Attack on Titan feat.KHR Au.Fic [Levi xEren , 8059] GLIDE : 02
: Attack on Titan feat KHR Fanfiction Au
: Levi x Eren , 8059
: Romantic Drama
: NC-17
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
ใจร้าย....
ผู้ชายคนนั้นเป็นคนที่ใจร้ายที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา!
ร่างโปร่งบางเดินไปหยุดอ้วกไปเนื่องจากยังไม่หายมึน ดูเหมือนความดันก็จะยังไม่ค่อยเข้าที่เขาถึงได้เดินเซไปเซมาแบบนี้ แต่ไอ้ที่จะให้ยืนร้องไห้รอใครมาช่วยน่ะ ฝันไปซะเถอะ! แล้วเขาก็ไม่ได้กลัวเลยสักนิดด้วย!!
นัยน์ตาสีมรกตมองไปรอบกายอย่างหวาดๆ สองมือยกขึ้นมาลูบแขนให้ขนที่ตั้งขึ้นมันนอนลงไป บนถนนที่มองไม่เห็นอะไรนอกจากป่าและป่าช่างดูน่าวังเวง เสียงเห่าหอนของสัตว์ที่ดังมาทักทายเป็นระยะๆทำเอาสะดุ้งโหยงอยู่หลายรอบ แต่กระนั้นเจ้าของใบหน้าดื้อรั้นก็ยังคงเดินต่อไป
คอยดูเถอะจะปอกลอกข้อมูลรถเอามาให้หมดเลย!!!
ฮึ!......ถึงจะไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงก็เถอะ! แต่ยิ่งนึกถึงใบหน้าราวกับปลาตายน่าหมั่นไส้นั่นแล้วมันยอมไม่ได้! คนอะไรใจร้ายใจดำทิ้งเด็กน้อยตาดำๆไว้บนถนนมืดๆเปลี่ยวๆแบบนี้ได้ เอ๊ะ?! แต่เขาก็ไม่ใช่เด็กที่เห็นรถทามิย่าเป็นของเล่นนะ ใช่ๆ มันไม่ใช่ของเล่น และเขาก็จะไม่มีวันยอมแพ้ ยังไงก็จะเอาข้อมูลมาให้ได้ แล้วจะชนะระดับโลกให้ดู!!
เรียวขาในกางเกงยีนส์สีเข้มเดินดุ่มๆไปตามทิศที่คิดว่ามันน่าจะเข้าเมือง ดูเหมือนอาการคลื่นไส้จะเริ่มหายไปบ้างแล้ว เช่นเดียวกับที่ขาสามารถเดินให้ตรงๆได้เหมือนเดิม
ถนนที่ร้างไร้แสงไฟยังคงไม่มีรถสักคันแล่นผ่าน ถ้าจำไม่ผิดแถวนี้มันเขตอุทยานไม่ใช่หรอ? แล้วผู้ชายใจร้ายคนนั้นพาเขามาแถวนี้ทำไมกัน? คงไม่ได้รวยหรือมีอำนาจขนาดมีบ้านอยู่แถวนี้ได้หรอกม้าง
หรือว่าตั้งใจเอาเขามาปล่อยให้เสือกิน?
“ ว๊ากกกก....” ใบหน้ามนหลับหูหลับตาวิ่งพลางสาปแช่งอีกฝ่ายในใจ...อย่าให้เจอกันอีกนะ จะเอาตะปูเจาะยางให้รถวิ่งลงข้างทางเลยคอยดู!
แล้วในขณะที่วิ่งไปด่าไป ทำให้นัยน์ตาสีมรกตไม่ทันเห็นว่าข้างหน้ากำลังมีแสงไฟจากพาหนะบางอย่างพุ่งตรงเข้ามา
เสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ทำให้สองขาหยุดลง ไฟสูงที่สาดฝ่าความมืดทำให้ร่างโปร่งบางต้องยกแขนขึ้นมาป้องตา...ทั้งๆที่ยังด่าเขาอยู่แท้ๆแต่ตอนนี้กลับดีใจที่อีกฝ่ายไม่ได้ทิ้งตนไปจริงๆ
“ คุณรีไว.....” เสียงสั่นๆราวกับลูกหมาถูกทิ้งครางเรียกคนที่ยังมาไม่ถึงเบาๆ
แต่ทว่า....
ยิ่งแสงไฟนั้นเข้ามาใกล้มากเท่าไหร่ ใบหน้าที่เริ่มยิ้มอย่างมีความหวังก็ค่อยๆหุบยิ้มลง....เมื่อดวงไฟที่มันควรจะมีแค่สองดวงกลับแยกออกเป็นห้า.....เฟอร์รารี่รุ่นไหนก็ไม่น่าจะมีไฟพิสดารขนาดนี้?
แล้วคนที่มันจะโชคร้าย...มันก็โชคร้ายได้ถึงที่สุดจริงๆ
เพราะสิ่งที่กำลังวิ่งตรงมาหา มันคือมอเตอร์ไซค์ที่ดูไม่น่าไว้ใจ 5 คัน ซึ่งดูยังไงๆก็น่าจะเป็นพวกอันธพาลแน่ๆ
ร่างโปร่งบางพยายามยืนตัวลีบที่สุดเท่าที่จะทำได้ เผื่อว่าพวกมันจะได้มองไม่เห็นแล้วขับผ่านเขาไป...แค่เขาถูกพาไปซิ่งนรกแล้วก็ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้ในที่แบบนี้มันก็น่าจะเลวร้ายพอแล้วนะชีวิต ถ้ายังต้องมาถูกอันธพาลรุมทำร้ายอีกมันจะไม่น่าสงสารไปหน่อยหรอ?
แต่ดูเหมือนพระเจ้าจะไม่ยอมสงสารเขาจริงๆ...ในเมื่อแก๊งซิ่งพวกนั้นมันมองเห็นเขาเต็มสองตา!! แล้วก็กำลังหยุดรถลงมาล้อมหน้าล้อมหลังเขาอีกต่างหาก!!
จำไว้เลยนะ ทั้งพระเจ้าทั้งคุณรีไว!!
“ ไง....มีอะไรให้พวกพี่ชายช่วยไหมเอ่ย?” บทพูดตามสคริปตัวร้ายเป๊ะๆเลยนะ! ใบหน้ามนเบี่ยงหลบมือหยาบกร้านที่จับลงมาที่ปลายคาง นัยน์ตาสีมรกตยังคงแข็งกร้าวอย่างไม่คิดจะเกรงกลัว
“ มาเดินอยู่คนเดียวแบบนี้น่าสงสารแย่...พวกพี่ชายไปส่งให้เอาไหมจ้ะ? แต่ว่ามันคงต้องมีค่าใช้จ่ายนิดหน่อย....” สายตากรุ่มกริ่มเหลือบมองลงไปที่กางเกงของเขา....ตั้งใจจะรีดไถใช่ไหม? ถึงมีเงินก็อย่าคิดว่าคนอย่างเขาจะยอมให้ง่ายๆนะ! ชิ้นส่วนรถของทามิย่าน่ะคิดว่าชิ้นละเท่าไหร่กัน?!
ใบหน้ามนได้แต่สะบัดหนีอย่างไม่คิดจะเสวนาด้วย ยิ่งท่าทางดื้อรั้นอวดดีที่ไม่ค่อยจะเข้ากับหน้าตาที่นับได้ว่าน่ารักเกินกว่าจะเป็นเด็กผู้ชายยิ่งทำให้กลุ่มอันธพาลเริ่มมองหน้ากัน
“ อย่าดื้อน่า....พวกพี่ชายไม่ยุ่งด้วยก็ได้ถ้าจะไม่ไปด้วยกัน แต่ยังไงก็ขอค่าเสียหายที่อุตส่าห์แวะลงมาดูด้วยความเป็นห่วงหน่อยเถอะนะ” และเมื่อถูกล้อมหน้าล้อมหลังมากๆเข้า คนใจร้อนที่ไม่เคยกลัวใครก็เริ่มทนไม่ไหว
“ ห๋า?! อย่ามาพูดบ้าๆนะ!” ปากดีๆนั่นจึงตะโกนใส่หน้าอีกฝ่าย สองแขนบางจึงถูกจับยึดเอาไว้ด้วยร่างสูงใหญ่สองคน
“ แล้วนี่จะทำอะไร? ปล่อยนะ! อุก!!” เสียงด่าทอและแรงดิ้นรนถูกหยุดไปด้วยหมัดที่ซัดลงที่หน้าท้อง ความจุกแล่นลิ่วขึ้นมาจนตัวงอ
“ แหม...ถ้าเป็นผู้หญิงก็ว่าจะดูแลดีๆซักหน่อย...จริงๆถึงจะเป็นผู้ชายแต่มีหน้าแบบนี้ ถ้าไม่ดื้อก็ยังพอไหวนะ ฮ่าๆๆๆ” เสียงหัวเราะลั่นทำให้คนที่เจ็บจนแทบจะยืนไม่ไหวได้แต่กัดริมฝีปากอย่างเจ็บใจ นัยน์ตาสีมรกตยังคงจ้องเขม็งไปที่ผู้ชายคนนั้นอย่างเคียดแค้น
“ กระเป๋าตังค์อยู่ไหนเอ่ย...?” แล้วมือหยาบกร้านก็ตบมาตามต้นขาเพื่อหากระเป๋าเงิน
“ หรือว่าจะอยู่ที่กระเป๋าหลังกันน้า...?” แล้วในขณะที่มือนั่นมันจะย้ายไปตบที่ก้น...แสงไฟสว่างวาบก็ฉาบไล้ไปจนทั่วถนน
เสียงกระหึมของเครื่องยนต์ทำให้การรีดไถหยุดชะงักไปในทันที....
แสงที่ส่องมาจากหน้ารถทำให้ไม่รู้ว่าคนที่กำลังกระโดดลงมานั้นเป็นใคร...แต่สำหรับร่างโปร่งบางที่ต้องฟังเสียงรถคันนี้มาหลายชั่วโมงอีกทั้งรูปร่างเล็กๆแต่แข็งแกร่งราวกับเหล็กไหลที่บังคับขู่เข็ญเขาต่างๆนานามาเมื่อไม่นานมีหรือที่จะจำไม่ได้
“ คุณรีไว....” ทำไมในใจถึงได้รู้สึกอุ่นวาบขึ้นมา ทั้งๆที่ก็ไม่รู้ว่าคนคนนั้นจะมาช่วยเขาจริงๆหรือเปล่า หรืออาจจะมาซ้ำเติมเขาด้วยการจับส่งอันธพาลพวกนี้ไปซะก็ได้
“ เฮ้ย...นั่นมัน....รีไว?” คนที่รีดไถเขาหันไปมองตัวจริงแห่งทีมเฟอร์รารี่ด้วยใบหน้าหวาดๆ แขนบางทั้งสองข้างถูกปล่อยออกเมื่อคนที่เคยจับยึดมันเอาไว้ถอยหนีไปด้านหลัง ทำให้ร่างที่ไร้กำลังถึงกับทรุดลงไปนั่งอยู่ที่พื้น
“ ทำไมพวกแกมาอยู่ที่นี่?” เสียงทุ้มเย็นเหยียบเอ่ยออกมาก่อนจะตวัดสายตามองหน้าพวกนั้นก่อนที่จะมาจบลงที่....เขา?
“ กะ ก็....ไม่มีอะไรนี่ ฮะฮะฮะ” เสียงหัวเราะฝืนๆดังออกมาจากคนที่เมื่อกี้ยังรีดไถเขาอยู่เลย....คนพวกนี้กลัวคุณรีไว?
“ วะ ว่าแต่...นายเปลี่ยนเด็กใหม่แล้วหรอ?....แต่ก็ยังชอบสไตล์นี้เหมือนเดิมเลยนะรีวะ”
ตึง!!!!
พวกนั้นพูดเรื่องอะไรก็ยังไม่ทันจะได้มีเวลาคิด ฝ่าเท้าที่เคยเหยียบคันเร่งจนมิดนั่นก็ยกขึ้นมายันโครมลงไปที่ตัวถังรถมอเตอร์ไซค์จนเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เงาร่างที่ยืนอยู่ตรงนั้นต่างสะดุ้งเฮือกกันเป็นแถว
“................” แล้วสายตาที่บ่งบอกว่า...ถ้าไม่อยากโดนกระทืบ ก็รีบๆไสหัวไป....ก็ถูกส่งออกมาจากนัยน์ตารีขวางขี้รำคาญคู่นั้น
“ เหอะ....ฝะ ฝากทักทายโกคุเดระด้วยก็แล้วกัน...ยังอยู่กับนายใช่ไหมล่ะเด็กนั่น” หมอนั่นทำเป็นพูดดีก่อนจะตรงรี่คร่อมมอเตอร์ไซค์แล้วรีบบิดหนีไป....ทิ้งให้ความเงียบเข้ามาครอบคลุมพื้นที่ตรงนี้อีกครั้ง
แก๊งอันธพาลพวกนั้นรู้จักคุณรีไวดี? แล้วที่บอกว่า...เด็กคนนั้นยังอยู่กับคุณรีไว...นี่หมายถึง โกคุเดระ ฮายาโตะ...นักขับตัวจริงอีกคนของทีมเฟอร์รารี่?
ในขณะที่ร่างโปร่งบางยังนั่งงงอยู่ที่พื้น มือแข็งแรงก็ลากให้ลุกขึ้นมาก่อนจะพาไปโยนเอาไว้ในรถ
“ เอ๊ะ?!” และกว่าจะรู้ตัวประตูรถเฟอร์รารี่สีแดงสดก็ปิดลงเรียบร้อย....นี่ยังจะพาเขาไปทรมานต่ออีกงั้นหรอ? ทำไมถึงได้โหดร้ายขนาดนี้?!! ถึงเมื่อกี้จะช่วยเขาไว้ก็เหอะนะ!
ใบหน้ามนลอบมองใบหน้านิ่งอย่างเคืองๆ แทนที่จะกลัวจนตัวสั่นเหมือนที่คนทั่วไปเค้าน่าจะเป็นกันและนั่นมันก็ทำให้นัยน์ตาสีขี้เถ้าเหลือบมองมาแบบผิดคาดเล็กน้อย
เพราะไม่คิดว่าจะได้มาเจอ “ดื้อของจริง” ขนาดนี้
“ บ้านอยู่ไหน?” เสียงทุ้มถามออกไป แต่แทนที่จะได้รับคำตอบ....
“ ............ตบหัวแล้วค่อยมาลูบหลังรึไง....” เสียงบ่นงึมงำดังมาจากคนข้างๆให้นัยน์ตารีขวางเหล่ไปมอง...หรืออยากจะให้ตบหัวแล้วกระทืบซ้ำ? เขาก็ทำได้นะ
แล้วเฟอร์รารี่สีแดงสดก็กระชากตัวออกไปโดยที่อีกคนยังไม่ทันจะได้บอก...ว่าบ้านอยู่ที่ไหน
ใบหน้ามนยังคงบ่นขมุบขมิบไปตลอดทาง นัยน์ตาดื้อรั้นคู่นั้นเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเด็กนี่คงไม่ยอมเลิกราง่ายๆแน่ ขนาดโดนทิ้งให้เดินอยู่คนเดียวบนถนนเปลี่ยวๆแบบนี้ โดนแม้แต่อันธพาลรีดไถทำร้าย แต่สายตาที่แข็งกร้าวคู่นั้นมันกลับไม่ได้มีแววสั่นไหวหรือหวาดหวั่นเลยยามที่มองมาที่เขาซึ่งเป็นสาเหตุของเรื่องทั้งหมด
หรือว่าเขายังสร้างความหวาดกลัวให้เด็กนี่ไม่พอ?
นัยน์ตาสีขี้เถ้าเหลือบมองคอเสื้อที่เปิดกว้างออกของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ...ถ้าไม่นับความดื้อรั้นที่แสนจะน่ารำคาญ...เจ้าเด็กนี่ก็ถือว่าไม่เลวเลยนะ
อีกอย่างเขาเองก็ไม่ใช่คนที่จะทนต่อความน่ารำคาญได้นานซะด้วย
รีบๆจบเรื่องไปซะดีกว่า
แล้ว Ferrari California ก็ลดความเร็วลงก่อนที่จะเลี้ยวเข้าไปในโรงแรม....
เสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ที่ได้ยินมาตลอดเงียบหายไปเมื่อรถเปิดประทุนหยุดสนิท ใบหน้ามนได้แต่เงยมองข้างๆอย่างเลิ่กลั่ก เพราะสัญลักษณ์ของผู้ใหญ่ที่แปะอยู่ตามป้ายสีสดใสทำให้ใบหน้าของคนที่อายุ 15 ถึงกับแดงเถือก
“ บะ บ้านผมไม่ได้อยู่ที่นี่นะครับ.....” แก้มป่องพึมพำออกมาในขณะที่ดวงตาสีมรกตก็ช้อนมองรอบๆอย่างไม่ไว้ใจ
“ ชั้นให้โอกาสนายกลับบ้านแล้ว แต่นายไม่เลือกเองนี่?” ใบหน้านิ่งเฉยขยับมากระซิบอยู่ใกล้ๆ ทำให้ร่างโปร่งบางถึงกับถอยหนีเพราะรังสีอันตรายที่ถูกปล่อยออกมา แต่สองแขนแข็งแรงก็กางกั้นร่างที่ตื่นตระหนกนั่นเอาไว้ ก่อนจะถามด้วยเสียงเย็นๆ
“ รู้ใช่ไหม ว่าที่แบบนี้เค้าเอาไว้ทำอะไร? คงไม่ได้มัวแต่เล่นรถของเล่นนั่นจนไม่รู้ประสีประสาหรอกนะ?” นัยน์ตาสีขี้เถ้าเหลือบมองลงไปที่หว่างขาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ แต่เพราะคำว่า “รถของเล่น” ทำให้คนที่หวาดๆอยู่รู้สึกปรี๊ดขึ้นมา
“ หะ!...ผมไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้นนะ! อย่างน้อยผมก็อายุสิบห้าแล้วก็รู้ว่าเรื่องที่จะทำที่นี่มีแต่ผู้ชายกับผู้หญิงเค้าทำกันเท่านั้นแหละ คุณคงไม่ได้วิปริตผิดเพศจนทำกับเด็กผู้ชายได้หรอกใช่ไหม?! แล้วอีกอย่างรถของผมก็ไม่ใช่ของเล่น!!” แทนที่เจ้าเด็กตรงหน้าจะหวาดผวากับใบหน้าที่จงใจทำให้กลัว....ปากดีนั่นกลับเถียงฉอดๆกลับมา และมันก็เริ่มจะทำให้ความอดทนของเขาเริ่มจะหมดไป
ดูท่าว่าเด็กนี่คงจะไม่ยอมเลิกราง่ายๆ ตราบใดที่มันยังไม่ยอมรับว่ารถนั่นมันก็เป็นแค่ของเล่น!
ใบหน้านิ่งจึงยิ่งขยับเข้าไปใกล้ ก่อนจะบีบข้อมือเล็กๆนั่นเอาไว้
“ หึ...ถ้าอย่างงั้นก็โทษที...ที่ชั้นวิปริต”
“ เอ๊ะ?” แล้วประตูรถก็ถูกกระชากออกก่อนที่ร่างโปร่งบางจะถูกลากลงไป...กว่าคนโดนกระทำจะแปลความหมายของประโยคนั้นได้....
ร่างกายก็ถูกโยนลงไปบนเตียงเรียบร้อย....
“ จะทำอะไรของคุณน่ะ?! ปล่อยผมนะ!!” ร่างแข็งแกร่งก้าวขาคร่อมร่างโปร่งบางเอาไว้แล้วกดน้ำหนักลงไปจนคนข้างใต้ดิ้นหนีไปไหนไม่ได้ สองมือก็ปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายออกอย่างไม่สนใจมือบางที่พยายามจะขัดขืน ใบหน้านิ่งของคนกระทำเพียงเอ่ยตอบมาแค่คำเดียว...
“ เซ็กส์” แต่เป็นคำเดียวที่ทำให้นัยน์ตาสีมรกตถึงกับเบิกกว้าง
“ คุณจะบ้าหรอ?! ผมเป็นผู้ชายนะ! แล้วก็เป็นเด็กอายุแค่15! คุณโดนข้อหาอนาจารและพรากผู้เยาว์ ติดคุกหมดอนาคตแน่!” ริมฝีปากสีระเรื่อตะโกนโวยวายแต่คนที่ดึงเสื้อออกไปจากไหล่และหัวสีน้ำตาลก็ยังคงไม่สนใจ ปล่อยให้ปากดีๆนั่นแหกปากไปส่วนมือก็ลากไล้ลงไปรูดกางเกงออกจากท่อนขาเรียวแล้วโยนไปกองอยู่ที่หน้าประตู จากนั้นจึงหันมาถอดเสื้อของตัวเองออกไปบ้างเหลือแค่ท่อนล่างซึ่งไม่จำเป็นต้องถอดเอาไว้
“ เฟอร์รารี่มีทนายชั้นหนึ่งไม่ต้องห่วงหรอก” นิ้วทั้งห้าสอดประสานเข้าไปในฝ่ามือบางแล้วกดมันลงกับเตียง ดูเหมือนคนข้างใต้จะเพิ่งรู้ตัวว่าเสื้อผ้าไม่มีเหลือติดตัวอยู่แล้ว
“ ปล่อยผม!!” มือบางที่เหลืออยู่อีกข้างพยายามผลักไสร่างของเขาออกไป...นี่คิดว่าจะทำได้ง่ายๆขนาดนั้นเลยหรอ? ร่างกายของเขาต้องใช้ต้านความเร็วถึง 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยนะ ถ้าไม่แข็งแกร่งพอก็คงทำแบบนั้นไม่ได้หรอก
“ อึ๊ก! อย่า!” และก็เป็นอย่างที่คิด ว่าแรงน้อยนิดของเด็กที่วันๆก็เอาแต่คลุกอยู่กับของเล่นจึงไม่อาจจะสู้แรงของเขาไหว แล้วเมื่อร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแนบลงไปบนร่างกายโปร่งบาง ร่างข้างใต้จึงสะดุ้งเฮือกก่อนจะหน้าแดงเถือก...ปฏิกิริยาของครั้งแรก?
“ ยะ อย่าครับ อ๊ะ?!” แต่ก็ไม่น่าแปลกหรอกที่เด็กนี่จะยังบริสุทธิ์....ก็อายุแค่ 15 เองนี่?...ร่างข้างใต้ถึงได้ดิ้นหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ นี่.....” เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบที่ใบหูแดงระเรื่อ ใบหน้านิ่งจ้องมองไปที่ใบหน้าตื่นๆอย่างพึงพอใจ...ยิ่งกลัวก็ยิ่งดี...เพราะไม่ใช่แค่มันจะเร้าใจ มันยังปิดเกมได้ไวอีกด้วย
“ อยากรู้ไม่ใช่หรอ? ข้อมูลรถของเล่นของนายน่ะ?” เขายังคงจงใจใช้คำพูดที่แทงใจ จนเจ้าคนที่ดิ้นพล่านอยู่ใต้ร่างของเขาถึงกับกัดฟันแล้วหันมาส่งสายตาจริงจังทั้งๆที่มันเริ่มจะสั่นพร่า
“ อึก....มัน...ไม่ใช่ของเล่น.....” ทางเดียวที่จะทำให้ยอมเลิกราไปจากข้อมูลของเฟอร์รารี่ได้ก็คงมีแต่วิธีกดดัน คาดคั้น ไล่ต้อนให้กลัว...ไปจนถึงก้นบึ้งของหัวใจ
เสียงทุ้มจึงจงใจกระซิบออกไปให้คนได้ฟังถึงกับนิ่งงัน....
“ หึ...เอางี้ไหมล่ะ...ถ้าคืนนี้นายยอมเป็นของเล่นให้ชั้น...ชั้นจะบอกทุกอย่างที่นายอยากรู้...” เขาละออกมาเพื่อมองใบหน้าสับสนของเด็กนั่น
“................” ริมฝีปากสีระเรื่อที่สั่นระริกขยับไปมาเหมือนจะพูดอะไรแต่กลับไม่มีคำใดหลุดออกมา นัยน์ตาสีมรกตเองก็ดูไม่มั่นคงดังเดิมเพราะคงจะรู้ความหมายของสิ่งที่เขาพูดออกไป....ว่ามันหมายถึง...ให้เอาตัวเข้าแลก...ถ้าอยากได้ของที่ต้องการ
ไม่ได้ต่างไปจากโสเภณีที่ใครๆก็ประณามเลยแม้แต่นิดเดียว...
“ ว่าไง?” และยิ่งถูกไล่ต้อน ใบหน้ามนที่สับสนอยู่แล้วจึงทำหน้าราวกับจะร้องไห้
“ ผม.....ไม่.........” เสียงสั่นๆเอ่ยออกมาอย่างน่าสงสาร แต่คนกดดันก็ยังคงไม่ลดละ ใบหน้าที่นิ่งเฉยอยู่เสมอกลับยิ้มที่มุมปากก่อนจะถามด้วยเสียงเย้ยหยัน
“ อะไรก็ทำได้ไม่ใช่หรอ? เพื่อข้อมูลพวกนั้น” ริมฝีปากขยับเข้าไปเป่าลมร้อนๆรดใบหูจนนัยน์ตาสีมรกตได้แต่ปิดแน่น
“ อึก........” ก่อนที่มันจะเปิดขึ้นมาอีกครั้งเพื่อมองคนกระทำอย่างเจ็บใจ ในหัวกำลังตีกันมั่วระหว่างคำว่าศักดิ์ศรีกับชัยชนะ
นัยน์ตาสีขี้เถ้ามองเห็นร่างข้างใต้นิ่งไปก็ได้แต่ลอบยิ้มในใจ...อีกไม่นานก็คงจะยอมเลิกแล้วสินะ...เพราะคงไม่มีผู้ชายปกติที่ไหนจะยอมนอนกับผู้ชายด้วยกันได้ ถ้าไม่ได้ชอบหรือเป็นเรื่องคอขาดบาดตายจริงๆ
“ เงียบไปแบบนี้แปลว่าตกลง?” แต่อีกฝ่ายก็ยังคงดื้อพอที่จะไม่ปัดป้องเขาออกไปอย่างจริงๆจังๆ เพราะคำว่าชัยชนะมันยังไม่อาจขจัดออกไปจากหัวใจได้หมด....ก็ดี....เขาก็อยากจะรู้ว่าจะทนไปได้ซักแค่ไหน....
“ ผม......................อึก....” ริมฝีปากร้อนจึงจู่โจมลงไปที่ซอกคอ ทั้งกดจูบทั้งไล้เลียราวกับสัตว์ร้ายที่หิวกระหาย ทำเอาร่างข้างใต้ถึงกับสั่นเทาและบิดเร่าไปพร้อมกัน
“ ไม่....อย่า.......” ร่างโปร่งบางพยายามจะถอยหนีแต่มือข้างหนึ่งก็ถูกเขากดเอาไว้กับเตียงจึงมีเพียงเสียงร้องห้ามเท่านั้นที่ทำได้
“ ห๊ะ อ๊ะ? ยะ อย่าครับ.....” และยิ่งมืออีกข้างของเขาลากผ่านหน้าท้องแบนเรียบลงไปเท่าไหร่ ร่างข้างใต้ก็มีแต่จะยิ่งครางอย่างไร้เดียงสามากขึ้นเท่านั้น
“ อื้อ!! ไม่นะครับ!” แล้วมันก็มาต่อต้านมากที่สุดเมื่อมือของเขาตรงเข้ากอบกุมส่วนอ่อนไหวของร่างกายเอาไว้
“ ฮะ...อ๊ะ.....” แกนกายที่ไม่เคยผ่านมือใครถูกปลุกเร้าได้โดยง่าย ใบหน้ามนร้องครางออกมาไม่เป็นภาษา ทั้งๆที่ร่างทั้งร่างนั้นสั่นระริก ใบหน้าของเขายังคงฝังเข้าที่ซอกคอระหง การปลุกเร้าที่ช่ำชองทำให้ร่างข้างใต้แทบจะขาดใจตาย
“ ฮ๊ะ อ๊า!!......” แล้วไม่นานเสียงครางสูงก็ดังขึ้นมาพร้อมกับน้ำสีขาวขุ่นที่ฉีดพุ่งเต็มมือของเขา ร่างที่ยังสั่นนอนหอบหายใจอย่างหมดแรง นัยน์ตาที่ล่งลอยไปไกลคลอเอาไว้ด้วยหยาดน้ำใสๆ แค่นี้ก็คงจะสิ้นสุดแล้วกับคำว่าศักดิ์ศรีที่อยู่ในใจของเด็กนี่...คงจะยอมล่าถอยแต่โดยดีแล้วละ
ทว่า...เขาก็อยากจะทำให้มันเด็ดขาด
มือจึงจับขาเรียวทั้งสองข้างแยกออกจากกัน โดยมีนัยน์ตาสีมรกตมองมาอย่างไม่เข้าใจ
แล้วปลายนิ้วที่ชุ่มโชกไปด้วยน้ำรักของเด็กนั่นก็สอดใส่เข้าไปในช่องทางคับแน่นทันที
“ อึ๊ก!!!” ร่างโปร่งบางถึงกับกระตุกเฮือก นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างก่อนจะค้างเอาไว้แบบนั้น เนื้อตัวยิ่งสั่นหนักกว่าเดิมหลายเท่า....คงจะไม่เคยรู้เรื่องแบบนี้มาก่อนสินะ...ว่าถ้าเป็นผู้ชายกับผู้ชายจะต้องโดนทำอะไรบ้าง...และตอนนี้ก็เหมือนเด็กนี่จะช็อคไปแล้วเรียบร้อย
แรงไปหน่อยหรือเปล่านะ?
เขาถอนหายใจพร้อมกับดึงนิ้วออกมาจากร่างกายที่สั่นอย่างเห็นได้ชัด...ถ้าเขาไม่หยุด เด็กนี่จะยอมให้ทำถึงขั้นสุดท้ายงั้นหรอ? ทั้งๆที่ตัวสั่นขนาดนี้?
ไม่หรอก...คงไม่ได้ยอมให้ทำ...แต่ช็อคจนขยับต้านไม่ไหวต่างหาก...
“ ฮึก...ฮึก........” หลังมือถูกยกขึ้นมาปิดดวงตาก่อนที่ใบหน้ามนนั่นจะร้องไห้อย่างยอมจำนนเป็นครั้งแรก....คงจะกลัวจนถึงขีดสุด....
ร่างแข็งแกร่งจึงได้แต่นั่งมองอยู่แบบนั้น นัยน์ตาไล่มองที่ซอกคอซึ่งเต็มไปด้วยร่องรอยแล้วก็ให้รู้สึกแปลกๆในหัวใจ ทั้งๆที่ตั้งใจจะทำร้ายให้หวาดกลัว แล้วทำไมเขาจะต้องมารู้สึกผิดด้วยล่ะ…..เสียงทุ้มจึงถามออกไป...ถึงเหตุผลของอีกฝ่ายที่เขาไม่เคยคิดที่จะถาม...
“ ทำไมถึงได้อยากชนะขนาดนั้น” ยอมทำถึงขนาดที่อาจจะเกลียดตัวเองไปจนวันตายได้แบบนี้....เพราะอะไรกัน
ทำไมถึงได้มีความฝันอันแรงกล้า....คนที่ใช้ชีวิตมาอย่างไม่รู้จักความตาย ไม่เคยเสียดายลมหายใจอย่างเขา...ไม่เคยเข้าใจถึงความฝันพวกนั้นเลย
ไม่เคยอยู่เพื่อที่จะทำให้ฝันเป็นจริง....ชัยชนะที่อยู่ในสายตาก็เพราะว่ามันจะทำให้ไม่ต้องทนต่อความหนาว ไม่ต้องทนต่อความหิวก็เท่านั้นเอง
“ ลองไปดู...ฮึก....ไหมละครับ....ฮึก....การแข่งของผม.....”
เสียงสะอึกสะอื้นเอ่ยบอกออกมาเป็นคำพูดที่ทำให้ดวงตาของเขาเบิกกว้าง
ถ้าไป...เขาจะได้เรียนรู้ถึงการมีชีวิตอยู่เพื่อไล่ตามความฝันหรืออะไรสักอย่างบ้างไหมนะ....
“ นอนซะ” มือยกขึ้นมากดหัวสีน้ำตาลให้จมลงไปในหมอนมากกว่าเดิมโดยที่ไม่ได้ตอบคำถามที่เด็กนั่นถามมา ร่างแข็งแกร่งล้มตัวลงนอนข้างๆแล้วหันหลังให้
เสียงสะอื้นยังคงดังอยู่พักใหญ่ก่อนที่มันจะเงียบหายไปแล้วกลายเป็นเสียงขยุกขยิกแทน จากที่เงียบไปนานปากดีๆนั่นก็เริ่มทำงานอีกครั้ง
“ คือว่า....ใส่เสื้อผ้าได้ไหมครับ?” ..........ในเมื่อกล้าถามเขาก็จะตอบให้
“ ห้ามใส่!”
“ เอ๋?...แต่มันหนาว...” เพราะเป็นสถานที่ที่เอาไว้ทำกิจกรรมอันเร่าร้อน เพราะงั้นผ้าห่มที่โรงแรมให้มาจึงมีผืนเดียวแถมยังบางเฉียบ
ได้ยินเสียงขยุกขยิกอยู่ใต้ผ้าห่มอีกฝั่งอยู่สักพัก ก่อนจะรับรู้ได้ถึงไออุ่นที่ขยับเข้ามาใกล้แผ่นหลัง...ร่างโปร่งบางนั่นกำลังขดตัวซุกหลังของเขาอยู่?
นัยน์ตาที่ข่มให้หลับลงไม่ได้จึงได้แต่เปิดมองเข้าไปในความมืด...แล้วก็รู้สึกได้ถึงปลายนิ้วที่แตะอยู่บนแผ่นหลัง...
มันกำลังลากไล้ไปตามรอยแผลเป็นของเขาอย่างแผ่วเบา....เด็กนั่นเห็นเข้าจนได้สินะ...
“ รอยแผล?.......ไฟไหม้?......” เสียงอู้อี้ที่ถามออกมาไม่ทำให้เขาโกรธจนรู้สึกแปลกใจตัวเอง ทั้งๆที่รอยแผลนี้ไม่เคยมีใครมาแตะต้องมันได้
เพราะมันจะร้อนราวกับถูกไฟเผา....
“ จะนอนดีๆไหมไอ้เด็กเหลือขอ?” ส่งเสียงขู่ออกไปทำให้อีกฝ่ายรีบตอบรับกลับมาอย่างกล้าๆกลัวๆ
“ ครับ....” แล้วไม่นานเสียงลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอก็ดังอยู่ที่แผ่นหลัง
รอยแผลนั่น.......มันเป็นของฮายาโตะ
กว่าร่างบอบบางจะลากร่างสูงใหญ่เขามาพาดไว้บนโซฟาในบ้านได้ก็เล่นเอาต้องลงไปนั่งหอบอยู่หลายรอบ...คนบ้าอะไรจะตัวใหญ่แบบนี้!
นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองคนเจ็บที่ยังไม่ได้สติอย่างเคืองๆ...คงต้องโทษความเป็นคนดีของเขาเองละนะที่ปล่อยไอ้บ้านี่มันนอนตากยุงอยู่ในโรงรถไม่ได้...ร่างบอบบางเดินไปเตรียมกะละมังใส่น้ำพร้อมกับค้นหาผ้าขนหนูที่เพิ่งจะรู้ตัวว่ามันมีแต่สีแดงแล้วก็สัญลักษณ์ของเฟอร์รารี่ ก่อนที่จะมาหยุดลงตรงหน้าคนเจ็บอีกครั้ง
ใบหน้าที่ปกติจะนิ่งสนิทกลับเม้มปากเข้าหากันอย่างลุกลี้ลุกลน นัยน์ตาสีมรกตเหลือบไปมองบ้านฝั่งซ้ายอย่างหาตัวช่วย ทว่ามันก็ยังปิดไฟเงียบ
ดวงตาคู่สวยจ้องมองกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ถูกย้อมไปด้วยสีแดงก่อนจะตัดสินใจยื่นมือเข้าไปปลดมันออกจากกันช้าๆ ใบหน้าที่เย็นชาอยู่เสมอรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่...ทำไมไอ้บ้านี่ถึงทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้ทุกทีเลยนะ
ใบหน้าสวยได้แต่มองรูปร่างที่สมชายชาตรีกับมัดกล้ามที่สวยงามนั้นอย่างหมั่นไส้ อย่าให้เขามีบ้างก็แล้วกัน!
มือบางพลิกร่างสูงให้หันข้างขึ้นมาเล็กน้อย ดูเหมือนแผลจะอยู่ที่สีข้างซึ่งมีแค่รอยกระสุนถากไปแค่ผิวๆเท่านั้น....แผลแค่นี้ถึงขั้นสลบเลยหรอ?
หรือข้างในจะเป็นอะไรมาก? แต่ดูเลือดก็จะหยุดไหลไปแล้วนี่?
นัยน์ตาสีมรกตได้แต่มองแล้วมองอีกอย่างสงสัย ในหัวสีเงินที่ชอบคิดไปถึงไหนต่อไหนทำให้ไม่ทันสังเกตเห็นว่า....นัยน์ตาสีเปลือกไม้แอบมองอยู่นานแล้ว
มือขาวผ่องค่อยๆเช็ดเลือดที่เกรอะกรังอยู่รอบลำตัวหนาๆนั่นออกไป แผลก็มีอยู่แค่นี้ทำไมบนตัวหมอนี่ถึงได้มีเลือดเลอะอยู่เยอะขนาดนั้น?
ยาทาแผลถูกใส่ลงไปจนโชกก่อนที่จะใช้ผ้าพันแผลพันให้อย่างมั่นใจว่านี่แหละคือการทำแผลที่ดีที่สุดในโลก...เพราะรีไวไม่เคยบ่นสักคำ ทำให้ร่างบอบบางไม่เคยรู้ตัวเลยว่าฝีมือการทำแผลของตนนั้นแย่แค่ไหน
แต่ใบหน้าสวยก็ยังคงมั่นใจในฝีมือของตัวเองต่อไป
มือบางหยิบหมอนอิงมารองไว้ใต้หัวที่เต็มไปด้วยเส้นผมสีดำสั้น ก่อนจะทิ้งร่างสูงให้นอนหลับอยู่ตรงนั้น
และเมื่อเวลาผ่านไปจนทุกอย่างในบ้านนิ่งสนิท
เปลือกตาของดวงตาสีเปลือกไม้ก็เปิดขึ้นพร้อมๆกับที่ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นมานั่งได้อย่างที่ไม่ได้เจ็บไม่ได้ปวดอะไรมากมาย โทรศัพท์มือถือถูกยกขึ้นมาแนบอยู่ที่แก้มและไม่นานก็มีเสียงตอบรับกลับมาจากปลายสาย
“ อื้อ....เรียบร้อยแล้วละ....ฮะฮะฮะ...โทษที ก็ไม่คิดว่ามันจะบานปลายขนาดนั้น...อือ...น่าจะอยู่บนเนินในป่าที่ไหนซักที่ในมาราเนลโล่นั่นแหละ พอดีได้นางฟ้าตัวน้อยๆช่วยเอาไว้น่ะ....อ่า...อ่า...เปิดสัญญาณติดตามตัวเอาก็แล้วกัน...อืม” โทรศัพท์ถูกตัดสายไปก่อนที่นัยน์ตาสีเปลือกไม้จะกวาดมองรอบๆบ้านที่มีเพียงแสงสลัวๆเพราะหน้าต่างกระจกบานใหญ่นั่นรับแสงจันทร์เอาไว้ใช้แทนโคมไฟ
ข้าวของเครื่องใช้ทุกๆอย่างต่างมีสัญลักษณ์ของเฟอร์รารี่...จะบอกว่าเป็นพวกบ้ายี่ห้อก็ไม่น่าจะใช่....ดูจากใบหน้าสวยที่แสนจะเย็นชากับการขับรถที่ไม่เข้ากับใบหน้าก็คงพอจะบอกได้ว่า คนที่ช่วยเขามาคงมีความเกี่ยวข้องอะไรสักอย่างกับ สครูเดอเลีย เฟอร์รารี่
“ หึ....” เสียงหัวเราะในลำคอดังออกมา...ชักอยากจะเห็นสีหน้าแบบอื่นของใบหน้านิ่งๆนั่นซะแล้วสิ
ร่างสูงใหญ่เดินขึ้นบันไดไปทั้งๆที่ไม่ได้รับอนุญาต กรอบรูปที่ติดอยู่ที่ผนังข้างบันไดทำให้ใบหน้าคมเผลอยิ้มออกมา...ไม่ใช่ว่ามันจะมีรูปสมัยเด็กๆของเจ้าของบ้านใส่อยู่ ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นรูปชูป้ายรางวัลอันทรงเกียรติ....แต่ที่เขาหัวเราะ...ก็เพราะ...
มันไม่มีรูปอะไรใส่อยู่เลยน่ะสิ....
ไม่มีเรื่องดีๆให้จดจำบ้างหรือยังไงนะ?
รอยยิ้มเย็นๆปรากฏที่มุมปาก...ชักอยากจะได้ตุ๊กตาตัวนี้เอามาทำคอลเลคชั่นซะแล้วสิ....
เพราะเป็นบ้านแบบโมเดิร์น ส่วนของที่นอนบนชั้นลอยจึงไม่มีประตูให้ต้องมาปิดเปิดให้เกิดเสียง ร่างสูงใหญ่เข้าไปถึงตัวคนที่นอนหลับอยู่ได้โดยง่าย ร่างกายที่อยู่ในกางเกงสีดำตัวเดียวนั่งลงไปบนขอบเตียงอย่างไร้เสียง ลำตัวหนามีเพียงผ้าพันแผลพันเอาไว้...และฝีมือคนทำก็ช่างไม่ได้เรื่องเอาซะเลย
นัยน์ตาสีเปลือกไม้ไล่มองไปบนใบหน้าสวยที่ยังหลับปุ๋ย ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอทำให้ริมฝีปากสีระเรื่อเผยอออกน้อยๆ ฝ่ามือใหญ่เผลอยกขึ้นไปประคองใบหน้าขาวผ่อง ก่อนจะกดปลายนิ้วโป้งลงไปบนกลีบปากนุ่มนิ่มอย่างหลงใหล
ใช่.....มันคือวามหลงใหล...และเขาก็กำลังคิดต่อไปว่า...
อยากจะเอามาเป็นของตัวเอง...
ไม่ใช่เพราะความสวยงามเพียงอย่างเดียว....เพราะผู้หญิงที่อยู่รอบกายเขาก็ทั้งสวยทั้งเร่าร้อน แต่ก็ไม่เห็นจะมีใครผูกมัดเขาเอาไว้ได้สักคน....สิ่งที่เขากำลังหลงใหล มันอาจจะเป็นเพราะความเย็นชาของใบหน้าที่ไม่เคยสนใจอะไร...แม้แต่ความตายนั่นก็ได้
เขาอยากจะลองดี....ว่าคนแบบนี้จะทำให้เขามีหัวใจขึ้นมาได้หรือเปล่า?
หนึ่งเป็นคนตาย...
กับอีกหนึ่งคนที่หัวใจหายไป...
จะอยู่คู่กันได้ไหม...เขาอยากรู้...
นัยน์ตาสีขี้เถ้าลืมตาขึ้นมาก่อนจะพบว่าที่แผ่นหลังนั้นมันว่างเปล่า
เด็กนั่นกลับไปแล้ว?
แต่ในขณะที่ตั้งใจจะเดินไปหยิบเสื้อมาสวมใส่ นัยน์ตาก็เหลือบไปเห็นกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ
บนกระดาษสีขาวมันถูกเขียนด้วยลายมือที่อ่านง่ายเอาไว้ว่า
“ ผมกลับไปก่อนนะครับ...บอกตามตรงว่าไม่อยากจะเห็นหน้าคุณเลย...แต่ว่า! ถ้ารู้วันแข่งของผมเมื่อไหร่จะมาบอกอีกทีนะครับ! แล้วก็...ชื่อของผมคือ เอเลน เยเกอร์ ไม่ใช่เด็กเหลือขอ!”
ทำไมกันนะ....ไอ้ประโยคอวดดีเหล่านี้มันถึงชวนให้อยากกระทืบด้วยความรักสักทีสองที.....ทำไมเขาไม่ขย๋ำมันเป็นก้อนๆแล้วปาลงถังขยะไป...
ริมฝีปากได้แต่บ่นออกมาเบาๆว่า
“ ใครจะไปกันเล่า ไอ้เด็กเหลือขอ”
เสียงนกยังคงร้องเข้ามาในหูเหมือนอย่างทุกทีที่ยามเช้ามาเยือน...แต่ดูเหมือนเช้านี้จะมีอะไรแปลกไปก็ไอ้ตรงที่ร่างกายมันเหมือนถูกรัดเอาไว้จนกระดุกกระดิกไปไหนไม่ได้เลยแบบนี้
นัยน์ตาสีมรกตเปิดขึ้นมามองอย่างงัวเงีย ก่อนจะพบว่าสิ่งที่มันรัดร่างกายของตนอยู่คือท่อนแขนแข็งแรงคู่หนึ่ง ดวงตาจึงได้แต่มองมันอย่างตื่นตะลึง
“ นี่แก!! ขึ้นมานอนตรงนี้ได้ไง ถอยไปนะ!!” ร่างบอบบางดิ้นขลุกขลักจนคนที่นอนเกยหน้าเอาไว้กับไหล่บางจำต้องเปิดตาขึ้นมาก่อนจะยิ้มระรื่น
“ อรุณสวัสดิ์” เสียงทักกับท่าทางที่ราวกับว่าพวกเขาเป็นคู่สามีภรรยาที่กำลังอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามันนี่มันอะไรกัน ร่างที่ดิ้นหลุดไปจนได้จับหมอนขึ้นฟาดร่างสูงใหญ่ไม่ยั้ง
“ โอ๊ย!...นี่ชั้นเป็นคนเจ็บนะ....ก็ข้างล่างมันหนาวใช่ไหมล่ะ นายก็ใจร๊ายใจร้าย ปล่อยชั้นนอนอยู่ตรงนั้นได้ผ้าห่มซักผืนก็ไม่เอาไปให้” เสียงน่าหมั่นไส้ที่โอดครวญออกมานั่นไม่ได้ดูน่าสงสารเลยสักนิด แล้วมันก็ยิ่งทำให้หมอนในมือบางฟาดลงไปมากกว่าเดิม
“ อย่างแกน่ะ หนาวตายไปเลย นี่แน่ะๆ!!” แล้วเสียงตุบตับก็หยุดลงเมื่อมือใหญ่คว้าตัวผู้ช่วยชีวิตที่คิดจะฆ่าตนทิ้งด้วยหมอนนิ่มๆนั่น ก่อนที่สองแขนแข็งแรงจะกอดรัดร่างบอบบางให้ลงมานั่งอยู่ในอ้อมแขน แน่นอนว่าคนถูกจู่โจมยังคงดิ้นไม่หยุด
“ นี่....ขอบคุณนะ” แต่แล้วถ้อยคำที่กระซิบออกมาด้วยเสียงทุ้มทรงพลังก็ทำเอาร่างที่ดิ้นอย่างเอาเป็นเอาตายถึงกับนิ่งงันไป ใบหน้าสวยร้อนผ่าวอย่างที่ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร
แค่ทำให้เขาหลุดมาดลุกขึ้นมาไล่ฟาดด้วยหมอนได้นี่ก็นับว่าเหนือความคาดหมายแล้วนะ...แล้วหมอนี่ยังจะ.......
“ ถอยไป...ชั้นจะลงไปข้างล่าง...” รีบสะบัดหน้าหนีเพราะกลัวอีกฝ่ายจะมองเห็นรอยแดงที่แก้ม
ท่อนแขนแข็งแรงยอมปล่อยออกแต่โดยดีก่อนที่ร่างทั้งสองจะเดินลงบันไดมา แล้วก็พบว่า....เจ้าของบ้านอีกคนนั้นกลับมาแล้ว...
ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งกว่าใครเปิดประตูเข้ามาเองเพราะพวกเขาไม่เคยล็อคบ้าน นัยน์ตารีขวางกวาดมองเป็นเชิงถามว่าเมื่อกี้นี้เสียงอะไร ใบหน้าสวยจึงแค่ส่ายหน้าว่าไม่มีอะไร แต่แล้วร่างกายที่กำลังจะหันหลังกลับกลับต้องนิ่งค้างไป....เมื่อร่างสูงใหญ่ของสัตว์บาดเจ็บที่เด็กนั่นไปเก็บมาเดินเข้ามาอยู่ในสายตา
จู่ๆมือแข็งแรงก็คว้าหมับไปที่ข้อมือบางก่อนจะลากร่างของอีกคนออกไปพร้อมกัน
“ เอ๊ะ?” ใบหน้าสวยได้แต่อุทานอย่างตกใจ ก่อนที่แรงลากจะหยุดลงหลังจากที่แผ่นหลังบอบบางกระแทกเข้ากับผนังของห้องยิมที่อยู่ตรงกลางระหว่างบ้านทั้งสองปีก
“ แกรู้ใช่ไหมว่าหมอนั่นมันเป็นมาเฟีย?” เสียงเย็นเชียบเอ่ยออกมาพร้อมกับสายตาคาดคั้น
“ ...........” ทำให้ใบหน้าสวยได้แต่ก้มลงอย่างยอมรับ ว่าตนรู้....
“ บอกกี่ครั้งแล้ว...ว่าอย่าไปยุ่งกับพวกมาเฟีย...อย่าทำอะไรโง่ๆนะฮายาโตะ” ใบหน้านิ่งยังคงกดดันจนบรรยากาศเริ่มอึดอัด คนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าถอยห่างออกมาก่อนจะเดินจากไป ทิ้งเพียงคำพูดที่ทำให้นัยน์ตาสีมรกตถึงกับเบิกกว้างเอาไว้
“ หมอนั่นเป็นคนของวองโกเล่...ชื่อของมันคือ ยามาโมโตะ ทาเคชิ!”
คำว่า “วองโกเล่” ลอยก้องอยู่ในหัว จนตอนนี้สิ่งที่เข้ามาอยู่ในสายตาของร่างโปร่งบางจนรู้สึกหลอนก็คือคำว่าวองโกเล่...
เจ้าของผมสีเงินเดินกลับเข้ามาในบ้านก่อนจะเดินไปหยิบผักและน้ำสลัดในตู้เย็นออกมา ใบหน้าที่ดูนิ่งค้างไปทำให้คนที่นั่งสบายๆอยู่ที่โซฟามองอย่างสงสัย
“ ดุจังน้า...พี่ชายคนนั้น...เค้าเป็นแฟนนายหรอ?” ใบหน้าคมหันไปถามคนที่แกะผักอยู่หลังเคาน์เตอร์ด้วยน้ำเสียงเหมือนลองเชิง
“.......ไม่ใช่....” ถึงใบหน้าสวยจะตอบออกมาแบบนั้นแต่ความห่วงใยที่ผู้ชายคนนั้นมีให้เด็กนี่ เขาก็รับรู้ได้
“ ถ้างั้นเป็น?” ร่างสูงยังคงถามทีเล่นทีจริง แต่ใบหน้าสวยกลับนิ่งไป มือบางหยิบมีดหั่นผักขึ้นมาก่อนจะมองประกายคมกล้าของมันด้วยสายตามืดมน
คำที่จะอธิบายสายสัมพันธ์ที่ไม่มีจุดเริ่มต้นและไม่มีจุดสิ้นสุดนี้ได้ก็คงจะเป็น.....
“ .......ผู้ปกครอง....ละมั้ง” ใบหน้าสวยตอบออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่ง เพราะรีไวเป็นทั้งพ่อ เป็นทั้งพี่ชาย เป็นทั้งเพื่อนที่ร่วมเป็นร่วมตายด้วยกันมา....ถ้าไม่มีผู้ชายคนนั้น...เขาก็คงจะไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้
“ เห๋?.....”
“ เมื่อก่อน...ฉันกับหมอนั่นเคยอยู่บ้านเด็กกำพร้าในเวโรน่าด้วยกัน....” ไม่รู้ว่าทำไมถึงหยุดไม่ได้ที่จะเล่าออกไปทั้งๆที่อีกฝ่ายเป็นผู้ชายแปลกหน้า นัยน์ตาสีมรกตยังคงจับจ้องไปที่คมมีดในมือโดยริมฝีปากก็ขยับเป็นคำพูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆ
“ แล้วบ้านเด็กกำพร้าหลังนั้นก็ถูกมาเฟียไล่ที่ เพื่อที่จะเอาที่ดินไปทำอะไรสักอย่าง.....ทั้งๆที่รู้ว่าถ้าไม่มีบ้านหลังนั้นเด็กอีกร้อยชีวิตก็คงไม่มีที่อยู่ เพราะแค่ลำพังซิสเตอร์ก็คงไม่มีปัญญาหาบ้านหลังใหม่ให้ได้หรอก....และเมื่อไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมไป....พวกมันเลยเผาจนอาคารทั้งหลังจนวอดวาย....พวกมันตั้งใจจะย่างสดเด็กทุกคนในบ้าน...แต่หมอนั่นก็ช่วยชั้นออกมาได้แค่คนเดียว...ช่วยชีวิตชั้นออกมาพร้อมกับแผลเป็นบนแผ่นหลัง” เรื่องสลดหดหู่ที่ถูกเล่าออกมาจากริมฝีปากสีระเรื่อทำให้ใบหน้าคมถึงกับนิ่งไป
“ แกคงไม่อยากฟังหรอก...ว่าชีวิตข้างถนนของเด็กสองคนมันเป็นยังไง...มันบัดซบขนาดไหน แกคงไม่อยากรู้หรอก...” นัยน์ตาสีเปลือกไม้มองไปที่ใบหน้าสวย...ที่เย็นชาแบบนั้นก็คงเป็นเพราะอดีตที่โหดร้ายนั่น...เพราะถ้าไม่ผ่านอะไรมาเยอะ...ก็คงจะเล่าเรื่องที่ทำร้ายหัวใจของตนเองออกมาด้วยใบหน้าราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไรแบบนี้ไม่ได้ แล้วประโยคถัดมาก็ทำให้ใบหน้าคมต้องตั้งใจฟัง
“ รู้ไหม...ว่ามาเฟีย แฟมมิลี่นั้นมันชื่ออะไร....” ร่างสูงใหญ่รู้สึกหนาวไปถึงสันหลัง เมื่อนัยน์ตาสีมรกตที่มองมามันเต็มไปด้วยความมืดมน
“ วองโกเล่ยังไงล่ะ”
แล้วหลังจากที่จบประโยค มีดหั่นผักในมือบางก็จ้วงเข้ามาหาร่างสูงใหญ่ที่เอี้ยวตัวหลบไปได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด คมมีดจึงไปปักอยู่ที่พนักพิงของโซฟา ร่างสูงใหญ่พยายามจับตัวคนที่ดูเหมือนจะคุ้มคลั่งแต่ร่างบอบบางนั่นก็แข็งแรงไม่ใช่น้อย ปลายมีดถูกดึงออกมาก่อนจะตรงเข้าหาร่างสูงอีกครั้ง นัยน์ตาสีมรกตที่ไม่สะท้อนสิ่งใดแบบนั้นเขารู้จักมันดี
เพราะมันคือสายตาของนักฆ่า....แบบที่เขาเองก็มี
“ เฮ้!” เพราะยังไม่รู้แม้แต่ชื่อเลยไม่รู้จะเรียกร่างที่กำลังตั้งใจจะฆ่าเขาด้วยมีดทำอาหารนั่นยังไง ร่างสูงใหญ่จึงได้แต่หยิบดาบขึ้นมารับ
ร่างบอบบางตวัดขาจนร่างสูงใหญ่ล้มหงายหลัง ดูท่าว่าที่บอกว่าเคยผ่านเรื่องเลวร้ายมามากจะไม่ใช่แค่เรื่องโกหกซะแล้ว เพราะทักษะการต่อสู้ถึงจะไม่ได้เป็นของสำนักไหนทว่ามันกลับแข็งแกร่งยิ่งกว่าใคร....เพราะมันคือทักษะที่ใช้เอาตัวรอด
จึก!!!
คมมีดเฉียดใบหน้าคมไปแค่เซนเดียว แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของคนที่กำลังโดนเล่นงานก็ยังไม่หายไป
ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งถูกใจ....
ร่างบอบบางที่นั่งคร่อมอยู่บนร่างสูงใหญ่ยังคงง้างมีดขึ้นมาจ้วงแทง
เคร้ง!!!
ดาบญี่ปุ่นถูกยกขึ้นมารับทั้งๆที่อยู่ในฝัก เสียงอะไรบางอย่างที่คุ้นเคยดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้ใบหน้าคมเผลอหัวเราะออกมาในลำคออย่างเสียดาย
“ หมดเวลาสนุกแล้วละนะ...ฮะฮะ” และจากที่เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ จู่ๆเรี่ยวแรงมหาศาลก็ถูกดึงออกมาใช้ แล้วร่างสูงใหญ่ก็พลิกลำตัวบางให้กลับลงมานอนอยู่ใต้ร่างของตน มีดหั่นผักถูกปัดกระเด็นไปไกลก่อนสองมือจะกดลงไปที่ข้อมือเล็กๆ
ใบหน้าที่ยังคงยิ้มอย่างชอบใจถูกมองสวนกลับมาด้วยใบหน้าเคียดแค้น นัยน์ตาสีมรกตที่แสนจะเย็นชายามที่มองหน้าเขามันกลับเร่าร้อนจนไม่อยากจะจากไปเลยแหะ
ว่าแล้วร่างสูงใหญ่ก็โน้มตัวลงไป ก่อนจะฝังร่องรอยเอาไว้บนต้นคอขาวผ่องให้คนโดนกระทำได้แต่ดิ้นพล่าน
“ ไอ้บ้า!! ปล่อยนะ!! ชั้นจะฆ่าแก!”
“ ยินดีเสมอครับที่รัก...” เสียงเฮลิคอปเตอร์ดังอยู่ที่เฉลียงกลางบ้าน ลมรุนแรงพัดจนเศษไม้ใบหญ้าแถวนั้นปลิวกระจาย นัยน์ตาสีเปลือกไม้มองเห็นร่างของผู้ปกครองคนนั้นวิ่งออกมาดู รอยยิ้มที่มุมปากจึงถูกส่งให้กับคนที่ตนกดเอาไว้
“ แล้วเจอกันใหม่นะ” แล้วร่างสูงใหญ่ก็คว้าดาบแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ฝ่าเท้ากระโดดเทคตัวขึ้นไปก่อนที่ฝ่ามือจะคว้าบันไดเชือกของเฮลิคอปเตอร์เอาไว้ได้ ร่างสูงใหญ่ลอยขึ้นไปก่อนที่ปลายมีดหั่นผักจะพุ่งเลยไปปักลงบนผืนหญ้าอย่างน่าเสียดาย
“ อย่าให้เจอว่าเดินอยู่ข้างถนนที่ไหนนะไอ้บ้า! ชั้นจะขับรถทับแกให้เละเลยคอยดู!!”
ใบหน้าคมก้มลงไปมองคนที่ยืนโวยวายอยู่บนเฉลียงไม้อย่างชอบใจ....คนที่จะทับต้องเป็นฉันสิ ไม่ใช่นาย
มือใหญ่ล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมา แล้วกรอกเสียงแข่งกับเฮลิคอปเตอร์ลงไปตามสายว่า
“ นี่...ฉันมีกลิ่นไม่ค่อยดีมาบอกผู้คุมกฎอย่างนาย เผื่อจะไปไล่ขย้ำ...เป็นคดีเมื่อสิบปีก่อน....ที่เวโรน่า”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To be con.
หลังจากที่ถูกแผ่นหลังลายมังกร(?)ดาเมจขนาดมหาศาล ก็รีบตรงดิ่งกลับบ้านมานั่งปั่นแบบเป็นบ้าเป็นหลังเลยค่ะงานนี้ โฮกกกกกกกกกกกกกกกกก แอบแปะรูปเผื่อใครยังไม่เห็น คือแบบว่าถ้ายามะจะเท่ห์ขนาดนี้ มี๊จะไม่ทน ส่วนหลังหนูก๊กก็ทำเอามี๊ไปเกิดบนดาวลูกไก่เป็นเพื่อนจูไดเมะ(?)เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โฮววววววว ขอบคุณน้องขวัญผู้ล่อลวงจนยัยมี๊ขึ้นจากบ่วงไม่ได้เบยนะคะ *กอดดดดดด*
แล้วก็อีกหนึ่งการล่อลวงจากคน(ชื่อChinji Yu)อีกคน เป็นเพลงที่ฟังแล้วจิ้นบรรเจิดมว๊ากกกกกก อลังจนขนลุกอ่ะท่อนที่แข่งรถ โฮววววว ขอบคุณมากๆๆนะค้า
แล้วก็ขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์จากตอนที่แล้วมากๆๆๆๆจริงๆค่ะ คือสำหรับฟิคเรื่องนี้ยัยมี๊ก็ไม่มีความมั่นใจเวลาลงเหมือนเดิม แหะแหะ ก็เล่น feat.กันแบบไม่ถามความเห็นใคร เลยคิดว่าอาจจะไม่มีคนอ่าน แต่คอมเม้นต์แต่ละอันก็ทำเอาน้ำตาจะไหลพราก ขอบคุณมากๆๆนะคะ สัญญาค่ะ ว่าจะแต่งอย่างเต็มที่เพราะไม่ใช่แค่รีเอ หรือยามะก๊ก....แต่มันคือทั้งรีเอและยามะก๊ก!!! แล้วก็....หัวฟิคขึ้นว่า ดราม่า เพราะงั้น....ฮ่าๆๆๆๆ
แล้วเจอกันตอนหน้าค่า ^ ^
ปล.ลืมไปว่ามีคนเม้นต์ถามเอาไว้ว่าอายุของแต่ละคนเป็นยังไง
ก๊กกับเอเลน 15 ทั้งคู่ค่ะ ส่วนรีไวซามะ 30 และอิเนียน 21คือตอนแรกกะจะให้เนียนอายุเท่าๆก๊ก แต่กลัวรีไวซามะไม่มีเพื่อนเข้าคุกเลยให้ยามะไปเป็นเพื่อน(โดนใบมีดเสียบคู่)
ปล.ลืมไปว่ามีคนเม้นต์ถามเอาไว้ว่าอายุของแต่ละคนเป็นยังไง
ก๊กกับเอเลน 15 ทั้งคู่ค่ะ ส่วนรีไวซามะ 30 และอิเนียน 21
อรั้ย!!! รีบมาอย่างว่องเลยค่ะพี่กวาง
ตอบลบคู่แรกดูขมขื่นเล็ก ๆ แต่คู่หลังดูสดใส?? และขมขื่นยิ่งกว่า
ถึงจะกลับมาเก็บหนูเอเลนได้
แต่รีไวล์ก็ยังคงโหดร้ายกับเอเลนเหมือนเคย
โหตร้ายแบบนี้ แม่ยกชอบนะ ><
เอเลนนี่ก็แบบ มุ่งมั่นมากอะ ยังมีการบอกชื่อแซ่ให้เค้ารู้อีก
ทำไมไม่ให้เบอร์โทรไปเลยล่ะน๊า จะได้ตามตัวได้ง่าย ๆ
ส่วนคู่ยามะก๊ก อ้ากกก คู่นี้ตอนนี้น่ารักมากเวอร์ค่ะ
ตอนแรก ๆ ดูใส ๆ เนียน ๆ ตามแบบฉบับยามะ เนียนไม่มีที่สิ้นสุดเลยจริง ๆ แต่ตอนหลัง ๆ ชักออกแนวแค้นฝังแฟมิลี่ อย่างนี้สิถึงจะมันส์
ชีวิตของเอเลนกับหนูก๊กมีเบื้องหลังอย่างนี้เองสิน๊า น่าสงสาร
เพราะฉะนั้นนะ ยามะ นายต้องชดใช้แทนแฟมิลี่ด้วยการดูแลเจ้าหญิงน้อย?? ของแกไปตลอดชีวิตนะ ฮึ่มมม
ดูเหมือนทั่นฮิจะมีบทกับเค้าด้วยใช่ม๊า // รอมานาน อิอิ
สู้ ๆ นะคะพี่กวาง รักษาสุขภาพน๊า ^^
กร๊ากกกกกกกกกก รู้งี้ขวัญส่งรูปไปนานแล้วค่า 555 ดีใจที่ล่อลวงสำเร็จ เอ้ย ที่มีตอนที่2มาให้อ่านเร็วๆนะคะ สนุกอ้าาา เอามาอีกนะ เอามาๆ
ตอบลบเอเลนนะเอเลน..โดนแกล้งไปขนาดนั้นยังจะไปยั่ว(?)เค้าอีกแหนะ เดี๋ยวเฮียเค้าก้หน้าแก่...เอ่อ....หน้าบูดขึ้นหรอกลูก เดี๋ยวโดนทำอะไรๆมากกว่านั้นไม่รู้น้าา มีการขู่ว่าขุ่นท่านรีไวลย์จะติดคุกอีก ฮาาา อย่างเฮียแกคงจะกลัวหรอก ต้องขู่ว่าเดี๋ยวไม่รักนะ
จิ จำไว้นะเอเลน!!
แอบกรี๊ดตอนอันธพาลเจอเฮีย เฮ้ยยยยย ตกลงก๊กเด็กเฮย์โจวเหรอ!!! ไม่ธรรมดาแล้วว้อยยยย(ออกอาการฟินแบบแปลกๆ)จนมารู้ทีหลังว่าอ้อ เฮียเป็นผู้ปกครองก๊ก(?)ที่ว่าละสายตาจากไปไม่ได้นี่คืออารมณ์คุณพ่อหวงลูกสาวสินะก๊ะ ฮี่
ก๊กกกกก บอกแล้วเห็นมั้ยง่าอิเนียนมันไม่เป็นไรหรอกกก มันเป็นอมตะค้าาา วันหลังไม่ต้องไปทำแผลให้มันนะแล้วงับเพิ่มไปซักรอยสองรอยด้วย!!(เดี๋ยว) หมั่นไส้ที่ไอ้ตัวแสบมันมาเดินปร๋อในบ้านคนอื่นแบบไม่มีอาการเจ็บแผลซักนิด แล้วนั่นยังไง ไปนอนกอดเค้าเฉย!!ไอ้ตัวเนียนนนน แถมตื่นมาเจอพ่อตาด้วย(?) เฮย์โจวนี่อารมณ์คุณพ่อเห็นลูกสาวพาผู้ชายมานอนบ้านใช้มั้ย!!
//ขอตั้งสติ2วิ รู้สึกตัวเองโฟกัสไปที่พ่อลูกคู่นี้จัง(?)
ก๊กตอนจะเชือดสามีทิ้งนี่เท่มากค่าาา(?)แทงมันไปเยอะๆก่อนจะโดนแทง(?)นะก๊กน้าา แฮ่กกกก รู้สึกว่ายิ่งพยศมันยิ่งถูกใจตัวเนียนสุดๆ อย่างว่าหมอนี่มันแอบเอ็มอยู่ แต่ตาย ณ ชอตที่เนียนเรียกก๊กว่าที่รักมากเลยอะพี่กวาง รู้สึกว่าเนียนเรื่องนี้มันแสบยังไงไม่รู้ ฮาา แต่ขวัญชอบนะ ก๊กก้ดูมีอดีตดี คนอารั้ยย โหดแล้วสวยย
เหมือนจะมีพ่อนกโผล่มาด้วย แสดงว่าจริงๆไม่ใช่ฝีมือวองโกเล่สินะคะ
ขวัญจะหารูปต่อไปมาล่อลวงพี่กวางนะคะ 5555 เอาตอนต่อไปมาน้าาา รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
หลงรักรีไวซัง แลดูเป็นผู้ชายอบอุ่น เอะอะก็หนูก๊ก >< (แล้วที่ทำกับเอเลลนหละ) ก็นั่นเด็กมันยั่ว ฮ่าๆๆๆ
ตอบลบแหม่แต่เอเลนก็น่าทำโทษจริง ๆ นั่นแหละ ใสซื่อจนน่ารังแก ฮ่าๆๆ ชอบตอนที่ถามว่าใส่เสื้อผ้าได้ไหม น่าร๊ากกกก
ส่วนยามะยังคงเนียนเสมอต้น เสมอปลาย ก็ว่าอยู ถึก ๆ อย่างแก แค่นี้ไม่น่าจะเป็นอะไร
มาบ้านหนูก๊กครั้งน่าก็อย่าลืมเอารูปตัวเองมาใส่กรอบนะคะ หนูก๊กจะได้มีอะไรให้จดจำ
ถ้าไม่โดนพี่ชายบ้านข้าง ๆ เอาไปเผาซะก่อนนะ ฮ่าๆๆ
ขอบคุณนะคะ ^^
ชอบยามะเนียน ชอบเอเลนเด็ดเดี่ยว ชอบลูกถีบรีไว และชอบก๊กโหด! แต่ที่สุดยอดคือคุณพ่อรีและลูกสาวก๊ก อีกอันคือเวโรน่านี่แหละ ให้อารมณ์โรมีโอกับจูเลียตสินะ รอต่อน้า
ตอบลบรอยแผลนั่น.......มันเป็นของฮายาโตะ >//////////< อ่าาาา~
ตอบลบคือ sm มีโซ่ แซ่ กุญแจมือ เทียนไข เอาไฟลนกันงี้!?!(นี่คิดอัลไล!?!!!!) //โดนถีบออกนอกบล็อค
.
.
เอเลนแอบน่ารักอ่ะ ชวนเฮย์โจวไปดูแข่งรถทามิยะด้วย
“ คือว่า....ใส่เสื้อผ้าได้ไหมครับ?” คือชอบ ชอบแบบไม่มีเหตุผล ฮ่าาา~
คุกคุกคุกคุก//ขอเบิกตัวทนายจากเฟอรารี่ด้วยคนค่ะ
.
.
เอาแล้วๆ ยามะเริ่มอยากได้(?)ก๊กแล้ว ฉุดกลับไปด้วยซะเลยสิคะ คุกคุกคุกคุก
เชื่อว่า วองโกเร่ก็มีทนายเก่งๆไม่แพ้เฟอรารี่แน่ๆ
.
.
.
เริ่มมีกลิ่นอายความดราม่าโชยมา
หนูก๊กต้องชอกช้ำระกำใจอีกแล้วใช่ไหมคะ? TTwTT
.
.
ปล.คุณฮิมา 805918 #ผิด //โดนถีบออกนอกบล็อคอีกรอบ
ปล2 รีไว 30 ยามะ 21 ก๊กเอเลน 15 นี่มัน. . หนุ่มใหญ่เร้าใจกับเด็กน้อยวัยใสน่ารัก #ผิดมหันต์
//โดนถีบออกนอกบล็อครอบที่3
ปล3 สงสัย 17ฝน จะจบที่ HBD YamaGoku แบบดาวตกแน่ๆ อิอิ แซวเล่นนะคะ
คุณกวางจะปั่นเรื่องไหนก่อนก็รออ่านทั้งนั้นแหละค่ะ ^______________^
เป็นกำลังใจให้เสมอ สู้ๆ ชอบทุกเรื่องของคุณกวางอยู่แล้วค่ะ
แต่ถ้าได้อ่าน Bloomimg Heart ต่อก็คงจะฟินมิใช่น้อยเลยนะคะ ฮี่_________ฮี่
//วิ่งหนีออกจากนอกบล็อคก่อนจะโดนถีบรอบที่4
ใจร้าย!
ตอบลบคำเดียวกระแทกต่อมโมเอ้แทบจนไปดิ้นกับพื้นนนน น่าร๊ากกกกกก
ส่วนคุณท่านรีไว....เด็กสิบห้าน่ะค่าาาาา อาชญากรชัดๆ แค่นิ้วก็ถือว่าเสียตัวนะคะ! รับผิดชอบซะด้วยคร้าาาา
ยามะเนียนตลอดดดดด เนียนนนนนน น่าให้ก๊กจิ้มพุงสักเเผลสองนะะะะ
ผู้คุมกฎปลายสายนั่นคุณฮิแหง คดีนั่นมันต้องไม่ชอบมาพากลชัวร์ๆ วองโกเล่ไม่ทำไรแบบนี้หรอกเนอะะะ
//อวยซือคุงขั้นสุด
กกระทืบด้วยความรักสักทีสองที
ตอบลบเอ๊!!!!!!!!!!!!!!!
555555+
สำอรเอสเหมือนเดิมเลยน้า คิคิ
เตรียมหาของมาล่อพี่กวางต่อไป.....จะได้มาปั่นต่ออีกเร็วๆ
ตอบลบรอรีเอเนี่ยแหละ5555555 ต่อนี้กำลังฟินไททันอย่างรุนแรง
ป๋า30มากินเด็กที่อ่อนกว่าตัวเองรอบนึงนี่มันช่าง โอ้วววววววววสุดยอดดดดดด
ส่วนยามะก็21....มากินก๊ก15....แหม...แม้จะไม่หนักเท่าเฮย์โจวเอเลน...น้องๆรุ่นแม่มากินรุ่นลูก(โดนฟันหลังคอ)
แต่ก็เข้าข่าย "คุก" ด้วยกันทั้งคู่แล้วล่ะ ....บางทีอาจไม่ต้องถึงทนายก็ได้นะ...
เพราะมีนักปราชญาสะบัน....เอ๋....จักรพรรดิเพนกินได้กล่าวไว้ว่า.... แค่กฎหมายไม่รู้...ตำรวจไม่รู้ก็.....(ดีดนิ้วเป๊าะ)
เฮียรีไวครับ...เอเลนน่ะ เขายังเด็กอยู่นะครับ...อย่าทำอะไรรุนแรงสิ ถึงจะดื้อจนน่าจับตีก้น...ก็..........
ตีไปเถอะ(เฮ้ย!!!!) แบบว่าตีให้ร้องครางระรัวหายใจแทบไม่ทันไปเลยนะ(โดนเอเลนร่างไททันกระทืบไส้แตก)
แหม มีการนัดเดทกันด้วยนะสองคนนี้ ฮุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฮิ้วววววววว
ส่วนยามะก็........เนียน.
-----------------------ตัดจบปิดประเด็น
มีผู้คุมกฎโผล่มาด้วย....ฮิบาริสินะ...ไหนยังจะวองโกเล่อีก มีความรู้สึกว่าจะมีสึนะมาคู่กะฮิบะป่าวเนี่ย(แอบหวังให้มีแวบๆนะเนี่ย555)
ปล.เหมือนแว่วๆพรายกระซิบว่า "ดราม่า"
รับได้นะครับ....แต่ช่วยแฮปปี้เอนด้วยนะเน้~~~~~~
ปลล. "อย่าดองนะครับพี่~~~~"( ^ ^)----+
ถึงกวางซามะที่เคารพรัก(?)
ตอบลบคนบ้าคนนี้อยากจะกระโจนกอดกวางซามะไว้แน่นๆนานๆ(?)เลยล่ะค่ะ
อ๊ากกกกกกกกกกก ไม่รู้จะหาคำไหนมาสครีมให้เป็นผู้เป็นคน 55555
ได้อ่านตอนต่อแล้วมันมีความสุขมากๆๆๆๆจริงจัง > _______ <
อะไรคือการที่แค่ตอนสองท่านท่อนขาที่เคารพ(?) ก็จัดการลากภรรยาเข้า
โรงแรม!!!!!!!!!!!!!!แล้ววววววว
ตอนที่แล้วกระหม่อม(?)แค่กระตุกคอเสื้อเฮย์โจวแบบหยุมหยิม(?)
ให้ดูคู่ตาเนียนว่าเค้าถึงขั้นเจอกันครั้งแรกก็จูบแก้มกันไปแล้ว....เอง.....
ตอนนี้เลยจัดให้กระหม่อมซะ...........โฮกกกกกกกกกกกกกก
(แดดิ้นด้วยความสุขบนกองเลือดตัวเอง)
#บอกตรงๆว่าทุกวันนี้อยากได้ยาระงับประสาท(?)มาก 555555555
ขึ้นตอนมาเอเลนก็น่าฟัดโฮกกกกกกกกก คำว่าใจร้ายนั่นน่ะ
คำว่าใจร้ายแล้วบ่นถึงไอ้คนที่ทำเป็นแต่หน้าปลาตาย(?)ท่อนขาสวย(?)นั่นน่ะ
มันจะดาเมจไปแล้วววววววววววว โอ่ยยยยยย อยากจิฟัดดดดด > [ ] <
เอเลนเวลาบ่นกระปอดกระแปด(?)
ในเวลาที่ตัวเองกำลังลำบากแต่ก็ไม่ยอมยอมแพ้แบบนี้น่ะ
มันน่ารักมากเกินไปจริงจังจริงๆ ฮืออออ คลั่งงง T [ ] T )/
ปากก็เอาแต่บ่น ด่าว่าเฮย์โจวใจร้าย โหดร้าย รู้ทั้งรู้แต่ก็ยังจะแต่อยากเข้าหาแบบนี้น่ะ
รู้ตัวมั้ยยยยยว่าแบบนี้เขาเรียกว่าตกหลุม(?)ไปแล้วววววววว
ตอนที่บรรยายว่าท่านท่อนขาที่เคารพอยากจะจบเรื่องกับเด็กดื้อ อยากจะปิดเกมไว
เพราะไม่ใช่คนที่จะทนต่อความน่ารำคาญได้นาน
.......ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองกำลังหัวเราะแบบฮันซี่ซัง(?)ขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว
5555555555555555555 ก็นะในใจนี่เถียงคอแหก(?)ว่า
ไอ้ที่ว่าจะไม่ทนน่ะ มันไม่ได้หรอกนะ(?)
พรหมลิขิตเค้ากำหนด(?)ไว้แล้วว่าต้องทน(?) หลังจากนี้(?)คงจะต้องทนหนักเลย
ด้วย(?)
ทนคอยหวง คอยหึงคนน่ารักแสนดื้อคนนี้ไปตลอดชีวิต(?)นั่นล่ะ > ___ <
ฉากในโรงแรมถึงจะโฮกฮากกมากกกกจนแดดิ้นตาย
แต่ในฝั่งด้านคุณธรรม(?)ที่หลงเหลืออยู่(?)ในตัวเอง
เค้าก็สงสารเอเลนน้า T __ T แต่มันตีกันมั่ว(?)ระหว่าง
กดอีก กดอีก กดอีก แฮ่กแฮ่ก กับ โหดร้าย โหดร้าย คุกแน่ คุกแน่(?) 5555555555
แต่จริงๆแล้วเราคิดว่ากวางซามะวางพลอตได้ดีมาก
ในความโหดร้ายที่แสดงออกมาแต่ก็มักจบลงด้วยความห่วงใยที่ส่งมาห่อหุ้มตัวอีกฝ่าย
กันทุกสิ่งจากคนภายนอกเสมอ
ถามว่าเฮย์โจวแรงไปหรือเปล่า
ทำไมต้องอยากตัดความน่ารำคาญด้วยการลงมือเอง(?)แบบนี้
ถ้ารำคาญจริง ไม่ใส่ใจจริงให้ใครมาทำก็ได้ไม่ใช่เหรอ?
จะเมินเฉยเห็นเป็นอากาศธาตุก็ได้นี่น่า แต่เพราะทำไม่ได้ใช่มั้ยล่าา 555555
#นี่ฉันจะมาวิเคราะห์อาร๊ายยยยย #นี่ไม่ใช่การหาตัวแปรต้นตัวแปรตามนะเฟ้ยยย
เค้าชอบที่เอเลนบอกมากๆๆเลยล่ะค่ะ ที่ให้เฮย์โจวไปดูการแข่ง
มันบ่งบอกได้จริงๆว่า สิ่งที่เอเลนทำมันไม่ใช่การเล่นของเล่นอย่างที่ถูกดูถูกมาตั้งแต่
แรก
มันคือความมุ่งมั่นกับความฝันของตัวเองอย่างไม่ยอมแพ้
แต่พาร์ทนี้ดาเมจสุดของคู่นี้คงไม่พ้น.....เอเลนนอนซุกกับหลังเฮย์โจวววววว
โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก #อยากจิตายให้รู้แล้วรู้รอด
#ไหนบอกจะปิดเกมไววววววววไงล่ะค๊าาาาาาาา
#มันแขวะจนมันต้องโดนท่อนขาที่ถูกจี้ใจดำ(?)เสยจนได้ 55555
เค้าชอบความหลังของคู่รีไวก๊กมากๆๆ
จากที่รู้สึกอิอั๊ง(?)ตั้งแต่พาร์ทที่แล้ว พาร์ทนี้ยิ่งมารู้ว่าสองคนนี้ห่วงใยกันมาแต่แรก
ผูกผันกันด้วยการช่วยชีวิต ยิ่งแดดิ้นตายยยยยยยย > ___ <
ถึงก๊กจะยกให้รีไวเป็นผู้ปกครอง
แต่ ณ จุดนี้ ทั้งผู้ปกครอง กับ ผู้ถูกปกรองก็ห่วงใยอิอั๊ง(?)
แบบไม่อยากยอมรับกันใช่มั้ยยยยยย โฮกกกกกกกกกกกกก
ยังคงชอบความสัมพันธ์อิอั๊ง(?)ที่หาคำอธิบายที่ดีกว่านี้ไม่ได้(?)มากๆเลย 55555
ชอบให้ห่วงกันแบบนี้อ้าาา ชอบๆๆๆ > __ <
(มีต่อ)(มีต่ออะไร!!!)
(ต่อ)
ลบและที่ฟินสุดมันก็ต้องยามะก๊ก!!!!!~~~
#แล้วไอ้ที่พล่ามมาข้างบนนี่มันยังไม่ยาวไปอีกเหรอออออเธ๊อออ
#555555 พยายามจะเป็นผู้เป็นคนแล้วจริงๆนะคะกวางซามะ T _ T
#แต่มันอยากเก็บทุกเม็ด(?)อ่า T __ T
ฟินยามะก๊กจริงจังอ่าาาา กวางซาม้าาาาาาา #น้ำตาจิไหลอย่างปิติ(?)
ตั้งแต่ที่ก๊กแบกลากร่างยามะที่เนียนสลบนั่นแล้ว!!!!!
โอ่ยยยยพ่อสมเนียนนนน(?)จะเนียนขั้นเทพไปไหนนนนน
ตอนที่ก๊กนั่งหอบ บ่นว่ายามะตัวใหญ่ เราดันมโน(?)แบบกลับกันว่า
ก็ถ้าเป็นยามะคงอุ้มก๊กตัวลอยเข้าโซน(?)แบบไม่ต้องหอบ(?)เลยล่ะ #อ๊ากกกกมโน
ทำไมฟ่ะ!!!!! #เสียเลือดตลอดดดด
แล้วไหนจะนิสัยที่ก๊กชอบคิดอะไรในหัว หรือกำลังจดจ้องอะไรอยู่น่ะ
ช่องโหว่จากข้างตัวน่ะพรุนนนแล้วววววน้า > <
โดนตาเนียนลวนลามด้วยสายตาทุกทีสิให้ตาย!!!!! อ๊ากกกก
แล้วไอ้ที่บอกว่าอยากจะเอามาเป็นของตัวเองน่ะ ! ! ! ! ! ! ! ! !
#คนบ้าคนนี้ตายไปแล้วววววววววว #ตายยยยย #ตายยยจริงจังงงงง
อยากจะบอกตาเนียนนนนว่าไม่ต้องมัวคิดว่าจะอยู่คู่กันได้มั้ยแล้ว
ควรคิดว่าถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกัน(?)จะอยู่ได้ยังไงมากกว่า(?) 5555555
แล้วอะไรคือการที่ยามะนอนกอดก๊กไว้ทั้งคืน
หือออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ
> _________ < โอ่ยยยยยยยย พาร์ทนี้ตายแล้วตายอีก(?)
#นี่มันเป็นตัวอะไรฟ่ะ
แล้วตื่นมาโวยวาย ฟาดหมอนนุ่มนิ่มใส่ จบที่โดนกอดรัดพร้อมคำกระซิบ
ตายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย แบบนี้ตายยยยยยยยยยยยย
#ตกลงว่าแกตายมากี่รอบแล้ว 555555
แล้วตอนที่พ่อเนียนเจอพ่อตา(?)อยากจะบอกว่าสัมผัสได้ถึงรังสี(?)ฝั่งเมะ(?)
มันโฮกฮากจริงจัง > ___ <
แล้วยังจะฉากวายุกระหน่ำแทง(?)ด้วยมีดหั่นผักนั่นอีก
รู้อยู่แล้วว่าเรื่องของมีคม(?)ยามะถนัด แต่ไม่คิดว่าจะถนัดจัดการคนสวย
ให้คนอ่านตายได้ขนาดเน้~~~~~~~ ไอ้คำว่า "ที่รัก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" ที่เรียกก๊กน่ะ
แม่เจ้าาาาาาาาาา กวางซาม้าาาาาาา~~~~~~~
แบบนี้จะไม่ให้คลั่งคู่นี้ยังไงไหวววว~~~~ > __ <
ดีใจที่ได้อ่านต่อมากมายจริงจัง ไม่ว่ายังไงก็ชอบฟิคกวางซามะมากๆๆเลยจริงๆน้า
พาร์ทนี้มีชื่อวองโกเล่เข้ามาแล้ว คิดถึงชื่อนี้ชะมัด(?)เลยแฮะ
แล้วก็มีคุณจอมไล่ขย้ำ(?)ด้วย แม่เจ้าจะมาไล่ขย้ำก๊ก(?)ด้วยมั้ยน่ะ #อ่าวเฮ้ยย
รูปลายสักมาเฟียด้านหลัง บอกตรงๆว่าระทวยกรี๊ดแตกตามกวางซามะไปติดๆ
ถ้าก๊กจะสวยขนาดนี้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! จะสวยมากไปแล้ววววว > __ <
ยามะก็เท่มากกกกกกกก เขาเหมาะกันจริงจัง เหมาะกันจริงจังคู่นี้ ฮือออออ T __ T
มโนอยากให้ยามะโอบเอว(?)ก๊กชะมัดเลยยย ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ(?)!!!!!!!
#รู้สึกจะผิดเรื่อง #รู้สึกอันนั้นจะเน้นถังแก๊ส(?)นะ 55555555
ท้ายสุดก่อนที่มันจะกลายเป็นเรียงความวันแม่(?)ไปจริงๆ
#นี่มันเกินเรียงความวันแม่แล้วโฟ้ยยยย #แบบนี้เรียกวิทยานิพนต์(?)ไปเลยดีกว่าาาา
T_____T #เป็นครั้งแรกที่พิมพ์จนมันบอกว่าไม่สามารถยอมรับ HTMLของคุณ!? #อักขระคุณยาวเกินไป(?) #อะไรฟ่ะ!!!! #ก็นิ้วมันไม่ยอมหยุดพิมพ์(?)ง่าาาา #กลัวไม่มีโอกาสเปิดโน้ตบุคง่อกง่อยเพราะงานเข้าด้วย
จะบอกว่าเค้าชอบเพลง O Fortuna มากกกกกกกกกกกกกกกกก ด้วยความที่ว่าเพลงนี้เป็นเพลงสวดของพวก....นักบุญ(?) นักพรต(?) สักอย่าง - __ - (คือเราชอบเพลงแนวอยู่ในโบสถ์มืดๆมนๆ(?)) แต่เพราะชอบเพลงนี้จึงจำได้แค่ว่า O Fortuna แปลว่า โชคโชคชะตา และพอเลื่อนลงมาเจอคลิปชื่อเพลงนี้ก็กรี๊ดแล้ว แต่เปิดดูแล้วกรี๊ดนักเลย ทั้งเพลงคลิปนักแข่งประกอบกับฟิคที่เกี่ยวกับโชคชะตาพรหมลิขิตที่พวกเรามาเจอกันนี่อีก อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ขนลุก!!!!จนต้องขึ้นมาเซิ้ง 555555555 เหมาะมากจริงจัง T ___ T
ปล. แอบลองไป search google ถึงเพลงนี้ อยู่ๆก็อยากรู้ความหมาย(?)
หลังจากที่รู้ความหมายแค่ชื่อเพลง เห็นมีคนนึงแปลไว้ ก็ไม่รู้ว่าเขาแปลถูกไหมแต่ตอนนี้อินกับเพลงนี้ไปกับฟิคของกวางซามะแล้วววว ฮืออออออออ
http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/08/Y8206603/Y8206603.html
http://onedaywheniwasyoung.blogspot.com/2006/11/carmina-burana.html
O Fortuna โชคชะตาล้วนถูกกำหนดมา
เหมือนดั่งจันทราที่มีทั้งเต็มดวง
ค่อยๆเว้าแหว่งจนเหลือเพียงเสี้ยวเล็กๆ
ชีวิตเหมือนดั่งกงล้อที่ขับเคลื่อนไป
จากที่มีกลับกลายเป็นว่างเปล่า
.
.
. ตายสนิท(?)
ปล.สุดท้ายแล้วจริงจัง รักฟิคกวางซามะมากกกกกกกมากกกมากกกจริงจัง
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ~~~~ เค้าคอยsupportอยู่ข้างหลังเสมอน้าาาา
เอเลนนี่ก็รั้นเกิ๊น
ตอบลบโดนเขาพาขึ้นรถซิ่งแล้วมาทิ้งอยู่กลางป่าก็ยังไม่ละความพยายาม
ดีนะที่รีไวล์แวะกลับมาไม่งั้นคงไม่ได้เห็นฉากเกือบเรท
เอ้ย
ไม่งั้นเอเลนคงสาหัสและรีไวล์จะขึ้นแท่นเป็นพระเอกผู้ชั่วร้ายทันที//โดนเฟอรรารี่ปาดหน้า
แต่เอเลนคะ นี่แน่ใจหรอว่าไม่อยากเห็นหน้ารีไวล์อีกแล้วจริงๆ
เล่นเขียนโน้ตไว้ให้ซะขนาดนั้น ฮ่าๆๆๆ
ไม่ไหวนะยามะ
สกิลเนียนไม่เป็นรองใครจริงๆ
บุกเข้าหาแบบถึงเนื้อถึงตัวกันเลยทีเดียว
แถมยังดูเป็นรักต้องห้ามอีักนะ
คือรีไวล์และยามะเข้าใจว่าคนที่เผาบ้านเด็กกำพร้าคือวองโกเล่
แล้วคิดรึว่าจะผ่านด่านผู้ปกครองเขาได้ง่ายๆน่ะยามะ
ได้เวลาขอกำลังเสริมจากท่านฮิมาช่วยไขปริศนาแล้วล่ะ
ปล ถ้ารุ้ว่ามันจะมันส์ขนาดนี้ อ่านนานแล้วค่ะ
โอ้วววว หมั่นไส้ยามะ นี่แกจะเกินไปละนะคาแรกเตอร์แกเนี่ยยยยยย
ตอบลบก๊กออกมาห่างๆมัน ป๋าจัดการมันนนนน!!!!!
เลนลูกป๋าพูดไปงั้นเดี่ยวก้ไปดูหนูแข่ง
แหมมมมม หมั่นไส้ป๋า นี่ย้ำอยู่ได้ว่าตัวเองเลวงั้นงี้
แต่ใจอ่อนอยู่ดี
คุมกฎคุณฮิซามะมีเอี่ยว
ทำไมคนบ้านเฟอรารี่นี้ถึงไดันิสัยเดียวกันเลย พวกซึน!!!!