้นอกจากโมเม้นท์จิกขานั่น ก็ตอนจับมือนี่แหละที่ชวนกรี๊ดมาก ให้ตายสิ น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก
หลงรักคู่นี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ ><
พี่กวาง รวมเล่มเถอะนะ นะ นะ จะเก็บตังค์รอซื้อเลย จะได้ไว้บูชามากกกกกก ฮรืออ เค้ารักเรื่องนี้