:
Psycho Pass
Fanfiction
:
Kogami Shinya x Ginoza Nobuchika
:
Romantic
:
NC-17
คำเตือน :
เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย
หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
เสียงฝีเท้าก้าวย่างอย่างเงียบเหงาเพียงลำพังดังก้องไปทั่วทางเดินของคอนโดที่ทุกห้องต่างปิดสนิทสมกับเป็นเวลาดึกสงัด
ทั้งๆที่ความจริงแล้วมากันสองคนแท้ๆ
แต่เสียงเดินกลับมีแค่เสียงเดียว....เพราะอะไรน่ะหรอ?
ใบหน้าคมอมยิ้มน้อยๆก่อนจะหันไปมองใบหน้าเรียวซึ่งหลับใหลไม่ได้สติซบอยู่ที่หัวไหล่เขา
ร่างโปร่งบางถูกแบกขึ้นหลังมาทำให้ขาทั้งสองข้างไม่แตะพื้น....เพราะงั้นมันจึงมีแต่เสียงเดินของเขาอยู่เสียงเดียว
แผ่นอกบางที่แนบอยู่กับแผ่นหลังของเขานั้นขยับขึ้นลงตามจังหวะการหายใจที่สม่ำเสมอ
บ่งบอกว่า กิโนสะ โนบุจิกะ กำลังหลับสนิท ใบหน้าใสที่คลอเคลียอยู่ใกล้ๆใบหน้าเขาไม่เหลือเค้าเจ้านายผู้เข้มงวดของบรรดาหมาล่าเนื้อแห่งกรมความปลอดภัยเลยสักนิด
แล้วทำไมกิโนะถึงได้อยู่ในสภาพนี้ทั้งๆที่ยังไม่เลิกงานดีน่ะหรอ?
นึกย้อนกลับไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนแล้วก็ให้หลุดขำออกมา....
ภารกิจของวันนี้คือการไปตามจับอาชญากรคนหนึ่ง...ซึ่งมันจะไม่มีปัญหาอะไรเลยถ้าเจ้าหมอนั่นมันจะไม่ใช่อาชญากรที่มีความสามารถด้านการ
Hacking
และเพราะรู้ว่ามันสามารถ
Hack ภาพโฮโลแกรมของห้องได้จนอาจทำให้เกิดปัญหาในการจับกุม
พวกเขาจึงวางแผนที่จะไล่ต้อนมันออกมาจากห้องแล้วค่อยจับกุมตัวข้างนอก
แต่ทว่า.....
หลังจากที่ไล่ต้อนมันออกมาได้ตามแผน
ก็ไม่ได้หมายความว่าจะจับกุมมันได้ง่ายๆตามแผน....ในเมื่อเจ้าอาชญากรคนนี้ดันสามารถ
Hack
ได้แม้แต่โฮโลแกรมที่อยู่ตามถนน!
ภาพทุกอย่างดูสับสนปนเปกันไปหมด
ทั้งพื้นถนน ทั้งตึกรามบ้านช่อง ทั้งรถรา หรือแม้แต่ในSiteก่อสร้างที่อยู่ข้างๆ ทุกอย่างหลอมรวมกันราวกับเป็นภาพลวงตา
จนพวกเขาแยกไม่ออกเลยว่าอะไรคือของจริง อะไรคือโฮโลแกรมที่ถูก Hack!
“
นี่มันอะไรกันน่ะ?! พื้นที่รอบข้างเปลี่ยนรูปไปตามร่างกายของมันแล้ว!
อย่าบอกนะว่าแม้แต่โฮโลแกรมบนถนนมันก็ยังHackได้?!” กิโนสะ โนบุจิกะพูดออกไปด้วยน้ำเสียงตื่นน้อยๆ
กับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า สิ่งของต่างๆลอยขึ้นมา
แม้แต่พื้นที่จะใช้ยืนยังเคลื่อนที่ได้
จากถนนเรียบโล่งกลับมีกำแพงบ้างหุบเหวบ้างปนกันมั่วไปหมด
ขาที่จะก้าวตามคนร้ายไปได้แต่หยุดชะงักพร้อมกับร่างกายที่เริ่มโคลงเคลงไปตามภาพโฮโลแกรมที่สับสน
“
ถ้าเป็นแบบนี้คนร้ายจะหนีไปได้นะคะ จะทำยังไงดีค่ะ?” คุนิซึกะ
ที่มาปฏิบัติภารกิจด้วยกันหันมาถามด้วยใบหน้าจริงจัง
“
กิโนะ! คุนิซึกะ! เป็นอะไรหรือเปล่า?!”
เสียงตะโกนไล่หลังมาเป็นของ โคงามิ ชินยะ
ที่วิ่งไล่ต้อนคนร้ายออกมาจากในอาคาร
“
โคงามิหรอ? เพราะสภาพพื้นที่โดยรอบบิดเบือนแบบนี้
เราเลยไม่รู้ว่ามันหนีไปทางไหนน่ะ?”
ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นเอ่ยบอกคนที่วิ่งเข้ามาสมทบ
“
เดี๋ยวชั้นจัดการเอง กะแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ชั้นเลยขอยืมเจ้านี่มาจากลุงน่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกก่อนจะดึงขวดแก้วใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ท....เพราะเคยผ่านประสบการณ์โฮโลแฮกกิ้งแบบนี้มาตอนคดีชิงอวาต้าทาลิสแมนกับสปูกี้วูกี้
ทำให้ร่างสูงใหญ่รู้ดีว่าจะจัดการกับภาพโฮโลแกรมพวกนี้ได้ยังไง
“
Spiritus? เข้าใจแล้ว....จะทำให้พื้นที่ในเมืองเกิดประกายไฟแล้วทำให้ระบบดับเพลิงทำงานนี่เอง”
หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในทีมอุทานออกมาเมื่อมองเห็นว่าขวดแก้วใบนั้นคืออะไร.....Spiritus
คือ เหล้า Vodka ยี่ห้อหนึ่งซึ่งมีดีกรีแรงมาก
และเพราะว่ามันมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ถึง 96% หากพ่นออกมาพร้อมกับจุดไฟ
มันก็จะทำให้เกิดประกายไฟได้ไม่ยาก แล้วพอเกิดประกายไฟ ระบบดับเพลิงก็จะทำงาน
เมื่อน้ำถูกพ่นออกมา ภาพโฮโลแกรมที่ถูก Hack ก็จะถูกทำลาย
ในขณะที่ฝาขวดเหล้าถูกเปิดออกโดยมือใหญ่
และปากขวดก็จ่ออยู่ที่ริมฝีปากรสบุหรี่ เหล้าอึกหนึ่งถูกอมไว้ในปาก
แต่ยังไม่ทันจะได้พ่นออกไป....
“
ในที่แบบนี้มีโดรนก่อสร้างได้ยังไง? โคงามิ! อันตราย!!”
จู่ๆร่างสูงโปร่งก็ตรงเข้ามาผลักร่างแข็งแกร่งจนเซถลาไปข้างหน้า
“
อุ๊ก! อ่อก!!”
เหล้าที่อมไว้ในปากจึงเผลอกลืนลงคอโดยไม่ได้ตั้งใจ
“
อะไรกิโนะ?! เพราะนายมาผลักทำให้ชั้นกลืนเหล้าไปอึกนึงเต็มๆเลย!” ใบหน้าคมหันมามองพรางยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดเหล้าที่ไหลออกมาตามมุมปาก
“
อ่า...โทษที....ดูเหมือนโดรนที่ฉันเห็นเมื่อกี้จะเป็นโฮโลแกรมที่ถูก Hack น่ะ”
ภาพโดรนก่อสร้างที่พุ่งเข้ามาหายแว่บไปเมื่อมันชนเข้ากับร่างกายของพวกเขา
จึงทำให้รู้ว่ามันไม่ใช่ของจริง
ใบหน้าเรียวจึงยิ้มแห้งๆขอโทษ
“
แต่ก็มีโอกาสที่จะเป็นของจริงแฝงมาในโฮโลแกรมก็ได้ ระวังหน่อยล่ะ”
น้ำเสียงเรียบเอ่ยออกมาทำให้ใบหน้าคมอมยิ้ม....ห่วงเขาล่ะสิ.....ถึงได้พุ่งเข้ามาผลักเขาให้พ้นเจ้าภาพลวงตาของโดรนนั่น
“
ไอ้เวรนั่นเล่นเราซะแล้วสิ...เอาล่ะ....ลองอีกครั้งนึง”
ใบหน้าคมที่กำลังอารมณ์ดียกขวดเหล้าขึ้นจ่อปากอีกครั้งก่อนจะอมเหล้าเอาไว้
และในขณะที่มือเตรียมจะยกไลเตอร์ขึ้นมาเพื่อจุดไฟ....
“
ครั้งนี้เพดานกับกำแพงถล่มงั้นหรอ?! โคงามิหมอบลงเร็ว!!”
เสียงตะโกนดังลั่นมาจากกิโนสะ คราวนี้มือบางผลักจนร่างสูงใหญ่ล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น
“
อื้อ! อึก...!!”
แล้วเหล้าที่อมอยู่ในปากก็ถูกกลืนลงคอไปอีกอึก....และมันก็สมกับที่เป็นเหล้าแรง....ตอนนี้นัยน์ตาสีดำเริ่มมีภาพซ้อนกันไปมา
ในหัวรู้สึกมึนตื้อจนต้องนั่งกุมขมับ
“
เฮ้อ....ครั้งนี้ก็โฮโลแกรมงั้นหรอ?....”
ใบหน้าเรียวถอนหายใจโดยไม่ได้สังเกตอาการของคนข้างๆที่แปลกไป
“
ทำอะไรอยู่น่ะโคงามิ? รีบทำให้ระบบดับเพลิงทำงานได้แล้ว”
คุนิซึกะร้องเตือนคนที่ยังนั่งสะบัดหน้ามึนงงอยู่ที่พื้น
“
รอเดี๋ยวคุนิซึกะ....สมแล้วที่เป็นเหล้าแรง ชั้นดื่มไปตั้งเยอะก็เลย.....” ไม่ใช่แค่มึนอย่างเดียว
ทั้งใบหน้าทั้งเสียงก็เริ่มจะออกอาการเมา....ก็นะ....ถึงแม้ว่าปกติแล้วเขาไม่ใช่คนคออ่อนอะไรมากมาย
แต่เหล้าแรงแบบนี้ก็ใช่ว่าจะหากินได้ง่ายๆในยุคนี้ให้ชินได้เสียเมื่อไหร่
ร่างโปร่งบางจึงหันมามองคนที่ยังนั่งสะบัดหัวไล่ความมึนสลับกับแผ่นหลังของคนร้ายที่วิ่งหนีไปไวๆ
“
จะปล่อยมันไปไม่ได้เด็ดขาด! ส่งขวดมาเดี๋ยวชั้นจัดการเอง!!”
มือบางดึงขวดเหล้ามาจากมือใหญ่ก่อนจะยกมันขึ้นจ่อปาก
กลิ่นเหล้าลอยมาแตะจมูกก่อนที่น้ำสีใสจะถูกอมเอาไว้ แต่ยังไม่ทันที่กิโนสะ
จะได้คว้าไลเตอร์มาจากมือของโคงามิ....
“
หลบเร็วกิโนะ! มีรถยนต์วิ่งมาทางนี้!!”
ร่างแข็งแกร่งกลับตะครุบลำตัวบางให้กลิ้งหลบไปกับพื้น
“
อุ๊บ!
อึก....”
เหล้าที่อมอยู่ในปากจึงกลืนลงคอไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
“
หายไปแล้ว!
เมื่อกี้ก็โฮโลแกรมงั้นหรอ? บ้าเอ้ย! เพราะทั้งแอลกอฮอล์
ทั้งโฮโลแกรม เลยแยกไม่ถูกแล้วว่าอันไหนของจริง อันไหนหลอก!” ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนก่อนจะมองรอบตัวไปมา
ใบหน้าคมขึ้นสีแดงเล็กน้อยแต่ก็ยังสามารถทรงตัวได้ดีอยู่
“
ผู้สังเกตการณ์ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
คุนิซึกะหันไปถามร่างโปร่งบางที่ยังนั่งมึนอยู่ที่พื้น
ใบหน้าเรียวขึ้นสีแดงทีละน้อย...แต่ไม่นานมันก็กลายเป็นสีแดงจัด
“
เป็นอะไรไปกิโนะ?”
เพราะมัวแต่ห่วงเรื่องจะจับคนร้าย ทำให้ร่างสูงใหญ่ลืมไปว่า.....
“
ชั้นเองก็กลืนเหล้าไปพอสมควร....คอแห้งไปหมด...นี่มันอะไรกันน่ะ?” ร่างโปร่งพยายามลุกขึ้นยืนด้วยสภาพโงนเงน และตอนนั้นเองที่โคงามิเพิ่งจะนึกออกว่า....
“
Spiritus
น่ะมีระดับแอลกอฮอล์สูงถึง 96%
เลยนะคะ...ผู้สังเกตการณ์เองก็อย่าฝืนดีกว่า....”
และดูเหมือนจะไม่ได้มีแต่โคงามิที่รู้ว่ากิโนสะเป็นอะไร
คุนิซึกะเองก็ดูท่าว่าจะรู้เช่นกัน
“
ไม่...ไม่เป็นไรหรอก....คราวนี้ชั้นจัดการเอง....”
จะมีก็แต่เจ้าตัวเองนี่แหละที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลัง....เมา!!
“
แค่นี้....น่ะ....ไม่....เท่าไหร่................” น้ำเสียงเริ่มอ้อแอ้ และไม่นานเลย.....
ตุบ.....
ร่างโปร่งบางก็ล้มฟุ้บลงไปที่พื้นทันที
“
เฮ้ยกิโนะ! เป็นไรหรือเปล่า? กิโนะ!!”
นั่นคงจะเป็นเสียงสุดท้ายที่เจ้าของใบหน้าเรียวได้ยิน.....
หมาล่าเนื้อที่เจ้านายใช้การไม่ได้จึงต้องออกล่าคนร้ายกันตามลำพังสองคน
และจนกระทั่งภารกิจเสร็จสมบูรณ์ร่างสูงใหญ่ถึงได้แบกร่างโปร่งบางกลับคอนโดมาในสภาพไร้สติอย่างที่เห็น
ร่างโปร่งบางถูกวางลงบนเตียงหลังใหญ่ภายในห้องนอน
ก่อนที่ร่างแข็งแกร่งจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ
ใบหน้าคมก้มลงล้างหน้าล้างตาให้ตัวเองที่ก็กลืนเหล้าอย่างแรงนั่นไปไม่ใช่น้อยให้สร่างเมาเรียบร้อยก่อน
แล้วจึงหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆเดินกลับมาหาคนที่ยังนอนนิ่งอยู่บนเตียง
แว่นตาถูกถอดออกให้อย่างเบามือก่อนที่ผ้าขนหนูจะตามลงมาเช็ดใบหน้าเนียนใส
ริมฝีปากสีระเรื่อบ่นงึมงำอะไรบางอย่างก่อนจะหลับพริ้มต่อไป
จนคนที่เช็ดหน้าให้เผลอจ้องมองอย่างหลงใหล
ใบหน้าคมยิ้มน้อยๆกับคนหมดสภาพตรงหน้า
ผ้าขนหนูถูกโยนไปพาดไว้ที่โต๊ะหัวเตียง
ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะนั่งลงข้างๆคนที่ยังหลับสนิท
มือใหญ่เกลี่ยเส้นผมสีดำขลับออกให้พ้นใบหน้าเรียวซึ่งยังคงแดงระเรื่อ....แดงตั้งแต่ใบหูไปจนถึงลำคอ
สภาพแบบนี้ของกิโนะทำให้เขาเผลอยิ้ม....เพราะเขารู้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วว่า
กิโนะเป็นคนที่คออ่อนมาก
“
ไม่สมกับที่เป็นลูกลุงเลยน้า....” ร่างแข็งแกร่งเอนตัวลงนอนตะแคงมองใบหน้าของคนที่ยังหลับไม่รู้เรื่อง.....ภาพของภารกิจหนึ่งในอดีตลอยเข้ามาในหัวให้ยิ้มออกมาได้ทุกครั้งที่นึกถึงมัน....
เมื่อหกปีก่อน....
ตอนนั้นเขายังเป็นผู้สังเกตการณ์....และเจ้าซาซายามะก็ยังมีชีวิตอยู่......
“
จะขออธิบายเกี่ยวกับภารกิจคราวนี้ละนะ....คาตาซาวะ
โยโนะ.....ผู้ต้องสงสัยว่าค้ายาเถื่อนซึ่งเป็นยาที่ใช้ฉีดเข้าเส้นเพื่อต่อต้านความเจ็บปวดที่เกิดจากการลงโทษของโดมิเนเตอร์....คนที่ใช้ยานี่หากโดนโหมดพาราไรเซอร์
ร่างกายก็จะไม่เป็นอัมพาตทำให้หนีจากการจับกุมของพวกเราได้ และถ้าเป็นโหมดเอลิมิเนเตอร์
ร่างกายก็จะระเบิดเฉพาะส่วนที่ถูกยิงเท่านั้น ไม่ระเบิดทั้งหมด
หรือก็คือไม่ตายนั่นเอง” โคงามิ
ชินยะ ยืนอธิบายเรื่องราวเกี่ยวกับภารกิจที่เพิ่งได้รับมาให้กับอีกสามคนที่เหลือฟัง
หน่วยสืบสวนที่หนึ่ง
ของกรมความปลอดภัยในเวลานั้นมีกันอยู่ทั้งหมด 4 คน.......ผู้สังเกตการณ์ระดับหัวกะทิที่เพิ่งเข้ากรมมาได้สองปีอย่าง
โคงามิ ชินยะ กับ กิโนสะ โนบุจิกะ....และหมาล่าเนื้อชั้นเยี่ยมอย่าง ซาซายามะ
มิตสึรุ กับ มาซาโอกะ โทโมมิ
ทั้งความหนุ่มแน่นจากเด็กใหม่ไฟแรงกับชั้นเชิงจากประสบการณ์มากมายของคนที่ผ่านงานมาอย่างโชกโชน.....ทำให้ใครๆในกรมต่างก็คาดหวังกับทีมที่ยอดเยี่ยมทีมนี้....เพราะไม่ว่าจะเป็นคดีหินแค่ไหนก็ปิดลงได้แน่นอนหากมันตกถึงมือหน่วยที่หนึ่ง
และคดีคราวนี้เองก็เช่นกัน.....
“
เพราะไอ้ยานี่มันทำขึ้นมาเพื่อต่อต้านพวกเรา จึงจำเป็นต้องขุดคุ้ยสาวไปให้ถึงต้นตอที่ผลิต....จำเป็นต้องจับตัวมันแบบเป็นๆให้ได้พร้อมทั้งของกลางด้วย”
“
ฟังดูก็ไม่เห็นจะมีอะไรยากนี่นา....ก็บุกเข้าไปจับมันตรงๆในบ้านมันก็สิ้นเรื่อง” ซาซายามะเอ่ยออกมาด้วยเสียงสบายๆ
ร่างกายสูงยาวเอนพิงไปกับเก้าอี้พรางยกมือขึ้นหนุนท้ายทอยด้วยท่าทางไม่เรียบร้อยราวกับว่าไม่ได้ใส่ใจนักว่ากำลังประชุมกันอยู่ในกรมความปลอดภัย
“
มันไม่ง่ายแบบนั้นน่ะสิ เพราะหน่วยที่สามเคยเอาโดรนไปลอบสแกนบ้านของเจ้านั่นแล้ว
แต่ก็ไม่พบของกลางซึ่งก็คือยาเถื่อนนั่นเลยแม้แต่เม็ดเดียว”
โคงามิโยนเอกสารที่เป็นรายงานของหน่วยที่สามไปให้ซาซายามะซึ่งรับไปเปิดดูด้วยท่าทางไม่ใส่ใจเหมือนเดิม
“
ถ้างั้น...ที่ที่เราจะจับหมอนั่นได้ก็คือ ที่ที่มันขายยา?” กิโนสะขยับแว่นตาพรางก้มลงอ่านรายงานที่กางอยู่บนโต๊ะด้วยสีหน้าจริงจังจนอีกสามคนที่เหลือนึกเอ็นดู....เพราะมักจะจริงจังกับทุกเรื่องแบบนั้นเลยทำให้ยิ่งน่าแกล้ง
“
ใช่....เราต้องบุกเข้าไปจับตอนที่มันกำลังขายยา.....แต่ปัญหามันอยู่ตรงนั้นแหละ....” โคงามิก้มลงมองรายงานพรางถอนหายใจออกมา
“
หมอนั่นมักจะนัดขายยาในบาร์แบบปิด...ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆก็คือบาร์ที่มีแต่สมาชิกเท่านั้นที่จะเข้าไปได้...ซึ่งฉันคิดว่ากว่าเราจะขอเข้าตรวจค้น
กว่าจะได้บุกเข้าไป
มันก็คงจะรู้ตัวและชิ่งหนีไปได้เสียก่อน....และหากเราพลาดแม้แต่ครั้งเดียว
รับรองเลยว่าพวกมันต้องระวังตัวหนักกว่าเดิมแน่ๆ แล้วทีนี้ก็จะยิ่งตามจับยาก”
“
ไม่เห็นจะยาก....ก็ปลอมตัวเข้าไปเป็นสาวนั่งดริ๊งในบาร์นั่นสิ
แล้วพอมันเข้ามาก็เป่าด้วยพาราไรเซอร์ไปซักทีสองทีก็จบแล้ว” ซาซายามะเสนอแผนออกมาอย่างไม่ใส่ใจ
โดยลืมไปว่า....คนในหน่วยที่หนึ่งทั้งหมดนั้น....เป็นผู้ชาย
และเพราะว่ามันดันเป็นแผนการที่ดูเข้าท่า
ทำให้สมาชิกทั้ง 4 ของหน่วยที่หนึ่งเองก็ยังไม่มีใครเอะใจ
และเริ่มวางแผนต่อไปโดยมีแนวคิดนี้เป็นที่ตั้ง
จนกระทั่ง....
แผนการทุกอย่างต่างถูกวางไว้อย่างดิบดี.....แม้แต่ชุดที่จะใช้ในการปลอมตัวก็ถูกหามาจนพร้อมสรรพ
แล้วสมาชิกหน่วยที่หนึ่งจึงต้องมายืนกุมขมับอยู่ตรงหน้าชุดที่ถูกเปิดออกจากกล่องอย่างเพิ่งจะรู้ตัว
มันเป็นชุดกี่เพ้ากระโปรงยาวเข้ารูปสีแดง....ถึงจะบอกว่ากระโปรงยาวแต่มันก็แหวกจนถึงต้นขา
คำถามเดียวที่ลอยอยู่ในใจของทุกคนคือ........แล้วใครจะเป็นคนทำ?
ใครจะเป็นคนใส่ไอ้ชุดบ้าๆนี่วะ?!!!
แล้ว....สายตาสามคู่ก็มองไปที่
กิโนสะ โนบุจิกะ เป็นตาเดียว.....คนสามคนต่างก็มองไปพร้อมกันโดยที่มิได้นัดหมาย
ทำเอาเจ้าของร่างที่ถูกมองถึงกับผงะ
“
ไม่เด็ดขาด!!!”
ใบหน้าเรียวปฏิเสธออกมาทันที มือบางยกขึ้นมาขยับแว่นจนผมหน้าม้าที่สั้นระขอบแว่นพลิ้วไหวน้อยๆ
“
ชั้นว่านายก็เหมาะดีนะกิโนะ?”
โคงามิมองไปที่เอวคอดบางก่อนจะหันไปมองกี่เพ้าเข้ารูป....ตอนนั้นทั้งสองคนเพิ่งจะคบกันในฐานะคนรักได้ไม่ถึงสามเดือนดี
“
อย่าเอาความหื่นของแกมาปนกับงานนะเจ้าบ้าโคงามิ!....งานนี้ใครมันเป็นคนเสนอไอเดียก็ให้มันทำสิ!”
แล้วกิโนสะก็ตวัดสายตาจิกกัดไปที่ซาซายามะที่ยิ้มหน้าซีด
“
ไม่ดีม้างกิโนะเซ็นเซย์......งานนี้มันเหมาะกับเด็กหน้าใสวัยละอ่อนแบบกิโนะเซ็นเซย์มากกว่านะ” ใบหน้าเริงร่ายกเหตุผลมาอ้างอย่างแนบเนียน
“
ถ้าวัยละอ่อนละก็...ไม่ได้มีแค่ชั้นคนเดียวนี่!”
นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นตวัดไปมองอีกคนที่เข้ากรมมาพร้อมกันและมันก็ทำให้ใบหน้าคมถึงกับกระตุกเฮือก
“
แต่งานลงพื้นที่แบบนี้มันเป็นงานของหน่วยปฏิบัติการไม่ใช่หรอ?” โคงามิหาข้ออ้างแถไปจนได้
และหากพูดถึงหน่วยปฏิบัติการก็มีอยู่แค่สองคน หากเจ้าซาซายามะปฏิเสธเสียงแข็ง มันก็จะเหลืออีกแค่คนเดียวแล้วน่ะสิ
และเมื่อสายตาทั้งสามคู่มองไปที่ลุงมาซาโอกะที่ยิ้มพรางเกาหัวแกรกๆ....
“
เฮ้อ.....” เสียงถอนหายใจก็ดังขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย...คงไม่มีบาร์ที่ไหนรับสาวนั่งดริ๊งอายุปูนนั้นไปทำงานหรอกมั้ง
ในเมื่อเถียงกันไปเกี่ยงกันมาแบบนี้มันก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น
สรุปไม่ได้งานก็ไม่เดิน
หน่วยที่หนึ่งอันเลื่องลือคงต้องมาเสียชื่อก็คราวนี้เอง...ใครจะไปยอมได้
เพราะงั้น....
“
นี่ มาจับไม้สั้นไม้ยาวกันเถอะ
จะได้สรุปๆได้ซักที อยากปิดคดีนี้แล้วไปนอนดูเอวีจะแย่แล้วอ่ะ” ซาซายามะเสนอความคิดออกมา
ถึงแม้ว่าเหตุผลของหมอนั่นจะถ่อยไปหน่อยแต่อีกสามคนที่เหลือก็เห็นด้วย
ถ้ามันจะทำให้ได้ข้อสรุปซักที
“
อย่างน้อยนี่ก็น่าจะเป็นวิธีที่ยุติธรรมที่สุด” กิโนสะพูดออกมา....เพราะคิดว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ.....
“
ถ้างั้นน้า....คนจับได้ไม้สั้นต้องเป็นคนแต่งชุดนั้นและปลอมตัวเป็นสาวนั่งดริ๊งนะ...เข้าใจกันถ้วนหน้าแล้วใช่ป่ะ?” มีเพียงกิโนสะที่พยักหน้ารับอย่างแข็งขัน
“
เอ้า! กิโนะเซ็นเซย์....ในฐานะที่เป็นใหญ่ที่สุดในหน่วยหนึ่ง....จับก่อนเลย!” แล้วไม้สั้นไม้ยาวในมือ
ซาซายามะ ก็ยื่นไปอยู่ตรงหน้ากิโนสะ
มือบางยกขึ้นขยับแว่นก่อนจะจ้องเขม็งไปที่ไม้สี่อันอย่างกับจะพยายามมองให้ทะลุปรุโปร่งว่าอันไหนคือไม้สั้นอันไหนคือไม้ยาวกันแน่
ปลายนิ้วคีบไม้ขึ้นมาอันหนึ่งด้วยใบหน้าลุ้นระทึก....แท่งไม้ที่ค่อยๆพ้นมือใหญ่ขึ้นมานั้นทำเอาใบหน้าเรียวมีแต่เหงื่อแตกพลั่ก
ในใจลุ้นสุดตัวว่าไม้มันจะยาวจนดึงเท่าไหร่ก็ไม่หลุดออกมาจากมือหยาบกร้านนั่น
แต่ทว่า.....
ดูเหมือนวันนี้จะไม่มีโชคสำหรับคนใส่แว่น....
เพราะไม้ที่นิ้วเรียวคีบออกมา
ไม่ทันไรก็หลุดจากมือซาซายามะอย่างง่ายดาย....
“
ไม้สั้นคร้าบบบบ......ดีใจด้วยนะ กิโนะเซ็นเซย์!” ซาซายามะดีใจจนออกนอกหน้า
แต่ทว่าคนที่จับได้กลับแข็งเป็นหินไปแล้ว
นัยน์ตาที่จริงจังอยู่เสมอเหม่อลอยไปยังโลกหน้าเป็นที่เรียบร้อย
“
โฮ่ย กิโนะ?”
มือใหญ่ของโคงามิโบกไปมาตรงหน้ากิโนสะ
ทำให้ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นผงะไปเล็กน้อย
ก่อนจะยกเจ้าไม้สั้นเจ้าปัญหาขึ้นมามองแล้วมองอีกว่าตนไม่ได้ตาฝาดไป
“
ไม้สั้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลยกิโนะเซ็นเซย์
หวังว่าท่านผู้สังเกตการณ์ของหน่วยที่หนึ่งคงทำตามสัญญาน้า....” น้ำเสียงเริงร่าทำให้ใบหน้าเรียวตวัดสายตาขึ้นมามอง
ริมฝีปากสีระเรื่อเม้มแน่นอย่างทำอะไรไม่ได้
“
กะ ก็ได้! นะ ในเมื่อผลมันออกมาเป็นแบบนี้มันก็ช่วยไม่ได้!”
เสียงตะกุกตะกักดังขึ้นมาก่อนที่ร่างโปร่งจะหันไปคว้ากี่เพ้าเจ้าปัญหาขึ้นแล้วเดินตรงดิ่งไปยังห้องพักด้านหลัง
และในตอนนั้นเองที่ไม้ทั้งหมดในมือกร้านของซาซายามะถูกหย่อนลงไปในถังขยะ
ซึ่งโคงามิก็ตาไวพอที่จะเห็นมัน
"
เฮ้ยซาซายามะ! ไอ้ไม้พวกนี้น่ะมัน......"
ดูยังไงมันก็ไม้สั้นทั้งหมดเลยไม่ใช่หรอน่ะ?
เพราะงั้นไม่ว่ากิโนสะจะหยิบอันไหนขึ้นมาก็โดนทั้งหมดอยู่ดีนี่!
“
ก็ดีกว่านายหรือชั้นหรือลุงต้องเป็นคนทำใช่ไหมล่ะ? อย่างน้อยถ้าเป็นกิโนะเซ็นเซย์
คงแต่งหญิงออกมาได้น่าดูกว่าเราสามคนที่เหลือแหละ....บอกตามตรงว่าชั้นคงได้ยืนอ้วกจนหมดแรงแน่ถ้าคนที่จะแต่งชุดนั่นเป็นลุงหรือไม่ก็ผู้ชายล่ำบึกแบบนายน่ะโคงามิ”
ใบหน้าคมนิ่งคิด......ก็จริง....เขาที่สัมผัสร่างนั้นมาหลายครั้งย่อมรู้ดีว่ากิโนะบางกว่าที่เห็นภายนอกหลายเท่า
และเมื่อมองไปที่ผู้เป็นพ่อบังเกิดเกล้า...ลุงเองก็ดูท่าว่าจะไม่คัดค้านอะไร....
“
นี่....ชั้นใส่ไม่เป็นล่ะ ไอ้ชุดนี้มันใส่ยังไง?” จู่ๆคนที่เดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อก็กลับออกมากะทันหันทำเอาอีกสามคนที่เหลือโกยถังขยะนั่นหลบแทบไม่ทัน
“
โอ้....ไม่ต้องห่วงๆ เดี๋ยวพี่ชายจะไปช่วยใส่ให้เอง
ไอ้เรื่องเสื้อผ้าสตรีไว้เป็นหน้าที่พี่ชายคนนี้เถอะ” ซาซายามะดิ่งเข้าไปคว้าเอวบางของคนที่ยังสนใจแต่เสื้อผ้าแปลกตาในมือ
“
หยุดเลยแก....เดี๋ยวจะเรียกชิอองให้แล้วกัน”
มือใหญ่ของโคงามิคว้าคอไอ้ตัวหน้าหม้อประจำกรมความปลอดภัยเอาไว้ก่อนจะหันไปบอกกิโนสะว่าจะเรียกคนที่น่าจะช่วยได้ดีกว่ามาให้
จอเสมือนที่ข้อมือถูกเรียกขึ้นมาพร้อมกับใบหน้าสวยของหญิงสาวประจำห้องแลบ
“
ชิออง มาช่วยแต่งตัวให้กิโนะหน่อย...เธอคงพอรู้คร่าวๆเกี่ยวกับภารกิจที่พวกชั้นจะต้องไปทำแล้วใช่ไหม?” น่าจะรู้ดีอยู่แหละ
เพราะคนที่เลือกชุดสุดสยิ๋วนี่มาให้ก็คือเธอเองนั่นแหละ
“
โอเค....ว่าแต่ตกลงผู้สังเกตการณ์ทำเองเลยหรอ? เหะ เหะ เหะ” เสียงหัวเราะไม่เข้ากับหน้าดังมาตามสาย
“
เซ็นเซย์...ยืมบราเสริมฟองน้ำด้วยได้ม้า”
และยังไม่ทันที่จะวางสาย ซาซายามะก็ตะโกนบอกหญิงสาวแทรกเข้าไป.....แค่นั้นแหละ......คนที่ต้องใส่ไอ้ของที่เจ้าบ้านั่นตะโกนออกไปถึงกับตัวแข็งทื่อ
ใบหน้าเรียวมีแต่เหงื่อแตกพลั่ก
“
ชั้นไม่มีของแบบนั้นหรอกย่ะ นี่น่ะของแท้นะยะ แต่....จะหาให้ก็แล้วกัน”
"
ขอแบบบึ้มๆเลยนะ คัพEน่ะ คัพE!!" จอมลามกประจำกรมเอ่ยบอกไปด้วยน้ำเสียงระรื่น
"
เอาเล็กๆพอ เดี๋ยวตาลุงหื่นกามมาลวนลามกิโนะของชั้นจะทำไง" แล้วมันก็ถูกตัดบทโดยโคงามิทันทีเช่นกัน
ประโยคที่ทั้งสามคนพูดกันอยู่นั้นทำเอาคนที่ตามไม่ทันได้แต่ทำหน้างง
"
พวกแกพูดเรื่องอะไรกันน่ะ?" ถึงจะรู้ว่าบราคืออะไรแต่ก็ไม่รู้รายละเอียดมากไปกว่านั้น
และเพราะคำถามนั่นแหละทำเอาอีกสามคนหันมามองด้วยสายตาจะว่าเอ็นดูก็ไม่เชิงเจ้าเล่ห์ก็ไม่ใช่
ก็เพราะยังใสซื่อแบบนี้แหละน้า....เพราะงั้นต่อให้ซึนเดเระแค่ไหนคนในหน่วยที่หนึ่งก็ไม่มีใครว่าอะไร....กลับจะชอบเย้าแหย่ในความจริงจังนั่นอีกต่างหาก
กิโนสะและคาราโนโมริหายเข้าไปในห้องพักของผู้สังเกตการณ์ที่อยู่ด้านในนานสองนาน
เวลาเดินจากบ่ายจนกลายเป็นเย็น และอีกไม่นานก็จะได้เวลาออกปฏิบัติการณ์อยู่แล้ว สามคนที่นั่งรออยู่ในห้องทำงานของหน่วยที่หนึ่งต่างซักซ้อมแผนการกันอย่างขะมักเขม้น
จนกระทั่ง
“
แต้น~~~เรียบร้อยแล้ว~~~”
เสียงของหญิงสาวหุ่นเซ็กซี่ดังออกมาจากห้องพัก
คาราโนโมริเดินออกมาด้วยใบหน้ามั่นใจ
“
เอ้า! ผู้สังเกตการณ์ก็ออกมาสิ! ไม่ต้องห่วงหรอกน่า
สวยจนไม่มีใครแยกออกแน่”
หญิงสาวเดินกลับเข้าไปใหม่เมื่ออีกคนไม่ยอมตามออกมา
มือบางฉุดกระชากลากถูกันอยู่พักนึง
ยิ่งทำให้สายตาอีกสามคู่จ้องมองไปที่บานประตูอย่างลุ้นระทึก
“
หะ ห้ามหัวเราะนะ!” เสียงดุๆแต่ก็ตะกุกตะกักดังออกมาก่อนจะมองเห็นตัวเสียอีก
และเมื่อขาเรียวขาวที่โผล่พ้นรอยแหวกสูงของกระโปรงกี่เพ้าก้าวออกมา....ไม่เพียงแค่ทั้งหมดจะไม่หัวเราะตามที่สั่ง....แต่ยังทำในสิ่งตรงข้าม
สายตาทุกคู่ที่อยู่ในห้องต่างเบิกกว้างก่อนจะค้างอย่างตะลึงอยู่แบบนั้น.....
กิโนสะ
โนบุจิกะ ในวัยยี่สิบต้นๆนั้นยังตัวเล็กบาง
ความสูงที่ไม่มากเท่าปัจจุบันทำให้รูปร่างพอดีกับกี่เพ้าสีแดงแบบสุดๆ ต้นแขนก็ไม่มีมัดกล้ามทำให้มันดูเรียวเล็กกว่าเดิมเมื่อแขนเสื้อสั้น
ท่อนล่างเองก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยถึงแม้ว่ารอยแหวกของกี่เพ้าจะยาวขึ้นไปจนเกือบจะถึงโคนขา
เพราะว่าขาเรียวที่โผล่พ้นรอยแหวกออกมามันทั้งขาวทั้งเนียนแถมยังไม่ใหญ่เหมือนผู้ชายทั่วไปอีกด้วย
คอแบบจีนของเสื้อส่งให้ลำคอยิ่งดูระหง ถึงแม้ว่าสิ่งที่นูนออกมาตรงหน้าอกจะไม่ใช่ของจริงแต่คาราโนโมริก็จัดแต่งมันออกมาจนดูยังไงก็ดูไม่ออก
และก็ไม่ใช่เฉพาะรูปร่างเท่านั้นที่ดูแนบเนียน....ผิวขาวจัดยามเมื่ออยู่ใต้สีแดงของผ้าก็ดูผ่องจนบอกว่าเป็นผิวของสาวน้อยแรกรุ่นก็เชื่อได้....ยิ่งใบหน้ายิ่งไม่ต้องพูดถึง รูปหน้าที่เรียวสวยอยู่แล้วพอถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางก็ยิ่งทำให้ดูละมุนละไม
ริมฝีปากอวบอิ่มถูกทาสีแดงแข่งกับชุด แก้มใสก็อมชมพูน่าสัมผัส
นัยน์ตาโฉบเฉี่ยวดูมีเสน่ห์ราวกับสาวชาวจีนมาใส่กี่เพ้าเอง
เส้นผมสีดำนุ่มลื่นที่แทบจะไม่ต้องทำอะไรมากเพียงแค่หวีปัดๆนิดหน่อยกับประดับดอกเหมยเล็กๆ.....
ไม่รู้ว่าควรจะชมคาราโนโมริที่แต่งเก่ง
หรือควรจะชมกิโนสะที่มีทุกอย่างบนร่างกายให้แต่งออกมาได้ขนาดนี้....
สวย.....
สวยจนละสายตาไม่ได้.....
“
กิโนะเซ็นเซย์.....เห็นแล้วอยากลวนลามขึ้นมาเลยล่ะ....ขอจีบได้ไหมเนี่ย?” ซาซายามะโพล่งขึ้นมาหลังจากที่มองตาค้างอยู่นานสองนาน
ร่างสูงชะลูดลุกขึ้นไปยืนส่องนู่นส่องนี่อยู่ใกล้ๆแล้วมือกร้านก็แอบลูบลงไปที่ต้นขาขาวซึ่งโผล่พ้นรอยเหวกออกมา....หาเรื่องโดนหมัดน้อยๆนั่นต่อยจนหน้าหงาย
ผลั๊วะ!!!
ผลั๊วะ!!!
แน่นอนว่าไม่ได้มีเสียงทำร้ายร่างกายแค่เสียงเดียว
เพราะมือใหญ่ของโคงามิก็ตามไปเขกหัวลามกนั่นซ้ำเข้าให้อีกที
“
ของชั้นเฟ้ย!” ถึงแม้ว่าคำพูดจะไม่ได้ทำให้ร่างโปร่งบางรู้สึกต่างกันเลยก็เถอะ....
“
ชักจะหวงขึ้นมาแล้วอ่ะ กิโนะ” ร่างสูงใหญ่ตามเข้ามาคลอเคลียด้วยน้ำเสียงเง้างอด
สองแขนแข็งแรงกอดเอวบางอย่างหวงๆ
ใบหน้าคมเองก็เกยอยู่ที่ไหล่บางอย่างไม่สนใจคนเป็นพ่อที่ยืนอยู่ไม่ได้ไกลเลยสักนิด.....นี่ถ้าลุงมาซาโอกะแกเป็นพวกลัทธิคลั่งลูกชายละก็
ป่านนี้อาจจะโดนเป่าด้วยลูกโม่ไปแล้ว
“
อยากจะโดนต่อยตามเจ้าซาซายามะไปอีกคนใช่ไหมโคงามิ?” มือบางยันทั้งหน้า ยันทั้งตัวปลิงควายที่เกาะหลังอยู่ออกไป
“
แล้วแว่นฉันไปไหนเนี่ย?”
ห้องทั้งห้องเงียบกริบ ก่อนที่เสียงหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังจะดังออกมาจากปากของทุกคน
“
ฮ่าๆๆๆๆ กิโนะเซ็นเซย์....มีสาวนั่งดริ๊งที่ไหนเค้าใส่แว่นกันบ้างล่ะ?
ไม่ใช่เมดคาเฟ่นะ จะได้มีแบบโมเอะน่ะ ฮ่าๆๆๆ”
แผนการดำเนินไปได้ด้วยดี...กิโนสะแฝงตัวเข้าไปเป็นสาวนั่งดริ๊งคนใหม่ได้โดยที่ไม่มีใครสงสัย
เวลาผ่านช่วงหัวค่ำได้สักพักแล้ว
แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของ คาตาซาวะ โยโนะ....ผู้ต้องสงสัยของคดีคราวนี้เลย
ใบหน้าเรียวลอบถอนหายใจ
ได้แต่ภาวนาว่าไอ้บ้านั่นมันจะรีบๆไสหัวมาสักที....เพราะถ้ามันไม่มาวันนี้ก็จะหมายความว่า....พรุ่งนี้เขาก็ต้องปลอมตัวใส่ชุดบ้าๆนี่มาที่นี่อีกน่ะสิ
นัยน์ตาสีดำเหลือบลงไปมองกี่เพ้าสีแดงที่สวมใส่อยู่....ไม่เข้าใจจริงๆว่าผู้หญิงใส่ชุดแบบนี้เข้าไปได้ยังไง
ทั้งคับ ทั้งอึดอัด ไหนจะรอยแหวกที่ขานี่อีกล่ะ จะลุกจะนั่งก็แสนจะลำบาก
เฮ้อ.....
ใบหน้ามุ่ยเหลือบขึ้นมองไปรอบๆจึงเพิ่งรู้ตัวว่าถูกสายตาของลูกค้าหนุ่มๆหลายคนจ้องมองอยู่
ขนบนแขนลุกเกรียวอย่างไม่มีสาเหตุ
ใบหน้าเรียวเสหลบอย่างพยายามให้อ่อนช้อยที่สุด...โอย...นี่ยังดีนะที่มาม่าซังของที่นี่ยังมีความปราณีอยู่บ้าง
ยังยอมให้เด็กใหม่อย่างเขานั่งดูพวกรุ่นพี่อยู่เฉยๆในการทำงานวันแรกแบบนี้ก่อน
แต่ถ้าเป็นพรุ่งนี้....เขาคงต้องออกไปรับแขกอย่างไม่ต้องสงสัย
ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
รู้สึกขยะแขยงแปลกๆถ้าจะต้องให้ใครนอกจากโคงามิมาจับเนื้อต้องตัว
เพราะงั้นนะ....คาตาซาวะ
โยโนะ....โผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้!!!
และอาการนั้นมันก็ไม่ได้เกิดกับกิโนสะเพียงคนเดียว
ในเมื่อตอนนี้คนที่เฝ้าอยู่ข้างนอกอย่างโคงามิเองก็แทบจะนั่งไม่ติด
ในใจทั้งร้อนรนกระวนกระวายไปหมด
ทั้งเป็นห่วง ทั้งหวง คนที่อยู่ข้างในบาร์นั่น
แค่คิดว่าผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้จะมามองของของเขาด้วยสายตาโลมเลีย
จะเอามือหยาบกร้านมาสัมผัสผิวขาวๆนิ่มๆนั่น มันก็แทบทนไม่ได้
เฮ้อ.....
รู้งี้ใช้ตำแหน่งหน้าที่
ใช้อำนาจบังคับให้เจ้าซาซายามะเป็นคนแต่งชุดนั่นซะก็ดีหรอก....เผื่อบางทีบาร์แห่งนี้อาจจะค้นพบหนทางใหม่
มีของแปลกเอาไปให้แขกดูซักตัวอะไรงี้
ในใจจึงได้แต่ภาวนาให้เรื่องมันจบภายในวันนี้
กิโนะของเขาจะได้ไม่ต้องมาแต่งตัวยั่วตะเข้แบบนี้อีก!
แล้วก็ราวกับคำภาวนาผสมสาปแช่งจะสัมฤทธิ์ผล
เมื่อจู่ๆรถสีดำหรูหราคันหนึ่งก็มาจอดลงที่หน้าบาร์.....แล้วคาตาซาวะ
โยโนะ ก็เดินลงจากรถด้วยท่าทางภูมิฐานเข้าประตูไป โดยมีการ์ดอยู่ด้วยถึงสองคน
นัยน์ตาของโคงามิและซาซายามะที่เฝ้าอยู่ข้างหน้าบาร์จ้องเขม็งไปที่ประตู....ต่อให้มาซักกี่คนก็ไม่มีผลกับโดมิเนเตอร์และอย่างกิโนะเองก็น่าจะจัดการกับพวกมันได้ด้วยตัวคนเดียว
ถ้านั่นมันเป็นสถานการณ์ปกติละก็นะ....
เสียงสัญญาณเรียกเข้าดังขึ้นมาที่สายรัดข้อมือของโคงามิ
“
มีอะไรชิออง?”
เป็นสายที่มาจากห้องแลบวิเคราะห์
“
อือ....ฉันจับสัญญาณแปลกๆได้น่ะ...ว่ารอบๆบาร์ที่พวกนายอยู่กัน
เมื่อสองสามนาทีก่อนจู่ๆก็มีรังสีตรวจจับโดมิเนเตอร์ปะปนเข้ามาน่ะสิ....นั่นก็หมายความว่าถ้าเปิดออนไลน์โดมิเนเตอร์เมื่อไหร่
ฝ่ายนั้นก็จะรู้ทันที”
ใบหน้าของโคงามินิ่งไป เหงื่อไหลลงมาจากไหนก็ไม่รู้ตัว
“
โฮ่ยโคงามิ.....ถ้างั้นกิโนะเซ็นเซย์ก็......” กำลังตกอยู่ในอันตราย....
ถ้ากิโนสะเปิดออนไลน์โดมิเนเตอร์เมื่อไหร่
พวกนั้นก็จะรู้ตัวทันที....ในขณะที่กิโนสะเองจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกมันรู้แล้ว......ถ้าพวกมันหนีออกมาก็ไม่เป็นไรแต่หากมันคิดจะตรงเข้าเล่นงานตำรวจที่แอบแฝงเข้าไปขึ้นมาล่ะ
พวกมันคงจะรู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร
ในเมื่อวันนี้มีเพียงกิโนสะคนเดียวที่เป็นเด็กใหม่
“
ซาซายามะ....บอกลุงทีว่าลุยเข้าไปเลย!” ใบหน้าระรื่นยิ้มรับ
เพราะนานๆทีจะได้ลุยสมใจ.....นานๆทีจะได้เห็นเจ้าผู้สังเกตการณ์คนนี้ใจร้อนขึ้นมากับเขาบ้างและไม่ห้าม...ถ้าเขาจะเข้าไปอาละวาด
“
โอ้ส!”
ร่างโปร่งบางยืนอยู่หลังเคาเตอร์บาร์
นัยน์ตาสีดำพยายามกวาดมองไปทั่วอย่างไม่ให้ใครจับพิรุธได้ว่าที่จริงแล้วกำลังจ้องมองประตูอยู่มากกว่า
และแล้วคนที่เฝ้ารอมาตั้งแต่หัวค่ำก็ก้าวเดินเข้ามา....
ใบหน้าเรียวยังคงนิ่งเฉยถึงแม้ว่าในดวงตาจะยิ้มอย่างยินดี....เรียวขาภายใต้กี่เพ้าขยับช้าๆให้สมกับที่เป็นท่าเดินของผู้หญิงก่อนจะหายตัวเข้าไปในห้องแต่งตัวที่อยู่ทางด้านหลัง....
ล็อคเกอร์ถูกเปิดออกก่อนที่มือบางจะสอดเข้าไปในกระเป๋าของตัวเอง
แล้วโดมิเนเตอร์ก็ถูกหยิบออกมา
ฝ่ามือแนบสัมผัสลงไปที่ด้ามปืน....แล้วหูก็ได้ยินเสียงที่พูดกับเขาเพียงแค่คนเดียว....
….System
Online…..
กว่าจะทะลวงด่านยามที่เฝ้าอยู่หน้าบาร์เข้ามาได้ก็ไม่ใช่งานง่ายๆจริงๆด้วย
โคงามิกับซาซายามะวิ่งอย่างรวดเร็วไปตามทางเดินที่มีเพียงแสงสลัวๆชวนให้เคลิบเคลิ้ม
สองมือใหญ่จับด้ามโดมิเนเตอร์มั่น
ในใจเป็นห่วงกิโนสะจนแทบจะเป็นบ้า
ยิ่งวิ่งเข้าไปใกล้เท่าไหร่ก็ยิ่งได้ยินเสียงโครมครามดังชัดเจนขึ้นเท่านั้น
ข้างในคงจะมีเรื่องโกลาหลเกิดขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
ได้ยินทั้งเสียงกรีดร้องและฝูงชนที่วิ่งแตกหือออกมา และมันก็ยิ่งเป็นอุปสรรคที่ทำให้พวกเขาทั้งสองคนฝ่าเข้าไปได้ช้ากว่าเดิม
“
หลบหน่อยสิวะ!!”
ผู้สังเกตการณ์ที่เยือกเย็นอยู่เสมอกลับสบถออกมาก่อนจะแทรกกายฝ่าคนที่วิ่งสวนกันโดยไม่สนใจว่าจะไปชนกับใครเข้าหรือเปล่า
ตอนนั้นในหัวคิดอะไรไม่ออกนอกจากคำว่า
“ห่วง” ที่มีให้กับคนที่ยังติดอยู่ข้างใน
สองขารีบวิ่งเข้าไปจนไม่รู้เลยว่าเผลอทิ้งเจ้าซาซายามะไว้ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่
“
กิโนะ!!”
ดูเหมือนเสียงที่ตะโกนเรียกออกไปจะถูกเสียงกรีดร้องของผู้คนกลบจนหมด
“
กิโนะ!! นายอยู่ไหนน่ะ?!!”
มือใหญ่ผลักร่างของใครบางคนที่วิ่งเข้ามาชนก่อนจะฝ่าเข้าไปจนได้
ขายาวยกขึ้นถีบประตูจนหลุดกระเด็นก่อนที่สองมือจะยกโดมิเนเตอร์ขึ้นด้วยหัวใจที่เต้นระรัว
โครม!!!
แต่แล้วภาพตรงหน้าก็ทำเอาใบหน้าคมถึงกับนิ่งค้าง
นัยน์ตาสีดำเบิกกว้าง ส่วนโดมิเนเตอร์ในมือก็ราวกับจะเป็นอัมพาตเอาเสียดื้อๆ
“
.........กิโนะ...?.....”
มีเพียงเสียงครางเรียกชื่ออีกฝ่ายเท่านั้นที่เปล่งออกไปได้
ผลั๊วะ!! โครม!!!!
เปล่าเลย....ที่นิ่งค้างไม่ใช่เพราะกิโนสะถูกเล่นงานปางตาย....แต่ที่ร่างสูงใหญ่ขยับไปไหนไม่ได้นั่นก็เพราะกำลังนึกถึงอนาคตของตัวเองอยู่ต่างหาก
ว่าถ้าเขาเกิดทำอะไรให้ร่างโปร่งบางนั่นไม่พอใจเข้าละก็.....
เขาก็คงจะถูกจับทุ่มเหมือน
คาตาซาวะ โยโนะ
ที่กำลังนอนแอ้งแม้งหมดสติอยู่ที่พื้นด้วยฝีมือของกิโนสะที่ไม่ได้พึงพาโดมิเนเตอร์เลยสักนิดนั่นแน่ๆ
แม้แต่การ์ดร่างยักษ์ก็ยังเสร็จตัวบางๆนั่นเลย!
“
แฮ่ก....แฮ่ก.....โคงามิ?
มาก็ดีเลยเอาโดมิเนเตอร์ยิงมันอีกทีซิ
ของชั้นถูกปัดกระเด็นไปไหนแล้วก็ไม่รู้เนี่ย” ใบหน้าคมพยักลงหงึกๆก่อนจะทำตามคำสั่งคนรักอย่างว่าง่าย
นัยน์ตาสีดำได้แต่จับจ้องมองร่างบางๆว่าไปเอาแรงตรงไหนมาจัดการไอ้คนพวกนี้ได้?
แล้วก็....ทั้งๆที่อยู่ในชุดแบบนั้นเนี่ยนะ?
ไม่อยากจะคิดเล้ย...ว่าเจ้าซาซายามะจะเลือดพุ่งขนาดไหน
ถ้าได้นั่งมองตั้งแต่ต้นจนจบ!
กุญแจมือถูกใส่ให้เหล่าผู้ต้องหาจนครบ....แต่ดูเหมือนลมหายใจของกิโนสะจะยังไม่กลับมาเป็นปกติ
“
ไหวไหมน่ะ กิโนะ?” โคงามิหันไปถามด้วยความเป็นห่วง
ถึงแม้ว่าปกติแล้วพวกเขาจะวิ่งไล่จับอาชญากรอยู่ทุกวันแต่มันก็ไม่ได้ออกแรงมากมายขนาดนี้
“
ไม่เป็นไร...คอแห้งนิดหน่อย ขอไปหาน้ำกินก่อนละ”
ใบหน้าเรียวหันไปหันมาก่อนจะคว้าขวดใสๆที่ตั้งอยู่แถวๆนั้นขึ้นมาดื่มพรวดๆอย่างกระหาย
และเมื่อร่างสูงใหญ่มองให้ดีๆว่านั่นมันขวดน้ำอะไรก็ได้แต่ยกมือค้าง
“
เฮ้ยกิโนะ! ไอ้นั่นมัน......” Spiritus
ไม่ใช่หรอ? เหล้าอย่างแรงเลยไม่ใช่รึไงน่ะ?
“
กิโนะ?” ขวดในมือบางหล่นตุบลงพื้น
ใบหน้าที่ยังหอบแฮ่กอยู่เมื่อครู่จู่ๆก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ ร่างในกี่เพ้าโงนไปเงนมาจนโคงามิได้แต่พุ่งถลาเข้าไปรับเอาไว้แทบไม่ทัน
“
กิโนะ?!!!
โฮ่ย....กิโนะ!!!”
เสียงเรียกสุดท้ายเหมือนจะลอยมาจากที่ที่ไกลแสนไกล....ร่างโปรงบางเมาน็อคสลบสไลไปก่อนที่พวกซาซายามะกับลุงมาซาโอกะจะมาถึงเสียอีก
ทั้งๆที่แข็งแกร่งถึงขนาดจับคนร้ายได้หมดแต่กลับมาตายเอาง่ายๆเพราะเหล้าเนี่ยนะ?
ใบหน้าคมได้แต่อมยิ้มน้อยๆให้คนที่หลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมแขน
มันจะน่ารักเกินไปแล้ว!
และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้รู้ว่า
กิโนสะ โนบุจิกะ คออ่อนมากถึงมากที่สุด
แล้วก็ดูเหมือนเรื่องนี้เจ้าตัวเองก็จะไม่เคยรู้ตัวเลยด้วย
ท่อนแขนแข็งแรงวางร่างโปร่งบางลงที่เบาะหลังของรถก่อนจะตามเข้าไปนั่งประกบอยู่ข้างๆ
ปล่อยหัวไหล่ให้กิโนสะเอนซบไว้
“
ไปด้วย~~~”
จู่ๆเจ้าซาซายามะก็เปิดประตูหลังอีกฝั่งออก ก่อนจะตามเข้ามานั่งประกบที่อีกข้างของคนซึ่งยังหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว
“
ทำไมนายไม่ไปรถขนนักโทษ?”
“
ก็แหม....นานๆทีจะได้ออกมาย่านที่สาวๆเยอะแบบนี้
เพราะงั้นขอนั่งชมให้เจริญใจซักหน่อยน่า”
โคงามิได้แต่ถอนหายใจไปกับความหน้าหม้อของอีกฝ่าย เอาเถอะ
ปล่อยมันไป....ถ้ามันจะชอบผู้หญิงมากๆขนาดนั้นก็ดีแล้ว
กิโนะของเขาจะได้ปลอดภัยหายห่วง
ในขณะที่อีกคนผิวปากให้กับสาวน้อยสาวใหญ่ที่เดินอยู่ริมถนนที่รถวิ่งผ่าน
ใบหน้าคมกลับเอาแต่เหลือบมองลงไปที่คนซึ่งหลับซบไหล่ตัวเองอยู่
ต้นขาขาวโผล่ออกมาให้เห็นตามรอยแหวกของกี่เพ้าที่สูงจนเห็นขอบกางเกงในรำไร
นัยน์ตาสีดำเหลือบมองอย่างพยายามห้ามใจและเมื่อละสายตาขึ้นมาจึงเห็นว่าเจ้าซาซายามะก็มองต้นขาของกิโนะอยู่เช่นกัน
แถมเจ้าหมอนั่นยังจ้องแบบไม่คิดจะปิดบังเลยสักนิด มือของเจ้าหมาล่าเนื้อที่วางอยู่บนหน้าตักตัวเองกำลังเลื้อยมาเรื่อยๆจนอีกไม่นานก็จะถึงต้นขาขาวของคนที่ยังหลับไม่รู้เรื่อง
แต่ทว่า...ก่อนที่มือของเจ้าซาซายามะจะได้จับขาอ่อนของกิโนสะ
ปากกระบอกโดมิเนเตอร์ก็จ่อไปที่ใบหน้าเริงร่าจนเจ้าหมาล่าเนื้อจำต้องยกมือยอมแพ้แต่โดยดี
“
หันไปทางนั้นเลย แล้วก็ห้ามแอบมองผ่านกระจกด้วย” คำสั่งดังออกจากปากของผู้เป็นเจ้านาย
มือใหญ่ของโคงามิกอดกระชับเอวบางในกี่เพ้าเข้าหาตัว
ส่วนอีกมือก็ยังจ่อโดมิเนเตอร์ไว้ที่หมาเจ้าเล่ห์
“
ก็ข้างนอกมันไม่มีอะไรดูแล้วนี่นา....แหม....ขี้หวงจัง
จับนิดจับหน่อยก็ไม่ได้”
“
ไม่ได้”
เสียงแข็งเอ่ยบอกออกไปแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายก็จะสนุกสนานกับการแหย่ให้เขาหวง
กว่าจะกลับถึงกรมฯได้โดมิเนเตอร์ก็เกือบจะเป่าหัวลามกนั่นไปตั้งไม่รู้กี่ครั้ง....
นึกถึงช่วงเวลานั้นแล้วมันก็อดที่จะยิ้มไม่ได้
ช่วงเวลาที่ซาซายามะยังอยู่
ถึงจะหน้าหม้อไปบ้างแต่มันก็สนุกจริงๆ
ช่วงเวลาที่กิโนะยังใสซื่อและว่าง่ายกว่านี้ก็ยิ่งน่าคิดถึง......ตอนนั้นนะ
จะหลอก จะล่อ จะลวงอะไรก็ง่ายแท้ๆ....แล้วดูตอนนี้สิ....
ด่าเขาฉอดๆ
จะขอกอดก็ไม่ยอม....กลายเป็นกิโนสะที่โหดร้ายไปได้ยังไงก็ไม่รู้...ต้องโทษการเลี้ยงดูของเขาเองสินะ....
ปลายนิ้วม้วนปลายผมสีดำนุ่มลื่นเล่นไปมา
นัยน์ตาของหมาล่าเนื้อยังคงจับจ้องไปที่ใบหน้าหลับสนิทของผู้เป็นเจ้านายซึ่งนอนอยู่ข้างๆ
ริมฝีปากที่เผยอออกน้อยๆนั่นมันราวกับกำลังทดสอบเขา
ว่าจะทนไม่เข้าไปลักหลับได้หรือไม่
จู่ๆร่างเล็กๆของเจ้าโคยะก็กระโดดขึ้นมาบนเตียง
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยขนปกคลุมจ้องเขาอยู่พักนึงก่อนจะหันไปหากิโนะ
ลิ้นเล็กเลียลงไปบนใบหน้าที่ยังแดงระเรื่อ
เดี๋ยวเลียที่แก้ม
เดี๋ยวเลียที่สันจมูก….
มันทำอย่างกับจะปลุกกิโนะขึ้นมา เพื่อให้รู้ว่ากำลังถูกเขาจ้องจะเขมือบอยู่อย่างงั้นแหละ....หมานี่มันสัญชาติญาณดีเหลือเกิ๊น!
“
ว่าแต่แกไม่มีสิทธิ์มาเลียกิโนะของฉันแบบนี้นะเจ้าลูกหมา” แล้วมือใหญ่ก็ตะครุบหลังคอของเจ้าหมาขนดำก่อนจะยกลำตัวเล็กๆขึ้น
ขายาวลุกจากเตียงก้าวตรงดิ่งไปที่ประตูห้องนอนก่อนจะหย่อนเจ้าลูกหมาที่ดิ้นปั่ดพร้อมกับส่งเสียง
ฮื่อๆ ลงกับพื้นด้านนอก
“
อยู่ตรงนั้นแหละ ส่วนเจ้านายแก ฉันจะจัดการเอง” แล้วประตูก็ปิดลงท่ามกลางประกายไฟที่มองไม่เห็นจากสายตาของหมาทั้งสองตัว
“.....โค...งามิ?” เสียงแผ่วเบาดังมาจากข้างหลังทำให้ใบหน้าคมหันไปมอง
ร่างสูงใหญ่เดินกลับมาทรุดลงบนเตียง
ท่อนขาแข็งแรงก้าวคร่อมร่างโปร่งบางที่ยังนอนนิ่ง
เขาคุกเข่าอยู่เหนือร่างของกิโนสะ ลำตัวค่อยๆโน้มลงไป
สองมือประคองใบหน้าเรียวที่ยังดูเบลอๆเอาไว้ก่อนจะจรดหน้าผากแนบลงไปที่หน้าผากใส
“
ว่าไง...กิโนะ....” น้ำเสียงกระซิบเบาๆทำให้นัยน์ตาที่ยังล่องลอยหรี่ปรือ
เขาจึงย้ายใบหน้าของตัวเองมากดจูบที่แก้มใสก่อนจะละเรื่อยลงไปที่ซอกคอระหง
กลิ่นบริเวณนี้ของกิโนะจะหอมเป็นพิเศษ....หอมจนเขาซุกไซ้เท่าไหร่
กดจูบเท่าไหร่ก็ไม่เคยเบื่อ....แล้วก็คงมีแต่เขาเท่านั้นที่จะรู้เรื่องนี้
“
อื้อ....” เสียงงึมงำดังออกมาจากลำคอที่หันเอียงให้เขารุกรานได้สะดวก
นัยน์ตาที่เข้มงวดอยู่เสมอของกิโนะปิดลงราวกับจะบอกว่ายอมให้เขาทำได้ตามใจ....เรื่องนี้เองก็คงจะมีแต่เขาที่รู้....ว่าหลังจากที่เมาแล้ว
กิโนสะจะตกอยู่ในสภาวะว่าง่ายจนจะทำอะไรก็ได้แบบนี้
มันน่าจับมอมเหล้าทุกวันจริงๆว่าไหม?
มือรูดเนคไทออกไปจากลำคอ
ปลดกระดุมเสื้อจนหมดทั้งแถวแล้วย้ายไปจัดการกับกางเกงที่แสนจะเกะกะ
เสียงครางเครือดังเบาๆเมื่อเขากดจูบไปตามผิวอมชมพูเพราะฤทธิ์วอดก้า
ใบหน้าเรียวเคลิบเคลิ้มอย่างหาดูได้ยากหากว่าไม่ได้เมา
ถึงแม้ว่าเขาจะชอบแบบต่อต้านนิดๆแต่คิดว่านานๆทีกิโนะที่สมยอมด้วยดีแบบนี้ก็เร้าอารมณ์ไปอีกแบบ
มือยังคงทำหน้าที่ของมันไปเรื่อยๆ
ในขณะที่กำลังคิดว่าจะจัดการกับร่างเย้ายวนตรงหน้ายังไงดี
ภาพของวันที่กิโนะใส่กี่เพ้าวันนั้นก็ลอยเข้าหัวมาอีกครั้ง
กิโนสะที่เมาไม่รู้เรื่อง
ถูกเขากล่อมจนยอม ON
TOP ให้เป็นครั้งแรก....
ทั้งสีหน้า
ทั้งท่าทาง ทั้งร่างกายที่ทำให้เขา ทั้งๆที่ยังอยู่ในกี่เพ้า........เล่นเอาลืมไม่ลงเลยล่ะ
จะว่าไปตอนนี้...กี่เพ้าตัวนั้น
มันยังคงอยู่ที่เขา แน่นอนว่าเก็บเอาไว้อย่างดีเชียวละ
แต่เรื่องนี้จะให้กิโนะรู้ไม่ได้เลยนะ
หรือว่าคืนนี้ทำแบบนั้นอีกก็น่าจะดี
?
แสงแดดยามเช้าส่องลอดหน้าต่างเข้ามา
เปลือกตาบนใบหน้าเรียวค่อยๆขยับเปิดขึ้นช้าๆอย่างมึนงง....เกิดอะไรขึ้นกันน่ะ?....ทำไมในหัวมันหนักตื้อขนาดนี้
แถมร่างกายยังรู้สึกขัดๆราวกับถูกใช้มาอย่างหนักเมื่อคืนนี้....จริงสิ....เขาไล่ตามคนร้ายไปนี่นา....เดี๋ยว!
ถ้าแค่ไล่ตามคนร้าย ร่างกายก็ไม่น่าจะรู้สึกเปียกแฉะข้างในแบบนี้!
“
โคงามิ!! อุ๊บ”
ร่างที่ลุกพรวดขึ้นไปตั้งใจจะหาเรื่องไอ้คนฉวยโอกาสที่นอนอยู่ข้างๆถึงกับโงนเงน.....หมอนั่นทำอะไรเขา
ถึงได้เล่นเอาเบลอแบบนี้เนี่ย?
“
ตื่นแล้วหรอกิโนะ....อรุณสวัสดิ์”
เสียงทักงัวเงียดังขึ้นมาก่อนที่ใบหน้าซึ่งปกคลุมด้วยเส้นผมสีดำยุ่งจะย้ายจากหมอนมาซุกอยู่ที่หน้าตักเขาแทน
สองแขนก็ยกขึ้นกอดไปที่รอบเอว
แต่ยังไม่ทันจะได้เกิดคดีทำร้ายร่างกาย....เสียงเรียกเข้าจากสายรัดข้อมือของกิโนสะก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“
มีรายงานจากสถานพยาบาลแจ้งเข้ามาว่าเกิดคดีฆาตกรรม....พนักงานในห้องยาสองคนถูกฆ่าตาย
โดยคนร้ายที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใครเพราะสวมใส่หมวกเหล็กเอาไว้....ขอให้ผู้สังเกตการณ์และหน่วยปฏิบัติการณ์ของหน่วยที่หนึ่ง
ลงพื้นที่ทันทีด้วยค่ะ”
สองคนที่อยู่บนเตียงต่างมองหน้าของกันและกันนิ่ง
เสียงรายงานนั้นจบลงไปแล้ว แต่ลางสังหรณ์บางอย่างก็กำลังบอกกับทั้งคู่ว่า
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่น่าจะจบลงง่ายๆ
ในใจได้แต่ภาวนา.....ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผู้ชายที่ชื่อ
มาคิชิมะ โชโงะ
เพราะถ้าเป็นแบบนั้น
อย่างน้อยๆวันคืนที่แสนสุข ก็จะยังได้ดำเนินต่อไปอีกสักนิด....ก็ยังดี
วันคืนที่จะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้.....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To
be Con.
ฮ่าๆๆๆ
คนที่ได้ฟังเรดิโอดราม่าอาจจะคุ้นๆกับช่วงต้นๆของตอนนี้ กร๊ากกกกก
ก็เอาเรดิโอดราม่าตอนที่ 5 มาเขียนนั่นแหละ 5555 ก็นะ...ก็มันน่าจิ้นออกนี่นา
ว่าหลังจากที่กิโนะเมาพับไปแล้ว มันเกิดอะไรตามมาหลังจากนั้นอีกไหมน้า....=3=....
พูดก็พูดเหอะ
ว่าไอ้เรดิโอดราม่านี่ทำขึ้นมาเพื่อให้จิ้นเลยใช่มะ
คือแต่ละตอนเริ่มเอาไว้ให้จิ้นต่อได้มากกกกกกกเลยอ่ะ
อย่างตอนที่คุณโคกับกิโนะไปติดอยู่ในโรงแรมร้างด้วยกันนี่ก็อีก....อยู่ด้วยกันสองต่อสองทั้งคืนเลยนะค้า
มันจะไม่มีอะไรๆเกิดขึ้นเลยรึง๊ายยยยยย >/////<
อ่า...เหลืออีกแค่สองตอนก็จะจบแล้วสิน้า
Psycho
Pass ตับหนูจะอยู่ถึงสิ้นเดือนนี้ไหมเนี่ย โฮวววววว
แล้วก็อาจจะมีบางท่านยังไม่รู้
ว่าที่จริงแล้ว ฟิคเรื่องนี้มันไม่ได้ลงแบบเรียงตอน ^ ^” คือว่า หมายเลข 28-29 น่ะลงไปก่อนหน้านี้แล้วนะคะ แหะแหะ
ถ้ายังไม่ได้อ่านก็อย่าลืมเปิดดูน้า....
อือ....ว่าจะเม้าท์อะไรอีกก็ลืม
เอาเป็นว่าแล้วเจอกันตอนหน้าค่า ^ ^//
โอยยยย ห้ามใจตัวเองแทบตายเลยค่ะคุณโคขราาา ก็แหม....กิโนะตอนเด็กๆนี่น่ากินโคตรๆเลยอ่ะเค่อะ *q* ง๊ากกก แล้วหมู่นี้ก็เผลอไปอ่านโดสั้น 3P ของสามคนนี้บ่อยๆ อึกๆ ซวยละกรู ไม่น้าาาา อย่ามาล่อลวงหนู >w<
พี่กวางงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ตอบลบเชียร์ 3P คู่นี้ขาดใจเลยค่า
โอ้ย กิโนะโคตรน่ารัก จับมอมเหล้าทุกวันไปเล้ย >< b
ลุงก็ช่าง...หวงลูกชายหน่อยเหอะนะ อยากเห็นโคงามิโดนปรามมั้ง ขนาดต่อหน้าพ่อมันยังไม่สนเลยอ่ะ โฮ่ว
แต่ทั้งตอนนะ ยอมรับเลยว่า โคตรชอบซาซายามะเลย
ไอ้หมอนี่แบบ....เอ็งหม้อ เอ็งเสื่อม เอ็งถ่อย แต่ชอบอ่ะ!
กะแล้วไอ้ไม้สั้นนั่น มันต้องมีลูกเล่นแน่ แต่พอคิดถึงสามคนที่เหลือใส่กี่เพ้าแล้ว.........คงยืนอาเจียนเป็นเพื่อนซาซายามะแน่ๆ ค่ะ
คิดภาพแล้วโคตรเซ็กซี่เลยอ่ะ กิโนสะในกี่เพ้า..... อ้ากกกกกกกกกกก อยากเห็นๆๆๆ ขาขาวๆ ผิวเนียนๆ ตาจิกๆ //กำเดาสาด
ไม่แปลกหรอกที่สองคนนั้นมันจะแอบลวนลามทางสายตาบ่อยๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ
ยอมรับนะว่าถ้าอยู่ตรงนั้น....ก็มอง แหม~~~~ มีของดีให้มองก็มองให้คุ้มสิจริงมั้ยๆ //วิ่งหนีโคงามิ
กล่อมจนยอมออนทอป............โคงามิซัง นายนี่มัน.......กู๊ดจ็อบค่า!!
คิดๆ ไปแล้วโคงามิซังนี่ก็ไม่ใช่ย่อยนะ เจ้าเล่ห์พอตัวเลยแหละสมัยนั้น แต่สมัยนี้ดูอัพขึ้นมากนะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
เชียร์ให้สักวันพี่กวางเขียนสามพีคู่นี้นะ อยากเห็นมากๆๆๆๆๆๆ
ช่วงนี้ งาน+สอบ กะว่าสิ้นเรื่องเมื่อไหร่จะมาอ่านรวดเดียว แต่...ตบะแตกฮะ อีกสองตอนจะมาเม้นท์ย้อนหลังให้เน้อ ^^
อั้ยยะ!!! อยากเห็นกิโนะใส่กี่เพ้า อยากเห็นกิโนะเมา
ตอบลบอยากเป็นคาราโนโมริ (((*;*)))
มีแต่อยากทั้งนั้นเลย 555