Naruto Au S.Fic [Sasuke x Itachi] จะรักตลอดไป... : 02


Naruto Au S.Fic [Sasuke x Itachi]    จะรักตลอดไป... : 02

: Naruto Fanfiction Au
: Sasuke x Itachi
: Drama Incest (แหงแซะ)
: NC-17 เพราะมัน Incest และซาสึมันเกรียน!!

คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ




ลูกชายคนโตของบ้านอุจิวะเดินหอบเอกสารสำหรับกรรมการนักเรียนไปตามทางเดินหน้าห้องเรียน ถึงแม้ว่ารอบกายจะมีแต่เสียงโหวกเหวกโวยวายของเหล่านักเรียนในช่วงเวลาพัก แต่ร่างโปร่งกลับไม่ได้สนใจมัน เพราะตอนนี้ในสมองมีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่ครุ่นคิดอยู่

จะทำยังไงให้น้องชายเพียงคนเดียวมีชีวิตที่เป็น “ปกติ”

ซาสึเกะไม่เคยสนใจใครหรือผู้หญิงคนไหน เพราะฉะนั้นคงจะเป็นเรื่องยากถ้าหากจะให้เจ้าตัวหันไปหาคนอื่นด้วยตัวเอง

“ รุ่นพี่คะ...”       เสียงเรียกไม่ได้ทำให้คนที่กำลังครุ่นคิดหยุดเดิน จนกระทั่งมีแรงฉุดรั้งเล็กๆดึงชายเสื้อเอาไว้ ใบหน้าเรียวจึงหันกลับไปมองด้วยความสงสัย

“ คือ....ขอเวลาสักครู่ได้ไหมคะ?”       ถ้าจำไม่ผิด เด็กคนนี้อยู่ห้องเดียวกับน้องชายของเขาไม่ใช่หรอ? มีธุระอะไรกัน?  เขาพยักหน้าให้แล้วเดินตามไปแต่โดยดี

เด็กสาวเดินนำไปยังด้านหลังอาคารเรียนซึ่งแทบจะไม่มีใครเดินผ่าน สถานการณ์แบบนี้ทำให้ร่างโปร่งพอจะเดาได้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น...เพราะเขาเองก็เจอเรื่องแบบนี้มาไม่ใช่น้อย

“ รุ่นพี่อิทาจิ...ช่วยรับจดหมายนี้ไว้หน่อยนะคะ!”     จู่ๆเด็กสาวก็หันมาแล้วก้มหน้าก้มตายื่นซองจดหมายสีชมพูอ่อนๆมาให้ ใบหน้าน่ารักนั่นแดงระเรื่อ

“ จดหมายรัก?”       ร่างโปร่งถามออกไป นัยน์ตาคู่สวยยังคงนิ่งสนิทไม่ได้มีแววตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

“ อะ เอ่อ...ค่ะ!”      เด็กสาวตอบตะกุกตะกักก่อนจะตัดสินใจรับออกมาด้วยเสียงดังพรางก้มหน้าลงไปมากกว่าเดิม...เด็กคนนี้....ไม่ได้ชอบน้องชายของเขาอยู่หรอกหรอ?

ร่างโปร่งดันจดหมายในมือเล็กกลับไป......

เด็กสาวมีท่าทีราวกับจะร้องไห้เพราะจดหมายที่ถูกดันกลับก็เท่ากับว่าถูกปฏิเสธ แต่แล้วใบหน้าหมองๆนั้นก็ต้องชะงักค้างเมื่อร่างโปร่งพูดออกไปด้วยถ้อยคำที่ชัดเจนว่า

“ จะลอง...คบกับฉันดูไหมล่ะ?”      


ถ้าหากว่าซาสึเกะไม่ยอมรักใคร...ก็แค่ทำให้ยอมตัดใจไปจากเขาก็เท่านั้น...






ในบ้านมีแสงไฟส่องสว่าง แปลว่าอีกคนนั้นกลับมาแล้ว....ร่างโปร่งเปิดประตูเข้าไปก่อนจะเอ่ยประโยคทักทาย

“ กลับมาแล้วครับ...ซาสึเกะ...อยู่หรือเปล่า?”       ผู้เป็นพี่ชายยังคงยืนอยู่ตรงบริเวณที่ถอดรองเท้า

“ กลับมาแล้วหรอ”      น้องชายเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น มือข้างหนึ่งเท้าขอบประตูเอาไว้ส่วนอีกข้างยังคงถือขวดน้ำเกลือแร่กระดกเข้าปาก ใบหน้าหล่อเหลาจากที่ดูสบายๆกลับนิ่งสนิทเมื่อมองเห็นใครอีกคนหลบอยู่ข้างหลังผู้เป็นพี่ชาย

“ นายคงรู้จักอยู่แล้วละ....มากิ....จากนี้ไปเธอจะเป็นแฟนของฉัน”       และแค่พี่ชายแนะนำจบเท่านั้น....



เพล้ง!!!


ขวดน้ำเกลือแร่ที่อยู่ในมือก็ลอยเฉียดใบหน้าของเด็กสาวไปกระทบกับประตูที่อยู่ข้างหลังก่อนจะแตกกระจาย ให้เด็กสาวถึงกับสะดุ้งเฮือก ส่วนผู้เป็นพี่ชายได้แต่ขยับตัวขวางเอาไว้ด้วยนัยน์ตาที่เบิกกว้าง

เขาไม่คิดว่า ซาสึเกะจะมีปฏิกิริยาต่อต้านมากขนาดนี้

ผู้เป็นน้องชายยืนมองมาด้วยสายตาขุ่นมัว ใบหน้าหล่อเหลานิ่งเฉยก็จริงแต่มันกลับดูเย็นชาจนน่าขนลุก เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครเข้ามาแทรกกลางระหว่างเรา แล้วเป็นแบบนี้จะให้ยอมรับได้ยังไง ร่างของน้องชายเดินตรงเข้าไปหาพี่ชาย ก่อนจะพูดออกไปด้วยเสียงต่ำ

“ ฉันไม่มีวันยอมรับแน่”      

“ ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นความสุขของฉันน่ะหรอ?”      และสิ่งที่พี่ชายตอบกลับมาก็ทำเอาใบหน้าหล่อเหลานิ่งค้าง นัยน์ตาสีดำเบิกกว้างก่อนจะหันไปมองหน้าพี่ชายช้าๆ มือได้แต่กำแน่นก่อนจะสะบัดหน้าหนีแล้วก้าวขาวิ่งออกจากบ้านไปโดยไม่สนใจว่าไหล่จะไปชนกับเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงนั้นเข้า

“ เป็นอะไรไหม?”      ร่างโปร่งหันไปถามเด็กสาว

“ ไม่เป็นไรค่ะ...แต่ว่าซาสึเกะคุง....”       อิทาจิส่ายหน้าช้าๆให้เด็กสาวคลายกังวล

“ เข้ามาในบ้านก่อนเถอะ ตรงนั้นเดี๋ยวฉันเก็บเอง”      เขาหันไปเรียกเมื่อเห็นว่ามากิยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ร่างเล็กๆนั่นดูสั่นน้อยๆ

“ ใครๆก็บอกว่าซาสึเกะคุงน่ากลัว...แต่ฉันเพิ่งจะเจอกับตัว...เมื่อกี้นี้เอง”      เด็กสาวอาจจะยังไม่หายช็อกกับสิ่งที่ซาสึเกะทำ และคงจะไม่ได้ตั้งตัวว่าจะต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ ใบหน้าเล็กยังดูสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูกด้วยไม่รู้ว่าที่ซาสึเกะทำลงไปนั่นมันเป็นเพราะอะไร....เพราะไม่มีใครรู้ว่าน้องชายติดพี่อย่างเขามากแค่ไหน

อยู่ข้างนอกเราแทบจะไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน....นักเรียนดีเด่นอย่างเขากับเด็กมีปัญหาอย่างซาสึเกะ

ร่างโปร่งได้แต่ยืนเหม่อมองประตู....คนที่วิ่งหายออกไป....ถ้าไม่ไปพาลมีเรื่องกับใครไปทั่วก็คงจะดีหรอก....






....ความสุขของนายงั้นหรอ....

ปึ้ง!!

กำปั้นต่อยลงไปบนกำแพงจนเห็นเป็นรอยร้าว ใบหน้าหล่อเหลากำลังระงับอารมณ์ที่มันครุกรุ่นอยู่ในใจ ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวที่ชิงช้าในสวนสาธารณะว่างเปล่าไร้ผู้คน แน่นอนว่าใครเห็นเขาอยู่ที่นี่ก็มีแต่จะเดินหนีไปให้ไกล ด้วยรังสีอำมหิตผิดปกติที่แผ่ออกไปรอบกาย

เขาควรจะยอมรับให้ได้อย่างงั้นใช่ไหม?

คำตอบคือ....ไม่

ไม่ว่ายังไงก็ทำไม่ได้

เขาไม่คิดว่าจะยอมมอบพี่ชายให้ใครมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยคิด...ว่าสักวันหนึ่งอิทาจิเองก็จะต้องมีแฟน มีครอบครัวเหมือนคนปกติทั่วไป

“ โธ่เว้ย!!!”      ตะโกนออกไปก่อนจะกลับมากำหมัดแน่นเหมือนเดิม

ความสุขของนายงั้นหรอ....ฉันจะพิสูจน์ให้เห็นเองว่าไม่มีใครที่ทำให้นายมีความสุขได้นอกจากฉัน!







มากิเดินอยู่ข้างๆด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ในมือของอุจิวะ อิทาจิ มีกล่องข้าวกลางวันอยู่สองกล่อง เด็กสาวมาชวนเขาออกไปนั่งกินข้าวด้วยกัน และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาควรจะปฏิเสธในเมื่อเราเป็นแฟนกัน

เขาเดินไปนั่งลงที่ใต้ต้นซากุระที่บัดนี้มีแต่ใบเขียวขจีเพราะดอกสีชมพูร่วงโรยไปจนหมด

มือตักข้าวเข้าปากอย่างที่ไม่ได้ตั้งใจฟังเด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างๆพูดอะไรไปเรื่อยนัก เพราะสมาธิของเขามันอยู่ที่ดาดฟ้าของอาคารเรียนข้างๆนี่ต่างหาก

ถึงท่าทางของเขาจะทำเป็นไม่สนใจ แต่เขาก็รับรู้ได้ว่ามีใครอีกคนยืนมองอยู่บนนั้น

มือของซาสึเกะที่เกาะลวดตาข่ายอยู่นั่นกำแน่นจนเขานึกเป็นห่วง

แต่เขาต้องทำ....

เจ็บเพียงแค่นี้ ยังดีกว่าให้ทุกอย่างมันดำเนินต่อไปในทางที่ผิด...แค่ซาสึเกะเท่านั้น....ที่เขาจะไม่มีวันดึงลงมาร่วมชะตากรรมที่ผิดบาปด้วยกัน





ในระหว่างที่เดินกลับเข้าไปยังอาคารเรียน...ถึงแม้ท้องจะร้องประท้วงว่าให้ไปหาอะไรกิน อุจิวะ ซาสึเกะ ก็ยังคงเดินต่อไปด้วยใบหน้าที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากำลังอารมณ์ไม่ดี คนที่เดินสวนมาตามทางเดินต่างหลบลี้หนีหน้า ไม่ว่าใบหน้าหล่อเหลาจะหันไปเห็นอะไรก็ทำให้หงุดหงิดไปเสียหมด

สิ่งที่เห็นเมื่อตอนอยู่บนดาดฟ้า ถ้าหากว่ามันเป็นแค่ภาพถ่ายเขาคงจะขยี้ให้แหลกคามือ

เท้าก้าวไปเรื่อยๆ....พี่ชายของเขาจะต้องเดินกลับมาทางนี้แน่...

และในที่สุดเงาร่างที่คุ้นเคยของผู้เป็นพี่ชายก็เข้ามาอยู่ในสายตา ข้างๆกายมีหญิงสาวเดินหัวเราะด้วยท่าทางมีความสุข ยิ่งเห็นเขาก็ยิ่งหงุดหงิด

ผู้เป็นน้องชายเดินตรงเข้าไปอย่างที่ไม่คิดจะหลบหน้า นัยน์ตาสีดำคมกริบจ้องไปยังหญิงสาวอย่างไม่มีปิดบัง

“ ซะ ซาสึเกะคุง?”       ทั้งพี่ชายทั้งมากิต่างมองมาที่เขาด้วยความสงสัยว่าเขาจะทำอะไร ใบหน้าของหญิงสาวมีแววหวาดกลัวนิดๆ

“ ........”       เขามองหน้าผู้หญิงคนนั้นด้วยสายตานิ่งสนิท มือคว้าไปที่กล่องข้าวโดยที่ตัวเองก็ไม่ทันจะได้คิดก่อนจะออกแรงเหวี่ยงมันออกไปจนคนที่ถืออยู่เซถลาล้มลงไปกระแทกพื้น

“ ซาสึเกะ!!”     เป็นเสียงของพี่ชายที่ตะโกนเรียกอย่างตกใจ มือที่เคยทำแผลให้น้องชายอย่างอ่อนโยนเข้ามาขวางห้ามคนที่ทำท่าจะเข้าไปซ้ำเอาไว้

“ จะทำอะไรของนายน่ะซาสึเกะ!!”       เสียงตวาดมาพร้อมกับแรงผลักจนน้องชายถึงกับเซถอยหลังไปชนกับกำแพงก่อนจะยืนนิ่งก้มหน้าอยู่ตรงนั้น นัยน์ตาสีดำเบิกขึ้นน้อยๆเพราะพี่ชายไม่เคยตวาดเขาแบบนี้ ยิ่งเรื่องผลักหรือใช้กำลังด้วยนี่ยิ่งไม่เคยมี

“ มากิ เป็นอะไรหรือเปล่า?”      น้ำเสียงอ่อนโยนกลับไปถามผู้หญิงคนนั้น ใบหน้าของน้องชายเงยขึ้นมองภาพที่ไม่อยากเห็น เมื่อพี่ชายให้ความสำคัญกับผู้หญิงคนนั้นมากกว่าตน มือที่เคยลูบหัวเขา มือที่เป็นของเขา กลับตรงเข้าไปประคองผู้หญิงคนนั้น

สันกรามได้แต่กัดฟันกรอด...มือกำแน่นด้วยความไม่พอใจ....และคนอย่าง อุจิวะ ซาสึเกะ ก็ไม่เคยห้ามตัวเองได้

ผู้เป็นน้องชายตรงเข้าไปหมายจะแยกทั้งสองคนออกจากกัน แต่มือของพี่ชายก็ไวกว่าด้วยคว้าแขนของน้องชายเอาไว้แล้วใช้แรงลากออกมา

“ มากิ! กลับห้องเรียนไปก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องคุยกับซาสึเกะ”



มือที่จับแขนน้องชายแน่นคลายออกอีกทีเมื่อทั้งคู่มาอยู่ที่ดาดฟ้าอีกครั้ง

“ รู้ตัวหรือเปล่าว่าทำอะไรลงไป...ซาสึเกะ”    

“ ...........”        น้องชายยังคงก้มหน้านิ่งโดยไม่ยอมตอบอะไร

“ มากิไปทำอะไรให้นายถึงต้องทำร้ายเค้า เค้าไม่ได้หาเรื่องนายก่อน...ถ้านายจะไปทะเลาะวิวาทกับคนที่มีกำลังเท่ากันฉันจะไม่ว่าเลย...ฉันไม่คิดจริงๆว่านายจะทำร้ายผู้หญิงได้”     น้ำเสียงอ่อนโยนนั้นเจือแววผิดหวัง และมันยิ่งทำให้คนที่ยังครุกรุ่นอยู่พร้อมที่จะไม่รับฟังอะไรทั้งนั้น

“ ฉันทำร้ายได้หมดแหละ ไม่ว่าจะผู้หญิง ผู้ชาย เด็กหรือผู้ใหญ่....ขอแค่มันจะเข้ามาแย่งนายไปจากชั้น!”      ใบหน้าหล่อเหลาของน้องชายเงยขึ้นมาตะโกนใส่หน้า ทำเอาพี่ชายได้แต่อึ้งไป

“ .....ถ้านายไม่อยากให้ชั้นทำร้ายใคร ก็เลิกกันซะ!”     สองมือของน้องชายจับมาที่คอเสื้อของพี่ชาย ถึงแม้ว่าใบหน้าเรียวจะไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมแต่ภายในใจกำลังเจ็บปวด

ซาสึเกะ ทำตัวเหมือนเด็กหวงของ นั่นก็เพราะว่ายังไม่รู้ถึงความหมายของการกระทำเหล่านี้

และพี่ชายอย่างเขา คงจะปล่อยไปไม่ได้

เพราะการรู้ตัวว่ารักใครสักคนนั้นมันยากที่จะถอนตัว....ความรู้สึกนี้เขารู้จักมันดี


“ มีเหตุผลหน่อยสิ ซาสึเกะ....นายจะยึดติดกับฉันต่อไปไม่ได้แล้วนะ....นายต้องมีชีวิตของตัวเอง...เหมือนกับที่ฉัน....ก็ต้องมีชีวิตของฉันเองเช่นกัน”      พี่ชายพยายามเกลี่ยกล่อมด้วยน้ำเย็นเข้าลูบ แต่ไฟร้อนมีหรือจะมอดดับลงง่ายๆ

“ แปลว่าไม่ว่ายังไงนายก็จะเลือกผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม”      และเมื่อพี่ชายพยักหน้าลงด้วยความหนักแน่น นัยน์ตาคมกริบสีดำสนิทก็ถมึงทึงด้วยแววอาฆาต สองมือปล่อยคอเสื้อพี่ชายก่อนที่จะตวัดตัวตั้งใจจะเดินกลับเข้าไปในอาคาร

“ จะไปไหนซาสึเกะ?!”      แววตาที่น่ากลัวแบบนั้นมันไม่ได้หมายถึงว่าเข้าใจสิ่งที่พี่ชายพยายามจะสื่อสารเลยสักนิด

“ ...........”      น้องชายไม่ตอบอะไรกลับมาแต่ยังคงเดินหน้าต่อไปด้วยไออำมหิต

“ ซาสึเกะ!!”      ต่อให้เรียกยังไงน้องชายก็ยังไม่ยอมหยุด ลางสังหรณ์ของเขาบอกว่าถ้าไม่หยุดเอาไว้ ผู้เป็นน้องชายจะต้องทำเรื่องเลวร้ายแน่ๆ

“ ถ้านายทำร้ายมากิ ฉันจะไม่ถือว่านายเป็นน้องชายอีก!!”       ทันทีที่คำคำนี้ลอยเข้ามาในหูของผู้เป็นน้องชาย ร่างที่กำลังเดินก็หยุดชะงักค้างทันที

หัวใจที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นเต้นสะดุดเพราะความเจ็บแปลบที่แทรกเข้ามาจนร่างกายด้านชา เพราะคิดมาตลอดว่าตัวเองสำคัญที่สุดสำหรับพี่ชาย....แต่ถ้อยคำตัดความสัมพันธ์ที่ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้ยินก็เล่นเอาตัวชา สองมือสั่นระริกด้วยความกลัว ใบหน้าหล่อเหลาหันไปหาพี่ชายด้วยแววตาที่ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความแข็งกร้าวเพราะบัดนี้มันมีแต่ความอ่อนแอ

“ อิทาจิ....ทำไมล่ะ...ทำไม...นายถึงได้เห็นผู้หญิงคนนั้นสำคัญกว่าชั้น...”       ความโกรธเกรี้ยวหายไปเหลือเอาไว้แต่น้องชายขี้อ้อนที่กำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

“ ก็เพราะนายสำคัญต่อฉัน...ฉันถึงต้องทำแบบนั้นยังไงล่ะ”       มือของพี่ชายเอื้อมไปจับข้อมือน้องชายเอาไว้ พยายามซุกซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ในใจให้หมด

ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมาซบที่หัวไหล่ของพี่ชายอย่างหมดแรง ถึงจะไม่พอใจที่ใครจะมาแย่งพี่ชายไป...แต่ถ้าหากว่าต้องถูกตัดความสัมพันธ์....ถูกอิทาจิเกลียด....ก็คงไม่ไหวเหมือนกัน

“ บอกฉันอีกทีสิ...ว่านายรักผู้หญิงคนนั้น”      ใบหน้าเซื่องซึมเงยขึ้นมาถามด้วยแววตาเว้าวอน ความสั่นพร่าในดวงตาสีดำพยายามให้อีกฝ่ายบอกปฏิเสธ

“ ใช่...ฉันรักมากิ”      แต่แล้วพี่ชายก็ทำลายความหวังนั้นลงไป ร่างกายละออกมาจากร่างของพี่ชายอย่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรง

“ เข้าใจแล้ว....”      น้องชายเดินโซเซหายเข้าไปในตัวอาคาร เมื่อลับสายตาใบหน้าที่พยายามปั้นให้นิ่งที่สุดกลับมีแต่ความเจ็บปวด


ร่างโปร่งทรุดลงกับพื้นก่อนที่น้ำตาจะไหลลงมาช้าๆ


“ ขอโทษนะ....ซาสึเกะ...”


.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

ทะ ทูบีคอน....= =….




เฮ้ย! ทำไมแต่ละตอนมันสั้นเยี่ยงนี้!!

ก็แบบว่า แต่งไปลงไปอ่ะ กะว่ายังไงก็ต้องเอาให้จบให้ได้ ไม่งั้นไหจะถล่มทับเอาได้ ฮะฮะฮะ

ขอบคุณเม้นต์จากน้องมิยะด้วยนะค้า m(_ _)m อ่านแล้วมีไฟอยากปั่นตอนต่อไปมากๆ555 นั่นดิ ตอนอ่านมังงะข้าพเจ้าก็.....อุเหม่...ซาสึเกะลูกแม่นี่เวลาอยู่กับพี่ชายนี่ไม่เหมือนกับตอนที่อยู่กับคนอื่นเลยนะ ทั้งๆที่เวลาอยู่กับคนอื่นมันจะดูนิ่งๆหยิ่งๆ ดูเย็นชา ไม่เห็นหัวใครไม่ฟังใคร เกรียนออกปานนั้น แต่เวลาอยู่กับพี่ชายนี่กลายเป็นเด็กติดพี่ขึ้นมาเลย อย่างที่น้องมิยะว่าแหละ ทั้งเอาแต่ใจ ดื้อ โวยวาย ใจร้อน มี๊ว่ามันอ้อนพี่มันนิดๆด้วยนะ >w< คือนอกจากอิทาจิแล้วคงไม่มีใครได้เห็นเกะในลุคนี้แน่ๆอ่ะ (แต่ในอนาคตไอ่โตะน่าจะได้เห็นนะ555) นั่นดิ๊!! กลัวใจเกะมันจริงๆ ว่าถ้าไม่มีคุณพี่ขาแล้วใครจะเอามันอยู่ ไอ้เรื่องที่ว่าจะกลับใจเลิกเกรียนนี่น่าจะยากอยู่แหละนะ เพราะเส้นทางข้างหน้าดูยังไงก็ต้องสู้กับโตะแน่อ่ะ อยู่ที่ว่าจะสู้กันด้วยใจแบบไหน เกะจะมีแผนอะไรไหม....แต่ว่าก็ว่าเถอะ ยิ่งรู้ว่าพี่รัก ยิ่งรู้ว่าพี่แสนดีขนาดนี้ เป็นตรูก็ยิ่งแค้นหมู่บ้านฟ๊ะ ที่มันมาพรากพี่ที่รักของตรูไปอ่ะ ฮือออออออออออออออ....ฝึกคาถาสัมพเวสีคืนชีพเหอะเกะ TT^TT

แล้วเจอกันตอนหน้าก๊ะ

ปล.เมื่อวันก่อนคุณอิจิกับคุณอิโนะอัพบลอคพร้อมๆกัน แล้วก็ถ่ายรูปหมู่งานที่เค้าแสดงอยู่มาด้วยอ่ะ เหมือนจะแสดงอะไรด้วยกันเลย อร๊ายยยยย คุณอิจิใส่ชุดซามูไรของถนัด ส่วนคุณอิโนะนี่แปลงโฉมซะจำไม่ได้กลายเป็นนางฟ้า(?)หัวสีชมพู น่าร้ากกกก ตามไปดูได้ในบลอคเจ้าตัวโล้ด 555


2 ความคิดเห็น:

  1. เอาแล้วสิ!! ปิดทองหลังพระอีกแล้วสิ พี่อิทาจิขาาา โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    เข้าใจอารมณ์เลยอ่ะ มันทั้งเจ็บปวดและกดดัน แต่ทำยังไงได้ ยังไงก็ต้องให้น้องชายตัดใจจากตัวเองอ้ะ โอยยยยยยยยยย ซาบซึ้งกับความเป็นพี่ของพี่ชายคนนี้ไม่ไหวแล้ว เอ็มตัวพ่อจริงๆ (เห้ย!) สังเกตมานานแล้วว่า คนที่จะอยู่กับเกะได้นี่มันต้องเอ็มจัดๆ จริงๆอ่ะ (ฮาาา) โตะเงี้ย พี่อิทาจิเงี้ย ไม่งั้นเอาไอ้คนหัวดื้อนี่ไม่อยู่แน่นอน

    ตอนที่พี่อิทาจิตัดสินใจคบกับมากินี่ รู้สึกเย็นสันหลังวาบเลยค่ะ ... มันเอาแน่ๆแหละ เกะน่ะ มันไม่ยอมแน่ๆแหละ หวงจะตายไอ้หมอนั่น กลัวจริงๆว่ามันอาจจะไปลอบฆ่ามากิอะไรอย่างนี้ (โหดไปแล้วเอ็ง) แต่แค่ขว้างขวดเกลือแร่เฉียดหน้านั่น โฮกกกกกกกกกกกกกกก เป็นโต้จะขอเลิกกับพี่อิทาจิตรงนั้นแล้วอ่ะ น่ากลัวจิ๊บเป๋งเลยเกะ TT[]TT


    ความสุขของนายงั้นหรอ....ฉันจะพิสูจน์ให้เห็นเองว่าไม่มีใครที่ทำให้นายมีความสุขได้นอกจากฉัน!


    โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ตบมือปานลิงตีฉาบบบบบ ประโยคนี้นี่แบบ...อร๊ายยยยยยย ดูดาร์กมากมาย...คึคึคึ

    แต่ตอนสุดท้ายนี่ก็เจ็บได้อีก ยังเป็นพี่ที่มีแต่ให้ ทำทุกอย่างเพื่อน้องชาย เพื่ออนาคตของน้อง โดยไม่สนใจเลยว่าตัวเองหรือน้องจะเจ็บตอนนี้อย่างไร แต่คือภายภาคหน้ามันต้องดีกับตัวเกะแน่นอน โอยยยยยยยยยยยย แกก็รีบเข้าใจพี่ชายของแกหน่อยสิฟะ แต่ทำไงได้ คนมันรักนี่เนอะ

    ปาดน้ำตา...ฉากสุดท้ายทีนั่งลงแล้วน้ำตาไหลนั่น มันกระตุ้นต่อมของมิยะ...กดทั้งน้ำตามากเลยค่ะ (เห้ย!) โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกก น้ำตาพี่อิทาจิ เกะ! แกมันถนัดทำให้คนที่รักมีน้ำตามากเลยนะ ย้อนไปในมังงะ โตะเสียน้ำตาเพราะแกมามากเท่าไหร่แล้ว แกรู้ม้ายยยยยยยยย แล้วตอนนั้นๆ ตอนที่มีข่าวมาบอกว่าเกะจะตายอ่ะ แล้วพี่อิทาจิยืนอยู่กลางสายฝนแล้วคิซาเมะมาทักว่า มายืนตากฝนแบบนี้ เหมือนจะร้องไห้เลยนะครับ เนี่ย โฮยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย มิยะจะบ้า

    รอ...ตอนต่อไปค่ะ เอิ๊กๆ

    ตอบลบ
  2. ...การรู้ตัวว่ารักใครสักคนนั้นมันยากที่จะถอนตัว

    โคตรชอบประโยคนี้เลยค่ะ

    โดนมากจริงๆ

    เข้าใจความรู้สึกอิทาจิเลย ว่าเจ็บแค่ไหน
    แต่ก็ต้องทำ

    อิทาจิรักน้องชายคนนี้มากจริงๆ


    รู้สึกไม่ได้อ่านสปอยล์นานมากแล้ว แต่อ่านถึงตอนที่เกะรู้ความจริงทั้งหมดนี่ ...บอกตรงๆ ว่าเชียร์เกะให้ทำลายหมู่บ้านเหมือนกัน

    รอตอนต่อไปค่าา

    ตอบลบ