KHR AuFic HBD.Hayato [8059 1827] Ryuusei : 04


KHR AuFic HBD.Hayato [8059 1827]   Ryuusei : 04

: KHR Fanfiction Au
: 8059  1827
: Period Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ





“ นั่นพวกเจ้า...กำลังทำอะไรกันอยู่!

“ ทะ ท่านพี่?”     ร่างบอบบางมีท่าทางตกใจเมื่อเห็นพี่ชายยืนอยู่หลังพุ่มไม้ มือบางพยายามผลักหน้าอกของเขาให้ออกห่างต่างจากเขาที่ยิ้มเย็นอย่างพอใจ

เจ้าพวกพี่ชายนั่นจะมาเจอเข้าก็ช่างปะไร เขาไม่ได้คิดจะหลบๆซ่อนๆตั้งแต่แรกอยู่แล้ว...

“ ข้าถามว่าพวกเจ้า....กำลังทำอะไรกันอยู่!!”      น้ำเสียงสั่นน้อยๆที่เอ่ยออกมานั้นมันเต็มไปด้วยความสับสน คนตรงหน้าคงกำลังสงสัย ไม่พอใจ โกรธ...ในสิ่งที่เขาทำกับโกคุเดระ...ป่านนี้ในใจของพี่ชายนั่นคงกำลังเจ็บแสบและโมโหจนแทบคลั่งที่ถูกคนอย่างเขาล่วงเกินน้องชายสุดที่รัก

“ ดูก็รู้แล้วไม่ใช่รึไง....”   ร่างสูงเอ่ยเสียงนิ่งตอบกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มร้าย นัยน์ตาสีเปลือกไม้จงใจใช้แววเย้ยหยันอย่างไม่กลัวเกรงทำให้ผู้เป็นพี่ชายราวกับว่าถูกราดด้วยน้ำมันและพร้อมที่จะติดไฟได้ทุกเมื่อ

“ ใช่! ดูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือไง ว่าพวกข้าลื่นตกลงมาน่ะ!”     สิ้นประโยคที่ทำเอาอารมณ์คุกรุ่นถูกตัดฉับนั่น ทั้งเขาทั้งพี่ชายต่างหันไปมอง โกคุเดระ ฮายาโตะ เป็นตาเดียว....นี่มันคำแก้ตัวหรือว่าไม่รู้จริงๆเนี่ย ว่าเขากำลังจ้องจะทำอะไรอยู่?

เขาได้แต่ยอมแพ้เจ้าคนฉลาดแต่ดันไร้เดียงสา ก่อนจะยักไหล่ยอมรับไปตามนั้นให้กับพี่ชายที่จ้องมองเขาเขม็ง...มีหรือที่ผู้ชายที่โตกว่าเขาตั้งหลายปีจะไม่รู้....ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่มันคืออะไร

เขาอาจจะดูกล้าและบ้าบิ่นที่ไปท้าทายทั้งๆที่เป็นแค่แกะดำเพียงตัวเดียว...แต่จากเจ็ดปีที่เขาอยู่ที่นี่ เขาก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง และก็รู้ด้วยว่าพวกพี่ชายจะไม่สามารถทำอะไรเขาได้ เพราะเขายังมีฐานะของตัวประกัน...ถ้าเขาตายเมืองอิสุก็จะวอดวายด้วยน้ำมือของคนตระกูลยามาโมโตะที่จ้องอยู่แน่ๆ คามาคุระที่แข็งแกร่งกว่าคงจะบุกมาไม่ทันจะข้ามคืน...และถึงแม้เจ้าพวกพี่ชายจะจับเขาไปซ้อมจนบาดเจ็บ เขาก็ยังมีเจ้าน้องชายคนเล็กคอยเข้าข้าง พวกนั้นคงทนไม่ได้แน่ถ้าจะเห็นเขาใช้อาการบาดเจ็บเพื่อบังหน้าแล้วหาโอกาสออดอ้อนน้องสุดท้องผู้เป็นดั่งดวงใจ

โกคุเดระยื่นมือขึ้นไปให้พี่ชายช่วยดึงขึ้นจากสระ ใบหน้าที่ฉุนเฉียวยอมจับมือเล็กดึงขึ้นไปอย่างเสียมิได้ จิตสังหารรุนแรงถูกส่งไปให้ลูกชายคนรองของตระกูลยามาโมโตะอย่างไม่มีปิดบัง เช่นเดียวกับนัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่ฉายชัดถึงแววท้าทายและสื่อความหมายว่าต้องการอะไรจากน้องชายคนเล็กของพวกนั้นกันแน่

บางที...พวกพี่ชายอาจจะคิดว่าที่เขาเข้าหาโกคุเดระเพราะว่าต้องการแก้แค้นพวกตน อาจจะคิดว่าเขาไม่ได้จริงใจกับน้องชายของตน ที่ทำไปเพียงแค่หลอกใช้ร่างบอบบางให้พี่ชายหัวปั่นเล่น

แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่...

เขาตั้งใจจริงๆ...ที่จะแย่งโกคุเดระ ฮายาโตะ จากอ้อมอกของพวกนั้นมา

เอามาเป็นของของเขาแต่เพียงผู้เดียว

“ ยื่นมือมาสิ!”      เสียงใสร้องเรียกเมื่อร่างบางๆนั่นขึ้นฝั่งไปได้แล้ว มือเรียวของโกคุเดระยื่นออกมาหมายจะช่วยดึงเขาขึ้นไป และทุกอย่างมันก็อยู่ในสายตาของพี่ชายคนรองทั้งหมด เพราะฉะนั้นยังไม่ทันที่มือของเขาจะได้แตะแม้แต่ปลายเล็บ มือใหญ่ของพี่ชายก็ปัดมือของเราทั้งคู่ออกจากกัน

ยิ่งเห็นโกคุเดระไม่ระวังตัว ยิ่งเห็นว่าเขาแตะเนื้อต้องตัวอีกฝ่ายได้มากขนาดไหน คนเป็นพี่ชายจึงยิ่งโกรธจนห้ามตัวเองไม่อยู่

มือของพี่ชายที่เพิ่งใช้ปัดมือของเขาออกไปกลับกระชากข้อมือของเขาขึ้นมาจากสระน้ำ แล้วหมัดหลุนๆก็สวนมาด้วยอีกมือหนึ่งตรงเข้าที่ใบหน้า ร่างกายเซถลาไปตามแรงต่อยจนร่วงลงน้ำไปอีกรอบ

“ ฮึ...”     แต่ลูกชายคนรองของตระกูลยามาโมโตะก็ไม่ได้มีท่าทางหวาดกลัว กลับหันมายิ้มน้อยๆที่มุมปากส่งให้พี่ชายที่มองตาถลนอยู่บนฝั่ง เท่านั้นแหละ....

“ ท่านพี่!! หยุดนะ!!”     ร่างที่สูงใหญ่กว่าแทบจะกระโดดลงมาก่อนจะตะลุมบอนกับลูกชายคนรองของตระกูลยามาโมโตะอยู่ในสระน้ำ ทั้งดินโคลนทั้งน้ำขุ่นขลั่กถูกร่างทั้งสองที่ต่างก็แลกหมัดกันอย่างไม่สนใจอะไรทำให้เลอะเทอะกระจัดกระจายไปทั่ว

เสียงห้ามตื่นตระหนกของโกคุเดระทำให้ใครต่อใครต่างโผล่หน้ามาดู จนกระทั่งคนที่เข้ามาห้าม...คือ เจ้าเมืองอิสุเอง




“ ข้าจะไม่ถามหรอกนะ...ว่าสาเหตุมันมาจากอะไร”   ทั้งลูกชายคนรองของตระกูลยามาโมโตะ และลูกชายคนรองของตระกูลโกคุเดระถูกจับให้นั่งคุกเข่าต่อหน้าเจ้าเมืองอิสุ ร่างกายของทั้งสองคนต่างมีแต่รอยฟกช้ำและดินโคลนก็เปื้อนเต็มไปหมด

สายตาชิงชังของพี่ชายคนรองเหลือบมามองยามาโมโตะที่ยังคงนั่งคุกเข่าด้วยใบหน้านิ่งเฉย ยิ่งเจ้าเด็กหนุ่มผมดำนั่นทำเป็นไม่รู้สึกผิดเท่าไหร่ก็มีแต่จะยิ่งทำให้อีกฝ่ายโกรธมากยิ่งขึ้นเท่านั้น

แต่ถึงให้ตายยังไงก็คงบอกเรื่องนี้กับผู้เป็นพ่อไม่ได้...จะให้พูดยังไงว่าลูกชายคนเล็กของท่านเจ้าเมืองมีความสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกัน...รู้ไปถึงไหนได้อับอายไปถึงนั่นแล้วอย่างท่านพ่อคงไม่จบลงแค่ลงหวายทีสองทีแน่

ฮายาโตะจะต้องโดนลงโทษแน่นอน อาจจะถูกจับแยกกับเจ้าหมอนั่นโดยกักบริเวณจนไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นพี่ชายอย่างพวกเขาคงทนดูไม่ไหว....เพราะฉะนั้นคงต้องจัดการกันเอง...ทำยังไงก็ได้ให้เจ้าเด็กยามาโมโตะตัวร้ายนั่นออกห่างจากน้องชายของพวกเขาให้ได้

“ ในเมื่อพวกเจ้าอยากจะสู้กัน...เพราะฉะนั้น...”     เจ้าเมืองอิสุกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงกังวาน ก่อนจะโยนดาบลงไปตรงหน้าเด็กหนุ่มทั้งคู่

“ จงสู้กันด้วยวิถีแห่งซามูไร และใครที่แพ้จะต้องถูกลงโทษด้วยการถูกคุมขังอยู่ในคุกของเนินล้างโลหิตเป็นเวลาหนึ่งเดือน”

“ เดี๋ยวก่อนท่านพ่อ!!”      คนที่ตะโกนคัดค้านทันทีคือเจ้าลูกชายคนเล็กผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด นัยน์ตาสีเปลือกไม้เหลือบมองใบหน้าสวยที่คิ้วแทบจะขมวดติดกัน....จากเวลาเจ็ดปีที่เขาอยู่ที่นี่ เขารู้ดีว่าถึงแม้ทุกครั้งพวกพี่ชายจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อนแต่โกคุเดระก็ไม่เคยเอาเรื่องพวกนี้ไปฟ้องผู้ปกครอง โดยเฉพาะกับคนเป็นพ่อด้วยแล้วเจ้าคนปากดีจะปิดปากเงียบเสมอ...ยังไงก็พี่น้องกันนี่นะ...แต่เขาก็ไม่ว่าอะไรหรอกเพราะโกคุเดระจะชดใช้ให้เขาด้วยการเฝ้าอยู่ข้างกายเขาแทน

“ ทั้งท่านพี่ทั้งยามาโมโตะต่างก็บาดเจ็บ จะให้สู้กันได้ยังไง แล้วอีกอย่างคุมขังเดือนนึงมันหนักไปนะ..ข้าว่า...”

“ หรือข้าควรจับเจ้าขังไว้แทนดีล่ะฮายาโตะ...ต้นเหตุคือเจ้าใช่ไหม หื๋ม?”     ผู้เป็นพ่อเอ่ยตัดบทออกมาด้วยสายตานิ่งสนิท เจ้าเมืองอิสุเป็นคนที่เคร่งครัดต่อกฎเกณฑ์อยู่เสมอ...นั่นคือเหตุผลว่าทำไมถ้าไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสจริงๆจะให้รู้ถึงหูไม่ได้

“ ข้า.....”     ใบหน้าสวยชะงักค้างและถ้อยคำของผู้เป็นพ่อทำเอาบรรดาพี่ชายรวมทั้งข้ารับใช้ที่ยืนอยู่รอบๆเริ่มอยู่ไม่สุข

“ ข้าจะสู้”     ลูกชายคนรองของตระกูลยามาโมโตะจับดาบแล้วค่อยๆลุกขึ้นยืน

“ ข้าก็เหมือนกัน”     พี่ชายคนรองเองก็ค่อยๆลุกขึ้นเช่นกัน...และนั่นทำให้ผู้เป็นแม่ซึ่งยืนดูอยู่ห่างๆลอบยิ้ม

....เจ้าเห็นความสำคัญของตัวเองบ้างหรือยัง...ฮายาโตะ...



ปลายดาบของทั้งคู่ต่างชี้เข้าหากันเช่นเดียวกับดวงตาที่ต่างจ้องมองไปที่อีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ ดาบที่อยู่ในมือคือดาบจริงมิใช่ดาบไม้สำหรับใช้ฝึกซ้อมแต่อย่างใด ใบหน้าคมของลูกชายคนรองของตระกูลยามาโมโตะได้แต่ยิ้มหยัน มันไม่ใช่รอยยิ้มที่มีให้กับตัวเองแต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีให้กับอะไร ในเมื่อกฎของการประดาบคือห้ามทำให้อีกฝ่ายถึงแก่ความตาย แต่ในเมื่อดาบในมือคือดาบจริงๆแบบนี้มันก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่ไม่เขาหรือพี่ชายจะได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ครั้งนี้

นัยน์ตาสีเปลือกไม้เหลือบไปมองใบหน้าสวยที่มองมาด้วยสายตากังวล...เพราะโกคุเดระเป็นคนของตระกูลโกคุเดระซึ่งจะไม่สามารถจับดาบจริงๆได้หากไม่ได้รับอนุญาต...ต่างจากเขา...ที่อยู่กับดาบจริงมาตั้งแต่เกิด

เจ้าไม่ต้องกังวลไป...มันไม่นานหรอก...

สายตาคมกล้าตวัดกลับมาที่พี่ชายคนรองพร้อมกับขยับตัวเข้าหาอีกฝ่ายแบบไม่ให้ทันตั้งตัว เพลงดาบรุกถูกนำมาใช้ด้วยความรวดเร็วจนอีกฝ่ายได้แต่ตั้งรับด้วยดวงตาเบิกกว้าง...นานแล้วที่ไม่ได้ฝึกดาบด้วยกัน เพราะฉะนั้นพวกพี่ชายเลยไม่เคยรู้ว่าฝีมือของเขาพัฒนาไปถึงขั้นไหน

ดาบในมือของคนที่โตกว่ารับดาบของอีกฝ่ายด้วยความสั่นระริก ทั้งพละกำลังทั้งจังหวะของการออกดาบที่ไม่มีลังเลทำให้รู้ว่าหากไม่ตั้งสติให้ดีๆคงมีหวังแพ้...และแบบนั้นมันก็จะเป็นครั้งที่สอง ที่พี่ชายคนรองแพ้ยามาโมโตะ

ดาบในมือลูกชายคนรองของตระกูลยามาโมโตะถูกโต้กลับมา แต่ใบหน้าคมยังคงดูไม่สะทกสะท้าน นัยน์ตาสีเปลือกไม้ฉายแต่แววมืดมนปนสนุกสนานจนข้ารับใช้ต่างขนลุก ใบหน้าหล่อเหลายังคงนิ่งสนิทในขณะที่ขาก็ก้าวเข้าหาพี่ชาย ดาบในมือยังคงวาดเพลงดาบติดต่อกัน และไม่ว่าอีกฝ่ายจะตอบกลับมายังไงเด็กหนุ่มจากต่างเมืองก็ยังคงรุกไล่กลับไปได้หมด

เจ้าเมืองอิสุมองการต่อสู้ตรงหน้าด้วยท่าทางนิ่งค้าง...เพราะนี่คือครั้งแรกที่ได้เห็นฝีมือของเด็กที่เป็นเพียงแค่ตัวประกันคนนั้น...สายตาคมกริบของคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากจ้องมองแผ่นหลังของเด็กหนุ่มผมดำพรางครุ่นคิด...อันตรายขนาดนี้....

เด็กนั่น...คงจะปล่อยให้กลับคามาคุระไปไม่ได้....

ดาบในมือพี่ชายตวัดตัดฉับลงมาแต่ร่างสูงก็เอี้ยวตัวหลบราวกับกำลังยั่วโมโหอีกฝ่าย รอยยิ้มน้อยๆที่เผยขึ้นมาบนใบหน้าคมนั่นก็ราวกับรอยยิ้มของมัจจุราชที่รู้ตัวว่าเหนือกว่าแล้วกำลังปั่นหัวเหยื่อเล่น...การต่อสู้ผ่านมายังไม่ทันจะถึงสิบนาทีแต่ใครๆที่ยืนอยู่รายรอบต่างก็มองออกว่าฝีมือลูกชายคนรองของตระกูลยามาโมโตะนั้นมีมากกว่า

และมีหรือที่คนที่จับดาบสู้กันอยู่จะไม่รู้...

พี่ชายจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวที่ไม่มีสูญเปล่านั่นด้วยประสาทที่แข็งเกร็ง....จะแพ้ไม่ได้....จะแพ้ไม่ได้!!

ถึงจะตั้งมั่นแบบนั้นแต่ฝ่ายที่เหนือกว่าก็ยังคงเหนือกว่า

ท่วงท่าสุดท้ายที่เร็วราวกับสายลม  ดาบในมือเด็กหนุ่มจากต่างแดนตรงเข้าปะทะกับดาบในมือพี่ชายคนรอง ทั้งเรี่ยวแรงทั้งวิถีดาบทำให้มือสั่นจนควบคุมไม่อยู่

แล้วสุดท้ายดาบในมือพี่ชายก็หลุดกระเด็นไปปักพื้นอยู่ตรงหน้าเจ้าเมืองอิสุ

“ ข้ายังไม่แพ้!”     เสียงรอดไรฟันดังออกมาพร้อมๆกับสายตาบ้าคลั่งของคนที่ไม่มีอาวุธอยู่ในมือ ใบหน้าของพี่ชายหันไปหันมาก่อนจะแสยะยิ้ม ร่างกระโดดหลบทางดาบที่ไล่ตามมาก่อนมือจะคว้าไปที่ทวนยาวในมือของทหารยามที่ยืนดูอยู่ไม่ไกล

จากคมดาบปะทะคมดาบ กลายเป็นว่าคมดาบจะปราบทวนได้หรือไม่

นัยน์ตาสีเปลือกไม้จ้องมองประกายคมกล้าของปลายทวนในมือพี่ชายคนรอง...ก็ได้ข่าวอยู่บ้างว่า ในบรรดาพี่น้องทั้งหมดคนคนนี้ใช้ทวนได้ยอดเยี่ยมที่สุด จากใบหน้าสบายๆเริ่มจะตึงเครียดขึ้นเมื่อไม่มีสัญญาณใดๆบอกให้การต่อสู้หยุดลง

หากอาวุธไม่ไปหยุดอยู่ที่จุดตายของร่างกาย ก็ถือว่าอีกฝ่ายยังไม่แพ้งั้นสินะ

และจากที่เหนือกว่า...ตอนนี้กลายเป็นว่าเกมส์เริ่มจะพลิก

ทวนเป็นอาวุธยาวและหากผู้ใช้มีความชำนาญ ดาบที่มีระยะสั้นก็ยากที่จะเข้าถึงตัวอีกฝ่าย

ทำยังไงดี....

และยังไม่ทันจะมีเวลาได้คิด ประกายสีเงินก็ประชิดมาที่ใบหน้าจนหัวใจได้แต่กระตุกวูบ เด็กหนุ่มผมดำทำได้แค่อาศัยสัญชาติญาณตวัดเพลงดาบตอบโต้กลับไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่มือจะชะงักค้างด้วยเสียงดังก้องกังวานของเจ้าเมืองอิสุ

“ หยุดได้แล้ว!

ยังคงได้ยินเสียงหัวใจเต้นระรัว...นัยน์ตาสีเปลือกไม้ค่อยๆลืมขึ้นช้าๆก่อนจะเห็นว่าปลายทวนของพี่ชายนั้นจ่อค้างอยู่ที่อกเสื้อด้านซ้ายของเขา...เป้าหมายคือตำแหน่งของหัวใจ

“ การต่อสู้ครั้งนี้ข้าให้...เสมอกัน”

นั่นเพราะ....ปลายดาบของเขาเองก็พาดอยู่ที่ลำคอของพี่ชายคนรองเช่นกัน

ได้ยืนเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกมาจากรอบทิศ เขาค่อยๆลดปลายดาบลงก่อนจะหันไปมอง จึงเพิ่งรู้ว่าทุกสายตาต่างมองมาด้วยความโล่งใจ...นี่การต่อสู้ระหว่างพวกเขามันน่าตกใจขนาดนั้นเลยหรอ?

“ และเพราะว่าผลออกมาเสมอ พวกเจ้าทั้งคู่จะต้องเข้าไปสำนึกผิดในคุกของเนินล้างโลหิต...”      คำตัดสินนั้นเรียกเสียงฮือฮาจากคนรอบกาย ที่หางตาเห็นเจ้าลูกชายคนเล็กเตรียมจะโวยผู้เป็นพ่อ

“ ท่านยามาโมโตะ...ให้ไปอยู่ที่คุกซีกตะวันออกเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์...ส่วนเจ้า...ให้ไปอยู่ที่คุกซีกตะวันตกเป็นเวลาสองอาทิตย์ เพราะข้าให้ใช้ดาบในการต่อสู้ไม่ใช่ทวน”   

ทั้งเขาทั้งพี่ชายต่างยอมรับในคำตัดสิน ร่างกายท่อนบนจึงก้มหัวลงจรดพื้นเพื่อยอมรับโทษ

หลายๆคนต่างแยกย้ายกันไปเมื่อการต่อสู้นั่นจบลงแล้ว ลูกชายคนรองของตระกูลยามาโมโตะเดินไปหยุดลงตรงหน้าร่างบอบบางที่ยังคงก้มหน้าก้มตา

“ ไม่เจอกันอาทิตย์นึง เจ้าก็อย่าเหงาไปล่ะ”      เสียงทุ้มเอ่ยออกมาเรียกให้ใบหน้าสวยเงยขึ้นมามองด้วยสายตาเขียวปั๊ด

“ ใครจะไปเหงากันเจ้าบ้า! ข้าละสบายใจสิไม่ว่าที่ไม่ต้องคอยดูแลเจ้าตัวปัญหาแบบเจ้า”    ถึงจะทำหน้าบูดบึ้งแต่เขาก็มองเห็นความสั่นพร่าในดวงตาสีมรกตคู่นั้นได้ดี...กำลังโทษตัวเองอยู่สินะ...มือเผลอดึงร่างบอบบางเข้ามากอดเอาไว้ก่อนจะยกมือลูบหัวสีเงินเบาๆ

“ ไม่ใช่ความผิดของเจ้า ข้าจงใจทะเลาะกับพี่เจ้าเอง”     เสียงทุ้มกระซิบปลอบโยน ทำให้นัยน์ตาสีมรกตของคนที่โดนกอดเอาไว้ถึงกับเบิกกว้างก่อนจะหรี่ลงมองแผ่นอกที่อยู่ใกล้ไม่ถึงคืบ...โทษที่ได้รับนั้นยังไม่เท่าไหร่ แต่ภาพของร่างสูงที่ถูกปลายทวนจ่ออยู่ที่หัวใจเมื่อครู่ต่างหากที่ทำให้หัวใจของเขาแทบหยุดเต้น

กลัว...

กลัวเหลือเกิน....

“ เจ้าน่ะ...อย่าทำเรื่องบ้าๆแบบนี้อีกได้ไหม...เมื่อกี้...ถ้าหยุดไม่ทันมันจะเป็นยังไงรู้บ้างรึเปล่า”     เสียงอ่อนแรงดังออกมาจากคนที่ซบหน้าอยู่ที่แผ่นอกเล่นเอาลูกชายคนรองของตระกูลยามาโมโตะถึงกับชะงัก รอยยิ้มเผยขึ้นมาบนใบหน้าคมก่อนที่มันจะก้มลงไปจุมพิตเบาๆบนกลุ่มผมสีเงิน

รัก...

รักเหลือเกิน....

“ เจ้าเป็นห่วงข้าหรอ?”     เท่านั้นแหละอาการปากไม่ตรงกับใจก็เริ่มกลับมาทำงานทันที ร่างบอบบางดันตัวเองออกมาจากแผ่นอกของอีกฝ่ายก่อนจะชี้นิ้วด่าด้วยใบหน้าแดงเถือก

“ ใครเป็นห่วงเจ้า ข้าห่วงว่าหลุมศพบ้านข้ามันจะเต็มเพราะฝังเจ้าต่างหาก!”    เจ้าลูกชายคนเล็กเดินฟึดฟัดจากไปโดยมีสายตาอ่อนโยนที่ไม่เคยมีให้ใครของเด็กหนุ่มผมดำมองตามไป

“ ขอประทานโทษขอรับท่านยามาโมโตะ...แต่เราคงต้องไปกันแล้ว”     เสียงของผู้คุมเอ่ยออกมาให้เขาหันหน้าไปมอง เอาเถอะ...อยู่ที่นี่เขาก็โดนมาทุกอย่างแล้ว จะให้ไปถูกขังอยู่ในคุกก็ไม่เห็นจะเป็นไร ร่างสูงจึงเดินตามไปอย่างไม่คิดจะขัดขืน


เพียงแต่...หนึ่งอาทิตย์จะไม่ได้เห็นหน้าเจ้า...นึกภาพไม่ออกเลยว่าข้าจะเป็นเช่นไร...


.
.
.
.
.
.


อ้อมแขนเล็กโอบอุ้มโกโตะสีดำเดินไปจนสุดชายป่าซึ่งไกลออกมาจากคฤหาสน์เจ้าเมืองคามาคุระพอสมควร นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้กลมโตเหลือบมองหาลานหินที่ค้นเจอเมื่อหลายปีก่อน ก่อนจะวางโกโตะสีดำลงไป

ร่างเล็กยืนบิดกายก่อนจะปาดเหงื่อที่เกาะอยู่ตามไรผมเพราะต้องหอบของที่ไม่ใช่จะเบาเดินมาตั้งไกล ใบหน้าเรียวสวยเงยขึ้นไปมองต้นโมมิจิใหญ่มากมายที่รายล้อมลานหินแห่งนี้อยู่ด้วยสายตาชื่นชม ใบสีแดงปลิวร่วงลงมาตามสายลมช่างงดงามจับใจ ที่พื้นหินสีดำเองก็มีสีแดงของใบไม้หล่นอยู่เต็มไปหมด ช่างเป็นสีสันที่ตัดกันได้อย่างตระการตา

ตัวประกันจากอิสุนั่งลงด้านหลังโกโตะสีดำ ก่อนจะก้มลงมองมันด้วยสายตาอ่อนโยน

ใครจะคิดว่าเขาจะได้มีโอกาสสัมผัสมันอีก

ใครจะคิด...ว่าเขาจะยังมีชีวิตรอดมาจนครบเจ็ดปีในคามาคุระ

ความทรงจำที่โหดร้ายในวันนั้นยังคงตราตรึงอยู่ทุกอณูของร่างกาย แต่ผู้ชายที่ชื่อ ฮิบาริ เคียวยะ ก็ไม่อาจทำให้เขากลัวไปได้มากกว่านั้นอีกแล้ว



ไม่ว่าจะเป็นเสียงดนตรีหรืออะไรก็คงไม่อาจแทรกลงไปในจิตใจของเจ้าได้เลยสินะ

สักวัน...ในใจที่ดำมืดของเจ้านั้น จะมีข้าอยู่บ้างหรือไม่

ทั้งๆที่ไม่หวังอะไรอีก ในเมื่อคำตอบมันออกจะชัดเจน


....ไม่มี.....


ทั้งๆที่คิดแบบนั้น....

แต่พอฟื้นขึ้นมาอีกที ที่ข้างกายกลับมีโกโตะสีดำซึ่งสายถูกขึงใหม่จนครบทั้งหมดวางอยู่

ไม่ว่าจะถามใครก็มีแต่คนบ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบ จนกระทั่งบัดนี้ผ่านมาเจ็ดปีเขาก็ยังไม่รู้เลยว่า ทำไมเขาถึงยังมีชีวิตอยู่ และทำไมโกโตะตัวนี้ถึงมาอยู่ข้างกายเขา

เพราะไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ฮิบาริ เคียวยะ ก็ยังคงโหดร้ายกับเขาเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยน ทุกๆวันเขายังต้องไปเป็นคู่ซ้อมให้กับผู้ชายคนนั้น

แต่หากคิดว่าเขาจะยอมแพ้ง่ายๆ จะกลัวที่ต้องถูกทำเรื่องโหดร้ายแบบนั้นละก็....คิดผิด.....

พอไม่มีขลุ่ยของท่านแม่...ไม่มีอะไรให้ผูกพัน....น่าแปลกที่เขากลับกล้าที่จะต่อกรกับคนโหดร้ายคนนั้นอย่างไม่กลัวตายมากกว่าเก่า

ใบหน้าน่ารักสะบัดไปมาพยายามไม่นึกถึงใบหน้าเย็นชาและดวงตาสีดำคู่นั้น...ทั้งๆที่อยู่ในที่ที่แสนวิเศษเช่นนี้ทำไมจะต้องไปนึกถึงเจ้าคนเลือดเย็นนั่นด้วย!

มือบางวางลงบนโกโตะสีดำ ก่อนจะเริ่มบรรเลงเพลงแสนหวาน...โกโตะตัวนี้...เพราะมีข้ารับใช้เผลอหลุดปาก เขาจึงรู้เพียงแต่ว่ามันคือโกโตะของนายหญิงฮิบาริ...แม่ของผู้ชายคนนั้น...และดูเหมือน ฮิบาริ เคียวยะ จะมีความทรงจำที่ไม่ดีนักเกี่ยวกับแม่ของตัวเอง ซึ่งเขาก็ไม่รู้รายละเอียดมากไปกว่านั้น

เสียงโกโตะแว่วหวานดังก้องไปทั่วป่าที่บัดนี้เต็มไปด้วยสีแดง ใบโมมิจิยังคงโปรยปรายลงมากับสายลม นิ้วเรียวเล็กยังคงขยับไปตามโกโตะสีดำเช่นเดียวกับเส้นผมสีน้ำตาลที่ไล้คลอเคลียไปกับแก้มใส ใบหน้าละมุนละไมดูไม่ได้ใกล้เคียงกับความเป็นลูกชายของตระกูลนักรบ หากแต่ร่างกายเล็กบางนั่นกลับสง่างามตามแบบของชนชั้นสูง

ใครที่ได้มาเห็นภาพนี้เข้าคงยากที่จะละสายตา...

หัวสีดำเอนพิงไปกับโคนต้นโมมิจิสูงใหญ่ที่อยู่ไกลออกมา ทำให้ใบหน้าคมเฉยชาเงยมองท้องฟ้าใสและเห็นใบสีแดงที่กำลังร่วงหล่นลงมาอย่างชัดเจน มือที่กอดอกอยู่ละออกมาข้างหนึ่งก่อนจะรองรับมันเอาไว้....

คนที่อยู่ในป่าแห่งนี้ไม่ได้มีแค่ร่างเล็กบางนั่นแค่คนเดียว...



แสงแดดยามบ่ายค่อยๆจางหายไป นกน้อยต่างพากันบินกลับรังเช่นเดียวกับตัวประกันจากอิสุที่กำลังหยิบใบโมมิจิที่ร่วงลงมาบนโกโตะออกไป อ้อมแขนเล็กโอมอุ้มมันขึ้นก่อนจะหันกลับมามองลานหินกว้างพรางยิ้มให้

“ ไว้ข้าจะมาอีก”

ร่างเล็กบางก้าวย่างกลับไปทางเดิม ปลายฤดูใบไม้ร่วงเช่นนี้จะมืดไวกว่าปกติ และเขาก็ไม่อยากให้บรรดาข้ารับใช้ต้องเป็นกังวล เท้าจึงเลือกที่จะก้าวไปยังทางที่ลัดกว่าทว่าก็เงียบงัน

เรือนในแถบนี้ราวกับว่าไม่มีคนอยู่เพราะส่วนใหญ่ถูกปิดตายเอาไว้ เขาเคยผ่านทางเส้นนี้มาหลายครั้งและทุกครั้งก็ไม่เคยพบเจอใครเลย

“ เอ๋?”      แต่วันนี้ดูจะต่างออกไป เมื่อเรือนที่เขาจำได้ว่าไม่น่าจะมีคนอยู่กลับมีแสงคบไฟลอดออกมา

“ ดำเนินแผนการในอิสุต่อได้เลย ส่วนกำลังทหารของเราในตอนนี้เจ้าเตรียมพร้อมไปขนาดไหน?”     ทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง แต่เสียงที่ดังอยู่ท่ามกลางความเงียบก็ทำให้เท้าที่ตั้งใจจะก้าวผ่านได้แต่ชะงักค้าง คนที่อยู่ด้านในเรือนร้างหลังนั้นคือ เจ้าเมืองคามาคุระ?

“ เกือบสมบูรณ์แล้วขอรับ ทางอิสุไม่มีทีท่าว่าจะสงสัยเราเลย”      นั่นกำลังประชุมลับอะไรกันอยู่หรือเปล่า? ถึงจะรู้ว่าไม่ดีที่จะแอบฟังต่อ แต่หัวข้อสนทนามันคือบ้านเมืองของเขาแบบนี้คงจะปล่อยผ่านเลยไปไม่ได้

“ ดี...ก็ถือว่าแผนการแลกเปลี่ยนตัวประกันนั้นได้ผล”      ใบหน้าน่ารักถึงกับชาวาบ...อย่าบอกนะว่าการแลกเปลี่ยนตัวประกันมันก็เป็นแค่การถ่วงเวลาเพื่อให้คามาคุระเตรียมซ่องสุมกำลังพล

แล้วอิสุที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวของเขาเล่า...

“ แล้ว....ท่านยามาโมโตะ ทาเคชิ จะเอายังไงขอรับ?”       ยามาโมโตะ ทาเคชิ...คือตัวประกันของคามาคุระที่ถูกส่งไปอยู่ที่อิสุสินะ คนคนนั้นก็เป็นลูกชายคนนึงของเจ้าเมืองคามาคุระสินะ

“ ไม่ต้องสนใจ ดำเนินตามแผนต่อได้เลย”      นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้กลมโตได้แต่เบิกกว้าง...บ้านเมืองมันสำคัญกว่าชีวิตของลูกชายถึงขนาดนั้นเชียวหรือ

ไม่เห็นจะเข้าใจเลย....

ไม่เข้าใจเลยสักนิด....

ริมฝีปากสีระเรื่อเม้มแน่นเช่นเดียวกับอ้อมแขนที่กอดโกโตะสีดำเอาไว้จนแทบจะจมหายไปกับอก....

ถึงพวกท่านจะไม่เห็นว่าชีวิตของตัวประกันอย่างข้าว่าสำคัญ...แต่ข้าก็ยังคิดว่าข้าอยากให้คนที่รักมีชีวิตรอด

นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้เหลือบมองท้องฟ้ายามราตรี หมู่ดาวพร่างพราวส่องประกายระยิบระยับ ก่อนจะมีบางดวงที่ร่วงลงมา

....ดาวตก.....

และนั่นมันก็ทำให้นึกถึงเสียงใสของใครบางคน

ถึงเจ้าจะไม่เคยรู้เลยว่าข้าคือพี่ของเจ้า แต่อย่างน้อยข้าก็อยากจะให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไป.....ฮายาโตะ


ตัวประกันจากอิสุค่อยๆย่องออกมาจากตรงนั้นอย่างแผ่วเบาที่สุด ก่อนจะรีบก้าวขาเร็วๆกลับไปยังเรือนของตน มือบางวางโกโตะสีดำลงก่อนจะควานหากระดาษกับพู่กันในหีบ

คามาคุระกำลังคิดจะเปิดศึกกับอิสุ มีการซ่องสุมกำลังพลเอาไว้ขอให้ท่านจงระวัง

ข้อความสั่นๆถูกเขียนใส่ลงไปก่อนที่กระดาษก่อนจะถูกพับจนเป็นชิ้นเล็กๆ ใบหน้าสวยหันซ้ายแลขวาเมื่อเปิดประตูเลื่อนถูกเปิดออกไปหน้าเรือน เมื่อเห็นว่าไร้เงาของผู้ใดปลายนิ้วจึงจรดลงที่ริมฝีปาก เสียงหวีดหวิวที่มีเพียงเหยี่ยวของอิสุที่ถูกฝึกมาแล้วเท่านั้นที่จะร่อนลงมาหาถูกเป่าออกไป

ก็ยังดีที่ก่อนมา เขาถูกจับไปฝึกมันเอาไว้เผื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน

กระดาษแผ่นเล็กถูกผูกเอาไว้ที่ขาของเหยี่ยวสีน้ำตาล แขนบางส่งมันออกไปก่อนจะยืนมองจนมันบินไปลับสายตา

ข้าช่วยพวกเจ้าได้เท่านี้....



แต่ทว่า...เจ้านกที่ควรจะบินไปถึงอิสุกลับถูกฆ่าตายด้วยทอนฟาอยู่ที่ชายป่า...ด้วยฝีมือของ ฮิบาริ เคียวยะ...

“ ไส้ศึก....ต้องโดนขย้ำ!


.
.
.
.
.
.
.


เนินล้างโลหิต...คือสถานที่ลงโทษสำหรับคนในตระกูลโกคุเดระเท่านั้น มันมีลานประหารอยู่ตรงกลางขนาบข้างด้วยคุกฝั่งตะวันตกและตะวันออก เป็นสถานที่ที่ไม่มีใครอยากจะเหยียบย่างเข้ามาเพราะฉะนั้นมันจึงรกร้างอ้างว้างเพราะไม่มีคนใช้มาแรมปี

และเพราะมันเป็นสถานที่เฉพาะแบบนี้ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีผู้คุม คนที่ต้องโทษคือคนในตระกูลเพราะฉะนั้นจึงไม่มีใครคิดจะหลบหนี

ลูกชายคนรองของตระกูลยามาโมโตะนั่งเอาหลังพิงไว้กับผนังด้านในของคุก ก็ยังดีที่ผนังอีกด้านเป็นลูกกรงติดที่กับสวน ถึงแม้ว่ามันจะรกร้างแต่อย่างน้อยๆก็ดีกว่าถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินมืดๆ....จากตรงนี้เขายังสามารถมองเห็นพระจันทร์และ...ดาวตก

อธิษฐานสิ! ’

เสียงใสของใครบางคนที่ดังก้องอยู่ในหัวทุกครั้งที่มองเห็นดาวตกทำให้ใบหน้าคมเผลอยิ้ม...ป่านนี้เจ้าคนที่ซุกซนนั่นจะเข้านอนไปหรือยังนะ

“ ยิ้มอะไรของเจ้าคนเดียว...น่าขนลุกชะมัด”     ร่างสูงถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมา

“ .....โกคุเดระ?”      แทบไม่เชื่อสายตาเมื่อเจ้าคนที่น่าจะนอนหลับสบายอยู่ในห้องกลับมายืนหน้ามุ่ยอยู่อีกฝั่งของลูกกรง ในอ้อมแขนเล็กหอบผ้าและห่ออะไรมากมายมาด้วย

“ เจ้ามาทำอะไรที่นี่? ถ้าโดนจับได้เจ้าจะโดนลงโทษไปด้วยนะ กลับไปซะ”     ร่างสูงถามออกไปอย่างตกใจ ร่างกายขยับเข้าไปหาอีกฝ่ายที่ยืนอยู่นอกลูกกรงพรางหันมองซ้ายขวากลัวว่าผู้คุมจะมาเห็นเข้าถึงแม้ว่าผู้คุมจะมาอีกทีก็ตอนเช้าก็เถอะ

กฎของที่นี่คือห้ามใครเข้าเยี่ยม คนที่ถูกลงโทษจะต้องสำนึกผิดอยู่เงียบๆคนเดียว ห้ามพบเจอกับใครตลอดระยะเวลาที่อยู่ในนี้

“ ฮึ! อย่างข้าไม่โง่ให้ใครจับได้หรอกน่า เอ้านี่! ทาแผลเจ้าซะ”     มือบางค้นห่อผ้าก่อนจะยื่นยาสมุนไพรมาให้เขา นัยน์ตาสีเปลือกไม้ได้แต่จ้องมองมัน ถึงจะกลัวว่าคนตรงหน้าจะตกอยู่ในอันตรายแต่ในใจตอนนี้มันดีใจจนไม่รู้จะพูดยังไง

โกคุเดระยอมเสี่ยงเพื่อมาหาเขา...

แทนที่มือจะรับห่อยาแต่มันดันเลื่อนไปที่ใบหน้าสวย สองมือประคองแก้มใสเอาไว้ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปให้ริมฝีปากสัมผัสกัน...โดยลูกกรงก็ไม่อาจขวางกั้นพวกเขาได้...

ได้ยินเสียงห่อผ้าร่วงลงพื้น เจ้าคนโดนจูบคงจะแข็งเป็นหินไปแล้วทำให้ใบหน้าคมที่ละออกมาได้แต่จ้องมองใบหน้าแดงเถือกนั่นด้วยรอยยิ้ม

“ ทะ ทะ ทำอะไรของเจ้าน่ะเจ้าบ้า! อย่ามาล่วงเกินข้านะ! ไม่งั้นข้าจะสับเจ้าเป็นชิ้นๆเลย!”     น่ากลัวเสียไม่มีละ ร่างสูงยังคงหัวเราะเบาๆก่อนจะก้มลงไปหยิบห่อยาขึ้นมา เด็กหนุ่มผมดำนั่งลงเบื้องหลังลูกกรงก่อนจะเลิกแขนเสื้อกิโมโนขึ้นมาเพื่อทาแผล

“ ขอบใจเจ้ามากนะ พรุ่งนี้แผลข้าต้องหายสนิทแน่ๆเลย”

“ ฮึ มันแน่อยู่แล้ว ก็นี่มันยาฝีมือการปรุงของข้าเลยนะ!”     ร่างบอบบางนั่งตามลงมาที่อีกฝั่งหนึ่งของลูกกรง มือบางยังคงควานหาของในกองผ้าที่ตนหอบมา

“ ถึงเจ้าจะถึกแต่ก็คงหนาวเป็นใช่ไหมล่ะ เอ้า!”      มือบางยื่นผ้าห่มมาให้ เขาได้แต่รับไว้ด้วยรอยยิ้มก่อนจะก้มลงไปทาแผลต่อ

“ เจ้ากลับไปได้แล้วละ มันดึกแล้ว ถึงจะไม่มีใครพบแต่ก็อันตรายนะที่จะมาเดินมืดๆค่ำๆแบบนี้”      แผลส่วนใหญ่ถูกทาไปจนหมดแล้วแต่เจ้าลูกชายคนเล็กก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะไปไหน

“ ข้าจะนอนที่นี่”     แล้วคำพูดที่ออกมาจากริมฝีปากสีแดงก็ทำเอาคนที่อยู่ในกรงขังถึงกับอ้าปากค้าง

“ ว่าไงนะ?!

“ ก็......”    ใบหน้าใสก้มลงก่อนจะเสนัยน์ตากลมโตไปมองพื้นดิน....เหมือนเขาจะนึกขึ้นได้ยังไงไม่รู้ว่า...

“ ก็ ?”    

“ ก็ข้ากลับคนเดียวไม่ได้นี่! เจ้าโง่! ไม่เห็นหรอว่ามันมืดแล้วน่ะ!”      ก็ถึงได้บอกอยู่นี่ไง....ใบหน้าคมอมยิ้มเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเจ้าคนตรงหน้าไม่กล้าแม้แต่จะไปเข้าห้องน้ำคนเดียวตอนกลางคืนแล้วจะให้ไปเดินผ่านป่าหญ้าแบบนั้นยิ่งไม่มีวันทำได้แน่

เอาเถอะ....แค่ไม่โดนจับได้ก็พอแล้ว...ไว้ตอนเช้าค่อยปลุกให้รีบลุกไปคงทันมั้ง

เขาก้มลงมองผ้าห่มที่มีผืนเดียวก่อนจะคลี่มันออก ร่างกายเหนื่อยล้าเต็มทีจึงขยับหันแผ่นหลังไปนั่งพิงกับลูกกรงเอาไว้แล้วยื่นปลายผ้าอีกข้างออกไปให้คนที่อยู่ด้านนอก

มือบางยื่นมารับมันเอาไว้ ใบหน้าใสมองแผ่นหลังกว้างที่พิงอยู่ที่อีกด้านของลูกกรง นัยน์ตาสีมรกตที่แข็งกร้าวอยู่เสมออ่อนลงเมื่อนึกถึงคำพูดของคนตรงหน้า

' ยังไงก็....ฝากแผ่นหลังของข้าด้วยล่ะ โกคุเดระ '

ไม่รู้ว่าทำไมใบหน้ามันถึงได้ร้อนผ่าว ปลายนิ้วแตะสัมผัสไปที่ริมฝีปากของตัวเองที่โดนช่วงชิงสิ่งที่เรียกว่า "จูบ" ไปโดยคนตรงหน้า...ทำไมถึงไม่รู้สึกโกรธ ทำไมถึงได้ไม่รู้สึกว่ารังเกียจ...ทั้งๆที่อีกฝ่ายก็เป็นผู้ชายด้วยกัน

ร่างบอบบางค่อยๆนั่งลงก่อนจะหันแผ่นหลังไปชนกับแผ่นหลังกว้างเอาไว้ ความอบอุ่นที่ส่งผ่านเข้ามายังร่างกายนั้นราวกับว่าระหว่างพวกเขาไม่มีลูกกรงขวางกั้น ผ้าห่มผืนเดียวกันถูกตวัดคลุมหัวไหล่ก่อนจะหลับไหลไปด้วยกัน...


.
.
.
.
.
.
.
.


กลิ่นเครื่องหอมลอยฟุ้งกระจายอยู่ทั่วห้องอาบน้ำ มือเล็กลูบลงไปที่รอยช้ำซึ่งเกิดจากน้ำมือของฮิบาริ เคียวยะ

ช่วงหลังๆมานี้รอยแผลบนร่างกายเขาน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด...เปล่าหรอก...ไม่ใช่ว่าผู้ชายคนนั้นจะเพลามือที่ใช้กลั่นแกล้งเขาลงหรอก...ฮิบาริ เคียวยะ ยังคงใช้แรงเต็มที่ในการไล่ต้อนเขาให้จนมุมเหมือนเดิม เพียงแต่เป็นเขาเองที่พอจะตอบโต้และตั้งรับอีกฝ่ายได้บ้าง...แน่ละ เวลาตั้งเจ็ดปีจะมีใครบ้างที่ไม่พัฒนาเลย

เขาเรียนรู้มาแล้ว...ว่าขนาดน้ำตาก็ทำอะไรผู้ชายที่ไร้หัวใจคนนั้นไม่ได้

และจากนี้ไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็จะไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีให้คนคนนั้นอีก!

ผ้าผืนหนาบรรจงเช็ดไปตามร่างกายก่อนที่ยูกาตะตัวบางจะถูกสวมลงไป แต่ยังไม่ทันที่มันจะถูกจับให้เข้าที่เข้าทางดี เสียงประตูเลื่อนที่เปิดออกอย่างรุนแรงก็ทำให้ร่างเล็กบางถึงกับสะดุ้งโหยง...คนที่จะไร้มารยาทขนาดนี้น่าจะมีอยู่คนเดียว

“ เจ้า! เข้ามาทำอะไรในห้องข้า?!”      ร่างสูงสง่าของเด็กหนุ่มผมดำว่าที่เจ้าเมืองคามาคุระยืนอยู่ตรงหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งๆที่ใบหน้าคมนั่นก็นิ่งสนิทเย็นชาเป็นปกติ แต่ไม่รู้ทำไมในค่ำคืนนี้บรรยากาศของคนตรงหน้ากลับทำให้ร่างเล็กรู้สึกขนลุกขึ้นมา

เหมือน...

มันเหมือนกับวันนั้น....

วันที่เขาโดนทรมานจนคิดว่าตายๆไปซะน่าจะดีกว่า....

มือใหญ่ยกกระดาษที่เคยผูกอยู่ที่ขาเหยี่ยวขึ้นมาทำให้นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้เบิกกว้าง ร่างทั้งร่างเผลอก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติเพราะไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะลงโทษยังไง ในเมื่อสิ่งที่เขาทำนั้นมันก็เรียกง่ายๆว่า “ไส้ศึก” และหากคามาคุระจับได้เขาคงไม่พ้นความตายแน่ๆ

“ รู้ไหมว่า ข้าลงโทษคนทรยศยังไง”     มือใหญ่ตามมากระชากที่แขนข้างหนึ่งก่อนจะดึงลำตัวเล็กให้เข้าไปใกล้ ใบหน้าคมยื่นมาแทบชิดใบหน้าเล็กก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงกดต่ำ มือบางพยายามผลักไสให้ตัวเองหลุดจากการเกาะกุม แต่มือใหญ่ที่แข็งแรงดั่งคีมเหล็กก็ไม่สั่นคลอนเลยแม้แต่น้อย

ในหัวใจของตัวประกันจากอิสุเต้นระรัว ใบหน้าเล็กตื่นตระหนกแต่ก็พยายามทำเป็นว่าไม่ได้กลัวอีกฝ่าย...เพราะมัวแต่เป็นห่วงคนที่อิสุ...ทำให้เขาไม่เคยคิดเลยว่าหากโดนจับได้แล้วจะทำยังไง...

หรือไม่ในใจลึกๆก็อาจจะคิดอยู่...ว่ายอมตายไปดีกว่าไม่เหลือใครรอเขากลับไปที่อิสุเลยสักคน

“ จะจับข้าส่งให้พ่อเจ้าประหารก็ตามใจ”     ใบหน้าเล็กเชิดขึ้นสบประสานกับดวงตาสีดำอย่างไม่กลัวเกรง ถ้าเขาตายไปคงได้หลุดพ้นจากคนคนนี้สักที

“ หึ...คิดว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปง่ายๆแบบนั้นหรือยังไง...ใครที่มันกล้าทรยศข้า...ข้าจะทรมานมันจนกว่าลมหายใจจะหายไปเอง”     สิ้นสุดคำพูดอำมหิต ร่างเล็กรีบใช้แรงที่มีทั้งหมดผลักคนตรงหน้าออกไปทันที สัญชาติญาณร่ำร้องบอกให้หนี เพราะคนคนนี้ทำจริงอย่างที่พูดแน่ๆ

ฝ่าเท้าเปลือยเปล่าพยายามจะก้าวออกจากห้อง แต่มือใหญ่ก็ตามมาคว้าปลายโอบิที่คาดเอวอยู่เอาไว้ได้ ร่างที่ถูกดึงกลับไปล้มลงกับพื้นแต่ก็ยังพยายามตะเกียกตะกายหนี

“ ปล่อยข้า!!”     ข้อเท้าถูกจับได้ก่อนจะโดนลากกลับเข้าไปในห้องอาบน้ำ ถึงจะไม่รู้ว่าจะโดนทรมานยังไงแต่สายตานิ่งสนิทนั่นก็ไม่เคยทำให้ไว้วางใจ

ทุกๆครั้งก็ถูกทำให้เจ็บเจียนตายทั้งร่างกายและจิตใจ...ไม่น่าจะมีอะไรเลวร้ายกว่าที่เคยโดนมาแล้วละมั้ง

ฝ่ามือเล็กทั้งทุบตีทั้งผลักไสร่างกายที่แข็งแรงกว่ามากนั่นก็ไม่มีสะทกสะท้าน ยูกาตะที่เพิ่งจะถูกสวมใส่หลุดลุ่ย มือใหญ่รวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างเอาไว้ด้วยกันก่อนที่ใบหน้าคมของคนที่คร่อมอยู่ด้านบนจะมองร่างเล็กที่หวาดกลัวด้วยสายตาไม่น่าไว้ใจ

นัยน์ตาสีดำโลมเลียไปทั่วร่างกายขาวผ่องที่มีรอยแดงจากบาดแผลฟกช้ำ ริมฝีปากยกยิ้มอย่างที่คนด้านใต้ได้แต่หวาดผวา มืออีกข้างที่ยังว่างอยู่กระชากยูคาตะออกไปให้พ้นแผ่นอกบางจนคนโดนกระทำถึงกับสะดุ้งเฮือก

“ จะทำอะไร?!”      ใบหน้าเล็กเริ่มจะตื่นตระหนกมากขึ้น ร่างกายก็พยายามจะถอยหนีทั้งๆที่ท่อนล่างก็โดนกดเอาไว้ด้วยขาของคนข้างบน

ถึงจะไม่ค่อยประสีประสาแต่เขาก็เป็นผู้ชาย มีหรือจะไม่รู้ว่าคนข้างบนกำลังจะทำอะไร

และเพราะว่าเขาเป็นผู้ชายนั่นแหละ หากโดนข่มเหงด้วยเรื่องแบบนี้มันยิ่งกว่าถูกทำลายศักดิ์ศรีจนป่นปี้ตั้งไม่รู้กี่เท่า

โอบิถูกกระชากออกไปก่อนจะถูกเอามาผูกข้อมือเล็กทั้งสองข้างเอาไว้ ร่างเล็กยังคงพยายามต่อต้านสุดชีวิตและแรงดิ้นรนก็ทำให้คนขี้รำคาญเริ่มหงุดหงิด มือใหญ่คว้าหัวสีน้ำตาลก่อนจะกดใบหน้าเล็กลงไปในอ่างอาบน้ำ

“ อื้อ!!”     ใบหน้าพยายามจะสะบัดหนีแต่แรงกดก็ยังมากกว่าอยู่ดี น้ำอุ่นที่ปะทะใบหน้ายังไม่เจ็บแสบเท่าบางส่วนที่ไหลลงคอ ทั้งร่างกายพยายามจะถอยหนี และในขณะที่คิดว่ากำลังจะขาดอากาศหายใจ มือใหญ่ก็กระชากเส้นผมจนหัวสีน้ำตาลเงยขึ้นไป

“ แฮ่ก แฮ่ก”      ร่างกายที่เคยต่อต้านหอบฮั่กอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง แต่คนที่จ้องจะทำร้ายก็ไม่เคยมีคำว่าปราณี มือใหญ่พลิกร่างกายเล็กให้นอนหงายก่อนจะตามขึ้นมาคร่อมเอาไว้ สายตาเหยียดๆที่มองลงมาจากข้างบนนั้นทำเอาคนที่ยังหายใจไม่ทันเจ็บแปลบไปจนถึงก้นบึ้งของจิตใจ

เกลียดชังอะไรเขานักหนาถึงต้องทำกันถึงขนาดนี้....

ใบหน้าคมก้มลงมากระซิบใกล้ๆใบหู พร้อมกับมือที่ลูบไล้อยู่ที่ต้นขาก่อนจะแยกมันออกจากกัน

“ นี่สำหรับ...สัตว์กินพืชที่ริอาจทำตัวเป็นไส้ศึกแบบเจ้า...จำเอาไว้ว่าอย่าทรยศข้าอีก”

แล้วแกนกายใหญ่ก็สอดใส่เข้ามารวดเดียว ช่องทางคับแน่นที่ไม่คุ้นเคยและไม่แม้แต่จะได้รับการเล้าโลมฉีกขาดทันที กลิ่นเลือดลอยคละคลุ้งจนกลิ่นหอมจากเครื่องปรุงก็โดนกลบไปจนหมด ร่างเล็กกระตุกเฮือกพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลลงมาตามความเจ็บปวดของร่างกาย ไม่อาจจะดิ้นหนี ไม่อาจจะต่อต้าน เพราะช่วงล่างนั้นเจ็บจนแทบขาดใจ

คนข้างบนยังคงทำตามแต่ใจ ทั้งๆที่เห็นว่าคนข้างล่างเจ็บเจียนตายแต่ก็ยังฝืนขยับร่างกายสอดใส่เข้าไป ต่อให้ร้องไห้ ต่อให้ร่างกายสั่นสะท้านขนาดไหน ไฟที่ลุกไหม้ก็ไม่ยอมหยุดตัวเองลง...จนกว่าจะได้เผาผลาญทำลายทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากอง

เสียงร่ำไห้ดังไปจนถึงใกล้สว่าง....ต่อให้สลบไปกี่ครั้งมัจจุราชสีดำนั่นก็ปลุกให้ลุกขึ้นมาพบกับฝันร้ายที่จะกลายเป็นบาดแผลฝังลึกลงไปในจิตใจจนวันตาย

มีเพียงคำถามเดียวที่ลอยอยู่ในหัว อยากจะถามออกไปแต่ริมฝีปากก็ไม่มีแรง...


เจ้า....เกลียดข้ามาก....เลยหรอ ?....


.
.
.
.
.
.
.


วันที่สี่แล้วที่ลูกชายคนรองของตระกูลยามาโมโตะถูกลงโทษ

เวลากลางวันนั้นช่างเงียบเหงาและผ่านไปอย่างยาวนานเหลือเกิน เพราะไม่มีโกคุเดระ ฮายาโตะอยู่ข้างกาย ร่างบอบบางนั่นจะแอบมาหาเขาได้เฉพาะช่วงกลางคืนเท่านั้น เพราะงั้นเขาจึงเฝ้ารอคอยเวลาที่พระจันทร์มาเยือนยิ่งกว่าอะไรในตอนนี้

แสงแดดยามเย็นค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีส้ม เสียงแซ่กๆจากพุ่มไม้ข้างๆห้องขังทำให้ใบหน้าคมต้องหันไปมองอย่างสงสัย เพราะเวลาแบบนี้ไม่น่าจะมีใครมาที่นี่

แล้วก็เป็นหัวที่เต็มไปด้วยเส้นผมสีเงินนั่นเองที่โผล่ออกมา

“ ทำไมมาตอนนี้ล่ะ?”    ใบหน้าคมหันมองรอบกายว่าแถวนั้นไม่มีผู้คุมอยู่แล้วแน่ใช่ไหม                

“ ในบ้านไม่มีคนอยู่น่ะสิ”     มือบางยังคงถือห่อผ้ามาเหมือนเคย ห่อยาถูกหยิบออกมาให้

“ เฮ้อ....วันนี้ในเมืองวุ่นวายสุดๆ ดีนะที่เจ้าอยู่ในนี้ ไม่งั้นคงต้องออกไปวิ่งวุ่นเหมือนข้าแน่ๆ”    ร่างบอบบางนั่งลงที่อีกฝั่งของลูกกรงพรางยืดแข้งยืดขาด้วยท่าทางไม่เรียบร้อยที่ไม่เข้ากับหน้าตาเลยสักนิด นัยน์ตาสีเปลือกไม้ลอบมองตามรอยแหวกของกิโมโนอย่างพยายามระงับอารมณ์...เจ้าลูกชายคนเล็กนี่คงไม่รู้เลยสินะว่าหมาป่าแบบเขากำลังจ้องจะตะครุบกระต่ายอย่างตัวเองอยู่

“ เกิดอะไรขึ้น?”

“ ไฟไหม้น่ะสิ...ก็เข้าใจหรอกนะว่าฤดูนี้อากาศมันแห้ง แต่มันจะพร้อมใจกันไหม้ไปไหม?! วันนี้แค่วันเดียวเล่นไหม้ไปตั้งสามที่ รวมเมื่อวานก็เป็นห้าแล้วนะ!

“ ไหม้ที่ไหนบ้างล่ะ?”       มือยังคงทาแผลไปแบบไม่ได้ใส่ใจเรื่องไฟไหม้นั่นมากนัก

“ ที่วัด...ที่ยุ้งข้าวของเจ้าพ่อค้าข้าวหน้าเลือด...แล้วก็ที่สวนของตาลุงฮามาดะ เห็นว่าอาหารแห้งที่เตรียมไว้สำหรับหน้าหนาวโดนเผาไปเกือบหมดเลยน่ะ...ส่วนเมื่อวานก็ที่สะพานอิสุ คอสะพานพังคงให้รถขนของข้ามไม่ได้ไปอีกพักใหญ่เลยละ....แล้วก็ที่ยุ้งท้ายตลาด...ส่วนใหญ่ก็เป็นที่เก็บของที่ไม่ได้มีคนเฝ้าตลอดก็งี้แหละ”      เสียงใสบอกมาแบบไม่ได้คิดอะไรผิดกับใบหน้าคมที่เริ่มจะชะงักค้าง

เดี๋ยวสิ....สถานที่ที่ว่ามานี่มันเป็นเหมือนอู่ข้าวอู่น้ำของอิสุเลยไม่ใช่หรอ?....เหมือนจงใจเล่นงานส่วนเสบียงของเมืองเลยไม่ใช่หรือไง?

“ โกคุเดระ....เจ้าแน่ใจนะว่ามันไม่ใช่การวางเพลิง?”      และเมื่อเขาพูดออกไปแบบนั้น ใบหน้าสวยที่เริ่มคิดตามก็เริ่มจะหน้าซีด

“ จริงสิ...นั่นมัน....เดี๋ยวข้ามานะ”      แล้วแผ่นหลังบางก็วิ่งหายไปกับแสงแดดยามเย็นปล่อยให้ร่างสูงได้แต่เอนหลังนั่งครุ่นคิดอยู่คนเดียว

ภาพหน่วยลอบสังหารของคามาคุระที่แฝงตัวเข้ามาในอิสุเมื่อหลายปีก่อนมันคาใจเขาอย่างที่บอกไม่ถูก แล้วยิ่งการเผาแหล่งเสบียงซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การศึกด้วยแล้ว...

ท่านพ่อ...ท่านกำลังคิดที่จะเปิดสงครามกับอิสุอยู่ใช่หรือไม่?

ถ้าเช่นนั้นชีวิตของเขาที่เป็นตัวประกันอยู่ที่นี่ก็คงจะไม่มีค่าอะไรเลยใช่ไหม?


สองมือได้แต่กำแน่น....เขาจะไม่ยอมถูกฆ่าตายง่ายๆแน่....ต่อให้ต้องทำลายสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวให้แหลกคามือเขาก็จะทำ

ในเมื่อคนที่เห็นค่าของเขามีอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น...





วันและคืนผ่านไปจนกระทั่งถึงคืนสุดท้ายที่ลูกชายคนรองของตระกูลยามาโมโตะถูกคุมขังกำลังจะหมดไป

เสียงนกร้อง จิ๊บ จิ๊บ และท้องฟ้าที่เริ่มจะสว่างรำไรปลุกให้นัยน์ตาสีมรกตเปิดขึ้นมาช้าๆ...วันนี้เขาก็มานอนอยู่หน้าคุกเหมือนหกวันที่ผ่านมา

ร่างกายเตรียมจะขยับแต่อะไรบางอย่างก็รั้งเอวบางเอาไว้จนขยับไม่ได้ดั่งใจ ใบหน้าสวยก้มลงมองก่อนจะต้องหน้าแดงระเรื่อเมื่อเห็นว่ามันคือท่อนแขนแข็งแรงของคนที่อยู่อีกฟากของลูกกรง

หมอนั่น...พลิกตัวมากอดเขาเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

แล้วทำไมใจต้องเต้นแบบนี้ด้วย...

เป็นเพราะว่าอยู่ด้วยกันมากเกินไปหรือเปล่า? หรือว่าเขาควรจะห่างจากหมอนี่บ้าง เผื่อว่าความรู้สึกแปลกๆแบบนี้มันจะจางหายไป

“ ตื่นได้แล้วเจ้าคนขี้เซา!”      มือบางยกขึ้นตบไปที่หน้าผากของคนที่ยังทำเนียนหลับสนิท ถึงจะมีลูกกรงกั้นแต่ใบหน้าคมนั้นก็ซบอยู่แถวๆหัวไหล่ของร่างบาง

“ อือ..?”     ท่อนแขนยังไม่ยอมปล่อยเอวเล็กให้เป็นอิสระ ลำบากมือบางต้องพยายามงัดแงะให้มันหลุดออกไป

“ ข้าจะกลับไปก่อน อีกเดี๋ยวผู้คุมก็คงมาปล่อยเจ้าแล้วละ แล้วค่อยเจอกันที่เรือน”      ร่างบอบบางเก็บผ้าห่มใส่ถุงผ้าที่หิ้วไปหิ้วมาทุกวัน ใบหน้าคมพยักหน้าให้ก่อนจะมองแผ่นหลังเล็กๆนั่นเดินจากไปจนลับสายตา

เจ้าไม่ได้รังเกียจข้าเลยใช่ไหมโกคุเดระ ทั้งๆที่ข้าแตะเนื้อต้องตัวเจ้าไปขนาดนั้น....และหากเจ้าไม่ยอมปฏิเสธ ข้าก็จะเดินหน้าต่อไป







เจ้าเมืองอิสุกำลังยืดเส้นยืดสายหลังจากที่ต้องจมอยู่หลังกองเอกสารมากมายมาทั้งวัน ร่างสูงใหญ่ในชุดฮากามะสีน้ำเงินเข้มเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าระเบียงชมสวนซึ่งบัดนี้ต้นโมมิจิกำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงเต็มต้น

สีแดงดั่งเลือดและเพลิงกาฬ...

ทำไมในใจถึงได้หวนไปนึกถึงนัยน์ตาสีเปลือกไม้มืดมนของเด็กคนนั้นได้กันนะ...ยามาโมโตะ ทาเคชิ...จะว่าเป็นลางสังหรณ์หรืออะไรก็ไม่แน่ใจ แต่เขากลับรู้สึกได้ว่าหากอิสุจะพังพินาศก็คงด้วยมือของเด็กคนนี้เป็นแน่

แต่...

เด็กคนนี้ก็อาจจะเป็นคนดึงอิสุขึ้นมาจากขุมนรกเช่นกัน

เพลงดาบที่นับได้ว่าอัจฉริยะที่ได้เห็นเมื่อหลายวันก่อนยังคงติดตา นี่ขนาดไม่มีครูอาจารย์คอยฝึกสอนให้ แต่เด็กคนนั้นก็ยังพัฒนามันไปจนถึงขั้นนั้นได้ อีกทั้ง...เด็กคนนั้นยังใช้มันอย่างไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าไม่มีสิ่งใดผูกมัดในจิตใจ ไม่เกรงกลัวหากต้องลงมือฆ่าแม้แต่คนในครอบครัว....เป็นเพลงดาบสังหารที่แท้จริง

“ อยู่ที่นี่เอง...ข้ายกน้ำชามาให้ค่ะท่านพี่”      เสียงนุ่มนวลดังขึ้นข้างหลังก่อนที่ถ้วยชาหอมกรุ่นจะถูกวางลงที่พื้นข้างกาย เจ้าเมืองอิสุนั่งลงไปเคียงข้างผู้เป็นภรรยา

“ สึนะโยชิไม่ติดต่อกลับมาเลยหรอ? เด็กคนนั้นจะเป็นยังไงบ้างนะ?”    เจ้าเมืองอิสุรับถ้วยชาไปพรางส่ายหน้าน้อยๆ

“ ไม่ต้องห่วงหรอก...เด็กนั่นก็ไม่ต่างไปจากฮายาโตะ...เขาจะเอาชีวิตรอดได้ด้วยความอ่อนโยนที่เขามี”    ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยเอ่ยขึ้นเมื่อนึกถึงลูกชายอีกคนที่ถูกส่งไปอยู่แดนไกล

“ ท่านกำลังกังวลอะไรอยู่หรือเปล่า?”      ภรรยาผู้ซึ่งมีใบหน้าเหมือนลูกชายคนเล็กเอ่ยถาม แล้วนั่นก็ยิ่งทำให้เจ้าเมืองอิสุนึกถึงตัวประกันที่มาจากคามาคุระ

“ ยามาโมโตะ ทาเคชิ....เด็กคนนั้นช่างอันตราย...ข้าไม่คิดเลยว่าเขาจะพัฒนาเพลงดาบไปได้ถึงขั้นนั้น ทั้งๆที่เราก็พยายามสกัดกั้นโดยไม่ส่งครูสอนดาบไปฝึกให้แท้ๆ...ถ้ายอมอยู่นิ่งๆก็คงจะดี”

“ เรื่องนี้นี่เอง...”      แต่ภรรยากลับหัวเราะน้อยๆก่อนจะพูดต่อไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอก...เด็กคนนั้นจะไม่ทำอะไรถ้าเราปล่อยให้ฮายาโตะอยู่ข้างๆเขา...แต่ถ้าท่านกังวล ว่างๆก็ลองแวะไปที่โรงฝึกตอนเย็นๆดูก็ได้ สองคนนั้นน่าจะอยู่ที่นั่น”

และเพราะคำพูดนั้น...วันนี้...เจ้าเมืองอิสุจึงเดินลัดเลาะหมู่เรือนเพื่อไปยังโรงฝึก....





เสียงดาบไม้ปะทะกันดังออกมาจากด้านในอาคารหลังใหญ่ หลังจากที่ไม่ได้ยินมาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ

เพลงดาบคู่กำลังถูกพัฒนาจากกระดาษและพู่กันขึ้นเป็นท่วงท่าที่ใช้ได้จริง ดาบไม้ในมือใหญ่พลิกแทงใส่เข้าไปให้ดาบไม้ในมือบางตั้งรับเอาไว้ นัยน์ตาที่จ้องมองกันและกันถึงแม้จะดุดันแต่มันกลับไร้ซึ่งจิตสังหาร จากการที่ฝึกซ้อมด้วยกันมากว่าเจ็ดปีทำให้เพลงดาบของพวกเขาเข้ากันได้ดีจนไม่น่าเชื่อ

“ จริงสิ โกคุเดระ...เรื่องเพลิงไหม้ตกลงว่าเป็นยังไงบ้าง?”     จากเพลงดาบหนักหน่วงเมื่อถึงช่วงสุดท้ายของการซ้อม เพลงดาบที่ใช้ก็จะเบาลง แสงอาทิตย์ข้างนอกเปลี่ยนเป็นสีส้มมานานแล้ว

“ ยังจับใครไม่ได้ละนะ เลยไม่รู้ว่าเป็นกางวางเพลิงหรือยังไง แต่เพราะจัดเวรยามไปเฝ้าเอาไว้ตามแหล่งเสบียงสำคัญๆทำให้ไม่มีไฟไหม้ที่ไหนอีก”      นั่นก็หมายความว่าทางอิสุยังไม่รู้...ว่าการลอบวางเพลิงนั้นเป็นฝีมือของใคร...ซึ่งเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นคามาคุระหรือเปล่า

“ นี่...พรุ่งนี้เช้าออกไปข้างนอกกับข้าไหม?”      ออกไปเดินดูสักหน่อยท่าจะดี เผื่อว่าจะพบคนของคามาคุระที่แฝงตัวเข้ามา เขาจะได้แน่ใจว่าพ่อของเขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่

“ ฮึ! ใครจะว่างไปเที่ยวเล่นกับเจ้าล่ะ? ข้ามีงานต้องทำเยอะแยะ”      ร่างบอบบางปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ดาบไม้ในมือวาดมาให้เขาก้มหัวหลบ

“ แน่ใจนะ? ข้าว่าจะแวะไปกิน Minazuki ด้วยนะ ของฤดูใบไม้ร่วงเพิ่งจะออกมาหรือเปล่าน้า?”     แกล้งพูดด้วยนำเสียงยานคาง ใบหน้าสวยชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อขนมหวานรูปสามเหลี่ยม นัยน์ตาสีมรกตพราวระยับอย่างที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาล่อลวงสำเร็จ

และเพราะมัวแต่นึกถึงของกินจึงทำให้สายตาพลาดจังหวะการขยับร่างกายของเขา ปลายเท้าจึงสะดุดเพราะติดขาเขาจนร่างบอบบางถึงกับเซถลา ฝ่ามือบางคว้าคอเสื้อกิโมโนของเขาทำให้ล้มไปด้วยกันจนได้

“ อือ.....”      ร่างบอบบางครางพรางลูบก้นปอยๆ ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ที่พื้นโดยมีร่างสูงใหญ่กางแขนคร่อมลำตัวบางเอาไว้ ใบหน้านั้นอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ

“ นี่...โกคุเดระ...”     เสียงทุ้มเรียกให้ใบหน้าสวยเงยขึ้นมาจากการหันไปสำรวจสะโพกตัวเอง

“ อะระ...?”     แต่ยังพูดไม่ทันจบประโยค ริมฝีปากก็ถูกประกบปิดด้วยริมฝีปากของร่างสูง นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างเมื่อรับรู้ถึงเรียวลิ้นร้อนที่สอดแทรกเข้ามา

“ อื้อ!”     มือที่ยกขึ้นกันแผ่นอกกว้างที่ขยับเข้ามาแนบชิดถูกมือใหญ่จับเอาไว้ ปลายลิ้นยังคงพัวพันจนลมหายใจเริ่มติดขัด ความรู้สึกแปลกๆเริ่มพลุ่งพล่านในจิตใจ

เจ็บใจนัก!....ดันรู้สึกดีไปกับรสสัมผัสของหมอนี่จนได้

ริมฝีปากสีแดงถูกปล่อยให้เป็นอิสระเพียงชั่วครู่ก่อนจะถูกปิดอีกครั้งด้วยริมฝีปากของร่างสูง เสียงในลำคอและน้ำลายที่ผสมปนเปทำให้ใบหน้าใสถึงกับแดงระเรื่อ ร่างกายค่อยๆเอนลงนอนราบตามแรงกดของคนที่อยู่ด้านบน

นัยน์ตาสีเปลือกไม้ละออกมาจ้องมองคนที่นอนหอบอยู่กับพื้นโรงฝึก นัยน์ตาคู่สวยที่หรี่ปรือ ริมฝีปากแดงช้ำจากการลุกล้ำของเขา แล้วยังจะน้ำลายที่ไหลออกมาเล็กน้อยที่มุมปาก...ทุกอย่างของร่างบางมันทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่อยู่

นับวันความต้องการก็มีแต่จะมากขึ้นๆ....เขาคงจะอาการหนักแล้วใช่ไหม...

ใบหน้าคมก้มลงไปอีกรอบก่อนจะกดจูบลงไปที่ซอกคอระหง มือแหวกคอเสื้อกิโมโนออกจนเห็นลาดไหล่บอบบาง

“ อ๊ะ?!”     เสียงอุทานเล็กๆดังออกมาจากคนที่โดนจุมพิต ที่ต้นคอและลาดไหล่รู้สึกได้ถึงแรงจูบที่ไม่ได้แค่แตะริมฝีปากลงไปเท่านั้น เพราะมันทิ้งรอยแดงเอาไว้ทุกที่ที่ใบหน้าคมนั่นขยับผ่านไป

มือใหญ่อีกข้างจับอยู่ที่แถวๆสะโพกบาง ก่อนจะสอดมันเข้าไปในรอยแหวกของกางเกงฮากามะ ต้นขาเนียนนุ่มที่รับรู้ถึงฝ่ามือร้อนผ่าวเล่นเอาเจ้าของมันถึงกับสะดุ้ง

“ เดี๋ยว! ยามาโมโตะ?!”      ร่างบอบบางพยายามดันไหล่หนาออกไป แต่แรงกดจูบที่ลากไล้ไปทั่วซอกคอก็ทำเอาร่างทั้งร่างอ่อนระทวย  เสียงครางเล็กๆที่หลุดออกมาจากลำคอทำให้ใบหน้าสวยยิ่งแดงหนักเข้าไปใหญ่

รอยแดงที่ต้นคอยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป เช่นเดียวกับมือใหญ่ที่ขยับใกล้โคนขาเข้าไปทุกทีๆ...ถ้าปล่อยไว้แบบนี้.....



จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้!

ทว่าความตั้งใจนี้กลับไม่ใช่ของคนทั้งคู่ที่กำลังกอดก่ายกันอยู่ที่พื้นโรงฝึก แต่มันกลับเป็นของผู้เป็นพ่อที่ได้แต่ยืนตกตะลึงกับภาพตรงหน้าที่มองเห็น

เจ้าเมืองอิสุเดินมาถึงตั้งแต่ตอนที่ทั้งคู่กำลังฝึกเพลงดาบอยู่ด้วยกัน

ทั้งๆที่คิดว่าคงจะไม่มีอะไรต้องกังวลในเมื่อลูกชายคนเล็กของตนดูจะทำให้เจ้าเด็กอันตรายนั่นยอมเชื่องลงได้

แต่มันต้องไม่ใช่ ด้วยการใช้วิธีที่ผิดจารีตประเพณีแบบนี้!

เขายอมไม่ได้ ที่จะให้ลูกชายมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับผู้ชายด้วยกัน

ร่างสูงใหญ่เตรียมจะเดินเข้าไปแยกทั้งคู่ออกจากกัน แต่เสียงเรียกจากเบื้องหลังก็ทำให้ฝ่าเท้าต้องหยุดชะงัก


“ ท่านเจ้าเมือง...ข้ามีเรื่องด่วนจะแจ้งให้ท่านทราบ”



.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

โปรดติดตามตอนต่อไป....



ลงกัน 4 ตอนรวด แหะแหะ ดูเหมือนเยอะ แต่นี่เป็นผลิตผลที่แอบปั่นมาทั้งเดือนนะค้า (ได้แค่เนี๊ยะ?!) ก็นั่นแหละตอนที่ 5 ไว้วันหน้าฟ้าใหม่จะตามมาในเร็วไว55

ขอบคุณมากๆเลยค่ะที่มาร่วมแฮปให้หนูก๊กกัน  ^ ^ ยังไงก็ฝากฟิคดาวตกเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องนะคะ m(_ _)m ส่วนเรื่องที่ค้างๆเอาไว้ เจอกันที่บลอคใหม่โล้ด  ^ ^v









5 ความคิดเห็น:

  1. ข้าน้อยขอแฮบมาเม้นท์ตอนที่ 4 เลยละกันนะก๊ะ (แบบว่ายาวมากก เอิ๊กๆ)

    ยามะก๊ก คู่เมนของเรื่อง อ่า....ทำไมข้าน้อยอ่านมาถึงตอนสี่รู้สึกอยากถอนหายใจอ้ะ (อินี่เป็นบ้าอะไร - -") ช่วงแรกก๊กน่ารักมากค่ะ พยายามทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนยอมรับ แอบคิดอยู่ว่าที่ปฎิบัติตัวกับยามะช่วงแรกเนี่ยเป็นเพราะก๊กไร้เดียงสาจริงๆหรือแอบมีแผนอะไรในใจ กรั่กๆ ยามะก็เหลือเกิน มองเขาแต่แง่ลบอยู่ได้ คนทั้งวังไม่ชอบช่างหัวมันปะไร มีแค่ก๊กคนเดียวก็พอเนอะ กร๊ากกกกกก บทยามะจะบื้อกับคนซึนๆก็ได้เนอะ เชื่อพวกพี่ชายพูดได้ไงเนี่ยยยย ก๊กเค้าไม่ดูแลยามะเพราะเห็นเป็นลูกหมาหร้อกกกก ก๊กเค้าดูแลดีกว่ากระต่ายตัวนั้นด้วยซ้ำ (เอ๊ะ?) สุดท้ายเตรียมใจไว้ให้ดีนะทั้งสองคน เดอะลาสบอสเขารู้ตัวแล้วนะเออ 5555+

    1827 อ่า.....คู่นี้ไม่ต้องนิยามใดๆทั้งสิ้น พิศาลยังอาย!!(เกี่ยว?) โอยคุณฮิ นั่นคือวิธีแสดงความรักของคุณฮิใช่มั้ยค้าาา (ข้าน้อยชักไม่แน่จัยแล้วอ้ะ - -") มันไม่ใช่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายแล้วอ้ะ คุณฮิใส่ไม่ยั้งตลอดเลยอ้ะ ทูน่าน้อยๆช้ำหมด ยิ่งรู้ว่าทูน่าเป็นพี่ของก๊กแล้วถูกส่งมาเป็นตัวประกัน โอ้ววววว ดราม่ามากมายค่าาาา ทำร้ายเพราะอยากเห็นน้ำตา!! ว่าแต่ทูน่าก็อึดใช่ย่อย ดีดโกโตะได้ไงสามวันอ้ะ = = (เป็นลมไปแต่วันแรกจะสบายกว่านะเนี่ย เหอๆ) แต่บทลงโทษสุดท้ายของคุณฮิเนี่ย มันออกมาจากส่วนลึกของจิตใจคุณฮิใช่มั้ยก๊ะ โฮกกกก !!!

    โอยยยยย น่าลุ้นทั้งสองคู่เลยอ้ะ แต่ด้วยความรู้สึกนี่คู่หลักเขานำไปไกลละ ข้าน้อยจิ้นชะตากรรมคู่หลังไม่ออกจริงๆ (ยิ่งกว่ารักต้องฆ่าอีก กรั่กๆ) รอติดตามตอนต่อไปคร่าา เชียร์พี่กวางสูดหูรูด ฮิ้ววววววววววว >[]

    ตอบลบ
  2. โฮกกกกกกกกกกกกก ก๊กน่ารักเกินไป ยามะจะอดใจไม่ไหวก็ไม่แปลก
    คุณพ่อตา(?)มาเห็นซะแล้วล่ะ จะทำยังไงต่อไปล่ะเจ้าตัวเนียน เอ แต่โดนเรียกไปซะแล้ว ร...หรือว่าตอนหน้า แอร๊ยยยยยย(อะไร55555)

    คุณฮิกับทูน่าเหมือนจะมีซีนดีๆสบายๆแล้วแท้ๆเชียว เสียดายที่กลับตาลปัตรซะได้
    โหดยิ่งกว่าพิศาลอีกมั้งคะเนี่ย ช้ำหมดแล้วเจ้าปลาน้อย เข้มแข็งไว้นะ

    ตอบลบ
  3. ไอ้ข้อความนั่นมันอาร๊ายยยยยยยยยยยยย

    ต้องเป็นชั้นเซ่ที่จะเป็นเค้กให้ก๊กละเลงเล่น (ว่าแล้วก็เปลื้องผ้า โชว์สามชั้นอย่างมั่นใจ ฮึ)
    แกมันแค่ของคั่นเวลาชั้นประทินผิว อิยาม๊าาาาาาาาาาา

    คู่ฮิบะนั่นมันมืดสุดๆไปเลยนะคะ อ่านทีสะอึก (ขออภัยที่ความตั้งใจในการอ่านจะดร๊อปลง ต่างจากคุ๋หลัก)
    แต่โกคุน่ารักมาก มีการมานอนเฝ้านอกกรงด้วย ไม่หนาวรึไงน้อ เอาเค้าไปด้วยมั๊ย ...หนาวเนื้อห่มเนื้อ แอ๊ก!!!(โดนแม่ยกที่รับไม่ได้กระทืบจมดิน)

    ไม่อยากให้อิเจ้าเมืองมาเห็นเล้ย มีแววจะจบไม่สวยซะแล้วสิ
    แต่ทำไมเราแอบสะใจก็ไม่รู้ ประมาณว่า เย้สสสส แกตายแน่ อิยาม๊าาาาาาาา 5555555555555555555(บินจากไปอย่างสวยงามมมมม)

    ตอบลบ
  4. ได้เรื่องแล้วไงเนียนเอ้ย พ่อตามาเห็นซะแล้ว ยังไม่รู้ตัวสินะ เส้นทางสายวายนี้คงจะไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบอีกต่อไปแล้ว หึหึ ส่วนท่านฮิกับทูน่า ดูขมๆ ขื่นๆ ดาร์กๆ มากกว่าเดิม ทำอะไรลงไปเนี่ยฮิเอ้ย (อยากให้สัปป้าเป็นมนุษย์ล่องหน มาคอยช่วยทูน่าจริงๆ)

    ตอบลบ
  5. โหยยยยยยยามะ เอ๋ย ท่านพ่อก๊กไม่ปลื้มเนี่ยลำบากหน่อยน้าาาา
    เค้าสงสารสึคุงจุงเบยยยย
    ท่านฮิใจร้ายยยยยยยยยยยยยย
    แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ตอบลบ