คะ คือ ใครรับไม่ได้กับบทพระเอกเกรียนๆ พระเอกชั่วร้ายที่สุดในเรื่องอะไรงี้ ก็ปิดไปนะคะ เพราะเรื่องนี้เกะมันร้ายจนน่าตบเลยอ่ะ =[ ]=
Naruto Au S.Fic [Sasuke x Itachi] จะรักตลอดไป... : 03
: Naruto Fanfiction Au
: Sasuke x Itachi
: Drama Incest (แหงแซะ)
: NC-17 เพราะมัน Incest และซาสึมันเกรียน!!
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
“ เข้าใจแล้ว....”
ถึงจะตอบออกไปแบบนั้น แต่จะให้เข้าใจอะไรงั้นหรอ?
สิ่งที่เขาเข้าใจมีเพียงเรื่องเดียว….
อิทาจิ...ต่อให้นายจะรักใครมากแค่ไหนฉันก็ไม่สน...คนที่นายจะต้องอยู่ด้วยคือฉันเท่านั้น!
ลูกชายคนเล็กของบ้านอุจิวะเดินลงจากบันไดดาดฟ้ามาด้วยนัยน์ตามืดมน ถ้าคิดว่าคนอย่างเขาจะปล่อยของของตัวเองไปง่ายๆล่ะก็...คิดผิด...
ก็อย่างที่บอก...ว่าเขาเป็นตัวอันตรายอันดับหนึ่ง...เพราะงั้นเขาจึงไม่ได้มีดีแค่เรื่องใช้กำลัง....สมองเริ่มประมวลผลอย่างหนักในขณะที่ขากำลังก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ
ในเมื่ออิทาจิไม่ยอมเป็นฝ่ายเลิก...แต่ก็ใช่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะขอเลิกไม่ได้เสียเมื่อไหร่
“ ฮึ...” ใบหน้าหล่อเหลายิ้มร้ายที่มุมปาก....ฉันจะทำให้นายเห็นเองว่าไม่มีใครรักนายจริง ไม่มีใครต้องการนายได้มากมายเท่าฉัน....
จากวันนั้นผ่านมาหลายสัปดาห์แล้ว...ซาสึเกะเองก็ดูสงบลงมากจนผู้เป็นพี่ชายเริ่มจะวางใจ
อุจิวะ อิทาจิยืนอยู่หน้าเตาไฟฟ้าซึ่งมีกระทะร้อนๆวางอยู่ มือใช้ตะหลิวตักไข่ดาวเตรียมจะยกมาใส่จานถ้าไม่ติดที่ว่ามีอ้อมแขนของใครบางคนโอบกอดเข้ามาจากทางด้านหลัง ใบหน้าของน้องชายเกยอยู่ที่คางก่อนเสียงทุ้มจะกระซิบเบาๆ
“ วันนี้อยากกินไข่ดาวเกรี้ยมๆ ทำให้หน่อยสิพี่” กลับมาเป็นน้องชายขี้อ้อนของเขาตามเดิมแล้วสินะ ใบหน้าเรียวยิ้มน้อยๆ
ทั้งๆที่เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วแท้ๆ แต่ทำไมเขากลับรู้สึกเหงาๆ ถึงไม่อยากจะยอมรับแต่ลึกๆในใจกลับต้องการให้ซาสึเกะดื้อรั้นเกี่ยวกับเรื่องของเขากับมากิอีกสักนิด
เขานี่...เป็นพี่ชายที่ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ....
“ ซาสึเกะ” พี่ชายเรียกออกไปเพราะอีกฝ่ายยังเกาะหลังเป็นปลิงตัวโตไม่ยอมปล่อย
“ หื๋อ?” ไม่ปล่อยยังไม่เท่าไหร่ แต่มือที่เริ่มจะใหญ่กว่าเขานั่นมันกลับกอดกระชับเอวเขาแน่นจนลำตัวแนบชิดกัน ใบหน้าคมที่แค่เกยไหล่อยู่ในตอนแรกกลับสูดดมฟุดฟิดอยู่แถวๆซอกคอ ผู้เป็นพี่ชายเอี้ยวตัวกลับไปก่อนจะดีดมะกอกเข้าให้ที่หน้าผากใสของน้องชาย
“ โอ้ย! เจ็บนะอิทาจิ” ปลิงตัวโตยอมถอยห่างออกไปพร้อมกับยกมือขึ้นกุมหน้าผาก
“ ไปนั่งรอที่โต๊ะสิ” น้องชายได้แต่ยกมือยอมแพ้ด้วยใบหน้าหน่ายๆ แต่ถึงเจ้าตัวจะยอมไปนั่งรอที่โต๊ะก็จริง แต่คนที่ยืนทอดไข่ดาวอยู่ก็ยังรู้สึกได้ถึงสายตาลวนลามที่ส่งมาจากคนรอ
“ มองอะไรนักหนา” จานไข่ดาววางลงไปที่โต๊ะจนได้
“ ก็ฉันชอบพี่ตอนอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนแบบนี้นี่นา” น้องชายพูดออกมาพรางหยิบส้อมจิ้มไข่ดาวเข้าปากโดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่า ไอ้คำพูดที่ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรนั่นมันจะไปทำให้ใบหน้าของอีกคนร้อนผ่าว
ยังโชคดีที่เขามักทำหน้าตายเป็นปกติ เพราะงั้นมันจึงไม่หลุดพิรุธอะไรออกไป...
“ ออกไปก่อนนะพี่” น้องชายที่กินเสร็จแล้วหนีบกระเป๋าบางเฉียบตั้งใจจะเดินออกไป
“ ซาสึเกะ” แต่พี่ชายก็เรียกเอาไว้เสียก่อน
“ นายนี่จริงๆเลยนะ...ใส่เนคไทให้มันดีๆหน่อยไม่ได้รึไง ต้องให้ใส่ให้ทุกวันแบบนี้ไม่เบื่อบ้างหรอ...” ถึงปากจะบ่นแต่มือของพี่ชายก็ยังคงเอื้อมไปจับเนคไทของน้องชายให้เข้าที่เข้าทาง
“ ก็อยากให้พี่ทำให้นี่...เลยตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ทุกวัน” นี่กำลังอ้อนเขาอยู่ใช่ไหม พี่ชายได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา ก่อนจะปล่อยน้องชายไป ร่างที่สูงเท่าๆกันหันหลังยกมือน้อยๆให้ก่อนจะเดินออกจากบ้าน
สายตาอ่อนโยนมองตามแผ่นหลังที่ค่อยๆไกลออกไป โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่า...ทุกอย่างมันไม่ได้กลับมาสงบสุขอย่างที่คิด
วันนี้อุจิวะ อิทาจิ ก็ยังคงออกไปนั่งกินข้าวกลางวันกับมากิเหมือนเดิม
แต่ไม่รู้ทำไม บทสนทนาของเราสองคนมันเริ่มจะสั้นลงเรื่อยๆ จากตอนแรกที่เด็กสาวเคยชวนเขาคุยอะไรไปเรื่อยเปื่อย พักหลังๆมานี้มันก็น้อยลงทุกทีๆ...มันคงผิดที่เขาเองนั่นแหละ...ที่ไม่ว่าเด็กสาวจะชวนคุยเรื่องอะไร เขาก็ทำเพียงแค่พยักหน้าหรือไม่ก็ตอบไปสั้นๆ
เป็นใครก็คงทนไม่ไหวเหมือนกัน
ใบหน้าเรียวหันไปมองที่ดาดฟ้าของตึกข้างๆ...ไม่มีรังสีอำมหิตส่งมาจากบนนั้นอีกแล้ว....ซาสึเกะไม่ได้กำลังมองดูเขาอยู่อีกแล้ว
ในเมื่อน้องชายทำตามที่เขาต้องการ....แล้วเขายังจะอยากได้อะไรอีก?
ใกล้จะหมดเวลาพัก เขากับมากิจึงกลับเข้ามาในอาคารเรียนอีกครั้ง ในขณะที่กำลังจะเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองด้วยกัน ลมวูบใหญ่ก็พัดผ่านเราสองคนไป
“ อ๊ะ!” มากิยกมือขึ้นขยี้ตา ดูเหมือนว่าจะมีเศษผงเข้าไปติดอยู่
“ ไหน ขอดูหน่อยซิมากิ” ร่างโปร่งขยับเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าเด็กสาว ใบหน้าเรียวขยับเข้าไปใกล้ใบหน้าของอีกฝ่ายเพื่อมองเศษผงในดวงตา มือค่อยๆประคองใบหน้าของเด็กสาวก่อนที่ปลายนิ้วจะเขี่ยเศษผงออกให้อย่างแผ่วเบา
สายตาของเราสองคนสบประสานกันอยู่เนิ่นนาน
แต่น่าแปลกที่มันกลับไม่มีแรงดึงดูดอะไรสำหรับเขาเลย
ร่างกายละออกมาจากเด็กสาว เขาก้าวถอยหลังเล็กน้อยและเมื่อหันไปยังชานพักบันไดที่อยู่เหนือขึ้นไป นัยน์ตาก็เผลอกระตุก
ซาสึเกะยืนอยู่ตรงนั้น....พร้อมกับมองมาที่พวกเขาสองคนด้วยสายตามืดมนปนเจ็บปวด...
ผู้เป็นน้องชายเดินลงบันไดมาช้าๆ ก่อนจะเดินผ่านหน้าพวกเขาไปโดยไม่ทำอะไร ไม่หันมามอง
กลับเป็นเขาเองที่มองตามแผ่นหลังของน้องชายไปด้วยหัวใจที่เวิ้งว้างชอบกล...
เสียงกดออดทำให้ร่างสูงที่นอนพาดอยู่ที่โซฟาผงกหัวขึ้นมามอง...
อิทาจิไม่อยู่หรือไงนะ?
สายตาของอุจิวะ ซาสึเกะ กวาดมองไปทั่วบ้านที่มืดสลัวก่อนจะมองเห็นกระดาษโน้ตแผ่นเล็กวางอยู่ที่โต๊ะข้างๆโซฟา มือกวาดหยิบขึ้นมาอ่าน
‘ ฉันออกไปซื้อของสดมาทำกับข้าว ถ้าตื่นแล้วก็อย่าลืมเปิดไฟด้วยนะซาสึเกะ’
ริมฝีปากบนใบหน้าคมอมยิ้ม....พี่ชายเขาต้องเป็นแม่ที่ดีได้แน่ๆเลย
กริ๊ง...กริ๊ง.....
เสียงออดหน้าบ้านยังคงดังอยู่ ทำให้ร่างสูงที่หัวยุ่งนิดๆเสื้อยืดสีดำยับหน่อยๆลุกขึ้นเดินโงนเงนตามประสาคนเพิ่งตื่นออกไปดูที่หน้าประตู ว่าใครมาเอาป่านนี้กัน...และเมื่อเปิดออกไปเห็นว่าเป็นใคร ใบหน้าหล่อเหลาก็ลอบยิ้มร้ายในใจ
มากิ....
“ อะ เอ่อ....ซาสึเกะคุง....คือ....” เขาเท้าประตูมองคนที่ยืนก้มหน้าก้มตาพูดจาตะกุกตะกัก
“ อิทาจิไม่อยู่...จะเข้ามารอไหมล่ะ? อีกเดี๋ยวก็คงกลับ” ร่างสูงขยับหลบทางให้ หญิงสาวเงยหน้ามองด้วยความแปลกใจ แล้วเดินตามเข้าบ้านไป
แสงไฟค่อยๆสว่างขึ้นทีละดวง ร่างเล็กบางของเด็กสาวนั่งลงที่โซฟาพรางเหลือบมองคนที่เคยจะทำร้ายตนด้วยสายตาหวาดๆ แต่อุจิวะ ซาสึเกะในวันนี้กลับดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบกับภาพที่คงไม่มีใครเคยเห็น...คนที่ได้ชื่อว่าอันตรายกับชุดอยู่บ้านแบบสบายๆ
กระป๋องน้ำส้มอัดลมถูกวางเอาไว้ตรงหน้าเด็กสาว ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินไปนั่งลงที่ฟูกรองนั่งซึ่งอยู่หน้าโทรทัศน์ ให้เด็กสาวเห็นเพียงแผ่นหลังได้รูป ร่างสูงจับรีโมตมากดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆโดยไม่ได้สนใจคนที่นั่งอยู่ข้างหลัง แขนแข็งแรงเอนเท้าร่างกายที่นั่งขัดสมาธิสบายๆ
แต่คนที่รูปร่างหน้าตาดีแถมไออันตรายที่น่าเร้าใจแบบนั้น ถึงจะแค่นั่งอยู่เฉยๆก็ทำให้ไม่ว่าจะสาวๆคนไหนก็ไม่อาจละสายตาไปได้
แฟนของพี่ชายเองก็เช่นกัน....
“ นี่.....” เสียงทุ้มดังอยู่ใกล้หู นัยน์ตาของหญิงสาวเบิกกว้างเมื่อจู่ๆร่างสูงก็มายืนอยู่ตรงหน้าเพราะว่าตนมัวแต่เหม่อลอย สองแขนแข็งแรงนั่นกางคร่อมร่างเล็กบางก่อนจะยันมันเอาไว้กับพนักของโซฟาให้คนที่อยู่ในวงล้อมไม่มีทางหนี
ยิ่งได้มองใบหน้าหล่อเหลาใกล้ๆ หญิงสาวก็ได้แต่ใบหน้าร้อนผ่าว
“ อิทาจิกลับมาแล้วแน่ะ....” เสียงทุ้มที่กระซิบแผ่วเบาทำเอาหญิงสาวใจเต้นจนแทบจะทะลุออกมาจากอก ใบหน้าหล่อเหลาจงใจเฉียดเข้าไปใกล้ใบหน้าของหญิงสาวก่อนจะละทั้งร่างกายออกมาแล้วเดินขึ้นบันไดไป ทิ้งให้หญิงสาวได้แต่นั่งหัวใจเต้นแรงอยู่ตรงนั้น
“ ฮึ...” ร่างสูงที่เดินอยู่บนระเบียงชั้นสองมองลงมาที่ห้องนั่งเล่นพร้อมกับรอยยิ้มร้าย ภาพของพี่ชายที่เพิ่งกลับมากำลังพูดคุยกับคนรักของตัวเองไม่ได้ทำให้เขาเดือดเป็นไฟเหมือนเมื่อก่อน
เพราะรู้ดีว่า....อีกไม่นานผู้หญิงคนนั้นต้องบอกเลิกกับอิทาจิอย่างแน่นอน...
นานแค่ไหนกันแล้วนะ ที่เขาไม่ได้กลับบ้านพร้อมกับพี่ชาย...
อุจิวะ ซาสึเกะ เดินหนีบกระเป๋านักเรียนบางเฉียบไปตามทางเท้าของถนนที่นานๆจะมีรถผ่านมาสักคันเพราะมันเป็นถนนในย่านพักอาศัย นึกถึงวัยเด็กที่พี่ชายมักจะให้เขาซึ่งวิ่งเล่นจนหมดแรงขี่หลังกลับบ้านทุกวันๆแล้วก็ให้คิดถึง พอโตขึ้นมาอิทาจิก็มีหน้าที่อะไรมากมายจนกลับบ้านมืดค่ำ เขาเองส่วนใหญ่ก็เสียเวลาไปกับการทะเลาะวิวาท จนรู้ตัวอีกทีเราสองคนก็ต่างคนต่างกลับทั้งๆที่อยู่โรงเรียนเดียวกันมาตลอด...ยิ่งพักหลังๆมานี้.....พี่ชายคงไม่นึกถึงเขาเวลากลับบ้านอีก ในเมื่อมีผู้หญิงคนนั้นที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักเดินกลับไปด้วยกัน
ร่างสูงหยุดยืนอยู่ท่ามกลางแดดสีส้มก่อนจะก้มมองเงาตัวเอง....ขนาดตัวเขายังมองเห็นมันเป็นเงาของปีศาจ
แล้วอิทาจิจะต้องร้องไห้ จะต้องเจ็บปวดแค่ไหนกันนะ ถ้ารู้ความตั้งใจของเขา
จะโกรธจะเกลียดแค่ไหนกันถ้ารู้ว่า…
ผู้เป็นน้องชายตั้งใจจะทำลายความรักของตน...ไม่ว่าจะกี่ครั้งกี่หนก็ตาม
“ ฮึ...ไอ้เด็กหวงของ....” ใบหน้าหล่อเหลายิ้มให้กับเงาของตัวเองก่อนจะเงยหน้าด้วยสายตาแรงกล้า คนที่ผิดคือคนที่คิดจะมายุ่งกับของของเขาต่างหาก!
เท้ากลับมาก้าวเดินอีกครั้งอย่างไม่ลังเล สมองคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแต่มันก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของพี่ชายแทบทั้งนั้น แต่ก่อนจะถึงบ้านอีกเพียงไม่นานสองหูก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเข้า
“ หลีกไปนะ!” แผ่นหลังเล็กบางยืนอยู่กลางวงล้อมของผู้ชายท่าทางอันธพาลหลายคน นั่นมัน....ผู้หญิงคนนั้น?
“ ไปเที่ยวด้วยกันก่อนเถอะน่าน้องสาว ยังไม่มืดเลยจะรีบเข้าบ้านไปไหน” น้ำเสียงยียวนมาพร้อมใบหน้ากวนประสาท ไอ้พวกหน้าตัวเมียชอบรังแกผู้หญิงกำลังรุมเร้าแฟนของพี่ชายเขาอยู่...ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงเดินจากไปอย่างไม่ไยดี...แต่ตอนนี้.....
รอยยิ้มร้ายปรากฏอยู่ที่มุมปาก...ขาเดินเข้าไปก่อนจะจับมือของไอ้หน้าโฉดนั่นเอาไว้แล้วบิดไพล่หลัง
“ โอ๊ย?! กะ...แกเป็นใครว๊ะ?!!” แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้แนะนำตัว พอพวกมันหันมาเห็นหน้าก็นัยน์ตาเบิกกว้างอย่างหวาดกลัวกันไปเอง
“ อะ อุจิวะ...ซาสึเกะ.....” เสียงครางเรียกชื่อเขามันดูสั่นจนน่าสมเพช บอกตามตรงว่าเขาจำพวกมันไม่ได้หรอกเพราะคนที่เคยโดนเขากระทืบปางตายมันมีมากมายเกินไป
“ ไสหัวไปซะ” ร่างใหญ่ๆเซถลาไปตามแรงผลัก ถึงจะมากันหลายคนแต่เมื่อพวกนั้นรู้ว่าคู่ต่อสู้เป็นเขาจึงทำได้เพียงแค่วิ่งหนีหางจุกตูด
ร่างสูงก้าวขาออกเดินโดยไม่ได้สนใจคนที่ยืนมองมาด้วยสายตาขอบคุณ ยิ่งทำตัวเย็นชาเท่าไหร่ ยิ่งเข้าถึงยากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเร้าและเย้ายวนให้อยากจะเข้ามาใกล้มากเท่านั้น...ใบหน้าหล่อเหลาลอบยิ้มเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของผู้หญิงคนนั้นออกเดินตามมา
“ ซาสึเกะคุง...” นัยน์ตาสีดำสนิทเพียงแค่เหลือบมองไปตามเสียงเรียก โดยที่ใบหน้ายังคงนิ่งและเย่อหยิ่งดังเดิม
“ ขอบใจมากนะที่เข้ามาช่วย” นัยน์ตาคมกล้าตวัดกลับไปมองทางข้างหน้าดังเดิม ทำราวกับว่าคำขอบคุณเมื่อครู่ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นอะไร
นัยน์ตาของเด็กสาวมองมาที่แผ่นหลังได้รูปที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาชื่นชม ชายเสื้อเชิ้ตที่หลุดลุ่ยออกมาจากกางเกงกับเนคไทที่ถูกดึงลงมาเพราะกระดุมสองเม็ดบนนั้นไม่ได้ติดเอาไว้ ภาพลักษณ์ที่ดูอันตรายนั้นเข้ากับใบหน้าหล่อเหลาจนใครหลายๆคนก็คงพร้อมที่จะยอมเป็นแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ
ถึงแม้จะรู้ว่า ไฟร้อนนั้นจะแผดเผาจนไม่เหลือแม้แต่วิญญาณก็ตาม
“ นี่เธอ...บ้านอยู่แถวนี้รึยังไง” ร่างสูงถามออกไปเมื่อเห็นว่าเด็กสาวยังคงเดินตามมา
“ เปล่าหรอกจ้ะ...คือว่ากำลังจะไป....” ใบหน้าของเด็กสาวก้มลงอย่างเขินอาย นัยน์ตาสีดำเหลือบมองไปอย่างรู้ทัน....กำลังจะไปบ้านของเขาละสิ...แต่ว่าก็น่าจะรู้ไม่ใช่หรอ ว่าช่วงเวลาแบบนี้อิทาจิจะยังไม่กลับ
หรือว่าแมลงเม่ามันพร้อมจะบินเข้ากองไฟแล้ว...
“ หึ...”
ประตูบ้านถูกเปิดออก ภายในนั้นยังมืดสนิทตามคาด
“ อะ เอ่อ...รบกวนด้วยนะคะ” เสียงเด็กสาวเอ่ยบอกก่อนที่จะก้าวตามเข้ามาในบ้าน ถึงแม้ร่างสูงจะไม่ได้เชื้อเชิญแต่การที่เดินนำเข้าไปโดยไม่ขัดขวางอะไรก็เป็นการบอกกลายๆว่าให้เข้ามารอในบ้านได้
เด็กสาวเข้าไปนั่งรอที่โซฟาดั่งเคย ร่างสูงเดินหายเข้าไปเปิดไฟในบ้านก่อนจะกลับมาอีกทีพร้อมกับกระป๋องน้ำส้มอัดลม มือใหญ่วางมันลงไปที่โต๊ะหน้าโซฟาก่อนจะหันกลับไปสนใจทีวีโดยทิ้งเด็กสาวเอาไว้ข้างหลังเหมือนเดิม
“ ไม่คิดเลยนะ...ว่าจะได้มาคุยกับซาสึเกะคุงแบบนี้...” เด็กสาวเป็นฝ่ายเริ่มพูดคุยกับแผ่นหลังได้รูป
“ เหมือนฝันเลยละ....” ใบหน้าหล่อเหลาลอบยิ้มก่อนจะวางรีโมตในมือลง ร่างสูงลุกขึ้นแล้วเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กสาว
“ ซาสึเกะ...คุง?” ใบหน้าหล่อเหลายื่นเข้าไปใกล้ก่อนจะกางแขนยันโซฟาคร่อมร่างเล็กบางเอาไว้ นัยน์ตาสีดำน่าหลงใหลที่อยู่ใกล้ขนาดนี้ทำเอาเด็กสาวถึงกับทำตัวไม่ถูก ใบหน้าร้อนผ่าวราวกับจะละลายได้ทั้งตัวเมื่อถูกจ้องมอง
“ กับพี่น่ะ...ไปถึงขั้นไหนกันแล้ว” เสียงทุ้มนิ่งสนิทถามออกมายิ่งทำเอาคนในวงแขนประหม่าเข้าไปใหญ่
“ มะ หมายความว่า...?” เด็กสาวตอบตะกุกตะกัก เพราะใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“ แบบนี้น่ะ...เคยทำหรือเปล่า” ใบหน้าหล่อเหลาขยับเข้าไปใกล้จนลมหายใจแทบจะเป่ารดกัน ริมฝีปากเฉียดจะสัมผัสกับริมฝีปากของเด็กสาวก่อนที่จะละออกมาให้อีกฝ่ายตาค้าง
“ อะ เอ่อ...ถ้าหมายถึงจูบละก็...จะว่าเคยก็...ไม่เชิง เพราะรุ่นพี่ไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน....” เด็กสาวเอียงอายพยายามจะเสหน้าหนีสายตาคมกล้าที่จ้องมองมา คิ้วของร่างสูงขมวดติดกันเมื่อประโยคที่ได้ยินนั้นจบ....อิทาจิไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม งั้นก็หมายความว่าผู้หญิงคนนี้ชิงจูบไปจากพี่ชายของเขาสินะ
“ เอ๊ะ?!” ในใจมันนึกหงุดหงิดจนทำให้มือใหญ่จับปลายคางของเด็กสาวเอาไว้แล้วแนบริมฝีปากลงไปอย่างรวดเร็ว....เขาไม่ได้ต้องการอะไรนอกจากจะเอาจูบของพี่ชายคืนมาเท่านั้นเอง!
ริมฝีปากบดขยี้ลงไปอย่างเร่าร้อน ปลายลิ้นที่สอดเข้าไปดูเหมือนจะใช้กำลังบังคับแต่กลับเป็นเด็กสาวเองที่ยินยอม
และเมื่อละออกมาใบหน้าของเด็กสาวก็แดงเถือก ทั้งๆที่ใบหน้าหล่อเหลายังคงนิ่งสนิทเหมือนเดิม ร่างสูงทำท่าจะถอยห่างออกไปแต่มือของเด็กสาวก็คว้ากอดแขนแข็งแรงนั้นเอาไว้เสียก่อน
“ ซาสึเกะคุง!” เขามั่นใจว่าพี่ชายไม่มีทางจูบผู้หญิงคนนี้อย่างที่เธอต้องการได้ เพราะอิทาจิคงจะให้เกียรติเธอจนไม่ยอมแตะต้องจนกว่าจะทำถูกตามประเพณี และแบบนั้นมันจะน่าเบื่อ...สำหรับผู้หญิงบางคน
“ หรือว่า...หรือว่าที่ซาสึเกะคุงต่อต้านฉันในตอนแรก...เพราะ...เพราะไม่อยากให้ฉันคบกับรุ่นพี่ เพราะเธอคิดอะไรกับฉันอยู่หรือเปล่า...นี่...ช่วยบอกหน่อยสิ” ใบหน้าหล่อเหลาที่หันหลังให้ยิ้มเย็น
“ แล้วเธอคิดว่าไงล่ะ?” คำตอบกำกวมยิ่งชวนให้เด็กสาวคิดเข้าข้างตัวเอง
ร่างสูงหันกลับมาก่อนจะจ้องตาอีกฝ่ายด้วยสายตานิ่งสนิทแน่วแน่....สายตาที่ไม่เคยเกรงกลัวอะไรแบบนี้มีแต่ทำให้คนที่มองได้แต่เคลิบเคลิ้มตามไป
“ จะยอม....ตกนรกไปกับฉันไหม....” ใบหน้าคมก้มลงไปกระซิบที่ใบหูของเด็กสาวที่ยืนนิ่งค้างแข็งเป็นหินไปแล้ว
ริมฝีปากเรียวยิ้มรับไปกับใบหน้าแดงระเรื่อที่พยักลงช้าๆ
เท่านี้ก็...........
อุจิวะ อิทาจิก้มลงมองนาฬิกาข้อมือด้วยความเร่งรีบ มัวแต่เตรียมเอกสารการประชุมสำหรับงานโรงเรียนจนมืดขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย...นึกห่วงเจ้าเด็กเอาแต่ใจที่บ้าน ป่านนี้คงจะนอนท้องร้องรอเขากลับไปทำอะไรให้กินอยู่แน่ๆ
ร่างโปร่งถือถุงผักสดออกมาจากซุปเปอร์มาเก็ตก่อนจะหันซ้ายหันขวา ถึงแม้จะไม่อยากเดินเข้าไปนักแต่ทางข้างหน้ามันก็เป็นทางลัดที่จะทำให้เขากลับถึงบ้านเร็วขึ้น ขาจึงก้าวเข้าไปยังถนนคนกลางคืนซึ่งบัดนี้ต่างเปิดไฟนีออนเรียกลูกค้ากันครื้นเครง
ร่างโปร่งก้มหน้าก้มตารีบเดินผ่านไปให้เร็วที่สุด เพราะแบบนั้นจึงเดินชนไหล่ใครบางคนเข้า
“ ขอโทษครับ” เขาก้มหัวขอโทษอีกฝ่ายที่ดูจะไม่ใส่นัก ร่างของชายคนนั้นเดินจากไปนานแล้วแต่ทว่ากลับเป็นขาของเขาที่ไม่ยอมก้าวเดินไปจากที่เดิม
เพราะว่าสายตาในขณะที่เงยมองหน้าอีกฝ่าย มันดันเหลือบไปเห็นคนคู่หนึ่งซึ่งกำลังเดินเข้าไปในโรงแรมด้วยกัน และมันจะไม่ทำให้เขาชะงักค้างแบบนี้ได้ถ้าฝ่ายหญิงจะไม่ใช่..มากิ
ร่างทั้งร่างค้างนิ่งอยู่ตรงนั้นแต่ความรู้สึกมันกลับไม่ได้โกรธเกรี้ยวหรือเจ็บปวดอะไรที่คนที่ได้ชื่อว่าคนรักนอกใจ
“ เอ๊ะ...?” อะไรเย็นๆไหลลงมาจากหางตา และเมื่อยกมือขึ้นมาลูบถึงได้รู้ว่ามันคือ......น้ำตา
ทำไมกัน...ทั้งๆที่ไม่ได้เจ็บอะไร...แล้วทำไมน้ำตาถึงได้ไหลลงมา.....
มันไหลลงมา....ตั้งแต่ที่เขาเห็นว่าคนที่เดินเข้าไปกับมากิ
คือ ซาสึเกะ....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ทะ ทูบีคอน....= =….
ไม่ได้แต่งดราม่าหนักๆแบบนี้มานาน ปะ เป็นไงบ้างนะ ^ ^” ก็พักหลังๆมานี่แต่ง 8059 ซะส่วนใหญ่ แล้วมี๊ต้องยอมรับว่าไม่สามารถแต่งให้ยามะหรือก๊กหนีไปมีชู้ได้ 555 เพราะงั้นดราม่าของสองคนนั้นจึงค่อนข้างจะต่างออกไปหน่อยอ่ะนะ
ส่วน “จะรักตลอดไป” นี่ก็อย่าเพิ่งเกลียดพระเอกกันไปซะก่อนนะ คือมันเป็นพระเอกที่เกรียนสุดตั้งแต่ที่เคยแต่งมาแล้วค่ะ ฮ่าๆๆ แต่ก็ชอบซาสึเกะลุคหล่อเลวแบบนี้นะ ดูอันตรายน่าหลงใหลดีอ่า...
แล้วก็เมื่อวันก่อนไปเจอ Mad ตัวนึงที่ทำเอาประสาทจะกินกับฟิคเรื่องนี้ไปเลยค่ะ คือว่ามันหลอนมากกกกกกกกกกกกกกกกกก วนๆเวียนๆอยู่ในหัวจนไม่เป็นอันทำอะไรเลยอ่ะ(แต่ยังดูบอลได้เหมือนเดิม555) ว่างๆก็ตามไปดูกันได้นะคะ แปะลิ้งไว้ในเพลงแรงบันดาลใจแล้วค่ะ จิ้ม >> Music Inspiration : จะรักตลอดไป...
คือดู Mad ตัวนั้นกับอนิเมะช่วงนั้นแล้วก็ให้รู้สึกว่า....พี่อิทาจิขา ช่างบอบบางน่าทะนุถนอมอะไรแบบนี้ TT^TT โดยเฉพาะฉากที่กระอักเลือดอ่ะ โคตรอยากจะเข้าไปกอดเลยเว้ยค่ะ ทำไมถึงได้เป็นพี่ชายที่แสนดีขนาดนี้ค้า ฮือออออออ หลงใหลในความแสนดีของพี่นี่แหละค่ะ ฮึกๆๆ
แล้วเจอกันตอนหน้าน้า ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและถามถึงนะคะ ดีใจอ่า ไม่คิดว่าจะมีคนอ่านเรื่องนี้ด้วยแหะแหะ
โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก รักนี้ต้องร้ายยยยย เกะ! พอเป็นเรื่องพี่อิทาจินี่ ตรูเชื่อแล้วว่าไม่มีใครฉลาดและเก่งสู้เกะได้จริงๆ แต่ละอย่างที่มันคิดนี่ เห็นชัดเลยว่า ต้องการพี่อิทาจิขนาดไหนอ้ะ เอากันทีละประโยคเลยค่ะ
ตอบลบฉันจะทำให้นายเห็นเองว่าไม่มีใครรักนายจริง ไม่มีใครต้องการนายได้มากมายเท่าฉัน....
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก บินไปฟินแลนด์กับประโยคนี้ โฮกกกกกกก แพ้แล้ว แพ้แล้ว ไม่ว่าใครจะหมายปองพี่อิทาจิอยู่ แพ้ราบคาบแน่ๆ ความต้องการมันแรงกล้าอ่ะ พี่กวางบรรยายถึงแววตา น้ำเสียง ท่าทาง มันเหมือนตัวร้ายที่ให้นิยามว่า ไม่ว่าชั้นอยากได้อะไร ชั้นต้องได้ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ต้องเอาด้วยกล ไม่เอาด้วยมนต์ก็เอาด้วยคาถา อะไรแนวนั้นเลยค่ะ ชอบบบบบบ >///<
ต่อมาก็ไข่ดาว โฮกกกกกกกกกกกกกก ไอ้ตอนลวนลามทางสายตานั่น มันต้องเหมือนสายตาโต้ที่มองพี่อิทาจิตอนนี้เช่นกัน ฮว้ากกกกกกกกกกก น่ากดอ้ะ จริงๆนะ แบบ ดูบอบบางน่าทะนุถนอมมาก ความจริงเห็นด้วยกับพี่กวางเลยค่ะว่า ในออริพี่อิทาจิแกเป็นคนดูบอบบาง แล้วก็เก็บความรู้สึกนะ คิดมาตลอดตอนที่อ่านว่า ถึงจะเก่งขนาดนี้ แต่ว่ามันอยากให้มีคนมาปกป้องบ้างอะไรบ้าง เพราะตัวคนเดียวมาโดยตลอดอ่ะ แล้วยังต้องถูกกดดันสารพัด โฮกกกกกกกกกกกกกก (นอกเรื่องแล้วเอ็ง)
แผนนี้...แผนทำให้แฟนเขาแตกคอเขาคราวนี้ ต้องยอมรับว่าทั้งเหี้ยมทั้งโหดเลยเกะ
จะโกรธจะเกลียดแค่ไหนกันถ้ารู้ว่า…
ผู้เป็นน้องชายตั้งใจจะทำลายความรักของตน...ไม่ว่าจะกี่ครั้งกี่หนก็ตาม
ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ชอบประโยคนี้อ่ะ มันดูเรียบเรียงแล้วรู้สึกถึงว่าเกะมันไม่ได้ทำแบบนี้มาเพียงครั้งเดียว แต่มันยังมั่นคงที่จะรักพี่ชายแล้วกำจัดทุกเสี้ยนหนามหัวใจเลยค่ะ ส่วนมากินี่ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าจะหลงเกะแทนพี่อิทาจิหรือเปล่า เจ้าตัวหว่านเสน่ห์หล่อเลว เท่โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ให้ดูขนาดนั้น
ส่วนพี่อิทาจิ...แอบรู้สึกแล้วสินะ...รู้สึกแล้วสินะคะพี่ว่าแอบหวั่นไหวให้น้องชายเหมือนกัน
ดราม่ากำลังสนุกเลยค่ะพี่กวาง ^____^bนี่ขนาดไม่ได้แต่งนานนะเนี่ย ถ้าเป็นหนูก๊กกับยามะนี่ ทางนี้ก็ไม่กล้าแต่งให้อีกฝ่ายมีชู้เหมือนกันค่ะฮ่าๆ
รอตอนต่อไป ^^