Psycho Pass S.Fic [Kogami x Ginoza] To be Continue : Ginoza Side


Psycho Pass S.Fic [Kogami x Ginoza]   To be Continue : Ginoza Side


: Psycho Pass Fanfiction
: Kogami Shinya x Ginoza Nobuchika
: Dark Drama
: NC-17



คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ






บรรยากาศภายในกรมความปลอดภัยวันนี้เต็มไปด้วยความเงียบงัน...

มีเพียงเสียงของสายฝนเท่านั้นที่ตกลงมากระทบโสตประสาทของคนที่นั่งเหม่อลอยอยู่หน้าห้องเก็บศพ

ถึงแม้ว่าจะมีเสียงฝีเท้าของใครอีกคนก้าวเข้ามา แต่ใบหน้าคมกลับไม่ได้สนใจจะหันไปมอง....จะบอกว่าโคงามิ ชินยะ ไม่ได้ยิน ไม่รับรู้เลยก็ว่าได้....ว่ามีสายตาของใครอีกคนเฝ้ามองมาอย่างห่วงใย

ร่างโปร่งบางหยุดยืนอยู่ตรงหน้าโคงามิ ใบหน้าเรียวภายใต้กรอบแว่นก้มลงไปหาคนที่ยังนั่งนิ่ง  นัยน์ตาสีดำคู่นั้นถึงแม้ว่าจะมองตรงมาข้างหน้า ทว่ามันกลับไม่สะท้อนสิ่งใดกลับมาเลย  ราวกับสายตาของคนที่เพิ่งจะสูญเสียสิ่งสำคัญไป

ใช่......โคงามิเพิ่งจะเสียลูกน้องคนสำคัญไป...


ซาซายามะ มิทสึรุ.....เพิ่งถูกฆ่าตาย โดยคนที่พบศพที่มีสภาพโหดร้ายนั้นเป็นคนแรก....ก็คือโคงามิเอง


มือบางยื่นออกไปหาคนที่ยังนั่งเหม่ออย่างกล้าๆกลัวๆ สองมือที่เกือบจะแตะลงไปที่ไหล่หนาชักกลับมาเล็กน้อยอย่างไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง....ไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจคนตรงหน้าอย่างไร

มันใช่ที่ของเขาหรือเปล่า?

คนที่ควรจะโอบกอดโคงามิในเวลาแบบนี้....อ้อมแขนที่โคงามิต้องการ....

ถ้าเป็นเขาจะได้หรือเปล่า...

สองมือตัดสินใจวางลงไปบนไหล่หนาก่อนจะดึงตัวโคงามิเข้ามาช้าๆ จนใบหน้าที่ยังเหม่อลอยซบลงมาที่แผ่นอกของเขา....ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอุณหภูมิของร่างกายหรือเป็นเพราะเสียงเต้นของหัวใจที่ทำให้นัยน์ตาที่เคยว่างเปล่ากลับวูบไหวอีกครั้ง สองมือใหญ่ยกขึ้นมาก่อนจะกำชายเสื้อของเขาเอาไว้แน่น ท่อนแขนแข็งแรงกอดกระชับไปที่รอบเอวแล้วซุกหน้าลงมาที่อกของเขามากขึ้น

ได้ยินเสียงสะอื้นน้อยๆดังอยู่ที่หน้าอก หยาดน้ำอุ่นๆซึมผ่านเสื้อเข้ามาจนรู้สึกได้ ในเวลาแบบนี้เขากลับไม่มีคำพูดอะไรจะเอ่ยปลอบใจ สองแขนจึงได้แต่ยกขึ้นโอบรอบคอของโคงามิเอาไว้ แล้วลูบหัวสีดำยุ่งๆนั้นเบาๆ

จะมีวิธีไหนที่จะทำให้โคงามิลืมความทุกข์ใจที่ได้รับไปได้บ้าง....จะมีวิธีไหนที่จะสามารถช่วยรักษาความเจ็บปวดนี้ให้ทุเลาลงได้บ้าง

แค่ชั่วครั้งชั่วคราวก็ยังดี....

ท่อนแขนที่กอดกระชับลำตัวของเขาอยู่เลื่อนฝ่ามือไปโอบรอบหลัง ใบหน้าคมที่เคยซุกอยู่ที่แผ่นอกกลับละออกมาน้อยๆก่อนจะย้ายมันไปที่ซอกคอ  ริมฝีปากกดจูบลงไปทั้งๆที่นัยน์ตาสีดำยังคงปิดสนิท แล้วมันก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เมื่อริมฝีปากทั้งกัดและกดเม้มจนน่าจะขึ้นสีแดง

นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นเบิกกว้าง....เพราะไม่รู้ว่าที่โคงามิทำลงไปนั้นรู้ตัวบ้างหรือเปล่า?


รู้ตัวหรือเปล่าว่าคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ คือ กิโนสะ โนบุจิกะ....


ใบหน้าคมละออกมา นัยน์ตาสีดำที่เศร้าหมองเงยมองขึ้นมา....และนั่นมันก็ทำให้เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป

หากวิธีนี้จะช่วยทำให้โคงามิลืมสิ่งที่เกิดขึ้น ลืมความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นไปได้บ้าง....เขาก็จะทำ

ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วคนที่จะต้องเจ็บปวด จะเป็นเขาเองก็ตาม...


ใบหน้าเรียวก้มลงไปหาใบหน้าที่ยังเหม่อลอย ริมฝีปากค่อยๆแตะลงไปที่กลีบปากของโคงามิช้าๆ ลมหายใจเป่ารดกันและกันจนทำให้จากจูบที่ผิวเผินกลับกลายเป็นจุมพิตที่ล่วงเกินก้าวล้ำ เรียวลิ้นทั้งคู่ต่างแลกสัมผัสกันอย่างเร้าร้อน

นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นเหลือบมองนัยน์ตาสีดำที่อยู่ใกล้แค่คืบ ความเจ็บแปลบพุ่งเข้ามาปักที่กลางหัวใจ....เพราะนัยน์ตาสีดำคู่นั้นมันไม่ได้สะท้อนภาพของเขาออกมาเลย

เขารู้ตัว...ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่....

แต่โคงามิ....กลับไม่รู้ตัวเลย....





และทั้งๆที่รู้ถึงขนาดนั้น...แต่เขากลับยังคงปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างถลำลึกลงไป...





ประตูห้องพักของผู้สังเกตการณ์ที่อยู่ด้านในห้องทำงานของหน่วยที่หนึ่งถูกเปิดออก.....ขาสองคู่ก้าวเข้าไปก่อนจะล้มลงไปบนเตียงด้วยกัน

เสื้อผ้าถูกถอดกองเอาไว้ที่พื้น ร่างกายของเราทั้งคู่ต่างเปลือยเปล่า ขาเรียวก้าวไปนั่งคร่อมอยู่บนหน้าตักของโคงามิที่นั่งอยู่กลางเตียง สองมือบางประคองใบหน้าคมเอาไว้ก่อนจะก้มลงไปจูบเบาๆ แต่ลิ้นร้อนของโคงามิก็สวนกลับมาด้วยความเร่าร้อน ฝ่ามือใหญ่โอบกอดลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง เมื่อใบหน้าละออกมาจากกัน สันจมูกโด่งก็ตรงเข้าซุกไซร้ไปที่แผ่นอกบางทันที

ตัณหาราคะถูกปลุกขึ้นมาอย่างง่ายดาย ยิ่งในเวลาที่อ่อนแอแบบนี้ จึงยิ่งไม่มีความผิดชอบชั่วดีอะไรมายั้งคิดให้หยุดการกระทำได้อีก เสียงลมหายใจสอดประสานซึ่งกันและกัน เช่นเดียวกับแกนกายใหญ่ที่สอดใส่เข้าไปในช่องทางคับแน่นของร่างโปร่งบางไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

ผู้ชาย...ต่อให้ไม่มีความรักก็ทำได้....และยิ่งทำมากเท่าไหร่มันก็จะยิ่งระบายสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในใจออกมา

มือบางยกขึ้นมาแตะที่ใบหน้าคมพร้อมทั้งลมหายใจหอบถี่ นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นทอดมองเข้าไปในดวงตาสีดำ....หากมันจะทำให้แววตาที่เจ็บปวดนั้นหายไปในชั่วข้ามคืนนี้...ต่อให้นี่คือครั้งแรกของเขา เขาก็ยอมยกร่างกายที่อีกฝ่ายไม่ได้ร้องขอนี่ให้

สองแขนรั้งคอของโคงามิให้ขยับเข้ามาใกล้ ก่อนที่จะใช้ริมฝีปากล่อลวงอีกฝ่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า


ทำสิโคงามิ....ทำเท่าที่นายต้องการ.....ทำให้ร่างกายของนายรู้สึกดี....



รู้สึกดี....จนลืมวิธีการร้องไห้ไปเลย






นัยน์ตาที่เคยอยู่ภายใต้กรอบแว่นขยับเปิดขึ้นช้าๆ ร่างกายรู้สึกเมื่อยล้าอย่างบอกไม่ถูก....ไม่รู้ตัวเลยว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เช่นเดียวกับที่ไม่รู้เลยว่าทำกันไปกี่รอบ

ดวงตากวาดมองผ้าปูเตียงที่ยับยู่ยี่ คราบคาวของน้ำรักยังคงเลอะอยู่ทั่วไปหมด แต่แทนที่ใบหน้าจะร้อนผ่าวด้วยความรู้สึกอาย นัยน์ตากลับเหม่อลอยด้วยความรู้สึกหม่นหมองชอบกล

เพราะรู้ดีว่ามันไม่ใช่เซ็กซ์ที่เกิดมาจากความรัก ไม่ได้เกิดมาจากความต้องการของทั้งสองฝ่าย....แต่เป็นเขาที่เสนอร่างกายให้กับโคงามิเอง

รู้ดีว่ามันจะไม่มีความผูกพันใดๆเกิดขึ้น เป็นเพียงคู่นอนชั่วข้ามคืนพอตื่นขึ้นมาทุกอย่างมันก็จบ....ทั้งๆที่ก่อนจะทำก็รู้ดี....แต่ตอนนี้ก็ยังควบคุมหัวใจไม่ให้เจ็บปวดไม่ได้

มือเผลอกำผ้าปูที่นอนและนั่นมันก็ทำให้รู้ว่าร่างกายที่เปลือยเปล่าถูกคลุมเอาไว้ด้วยเสื้อสูทตัวใหญ่ ใบหน้าเรียวก้มลงไปมองช้าๆ แล้วก็ต้องชะงักไปเล็กน้อยเมื่อมองเห็นว่าสูทตัวนี้ไม่ใช่ของเขา....แต่เป็นของโคงามิ

ความรู้สึกดีใจเอ่อล้นขึ้นมา ทั้งๆที่คิดว่าโคงามิคงจะออกไปแล้ว แต่ร่างสูงใหญ่กลับยังอยู่....ยังนั่งหันหลังให้อยู่ที่ปลายเตียง


แต่แล้ว....รอยยิ้มน้อยๆที่ริมฝีปากก็ต้องหายไปในทันทีที่ดวงตามองเห็นชัดๆว่าโคงามิกำลังทำอะไรอยู่....


“ แค่ก แค่ก....”        เสียงไอผสมสำลักดังอย่างกับจะช่วยยืนยัน ว่าสิ่งที่ตาของเขาเห็นนั้นมันไม่ใช่ความฝัน  ควันบุหรี่ลอยคลุ้งอยู่ทั่วห้อง ใบหน้าที่ราวกับว่าไม่สนใจชีวิตที่เหลืออยู่อีกแล้วกำลังอัดบุหรี่เข้าปอด....ทั้งๆที่โคงามิไม่เคยสูบบุหรี่....ทั้งๆที่สูบไม่เป็น

แต่ตอนนี้...ทั้งซองบุหรี่ ทั้งไลเตอร์ ที่อยู่ในมือของโคงามิ....ไม่ต้องดูก็รู้ว่ามันคือของของซาซายามะ

ร่างทั้งร่างขดเข้าหากันอยู่ภายใต้เสื้อสูท โคงามิจะรู้บ้างไหม...ว่ามีคนที่ยังมีชีวิตอยู่อย่างเขาเฝ้ามองด้วยสายตา ด้วยหัวใจที่เจ็บปวดขนาดไหน....


ใช่....เขารักโคงามิ....


แต่โคงามิก็ไม่เคยรู้เลย....ไม่เคยรู้....เหมือนที่เขาไม่รู้....ว่าตกลงระหว่างสองคนนั่น....มันมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่

ไม่เคยรู้....ว่าความรู้สึกระหว่างโคงามิกับซาซายามะ....มันคืออะไรกันแน่.....


ที่โคงามิเศร้าโศกเสียใจขนาดนี้.....เพราะรักซาซายามะงั้นหรอ?







คดีของซาซายามะที่เกิดขึ้นยังคงถูกสืบสวนต่อโดยโคงามิ....

ถึงแม้จะมีรายงายจากฝ่ายสวัสดิการถึงค่าไซโครพาสที่พุ่งขึ้นไม่หยุดของโคงามิ แต่ใบหน้าคมนั่นก็ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจมันอีก....นัยน์ตาสีดำคู่นั้นจ้องมองทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวด้วยสายตาราวกับว่าตัวเองจะเป็นยังไงก็ช่าง จะต้องกลายเป็นอาชญากรไปเลยก็ช่าง ขอแค่แก้แค้นให้กับซาซายามะได้....จับคนร้ายในคดีนั้นได้ก็พอแล้วชีวิตนี้

โคงามิยังคงใช้เวลาทุกวินาทีจมอยู่กับคดีของซาซามยามะต่อไป....โดยไม่สนใจคำทัดทานของใครในหน่วยหรือแม้แต่หัวหน้ากรมฯเลย

ไม่ว่าจะเป็นมาซาโอกะ โทโมมิ หรือแม้แต่ คุนิซึกะ....ไม่ว่าใครจะบอกให้โคงามิหยุดทำคดีนี้แล้วไปบำบัดให้เป็นเรื่องเป็นราวเสีย แต่ร่างสูงใหญ่นั้นก็ยังคงนิ่งเฉยและไม่สนใจคำพูดของใครทั้งนั้น

ซึ่งในสายตาของคนที่เฝ้ามองอย่างเป็นห่วงแล้วมันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยสักนิด

“ ถ้าหากยังปล่อยเอาไว้แบบนี้....ไม่เกินสองวัน พวกเราคงต้องเขียนรายงานว่าเขากลายเป็นอาชญากรแอบแฝงแล้วนะครับ”        คุณหมอที่คอยดูแลค่าไซโครพาสให้กับผู้สังเกตการณ์เอ่ยบอกกับกิโนสะ โนบุจิกะ ด้วยน้ำเสียงกังวล

ทุกๆคนพูดถึงขนาดนั้นแล้วแต่โคงามิก็ไม่ฟัง

แล้วกับเขาเองที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน มีหรือที่หมอนั่นจะฟัง

ใบหน้าเรียวอมทุกข์หันเข้าไปมองในห้องทำงานของหน่วยที่หนึ่งด้วยสายตาท้อแท้....ถึงแม้คำพูดของเขาอาจจะไม่มีน้ำหนักอะไรให้โคงามิยอมเชื่อฟังได้ แต่เขาที่รู้ซึ้งถึงการที่คนสำคัญต้องกลายเป็นอาชญากรไปนั้นว่ามันมีความรู้สึกยังไง....คงจะปล่อยเอาไว้แบบนี้ไม่ได้

จะไม่ยอมให้คนที่ตัวเองรักต้องกลายเป็นอาชญากรอีกเป็นคนที่สอง....

ร่างโปร่งเดินเข้าไปในห้องด้วยความมุ่งมั่นอันน้อยนิด ต่อให้ต้องใช้กำลังก็คงจะต้องลากหมอนั่นไปรับการบำบัดให้ได้

“ โคงามิ! นายคงรู้นะว่าฉันจะมาพูดอะไรกับนาย”       ร่างโปร่งหยุดยืนอยู่ข้างๆโต๊ะทำงานที่ตอนนี้เต็มไปด้วยแฟ้มเอกสารมากมาย ในนั้นล้วนมีแต่รูปคดีกับหลักฐานที่ซาซายามะเป็นคนรวบรวมเอาไว้ได้ก่อนจะถูกฆ่าตาย

“ ไปบำบัดซะ...โคงามิ...”        และถึงแม้ว่าเขาจะพูดอะไรออกไป ใบหน้าคมนั่นมันก็ยังนิ่งเฉย นัยน์ตาสีดำเมินเลยไปจ้องอยู่ที่หน้าจอมอนิเตอร์โดยไม่คิดที่จะหันกลับมา....หมอนั่นทำราวกับว่าไม่ได้ยินที่เขาพูดออกไปด้วยซ้ำ

และควันบุหรี่ที่ลอยอยู่รอบๆตัวก็ทำให้เขาทนไม่ได้อีกต่อไป

“ โคงามิ!!”       มือตรงเข้าจับท่อนแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามก่อนจะออกแรงกระชากให้ร่างสูงใหญ่นั่นลุกขึ้นมา ในใจหมายจะลากไปบำบัดทั้งๆอย่างนี้แหละ


แต่ทว่า....


เขาก็ยังสู้แรงของโคงามิไม่ได้อยู่ดี

ข้อมือใหญ่ฝืนแรงเอาไว้ทำให้ร่างกายไม่ขยับไปไหน และยิ่งโคงามิขัดขืนมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีแต่เพิ่มความร้อนระอุในใจของเขามากขึ้นเท่านั้น จนเผลอตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายออกไปว่า

“ คิดดีแล้วหรอ...ที่จะปล่อยให้คนตายทำให้ชีวิตนายล่มจมไปแบบนี้น่ะ!!

และแค่นั้นแหละ.....ใบหน้าที่นิ่งเฉยมาตลอดกลับมืดมนจนน่าขนลุก ท่อนแขนที่เคยถูกเขาจับเอาไว้กลับพลิกมาจับข้อมือของเขาแทน ร่างสูงใหญ่ที่เคยถูกเขากระชากให้ลุกขึ้นกลับเป็นฝ่ายออกแรงลากเขาเข้าไปในห้องพักของผู้สังเกตการณ์ที่อยู่ด้านในแทน

โคงามิเหวี่ยงร่างของเขาจนล้มลงไปบนเตียง ท่อนขาแข็งแกร่งก้ามตามขึ้นมาคร่อมบนลำตัวเขาก่อนจะเอ่ยกระซิบด้วยน้ำเสียงมืดมิดและกดดัน


“ ถ้าจะบำบัดละก็...นายก็บำบัดให้ชั้นที่นี่...เดี๋ยวนี้เลย!


ข้อมือทั้งสองข้างถูกจับกดลงกับพื้นเตียง  นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นเบิกกว้างเพราะไม่ได้เตรียมใจว่าจะมาเจอกับเรื่องแบบนี้ ใบหน้าคมตรงเข้าซุกไซร้ที่ซอกคอทันที

การกระทำอันป่าเถื่อนของโคงามิทำให้เขารู้สึกกลัว....เป็นเพราะสายตาที่เคยอ่อนโยนมันหายไป กลายเป็นความหิวกระหายราวกับสายตาของอาชญากร....ทำให้ร่างกายของเขาเผลอต่อต้านโดยอัตโนมัติ

ทั้งข้อมือ ทั้งลำตัวต่างดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากแรงกด ใบหน้าเรียวพยายามสะบัดหนีริมฝีปากที่มีกลิ่นบุหรี่ของโคงามิซึ่งฝังลงมาที่ซอกคอ ในใจพยายามห้ามตัวเองและต่อต้านการกระทำของอีกฝ่ายจนกลายเป็นยิ่งไปกระตุ้นเร้าให้โคงามิรุนแรงมากยิ่งขึ้น

เสื้อเชิ้ตถูกกระชากออกจากกันจนกระดุมหลุดกระเด็น ฝ่ามือร้อนบีบเค้นไปตามร่างกาย เรียวขาถูกกระชากให้อ้าออกจากกัน ก่อนที่โคงามิจะลงมือจัดการกับร่างกายของเขาโดยที่ไม่ได้สนใจแรงขัดขืน เสียงร้องห้าม...หรือแม้แต่น้ำตาของเขาเลยก็ตาม










จนแล้วจนรอดโคงามิก็ถูกลดขั้นกลายเป็นอาชญากรแอบแฝงไปจนได้....ถึงแม้ว่าระยะเวลาที่ถูกรายงานจะยืดออกไปจากสองวันเป็นอาทิตย์นึงก็ตาม

โคงามิถูกพาตัวไปสถานกักกันของอาชญากร.....

โต๊ะทำงานของผู้สังเกตการณ์ที่ตั้งอยู่ข้างๆเขาว่างเปล่าลงทันที.....ทั้งๆที่เราสองคนเริ่มต้นมาพร้อมกัน.....ตั้งแต่วันแรกของการเป็นตำรวจจนถึงวันนี้ ไม่เคยมีวันไหนเลยที่ของบนโต๊ะของใครจะหายไปแบบนี้

จากสีหน้าด้านข้างของคนที่เคยเดินคู่กันมา....จากนี้ไปเขาคงได้แต่มองเห็นมันเป็นแผ่นหลังของหมาล่าเนื้อที่จะเดินอยู่ข้างหน้า

แค่คิด....หัวใจก็เจ็บแปลบจนแทบจะร้องไห้....









เวลาล่วงผ่านไปหลายเดือน.....ในที่สุดคำสั่งก็ถูกส่งมาที่หน่วยหนึ่ง

ว่าจากนี้ต่อไป....โคงามิได้ผ่านการพิจารณาจากซีบิล่าแล้วว่า สมควรให้ออกมาทำหน้าที่ของหน่วยปฏิบัติการณ์แทนที่จะถูกขังอยู่แบบนั้น

ข้าวของที่ถูกย้ายจากโต๊ะผู้สังเกตการณ์ไปอยู่ในกล่องมานาน จึงถูกย้ายไปวางลงอีกครั้งที่โต๊ะซึ่งเคยเป็นของซาซายามะ


แล้วในที่สุดวันที่จะได้เจอกันอีกครั้งก็มาถึง....


ร่างสูงใหญ่เดินสวนเขาที่กำลังจะเดินออกจากห้องเข้าไป....

ถึงจะทำใจมาแล้วว่าโคงามิคงจะเปลี่ยนไปบ้าง ทว่าสายตาที่เคยอ่อนโยนกับรอยยิ้มที่มักจะยิ้มหยอกเย้าเขาอยู่เสมอๆมันกลับหายไปอย่างสิ้นเชิง ใบหน้าคมมีแต่ความเฉยเมย นัยน์ตาที่เหมือนกับจับจ้องอะไรบางอย่างอยู่ดูจะไม่สนใจสิ่งอื่นใดรอบๆตัวอีกเลย  รวมถึงการแต่งตัวที่เคยติดกระดุมถึงคอแล้วผูกเนคไทเรียบร้อยกลับปล่อยเสื้อสูทออกจากกันแถมไทก็ดึงลงมาเพราะกระดุมถูกปลดไปหลายเม็ด

เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน....

เขาได้แต่ยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูอย่างก้าวขาต่อไปไม่ออก ในใจมันรู้สึกหม่นหมองจนไม่อยากจะทำอะไรต่อไป

จนกระทั่งมือใหญ่ๆของมาซาโอกะ โทโมมิ บีบเบาๆลงมาที่ไหล่ให้เขารู้ตัว

นัยน์ตาอ่อนโยนของคนที่เคยผ่านน้ำร้อนมามากสบประสานมาราวกับจะบอกว่า.....คนที่เพิ่งจะกลายเป็นอาชญากร...เป็นหมาล่าเนื้อ....ก็จะเป็นแบบนี้ทุกคนแหละ....สิ่งที่ทำได้คือการให้เวลาและทำความเข้าใจกันไป

ใบหน้าเรียวได้แต่พยักหน้ารับ ด้วยหวังว่าสิ่งที่ผู้เป็นพ่อพยายามบอกมา มันจะกลายเป็นจริงในอนาคตอันใกล้


แต่ทว่า.....โคงามิก็ยังไม่มีวี่แววที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม....


ใบหน้าคมที่เมินเฉยต่อทุกสิ่งทุกอย่างนั้นยังคงจมอยู่กับความทุกข์ความเศร้า....ยังคงจมอยู่กับคดีของซาซายามะต่อไป

ถึงแม้รายงานที่โคงามิเขียนเอาไว้จะพาดพิงถึงผู้ชายคนหนึ่งซึ่งพวกเขาแทบจะไม่รู้ว่ามีตัวตนจริงๆหรือเปล่า การสืบสวนที่ตั้งอยู่บนอากาศแบบนั้น ในที่สุดก็ทำให้คดีหมายเลข 102 กลายเป็นคดีที่ปิดไม่ลง


ปิดไม่ลง.....เช่นเดียวกับความรู้สึกของโคงามิ







ทางเดินภายในกรมความปลอดภัยวันนี้ก็ยังคงวุ่นวาย....

และเป็นเพราะว่าหน่วยที่หนึ่งนั้นเหลือผู้สังเกตการณ์เพียงคนเดียว...ในเวลาที่เจ็บป่วยขึ้นมา....หมาล่าเนื้อถึงสามตัวเลยไม่มีเจ้านายไปโดยปริยาย

เมื่อสิบห้านาทีก่อน มาซาโอกะ โทโมมิ โทรเข้ามาหาเขาซึ่งยังนอนซมเพราะพิษไข้อยู่ในห้องตามลำพัง....ว่าวันนี้มีคดีที่ต้องออกไปตามจับอาชญากรข้างนอก.....แต่ด้วยความที่หน่วยปฏิบัติการณ์จะออกไปไหนมาไหนเองไม่ได้หากไม่มีผู้สังเกตการณ์ไปด้วย เพราะฉะนั้นเมื่อเขาไม่อยู่ จึงต้องไปขอแรงจากผู้สังเกตการณ์ของหน่วยที่สองแทน

เรื่องมันก็ไม่น่าจะมีอะไร....แต่ปัญหามันก็เกิดขึ้นมาจนได้.....เมื่อเจ้าโคงามิดันไปหงุดหงิดที่ไล่จับคนร้ายไม่ได้ จนไปพาลใส่ผู้สังเกตการณ์ของหน่วยที่สองเข้า

อาจจะเป็นเพราะไม่เคยทำงานร่วมกัน จึงขาดความเข้าใจซึ่งกันและกันจนงานมันผิดพลาดไปหมด....แต่ถึงอย่างนั้นคนของหน่วยปฏิบัติการณ์ก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่ากล่าวอะไรผู้สังเกตการณ์ได้

การกระทำของโคงามิจึงจัดว่าเป็นเรื่องผิดระเบียบ.....แต่ไม่ว่าจะถูกตักเตือนยังไง ใบหน้าเฉยเมยนั่นก็เหมือนจะไม่ได้รู้สึกรู้สา.....จน มาซาโอกะ โทโมมิ อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้

“ โนบุจิกะ....แกช่วยไปดูมันหน่อยเถอะ”       เสียงตามสายบอกมาแค่นั้นก่อนที่จะวางสายไป

ถึงแม้จะมึนหัวแค่ไหนเขาก็คงจะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้....ในฐานะเจ้าของแล้วคงจะปล่อยหมาของตัวเองไปเที่ยวไล่กัดใครต่อใครแบบนี้ไม่ได้

เพราะหากถูกเรียกไปตักเตือนหลายครั้งเข้า....หากถูกตัดสินว่าก้าวร้าวเกินกว่าจะทำให้เชื่องได้....โคงามิอาจจะต้องไปจบชีวิตอยู่ในสถานกักกันไปตลอดก็ได้

ทำไมกัน....ทั้งๆที่พื้นฐานแล้วโคงามิไม่ได้มีนิสัยก้าวร้าวแบบนั้น.....การที่ค่าไซโครพาสสูงขึ้นจนกลายเป็นอาชญากรมันมีผลขนาดนี้เลยงั้นหรอ?


หรือมันเป็นเพราะเงาของใครหรือเปล่า....ที่ทำให้หมอนั่นกลายเป็นแบบนี้....


ถ้ามันเป็นเพราะแบบนั้น.....แล้วอย่างเขา.....จะทำอะไรได้





ร่างโปร่งบางเดินโซเซไปตามทางเดินซึ่งเชื่อมต่อไปยังห้องพักของหน่วยปฏิบัติการณ์ และเมื่อสแกนที่หน้าห้องของโคงามิรับรู้ว่าเขาเป็นใคร ประตูมันก็เปิดออกให้แต่โดยดี

ร่างสูงใหญ่ที่ทิ้งกายอยู่ที่โซฟาผงกหน้าขึ้นมามอง และเมื่อเห็นว่าเป็นเขาเท่านั้น จู่ๆโคงามิก็ตรงดิ่งเข้ามาหา ก่อนที่มือใหญ่จะลากตัวเขาไปเหวี่ยงลงที่โซฟาโดยไม่พูดไม่จาอะไร

สองแขนกางกั้นไม่ให้เขาขยับตัวหนี ใบหน้าคมมืดมนบ่งบอกดีว่ากำลังอารมณ์ไม่ดี

ข้อมือทั้งสองข้างถูกกดลงกับโซฟา เขาได้แต่ตื่นตระหนกกับเรี่ยวแรงที่กดทับร่างเอาไว้ ใบหน้าคมก้มลงมากดจูบที่ซอกคอให้ร่างทั้งร่างสะดุ้งเฮือก

“ หยุดนะ โคงามิ!!”        ข้อมือพยายามต่อต้าน เช่นเดียวกับร่างกายที่เริ่มดิ้นรนทั้งๆที่แทบจะไม่มีแรง....คราวนี้เขาจะไม่ยอม....ต้องไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นอีก

“ เลิกทำแบบนี้ซักที!!”       เขาเป็นเจ้านาย....ไม่ใช่เครื่องระบายอารมณ์

“ หื๋ม?.....นายมาหาฉันก็เพราะอยากไม่ใช่หรอกิโนะ?”        ใบหน้าคมพูดออกมาด้วยรอยยิ้มร้ายที่เขาไม่เคยเห็น ร่างทั้งร่างชาวาบเช่นเดียวกับนัยน์ตาที่อยู่ภายใต้กรอบแว่นที่มันเบิกกว้างไปกับคำพูดของอีกฝ่าย


นี่คือ....โคงามิที่เขารู้จัก

นี่คือ....โคงามิที่เขารักอย่างนั้นหรอ?


“ อย่า!”       และไม่ว่าจะร้องห้าม ไม่ว่าจะอ้อนวอน ไม่ว่าจะออกคำสั่งยังไง โคงามิก็ไม่เคยฟัง

ทั้งรอยจูบทั้งรอยกัดเกิดขึ้นทั่วร่างของเขา อีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจจะเล้าโลมให้เขารู้สึกดี แต่กลับทำทุกอย่างตามแต่ใจและความต้องการของตัวเอง

ไม่สนใจว่าเขาจะร้องไห้

ไม่สนใจว่าเลือดมันจะไหลออกมา


และกว่าความรุนแรงนั้นมันจะจบลง....สติก็ไม่มีเหลืออยู่อีก....


เจ็บ.....



ที่ร่างกาย....



หรือว่าที่หัวใจกันแน่.....




ไม่รู้เลย....





.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

To be Continue : Kogami Side







ยะ อย่าเอาไปตีกับ ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม นะก๊ะ...แบบว่ามันเป็นฟิคคนละเรื่องก๊านนนน  เรื่องนี้กิโนะกับคุณโคไม่ได้รักกัน ไม่ได้สวีทวี้ดวิ่วกันมาตั้งแต่แรกเหมือนใน ชื่อ...ของสัตว์ที่ไร้นาม นะคะ อย่าสับสน แหะแหะ ก็ใครละวะทำให้ชาวบ้านชาวเมืองเค้าสับสนแบบนี้เนี่ย?!!

แล้วก็ชื่อเรื่อง....นอกจากไม่เป็นมงคล(?)แล้วยังโคตรคุ้นเลยเนอะคะ ฮ่าๆๆๆ ช่าย....ไปลอกชื่อฟิคกินทามะของตัวเองมานี่แหละค่ะ เหมือนกันเป๊ะอย่างไม่มีพลิกแพลง (แต่อันนั้นเป็นนอมอลนะ โซโกะคางุระ) กร๊ากกกก ก็...มัน...ก็มัน.....ตอนคิดพล็อตอ่ะ คำคำนี้มันลอยอยู่ในหัวเลยนี่นา...ว่าเรื่องของทั้งสองคนมันจะต้องดำเนินต่อไป จะไม่สิ้นสุดลงง่ายๆอะไรเทือกนี้ ฮิ้วววว >/////< (<<เป็นเอามาก)

ว่าแต่จะโดนฆ่าไหมวะตรู....นอกจากจะทำลายความฝัน(?) แล้วยังไม่ยอมสอยดาวให้ตกลงมาอีก *ซับเหงื่อ*  อะ เอาเป็นว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับ ไซโครพาสตอน 22 ซึ่งเป็นตอนจบในวันพรุ่งนี้นี่แหละค่ะ วันมันจะดาเมจตรูขนาดหน๊ายยยยยยยย ง๊ากกกกกกกกกกกกกกกก น่ากลัวจริงจังอ่ะ ฮือออออออออออออออออออออออออออออออ

อย่างตอน 21 เนี่ย....ภาพสวยบัดซบมาก แต่ละคนหล่อลากกระชากไส้สุดๆ...แต่....แต่!!! มันสะเทือนใจจนกลับไปแคปรูปมะด้ายยยยยย โฮวววววววว


เฮ้อ.......


อ่ะ....ส่วนใหญ่คงรู้กันแล้วเนอะ แต่ก็แอบแปะไว้เผื่อใครที่ไม่ได้ตามเฟสเน่าๆของเก๊า....อิอิ....คือว่า....ตั้งใจจะรวมเล่ม ชื่อ....ของสัตว์ที่ไร้นาม ค่ะ คู่ที่จะรวมก็คือ คุณโคกิโนะ นี่แหละ โดยใช้ชื่อเรื่องของคู่นี้ว่า [สัญญาที่เขียนบนน้ำ] ค่ะ....

ฮ่าๆๆ ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมคุ้นๆ ก็ชื่อตอนที่ 18 ของอนิเมะนั่นแหละ ฮี่...ชอบคำนี้อ่ะ....ฟังแล้วมันดูเป็นสัญญาที่เลื่อนลอยดี อาจจะหายไปกับสายน้ำหรืออาจจะกระเพื่อมอยู่อย่างนั้นก็ได้ ดูเบาบางแต่ก็ยังมีอยู่ เอ่อ..ช่างเหอะ คนมันเพ้อเพราะพิษไข้จากแผลในจัย(???)

แปะหน้าเปิดเล่มไว้ก่อน ส่วนหน้าปกจะตามมาในภายหลัง ฮ่าๆๆ





แล้วเจอกันตอนหน้ากับฝั่งของคุณโคบ้างสำหรับเรื่องนี้สองตอนจบค่ะ....

ส่วน ชื่อ....ของสัตว์ที่ไร้นาม มีตอนจบเรียบร้อยแล้วแหละ รอแค่อนิเมะตอนจบว่ามันจะเป็นยังไง แต่คาดว่าจะไปกันคนละทางกับฟิคเก๊าละนะ ฮือออออออ

อีกนิด ไสหัวไปแต่งฟิคได้แล้ว!! คือตอนแต่งเรื่องนี้น่ะ ฟังเพลงนี้อยู่ค่ะ.... LOVE LETTER ของ Rabbit feat. Zebra…. มันจะออกมาเป็นตัวอะไรวะ กระต่ายกับม้าลายเนี่ย = =? คือโดนใครบางคน(ชื่อน้องรีน) เอา Mad Hakuouki มาล่อลวงค่ะ แล้วแม่งดันติดเพลงนี้ซะงั้น โอยยยยย ชอบอ่ะ

แอบแปะ Mad เพราะหาเพลงในยูตูบให้ฟังไม่ได้เบยอ่ะ งั้นเอาหนุ่มๆไปดูด้วยแล้วกันนะ อย่างโฮกเนอะคะ >/////<










แล้วเจอกัลลลล




4 ความคิดเห็น:

  1. อ๊ากกกกกกกกกกก
    เจ้าทำข้าสติหลุดแต่ไก่โห่เลย แงงงงงงงงง
    //วิ่งไปสครีมต่อในเฟส #เลววว

    ตอบลบ
  2. อ้ากกกกกกกก!!!!!!!!! อีกคน
    สงสารกิโนะ หมั่นไส้คุณโค
    ถนอม ๆ หน่อยซี่่่่่ตาโค๊!!!
    T^T

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ19 พฤษภาคม 2556 เวลา 16:25

    ฮือออ คุณโคใจร้ายอ้ะ!!!!! *0*
    สงสารกิโนะซัง แต่ก็ชอบให้โดนคุณโครังแกและทำร้ายจิตใจแบบนี้นะคะ เพราะยังไงกิโนะซังก็เป็นคาแรคเตอร์ที่น่าแกล้งสุดๆ (อ้าวโบ้ย กิโนะซังผิดอีก 55)

    อยากอ่านฟิครันทด แต่ก็อยากให้คู่นี้เป็นแฮปปี้เอ็นดิ้ง (<< ห๊ะ!? อีติ่งนี่งงละ)
    รออ่านพาร์ทคุณโคนะคะ :)

    ตอบลบ
  4. อ้าก หนุกมากเลยค่า มี nc ตั้งแต่ตอนแรก เนี่ยหายากมากเลยนะค๊
    แต่ คุณโคงามิ แกจะรุนแรงกับกิโนะ ไปถึงไหนเนี่ย
    ไอรอบที่สามหนะ กิโนะไม่ได้อยากซักหน่อยนะค๊ะ

    ตอบลบ