KHR Au.Fic [692718 8059] หิมะ...หยดน้ำ...ความรัก...... : 11


 KHR Au.Fic [692718  8059]  ……Yuki  Shizuku  Aishiteru…. : 11

: KHR Au Fanfiction
: 692718  8059 
: Romance Drama Incest
: PG


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ

 





.
.
.
.
.
.






เสียง จิ๊บๆ จิ๊บๆ ของนกน้อยที่ออกหากินยามเช้าทำให้มือเล็กยกขึ้นขยี้ตา ท้องฟ้ายังไม่ทันจะสว่างดีแต่ร่างที่นอนอยู่บนฟูกหนาก็ลุกขึ้นอย่างช้าๆด้วยอาการงัวเงีย เงาตะคุ่มๆของใครบางคนกำลังย่องผ่านหน้าห้องไปให้เกิดความสงสัย ว่าใครกันมาเดินที่ระเบียงในตำหนักของเขาตั้งแต่เช้าแบบนี้


ครืด....


ประตูเลื่อนถูกเปิดออกอย่างรวดเร็วโดยฝีมือของเจ้าของตำหนัก ทำให้คนที่เดินอยู่บนระเบียงทางเดินถึงกับสะดุ้งโหยง


“ อ้าว...โกคุเดระคุงนี่เอง...ไปไหนมาแต่เช้าล่ะ?”         แต่ดูจากสภาพชุดที่สวมใส่แล้วดูเหมือนจะไม่ใช่นะ เพราะว่าโกคุเดระยังอยู่ในชุดกิโมโนแบบ ชาวบ้านๆที่พวกเขาใช้ปลอมตัวออกไปงานเทศกาลเมื่อคืนอยู่เลย...หรือว่าจะ...


“ เอ๋?...นี่เพิ่งกลับมาอย่างนั้นหรอ? ไหนท่านพี่บอกว่าเพลิงใกล้จะมอดแล้วไง?”       เจ้านายตัวน้อยถามออกไปด้วยความใสซื่อ โดยไม่ได้รู้ตัวเล้ยว่าจะไปจี้ใจดำทำให้อีกคนถึงกับหน้าแดงเถือก


“ มะ ไม่ คะคือว่า...ความจริง....”        เจ้าของใบหน้าสวยเอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกัก ในใจนึกอยากจะซัดไอ้บ้ายามาโมโตะนั่นให้หายไปจากโลกนี้จริงๆ....


“ ความจริง?”     


“ เอ่อคือ...ไฟมันดับไปตั้งแต่ที่ท่านกลับมาแล้วนั่นแหละ...พอดีว่าข้าเหนื่อยแล้วก็หลับไป...ฮะฮะ ว่าแต่ท่านตื่นแล้วงั้นหรอ? งั้นไปอาบน้ำกันดีกว่านะ”      ร่างบอบบางพยายามกลบเกลื่อนสุดชีวิต...ก็จะให้บอกได้ไงล่ะว่าไปเผลอหลับอยู่ที่ไหน แค่คิดใบหน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้


ถ้าเจอเจ้าบ้านั่นอีกเมื่อไหร่จะอัดให้น่วมเลยคอยดู...มีอย่างที่ไหน...ปล่อยให้เขาหลับไปยังพอว่า แต่ดันพาเขากลับไปตำหนักตัวเองแล้วปล่อยให้เขานอนซุกอยู่กับแผงอกอุ่นๆนั่น แล้วพอตื่นขึ้นมาก็ดันบอกว่า..... “อ้า...สงสัยว่าข้าจะพาเจ้ามาผิดตำหนักน่ะ ฮะฮะ คนเรามันก็หลงทางกันได้เนอะ”.....หลงบ้านพ่อมันน่ะสิ!!


มันน่าฆ่าให้ตายนัก....


“ เจ้าไม่เป็นไรแน่นะ? เห็นหน้าเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวแดง?”       ใบหน้าน่ารักของผู้เป็นนายชะโงกหน้ามามองคนสนิทที่กำลังเตรียมเสื้อผ้า


“ มะ ไม่เป็นไร...จริงๆ”       ร่างบอบบางหันมาแสยะยิ้มให้ อีกคนจึงได้แต่ยิ้มแห้งๆกลับไป....สงสัยจะมีอะไรกับยามาโมโตะแหงเลย...เอาเถอะ ก็น่ารักกันดี


“ เอ่อโกคุเดระคุง...วันนี้ช่วยเตรียมชุดสำหรับเข้าเฝ้าท่านพ่อก็แล้วกันนะ”      องค์ชายเล็กสั่งอย่างที่เพิ่งจะนึกขึ้นมาได้


“ เอ๋...จะไปหาองค์จักรพรรดิอย่างนั้นหรอ?”       ความจริงเสื้อผ้าก็แทบจะไม่ได้แตกต่างจากตอนอยู่ตำหนักนี่หรอก มีเพียงฮาโอริที่ต้องเป็นทางการกว่าปกติเท่านั้น


“ ใช่...จากเรื่องเมื่อคืน...ข้าตัดสินใจแล้วว่าคงต้องขอให้ท่านพ่ออนุญาตเรื่องๆหนึ่ง”       นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้กลมโตฉายซึ่งแววแห่งความมุ่งมั่น คนสนิทได้แต่มองตามอย่างประหลาดใจ


“ เรื่อง....เรื่องหนึ่ง?”










“ อืม....เรื่องที่เจ้าว่ามา ข้าว่ามันก็มีเหตุมีผลและมีความจำเป็นอยู่นะ สึนะโยชิ....”         องค์จักรพรรดิทรงนั่งชมสวนสบายๆอยู่ในตำหนักชั้นในสุดซึ่งความจริงก็อยู่ในรั้วเดียวกันกับตำหนักขององค์ชายเล็กนั่นแหละ


“ ถ้างั้นท่านก็จะอนุญาตใช่ไหมท่านพ่อ?”       ใบหน้าน่ารักดูจะกระตือรือร้นอยู่ไม่ใช่น้อย ทำให้ใบหน้าของผู้เป็นพ่อเผลอยิ้มออกมา


“ ที่เจ้ามาขออนุญาตข้าเพื่อเรียนศิลปะการป้องกันตัวเนี่ย...คงไม่ใช่ว่าแอบหนีออกไปไหนแล้วโดนใครรังแกมาใช่ไหม หื๋อ?”      สมกับที่เป็นจักรพรรดิซึ่งมีสายตากว้างไกล คนเป็นลูกชายเลยได้แต่หัวเราะแหะแหะ.....เขาอยากจะช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง ไม่ใช่จะรอแต่ให้คนอื่นมาปกป้อง...อย่างน้อยก็น่าจะขี่ม้าเป็น


“ ข้าไม่อนุญาต...”


“ ท่านพ่อ!!”      ร่างเล็กเผลอตะโกนอย่างผิดหวัง ถ้าเป็นคนอื่นมาทำแบบนี้คงถูกสั่งตัดหัวไปแล้วกระมัง


“ ฟังให้จบก่อนสิสึนะโยชิ....ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าเรียนวิธีการต่อสู้พวกนี้กับคนอื่น...เพราะกว่าที่จะฝึกอะไรเป็นสักอย่างมันต้องได้รับการสั่งสอนและการดูแลอย่างถูกต้อง และคนที่จะสอนเจ้าจะต้องเป็นคนที่ข้าไว้ใจและเก่งพอที่จะดูแลเจ้าได้....ถ้าเจ้าอยากจะเรียนวิธีการต่อสู้...คนที่จะสอนเจ้าจะต้องเป็นเคียวยะเท่านั้น ถ้าเจ้าตกลงข้าก็จะอนุญาต”


“ เห๋....ท่านพี่น่ะหรอ?...ตกลงสิท่านพ่อ!”       ร่างเล็กโผเข้ากอดผู้เป็นพ่อให้อีกฝ่ายยกมือขึ้นลูบหัวอย่างเอ็นดู


“ ถ้าเช่นนั้นข้าจะได้บอกกับพี่เจ้าเอาไว้ อย่าทำให้ตัวเองบาดเจ็บล่ะสึนะโยชิ”      ใบหน้าเปื้อนยิ้มของคนที่ยืนอยู่เหนือทุกคนในแผ่นดินมองดูลูกชายคนเล็กด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก ใบหน้าเล็กพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มเพราะเข้าใจดีถึงความเป็นห่วงเป็นใยของอีกฝ่าย


“ ถ้าเช่นนั้นข้าไปเตรียมตัวก่อนนะ ป่านนี้โกคุเดระคุงคงจะไปขนตำราวิชาการต่อสู้มากองเต็มตำหนักแล้วแน่ๆ ฮะฮะ”        มือเล็กโบกลาก่อนจะวิ่งหายไปอีกฟากของประตูเชื่อมระหว่างสองตำหนัก ผู้เป็นพ่อได้แต่ทอดสายตามองตามไป....ดอกฟูจิดอกน้อยในมือถูกลูบอย่างแผ่วเบา...


“ ดูสิ...ลูกของเราโตขึ้นมาแล้วน่ารักเหมือนเจ้าไม่มีผิด...และข้าจะไม่ปล่อยให้ใครมาพรากเขาไปจากข้า เหมือนที่เจ้าโดนพรากจากข้าไปอีกแล้วละ....”











“ ก่อนอื่น...ท่านต้องยืนทำมุมเก้าสิบองศากับลำตัวของม้าแบบนี้...จากนั้น.....”


“ ฮะฮะฮะ...กะ โกคุเดระคุง....”          ใบหน้าน่ารักหัวเราะแห้งๆก่อนจะเอามือป้องปากแล้วหันไปกระซิบกระซาบกับเจ้าคนสนิทที่ตอนนี้กำลังยืนถือตำราขี่ม้าพร้อมอธิบายหลักการอย่างไม่สนใจสายตาคนที่รับหน้าที่อาจารย์ที่แท้จริงซึ่งกำลังยืนส่งรังสีขมุกขมัวอยู่ใกล้ๆ


“ โกคุเดระ ฮายาโตะ.....”        ฮี้!! เอาแล้วไง ถ้าทำให้ท่านพี่โกรธเข้าเดี๋ยวจะพาลไม่ยอมสอนไปซะก่อน...ก่อนอื่นก็ต้องหาทางหยุดเจ้าตัวป่วนที่หวังดีนี่ก่อนสินะ....องค์ชายร่างเล็กตีปีกพั่บๆขยับเข้าหยุดเจ้าคนที่ยังยืนอ่านทฤษฎีการขี่ม้า ทว่า...


“ อ๊ะ! ยามาโมโตะ!”        นัยน์ตากลมโตเหลือบไปเห็นร่างสูงใหญ่ที่กำลังเดินสบายๆเข้ามาตำหนักชั้นในสุดอย่างกับเป็นบ้านตัวเองแล้วก็ให้โล่งใจ


“ ได้ข่าวว่าพวกท่านกำลังฝึกการป้องกันตัวกัน ข้าเลยแวะมาดู”          ใบหน้าคมที่มีแผลเป็นที่ปลายคางแลมองนัยน์ตากลมโตที่พยายามส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง ริมฝีปากเผลอยกยิ้มเมื่อมองเห็นตำราขี่ม้าในมือบางของเจ้าคนสนิทที่กำลังฟึดฟัดเมื่อเห็นหน้าของตน


“ องค์ชายที่หนึ่ง...ท่านฝึกให้ทั้งคู่คงจะลำบากสินะ ถ้างั้นข้าขอฝึกให้โกคุเดระเองก็แล้วกัน”       ไม่ว่าเปล่าท่อนแขนแข็งแรงยังจัดการลากร่างบางๆออกไปโดยที่ไม่ต้องรอคำอนุญาตจากร่างสง่าที่ยืนทำหน้านิ่งอยู่ตรงนั้น


“ ห๊ะ?! เดี๋ยวสิเจ้าบ้า! ข้าจะอยู่ช่วยองค์ชายฝึกขี่ม้าก่อน นี่!ปล่อยนะ!”        


“ เอาน่า....เจ้ามาฝึกกับข้าดีกว่า...มีขนมที่เจ้าชอบให้กินด้วยนะ...”


“ งั้นหรอ...ห๊ะ! เจ้าคิดว่าจะเอาของกินมาล่อข้าได้งั้นหรอเจ้าบ้านี่!


“ ฮะฮะฮะ”


เสียงโวยวายหายไปกับระยะทางที่ห่างออกไปเรื่อยๆ...ร่างเล็กหันมาถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่างน้อยยามาโมโตะก็มาช่วยกู้สถานการณ์เอาไว้ได้ทัน


“ จะเริ่มกันได้รึยัง”         เสียงนิ่งทำเอาสะดุ้งโหยงโดยอัตโนมัติ ใบหน้าน่ารักหันไปยิ้มซีดๆก่อนจะปรับสีหน้าพยักรับคำบอกด้วยความมุ่งมั่น


“ ลูบที่คอทำความรู้จักกับมันก่อน”        ม้าตัวที่องค์ชายที่หนึ่งเลือกมาใช้ในการฝึกคือม้าประจำพระองค์สีดำสนิทตัวใหญ่ที่เขาเคยขี่มันมาหลายต่อหลายครั้ง ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่เลือกที่มันตัวเล็กๆกว่านี้หน่อย มือเล็กยื่นเข้าไปลูบแผงคอนิ่มเป็นเงาของเจ้าม้าขนดำอย่างกล้าๆกลัวๆ


“ มันจะไม่พยศต่อเจ้าแน่ ไม่ต้องกลัว”       เอ๋?....ที่เลือกมาให้เขาฝึกเพราะแบบนั้นเองหรอกหรอ....แต่ยามเมื่อมายืนมองมันใกล้ๆแบบนี้แล้วก็รู้สึกได้ว่าเจ้าม้าสีดำนี่มันช่างงามสง่าสมราคาม้าของว่าที่จักรพรรดิจริงๆ


“ วิธีขี่มัน ข้าจะทำให้ดู...จำ...แล้วก็ทำตามซะ”       ใบหน้าเล็กพยักหน้าหงึกๆ นัยน์ตากลมโตจ้องมองร่างสูงที่ก้าวขึ้นไปคร่อมเจ้าม้าด้วยท่าทางว่ามันทำกันได้ง่ายดายนัก แต่กับคนที่ไม่เคยทำแล้ว....


“ หว๋า.....”        ร่างเล็กถึงจะอยู่ในชุดฮากามะแต่ทว่าการจะปีนขึ้นไปขี่เจ้าม้าตัวใหญ่ก็ดูจะทุลักทะเลอยู่ไม่น้อย สองมือตะปบจับหลังเจ้าม้าเอาไว้อย่างกลัวจะลื่นไถลลงมา


“ เหวอๆๆ”       แต่ไม่ว่าพยายามจะปีนยังไง ม้าตัวใหญ่มันก็คือตัวใหญ่อยู่วันยังค่ำ เจ้าของผมสีน้ำตาลได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆก่อนจะมีมือแข็งแรงมาช่วยจับให้ที่แขน จนในที่สุดขาก็ก้าวขึ้นไปคร่อมมันจนได้


“ ขะ ขอบคุณท่านพี่...”        ร่างเล็กกล่าวออกไปด้วยใบหน้าแดงๆจากความอาย ก็รู้ตัวอยู่หรอกว่าท่าทางของตนคงน่าขำน่าดู


“ เอาสองเท้าสอดไว้ในโกลน วันนี้แค่ให้ม้าเดินส่วนเจ้านั่งอยู่บนนั้นก็ทำความคุ้นเคยกับมันซะ”         ใบหน้านิ่งเอ่ยบอก ให้คนที่ขึ้นไปนั่งบนหลังม้าได้แล้วพยักหน้ารับอย่างตื่นๆ


“ อะ อื้อ”        สองมือเล็กจับบังเหียนเอาไว้ กับคนที่ไม่เคยขี่ม้าด้วยตัวเองแล้ว ถึงม้ามันจะแค่เดินก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ ใบหน้าน่ารักเริ่มจะมีเหงื่อแตกพลั่ก เพราะคิดว่าคงจะโดนปล่อยให้ไปอยู่กับม้าตามลำพัง ในหัวเริ่มจะคิดไปไกลว่าถ้าเกิดมันดื้อขึ้นมาตนจะทำยังไง


แต่แล้วความกังวลใจก็โดนเป่าออกไปกลายเป็นนัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ที่ต้องเบิกกว้างแทน....เมื่อคนที่คิดว่าจะปล่อยให้ตนเดินไปกับม้าตามลำพังกลับยื่นมือมาจับที่สายบังเหียน



ร่างสูงสง่าขององค์ชายที่หนึ่งเดินเคียงข้างอย่างช้าๆไปกับเจ้าม้าสีดำด้วย....



และคนที่ตกใจก็ไม่ได้มีแต่ร่างเล็กที่นั่งอยู่บนหลังม้า...ข้าราชบริพารที่อยู่รอบๆสนามฝึกขี่ม้าต่างก็หันมามองกันเป็นตาเดียว...หลายคนเริ่มจะสงสัยแล้วว่าร่างเล็กบางคนนั้นเป็นใคร แค่ให้องค์ชายที่หนึ่งมาสอนขี่ม้าให้ก็ว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้แล้ว....แล้วนี่ยัง...


องค์ชายที่หนึ่งผู้ซึ่งงามสง่าและเป็นรองแค่องค์จักรพรรดิถึงกับมาจูงม้าให้....


ถ้ามิใช่ผู้ที่มีบรรดาศักดิ์สูงมาก ก็คงจะเป็นคนที่มีสายสัมพันธ์ซึ่งไม่ธรรมดา....


นัยน์ตากลมโตเหลือบมองเสี้ยวใบหน้านิ่งที่มองเห็นเพียงด้านข้าง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแดดหรือว่าอย่างไร ที่ทำให้ใบหน้าขององค์ชายเล็กถึงกับแดงระเรื่อ แทนที่จะมีสมาธิไปกับการฝึกแต่ในหัวใจดวงน้อยกลับกำลังว้าวุ่น


เพราะพี่ชายคนดีที่ใครๆต่างก็บอกว่าเย็นชาและโหดเหี้ยม...กลับปฏิบัติกับตนราวกับเป็นคนพิเศษแบบนี้....


มันทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นระบบ....


บางทีเขาก็อยากจะรู้...


ว่ามันเป็นเพราะคำสั่งของท่านพ่อหรือเป็นเพราะตัวท่านเองกันแน่ที่อยากจะทำเพื่อข้า....




“ วันนี้พอแค่นี้”         น้ำเสียงนิ่งทำให้คนบนหลังม้าหลุดออกมาจากภวังค์


“ เอ๋?....ฝึกแค่นี้เองหรอท่านพี่?”        ถ้านับเวลาป่วนของโกคุเดระด้วย นี่มันก็เพิ่งผ่านมาแค่ชั่วโมงกว่าๆเอง ร่างเล็กรู้ว่าไม่ควรจะรีบร้อน แต่เขาก็ไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดจะฝึกได้แค่นี้ต่อวันนะ ใบหน้าน่ารักเตรียมจะเอ่ยคัดค้าน แต่คนที่ยื่นอยู่ข้างล่างก็เอ่ยออกมาเสียก่อน


“ ฝึกขี่ม้าในช่วงเช้าเอาเท่านี้ก็พอ ต่อไปก็เข้าไปฝึกอาวุธในโรงฝึก สัตว์กินพืชที่ไม่เคยออกแดดอย่างเจ้า เจอแดดแรงๆเข้าไปจะมาป่วยเสียเปล่าๆ”        ใบหน้าเล็กทำปากยื่น...ใครว่าเขาไม่เคยออกแดด...ปกติก็วิ่งเล่นกับโกคุเดระคุงท่ามกลางแดดจ้าแบบนี้ทุกวันต่างหากล่ะ....แต่จะเถียงไปก็กลัวไอสีดำๆนั่น เลยยอมหยุดฝึกขี่ม้าแต่โดยดี


เท้าสอดเข้าไปในโกลนก่อนจะพยายามก้าวขาข้ามลงมาจากหลังม้า...ทว่าม้าตัวใหญ่มันก็คือตัวใหญ่วันยังค่ำ


“ เหวอ.....”       ร่างเล็กที่กะจังหวะพลาดไปนิดสะดุดสะโพกของเจ้าม้าทำให้การก้าวขาลงไม่เป็นไปอย่างที่คิด


ร่างซวนเซจะล้มลงพื้น ถึงมือจะพยายามเกาะเจ้าม้าเอาไว้แต่ก็ยังเสียการทรงตัวอยู่ดี นัยน์ตากลมโตหลับตาปี๋เพราะคิดว่าคงได้ลงไปวัดพื้นเป็นแน่แล้ว


แต่ผ่านไปหลายนาที ร่างกายกลับยังไม่รู้สึกถึงแรงกระแทก....นัยน์ตากลมโตเปิดขึ้นอีกครั้งเมื่อรู้สึกถึงมือและอ้อมแขนของใครบางคน....ใบหน้าคมหล่อเหลาขององค์ชายที่หนึ่งนั้นอยู่ห่างไม่ถึงคืบ แขนแข็งแรงโอบเอวบางเอาไว้ไม่ให้ล้มลงไป


“ ทะ ท่านพี่...ขะ ขะ ขอบคุณ”        ใบหน้าใสแดงระเรื่อ ก่อนที่แขนคู่นั้นจะปล่อยร่างเล็กให้เป็นอิสระ เสียงหัวใจที่ดังอยู่นี้ไม่รู้ว่ามันเป็นของใครกันแน่


“ ตามข้า....ไปที่โรงฝึก....”       ใบหน้าคมหันไปอีกทาง แล้วก้าวขาเดินไปไม่รอ เช่นเดียวกับใบหน้าเล็กที่ก้มงุดพยายามเก็บซ่อนจังหวะหัวใจที่เต้นแปลกไปไม่ให้อีกฝ่ายรับรู้


เพราะไม่เคยรู้จักกับ “พี่ชาย” คนอื่นๆนอกจากมุคุโร่....จึงไม่แน่ใจ...ว่าความรู้สึกแบบนี้....มันคือสิ่งที่น้องชายมีให้พี่ชาย...ใช่หรือเปล่า?











“ ทวน?”         น้ำเสียงเอาแต่ใจดังออกมาจากร่างบอบบางที่ยืนกอดอกหาเรื่องดูยังไงก็ไม่ได้มีความเคารพต่อครูฝึกของตนเลยแม้แต่น้อย


“ ใช่”         ร่างสูงใหญ่ที่ไม่ได้ใส่ใจความเอาแต่ใจอย่างน่าเอ็นดูของอีกฝ่ายกำลังเลือกอาวุธระยะกลางที่คิดว่าน้ำหนักและรูปร่างน่าจะกำลังดีกับตัวบางๆนั่น นัยน์ตาสีเปลือกไม้ไล่ไปตามอาวุธด้ามยาวที่ตั้งอยู่มากมายภายในคลังอาวุธ


“ ไม่เอา! ข้าจะฝึกไอ้ที่เหน็บอยู่ที่เอวของเจ้า!”        นิ้วเรียวชี้มาที่ดาบคู่ชีพที่เจ้าตัวดีเคยเอาไปโยนลงน้ำหน้าตาเฉยนั่น


“ ไม่ได้หรอก....กำลังน้อยๆอย่างเจ้าไม่เหมาะกับดาบที่ต้องใช้แรงปะทะ แต่ว่าความฉลาดของเจ้าข้าว่าน่าจะใช้ทวนได้ดีกว่า...อีกอย่างนี่มันก็แค่อาวุธที่ใช้ป้องกันตัวในยามที่ข้างกายไม่มีอะไรให้ใช้...ถ้าเจ้าใช้ทวนเป็น แม้แต่กิ่งไม้ก็จะเอามาทำอาวุธได้.....เพราะหากจะต่อสู้กันด้วยอาวุธครบมือแล้ว อย่างข้าอาจจะสู้ธนูของเจ้าไม่ได้ด้วยซ้ำ”         ปลายนิ้วยาวไล่สัมผัสด้ามทวนไปเรื่อยๆ ก่อนจะดึงทวนขนาดพอเหมาะอันหนึ่งออกมาจากแท่นสำหรับเสียบทวน


“ ฮึ....แน่ล่ะ บ้าๆอย่างเจ้าหรือจะมาสู้ธนูของข้าได้...ข้าน่ะ จะเป็นประมุขคนต่อไปของตระกูลโกคุเดระนะ!”       ใบหน้าสวยเชิดขึ้นรับคำชมอย่างไม่คิดจะถ่อมตนกับเจ้าคนตรงหน้า


“ เจ้ามาเป็นนายหญิงให้ตระกูลยามาโมโตะของข้าไม่ดีกว่าหรอ?”        ฝ่ามือบางตีเพี๊ยะลงมาที่ต้นแขนพร้อมใบหน้าสวยแดงแปร๊ดบูดสนิททันที...ก็ไอ้อาการแบบนี้แหละที่มันทำให้น่าแกล้งนัก


“ เจ้าบ้า! เดี๋ยวข้าจะเอาทวนนี่แหละ เสียบคอหอยเจ้าซะ!


“ ฮ่าๆๆ”         เสียงหัวเราะดังเคล้าไปกับเสียงกร่นด่าตลอดทางที่ทั้งสองเดินผ่าน จากคลังอาวุธไปจนถึงโรงฝึกของพระราชวัง...


โรงฝึกแห่งนี้แน่นอนว่าคนที่จะมาใช้ได้ก็มีแต่คนที่อยู่ในตำหนักเท่านั้น แต่เจ้าชายเจ้าหญิงองค์อื่นที่ถอดใจไปกับการแย่งชิงก็มีมาก เพราะเช่นนั้นคนที่มาใช้ที่นี่เป็นประจำทำให้มีอยู่เพียงไม่กี่คน


“ อย่างเจ้านี่ เค้าอนุญาตให้มาใช้ที่นี่ได้ด้วยหรอ?”      ร่างบอบบางเอ่ยถามในขณะที่กำลังเดินเลี้ยวไปตามระเบียงทางเดินซึ่งทอดไปสู่ประตูโรงฝึก


“ ตกลงเจ้ายังไม่เชื่อใช่ไหมว่าคนรักของเจ้าคือแม่ทัพน่ะโกคุเดระ? อีกอย่าง ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นโรงฝึกของพระราชวัง แต่คนที่จะมาใช้จริงๆก็มีอยู่แค่องค์ชายที่หนึ่งกับองค์ชายที่สองนายข้า....แล้วถ้าเค้ามาข้าก็ต้องมาด้วยนั่นแหละ”


“ หื๋อ....?”       ร่างบอบบางปล่อยเสียงยานคางอย่างสงสัย    “ นี่องค์ชายของเจ้ายังไม่ถอดใจเรื่องแย่งชิงบัลลังก์อีกหรือไง? ก็เห็นๆกันอยู่ว่าองค์ชายที่หนึ่งน่ะเก่งขนาดไหน”


“ เรื่องนั้นข้าก็ไม่รู้หรอกนะ แต่ว่า....ปกติกองทัพจะแบ่งออกเป็นสองส่วน คือทัพหลวงกับทัพหน้า องค์จักรพรรดิจะประทับอยู่ที่ทัพหลวง....ส่วนทัพหน้ามันเป็นหน้าที่ขององค์ชายที่สองของข้า”        ดูเหมือนนัยน์ตาสีมรกตจะเบิกกว้างกับสิ่งที่เพิ่งเคยรู้


“ ฮะฮะ...งานเสี่ยงตายมันก็ต้องเป็นของลูกชายหมายเลขสองอยู่แล้วละ....ท่านมุคุโร่เป็นจอมทัพของทัพหน้า ที่จะถูกสั่งให้ออกไปกวาดล้างศัตรูก่อนที่ทัพหลวงจะไปถึง”        นัยน์ตาสีเปลือกไม้ไม่ได้มีแววขี้เล่นอย่างปกติ แต่มันเต็มไปด้วยความเศร้าหมองกับหน้าที่อันหนักอึ้งของคนที่อยู่เหนือหัว


“ ถ้างั้นเจ้าเองก็....”        นัยน์ตาสีมรกตมองมาที่ใบหน้าคมด้วยแววตาสั่นไหว....


“ ไม่ต้องห่วงหรอกน่าโกคุเดระ ข้าไม่ตายง่ายๆให้เจ้าเป็นหม้ายหรอก”        ผลั๊วะ!! ด้ามทวนฟาดเข้าไปที่กลางหลังให้ความซาบซึ้งเมื่อครู่ดูเหมือนจะหายไปกับความเนียน


“ ใครมันจะไปห่วงคนบ้าอย่างเจ้า! ฮึ”        มือบางเลื่อนประตูเปิดออก ก่อนที่สายตาจะมองเห็นว่ามีใครยืนอยู่ในโรงฝึก


“ องค์ชาย?!”          เป็นองค์ชายเล็กนั่งทับส้นโบกมือน้อยๆมาให้ ดูเหมือนจะกำลังนั่งคอยอะไรบางอย่างอยู่


“ ท่านฝึกขี่ม้าเสร็จแล้วหรอ?”


“ อะ อื้อ....ข้ารอท่านพี่อยู่น่ะ บอกว่าจะไปหยิบทวนมาให้”


“ ทวน?!”        เจ้าคนสนิทก้มลงมองด้ามยาวในมือก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาหัวเราะกับร่างเล็ก....เหมือนกันโดยบังเอิญสินะ











การฝึกเข้าสู่สัปดาห์ที่สอง ทำให้ต้องตั้งใจมากขึ้น....องค์ชายร่างเล็กจับกระชับปลายโอบิก่อนจะดึงให้ตึง ผ้าที่พับจีบของขากางเกงฮากามะสีแดงเลือดนกขยับพลิ้วไหวไปกับจังหวะการก้าวเดิน นัยน์ตากลมโตมุ่งมั่นมองตรงไปยังทางเดินที่ทอดสู่โรงฝึก....วันนี้ไม่มีเสียงพูดคุยของเจ้าคนสนิทที่ถูกเรียกตัวกลับไปตระกูลโกคุเดระด้วยเรื่องอะไรบางอย่าง....แถมยังไม่ต้องไปที่สนามฝึกขี่ม้าก่อนเพราะองค์ชายที่หนึ่งเองก็ถูกองค์จักรพรรดิเรียกตัวไปหารือเรื่องเกี่ยวกับราชการแผ่นดิน....ทำให้ร่างเล็กบางที่แทบจะไม่เคยไปไหนมาไหนคนเดียวต้องมาเดินอยู่ตามลำพัง


ด้ามทวนที่ถูกสลักเสลาราวกับไม่ใช่อาวุธถูกลูบไปมาด้วยฝ่ามือเล็ก ใบหน้าน่ารักอมยิ้มน้อยๆยามเมื่อนึกถึงใบหน้านิ่งสนิทของคนที่ให้มันมา....เท่าที่รู้มาจากโกคุเดระ...ถ้าขนาดของอาวุธไม่พอดีตัวผู้ใช้ก็มีแต่จะกลายมาเป็นภาระ...แต่ทวนสีงาช้างอันนี้มันกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น....เพราะมันน่าจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเขา


ฝ่าเท้าเหยียบไปตามพื้นไม้ของระเบียงทางเดิน ยิ่งเข้าใกล้โรงฝึกมาเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้ยินเสียงดังมาจากข้างในชัดเจนมากยิ่งขึ้นให้ใบหน้าน่ารักรู้สึกแปลกใจจนคิ้วบางเลิกขึ้นน้อยๆ


“ ใครมาใช้โรงฝึกกันนะ?”       เพราะตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเขามาใช้ที่นี่ทุกวันแต่กลับไม่เคยเจอใครเลย...หรือจะเป็นเพราะปกติเขาจะไปฝึกขี่ม้าก่อน กว่าจะมาที่นี่ก็สายแล้ว คนอื่นๆคงเลิกใช้กันไปหมดแล้วกระมัง


ฝ่ามือเล็กเลื่อนประตูโรงฝึกให้เปิดออกอย่างช้าๆ แล้วนัยน์ตากลมโตก็ต้องเบิกกว้างพร้อมกับสองเท้าที่ก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว


“ มุคุโร่....”         เสียงแผ่วเบาหลุดออกมาจากริมฝีปากสีระเรื่อ นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ยังคงจ้องมองร่างสูงโปร่งที่คงจะยังไม่รู้ถึงการมาเยือนของคนที่ตัวเองชิงชัง ถึงยังคงฝึกซ้อมต่อได้อยู่


แสงแดดที่ลอดมาตามช่องแสงของระแนงไม้ยามเมื่อสาดกระทบกับร่างกายได้รูปที่ขยับไปมานั้นส่งให้องค์ชายที่สองดูสง่างาม  เส้นผมยาวสีน้ำเงินเข้มถึงจะถูกรวบเอาไว้แต่มันก็สะบัดพลิ้วไหวไปตามเพลงทวน มือใหญ่ทั้งสองข้างต่างจับด้ามยาวสีดำสนิทกวัดแกว่งไปมาทั้งงามสง่าและดูมีพลังทุกๆครั้งที่ตวัดไป ใบหน้าเรียวยามเมื่อหลงอยู่ในท่วงทำนองของอาวุธมันดูเยือกเย็นแต่กลับไม่เห็นความอำมหิต นัยน์ตาสองสีที่เคยจับจ้องใครๆให้ขนลุกในยามนี้กลับเปล่งประกายที่สวยงาม ริมฝีปากที่เคยยิ้มละไมร้ายกาจบัดนี้มีแค่อมยิ้มน้อยๆ  ทุกท่วงท่านั้นกลับน่ามองถึงแม้จะเป็นท่วงทำนองของเพลงทวนที่จะใช้ปลิดชีวิต...


ร่างเล็กเผลอยืนมองร่างสูงโปร่งราวกับถูกสะกด....ไม่ว่าร่างในฮากามะสีดำนั่นจะขยับไปทางไหน ไม่ว่ามือใหญ่นั่นจะกวัดแกว่งด้ามทวนไปอย่างไร มันก็ดูน่าหลงใหลจนละสายตาไม่ได้


นิ้วยาวหมุนให้ด้ามทวนวนอยู่บนฝ่ามือก่อนจะตวัดมันไปรอบตัวเป็นวงกลม ชั่วพริบตาที่คิดว่ากำลังจะเริ่มเข้าสู่ท่าใหม่ ประกายคมกล้าของปลายทวนกลับแว่บเข้ามาในสายตาของร่างเล็ก



ปึก....



เสียงเสียบทะลุของอะไรบางอย่างดังอยู่ที่ข้างหู ก่อนที่ใบหน้าน่ารักจะรับรู้ได้ถึงแรงสั่นอากาศของสิ่งมีคมที่ปักเฉียดใบหน้าไปไม่ถึงคืบ ร่างกายที่ถูกสะกดเอาไว้ด้วยภาพของร่างสูงบัดนี้มันกลับนิ่งยิ่งกว่าเดิม...นัยน์ตากลมโตค่อยๆแลมองไปที่ข้างตัว....ก่อนที่เหงื่อจะเริ่มซึมที่ฝ่ามือเมื่อสิ่งที่มองเห็นคือด้ามทวนสีดำสนิทซึ่งยังคงสั่นไหวกับปลายทวนที่ปักลงไปในผนังด้านหลัง...ปลายทวนที่มีใบมีดสามใบซึ่งไม่เหมือนใครเพราะมันคืออาวุธคู่กายของ....องค์ชายที่สอง


“ คึหึหึ....มาแอบดูข้าฝึกซ้อมแบบนี้...ไม่อยากตายดีใช่ไหม...”        ใบหน้าเรียวหล่อเหลาขยับเข้ามาใกล้ใบหน้าเล็ก มือข้างหนึ่งยันไว้กับผนังส่วนอีกข้างค่อยๆดึงด้ามทวนลักษณะพิเศษนั่นออกไปจงใจให้ผ่านวงหน้าใสไปอย่างช้าๆ รอยยิ้มละไมร้ายกาจถูกส่งมาให้ตามปกติ จนคนที่ตกอยู่ใต้อาณัติได้แต่ยืนตัวแข็ง


“...........”        มือเล็กกำเข้าหากันพร้อมกับเม้มริมฝีปากแน่น เขาก็รู้ว่ามันเสียมารยาทที่มายืนดูอีกฝ่ายโดยไม่ได้บอกกล่าว  แต่จะทักทายกันให้มันดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง...ยิ่งนึกถึงใบหน้าเรียวเมินเฉยตอนที่เขาตั้งใจจะเอาดอกไม้ไฟไปให้ ทั้งยังปล่อยให้เขาโดนต่อว่ากระแนะกระแหนโดยไม่คิดจะช่วยกันสักคำ มันยิ่งทำให้รู้สึกโกรธคนตรงหน้ามากยิ่งขึ้น


องค์ชายร่างเล็กจึงตั้งใจจะเดินหนีไป โดยไม่คิดที่จะต่อปากต่อคำด้วยเหมือนที่ผ่านมา ฝ่ามือบางปัดท่อนแขนที่กักขังตนเอาไว้ออกไป ก่อนที่แผ่นหลังเล็กจะหันกลับเตรียมจะก้าวออกไปจากโรงฝึก แต่นั่นกลับทำให้อีกคนถึงกับขมวดคิ้ว


นัยน์ตาสองสีจ้องมองแผ่นหลังบางที่เดินห่างออกไปด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะอย่างหาสาเหตุไม่ได้....ปกติเจ้าเด็กที่น่าชิงชังนั่นจะต้องตรงรี่เข้ามากวนประสาทเขาอย่างไม่มีลังเลไม่ใช่หรือไงกัน...แล้วทำไมคราวนี้ถึงได้ยอมแพ้แล้วหนีไปง่ายๆ


มันเป็นสิ่งที่เขาต้องการมาตลอดไม่ใช่หรือไร กับการต้อนให้อีกฝ่ายจนมุมแบบนี้  แล้วทำไม...


“ นี่เจ้าน่ะ....”        ทำไมเขาถึงทนไม่ได้ที่จะถูกอีกฝ่ายเมินเฉยจนต้องเอ่ยปากออกไป


“ ถ้าไม่คิดที่จะใช้มันก็อย่าได้เอามาถือเล่นเพราะเห็นว่ามันเป็นแค่ของประดับ”        ถึงแม้จะเป็นถ้อยคำที่เอาแต่ทำร้ายจิตใจ แต่หากมันทำให้ร่างเล็กๆนั่นหยุดเดินจากไปได้...


“ ทวนคืออาวุธที่สูงศักดิ์ คนอย่างเจ้าไม่ควรค่าที่จะใช้มัน”         คำก็ไม่ควรค่า...สองคำก็น่าชิงชัง....ร่างเล็กได้แต่ยืนนิ่งสั่นระริกอยู่ที่ประตูโรงฝึก รู้ทั้งรู้ว่าหากยังอยู่ใกล้ก็คงจะโดนปากคอเราะร้ายนั่นทำให้เจ็บปวด....แต่ก็ไม่อยากจะยอมแพ้...


“ ............”      มือเล็กกำด้ามทวนแน่น ก้มหน้าเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรงก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับดวงตาสองสีนั่นอีกครั้ง


“ คึหึหึ.....อะไร?....ทำหน้าแบบนั้น หรือจะพิสูจน์....ว่าเจ้าใช้มันเป็น ไม่ใช่เอาไว้แค่ถือเล่นๆ?”        ร่างเล็กยังไม่ลืมใบหน้าเมินเฉยของมุคุโร่เมื่อวันนั้น แต่ใบหน้าเรียวที่กำลังยิ้มเยาะด้วยสายตาเจ้าเล่ห์อย่างที่เห็นอยู่ในตอนนี้มันก็น่าเจ็บใจไม่แพ้กัน


“ เจ้าต้องการอะไรมุคุโร่?”        เจ้าเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมตรงหน้ากลับมามีดวงตาที่กล้าแข็ง...แววตาถือดีที่เขาเคยนึกชิงชังแต่ตอนนี้กลับรู้สึกดีที่จะได้เห็น....นัยน์ตาสองสีเหลือบมองไปรอบๆกาย และมันก็ยังคงไม่มีวี่แววว่าจะมีใครเข้ามาที่นี่


เพราะเช่นนั้น...ขอแค่ช่วงเวลานี้....ช่วงเวลาที่มีเพียงเราแค่สองคน....ช่วงเวลาที่ขอให้เขาได้เป็นตัวของตัวเอง


“ จับทวนขึ้นมาแล้วประลองกับข้า....ถ้าเจ้าเอาชนะได้แม้แต่เพลงเดียวข้าถึงจะยอมรับ”        ริมฝีปากยกยิ้มอย่างผู้ที่เหนือกว่า ยิ่งเห็นใบหน้าแบบนั้นมันก็ยิ่งทำให้ร่างเล็กตกบ่วงล่อหลอกของร่างสูงโปร่งได้อย่างง่ายดาย


“ ก็ได้! แต่ข้าบอกเจ้าไว้ก่อนเลยนะ ว่าข้าเพิ่งจะฝึกมันได้แค่อาทิตย์เดียว หากเผลอฟาดปากเสียๆของเจ้าไปมันก็คงจะเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้”      ใบหน้าน่ารักดูจริงจังกว่าทุกๆครั้งที่ได้เจอกัน...ร่างสูงได้แต่มองพรางครุ่นคิด....ปกติเจ้าเด็กนี่จะคอยเอาแต่ยิ้ม...แต่วันนี้กลับเอาแต่ทำหน้าบึ้งตึง....หรือว่าจะยังงอนเรื่องเมื่อวันก่อนอยู่?


“ ถ้าเจ้าทำได้ละก็นะ...คึหึหึ....”       ใบหน้าเรียวลอบยิ้มเมื่อพอจะรู้ถึงสาเหตุ...แต่ยิ่งเป็นแบบนี้มันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกสนุก ยิ่งรู้สึกว่าอยากแกล้ง


ร่างเล็กถือทวนในท่าเตรียมพร้อม ต่างจากอีกคนที่ยืนอยู่ในท่าสบายๆ ยิ่งเห็นว่าอีกฝ่ายทำเหมือนกับกำลังหยอกเล่นบวกกับอารมณ์ที่เก็บสั่งสมมายิ่งทำให้องค์ชายร่างเล็กอารมณ์ร้อนกว่าปกติ ทวนสีงาช้างตวัดเข้าไปแต่ร่างสูงก็ทำเพียงเอี้ยวตัวหลบไปได้ง่ายๆ ร่างเล็กตวัดตัวฟาดทวนเข้าไปอีกครั้งตามที่เคยร่ำเรียนมา แต่ทว่าร่างสูงก็อาศัยจังหวะหลบโดยไม่คิดแม้แต่จะกวัดแกว่งทวนรับ ไม่ว่าจะเข้าไปท่าไหน อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะรู้ ดูเหมือนจะอ่านทางออกทั้งหมด และเพราะฟาดลมอยู่หลายต่อหลายครั้งก็ยิ่งทำให้องค์ชายเล็กเริ่มอารมณ์ครุกรุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ


“ ใครเป็นคนสอนเพลงทวนให้เจ้ากัน?....ช่างเป็นครูฝึกที่ไม่ได้เรื่อง....”      ร่างสูงโปร่งตวัดตัวหลบไปมา แถมยังกล่าววาจายั่วเย้าที่ก็รู้อยู่ว่าจะยิ่งทำให้ร่างเล็กโมโหมากยิ่งขึ้น ในจังหวะที่ร่างเล็กพุ่งเข้ามาร่างสูงโปร่งก็หลบในจังหวะสุดท้าย ทำให้องค์ชายเล็กถึงกับถลาลงไปคุกเข่าอยู่กับพื้น


“ เจ้าจะดูถูกข้าแค่ไหนข้าก็ไม่ว่า...แต่อย่ามาดูถูกท่านพี่ของข้าเด็ดขาด”       นัยน์ตากลมโตฉายแววมุ่งมั่นและดุดันอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นมาก่อน ร่างเล็กยกมือขึ้นปาดเหงื่อก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ทวนถูกตวัดมาไว้ด้านหน้าในท่าเตรียมพร้อม


“ หากว่าข้าพ่ายแพ้มันก็เป็นเพราะฝีมือข้าแย่เอง ไม่เกี่ยวกับการสอนของท่านพี่...ขอให้เจ้าจำเอาไว้”       ร่างเล็กพุ่งเข้ามาอีกครั้ง แต่คราวนี้นัยน์ตาสองสีกลับฉายแววที่เปลี่ยนไป จู่ๆมือใหญ่ก็ยกทวนสีดำขึ้นมารับทวนของร่างเล็กให้นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ถึงกับเบิกกว้าง


“ ก็ได้....หากนี่คือเพลงทวนที่เคียวยะเป็นคนสอนให้เจ้า...เห็นทีข้าคงไม่อาจหยอกล้อเจ้าเล่นได้อีก”       ....จะเป็นเพราะมันทำให้นึกถึงวันเก่าๆที่เขากับเด็กชายผมดำคนนั้นเริ่มฝึกทวนด้วยกัน หรือจะเป็นเพราะศักดิ์ศรีที่ไม่อาจยอมแพ้ หรือจะเป็นเพราะความอิจฉาที่คนสอนทวนให้เจ้าเด็กตรงหน้าไม่ใช่เขา.....ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไรร่างสูงโปร่งก็ไม่อาจหยุดตัวเองได้อีกต่อไป


“ เข้ามา....สึนะโยชิ”










ร่างสูงสง่าเดินเคียงข้างไปกับองค์จักรพรรดิแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัย 


นัยน์ตาของผู้เป็นพ่อเหลือบมองใบหน้านิ่งเฉยของผู้เป็นลูกชาย....ถ้าไม่นับสึนะโยชิ.....เคียวยะก็ถือว่าเป็นลูกชายที่อยู่ใกล้และพ่ออย่างเขาให้ความไว้วางใจที่สุด....เป็นลูกชายที่น่าภาคภูมิใจ เป็นลูกชายที่เติบโตขึ้นมาได้อย่างสง่างามเหมาะสมกับตำแหน่งว่าที่จักรพรรดิอย่างยากจะหาใครมาเทียบได้


สายตาอ่อนโยนขององค์จักรพรรดิทอดมองไปยังไหล่กว้างของคนที่เดินเยื้องไปข้างหน้าเล็กน้อย....มานึกดูให้ดีๆก็ใช่ว่าจะไม่มีใครเทียบกับลูกชายหมายเลขหนึ่งคนนี้ได้....


เสียงหัวเราะสดใสของเด็กชายสองคนดังแว่วอยู่ในหู...เขายังจำได้ดีว่าก่อนที่สึนะโยชิจะเกิดขึ้นมา......เด็กสองคนนั้นสนิทกันขนาดไหน....สองมือน้อยๆของลูกชายทั้งคู่ยังเคยจูงมือเขาคนละข้างเพื่อชี้ชวนดูต้นไม้ใบหญ้าตามประสาเด็กซนๆ....แต่แล้ววันหนึ่งมิตรภาพเหล่านั้นก็ถูกทำลายลง....เมื่อคนหนึ่งถูกเลือกให้เป็นว่าที่จักรพรรดิ


และสายใยบางๆมันคงจะไม่ขาดสะบั้นเหมือนอย่างเช่นทุกวันนี้ ถ้าหากคนที่ถูกเลือกจะไม่ใช่เคียวยะ....


เป็นความจริงที่ว่า ศักดิ์ของมุคุโร่นั้นสูงกว่า...เพราะผู้เป็นมารดามาจากตระกูลที่สูงส่ง


แต่เพราะความอิจฉาริษยาของนาง ที่สร้างเรื่องอันร้ายกาจเอาไว้กับผู้เป็นดวงใจขององค์จักรพรรดิ...เพราะเช่นนั้นตำแหน่งพระชายาจึงตกเป็นของพระมารดาของเคียวยะ ตำแหน่งองค์ชายที่หนึ่งจึงหลุดมือไปจากมุคุโร่เช่นกัน....


และจากวันนั้นพ่ออย่างเขาก็ได้แต่เฝ้าดูนัยน์ตาของลูกชายที่เคยสดใสแปรเปลี่ยนไปเป็นเย็นชา....ส่วนสายตาอีกคู่ก็จมอยู่กับความเคียดแค้นชิงชัง....




เคล้งๆ....เคล้ง!



เสียงเหล็กกระทบกันดังเข้ามาในหูทำให้คนทั้งคู่ที่เดินมาอย่างเงียบๆเริ่มหันไปสนใจที่มาของเสียง เพราะดูยังไงมันก็น่าจะมีการต่อสู้เกิดขึ้น และต้นเสียงก็ไม่ใช่ที่ไหนเลย....โรงฝึกที่เห็นอยู่ตรงหน้านั่นเอง


“ เคียวยะ....เจ้าบอกว่าสึนะโยชิอยู่ในนั้น?....”       เป็นเพราะอยากจะมาเห็นลูกชายคนเล็กฝึกซ้อม องค์จักรพรรดิจึงเดินมาด้วยกัน แต่เสียงที่ดังมานั้นมันดูจริงจังเกินกว่าจะเรียกได้ว่าฝึกซ้อม ใบหน้าขององค์จักรพรรดิหันไปมองอีกคนที่เดินอยู่ข้างๆอย่างต้องการคำตอบ แต่ร่างสง่าขององค์ชายที่หนึ่งกลับดูร้อนลนปนกังวลอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน


“ ข้าขอตัวเข้าไปดูก่อน”       แล้วลูกชายหมายเลขหนึ่งก็พุ่งตรงไปยังประตูโรงฝึกด้วยความรวดเร็ว ทิ้งให้องค์จักรพรรดิยืนมองอยู่ตรงนั้น


“.........”       นัยน์ตาของผู้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมองพื้นที่ว่างเปล่าด้วยความเคลือบแคลงสงสัย เพราะไม่เคยเห็นว่าที่จักรพรรดิที่ขึ้นชื่อเรื่องความเยือกเย็นจะเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่เคยเห็นเคียวยะเป็นห่วงใคร ไม่เคยเห็นเคียวยะทำสีหน้ากังวลเพราะใคร และยิ่งไม่เคยเห็นว่าเด็กคนนั้นจะใส่ใจพี่น้องคนไหนๆ


เป็นเพราะมุคุโร่...ที่ทำให้เคียวยะตัดสินใจที่จะไม่มีสายสัมพันธ์กับพี่น้องคนอื่นอีก....แล้วเหตุใดจึงห่วงใยสึนะโยชิมากกว่าใคร....


ถึงจะบอกว่าเป็นคำสั่งของเขา แต่กับคนที่ปฏิบัติภารกิจต่างๆด้วยสีหน้าเย็นชาแบบนั้นมาเนิ่นนาน....มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าที่ให้ความสำคัญก็เพราะคำสั่ง




เคียวยะ....เจ้าคงไม่ได้ห่วงสึนะโยชิมากกว่าหน้าที่ของ “พี่ชาย” หรอกนะ

เพราะถ้าเป็นแบบนั้น....ข้าจะ....











.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.



หิมะ....หยดน้ำ....ความรัก..... : 11 End

.
.
.

โปรดติดตามตอนต่อไป.....ไป......ไป









ดรรชนีรูปลักษณ์(?)

แยกแยะกันให้เห็นจะๆว่าไอ้ที่บรรยายไว้มันหมายถึงใคร...


สึนะโยชิ......ร่างเล็ก   ใบหน้าน่ารัก    นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้   นัยน์ตากลมโต   เจ้าของผมสีน้ำตาล   องค์ชายเล็ก

โกคุเดระ......ร่างบอบบาง   ใบหน้าสวย   นัยน์ตาสีมรกต   เจ้าของผมสีเงิน    เจ้าคนสนิท

มุคุโร่.......ร่างสูงโปร่ง   ใบหน้าเรียว   นัยน์ตาสองสี    เจ้าของเรือนผมยาว   เจ้าของเรือนผมสีน้ำเงิน     องค์ชายที่สอง    จอมทัพแห่งทัพหน้า

คุณฮิ......ร่างสูงสง่า    ใบหน้าคม   นัยน์ตาคู่คมกริบ   นัยน์ตาสีดำสนิท   เจ้าของเรือนผมสีดำ    องค์ชายที่หนึ่ง    ว่าที่จักรพรรดิ

ยามาโมโตะ......ร่างสูงใหญ่   ใบหน้าคมมีแผลเป็นที่ปลายคาง  นัยน์ตาสีเปลือกไม้   เจ้าของเรือนผมสั้นสีดำ   ทหารคนสนิท   แม่ทัพหนุ่ม


.
.
.
.

ต่อไปก็เข้าสู่ช่วงเวิ่น...


ง๊ากกกกกกก เบื่อกันบ้างไหมเนี่ยยยยยย >[ ]< กับฟิคพร่ำเพ้อพรรณนาเรื่องนี้ คือคนแต่งเองก็รู้สึกนะว่ามันยืดเยื้อมาก เพราะใส่ฉากในชีวิตประจำวันค่อนข้างบานตะไท เนื้อเรื่องก็เลยไม่ค่อยจะเดิน พระนาง(?)มันก็งอนกันไปง้อกันมา ยังมองไม่เห็นเลยว่ามันจะลงเอยกันอีท่าไหน โฮกกกกก เรียกว่าน้ำเยอะมากๆๆอ่ะ ดีไม่ดีอาจจะถึง30ตอนละมั้งนั่นกว่าจะจบ TT[ ]TT คือใจนึงก็อยากจะลงแต่เนื้อๆเหมือนแฝดน้อง แต่ก็เพราะว่าอิพระเอกของเรื่องนี้มันซึน มันไม่ได้ตัดสินใจว่าจะตบตีแย่งชิงเหมือนพระเอกของแฝดน้อง ก็เลยต้องค่อยๆหาเหตุการณ์อะไรให้คุณมุมันค่อยๆคิดได้ว่ามันรักนะเฮ้ยไม่ได้เกลียดอย่างที่ปากว่าอะไรงี้  สรุปที่เรื่องนี้มันยาวเพราะมุคุคุเลยค่ะ มีปัญหาอะไรไปตบตีมันได้(น่าน...โบ้ยซะ) *กระซิก* ถึงใครจะว่าน่าเบื่อยังไง เก๊าก็จะเขียนแบบนี้ต่อไป (แล้วมันจะมาเพ้ออะไรวะ?) ขอบคุณทุกท่านที่ยังทนอ่านมันอยู่นะคะ *พรากๆ*  กร๊ากกก ขอบคุณเม้นต์ยาวๆราวกับจะช่วยแต่งฟิคอีกแรงจากเจ้าของเรื่องเจ้าของวันเกิดด้วยค่ะ แฮ่...คุณเปาคงได้อ่านเรื่องนี้ไปอีกนานแน่ๆ 555

เดือนนี้เมษาแล้วนี่นา.....โปรเจคของขวัญมีอยู่เต็มหัว แต่จะเสร็จซักกี่ตัวกันหนอเรา...มี๊จะพยายามนะยาเมะ >w<//

เอโร่ยอ่ะ *q* (อะไรฟ๊ะ?!)

อะหึๆๆ อ่านสปอยด์ตอนล่าสุดกันยังก๊ะ? ตอนที่ 379 อ่ะ >/////< เอาอีกแล้ว พระเจ้าอามาโนะประทานฉากให้จิ้นกระจายวายวอดอีกแล้ว....ก็ ยามะกะก๊กน่ะเซ่!! “นอนด้วยกัน” อีกแล้ว กรี๊ซซซซซซซ ทูน่าก็เป็นแค่ปลาตากแห้งเพราะงั้นเลยมองไม่เห็น วะฮะฮะ (เลว)

แหมๆ หมู่นี้ไปนอนด้วยกันที่บ้านยามะทุกว๊านทุกวันเลยนะคะ นอนข้างๆกันแบบนั้นมันก็ต้องมีเผลอกระแซะ หรือบางคนอาจจะจงใจก็เป็นได้ บ้างแหละเนอะคะ >w<


                                                  จิ้มเพื่อให้เกิดรูปหญ่ายยยยย
สำนักไหนจะแปลได้ยังไงหนูไม่รู้...แต่หนูแปลออกมาได้งี้อ่ะ *q* ภาษาโคตรวิบัติ กร๊ากกกก

ความจริงตอนนี้ก็ยังมีให้สครีมอีกหลายอย่าง...หนึ่งในนั้นก็คือหน้าของคุณมุรูปนี้....


ลาตายอย่างสงบเลยค่ะ สัปป้าโฮกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก องค์ชายที่สองท่านอย่าเพิ่งทำหน้าแบบนั้น เดี๋ยวอิฉันไปจับองค์ชายเล็กมาให้....>w<…


เฮ้อ....นอนตายกับสปอยด์รีบอร์นยังไม่พอ...เปิดไปอ่านสปอยด์นารุโตะเข้ายิ่งอาการหนักกว่าเก่า....ซาสึเกะน่ารักมากกกกกกก TT[ ]TT ตอนอยู่กับอิทาจิแบบนี้น่ารักสุดๆเลยอ่า...อยากจะอ้อนพี่ใช่ไหมล่ะ? อยากจะอ้อนสินะ อ๊ากกกกกก จับแม่งกดไปเลยป่ะเกะ โอย...น่ารักอ่ะ =w=


วะ ไว้เจอกันตอนหน้านะค้า....ฮะฮะฮะ....หัวเราะเพ้อๆจากไป...




3 ความคิดเห็น:

  1. โฮกกกกกกกกกกกกก ยื่นอุ้งมือ?น้อยๆ มาแปะป๊าปปปป *0*

    ว่างเมื่อใดข้าน้อยจักรีบมาอ่านโดยพลัน ~~~~

    ปล.ยังไ่ม่ได้อ่านเนื้อเรื่อง แต่เลื่อนมาส่องภาพด้านล่างๆก่อน 555+
    ยามะก๊ก ซับนรกสุดยอดดดด หน้าคุณมุ อื้อหื้อออ? สุดยอดดด o////o

    ตอบลบ
  2. มีเวลาค่อยเข้ามาอ่านกะได้จ้า ไม่ต้องรีบๆอิอิ

    ส่วนยามะก๊ก...= =...มันนรกจนไม่กล้าเอาไปลงเฟสกันเลยทีเดียว555 แบบว่าหน้ายามะตอนที่บอกว่า "ทำสิ" นั่นน่ะเห็นแล้วมันจิ้นได้แบบนั้นจริงๆนะ กรั่กๆๆ

    ตอบลบ
  3. อู้งานมาอ่านหล่ะ ทนไม่ไหว ผลักกองงานทิ้งไปไว้ข้างๆ กร๊ากกก ไม่สิไม่ได้ผลักงานทิ้งหรอก เอาไว้ตรงหน้านี่หล่ะ เจ้านายเดินมาจะได้เห็นว่าทำงานอยู่ ฮ่าฮ่า และก็เหมือนเดิม ก๊อบลงเวิร์ดนั่งอ่าน เปิดอ่านตรงๆไม่ได้เด็ดขาดดด ชมพูดำเด่นมากก :P

    ก๊กหายไปหนายยทั้งคืนเนี่ยยย ถ้าเกิดว่าไม่ได้เฉลยจะจิ้นไปไกลแล้วน๊าา ว่าแต่แค่นอนกอดกันเองหรอออ อิเนียนมันไม่ได้เนียนไปมากกว่านั้นหรอกหรออ คึหึหึ หายไปทั้งคืนเชียวน้า จิ้นๆ //พลั๊ก เสียงโยนคัทเตอร์?(ประจำตัวคนเขียน)ใส่หัว เรทเรื่องนี้มันแค่ระดับชิลๆ อย่ามาคิดลึกนะเฟ้ย // อิอิ :P

    อื้อออออ ความคิดดีนะทูน่า อยากมีวิชาติดตัว ในภายภาคหน้าจะได้ดูแลตัวเองได้ องค์ชายที่สอง?จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงมาก? หื้ออ ไม่ได้ห่วงหรอคะ เอาน่าๆ วันข้างหน้าสักวันเจ้าต้องห่วงใยทูน่าตัวน้อยๆตัวนี้บ้างล่ะน่าาา อืมม แบบว่าเก๊ามองกาลไกลอ่ะ ฮ่าฮ่า

    ก๊กยังคงน่าร๊ากก เปิดตำราเรียนขี่ม้าา โฮกกกก นึกถึงตอนสอนสึนะว่ายน้ำในมังงะออริชะมัดเลยอ่าาา กางแขนเป็นองศาเท่านั้นเท่านี้ 5555+ น่าจับมาฟัดอ่ะ ฮึ้ยย

    องค์ชายที่หนึ่งงงงงงงง อีกแล้วว ชิส์ มาสวีทหวานแหววคอยเป็นพี่เลี้ยงแบบเนียนๆอีกแล้ววว // FC18เขม่น โอ๊ะ ไม่ได้ๆ ต้องหึงหวงแทนคนตาสองสีสักหน่อย ก็พ่อคนนั้นเค้ายังซึนไม่บันยะบันยัง FC69ต้องออกแรงเชียร์สุดตัว แฮ่ อ๊ากกก ถูกเนื้อต้องตัวกันตล๊อดดด จับประคองขึ้นม้า เข้าประคองตอนเสียหลักจากลงม้า สอนใช้ทวนอีก อ๊ากกกกกกก ไม่ยอมๆๆ จะให้องค์ชายที่สองเป็นคนสอนบ้างง ทวนอ่ะ ต้องคุณมุสอนสิค๊าา นั่นหน่ะของถนัดเลยน๊าา

    อ๊ะ เหมือนจะรู้ โฮกกกกก เค้าเจอกันแล้วด้วยอ่าาา อร๊ายยๆๆ แต่ว่าไอ้การทักทายแบบว่า พุ่งทวนมาปักข้างๆแก้มกันแบบนี้ ทักทายรุนแรงดีนะคะ = =" ดีค่ะตื่นเต้นดี คึหึหึ ทูน่าน้อยปกติต้องต่อปากต่อคำเน๊อะ แสดงว่าที่เดินหนีเงียบๆแบบนี้งอนชัวร์ พัฒนานะทูน่าา มีการงอนอีกฝ่ายด้วยอ่าา ^0^

    จะสอนจะประลองกันก็เล่นกันดีดีสิคะ =[]= สรุปว่าจริงจังกันสุดๆใช่ป่ะเนี่ย โฮกกก อีกฝ่ายเป็นถึงแม่ทัพเชียวนะ อีกฝ่ายเรียนมาแค่อาทิตย์เดียว โฮกกกกกกก อย่าไปยอมแพ้เค้านะทูน่าาา อ๊ากกกก ลุ้น ให้มีฉากหวาดเสียว ลุ้นให้มีมุมกล้องเด็ดๆ คริคริ แบบว่าทูน่าพลาดท่าเสียทีกำลังโดนคุณมุจับกด? (เฮ้ยย) แบบว่าเสียหลักล้มแล้ว คุณมุประคองไรงี้ กร๊ากกก เอ๊ะ หรือว่า ให้สึนะออนท๊อปดี สดุดล้มทับไรงี้ กร๊ากกกก อ๊ะ เม้นท์อะไรออกไป ฮ่าฮ่า

    และแล้วก็โฟกัสมาที่ฉากสุดท้ายย =[]= จะเดินกันมาทางนี้ทำไมมิทราบบ ทั้งพ่อทั้งพี่เลย งานเข้าแล้วคุณมุ ถ้าพ่อกับพี่มาเห็นว่าเอาจริงเอาจังกับการประลองทวนกันอยู่จะโดนด่า?เอ้ยโดนอะไรมั้ยเนี่ย นั่นลูกรักลูกหลงสุดที่รักเชียวน๊าาาาา อ๊ากกกก แต่คุณฮิก็แสดงอาการอะไรให้ท่านพ่อเห็นซะแล้ว คึหึหึ ท่านพ่อจะทำอะไรถ้าหากรู้ว่าองค์ชายที่หนึ่งคิดไม่ซื่อกับทูน่า ท่านพ่อจะเชียร์คนไหนให้ทูน่ากันน้อออ หรือจะเฉดหัวออกไปพร้อมๆกันซะเลย

    อ่าาา จบซะแล้วว กำลังมันส์ๆเลยอ่าาา งี๊ดดๆๆ จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปน้อออออออออ
    อ่าใกล้จะได้กลับบ้านละ (อีกตั้งครึ่งชม.) เตรียมเคลียร์โต๊ะ เก็บกระเป๋า กลับบ้าน
    อู้งานประสบความสำเร็จ ^o^ / เจ้านายรู้คงไล่ออก ฮ่าฮ่า

    เก๊ารออ่านตอนต่อไปอยู่น๊าาาา

    ตอบลบ